rollingpinn

The Rolling Pinn เค้กสุดสีสัน by พิณ-เจนวัฒนวิทย์

account_circle
rollingpinn
rollingpinn

5 ปีแห่งความสำเร็จของแบรนด์ขนมสุดเซ็กซี่ The Rolling Pinn ฝีมือ พิณ-เจนวัฒนวิทย์ ที่ทุกเมนูสอดแทรกปรัชญาสตรีนิยมลงไปด้วย เพื่อส่งต่อความมั่นใจให้กับผู้หญิงมีความเชื่อมั่นใจตัวเอง และช่วยเติมเต็มทุกโอกาสพิเศษ

ถ่ายทอดออกมาเป็นเมนูที่มีกิมมิกสุดล้ำ สีสันสดใส แต่ยังคงความลักซ์ชัวรี่ สะท้อนการเป็นผู้นำเทรนด์และบ่งบอกถึงความมั่นใจ โดดเด่นจนสร้างปรารกฏการณ์ไวรัลไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นทำเค้กสูงที่สุดในไทย เค้กต้นคริสต์มาสที่ทุกปลายปีหลายคนต้องเฝ้าคอย และอื่นๆ ซึ่งล่าสุดได้สร้างไวรัลเป่าเค้กแล้วกลิตเตอร์ฟุ้งกระจาย เรียกว่าทั้งอร่อย ทั้งสวย ถูกใจโซเชียล

ขนมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิง

“ย้อนกลับไปพิณเริ่มรู้ตัวตั้งแต่ตอน 11 ขวบว่าชอบทำขนม ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำขนมและลองผิดลองถูกทำตามคลิปวิดีโอ จนกว่าจะออกมาสำเร็จ คุณพ่อคุณแม่จึงชอบพาไปชิมขนมตามประเทศต่างๆ รวมถึงสนับสนุนให้ซื้ออุปกรณ์ วัตถุดิบมาทำขนมมาตลอด

“พอเรียนจบด้าน Child development and studio art ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีโอกาสได้ฝึกงานบริษัทหลายแห่งเลยทำให้รู้ตัวว่าไม่ชอบทำงานออฟฟิศ แต่กลับมีความสุขเวลาได้ใช้ไอเดียครีเอทขนมสวยๆ แล้วถ่ายรูป จึงตัดสินใจสร้างแบรนด์ขนมเป็นของตัวเอง The Rolling Pinn เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นพิณสำรวจตลาดร้านขนมต่างๆ ในโซเชียลซึ่งมีมากมาย  ไม่อยากให้แบรนด์ดูธรรมดา จึงเน้นการทำ branding อย่างที่คุณพ่อสอนเสมอว่าจะช่วยสร้างความแตกต่างให้คนเห็นแล้วจดจำได้

“ประกอบกับตอนเรียนที่อเมริกา (Smith College) เป็นโรงเรียนหญิงล้วนเขาสอนเรื่อง feminism (สิทธิสตรี) ว่าผู้หญิงมีอิสระ สามารถเลือกได้ว่าอยากทำอะไร พิณจึงเพิ่มเรื่อง Female empowerment perspective (การเสริมสร้างพลังสตรี) ให้ภาพของแบรนด์มีความอิสระ เซ็กซี่ ที่สำคัญอยากส่งต่อให้ผู้หญิงทุกคนมีความมั่นใจ และรู้สึกดีจากภายใน จึงนำเสนอภาพของขนมให้มีความเป็นแฟชั่น ด้วยสีชมพูฉูดฉาดสะดุดตา ดีไซน์หรูหรามีเอกลักษณ์

“สมัยเด็กพิณเคยขี้อาย ไม่กล้าคุยกับเพื่อน แต่พอทำขนมมาแจกเกิดประโยคชวนเพื่อนมากินขนมทำให้มีความกล้าพูดคุยมากขึ้น การทำขนมจึงเป็นการ empower ตัวเองด้วยค่ะ (ยิ้ม)”

“คุณแม่และคุณยายยังเป็นแบบอย่างเรื่องนี้มาตลอด ท่านเป็นนักธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันคุณยายก็ยังทำงานอยู่ ช่วยเน้นย้ำความคิดที่ว่าผู้หญิงสามารถภาคภูมิใจที่เป็นได้ทั้งแม่บ้านและทำงานสร้างรายได้ หาเงินเองได้ไม่ต้องพึ่งพาใคร”

การบริหารงาน VS การทำขนม

“ในช่วงแรกการบริหารเป็นเรื่องยากสำหรับพิณ ความที่ชอบทำอะไรคนเดียว ก้มหน้าก้มตาทำแต่ขนม ซึ่งในช่วงแรกของการทำแบรนด์ยังไม่ต้องบริหารอะไรมากนัก มีพนักงานแค่คนเดียว แต่พอร้านเริ่มมีการขยับขยายมีพนักงานเพิ่มขึ้น เจอคนเก่งมากขึ้น ทำให้พิณต้องเรียนรู้วิธีการพูดคุยและต้องมีวิสัยทัศน์ เพื่อสื่อสารกับพนักงานให้เข้าใจและมองเป้าหมายเป็นภาพเดียวกัน เมื่อเขาเข้าใจก็จะสนุกกับการทำงานและอยากทำให้สำเร็จไปด้วยกันค่ะ”

5 ปีแห่งความสำเร็จ

ผลงานที่ประทับใจที่สุดคือขนมไหว้พระจันทร์ ที่พิณชอบกิน (ยิ้ม) แต่ส่วนตัวถนัดแต่งหน้าเค้กหรือคุกกี้มากกว่า ดังนั้นการทำขนมไหว้พระจันทร์เป็นอะไรที่ใหม่มาก ต้องศึกษาสูตรขนมจากคลิป Youtube ของชาวจีนกว่า 30 คลิป นำมาพัฒนาจนได้สูตรของตัวเองที่ลงตัว และหน้าตาที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบมีลิ้นชักเปิดออกมา พอได้ลองกินฝีมือตัวเองก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจ โดยเฉพาะผลตอบรับที่สร้างยอดขายได้สูงกว่าปีที่ผ่านมา

“ในช่วงเทศกาลต่างๆ The Rolling Pinn จะสร้างสีสันที่หลายคนต้องจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น เค้กเจ้าหญิง เค้กต้นคริสต์มาส เค้กมะยงชิด เค้กสูงที่สุดในประเทศไทย และอื่นๆ ล่าสุด The Rolling Pinn สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งด้วยเค้กกลิตเตอร์เค้ก ที่จะช่วยเติมความพิเศษให้กับงานปาร์ตี้ พอเป่าเค้กแล้วกลิตเตอร์ซึ่งเป็นฟู้ดเกรดกินได้ ไม่เป็นอันตรายจะฟุ้งเป็นละลองออกมาสวยงาม พอปล่อยคอลเลคชั่นนี้ออกมาหลายคนให้การตอบรับดีจนดังไกลไปหลายประเทศ และยอดวิวสูงถึง 31 ล้านวิว เรียกได้ว่าโด่งดังเป็นฟลุแตก

“เวลาพิณจะออกเมนูใหม่ จะดูว่าในตลาดมีเทรนด์อะไรน่าสนใจ แล้วนำมาประยุกต์เติมไอเดียของตัวเองลงไป อย่างเช่น ช่วงฤดูมะยงชิด พิณก็ได้ทำเมนูมะยงชิดชีสพาย โดยพัฒนาและปรับปรุงสูตรขนมทุกปี รับฟังความคิดเห็นของลูกค้าแล้วปรับปรุงให้กินสะดวกและหน้าตาของขนมสวยขึ้นเรื่อยๆ ”

ก้าวต่อไป…มุ่งหน้าสู่อินเดีย

“ปีนี้นับเป็นอีกก้าวแห่งการเติบโตของ The Rolling Pinn ที่ล่าสุดได้โกอินเตอร์ไปเปิดร้านที่ประเทศอินเดีย ในชื่อว่า Sweet Escape พิณมองเห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคที่อินเดียมีขนาดใหญ่ มีโอกาสเติบโต และถูกจริตกับสไตล์ขนมของเรา

“ปัจจุบันเริ่มวางขายเรียบร้อยแล้ว พอไปวางเข้าที่นั่นทำให้พบว่าคนอินเดียมีการแบ่งความชอบออกเป็น 2 กลุ่ม ทางใต้ชอบความมินิมอล ส่วนทางเหนือชอบความหรูหรา ทำให้ช่วงนี้พิณต้องเร่งศึกษาผู้บริโภค บินไปกลับอินเดีย-ไทย ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อเรียนรู้และพัฒนาขนมให้ตอบโจทย์ทั้ง 2 กลุ่มเป้าหมาย อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือที่นั่นไม่นิยมไข่ จึงต้องคิดสูตรขนมพิเศษขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะด้วยค่ะ”

HIGHLIGHT คัมแบคมาฉลองความรักครบรอบ 15 ปี วันที่ 30 มิถุนายนนี้

Alternative Textaccount_circle

นับเป็นเวลา 6 ปีแล้วตั้งแต่การเดินทางมาประเทศไทยครั้งล่าสุด และในปี 2024 นี้สมาชิกทั้งสี่ของ HIGHLIGHT ได้แก่ ยุนดูจุน(YOON DUJUN), ยางโยซอบ(YANG YOSEOP), ลีกิกวัง(LEE GIKWANG) และซนดงอุน(SON DONGWOON) กำลังจะกลับมา ครั้งนี้เตรียมปลดล็อกความคิดถึง LIGHT ไทย

ด้วยการเตรียมกลับมาร่วมเฉลิมฉลองเดบิวต์ครบรอบ 15 ปีของพวกเขาด้วยกันในคอนเสิร์ต HIGHLIGHT LIVE 2024 [LIGHTS GO ON, AGAIN] IN BANGKOK ที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ณ แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

โดยล่าสุดก่อนที่จะพบปะตัวจริงและสนุกไปกับพวกเขา ทั้ง 4 หนุ่ม HIGHLIGHT ก็ได้ส่งความคิดถึงผ่านทางคลิปมาก่อนดังนี้ “สวัสดีครับ พวกเรา HIGHLIGHT ครับ ถึงไลต์ทุกคนในกรุงเทพฯ!

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเดบิวต์ครบรอบ 15 ปีของพวกเรา พวกเรากำลังจะไปเจอทุก ๆ คนอีกครั้งกับ “HIGHLIGHT LIVE 2024 [LIGHTS GO ON, AGAIN] IN BANGKOK”! กรุงเทพฯ ~~ เพราะว่านี่เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเรา หลังจากได้เจอทุกคนที่แฟนมีตติ้งที่กรุงเทพฯ ในปี 2018 พวกเราจึงตั้งตารอมากเลยครับ

การที่ได้เจอไลต์ทุกคนอีกครั้งหลังจากผ่านมา 6 ปีแล้ว ทำให้พวกเราคิดถึงทุกคนมาก ๆ เลยครับ พวกเราอยากเจอทุกคนเร็ว ๆ แล้วครับ~ ไลต์ กรุงเทพฯ ทุกคน ในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 17.00 น. มาเจอกันที่ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ นะครับ เจอกันเร็ว ๆ นี้~ จนถึงตอนนี้กับ HIGHLIGHT ขอบคุณครับ”

งานนี้นอกจากจะอัดแน่นด้วยความสนุก ความมันส์แล้ว เตรียมเซอร์ไพรส์กับ Playlist ที่คุณคิดถึงได้เลย คอนเสิร์ตครั้งนี้จะพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะการฉลองเดบิวต์ครบรอบ 15 ปีมีแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น!

SUPER JUNIOR ส่งคลิปชวนเอลฟ์ไทยมาจอยไปกับทุกตำนานเพลงฮิต

Alternative Textaccount_circle

ก่อนที่จะได้ไปสนุก และม่วนจอยกับเพลงฮิตมากมายของ ศิลปินนัมเบอร์วันในใจเอลฟ์ไทย อย่าง “SUPER JUNIOR” ที่งาน 2024 SUPER JUNIOR in BANGKOK

จะจัดขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 6-7 กรกฎาคม 2024 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ทั้ง 8 เมมเบอร์ “อีทึก, เยซอง, ชินดง, อึนฮยอก, ทงเฮ, ชีวอน, รยออุค” และ “คยูฮยอน ขอส่งคลิปมาชวนแฟนๆ ที่รอคอยการรวมตัวของพวกเขาอีกครั้ง การรอคอยสิ้นสุดแล้ว ใครยังไม่มีบัตรรีบจับจองกันด่วนที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกช่องทาง

ไอมี่ไทยแลนด์พร้อมแล้วที่จะเสิร์ฟความฟินให้ “เอลฟ์ไทย” ได้ใจฟู ที่งานนี้ SUPER JUNIOR ศิลปินบอยแบนด์ระดับตำนาน ทั้ง 8 คนจะกลับมาเจอให้หายคิดถึงในรอบ 2 ปี งานนี้จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีแน่นอน

พวกเขากำลังซุ่มซ้อมเตรียมความพร้อม และความสนุกมากมายมามอบให้กับแฟนๆ ชาวไทย งานนี้สนุกแน่ หวังว่าแฟนๆ ทุกคนจะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสีน้ำเงินจากแท่งไฟ ให้เป็นภาพความทรงจำ และความประทับใจให้พวกเขาได้เก็บไว้เป็นอีกภาพหนึ่งในใจ

SUPER JUNIOR พร้อมแล้วที่จะได้มาสนุกไปกับทุกคนที่งาน 2024 SUPER JUNIOR in BANGKOK แล้วเอลฟ์ไทยพร้อมหรือยัง? ใครที่มีบัตรแล้ว เก็บบัตรของคุณไว้ให้ดี ซ้อมร้องซ้อมเต้นให้ปัง ฟิตหุ่นให้พร้อม ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตร รีบซื้อบัตรด่วนผ่านทาง ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา

WayV ส่งมินิอัลบั้มชุดที่5 ครองอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums

Alternative Textaccount_circle

WayV ถ่ายทอดหลากหลายอารมณ์รัก ในมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Give Me That’ อัลบั้มใหม่ในรอบ 7 เดือน หลังจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ‘On My Youth’ ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ซึ่งแฟนเพลงที่รอคอยผลงานใหม่ของ WayV ก็ให้การตอบรับกันเป็นอย่างดีจนอัลบั้มล่าสุดสามารถครองอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums ใน 14 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ ไทย, บราซิล, ชิลี, เม็กซิโก, โบลิเวีย, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และคาซัคสถาน ไม่เพียงเท่านี้ ยังติดอันดับ TOP5 ในโปแลนด์, เดนมาร์ก, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, ตุรกี, เวียดนาม และบรูไน รวมทั้งหมด 21 ภูมิภาคทั่วโลก

สำหรับมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Give Me That’ มาพร้อมคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับ ‘ความรัก’ ซึ่งทุกคนจะได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่กับสีสันของดนตรีสไตล์ใหม่ของ WayV โดยประกอบด้วยเพลงไตเติลชื่อเดียวกับอัลบั้มว่า ‘Give Me That’ เวอร์ชันภาษาเกาหลีและจีน เพลงแนวป๊อป แดนซ์ ที่มีพลังความสดใสของ WayVเสน่ห์อยู่ตรงทำนองที่ติดหูและเสียงเครื่องเป่าทองเหลือง ซึ่งเข้ากับจังหวะกลองแนวโอลด์สคูลแบบฟังกี้

เนื้อเพลงถ่ายทอดคำสารภาพรักที่มีต่อคนที่รักตั้งแต่แรกพบ ด้านมิวสิกวิดีโอ เผยให้เห็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสมาชิกในหลากหลายบทบาท เช่น คาวบอย, แดนเซอร์, นักร้องนักแต่งเพลง, แรปเปอร์ และนักบาส ที่เข้าร่วมออดิชันแสดงความสามารถพิเศษของแต่ละคนภายในเวลาที่กำหนด และมีการจับเวลาตามเวลาจริงของเพลง โดยเฉพาะการแสดงของเพลงนี้ เต็มไปด้วยพลังและความสดใสเหมาะกับบรรยากาศของเพลงที่สนุกสนาน ซึ่งจะมีท่าหลักที่เหมือนกับการยิงธนูแห่งความรักตรงท่อนฮุก ‘Gimme your love’

นอกจากนี้ ในอัลบั้มยังมีเพลงภาษาเกาหลีอีกหนึ่งเพลง คือ ‘She A Wolf’ แนวฮิปฮอป แดนซ์ ผสมผสานเสียงร้องประสานเข้ากับจังหวะฮิปฮอปเพื่อสร้างเสียงที่หลากหลาย เนื้อเพลงพูดถึงบุคคลที่มีเสน่ห์ลึกลับและบรรยากาศที่โดดเดี่ยวโดยเปรียบเทียบกับหมาป่า รวมถึงเพลงภาษาจีนอย่าง ‘Might As Well (预言)’ แนวฮิปฮอป แดนซ์ สื่อถึงความปรารถนาที่มีต่ออีกคนและความมั่นใจว่า ความสัมพันธ์จะดำเนินต่อไปเหมือนอนาคตที่เห็นในความฝัน, เพลงอาร์แอนด์บี ‘Don’t Get Mad’ ที่มีจังหวะยุค 90 พร้อมข้อความอันจริงใจปลอบโยนคนรักที่หึงหวง และเพลงอาร์แอนด์บี ป๊อป ‘New Ride (浪漫公路)’ สัมผัสอารมณ์สุดโรแมนติก และแสดงออกถึงความตื่นเต้นของการขับรถกับคนรักภายใต้แสงจันทร์

ไฮป์คนดูฉ่ำสปิริตไม่สนขาเจ็บ “บีไอ” (B.I) พลังล้นโดดไม่หยุดกว่า 3 ชม.

Alternative Textaccount_circle

ไฮป์คนดูฉ่ำสปิริตไม่สนขาเจ็บ “บีไอ” (B.I) พลังล้นโดดไม่หยุดกว่า 3 ชม. ในคอนเสิร์ต BI_2024HypeUpinBKK คุ้มจนรู้สึกค่าบัตรเหลือศูนย์บาท!

ไฮป์ฉ่ำสุดตัวไม่ได้มุสาวาปึ้ง สมมงตัวพ่อ! นี่สินะผู้ชายที่เล่นคอนเสิร์ตแบบเข้าถึงซิกเนเจอร์ เลเยอร์ คัสตอม!! “คิมฮันบิน” (KIM HAN BIN) หรือสเตจเนมที่รู้จักกันดีว่า “บีไอ” (B.I) ศิลปินไอดอลโปรดิวเซอร์จากเกาหลี ผู้ซึ่งทำถึงและทำเกินมาตรฐานไปมาก จัดลิสต์เพลงจุใจ ใส่เอเนอร์จีแบบไม่ยั้ง แม้ว่าจะเจ็บขามาก่อนหน้านี้ ก็ยังเซอร์วิสผู้ชมทั่วฮอลล์เต็มที่ในเอเชียทัวร์ B.I 2024 TOUR HYPE UP IN BANGKOK ผลงานแห่งปีอีกหนึ่งคอนเสิร์ตโดยผู้จัด โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของบิ๊กบอส กึ้ง–เฉลิมชัย มหากิจศิริ แท็กทีมเช่นเคยกับต้นสังกัดเกาหลี วันทรีวัน จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2567 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งฤกษ์งามยามดีตรงวาระครบรอบ 3 ปีโซโลเดบิวต์อัลบั้ม B.I 1ST FULL ALBUM [WATERFALL] แบบพอดีเป๊ะไม่ขาดไม่เกิน

เปิดเวทีด้วย Padi DJ SHOW โดย “Padi” หรือที่แฟนๆ ชาวไทยเรียกติดปากว่า “พี่เพดี้” ศิลปิน/ดีเจ/โปรดิวเซอร์ที่ปรากฏชื่ออยู่ในเครดิตเพลงเคฮิปฮอปเจ๋งๆ มากมาย ให้เหล่าไอดี (ID ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับ) ได้คึกคักอุ่นเครื่องกันก่อนจะเข้าสู่ VCR เปิดตัว B.I ซึ่งระเบิดเพลงแรกกันที่ ‘MICHELANGELO’ ความหนักแน่นของดนตรีผสานกับไลน์เต้นที่มองกี่ครั้งเป็นต้องตกหลุมรัก รวมถึงเพลงถัดไป ‘Alive’ ซึ่งผู้ชมเต็มพื้นที่ฮอลล์ไม่ยอมมือว่าง ร่วมโบกบินบง (ชื่อเรียกแท่งไฟออฟฟิเชียลของ B.I) ตามจังหวะอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่ต้องนัดแนะใดๆ ขณะที่บนสเตจนั้นคือเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ไม่อาจละสายตาได้ ไม่ว่าใครก็ต้องมองไปยังผู้ชายตรงหน้าเท่านั้น ‘One and Only’ (돗대) ส่งพลังความฮอตต่อเนื่อง แล้วเติมเชื้อเพลิงให้ร้อนแรงขึ้นไปอีกกับ ‘WATERFALL’ เขย่าเวทีแบบไม่มีกั๊กตั้งแต่เริ่มต้นกันไปเลย “สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับทุกคน ขนาดไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ยังมากันเยอะขนาดนี้ ขอบคุณมากๆ จากใจจริงนะครับ ไหนๆ ก็ไม่ได้มานานแล้วขอทักทายก่อนนะครับ บีไอครับ ดีใจที่ได้เจอทุกคนนะครับ กรุงเทพฯ สมแล้วจริงๆ เหมือนที่ผ่านมาเลย ฟีลลิงดีมากเลยครับ แล้วก็ระหว่างหนึ่งปีที่ผ่านมาทุกคนดูสนุกกันมากขึ้นกว่าเดิมมากเลย เอเนอร์จีที่ทุกคนให้ผมมาวันนี้ ผมก็จะตอบแทนกลับไปด้วยเวทีดีๆ ให้วันนี้ทุกคนสนุกๆ เลยนะครับ”

พูดจบ บีไอ ชวนซ้อมร้องเพลงถัดไปสักเล็กน้อย แล้วอินโทรเพลง ‘illa illa’ (해변) ก็ดังขึ้นให้ไอดีไทยได้ร้องคลอไปด้วยกันแบบเต็มเพลง สวิตช์ใจร้าวเปิดทำการ เพลงช้าแบบใด ทำไมมูฟเมนต์ละลายใจเหลือเกิน ไม่ว่าจะเพลง ‘Loved’ หรือ ‘Numb’ ที่ถูกมัดรวมถ่ายทอดออกมาดึงอารมณ์ไร้ความรักอย่างไม่ปราณีหัวใจ ต่อด้วยเพลง ‘4 Letters’ ซึ่งมาพร้อมเบเนฟิตบุกประชิดตัวรอบที่ 1 ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ เจ้าตัวลงจากสเตจเดินพบปะประชาชนไอดีรอบฮอลล์ ก่อนจะไปต่อกันที่เพลงชาติประจำด้อมอย่าง ‘BTBT’ โรยผงความแซ่บอีกครั้งจนฮอลล์อัดแน่นไปด้วยสารเอ็นดอร์ฟินใจฟูไปตามๆ กัน ไฟลุกต่อไม่มีพักกับ ‘Keep me up’ แบ่งท่อนร้องให้ไอดีได้ร่วมจอยท่ามกลางอุณหภูมิความฮอตเกินต้าน

โยกกันต่อกับ ‘Got It Like That’ ก่อนจะชวนไปปัดฝุ่นที่ทับถมความทรงจำในเพลง ‘Remember me’ (역겹겠지만) ยิ่งตอกย้ำหัวใจแฟนๆ แบบไม่มีวันลืมว่าหนุ่มคนนี้คือศิลปินอันเป็นที่รักเบอร์หนึ่งเสมอ เพลงต่อมา ‘Dare to Love’ (겁도 없이) คิมฮันบินคืนสู่สเตจด้วยท่าเต้นสุดน่ารักเพลินตาเพลินใจตลอดเพลง คนเท่ขอแวะพักทาลิปมันที่ไม่ได้เรียกเสียงกรี๊ด แต่กรี๊ดมาก แล้วแนะนำแขกรับเชิญ “ทุกคนครับ วันนี้ผมพาน้องชายที่น่ารักอีกคนหนึ่งมาด้วย แล้วก็ช่วงนี้มีอัลบั้มออกมาด้วย เดบิวต์จริงๆ แล้วด้วย เขาตั้งใจมากนะครับ ที่จริงแล้วปกติผมเป็นคนที่กว่าจะสนิทกับใครได้ ใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่พอเห็นภาพน้องเขาตั้งใจทำงานแล้วก็รู้สึกว่านี่แหละน้องเราเลย ทุกคนช่วยกรี๊ดเพื่อน้องชายสุดหล่อของผมหน่อยครับ”

เสียงกรี๊ดกระหึ่มต้อนรับ “ลีโอ” (LEO) น้องเล็กของค่าย 131 ศิลปินรับเชิญปรากฏตัวรับหน้าที่ดูแลสเตจในเพลง ‘Pretty Plzzz’ โดยมีรุ่นพี่บีไอขอเป็นฝ่ายร่วม Feat. ในโชว์นี้ ดื่มด่ำฉ่ำใจโมเมนต์พี่น้องจากตึกเขียวมะนาว ปลดปล่อยความเท่ไปด้วยกัน จากนั้นบีไอยกเวทีให้ลีโอได้เล่นกับหัวใจพี่สาวเต็มๆ “What’s Up Thailand! สวัสดีครับ ลีโอครับไทยแลนด์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ หลังจากมาเมื่อปีที่แล้ว ดีใจที่ได้กลับมาอีกครั้งครับ เพลงก่อนหน้านี้เป็นเพลงที่ผมกับพี่บีไอคอลแลบร่วมกันเป็นครั้งแรก ทุกคนชอบกันไหมครับ? เพลงต่อไปเป็นเพลงไตเติลจากอีพีอัลบั้มใหม่ Come Closer มาร้องไปด้วยกันนะครับ Let’s go Thailand, Let’s go!” เรียกว่าได้รู้จักหนุ่มคนนี้ใกล้ชิดขึ้นผ่านเพลง ‘Come Closer’ แล้วปิดท้ายช่วงศิลปินรับเชิญด้วย ‘Farewell’ ซึ่งลีโอโชว์โวคอลให้พี่สาวได้หูเคลือบทองก่อนลาลงสเตจไป

ถึงคิวเพลงที่ทุกคนรอคอย ไลฟ์สเตจครั้งแรกในประเทศไทยของคัมแบ็กซิงเกิลล่าสุด ‘Tasty’ นักรีวิวอาหารต้องมุง หัวหน้าเชฟต้องให้รางวัล ความอร่อยที่มีเอกลักษณ์ บีไอ กลับขึ้นเวทีด้วยชุดสุดคิวต์แต่แอบเซ็กซี่ เสิร์ฟโชว์สดๆ ปรุงรสให้ได้ชิมกันอร่อยแซ่บซี๊ด! เติมผงนัวต่อด้วย ‘TO DIE’ และ ‘TTM’ สองเพลงที่ได้ฟังแร็ปสุดโหดแบบเน้นๆ แล้วไฟลุกโชนไปกับเพลง ‘Flame’ สเตจเดือดด้วยอุณหภูมิร้อนแรงแข่งกับอากาศประเทศไทย ก่อนเปลี่ยนเข้าโหมดคลั่งรักกับ ‘LOVER’ แล้วมัดรวมฟรีสไตล์สามเพลงรวด ‘JEOPSOK’ (접속) เพลงที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ ตามด้วย ‘BORN HATER’ และเพลงฮิตอย่าง ‘Smoke’

“ตอนนี้ก็ใกล้จะจบคอนเสิร์ตแล้วนะทุกคน แต่ว่าตอนนี้คนด้านหลังๆ เริ่มน้อยใจแล้วใช่ไหมครับที่ตอนนี้ใกล้จะจบคอนแล้ว แล้วผมต้องทำยังไงดี? งั้นก็ไปหาใกล้ๆ สิ แต่ทุกคนรู้ใช่ไหมครับว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน ตรงนี้มีใครอายุสิบกว่าบ้างไหมครับ ยกมือได้ไหมครับใครอายุสิบกว่า แล้วคนไหนอายุ 19 บ้าง?” วาสนาไอดีอายุ 19 ปี บีไอลงไปหาถึงที่พร้อมถามว่า “เดี๋ยวหลังจากนี้ถ้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เลย 20 ไปแล้วอยากทำอะไรครับ” หลังจากที่ไอดีวัย 19 ตอบว่า “ตอนอายุ 20 อยากไปดูบีไอ” คนตั้งคำถามยิ้มกว้าง “เป็นคำตอบที่เลิศมาก เพราะฉะนั้นเพื่อน้องคนนี้!” อินโทรเพลง ‘NINETEEN’ (열아홉) ดังขึ้นในทันที ทุกคนกรี๊ดสนั่นรับโมเมนต์ที่บีไอเดินแจกทั่วฮอลล์เป็นรอบที่ 2 เพลงต่อมา ‘The Island of Misfit Toys’ (망가진 장난감의 섬) ก็ยังแจกเบเนฟิตสบตากันอย่างทั่วถึง กลับเวทีมาชวนกระโดดต่อในเพลง ‘DIE FOR LOVE’ พลังพลุ่งพล่าน เก็บหมดทุกโน้ตไม่มีหลุด

“ปีนี้เริ่มต้นเอเชียทัวร์จากที่โซลใช่ไหมครับ แล้วปีที่แล้วไปยุโรปมาด้วย เหมือนว่าแต่ละประเทศกำลังต่อสู้กันอยู่เลยครับ เหมือนแข่งกันอยู่เพราะว่าประเทศต่อๆ ไปน่าจะกดดันเหมือนกัน ทุกคนเข้าใจใช่ไหมครับ ปีที่แล้วไปยุโรปมาอาจจะเป็นเพราะไปครั้งแรกก็รู้สึกว่ารีแอ็กชันร้อนแรงมาก ปีนี้พอแสดงที่เกาหลีก็รู้สึกว่าเกาหลีก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ที่ฮ่องกงก็เหมือนกันเป็นโซโลคอนเสิร์ตบีไอครั้งแรกของผม ฮ่องกงก็สุดยอดเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ทุกคนตรงนี้ก็เหมือนอยากจะแสดงให้ผมรู้ว่า บีไอก็ต้องกรุงเทพสิ! ก็ต้องเมืองไทยสิ!” แทกุกไอดีกรี๊ดลั่น เรียกไม่หันแล้วจังหวะนี้ “ขอบคุณทุกคนมากเลยที่มาวันนี้นะครับ และเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ การพยายามของผมมันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นสตาฟหรือไดเรกเตอร์ของพวกเรา แล้วก็พี่ๆ นักเต้น แล้วก็ดีเจ แล้วก็ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ด้วยนะครับ ชื่นชมทุกคนเลย ปรบมือให้กับทุกคนหน่อยครับ”

ส่งท้ายอีกสามเพลงสุดมัน ‘All shook up’, ‘Wave’ (해일) ไลน์เต้นเซ็กซี่ขยี้ใจ และ ‘Beautiful Life’ (개가트닌생) จบเพลงประเทศไทยโดนสารภาพรัก บีไอบอกว่า “ประเทศไทยเนี่ยถนนข้าวสารผมก็เคยไป เคยไปนวดมา 2 ครั้ง กินผัดไทยประมาณ 2 ครั้ง แล้วก็กินผัดผักบุ้งประมาณ 3 ครั้งด้วย ก็คือรักประเทศไทยครับ เอาจริงๆ แล้วไม่มีเมนต์อะไรที่อยากจะพูดเป็นพิเศษ แต่ไหนๆ ก็แฮปปี้ขนาดนี้แล้ว ตวีลจุนบิ!! (เตรียมกระโดด!!)” โดดกันอีกรอบกับ 1 ท่อน ‘Beautiful Life’ (개가트닌생) แล้วไฟบนเวทีก็ดับลง

พลังไอดีมีหรือจะอ่อม ทุกคนพร้อมใจกันส่งเสียงทวงคืนคนเท่ให้กลับขึ้นเวที เปิดช่วงอังกอร์แรกด้วยบรรยากาศอบอุ่นของเพลง ‘COSMOS’ หลังจบเพลงมีวิดีโอโปรเจกต์จากแฟนคลับชาวไทยรอเซอร์ไพรส์ เหล่าไอดีสร้างความประทับใจฉลองการกลับมาอย่างเต็มรูปแบบของบีไอ รวมถึงครบรอบ 3 ปีของโซโลเดบิวต์อัลบั้ม WATERFALL จัดเต็มมาทั้งป้ายสโลแกน “같이 한지 3년 됐네 앞으로도 잘 부탁해요” ที่แปลว่า “3 ปีแล้วนะที่อยู่ด้วยกัน หลังจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ” ป้ายธง “추웠던 겨울, 어느 여름, 쓸쓸한 가을 김한빈이라서 우리겐 다 봄이야” ซึ่งความหมายคือ “ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงที่ว้าเหว่ เพราะคิมฮันบินสำหรับพวกเรา ทั้งหมดมันคือฤดูใบไม้ผลิ” ยังมีตุ๊กตารูปปั้นบีไอตัวน้อยสุดคิวต์ มอบแทนความรักความหวังดีและแรงซัพพอร์ตที่แฟนๆ มีให้เสมอ ไม่ใช่แค่ 3 ปีแต่จะมีกันและกันตลอดไป ถึงตรงนี้ บีไอ บอกว่า “อยู่ด้วยกันมา 3 ปีแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ทั้งสั้นและยาว เดี๋ยวต้องไปบับเบิล (แอปพลิเคชันของประเทศเกาหลีใต้ที่ศิลปินใช้พูดคุยกับแฟนคลับ) สักหน่อยแล้ว ขอบคุณนะครับทุกคน รักนะจุ๊บๆ แกก็แรงเกิน ขอบคุณนะครับ ในอนาคตต่อไปก็ฝากตัวด้วยนะครับทุกคน” พร้อมกันนั้นยังขอเก็บบรรยากาศผ่านเลนส์กล้องคู่กับบีไอจิ๋ว ของขวัญพิเศษจากไอดีไทย แล้วปิดพาร์ตด้วย ‘Re-Birth’ (다음생) อีกหนึ่งเพลงที่มีความหมายต่อทั้งไอดีและบีไออย่างลึกซึ้ง

เอาล่ะๆ เหมือนคอนเสิร์ตจะจบ… แต่ยังไม่จบ อังกอร์รอบสุดท้ายความยาวเกือบ 1 ชั่วโมงจะเป็นตำนานตลอดไป!!! บีไอ เสิร์ฟเพลงคอมโบเซ็ต แถมใจดีให้ไอดีเลือกเพลย์ลิสต์ได้ตามชอบ โดดไม่หยุดจนลืมไปเลยว่าเคยเจ็บขาเจ็บเข่ามาก่อน และของแท้แน่นอนต้องมาพร้อมเบเนฟิตบุกประชิดตัวแฟนๆ ทั่วฮอลล์รอบสุดท้าย ลงสเตจไปหาแฟนๆ รวม 3 รอบจุกๆ ขนาดนี้ ไม่มีใครให้ได้มากกว่าบีไอแล้วจริงๆ ความพิเศษใส่ไข่เซอร์ไพรส์แฟนๆ ยังไม่หมด บีไอ เล่าว่าตัวเขากับ พี่เพดี้ เพิ่งทำเพลงใหม่ด้วยกันระหว่างที่มาไทยครั้งนี้ หลังจากทุกคนได้ฟังก็พร้อมใจกรี๊ดแตกอีกครั้ง เพราะเนื้อเพลงร้องว่า “I’m in Bangkok City” แถมยัง “Feel Good” ด้วยอีก แทกุกไอดีผมยาวไปถึงเกาหลีกันแล้วทั้งฮอลล์ ตั้งตารอวันที่เพลงนี้จะถูกปล่อยออกมาให้ได้ฟินกัน

ก่อนกลับบ้าน ผู้จัด โฟร์วันวันฯ ยังมีกิจกรรม Hi-Touch ปิดท้ายคอนเสิร์ต “บีไอ 2024 ทัวร์ ไฮป์ อัป อิน แบงคอก” (B.I 2024 TOUR HYPE UP IN BANGKOK) #BI_2024HypeUpinBKK สำหรับผู้ชมที่ได้รับสิทธิ์ หลายคนพูดเลยซื้อบัตรงานนี้ไม่มีเสียดายตังค์ บางคนยังบอกค่าบัตรเท่ากับศูนย์บาท เพราะคุ้มมากจริงๆ มันตอบโจทย์ มันเป็นอะไรที่หาความรู้สึกยังไม่ได้ ต้องมาดูบีไอเล่นคอนเสิร์ตด้วยตัวท่านเอง *** โปรแกรมถัดไปจะเป็นงานอะไร?! *** ติดตามได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดีย @411ent เฟซบุ๊ก www.facebook.com/fouroneoneent เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) https://x.com/411ent อินสตาแกรม https://instagram.com/411ent และยูทูบ https://www.youtube.com/411ent กดกระดิ่งเปิดแจ้งเตือนทุกแพลตฟอร์มรอไว้เลย!!!

นาฬิกา BABY-G

ซูมอินความน่ารัก BABY-G ครบรอบ 30 ปี ดึง คุโรมิ มาเซอร์ไพรส์

account_circle
นาฬิกา BABY-G
นาฬิกา BABY-G

Praew Survey พาไปซูมอินความน่ารัก มุ้งมิ้งของ นาฬิกา BABY-G ที่ครั้งนี้ฉลองครบรอบ 30 ปี ดึงเอา คุโรมิ (Kuromi) คาแรกเตอร์ยอดนิยมจากค่ายซานริโอ (Sanrio) มาเซอร์ไพรส์

ซูมอินความน่ารัก BABY-G ครบรอบ 30 ปี ดึง คุโรมิ มาเซอร์ไพรส์

ความน่ารักนี้ปรากฎใน  BABY-G+PLUS ที่มามาพร้อม Case Cover แบบพวงกุญแจ กรอบและสายที่ถอดออกได้ง่าย จะใส่ข้อมือหรือห้อยกระเป๋าก็ Mix & Match สนุกได้ทุกวัน 

นาฬิการุ่นล่าสุดอย่างซีรีส์ BGD-10K นี้มีให้เลือกหลายสีด้วยกัน ในราคา 3,200 บาท มาพร้อมกรอบและสายที่ถอดพิเศษ ใช้งานได้สองแบบ สามารถเลือกได้ว่าจะสวมใส่เป็นนาฬิกาข้อมือหรือห้อยจากสายเพื่อเป็นชาร์มก็ได้ ดีไซน์ครั้งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันสุดฮิตของแฟชั่นยุค Y2K

นอกจากนี้ คาสิโอยังมีความยินดีในการประกาศว่า คุโรมิ (Kuromi) คาแรกเตอร์ยอดนิยมจากค่ายซานริโอ (Sanrio) จะทำหน้าที่เป็นแอมบาสเดอร์ของเบบี้จี เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของแบรนด์ พร้อมแท็กไลน์ประจำแบรนด์ว่า “Be you. Be me” ซึ่งหมายถึงการใช้ชีวิตในแบบของคุณเอง ความพิเศษ Case Cover สามารถตกแต่งด้วยสติกเกอร์และไอเท็มอื่น ๆ ได้ตามความต้องการ  สายคิวท์ และชอบอินเเทรนด์จะพลาดไอเท็มนี้ได้ยังไง!?


Byeon Woo Seok

บยอนอูซอก จากดาราที่คนไม่แยแส สู่พระเอกที่สร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์

Alternative Textaccount_circle
Byeon Woo Seok
Byeon Woo Seok

ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เพราะชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่ฤดูเดียว เฉกเช่นพระเอกหนุ่มเกาหลี บยอนอูซอก  (Byeon Woo Seok) ที่โลดแล่นในวงการบันเทิงมานานกว่า 10 ปี แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ จนกระทั่งล่าสุดปรากฏการณ์ รยูซอนแจฟีเวอร์ จากการรับบทนำในซีรีส์ Loverly Runner

บยอนอูซอก

นาทีนี้เอาอะไรก็ต้านไม่อยู่ สำหรับความฮ็อตของนักแสดงชาวเกาหลีใต้  Byeon Woo Seok พระเอกสุดหล่อจากซีรีส์ Lovely Runner ที่ถูกยกให้เป็นแฟนหนุ่มแห่งชาติผู้เป็นดั่งรักแรกของสาวๆ โดนตอนนี้ไม่ว่าเขาจะไปปรากฏตัวที่ไหนก็เกิดก็คลื่นมหาชนเสมอ  และจากเสน่ห์อันร้อนแรงนี้เองอาจทำให้หลายคนอาจคิดว่าอูซอกเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ความนั่นไม่ใช่เลย เพราะนักแสดงหนุ่มคนนี้โลดแล่นในวงการมานานเกือบ 10ปี ผ่านประสบการณ์เจ็บๆ อดีตที่อัดอั้นตันใจมากมายกว่าที่จะมีชื่อเสียงอย่างในวันนี้

บยอนอูซอก

Byeon Woo Seok เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงในปี 2010 จากการถ่ายแบบ หลังจากนั้นได้เข้าสู่การเป็นโมเดลอาชีพภายใต้สังกัด YGK+ ร่วมกับนายแบบที่กลายเป็นพระเอกดังหลายคนเช่น นัมจูฮยอก จางกียง  หลังจากนั้นจึงเริ่มงานแสดงกับเรื่อง Dear My Friends จนกระทั่งได้รับบทนำเต็มตัวครั้งแรก Flower Crew: Joseon Marriage Agency (2019) ที่ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และมีผลงานอื่นๆ อีกมากมายที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็น Record of Youth, Moonshine และ Strong Girl Nam-soon

ที่ผ่านมาชีวิตของบยอนอูซอกต้องทนกับความล้มเหลวซ้ำๆ เขาไม่ผ่านการออดิชั่นมากกว่า 100 ครั้ง แต่ที่ทำให้เจ้าตัวถึงกับร้องไห้ใจพังก็คือการที่อยู่ๆ ก็ถูกตัดออกจากโปรเจ็กต์

“ผมเจอกับเรื่องลำบากมาเยอะมาก โดนวิจารย์แรงๆ เช่น “อีก 4-5 ปี ยังไงผมก็ไม่ประสบความสำเร็จ” จนทำให้ไม่มั่นใจในตัวเองเลยจนตั้งคำถามกับตัวเองว่า นี่คือเส้นทางที่ผมจะเดินต่อใช่ไหม”

“ครั้งหนึ่งผมผ่านการออดิชั่นและไปตัดผมให้เข้ากับตัวละคร แต่ไม่นานก็มีทรศัพท์แจ้งผมว่า “ขอโทษนะ คิดว่าครั้งนี้คงร่วมงานกับผมไม่ได้แล้ว ผมต้องออกจากกรุ๊ปแชทนักแสดงหลังจากได้ยินเรื่องนี้  ความภาคภูมิใจของผมถูกทำลายและครุ่นคิดว่า “ผมไม่ดีพอเหรอ?” ผมร้องไห้หนักมาก แต่ช่วงหลังจากผ่านช่วงเวลานั้นผมทำงานหนักขึ้นแทนเพื่อเอาชนะคำพูดเหล่านั้นให้ได้ เพราะผมไม่อยากหมดกำลังใจกับคำพูดเหล่านั้น”

“ผมล้มเหลวในการออดิชั่นมาหลายครั้ง และมีหลายครั้งที่ผมคิดอยากจะยอมแพ้ แต่ผมโชคดีที่ผมใคนรอบข้างเชื่อในตัวผม และสนับสนุน  กลายเป็นแรงผลักดันให้กับผมครับ”

เปิดใจ “เก๋ไก๋” Kaykai Salaider บทบาทใหม่และชีวิตในวันนี้

account_circle

“สวัสดีค่ะ เก๋ไก๋ – ณัฐธิชา นะคะ หรือเก๋ไก๋สไลเดอร์นั่นเอง”

นี่คือคำพูดแนะนำตัวที่มาพร้อมความสดใส ร่าเริง และรอยยิ้มของ เก๋ไก๋ – ณัฐธิชา นามวงษ์ ที่แฟนๆ คุ้นหูเป็นอย่างดี อดีตเจ้าของตำแหน่งยูทูบเบอร์ อันดับ 1 ของไทย วันนี้เธอขยับเส้นทำงการทำงาน ก้าวสู่การเป็นนักแสดงเต็มตัว พร้อมกับบทบาทล่าสุดในฐานะศิลปินหญิงเดี่ยวคนใหม่ของช่อง 3 BEC Music

การทำงานตอนนี้ “ยูทูบเบอร์, นักแสดง, ศิลปิน”

  “ใช่ค่ะ ทั้งหมดที่ทำตอนนี้ถือเป็นสิ่งต่อยอดมาจากสิ่งที่เราทำมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง การแสดง เพราะความจริง เก๋เริ่มร้องเพลงคัฟเวอร์ก่อนจะเริ่มทำยูทูบอีกนะ จำได้ว่าตอนนั้นร้องเพลง ‘อ้าว’ ของพี่อะตอม ชนกันต์ แต่ความที่คลิปติดลิขสิทธิ์เพลง จึงเปลี่ยนมาทำ Original Content ของตัวเอง เพราะอยากสร้างรายได้ด้วย จึงเกิดเป็นช่อง  Kaykai Salaider (ปัจจุบันมีผู้ติดตาม 16.9 ล้านคน) และทำคอนเทนต์มาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้งานหลักๆ ที่ทำยังอยู่ในออนไลน์ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งการเป็นยูทูบเบอร์ รวมถึงการคอนเทนต์เกี่ยวกับชีวิต ไลฟ์สไตล์ตัวเองในช่องทางอื่นๆ ด้วย และอีกประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ก็คืองานในวงการบันเทิงค่ะ”

การเป็นศิลปินและนักแสดง เป็นอีกหนึ่งความฝันของเก๋ไก๋ รู้สึกอย่างที่ตอนนี้เราทำได้แล้ว

“ค่ะ เราได้เป็นในสิ่งที่อยากเป็น แต่จะพูดว่าเพราะลงมือทำ อาจดูไลฟ์โค้ชไปหน่อย แต่มันคือเรื่องจริงนะคะ เพราะแค่เราคิดแล้วลงมือทำ ผลที่เกิดขึ้นคือ 50 เปอร์เซ็นต์ กับ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ หรือได้ทำกับไม่ได้ทำ เพราะถ้าได้ทำก็ถือว่าสำเร็จเกินครึ่งแล้ว แต่ถ้าไม่ได้ทำเลยก็คือฝันต่อไป

“ก่อนหน้านี้ช่วงที่ไปแคสต์งาน ก็คิดว่าไม่ได้ไม่เป็นไร แต่เราได้ลงมือทำแล้ว ถ้ายังไม่ได้อีกก็ไปหาอย่างอื่นทำก่อน ลองดูงานอื่นๆ เก๋ว่าทุกอย่างมีจังหวะเวลาของมัน ถ้าช่วงนี้ยังไม่ใช่เวลาของเรา ก็ทำอย่างอื่นรอไปก่อน ไปเรียนรู้เพิ่มเติม เตรียมตัวให้พร้อม เพราะถ้าย้อนกลับไป เก๋เริ่มแคสต์งานตั้งแต่อายุ 17 จากนั้นก็เริ่มทำคลิป เป็นยูทูบเบอร์ ตอนอายุประมาณ 19 ปี แล้วต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนได้มาเป็นนักแสดงเป็นศิลปินเต็มตัว”

 ปีนี้มีอะไรที่อยากทำอีกไหม

            “มีค่ะ (หยุดคิด) เก๋จดสิ่งที่อยากทำไว้ในโทรศัพท์ เพราะมีพี่คนหนึ่งบอกว่า ถ้าอยากทำอะไร ให้จดเอาไว้ แบ่งเป็นสิ่งที่อยากทำระยะสั้น ระยะยาว และสิ่งที่เป็นความฝันใหญ่ในอนาคต แต่ถามถึงปีนี้ เรื่องงานแสดง ก็มีละครที่ทำอยู่ ส่วนเรื่องเพลง อยากลองทำเพลงแนวเซ็กซี่ค่ะ (หัวเราะ) มีพาร์ทเต้นจริงจัง ก็ต้องรอดูค่ะ ว่าจะเป็นไปได้มั้ย และอีกอย่างคืออยากไปเที่ยวกับเพื่อนหลายๆ ที่ค่ะ ไปเที่ยว ถ่ายรูป ทำคอนเทนต์เก็บไว้”

คิดว่าเก๋ไก๋ในวัย 27 ปี เป็นอย่างไรคะ

            “ตัวเล็ก (หัวเราะ) รู้สึกว่าความเท่ ความเซ็กซี่ ที่เพิ่มขึ้น แบบว่าดูมีอะไร ดูได้ไม่เบื่อ มีความเก๋ไก๋สไลเดอร์ ค่ะ (ยิ้ม) คือมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะสภาพแวดล้อมด้วย รู้สึกว่าเป็นช่วงที่เราได้เป็นตัวเองมากขึ้น จากช่วงก่อนหน้านี้ที่แบบว่าดูซึมๆ ไปหน่อย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้กลับมาเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่สดใส และเซ็กซี่ขึ้นค่ะ

“อย่างที่บอกว่า สิ่งสำคัญคือสภาพแวดล้อม เริ่มจากย้ายมาอยู่คอนโดใกล้ช่อง 3 เดินทางไปทำงานสะดวก ได้รับพลังบวกจากพี่ทีมงาน ได้ทำงานกับคนใหม่ๆ ได้รู้จักคนมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เราทำงานก็จะอยู่แต่กับกลุ่มเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ตอนนี้จึงเป็นช่วงเปิดรับพลังงานใหม่ๆ ค่ะ”

  • Story : Minim
  • Photo :  Vorason Dvi-vardhana

แกะรอยความหอมสไตล์สาวปารีเซียง ซิกเนเจอร์เริ่ดของผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De PARIS

account_circle

ความหอมถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ผู้หญิงจะขาดไม่ได้ ซึ่งนอกจากการปรุงแต่งกลิ่นกายด้วยน้ำหอมแล้ว Praew Survey ครั้งนี้ขอป้ายยาไอเดียเริ่ดๆ อย่างการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มที่สร้างสรรค์ความหอมได้ราวกับน้ำหอมแบรนด์หรู และที่สำคัญคือช่วยล็อกความหอมให้กับเสื้อผ้าได้อย่างยาวนาน ซึ่งไอเท็มที่ว่านั้นคือ De PARIS (เดอ ปารี) ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ ที่มาพร้อมกับซิกเนเจอร์ความหอมสไตล์สาวปารีเซียงและเสน่ห์ความหอมแบบเหนือระดับที่คงความหอมยาวนานกว่าที่เคย     

ความเริ่ดของผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De PARIS ข้อแรกคือการมาพร้อมกับดีเอ็นเอ Luxury French Perfume Style ที่มอบความหอมสไตล์สาวปารีเซียงด้วยการคัดสรรหัวน้ำหอมจากนักปรุงน้ำหอมสูตรพิเศษสไตล์ฝรั่งเศส พูดง่ายๆ คือเป็นผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มที่หอมไม่แพ้น้ำหอมลักซ์ชัวรี่แบรนด์ และมีกลิ่นโดดเด่นในสไตล์น้ำหอมชั้นสูงของฝรั่งเศส ดังนั้นหากวันไหนสาวๆ ลืมฉีดน้ำหอม หรือไม่อยากฉีดน้ำหอม ขอบอกเลยว่ากลิ่นหอมๆ บนเสื้อผ้าจาก De PARIS ก็เอาอยู่ค่ะ 

ความดีงามข้อต่อมาคือการมอบความหอมให้กับเสื้อผ้าได้ยาวนานถึง 700 ชั่วโมง หรือประมาณ 30 วัน* เพราะ De PARIS มีเทคโนโลยีแคปซูลน้ำหอมสูตรพิเศษที่เข้มข้นถึง 6 เท่า** จึงช่วยล็อกความหอมติดเนื้อผ้าลึกถึงเส้นใยผ้า รวมถึงช่วยลดกลิ่นอับบนผ้า เรียกว่าจัดเต็มคุณสมบัติที่ทำให้เสื้อผ้าหอมติดทนยาวนาน

โดยผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De PARIS มาพร้อมกับ 4 กลิ่นหอมสไตล์สาวปารีเซียง ซึ่งจะช่วยเติมเต็มความมั่นใจให้กับสาวๆ ในทุกๆ วัน

  1. JOY กลิ่นหอมสดใสที่ผสมผสานเสน่ห์ของความลักซ์ชัวรี่อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเรียบหรูดูแพง
  2. BLOOMING กลิ่นหอมหวานที่ให้ความรู้สึกโรแมนติกเหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ สาวสายหวานต้องปลื้ม
  3. BLUE PARADISE กลิ่นหอมสดชื่นที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับสาวๆ สายลุยหรือนักกิจกรรมตัวแม่
  4. MOONLIGHT HARMONY กลิ่นหอมอ่อนละมุนสไตล์ธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับเครื่องหอมชั้นสูง เหมาะกับวันชิลๆ ของสาวๆ

เรียกว่าเป็น 4 กลิ่นหอม 4 สไตล์ที่ปรุงแต่งมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งสาวๆ สามารถเลือกใช้ตามความชอบ ไลฟ์สไตล์ ลุคการแต่งตัว หรือเลือกใช้ให้เหมาะกับบุคลิกของตัวเองได้

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De PARIS ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยให้ผ้ารีดเรียบง่ายขึ้น และผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองผิว เอาเป็นว่าผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De PARIS เริ่ดแบบครบจบจริงๆ ทั้งหอมอย่างมีสไตล์และหอมติดทนยาวนาน รวมถึงยังช่วยถนอมเสื้อผ้า สาวๆ ที่รักการดูแลเสื้อผ้าและรักความหอมสไตล์ปารีเซียง ต้องมีเลยค่ะ

*เมื่อเก็บไว้ในตู้ **เมื่อเทียบกับสูตรมาตรฐาน

ติดตามข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษ ได้ที่ Facebook Fanpage https://www.facebook.com/deparisthailand

พฤกษาทำถึง! ผุดแลนด์มาร์กสีรุ้งใหม่ Live well Stay well Pride to be ME!

account_circle

พฤกษา ชวนมาทำคอนเทนต์ที่แลนด์มาร์กสีรุ้งแห่งใหม่ กับโปรเจ็คพิเศษ Live well Stay well Pride to be ME! “ชวนคุณเป็นตัวเองที่มั่นใจกว่าเดิม” ผ่านมุมมองการเล่าเรื่องของความ “อยู่ดี มีสุข” ที่หลากหลาย ส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียม ของคนทุกเพศ ทุกเจนเนอเรชัน เชิญชวนไปถ่ายรูป ทำคอนเทนต์เก๋ ๆ กันได้แล้ว วันนี้ – 28 มิถุนายน 2567 นี้ บริเวณ โถงชั้น 1 อาคาร Pearl Bangkok ใจกลางย่านอารีย์

Live well Stay well Pride to be ME! ตีโจทย์การชวนคุณมาปล่อยพลังความมั่นใจในตัวเองด้วยจุดหมายปลายทางเดียวกันคือความ “อยู่ดี มีสุข” ที่มาจากหลากหลายความแตกต่างของคนทุกเพศ ทุกเจนเนอเรชัน กับ 3 มุมเด็ด! ที่พลาดไม่ได้

มุมเปิดประตู อยู่ดี มีสุข ต้อนรับทุกคนสู่บ้านพลังบวก ที่พร้อมเข้าใจ ทุกความแตกต่าง ของคนทุกเพศ ทุกเจนเนอเรชัน

มุมยิ้ม สุ๊ด.. สุด กับความสุขที่ล้นใจ กับที่มาความสุขที่แตกต่าง จากหลากหลายไลฟ์สไตล์ของคนที่มีจุดหมายเดียวกันคือรอยยิ้มในแต่ละวัน

คาเฟ่ เปย์รัก ตอกย้ำกลิ่นอายเจ้าถิ่นคาเฟ่อย่างย่านอารีย์ กับมุมเก๋ที่คาเฟ่นี้เค้าเปย์ความรัก จากพันธมิตรในเครือพฤกษา ที่ร่วมมาส่งมอบความ อยู่ดี มีสุข ผ่านสินค้าและบริการที่หลากหลาย โดยชวนเซอร์ไพรส์ เปิดถุงจุ่มกันตลอดงาน

สัมผัสความ อยู่ดี มีสุข รูปแบบใหม่ กันแล้วที่ Photo Spot Live well Stay well Pride to be ME! อย่าลืมติด Hastag #PruksaPridetobeME #พฤกษาอยู่ดีมีสุข เพื่อรับเซอร์ไพรส์ตลอดเดือน เยี่ยมชมได้ตั้งแต่ วันนี้ – 28 มิถุนายน 2567 นี้ บริเวณ โถงชั้น 1 อาคาร Pearl Bangkok ใจกลางย่านอารีย์

ข้าวดอกกะหล่ำ

‘กะหล่ำดอก’ ประโยชน์แน่น นักโภชนาการแนะนำกินแทนข้าว ช่วยย่อยอาหาร ต้านมะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ

Alternative Textaccount_circle
ข้าวดอกกะหล่ำ
ข้าวดอกกะหล่ำ

อยากลดน้ำหนักแต่หยุดกินข้าวขาวอร่อยๆ ไม่ได้ใช่ไหม? ต้องลองกิน กะหล่ำดอก แทนข้าวขาว เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยมีเพียงหนึ่งในหกของน้ำตาลและแคลอรี่ของข้าวขาว อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินซีสูง และสารอาหารอื่นๆ และเป็นที่รู้จักในชื่อ “อาวุธต่อต้านมะเร็ง” ที่จริงแล้วการเตรียม “ข้าวกะหล่ำดอก” นั้นง่ายมาก เพียงสับดอกกะหล่ำแล้วแทนที่ข้าวขาวแบบเดิม ไม่เพียงแต่สามารถรักษารสชาติของข้าวได้เท่านั้น แต่ยังช่วยลดน้ำตาลและแคลอรี่และทำให้มีสุขภาพดีอีกด้วย

“กะหล่ำดอก” มีวิตามินซีมากกว่ามะนาว และยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแคลเซียมอีกด้วย สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นคือปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ของดอกกะหล่ำมีเพียง 1/6 ของข้าวขาวสำหรับอยากกินแบบไม่มีข้าว ให้ใช้ข้าวดอกกะหล่ำแทนข้าวขาว ซึ่งสามารถสนองความอยากอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณแป้งที่มากเกินไป สำหรับผู้ที่ควบคุมอาหาร แคลอรี่ และน้ำตาล การกินกะหล่ำดอกก็สามารถเพิ่มความอิ่มได้ และส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมถึงผลของการควบคุมลำไส้และการล้างกระเพาะอาหารทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น กะหล่ำดอกแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ สีเขียวและสีขาว ซึ่งทั้งสองอยู่ในวงศ์ Brassicaceae ในด้านรสชาติแนะนำให้ใช้ดอกกะหล่ำขาว ซึ่งจะได้รสชาติใกล้เคียงกับข้าวขาวเมื่อปรุงสุกกว่า

Photo: Pexels


ฮยอนบิน

เรือนหอของ คู่รัก ฮยอนบิน และ ซนเยจิน ถูกประกาศขาย

Alternative Textaccount_circle
ฮยอนบิน
ฮยอนบิน

ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ถูกจับตามองตลอด สำหรับคู่รักคนบันเทิงเกาหลีใต้  ฮยอนบิน และ ซนเยจิน ที่แม้จะแต่งงานกันมาสองปีกว่า มีลูกด้วยกัน 1 คน ชีวิตรักของพวกเขาก็ยังเป็นที่สนใจเสมอ

ฮยอนบิน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2024  มีรายงานของ อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า ฮยอนบิน ได้ตัดสินใจให้นายหน้าประกาศขายเพนท์เฮาส์ ในโครงการ Walkerhill Podo Ville จังหวัดคยองกีโด ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าที่นี่เป็นเรือนหอของเขากับภรรยานักแสดง ซนเยจิน

รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่าในปี 2020 ฮยอนบินได้ซื้อ เพนท์เฮาส์ นี้มาประมาณ 4,800 ล้านวอน โดยเขาตั้งใจขายที่พักหรูแห่งนี้ในราคา 7 พันล้านวอน  เท่ากับว่าเขาจด้รับกำไรมากถึง 2,000 ล้านวอน

สำหรับเพนท์เฮาส์แห่งนี้ อยู่ในหมู่บ้าน Guri Achiul หรือที่รู้จักกันในชื่อ Artists ‘Village  ซึ่งมีคนดังหลายคนอยู่อาศัย มีพื้นที่ 330 ตารางเมตร โดยมีห้องพัก 4 ห้อง และ 4 ห้องน้ำ แม้จะอยู่นอกกรุงโซลแต่งใกล้ชิดธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว

อย่างไรก็ตามคาดว่าการขายเรือนหอน่าจะเกิดจากการที่พวกเขาอยากจะขยับขยายบ้านใหม่ เพราะอย่างที่ทราบตอนนี้พวกเขามีลูกด้วยกันด้วย

ปรับโฟกัสให้เฉียบคมด้วย OAKLEY® LATCH PANEL สยบทุกความวุ่นวายด้วยแว่นกันแดดไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่

account_circle

มองทะลุความวุ่นวายแล้วนำสายตาสู่ความนิ่งสงบไปกับ Oakley® Latch™ Panel แว่นกันแดดไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่ที่ผสมผสานดีไซน์และฟังก์ชันเข้าด้วยกันเพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถโฟกัสกับสิ่งสำคัญได้อย่างเต็มที่ สมาชิกใหม่ดีไซน์โดดเด่นใน Latch Family รุ่นนี้สามารถกันสิ่งรบกวนออกไปได้ด้วยดีไซน์ที่จะขยายทุกขีดจำกัด ออกแบบมาเพื่อการก้าวไปยังสู่เส้นทางที่ไม่เคยรู้และมุ่งสู่การผจญภัยใหม่ๆ

รูปร่างที่มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับ Oakley ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกรอบแว่น Eyeshade สุดคลาสสิก ดีไซน์ที่โดดเด่นมาพร้อมแผงป้องกันด้านข้างซึ่งมั่นคงด้วยกลไกการล็อกที่ลงตัว ช่วยป้องกันแสงสะท้อนจากด้านข้าง แผงป้องกันนี้ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถจดจ่อกับภาพเบื้องหน้า และตั้งสมาธิได้โดยไม่เสียจังหวะ สไตล์ที่เหมาะกับหลากหลายโอกาสมาพร้อมเลนส์ทรงกระบอก 5B เพื่อทัศนวิสัยที่ดีกว่า มีขาแว่นแนบหูที่สวมหมวกหรือหมวกกันน็อกทับได้พอดีเมื่อออกสำรวจ และยังมี Prizm™ Lens Technology ที่ช่วยปรับรายละเอียดให้คมชัดยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ กลไกการล็อกที่ลงตัวยังทำให้สามารถหนีบแว่นไว้กับเสื้อ ทำให้หยิบใช้ได้รวดเร็วและเก็บได้สะดวก

แม้แต่เหล่านักกีฬา Team Oakley ก็ยังต้องประสบกับความวุ่นวายในชีวิต แต่เมื่อสวม Latch Panel แล้ว Kylian Mbappé ก็ได้แสดงให้ผู้ชมเห็นในแคมเปญล่าสุดของแบรนด์ว่าจะรับมือกับความยุ่งเหยิงเหล่านั้นได้อย่างไร “เวลาผมเข้าโหมดแข่ง ผมจะโฟกัสไปกับเป้าหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือการเล่นให้ดีที่สุดนั่นเองครับ” Kylian Mbappé กล่าว “แว่นกันแดด Latch Panel ทำให้ผมมองเห็นได้ไกลขึ้น มอบภาพที่โฟกัสและชัดเจน ซึ่งจำเป็นมากต่อการตั้งสมาธิอย่างจริงจัง”

หาความสงบท่ามกลางความวุ่นวายกับ LATCH™ PANEL รุ่น Signature Series ของ KYLIAN MBAPPÉ

แว่นตา Signature Series ปี 2024 ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับหนึ่งในนักฟุตบอลฝีเท้าเยี่ยมที่สุด ในคอลเลกชัน Signature Series ของ Kylian Mbappé นักกีฬาจากทีม Oakley ที่มีการผสมผสานกันระหว่างแฟชั่นกับกีฬาด้วยความสง่างามที่ล้ำสมัย พร้อมทั้งลงรายละเอียดสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของธงชาติฝรั่งเศส คอลเลกชันนี้จึงเป็นคอลเลกชันต่อเนื่องที่มาจากการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง Kylian Mbappé กับ Oakley ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วและวางจำหน่ายในสไตล์ยอดฮิตอย่าง Latch™ Panel และ HSTN

“ผมมีโอกาสได้เล่นกีฬาที่ผมรักทุกวันและผมอยากแสดงให้ทุกคนได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ในโลกของผมที่อยู่นอกเหนือสนามแข่งบ้างครับ” Kylian Mbappé กล่าว “ รุ่นนี้เป็นเหมือนการแสดงมุมมองส่วนตัวที่ผมมีต่อสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของประเทศของผมที่ผลักดันให้ผมคว้าชัยชนะมาได้ซึ่งผมก็ภูมิใจมากครับ และผมหวังว่าคอลเลกชันนี้จะสื่อสารออกไปในวงกว้างว่า เราต้องพัฒนาตัวเองในทุกๆ ขั้นเพื่อบรรลุความฝันให้ได้ครับ”

แว่นตา Latch™ Panel รุ่นพิเศษประกอบด้วยกรอบสีน้ำเงินโปร่งแสงที่เพิ่มความสง่างามอีกขั้นด้วยแผ่นตกแต่งตัวอักษรย่อ “KM” สีทองซาติน และเพิ่มมิติสีด้วยแผ่นข้างขาแว่นสีกรมท่าที่ตัดกันอย่างสวยงาม แว่นมีการออกแบบให้สัมผัสใบหน้าสามจุด มีแป้นจมูกสองขนาดสำหรับสวมใส่อย่างสบายตลอดทั้งวัน มาพร้อมเลนส์ Prizm™ และแผ่นข้างขาแว่นที่ถอดได้เพื่อให้คุณได้พบกับความสงบท่ามกลางความวุ่นวายและใช้สมาธิกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ คอลเลกชัน Signature Series ปี 2024 ของ Kylian Mbappé ยังมีรุ่น HSTN สุดโปรดปรานของ Kylian ซึ่งมีจุดเด่นคือโทนสีน้ำเงินที่ประกาศตนถึงการเป็นชาวฝรั่งเศสของเขา เสริมด้วยเลนส์ 24K ของ Prizm™ เพื่อดึงสีให้เด่นมากขึ้น

คอลเลกชัน Latch Panel ทั้งหมดวางจำหน่ายทั่วโลก Oakley.com , และร้าน Oakley ทั้ง 3 สาขาได้แก่

Oakley Centralworld

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

ติดต่อ 080-6629451

Oakley Iconsiam

ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ชั้น 2  ถนนเจริญนคร คลองสาน กรุงเทพฯ 10600

ติดต่อ 080-6629451

Oakley The Emporium

ห้างสรรพสินค้าดิเอ็มโพเรียม ชั้น 2 โซนกีฬา 662 ถนนสุขุมวิท

คลองตัน คลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

ติดต่อ 082-527-4002

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ Oakley ได้ที่: www.facebook.com/oakleyasia/

6.6 นี้! ‘เที่ยวบินแบบโก้ Go แบบ Green’ กับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ตั๋วเริ่มต้น 66 บาท

account_circle

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ลดกระหน่ำต้อนรับวันดับเบิลเดย์ประจำเดือนมิถุนายน ออกโปรโมชั่น “เที่ยวแบบโก้ Go แบบ Green (6.6 Limited Offers)” เสนอบัตรโดยสารราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 66 บาท (ราคาไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม)  สำหรับเดินทางบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ สามารถสำรองบัตรโดยสารได้ระหว่างวันที่ 4 – 7 มิถุนายน 2567 ใช้เดินทางได้ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ที่ www.vietjetair.com

บัตรโดยสารราคาโปรโมชั่นนี้สามารถใช้เดินทางได้กับทุกเส้นทางบินบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ขอนแก่น และอุบลราชธานี รวมถึงเส้นทางบินข้ามภูมิภาคจาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย และทุกเส้นทางบินบนเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เวียดนาม พนมเปญ สิงคโปร์ ฟูกุโอกะ ไทเป เซี่ยงไฮ้ และหางโจว รวมถึงเส้นทางบินตรงจาก เชียงใหม่ สู่ โอซาก้า ผู้โดยสารสามารถสำรองบัตรโดยสารราคาพิเศษนี้ได้ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com แอปพลิเคชัน “Vietjet Air” หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กที่ www.facebook.com/VietJetThailand (คลิกที่แถบ “จองเลย”) รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายหรือสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสาร พร้อมกันนี้ผู้โดยสารสามารถชำระเงินด้วย “ทรูมันนี่ วอลเล็ท” และบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้บริการครอบคลุม 11 เส้นทางบินภายในประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี รวมถึงเที่ยวบินข้ามภูมิภาค จาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย พร้อมกันนี้ สายการบินฯ ได้ขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่หลากหลายจุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เชื่อมต่อประเทศไทยกับเวียดนาม จีน สิงคโปร์ กัมพูชา ญี่ปุ่น ไทเป และอีกหลายจุดหมายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาค

น้องเจ้าคุณ พันธ์ชนกชนม์

ดาวรุ่งดวงใหม่ น้องเจ้าคุณ พันธ์ชนกชนม์ นักแสดงเด็กสุดมหัศจรรย์

Alternative Textaccount_circle
น้องเจ้าคุณ พันธ์ชนกชนม์
น้องเจ้าคุณ พันธ์ชนกชนม์

แจ้งเกิดดาวรุ่งดวงใหม่ น้องเจ้าคุณ พันธ์ชนกชนม์ วัย 11 ปี นักแสดงเด็กสุดมหัศจรรย์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกับบทบาท ปณต จากละครน้ำดีอย่าง “สงครามสมรส” กับซีนบีบหัวใจต่อว่าพ่อต่อหน้าศาล ทำเอาคนดูอวยยศตีบทแตกใจสลายไปตามๆกันจนโกยเรตติ้งพุ่งทะยานอันดับ 1 ของประเทศ พร้อมขอควงคุณแม่ครีม ปวริศา ออกสื่อครั้งแรก เผยวิธีการเลี้ยงลูกยังไงให้ประสบความสำเร็จและเก่งได้ขนาดนี้และความคืบหน้าของน้องเจ้าคุณที่อยากซื้อบ้านให้คุณแม่ถึงขั้นไหนแล้ว ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31

บีบหัวใจคนทั้งประเทศ ซีนนั้นยากไหม ?

เจ้าคุณ : ยากอยู่ครับ เพราะว่ามันต้องใช้อารมณ์เยอะ เป็นฉากที่มันต้องไปอยู่กลางศาลต้องระเบิดออกมาให้สุด เพราะว่าเราโกรธพ่อแล้วก็ผิดหวังในตัวพ่อมากๆ ในฉากนั้นพ่อเค้าสอนว่าคนโกหกเป็นไม่ดีแต่พ่อเรากลับทำซะเอง ผิดหวังมาก ก็เลยระเบิดออกมาอย่างในฉาก

ตอนนั้นเราคิดตามบทเลยหรือคุณแม่หรือผู้กำกับมาบรีฟอะไรบ้าง ?

เจ้าคุณ : คิดตามบทครับ แล้วก็พี่สันต์จะมาทบทวนบทให้ฟังว่าฉากนี้จะอารมณ์ยังไง เราต้องมีอารมณ์ขึ้นลงมากขนาดไหน พอนะเบิดออกมาก็เสียสติไปแล้ว

ซีนนี้ถ้าใครดูบทก็ยาว การจำบทยาวๆแล้วต้องเล่นอามณ์ขนาดนี้ ตอนอ่านบทกังวลหรือเปล่า ?

เจ้าคุณ : กังวลอยู่ครับ ตอนท้ายๆที่ไปโวยวายต่อหน้าพ่อ กังวลเรื่องอารมณ์ว่าเราจะทำได้มั้ย จะทำได้ถึงขนาดนั้นมั้ย เราจะทำตามบทได้มั้ย

ก่อนที่เราจะเล่นฉากดราม่าเยอะขนาดนั้นเราต้องทำการบ้านเยอะขนาดไหน ?

เจ้าคุณ : ช่วงก่อนที่จถ่ายซักประมาณ 2-3 วัน เขาจะส่งบทมาให้เรา ทำการบ้านทำความเข้าใจเยอะกับแม่ จะต่อบทกับแม่ครับ

เบื้องหลังก็คือคุณแม่ แม่อธิบายให้ลูกเข้าใจถึงตัวละครนี้อย่างไร ?

คุณแม่ : เราจะบอกเขาโดยรวมว่าปณตเจอเรื่องอะไรมา เขาเป็นยังไง แล้วเราก็จะมาคุยกับลูกว่าเขามีความคิดเห็นยังไง เพราะว่าเขาโตแล้วก็จะเริ่มดีไซน์ในการเล่นของเขาเองด้วย

เด็กแค่ 11 ขวบ ประสบการณ์ยังน้อยมากๆ ทำไมเขาถึงเข้าใจและแสดงออกมาได้ถึงขนาดนี้ ?

เจ้าคุณ : คิดว่าน่าจะซ้อมเยอะไปหน่อย

ตอนซ้อมกับคุณแม่ร้องไห้แบบนี้ไหม ?

คุณแม่ : ใช่ค่ะ ร้องตั้งแต่ตอนซ้อมเลย ร้องทุกครั้งที่ซ้อม เหมือนเขาเข้าใจในความเป็นปณตว่าปณตเสียใจแค่ไหน ยังไง

เจ้าคุณ : ตอนซ้อมกับแม่ตอนแรกจะซ้อมให้จำบทให้ได้ ให้บทมันเป๊ะก่อน ตอนที่สองค่อยเอาอารมณ์จริงๆออกมา

พอเห็นตัวเองในจอรู้สึกยังไงบ้าง  ?

เจ้าคุณ : รู้สึกอินตามปณตครับ

หนูคือเจ้าคุณแล้วพอดูตัวเองในจอหนูรู้สึกมั้ยว่านั่นปณตมั้ยไม่ใช่เจ้าคุณ ?

เจ้าคุณ : ใช่ครับ

แล้วเราทำยังไงจากเจ้าคุณให้กลายเป็นปณต ?

เจ้าคุณ : ก็ทำความเข้าใจกับปณตว่าปกติแล้วจิตใจเขาและคาแร็คเตอร์เขาเป็นยังไง ในความเป็นปณตมันมีอะไรอยู่บ้างที่จะทำให้คุณผู้ชมเขารู้ว่าเราคือปณต เราไม่ใช่เจ้าคุณแล้วนะ

ไปโรงเรียนเพื่อนๆทักกันมั้ย ?

เจ้าคุณ : เพื่อนๆเรียกแต่ปณตหมดเลยครับ พวกผู้หญิงห้องตรงข้าม พอผมเดินผ่านเขาจะชอบพูดว่า ณตเกลียดพ่อ

นอกจากพี่แอฟ ยังมีพี่คริตด้วย แล้วก็มีพี่ตรีอีก เป็นยังไงบ้างต้องประกบกับรุ่นใหญ่ขนาดนี้ ?

เจ้าคุณ : รู้สึกตื่นเต้นครับ มีทั้งพี่แอฟ พี่ตรี พี่คริต

แม่แอฟช่วยอะไรบ้าง  ?

เจ้าคุณ : แม่แอฟช่วยส่งอารมณ์ให้เล่นด้วยกัน ส่งกันไปกันมา

ตอนนี้เห็นว่าเหมือนมีลุกกันจริงๆแล้ว ไปเที่ยวต่างประเทศก็จะซื้อของมาฝาก รู้สึกยังไงที่แม่แอฟเอ็นดูเรา ?

เจ้าคุณ : ใช่ครับ รู้สึกดีใจที่พี่แอฟใจดีกับผม ซื้อของฝากผมเยอะมากครับ ตอนไปต่างประเทศเขาก็ซื้อคุกกี้มาให้แล้วก็เขีนเการ์ดมาด้วยว่า ถึงปณตนะ

แล้วพี่ตรีล่ะ ?

เจ้าคุณ : พี่ตรีเล่นกับผมเยอะจะสนิทกับผม เจอกับพี่ตรีตั้งแต่พนมนาคาแล้วครับ

พี่ตรีช่วยสอนการแสดงให้ด้วย สอนอะไรบ้าง ?

เจ้าคุณ : พี่ตรีสอนเรื่องอารมณ์ เรื่องการพูดยังไงให้ชัดแล้วก็ให้ออกมาได้ดี

พี่ชาคริตเห็นว่าเยร่วมงานด้วยกันมาแล้ว ?

เจ้าคุณ : ใช่ครับ เรื่องวันทองครับ

เห็นว่าพอร่วมงานกับพี่คริตแล้วตั้งฉายาให้เขา ฉายาอะไร ?

เจ้าคุณ : ปีศาจแห่งวงการครับ เขาแสดงเก่งมากครับ เขาเล่นได้ธรรมชาติมากๆ ไม่เหลือความเป็นเขาอีกแล้ว ตอนเขาไปเขาก็ไปเลยพอกลับมาก็เป็นเขา 100% ครับ

ถ้าเล่นไม่เป็นธรรมชาติในความเข้าใจของลูกเล่นยังไง ที่เล่นแล้วไม่ธรรมชาติ ?

เจ้าคุณ : ไม่ธรรมชาติของผมคือเล่นแล้วมันไม่ค้อยรู้สึกว่าเราอยู่กับเขาอยู่ เราอยู่กับตัวละครนั้นอยู่ อีกอย่างนึงก็คือเวลาเขาแสดงพวกร้องไห้ถ้าธรรมชาติเราจะรู้สึกได้แล้วก็อินตาม

อยากรู้ความรู้สึกคุณแม่ที่ได้เห็นฉากที่เราซ้อมกันอยู่บ้านแล้วออกอากาศให้คนได้เห็นจริงๆ คุณแม่รู้สึกยังไงบ้าง ?

คุณแม่ : ขอบพระคุณทุกคนที่เอ็นดูน้องและให้กำลังใจน้องในการทำงานของน้องตรงนี้ เราสองแม่ลูกขอบคุณมากเลยค่ะ

เคยคิดมั้ยว่าลูกเราจะว้าวขนาดนี้เลย ?

คุณแม่ : ไม่เคยคิดเลยค่ะ แต่ก็เชื่อว่าความตั้งใจของเขามันน่าจะทำได้ดีอยางที่เข้าตั้งใจ

เบื้องหลังการซ้อมเขาเป็นคนขวนขวายด้วยตัวเองเลยไหม ?

คุณแม่ : ใช่ค่ะ หลังๆพอเขาโตเขาเอาบทไปจัดการของเขาเอง มาเล่นให้ดู ซ้อมคู่กัน แม่ก็จะเป็นบัวบงกช บางทีก็มีบ้างที่เขาดีไซน์ว่าเขาอยากเล่นแบบนี้ เราก็คุยกัน เดี๋ยวพอไปเล่นหน้างานผู้กำกับเขาอยากให้เล่นยังไงก็อีกทีนึง

เส้นทางการทำงานของน้อง เริ่มจากจุดไหนถึงมีโอกาสได้มาร่วมงานกับทางช่อง One

คุณแม่  : เริ่มมาจากตอนที่น้องไว้ผมยาว ตั้งใจจะไว้ผมยาวเพื่อบริจาคผู้ป่วยมะเร็ง มาจากคุณย่าของน้องเป็นโรคร้ายล้วให้คีโม คุณย่าไม่มีผม ด้วยความเป็นเด็กของเขา เขาก็จะพูดว่าเอาผมของน้องไปมั้ย น้องมีผมเราก็เลยมาคุยว่าเราสามารถให้ผมบริจาคกับคนที่ทำคีโมได้นะ น้องสนใจใช่มั้ย เขาสนใจ ถ้างั้นไว้ผมยาวให้ผู้ป่วยมะเร็ง เขาก็ตั้งใจมากๆ แม่ก็ลงโพสต์ไปคนก็กดไลก์ วันนึงคุณกัปตัน ภูธเนศ เขากำกับละครอยู่เรื่องนึง ให้คนโทรมาว่ามาลองแคสละครดูมั้ย เพราะเค้าชอบแนวคิดของน้องที่มีน้ำใจอยากจะบริจาคผม เราก็แคสแบบไม่รู้เรื่อง เลยให้น้องไปเรียนการแสดงเพิ่มเติม เผื่อว่ามีโอกาสคนให้ไปแคสอีก อีกอย่างมันได้เรียนรู้นอกห้องเรียน เรียนเพิ่มเติมได้ซักหน่อย แม่ก็ส่งน้องไปแคสเอ็มวีแล้วน้องได้ พอไปทำตรงนั้นแล้วเขาชอบ

เล่นละครเป็นนักแสดงรุ่นจิ๋วจริงๆ มาได้ยังไง ?

คุณแม่ : พอเล่น MV ก็มีแคสกุมารทองของวันทอง แม่ก็ลองส่งดู ผู้กำกับก็ส่งบทมาให้เราทำคลิปส่งแคส แล้วก็เรียกมาแคส น้องก็ได้อีก ก็เลยเริ่มจากตรงนั้นเลย

ทำไมน้องเจ้าคุณอยากซื้อบ้านให้คุณแม่ ?

เจ้าคุณ : เพราะว่าปกติผมอยู่บ้านเช่าครับ ผมเพิ่งรู้ว่าปกติบ้านเช่าเรามีโอกาสที่จะหมดสัญญาเช่าหรือมีโอกาสที่จะย้ายบ้านไปเมื่อไหร่ก็ได้ ผมเห็นว่ามันย้ายบ้านแล้วมันวุ่นวาย ขี้เกียจย้ายบ้านครับ

น้องเจ้าคุณ พันธ์ชนกชนม์

เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 27 ปี Hydrafacial พร้อมอัปเดตนวัตกรรม Syndeo

account_circle

“AESLA” หรือ บริษัท เอสล่า จำกัด ภายใต้การบริหารของคุณ วรุตม์ สุทธินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสล่า จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องมือแพทย์และเวชสำอางด้านความงามในระดับสากล มาตรฐาน U.S.FDA และ Gold Standard ตัวแทนจำหน่าย Hydrafacial ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เดินหน้าจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 27 ปีของแบรนด์ Hydrafacial พร้อมยกระดับการเปิดตัว Hydrafacial Syndeo ขึ้นไปอีกขั้น ภายใต้ชื่องาน “The Future of Skin Health Technology – Meet Syndeo™ and Delight Yourself with Glowing Results.” ณ Firefly Bar โรงแรม Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok  งานนี้ได้  2 นักแสดงคนดังอย่าง “วิว-วรรณรท สนธิไชย” และ “สกาย-วงศ์รวี นทีธร” มาร่วมแชร์เคล็ดลับการมีผิวสวยสุขภาพดีในช่วง Celebrity Talk พูดคุยกับพิธีกร “พิตต้า ณ พัทลุง” จุดประกายความว้าวเป็นให้อยากหันมาดูแลตัวเอง

โดยภายในงานยังได้รับเกียรติจาก ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ, นพ.กัมพล โซ่เจริญธรรม และ นพ.วชิระ คุณาธาทร พร้อมทั้งมีบุคลากรทางการแพทย์ด้านความงาม คลินิกชั้นนำ เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์เข้าร่วมงานอย่างมากมาย งานครั้งนี้ร่วมกับพาร์ตเนอร์อย่าง Hydrafacial โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโปรโมตนวัตกรรมทรีตเมนต์ใหม่ล่าสุด Hydrafacial Syndeo พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูลเทคโนโลยีและสารสกัดบูสเตอร์ต่าง ๆ เพื่อให้แพทย์ผู้เข้าร่วมงานได้อัปเดตไปพร้อมกันกับเทรนด์ความงามในปี 2024 ซึ่งนวัตกรรมทรีตเมนต์อย่าง Hydrafacial Syndeo ยังตอบโจทย์ในแง่ไลฟ์สไตล์ ภาพลักษณ์มีความเข้าถึงง่าย

น้ำหอม Aesop กรุ่นกลิ่นแปลกใหม่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อันซับซ้อน และแรงบันดาลใจจากเรื่องราวการเดินทาง ผสานแนวคิดศิลปะ

Alternative Textaccount_circle

น้ำหอม ของ Aesop เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันซับซ้อน และแรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่ผ่านการเดินทาง ผสมผสานเข้ากับแนวคิดของศิลปะอันละเมียดละไมจากทัศนียภาพต่างๆ รวมถึงการสอดแทรกปรัชญาในหลากหลายมิติ ซึ่ง Aesop ได้รังสรรค์กลิ่นหอมขึ้นจากส่วนผสมของธรรมชาติ พฤกษานานาชนิดและการสังเคราะห์ส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์ ทำให้กลิ่นหอมนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์และยากที่จะเสมอเหมือน อาทิ

  • Gloam Eau de Parfum กลิ่นของเครื่องเทศและดอกไม้นานาพันธุ์ที่ชวนให้คิดถึงความทรงจำในวันวาน เป็นน้ำ หอมกลิ่นที่ 5 ในคอลเลคชั่น Othertopias กลิ่นหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการท่องไปในดินแดนแห่งโลกความจริงและจินตนาการ Gloam จะพาคุณไปสำรวจตัวตน ล่องลอยไปในโลกแห่งความฝันที่เต็มไปด้วยจินตนาการที่ห่างไกลออกจากโลกแห่งความเป็นจริง กลิ่นหอมที่คุ้นเคยมาบรรจบกับความแปลกใหม่ด้วยกลิ่นเข้มขน้ของดอกไม้ เครื่องเทศอันอบอุ่น และความลุ่มลึกของไม้หอม
  • Hwyl Eau de Parfum กลิ่นหอมที่ปลุกเร้าและชวนหลงใหล กลิ่นกรุ่นชวนหลงใหลที่สะท้อนถึงความสดชื่นและความเงียบสงบของป่าสนโบราณในประเทศญี่ปุ่นรังสรรคร่วมกับนักปรุงน้ำหอมที่ร่วมงานกันมานานอย่างบาร์นาเบ ฟิลลิยง เปิดด้วยกลิ่นแนวสโมคก่อน ตามมาด้วยกลิ่นเข้มข้นของไม้หอม มอส และเครื่องเทศ
  • Marrakech Intense Eau de Parfum มีกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการผสานกลิ่นเครื่องเทศไม้หอม เข้ากับกลิ่นดอกไม้สดชื่นอย่างจัสมิน เนโรลี และเบอร์กาม็อต จนได้กลิ่นหอมที่ถือได้ว่าเป็นกลิ่นแปลกใหม่
  • Rōzu Eau de Parfum น้ำหอมลำดับที่ 4 ของเอสอปได้รับสร้างสรรค์ร่วมกับ บาร์นาเบ ฟิลลิยงหอมชาวฝรั่งเศสผู้ร่วมงานกับเอสอปมาอย่างยาวนานและร่วมออกแบบกลิ่น Marrakech Intense และ Hwyl รวมถึงคอลเลคชั่น Aromatique Room Sprays น้ำหอมกลิ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิต ผลงาน และความหลงใหลของ ชาร์ล็อตต์ แปร์ริยองด์ นักออกแบบยุคโมเดิร์นนิสต์ชื่อดังชาวฝรั่งเศสและดอกกุหลาบญี่ปุ่นที่ตั้งชื่อตามเธอ Rōzu Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่ผสมผสานความเข้มข้นเข้ากับความอ่อนโยน แฝงความละเอียดอ่อนและกว้างไกล ติดทนนานอย่างน่าประทับใจ กลิ่นมีความยูนิเซกส์
  • Tacit Eau de Parfum กลิ่นหอมที่รังสรรค์ร่วมกับ Céline Barel โดยได้แรงบันดาลใจจากกลิ่นสดชื่นของโคโลญแบบดั้งเดิมในอดีต รวมถึงวัฒนธรรม ภูมิประเทศและพฤกษาพรรณในแถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน

ร่วมค้นพบกลิ่นหอมจาก Aesop ได้ที่ Aesop Thonglor และ Aesop Online


จัดเต็มไม่มีแผ่ว! Emily in Paris เผยคอสตูมนักแสดงในซีซั่น 4 ครั้งแรก

Alternative Textaccount_circle

เดินทางมาถึงซีซั่น 4 ทั้งที คอสตูมต้องจัดเต็มห้ามแผ่ว! Emily in Paris เผยรูปทีเซอร์เหล่านักแสดงเซ็ตแรกที่แฟชั่นจัดจ้านอีกเหมือนเคย

ใกล้เข้ามาเต็มทีกับวันออนแอร์ของ Emily in Paris ซีซั่น 4 ที่เชื่อว่าแฟนๆ หลายคนคงตั้งหน้าตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อหลังจบซีซั่น 3 โดยเรื่องราวของครั้งนี้ยังคงเล่าถึงชีวิตการทำงานของเอมิลี่ และเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์แสนยุ่งเหยิงที่รอให้เราได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่าจะมีบทสรุปเป็นอย่างไร แน่นอนว่ามากซีซั่นเท่าไหร่ความคาดหวังคงทวีคูณเพิ่มเท่านั้น ไม่ใช่แค่เนื้อหา แต่คอสตูมก็ไม่แพ้กัน เพราะถ้าพูดถึงซีรีส์เรื่องนี้คนที่เคยดูมาแล้วคงรู้ดีว่าแฟชั่นของนักแสดงในเรื่องจัดเต็มมากแค่ไหน และเป็นที่เลื่องลือมาถึง 3 ซีซั่น และไม่นานมานี้ทีมซีรีส์จึงปล่อยภาพทีเซอร์มาเรียกน้ำย่อยให้เห็นแฟชั่นของนักแสดงทุกคน เอาเป็นว่าครั้งหน้าจะแอบมาแกะลุคของตัวละครกันว่าใครใส่ไอเท็มชิ้นไหนกันบ้าง ต้องรอติดตามนะคะ!

สำหรับซีซั่น 4 นี้จะเตรียมฉายพาร์ทแรกในวันที่ 15 สิงหาคมที่กำลังจะถึงนี้


ภาพ: Instagram @emilyinparis

keyboard_arrow_up