Guerlain เนรมิตบูติกสไตล์ฝรั่งเศสผสานความงามและหรูหราบ้าน High Perfumery และ High Cosmetics ชั้น G เซ็นทรัลชิดลม

Guerlain เปิดตัว The New Ultimate Boutique สุดอลังฯ ในคอนเซ็ปต์ Maison ณ เซ็นทรัลชิดลม

Alternative Textaccount_circle
Guerlain เนรมิตบูติกสไตล์ฝรั่งเศสผสานความงามและหรูหราบ้าน High Perfumery และ High Cosmetics ชั้น G เซ็นทรัลชิดลม
Guerlain เนรมิตบูติกสไตล์ฝรั่งเศสผสานความงามและหรูหราบ้าน High Perfumery และ High Cosmetics ชั้น G เซ็นทรัลชิดลม

Guerlain (เกอร์แลง) ยกระดับความงามขยายอาณาจักรความงามในไทย ด้วยการเปิดตัวบูติกหรูที่สุดในเมืองไทย โดยมี มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล, ธัญวรรน เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ช้องมาศ บางชะวงษ์, อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ, ณัฏฐ์ณัชชา นำเจริญสมบัติ ร่วมงาน ณ ชั้น G เซ็นทรัลชิดลม บูติก สไตล์ฝรั่งเศสที่ผสมผสานความงามและหรูหราแบบ Maison Guerlain บ้านแห่ง High Perfumery และ High Cosmetics เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อก้าวเข้าสู่ Guerlain Ultimate Boutique จะพบกับดีไซน์ต้นแบบมาจาก เกอร์แลง บน ถนนฌองเซลิเซ่ ตกแต่งด้วยโทนสีครีม ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่น หรูหรา และผ่อนคลาย ผสานแนวคิดการออกแบบอย่างยั่งยืน (Sustainable Design) นับเป็นเอกลักษณ์การยกระดับความงามไปสู่ความเป็นงานศิลป์

Guerlain Ultimate Boutique สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม แห่งนี้ ประกอบไปด้วย โซน น้ำหอม เมคอัพ สกินแคร์ และ พื้นที่ให้คำปรึกษา ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างความผ่อนคลายและความสบายใจให้กับลูกค้าในทุกรายละเอียด ตอบสนองความต้องการและมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น บริการ Fragrance Consultation ค้นหาน้ำหอม GUERLAIN อันเป็นเอกลักษณ์ของคุณ บริการ Flash Makeup โดยช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ด้วยผลิตภัณฑ์ Makeup สุดหรู จาก GUERLAIN พร้อมเผยความลับผิวสวยอ่อนวัยเหนือกาลเวลาให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษที่เนรมิตความงามเป็นงานศิลป์ในทุกอณูพื้นที่

พร้อมส่งท้ายปลายปีด้วย Holiday collection ประจำปี 2024 GUERLAIN BE EXTRAORDINARY CHRISTMAS รุ่น LIMITED EDITION ใหม่! เมคอัพไอเทมที่เป็นดั่งอัญมณีชิ้นหรูที่จะสะกดทุกสายตาด้วยลูกเล่นเส้นกราฟิกกับพลอยไรน์สโตนจรัสประกาย ออกแบบโดย SHOUROUK RHAIEM ศิลปินหญิงชื่อดังชาวฝรั่งเศส กับ 3 ไอเทมชิ้นหรูเลอค่า เคสอัญมณี ROUGE G ตกแต่งด้วยพลอยไรน์สโตนสไตล์ป๊อปอาร์ต จับคู่เคสกับ Rouge G Velvet สองเฉดสีใหม่ No. 980 Le Rouge Fabuleux สีแดงเข้มล้ำลึก และ No. 207 Le Beige Bijou สีเบจอมชมพูอ่อน เคสอัญมณี Ombres G ตกแต่งด้วยพลอยไรน์สโตนที่มีการสะท้อนแบบโฮโลแกรม มาใน 4 เฉดสี สีทองบรอนซ์เนื้อเมทัลลิก สำหรับใช้เป็นไฮไลต์เติมความสว่างรองพื้นเปลือกตา, สีแดงเบอร์กันดีเนื้อซาติน เติมมิติคมชัดของดวงตา, สีแดงและสีชมพูอ่อนเนื้อแม็ต MÉTÉORITES SOUS LES ÉTOILES มาในเคสประดับเพชรและไรน์สโตน ได้รับแรงบันดาลใจจากความมหัศจรรย์ของค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว บรรจุแป้งเนื้อมุกเผยผิวสว่างใส เฉดสี 02 ที่ขายดีที่สุด

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานเปิด มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง Friend of Guerlain คนแรกของประเทศไทย ได้ร่วมนำชมบูติกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งในบริเวณของ Guerlain The New Ultimate Boutique ยังมีโชว์เคสน้ำหอมระดับมาสเตอร์พีซสุดเลอค่า การรังสรรค์ชิ้นงานสุดพิเศษโดยการนำขวด Bee Bottle ที่มีเอกลักษณ์กลับมาอีกครั้งในจำนวนจำกัดพร้อมการระบุหมายเลขประจำชิ้นงาน ด้วยความร่วมมือกับศิลปินนักออกแบบอัญมณีชาวฝรั่งเศส SHOUROUK RHAIEM น้ำหอมที่มีสีแอมเบอร์เพื่อให้ได้กลิ่นที่เหมาะกับการเฉลิมฉลอง ประดับตกแต่งด้วยอัญมณีอันเปล่งประกายที่สามารถนำมาสวมที่ข้อมือได้


เปิดวาร์ปนวัตกรรมใหม่รันวงการงานผิว ผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างผิว Profhilo® จากสวิตเซอร์แลนด์

account_circle

ถือเป็นข่าวใหญ่และข่าวดีของวงการบิวตี้ส่งท้ายปี 2024 แบบสุดปัง สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างผิว Profhilo® ในประเทศไทย พร้อมการเปิดสำนักงานใหม่ของ Alma ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 7 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรียกว่าเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของบริษัท Alma Lasers บริษัทในเครือ Sisram Medical ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นทางการแพทย์และความงาม

ความน่าตื่นเต้นสำหรับการมาถึงของผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างผิว Profhilo® คือเขาเป็นผลิตภัณฑ์จากสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี NAHYCO® ที่จดสิทธิบัตร และเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่ได้รับความนิยมมานานแล้วในต่างประเทศ จุดเด่นคือช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนบำรุงผิวล้ำลึกด้วยกรดไฮยาลูโรนิกที่ฉีดเข้าสู่ใต้ชั้นผิวหนังโดยตรง ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ช่วยฟื้นฟูความกระชับและปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แตกต่างจากการรักษาริ้วรอยแบบเดิมหรือสารเติมเต็มทั่วไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นลึกถึงภายใน ผลลัพธ์คือฟื้นฟูโครงสร้างผิวอย่างมีคุณภาพ ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน เหมาะสำหรับการใช้ในการปรับความกระชับของผิวหน้าและลำคอ รวมถึงช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนังในกรณีรอยแผลเป็นจากสิว

นอกจากข้อมูลดังกล่าวที่สัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพจัดเต็มแล้ว ผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างผิว Profhilo® จะเข้ามามีบทบาทในการตอบโจทย์เทรนด์การดูแลผิว พร้อมรันวงการงานผิวในบ้านเราอย่างไรอีกบ้าง แพรว ได้รวบรวมความคิดเห็นของเหล่าแพทย์ความงามมาเป็นข้อมูลดีๆ ให้กับคนรักผิวตรงนี้แล้วค่ะ

ศ.ดร.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา Siriraj Hospital

“แนวคิดของเทคโนโลยี Bio-Remodeling คือการปรับสมดุลผิว กระตุ้นให้เซลล์ผิวกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปรียบเสมือนเซลล์ผิวของวัยหนุ่มสาว ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับความต้องการคุณภาพผิวในปัจจุบันที่หลายคนหลีกเลี่ยงการใช้สารแปลกปลอมเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม เพราะหากเติมมากเกินไปก็จะดูแปลก และให้ผลลัพธ์ที่ไม่คงทน ดังนั้นการฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ผิวตามธรรมชาติจึงได้รับความสนใจมากกว่า สำหรับคีย์หลักของเทคโนโลยี Bio-Remodeling คือการใช้กรดไฮยาลูโรนิกที่เกาะกันเป็นพิเศษ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้วสามารถกระจายตัวในชั้นผิวได้ดี ส่งผลให้ผิวมีความสมดุลมากขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกหนึ่งจุดเด่นคือเมื่อกระจายตัวได้ดี ทำให้ไม่จำเป็นต้องฉีดหลายจุด เช่น บริเวณใบหน้าอาจใช้เพียง 5 จุด ซึ่งส่งผลดีคือลดความเจ็บและทำให้เกิดแผลน้อยลง ถือเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้รับบริการที่ต้องการผลลัพธ์แลดูเป็นธรรมชาติ และการปรับปรุงคุณภาพผิวอย่างยั่งยืนในระยะยาว”

นพ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ Rassapoom Clinic

“เทรนด์การดูแลผิวในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่ความต้องการคุณภาพผิวที่ดีขึ้น ซึ่งเทคโนโลยี Bio-Remodeling ช่วยตอบโจทย์ในจุดนี้ เพราะช่วยยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และปรับปรุงคุณภาพผิวได้อย่างครอบคลุม โดยใช้กรดไฮยารูโรนิกส์ที่มีขนาดใหญ่และขนาดเล็กเชื่อมต่อกัน พร้อมถูกออกแบบให้กระตุ้นทุกชั้นผิว ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ ชั้นกล้ามเนื้อ ไปจนถึงเซลล์กระดูก ซึ่งมีงานวิจัยรองรับว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือมีจุดเด่นอยู่ที่ความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าเทคโนโลยีเดิมๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการยกระดับคุณภาพผิว ซึ่งผมในฐานะแพทย์ต้องบอกว่ารู้จักเทคโนโลยีนี้มานานแล้ว จากงานประชุมนานาชาติและงานวิจัยที่สนับสนุนประสิทธิภาพ รวมถึงยังมีผู้รับบริการที่รู้จักเทคโนโลยีนี้จากต่างประเทศรีเควสเข้ามา ซึ่งตอนนี้สามารถพบกับเทคโนโลยี Bio-Remodeling ในประเทศไทยได้แล้วครับ”

พญ.ธิรดา จิตตการ Romrawin Clinic

“เทรนด์การดูแลผิวจะแตกต่างกันตามวัย ถ้าเป็นรุ่นใหญ่จะเน้นไปที่ปัญหาความหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับผิว ส่วนคนที่อายุยังน้อยก็จะเป็นเรื่องสิวและความกระจ่างใส ส่วนเทรนด์หลักๆ ในตอนนี้คือการดูแลผิวให้โชว์ผิวจริงได้ ไม่ต้องเมคอัพเยอะ ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีความงามต่างๆ ได้รับความสนใจ เพราะช่วยตอบโจทย์เทรนด์งานผิวได้ดี ที่รมย์รวินทร์เราเน้นความปลอดภัยและความทันสมัยของผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม อย่างเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่เราจะนำมาให้บริการในปี 2025 ที่ต่างประเทศใช้กันมานานกว่า 10 ปีแล้ว เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งจะแตกต่างจากเทคโนโลยีอื่นๆ ตรงที่เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ ช่วยฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวใหม่ ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวทุกชั้น รวมทั้งช่วยให้คอลลาเจนกลับมาทำงานได้ดี เรียกว่าช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญคือมาพร้อมกับประสิทธิภาพและความปลอดภัย”

พญ.ดวงดาว ดวงนำสว่าง StarMed Clinic

“กระแสการพึ่งพาเทคโนโลยีความงามในการดูแลผิวถือว่ามาแรง เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงจุด ที่ StarMed เรามีจุดเด่นเรื่องการทำหัตถการที่ตอบโจทย์ ผลลัพธ์ตรงใจลูกค้า เราจึงเลือกเครื่องมือที่ทันสมัยและได้ผลมาให้บริการ วันนี้จึงรู้สึกดีใจที่ประเทศไทยมีเทคโนโลยี Bio-Remodeling ซึ่งจะมาช่วยแก้ปัญหาผิวได้ดีและครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวในทุกชั้นเซลล์ เพราะปัจจุบันผู้รับบริการต้องการ Lunch Time Treatment คือต้องการทำสวยแบบไม่เจ็บตัวหรือเจ็บน้อย ฟื้นตัวไวหรือไม่ต้องพักฟื้นเลยยิ่งดี และดูเป็นธรรมชาติจนใครๆ ดูไม่ออกว่าไปทำอะไรมา ซึ่งเทคโนโลยี Bio-Remodeling ให้ผลลัพธ์ถูกใจคนยุคใหม่เลยค่ะ”

พญ.ปรณีย์ ฉัตรธานี  APEX Medical Center

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาความต้องการที่เจอบ่อยที่สุดคือปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่งมาจากการเสื่อมสภาพของโครงสร้างผิว ดังนั้นที่ APEX Medical Center จึงมีการคัดสรรนวัตกรรมความงามใหม่ๆ มาเป็นตัวช่วยอยู่เสมอ ล่าสุดคือเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่เพิ่งนำเข้ามาในประเทศไทย แต่ความจริงเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศมานานแล้ว โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังทั้งใบหน้าและลำคอ เป็นการบำรุงผิวด้วยกรดไฮยาลูโรนิกที่ฉีดเข้าสู่ใต้ชั้นผิวหนังโดยตรง เพื่อช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้ทำงานได้ดี ถือเป็นนวัตกรรมความงามที่คนรักผิวต้องติดตามค่ะ”

นพ.วรพล สุขีวัฒนา  Doctor Tony Clinic

“ในปี 2025 Doctor Tony Clinic มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อย่างชาวต่างชาติทั้งที่ทำงานในประเทศไทย หรือเดินทางมาท่องเที่ยว ด้วยการหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ โดยคาดว่าเทรนด์การดูแลผิวจะเน้นไปที่การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยมุ่งไปที่การใช้เทคโนโลยีที่ไม่ทำร้ายผิว การดูแลผิวจากภายใน และปรับรูปแบบการดูแลผิวให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ด้วยเหตุนี้จึงคาดว่าเทคโนโลยี Bio-Remodeling จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการความงาม และจะกลายเป็นทางเลือกหลักในการแก้ปัญหาผิวที่มีความหย่อนคล้อย ริ้วรอย และแผลเป็นจากสิว เพราะมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง โดยเฉพาะการฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกาย ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นน้อย หลังการรักษาสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ”

นพ.สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์ DSK Clinic

“คำว่า ‘ผลลัพธ์ที่ดี’ ของหัตถการสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน เพราะปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และเครื่องมือให้เลือกเยอะมาก สิ่งสำคัญคือจะต้องมีแพทย์ที่เข้าใจปัญหาของผู้รับบริการอย่างลึกซึ้ง แล้วเลือกผลิตภัณฑ์หรือการรักษารูปแบบต่างๆ ให้แมตช์กับปัญหาและตรงตามสาเหตุ สิ่งนี้ผมเรียกว่า Customization ซึ่งเป็นสิ่งที่ DSK โฟกัสมาตั้งแต่แรก เทรนด์ที่กำลังมาแรงคือการกระตุ้นผิวให้กลับไปอ่อนเยาว์ด้วยคอนเซ็ปต์ Regenerative Medicine คือการทำให้ผิวเกิดการสร้างใหม่ ซึ่งล่าสุดในประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดกระบวนการนี้ นั่นคือเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่จะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว เปรียบเทียบง่ายๆ คือเหมือนเป็นการปลุกเซลล์ผิวที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้น ทำให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพกลับมาทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นกระบวนการย้อนวัยผิวที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด เพราะไม่ได้มีการเติมสารแปลกปลอมเข้าไป แต่เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ผิวทุกชั้นทำงานได้ดีเหมือนตอนที่เราอายุยังน้อยนั่นเอง ซึ่ง DSK เลือกผลิตภัณฑ์ชั้นนำมาเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้รับบริการ”

พญ.ศรินทิพย์ สุนทรัช  The Clover Clinic

“จุดเด่นของเทคโนโลยี Bio-Remodeling คือการฟื้นฟูผิวทุกชั้น โดยไม่เพิ่มวอลลุ่มเหมือนสารเติมเต็ม ทำให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาหรืออุ้มน้ำจนเกินไป ที่สำคัญคือการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินจากเซลล์ผิวในหลายระดับ ทั้ง Fibroblast ในชั้นหนังแท้ Keratinocyte ในชั้นหนังกำพร้า และลงลึกไปถึงเซลล์กระดูก รวมถึงยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่ทำให้ดูบวม จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยไม่เพิ่มวอลลุ่ม คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือขาดความยืดหยุ่น คนที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวในระยะยาว และคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้เทคโนโลยี Bio-Remodeling ยังกระจายตัวได้ดี ฉีดเพียง 5 จุดบนใบหน้า ก็สามารถฟื้นฟูผิวได้ทั่วทั้งบริเวณ หลังทำผิวไม่ช้ำหรือบวม ไม่ต้องพักฟื้น สำหรับที่ The Clover เราเน้นเรื่องคุณภาพผิวอยู่แล้ว ซึ่งเรามองว่าเทคโนโลยี Bio-Remodeling สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือ Energy Base device อื่นๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดขึ้น ผู้รับบริการไม่มี Down Time สวยขึ้นแบบดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพักหน้า สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่”

ทั้งหมดนี้คือความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ปรับโครงสร้างผิว Profhilo® ซึ่งโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่ได้รับความนิยมในแวดวงความงามระดับโลกมานานแล้ว งานนี้ขอบอกเลยว่าคนรักผิวห้ามตกขบวนจริงๆ ค่ะ


หญิงสาวลึกลับ? ‘ลิซ่า ลลิษา’ ปรากฏตัวด้วยชุดไทยในทีเซอร์ The White Lotus SS3

Alternative Textaccount_circle

สร้างเสียงฮือฮาอีกครั้ง เมื่อ ลิซ่า ลลิษา สวมชุดไทยในทีเซอร์ซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3

กระแสดีไม่มีตกกับ The White Lotus ซีรีส์เสียดสีสังคมที่ซีซั่น 1 ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับเงินทอง ซีซั่นที่ 2 ว่าด้วยเรื่องเซ็กส์ โดยกองถ่ายทำได้ยกนักแสดงไปถ่ายไกลถึงฮาวาย และอิตาลีกันมาแล้ว ส่วนในซีซั่น 3 ที่กำลังจะออนแอร์นี้ ถึงคิวของประเทศไทย โดยเนื้อเรื่องคร่าวๆ เป็นการพูดถึงความเชื่อทางศาสนา และความตาย ที่ได้เหล่านักแสดงชาวไทยมาร่วมสมทบทั้ง ดอม เหตระกูล, สุทธิชัย หยุ่น และ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ที่ถือเป็นผลงานการแสดงชิ้นแรกของเธอ

โดยในทีเซอร์ล่าสุด ลิซ่าปรากฏตัวในชุดไทยที่เรียกเสียงฮือฮากลายเป็นไวรัลในโซเชียลอยู่ไม่น้อย เพราะผู้คนต่างพากันคาดเดาว่า หญิงสาวพนักงานโรงแรมที่มีชื่อว่า มุก คนนี้ น่าจะมีบทบาทที่ไม่ธรรมดา อย่างไรก็ตามสามารถมารอเฉลยไปพร้อมกันว่าเธอคนนี้คือใคร ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2025!


ภาพ: HBO

In the Mood Music Fest for the Bakerian

เติมสีสัน สนุกส่งท้ายปี ในงาน “In the Mood Music Fest for the Bakerian”

account_circle
In the Mood Music Fest for the Bakerian
In the Mood Music Fest for the Bakerian

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนซ์ (Heineken Experience) ในฐานะพาร์ทเนอร์
ที่มีความสัมพันธ์อย่างยาวนานกับ Bakery Music มากว่า 24 ปี ได้ร่วมส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับชาวไฮเนเก้น ชาวเบเกอเรี่ยน และคนรักดนตรีทุกคน ในเทศกาลดนตรีแห่งปี “In the Mood Music Fest for the Bakerian”

ปีนี้ขนทัพศิลปินระดับตำนาน อาทิ นภ พรชำนิ, บอย ตรัย, โจอี้ บอย, Scrubb, Soul After Six, Triumphs Kingdom, Yokee Playboy พร้อมด้วย Bakerian Friends & Family รวมทั้งศิลปินรุ่นใหม่มากมายที่มาร่วมสร้างสีสันกันอย่างคับคั่ง ต้อนรับช่วงเวลาแห่งการ Celebrate Afterwork เฉลิมฉลองโมเมนต์ส่งท้ายปีให้ทุกคนได้ผ่อนคลายจากการทำงานและมาสร้างความทรงจำดีๆ ไปพร้อมกัน

โดยในปีนี้ ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนซ์ เชิญชวนให้ทุกคนมี Quality Socializing หลังจากทำงานหนักมาทั้งปีผ่านแคมเปญ Afterwork by Heineken Experience ภายใต้คอนเซปต์ “เห็นดาวเมื่อไหร่ ไป Celebrate Afterwork” พร้อมเนรมิตจุดแลนด์มาร์กอย่าง Heineken Draught Land พื้นที่แห่งสีสันที่เปิดรับให้ทุกคนในงานได้มาเอนจอย Afterwork Moment ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โฟโต้บูธสุดยูนีค พื้นที่ขายสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์จากแบรนด์ ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนซ์ และโซนแฮงก์เอาต์สุดผ่อนคลายจาก แบรนด์ไฮเนเก้นและกินเนสส์ ที่มาเสิร์ฟกันแบบสดๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่นรับลมหนาวสิ้นปี

นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์จาก ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนซ์ กับ Celebrate Mode On Moment ที่เซเลเบรทปิดท้ายคอนเสิร์ต ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับการฟังเพลงและดูดาวบนท้องฟ้าไปพร้อมๆ กัน โดยมีศิลปินเจ้าบ้านอย่าง “นภ พรชำนิ” มาร่วมสร้างโมเมนต์สุดพิเศษในเพลง “อยากหลับตา” ของ “สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์” หรือ Mr.Z

และก่อนที่ทุกคนจะกลับบ้าน ก็สามารถเข้ามาแวะที่บูธ Heineken® 0.0 Booth บูธปลอดแอลกอฮอล์
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้คุณสามารถกลับบ้านได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย สานต่อแคมเปญ “Set Zero to Drink Driving” โดยมีสเตชั่นตรวจวัดระดับแอลกฮอล์และทีมงานจากแบรนด์ Heineken® 0.0 คอยให้คำแนะนำ

จากความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องระหว่าง ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนซ์ และ Bakery Music ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 จนมาถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของแบรนด์ ในการเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์และประสบการณ์ใหม่ๆ ในวงการดนตรีและมิวสิคเฟสติวัลของประเทศไทย โดยนำเสนอผ่าน Music Marketing ที่เชื่อมโยงคอมมูนิตี้ของคนที่รักและชื่นชอบในเสียงดนตรีให้มาแบ่งปันความสุขร่วมกัน


พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จร่วมงานเลี้ยงยินดีนายกสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ

Alternative Textaccount_circle

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อแสดงความยินดีกับ ดร.ชินวัฒน์ สกุลตั้งไพศาล ในโอกาสรับตำแหน่งนายกสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์

สำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งนี้ มีคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ เป็นเจ้าภาพ พร้อมด้วย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, มร.เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลี และอาร์ชบิชอปปีเตอร์ ไบรอัน เวลส์ เอกอัครสมณทูตวาติกัน, ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล, ม.ล.รังษิธร ภานุพันธุ์, ดร.จิรนันท์ สกุลตั้งไพศาล และ คุณศุภนิดา สกุลตั้งไพศาล ร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา

แพรวขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จร่วมงานเลี้ยงยินดี นายกสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์

ดร.ชินวัฒน์ สกุลตั้งไพศาล
ดร.ชินวัฒน์ สกุลตั้งไพศาล

ไอเท็มกู้สิวเอาอยู่! IPNOUS SebumClear Repair Serum และ IPNOUS SebumClear Repair Cream จาก ACSEINE

account_circle

ใครที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับปัญหาสิวซ้ำซากวนลูป ขอบอกเลยว่าต้องปักหมุด 2 ไอเท็มนี้ IPNOUS SebumClear Repair Serum และ IPNOUS SebumClear Repair Cream จาก ACSEINE ที่ Praew Survey ตั้งใจหยิบมาป้ายยาแรงให้กับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ  

ไอเท็มแรก IPNOUS SebumClear Repair Serum เรียกว่าเป็นเซรั่มที่ตอบโจทย์ผิวเป็นสิวแบบทำถึง โดยช่วยดูแลกลไกการเกิดสิวตั้งแต่ “สิวที่มองไม่เห็น” ไปจนถึง “จุดด่างดำจากสิว” พร้อมช่วยเสริมเกราะป้องกันรอบรูขุมขน เพื่อช่วยลดวงจรการเกิดสิวซ้ำซาก ลดการอุดตัน และช่วยกระชับรูขุมขน นอกจากนี้ยังเป็นไวเทนนิ่งมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ซึ่งช่วยดูแลปัญหาสิว รูขุมขน และคืนความกระจ่างใสไปพร้อมๆ กัน

โดยกระบวนการทำงานที่ช่วยดูแลผิวเป็นสิวได้แบบเอาอยู่! ของ IPNOUS SebumClear Repair Serum ประกอบด้วย 4 สเต็ปหลักๆ ดังนี้

สเต็ปแรกคือการดูแลผิวมันเป็นสิวตั้งแต่ระยะสัญญาณสิวเริ่มเกิดใหม่ หรือสิวที่มองไม่เห็น ด้วยสารสกัดสตรอเบอร์รี่บีโกเนียผสานกับสารสกัดอาร์ติโชค ที่ช่วยปรับสมดุล คุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว

ต่อมาคือการช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้เนียนเรียบ โดยอาศัยคุณค่าของสารสกัดสตรอเบอร์รี่บีโกเนียและสารสกัดอาร์ติโชคเช่นเดียวกัน ซึ่งช่วยปรับสภาพผิวที่หยาบกร้าน รูขุมขนกว้างจากปัญหาสิว ให้แลดูเรียบเนียน

มาถึงขั้นตอนการกู้สิวพร้อมคืนความกระจ่างใส IPNOUS SebumClear Repair Serum ก็มาพร้อมกับส่วนผสมของ Tranexamic Acid และ Licorice Extract หรือสารสกัดจากรากชะเอมเทศ ซึ่งช่วยลดการระคายเคืองจากสิวอักเสบ พร้อมช่วยลดรอยดำจากสิว รวมถึงจุดด่างดำอื่นๆ

สเต็ปสุดท้ายคือการเสริมเกราะป้องกันรอบรูขุมขน ด้วยส่วนผสมของ Ceramide Polymer และ Ceradmide Oil ที่มาเคลือบชั้นผิวเอาไว้ เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขนที่เคราตินหนาตัวขึ้น และเสริมการทำงานรอบรูขุมขน

นอกจากคุณสมบัติในการช่วยดูแลปัญหาสิวที่จัดเต็มแล้ว IPNOUS SebumClear Repair Serum ยังเป็นเซรั่มที่เหมาะกับผิวเป็นสิว ด้วยเนื้อเซรั่มที่บางเบา ซึมเข้าสู่ผิวง่าย ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน รวมถึงยังปราศจากน้ำหอม สารแต่งสี และแอลกอฮอล์ ผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้อย่างสบายใจ

อีกหนึ่งไอเท็มคือ IPNOUS SebumClear Repair Cream ที่เป็นทั้งคอนซีลเลอร์และรีแพร์ครีมในตัวเดียวกัน โดยช่วยปกปิดรอยสิวต่างๆ และดูแลปัญหาสิวไปพร้อมๆ กัน ไม่อุดตันรูขุมขนด้วยสูตร Cream To Powder เนื้อครีมเกลี่ยง่าย เมื่อทาแล้วจะกลายเป็นเนื้อแป้ง ดูกลมกลืนไปกับสีผิวอย่างเป็นธรรมชาติด้วยสี Beige Type ที่ช่วยให้การเมคอัพกลบรอยสิวง่ายขึ้น   

ในส่วนของการช่วยดูแลปัญหาสิว IPNOUS SebumClear Repair Cream มาพร้อมกับ PENTA BLOCK TECHNOLOGHY เอกสิทธิ์เฉพาะของ ACSEINE ที่ช่วยบล็อกกลไกการเกิดสิว มีส่วนผสมช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น และช่วยลดการโอกาสเกิดรอยดำสิว อีกทั้งยังมีสารสกัดสตรอเบอร์รี่บีโกเนียและสารสกัดอาร์ติโชค ซึ่งช่วยปรับสภาพผิว ช่วยยับยั้งการผลิตไคโตซานที่ก่อให้เกิดสิว พร้อมช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน และรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว  

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ IPMP, Dipotassium Glycyrrhizinate และอนุพันธ์วิตามินซี ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำ ลดการกระจายตัวของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดการระคายเคืองที่ทำให้สิวอักเสบมากขึ้น และช่วยลดการทิ้งรอยดำจากสิว เพราะฉะนั้น แม้จะเป็นสิวก็สามารถแต่งหน้าได้แบบไร้กังวล เพราะการปกปิดจาก IPNOUS SebumClear Repair Cream เท่ากับการป้องกันไปในตัว

ดังนั้นใครที่กำลังเผชิญปัญหาสิว ต้องมี! IPNOUS SebumClear Repair Serum และ IPNOUS SebumClear Repair Cream เป็นไอเท็มลูกรักแล้วล่ะค่ะ


เจาะคอนเซ็ปต์ A-Listic Clinic สร้างสรรค์ความงามระดับเอลิสต์

account_circle

Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว พาไปทำความรู้จักกับ A-Listic Clinic อีกหนึ่งพิกัดทำสวยที่มาแรงจนคว้ารางวัล Iconic Trusted Beauty Clinic จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024 พร้อมเปิดแนวคิดของ “คุณหมอต้อง – แพทย์หญิงต้องหทัย ตั้งสินมั่นคง” และ “คุณหมิว – ปณภัทร พลอึงรัตนวงศ์” สองสาวเก่งผู้ก่อตั้งและผู้บริหารแห่ง A-Listic Clinic

พิกัดทำสวยสไตล์เอลิสต์

คุณหมอต้อง : “จุดเริ่มต้นของ A-Listic Clinic มาจากประสบการณ์ ที่หมอทำงานตรงนี้มา 10 กว่าปีแล้ว ตอนที่ยังไม่ได้มีคลินิกความงามเป็นของตัวเอง  การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือต่างๆ เราจะไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ทำให้เกิดความคิดว่าอยากคัดสรรสิ่งดีๆ ให้กับผู้รับบริการได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของ A-Listic Clinic จึงเน้นไปที่ความพรีเมียม ซึ่งสอดคล้องกับชื่อที่มาจากคำว่า A-List บวกกับ Aesthetic คือทุกอย่างของเราจะให้ความสำคัญกับคุณภาพที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป  เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ เครื่องมือ ตลอดจนการให้บริการเลยค่ะ”

คุณหมิว : “จุดเด่นของ A-Listic Clinic คือเราให้บริการแบบไพรเวท มีความเป็นส่วนตัว พร้อมให้การดูแลความงามและวิเคราะห์ปัญหาอย่างตรงจุด ซึ่งเราช่วยดูแลทั้งภายนอกและภายใน โดยผสมผสานศาสตร์ Anti-Aging และ Aesthetic เข้าด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น เคสที่มาด้วยปัญหาสิว เราจะมีการวิเคราะห์ก่อนว่าต้นเหตุจริงๆ เกิดจากอะไร ฮอร์โมน ปัญหาสุขภาพภายใน หรือปัจจัยภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด

“สำหรับบริการที่ได้รับความสนใจของเราจะเป็นเรื่องการปรับรูปหน้า ซึ่งเรามีการประยุกต์ใช้หัตถการร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยกกระชับใบหน้า สารลดเลือนริ้วรอย หรือสารเติมเต็ม เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งตอนนี้มีเรื่องการดูแลรูปร่างที่เพิ่มเติมเข้ามาแล้วกระแสตอบรับดี เป็นโปรแกรมที่คุณหมอต้องออกแบบเทคนิคขึ้นมา ช่วยดูแลทั้งเรื่องการกระชับสัดส่วน สลายไขมัน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ”

สร้างสรรค์ความงามแบบเฉพาะบุคคล

คุณหมอต้อง : “นิยามความงามในความคิดของหมอ คือความงามที่มีความเป็นธรรมชาติ และยังมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่จะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดในแบบฉบับของแต่ละคน โดยหากพูดถึงผู้รับบริการของ A-Listic Clinic ก็ต้องบอกว่ามีหลายช่วงวัย ถ้าเป็นรุ่นใหญ่ก็จะสนใจดูแลตัวเองในเรื่องการย้อนวัย อยากแลดูเด็กลง แต่ยังคงต้องการความเป็นธรรมชาติด้วย ส่วนรุ่นเล็กจะเน้นไปที่การดูแลหรือแก้ไขให้ดูดีขึ้นในสไตล์ที่ยังเป็นตัวเองอยู่ค่ะ”

คุณหมิว : “เรื่องที่น่าปลื้มใจ คือผู้รับบริการส่วนใหญ่ของเรามักจะศึกษาหาข้อมูลมาก่อนที่จะทำอะไรก็ตาม ซึ่งทำให้เมื่อเข้ามารับคำปรึกษาจริงๆ ก็จะเจอแนวทางของตัวเองได้ง่ายขึ้น ซึ่งแต่ละเคสก็จะมีการวางแผนการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาของแต่ละบุคคล โดย A-Listic Clinic จะมีการออกแบบการรักษาให้เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการให้มากที่สุด”

มาแรงจนคว้ารางวัลจากเวทีความงามแห่งปี

คุณหมอต้อง : “รางวัลจาก Praew Iconic Beauty 2024 ถือเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ  หมอรู้สึกดีใจมากที่ A-Listic Clinic ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการว่าคลินิคของเรามีความน่าเชื่อถือ ซึ่งก็ตรงตามคอนเซ็ปต์ของเราเช่นเดียวกัน คือทุกอย่างต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ หรือเครื่องมือ ต้องเป็นของดีและของแท้

“จากประสบการณ์กว่า 10 ปีของการทำงานในวงการความงาม หมอมองว่าหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราอยู่ได้อย่างยั่งยืน คือการมอบความจริงใจให้กับผู้รับบริการ ให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา เลือกสิ่งที่เหมาะสมและตอบโจทย์ให้กับเขา เพราะผู้รับบริการส่วนใหญ่เป็นขาประจำที่เชื่อมั่นในฝีมือและคุณภาพของเรา และไว้วางใจกันมานาน”

คุณหมิว : “สิ่งสำคัญของการทำงานในแวดวงความงาม สำหรับหมิวยกให้กับความซื่อสัตย์ คือเราต้องสื่อสารกับผู้รับบริการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อแก้ปัญหาหรือตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้อย่างตรงจุด รวมถึงเรื่องเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็ต้องใช้ของแท้ และใช้อัตราส่วนตามความเป็นจริง ไม่หลอกลวง ไม่ขายฝัน ต้องทำทุกอย่างอยู่บนความซื่อสัตย์ค่ะ”


พีพี กฤษฏ์ ชวนสร้างปรากฏการณ์ลมหายใจที่มีคุณภาพ

account_circle

พีพี กฤษฏ์ และ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ (Peppermint Field) ชวนสร้างปรากฏการณ์ลมหายใจที่มีคุณภาพในอีเวนต์สุดฟินใจกลางเมือง “พักแป๊ป สูดเป๊ป x PP Krit” โดยมี พีพี กฤษฎ์ พรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ ร่วมสร้างความสนุกและความประทับใจในงานนี้ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ได้เชิญแฟนคลับผู้โชคดี 120 คน มาร่วมกิจกรรมพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยการพูดคุยใกล้ชิดกับพีพี การร่วมเล่นเกมสุดสนุก และการคัดเลือก Lucky Fan เพื่อขึ้นมาร่วมกิจกรรมบนเวทีกับพีพี โดยงานปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดประทับใจจากพีพี พร้อมช่วงถ่ายภาพร่วมเฟรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ณ Stadium One

กิจกรรม “พักแป๊ป สูดเป๊ป” สุดฟินจากเช้าจรดเย็น

ช่วงเช้าแฟนคลับเดินทางมาซื้อสินค้า Peppermint Field Special Set พร้อมรอเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษช่วงเย็น ภายในงานมีจุดถ่ายภาพในธีม “พักแป๊ป สูดเป๊ป” ที่จัดไว้ให้แฟนคลับได้เก็บภาพความประทับใจ ในช่วงเย็นกิจกรรมเริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับพีพีเกี่ยวกับผลงานล่าสุด อัปเดตชีวิต และเรื่องราวเบื้องหลังโมเมนต์ที่เหนื่อยล้า ซึ่งพีพีเผยว่าต้องพก “ยาดมเป๊ป” ทั้ง 2 สูตรไว้ติดตัว เพื่อช่วยเพิ่มความสดชื่นและสร้างลมหายใจที่มีคุณภาพ ด้วยส่วนผสมของ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ออยล์ และ ยูคาลิปตัสออยล์ ซึ่งเป็นมิตรกับจมูก งานนี้พีพียังแจกโมเมนต์สุดน่ารักกับการโชว์ใช้ยาดมเป๊ปแบบคิ้วท์ๆ ให้แฟนๆ ได้ประทับใจกัน ถัดมาคือช่วงกิจกรรมเล่นเกม “พักแป๊ป หาเป๊ป” ที่เปิดโอกาสให้ชาวเลิฟลี่ได้ร่วมสนุกกับพีพีบนเวที โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน ปิดท้ายงานด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดฟินจากพีพี กับเพลง “Fire Boy” และ “ขอโทษละกัน” พร้อมชวนแฟนๆ สนุกไปด้วยกัน ก่อนจะถ่ายภาพร่วมกันในโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดของค่ำคืน

บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ (Peppermint Field) แบรนด์ยาดมภายใต้ Concept ลมหายใจที่มีคุณภาพ โดยมียาดมให้เลือกสองสูตร คือ ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ หลอดสีขาว มีความหอมอะโรมาติก จากเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ออยล์ และ ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ แบล็ค อินเฮเลอร์ หลอดสีดำ หอมเข้ม โล่งจมูกด้วยยูคาลิปตัส ออยล์ ที่เพิ่มมากขึ้น 2 เท่า และยังมาพร้อมรูปลักษณ์ที่เข้มคูลให้ผู้ใช้สามารถเลือกยาดมให้ตรงกับบุคลิก ความชอบและไลฟ์สไตล์ของตนเอง และนอกจากยาดมแล้วเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ (Peppermint Field) ยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ได้แก่ ยาหม่องเจล บาล์ม และยาหม่องแท่ง ท่านสามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษของ เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ (Peppermint Field) ได้ทาง LineOA : @peppermintfield และ Facebook, Tiktok : Peppermint Field 


‘ดวงมือที่สามมาแรง สาเหตุจากรักเก่ารีเทิร์น ใช่คุณไหม?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายสัปดาห์ 16-22 ธันวาคม 2567

Alternative Textaccount_circle

‘ดวงมือที่สามมาแรง สาเหตุจากรักเก่ารีเทิร์น’

ดวงรายสัปดาห์ 16-22 ธันวาคม 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์อย่างรวดเร็ว สำหรับชาวอาทิตย์หากสัปดาห์นี้มีโครงการที่จะเข้าสู่การแข่งขัน ไม่ว่าประมูล ประกวด หรือสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง สอบสัมภาษณ์งานอะไรก็ตาม ซึ่งคุณปรารถนาความสำเร็จอย่างแรงกล้า หากเกี่ยวข้องกับงานบริการ หรือจิตอาสาแล้วล่ะก็  บอกเลยว่า คุณไม่จำเป็นต้องคิดหรือทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมหรอก เพราะโดยธรรมชาติของคุณที่ขยันขันแข็ง สามารถทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายได้ดีอย่างไม่มีที่ติ นอกจากนั้นช่วงนี้ยังมีดวงที่จะได้บุกเบิกริเริ่มอะไรใหม่ๆ ซึ่งจะส่งผลไปถึงความก้าวหน้าในอนาคตด้วย จึงมีความสมปรารถนาสูง แต่ต้องระวังมิตรที่คุณไว้วางใจ เพราะมีโอกาสที่เขาจะเปลี่ยนท่าทีกลายเป็นแทงข้างหลังคุณได้  

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะได้เงินรางวัลตอบแทนจากการทำงาน เช่น ได้โบนัส ได้ค่าคอมฯ ได้ซองขวัญ ที่มาจากความขยันในการทำงาน หากที่ผ่านมาคุณใช้จ่ายเงินโดยไม่มีการวางแผนให้ดีจนเหลือเงินฉิวเฉียดมาก  ฉะนั้นสัปดาห์นี้คุณเริ่มตรึกตรองในการจ่ายออกแล้ว  

ความรัก  :  สัปดาห์นี้ชีวิตคู่ของคุณยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ รู้สึกหนักไปในทางเจ้าชู้ หว่านเสน่ห์ ขณะที่อีกฝ่ายก็เอาจริงเอาจัง ซื่อสัตย์กับความรักมาก แล้วเมื่อความรักไม่พอดีกัน จึงวุ่นวาย คนโสด  ก็ยังคงเสน่ห์แรงกับเพศตรงข้าม แล้วไม่ใช่แค่เขาชอบคุณฝ่ายเดียว เพราะคุณก็จะสานต่อความสัมพันธ์ด้วย สำหรับสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่คุณจะได้พบตัวจริง แล้วต้องมีการแย่งชิงกันด้วยสิ  

สุขภาพ  :  ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับเรื่องของผลจากการรับประทาน เช่น ลำไส้อักเสบ โรคกระเพาะ ท้องอืดท้องเฟ้อ ซึ่งคาดว่าสัปดาห์นี้น่าจะมาจากความเครียด คิดมาก วิตกกังวล รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร ทอนซิลอักเสบ และหลอดลมอักเสบ เป็นต้น

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์อย่างรวดเร็ว สำหรับดวงของชาวจันทร์หากใครที่กำลังอึดอัดอยู่กับการทำงานที่ตัวเองไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ ไม่ถนัด แต่ก็ต้องทำ เพราะติดสัญญาทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือสัญญาใจแล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าสัปดาห์นี้แต้มบุญคุณดี มีโอกาสที่ผู้ใหญ่ที่มีบุญบารมีจะชักชวนให้ไปทำงานบุญ งานศาสนา งานจิตอาสาเพื่อสังคม โดยที่คุณจะทำด้วยความขยันขันแข็ง ใช้แรงกายแรงใจเพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคทั้งปวง แต่หากใจคุณไม่มั่นคง มีความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนขั้วไปสู่ทางเทาสูง ซึ่งเป็นทางที่ควรหลีกเลี่ยง

การเงิน  :  หากคุณกำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของมิจฉาชีพ ทั้งโดยอาชีพและไม่ใช่ โดยเน้นว่าเกี่ยวข้องกับการลงทุน การกู้ยืม การประกัน มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะช่วยปลดหนี้ให้คุณ จากนั้นเมื่อหาเงินมาได้ก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง มีการวางแผนการเงินที่ดี เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

ความรัก  :  หากคู่ใครกำลังถูกบุคคลที่สามเข้าครอบงำ เพื่อหวังในทรัพย์สิน ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตของคุณอยู่ล่ะก็ สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะเข้าแล้วล่ะค่ะ ซึ่งอาจมีปากเสียงกันบ้าง แต่ก็จบสวย     คนโสด  หากใครที่กำลังหนักอกหนักใจกับความสัมพันธ์เก่าที่ยังไม่ยอมเลิก และเลิกไม่ได้ ซึ่งสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะเกิดการยื้อแย่งแย่งชิง ทั้งคนใหม่และคนเก่า  จนผู้ใหญ่ต้องเข้ามาเป็นตัวกลางคอยห้ามทัพ  

สุขภาพ  :   สำหรับนักดื่ม นักเที่ยวสถานบันเทิง ต้องระวังภัยที่จะเกิดจากสถานที่เหล่านั้น ทั้งการทะเลาะวิวาท ดื่มแล้วขับ จึงมีความเสี่ยงสูงมากที่จะได้รับบาดเจ็บจากของมีคมและความร้อน นอกจากนั้นยังมีเรื่องของภูมิแพ้อากาศด้วย หายใจไม่สะดวก จามบ่อย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์อย่างรวดเร็ว สำหรับดวงการงานของชาวอังคารก็ยังคงร้อนแรงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความสามารถทางวาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน พิธีกร นักแสดง รวมถึงงานส่งเสริมการขายทุกประเภท หากใครที่อยู่กับความอดทนกับสภาพการทำงานหรือธุรกิจมาตลอด ช่วงปลายปีแบบนี้ความอึดอัดทั้งหลาย ไม่ว่าบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน จนถึงเจ้านาย ที่คุณอยากจะลาออกมาตลอดทั้งปี คาดว่าสัปดาห์นี้การตัดสินใจของคุณจะบรรลุผล สามารถปลดปล่อยตัวเองจากเซฟโซนออกมาพักกายพักใจ แล้วปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยว่ากัน

การเงิน  :   แม้คุณมีความสามารถหาเงินได้ค่อนข้างง่าย มีรายได้จากหลายทิศทาง แต่สัปดาห์นี้ต้องระวัง เพราะรายจ่ายยังเยอะอยู่ ซึ่งสามารถทำให้คุณต้องกู้หนี้ยืมสินเลยทีเดียว ดังนั้น หากคิดจะลงทุนทำธุรกิจควรทำคนเดียว อย่าร่วมหุ้นลงทุนกับใคร

ความรัก  :   สัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้สูงที่อารมณ์คุณจะเหวี่ยงหนักมาก ซึ่งสาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากความหึงหวง มีโอกาสสูงมากที่คุณจะจับได้ว่าคู่ครองมีพฤติกรรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ แล้วหากทะเลาะกันก็จบไม่ดี เพราะความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน  คนโสด อารมณ์ช่วงนี้ยังไม่แน่นอน มีความโรแมนติกสูงถึงสูงมาก ขณะเดียวกันก็หึงหวงรัวๆ  มีความเสี่ยงที่จะมีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วเคลียร์กันไม่ได้ด้วย

สุขภาพ  :   ก็ยังต้องระวังความเจ็บไข้ได้ป่วยจากโรคที่อยู่เงียบๆ มานาน โดยไม่มีอาการหรือลางบอกเหตุใดๆ เลย ซึ่งในสัปดาห์นี้มีความเสี่ยงที่จะนำโรคมาจากการเดินทางเปลี่ยนสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับความสะอาด ทั้งอาหาร ที่พัก และการใช้สถานที่สาธารณะ  

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์อย่างรวดเร็วสำหรับดวงของชาวพุธ ฟ้าเริ่มส่องสปอตไลท์แห่งความเมตตาโฟกันมาที่คุณแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความสามารถทางวาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน พิธีกร นักแสดง รวมถึงงานส่งเสริมการขายทุกประเภทด้วยแล้ว เรียกว่าช่วงนี้คุณเป็นเด็กรักของผู้ใหญ่เลยล่ะ เป็นไปได้ว่าจะได้ร่วมงานหรือร่วมทุนทำธุรกิจกับทีมงานที่มีคุณภาพ เป็นระดับเซียนในวงการนั้นๆ  นอกจากผู้ใหญ่จะสนับสนุนส่งเสริมแล้ว เจ้านายจนถึงเพื่อนร่วมงานก็ยังเมตตาเอ็นดูรักใคร่ด้วย

การเงิน  :  ก็ยังอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่อยู่นะคะ เป็นไปได้ว่าท่านจะเสนองานปังๆ มาให้ นอกจากนั้นคุณยังมีโอกาสได้รายได้จากช่องทางอื่นๆ ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะเสียเงินให้กับผู้ใหญ่ในบ้านด้วย  

ความรัก  :  เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้คุณจะวุ่นวายอยู่กับผู้ใหญ่อย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ว่าจะพาผู้ใหญ่ในครอบครัว หรือคู่ครองที่สูงวัยกว่าไปพบแพทย์ หรือไม่คุณก็ถูกพวกท่านเรียกอบรมแบบไม่ถามสมัครใจจนว้าวุ่นเลย   คนโสด  สัปดาห์นี้ทำใจนิดนะคะ เพราะดวงผู้ใหญ่แวดล้อม ทั้งผู้ใหญ่ในครอบครัวจะนัดเดทให้คุณแบบไม่บอกกล่าวกันก่อน หรือได้พบคนที่อาวุโสกว่ามาก ซึ่งคุณก็หวั่นไหวล่ะดูออก

สุขภาพ   :   ต้องระวังเรื่องโรคในช่องปากและทางเดินหายใจ ซึ่งจริงๆ สะสมมานานแล้ว สัปดาห์นี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแบบกะทันหันด้วย นอกจากนั้นยังต้องระวังการลื่นล้ม ตกบันได ข้อเท้าพลิก/แพลง จนได้รับบาดเจ็บที่ขาและหลัง

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับเดือนสุดท้ายของปี ดวงของชาวพฤหัสในสัปดาห์นี้ก็ยังไม่ราบรื่นนะคะ หากคุณกำลังตกอยู่ในภาวะที่ต้องใช้กำลังภายในเพื่อปรับตัวที่จะอยู่กับองค์กร หรือธุรกิจให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ นักประพันธ์ สื่อสารมวลชน แม้ช่วงนี้คุณจะมีดวงได้บุกเบิกเริ่มต้นการทำงานหรือธุรกิจใหม่ๆ ได้โยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การงานไปอยู่ในหน่วยงานที่มีความมั่นคงในอนาคตก็ตาม แต่ด้วยความคิดที่เป็นตัวเองสูงมาก จึงเป็นอุปสรรคและปัญหาให้คุณร่วมงานกับคนอื่นได้ยาก โอกาสที่จะไปต่อไม่ได้มีสูง ทางที่ดีจึงควรรับงานอิสระหรือทำธุรกิจของตัวเองจะดีกว่า  

การเงิน  :  แม้คุณจะพยายามวางแผนทางการเงินอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงผันผวนไม่แน่นอน เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ดังนั้น สัปดาห์นี้อย่าเพิ่งทุ่มลงทุนแบบหมดหน้าตัก เพราะนอกจากไม่ได้ทุนคืนแล้ว ยังมีหนี้สินอีก

ความรัก  :  เป็นสัปดาห์ที่คุณรู้สึกรักคู่ครอง หลงคู่ครองอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ก็ระวังอย่าไปจุกจิกกับเขามาก เดี๋ยวจากความโรแมนติกจะกลายเป็นความรำคาญเสียล่ะ  คนโสด  เนื้อหอมนะคะสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าคนที่ถูกใจน่าจะอยู่ใกล้ตัวนี่ล่ะ ประมาณว่าทำงานด้วยกัน หรือเป็นเพื่อนเก่ามานาน แม้จะศึกษากันจนสุกงอมดีแล้ว แต่คาดว่ายังงอมไม่พอ  

สุขภาพ   :  มีโอกาสที่คุณจะมีปัญหาในเรื่องของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขา เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือจากการใช้งานเป็นเวลานาน นอกจากนั้นในเรื่องของระบบการย่อยอาหารก็เช่นกัน รวมถึงพวกทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ ด้วย

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์อย่างรวดเร็ว ยิ่งใกล้ปลายปีเข้ามาชาวศุกร์ควรระวังตัวไว้ให้มากๆ นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับบันเทิงเริงรมย์ ดนตรี กวี ศิลป์ งานฝีมือ เย็บปักถักร้อย มีดวงที่คุณจะอึดอัดกับการทำงาน ไม่ว่าจะบรรยากาศการทำงาน เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงาน จนอยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ อยากบอกว่าเมื่อมีหนามหยอกก็เอาหนามบ่งไปเลย ใช้ความขยันเข้าสู้กับความเบื่อหน่าย ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องมโนว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เดินหน้าลุยเต็มที่  

การเงิน  :   ใกล้ปลายปีมากเท่าไหร่ รายจ่ายก็ตบเท้าเข้ามารัวๆ แม้คุณจะขยันทำงานหารายได้ แต่ช่วงสัปดาห์นี้เงินก็พร้อมจะออกจากกระเป๋าคุณได้ตลอด ระวังถูกหลอกทางด้านการลงทุน การกู้ยืม การค้ำประกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมิจฉาชีพใกล้ตัวด้วยสิ

ความรัก :  หากใครที่กำลังถูกคู่ชีวิตหลอกและทำร้ายจิตใจ ด้วยการมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งคุณก็พยายามที่จะใช้การทำงานหนักเพื่อกลบความหึงหวงอยู่ ขอบอกว่าสัปดาห์นี้คุณก็ยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรให้เด็ดขาดได้นะคะ เรียกว่าเหนื่อยทั้งกายและใจเลยทีเดียว  คนโสด  หากใครกำลังมีปัญหาเรื่องมือที่สาม แม้คุณจะพยายามทำงานหนักเพื่อให้ลืมเธอ แต่คาดว่ารักเก่าจะเข้ามาเป็นปัญหาใหม่ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งรักเก่าเข้ามาเป็นปัญหากับรักปัจจุบันนะคะ

สุขภาพ  :  มีโอกาสที่การทำงานหนักจะทำให้คุณพักผ่อนน้อย รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา จนเลือดลมในร่างกายหมุนเวียนไม่ดี ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลมได้อย่างเฉียบพลัน

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ของเดือนสุดท้ายแล้วนะคะ สำหรับชาวเสาร์ที่อยู่ในสายงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับด้านสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล จิตอาสา มูลนิธิที่ช่วยเหลือสังคม เป็นไปได้ว่าในช่วงสัปดาห์นี้คุณจะมีความเป็นผู้นำสูง เมื่อมุ่งมั่นจะทำสิ่งใดแล้วก็จะเดินหน้าสู้อย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ แต่ก็ขอเตือนว่า คุณมีดวงที่จะถูกคนใกล้ชิดแทงข้างหลัง หรือถูกใส่ร้ายป้ายสี ขัดขาขัดตำแหน่งอยู่ เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรอดทน รอคอย โอกาสและจังหวะที่จะมาถึงดีกว่าใช้อารมณ์ฝืนทำไป

การเงิน  :  ก็ยังอยู่กับจิตสาธารณะอยู่นะคะ ใจบุญใจกุศล แต่ในช่วงสัปดาห์นี้คาดว่าเอ็นดูเขา แต่เอ็นเราขาดค่ะ เพราะคาดว่าจะเกิดการขัดแย้งทางธุรกิจ ถูกหลอกถูกโกง จนถึงเงินหาย

ความรัก  :   ยิ่งรักมากก็ยิ่งมีโอกาสที่จะหลุดลอยมาก เช่นกันกับสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะมีปัญหาเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นไปได้ว่าจะส่งผลให้คุณอึดอัดจนอยากจะเลิกกันให้จบๆ ไป คนโสด สำหรับใครที่อยากมีเดินจูงมือกันไปดูไฟคริสต์มาสต้องบอกเลยว่า ดวงมือที่สามมาแรงมาก ก่อนจะนัดใครก็ดูเหนือดูใต้ให้ดีก่อนนะ เดี๋ยวจากสุขจะกลายเป็นทุกข์

สุขภาพ   :   รับประทานอาหารหนักไปหรือเปล่าคะ เพราะฉะนั้นสัปดาห์นี้ระวังความอ้วนจะถามหา ทั้งไขมัน เบาหวาน ความดันมารอฉ่ำๆ เลย นอกจากนั้นยังต้องระวังภัยที่เกิดจากของมีคมด้วย มีความเสี่ยงได้รับบาดเจ็บ จนถึงผ่าตัด

Newtopia ซีรีส์ซอมบี้เกาหลีที่รอคอย 'จีซู BLACKPINK' และ 'พัคจองมิน' นำแสดง

Newtopia ซีรีส์ซอมบี้เกาหลีที่รอคอย ‘จีซู BLACKPINK’ และ ‘พัคจองมิน’ นำแสดง

Alternative Textaccount_circle
Newtopia ซีรีส์ซอมบี้เกาหลีที่รอคอย 'จีซู BLACKPINK' และ 'พัคจองมิน' นำแสดง
Newtopia ซีรีส์ซอมบี้เกาหลีที่รอคอย 'จีซู BLACKPINK' และ 'พัคจองมิน' นำแสดง

Prime Video ประกาศเปิดตัว พร้อมเผยกำหนดการสตรีมของซีรีส์แนวหายนะซอมบี้จากเกาหลีที่ทุกคนรอคอย อย่างเรื่อง Newtopia ผลงานเรื่องใหม่ของนักแสดงชื่อดัง พัคจองมิน และ จีซู BLACKPINK ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ อีแจยุน (พัคจองมิน) นายทหารหนุ่มกับแฟนสาวของเขา คังยองจู (จีซู) ที่ต้องพยายามหาหนทางเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ที่กระจายไปทั่วกรุงโซลเพื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งให้ได้ โดยสมาชิก Prime Video ในมากกว่า 240 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก (ยกเว้นประเทศเกาหลี) จะสามารถรับชมซีรีส์ Newtopia ได้ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป

Newtopia บอกเล่าเรื่องราวของแจยุน ซึ่งเข้ารับการเกณฑ์ทหารช้ากว่าคนอื่นๆ เขากำลังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง ความยากลำบากที่ต้องอยู่ไกลจาก ยองจู แฟนสาวของเขา ส่งผลให้ทั้งคู่เลิกรากันอย่างกะทันหันหลังจากมีปากเสียงกัน แต่แล้วก็เกิดการระบาดของซอมบี้ขึ้นในเมือง แจยุนจึงจำเป็นต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหน่วยทหารของเขา ขณะที่ยองจูก็เผชิญกับเรื่องลำบากในที่ทำงานในฐานะน้องใหม่และรู้สึกหงุดหงิดที่แจยุนเข้าใจเธอผิด และในระหว่างที่เธอกำลังเดินทางไปหาเขานั้นเอง เธอก็มาพบการแพร่ระบาดของฝูงซอมบี้ และต้องหาทางเอาชีวิตรอดในสถานการณ์สุดระทึกครั้งนี้ให้ได้ ทั้งนี้ ภาพชุดแรกของซีรีส์ที่ปล่อยออกมาเผยให้เห็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุขของคู่รัก และช่วงเวลาที่โลกตกอยู่ในความโกลาหลจากการโจมตีของซอมบี้

พัคจองมิน (The 8 Show, Sh**ting Stars, Hellbound) นักแสดงมือรางวัล เป็นที่รู้จักจากความสามารถรอบด้านและการแสดงในบทบาทที่หลากหลาย หลังการเดบิวต์ในวงการบันเทิงผ่านภาพยนตร์ชื่อดัง Bleak Night ในปี 2554 เขาก็ได้ฝากผลงานในภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่อง และคว้ารางวัลการแสดงไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากบทบาทในภาพยนตร์ Dongju: The Portrait of a Poet จากทั้งเวที Baeksang Arts Awards และ Blue Dragon Film Awards นอกจากนี้พัคจองมินยังได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากผลงานในภาพยนตร์ Deliver Us From Evil จากทั้งสองเวทีอันทรงเกียรติที่กล่าวไปข้างต้นอีกด้วย

ขณะที่ จีซู หนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป K-pop ระดับโลก BLACKPINK อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักจากผลงานเดี่ยวของเธอเองอีกด้วย โดยนอกเหนือจากเส้นทางสายดนตรีแล้ว จีซูยังเป็นนักแสดงที่ผู้ชมให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากที่เคยปรากฏตัวในฐานะนักแสดงรับเชิญในซีรีส์หลายเรื่อง อาทิ The Producer และArthdal Chronicles ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเคยฝากผลงานในฐานะนักแสดงนำในซีรีส์ดังอย่าง Snowdrop ผู้ชมจำนวนไม่น้อยจึงตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นแง่มุมใหม่ๆ ของเธอผ่านผลงานการแสดงซีรีส์เรื่อง Newtopia ในครั้งนี้

Newtopia กำกับโดย ยุนซองฮยอน ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง Bleak Night และ Time to Hunt ซึ่งนักแสดงพัคจองมินก็ได้ฝากผลงานการแสดงในทั้งสองเรื่องนี้ด้วย พร้อมด้วยทีมเขียนบท ได้แก่ ฮันจินวอน และ จีโฮจิน โดยฮันจินวอนเคยร่วมเขียนบทในภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Parasite ขณะที่จีโฮจินเป็นผู้เขียนบทของซีรีส์ชื่อดังอย่าง A Shop for Killer

ด้วยความสามารถมากมายของนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังซีรีส์ จะทำให้คุณไม่อยากพลาดเรื่องราวซอมบี้ที่แปลกใหม่และครบรส ทั้งแอ็กชั่น โรแมนติก และคอเมดี้เรื่องนี้อย่างแน่นอน ติดตามรับชมซีรีส์ Newtopia ได้ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ Prime Video โดยสามารถรับชม 2 ตอนแรกได้ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นสามารถรับชมได้ทุกวันศุกร์ สัปดาห์ละ 1 ตอน (กำหนดสตรีมวันสุดท้ายได้แก่วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2568)


แกะเมคอัพ “เจนนี่” จากลุคโปรโมทของหวานสุดคิ้วต์ NUDAKE x JENNIE

แกะเมคอัพ “เจนนี่” จากลุคโปรโมทของหวานสุดคิ้วต์ NUDAKE x JENNIE

Alternative Textaccount_circle
แกะเมคอัพ “เจนนี่” จากลุคโปรโมทของหวานสุดคิ้วต์ NUDAKE x JENNIE
แกะเมคอัพ “เจนนี่” จากลุคโปรโมทของหวานสุดคิ้วต์ NUDAKE x JENNIE

#PraewCelebLook แกะเมคอัพ “เจนนี่” จากลุคโปรโมทของหวานสุดคิ้วต์ NUDAKE x JENNIE โดยเครื่องสำอางเน้นโทนน้ำตาลอมชมพูนิดๆ ดูสวยคลาสซี่ มีความนัวๆ ละมุน ซึ่งบิวตี้ไอเท็มส่วนใหญ่ที่แนะนำในเฉดสีใกล้เคียงนี้คือ Chanel แบรนด์โปรด และ Hera ที่สาวเจนนี่เป็น Global Ambassador อยู่ด้วย

Photo: jennierubyjane


เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค "ดูแลผิวกาย" นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว

เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค “ดูแลผิวกาย” นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว

Alternative Textaccount_circle
เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค "ดูแลผิวกาย" นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว
เหล่าเซเลบริตี้ แชร์ทริค "ดูแลผิวกาย" นุ่มชุ่มชื้นรับมินิลมหนาว

JOURNAL แบรนด์น้ำหอมสัญชาติไทย จัดเวิร์คช็อปเผยเคล็ดลับการ ดูแลผิวกาย รับมินิลมหนาว พร้อมชวนเหล่าเซเลบริตี้สาวผิวสวย อาทิ อภินรา ศรีกาญจนา, เอมษิกา โชติวิจิตร และธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ร่วมกิจกรรมดูแลผิว พร้อมแชร์ทริคดูแลผิวและการเลือกของขวัญมอบให้คนสำคัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี

เริ่มที่เวิร์คกิ้งวูแมน อภินรา ศรีกาญจนา เผยว่า “ปกติเราเป็นคนที่มีผิวกายค่อนข้างแห้งอยู่แล้ว พออายุเพิ่มขึ้นก็รู้สึกได้ว่าผิวมีความแห้งกร้านมากยิ่งขึ้น ก็จะไม่ละเลยการดูแลผิวกาย โดยเราจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนจากธรรมชาติมาใช้ โดยเฉพาะออยล์บำรุงผิวกายจะใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังการอาบน้ำทันที เพราะจะช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึกพร้อมเคลือบล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี จะเลือกเป็นกลิ่น The Legacy เพราะมีกลิ่นหอมละมุนไม่ฉุน โดยส่วนตัวเราชอบกลิ่นแนวไม้หอม และกลิ่นนี้มีเบสโน้ตที่เป็นกลิ่นอะการ์วูด (Agarwood) จึงชอบเป็นพิเศษ ส่วนของขวัญชิ้นสำคัญเราคิดว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมมอบให้กับคนที่เรารักก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยจะเลือกกลิ่นให้เหมาะสมกับคาแรคเตอร์ของคนรับ”

ต่อมาที่สาวสังคม เอมษิกา โชติวิจิตร เล่าว่า “ส่วนตัวเราชื่นชอบการดูแลผิวให้มีความโกลว์ ดูสุขภาพดีทั้งผิวหน้าและผิวกาย เพราะสะท้อนว่าเราเป็นคนที่ใส่ใจในการดูแลตนเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้เลยคือ บอดี้ออยล์ กลิ่นแนวฟลอรัลหอมดอกไม้อย่าง First Love เป็นกลิ่นหอมละมุนที่เราชอบใช้นวดผิวกายอยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน แต่ยังมีกลิ่นช่วยสร้างความผ่อนคลายขณะใช้ด้วย ส่วนของขวัญในช่วงเทศกาลเฟสทีฟปลายปีนี้ เราคิดว่าน้ำหอมหรือบอดี้ออยล์ที่มีกลิ่นหอม จะสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้รับได้เป็นอย่างดี โดยสามารถเลือกกลิ่นที่เหมาะกับคนที่จะมอบให้ หรือเลือกเป็นกลิ่นโทนกลางๆ อย่างออยล์กลิ่น Natura ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากธรรมชาติก็เหมาะที่จะมอบให้กับผู้รับหลากหลายช่วงวัย”

ปิดท้ายที่สาวผิวสวย ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เผยว่า “เราเป็นคนที่ชอบการอาบน้ำอุ่นเป็นประจำและชอบอยู่ในห้องแอร์อยู่ตลอด จึงจะต้องดูแลผิวตัวเองไม่ให้แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะใช้เป็นประจำคือ บอดี้ออยล์โดยจะใช้ทาผิวก่อนอาบน้ำ ช่วยล็อคความชุ่มชื้นไม่ให้แห้งกร้านจากการอาบน้ำอุ่น นอกจากนี้ยังจะใช้ทาแทนโลชั่นบำรุงผิวในระหว่างวันด้วย ที่ไม่เพียงช่วยบำรุงแต่ยังมีกลิ่นหอมช่วยทำให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวเราชอบกลิ่น Nang Ram เพราะเป็นกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจ ส่วนของขวัญที่จะมอบให้คนพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขปลายปีนี้ คิดว่าการมอบเครื่องหอมที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขได้ด้วย”

โดย JOURNAL นั้น มี Essential Oil สกัดจากธรรมชาติ ทั้งจากไม้ ผลไม้ ดอกไม้และสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม และยังลดการใช้ synthetic (สารสังเคราะห์) รวมถึงใช้ส่วนผสมหลักจากน้ำมันมะพร้าว เพื่อลดปริมาณแอลกอฮอล์ในส่วนผสม ที่สามารถช่วยลดการแพ้น้ำหอมในบุคคลได้ โดยกระบวนการและวิธีในการผลิตน้ำหอม “JOURNAL” ได้ใช้กรรมวิธีการผลิตแบบน้ำอบน้ำปรุงจากภูมิปัญญาของไทย โดยการสกัดกลิ่นจากวัตถุดิบธรรมชาติ ที่ต้องใช้เวลานานประมาณ 3-6 เดือน ทำให้เกิดกลิ่นหอมใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด จากนั้นนำมาผสมผสานกับการปรุงน้ำหอมแบบสมัยใหม่ที่พิถีพิถัน จนได้น้ำหอมที่มีคุณภาพควบคู่กับกลิ่นที่เป็นธรรมชาติ

บอดี้ออยล์สามารถใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ผิวกายมีสุขภาพที่ดีและยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศด้วยกลิ่นหอม ซึ่งสามารถใช้ทาได้ทันทีหลังการอาบน้ำ โดยชโลมบนผิวขณะที่ผิวยังเปียกหมาด เพื่อให้ความชุ่มชื้นซึมลึกเข้าสู่ผิว หรือใช้ทาก่อนอาบน้ำ เพื่อช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นระหว่างการอาบน้ำจากน้ำอุ่น จะทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส สามารถใช้แทนโลชั่นบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกแต่ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ หรือจะใช้เป็นตัวกลางในการนวดผ่อนคลายทั้งช่วยบำรุงผิวและกลิ่นหอมช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายขณะนวด รวมถึงสามารถใช้ก่อนฉีดน้ำหอม โดยแนะนำให้ใช้น้ำหอมที่เป็นกลิ่นเดียวกันคู่กับบอดี้ออยล์จะช่วยให้กลิ่นหอมนั้นกระจายตัวและติดทนยาวนาน มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้กลิ่นหอมแต่ละกลิ่นก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป


ปังส่งท้ายปี! Multy แบรนด์ดิ้งสดใสกว่าเคย พร้อมขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจกว่าเดิม

ปังส่งท้ายปี! Multy สาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจช้อปเพลินกว่าเดิม

Alternative Textaccount_circle
ปังส่งท้ายปี! Multy แบรนด์ดิ้งสดใสกว่าเคย พร้อมขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจกว่าเดิม
ปังส่งท้ายปี! Multy แบรนด์ดิ้งสดใสกว่าเคย พร้อมขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ แถมใหญ่จุใจกว่าเดิม

Multy ด้วยแบรนด์ดิ้งใหม่ดูสดใสกว่าเคย พร้อมขยับขยายสาขาสยามโลเคชั่นใหม่ใกล้โลเดิม แถมใหญ่กว่าเดิม ช้อปเพลินๆ ได้ง่ายขึ้น เอาใจชาวด้อมMulty lovers และพิเศษสุดๆ กับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง นอกจากนี้ เป็นครั้งแรกของมัลตี้ที่ท้าเหล่า New Gen ออกมาโชว์สเต็ปกับศิลปินคนโปรดครั้งใหญ่ใจกลางสยามในงานMULTY Fandom Festa 2024

MULTY (มัลตี้) ต่อยอดความเป็น Trendsetter ในธุรกิจร้านค้าปลีกในตลาดความงาม ตั้งเป้าครองใจกลุ่มลูกค้า New Gen ก่อนใคร MULTY ร้านค้าปลีกเครื่องสำอางที่เป็นตัวเลือกแรกในใจเมื่อพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี ผลิตภัณฑ์ความงามที่เป็นกระแส และหายาก กับก้าวใหม่ในการเป็นผู้นำเทรนด์ จึงมุ่งมั่นคัดสรรผลิตภัณฑ์จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสินค้า K-Beauty, J-Beauty, โดยเฉพาะแบรนด์ไทยที่กำลังไวรัลในโซเชียลมารวมไว้ที่MULTY ที่เดียว จนเกิดเป็นคอมมูนิตี้ผ่าน #รีวิวมัลตี้ ให้ได้ค้นพบตัวเองในแบบฉบับที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน

นอกจากนี้ มัลตี้ ยังเปิดพื้นที่ให้กับทุกคนที่รักความงาม เตรียมขยายฐานคอมมูนิตี้ GEN Z ผ่านการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ใจกลางสยามในงาน MULTY Fandom Festa 2024 เป็นครั้งแรกของ T-POP x Random Dance Thailand ท้าเหล่า New Gen เหล่าแฟนด้อมมัลตี้ ออกมาโชว์สเต็ปกับศิลปินสุดโปรดที่ลานมัลตี้ (Block K) ในงานพบกับกิจกรรมสุดพิเศษจากมัลตี้กับกิจกรรม Meet & Geet ออม กรณ์นภัส งานนี้MULTYจับมือกับ Brand Partner อย่าง MILLE ส่ง ป๋อ ศุภการ และเจเจ รัชพล มาร่วมทำการแสดงโชว์สุดพิเศษ ภายในงานยังมีกิจกรรมจากบูธแบรนด์ดังมากมายเพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกให้กับครอบครัวมัลตี้


ยูนิโคล่ เปิดตัว UT ลิมิตเต็ด เอดิชัน ส่ง สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ สุดกวนรับสิ้นปี

account_circle

ยูนิโคล่ เปิดตัวคอลเล็คชั่นความร่วมมือเสื้อยืด UT (UNIQLO T-shirt) ลายพิเศษจากการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องดังที่ครองใจผู้คนทั่วโลก สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ (SpongeBob SquarePants) ร่วมกับแบรนด์เสื้อผ้าสุดเก๋แห่งยุคอย่าง แคตตัส แพลนท์ ฟลี มาร์เก็ต (Cactus Plant Flea Market) ที่มัดใจแฟนๆ ทั่วโลกผ่านผลงานที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอยู่เสมอ

ยูนิโคล่ เปิดตัว UT ลิมิตเต็ด เอดิชัน ส่ง สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ สุดกวนรับสิ้นปี

ไอเท็มในคอลเล็คชั่นประกอบด้วยเสื้อยืด เสื้อฮู้ดดี้ หมวก และตุ๊กตา พร้อมวางจำหน่ายที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคมนี้

คอลเล็คชั่นนี้โดดเด่นด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Cactus Plant Flea Market รวมถึงลวดลาย “ดับเบิลวิชัน” ที่นำมาใช้กับ สพันจ์บ็อบ (SpongeBob) แพทริค (Patrick) และตัวละครอื่นๆ จาก SpongeBob SquarePants คอลเล็คชั่นลิมิเต็ดเอดิชันจากความร่วมมือของทั้งสามฝ่ายถือเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาคลาสสิกของซีรีส์ที่ทำให้เแฟนๆ ทั่วโลกต่างเข้าใจซึ่งกันและกันผ่านแอนิเมชั่นเรื่องนี้ โดยให้ Cactus Plant Flea Market นำลายเส้นและอารมณ์ขันที่มีเอกลักษณ์มาเปลี่ยนโฉมเหล่าตัวละครของเมือง Bikini Bottom ลงบนเสื้อผ้าแบบต่างๆ

SpongeBob SquarePants ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่คนหลายรุ่นหลงรัก ซึ่งครั้งนี้ถูกตีความใหม่โดยศิลปินร่วมสมัย ผู้สร้างสรรค์ในวัฒนธรรมป๊อปยุคใหม่อย่าง Cactus Plant Flea Market โดยคอลเล็คชั่น UT สุดพิเศษนี้ วางจำหน่ายเฉพาะที่ยูนิโคล่เท่านั้น


อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

Exclusive Talk อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม นักสนทนาธรรมผู้ไม่เคยตายไมค์!

Alternative Textaccount_circle
อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม
อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

หนึ่งในกระแสของปีนี้ คือการปรากฏตัวของ อาจารย์เบียร์ ฅนตื่นธรรม อดีตหมอดูที่ผันตัวมาเป็นผู้ศึกษาและถ่ายทอดธรรมะด้วยการถาม-ตอบในลีลาเดือดดุ

แน่นอนว่าเมื่อเป็นเรื่องของศาสนาและความเชื่อ จึงเกิดหลายฟากความเห็น ฝั่งที่สนับสนุนบอกว่าสิ่งที่อาจารย์เบียร์พูดมีเหตุผลตรงไปตรงมา ขณะที่ฝ่ายไม่ชอบ บอกว่าขัดกับความเชื่อดั้งเดิม รวมถึงวิจารณ์ถึงการใช้ภาษาที่ไม่รื่นหู แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คือ อย่างน้อยสังคมเกิดการ ‘ตื่น’ ที่จะใฝ่หาคำตอบเรื่องธรรม

ที่มาของสไตล์คนตื่นธรรม

“อาจารย์เคยฟังคำสอนของหลวงตามหาบัว สังเกตว่าที่คนฟังมากอาจเพราะท่านเล่าจากประสบการณ์ ไม่ใช่สอน อาจารย์จึงใช้วิธีนั้น ทำให้ถามไวตอบไว ผิดน้อย เพราะตอบจากใจและจากการฝึกของตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ผิดเลย ถ้าพลาด แล้วมีใครติง เตือน ก็ขอโทษ

“สำหรับสไตล์การพูด อาจารย์สังเกตว่า ขนาดท่านเป็นพระยังสอนหนักๆ ได้เลย เราเป็นฆราวาส สามารถรุนแรงได้มากกว่า จึงหยิบอาการนั้นมาใช้ สาเหตุมาจากเจตนาที่อยากให้คนฟัง ถ้าเราพูดดีมาตลอด วันหนึ่งเขาทำไม่ดีแล้วมาขอคำปรึกษา หากด่าไป โดยที่เขาไม่เคยเห็นโหมดอันตรายของเรามาก่อน เขาอาจคิดว่า ที่ผ่านมาสร้างภาพเหรอ เขาจะรับไม่ได้ แล้วหายไป ซึ่งนั่นคือเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงสมัยที่อาจารย์พูดจาดี เพราะฉะนั้น ใครรับได้ก็ฟัง รับไม่ได้ก็ไม่ต้องฟัง ให้เกลียดตั้งแต่แรก ไม่ใช่ฟังไปสักพัก แล้วค่อยเกลียด  ที่สำคัญการสอนธรรมะไม่เกี่ยวกับวาจา แต่เกี่ยวกับหลักเนื้อความตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่าเนื้อธรรมของพระองค์ท่านคืออะไร”

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

บางคำสอนอาจขัดกับความเชื่อดั้งเดิม จนเกิดดราม่า เวลาเจอคำติ รับมืออย่างไร

 “ต้องทิ้งอารมณ์ คือถ้าเราฝึกมาแล้วว่า จะไม่ยินดี ยินร้ายกับอารมณ์ใด เพราะเรามีความเมตตาสงสารต่อการสั่งสอน อาจารย์หยิบยกกริยาอาการของการดุด่าว่ากล่าวเพื่อมาสั่งสอนให้เขารู้สึกตัวเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นการทิ้งอารมณ์เหล่านี้ไม่ยากเพราะเราฝึกในการเจริญเมตตา

 “ถ้าถามว่ามีอารมณ์ขุ่นมัว โกรธบ้างไหม มีอยู่แล้วเพราะเราทุกคนยังมีความโกรธ แม้กระทั่งโสดาบันก็ยังมี แต่ไม่ได้โกรธภายใต้บริบทเบียดเบียนเขา ด้วยการผิดศีล 5 หรือการผิดกุศลกรรมบถ 10 (หลักธรรมแห่งความเจริญในชีวิต) เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าโกรธก็จะทิ้ง แล้วใช้สติสัมปชัญญะในการตอบคำถาม ดึงเข้าหมวดธรรม การสอนของอาจารย์ ไม่ได้ด่าเพื่อสนุก สะใจ ทำร้ายทำลายใคร แต่ด่าเพื่อติติงตามธรรม ให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง บางคนชอบถามว่าทะเลาะอะไรกัน อาจารย์โกรธใคร ซึ่งความจริงไม่ได้โกรธ เวลาด่าก็ด่าไป แต่พอหันมาที่คำถามใหม่ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเปลี่ยนเสียง เจตนาในการเปลี่ยนเพื่อให้เห็นว่า ตั้งใจกับเรื่องใหม่แล้ว สองไม่ได้โกรธกับอารมณ์นั้น แค่อาศัยอากัปกริยาและไม่ใช่ด่าตัวคน แต่ด่าคำถาม”

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

คิดอย่างไรกับชื่อเสียงขณะนี้

“ตอนที่มีดารามาขอถ่ายรูป ก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า กูคือใครวะนี่ ทำไมเขาสนใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต เราไม่รู้กระแสความดังของตัวเอง เพราะไม่ค่อยเล่นโซเชียล จะมีลูกศิษย์ส่งมาให้ แต่ก็พยายามรับรู้ว่า ของพวกนี้ไม่ได้มีประโยชน์ ไม่ได้ปลาบปลื้ม ปิติยินดี ไม่ได้รู้สึกว่า ดัง เพราะไม่ได้มีผลประโยชน์กับการเข้าไปดังตรงนั้น ถ้าอาจารย์ดังแล้วเกิดรายได้ ก็คงจะอิน ขวนขวายให้ได้ตังค์

“หลายคนถามว่า อาจารย์เป็นอินฟลูเอนเซอร์แล้วนะ ค่าตัวในการไปบรรยายธรรม ออกรายการกี่บาท  อาจารย์บอกเลยว่า อาจารย์ไม่มีค่าตัว ถ้าอยากให้ ให้ทำบุญเข้าบัญชีเงินกองกลางนะ ซึ่งเป็นบัญชีที่นำไปใช้ปฏิบัติธรรม อย่างล่าสุดงานกฐินก็ใช้เงินกองกลาง ประมาณ 140,000-150,000 เพื่อเป็นค่ารถบัส 19 คัน เพราะบางคนอยากมาฟังธรรม แต่ไม่มีปัจจัย เราอยากให้เขาได้ทำบุญ ได้ยิน ได้ฟังธรรม ก็ช่วยซัพพอร์ต หรือนำเงินไปซื้ออาสนะให้คนปฏิบัติธรรม ก็หมดไปเป็นหลักแสน อาจารย์ไม่หยิบมาใช้ จะแยกกับบัญชีส่วนตัวชัดเจน  จะมีแอดมินจะคอยจดบัญชีแชร์สลิปการใช้จ่ายเงินในเฟซบุ๊กอย่างละเอียด ซึ่งวันหนึ่งที่ต้องไปบวช อาจารย์ไม่สามารถเก็บอาสานะ ข้าวของต่างๆได้อยู่แล้ว ก็จะบริจาคให้วัดที่ขาดแคลน แต่ถ้าขอ อยากขอค่าน้ำมันให้คนขับรถ สามารถโอนให้เขาตรงได้เลย เพราะเขาสละเวลามาช่วยเต็มเวลาโดยที่ไม่มีรายได้”

การบวชปลายปีหน้า เตรียมตัวถึงไหนแล้วคะ

“เตรียมมานานแล้ว ถึงเวลาบวชก็บวชได้เลย และการบวชวัดป่าไม่วุ่นวาย แค่อยู่ในผ้าขาวครบ 1 เดือน แล้วรอครูบาอาจารย์อนุญาตให้บวช ทุกอย่างที่วัดมีให้ครบสมบูรณ์ ถ้าใครอยากบวชแต่ไม่มีเงินก็บวชได้ วัดจะจัดการให้ทั้งหมด คิดว่าจะเตรียมตัวอีกทีคือตอนบวช ไม่ได้เตรียมเพื่อตัวเองนะ แต่เตรียมเพื่อลูกศิษย์ที่ตามไปงานบวชด้วย”

“ที่วางแผนไว้คือบวชอย่างน้อย 5 ปี อยากปลีกวิเวก หลีกเร้น หลังจากนั้นจะออกมาบอกสอนในฐานะพระ ก็ค่อยว่ากันอีกที”

จุดมุ่งหมายในการบวชครั้งนี้คืออะไร

“อย่างเดียวที่อาจารย์ปรารถนาคือ สู่มรรคผลนิพพาน ต้องการไปให้ถึงตัวสุดท้าย คือการละสังโยชน์ (กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์) ทั้ง 10 ข้อให้จบสิ้น รวมถึงทำหน้าที่กิจการงานของตนให้จบ เพราะตอนนี้ยังอยู่แค่ในช่วงเบื้องต้นเท่านั้น พยายามจะไปบวชเพื่อทำความเพียรให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ไม่ใช่ว่าปัจจุบันเราไม่ได้ทำ แต่ถ้าจะเอื้อให้ถึงประโยชน์ของการภาวนาได้ดีที่สุด”

“การเป็นอาจารย์จะสอนคนอื่น ตัวเราต้องทำให้ได้ก่อน อย่างอาจารย์พูดว่าต้องรักษาศีล ก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้นจะทำอะไรให้ถึงที่สุด ก็ต้องทำให้ยิ่งขึ้นไป วันนี้อาจารย์สอนฆราวาส วันหน้าอาจารย์อยากจะสอนพระ เพราะพระเป็นเนื้อนาบุญโดยตรงในการสอนธรรม จะได้อยู่ในยุคที่พระกลับมาสอนธรรมะมากกว่าฆราวาส เพราะฉะนั้นถ้าจะสอนพระได้ก็ต้องเป็นพระก่อน นั่นคือจุดมุ่งหมาย เมื่อฆราวาสกับพระช่วยกันรวมเป็นหนึ่งเดียว ทำให้พระศาสนารุ่งเรืองอีกครั้ง”

“อาจารย์ไม่คิดอยากปรับปรุงระบบ เพราะคงทำไม่ได้ แต่อยากสร้างใหม่ อย่างปัจจุบันเราสร้างให้ฅนตื่นธรรม เลิกความเห็นผิด ก้าวเข้าสู่ความเห็นถูกต้อง คนก็หันกลับมาสนใจคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น เพราะฉะนั้นสร้างใหม่ง่ายกว่าล้มล้างของเดิม”

สามารถติดตามอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับเดือน ธันวาคม 2567

เรื่อง Fai

ภาพ อิทธิศักดิ์

ผู้ช่วยช่างภาพ ศักดินนท์ ปิตะฝ้าย

Beyond The Vines

Beyond The Vines 3 ไอเท็มรุ่นพิเศษ เฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุด

account_circle
Beyond The Vines
Beyond The Vines

ต้อนรับเทศกาลวันหยุดด้วยกระเป๋าคอลเล็คชั่นใหม่จาก Beyond The Vines ซึ่งครั้งนี้แบรนด์ส่งซีรีส์ Crunch Carryall และ Poofy รุ่นพิเศษที่มาพร้อมผ้าเนื้อเมทัลลิกที่มีพื้นผิวใหม่ สำหรับเทศกาลนี้โดยเฉพาะ

สำหรับกระเป๋า Holiday Poofy เป็นหนึ่งในไลน์ผลิตของกระเป๋า poofy ยอดฮิตของแบรนด์ และได้ผลิตออกมาต่อจากคอลเล็คชั่น Glazed Poofy ในเดือนกันยายน

โดย Holiday Poofy มาพร้อมกับตัวกระเป๋าที่มีความแวววาวด้วยผ้าเมทัลลิกที่มีพื้นผิวเงางามและสายสะพายที่ออกแบบใหม่เพื่อให้สะดวกสบายสำหรับทั้งการสะพายไหล่และสะพายข้าง เช่นเดียวกับกระเป๋า Poofy รุ่นก่อน Holiday Poofy มีการผสมผสานระหว่างการออกแบบและการใช้งานเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีความง่ายต่อการใช้งานและมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับใส่ของจำเป็นต่างๆ โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Maroon, Navy และ Grey

อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรพลาด Holiday Round Pouch กระเป๋าขนาดกระทัดรัด ทำจากผ้าเมทัลลิก สามารถเก็บ AirPods, กุญแจ หรือ เหรียญได้อย่างง่ายดาย พร้อมช่องภายในที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย กระเป๋ามีห่วงข้อมือที่สามารถถอดออกได้ เพิ่มความสะดวกในการพกพา โดยมีให้เลือก 3 สี เช่นเดียวกับกระเป๋า Holiday Poofy ได้แก่ Maroon, Navy และ Grey

ปิดท้ายด้วยไอเท็มที่เหล่า BTV ควรจับจองเป็นเจ้าของ กระเป๋า Crunch Carryall ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการใช้ได้ชีวิตประจำวันและใช้ในการเดินทาง โดยผลิตจากวัสดุไนลอนกันน้ำทนทาน ที่ตอบโจทย์กับทุกการใช้งาน มีฟังก์ชั่นหลากหลาย พร้อมช่องใส่ของภายในตัวกระเป๋า และสายสะพายที่ปรับได้ เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน

สำหรับกระเป๋า Crunch Carryall มีให้เลือกด้วยกัน 3 ไซส์ Crunch Carryall 01, Crunch Carryall 02 และรุ่นใหม่ล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวออกมา Crunch Carryall 03 กระเป๋าไซส์ใหญ่ มาพร้อมช่องสำหรับเสียบใส่กับกระเป๋าเดินทาง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลนี้ และมีให้เลือกหลากหลายสี ได้แก่ Lilac, Warm Olive, Turquoise, Cream, Sage และ Magenta

กระเป๋า Holiday Poofy และ Round Pouch รวมถึงกระเป๋า Crunch Carryall ในสีสันและฟังก์ชั่นใหม่ เหมาะกับการใช้งานในเทศกาลวันหยุด พิเศษสำหรับชาว BTV ทางร้านมีบริการบริการปักชื่อลงบนกระเป๋าแบบฟรีๆ ที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 ธันวาคมนี้ เท่านั้น


ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

บทสัมภาษณ์ ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ นักแสดงที่ไม่หยุดพัฒนา

Alternative Textaccount_circle
ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ
ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

นักแสดงสาวนัยน์ตาคมที่โด่งดังมาจากซีรีส์เกิร์ลเลิฟ “ทฤษฎีสีชมพู GAP The Series” (2565-2566) จนเป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ “ฟรีน สโรชา” มีเสน่ห์น่าจับตามองมาตั้งแต่เป็นผู้เข้าประกวด “มิสทีนไทยแลนด์ 2016” โดยเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย และได้รับ “ตำแหน่งหุ่นสวยสุขภาพดี” นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถมากมายทั้งรำโขน, เต้น, ร้องเพลง, คทากร, พิธีกร, วาดภาพ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นนักแสดงสังกัด “Idol Factory” ของ “เซ้นต์ ศุภพงษ์” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ

ฟรีนมีผลงานการแสดงอันโดดเด่นหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ยูเรนัส2324” (ภาพยนตร์, 2567), “แอบหลงรักเดอะซีรีส์” (ซีรีส์, 2565), “ทฤษฎีสีชมพู” (ซีรีส์, 2565-2566) และ “ปิ่นภักดิ์” (ซีรีส์, 2567)

ผลงานเพลงประกอบซีรีส์ “ทฤษฎีสีชมพู” ได้แก่ “ทฤษฎีรักนี้สีชมพู” (2565), “คำสั่งจากหัวใจ” (2565), “Whisper” (2565), “Marry Me” (2566) และ “No More Blues” (2566)

รวมไปถึงผลงานการแสดงมิวสิกวิดีโอ เช่น “ก่อนฤดูฝน” (THE TOYS, 2560), “Goodbye” (สิงโต นำโชค, 2561), “ผิดที่ฉันกอดเธอไม่แน่นพอ” (Playground feat. เรนิษรา, 2566) และ “มองหน้ากันไม่ติด” (โอ๊ต ปราโมทย์ feat. MAIYARAP, 2567)

และล่าสุดฟรีนมีภาพยนตร์สยองขวัญคอมเมดี้เรื่อง “ไรเดอร์” (สหมงคลฟิล์มฯ) ที่แสดงคู่กับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ในบทบาทหญิงสาวลึกลับที่แก๊งไรเดอร์ต้องออกตามหาจนเข้าไปปะทะเหล่าผีร้ายสุดวายป่วง

จุดเริ่มต้นในการร่วมงานโปรเจกต์นี้

“พี่กังฟู” (ผู้กำกับ) เล่าให้ฟังว่าไปเห็น “ฟรีน” ในหนังเรื่องหนึ่งที่พี่เค้าเข้าไปดูการถ่ายทำซึ่งหนูอยู่ในเซต พอคัตเสร็จหนูก็มานั่งเฉยๆ กำลังพักอยู่ไม่คุยกับใคร เก็บเอเนอร์จีไว้เตรียมเข้าเซตต่อ พี่เค้ามาเห็นหนูตอนนั่งเหม่ออยู่คนเดียวพอดี แล้วก็มาเล่าให้หนูฟังทีหลังว่าวันนั้นพี่เจอหนูที่กองถ่ายนี้นะ แล้วรู้สึกว่าหนูเหมาะกับบทที่กำลังทำพอดี เลยติดต่อให้หนูลองไปแคสต์ให้หน่อย มาลองเป็น “พาย” ให้ดูหน่อย พี่ฟูส่งบทมาให้แล้วไปลองเล่นซีนหนึ่ง พี่ฟูดูเสร็จก็บอกขอบคุณมาก แล้วหนูยังไม่รู้ว่าจะได้เล่นหรือเปล่า เพราะระยะเวลาก็ห่างไปหลายอาทิตย์อยู่ แล้วพี่ฟูก็แจ้งกลับมาว่า โอเคเป็นหนูค่ะที่ได้เล่นบทนี้

ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

บทบาท-คาแร็กเตอร์

เรื่องนี้หนูรับบทเป็น “พาย” เจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ชอบใส่หูฟังแล้วอยู่กับตัวเอง รักอิสระ อยากทำในสิ่งที่อยากทำ มีอะไรในใจค่อนข้างเยอะแต่ก็ไม่รู้จะพูดกับใคร ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ มีคาแร็กเตอร์น่าค้นหา ลึกๆ แล้วเป็นคนเฟรนด์ลีเข้ากับคนอื่นได้ นะถ้ารู้จักกันจริงๆ แต่อย่างที่บอกเขาโลกส่วนตัวสูง มีกำแพง ก็ยากที่ใครจะทำลายกำแพงเข้าไปได้ จนกระทั่งได้รู้จักกับ “นัท” (มาริโอ้ เมาเร่อ) ไรเดอร์ที่มาส่งของให้เรา จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ทั้งโรแมนติกทั้งสยองทั้งฮาค่ะ

ก่อนถ่ายทำเรื่องนี้ พี่ทีมงานพาฟรีนไปเวิร์กชอปวิธีการซ่อมมือถือมาด้วย ดูว่าเขาไขน็อตตรงไหน แงะตรงไหน ขั้นตอนการเปลี่ยนหน้าจอต้องเริ่มจากอะไร เพื่อให้เวลาเราถ่ายทำจะไม่ต้องมาพะวงกับวิธีการตรงนี้ แล้วคิดว่าถ้าคนในกองถ่ายอยากเปลี่ยน หนูเปลี่ยนได้ละ แต่ต้องมีอะไหล่มาให้นะคะ เปิดทำเป็นรายได้เสริมได้เลย

การร่วมกับแก๊งไรเดอร์ “มาริโอ้-โน่-อาร์ต”

หนูยังไม่เคยร่วมงานกับพี่ๆ ทั้งสามคนมาก่อนเลยค่ะ สำหรับ “พี่โอ้” นี่หนูติดตามผลงานมาตั้งแต่ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” (2553) พี่โอ้เป็นคนเก่งมาก ติดตามผลงานของเขามาเสมอ และตื่นเต้นที่จะได้มาร่วมงานกับพี่โอ้พระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งหนูเพิ่งเข้ามาในวงการภาพยนตร์ใหม่ๆ รู้สึกยินดีมากที่ได้มีโอกาสร่วมงาน พี่โอ้เป็นพี่ชายที่น่ารักมากคนหนึ่ง เขาเข้าได้ดีกับทุกคนรอบตัวเลย ดูพี่เขาทำงานชิลๆ คงเพราะประสบการณ์เยอะ ตอนหนูกับพี่โอ้ไปเวิร์กชอปกัน พี่เค้าก็ทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละครได้มากตั้งแต่ครั้งแรกเลย พอตอนเข้าเซตจริงๆ เราก็เอาความรู้สึกวันที่เราเวิร์กชอปมาใช้ได้เลย

“พี่โน่” หนูก็ไม่เคยร่วมงานมาก่อนเช่นกัน หนูไปทำการบ้านเลยว่าพี่โน่เป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง พอตามดูพี่โน่ไปเรื่อยๆ ติดเลยทีนี้ พี่โน่มืออาชีพมาก เป็นคนนอกบทตลอด แต่ขำสุด มีพรสวรรค์ในด้านการแสดง และมีอะไรแปลกใหม่มาเซอร์ไพร์สเสมอ มีพี่โน่จะสนุกมาก ขำมาก เวลาอยู่ในกองถ่ายบรรยากาศมันน่ากลัว และถ่ายทำตอนกลางคืน หนูจะคอยชวนพี่โน่ไปนี่หน่อย ไปกินน้ำ ไปกินข้าวกัน เล่นกีตาร์ให้ฟังหน่อย อยู่ในกองหนูจะติดพี่โน่เหมือนกัน อุ่นใจเพราะพี่โน่ไม่กลัวผี

ส่วน “พี่อาร์ต” เก่งตรงที่ไม่หลุดขำออกมาได้ไง เพราะเวลาพวกพี่เขาเล่นด้วยกันมันตลกมาก พวกเขามีจังหวะในการแสดงได้ลงตัว เข้าออกถูกจังหวะกันเป๊ะๆ พี่อาร์ตจะเป็นสายแบบพี่เหนื่อยมาก พี่ไม่ไหว หนูก็จะทำหน้าที่กองเชียร์ พี่อาร์ตสู้ๆ พี่อาร์ตเก่งมาก คอยส่งกำลังใจให้ ถึงพี่อาร์ตจะบ่น ดูเหนื่อย แต่พอเข้าเซตคือทำได้ดีตลอด จนสงสัยว่าพี่อาร์ตเหนื่อยจริงหรือเปล่าเนี่ย อย่างมีอยู่ซีนหนึ่งพี่อาร์ตปวดท้องเข้าห้องน้ำทั้งวัน แล้วคืนนั้นมีหลายซีนมากถ่ายทำทั้งคืนจนตี 2 ลากยาวมาจนคิดว่าไม่น่าจะไหวแล้ว แต่พี่อาร์ตอยู่จนถึงซีนสุดท้าย สปิริตสูงมาก หนูรู้เลยว่าพี่อาร์ตเก่งมาก

ร่วมงานกับผู้กำกับ “กังฟู นิติวัฒน์” เป็นยังไงบ้าง

“พี่กังฟู” น่ารักมาก เป็นผู้กำกับที่ใจดี เวลาที่เราไม่เข้าใจอะไรก็เดินไปถาม เราก็จะได้คำตอบกลับมา แล้วไม่ใช่แค่ว่าเราเข้าใจเฉยๆ แต่มันเข้าใจลึกลงไปมากกว่านั้น พี่เขามีภาพในหัวที่คิดไว้หมดแล้วว่าอะไรจะอยู่ตรงไหน หรือควรเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งมันทำให้เราทำงานง่ายมากในการถ่ายทำ ไม่ใช่แค่หนู แต่กับทุกฝ่าย การถ่ายทำเลยรวดเร็วตามเวลาตามกำหนด พี่กังฟูใจดีมาก เป็นคนใจเย็น ทำงานสบายๆ แต่คุณภาพแน่นอนค่ะ

แต่ละโลเคชันในเรื่องนี้ทำเราหลอนบ้างไหม

มีหลอนหลายที่เลยค่ะ แต่ก็มีที่ไม่หลอนด้วยอย่าง “สะพานพุทธ” เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับ “ฟรีน” เพราะหนูไม่เคยไปเดินเล่นแถวนั้นเลย ได้เห็นบรรยากาศทั้งกลางวัน กลางคืน มีคนเดินข้ามไปมาทั้งวัน มีร้านขายของ คนมานั่งชิล บรรยากาศดี วิวสวย ประทับใจที่นี่เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อน

ส่วนที่หลอนสุดสำหรับหนูคือที่ “วัด” มันน่าขนลุกนิดนึง มีโบสถ์ และเจดีย์เก็บกระดูกเก่าแก่กว่าสี่ร้อยปี ตอนกลางวันสวยงามมาก ตกกลางคืนยอมรับเลยว่าน่ากลัว ทางเปลี่ยว ตรงเมรุตรงเจดีย์ไม่มีไฟเลย ตรงที่เราไปนั่งรอเข้าเซตก็อยู่ข้างเจดีย์เก็บกระดูกอันใหญ่ๆ แล้วเราถ่ายทำกันจนถึงตี 2 ในเซตที่เป็นป่าช้า เป็นป่าที่ทีมอาร์ตเซตขึ้นมาตรงลานหลังโบสถ์ แต่มันเหมือนของจริงมากจนเกิดความไม่แน่ใจ แล้วต้องมีการเล่นกับเรื่องราวของศพอีก น่ากลัวเลยค่ะ แล้วคุณแม่ที่มาแต่งเอฟเฟกต์เป็นศพ แกนั่งอยู่ในระยะที่มองเห็นกัน หนูกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ เงยหน้ามาแล้วเห็นแกแล้วตกใจสุด เพราะทั้งบรรยากาศทั้งมุมที่อยู่  ทุกอย่างมันเหมือนว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์ในเรื่องของจริงเลยค่ะ

ส่วนตัว “ฟรีน” เป็นคนกลัวผีมากน้อยแค่ไหน

กลัวระดับสูงสุดค่ะ สมมติถ้าหนูต้องล้างหน้า หนูไม่สามารถล้างหน้าไปปิดตาไปได้ ใจมันจะคอยคิดว่าจะมีคนมาอยู่ข้างๆ กลัวขนาดนั้นเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ หนูจะกลัวไปเองมากกว่า สมมติว่าได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงแปลกๆ หนูจะคิดละว่าต้องมีผี ส่วนตัวเลยยังไม่เคยเจออะไรจังๆ แต่ก็กลัวอยู่ดี หนูมากองถ่ายนี้คุณแม่ก็ให้พระมาด้วย พกไว้อุ่นใจดีค่ะ แต่มาอยู่กองนี้ไม่เจอผีนะคะ ถึงแต่ละที่ที่ไปมันหลอนมากจริงๆ มันต้องมีแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไรค่ะ

ส่วนตัวใช้บริการไรเดอร์บ้างไหม

ทุกวันนี้พี่ “ไรเดอร์” อยู่ในทุกช่วงเวลาของหนูเลย บางวันเราขี้เกียจจะออกไป รถติด เหนื่อย จะหิวข้าวสั่งข้าว เวลาป่วยสั่งยา ส่งของ พี่เขารันได้ทุกวงการ สะดวกสบายมากขึ้น แล้วเขาก็เก่งมากขี่มอเตอร์ไซค์ไปได้ทุกที่ทุกเวลา ฝนตกก็ไป เส้นทางที่อาจจะไม่เคยไป หรือเส้นทางแปลกๆ ก็ไป ต้องใช้ Google Map เป็น หนูว่าทุกอาชีพเลยนะที่ต้องใช้บริการเขา อาชีพเดียวรับจบได้ทุกอย่างจริงๆ

ประทับใจอะไรบ้างในการแสดงเรื่องนี้

ประทับใจที่การทำหนังเรื่องนี้ของ “ฟรีน” เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่อง “ไรเดอร์” นี้ รู้สึกสนุก มีความสุขในทุกวันที่มาออกกอง พี่ๆ ทุกฝ่ายเก่งมากทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รู้สึกว่ามันผ่านการวางแผนมาแล้ว มันเริ่มสนุกมาตั้งแต่เจอกันวันแรก ที่เราได้ฟิตติ้งกันจนถึงวันปิดกอง มาเล่นหนังผีที่มันน่ากลัวแต่บรรยากาศกองน่ารัก หนูได้รับประสบการณ์ทั้งการแสดงและเอนจอยกับทุกคนในกองมากๆ ค่ะ

ความน่าสนใจโดยรวมของเรื่องนี้ในมุมมองของฟรีน

ความเป็น “ไรเดอร์” ค่ะ เพราะทุกวันนี้เราใช้บริการพี่ไรเดอร์อยู่ตลอดเวลา หนูเป็นแค่ผู้ใช้บริการปกติธรรมดาทั่วไป แต่เราไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วไรเดอร์แต่ละคนเขาต้องเจอะเจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง เจอลูกค้าแบบไหนมาก่อน เขาเคยไปรับออเดอร์หรือเคยเจอออเดอร์ประหลาด ลึกลับ สยองขวัญแบบในเรื่องนี้บ้างไหม ซึ่งหนูคิดว่าพอภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดอีกมุมหนึ่งของอาชีพไรเดอร์ มันก็จะทำให้เรารู้สึกแปลกใหม่แบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อาชีพพี่เขาต้องไปทุกที่ บางสถานที่เราไม่รู้จักแต่พี่เขารู้ มันต้องมีอยู่แล้วกับเรื่องความน่าขนลุกระหว่างทำงาน การเอาอาชีพของไรเดอร์มาเป็นตัวเล่าเรื่อง เป็นตัวที่พาเราไปในที่หลอนๆ แค่นี้ก็สนุกน่าติดตามแล้วค่ะ

หนูก็ขอฝากผลงานเรื่อง “ไรเดอร์” ด้วยนะคะ พวกเราทั้งพี่ฟู, พี่โอ้,พี่โน่, พี่อาร์ต, หนู และทีมงานทุกคนเต็มที่กับหนังมาก อยากให้คนที่มาดูได้เดินออกจากโรงไปพร้อมกับรอยยิ้มและความสนุก อยากให้ทุกคนได้มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมๆ กันขอบคุณค่ะ

อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย
อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

อู่เหลียงเย่ (Wuliangye) แบรนด์ไป๋จิ่วชื่อดังจากประเทศจีน ในฐานะ Global Partner สร้างความโดดเด่นและน่าประทับใจในงาน Michelin Guide Ceremony 2025 Thailand หรือ ประกาศผลรางวัลร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำ พ.ศ. 2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

งานนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของปีที่สำคัญสำหรับ Wuliangye ในฐานะ “พันธมิตรระดับโลก” ของ Michelin Guide ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ตั้งแต่ศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่น ความประณีตของ อาหารอิตาเลียน การผสมผสานอาหารมาเลเซีย และรสชาติอันหลากหลายของอาหารไทย Wuliangye ได้แสดงให้เห็นถึงความลงตัวของไป๋จิ่วจีนกับอาหารระดับโลกผ่านพิธีประกาศผล Michelin Guide


keyboard_arrow_up