Page 1669 – Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach

อลังการงานดอกไม้ เก็บตกวิวาห์หวานลูกสาวเสี่ยวีที ลูกเขยหล่อ ไฮโปรไฟล์ซะด้วย

November 30, 2015

ไม่รู้ว่าช่วงนี้ฤกษ์ดีหรือความรักสุกงอมเต็มที่กันแน่ งานแต่งงานของบรรดาคนดังทั้งในวงการบันเทิง และเหล่าเซเลบริตี้ถึงได้จัดติดกันขนาดนี้

เพราะเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากจะมีงานแต่งงานของโบ-ชญาดา กับร้อยเอกกฤชพล เศวตนันท์,สาวมัดหมี่กับสัว-ศุภชัย และปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจที่ชื่อ “ทิม” แล้ว ก็ยังมีงานแต่งของสาวสวย ป้อน-ลีลา สุนทรวิเนตร์ ลูกสาวคนกลางของเสี่ยวีที ที่เพิ่งออกเรือนไปหมาดๆ เช่นกัน

อิ่มอกอิ่มใจกันทั้งครอบครัว โดยเฉพาะเสี่ยวีที –วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ที่แม้จะขึ้นชื่อว่าหวงนักหวงหนากับลูกสาวทั้งสามคนที่เลี้ยงดูอย่างกับไข่ในหิน แต่วันนี้ก็ถึงแวลาแล้วที่ลูกสาวคนกลางแสนสวย “ป้อน-ลีลา สุนทรวิเนตร์” ต้องออกเรือนแต่งงานไป ซึ่งในงานจากภาพที่ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรมของสาวป้อนนั้น ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศช่วงเช้า หรืองานฉลองมงคลสมรสในช่วงหัวค่ำ ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขของครอบครัวทั้งสอง ท่ามกลางดอกไม้สีขาวสลับเขียวที่ตกแต่งอยู่ทั่วบริเวณไว้อย่างโรแมนติกสุดๆ

งานนี้หลายคนอาจจะสงสัยกันว่าเจ้าบ่าวของสาวป้อนนั้นเป็นใครมาจากไหน ซึ่งต้องบอกเลยว่านอกจากจะรูปหล่อแล้ว โปรไฟล์ก็ไม่ธรรมดาซะด้วย หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า “บาส-ชาคริต หาญศิริสวัสดิ์ ดีกรีเป็นหนุ่มแบงค์ ลูกชายของเจ้าแม่พีอาร์โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล ที่ชื่อ สว่างสมศรี หาญศิริสวัสดิ์นั่นเอง

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : [email protected],@susie_h

Twitter : sriploi17

แมท-ภีรนีย์ สมัยเพิ่งเข้าวงการ ประกบซุป’ตาร์ตัวแม่ ออร่าแรงเวอร์

แพรวดอทคอม

November 30, 2015

แมท-ภีรนีย์ สมัยเพิ่งเข้าวงการ ประกบซุป’ตาร์ตัวแม่ ออร่าแรงเวอร์

แมท-ภีรนีย์ คงไทย นางเอกกำลังละครเรื่องไฟล้างไฟ แม้ว่าเพิ่งจะออกอากาศไปได้ไม่กี่ตอน แต่เข้มข้นทีเดียว ทำให้ลายคนก็เริ่มพูดถึง

เล่นละครเป็นนางเอกมาก็โด่งดังหลายเรื่อง และกลับมาพีคสุดๆ อีกครั้งกับไฟล้างไฟ ที่เล่นคู่กับหนุ่มบอย – ปกรณ์ ซึ่งเรื่องนี้เรียกว่าเป็นการเฉือดเฉือนบทบาทกันสุดๆ แต่หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ชื่อเสียงของแมท ภีรนีย์ในฐานะนางเอก ก็มีผผลงานที่โด่งดังอยู่ไม่น้อย แถมสมัยเพิ่งเริ่มเข้าวงการ เจ้าตัวยังเคยได้ถ่ายโฆษณาประกบคู่กับซูปเปอร์สตาร์ตัวแม่ อย่างอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อมาแล้วด้วย

ถึงช่วงที่เล่นโฆษณาคู่กับอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ อาจยังไม่มีใครรู้จักว่าแมท คือใคร แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า ออร่าแรงกระจัดกระจายไม่แพ้ตัวแม่เลยนะ

“เรือนนารีสีชมพู” สาวแมทมาในลุคเด็กสาวกะโปโล ผมสั้น เป็นผลงานชิ้นแรกหลังจากที่ย้ายมาสังกัดช่อง 3 และถือเป็นการแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงอย่างเต็มตัว ซึ่งพอจบละครเรื่องนี้สาวแมทก็มีละครตามมาอีกหลายเรื่องทั้ง มณีดิน,ชมพู่แก้มแหม่ม,ก๊วนกามเทพ ฯลฯ

จากนั้นก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นกับละครที่รวมเอาพระ-นางรุ่นใหม่ 3 คู่ในตอนนั้น มาประกบกันในเรื่อง “หวานใจกับนายจอมหยิ่ง สาวแมทรับบทเป็นคุณหนูไฮโซ ดูสดใส แก่นเซี้ยวสุดๆ และเรื่องนี้เรียกว่าดังทุกคู่ ส่วนละครก็ฮอตมากๆ ด้วย

ข้ามมาที่เรื่องล่าสุดที่สาวแมทเปลี่ยนคาแร็กเตอร์มารับบทสุดท้าทายในเรื่องไฟล้างไฟ จัดอารมณ์ดราม่ามาเน้นๆ เลยล่ะเรื่องนี้

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : youtube@tv3 official,@ romanholiday1953 และIG@ mattperanee

Twitter : sriploi17

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

Praew E-magazine
NaiinPann
Ookbee

ดราม่า แอคชั่น มันทุกฉากไปกับ Mockingjay part 2

แพรวดอทคอม

November 30, 2015

และแล้วเรื่องราวของสาวน้อยผู้มากับไฟอย่างแคตนิส เอเวอร์ดีนก็เดินทางมาถึงบทสรุปเสียที ต้องบอกเลยว่า Mockingjay Part 2 ภาคจบของหนังไตรภาค The Hunger Games ที่สร้างจากนิยายขายดี ถือเป็นหนังแนววัยรุ่นในโลกดิสโทเปียที่ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบจริงๆ

เหนือสิ่งอื่นใดคืองานกำกับ ซาวนด์ประกอบ (เสียงผิวปากเลียนเสียงนกม็อกกิ้งเจย์ยังดังก้องอยู่ในหัว) และทีมนักแสดงนำ โดยเฉพาะตัวนางเอกอย่างเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ที่แบกรับบทสุดหินเอาไว้และทำออกได้ดีเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เรียกว่าปล่อยของได้ทุกภาค รวมถึงภาคจบก็เช่นกัน

โดยหนังจะเล่าเรื่องราวต่อจาก Part 1 ที่เดินเรื่องเอาไว้ว่า หลังจากการแข่งขันเกมล่าเกมรอบพิเศษพังลง แคตนิสก็ได้ล่วงรู้ถึงแผนการก่อกบฏของเขต 13 ซึ่งหมายมั่นจะปั้นเธอให้เป็นม็อกกิ้งเจย์ สัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติ ซึ่งจะเป็นผู้นำกบฏในการเอาคืนสโนว์ ประธานาธิปดีจอมเจ้าเล่ห์แห่งแคปิตอล ภายใต้การผลักดันของอัลมาคอย ผู้นำเขต 13 ด้วยความที่แคตนีสต้องการเอาคืนสโนว์อยู่แล้ว จึงยอมร่วมมือกับเขต 13 แต่เพราะฐานกำลังยังไม่มากพอ ทางผู้นำเขต 13 เลยต้องโปรโมตแคตนีสเพื่อให้เขตอื่นๆ ได้เห็นและพร้อมจะลุกฮือขึ้นมาปฏิวัติ ซึ่งใน Part 1 จะจบลงตรงที่แคตนีสและพรรคพวกสามารถไปชิงตัวพีต้าที่ถูกจับตัวเอาไว้กลับมาได้นั่นเอง

Part 2 จึงเปิดเรื่องด้วยการเล่าถึงปฏิบัติการต่อไป นั่นคือการบุกแคปิตอล เมื่อเป้าหมายของแคตนีสคือการสังหารสโนว์ให้จงได้ ขณะเดียวกันเธอก็ต้องสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้เผชิญหน้ากับพีต้า ที่ยังคงสติแตกอยู่ เพราะถูกพวกตัวร้ายฉีดยาบางอย่าง นั่นยิ่งทำให้เธอตัดสินใจไม่เดินตามแผน และหนีออกจากเขต 13 เพื่อจะเดินทางไปสังหารสโนว์ให้สมกับความแค้นที่สะสมเอาไว้ ภาคนี้เราจึงได้เห็นฉากแอคชั่นชนิดจัดเต็มมากกว่าภาคที่แล้ว แต่อย่าเพิ่งยิ้มมุมปาก เพราะกว่าจะเริ่มลุย ก็ปาเข้าไปแล้วเกือบครึ่งเรื่อง

ด้วยความที่ภาคนี้เป็นตอบจบ เนื้อหาในหนังสือที่ยาวหลายหน้ากระดาษจึงถูกตัดตอนและสรุปความแบบรวบรัดไปพอสมควร แต่ก็ไม่สูญเสียอรรถรสใดๆ ยังคงได้รับความสนุกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือซีนแอคชั่นซึ่งมันส์ได้ที่ ยิ่งซีนในอุโมงค์ใต้ดินคือพีคสุด ลุ้นระทึกจริงอะไรจริง นอกจากนี้ซีจียังโดดเด่นด้วยในแต่ละฐานที่เหล่าตัวละครหลักต้องเจอ น่าจะเรียกได้ว่าแอคชั่นสุดในบรรดาทั้งสามภาคที่ผ่านมา แต่ถ้าถามว่าภาคไหนดีที่สุด ต้องยกให้ Catching Fire เค้าเลยล่ะ เผ็ช…สุดแล้ว

ถ้าถามว่าภาคนี้น่าดูไหม ตอบเลยว่าควรดู ต้องดูเลย ยิ่งถ้าใครเคยดูภาคก่อนๆ มา ก็ไม่แปลกหรอกที่จะรู้สึกผูกพันไปกับเหล่าตัวละคร รวมทั้งอินไปกับประเด็นการเมืองในหนัง ซึ่งก็ชวนให้ขบคิดตามถึงสภาพความเป็นจริงที่ยังมีอยู่ในทุกๆ สังคม โยงใยไปถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญของแคตนีส ที่ทำให้เห็นได้ชัดว่า จุดยืนของเธอคืออะไร และทำไมเราถึงสะใจตาม ทว่าสุดท้ายแล้วศัตรูที่แท้จริงจะเป็นใคร ต้องไปลุ้นกันเอาเองนะ บอกเลยว่าไม่ยากกับการคาดเดา

เอาตรงๆ ต้องถือว่านี่คือหนังดราม่าแอ็คชั่นที่พล็อตเยี่ยมยอดเลยแหละ แต่ที่ซุกซ่อนอยู่คือประเด็นรัก ที่แม้จะราบเรียบไปหน่อย ทว่าถ้าลองมองให้ดีจะพบว่ามันคือแก่นหลักของเรื่อง หากใช้หัวใจดู The Hunger Games นี่แหละเป็นหนังที่เข้าถึงทุกอารมณ์จริงที่น่าประทับใจมาก

คะแนน 9/10

เรื่อง : คิมคานา

Jennifer Lawrence ดาราฮอลลีวู้ด เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์

10 เรื่องจริงของคนรัก “รอยสัก” ศิลปะบนผิวหนังมนุษย์กับความเจ็บปวดที่สวยงาม

แพรวดอทคอม

November 30, 2015

การสักไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นสัญลักษณ์ของพวกหัวขบถ หรือนักเลงหัวไม้เหมือนในอดีตอีกต่อไป ในยุคนี้ รอยสักกลายเป็นเทรนด์แฟชั่นที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของคนๆ นั้น จึงทำให้มีร้านรับสักเกิดขึ้นมากมาย และเกิดเรื่องราวอันน่าสนใจที่คนชอบศิลปะการสักอาจไม่เคยรู้มาก่อน เราจึงออกตามหาช่างสักมืออาชีพที่ได้รับรางวัลการันตีจากงาน ‘MBK Center Tattoo Contest 2015 Vol.10 : Tattoo Evolution’ ที่เป็นกิจกรรมรวมพลคนรักศิลปะการสักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เพื่อนำความลับของรอยสักจากปากของช่างสักมืออาชีพเหล่านั้นมาแบ่งปันแก่คนที่สนใจศิลปะแขนงนี้โดยเฉพาะ

1. ลายสักที่ยากและน่ากังวลเป็นที่สุด

ลายสักแนว Realistic และ Portrait เป็นลายที่ช่างหลายๆ คน มีความเห็นตรงกันว่าสักยากมาก เพราะช่างมักกังวลว่าต้องทำอย่างไรให้ผลงานออกมาเหมือนกับต้นแบบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสักรูปคน สัตว์ หรือสิ่งของ ซึ่งต้องเน้นทั้งเรื่องอารมณ์และแสงเงาของผลงานให้มีความเสมือนจริง ช่างสักแนวนี้จึงต้องมีฝีมือในการสักมาก หากใครอยากสักแนว Realistic หรือ Portrait ก็ควรเลือกช่างที่มีความชำนาญในการสักแนวนี้สักหน่อย

2. สักแบบนี้ช่างเองก็เซย์โน

ช่างสักส่วนใหญ่มักปฎิเสธไม่รับสักบริเวณใบหน้าเลย เนื่องจากสังคมไทยยังไม่เปิดกว้างพอที่จะยอมรับการสักในบริเวณนี้ เพราะอาจทำให้คุณดูขาดความหน้าเชื่อถือในหน้าที่การงาน รวมถึงเวลาไปทำธุรกรรมต่างๆ ดังนั้น ใครที่อยากสักบริเวณใบหน้าหากไม่มั่นใจสุดๆ ก็ขอเตือนว่าให้คิดดีก่อนนะ

3. รอยสักแบบนี้น่าเบื่อมาก

งานสักแนว Tribal ที่มีลวดลายชนเผ่าต่างๆ ซึ่งต้องเน้นลวดลายและความคมเข้มของสีมาก อีกทั้งเป็นงานที่ใช้ความละเอียด ปราณีต และเวลานาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ช่างสักหลายคนต่างก็บ่นว่า…น่าเบื่อสุดๆ

4. หญิงหรือชายใครอึดกว่ากัน

ที่เคยได้ยินกันมานักต่อนักว่าผู้หญิงสามารถทนความเจ็บปวดได้มากกว่าผู้ชายนั้นเป็นเรื่องจริงที่สุด เพราะช่างสักทุกคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าผู้หญิงจะมีความอดทนในการสักได้มากกว่าลูกค้าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงเป็นเพศที่รักสวยรักงามและมีความอดทนสูง อย่างที่บรรดาผู้หญิงหลายๆ คนมักพูดว่า “อยากสวยก็ต้องอดทน”

5. เหตุการณ์น่าระทึกก็เกิดขึ้นได้เสมอ

ใครจะรู้บ้างว่าระหว่างการสักก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ อย่างลูกค้าบางรายกลัวความเจ็บปวดมากจนเป็นลมคาเตียง แต่ที่ระทึกสุดๆ คือ ลูกค้ามีอาการชักและเกร็งระหว่างการสัก เพราะตื่นกลัวสุดขีด ช่างสักเจอแบบนี้….ก็อึ้งไปเหมือนกัน ดังนั้น หากใครที่อยากสัก ก็ควรเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม หรือแจ้งช่างก่อนว่าสักครั้งแรก

6. ราคาของรอยสัก

หลายคนอยากสักแต่ไม่รู้ว่าราคาเป็นอย่างไร บอกเลยว่าการสักลวดลายต่างๆ บนเรือนร่างนั้นไม่มีราคาที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของช่างแต่ละคนในการกำหนดราคา รวมถึงประเภทลวดลาย ขนาด และความละเอียดของงาน หากช่างสักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากราคาก็จะแพงตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่การสักราคาจะเริ่มที่หลักพันต้นๆ แต่ถ้าคุณไปคุยกับช่างแล้วเขาถูกใจ คุณอาจได้รอยสักเก๋ๆ แบบไม่เสียเงินเลยก็ได้

7. จุดนี้เจ็บลึกสุดทน

รู้หรือไม่ว่าส่วนที่สักแล้วเจ็บสุดๆ คือ แถวสีข้าง เพราะเป็นจุดที่มีเนื้อน้อยและใกล้กระดูกซี่โครงมาก จึงทำให้ผู้สักรู้สึกสั่นสะเทือนไปถึงกระดูก อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับความอึดของแต่ละคน หากใครที่อยากสักแต่กลัวเจ็บ ช่างสักขอแนะนำว่าให้สักที่ต้นแขน เพราะจุดนี้เป็นจุดที่เจ็บน้อยที่สุดแล้ว

8. อยากมีรอยสักสวยยันแก่ฟังทางนี้

การสักบริเวณหลังหรือท้องแขน ที่ใครหลายๆ คนบอกว่ารอยสักจะสวยคงทนได้ยันแก่จะจริงเท็จแค่ไหนไม่รู้ เพราะทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับช่างสักด้วย หากช่างที่มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะสักบริเวณไหนก็สามารถทำให้รอยสักสมบูรณ์คงทนได้ นอกจากนี้ สภาพผิวหนังและการดูแลรอยสักของแต่ละคนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รอยสักนั้นอยู่คงทนสวยงาม

9. วัยรุ่นวัยลอง

หากวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ช่างสักมืออาชีพส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันจะไม่รับสักให้ เนื่องจากยังต้องทำตามกฎระเบียบของโรงเรียนและสังคม ช่างจะแนะนำให้พิจารณาให้ถี่ถ้วน หรือให้เวลาไปศึกษามาก่อน แล้วค่อยมาสักเมื่อพร้อม เพราะรอยสักต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิต อีกทั้งต้องคำนึงถึงครอบครัว และหน้าที่การงานในอนาคตด้วย

10. ถ้าอยากเป็นช่างสักเสียเองต้อง…

มีใจรักในศิลปะการสักและมีความตั้งใจจริง ควรต้องมีพื้นฐานด้านศิลปะ รู้เรื่ององค์ประกอบศิลป์ต่างๆ รวมถึงมีความเข้าใจในเครื่องมือสักด้วย แต่บางคนที่ไม่มีทักษะด้านศิลปะมาก่อนเลย ควรลองเข้าไปขอคำแนะนำจากช่างสักเก่งๆ แล้วหมั่นฝึกฝนและเรียนรู้ เพิ่มความชำนาญ ในที่สุดก็สามารถเป็นช่างสักที่ดีได้

สำหรับคนที่ฝันว่าอยากมีรอยสักเท่ๆ สวยๆ สักรอย ก็ควรไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เลือกช่างสักที่มีผลงานถูกใจ เพราะรอยสักนั้นต้องอยู่กับคุณไปตลอด ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องเสียเงิน…แถมยังเจ็บตัวฟรีอีกด้วย

ที่มา : MBK

ภาพ : MBK

feature รอยสัก

หนุ่ม – สาว นักปั่นเตรียมให้พร้อม 9 ข้อ ก่อนลุยไป Bike for dad

แพรวดอทคอม

November 30, 2015

อีกไม่กี่วันก็จะถึงกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อกันแล้ว งานปั่นจักรยานครั้งสำคัญแบบนี้ ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมกันหน่อย

ด้วยระยะทางการปั่น 29 กิโลเมตร สำหรับมือโปรคงไม่ใช่เรื่องที่หนักหนานัก แต่ถ้าเป็นมือใหม่ทั้งหลาย อาจต้องเตรียมความพร้อมกันสักหน่อย เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และไม่ให้เป็นภาระคนอื่นด้วย

ควรเลือกจักรยานที่เหมาะสมกับรูปร่างตัวเอง อย่าเล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้การควบคุมจักรยานขณะปั่นไม่สะดวก และอาจทำให้เกิดอันตรายขณะปั่นได้
นอกจากจักรยานที่ต้องเลือกให้เหมาะกับรูปร่างแล้ว อุปกรณ์เสริมอย่างหมวกกันน็อค ปลอกแขน แว่นตากันแดด ถุงมือ สนับเข่าและข้อศอก และรองเท้าที่เหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน (ถ้าไม่มีก็ควรใส่รองเท้าผ้าใบรัดเชือกให้แน่น) ทั้งหมดก็เพื่อป้องกันการเจ็บตัว ถ้าเกิดในกรณีที่ล้มขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นกีฬาอะไร ก็ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูทะมัดทะแมงไว้ก่อน ควรเลือกชุดที่ระบายอากาศได้ดี มีเนื้อผ้าไม่หนาจนเกินไป ไม่มีชายผ้าห้อยออกมา เพราะอาจจะทำให้เข้าไปติดในล้อจักรยาน และเกิดอุบัติเหตุได้
ติดกระเป๋าไปด้วยสักใบสำหรับใส่ของเบ็ดเตล็ดที่จำเป็น แต่ควรเป็นกระเป๋าที่ง่ายต่อการพกพา จะเป็นเป้สะพายหลัง หรือรัดติดกับแขน หรือเอวก็ได้ เผื่อใครจำเป็นต้องพกโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ และกล้องถ่ายภาพไปด้วย
ควรเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือตัวเองไปเล็กๆ น้อยๆ อย่างพวกยาดม ยาหม่อง น้ำเปล่า เอาไว้เผื่อระหว่างทาง ถ้าในกรณีที่ไปถึงจุดพักไม่ไหว
สำหรับสาวๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การดูแลผิวพรรณ เพราะนี่เป็นกิจกรรมกลางแจ้ง และใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นก่อนออกไปปั่นจักรยาน ควรทาครีมกันแดดให้พร้อม งานนี้จริงๆ ไม่แนะนำให้แต่งหน้านะ แต่ถ้าอดใจไม่ไหวอยากให้ใบหน้ามีสีสันนิดๆ หน่อยๆ ก็ควรเน้นแต่งเบาๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติดีกว่า เพราะอย่าลืมว่ามาปั่นจักรยานนะจ๊ะสาวๆ
อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเจอแน่ๆ กับการไปปั่นจักรยานกลางแจ้งแบบนี้ ก็คือเรื่องของกลิ่นเหงื่อ ซึ่งเรื่องนี้ต้องจัดการตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน ควรอาบน้ำให้สะอาดหมดจด และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีคุณภาพหน่อย ที่สำคัญขอย้ำเรื่องชุดที่สวมใส่อีกรอบว่าอย่าหนาเทอะทะ เพราะจะยิ่งทำให้อับชื้นเกิดกลิ่นเหม็นง่ายมาก
งานปั่นจักรยานครั้งนี้มีคนร่วมเป็นจำนวนมาก และมีระยะทางการปั่นถึง 29 กิโลเมตร ดังนั้นควรปั่นอย่างมีมารยาท ไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ภาพการปั่นในแต่ละขบวนดูสวยงามเป็นระเบียบ และปลอดภัยกับผู้อื่น
ก่อนไปปั่นจักรยานในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ สิ่งที่ต้องเรียนรู้ก่อนเลยก็คือการสำรวจเส้นทางการปั่นจักรยาน ดูหมายกำหนดการณ์ และขบวนจักรยานในแต่ละขบวนให้ละเอียด ที่สำคัญต้องเตรียมพร้อมร่างกายตัวเองด้วย เป็นไปได้ช่วงนี้ซ้อมปั่นจักรยานเพื่อยืดเส้นยืดสายรอวันจริงสักหน่อยก็ดี รายละเอียดเพิ่มเติมในงานปั่นเพื่อพ่อ Bike for dad ระยะการปั่นจักรยาน 29 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
-ระยะที่ 1 เริ่มต้นที่พระลานพระราชวังดุสิต ถึง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระยะทาง 7 กิโลเมตร

-ระยะที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึง หอประชุมกองทัพเรือ ระยะทาง 14 กิโลเมตร

-ระยะที่ 3 หอประชุมกองทัพเรือ ถึง พระลานพระราชวังดุสิตอีก ระยะทาง 8 กิโลเมตร

รูปแบบการจัดขบวน จะแบ่งออกเป็น 5 ขบวน ดังนี้

1.ขบวน A สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นองค์ประธานนำขบวนจักรยานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และประชาชนอีก 500 คน

2.ขบวน B พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จนำข้าราชการ-ประชาชน 500 คน

3.ขบวน C พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จนำข้าราชการ-ประชาชน 500 คน

4.ขบวน S เป็นขบวนชุดซ่อมจักรยาน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวน 500 คน

5.ขบวน D เป็นขบวนประชาชนประมาณ 1 แสนคน เป็นขบวนปิดท้าย

ทั้งนี้กิจกรรมปั่นเพื่อพ่อจะเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น.วันที่ 11 ธ.ค.2558 โดยในเวลา 10.00 น.จะมีกิจกรรมปั่นจักรยานจตุรทิศเฉลิมพระเกียรติถวายราชสดุดีที่แยกราชประสงค์ และกิจกรรมไทยเชื้อสายจีนเพื่อร่วมใจ รวมพลังเทิดไท้มหาราชา

เรื่อง : แพรวดอทคอม

feature ข่าวดารา ปั่นจักรยาน วันพ่อ ออกกำลังกาย

29 พ.ย.ฤกษ์ดี…2 คู่รักไฮโซฯ แห่จัดงานวิวาห์หวานซึ้งต่างสไตล์

แพรวดอทคอม

November 29, 2015

เมื่อ 2 สาวเซเลบฯ แถวหน้า ‘มัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย’ กับ ‘ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์’ จัดงานฉลองวิวาห์วันเดียวกัน (29 พ.ย.2558) เลยเป็นอีกหนึ่งวันที่เหล่าเซเลบฯ ดาราทั้งหลายต้องแยกร่างไปให้ได้ แหมก็เป็นงานใหญ่ และสำคัญทั้งคู่ ไม่ไปไม่ได้จริงๆ

เริ่มที่คู่ของสาว ‘มัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย’ ที่ควงแขนแฟนหนุ่มนอกวงการ ‘สัว ศุภชัย’ ที่คบหากันได้ 2 ปีกว่าๆ เข้าพิธีหมั้น และมงคลสมรสอย่างอบอุ่น ณ โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ งานนี้มีทั้งแขกผู้ใหญ่ที่เคารพของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งญาติพี่น้องและเพื่อนทั้งในและนอกวงการบันเทิง มาร่วมแสดงความยินดีอย่างเนื่องแน่นจริงๆ

ด้านสาว ‘ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์’ ก็ได้ฤกษ์ควงหนุ่มนักธุรกิจ ‘ทิม’ เข้าประตูวิวาห์ไปอย่างชื่นมื่น และเรียบง่ายเช่นเดียวกัน ณ โรงแรม เพนนินซูล่า กรุงเทพฯ

ขอแสดงความยินดีกับทั้ง 2 คู่รักด้วยจ้า

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : #mutmeeandsua, #platimwedding

feature อัพเดทข่าวเซเลบฯ แพรวดอทคอม

ยานแม่ประทับ ‘ป้าไก่ เดอะวอยซ์’ เอาจริง! เสียงทรงพลัง เฉือนอารมณ์คนฟังทุกรอบ

แพรวดอทคอม

November 29, 2015

พีคขึ้นเรื่อยๆ กับพลังเสียงที่มาเต็มของป้าไก่ -อัญชุลีอร บัวแก้ว เพราะรอบการแสดงสดที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ นั้น ก็สยบคนฟังให้อึ้งและอินไปกับเพลงอีกแล้ว

ถึงจะเคยผ่านเวทีประกวดร้องเพลงระดับประเทศอย่างสยามกลการจนได้แชมป์มาก่อน แต่นั่นก็เป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว การปรากฏตัวอีกครั้งของป้าไก่ อัญชุลีอร บัวแก้วในรายการ The Voice Thailand season4 นี้ จึงเรียกว่าเป็นการแจ้งเกิดให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้รู้จักป้าไก่อีกครั้งในฐานะนักร้องรุ่นเก๋าที่ยังสามารถสร้างความสุขผ่านเสียงเพลงได้อย่างไม่มีที่ติ

ตั้งแต่รอบBlind Audition ถัดมาในรอบ Battle รอบKnock out จนกระทั่งในรอบการแสดงสด เพื่อคัดหนึ่งเดียวของแต่ละทีมไปเข้าชิงชนะเลิศ ป้าไก่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเป็นนักร้องได้อย่างเต็มเปี่ยม แถมยังพีคทุกรอบไม่ว่าจะร้องเพลงสากล หรือเพลงไทยก็ตาม เรียกว่าฟังป้าแล้วขนลุกซู่ไปกับทุกทำนองที่ร้องออกมา ใครพลาดไม่ทันได้ดูในแต่ละรอบ ต้องตามมาดูแล้วนะ เดี๋ยวจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง

รอบ Blind Audition

รอบ Battle

รอบ Knock out

รอบ Live Performance

แฟนๆ รายการนี้ใครที่อยู่ทีมป้าไก่ คงต้องลุ้นกันอีกครั้งในรอบสุดท้าย ว่าจะได้แชมป์เหมือนที่เคยทำไว้เมื่อสมัยสาวๆ ได้หรือเปล่า แต่ผลจะออกมาเป็นอย่างไร เชื่อว่าตอนนี้ป้าไก่ ได้ใจแฟนเพลงรุ่นลูกไปแล้วเต็มๆ เพราะเท่าที่เห็นจากคะแนนโหวตในรอบการแสดงสด ขนาดว่านักร้องในทีมเดียวกันอีก 3 คน รวมกันแล้ว คะแนนยังไม่แซงป้าไก่ไม่ได้… แซ่บจริง ผู้หญิงคนนี้ “อัญชุลีอร บัวแก้ว”

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : The Voice Thailand

Twitter : sriploi17

feature The Voice Thailand

พี่ชายคะ…ฉันหนาวววว คอลเล็คชั่นต้อนรับคริสต์มาส(ภาคต่อ) ลุค ‘Snow Queen’ พร้อมลุ้นรับ ANNA SUI มูลค่า 5,150 บาท…คลิกมะ

แพรวดอทคอม

November 29, 2015

ภาคต่อของ ‘The Magic of Christmas Series’ เกิดขึ้นเมื่อพัดชาเจอกล่องพัสดุจาก ‘Anna Sui’ ตั้งตระหง่านอยู่กลางโต๊ะทำงาน เปิดปุ๊บก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง เหมือนว่า ‘งานรีวิว’ จะเข้าเราเสียแล้ว

ยอมรับว่าเป็นชะนีบ้าแพคเกจจิ้งดีไซน์สวย เห็นทีไรมือไม้อ่อนระทวยอยากได้อย่างกับเจอผู้ชายหล่อ เลยทำให้ต้องแพ้ทาง ‘Anna Sui’ อยู่เรื่อยไป ใครชอบสไตล์ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง เจ้าหญิง ‘Fairy Tale’ เตรียมจิกหมอน เพราะแค่เห็นกล่อง ‘รถฟักทอง’ ก็มารอรับแล้ว…ปะ ไปเหล่เจ้าชายด้วยกัน

อ้อ ลืมบอกไปว่า อย่าพลาดดูกติกาที่ท้ายบล็อคกับรางวัลจาก ‘Anna Sui’ รวมมูลค่า 5,150 บาท พี่ไม่ได้มาเล่นๆ พี่แจกจริงจัง ขอให้โชคดีนะยูว์

‘Holiday Snow Collection’ มาในกล่องหนังสีดำพิมพ์ลายเกล็ดหิมะสีม่วงและทองตามสีซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ภายในบุผ้าสีม่วง บรรจุบลัชออน ลิปสติก และคัลเลอร์พาวเดอร์สำหรับตกแต่งเปลือกตา แพ็คเกจจิ้งทั้งสามสิ่งทำจากพลาสติกปั๊มให้เป็นเหลี่ยมมุมเหมือนแก้วคริสตัลดูสวยวิบวับ

ที่บรรยายมาฟังดูดีงามพระราม4 ‘ตะเตือนไต’ อยู่แค่วัสดุที่ใช้ล็อคเมคอัพทั้ง 3 ชิ้น เป็นพลาสติกใสที่ดู ‘Look Cheap’ อยู่เบาๆ ถ้าเปรียบเป็นผู้หญิงนางคงไปออกงานด้วยชุดลูกไม้ไฮโซกับรองเท้าฟองน้ำ (มองบนแพร้บ)

ให้อภัยตรงตัวกล่องที่งดงามน่าสะสม พอใช้เมคอัพจนหมดสาวๆ เก็บไว้ใช้ใส่ Accessories ต่อได้สบายแฮ

ตั๊ลลั๊กกกกกกกก…เป็นคำแรกที่ชะนีข้างกายกรีดร้องเมื่อเห็นบลัชออนปั๊มลายดอกกุหลาบ 4 สีในตลับคริสตัลสีม่วง จนลงความเห็นกันว่า ‘สวยจนไม่กล้าปัด’

ติดแต่เดาทรงไม่ออกว่าปัดแล้วจะได้สีอะไรแน่ เพราะชิ้นนี้ประกอบด้วย

สี Rose Bon Bon ชมพูอมม่วง

Blink Pink ชมพูอมส้ม

Rose Degree สีขาว

และ Frosty Blue สีฟ้าอ่อน

อันที่จริงจะปัดแยกสี ปัดเฉพาะกลุ่มก็จะได้สีแตกต่างกัน แต่ด้วยความเป็นกุลสตรีละเมียดละไมสไตล์พัดชาเลยปัดมันวนรวมกันแล้วได้สีชมพูอมฟ้าและม่วงอ่อน มีความสะท้อนแสงพอกรุบกริบ ช่วยให้พวงแก้มดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ แน่นอนว่าสีแบบนี้ไม่เหมาะกับการแต่งหน้าแนวผู้บริหารจริงจังน่าเชื่อถือ จากความวาวสะท้อนแสงของสีชมพูจึงเหมาะกับลุคใสๆ น่ารักจุ๊บุเสียมากกว่า

แม้สีจะวาวแต่เนื้อสัมผัสเป็นแบบแมตต์สนิทติดทนนาน (อันนี้เรื่องจริงไม่ใช่กลอนพาไป) มีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ พอให้รู้สึกฟุ้งๆ ฝันๆ มโนว่านี่มันเจ้าหญิงชัดๆ

ส่วนตัวเป็นคนชอบกลิ่นหอมจากเครื่องสำอางจึงรู้สึกแฮปปี้ไม่มีข้อ concern ส่วนสาวแพ้น้ำหอมและไม่ชอบกลิ่นเครื่องสำอาง แนะนำให้ปิดจมูก กลั้นใจ นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว (ไม่ขนาดนั้นย่ะ) ทางที่ดีแนะให้ข้ามไปดีกว่า

ในปฐพีแห่งบิวตี้ ‘Anna Sui’ จัดว่าเป็นแบรนด์ที่ออกแบบลิปสติกได้สวยน่าสะสมที่สุดแบรนด์หนึ่ง โดยเฉพาะรุ่นนี้ที่บิดออกมามีปลายเป็นรูปทรงดาว ‘ตั๊ลลั๊กกกก’ จนไม่กล้าทา เพราะกลัวจะแอบ ‘เสียจุย’ เบาๆ เวลาน้องดาวต้องละลายหายไป

เบอร์ 01 นี้เนื้อลิปสติกเป็นลายหินอ่อนสีชมพูสลับนู้ด สับขาหลอกพอๆ กับบลัชออนให้งงเล่นว่าจะออกมาเป็นสีอะไร

เมื่อลองสวอชลงบนมือสรุปความได้ว่าเป็นสีพีชอ่อนใส เวลาอยู่บนเรียวปากจะได้เป็นทิ้นท์บางๆ คล้ายกลอส

สาวใดที่หวังอยากได้ลิปสติกสีปังๆ เพื่อเป็นการบอกให้โลกรู้ว่า ‘ลิปสติกมาแล้วจ้า’ อันนี้ขอให้ข้ามไป เพราะรุ่นนี้เป็นเนื้อเชียร์ใสๆ วัยไหนก็ชอบได้ มีข้อดีคือการให้ความชุ่มชื่นกึ่งๆ ลิปบาล์ม ทำให้รู้สึกเบาสบายปาก

มัน…คือ…อะไร!!! ด้วยความเป็นผู้หญิงใสๆ จึงแอบคิดว่าคล้ายยาเสพติดชนิดหนึ่ง แต่ไม่ใช่จ้ะ สิ่งนี้คือลูสอายแชโดว์ในขวดแก้วเล็กๆ มองจากภายนอกเป็นสีขาวทึบธรรมดา แต่เมื่อเทออกมาจะเห็นประกายระยิบระยับสีรุ้งอมม่วง ใช้สำหรับเป็นอายแชโดว์ หรือปัดตกแต่งบนในหน้าและลำคอเพิ่มความฟรุ้งฟริ้ง

แนะนำว่าไอเท็มที่ไม่มีไม่ได้เพื่อใช้คู่กับชิ้นนี้คือ ‘อายไพรเมอร์’ ส่วนใครจะใช้กับบอดี้ลองปัดทับหลังจากทาบอดี้โลชั่น เพราะขืนใช้ไปเปล่าๆ ‘ชิมเมอร์ร่วงกราว’ เลยจ้า

เอฟเฟคท์ที่ได้ออกมาเป็นสีเหลือบม่วงระยิบระยับสวยเวลากระทบแสงไฟ ชิ้นนี้ขอสงวนไว้สำหรับงานกลางคืนหรือปาร์ตี้ วันเข้าออฟฟิศธรรมดางานกากเพชรมาขนาดนี้เกรงว่าเพื่องฝูงจะโตะจาย

ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็น ‘Holiday Snow’ คอลเล็คชั่น แบบนี้งานหิมะต้องมีสโนว์ต้องมา เลยขอแปลงร่างเป็น ‘Snow Queen’ เพื่อต้อนรับวินเทอร์ (มันมีด้วยเหรอ)

งานนี้ใช้ ‘Color Powder เบอร์ 01’ ลงทั่วบริเวณเปลือกตาและใต้ตา แนะนำว่าให้ลงโดยใช้นิ้วกดเบาๆ บนเปลือกตาเพื่อให้ชิมเมอร์ติดทนไม่ร่วงหล่นจะดีกว่าใช้แปรง (ที่สำคัญกว่าคือเปลือง) แล้วสร้างมิติช่วงกระบอกตาด้วยสีเทาจากพาเล็ตต์ Naked Smokey ของ Urban Decay

ปัดแก้มสีชมพูอ่อนกับปากสีนู้ด ได้ลุค ‘Snow Queen’ อ่อนหวานใสๆ เบาๆ เข้ากับอารมณ์หิมะโปรยปราย

ในช่วงประเทศไทยยังคงร้อนสลับฝน…ถามว่าแคร์ไหม…ไม่นะพูดเลย

แต่ที่ต้องสะดุดจบบล็อคที่ 2 ลงตรงนี้ก่อน เพราะ‘Snow Queen’ เกรงใจน้องหมาข้างรั้วที่เห่าหอนลุคของเราด้วยความแตกตื่นตลอดการถ่ายทำ

ไม่เคยเห็น ‘Snow Queen’ รึไงยะ!

Give Away Time!!!!!!

กติกาง่ายๆ ‘ขอสามคำ’ ให้ ‘Holiday Snow Collection’ โพสลงในกล่องคอมเม้นท์ด้านล่าง พัดชาจะเลือก 1 คอมเม้นท์ทีโดนใจเพื่อลุ้นรับ

ANNA SUI loose powder N No.701 แป้งฝุ่นพัฟสีม่วงนุ่มฟูในตำนานของแอนนา ซุย สำหรับผิวขาว-ปานกลาง / Anna Sui Hydration Charger และ Conditioning Lotion เซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ เติมความชุ่มชื่นต้อนรับฤดูหนาว มูลค่ารวม 5,150 บาท

ประกาศผลภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2558

เรื่อง : Padcha Praewnista

Anna Sui Beauty makeup

ตระเวนกิน-ช้อปสไตล์ญี่ปุ่น มาแค่ที่นี่ก็เหมือนได้บินไปแล้ว

แพรวดอทคอม

November 29, 2015

ใครที่หลงใหลในอาหาร และการช้อปปิ้งตามสไตล์ของชาวแดนอาทิตย์อุทัย ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นกันแล้ว

จัดเต็มเพื่อเอาใจคนรักอาหาร และช้อปปิ้งในสไตล์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ กับการรีโมเดลห้างอิเซตันครั้งใหญ่ในคอนเซ็ปต์ “this is japan”

เรียกว่าส่งตรงความเป็นญี่ปุ่นจากต้นฉบับมาถึงไทยก็ว่าได้ สำหรับการปรับโฉมห้างสัญชาติญี่ปุ่น อิเซตันในครั้งนี้ แถมยังส่งแบรนด์ไอคอนขวัญใจคนไทยอย่างเฮลโล คิตตี้ มาสร้างสีสันให้คนรักคิตตี้ได้เก็บสะสมของที่ระลึกอีกด้วย

การรีโมเดลห้างครั้งนี้ จะมีการปรับพื้นที่บนชั้น 5 ของห้าง ใช้ชื่อว่าวะโชกุ แกลเลอรี่ (WASHOKU GALLERY) ประกอบด้วย กลุ่มแบรนด์ของคนญี่ปุ่นและแบรนด์ที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งวางจำหน่ายเฉพาะที่อิเซตันแห่งเดียวในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ ได้แก่

Isetan Food Market โซนอิเซตัน ฟู้ด มาร์เก็ต มุมอาหารสดที่คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลจากทุกภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็นแผนกต่างๆ ได้แก่ Isetan Meat Market แผนกเนื้อสัตว์ที่มั่นใจได้ในความสะอาด ปลอดภัย มีบริการตัดแล่จำหน่ายเป็นชิ้นๆ ตามต้องการทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ โดยมีสินค้าไฮไลต์อย่างเนื้อวากิว (เนื้อวัวญี่ปุ่น) ชั้นยอด เนื้อวัวดำคุณภาพสูง โดยบริษัทอิโตะแฮม, Isetan Fish Market แผนกปลาและอาหารทะเล สดใหม่จากโอซาก้า ซึ่งจัดส่งมาทางเครื่องบินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง (วันอังคาร, วันศุกร์) มีบริการแล่อาหารทะเล ทำเป็นซาชิมิด้วย และ Isetan Fruits & VegetableS Market แผนกผักผลไม้ คัดสรรพืชผักผลไม้ออร์แกนิค ปลอดสารพิษ และคุณภาพสูง ทั้งผักออร์แกนิกที่ผลิตในประเทศไทย และผลไม้ตามฤดูกาลจากประเทศญี่ปุ่น
Food Court “88 Shokudo Nippon” โซนฟู้ดคอร์ตอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนในเมืองไทยและเอเชียได้ลิ้มรสชาติ พร้อมเพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นขนานแท้ ที่เป็นตัวแทนแห่งรสชาติหลากหลายในสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งแต่ซูชิ ราเมน เทปันยากิ ไก่ย่างยากิโทริ เทมปุระ ไปจนถึงอาหารตะวันตกสไตล์ญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง อาทิ Roppongi sushi Komatsu ร้านซูชิที่ต้องเป็นสมาชิกและจองล่วงหน้าจากรปปงหงิ ที่มาเปิดร้านในกรุงเทพฯ ที่นี่เป็นแห่งแรก, Grill Manten-Boshi ร้านอาหารตะวันตกสไตล์ญี่ปุ่นที่ปรุงด้วยเทคนิคแบบฝรั่งเศส, MENYA MUSASHI ร้านราเมนที่มีจุดเด่นตรงเส้นชั้นดี น้ำซุปรสชาตินุ่มลึก และหมูชาชูนุ่มลิ้น, Yakitori-Hachibei ร้านเนื้อเสียบไม้ย่างที่ขึ้นชื่อในย่านฮากาตะ จ.ฟุกุโอกะ โดดเด่นด้วยรสชาติน้ำซอสสูตรพิเศษ, CHIBO ร้านเทปันยากิชื่อดังจากโอซาก้า ที่คัดสรรเนื้อคุณภาพเยี่ยม อาหารทะเลสด และผักต่างๆ เป็นต้น

Souzai / Sweets/ Bakery/ Grocery โซนอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ที่รวบรวมร้านขึ้นชื่อ และเมนูยอดนิยมส่งตรงจากญี่ปุ่น และทุกๆ เดือนแต่ละร้านจะนำเสนอเมนูใหม่ที่ปรุงแต่งหน้าตาและรสชาติให้เข้ากับฤดูกาล หรือกระแสความนิยมของญี่ปุ่นในเวลานั้นๆ อย่างร้าน Anri Bakery พายแอปเปิ้ลยอดนิยมอันดับ 1 ที่ทางร้านใช้แอปเปิ้ลจาก จ.อาโอโมริ ถิ่นผลิตแอปเปิ้ลขึ้นชื่อ ซึ่งได้เสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยหลังจากออกร้านที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554, Nihonbashiya Choubei ร้านขนมเก่าแก่ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองจากสมัยเอโดะผ่านขนมรูปปลาขึ้นชื่อ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีในญี่ปุ่น, Sembikiya Sohonten ร้านผลไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จำหน่ายผลไม้ที่คัดสรรจากทั่วโลก โดยมี Pure Fruit Jelly เป็นสินค้าขึ้นชื่อซึ่งนำผลไม้ที่ผ่านการคัดสรรผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเยลลี่ที่ให้รสสัมผัสหรูหราน่าลิ้มลอง

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : ISETAN

อาหารญี่ปุ่น

จัดการผิวบอบบาง ด้วย 2 ขั้นตอน จาก LA ROCHE-POSAY

แพรวดอทคอม

November 29, 2015

สาวๆ ผิวแห้ง และบอบบางมีทางออกแล้ว ยิ่งถ้ามีผิวที่แพ้ง่ายๆ สุดๆ อาจจะต้องเลือกคัดเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ดีๆ ก่อนที่ผิวจะเสียซะก่อน

ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนไหนของการดูแลผิว ก็สำคัญทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย หรือผิวแห้งบอบบาง ตั้งแต่การทำความสะอาดไปจนถึงการทาครีมบำรุง ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ

เริ่มตั้งแต่การทำความสะอาด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระคายเคือง เหมาะกับผิวที่มีความบอบบาง

ลิปิการ์ เจล ลาวองท์ มีคุณสมบัติพิเศษคือ:

มีค่า pH ใกล้เคียงระดับผิว
มี ไนอะซินามาย (Niacinamide) ช่วยปลอบประโลมผิวและเชียร์ บัตเตอร์ (Shea Butter) สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมปราการปกป้องผิว
สูตรปราศจากสบู่ (Soap Free)
สูตรปราศจากสารกันเสียพาราเบน (Paraben- Free)

วิธีใช้: ใช้ทำความสะอาดผิวทุกวัน ใช้เจลบนผิวที่เปียกบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด ลูบไล้พร้อมนวดเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สามารถใช้ทำความสะอาดหนังศรีษะทารกได้ด้วย เจลสูตรอ่อนโยนไม่ทำให้แสบระคายเคืองตา

สำหรับการบำรุงผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวแห้ง บอบบาง

ข้อแนะนำ: ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายเนื้อฟลูอิด เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ใช้ได้ทั้งในผู้ใหญ่ เด็กและทารก นวัตกรรมเพื่อผิวแห้งและผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ลิปิการ์ ฟลูอิด มีคุณสมบัติพิเศษคือ:

มี ไนอะซินามาย (Niacinamide)ที่มีความเข้มข้นสูง ผิวรู้สึกปลอบประโลมทันทีที่ใช้ และช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้ดีขึ้น
เนื้อผลิตภัณฑ์เบาสบาย ซึมซาบเร็ว เกลี่ยง่ายเหมาะกับการใช้เป็นประจำทุกวัน
สูตรปราศจากสารกันเสียพาราเบน (Paraben- Free)
สูตรปราศจากน้ำหอม (Fragrance –Free)

วิธีใช้: ใช้ทาบำรุงผิววันละ1-2ครั้ง ลูบไล้พร้อมนวดเบาๆ ควรใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่ไม่มีส่วนผสมของสบู่ (Soap-Free)

La Roche-Posay ครีมบำรุงผิว ทำความสะอาดผิว บำรุงผิว ผิวบอบบาง ผิวสุขภาพดี ผิวเสีย ผิวแห้ง

‘นท-วี’ คู่ซี้อินดี้กับไลฟ์สไตล์สุดเฮลตี้

แพรวดอทคอม

November 29, 2015

เพื่อนซี้ไซส์มินิ นท พนายางกูร และ วี-วิโอเล็ต วอเทียร์ นอกจากจะขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องเสียงยูนิคและมีไลฟ์สไตล์สุดอินดี้แล้ว ทั้งคู่ยังเป็นสาวเฮลตี้ที่ติดการออกกำลังกายงอมแงมอีกด้วย มิหน่าล่ะ ช่วงนี้ทั้งนทและวีสวยขึ้นผิดหูผิดตา

โดยเฉพาะนทที่รูปร่างสลิมกว่าแต่ก่อนตั้งเยอะ ไม่ว่าเอวลอย เกาะอก นทเอาอยู่ ส่วนวี เห็นรูปร่างมินิอย่างนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะซ่อนซิคแพคงามๆ ไว้ด้วย แหมก็ดูท่า squad ของเธอซะก่อน เห็นแล้วแอบทึ้งในความแข็งแรงสุดๆ

ไม่เชื่อลองไปพิสูจน์ความสตรองและแฟชั่นสุดคูลของทั้งคู่กัน

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ :notep,violettewautier

นท พนายางกูร สาวเฮลตี้

จำได้ไหม น้องดี The Star 9 สาวน้อยเสียงทรงพลัง สวย อินเตอร์ขึ้นเยอะ

แพรวดอทคอม

November 29, 2015

ย้ายไปเรียนต่ออยู่อเมริกาไม่ทันไร เผลอแป๊ปเดียวน้องดี The star 9 ก็โตเป็นสาวขึ้นเยอะแล้วนะ

แจ้งเกิดจากเวทีThe Star 9 ไปไม่ทันไร ก็ต้องกลับไปทำหน้าที่เรื่องการเรียนให้เรียบร้อยก่อน เรื่องงานร้องเพลงออกอัลบั้มให้กับต้นสังกัดเลยต้องพักไว้ชั่วคราว เพราะน้องดี The Star 9 โกอินเตอร์ไปศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามาได้สักระยะแล้ว ซึ่งใครที่คิดถึงความน่ารักสดใสของสาวน้อยเดอะสตาร์คนนี้ต้องมาดู

เปลี่ยนลุคไปเลยจากตอนเด็กๆ แต่จะว่าไปก็เหมาะกับเจ้าตัวดีนะ

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@dee_lilian

Twitter : sriploi17

feature The Star ประกวดร้องเพลง ร้องเพลง แข่งขันร้องเพลง

รักของแม่ไม่แปรเปลี่ยน รวมภาพงานแต่งโบว์-ชญาดา ซึ้ง อบอุ่น กินใจ

แพรวดอทคอม

November 28, 2015

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับสาวโบว์-ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ด้วยอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานไปกับแฟนหนุ่ม ร้อยเอก กฤชพล เศวตนันท์ ไปหมาดๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่างานนี้มีแต่ความประทับใจ

เป็นอีกหนึ่งงานแต่งงานในช่วงส่งท้ายปีที่สุดแสนจะชื่นมื่น อบอวลไปด้วยความรักอย่างมาก และเป็นก้าวสำคัญของงสาวโบว์ ที่ตัดสินใจเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่อีกครั้ง หลังจากที่คบหาดูใจกับแฟนหนุ่มนอกวงการ “ร้อยเอก กฤชพล เศวตนันท์” มาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบางคนอดเป็นห่วงไม่ได้ถึงความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่าหนุ่มแบงค์จะสามารถผ่านด่านน้องอชิ ลูกชายสุดหล่อของสาวโบว์ได้หรือไม่ แต่ก็คงได้คำตอบในวันนี้แล้วว่า น้องอชิคงจะปลื้มไม่น้อยที่ได้เห็นคุณแม่มีความสุข เพราะถ้าใครยังพอนึกภาพได้ ก่อนหน้านี้สองหนุ่มเขาก็มีทริปต่างประเทศกันเป็นครอบครัวใหญ่ไปกระชับสัมพันธ์กันบ่อยๆ

และสำหรับวันสำคัญอย่างการแต่งงานของสาวโบว์นั้น แน่นอนว่าไม่ใช่แค่หนุ่มแบงค์ที่เป็นคนสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะขาดไม่ได้เลยก็คือน้องอชิ ที่โตเป็นหนุ่มขึ้นมาก แถมยังฉายแววหล่อสุดๆ นั้น ก็เป็นผู้ชายที่สำคัญที่สุดในชีวิตของสาวโบว์เช่นกัน ดังนั้นในงานแต่งงานเราจึงได้เห็นบรรยากาศที่น่าประทับใจของทั้งคู่ที่ไม่ใช่แค่ความรักของคนสองคนอย่างเดียว แต่ทุกโมเม้นท์ยังมีหนุ่มน้อย น้องอชิ ร่วมเป็นสักขีพยาน เป็นจุดศูนย์กลางความรักของครอบครัวที่เห็นแล้วอบอุ่นมากจริงๆ

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : Jakawin Photography

Twitter : sriploi17

ครอบครัวดารา ความรักดารา งานแต่งคนดัง งานแต่งดารา ดาราวันนี้ น้องอชิ

รื้อฟื้นประวัติศาสตร์ผ่านขนมหวาน ในนิทรรศการ ‘ทองหยอด’

แพรวดอทคอม

November 28, 2015

เป็นอีกครั้งที่เรื่องราวของประวัติศาสตร์ได้ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านการนำเสนอในรูปแบบของงานศิลปะ โดยครั้งนี้ศิลปินผู้สร้างงานอย่าง อริญชย์ รุ่งแจ้ง ก็ได้หยิบเอาเรื่องราวของขนมหวาน “ทองหยอด” มาตีความใหม่จนกลายเป็นงานประติมากรรมอันน่าทึ่ง

การเรียงร้อยประวัติศาสตร์ให้เกิดงานศิลปะดังที่ศิลปินผู้สร้างนำมาจัดแสดงนี้ เขาได้นำขนมทองหยอด มาเป็นแกนกลางในการสร้างผลงานชื่อ Golden Teardrop เพื่อเสนอการตีความประวัติศาสตร์แบบใหม่ นิทรรศการนี้ประกอบไปด้วยประติมากรรมทองเหลืองรูปทรงทองหยอดขนาดเล็กกว่า 5,000 ชิ้น และวิดิโอสารคดีความยาว 30 นาที รวมถึงภาพถ่าย และเอกสารที่ศิลปินนั้นทำการค้นคว้าวิจับระหว่างการทำงาน

สำหรับนิทรรศการ Golden Teardrop ได้ถูกจัดแสดงขึ้นครั้งแรกในเทศกาลมหกรรมศิลปะเวนิสเบียนนาเล่ ครั้งที่ 55 เมื่อปี 2556 และตอนนี้ก็ได้นำมาจัดแสดงอีกครั้งที่หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน ตั้งแต่วันนี้ – 22 มีนาคม 2559

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : วาระ สุทธิวรรณ / Jim Thomson

นิทรรศการศิลปะ ศิลปินไทย

ดอกไม้ในที่ลับตา ‘แม่ลาน้อย’…เมืองแห่งนาขั้นบันได มีดีกว่าแค่เป็นทางผ่าน

แพรวดอทคอม

November 28, 2015

หากหนาวนี้ใครยังไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำให้ลองมา อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอนเมืองที่ยังคงความบริสุทธิ์ของวิถีชีวิตชาวไทยใหญ่ไว้เกือบ 100% แม้หลายคนจะมองว่าเป็นเมืองผ่าน แต่ถ้าลองได้เเวะเเล้วจะรู้ว่ามีอะไรมากกว่าที่เห็น

พอลงเครื่องปุ๊บก็นั่งรถบัสของเทศบาล จ.เชียงใหม่จากสนามบิน ราคา15บาทไปที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่แล้วต่อรถตู่ของเปรมประชาขนส่งไปแม่ลาน้อย แนะนำว่าควรจองล่วงหน้า ไม่อย่างงั้นอาจได้นอนที่เชียงใหม่อีกคืน เพราะเที่ยวรถมีน้อย ออกจากอาเขตบ่าย 2 โมง ไปถึงแม่ลาน้อยประมาณ 6 โมงเย็น ฟ้ามืดพอดี โดยรถตู้จะจอดให้ลงตรงหน้าเซเว่นแห่งแรก และแห่งเดียวของเมืองนี้ เท่าที่สังเกตดูน่าจะเป็นจุดที่คึกคักที่สุดแล้วเป็นแหล่งรวมตัวยามค่ำคืนของวัยรุ่นแถวนั้นเลย

เฮินไต…ที่พักสุดชิลล์กลางทุ่งนา

สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้เดินทางมาเมืองในหุบเขาเเห่งนี้ก็คือ ที่พักแห่งนี้ โดย 70 % ของพื้นที่ทั้งหมดยังคงเป็นทุ่งนาเขียวขจี ส่วนที่เหลือเป็นบ้านพักทั้งหมด 8 หลังที่ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้การผสมผสานศิลปะของไทใหญ่สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างเห็นจะเป็นบ้านไม้สักหลังใหญ่ ยกใต้ทุนสูงที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้ารีสอร์ท สร้างขึ้นมา 10 ปีแล้ว โดยประยุคต์มาให้มีความเป็นไทใหญ่มากที่สุด แต่ตอนนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นห้องพักไว้สำหรับรับรองแขกที่มาเยือน ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนมาพักบ้านญาติเที่ยวบ้านเพื่อน

กาเเฟห้วยห้อม ณ หมู่บ้านห้วยห้อม

หนึ่งในกาเเฟชื่อดังที่สตาร์บั๊คต้องมาเหมาซื้อเมล็ดไปคั่วเอง เมื่อก่อนบ้านแต่ละหลังจะสลับคิวกันเป็นโฮมสเตย์สำหรับให้นักท่องเที่ยวมาพัก เเเต่ปัจจุบันเหลือเเค่หลังเดียวที่ยังคงเปิดเป็นโฮมสเตย์ โดยมีเจ้าของชื่อพี่มะลิวัลย์ ชาวกะเหรี่ยง ใครอยากลิ้มลองกาแฟแวะมาได้ เขามีขายกาเเฟ แถมที่มีชงให้ชิมกันสดๆ ขอบอกว่ารสชาติเข้มข้นมากๆ รวมทั้งมีสบู่กาเเฟ 100 % สบู่รกเเกะ เสื้อชนเผ่าพื้นเมืองที่ทอจากขนเเกะ นอกจากนี้ยังมีอาหารให้กินด้วย 1 มื้อประกอบไปด้วบ ผัดฟักเเม้ว ปลาทอด ไข่เจียว น้ำพริกถั่วเน่า หรือมูซาโต่ รสชาติติดเค็มไปหน่อยเเต่ก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง โดยเจ้าของบ้านเก็บค่าอาหารคนละ 70 บาท เเต่ถ้าอยากนอนโฮมสเตย์ตกคนละ 150 บาท ถือว่าราคามิตรภาพมากๆ

แวะโครงการหลวงแม่ลาน้อยซื้อผักสด

ผักที่นี่ปลูกตลอดทั้งปี เป็นโครงการในพระราชดำริ ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ผักที่นี่ปลูกตลอดทั้งปี โดยชาวละว้า ถึงแม้จะไม่ได้ปลูกแบบออแกนิค100% เเต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีการควบคุมปริมาณอย่างดี ไปจังหวะดีๆ สามารถซื้อเเบ่งกิโลได้ มีสารพัดผักสลัด ตกกิโลกรัมละเเค่ 35 บาทเท่านั้น ราคาถูกแถมสดสะอาด เห็นแล้วอยากซื้อกลับกรุงเทพฯ เลย

นอกจากนี้ภายในโครงการหลวงฯยังมีแปลงนาขั้นบันไดที่งดงามมาก เขียวขจีลดหลั่นเป็นแนวตลอดสองข้างทาง จึงเป็นจุดชมวิวและจุดถ่ายรูปที่น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวหลายๆ คน แล้วอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดคือ ถ้ำแก้วโกมล หินงอกหินย้อยในถ้ำที่เห็นนั้นเป็นผลึกแร่แคลไซท์ ซึ่งหากโดนสัมผัสจะเกิดการทำปฏิกิริยากับโปรตีนในเหงื่อของมนุษย์ ทำให้เกิดรอยดำ ไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ ดังนั้นการเข้าชมถ้ำ จึงห้ามจับผนังถ้ำ ห้ามถ่ายภาพอย่างเด็ดขาด และเนื่องจากปริมาณออกซิเจนข้างในถ้ำค่อนข้างน้อย จึงมีการจำกัดจำนวนคนเข้าชมรอบละไม่เกิน 20 คนเท่านั้น

สวยขนาดนี้…หนาวนี้รออะไรอยู่ล่ะ

เรื่อง/ภาพ : แพรวดอทคอม

สัมภาษณ์สุดเอ็กคลูซีฟกับกูรูบิวตี้ ‘โพนี่’ ที่ใครอยากสวยแบบสาวเกาหลีต้องอ่าน!

แพรวดอทคอม

November 28, 2015

เมคอัพอาร์ติสสาวเกาหลีคนดัง ‘โพนี่’ เจ้าของยอดวิวนับล้านในช่องยูทูป และหนังสือสอนแต่งหน้าระดับเบสเซลเลอร์ที่โด่งดังไปทั่วทั้งเกาหลี ไทย จีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น

แต่งยังไงให้สวยเด้งแบบสาวเกาหลี

“สาวเกาหลีใส่ใจในเรื่องผิวเป็นพิเศษ จึงเน้นการดูแลผิวพรรณให้สดใสอยู่เสมอ เคล็ดลับของฉันคือการเลือกทาครีมเพียงแค่ตัวเดียว เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูมากกว่าการทาทับกันหลายๆ ชั้น และใช้มาส์กที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี

ส่วนเรื่องเมคอัพ เน้นใช้เครื่องสำอางเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ถ้าเป็นคนที่มีผิวสุขภาพดีอยู่แล้วแค่ลงบีบีครีมก็สวยได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งรองพื้นหนักๆ จากนั้นเลือกใช้บลัชออนโทนสีส้มปะการังระบายลงพวงแก้มบริเวณโหนกแก้ม ส่วนที่เป็นมงกุฎของงานคือการเขียนคิ้วให้เป็นเส้นหนาและตรงแบบดาราเกาหลี ปิดท้ายด้วยการทาปากให้เหมือนกับการแรเงา เพิ่มมิติ โดยให้ด้านในของริมฝีปากมีความเข้มกว่าด้านนอก เพียงเท่านี้สาวไทยก็แปลงกายเป็นสาวเกาหลีได้”

‘Everyday Look’ ในแบบฉบับโพนี่

“ในวันหยุดพักผ่อน ฉันชอบแต่งหน้าในลุคสวยใส โดยเน้นให้ดวงตาเป็นจุดเด่นของใบหน้า เลือกใช้อายแชโดว์โทนสีน้ำตาลอ่อนเกลี่ยทั่วเปลือกตา เขียนอายไลเนอร์เส้นบางๆ ชิดขอบตาด้านบนให้ลุคดูสบายๆ และใช้สีลิปสติกให้ใกล้เคียงกับสีปากเพื่อให้ได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด”

เมคอัพชิ้นเด็ดที่ขาดไม่ได้

“อายไลเนอร์ เพราะถ้าดวงตาไม่คม ต่อให้แต่งตาด้วยสีสันเท่าไหร่ก็ไม่สวย เหมือนคนไร้เรี่ยวแรง ไม่มีชีวิตชีวา ฉันจึงให้ความสำคัญกับการเขียนอายไลเนอร์แทบทุกลุค ไม่ว่าจะเขียนด้านในขอบตาในแบบ ‘Makeup No Makeup’ เพื่อเพิ่มความคมชัดและทำให้ดวงตาดูกลมโต หรือจะวาดเส้นไลเนอร์หนาใหญ่แบบชัดๆ ให้ดูโฉบเฉี่ยว ก็ช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใสและเสริมลุคให้ดูคมชัดยิ่งขึ้น”

ถ้าวันนึงตื่นมาแล้วเมคอัพชิ้นโปรดหายไปจากโลกนี้

“ถ้าไม่มีอายไลเนอร์ก็สามารถใช้มาสคาราแทนได้ เพราะมันใช้ได้ทั้งปัดขนตาให้หนางอน เป็นอายไลเนอร์เขียนขอบตา หรือมาสคาราแต่งคิ้ว ซึ่งฉันเชื่อเมคอัพชิ้นเดียวสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้มากกว่าที่เราคิด บางครั้งฉันยังหยิบลิปสติกแท่งโปรดมาใช้เป็นบลัชออนอยู่บ่อยๆ เลยค่ะ (ยิ้ม)”

เรื่อง : Anne

ภาพ : เนาวพจ

สาวเกาหลี เทคนิคการแต่งหน้า เทรนด์การแต่งหน้า แพรวดอทคอม

หนุ่มๆ ควรรู้ 6 เซ็ตของขวัญความงามราคาเบาๆ นี่แหละสาวๆ อยากได้

แพรวดอทคอม

November 28, 2015

เข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองกันแล้ว ช่วงนี้หนุ่มๆ คนไหนเตรียมหาของขวัญให้แฟนสาว วันนี้เรามีไอเดียการเลือกของขวัญมาฝาก

อย่าคิดว่าดอกไม้สักช่อ หรือการซื้อเครื่องประดับจะเป็นไม้ตายที่ทำให้ผู้หญิงเป็นปลื้มได้อย่างเดียว เพราะจริงๆ แล้วถ้าเรื่องการดูแลตัวเองสาวๆ เขาให้ความสำคัญมากนะ ยิ่งถ้าหนุ่มๆ รู้ใจว่าเธอคนนั้นชอบใช้อะไรมากเป็นพิเศษ หรือกำลังมองหาเครื่องประทินผิวสักเซ็ต ของขวัญความงามเหล่านี้ อาจจะมีตัวเลือกที่สาวๆ ต้องการอยู่ก็ได้

No7 Protect and Perfect Intense Advanced Collection ราคา 1,970 บาท

เพียงแค่ชื่อของคอลเล็คชั่น ก็มั่นใจได้ว่าต้องเป็นเซ็ตของขวัญแห่งความงามที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ โดยในเซ็ตประกอบด้วย สกินแคร์ที่พร้อมอบความอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และชุ่มชื่นให้กับผิว

Soap & Glory In the Bag ^TM ราคา 1,300 บาท

เซ็ตสุดพิเศษนี้เลือกสรรมาโดยเฉพาะเพื่อสาวๆ ดูแลตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าแสนน่ารัก ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ยอดนิยมขนาดกระทัดรัดของ โซพ แอนด์ กลอรี่ กลิ่นออริจินัล พิงค์ (Original Pink) จำนวนทั้งหมด 6 ชิ้น พร้อมใยขัดตัว โดดเด่นด้วยสครับขัดผิว Body Polisher และ The Righteous Butter ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และเนียนนุ่มให้กับผิวระหว่างอาบน้ำ และหลังอาบน้ำ

Seventeen Ultimate Collection ราคา 3,200 บาท

ไม่พลาดกับทุกเทรนด์การแต่งหน้า พร้อมสร้างสรรค์ลุคสวยที่หลากหลายด้วยคอลเล็คชั่นเครื่องสำอางสำหรับตา ริมฝีปากและแก้ม ที่มาพร้อมกับคู่มือแนะนำและเคล็ดลับการแต่งหน้าแบบง่ายๆ ให้ได้ลอง นับเป็นอีกไอเท็มที่เหมาะเป็นของขวัญให้กับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้าทั้งหลาย

Extracts Must Have Minis Box ราคา 560 บาท

คอลเล็คชั่นปรนนิบัติผิวที่โดดเด่นด้วยความหอมหวานละมุนจากพืชพรรณธรรมชาติ ประกอบด้วย บอดี้ สครับ/บอดี้ สเปรย์ และบอดี้ บัตเตอร์ เพื่อผิวหอมนุ่มทั่วทั้งร่างกาย

Soap & Glory The Perfect 10^TM ราคา 1,600 บาท

ครั้งแรกกับคอลเล็คชั่นอายแชโดว์จากโซพ แอนด์ กลอรี่ ที่รวม 10 เฉดสีสุดคลาสสิคที่สาวๆ ปลาบปลื้มไว้แต่งเติมสีสันให้ดวงตาคู่สวยในหลากหลายลุค

Botanics Mens Wash Bag ราคา 1,000 บาท

ผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำที่โดดเด่นด้วยส่วนผสมของโสมสกัด มีทั้งหมด 3 ชิ้น บรรจุอยู่ในกระเป๋าทันสมัยขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับพกพาระหว่างการเดินทาง หรือไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสคลับ