THE MALL LIFESTORE KIDS FUNTASIA

กิจกรรมวันเด็กสุดสร้างสรรค์ THE MALL LIFESTORE KIDS FUNTASIA

Alternative Textaccount_circle
THE MALL LIFESTORE KIDS FUNTASIA
THE MALL LIFESTORE KIDS FUNTASIA

วันเด็กปีนี้ เที่ยวไหนดี!! ปักหมุด กิจกรรมวันเด็กสุดสร้างสรรค์ ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา  กับงาน THE MALL LIFESTORE KIDS FUNTASIA

เริ่มด้วย เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เนรมิตโลกใต้น้ำกลางศูนย์การค้าให้เป็นโลกใต้ทะเลสุดมหัศจรรย์  ตื่นตาตื่นใจไปกับอุโมงค์จำลองโลกใต้ท้องทะเล และแมงกระพรุนเรืองแสง กว่า 1,000 ตัว   เพลินเพลิดกับกิจกรรม “TOUCH POOL” ที่ให้น้องๆ ได้สัมผัสสัตว์ทะเลสุดน่ารักอย่างใกล้ชิด อาทิ ดาวทะเล ฉลามกบ แมงดาจาน  ปูเสฉวน

เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ ท่องดินแดนมหัศจรรย์ไปกับอัศวินปุกปุย ตะลุยปราสาทแห่งความลับ ตื่นตากับกระต่ายกว่า 10 สายพันธุ์ รวมกว่า 300 ตัว

THE MALL LIFESTORE KIDS FUNTASIA

เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ชวน “หนูน้อยนักสำรวจ” มาท่องอาณาจักรแห่งผีเสื้อ แมลง และนกสายพันธุ์ต่างๆ รวมกว่า 1,000 ชีวิตพร้อมการให้ความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตผีเสื้อ และแมลงหายากใกล้สูญพันธุ์

เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ผจญภัยโลกกว้างตะลุยดินแดนลูกโป่งมหัศจรรย์” ตื่นตาตื่นใจกับโบโซ่สูงกว่า 4 เมตร สนุกกับฐานเกมสุด FUN พร้อมสะสมแสตมป์ แลกรับของรางวัล ฟรี!

ปิดท้ายที่ เดอะมอลล์ โคราช สนุกกับเครื่องเล่นสุดแอดเวนเจอร์ พบกับ FANTASY  ADVENTURE  ให้น้องๆได้ระเบิดพลังกับเหล่าเครื่องเล่น อาทิ บ้านบอล GIANT SLIDER & BALL POOL, อุโมงค์เลเซอร์ (LASER MAZE), ART & CRAFT รวมถึงกิจกรรมความสนุกสนานอีกมากมาย

งานจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 12  มกราคม 2568 ที่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา และ เดอะมอลล์ โคราช

เปิดภาพค่ำคืนดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ THE MACALLAN ส่งท้ายฉลองครบรอบ 200 ปี

account_circle

The Macallan ส่งท้ายการเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปี ด้วยการเปิดตัว A Night on Earth in Jerez de la Frontera ที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งการเฉลิมฉลองและมรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ สัญลักษณ์ของการเดินทางจากความทรงจำในอดีตสู่ความหวังในอนาคต พร้อมเนรมิตค่ำคืนดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ Restaurant POTONG ซึ่ง The Macallan พาทุกท่านไปสัมผัสประสบการณ์อาหารไฟน์ไดน์นิ่งสไตล์ไทย-จีน ผ่านฝีมือการรังสรรค์ความอร่อยจาก “เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม” ผู้รังสรรค์คอร์สเมนูพิเศษภายใต้คอนเซ็ปต์ของ ‘กาลเวลา’ กับการดึงเอารสชาติในความทรงจำของเชฟ และรูปแบบวัฒนธรรมการกินของคนไทยเชื้อสายจีนมาเป็นแรงบันดาลใจในการครีเอตแต่ละเมนู

เริ่มต้นการเดินทางของรสชาติด้วยเมนู Mission ไก่ดำตุ๋นสมุนไพรจีนในซุปน้ำใส  Detail and Memories ก๋วยจั๊บที่มาพร้อมลิ้นหมู และเสิร์ฟความหรูหราด้วยคาเวียร์ Historical Stories ไข่ปูและปูม้าเสิร์ฟคู่ขนมปังบริยอชเนื้อนุ่ม Heart and Soul มาพร้อมกุ้งจากนครศรีธรรมราช และเส้นลวดลายธงชาติไทยในรูปแบบผัดไทยสูตรพิเศษ Forgotten กับปลาบู่ที่โดดเด่นด้วยซอสเนยมะขามและมะนาว พร้อมใบกระถินทานคู่กันเสริมกลิ่นอายความเป็นไทย Bold เมนูจากเป็ดที่บ่มนาน 14 วัน ให้เนื้อสัมผัสเข้มข้น ละมุนลิ้น ทานคู่กับเมนู Spiritual น้ำพริกหนุ่มสไตล์ร่วมสมัย จากกระชายและผักโอซุ่น

ตามมาด้วยเซ็ตของหวานอย่าง Humble ไอศกรีมจากฝรั่งสด รสชาติหวานอมเปรี้ยว ต่อด้วยเมนู Happiness มะพร้าวหลากเลเยอร์สไตล์ Potong ทานคู่กับไอศกรีมมะพร้าว รสชาติหวานหอมให้ความสดชื่น และ Heritage เมนูที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย จากขนมถ้วยใบเตย ถั่วตัดชาไทย และมะขามสามรสที่ผสานเข้ากันอย่างลงตัว

ก่อนปิดท้ายค่ำคืนสุดพิเศษด้วยเมนู Thank You จากขนม fortune มาในธีมแห่งความโชคดี ซึ่งสอดคล้องกับธีมของ The Macallan


ART TOY

ART TOY ของเล่นที่เริ่มต้นจากยุค 90 สู่คนรุ่นใหม่ นาทีนี้ทำเงินไม่ใช่เล่นๆ

Alternative Textaccount_circle
ART TOY
ART TOY

กระแสอาร์ตทอยเข้ามาในบ้านเราราวปีที่แล้ว ยิ่งการมาถึงของ POP MART ร้านขายอาร์ตทอยที่มีสาขาในเมืองไทยหลายสาขา และยังขึ้นชื่อว่าคิวต่อแถวยาว และคดโค้งถึงขั้นต้องมีการ์ดคุม อะไรสร้างชื่อให้อาร์ตทอย และสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยังไง

จุดกําเนิดของอาร์ตทอยเริ่มต้นในยุค 90 จากฮ่องกง บุกเบิกโดย Michael Lau ศิลปินผู้สร้างคาแร็คเตอร์ชื่อดังอย่าง Gardener เขาสร้าง ซีรีส์โมเดลเพียง 99 ตัว และก็สร้างชื่อให้เขาตั้งแต่นั้นมา เป็นใบเบิกทางให้
ศิลปินท่านอื่น อาทิ Takashi Murakami และ Eric So ในเวลาต่อมา สิ่งที่ทําให้อาร์ตทอยต่างจากของเล่นชนิดอื่นอยู่ตรงการให้ความสําคัญ

ART TOY
Michael Lau ภาพจาก @michaellau

กับวัสดุ ช่วงแรกศิลปินจะใช้ไม้หรือเรซิน แต่เพราะผลิตได้ในจํานวนจํากัด และต้นทุนสูง จึงหันไปใช้ไวนิล ซึ่งเป็นพลาสติก PVC ที่มีน้ําหนักเบาและ สามารถผลิตได้เป็นจํานวนมากแทน ทําให้ผู้คนจับจองได้ในราคาเอื้อมถึง แต่ ถึงอย่างนั้นด้วยกระแสที่มาแรง บวกกับเทคนิคการค้าที่ผลิตในจํานวนจํากัด เพื่อสร้างมูลค่า บางชิ้นจึงพุ่งถึงหลักแสน และนี่คือข้อแตกต่างระหว่างอาร์ตทอย กับโมเดลการ์ตูนทั่วไป แม้จะไม่มีแบ็กกราวนด์หรือเรื่องเล่าของตัวเอง แต่ เพราะดีไซน์ที่น่ารัก มาในจํานวนจํากัด บวกกับชื่อเสียงของศิลปิน จึงทําให้ ครองตลาดได้ไม่ยาก

และจีนก็เป็นผู้เล็งเห็นสิ่งนี้ก่อนกาล เพราะโรงงานผลิตอาร์ตทอย สําเร็จรูปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่จีน พร้อมกับการเกิดขึ้นของ POP MART บริษัทจัดจําหน่ายอาร์ตทอยอันดับหนึ่งของโลก

เดิม POP MART ขายสินค้าป๊อปคัลเจอร์ให้กับกลุ่มวัยรุ่นทั่วไป ก่อน จะเปลี่ยนกลยุทธ์หันมาขายของเล่นเต็มตัว เพราะ Wang Ning ซีอีโอของ POP MART เห็นรายงานยอดขาย ซึ่งสิ่งที่เขาขายดีที่สุดคือของเล่น แต่จะขาย ยังไงให้ต่าง เขาจึงไปชักชวน Kenny Wong ศิลปินชาวฮ่องกงผู้สร้างสรรค์

คาแร็คเตอร์ Molly มาทําธุรกิจด้วยกัน หลังจากเปิดคอลเล็คชั่นแรก Molly สร้างยอดขายได้ราว 800 ล้านบาท บวกกับกลยุทธ์การขายที่เล่นกับจิตวิทยา ตั้งแต่ผลิตจํานวนจํากัด ขายแบบ Blindbox หรือกล่องสุ่ม (ที่คุณหวังได้ ไอเดียจากการที่เขาไปสุ่มซื้อของเล่นที่ญี่ปุ่น) ไปจนถึงการสร้างตัว “Secret” ตอบแทนแฟน ๆ ที่ซื้อยกแพ็กให้ได้ไปลุ้นกันต่อ

ไม่เพียงเท่านั้น POP MART ยังเล็งการณ์ไกล เมื่อเห็นว่าการมี Molly เพียงตัวเดียวคนอาจเบื่อ เขาจึงเริ่มคอลแล็บกับอีกหลายคาแร็คเตอร์ ไม่ว่า จะเป็น Labubu, Crybaby ไปจนถึงกลยุทธ์ต่อยอดกับบริษัทข้างนอก เช่น ดิสนีย์ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทําไมแบรนด์จึงขยายตลาดได้เร็วถึง 450 สาขา ใน 30 ประเทศทั่วโลก

และยิ่งถ้าได้ฟังคอนเซ็ปต์จากคุณหวัง จะเข้าใจเลยว่าทําไมเขาถึงทํา การตลาดได้เก่งนัก “การซื้อความสุขไม่สุขเท่าซื้อความตื่นเต้น” อ่านแล้วคง เข้าใจโมเมนต์นี้ มันเกิดขึ้นขณะที่คุณกําลังแกะฝากล่องแล้วลุ้นว่าตัวเองจะได้
ตัวซีเคร็ตหรือเปล่า

เล่นกับใจคนเก่งขนาดนี้ ทําให้ปีที่แล้ว POP MART เติบโตราว 2.81 พันล้านหยวน หรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ถ้ามองตลาดอาร์ตทอยใน ภาพรวม ขณะนี้มีมูลค่าอยู่ที่กว่า 3 แสนล้าน และมีการพยากรณ์ว่าในอีก 6 ปีข้างหน้าตลาดอาร์ตทอยจะพุ่งไปที่ 4 แสนล้าน โดยตลาดใหญ่สุดอยู่ที่เอเชีย

มด – นิสา ศรีคาดี เจ้าของผลงาน Crybaby เล่าให้ฟังถึงตอนที่เริ่มผลิต อาร์ตทอยว่า “หนึ่งในแพสชั่นที่มดสนใจมาตลอดก็คือการทําทอยโมเดล ตอนนั้น หยิบดินมาปั้นเป็นตัว Crybaby แล้วโพสต์ในโซเชียลของตัวเอง จนนักสะสม ชาวจีนมาเห็นและขอชื่อ นั่นเป็นจุดที่เราเริ่มปั้นขาย แล้วก็บูมทันที มีคนต่อคิว ซื้อหลักแสน กระทั่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับ POP MART

เสน่ห์ของอาร์ตทอยคือคําว่า “อาร์ตและความน่ารัก” แม้หลายกระแสบอกว่า นี่ไม่ใช่งานศิลปะ เป็นเพียงของเล่น ซึ่งมดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “ปกติคนมักมองว่าศิลปะเป็นเรื่องที่เอื้อมไม่ถึง เราจึงทําให้ใกล้ตัวที่สุด ซึ่งเป้าหมายของคนที่สะสมอาร์ตทอยก็เพื่อจะได้เห็นประติมากรรมตัวเล็กด้วย”

ศิลปะที่แท้จริงอาจไม่ต้องสูงค่า แค่ใกล้ใจและจับต้องได้

ภาพจาก : popmartglobal

ข้อมูลจาก นิตยสารแพรว ฉบับ 1013 เดือนธันวาคม 2568

นายกอุ๊งอิ๊งค์

ผ้าไทยไม่จำกัดกรอบ ดีไซน์ตีนซิ่นจากชุดนายกอุ๊งอิ๊งค์ โดย จารุต ภิญโญกีรติ

account_circle
นายกอุ๊งอิ๊งค์
นายกอุ๊งอิ๊งค์

เมื่อไม่นานมานี้มีกระแสที่พูดถึงในวงกว้างเกี่ยวกับชุดผ้าไทยของ นายกอุ๊งอิ๊งค์ – แพทองธาร ชินวัตร ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าชุดของเธอนั้น เหตุใด เชิงผ้าหรือตีนซิ่น ของผ้าไหมนั้นลายถึงถูกยกขึ้นมาด้านบน หลายคนมองแล้วแปลกตา และตั้งคำถามว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคุณจารุต ภิญโญกีรติ เจ้าของห้องเสื้อเพชร ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษ คณะศิลปะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรต ประสานมิตร และอดีตอาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญญบุรี และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  รวมถึงเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการร่างหลักสูตรการเรียนการสอน สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ ด้านผ้าและเครื่องแต่งกายในระดับปวช.และปวส. กรมอาชีวศึกษา ได้ให้สัมภาษณ์กับแพรวถึงในเรื่องนี้ว่า

IG : @ingshin.forever

คุณอุ๊งอิ๊งค์ท่านเป็นลูกค้าของทางร้านอยู่แล้วครับ เวลาเธอเลือกชุด มักจะต้องเห็นภาพก่อนเสมอว่าชุดใส่ออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร ตัดออกมาแล้วต้องตรงตามแบบที่เลือก อย่างชุดผ้าไทยที่ท่านใส่ในช่วงปีใหม่นั้นก็เป็นชุดที่ตัดจากผ้ายกดอกลำพูน เป็นดีไซน์ที่ทางร้านมีไว้อยู่แล้วครับ ซึ่งท่านก็จะแจ้งมาเลยว่าอยากได้สีอ่อน  เรามีหน้าที่ตัดให้ตรงตามที่คุณอุ๊งอิ๊งค์ต้องการ พร้อมกับดูให้เหมาะสม เข้ากับสรีระ อย่างรูปร่างของคุณอุ๊งอิ๊งจะมีปัญหาในเรื่องของกระดูกช่วงสะโพกที่ดูยกสูงทำให้ช่วงตัวด้านบนดูสั้น ดังนั้นเราในฐานะคนตัดเสื้อผ้า เราก็ต้องแก้ไข้ปัญหาตัดชุดให้เหมาะสม เสื้อผ้าที่เราตัดก็ต้องส่งเสริมสัดส่วนให้ดูออกมาดีได้

ผมในฐานะช่างตัดเสื้อผ้า ผมมีหลักในการปฏิบัติในการทำงานคือเราจะตามใจลูกค้าทุกคน ไม่ทำงานตามใจตัวเอง โดยจะทำตามใจลูกค้า 70 % อีก 30 % เราก็ต้องยังคงเอกลักษณ์ และตัวตนของเราไว้ ส่วนในการตกแต่งรายละเอียดหรือดีเทลบนตัวเสื้อผ้าผมก็จะใส่เต็มที่ครับ

สำหรับการเลือกใช้เชิงผ้าหรือตีนซิ่นที่ถูกพูดถึง ผมมี 3 เหตุผลหลัก ๆ เลยคือ หนึ่ง ผมมองว่าตีนซิ่น ในที่นี้ขอยกตัวอย่างเป็น ผ้ายกดอกลำพูนนะครับ  ตีนซิ่นของผ้ายกลำพูนเป็นส่วนที่ดูสวยที่สุดและโดนเด่นขององค์ประกอบผ้า โดยปกติในการนุ่งผ้าไทยตีนซิ่นจะอยู่ในส่วนของชายผ้า ในการถ่ายรูปบ้างครั้งก็จะไม่ได้เห็นในส่วนสวยที่สุด เราเลยมีแนวคิดที่อยากจะโชว์ส่วนที่เด่นและสวยที่สุดของผ้าไว้ด้านบน

สอง ในปัจจุบันนี้ ผ้ายกดอกลำพูนมีการทอลายผ้าตีนซิ่นมีขนาดที่สูงและกว้างขึ้นประมาณ 50 – 60 เซนติเมตรซึ่งมันเป็นสัดส่วนที่สูงมาก ซึ่งโดยปกติสัดส่วนของผู้หญิงทั่วไปวัดจากเอวถึงพื้น ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 90 – 100 เซนติเมตร ซึ่งลายผ้าจะกลายเป็นครึ่งนึงของความยาวขา เวลาที่เรานำมาตัดเป็นชุด ผ้าที่มีลายตีนซิ่นที่สูง จะทำให้ผู้หญิงดูสั้น เตี้ย จึงเกิดการนำมาประยุกต์ให้ลวดลายตีนซิ่นมาอยู่ข้างบนแทนเพื่อที่จะส่งเสริมให้สัดส่วนผู้หญิงดูตัวสูง สง่ามากยิ่งขึ้น

เหตุผลสุดท้าย ผมอยากให้คนที่มีสายอาชีพเดียวกันกับผมหรือคนอื่น ๆ ก็ตาม ในการที่เรานำลวดลายตีนซิ่นมาใช้ในอีกรูปแบบนึง จะได้เป็นอีกหนึ่งแนวความคิดและทางเลือกในการในการตัดเสื้อผ้า เพื่อที่จะได้อุดหนุนและสร้างกระแสให้คนหันมาสนใจผ้าไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากประสบการณ์การเป็นครูที่สอนมาเกือบ 20 กว่าปี ผมจึงมีแนวคิดที่อยากให้คนปฏิบัติตามและทำต่อเพื่อให้สายอาชีพในการตัดเสื้อยังคงอยู่ และอีกหนึ่งอาชีพในการทอผ้าก็ยังคงดำเนินต่อได้ ต้องบอกก่อนเลยว่าปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้นุ่งซิ่นออกไปใช้ชีวิตประจำวัน เราจึงเกิดแนวความคิดว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้อาชีพทอผ้า รักษาสืบทอดอาชีพนี้ยังคงอยู่ และสามารถกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ยั่งยืนได้อีกด้วย ในฐานะอาชีพช่างตัดเสื้อเป็นอาชีพปลายน้ำ เรามีหน้าที่ ที่จะรังสรรค์ผลงานให้เป็นที่พึ่งพอใจกับลูกค้าของเรา

ส่วนในเรื่องของคำวิจารณ์ ติชม ทุก ๆ ความคิดเห็นส่วนตัวผมน้อมรับเสมอ แต่คุณค่าของงานมันขึ้นอยู่กับว่าผมทำงานผลงานชิ้นนี้ว่ามีการผลิตรูปแบบนี้ซ้ำเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องบอกว่ารูปแบบงานดีไซน์รูปแบบนี้มีการสั่งผลิตซ้ำเพิ่มขึ้นมาก ท่านนายกอุ๊งอิ๊งค์ – แพทองธาร ชินวัตร ไม่ใช่คนที่สวมใส่ชุดในรูปแบบนี้คนแรก เป็นอีกหนึ่งสิ่งในความน่ารักของท่านคือ ท่านไม่สนใจว่าจะสวมใส่เสื้อผ้าในรูปแบบที่ซ้ำกับคนอื่นหรือเปล่า อีกทั่งท่านก็ไม่ได้สั่งตัดเสื้อผ้าที่ร้านผมร้านเดียว ท่านยังสั่งตัดในอีกหลาย ๆ ร้านทำให้เกิดการกระแสรายได้และกระจายรูปแบบในการหยิบยกผ้าไทยมาใช้ในแบบต่าง ๆ อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนหันมาสนใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ


น้องเนย

หมีฮีลใจ น้องเนย (ButterBear) ไอดอล และ พรืเซ็นเตอร์แห่งยุค

Alternative Textaccount_circle
น้องเนย
น้องเนย

วิธีที่จะทำให้รู้จักแบรนด์ได้เร็วที่สุดคือพรีเซนเตอร์ และในปีนี้น้อง หมีเนย คือแบรนด์แอมบาสดอร์ที่มีแฟน ๆ สนับสนุนมากมาย ถึงขั้นจัด “แฟม” มีตติ้งของตัวเองมือต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาร่วมกับศิลปินปืนดัง ถึง 2 รอบ! จากน้องหนียืนเหงเฝ้าที่วัน กลายเป็นไอดอลปลุกกระแสความน่ารักและได้ร่วมงานกับคนดังมากที่สุดในปีนี้

Butterbeer เป็นร้านขนมที่ต่อยอดมาจาก Coffee Bean by Deo โดย คุณบูม – ธนวรรณ วงศ์เจริญรัตน์ ลูกสาวคุณดาว – ณัฐธยาน์ ปางพุฒิพงศ์ เป็นผู้ดูแล กระแสของน้องเนยเริ่มจากต้นปีที่ผ่านมา เมื่อแบรนด์โพสต์คลิป ที่น้องถือถุง Butterbeer เต้นอยู่กับเพื่อน ๆ หน้าห้างในเทศกาลวันเด็ก ด้วยท่าเต้นที่นำรัก คลิปนั้นจึงกลายเป็นไวรัล มีแฟน ๆ นำไปแชรร์ต่อใน Douyin ซึ่งเป็น TIKTOK ของจีน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มที่ทำให้เกิดความรักความนิยม กระทั่งบินข้ามประเทศมาเยี่ยมน้องถึงเมืองไทย

อะไรทำให้น้องเนยมัดใจแฟน ๆ ได้ขนาดนี้ เรื่องนี้ต้องยกให้กับ “พลัง”ในตัวเธอที่แสดงเอเนอร์จี้ดี ๆ ให้คนรอบข้างไม่ต้องไร้คำพูด รูปลักษณ์ที่น่าเอ็นดู กิริยาท่าทาง การหยอกลักที่เป็นธรรมชาติ รวมถึงมารยาทความนอบน้อมแบบไทย ๆ ที่ไม่ว่าจะเหนื่อย หิว ร้อน น้องก็สดชื่นพร้อมเต้นเสมอ

 และสิ่งที่ทำให้แฟนคลับรู้สึกใกล้ชิดก็คือการแชร์ไลฟ์สไตล์ผ่านทางโซเชียลเป็นประจำ เล่าเรื่องราวของน้องเนยที่ไม่ได้ขายขนมหน้าร้านอย่างเดียวแต่ยังไปโรงเรียนตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ เป็นลูกศิษย์เมย์ประจำห้องทานตะวัน

ส่วนเสาร์ – อาทิตย์เป็นคิวเจอพี่ ๆ ที่ร้าน ของโปรดก็คือป๊อกกาแลต แต่ไม่ค่อยชอบแปรงฟัน จนพี่เลี้ยงต้องเตือนตลอด ส่วนที่ชอบแชร์คลิปเต้นคัฟเวอร์บ่อย ๆ เพราะหนึ่งในความฝันคือการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ส่วนตอนนี้น้องได้เป็นชิงเกอร์ที่มีชิงเกิ้ล 3 เพลงด้วยกัน คือ “It’s Butterbeerbee!”น่ารักมั้ยไม่รู้” (ที่ตอนนี้มียอดวิว 14 ล้าน) และล่าสุดกับ “ฮีลใจ”

ชีวิตน้องน่ารักไม่แพ้เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง น้องจึงสามารถครองใจแม่ๆ ชาวมัมหมีได้มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยเจน Y ขึ้นไป เป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่หลังเลิกงานได้เห็นหน้าน้องก็ถือใจหายเหนื่อย อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังสนับสนุน แรงกายแรงใจเต็มเปี่ยม ยอมไปต่อคิวหน้าทั้งแต่ดี 2 เพื่อรับบัตรถ่ายรูปกับน้อง

ด้วยแรงสนับสนุนของบรรดามัมหมี ทำให้น้องเป็นไอดอลหน้าไหมที่มีคนดังทั้งไทยและต่างประเทศร่วมงานด้วยมากมาย ถึงขั้นชั้นมีสมุดขอลายเซ็นเก็บไว้เป็นที่ระลึก ได้รับเชิญออกรายการก็เยอะ และมิติใหม่ล่าสุดคือการสัมภาษณ์น้องเนยแบบใช้ท่าทางสื่อสารแทนเสียง

เพราะเหตุนี้แบรนด์ต่าง ๆ จึงจีบน้องไปร่วมงานไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมนิทรรศการของ Gucci พรีเซนเตอร์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ซึ่งคาดว่าเงินสะพัดนับร้อยล้าน) คิงเพาเวอร์ ไปจนถึงแบรนด์โอสถสภาที่คว้าน้องเป็นพรีเซนเตอร์ ฯลฯ เป็นที่มาของการได้รับรางวัลมากมาย อาทิศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม Phenomenenon of the Year

และตอนนี้น้องเนยก็มีตัวแทนดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญา ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของแบรนด์ที่จีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วสุดจริง

น้องเนย

นิตยสารแพรวฉบับ 1013

สัมผัสความวิจิตรงดงามโภชนศิลป์ชั้นสูง จาก Café Dior

Alternative Textaccount_circle

เปิดประตูสู่ความรื่นรมย์ใจกลางเมือง Café Dior ที่มาพร้อมเมนูของหวานจาก Mauro Colagreco

หากพูดถึงแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร Dior House Gold คงเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็น ‘Concept Store’ ที่ครบครันไปด้วยกิจกรรมชวนผ่อนคลายไม่ว่าจะช้อปปิ้ง หรือจิบชายามบ่าย รับประทานของหวานแสนอร่อยใน Café Dior ที่ตกแต่งอย่างดีด้วยศิลปะการจัดวางสามมิติแสนอ่อนช้อยจากไม้ไผ่ล้วน อันถ่ายทอดเสน่ห์รื่นรมย์จากอาณาจักรพรรณพฤกษา ดอกไม้ และนกน้อยในงานพิมพ์ลาย ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ในคาเฟ่นี้เป็นผลงานของ ‘ศรัณย์ เย็นปัญญา’ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำสตูดิโอ 56 (56thStudio)

แน่นอนว่าพูดถึงคาเฟ่ นอกจากบรรยากาศชวนผ่อนคลายแล้ว ของหวานและเครื่องดื่มก็เป็นส่วนสำคัญที่สุด Dior จึงได้จับมือกับ Mauro Colagreco เชฟระดับสามดาวมาช่วยรังสรรค์เมนูจากวัตถุดิบประจำถิ่นอาเชียอาเนย์ เช่น เตยหอม, มะกรูด, มะนาว, มะลิ, ดอกส้มซ่าม กุหลาบ และลิ้นจี่ ให้กลายเป็นเค้ก พาย และค็อกเทลหลากรส ที่ควรค่าต่อการเป็น “โภชนศิลป์ชั้นสูง” หรือ Haute-Gastronomie เพราะการตกแต่งขนม และเครื่องดื่มเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยความประณีต งดงามเหนือคำบรรยาย

Mauro Colagreco ได้กล่าวความรู้สึกหลังจากได้ร่วมงานกับ Dior ครั้งนี้ว่า “ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมกับการเปิดตัว Café Dior ภายใน Dior Gold House ใจกลางกรุงเทพมหานคร นี่เป็นโอกาสอันหาได้ยากมากสำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมวิสัยระหว่างศิลปะทางการตดัเยบ็ของห้องเสื้อชั้นสูงกับศาสตร์แห่งการปรุงอาหารตามวิถีโภชนศิลป์ชั้นสูง ถึงแม้จะเป็นสองวิชาชีพต่างสาขา กระนั้นกลับมีบรรทัดฐานร่วมจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความประณีต พิถีพิถันทางงานฝีมือ เพื่อให้ช่างศิลป์ แต่ละแขนงได้แสดงออกถึงพรสวรรค์ หรือภูมิปัญญาของตนผ่านกระบวนการอันสลับซับซ้อน ซึ่งต่างต้องอาศัยการใช้เวลาเป็นสำคัญ เหนืออื่นใด ความตระหนักรู้ หรือความเขา้ใจอย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญในการสืบสานความต่อเนื่องให้แก่บรรดาทักษะ ความชำนาญเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญอันจะขาดเสียมิได้ในการก้าวสู่จุดสูงสุดของความเป็นเลิศ”


Cr. Courtesy of Dior

เผยทริค 'ลดพุงยื่น' สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม

เผยทริค ‘ลดพุงยื่น’ สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม

Alternative Textaccount_circle
เผยทริค 'ลดพุงยื่น' สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม
เผยทริค 'ลดพุงยื่น' สูตรแพทย์แผนจีน จบอาการตัวบวมของสายดื่ม

สายชิล สายจิบ สายดื่มแอลกฮอล์โดยเฉพาะเบียร์เพื่อผ่อนคลาย แก้เบื่อเหงา หรือเพื่อสังสรรค์ในทุกเทศกาลเป็นประจำกันบ้าง แต่เมื่อพอดื่มติดต่อกันไปสักระยะ หน้าท้องกลับเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตัวบวมเอาๆ พุงก็เริ่มยื่น ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือคุมอาหารยังไง พุงก็ยังไม่ยุบ จนเริ่มกลายเป็นปัญหาหนักอก แต่ปัญหานี้แก้ไม่ยาก อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า การดื่มเบียร์ทำให้น้ำหนักขึ้นได้มาก เนื่องจากเบียร์เกิดมาจากการหมักมอลท์ อาจจะมีส่วนผสมจาก ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ตามแต่แหล่งที่ผลิต จะเห็นได้ว่าส่วนผสมล้วนแต่เป็นพืชในกลุ่มที่มีแป้งสูงทั้งสิ้น เมื่อได้ผลผลิตเป็นเบียร์ออกมาจึงมีแคลอรี่ที่สูงมาก ซึ่งเทียบเท่าน้ำอัดลมกันเลยทีเดียว และยิ่งดื่มเบียร์ก็ยิ่งกระตุ้นกระเพาะให้หลั่งน้ำย่อย จึงทำให้อยากอาหารมากขึ้น น้ำหนักจึงยิ่งขึ้นไปกันใหญ่

ทางแพทย์จีน มองว่าเบียร์เป็นเครื่องดื่มมีฤทธิ์เย็นสูงมาก เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะทำลายม้าม หรือระบบการย่อยอาหารและระบบการเผาผลาญให้แย่ลง หากยิ่งชอบดื่มเบียร์เป็นประจำ นานวันเข้า จะเกิดการสะสมของธาตุเย็นขึ้นในกระเพาะอาหาร ทำให้มีอาการท้องอืด แน่นท้อง เหนื่อยง่าย รู้สึกตัวหนักๆ มึนศีรษะง่ายขึ้นมาได้ และยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย อ้วนง่าย รู้สึกตัวบวม หน้าบวม และพุงยื่นออกมา กลุ่มอาการนี้เกิดจากการมีความเย็นและความชื้นสะสมในร่างกายมาก ดังนั้น วิธีการแก้จึงง่ายๆ เพียงแค่กำจัดความชื้นและบำรุงม้ามให้แข็งแรงมากขึ้น อาการท้องอืด แน่นท้อง รู้สึกหน้าบวม ตัวบวมง่ายก็จะหายไปในพริบตา

ในขั้นต้นแนะนำให้ใช้ น้ำขิง ต้มลูกเดือยกับถั่วแดง จะช่วยแก้อาการเหล่านี้ได้ในเบื้องต้น เนื่องจากน้ำขิง มีฤทธิ์ช่วยอุ่นกระเพาะอาหาร ขับลม ลดอาการท้องอืดได้ดี ส่วนลูกเดือยและถั่วแดง ช่วยขับความชื้น ลดอาการบวมได้ เมื่อรับประทาน 3 อย่างนี้ควบคู่กัน จะช่วยฟื้นฟูระบบการย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญ ลดอาการบวมทั้งใบหน้า หน้าท้อง ลำตัวได้เป็นอย่างดี

แต่หากใครที่มีอาการค่อนข้างมาก แนะนำให้พบแพทย์จีนเพื่อใช้การรักษาอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดความแข็งแรงมากขึ้น ด้วยวิธีการใช้เข็มขนาดเล็กประมาณเส้นผม ปักไปตามจุดต่างๆ บนร่างกาย ร่วมกับการรมยา ซึ่งจะเป็นการรมยาเฉพาะจุด ทำให้เกิดความอุ่นร้อนเข้าสู่ภายใน จะช่วยกระตุ้นให้ระบบการย่อยอาหาร และระบบเผาพลาญพลังงานเดิมที่เคยอ่อนแอ ให้เริ่มฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงดังเดิม หรือหากใครที่กลัวและไม่ชอบการฝังเข็ม หมอจะปรับการรักษาโดยใช้การรมยาร่วมกับการทานยาจีนควบคู่ ก็จะช่วยบรรเทาอาการและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ใช้วิธีไหนในการรักษาจะขึ้นอยู่กับระดับอาการที่เป็น และพื้นฐานร่างกายของแต่ละบุคคลร่วมกับวิจารณญาณของแพทย์แต่ละท่าน

การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น แนะนำให้ดื่มในปริมาณน้อยร่วมกับออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เพราะการการออกกำลังกายมีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและระบบน้ำเหลือง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดอาการบวมน้ำได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าเพียงปฏิบัติตามวิธีง่ายๆ ในข้างต้นเท่านี้ ก็จะมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรง สามารถปาร์ตี้ได้ในทุกเทศกาล หายเบื่อ เหงา เศร้าเซ็ง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดปีแล้ว

ข้อมูล: พจ.ณัฐธยาน์ เฮงอุดมสวัสดิ์ (พจ.423) แผนกแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลนวเวช
ภาพ: Pexels


ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้โยโย่ ไม่อันตรายต่อร่างกาย

account_circle
ลดน้ำหนัก
ลดน้ำหนัก

ภาวะโยโย่ (Yoyo Effect) เป็นปัญหาที่มักพบหลังลดน้ำหนัก เพราะเกิดจากการลดน้ำหนักด้วยวิธีผิด ๆ เช่น อดอาหาร ใช้ยาลดความอ้วน ทำให้น้ำหนักขึ้นมากกว่าที่เคยลดได้ และกว่าจะลดน้ำหนักลงอีกครั้งได้ก็ยากกว่าเดิม แล้ววิธีลดความอ้วนไหนบ้างที่ไม่โยโย่ มาดูพร้อม ๆ กันได้เลย!

1. รับประทานให้ครบมื้อ ทานสารอาหารให้ครบถ้วน

วิธีลดน้ำหนัก

การทานอาหารให้ครบมื้อเป็นวิธีช่วยลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักให้คงที่อย่างยั่งยืน สามารถเริ่มจากการปรับอาหารที่ทานในแต่ละมื้อให้เหมาะสม โดยในหนึ่งวันควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายรับสารอาหารเพียงพอ และสามารถเผาผลาญพลังงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีที่หลายคนมักใช้ลดน้ำหนักก็คือการอดอาหาร เพราะคิดว่าการอดอาหารเป็นวิธีลดน้ำหนักที่เห็นผลลัพธ์เร็ว และเมื่ออดอาหารแล้วจะช่วยให้น้ำหนักลดลงตามเป้าที่ตั้งไว้ไวขึ้น

ถึงแม้ว่าการอดอาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดเร็วกว่าหลาย ๆ วิธีก็จริง แต่สิ่งที่หายไปพร้อมกับไขมันส่วนเกินแล้ว ก็คือมวลกล้ามเนื้อที่หายไปด้วยถึงหนึ่งในสี่ของน้ำหนักที่ลดลง ทำให้ประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญแย่ลง เมื่อกลับมาทานอาหารตามปกติก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วผิดปกติหรือเกิดภาวะโยโย่นั่นเอง

2. ระวังปริมาณน้ำตาลให้ดี

อาหารที่ทานในแต่ละมื้อมักมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ จากพืช ผลไม้ นม หรือน้ำตาลที่เติมเข้าไปในเครื่องดื่ม ขนม และอาหารแปรรูปต่าง ๆ หากไม่ทันได้สังเกตจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณมากเกินกว่าที่ต้องการในแต่ละวันโดยไม่รู้ตัว โดยในหนึ่งวันควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา

โดยปกติแล้วเครื่องดื่มชนิดชงเช่น กาแฟเย็น ชาเย็น หรือโกโก้เย็นมักมีน้ำตาล 10-15 ช้อนชา หรือ 40-60 กรัมต่อแก้ว  ซึ่งเท่ากับพลังงานจากข้าวสวยประมาณ 3-4 ทัพพีเลยทีเดียวสำหรับน้ำผลไม้ แม้จะไม่ได้เติมน้ำตาล แต่ก็มีปริมาณน้ำตาลสูงเนื่องจากต้องคั้นมาจากผลไม้ปริมาณมากเพื่อให้ได้น้ำผลไม้เพียง 1 กล่อง 

เมื่อร่างกายรับน้ำตาลเยอะแล้วเผาผลาญไม่หมด น้ำตาลส่วนเกินก็จะกลายเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และรูปร่างเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นจึงควรระวังปริมาณน้ำตาลที่ทานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงลดน้ำหนักหรือไม่ก็ตาม 

3. หมั่นออกกำลังกายลดน้ำหนักให้เป็นกิจวัตร

ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก

การออกกำลังกายลดน้ำหนักเป็นวิธีที่ดีต่อร่างกายมาก นอกจากการออกกำลังกายแบบแอโรคบิค เช่น การวิ่งหรือว่ายน้ำแล้ว การออกกำลังกายด้วยแรงต้าน เช่นการยกน้ำหนักก็สำคัญเช่นกัน เพราะนอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังมีส่วนช่วยสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ร่างกายดึงไขมันที่ถูกสะสมมาใช้งานมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างเข้ารูป ดูกระชับมากกว่าเดิม 

โดยทั่วไปควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที ส่วนผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรออกกำลังกายที่มีความเหนื่อยปานกลางอย่างน้อย 150 ถึง 300 นาทีต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายที่มีความเหนื่อยสูง 75 ถึง 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อให้น้ำหนักลดได้มากขึ้น ป้องกันภาวะโยโย่ และเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย

สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเยอะสามารถเริ่มต้นจากการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างการเดิน ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำก่อน แล้วค่อย ๆ เริ่มปรับวิธีการออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพราะการออกกำลังกายหนักทันทีอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้

4. ปรับเวลารับประทานอาหารให้เหมาะสม

แม้ว่าจะทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ทานของจุบจิบ ไม่ทานน้ำหวาน แต่ถ้าทานผิดเวลา เช่น ไม่ทานมื้อเช้าแต่จัดเต็มมื้อเย็น หรือทานมื้อดึกใกล้ ๆ เวลานอน ก็อาจทำให้น้ำหนักไม่ลดลงเท่าที่ควร

หากต้องการลดน้ำหนักจึงควรทานอาหารมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น โดยในส่วนของมื้อเช้าควรทานหลังตื่นนอนภายใน 2 ชั่วโมง และมื้อเย็นควรทานอาหารที่ให้พลังงานต่ำก่อนเวลาเข้านอนอย่างต่ำ 2 ชั่วโมง

สำหรับผู้ที่อยากใช้วิธี intermittent fasting (IF) วิธีนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน โดยเลือกช่วงเวลาทานอาหาร (feeding) และอดอาหาร (fasting) ตามการใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง โดยสูตร IF จำกัดเวลาทานอาหารที่มักใช้คือ อดอาหาร 16 ชั่วโมง และรับประทาน 8 ชั่วโมง หรือเพิ่มเวลาอดอาหารจนถึง 20 ชั่วโมงเลยก็ได้เช่นกัน

5. อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลดน้ำหนัก เพราะช่วงเวลาที่นอนหลับ ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายรวมถึงระบบเผาผลาญจะฟื้นตัวขึ้น แต่ถ้าหากนอนหลับไม่พอ ระบบเผาผลาญร่างกายจะทำงานแย่ลง 

ยิ่งไปกว่านั้นการนอนหลับไม่เพียงพอยังส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนหลายชนิด เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) จะมีระดับเพิ่มขึ้น  ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) มีระดับลดลง และฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) มีระดับเพิ่มขึ้น  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนต่างๆนี้ทำให้มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น และลดการใช้พลังงานของร่างกาย ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นได้

ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และไม่ควรนอนดึกมากจนเกินไปเพื่อให้ร่างกายตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นตลอดวัน

6. ต้องดื่มน้ำให้มากพอ

น้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายและการลดน้ำหนัก ซึ่งปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิของอากาศ ระดับการออกกำลังกาย โดยเฉลี่ยแนะนำดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว (ประมาณ 2 ลิตร) 

สำหรับการดื่มน้ำเพื่อช่วยลดน้ำหนักสามารถทำได้โดยดื่มน้ำ 500 มิลลิลิตรก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที และการดื่มน้ำเปล่าทดแทนเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง เช่น น้ำหวาน ชานมไข่มุก หรือน้ำชงอื่น ๆ ก็จะช่วยลดพลังงานส่วนเกินจากเครื่องดื่มเหล่านี้ได้

สรุปลดน้ำหนัก สุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคภัย

การลดน้ำหนักช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย และยังช่วยให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีน้ำหนักเยอะจึงควรลดน้ำหนักให้อยู่ในระดับตามเกณฑ์เสมอ และที่สำคัญการลดน้ำหนักจะต้องลดอย่างถูกวิธีเพื่อให้น้ำหนักอยู่ตัว ไม่กลับมาโยโย่หรือน้ำหนักขึ้นเยอะกว่าก่อนที่จะเริ่มลดน้ำหนักเสียอีก


หวัง อี้ป๋อ  เปิดตัวแคมเปญใหม่ Jimmy Choo คอลเล็คชั่น DIAMOND X 

account_circle

หวัง อี้ป๋อ นักแสดง นักร้อง และนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์มืออาชีพผู้มากความสามารถ แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ JIMMY CHOO เปิดตัวแคมเปญใหม่ รองเท้าผ้าใบ รุ่น DIAMOND X ผ่านเลนส์และฝีมือของช่างภาพอย่าง Hekaituoyi ณ เมืองปักกิ่ง

 “Diamond X” เป็นรองเท้าผ้าใบแบบยูนิเซ็กซ์ที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการของคอลเล็คชั่นรองเท้าผ้าใบจาก Jimmy Choo ด้วยพื้นรองเท้าดีไซน์พิเศษที่ดูโดดเด่น พร้อมประดับด้วยพื้นยางรูปทรงเสมือนเพชรหลากมิติอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ฝังอยู่ในพื้นยางแบบสปอร์ต ผสานหนังจากเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มความนุ่มนวล และโดดเด่นด้วยรายละเอียดที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดกีฬาสปอร์ต อีกทั้งยังมีแผ่นส้นรองเท้าสีเงินที่มีโลโก้ขนาดใหญ่สะดุดตา รวมทั้งรูร้อยเชือกโลหะ และเชือกรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ขณะที่ ซับในรองเท้าที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ช่วยเพิ่มความนุ่มสบายให้กับเท้า พร้อมด้วยการบุเสริมพื้นรองเท้าเพื่อความสบายสูงสุดยามสวมใส่ ทำให้ Diamond X เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกโอกาส สามารถจับคู่ได้อย่างลงตัวกับชุดสไตล์ทางการหรือแนวลำลองได้อย่างง่ายดาย


11 ลุคเด่นของเหล่าเซเลบริตี้บนพรมแดง ‘Golden Globes 2025’

Alternative Textaccount_circle

คับคั่งด้วยเซเลบริตี้เช่นเคยสำหรับงาน Golden Globes 2025 หรือที่รู้จักกันในนามงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำประจำปีซึ่งมีความหมายต่อผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์

Cynthia Erivo และ Ariana Grande

โดยหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ นั่นคือช่วงเดินพรมแดงที่เราจะได้เห็นเหล่าเซเลบริตี้โดดเด่นในคอสตูมหลากหลายแบรนด์ดัง อาทิ Emma Stone ที่เปลี่ยนลุคด้วยทรงผมใหม่ ‘Pixie cut’ มาพร้อมเดรสสีแดง อีกทั้งยังมี Zendaya ในเดรสสีแสดตกแต่งด้วยเครปขนาดใหญ่ ขณะที่ Cate Blanchett ปรากฏตัวในเดรสสีเหลืองทอง ประดับด้วยคริสตัล และ Cynthia Erivo ที่มาในลุคเซ็กซี่ปนหวานกับเดรสลายพริ้นต์ดอกไม้กับดีไซน์แหวกอก ทั้งหมดเป็นคอสตูมตัดพิเศษจาก Louis Vuitton

Selena Gomez

ต่อมาเป็น Ariana Grande ที่ฟื้นคืนชีพเดรสเกาะอกสีเหลืองพาสเทลในคอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring/Summer 1966 จาก Givenchy รวมถึงเดรสเกาะอกลายเสือดาวจาก Balmain ที่จับคู่มากับสร้อยคอไอคอนิกประจำ Cartier ในลุคของ Elle Fanning ขณะที่ Anya Taylor-Joy มาในเดรสซาตินสีชมพูพาสเทลจาก Dior และเพิ่มความอลังการด้วยสร้อยคอ Tiffany & Co. อีกหนึ่งเซเลบริตี้ที่ได้รับการพูดถึงไม่แพ้กันนั่นคือ Selena Gomez ที่ปรากฏตัวในเดรสปาดไหล่สีฟ้าจาก Prada

ในส่วนนักแสดงระดับตำนาน Michelle Yeoh มาในเดรสสีดำที่โดดเด่นด้วยแผงคอและกระโปรงทรงเมอร์เมดจาก Balenciaga ขณะที่ Angelina Jolie เลือกเป็นคอสตูมเล่นแสงแฟลชด้วยเดรสปักเลื่อมจาก McQueen และปิดท้ายด้วย Cara Delevingue ที่ปรากฏตัวในเดรสคล้องคอสีฟ้าเมทัลลิคจาก Gucci


ภาพ: Getty Images

โบว์ – ณชา จึงกานต์กุล ควงคู่ เอก – ณัฐพันธ์ พรศรีฤทัย ฉลองสมรสพระราชทาน ท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูและอบอุ่น

account_circle

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา โบว์ – ณชา จึงกานต์กุล และ เอกณัฐพันธ์ พรศรีฤทัย ได้จัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสพระราชทาน ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมเดอะริทซ์-คาร์ลตัน ณ วัน แบงค็อก หลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสังข์อันเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตคู่

งานเลี้ยงฉลองในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากแขกคนสำคัญในหลากหลายวงการที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว อาทิ แพรทองธาร ชินวัตร, ร.ต.อ.หญิง บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล, แดน เหตระกูล – แพรดาว พานิชสมัย เหตระกูล และผู้ร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง งานมงคลสมรสนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ทั้งนี้ คู่บ่าวสาวและครอบครัวได้ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมเฉลิมฉลองวันสำคัญนี้ด้วยใจจริง


ประกาศรายชื่อผู้โชคดี แจกของขวัญส่งท้ายปี ‘Praew X’mas Gift 2024’

Alternative Textaccount_circle

Praew X’mas Gift! ซานตาแพรว มอบความสุขให้แฟนๆ แจกของขวัญส่งท้ายปี มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาท

รายชื่อผู้โชคดี ‘Praew X’mas Gift 2024’

1.ลำโพง Mania จาก Devialet มูลค่า 39,000 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • สุทัตตา เหมือนเหลา    

2.ลำโพง Stanmore III และหูฟัง Motif A.N.C. จาก Marshall มูลค่า 25,980 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • Saranya Tirathammawong

3.บัตรที่พัก 1 คืน ห้อง Ayutthaya Suite พร้อมอาหารเช้า และเซต Afternoon Tea สำหรับ 2 ท่าน จาก 137 Pillars Bangkok มูลค่า 24,130 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • Farrung Dongho
  • กมลวรรณ ทองดีแท้

4.เซตสกินแคร์ มูลค่า 6,600 บาท / จำนวน 6 รางวัล      

  • Mai Kritthiya
  • ปิยพัชร์ มากมี
  • Chanita Butrat
  • Riana Shietra
  • Palmmie Palm   
  • Instagram @rungarunleeyavanich                                                  

5. น้ำหอม Chérie จาก Kate Spade มูลค่า 5,200 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • Natty Yayadonut

6. น้ำหอม Le Sel d’Issey จาก Issey Miyake มูลค่า 4,400 บาท / จำนวน 1 รางวัล

  • FFang Peam

7. แว่นตาชั้นนำจาก EssilorLuxottica มูลค่ากว่า 3,000 บาท / จำนวน 6 รางวัล

  • Yuwarin Thanakanya
  • Janista Tummasanongkoon
  • Ben Chanissa
  • Kittikhun Isaradest
  • Wutthichai Puengman
  • Instagram @tannyview

8. บัตรรับประทานอาหารจาก KFC มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • Kanokwan Singto
  • Mai Love King

9. บัตรรับประทานอาหารจาก MK Restaurants มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • X Tra Tee
  • Thanabordin Skulareemitr

10. บัตรรับประทานอาหารจาก Salad Factory มูลค่า 2,500 บาท / จำนวน 2 รางวัล

  • สมจิตร เกศมุกดา
  • An Ann Anne

ผู้โชคดีสามารถติดต่อยืนยันตัวตนเพื่อรับของรางวัลได้ที่ เบอร์โทร 0-2422-9999 ต่อ 4457 (คุณจุ๊กจิ๊ก)

– ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกด้วยกันนะคะ –


กลับมาพร้อมความสนุกครั้งใหม่NCT 127-THE MOMENTUM

Alternative Textaccount_circle

SM True ก้าวต่อไปสู่การสร้างปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ในปี 2568 พร้อมมุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงขับเคลื่อนแบบไร้ขีดจำกัดของ NCT 127 เจ้าของสถิติศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENTที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทย และวงที่คว้ารางวัลใหญ่ Overall Grand Prize (Daesang) และ the Best Prize(Choewoosoosang)

สำหรับสาขาคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดจากงาน EDAILY Culture Awards ด้วยเวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนหน้านี้อย่าง ‘NEO CITY – THE UNITY’ โดยพวกเขาจะกลับมาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์พร้อมกำหนดความสนุกครั้งใหม่ตามแบบฉบับของตัวเอง ด้วยเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 4 ในประเทศไทย NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’ (เอ็นซีที วันทูเซเว่น โฟร์ท ทัวร์ ‘นีโอ ซิตี้ : แบงค็อก – เดอะ โมเมนตัม’) ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 19:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 19:00 น. ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม (THUNDERDOME STADIUM)

สำหรับชื่อทัวร์ ‘THE MOMENTUM’ (เดอะ โมเมนตัม) สื่อถึงพลังหรือแรงขับเคลื่อนของบางสิ่งที่กำลังมุ่งไปข้างหน้า และสะท้อนถึงพลังงานอันไร้ขีดจำกัดของ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ในการสานต่อเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง รวมถึงความทะเยอทะยานที่จะก้าวไปสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ขึ้นผ่านเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 4 นี้ เตรียมพุ่งชนเป้าหมายแรกด้วยความร้อนแรงที่เกินต้านจนบัตรหมดเกลี้ยง ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 18 และ 19 มกราคมนี้ พร้อมเร่งเครื่องเต็มกำลังไปสู่ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 14 ภูมิภาคในเอเชีย และอเมริกา

NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ถือเป็นศิลปินผู้บุกเบิกนวัตกรรมดนตรีแนว Neo (นีโอ) หรือแนวใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมแผ่ขยายอิทธิพลให้กับเค-ป๊อป ผ่านคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เพียงแค่ฟังก็จะรู้ได้ทันทีว่าคือ เพลงของ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) เช่น เพลงแดนซ์ ฮิปฮอปนำสมัย ‘영웅 (英雄; Kick It)’, เพลงเออร์เบิน โซล ฮิปฮอปกับจังหวะหนักหน่วงที่ติดหู ‘Punch’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์ที่มีเสียงขลุ่ยสุดอิมแพ็ค ‘Sticker’, เพลงอาร์แอนด์บี แดนซ์แสนเศร้า ถ่ายทอดการประสานเสียงและเสียงผิวปาก ‘Favorite (Vampire)’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์อันทรงพลัง ‘질주 (2 Baddies)’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์สุดดุดัน ‘Ay-Yo’, เพลงแดนซ์จังหวะแอโฟร ‘Fact Check (불가사의; 不可思議)’ ฯลฯ ล่าสุดกับเพลงแนวโอลด์สคูล ฮิปฮอป ‘삐그덕 (Walk)’ ที่สื่อถึงความมั่นใจว่า “พวกเขาจะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่เดินตามรอยใคร” ยืนยันถึงจุดยืนที่ไม่มีใครเทียบได้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา NCT 127 ได้พิสูจน์ศักยภาพผ่านกิจกรรมระดับโลกมากมาย รวมถึงการทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกภายใต้แบรนด์ ‘NEO CITY’ (นีโอ ซิตี้) ที่ตอกย้ำถึงเอกลักษณ์ของพวกเขาอย่างโดดเด่นและประสบความสำเร็จถล่มทลาย โดยเฉพาะเวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนหน้านี้ ‘NEO CITY – THE UNITY’ (นีโอ ซิตี้ – เดอะ ยูนิตี้) ที่ผนวกทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการแสดงอันทรงพลัง การกำกับที่ยอดเยี่ยม และเวทีสุดตระการตา จนคว้ารางวัลใหญ่ Overall Grand Prize (Daesang) และ the Best Prize (Choewoosoosang) สำหรับสาขาคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดจากงาน EDAILY Culture Awards อีกทั้งยังได้รับการยกย่องในฐานะ ‘God of Performance’ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสร้างสถิติอันน่าภาคภูมิใจ กับการขึ้นแท่นเป็นศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT (เอสเอ็ม เอนเทอร์เทนเมนต์) ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทย โดยเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ ‘NEO CITY – THE MOMENTUM’ (นีโอ ซิตี้ – เดอะ โมเมนตัม) กำลังมุ่งหน้ามามอบประสบการณ์สุดพิเศษแบบไม่เหมือนใคร พาทุกคนทะยานสู่จุดสูงสุดของความสนุก พร้อมร่วมสร้างเส้นทางแห่งตำนานบทใหม่ จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของพวกเขา

เปิดจำหน่ายบัตรรอบสมาชิก “NCTzen 127” Membership (GL) Pre-Sale ในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 19:00 น. – 23:59 น. เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com

สวยละมุน "มินฮโยริน" ถูกยกให้เป็น 'ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก'

สวยละมุน ” มินฮโยริน ” ถูกยกให้เป็น ‘ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก’

Alternative Textaccount_circle
สวยละมุน "มินฮโยริน" ถูกยกให้เป็น 'ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก'
สวยละมุน "มินฮโยริน" ถูกยกให้เป็น 'ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก'

นักแสดงหญิง ” มินฮโยริน ” ภรรยาคนสวยของ “แทยัง BIGBANG” คว้าตำแหน่ง ‘ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชุดฮันบก’ ครองใจแฟนๆ ทั่วโลก ด้วยความงามอันน่าทึ่งในชุดฮันบกเกาหลีแบบดั้งเดิม

ในภาพถ่าย มินฮโยริน ดูสง่างามและสงบราวกับรูปปั้น ชวนให้นึกถึงภาพการถ่ายแบบชุดฮันบก โดยมีฉากหลังเป็นบ้านฮันอก (บ้านเกาหลีดั้งเดิม) ชุดของเธอผสมผสานระหว่างสุนทรียศาสตร์คลาสสิกกับความรู้สึกทันสมัย ​​ซึ่งทำให้ชาวเน็ตต่างชื่นชม โดยเธอสวมเสื้อคุลมด้านบนสีขาวสะอาดตา (เสื้อคลุมแบบเกาหลีดั้งเดิม) คู่กับชิมา (กระโปรงเกาหลี) สีม่วงเข้ม สร้างลุคที่เน้นย้ำถึงมรดกอันล้ำค่าของแฟชั่นเกาหลีดั้งเดิมด้วยรายละเอียดดอกไม้อันละเอียดอ่อนบนชุดของเธอ ทำให้ดูมีเสน่ห์สวยงามเหนือกาลเวลา ในขณะที่ทรงผมเกล้าขึ้นอย่างประณีตประดับด้วยเครื่องประดับผมแบบดั้งเดิมยิ่งทำให้งดงามอ่อนช้อยยิ่งขึ้น

Photo: hyorin_min


‘สวัสดีปีงู เช็กกันว่า ดวงใครจะได้เป็นเมียงู หรือพบหัวงู เช็กเลย!!!’ ดวงรายสัปดาห์ 6-12 มกราคม 2568

Alternative Textaccount_circle

‘สวัสดีปีงู เช็กกันว่า ดวงใครจะได้เป็นเมียงู หรือพบหัวงู’

ดวงรายสัปดาห์ 6-12 มกราคม 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่สองของปี ชาวอาทิตย์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ศิลปิน ดนตรี วงการบันเทิง นับว่าโดดเด่นมาก มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงนะเนี่ย นอกจากนั้นคุณยังมีเกณฑ์ได้ร่วมหุ้นร่วมทุนทำธุรกิจหรือร่วมงานกับเพื่อนสนิทผู้หญิง หากไม่อยู่ในโหมดงานเดิม ก็เป็นงานหรือธุรกิจที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ซึ่งมีโอกาสที่จะโกอินเตอร์ได้ด้วยนะ

การเงิน  :  จริงๆ คุณเฮงๆ ปังๆ รับต้นปีเลยล่ะ แต่หากคิดจะลงทุนอะไร ควรทำด้วยตัวเองดีกว่าร่วมหุ้นกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนหรือญาติผู้หญิง เพราะคาดว่าคุณจะไม่เหลือเงินเก็บเลย ได้มาเท่าไหร่ก็ใช้กันเกินงบบานเลย

ความรัก  :  ชาวอาทิตย์สัปดาห์นี้มีโอกาสแปลงกายเป็นเมียงูต้อนรับปีงูกันเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะถูกอกถูกใจถูกตากับเพศเดียวกันด้วย จนมีโอกาสเบื่อหน่ายคนใกล้ตัวหรืออยู่ๆ ก็คุยกันไม่รู้เรื่องซะงั้น    คนโสด  เสน่ห์มาเต็มๆ ค่ะสำหรับชาวอาทิตย์ แต่ใช่ว่าใครมาก็คุยด้วยหมดนะ สำหรับสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ว่าคุณจะเอนเอียงมาที่เพื่อนผู้หญิงใกล้ๆ ตัวมากกว่าเพื่อนใหม่ค่ะ

สุขภาพ  :  ยังติดอยู่กับควันหลงเทศกาลเฉลิมฉลองอยู่ เพราะเป็นไปได้ที่คุณจะเอ็นจอยจนน้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว นอกจากนั้นไปเที่ยวที่ไหนก็ควรให้ความสำคัญกับความสะอาด ในเรื่องของอาหาร ที่พัก รวมถึงสถานที่สาธารณะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะติดเชื้อ รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะไม่สบาย แพ้อากาศ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  ร้อนแรงตั้งแต่ต้นปีเลย สำหรับชาวจันทร์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้าง จริงๆ แล้วคุณมีโอกาสที่จะบุกเบิกเริ่มต้นโครงการใหม่ๆ แล้วก็ไปได้ดีด้วย แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก นอกจากนั้นยังพะบู๊ ฟาดงวงฟาดงาเขาไปทั่ว ซึ่งการตัดสินใจที่รวดเร็วและขาดสติ จนมีความเสี่ยงสูงที่บริวารจะไม่ซื่อสัตย์ ส่วนคุณก็ถูกหมั่นไส้ เผลอเมื่อไหร่ไม่พ้นถูกแทงข้างหลัง หรือถูกเลื่อยขาเก้าอี้แน่ ทางที่ดีควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากๆ  เพื่อป้องกันการตัดสินใจผิดพลาด

การเงิน  :  หากสัปดาห์นี้คุณวางแผนว่าจะขายอสังหาริมทรัพย์ หรือผ่อนคอนโดฯ ผ่อนบ้าน ก็ต้องระวังนิดหนึ่ง เพราะมีโอกาสที่เงินจะไม่พอ หรือไม่ก็ถูกโกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณซื้อไว้เก็งกำไร มีความเสี่ยงที่จะถูกย้อมแมวขาย  

ความรัก  :   สำหรับชาวจันทร์ผู้น่าเห็นใจ ปีใหม่แล้วก็ยังคงสลัดปัญหาเรื่องมือที่สามได้ไม่หลุดจากตัว ก็อย่ามัวทำงานเพลินนะคะ เพราะมีโอกาสที่เธอหรือเขาจะเข้ามานอนเล่นอยู่ในบ้าน แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะโนสนโนแคร์  คนโสด  เช่นกันค่ะ ปีที่แล้วต้องทนกับมือที่สามอย่างไร ปีนี้ก็ยังตามมาหลอกหลอนเช่นกัน แม้คุณจะพยายามหาทางออกด้วยการทำงานหรือไม่แคร์ใดๆ แต่ก็ยังอดสะเทือนใจไม่ได้  

สุขภาพ  :   ต้องระวังโรคร้ายที่มาพร้อมความเครียด ความกดดัน ความวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสมองและหัวใจ นอกจากนั้นยังต้องระวังได้รับบาดเจ็บจากของมีคมด้วย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   สำหรับชาวอังคารที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจทางด้านการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ หรือให้คำปรึกษาและคำแนะนำในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรับราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ ฯลฯ  นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คุณจะได้บุกเบิกเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ หากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต้องแลกมาด้วยกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็งฉันใด ชาวอังคารก็ฉันนั้น ต้องพยายามฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคที่จะมีเข้ามาไปให้ได้ แต่ต้องบอกว่า ต้องรอจังหวะและโอกาสให้ดี เพราะทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ดังนั้น หากอะไรที่ยังไม่แน่ใจก็ควรนิ่งไว้ก่อน   

การเงิน  :  เหนื่อยนะเนี่ยกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท แต่ก็นับว่าสัปดาห์นี้แต้มบุญคุณดี เพราะมีโชคลาภเข้ามาอย่างมั่นคงและมีเข้ามาไม่ขาด รวมถึงทางด้านลงทุนด้วย ก็มีโอกาสหมดไปกับการเลี้ยงดูปูเสื่อลูกน้อง เพื่อนฝูง และมิตรสหาย อย่างไม่ตั้งใจด้วยสิ

ความรัก  :   โรแมนติกตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอังคารที่มีคู่ครองอ่อนวัยกว่าด้วยแล้ว สัปดาห์นี้ออดอ้อนกันฉ่ำๆ คนโสด หากใครที่กำลังเบื่อหน่ายกับความรัก สัปดาห์นี้มีลุ้นได้แฟนเด็ก นอกจากหน้าตาดีแล้วการงานยังรุ่ง แถมจิตใจดีอีกต่างหาก ไว้ใจฝากชีวิตไว้ด้วยได้ ไม่ไก่กา

สุขภาพ  :   สัปดาห์นี้แม้คุณจะพยายามดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดีอย่างไร แต่ก็ยังมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ เช่น เส้นเลือดตีบตัน หรือไขมันอุดตันเส้นเลือด รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง จะปวดหลังค่อนข้างมาก  นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกอีกด้วย

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   เข้าสู่สัปดาห์ที่สองของปี ชาวพุธก็ยังคงอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับราชการ รัฐวิสาหกิจ การเงิน การธนาคาร ประกัน วงการแพทย์และสาธารณสุข หากคุณเป็นคนที่ชอบทำงานที่ใดที่หนึ่งยาวๆ แล้วล่ะก็ นับว่าเข้าทาง เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้รับการดูแลอย่างดีจากผู้ใหญ่ผู้หญิงที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ได้ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน

การเงิน  :  เป็นไปได้ว่าคุณจะได้งานดีเงินงามจากผู้บังคับบัญชาและทีมงานที่ดี หากคุณเป็นแม่ก็มีโอกาสได้เงินค่าขนมจากลูก แต่หากคุณเป็นลูกก็มีโอกาสที่จะให้เงินแม่ในวาระโอกาสปีใหม่ แต่ก็อย่าหลงเชื่อคนง่าย เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกหลอก

ความรัก  :  สำหรับสัปดาห์วันเด็กแบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่คุณจะได้อยู่ท่ามกลางเด็กๆ หรือไม่คุณนั่นล่ะ ที่ต้องเป็นเด็กไปดูแลผู้ใหญ่ นับเป็นสัปดาห์ที่มีความสุขได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว    คนโสด  สัปดาห์นี้อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องความรักเลยค่ะ เพราะดูเหมือนคุณจะอยู่ในอ้อมอกของผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะแม่ หรือปู่ย่าตายายมากันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยค่ะ ส่วนความรักยังต้องดูกันต่อไปแบบเงียบๆ ด้วย

สุขภาพ   :  มีความเสี่ยงที่คุณจะเป็นโรคในช่องปากและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นปัญหาลุกลามไปถึงระบบย่อยอาหาร หากเพิ่งผ่าตัดหรือผ่าคลอดก็หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือทำงานหนัก มีความเสี่ยงที่แผลจะได้รับความกระทบกระเทือน

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  นับว่าชาวพฤหัสเริ่มต้นปีแบบฮาร์ดคอร์มากๆ  เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะตัดสินใจทิ้งสิ่งเดิมๆ ไว้กับปีที่แล้ว แล้วเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในปีนี้ โดยมีเงื่อนไขหลักอยู่ที่เรื่องเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในสายราชการ พวกทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ นักบริหาร รวมถึงวงการแพทย์ นับว่าคุณเลือกไม่ผิด เพราะมีโอกาสโดดเด่นมาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความขยันในการฟันฝ่าอุปสรรคและแก้ปัญหาต่างๆ ไปให้ได้ด้วย จึงจะประสบความสำเร็จ สมหวังดังที่ปรารถนาทุกประการ

การเงิน  :  หากสัปดาห์ที่แล้วตกงาน ถังแตก สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะดีขึ้น มีโอกาสที่โชคจะเข้ามาสม่ำเสมอ ด้วยวาสนาและบารมีของคุณเอง แต่ก็ต้องระวัง เพราะก็จะมีเหตุให้คุณต้องเสียเงินเลี้ยงญาติสนิทมิตรสหาย ผู้ใต้บังคับบัญชา

ความรัก  :  หากใครกำลังอกหักรักคุด  ก็ขอให้ทิ้งความทุกข์ไว้กับปีที่ผ่านมา เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้พบรักใหม่ ซึ่งพร้อมไปเสียทุกอย่าง ทั้งตำแหน่งหน้าที่การงาน และหลักฐานบ้านช่อง  คนโสด  เช่นกัน หากใครกำลังอกหักรักคุด ก็ขอให้ทิ้งความทุกข์ไปกับปีเก่า เพราะเร็วๆ นี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับเด็กหนุ่มอนาคตไกล จิตใจดี แถมรวยด้วย

สุขภาพ   :  แม้คุณจะพยายามดูแลรักษาตัวเองดีมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยจากการทำงานหนัก รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา แล้วไม่ธรรมดาด้วย อย่าประมาท

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ขึ้นสัปดาห์ที่สองของปี ชาวศุกร์ยังร้อนแรงได้อีก คุณมีโอกาสบุกเบิกงานหรือธุรกิจใหม่ๆ แบบถึงลูกถึงคน ซึ่งเส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ขณะเดียวกันตกอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่น ทั้งในเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงาน และผลประโยชน์อย่างบ้าคลั่ง เพราะฉะนั้นการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและขาดสติ มีโอกาสที่บริวารจะไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นไปได้ที่งานหรือธุรกิจจะผิดพลาดอย่างไม่น่าเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คุณอึดอัดและร้อนรุ่มจนอยากลาออกวันละสามเวลาเลยทีเดียว

การเงิน  :  จริงๆ คุณมีโชคในเรื่องการลงทุนและทรัพย์สินนะเนี่ย แต่ขอเพียงว่าก่อนจะลงทุนอะไรต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อน เพราะไม่เช่นนั้นคุณมีโอกาสที่จะขาดทุน ถึงขั้นเดือดร้อน เงินไม่พอใช้เลย

ความรัก :  บอกได้คำเดียวว่าร้อนแรงและร้าวลึก เป็นไปได้ว่าจะส่งผลจากความประพฤติของคุณด้วย เพราะมีโอกาสที่จะเกิดรักสามเส้าได้ง่ายๆ แล้วมีความความเสี่ยงที่จะจบไม่สวย สิ่งที่คุณไม่เคยได้ยินก็จะได้ยินตอนนี้ล่ะ  คนโสด  ร้อนแรงรับต้นปีแล้วล่ะ เพราะดูทรงแล้วคุณกำลังคิดจะดับหัวใจชน โนสนโนแคร์แม้ว่าเขาจะมีแฟนแล้วก็ตาม ก็ต้องระวัง เพราะมีโอกาสที่จะเกิดศึกชิงนายขึ้นได้ง่ายๆ

 สุขภาพ  :   ระวังจะบาดเจ็บจากของมีคม หรือจากการทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมีผลมาจากความโกรธแค้น หึงหวง โมโห นอกจากจะเสี่ยงเกิดความรุนแรงแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเป็นโรคเครียด ปวดศีรษะไมเกรน

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   ชาวเสาร์ นอกจากจะยังคงอยู่ในโหมดงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล จิตอาสา มูลนิธิที่ช่วยเหลือสังคมแล้ว สัปดาห์ต้นปีแบนนี้ก็มีโอกาสที่คุณจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานสายบุญ สายกุศล พิธีกรรม เป็นไปได้ที่จะได้ร่วมงานกับบุคคลที่มีบุญบารมี  แต่อย่าประมาทนะคะ เพราะมีความเสี่ยงที่งานหรือธุรกิจบางตัวจะไปต่อไม่ได้ แต่โดยรวมก็นับว่าดี  

การเงิน  :  ก็ยังคงอยู่กับจิตสาธารณะ ใจบุญใจกุศล ซึ่งก็นับว่าคุณไม่ขาดคนอุปถัมภ์ แต่สัปดาห์นี้มีโอกาสที่เงินจะไม่พอใช้

ความรัก  :   มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะเป็นชนวนเหตูสำคัญให้คุณต้องยุติความสัมพันธ์  เป็นไปได้ว่าเหตุมาจากความหึงหวงอย่างออกนอกหน้าของคุณ คนโสด เช่นกันค่ะ มีความเสี่ยงที่ผู้ใหญ่จะไม่ชอบแฟนคุณ แต่อย่างไรคุณก็เลือกที่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า

สุขภาพ   :   ข้ามปีมาแล้ว คุณก็ยังสลัดความอ้วนไม่พ้นจากตัว ทั้งไขมัน เบาหวาน ความดันมารอฉ่ำๆ เลย นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นภูมิแพ้อากาศ หายใจติดขัด

ONE BANGKOK COUNTDOWN CELEBRATION 2025 อลังการงานเคาต์ดาวน์ พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ 30 ล้าน ถึง 5 ม.ค. นี้

Alternative Textaccount_circle

เรียกว่าเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์แห่งปีของ One Bangkok ที่ปีนี้นอกจากจะเปิดตัวอลังการแล้ว ยังจัดงาน Countdown ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ONCE – A Moment in Time, A Lifetime of Memories” เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่ขนทัพศิลปินชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศมาพร้อม 10 โมเมนต์สุดพิเศษ

เปิดฉากด้วย Heartwarming Memories โดย P.O.P ต่อด้วยความสดใสในช่วง Once Upon A Happiness กับ Ink Waruntorn นักร้องสาวเสียงใสที่มาพร้อมกับเพลงฮิตติดหู จากนั้น Jeff Satur ได้พาทุกคนดื่มด่ำไปกับอารมณ์แห่งความรู้สึกที่ไม่มีวันลืมในช่วง Echoes of Emotions ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนจะส่งต่อความโรแมนติกในค่ำคืนพิเศษนี้กับช่วง A Night to Remember โดย Ling & Orm ที่มาขับกล่อมเพลงรักหวานๆ และสร้างโมเมนต์สุดประทับใจให้กับแฟนคลับ 

ความสนุกยังคงดำเนินต่อไปกับ One Rhythm ที่ทุกหัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกันไปกับเสียงเพลงจากดีเจ พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดง Laser และ Projection Mapping บนเวที Time Capsule และบนอาคารต่างๆ ในโครงการ จากนั้นก็ถึงคิวของ BUS because of you i shine ได้พาทุกคนทะยานสู่มิติแห่งความสนุกอันไม่สิ้นสุดในช่วง The Multiverse ตามด้วย The Toys ที่ชวนทุกคนย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์ที่สดใสในช่วง Record of Youth ก่อนจะออกเดินทางไปในโลกแห่งจินตนาการกับคู่หูรู้ใจ Daou & Offroad ในช่วง Partner in Wanderlust 

ตามมาด้วยช่วงเวลาแห่งความฝันใน Once Upon A Dream กับ Bowkylion ที่สะกดทุกคนด้วยเสียงร้องเปี่ยมเสน่ห์ ก่อนจะถึงช่วงเวลาสุดพิเศษ Carnival of Time กับศิลปิน K-POP ระดับโลก “JAY B” ลีดเดอร์แห่งวง GOT7 และ “JUNNY” ศิลปินและโปรดิวเซอร์มากความสามารถจากเกาหลีใต้ ที่มาร่วมสร้างความทรงจำสุดประทับใจในค่ำคืนส่งท้ายปีครั้งแรกของ วัน แบงค็อก “เมืองกลางใจ” ที่ใจกลางกรุงเทพฯ 

และแล้วก็ถึงช่วงไฮไลต์สำคัญในช่วง Countdown Celebration Moment กับการแสดง “A Sky Full of Joy” ที่เปลี่ยนฟากฟ้าใจกลางกรุงเทพฯให้กลายเป็นผืนผ้าใบแห่งแรงบันดาลใจ ด้วยฝูงโดรนนับร้อยๆ ลำ ที่วาดลวดลายแสงสีบนท้องฟ้าและปิดท้ายด้วยการแสดงพลุแบบ 360 องศา สุดอลังการจากสองบริษัทระดับโลกอย่าง Pyrotex Fireworx และ EDC China 

นอกจากความสนุกสนานและโมเมนต์สุดประทับใจตลอดค่ำคืนแล้ว วัน แบงค็อก ยังได้มอบโปรโมชันสุดพิเศษตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 “Shop to the Beats of Bangkok” ให้ลูกค้าได้ร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ รถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์แพ็กเกจห้องพัก Soneva Jani, Maldives, แพ็กเกจทัวร์ล่องเรือยอร์ชจาก Azimut และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

พร้อมร่วมสนุกกับโปรโมชันสุดพิเศษ “Calendar of Wishes” ทุกๆ การใช้จ่าย 1,500 บาทต่อใบเสร็จ รับสิทธิ์เล่นเกมลุ้นรับของขวัญสุดเอ็กซ์คลูซีฟและสิทธิพิเศษมากมาย รวมกว่า 27,300 รางวัล และลุ้นรับรางวัลใหญ่ Big Prize of the Day มูลค่าขั้นต่ำ 10,000 บาท ทุกวัน รวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาทค่ะ


จ้าวลู่ซือ

เปิดชีวิตยิ่งกว่าละคร จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) ป่วยพูดไม่ได้-เดินไม่ได้

Alternative Textaccount_circle
จ้าวลู่ซือ
จ้าวลู่ซือ

ถือเป็นข่าวส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ที่สร้างความตกใจและสร้างความเป็นห่วงให้กับแฟนๆ ทั่วโลก เมื่อมีการเปิดเผยภาพถ่าย จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) ขณะนั่งอยู่ในโรงพยาบาล โดยภาพของนักแสดงหญิงชาวจีนวัยเพียง 26 ปี นั่งอยู่บนรถเข็น ร่างกายซูบผอม ไม่สามารถขยับตัวได้เอง ทำให้หลายคนต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

Zhao Lusi นักแสดงหญิงสุดฮ็อตจากผลงาน เทียบท้าปฐพี, ดาราจักรรักลำนำใจ, แอบรักให้เธอรู้ และผลงานล่าสุด ม่านมุกม่านหยก ต้องเผชิญกับเรื่องไม่คาดฝันในช่วงท้ายปี 2024 เมื่อเธอมีอาการไม่สบายระหว่างการถ่ายทำโปรเจกต์ล่าสุดเรื่อง Almost Lover และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าเธอมีอาการเดินไม่มั่นคง ขณะที่ขาทั้งสองสั่นเมื่อก้าวลงจากรถเมื่อมาถึงโรงพยาบาล

จ้าวลู่ซือ

และหลังจากผ่านไป 10 วัน  เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2567 ต้นสังกัดของนักแสดงสาวจึงได้ออกมาแถลงว่า Zhao Lusi ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด และได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์เป็นอย่างดี โดยในตอนนี้นักแสดงสาวจะหยุดกิจกรรมทั้งหมดเพื่อมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งการเคลื่อนไหวของต้นสังกัดก็ได้อย่างมืออาชีพ ถ้อยคำแถลงเต็มไปด้วยคำชี้แจงและรับผิดชอบ รวมถึงความเป็นห่วงเป็นใยนักแสดงใต้สังกัด

ทว่า!แตกต่างจากความจริง ต้นสังกัดไม่ออกมาจัดการกับข่าวลือที่เล่นงานเธอว่า “เธอมีภาวะซึมเศร้าจนไม่สามารถถ่ายงานได้” ซึ่งความจริงเธอประสบปัญหาสุขภาพย่ำแย่ มีภาวะบกพร่องทางการสื่อสาร หรือ อะเฟเซีย (Aphasia) ซึ่งส่งผลต่อทั้งชีวิตส่วนตัวและอาชีพการแสดง

นั่นทำให้เพื่อนสนิมของนางเอกคนดังทนไม่ไหวออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้หลายคนตกใจจนกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการบันเทิงแดนมังกร โดยเพื่อนของ Zhao Lusi ได้โพสต์ แฉว่าต้นสังกัดที่บังคับให้ Zhao Lusi ทำงานหนักทั้งยังทำร้ายร่างกายและจิตใจเธออย่างต่อเนื่อง

“Zhao Lusi ขอความช่วยเหลือให้ฉันรับไปหาเธออย่างด่วน ที่หางโจวฉันเห็นเธอนั่งอยู่บนรถเข็น เธอดูผอมอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันรู้สึกหนักอึ้งกับภาพที่เห็น ฉันรู้สึกว่าฉันไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้ได้”

“ย้อนกลับไปในปี 2019  Zhao Lusi เดินทางมาที่ปักกิ่งเพื่อออดิชั่นเป็นนักแสดง แต่เธอไม่มีที่พักจึงมาพักที่บ้านของฉัน คืนหนึ่งฉันพบว่าเธอนอนขดตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นท่ามกลางความมืด ฉันถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตอบว่า ‘ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงตีฉัน ฉันกลัวมาก’”

“Zhao Lusi เปิดปากเล่าให้ฉันฟังว่ามีคนลากเธอเข้าไปในห้องน้ำเพื่อต่อว่าเป็นเวลานาน 2 ชั่วโมง ด้วยข้อตำหนิเช่น อ้วนเกินไปจึงออดิชั่นไม่ผ่าน ไม่เก่งเท่าคนอื่น แม้เธอจะพยายามหนีออกมา แต่คนๆ นั้นกลับดึงตัวเธอไว้ ทั้งตกและดึงผมจนทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวมากๆ”

“จากเหตุการณ์นี้ฉันและ Zhao Lusi อยากจะแจ้งตวามแต่ก็ไม่มีหลักฐาน ทั้งยังไม่กล้าบอกกับครอบครัวเพราะกังวลเกี่ยวกับสัญญาที่อาจจะต้องจ่ายค่าชดเชย วันต่อมา Zhao Lusi ถูกเรียกเข้าบริษัท คนทำบอกกับเธอว่า “ขอโทษ เขาเมา” โดยไม่มีการรับผิดชอบอะไร

และเมื่อย้อนกลับไปดูโพสต์ใน Weibo Zhao Lusi เคยโพสต์ถึงความเจ็บปวดในอดีตว่า “”ตอนเด็กใครๆก็บอกว่าเธอไร้ค่า เลยถูกตีในห้องเรียน เธอคิดว่าเป็นเด็กที่ไม่เก่งจึงถูกตี เธอก็ไม่กล้าพูดออกมาพอโตขึ้นก็ถูกตีอีกเพราะออดิชั่นไม่ได้

อย่างไรก็ตามแฟนคลับ Zhao Lusi ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “จ้าวลู่ซือต้องได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ต้องแบกรับคำกล่าวหาลอยๆจากผู้ไม่หวังดี ขอให้ทางกองถ่ายออกมาแถลงการปกป้องน้องด้วย เพราะน้องมีชีวิตเลือดเนื้อหัวใจ มีความรู้สึก ไม่ควรต้องมาแบกรับกับคำครหาต่างๆ  ที่ทำร้ายจิตใจทั้งที่ไม่สะบายแบบนี้”  (ข้อมูล ที่นี่)

#SaveZhaolusi #protectzhaolusi #TruthForZhaoLusi

'โบว์ เมลดา' ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1

‘โบว์ เมลดา’ ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1

Alternative Textaccount_circle
'โบว์ เมลดา' ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1
'โบว์ เมลดา' ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ พร้อมออก เซรั่มแห่งปี Olay Super Serum 5 in 1

“เซรั่มแห่งปี” มาถึงประเทศไทยแล้ว! เมื่อ Olay (โอเลย์) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน จัดอีเว้นท์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Olay Super Serum, Super Confident Skin เผยผิวสวยจริง ไม่อิงฟิลเตอร์” เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในไทยเป็นที่แรกของเอเชียกับ Olay Super Serum เซรั่มบำรุงผิวหน้าอันดับ 1 ในอเมริกา* ที่มาพร้อมกับสโลแกน “5 in 1 เสกผิวสวยในขวดเดียว” มอบผลลัพธ์เหมือนใช้เซรั่ม 5 ขวดในขวดเดียว พร้อมเปิดตัว ‘โบว์ เมลดา สุศรี’ ในฐานะ Olay Thailand Brand Ambassador คนใหม่ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ผิวสวยทุกองศาหลังใช้ผลิตภัณฑ์

“โบว์รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณทาง Olay ประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานครั้งนี้ค่ะ ผลิตภัณฑ์จาก Olay ดูแลผิวสร้างความมั่นใจและความประทับใจให้กับคนไทยมานาน โบว์เองก็เป็นแฟนโอเลย์ค่ะ ล่าสุด Olay Super Serum ขวดนี้โบว์ได้ลองแล้ว ชอบมากๆ เนื้อเซรั่มเข้มข้นแต่เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะผิว รู้สึกถึงผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ในแง่ความชุ่มชื้น ผิวนุ่มมีความกระชับ ริ้วรอยบนใบหน้าก็แลดูจางลง สีผิวสม่ำเสมอขึ้น หน้าไม่หมองคล้ำ ผิวมีความแลกระจ่างใส แบบใช้ขวดเดียวเสกผิวสวย 5 in 1 ได้จริง เป็นความมั่นที่เสกหน้าสวยในขวดเดียวทำให้โบว์กล้าพูดกับทุกคน ลองกันได้เลยค่ะ” – โบว์ เมลดา ขึ้นแท่น Olay Thailand Brand Ambassador


keyboard_arrow_up