เอ็นซีที วันทูเซเว่น ทะยานด้วยแรงขับเคลื่อนไร้ขีดจำกัดสู่ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle

เอ็นซีที วันทูเซเว่น ระเบิดปรากฏการณ์ความสนุกในคอนเสิร์ต NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’ บัตรหมดเกลี้ยงรวมผู้ชมกว่า 36,000 คน

NCT 127 ทะยานด้วยแรงขับเคลื่อนไร้ขีดจำกัดสู่ประเทศไทย ระเบิดปรากฏการณ์ความสนุกในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สี่ NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’ (เอ็นซีที วันทูเซเว่น โฟร์ท ทัวร์ ‘นีโอ ซิตี้ : แบงค็อก – เดอะ โมเมนตัม’) ในวันเสาร์ที่ 22 และอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม บัตรหมดเกลี้ยงรวมผู้ชมกว่า 36,000 คน พร้อมจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างดนตรีสุดล้ำเข้ากับการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ และโปรดักชันสุดอลังการ ขึ้นแท่นศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทยได้ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ตอกย้ำสถานะหนึ่งในศิลปินผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการเค-ป็อป


เปิดฉากคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ด้วยวีซีอาร์ปลุกความระทึกใจ ถ่ายทอดภารกิจของ NCT 127 ในการก้าวข้ามความยากลำบากและกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยนำเสนอในอัตราส่วนแบบภาพยนตร์เพื่อเพิ่มความสมจริงและดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการสำคัญครั้งนี้ พร้อมจุดความตื่นเต้นให้ลุกโชนในเพลงช่วงแรก ‘Gas’, ‘Faster’, ‘Bring The Noize’ เร่งระดับความร้อนแรงเต็มอัตรากับเพลงฮิตอื่น ๆ อย่าง ‘질주 (2 Baddies)’, ‘Regular’, ‘Sticker’ และเพลงล่าสุด ‘삐그덕 (Walk)’ ที่แฟนคลับได้เตรียมผ้าเช็ดหน้ามาโบกตามกิมมิกของเพลงนี้


อีกทั้งยังเสริมลูกเล่นของการกำกับเวทีในเพลงต่าง ๆ ให้มีความโดดเด่น เช่น การใช้ลิฟต์ต่อเรียงกันยาว 13 เมตรในเพลง ‘Skyscraper (摩天樓; 마천루)’, การใช้เลเซอร์สร้างรูปห่วงโซ่ลงบนพื้นเวทีตามชื่อเพลง ‘Chain’, การใช้ร่มและฉากน้ำฝนจากแสงสะท้อนกลับในเพลง ‘Rain Drop’ เสมือนฉากในละครเวที บวกกับโปรดักชันสุดตระการตา เช่น จอ LED ขนาดใหญ่เรียงต่อกันกว้าง 49 ม. และสูง 12 ม., ทางเดินที่ยาวออกมาถึง 36.6 ม., ลิฟต์ 17 ตัว, สายพานเคลื่อนที่ไฟฟ้า, กระดาษโปรย, บอลลูนยักษ์, เครื่องพ่นไฟ และเลเซอร์แรงสูงกว่า 18 ตัว


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแสดงช่วงเพลง ‘Far’ ที่ NCT 127 ปรากฏตัวพร้อมฉากรูปปั้นขนาดมหึมา ยึดครองเวทีด้วยกองทัพนักเต้นจำนวนมากมาร่วมในการแสดงธงสุดฮึกเหิม ความเร้าใจยังคงดำเนินต่อไปแบบไม่มีพักในเพลง ‘영웅 (英雄; Kick It)’ และ ‘Fact Check (불가사의; 不可思議)’ สะกดทุกสายตาผ่านการแสดงอันน่าทึ่งและท่าเต้นเหนือชั้น กลายเป็นช่วงไคลแมกซ์ที่ผู้ชมต่างร้องตามและส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นจนทะลุออกมานอกสเตเดียม นับเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ทำไม NCT 127 จึงได้รับการขนานนามว่า ‘God of Performance’ (เทพเจ้าแห่งการแสดง)


ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังมอบบรรยากาศอันตราตรึงจนไม่อาจละสายตาในการแสดงเพลง ‘영화처럼 (Can’t Help Myself)’, ‘윤슬 (Gold Dust)’ และ ‘나의 모든 순간 (No Longer)’ โอบล้อมด้วยทะเลเรืองแสงจากแท่งไฟของ NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ทั้งสี Pearl Neo Champagne (สีสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของ NCT) และสีอื่น ๆ ตามระบบการควบคุมแท่งไฟ ตลอดจนแฟนโปรเจกต์อันมีความหมายมากมาย เช่น “127 ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นความสุข ความทรงจำ และบ้านของพวกเรา”, “ไม่ว่าใครจะพูดยังไง 127 คือ ความภาคภูมิใจของพวกเราเสมอ” และการใช้กล่องไฟแปรอักษร “NO 127 NO LIFE”, “GOD 127 คาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุด” ซึ่งช่วยเชื่อมโยงและเติมเต็มความรู้สึกระหว่างกันให้มากขึ้น


ส่งท้ายค่ำคืนแห่งความประทับใจด้วยรถเลื่อนที่แล่นไปเพิ่มความใกล้ชิดให้ผู้ชมโดยรอบ ก่อนยกระดับความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยไฮไลต์พิเศษตามคาดหวัง คือ การใช้ไพโรเทคนิคต่อเนื่องเกือบ 1 นาที ในเพลง ‘다시 만나는 날 (Promise You)’ เปล่งประกายสว่างสไวบนฟากฟ้าเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำอันยิ่งใหญ่ โดย NCT 127 ได้แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนและความมุ่งมั่นอันไม่มีที่สิ้นสุดของพวกเขาอย่างเต็มที่ ตามชื่อทัวร์ ‘THE MOMENTUM’ (เดอะ โมเมนตัม) ปิดจบภารกิจที่ดำเนินมาตลอด 3 ชั่วโมง กับ 26 บทเพลง ได้อย่างยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางตัวแปรสำคัญของความสำเร็จที่คอยอยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอมาอย่าง NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น)

ยุงลาย

รู้ทันภัยร้ายจาก ยุงลาย ปลอดภัยโรคไข้เลือดออก

Alternative Textaccount_circle
ยุงลาย
ยุงลาย

เดินหน้าลุยต่อในปี 2568 กับมาตรการปราบยุงลายปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออก ซอฟเฟลสเปรย์และโลชั่นทากันยุงยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ประชาชนและเยาวชนได้รับรู้ถึงภัยเงียบที่คร่าชีวิตบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2567 พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 276,945 ราย เสียชีวิต 280 ราย

ทั้งนี้คาดว่าปีนี้ 2568 จะพบผู้ติดเชื้อสูงสุดของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังถึง 3 เท่าตัวทีเดียว ด้วยเหตุนี้ซอฟเฟลจึงไม่หยุดที่จะมีส่วนร่วมในการรณรงค์ป้องกันลดการสูญเสีย โดยที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออกให้กับคนไทย อาทิ โครงการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออกระหว่างซอฟเฟลกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, กิจกรรม “Quality Moment with Soffell” โมเมนต์ดีดี..ไม่มีเฟล..กับซอฟเฟล”ฯลฯ และในปี 2568 ซอฟเฟลเดินหน้าต่อเนื่องผนึกกำลังกับหลายหน่วยงานอย่างเข้มข้น

โดยเริ่มกิจกรรมแรก ในวันอังคารที่ 4 มีนาคม 2568 คุณเมนาท มีสมมนต์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ประจำประเทศไทย กลุ่มบริษัท เอเนซีส กรุ๊ป ผู้ผลิตสเปรย์และโลชั่นทากันยุงซอฟเฟล ร่วมกับ คุณจิรายุ ภักดียิ่งยง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซี.พี. คอนซูเมอร์โพรดักส์ จำกัด มอบซอฟเฟล จำนวน 100,000 ชิ้น กับ “โครงการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออกปี 2” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออกให้กับกรมควบคุมโรค

โดยได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงวรยา เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 พิษณุโลก, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 นครสวรรค์, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 ราชบุรี, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 อุดรธานี, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 อุบลราชธานี, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เพื่อส่งต่อความห่วงใยและความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่โดยรอบ

และอีกหนึ่งกิจกรรมได้แก่ “การรณรงค์สร้างการรับรู้วิธีป้องกัน และตระหนักถึงอันตรายจากโรคไข้เลือดออกสู่เยาวชนและกลุ่มบุคคลทั่วไป!!” รวมถึง “กิจกรรมรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย”

โดยครั้งนี้ ซอฟเฟล ร่วมมือกับ โรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เขตคลองสามวากรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น กว่า 3,000 คน เป็นโรงเรียนนำร่องแห่งแรกในการรณรงค์ปลูกฝังให้เยาวชน และประชาชนในชุมชนทั่วประเทศ ได้ตระหนักรู้ถึงอันตรายร้ายแรงจากโรคไข้เลือดออก โดยงานจัดขึ้นในวันพุธที่ 12 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น.

ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณเมนาท มีสมมนต์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ประจำประเทศไทย กลุ่มบริษัท เอเนซีส กรุ๊ป ผู้ผลิตสเปรย์และโลชั่นทากันยุงซอฟเฟล กล่าวเปิดโครงการฯ,ดร.ชลตวรรณ ขุมเพ็ชร ผู้อำนวยการ โรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) วิทยฐานะผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ ร่วมงาน และในส่วนงานเสวนาได้ ดร.คณัจฉรีย์ ธานิสพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองโรคติดต่อนำโดยแมลง ร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับ “ภัยอันตรายจากโรคไข้เลือดออก” เพื่อนักเรียนได้เข้าใจและตระหนักถึงภัยร้ายจากยุงลาย โดยมีน้องๆ นักเรียนให้ความสนใจร่วมทำกิจกรรมทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายภายในโรงเรียนอย่างแข็งขัน และมีความตั้งใจนำความรู้ไปแบ่งปันคนในครอบครัวและชุมชนต่อไป

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกกิจกรรมของซอฟเฟลล้วนสร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับภัยอันตรายจากโรคไข้เลือดออกที่คร่าชีวิตคนไทยเพิ่มขึ้นทุกปี โดยซอฟเฟลมุ่งหวังที่จะปลูกฝังความรู้ให้กับเยาวชนและบุคคลทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคนี้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ก็อตเซเว่น

ก็อตเซเว่น GOT7 คืนรังอากาเซ่ไทยตามสัญญา 7 เมมเบอร์จัดคอนเสิร์ต

Alternative Textaccount_circle
ก็อตเซเว่น
ก็อตเซเว่น

ก็อตเซเว่น GOT7 คืนรังอากาเซ่ไทยตามสัญญาโฟร์วันวันฯ แท็กทีม 7 เมมเบอร์จัดคอนเสิร์ตที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

เมื่อแฟนคลับไม่ท้อ และศิลปินก็ไม่ทิ้ง สมการนี้เลยออกผลเป็นดรีมคัมทรูลงล็อกกันในที่สุด! กับคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมวาระแห่งชาติของ 7 หนุ่ม “ก็อตเซเว่น” (GOT7) ไอดอลแถวหน้าของวงการเคป็อป ซึ่งประกอบไปด้วยลีดเดอร์ เจบี (JAY B), มาร์ค (MARK), แจ็คสัน (JACKSON), จินยอง (JINYOUNG), ยองแจ (YOUNGJAE), แบมแบม (BAMBAM) และ ยูคยอม (YUGYEOM) ที่ทุกคนรอคอยด้วยความหวังตั้งมั่น ก็ได้ฤกษ์ประกาศสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ทั้งจากปากของหนุ่ม คิมยูคยอม (KIM YUGYEOM) หรือ ยูคยอม น้องเล็กแห่งวง GOT7 บนเวทีคอนเสิร์ต “2025 ยูคยอม ทัวร์ [ทรัสตี้] อังกอร์ อิน แบงคอก” (2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK) ที่เจ้าตัวเพิ่งแสดงเสร็จสิ้นไปสดๆ ร้อนๆ ร่วมด้วยการยืนยันจากผู้จัด โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One One Entertainment หรือ 411ent) ของ กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ คอนเฟิร์มว่า เสียงของอากาเซ่… กำลังจะดังก้องทั่วสนามราชมังคลากีฬาสถาน 💚 เร็วๆ นี้!

กรี๊ดมันออกมา ไม่ต้องฮ็อปไว้ ไม่ต้องเสิร์ชหาคลินิกจัดฟันใกล้ฉัน แค่กดติดตาม โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One One Entertainment หรือ 411ent) กันไว้ รอติดตามรายละเอียดต่างๆ ได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดียของผู้จัดงาน @411ent ทุกแพลตฟอร์ม

อาชิ อาชิตา

บล็อกเกอร์ อาชิ อาชิตา จัดงานแต่งงานในโบสถ์ ได้บรรยากาศเมืองนอก

Alternative Textaccount_circle
อาชิ อาชิตา
อาชิ อาชิตา

ภาพบรรยากาศงานวิวาห์ บล็อกเกอร์ อาชิ อาชิตา & วอม ภูพิสิฐ จัดงานแต่งงานสุดโรแมนติกในโบสถ์ ได้บรรยากาศเมืองนอก

เป็นอีกหนึ่งคู่รักสุดหวานแห่งปีที่ สำหรับบิวตี้บล็อกเกอร์สาว อาชิตา ศิริภิญญานนท์ เจ้าของช่อง ARCHITA STATION หลังถูกแฟนหนุ่ม วอม ภูพิสิฐ สมิทธิเนตย์ เซอร์ไพรส์ขอเเต่งงานในบรรยากาศสุดโรแมนติก ณ ประเทศอิตาลี ก็ได้ฤกษ์จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อย ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ โดยงานนี้ได้ช่างภาพ ที่หลายคนต่างคุ้นหน้าคุ้นตา บอส-อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา และทีมงาน Ai Studio (aistudio.wedding) มารับหน้าที่ลั่นชัตเตอร์

อาชิ อาชิตา

สำหรับพิธมงคลสมรสจัดขึ้นภายในอาสนวิหารอัสสัมชัญ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาคริสต์ในประเทศไทย ได้รับการประกอบขึ้นอย่างงดงามตามธรรมเนียม พร้อมด้วยบทสวดและคำอวยพรจากบาทหลวงผู้ทำพิธี คู่บ่าวสาวได้แลกเปลี่ยนคำมั่นสัญญาท่ามกลางความปลื้มปิติของครอบครัว ญาติมิตร และเพื่อนสนิทที่ร่วมเป็นพยานรักของทั้งสอง

โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่น จากแขกผู้ใหญ่รวมถึงเพื่อนของทั้งสอง เดินทางมาร่วมพิธีและร่วมแสดงความยินดีอย่างมากมาย อาทิ ปั๊บ โปเตโต้, ใบเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ, หญิงแย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข ,อูน-ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์, นุ่น-นพลักษณ์ กุลธวัชชัย, น๊อบ-ศิรดา ไตรจักร์วนิช

Demna โยกย้าย! อำลา Balenciaga ขึ้นแท่นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Gucci

account_circle

โลกแฟชั่นสะเทือนอีกครั้ง! Demna Gvasalia (เด็มนา กวาซาเลีย) กำลังโบกมือลา Balenciaga หลังจากปลุกปั้นแบรนด์ให้กลายเป็นตัวแทนของสตรีทแฟชั่นสุดล้ำตลอดเกือบทศวรรษที่ผ่านมา และกำลังมุ่งหน้าสู่ Gucci เพื่อรับหน้าที่เป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนใหม่ หวังคืนชีพให้แบรนด์หรูอิตาลีที่กำลังซบเซา ให้กลับมาผงาดในวงการอีกครั้ง

(Photo by Victor Boyko/Getty Images for Valentino)

ทำไมต้อง Demna

Stefano Cantino ซีอีโอของ Gucci กล่าวอย่างมั่นใจว่า เด็มนา จะนำสิ่งที่พิเศษสุดมาสู่ Gucci เขาคือดีไซเนอร์ที่มีมุมมองต่อแฟชั่นที่ไม่เหมือนใคร และนี่คือสิ่งที่ Gucci ต้องการ” นอกจากนี้ Francesca Bellettini รองซีอีโอของ Kering (บริษัทแม่ของ Gucci) ยังเผยว่า Demna จะส่งท้ายการทำงานที่ Balenciaga ด้วยโชว์โอต์กูตูร์ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ก่อนเริ่มงานใหม่ที่ Gucci อย่างเต็มตัว

Gucci ในวันที่รอคอยการเปลี่ยนแปลง

เด็มนา จะเข้ามาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก Sabato De Sarno ซึ่งอำลาทีมไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Gucci อยู่ในช่วงขาลงหลังจาก Alessandro Michele อดีตครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ ผู้เคยพาแบรนด์สู่จุดสูงสุดในปี 2022 ได้จากไป รายได้ของ Gucci ลดลงถึง 24% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ส่งผลให้แบรนด์ต้องเร่งหาวิธีคืนความนิยมอย่างเร่งด่วน

Demna กับภารกิจคืนชีพ Gucci

เด็มนา ถือเป็นดีไซเนอร์ที่พลิกเกมแฟชั่นยุคใหม่ เขาเปลี่ยน Balenciaga ให้กลายเป็นแบรนด์แห่งวัฒนธรรมสตรีทและแฟชั่นสุดขบถ เขาผสมผสานความดิบ เท่ และเสียดสีสังคมลงในงานดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อฮู้ดตัวโคร่ง สนีกเกอร์หนา ๆ หรือกระเป๋าแนวแปลกแหวกแนว การเข้ามาของเขาที่ Gucci ทำให้แฟน ๆ ต่างจับตามองว่า เขาจะนำพลังสร้างสรรค์มาปรับโฉม Gucci ไปในทิศทางไหน

ใครจะมาแทนที่ Demna ที่ Balenciaga

แม้ว่า เด็มนา จะมุ่งสู่ Gucci แต่ Balenciaga ก็ยังไม่ได้ประกาศว่าใครจะเข้ามาสานต่อ มีชื่อของ Pieter Mulier (Alaïa) และ Daniel Roseberry (Schiaparelli) ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหู คงต้องรอดูกันต่อไปว่า Balenciaga จะเลือกใครมาสร้างนิยามใหม่ให้กับแบรนด์

Gucci ยุคใหม่จะเป็นอย่างไร?

เด็มนา เคยร่วมงานกับ Gucci มาแล้วในปี 2021 ผ่านโปรเจ็กต์ “Hacking” ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเอกลักษณ์ของสองแบรนด์ ครั้งนั้นเขาสร้าง Gucci เวอร์ชั่นที่ดูดิบเท่ มีความขบถ และล้อเลียนวัฒนธรรมกระแสนิยมอย่างแสบสัน การมารับตำแหน่งอย่างเต็มตัวครั้งนี้หมายความว่า Gucci กำลังเตรียมก้าวสู่ยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความน่าตื่นเต้น

เด็มนา จะเปลี่ยนโฉม Gucci ไปในทิศทางไหน? ต้องรอติดตามคอลเล็คชั่นแรกของเขาที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้


ที่มา : wwd.com

ชวนคอหนังปักหมุด โรงภาพยนตร์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ “THAI SMOOTH AS SILK PREMIER CINEMA”

account_circle

พิกัดนี้คอหนังต้องปักหมุด สัมผัสสุดยอดประสบการณ์การชมภาพยนตร์จาก วัน อัลตรา สกรีน ที่ร่วมกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มอบความพิเศษมากกว่าที่เคย ผ่านโรงภาพยนตร์ VIP ระดับอัลตร้าลักซ์  ชัวรี่ “THAI SMOOTH AS SILK PREMIER CINEMA” ณ วัน อัลตรา สกรีน (ONE ULTRA SCREENS) ตึก Parade ชั้น 5 และ ชั้น 6 โครงการ วัน แบงค็อก

โรงภาพยนตร์ VIP “THAI SMOOTH AS SILK PREMIER CINEMA” เป็นโรงภาพยนตร์ที่ให้บริการแบบ VIP เหนือระดับ พร้อมมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีพในการชมภาพยนตร์ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย จอใหญ่พิเศษ สัมผัสความคมชัดและสีสันที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาในทุกฉาก และระบบเสียงที่ล้ำสมัยกระหึ่มรอบทิศทาง ทำให้ได้อรรถรสในการชมภาพยนตร์อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน พร้อมด้วยความหรูหราและความสะดวกสบายระดับพรีเมียมไปกับที่นั่งแบบ Ultra VIP Chair สุดหรู ที่สามารถปรับเอนได้ถึง 180 องศา รวมทั้งบริการหมอนผ้าห่ม และ slipper พร้อมแท่น Wireless charger สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือขณะชมภาพยนตร์ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทุกท่านได้ผ่อนคลายและได้รับความสะดวกสะดวกสบายตลอดการชมภาพยนตร์

นอกจากนี้ ยังมีบริการ VIP Lounge ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมด้วยบริการที่เหนือระดับ และ welcome drink เพื่อมอบความรู้สึกสบายตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา รวมทั้งบริการเครื่องดื่มชา-กาแฟ และอาหารที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะป๊อปคอร์นสูตรพิเศษ รสปลาหมึกย่างสไปซี่ ที่จำหน่ายเฉพาะที่วัน อัลตร้า สกรีน เท่านั้น

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทย นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ คุณวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจการบิน นายเชิดพันธ์ โชติคุณ ประธานเจ้าหน้าที่สายช่าง ฝ่ายบริหารการบินไทย และนางสาวพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรีเทล โครงการวัน แบงค็อก พร้อมด้วย โอปอล นางสาวสุชาตา ช่วงศรี รองอันดับ 3 Miss Universe 2024 ที่จะพาทุกท่านเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศความหรูหรา ความทันสมัยของโรงภาพยนตร์ดังกล่าว ก่อนที่จะพาทุกท่านไปรับชมภาพยนตร์ Captain America – Brave New World ในโรงภาพยนตร์ VIP “THAI SMOOTH AS SILK PREMIER CINEMA”

เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดโรงภาพยนตร์ VIP “THAI SMOOTH AS SILK PREMIER CINEMA” ขอมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส บัตรแพลทินัม บัตรทอง บัตรเงิน และ สมาชิกผู้ถือครองบัตรเครดิตร่วม รอยัล ออร์คิด พลัส กับธนาคารคู่สัญญาในประเทศไทย เพียงแสดงบัตรสมาชิกหรือบัตรเครดิตของท่านที่จุดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ และลงทะเบียนยืนยันสถานะสมาชิกบัตร เพื่อรับบัตรชมภาพยนตร์ VIP ฟรี 1 ใบ เมื่อซื้อบัตรชมภาพยนตร์ VIP ที่โรงภาพยนตร์ “THAI SMOOTH AS SILK PREMIER CINEMA” ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 สิทธิ์มีจำนวนจำกัด โดยขอสงวนการใช้สิทธิ์เฉพาะวันจันทร์ – วันศุกร์ ไม่รวมวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์และการบริการที่ดีที่สุดในโลกผ่าน โรงภาพยนตร์ VIP ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ “THAI SMOOTH AS SILK PREMIER CINEMA” ตึก Parade ชั้น 5 และ ชั้น 6 โครงการวัน แบงค็อก สามารถซื้อบัตรชมภาพยนตร์ได้ที่ www.oneultrascreens.com และดาวน์โหลด Application on Ultra Screens ได้ที่ Apple App Store และ Google Play Store, Line : One Ultra Screens, Facebook : One Ultra Screens, Instagram : One Ultra Screens, Tiktok : One Ultra Screens สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รอบฉาย และจองบัตรชมภาพยนตร์ ได้ที่ 06-5526-8641


Frederic Arnault

เฟรเดอริก อาร์โนลต์ เตรียมขึ้นเป็น CEO ของ Loro Piana ในเดือนมิถุนายน 2025

account_circle
Frederic Arnault
Frederic Arnault

LVMH ประกาศแต่งตั้ง Frederic Arnault (เฟรเดอริก อาร์โนลต์) ทายาทวัย 30 ปีของ Bernard Arnault ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO ของ Loro Piana ในเดือนมิถุนายน 2025

ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงภายในกลุ่ม เพื่อปูทางให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะสมาชิกในตระกูล Arnault ที่จะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น

(Photo by John Parra/Getty Images for TAG Heuer )

เฟรเดอริก อาร์โนลต์ เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนาฬิกาของ LVMH และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำข้อตกลงสนับสนุนการแข่งขัน Formula 1 เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งประกาศไปเมื่อปีที่แล้ว โดยเขาจะเข้าร่วมในตำแหน่งใหม่นี้กับ Loro Piana ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2025 เพื่อปรับตัวและเตรียมความพร้อมก่อนรับช่วงต่อจาก Damien Bertrand ซึ่งจะย้ายไปเป็นรอง CEO ของ Louis Vuitton

(Photo by Swan Gallet/WWD/Penske Media via Getty Images)

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ของ Bernard Arnault วัย 76 ปี ที่ยังคงบริหารกลุ่ม LVMH อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บุตรทั้ง 5 คนของเขาได้รับบทบาทสำคัญในบริษัท โดยการโยกย้ายผู้บริหารครั้งล่าสุดยังรวมถึง Pierre-Emmanuel Angeloglou ที่จะเข้าร่วมกับ Christian Dior Couture ในตำแหน่งรอง CEO และทาง LVMH ยังเตรียมประกาศชื่อ CEO คนใหม่ของ Fendi ในเร็ว ๆ นี้

Loro Piana เป็นแบรนด์หรูของอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องสินค้าคุณภาพสูงระดับ “quiet luxury” เช่น รองเท้าหนังกลับ “Gift of Kings” ราคา 1,700 ยูโร (ประมาณ 68,000 บาท) และเสื้อโค้ทแคชเมียร์ที่มีราคาสูงกว่า 10,000 ยูโร (ประมาณ 400,000 บาท) การเติบโตของแบรนด์ภายใต้การนำของ Bertrand ทำให้ Loro Piana กลายเป็นตัวแทนของเทรนด์แฟชั่นหรูที่เน้นความเรียบหรูแบบไร้โลโก้ ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19


ข้อมูล : reuters.com

Doechii

Doechii จากแรปเปอร์สาวสุดเท่ สู่ IT Girl สุดแซ่บ

Alternative Textaccount_circle
Doechii
Doechii

Doechii (โดชี่) จากแรปเปอร์สาวสุดเท่ สู่ IT Girl สุดแซ่บ ซูเปอร์สตาร์สายฮิปฮอปคนล่าสุด เสิร์ฟความปังทุกด้าน ทั้งงานเพลง แฟชั่น บิวตี้ ไลฟ์สไตล์

Doechii แรปเปอร์ นักร้อง และนักแต่งเพลงสัญชาติอเมริกันวัย 26 ปีสุดแซ่บ เจ้าของเพลงฮิตที่ได้ยินไปทั่วโซเชียลอย่าง “DENIAL IS A RIVER” และล่าสุดกับเพลง “Anxiety” ที่กำลังมาแรงไม่แพ้กัน นอกจากจะเป็นเจ้าของรางวัลแกรมมีสาขา Best Rap Album จากอัลบั้ม Alligator Bites Never Heal (2024) ที่เธอเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ที่ได้รับรางวัลในสาขานี้แล้ว นาทีนี้เธอยังฮอตอย่างต่อเนื่อง ขึ้นแท่น IT Girl ประจำปี 2025 จากการได้เห็นเธอบนปกนิตยสารมากมาย รวมถึงคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

Doechii

เริ่มกันที่สาว Doechii ที่ได้ถ่ายแฟชั่นขึ้นปกนิตยสารชื่อดังต่างๆ ทั้ง DAZED, The Cut, Outlander และ PAPER รวมถึงสวมชุดของ Thom Brown ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต ABNH รับรางวัลในงานแกรมมี และในงานต่างๆ อยู่บ่อยๆ และยังเคยร่วมเฟรมเดียวกับกับ Anna Wintour บรรณาธิการผู้บริหาร Vogue และผู้ทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งด้านแฟชั่นของโลก โดยเธอได้รับคำเชิญให้ร่วมงานตัดริบบิ้นของ Council of Fashion Designers of America (CFDA) ไม่เพียงเท่านี้ เธอยังได้เดบิวต์ในลุคกูตูร์สุดหรูให้กับแบรนด์ Valentino ในงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นล่าสุด Valentino’s spring 2025 couture collection ที่ Louvre ฝรั่งเศส และล่าสุดกับการลงเสียงโฆษณาใน Superbowl ให้กับแคมเปญล่าสุดของ Nike เรียกได้ว่าตอนนี้ Doechii กินเรียบทั้งแบรนด์หรูและแบรนด์สตรีทแวร์จริงๆ

เซนส์ด้านแฟชั่นของเธอนับว่าไม่ธรรมดา Doechii เลือกที่จะผสมผสานแฟชั่นแนวเครื่องแบบหรือ preppy look ให้เข้ากันกับวัฒนธรรมดนตรีฮิปฮอปที่เป็นแนวเพลงของเธอได้อย่างลงตัว ยกระดับแฟชั่นฮิปฮอปให้แปลกตาและดูสนุกมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำทัวร์คอนเสิร์ต ABNH และเป็นภาพจำของเธอไปโดยปริยาย

ความฮอตของเธอในโลกของวงการดนตรี Doechii กำลังเป็นที่ต้องการของเหล่าศิลปินชื่อดังทั่วโลกที่ร่วมงานกับเธอมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกับ Katy Perry ในเพลง “I’m His, He’s Mine” กับ David Guetta, Afrojack, Missy Elliott และ Bia ในเพลง “Trampoline” และล่าสุดในเพลง “ExtraL” ที่ได้ร่วมงานกับ เจนนี่ BLACKPINK ที่กำลังมาแรงอย่างฉุดไม่อยู่ในขณะนี้ เชื่อว่ายังมีอีกหลายศิลปินที่ต่อคิวรอร่วมงานกับเธออีกมากมาย และเราน่าจะได้เห็นผลงานใหม่ๆ ของเธอกันอีกแน่นอน

ไลฟ์สไตล์ก็ปัง เพลงก็เริ่ด แถมยังมีรางวัลมาการันตีความสามารถมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Grammy Awards สาขา Best Rap Album จากอัลบั้ม Alligator Bites Never Heal, รางวัล UK Music Video Awards สาขา Best Choreography in a Video จากเพลง “Crazy” (2022), รางวัล NAACP Image Awards สาขา Outstanding New Artist (2025), รางวัล Billboard Women in Music สาขา Rising Star (2023) และล่าสุดกับสาขา Woman of the Year ประจำปี 2025 ที่สาว Doechii คว้ามาครองได้สำเร็จ และรางวัลของเธอจะไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ๆ

เหล่านักวิจารณ์เพลงต่างยอมรับในความสามารถทางดนตรีของเธอ ที่สามารถผสมผสานแนวดนตรีฮิปฮอป ป็อป แดนซ์ ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นแนวอัลเทอร์เนทีฟฮิปฮอปในแบบของเธอเอง รวมถึงน้ำเสียงในการร้องเพลง และจังหวะในการแรปที่ทรงพลัง และถูกใจคอฮิปฮอปเข้าอย่างจัง เรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า Doechii คือแรปเปอร์สาวว่าที่ซูเปอร์สตาร์ที่เสิร์ฟความปังทุกด้าน ทั้งงานเพลง แฟชั่น บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ และล่าสุดกับตำแหน่ง IT Girl ที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้ สมกับเป็น Swamp Princess จริงๆ

ฟังอัลบั้ม Alligator Bites Never Heal ของ Doechii ได้ที่นี่ https://DoechiiTH.lnk.to/ABNHPR

ที่มา: Universal Music Thailand

เสิร์ฟ น้ำหอมกลิ่นใหม่ พร้อมสกินแคร์เวอร์ชั่นอัพเกรดเติมเต็มผิวอิ่มฟูดูสุขภาพดี

เสิร์ฟ น้ำหอมกลิ่นใหม่ พร้อมสกินแคร์เวอร์ชั่นอัพเกรดเติมเต็มผิวอิ่มฟูดูสุขภาพดี

Alternative Textaccount_circle
เสิร์ฟ น้ำหอมกลิ่นใหม่ พร้อมสกินแคร์เวอร์ชั่นอัพเกรดเติมเต็มผิวอิ่มฟูดูสุขภาพดี
เสิร์ฟ น้ำหอมกลิ่นใหม่ พร้อมสกินแคร์เวอร์ชั่นอัพเกรดเติมเต็มผิวอิ่มฟูดูสุขภาพดี

#PraewSurvey #ItemsOfTheWeek ตั้งแต่ต้นปีแบรนด์น้ำหอมทยอยออกกลิ่นใหม่ มาเสิร์ฟไม่หยุด วีคนี้ DIOR เปิดมาด้วยกลิ่นหอมเบาๆ แสนละมุน ทว่าลึกลับด้วยกลิ่นของไม้ หรือจะแนวกลิ่นสโมกกี้นุ่มลึกสุดอบอุ่นจาก THE O.B.A ก็ช่วยให้ลุคดูน่าค้นหา

และไม่ใช่แค่น้ำหอมที่กลิ่นช่วยสร้างฟีลกู้ดเท่านั้น การใช้สกินแคร์นวดคลึงเบาๆ บนผิวในแต่ละวัน นอกจากเพื่อผิวอิ่มฟูดูสุขภาพดีแล้ว ยังช่วยให้มีเวลาดูแลตัวเองได้เต็มที่ ประเดิมด้วยเซรั่มออยล์ลูกรักของใครหลายคนอย่าง GUERLAIN ปรับสูตรใหม่ไฉไลกว่าเดิมด้วยการรวมพลังของ 3 น้ำผึ้งดำ ตามด้วยเซรั่มจาก MENARD ที่มาในรูปแบบเนื้อลิควิดน่าลอง ส่วนใครนอนนะแต่นอนน้อยจนขอบตาคล้ำ หรือชอบเล่นใหญ่แสดงสีหน้าเยอะในแต่ละวัน จนทำให้ตีนกามาไวต้องพึ่งอาวุธป้องกันจาก AUGUSTINUS BADER และ YVES ROCHER เพราะเรื่องริ้วรอยรอบดวงตาก็สำคัญไม่แพ้ใบหน้านะ

DIOR La Collection Privée Bois Talisman (50 ml. / 7,600 THB)
น้ำหอมสุดหรูที่เป็นดั่งเครื่องรางกลิ่นไม้หอมหวาน ได้แรงบันดาลใจจากการผสานระหว่างสองความเชื่อ กิ่งไม้ของ คริสเตียน ดิออร์ และน้ำตาลก้อนของ Francis Kurkdjian กลิ่น Bois Talisman จึงอบอวลด้วยกลิ่นไม้ซีดาร์ที่ร้อยเรียงขึ้นด้วยโน้ตกลิ่นวานิลลา เป็นกลิ่นที่เพิ่มเสน่ห์ลึกลับชวนค้นหา และเปรียบเสมือนเครื่องรางที่มีกลิ่นหอมควรค่าแก่การสวมใส่บนผิวกาย

THE O.B.A Noah (50 ml. / 3,390 THB) และ Soln (50 ml. / 2,890 THB)
แบรนด์ไทยน้องใหม่สุดคูลออก 2 กลิ่นหอมล่าสุด Noah แนวกลิ่นสโมกกี้นุ่มลึกผสานความหอมแนวเอิร์ธตี้ของคาคาว และ Soln แนวกลิ่นซิตรัสอะโรมาติกปลุกความสดชื่น ชวนทุกคนออกไปร่วมค้นพบแรงบันดาลใจครั้งใหม่ที่เปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา ใครชอบน้ำแนวคลีนๆ เบาๆ ลองไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ได้ที่ The Olfactive Pop-up Store ชั้น G โซน Beacon ห้าง Central World ตั้งแต่วันนี้ – 19 กรกฏาคม 68

GUERLAIN ABEILLE ROYALE The New Youth Serum (50 ml. / 6,500 THB)
เซรั่มเนื้อออยล์ที่หลายคนเลิฟจากคอลฯ Abeille Royale ปรับสูตรใหม่ เนื้อเบาบางดุจน้ำผสมเป็นเนื้อเดียวกับไมโครบีดส์ นุ่มเนียนกระจายตัวซึมเข้าผิวง่าย สูตรนี้คัดสรรจนได้น้ำผึ้งจากผึ้งดำ 2 ใหม่อย่าง Connemara Honey จากไอร์แลนด์ เด่นดังในการผลิตไฮยาลูรอน และ Trogstad Honey จากนอร์เวย์ เข้มข้นไปด้วยกรดอะมิโนที่กระตุ้นซ่อมแซมความเสื่อมของสภาพผิว ผสานกับสุดยอดน้ำผึ้ง Ouessant Honey จากเกาะอูสซองต์ ฝรั่งเศส และนมผึ้ง เพื่อกระตุ้นกลไกฟื้นบำรุงเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ถูกใจสาวผิวแห้งสุดๆ

MENARD Authent Liquid (60ml. / 28,000 THB)
เซรั่มที่ผสานความชุ่มชื้นเข้มข้นของโลชั่นเข้ากับคุณสมบัติปกป้องผิวของอิมัลชั่น ทำให้ได้เนื้อลิควิดที่บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบสู่ผิวได้ดี ทรงพลังด้วยเทคโนโลยี Skin Auto-Purification เติมเต็มความชุ่มชื้น และปรับสมดุลผิวให้แข็งแรงด้วยส่วนผสมที่เป็นกรรมสิทธิ์ แถมดีไซน์ขวดทรงโค้งมนสะท้อนถึงพลังงานแห่งเซลล์ผิวที่เปี่ยมไปด้วยความชุ่มชื้น เสมือนหยดน้ำที่บริสุทธิ์

AUGUSTINUS BADER The Rich Eye Cream (15ml. / 8,500 THB)
ครีมบํารุงผิวรอบดวงตาสูตรเข้มข้นที่สุดของ ออกัสตินัส บาเดอร์ ใช้เทคโนโลยีTFC8® ที่เป็นเอกสิทธิ์ร่วมกับสุดยอดส่วนผสม อาทิ สารสกัดจากรากเหล่งตาเช้า และ Matrikine Anti-Wrinkle Complex ที่ช่วยให้ผิวรอบดวงตาแลกระชับ และแลลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก เนื้อครีมเหมาะสําหรับฟื้นฟูผิวบอบบางและผิวที่เปลี่ยนแปลงตามวัยบริเวณรอบดวงตา มาพร้อมกับแอพพลิเคเตอร์ ที่ทําจากโลหะที่มีความเย็นช่วยลดอาการบวมของผิว

YVES ROCHER Lift Pro-Collagene Anti-Wrinkle De-Puffing Eye Care (14 ml. / 1,187 THB)
อีฟโรเช่ออกไลน์โปรดักส์ครบทีม โดยมีส่วนผสมอันทรงพลังของ Organic Ice Plant เอกสิทธิ์เฉพาะ ครั้งนี้ขอชี้เป้าที่อายครีมด้วยส่วนผสมไอซ์แพลนท์ ช่วยแลลดเลือนริ้วรอย ต้านอนุมูลอิสระ(AOX) กระตุ้นสร้างคอลลาเจนและกรดไฮยาลูรอนิคในชั้นผิว ผสานส่วนผสมโบทานิคอล คอลลาเจน ให้ผิวมีความยืดหยุ่น และโบทานิคอล ไฮยาลูรอนิค แอซิด ล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ


“รักษามาตรฐาน” คีย์เวิร์ดของความสำเร็จของพิกัดทำสวยเบอร์ต้นฟิออร่า คลินิก (Fiora Clinic)

account_circle

ถามหาคลินิกเสริมความงามที่มีชื่อเสียงด้านการปรับรูปหน้า คงต้องมีชื่อนี้อยู่อันดับต้นๆ “ฟิออร่า คลินิก” เพราะความสำเร็จตลอดระยะเวลา 9 ปี(พ.ศ. 2568) ที่ผ่านมา ที่มีผู้รับบริการอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งดารานักแสดง เซเลบริตี้ อินฟลูเอนเซอร์ ตลอดจนผู้คนสายบิวตี้ งานนี้ต้องยกเครดิตให้ “คุณหมอเพชร – นพ.ชัยรัตน์ เสริมศิลป์” ในฐานะผู้ก่อตั้งและแพทย์ผู้ชำนาญการ จนเป็นหนึ่งในคนไทยที่ได้เป็นแพทย์ผู้สอนระดับนานาชาติ และยังเป็นเจ้าของฉายา “นักยกกระชับปรับรูปหน้าแห่งสมุทรสาคร” แพรว จึงขอบุกหลังบ้านเพื่อพูดคุยกับคุณหมอเพชร และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการของ ฟิออร่า คลินิก กันค่ะ

คุณหมอเพชร – นพ.ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ (ว.45095)

แพทย์ผู้ชำนาญการและผู้ก่อตั้ง ฟิออร่า คลินิก 

“อย่างที่ทราบกันดีว่า จุดเด่นของ ฟิออร่า คลินิก  คือ การปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเติมเต็ม หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมถึงการใช้เครื่องมือยกกระชับผิว ซึ่งทุกการใช้ ฟิออร่า คลินิก จะมีการเทคนิคเฉพาะ และมีการตรวจร่างกายก่อนทำหัตถการทุกครั้ง นั่นหมายความว่า เราสามารถประเมินผู้รับบริการ และรักษาได้ตรงจุด รวมทั้งทำให้ปริมาณในการใช้ยาหรือสารเติมเต็มได้อย่างเหมาะสม 

“ผู้รับบริการ ส่วนใหญ่ของ จะเน้นการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองความต้องการหลักๆ คือการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เช่น บริเวณใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม และการเสริมเพิ่มให้ลงตัวยิ่งขึ้น เช่น จมูก ปาก คาง และหน้าผาก  

“ส่วนหัตถการที่ผู้รับบริการ นิยมมาใช้บริการแล้วบอกต่อ ก็คงหนีไม่พ้นสารเติมเต็มและสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณใบหน้า นั่นแสดงว่าการดูแลผิวหน้าที่ ฟิออร่า คลินิก ได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามความต้องการของแต่ละบุคคลและคุ้มค่า เขาถึงกล้าที่จะบอกต่อ” 

ทำให้วันนี้ ฟิออร่า คลินิก  เป็นหนึ่งในคลินิกความงามที่ได้รับรางวัลจาก Praew Iconic Beauty ถึง 3 ปีซ้อน คุณหมอเพชรจึงอยากฝากถึงผู้รับบริการทุกคนว่า  

“ก่อนอื่นต้องขอบคุณทางนิตยสารแพรวที่ไว้วางใจในมาตรฐานของคลินิกเราตลอด 3 ปีต่อเนื่อง เราจะยังคงรักษามาตรฐานที่ดีอย่างนี้ต่อไปอีกยาวนาน อย่างที่ทราบว่า ปัจจุบันมีคลินิกปรับรูปหน้าและเสริมความงามค่อนข้างมาก สิ่งที่ผู้รับบริการ ต้องเช็กและตรวจสอบก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการ คือ หนึ่ง คลินิกนั้นมีมาตรฐานที่ดีในการให้บริการและการรักษาหรือไม่  สอง เป็นแพทย์ผู้ชำนาญการจริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันมีข่าวหมอปลอมออกมาเยอะมาก สาม ผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และมาตรฐาน FDA จากนานาประเทศ เพื่อยืนยันว่า ไม่ใช่ยาปลอมหรือยาหิ้ว ถ้าคลินิกนั้นถูกต้องทุกข้อ ก็จะทำให้ผลลัพธ์ของการเสริมความงามหรือการปรับรูปหน้าออกมาตามที่ต้องการ” 

นอกจากนี้คุณหมอเพชรยังแอบเผยถึงทางเลือกใหม่ที่เตรียมมาเซอร์ไพร้ส์สายบิวตี้ของ Fiora Clinic เร็วๆ นี้ว่า 

“น่าจะภายใน 1 – 2 ปีนี้ ฟิออร่า คลินิก จะมีสองทางเลือกใหม่ที่พร้อมให้บริการ คือ Bo Replacement Filter คือสารเติมเต็มที่ได้รับการพัฒนาเพื่อสามารถทดแทนกระดูกได้ เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่มีสารเติมเต็มตัวไหนที่สามารถทดแทนกระดูกได้จริง เพราะกระดูกโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าจะทรุดตัวลงตลอดเวลา สารเติมเต็มนี้จะช่วยเติมเต็มให้เหมือนเนื้อกระดูก เพื่อให้โครงสร้างของหน้ากลับเหมือนเดิมหรือรักษาลงลึกตามสาเหตุเฉพาะบุคคล 

“ส่วนทางเลือกตัวที่สอง คือ Liquid Toxin ปกติสารลดเลือนริ้วรอยจะมาในลักษณะผง แต่ตัวใหม่นี้จะเป็นน้ำ ตัดปัญหาเรื่องการผสมของการเตรียมยา ที่ใส่น้ำเกลือเยอะเกินไป เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้สามารถใช้ลดเลือนริ้วรอยที่มีความเข้มข้นเท่ากันทุกขวด และที่สำคัญสามารถอยู่ได้นานกว่าลดเลือนริ้วรอยปัจจุบัน และขอฝากฟิออร่าบางนา สาขาใหม่ด้วยครับ” 

คุณหมอตาฬ – พญ.ภรณี จิระวัฒนานนท์  (ว.51155)

แพทย์ผู้ชำนาญการ ประจำ ฟิออร่า คลินิก  สาขามหาชัย 

“ส่วนตัวหมอจะถนัดการทำหัตถการด้วยเครื่อง Oligio เป็นคลื่น Monopolar RF หรือคลื่นวิทยุที่ส่งผ่านความร้อนไปยังบริเวณชั้นไขมันโดยตรง เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบนใบหน้าค่อนข้างเยอะ ทำให้หน้าเล็กลงและกรอบหน้าชัดขึ้นหลังการทำทันที และลดอาการเจ็บเพราะไม่ต้องฉีดยาชา แค่รู้สึกอุ่นๆ ส่วนมากจะรู้สึกสบายจนนอนหลับไปเลย ผู้รับบริการจึงชอบกันมาก แต่แนะนำให้กลับมาทำเพื่อกระตุ้นทุกๆ 6 เดือน  

“สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการทำหัตถการด้วยเครื่อง Oligio คือ ต้องถอดพวกโลหะที่อยู่ตามร่างกาย ซึ่งทางคลินิกจะมีการเช็กอยู่แล้ว หัตถการนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่ใส่ Peacemaker หรือแผ่นเหล็กที่หัวใจ  

“เครื่อง Oligio จะช่วยแก้ปัญหาบริเวณแก้มด้านล่างที่มีไขมันเยอะ ช่วยลดกรอบแก้มด้านล่าง แต่จริงๆ แล้วการที่หน้าดูใหญ่ไม่ใช่เพราะไขมันอย่างเดียว การหย่อนคล้อยก็ทำให้หน้าดูใหญ่ด้วย เพราะฉะนั้นหมอจะแนะนำให้ฉีดสารเติมเต็มตรงช่วงด้านบนของหน้าด้วย เป็นการทำงานผสมผสานกันกับเครื่อง Oligio เพื่อทำให้หน้าทั้งบนและล่างมีกรอบที่ชัดยิ่งขึ้น  

“จุดเด่นของ Fiora Clinic คือความเป็นมาตรฐาน เพราะคุณหมอเพชรอยากให้ทุกสาขามีมาตรฐานเดียวกัน จึงมีการเทรนแนะนำตลอด มีการส่งไป academic เพื่อที่จะรักษามาตรฐานของคลินิก หรือเวลามีเคสผู้รับบริการเข้ามา ทีมแพทย์จะมีการพูดคุยและปรึกษากันตลอดว่า เคสนี้สามารถทำได้ดีกว่านี้ไหม เพราะเราใส่ใจผู้รับบริการทุกคนค่ะ” 

คุณหมออุ้ม – พญ.สุณัฏฐา สถิตย์กุลภักดี  (ว.54351)

แพทย์ผู้ชำนาญการ ประจำ ฟิออร่า คลินิก สาขากัลปพฤกษ์  

“ผู้รับบริการที่เข้ามาปรึกษากับหมอจะอยู่ในช่วงอายุ 30-50 ปี เป็นวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จ และต้องพรีเซ็นต์ตัวเอง จึงอยากมีภาพลักษณ์ที่ดูอ่อนกว่าวัยแลดูเป็นธรรมชาติ เพื่อช่วยเสริมความมั่นใจ ทำให้ผู้รับบริการส่วนใหญ่เข้ามาปรึกษาเรื่องการปรับรูปหน้า ซึ่งเป็นหัตถการที่เห็นผลค่อนข้างเร็ว รองลงมาจะเป็นในส่วนของงานผิว เช่น ผิวไม่กระจ่างใส ไม่กระชับ และไม่เรียบเนียนจากหลุมสิว  

“อย่างเคสของผู้รับบริการผู้หญิงท่านหนึ่ง อายุประมาณ 40-50 ปี ไม่เคยทำหัตถการกับหน้ามาก่อนเลย ทีแรกเข้ามาปรึกษาว่า ทำไมหน้าตัวเองดูโทรม ต้องการทำให้หน้าดูสดใสขึ้นแลดูเป็นธรรมชาติ หมอจึงต้องใช้เวลาพูดคุยกับผู้รับบริการนานพอสมควรเพื่อให้เขาเปิดใจ ก่อนจะเริ่มด้วยการตรวจร่างกาย แล้วพบว่ากระดูกบริเวณรอบดวงตาทรุด ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย มีถุงใต้ตา และร่องลึกใต้ตา จึงบอกเขาว่าวันนี้จะเริ่มด้วยการปรับหน้าให้แลดูสดใสก่อน หมอเลือกฉีดสารเติมเต็มบริเวณใต้ตาและร่องแก้ม  

“เมื่อผู้รับบริการเห็นความเปลี่ยนแปลงและพอใจกับผลลัพธ์ ทำให้เขาเริ่มเปิดใจมากขึ้น กลายเป็นผู้รับบริการประจำจนทุกวันนี้ หมอจะรู้สึกดีใจและภูมิใจทุกครั้ง เวลาเขามาเล่าให้ฟังว่า ออกไปพบลูกค้า หรือคุยธุรกิจแล้วสามารถจบดีลง่ายขึ้นมาก เพราะหน้าตาที่ดูสดใสขึ้น  

“ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดของการปรับรูปหน้า คือการประเมินเคส ซึ่งมาจากการดู การจับ การสัมผัสผิวหน้า เพราะในแต่ละช่วงวัย ความหย่อนคล้อยจะเกิดขึ้นในชั้นผิวที่แตกต่างกัน บางคนเกิดขึ้นที่ชั้นกระดูก บางคนที่ชั้นไขมัน เมื่อเราทราบถึงปัญหาที่แท้จริงของผู้รับบริการแล้ว จึงจะสามารถเลือกกลยุทธ์ในการรักษาได้อย่างถูกต้อง เช่น ถ้าตรงไหนกระดูกทรุด เราก็ฉีดสารเติมเต็มเข้าไป  หรือเส้นเอ็นหย่อนคล้อย นอกจากสารเติมเต็มแล้ว เราสามารถใช้เครื่องมือยกกระชับ เพื่อกระตุ้นให้เส้นเอ็นบริเวณนั้นกลับมาตึง  หรือใช้สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือใช้เลเซอร์ในการยกกระชับชั้นผิวก็ช่วยได้  

“สุดท้ายนี้หมออยากจะบอกว่า การเสริมความงามจะช่วยให้ทุกคนสวย และมีความมั่นใจได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ประกอบด้วย มาตรฐานของแพทย์ ที่ต้องมีความชำนาญ และมีความรู้ในการประเมินผู้รับบริการได้อย่างถูกต้อง และเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ผลการรักษาจึงจะออกมาดี สวยแลดูเป็นธรรมชาติ และคุ้มค่าค่ะ” 

คุณหมออ๊อฟ – พญ.ปรียภัทร ภูมิศิริชโย  (ว.43300)

แพทย์ผู้ชำนาญการ ประจำ ฟิออร่า คลินิก  สาขาจันทบุรี  

“แพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังและความงาม จะต้องผ่านการเรียน และสั่งสมประสบการณ์ซึ่งเป็นสำคัญที่สุด เพราะผู้รับบริการแต่ละคนจะมีปัญหาที่แตกต่างกัน คุณหมอจะต้องตรวจอย่างละเอียด เพื่อจะได้ทราบว่าผู้รับบริการจะต้องเติม หรือลดด้วยวิธีใดบ้าง เพื่อจะได้ออกแบบการรักษาเป็นเคสๆ ไป

“ด้วยผู้รับบริการของหมอที่สาขาจันทบุรีส่วนใหญ่จะเป็นชาวสวน ซึ่งจะมีปัญหาริ้วรอย ที่เกิดจากแสงแดด  ซึ่งเป็นความถนัดของทีมแพทย์ ฟิออร่า คลินิก  อยู่แล้ว เพราะเรามีเคสผู้รับบริการในกลุ่มยกกระชับจำนวนมากตั้งแต่เปิดสาขาจันทบุรีมากว่า 7 ปี ด้วยหัตถการการฉีดสารเติมเต็ม รวมถึงการใช้เครื่องยกกระชับ สำหรับผู้รับบริการที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงจะค่อยๆ เกิดขึ้น ซึ่งกว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลามากกว่าสารเติมเต็ม 

“อย่างมีเคสของผู้หญิงท่านหนึ่ง มีปัญหาผิวหน้าที่มีความหย่อนคล้อย ก่อนหน้านี้เคยทำอัลเทอร่ามาแล้ว แต่ไม่เห็นผล จึงมาปรึกษากับหมอที่ฟิออร่า คลินิก หลังจากฉีดสารเติมเต็ม เริ่มมีคนทักว่าหน้าดูดีขึ้น จนเขากลับมาทำซ้ำแล้วยังบอกต่อ ซึ่งเคสบอกต่อค่อนข้างเยอะมาก เพราะเราไม่ได้ยัดเยียด แต่เป็นเชิงแนะนำและให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา 

“ส่วนใหญ่ผู้รับบริการจะบอกว่าคุณหมออ๊อฟมือเบา(หัวเราะ) ใจเย็นเวลาฉีดสารเติมเต็ม เพราะหมออยากดูแลผู้รับบริการให้ดีที่สุด จึงจะค่อยๆ ฉีด ทำให้ไม่รู้สึกกดดันทั้งหมอและผู้รับบริการ เมื่อผู้รับบริการได้รับประสบการณ์ที่ดี  เขาก็จะบอกต่อ จนบางทีผู้รับบริการมารักษากันเป็นแก๊งเลย อยากจะบอกว่า เชิญเข้ามาที่ ฟิออร่า คลินิก  ได้เลยนะคะ เรามีทีมแพทย์ที่คอยประเมินให้แบบเคสต่อเคส ไม่มีการเสนอขาย แล้วที่แน่นอนคือ ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ทั้งหมดค่ะ” 

คุณหมอเซ้นส์ – พญ.สุพิชชา ศุภศิริลักษณ์  (ว.65721)

แพทย์ผู้ชำนาญการ ประจำ ฟิออร่า คลินิก  สาขามหาชัย  

“หมอจะมีความชำนาญด้านการปรับรูปหน้า โดยเฉพาะนวัตกรรมเครื่องยกกระชับ ส่วนใหญ่ผู้รับบริการจะกังวลบริเวณร่องแก้ม หรือบางคนอยากเสริมความมั่นใจให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น แลดูสดใสและอ่อนเยาว์ หมอจะแนะนำการทำหัตถการด้วยเครื่องยกกระชับ ทำให้ใบหน้าแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และช่วยเสริมผลลัพธ์หลังจากทำหัตถการอื่นๆ อย่างการฉีด Meso Fat การฉีดสารเติมเต็ม แต่แนะนำให้เว้นประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้สารเติมเต็มออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ จึงทำให้เห็นได้ว่ายังขาดหรือบกพร่องตรงไหน เพื่อเก็บส่วนเกินที่ยังหลงเหลืออยู่  

“สำหรับคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับกรอบใบหน้าของตัวเอง แต่ไม่แน่ใจว่าควรทำอะไรบ้าง เราสามารถใช้ Collagen Biostimulator  เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือใช้เครื่องยกกระชับ เพื่อให้ใบหน้าของเรา กระชับมากขึ้น แต่ส่วนการเติมเต็มบริเวณต่างๆ แนะนำให้เป็นสารเติมเต็ม  

“อย่าง เคสผู้รับบริการที่มีปัญหามีถุงใต้ตา เราสามารถแก้ปัญหาได้โดยใช้เทคนิคการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็ม หรืออย่างที่หมอบอกไป คือตัว Colagen Simulater ได้ หมอจะเลือกหัตถการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุดค่ะ 

“สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าและต้องการเสริมความงาม แต่ไม่แน่ใจว่า ควรทำหัตถการแบบไหนเป็นพิเศษ สามารถเข้ามาปรึกษาที่ ฟิออร่า คลินิก  ได้เลยนะคะ เราประเมินอย่างตรงไปตรงมา และตามความจริงแน่นอนค่ะ” 

คุณหมอกริช – นพ.กริชชากร จุรีมาศ  (ว.57795)

แพทย์ผู้ชำนาญการ แห่ง ฟิออร่า คลินิก  สาขาอรัญประเทศ 

“ผู้รับบริการ ที่สาขาอรัญประเทศส่วนใหญ่ ต้องการที่จะปรับรูปหน้าเพื่อแก้ปัญหา เช่น เบ้าตาลึก จึงต้องฉีดสารเติมเต็ม เพื่อพยุงเส้นเอ็น ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น นอกจากนี้ก็จะมีการเติมเต็มในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใต้ตา ร่องแก้ม ผู้รับบริการที่สาขาอรัญประเทศจะแตกต่างจากสาขาในกรุงเทพฯ เพราะด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้เคสที่เข้ามาปรึกษาเพื่อปรับรูปหน้าจะนิยมแก้ไขส่วนที่เห็นเด่นชัดก่อน อย่างแก้ไขใต้ตาก่อน แล้วอีกสองเดือนค่อยกลับมาเสริมร่องแก้ม แล้วปิดท้ายด้วยการเติมขมับ ความยากคือทำอย่างไรให้ได้ประสิทธิผลตามความต้องการภายใต้งบที่จำกัด ซึ่งจริงๆ แล้วผมจะอธิบายให้ผู้รับบริการก่อนเสมอว่า การปรับรูปหน้าที่ดีควรทำในคราวเดียว นอกจากจะเจ็บจากการฉีดยาชาแค่ครั้งเดียวแล้ว จะได้ดูสวยในแบบของคุณจริงๆ ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 อาทิตย์ทุกอย่างก็จะเข้าที่  

“สิ่งที่ทำให้คลินิกของเราได้รับความนิยมมาตลอด เพราะเราดูแลและใส่ใจทุกขั้นตอนและทุกเคสผู้รับบริการ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นสารเติมเต็ม สารลดเลือนริ้วรอย หรือตัวเครื่อง จะมีใบรับรองกำกับว่าเป็นของแท้แน่นอน สำหรับทีมแพทย์ผู้ชำนาญการของ ฟิออร่า คลินิก จะเพิ่มทักษะที่จำเป็น ไม่ว่าจะการฉีดสารเติมเต็ม หรือการฉีดสารลดเลือนริ้วรอย โดยคุณหมอเพชร – นพ.ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ระดับนานาชาติ รวมทั้งบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ ก็จะมีการเทรนให้กับแพทย์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์เป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อผู้รับบริการจะได้มั่นใจเมื่อใช้บริการกับ ฟิออร่า คลินิก  ของเราครับ” 


5 Playful Makeup เตรียมผิวฉ่ำโกลว์ สวยเล่นแสงพร้อมรับซัมเมอร์

5 Playful Makeup สร้างผิวฉ่ำโกลว์ สวยเล่นแสงพร้อมรับซัมเมอร์

Alternative Textaccount_circle
5 Playful Makeup เตรียมผิวฉ่ำโกลว์ สวยเล่นแสงพร้อมรับซัมเมอร์
5 Playful Makeup เตรียมผิวฉ่ำโกลว์ สวยเล่นแสงพร้อมรับซัมเมอร์

#PraewSurvey #ItemsOfTheWeek วีคนี้แพรวมีไอเท็ม สร้างผิวฉ่ำโกลว์ สวยเล่นแสงพร้อมรับซัมเมอร์มาป้ายยา แน่นอนว่างานผิวสำคัญ รองพื้นของ MAKE UP FOR EVER ยืนหนึ่งในเรื่องนี้ไม่มีห่วง แถมควงคู่มากับลิปกลอสเติมริมฝีปากสวยวาวราวกระจก ตามมาด้วยการเพิ่มออร่าให้ผิวด้วยไฮไลท์และบลัชออนจาก GLOSMETIX ที่ต้องมีติดกระเป๋า ส่วนใครที่ชอบพรางผิวเบลอรูขุมขนต้อง ANASTASIA BEVERLY HILLS สำหรับดวงตาก็ต้องเริ่ด อายแชโดว์พาเล็ตต์ KYLIE COSMETICS โดดเด่นด้วยเฉดสีโทนเย็นสร้างลุคได้ตั้งแต่ซอฟต์ไปจนถึงโฉบเฉี่ยว ไม่พลาดมีชิมเมอร์เพิ่มความวิบวับล้อแสงสร้างเปลือกตาสวย ปิดท้ายลิปบาล์มตัวดัง HOURGLASS COSMETICS กับ 3 เฉดสีและเท็กเจอร์ใหม่ที่เป็นไวรัลข้ามปี เพราะสาวลิซ่าหยิบมาใช้จนโซเชียลระอุ และทั้งหมดนี้คือ 5 ไอเท็มใหม่กรุบเพื่อลุคสวยปังเปล่งประกาย

HOURGLASS COSMETICS Phantom Volumizing Glossy Balm (1,700 THB)
ตอกย้ำความสำเร็จของลิปบาล์มตัวดังที่เป็นไวรัลข้ามปี PHANTOM VOLUMIZING GLOSSY BALM กับ 3 เฉดสีและเท็กเจอร์ใหม่ที่สาวลิซ่าหยิบมาใช้จนกลายเป็นกระแสร้อนแรงทันที เนื้อลิปเพิ่มประกายมุกเล่นแสงให้ริมฝีปากดูสวยอวบอิ่มมีมิติ สัมผัสเย็นสดชื่นเบาสบาย พร้อมพลังการบำรุงจากบาล์มและความเงางามจากกลอส โดยหนึ่งในเฉดสีใหม่อย่าง Invite 80 กุหลาบนู้ดประกายทองเป็นสีเดียวกับที่คิมเบอร์ลี่หยิบมาทาลงโซเชียล พร้อมเสริมทัพความปังด้วย Red 0 นวัตกรรมล่าสุดของลิปบาล์มสูตรวีแกนด้วยส่วนผสมจากพิกเมนต์ที่มาทดแทนสีแดงจากสารคาร์มีน (Carmine) โดยไม่ต้องใช้ส่วนผสมจากสัตว์ ทาแล้วริมฝีปากแดงสดหรูหราสุด

ANASTASIA BEVERLY HILLS Impeccable Blurring Second-Skin Foundation (35 ml. / 2,000 THB)
รองพื้นฟินิชเนื้อซอฟต์แมตต์นุ่มๆ ผ่านนวัตกรรม Precision Blur เบลอรูขุมขน ริ้วรอย และร่องลึก ปกปิดจุดบกพร่องได้ปานกลางถึงมาก ปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ เนื้อสัมผัสเบาดุจกำมะหยี่ กันน้ำแถมติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง แถมคุมมันได้ดี มีกรดไฮยาลูรอนิค ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยผลลัพธ์เสมือนผิวจริง เป็นผลิตภัณฑ์วีแกน ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากการทดลองในสัตว์

GLOSMETIX Pixie Dust Highlighter (590 THB) และ Blush Sparkle 2025 Mocha Collection (590 THB)
สายฝ. ต้องมีติดกระเป๋า! Pixie Dust Highlighterไฮไลท์เนื้อฝุ่นทองคำละเอียดเพิ่มออร่าเงางามให้ผิวโกลว์ฉ่ำวาวแลสุขภาพดี พิกเมนต์ชัด ติดทน เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบใช้ได้ทั้งแปรงและนิ้วมือ เหมาะกับทุกเฉดสีผิว อุดมด้วย Squalane และ Jojoba Oil บำรุงผิวไปในตัว พร้อมอีกไอเท็มที่สาวกลอซต้องมี Blush Sparkle โทนน้ำตาล 2 สี 2 เนื้อสัมผัสเพื่อลุคบ่มแดดสวย เปล่งประกายระดับเคาน์เตอร์แบรนด์อย่างสี Mocha Mousse เนื้อครีมเนียนนุ่ม เกลี่ยง่ายลื่นปรื้ดๆ เหมาะกับสาวผิวแห้งที่ต้องการความฉ่ำ และสี Mocha & Starlights เนื้อฝุ่นโทนน้ำตาลหรู พร้อมชิมเมอร์ 3 เฉดสี Golden, Silver และ Copper เบลอผิวเนียนละเอียด สวยวาววับจับจา เหมาะกับสาวผิวมันเพื่อพวงแก้มโกลว์แบบไม่เพิ่มความมัน

MAKE UP FOR EVER Super Boost Skin Tint (1,450 THB) และ Super Boost Lip Gloss (950 THB)
ยืนหนึ่งเรื่องเมคอัพงานผิวไม่เคยดร็อป ล่าสุดผุด Super Boost Skin Tint ปรับผิวเรียบเนียน ฟินิชผิวเปลือยสวย ปกปิดจุดบกพร่องระดับบางเบาถึงกลางๆ ก็เอาอยู่ ให้ความรู้สึกเบาสบาย ไม่หนักผิว และไม่ใช่แค่เมคอัพแต่เป็นการไฮบริดระหว่างเมคอัพและสกินแคร์ อุดมด้วยส่วนผสมที่มีสารอาหารเข้มข้น เติมความชุ่มชื้นยาวนานถึง 12 ชั่วโมง มีถึง 15 เฉดสีทางออนไลน์ และ 12 เฉดสีหน้าร้าน นอกจากนี้ยังมี SUPER BOOST LIP GLOSS ออกใหม่มาพร้อมกัน เพื่อให้ริมฝีปากอวบอิ่มและเปล่งประกายราวกระจกแวววาวติดทนนานถึง 6 ชั่วโมง ไร้ความเหนอะหนะน่ารำคาญ มี TRI-OIL COMPLEX บำรุงริมฝีปากให้นุ่มเด้งกับ 11 เฉดสี 2 เท็กเจอร์ PURE และ PEARLY แนะเฉดไอคอนิกอย่าง ANYWHERE CAFFEINE, WHEREVER WALNUT และ LIMITLESS BROWN ไม่ว่าจะลุคกลางวันหรือกลางคืนก็เอาอยู่

KYLIE COSMETICS Smokey Palette (1,430 THB)
สวยครบจบในตลับเดียว! อายแชโดว์พาเล็ตต์ใหม่โดดเด่นด้วยเฉดสีโทนเย็นที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างลุคสโมกกี้อายได้ตั้งแต่ซอฟต์ไปจนถึงคมเข้ม โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง ประกอบด้วย 10 เฉดสีในเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ทั้งแมตต์ ชิมเมอร์ และเมทัลลิก ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน เกลี่ยง่าย พิกเมนต์แน่นชัดในเพียงปาดเดียว อีกทั้งยังเป็นสูตรคลีน วีแกน


GENBLUE 

GENBLUE วงเกิร์ลกรุ๊ปเจน Z ที่กำลังครองวงการเพลงเอเชีย

Alternative Textaccount_circle
GENBLUE 
GENBLUE 

GENBLUE (เจนบลู) วงเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติไต้หวัน-เกาหลี กำลังสร้างกระแสความฮือฮาในวงการ K-pop ด้วยการเปิดตัวมินิอัลบั้มเกาหลีชุดแรก ACT LIKE THAT โดยมีสมาชิก ได้แก่ XXIN, AYEON, YUAN, LILI, AYAKO และ NICO นำโดยลีดเดอร์ XXIN วงนี้เป็นที่รู้จักจากซิงเกิลเปิดตัว COCOCO ซึ่งกลายเป็นไวรัลบนรายการ THE SHOW เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากคว้ารางวัล K-POP Rookie Award อันทรงเกียรติ พวกเธอกลับมาอีกครั้งพร้อมกับ ACT LIKE THAT เพื่อยืนยันสถานะของพวกเธอในวงการเพลงเกาหลี

นอกเหนือจากการเปิดตัวมินิอัลบั้ม เจนบลู ยังได้เริ่มต้นทัวร์โปรโมตต่างประเทศ โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายหลัก แฟนๆ เตรียมพบกับการแสดงสุดเร้าใจที่มาพร้อมเสน่ห์ Teen Crush อันเป็นเอกลักษณ์!

คลื่นลูกใหม่ในวงการ K-Pop

เจนบลู ก่อตั้งขึ้นภายใต้ TEN Entertainment ค่ายเพลงจากไต้หวัน และก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักจากรายการเรียลลิตี้ NEXT GIRLZ ในปี 2023 ชื่อของวงเป็นการผสมระหว่างคำว่า “Generation” และ “Blue” ซึ่งสื่อถึงความสดใสของยุคสมัยใหม่และความลึกซึ้งอันไร้ขีดจำกัดของมหาสมุทร เปรียบเสมือนความบริสุทธิ์ของอัญมณีแซฟไฟร์

GENBLUE 

สมาชิกแต่ละคนนำเสนอสไตล์ที่แตกต่างกัน:

XXIN – หัวหน้าวง, ACE, นักเต้นหลัก และแร็ปเปอร์หลัก เคยปรากฏตัวใน Youth With You Season 2 ประเทศจีน

AYEON – นักร้องเสียงหลักและนักเต้นนำจากเกาหลีใต้

YUAN – นักร้องเสียงนำผู้ร่าเริงและมีพรสวรรค์ด้านการแต่งเพลง

LILI – นักเต้นนำ, นักร้องเสริม และแร็ปเปอร์ที่มีผู้ติดตาม TikTok กว่าล้านคน

AYAKO – สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น ผู้เต็มไปด้วยพลังและความซุกซน

NICO – น้องเล็กของวง เจ้าของฉายา “นักเรียนมัธยมต้นที่สวยที่สุด” มีลุคหวานแต่เท่ และมีงานอดิเรกสุดไม่ธรรมดา—กีฬายิงปืน

เส้นทางสู่ความสำเร็จ – การฝึกฝนที่เกาหลี

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เจนบลู เข้าสู่การฝึกฝนอย่างเข้มข้นที่เกาหลี ภายใต้การดูแลของครูฝึกจาก JYP, YG, SM และ HYBE ความพยายามของพวกเธอสัมฤทธิ์ผล เมื่อกลายเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปไต้หวันวงแรกที่เดบิวต์ในเกาหลีผ่านรายการ THE SHOW กับเพลง COCOCO ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ถือเป็นก้าวสำคัญของพวกเธอ

หลังจากคว้ารางวัล K-POP Rookie Award ที่ Korean Cultural Entertainment Grand Awards GENBLUE ได้ประกาศเปิดตัว ACT LIKE THAT อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ทั้งในไต้หวันและเกาหลี ถือเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปไต้หวันวงแรกที่ก้าวเข้าสู่ตลาดอัลบั้มเกาหลี การโปรโมตของพวกเธอประกอบไปด้วยการแสดงในรายการเพลง กิจกรรมแจกลายเซ็น แฟลชม็อบตามท้องถนน ร้านป๊อปอัพสุดพิเศษ และบูธถ่ายภาพ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทั้งเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ตื่นเต้นสำหรับวงน้องใหม่!

การฝึกฝนเข้มข้น: โยคะ พิลาทิส & การควบคุมอาหาร

เพื่อเตรียมตัวสำหรับทัวร์เอเชีย เจนบลู ต้องเข้ารับการฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยเน้นไปที่การปรับท่าทางและเพิ่มความแข็งแกร่งผ่านโยคะและพิลาทิส พร้อมกับการควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด แม้แต่ในช่วงตรุษจีน พวกเธอก็ยังคุมอาหารอย่างเคร่งครัด พร้อมกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “เราไม่เพิ่มน้ำหนักเลยแม้แต่นิดเดียวหลังวันหยุด!”

ฝึกฝนภาษาเกาหลีและอังกฤษ

เนื่องจากอัลบั้มนี้เป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด สมาชิกวงจึงทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนภาษา โดยมี AYEON ทำหน้าที่เป็นติวเตอร์ประจำวง ส่งผลให้ทักษะของพวกเธอพัฒนาขึ้นอย่างมากภายในหกเดือน XXIN เผยว่า “ตอนนี้เราสามารถพูดเล่นกับช่างแต่งหน้าชาวเกาหลีได้สบายๆ แล้ว!” ในขณะที่ AYAKO เล่าถึงวิธีการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใครการแชทกับ AI chatbot เป็นภาษาเกาหลี “เรายังแนะนำ เจนบลู ให้กับ AI ด้วย! มันช่วยเรื่องไวยากรณ์ได้เยอะเลย” นอกจากนี้ สมาชิกทั้ง 6 คนยังพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อให้สามารถสื่อสารกับแฟนๆ ทั่วโลกได้อย่างราบรื่น YUAN กล่าวเสริมว่า “เราหวังว่าจะสามารถแนะนำอัลบั้มของเราเป็นภาษาอังกฤษและเชื่อมต่อกับแฟนๆ ทั่วโลกได้แบบเป็นธรรมชาติ!”

ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ – ACT LIKE THAT

มินิอัลบั้ม ACT LIKE THAT ประกอบด้วย 4 เพลงสุดเร้าใจ:

ACT LIKE THAT (ไตเติ้ลแทร็ก)

OH!

SLOW DOWN

FEEL LIKE SPRING

แต่ละเพลงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เจนบลู ที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดและไล่ตามความฝันของพวกเธอ XXIN กล่าว “อัลบั้มนี้สะท้อนถึงตัวตนของ เจนบลู และเราขออุทิศให้แฟนๆ เป็นสัญลักษณ์ของความขอบคุณจากใจจริง!”

มิวสิกวิดีโอของเพลงไตเติ้ล ACT LIKE THAT เต็มไปด้วยพลังและความสดใหม่ สมาชิกวงเล่าว่าพวกเธอต้องฝึกซ้อมหนักมาก จนถึงขั้นหายใจไม่ทันระหว่างร้องเพลง XXIN แซวว่า AYAKO ถึงกับหอบหนักหลังร้องจบ ซึ่งเธอตอบกลับพร้อมหัวเราะว่า “มันใช้พลังเยอะมากจริงๆ!”

หลังจากเพลง COCOCO มียอดวิวทะลุ 12 ล้านครั้ง ความคาดหวังจึงสูงขึ้นสำหรับ ACT LIKE THAT และเมื่อถูกถามถึงเป้าหมายของพวกเธอ GENBLUE ได้ท้าทายแฟนๆ ว่า “ถ้ายอดวิวทะลุ 30 ล้าน เราจะจัดกิจกรรมพิเศษ อาจเป็นการอ่านจดหมายจากแฟนๆ หรือแสดงเวอร์ชันพิเศษของเพลงนี้แบบสดๆ!”

คิมซูฮยอน

ความนิยมดิ่งดาวน์ ของ คิมซูฮยอน พระเอกค่าตัวแพงที่สุดของเกาหลี

Alternative Textaccount_circle
คิมซูฮยอน
คิมซูฮยอน

เรียกว่านาทีนี้คงไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่าปมร้อนของ พระเอกค่าตัวแพงที่สุดในเกาหลี คิมซูฮยอน นักแสดงชายวัย 37 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานที่โดดเด่น My Love from the Star, It’s Okay to Not Be Okay รวมถึงผลงาน Queen of Tears โดยล่าสุดดาราหนุ่มตกเป็นประเด็นฉาว จากข้อครหาเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้ คิมแซรน นักแสดงหญิงวัย 25 ปี อัตวินิบาตกรรม ซึ่งเรื่องนี้ทำให้สังคมมองพระเอกหนุ่มคนดังไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ปมนักแสดงสาวลาโลก

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักแสดงหญิงวัย 25 ปี คิมแซรน ถูกพบว่าเสียชีวิตที่บ้านพักของตนเอง โดยในเวลาต่อมาได้มีการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการ อัตวินิบาตกรรม ที่น่าตกใจคือวันเสียชีวิตของเธอตรงกับวันเกิดของ คิมซูฮยอน รุ่นพี่ร่วมค่าย ซึ่งเคยตกเป็นข่าวความรักด้วยกัน แต่ในเวลาต่อมาต้นสังกัด GOLD MEDALIST ได้ออกมาปฏิเสธ

หลังจากนักแสดงสาวเสียชีวิตเธอยังถูกชาวเน็ตโจมตีไม่หยุด จนคุณป้าของ คิมแซรน ตัดสินใจดับเครื่องชนเปิดแชทแฉเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของหลานสาว โดยระบุว่าคิมซูฮยอนและคิมแซรนมีความสัมพันธ์ในฐานะคนรักกันจริงตั้งแต่หลานสาวอายุ 16 ปี โดยมีหลักฐานเป็นรูปถ่าย 200 ใบ อีกทั้งในช่วงที่ยากลำบากคิมแซรนพยายามติดต่อดาราหนุ่มเพื่อหวังให้ช่วยขยายกำหนดเวลาการชำระหนี้ แต่กลับไม่เป็นผล และมิหนำซ้ำยังมีการปล่อยข่าวที่ไม่เป็นความจริงอยู่บ่อยครั้งจาก Youtuber อีจินโฮ ซึ่งสนิทกับผู้จัดการของต้นสังกัดเก่า  โดยคุณป้าของคิมแซรนยืนยันว่า “เราไม่ได้มีเจตนาโจมตี”คิมซูฮยอน” เราแค่อยากเปิดเผยความจริงเพราะแซรนจากไปแล้ว เราจะไม่มีวันโกหกเรื่องที่เกี่ยวกับเธอแน่นอน”

ชาวเน็ตสวดยับนี่แหละ ชายแทร่!

หลังจากหลักฐานล่าสุดปรากฏ คิมซูฮยอน ถูกโจมตีอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน ที่ไม่สมควรไปบีบแซรนอย่างหนักจนเธอเลือกจบชีวิต ,รสนิยมชอบเด็ก Pedophilia ชายวัย 27 คบหากับเด็กสาววัย 16 ปี,ไม่กล้ายอมรับความสัมพันธ์จนทำให้ฝ่ายหญิงถูกโจมตีอย่างหนัก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้สังคมมองนักแสดงหนุ่มคนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

คิมซูฮยอน

ความนิยมดิ่งดาวน์

ล่าสุดแฟนคลับคิมซูฮยอนจำนวน 460,000 คนได้ประกาศว่าต่อไปนี้พวกเขาไม่ใช่แฟนคลับของนักแสดงหนุ่มอีกต่อไป ขณะที่แฟนทั่วไปเรียกร้องให้ 18 แบรนด์ชั้นนำถอดพระเอกหนุ่มจากการเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ด้วย

เส้นทางสู่บทบาทใหม่ “เบคกี้ รีเบคก้า” แอมบาสเดอร์ Chanel ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle

ปรบมือดังๆ ให้กับ “เบคกี้ รีเบคก้า” ล่าสุดเธอได้รับเลือกให้เป็นแอมบาสเดอร์ประจำ CHANEL ประเทศไทย คนถัดไป!

หลังจากเดือนตุลาคม ปี 2024 ที่นักแสดงมากความสามารถ เบคกี้ รีเบคก้า เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ Chanel คอลเล็คชั่น Spring-Summer 2025 ที่ปารีสแฟชั่นวีค ชื่อของเธอก็กลายเป็นท็อปลิสต์ในวงการแฟชั่นว่า แอมบาสเดอร์ของแบรนด์คนไปต่อจาก หมาก ปริญญ์ และออกแบบ ชุติมณฑน์ ประจำ CHANEL อาจเป็นเบคกี้

เพราะภาพลักษณ์ที่เข้ากับ DNA ประจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการร่วมชมโชว์ครั้งแรกของเธอยังติด EMV (Earned Media Value) หรือมูลค่าทางสื่อออนไลน์ อันดับที่ 12 สร้างมูลค่าถึง 4.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นแรงสนับสนุนให้เธอก้าวสู่บทบาทใหม่ในวงการแฟชั่น

ล่าสุดขณะเธอเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ CHANEL คอลเล็คชั่น Fall/Winter 2025 ที่จัดขึ้นใน Grand Palais ชื่อของเธอก็ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากแบรนด์และสื่อต่างประเทศว่า เบคกี้ – รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ได้รับเลือกให้เป็นแอมบาสเดอร์ประจำประเทศไทยคนถัดไป บทบาทใหม่ของเธอและชาเนลจะเป็นไปอย่างไร รับรองว่ามีอะไรให้ติดตามชมมากมายแน่นอน!


รูปภาพ: Getty Images

เจ้าหญิงเคท

พระสิริโฉมงดงามยิ่ง เจ้าหญิงเคทเสด็จร่วมพิธี Commonwealth ครั้งแรกในรอบสองปี

account_circle
เจ้าหญิงเคท
เจ้าหญิงเคท

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เจ้าหญิงเคท พระชนมายุ 43 พรรษา เสด็จไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอน เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันเครือจักรภพ (Commonwealth Day Service of Celebration) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2023 หลังพักงานเพื่อรักษาตัวจากโรคมะเร็ง

(Photo by Aaron Chown – WPA Pool/Getty Images)

โดยมีสมาชิกราชวงศ์อังกฤษหลายพระองค์ร่วมพิธี รวมถึงเจ้าชายวิลเลียม, สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3, สมเด็จพระราชินีคามิลลา, เจ้าหญิงแอนน์, เจ้าชายริชาร์ด ดยุกแห่งกลอสเตอร์ และดัชเชสบิร์กิตเตแห่งกลอสเตอร์ ทั้งนี้ พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเครือจักรภพ ซึ่งมีประชากรอยู่ในแอฟริกา เอเชีย แคริบเบียน อเมริกา แปซิฟิก และยุโรป

สำหรับการปรากฏพระองค์ครั้งนี้ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงฉลองพระองค์ชุดเดรสสีแดงจาก Catherine Walker พร้อมหมวกจาก Gina Foster เสริมด้วยสร้อยไข่มุกสี่เส้นจาก Garrard ที่เคยเป็นของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และต่างหูไข่มุก Collingwood ของเจ้าหญิงไดอานา

เมื่อปีที่แล้ว เจ้าหญิงเคททรงงดเข้าร่วมพิธีในวันที่ 11 มีนาคม 2024 เนื่องจากกำลังฟื้นพระวรกายจากการผ่าตัดช่องท้องในเดือนมกราคม และต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ทรงเริ่มเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด

ในขณะนั้น พระราชวังเคนซิงตันได้แถลงว่า เจ้าหญิงเคทจะยังไม่กลับมาปฏิบัติพระกรณียกิจจนกว่าจะพ้นเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งตรงกับวันที่ 30 มีนาคม อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 22 มีนาคม พระองค์ทรงมีพระดำรัสผ่านวิดีโอเปิดเผยว่าทรงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง และกำลังเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด

ตลอดปีที่ผ่านมา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงให้ความสำคัญกับสุขภาพของพระองค์เป็นหลัก ก่อนจะมีพระดำรัสในเดือนกันยายนว่าทรงเสร็จสิ้นการรักษา และในวันที่ 14 มกราคม ทรงประกาศว่าขณะนี้พระองค์อยู่ในภาวะทุเลาจากโรคมะเร็ง พร้อมเสด็จกลับมาปฏิบัติพระกรณียกิจมากขึ้น

(Photo by Samir Hussein/WireImage)

“เป็นเรื่องน่ายินดีที่ข้าพเจ้าผ่านพ้นช่วงเวลาการรักษา และขณะนี้มุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เคยเผชิญกับโรคมะเร็งจะทราบดีว่าต้องใช้เวลาปรับตัวกับสภาวะใหม่ ข้าพเจ้าตั้งตารอปีที่เต็มไปด้วยสิ่งดี ๆ และขอขอบคุณทุกคนสำหรับกำลังใจตลอดมา” เจ้าหญิงเคทตรัสในการประกาศเมื่อเดือนมกราคม

นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ยังเสด็จร่วมพิธีวันเครือจักรภพเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2023 หลังจากเมื่อปีที่แล้วไม่สามารถเข้าร่วมได้ เนื่องจากพระองค์ทรงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง และเริ่มต้นการรักษาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนพิธีจะจัดขึ้น


แกร็บ ผนึก กทม. หนุนนโยบายสร้างเมืองปลอดภัย ดึง บุ๋ม ปนัดดา ปลุกพลังคนขับป้องกันภัยคุกคามทางเพศ

แกร็บ ผนึก กทม. หนุนนโยบายสร้างเมืองปลอดภัย ดึง บุ๋ม ปนัดดา ปลุกพลังคนขับป้องกันภัยคุกคามทางเพศ

Alternative Textaccount_circle
แกร็บ ผนึก กทม. หนุนนโยบายสร้างเมืองปลอดภัย ดึง บุ๋ม ปนัดดา ปลุกพลังคนขับป้องกันภัยคุกคามทางเพศ
แกร็บ ผนึก กทม. หนุนนโยบายสร้างเมืองปลอดภัย ดึง บุ๋ม ปนัดดา ปลุกพลังคนขับป้องกันภัยคุกคามทางเพศ

แกร็บ ประเทศไทย จับมือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ มูลนิธิองค์กรทำดี เปิดตัวแคมเปญ“เมืองปลอดภัย อุ่นใจไปกับ Grab” เพื่อส่งเสริมและยกระดับความปลอดภัยให้กับสังคม พร้อมป้องกันการคุกคามทางเพศ สอดรับกับนโยบาย “ปลอดภัยดี” ของ กทม. ที่มุ่งลดจุดเสี่ยงด้านอาชญากรรม อุบัติเหตุ และสาธารณภัย  โดยแคมเปญดังกล่าวมุ่งเน้นการสร้างความมีส่วนร่วมกับกลุ่มไรเดอร์และคนขับแกร็บผ่าน 3 ไฮไลท์หลัก คือ กิจกรรม #ปักหมุดจุดมืด เพื่อกระตุ้นจิตอาสาในการรายงานจุดเสี่ยงภัยทั่วกรุงเทพฯ ผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue การรณรงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันภัยคุกคามทางเพศผ่านคอร์สอบรมออนไลน์ที่ได้ ดร. ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี มาร่วมให้ความรู้ รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ IoT อาทิ กล้องบันทึกภาพ และปุ่มฉุกเฉิน (SOS) ภายในรถยนต์โดยสาร เพื่อสร้างความอุ่นใจในการเดินทางให้กับทั้งผู้ใช้บริการและคนขับ

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “กรุงเทพมหานคร มุ่งมั่นที่จะสร้างเมืองที่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตามนโยบาย ‘ปลอดภัยดี’ โดยยกระดับการป้องกันปัญหาอาชญากรรมเพื่อสร้างความอุ่นใจรอบด้านให้กับประชาชนภายใต้แนวคิด 3 ส. อันได้แก่ สว่าง ผ่านการติดตั้งและซ่อมแซมไฟฟ้าแสงสว่างในที่สาธารณะ สะดวก ผ่านการจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยเพื่อเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยหรือหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยง และ สบายใจ ผ่านการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อสอดส่องทุกความเคลื่อนไหวและลดความเสี่ยง โดยในปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา กทม. ได้ดำเนินการปรับปรุงจุดเสี่ยงอาชญากรรมไปแล้วกว่า 177 จุด ทั้งนี้ การผนึกความร่วมมือกับแกร็บโดยเปิดโอกาสให้คนขับและไรเดอร์มาช่วยปักหมุดจุดมืดในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนนโยบาย ‘กรุงเทพฯ ต้องสว่าง’
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการระบุจุดเสี่ยงและแก้ไขปัญหาแสงสว่างตามจุดต่างๆ ทั้งยังช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสปัญหาอาชญากรรม ซึ่งถือเป็นอีกแรงสำคัญที่จะช่วยสร้างเมืองที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นให้กับทุกคน”

กิจกรรมหลักภายใต้แคมเปญ “เมืองปลอดภัย อุ่นใจไปกับ Grab” ประกอบด้วย 

  • กิจกรรม #ปักหมุดจุดมืด สร้างกรุงเทพฯ เมืองปลอดภัย: โดยแกร็บร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร เชิญชวนคนขับแกร็บในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วยกันสอดส่องและรายงานพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอันตรายทั่วกรุงเทพฯ อาทิ บริเวณถนนหรือซอยที่ไฟฟ้าดับ สัญญาณไฟคนข้ามชำรุด หรือพื้นที่เปลี่ยวใกล้ชุมชน ด้วยการถ่ายภาพบริเวณที่เสี่ยงภัย และส่งต่อไปที่ Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ดำเนินการปรับปรุง และแก้ไขต่อไป โดยปัจจุบันคนขับแกร็บได้เริ่มรายงานจุดเสี่ยงภัยไปแล้วกว่า 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ 
  • การรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกในการป้องกันการคุกคามทางเพศ: โดยแกร็บได้จัดทำคอร์สอบรมออนไลน์ภายใต้โครงการ GrabAcademy เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศและแนวทางในการช่วยเหลือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามให้แก่คนขับแกร็บ โดยได้ ดร. บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี มาร่วมถ่ายทอดความรู้และปลุกจิตสำนึก พร้อมแนะนำให้คนขับสามารถแยกแยะพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการคุกคามทางเพศ และสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย 
  • การยกระดับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการและคนขับ: นอกจากการนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาใช้ อาทิ ฟีเจอร์ Safety Centre ศูนย์ความปลอดภัยที่ให้ผู้โดยสารขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์ Share My Ride ที่สามารถแชร์เส้นทางการเดินทางแบบเรียลไทม์ให้กับเพื่อนและครอบครัวได้ หรือฟีเจอร์ Audio Protect ที่มีการบันทึกเสียงระหว่างการเดินทางเพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่เกิดเหตุไม่พึงประสงค์แล้ว ในปีนี้ แกร็บได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี IoT อาทิ ปุ่มฉุกเฉิน (SOS) และกล้อง  Karta Dashcam ภายในห้องโดยสารเพื่อบันทึกภาพระหว่างการเดินทาง ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้ทั้งกับคนขับและผู้ใช้บริการ โดยจะเน้นไปที่บริการ GrabCar for Ladies  (บริการเรียกรถที่ให้บริการโดยคนขับผู้หญิง) 

บิวกิ้น พุฒิพงศ์

บิวกิ้น พุฒิพงศ์  กับความท้าทายใหม่ ศาสตร์การแสดงแนวคอมเมดี้

Alternative Textaccount_circle
บิวกิ้น พุฒิพงศ์
บิวกิ้น พุฒิพงศ์

เพราะชื่นชอบศาสตร์การแสดงแนวคอมเมดี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอสบโอกาสเหมาะที่นักแสดงคุณภาพ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ได้มารับบทเป็นสายตำรวจสุดโบ๊ะบ๊ะในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “ซองแดงแต่งผี” จากค่ายหนัง GDH ที่ร่วมมือกับ Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ก็ทำเอาเจ้าตัวแฮปปี้ดี๊ด๊าแบบสุดๆ ทุ่มเทเตรียมตัวทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อความสมจริงของตัวละคร พร้อมการันตีบทดีเน้นเสิร์ฟความสนุกครบรสทุกมิติ

บิวกิ้น พุฒิพงศ์ เผยว่า “หลังจากที่ผมได้รับการติดต่อจากโปรดิวเซอร์ พี่โต้ง-บรรจง ว่ามีโปรเจกต์ที่น่าสนใจอยากให้ผมมาร่วมแสดง และผมได้ดูหนังเรื่อง Marry My Dead Body ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในไต้หวันผมก็ตอบตกลงรับเล่นทันทีครับ เพราะเป็นโปรเจกต์ที่ทั้งสนุกและมีหลากหลายมิติ แกนหลักของเรื่องนี้มันแข็งแรง มีทุกเส้นเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทของความตลกคอมเมดี้ ความแอ็คชั่น มีความดราม่าเสริมเข้ามานิดๆ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ครบรสกลมกล่อมมาก แล้วพอนำมาปรุงแต่งใหม่ในบริบทแบบไทย ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ตรงจริตโดนใจคนดู”

” ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็น ‘เม่น’ โจรกลับใจที่ผันตัวมาเป็นสายตำรวจ แล้วดันไปเผลอหยิบซองแดงที่ตกอยู่ เลยทำให้ต้องเข้าพิธีแต่งงานกับ ‘ผีตี่ตี๋’ ที่รับบทโดย พีพี-กฤษฏ์ พร้อมกับการเดินหน้าตามหาตัวคนร้ายที่ทำให้ตี่ตี๋ต้องตาย เพื่อส่งให้เขาได้ไปเกิดใหม่อีกครั้ง เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ผมต้องมาเล่นบทแอ็คชั่นคอมเมดี้ ส่วนใหญ่คนดูจะคุ้นเคยกับผมในบทดราม่ามากกว่า แต่การได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง ในฐานะนักแสดง ซึ่งผมต้องเตรียมตัวเวิร์คช็อปเยอะมาก ทั้งจังหวะแอ็คชั่น หรือในฉากที่มันตลก ก็ต้องเล่นให้ตัวละครดูมีความตลกแบบการ์ตูน แต่ต้องไม่ให้ดูโอเวอร์แอ็คติ้งจนเกินไป และอีกหนึ่งสิ่งที่ผมต้องใช้เวลาฝึกหนักมาก คือฉากที่ต้องเต้นโพลแดนซ์ เพราะร่างกายต้องแข็งแรง ถึงจะยึดเกาะเสาไว้ได้ แม้จะหนักและเหนื่อย แต่ผมก็มีความสุขมากที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ สุดท้ายผมอยากบอกว่าหนัง ‘ซองแดงแต่งผี’ เป็นหนังที่มีหลายมิติอยู่ในนั้น ซึ่งนักแสดงและทีมงานทุกคนเต็มที่กับหนังเรื่องนี้มากๆ รับรองว่าคนดูจะได้รับความสนุกแบบไม่มีกั๊กแน่นอนครับ”

เตรียมเปิดซองแดงรับแรงกระแทกความฮาใน “ซองแดงแต่งผี” 20 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

เจนนี่ BLACKPINK

เสรีภาพในการแต่งกายอยู่ไหน? เจนนี่ BLACKPINK ถูกสวดแต่งตัวเซ็กซี่

Alternative Textaccount_circle
เจนนี่ BLACKPINK
เจนนี่ BLACKPINK

แฟนเกาหลีรับไม่ได้ สไตล์การแต่งตัวเซ็กซี่ ของ เจนนี่ คิม หรือ เจนนี่ BLACKPINK ขณะอยู่ในสหรัฐอเมริกา

วลี “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” เป็นคำกล่าวที่สะท้อนถึงความโดดเดี่ยวและความกดดันที่คนดังต้องเผชิญเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จในระดับสูง ไม่ว่าพวกเขาจะขยับตัวทำอะไร มักถูกจับตามองจากสาธารณชนอยู่เสมอ โดยเฉพาะศิลปินหญิงมีหนึ่งประเด็นที่มักตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์คือเรื่อง การแต่งกาย

ล่าสุด เจนนี่ คิม หรือ เจนนี่ แบล็กพิงก์ ตกเป็นเป้าโจมตีจากชาวเน็ตร่วมชาติ จากข้อครหาแต่งตัวเซ็กซี่จนเกินไป ระหว่างการจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว The Ruby Experience ในสหรัฐอเมริกา

ความเห็นของชาวเกาหลีที่มีต่อเจนนี่ “น่าผิดหวัง สรุปแล้วเธอตั้งใจจะโชว์อะไรกันแน่?” , “มันดูโป๊เกินไป”, “โชว์เยอะเกินไป”, “ฉันอาจจะหัวโบราณเกินไป แต่ทั้งท่าเต้นและชุดมันโป๊ไปหน่อย”, “ประเด็นมันอาจไม่ได้อยู่ที่ดูโป๊ แต่มันอยู่ที่ทำให้รูปร่างเธอดูแปลกๆ”, “เข้าใจสไตล์ของเจนนี่นะแต่ว่าชุดมันไม่พอดีกับเธอเท่าไหร่ มันเลยดูไม่เหมาะ ดูไม่เซ็กซี่”, “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมแฟนๆ ต่างชาติถึงชอบชุดแปลกๆ พวกนั้นมากขนาดนั้น”, “เธอผอมเกิน”

เจนนี่ BLACKPINK

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจนนี่ถูกวิพากษ์วิจารณ์   เพราะเจนนี่เป็นคนมีความมั่นใจในการแต่งตัว และกล้าที่จะลองสไตล์ใหม่ๆ ดังนั้นจึงมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ  และแม้ว่าการแต่งกายจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็ปฏิเสธว่า ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เจนนี่กลายเป็นแฟชั่นไอคอนคนหนึ่งของวงการ K-Pop ทั้งยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คนอีกด้วย

keyboard_arrow_up