กระแสดราม่าแรงอีกแล้ว สำหรับสองสาวพี่น้องบ้านเจนเนอร์ อย่างเคนดัลล์ เจนเนอร์ (Kendall Jenner) กับไคลีย์ เจนเนอร์ (Kylie Jenner) เพราะทั้งสองได้ออกเสื้อยืดคอลเล็คชั่นใหม่ในไลน์เสื้อผ้าของแบรนด์ตัวเอง ซึ่งเสื้อยืดคอลเล็คชั่นนี้ได้เอาหน้าตัวเองมาสกรีนทับหน้าของนักร้องดังที่เป็นถึงไอคอนิกของใครหลายคนอย่าง The Notorious B.I.G., Tupac, Pink Floyd และอีกหลายต่อหลายคนลงบนเสื้อยืด แม้ว่าจะผลิตออกมาเอาใจแฟนคลับของสองสาว แต่ใช่ว่ากระแสจะดี เพราะครอบครัวของนักร้องดังไม่โอเคและไม่ปลื้มเอาสุดๆ ที่สองสาวออกคอลเล็คชั่นใหม่ โดยไม่ได้ติดต่อขอความยินยอมก่อน ส่วนเสื้อที่ปล่อยออกมาจะวางขายในราคา 125 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,248 บาท และเหตุการณ์ตอนนี้ พี่น้องสุดฮ็อตก็ได้ออกมาขอโทษแล้ว

คลื่นใหญ่ซัดเข้ามาหาสองสาว เมื่อ Voletta Wallace คุณแม่ของ Biggie แร็พเปอร์ผิวสีชาวอเมริกันที่ล่วงลับไปแล้ว ออกมาโพสต์บนอินสตาแกรมส่วนตัวถึงความไม่พอใจต่อเสื้อยืดสไตล์วินเทจของสองพี่น้องเจนเนอร์ โดยมีรูปกากบาทขีดทับเสื้อยืดที่เป็นประเด็น พร้อมแคปชั่น “สินค้าชิ้นนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ The Notorious B.I.G. ทางเราไม่เคยได้รับการติดต่อเกี่ยวกับการนำรูปของ Biggie ไปใช้”

I am not sure who told @kyliejenner and @kendalljenner that they had the right to do this.  The disrespect of these girls to not even reach out to me or anyone connected to the estate baffles me.  I have no idea why they feel they can exploit the deaths of 2pac and my Son Christopher to sell a t-shirt.  This is disrespectful , disgusting, and exploitation at its worst!!!

A post shared by Voletta Wallace (@volettawallace) on Jun 29, 2017 at 9:31am PDT

แค่นั้นยังไม่พอ เพราะแม่ของแร็พเปอร์ชื่อดังได้ตอกย้ำการต่อต้านสองสาวด้วยการเขียนแคปชั่นเดือดพล่าน พร้อมแท็กหาสองพี่น้องว่า “ฉันไม่แน่ใจว่าใครบอกเคนดัลล์กับไคลีย์ว่าพวกเธอมีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้ ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกเธอถึงเอาหน้าคนที่ตายไปแล้วอย่างคริสโตเฟอร์ ลูกชายของฉัน มาทำเสื้อยืดขาย นี่มันไม่มีความเคารพ น่ารังเกียจ หาผลประโยชน์ และแย่ที่สุด!!”

Girls, you haven’t earned the right to put your face with musical icons. Stick to what you know…lip gloss. pic.twitter.com/BhmuUVrDBn

— Sharon Osbourne (@MrsSOsbourne) June 29, 2017

ด้านชารอน ออสบอร์น (Sharon Osbourne) ภรรยาของนักร้อง นักแต่งเพลงรุ่นใหญ่ ออสซี่ ออสบอร์น (Ozzy Osbourne) ได้ออกมาทวีตข้อความแสดงความไม่ชอบใจเช่นกัน “สาวน้อย เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะพิมพ์ภาพหน้าของเธอกับไอคอนเพลง รู้เอาไว้นะ ยัยลิปกลอส”

นอกจากนี้เคลลี ออสบอร์น (Kelly Osbourne) นักร้องสาวสุดซ่า ก็ได้โพสต์ภาพถึงพี่น้องเจนเนอร์เช่นกัน ด้วยแฮชแท็ก #CURRENTMOOD ประมาณว่า มันคืออารมณ์ของฉันในตอนนี้

 

#CurrentMood

A post shared by Kelly Osbourne (@kellyosbourne) on Jun 29, 2017 at 2:10pm PDT

 

หลังจากถูกครอบครัวของแร็พเปอร์ชื่อดังออกมาโพสต์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม พี่น้องคนดังก็ได้ออกมาขอโทษผ่านทวิตเตอร์ของเคนดัลล์ “การออกแบบนี้ไม่ได้ผ่านการคิดทบทวนให้ดี เราต้องขออภัยทุกคนที่ทำให้ไม่สบายใจ โดยเฉพาะครอบครัวของศิลปิน เราเองก็เป็นแฟนเพลงตัวยงของพวกเขา แต่เราก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะไม่เคารพไอคอนของวงการเลยสักนิด ทั้งนี้เสื้อยืดจะไม่มีการปล่อยขาย และภาพทั้งหมดจะถูกลบทิ้ง เราจะใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ความผิดพลาด พวกเราเสียใจจริงๆ”

สุดท้ายแล้วสองพี่น้องเจนเนอร์ก็ลบรูป และตัดสินใจไม่ขายเสื้อยืดคอลเล็คชั่นนี้ลงบนเว็บไซต์แล้ว คิดว่าต่อไปก่อนจะออกสินค้าใหม่ๆ คงต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้ เพราะไม่งั้นประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเอาได้

ภาพและที่มา : www.mirror.co.uk

ภาพ : IG@kendalljenner

หลังจากที่ศิลปินตัวพ่อของวงการเพลงไทย “เจ – เจตริน วรรธนะสิน” ซีอีโอค่ายเพลง “เจมีดี” (Jaymidi) ผลักดันศิลปินเบอร์แรก ลูกชายคนโต “เจ้านาย – จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน” เดบิวต์เป็นนักร้องเต็มตัวกับซิงเกิ้ลแรกในชีวิต “คนละชั้น” ซึ่งเริ่มออกอากาศไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2560 และได้กระแสตอบรับจากแฟนๆอย่างล้นหลาม จนยอดวิวปัจจุบันกำลังจะแตะที่ 7 ล้านวิว

งานนี้นอกจากเพลงจะติดหูแล้ว ความหล่อใสทะลุจอของ “เจ้านาย” ยังทำให้ถูกพูดถึง และทำให้หลายคนอยากรู้จักหนุ่มคนนี้มากขึ้น งานนี้ “แพรวดอทคอม” จึงรวบรวมเรื่องราว (ไม่) ธรรมดาของหนุ่มคนนี้มาให้ได้รู้จักกัน บอกเลยยิ่งอ่านยิ่งรักหนุ่มคนนี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

1. หล่อไม่ธรรมดา : ถ้าจัดลำดับครอบครัวหน้าตาดี ตระกูล “วรรธนะสิน” ของ “น้องเจ้านาย” คงติดอันดับต้นๆ เพราะไม่ว่าจะหันไปมองใคร หนุ่มๆบ้านนี้ทำสาวๆใจละลายมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ “เจ – เจตริน” ยิ่งมาเจอกับคุณแม่ “ปิ่น – เก็จมณี” สาวสวยระดับนางเอก ดีเอ็นเอความหน้าตาดีเลยถ่ายทอดสู่รุ่นลูกแบบคูณสอง ยิ่งพอ “เจ้านาย” และ “เจ้าขุน” เข้าสู่วัยรุ่น ยิ่งทะยานความฮ็อต เห็นได้จากการที่คุณพ่อโพสต์ภาพกับลูกๆลงไอจีเมื่อไหร่ สาวๆต้องตามมาถล่มไลค์ทุกที แถมยังมอบตำแหน่งฉายา “สามีแห่งชาติ” ให้สองหนุ่มตั้งแต่เพิ่งเข้าวัยสิบกว่าๆเท่านั้น

2. การศึกษาไม่ธรรมดา : ทั้งคุณพ่อคุณแม่ได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ จึงเห็นความสำคัญในเรื่องของภาษา “เจ้านาย” เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียน Ascot International School ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีค่าเทอมสูงถึง 400,000 บาทต่อปี หลังจากนั้นถูกส่งไป Millfield School โรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ เพื่อให้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ และต้องการสร้างวินัยให้ลูก ซึ่ง “เจ้านาย” มีความสนใจทั้งเรื่องดนตรีและกีฬาควบคู่กัน โดยในส่วนของกีฬานั้น หนุ่มหล่อยังได้รับคัดเลือกให้เป็นนักฟุตบอลเยาวชน ทีมฟุตบอล U15 ทีม B ของโรงเรียนอีกด้วย

3. รวยไม่ธรรมดา : บ้านหลังที่ 3 ของครอบครัวนี้ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 4 ปี สนนราคาอยู่ที่ 50 ล้านบาท ภายในบ้านมีความสะดวกสบายครบครันราวกับโรงแรมห้าดาว ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ สนามพัตต์กอล์ฟ สนามบาสเก็ตบอล ยิม ซึ่งคุณพ่อ “เจ” บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากการพักตามรีสอร์ตต่างๆ เพราะเวลาไปเที่ยวสมาชิกทุกคนมีความสุขจนไม่อยากกลับ เป็นจุดเริ่มต้นความคิดแต่งบ้านให้เหมือนรีสอร์ตไปซะเลย โดยสมาชิกแต่ละคนจะมีห้องส่วนตัวคนละหนึ่งห้อง “เจ้านาย” Lv1 ถัดไปตรงกลาง Lv2 ห้อง “เจ้าขุน” และสุดท้าย Lv3 ห้อง “เจ้าสมุทร” ถึงมีความสะดวกสบายขนาดไหน แต่ไม่ลืมสอนให้ 3 หนุ่มรู้จักความรับผิดชอบ เมื่อ “พ่อเจ” ตั้งกฎเหล็กว่า ทุกคนต้องดูแลความสะอาดห้องตัวเอง

4. เสียงร้องไม่ธรรมดา : คุณพ่อ “เจ” เคยบอกว่าในจำนวนลูกทั้ง 3 คน “เจ้านาย” มีแววที่จะตามรอยพ่อมากที่สุด เพราะเขาเป็นคนชอบเสียงเพลงตั้งแต่เด็กๆแล้ว ปกติอยู่ที่ต่างประเทศ “เจ้านาย” ฟังเพลงทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นอาร์แอนด์บีหรือฮิปฮ็อป ซึ่งก่อนที่จะทำซิงเกิ้ลแรก ทั้งคุณพ่อคุณลูกฟังเพลงเยอะมาก เพื่อที่จะหาแนวที่ชอบและเหมาะกับ “เจ้านาย” มากที่สุด และหลังจากรีเสิร์ชมาเกือบ 1 ปี จึงตัดสินใจว่าแนวเพลงที่เหมาะมากที่สุดคือ “อาร์แอนด์บี” เมื่อคุณพ่อถามถึงศิลปินที่ชอบในเพลงแนวนี้ ลูกชายสุดหล่อบอกว่า “Room39” จึงตัดสินใจให้พวกเขามาทำเพลงให้ ซึ่งหลังจากที่ได้คลุกคลีกัน “ทอม” ได้บอกว่า “เจ้านาย” มีเสียงมากจากสวรรค์ และจะยิ่งดีขึ้นไปกว่านี้อีก แต่เหลืออยู่ที่ว่าอนาคตจะปรับอะไรขนาดไหน

5. อบอุ่นไม่ธรรมดา : คุณแม่ “ปิ่น” บอกว่าตอนที่ประสบอุบัติเหตุตกจากม้าจนเดินไม่ได้ ถือว่าเป็นการพิสูจน์หัวใจคนในครอบครัวเลยทีเดียว เพราะจากดูแลลูกๆและสามี แต่วันนึงกลับต้องมาเป็นคนได้รับการดูแลแทน ซึ่งต้องขอบคุณทุกๆคนในครอบครัว แต่ที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือน้ำใจจากลูกชายคนโต “น้องเจ้านาย” ที่คอยช่วยแม่และดูแลน้องๆเป็นอย่างดี โดยทั้งคุณแม่และคุณพ่อยังบอกอีกว่า “เจ้านาย” เป็นคนที่มีความระแวดระวังสูง อ่อนโยน เป็นคนคิดรอบคอบ สมกับเป็นพี่คนโตของบ้านจริงๆ

6. ใส่ใจแฟนคลับไม่ธรรมดา : เมื่อเร็วๆนี้ “เจ้านาย” ได้เปิดเผยว่า “ครอบครัวบอกผมตลอดครับ ว่าแฟนคลับคือแบตเตอรี่ของเรา” เขาจึงตั้งใจอ่านทุกคอมเมนต์ เพราะฉะนั้นทุกคนรู้ไว้เลยว่าเจ้านายใส่ใจแฟนคลับของเขามาก ถึงแม้จะไม่ชินที่พี่ๆแฟนคลับเรียก “สามี” เร็วไปหน่อย แต่ก็ดีใจที่มีคนรักเยอะ รู้สึกว่ายิ่งมีคนรักมาก ยิ่งได้กำลังใจตลอด ทั้งนี้ในมิวสิควิดีโอเพลง “คนละชั้น” ที่เพิ่งเปิดตัวไป ยังดีต่อใจแฟนคลับมากๆ เมื่อตัดสินใจตัด “นางเอก” ไม่ให้เกะกะลูกตาเหล่า “สะใภ้มโน” (ชื่อเรียกแฟนคลับ) เพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงและชมความหล่อได้สะดวกใจมากขึ้น โดยยอดวิวล่าสุดของเพลงนี้คือ 1 ล้านวิว ภายใน 10 ชั่วโมง

7. ของขวัญครบรอบวัย 16 ปีที่ไม่ธรรมดา : ด้วยความที่เป็นลูกคนดัง ทำให้คลุกคลีในวงการบันเทิงตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่ในวันเกิดครบรอบ 16 ปีนี้ “เจ้านาย” ได้เป็นคนวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว เมื่อพ่อ “เจ” ได้ปั้นลูกชายคนโตขึ้นมาเป็นนักร้องคนแรกของค่าย “เจมีดี” (Jaymidi) เปิดตัวกับซิงเกิ้ลแรกที่มีชื่อว่า “คนละชั้น” โดยทีเซอร์เปิดตัวมียอดวิว 7 ล้าน ขณะที่ 10 ชั่วโมงหลังจากปล่อยมิวสิควิดีโอเต็ม ก็ทะยานทะลุ 1 ล้านวิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บอกตรงนี้เลยว่าจะมีสักกี่คนได้ของขวัญแบบนี้

อีก2-3 ปี รอให้เป็นหนุ่มเต็มตัวกว่านี้ ไม่แน่นะนอกจากเป็นนักร้องแล้ว อาจจะเป็นพระเอกได้ด้วยซ้ำ เพราะความหล่อพุ่งแรงมาก ขนาดตอนนี้แต่ออกซิงเกิ้ลแรกบรรดาทีมสะใภ้มโนก็มีเพียบนับไม่ถ้วนแล้ว

ความสำเร็จของ “ฉลาดเกมส์โกง” (Bad Genius) ภาพยนตร์ดีของค่าย “จีดีเอช” (GDH) ไม่ได้หยุดแค่เพียงที่เมืองไทยเท่านั้น เพราะหนังเรื่องนี้ยังโกอินเตอร์สู่ตลาดหนังอาเซียน หลังถูกซื้อไปฉายที่ลาว สิงคโปร์ มาเลเซีย  เวียดนาม กัมพูชา และบรูไน ล่าสุด “ฉลาดเกมส์โกง” ตอกย้ำความสำเร็จ เมื่อหนังถูกตาต้องใจของตลาดสากล ทำให้คณะกรรมการ New York Asian Film Festival ได้เลือกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ได้ฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ซึ่งผู้กำกับ “บาส – นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” และ 2 นักแสดงนำ “ออกแบบ – ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง” และ “นน – ชานน สันตินธรกุล” ได้บินไปร่วมชมความสำเร็จ

ทั้งนี้นอกจากความสำเร็จของหนังแล้ว การแสดงครั้งแรกในชีวิตของ “ออกแบบ – ชุติมณฑน์” จากภาพยนตร์เรื่องนี้ยังโดนใจคณะกรรมการ ทำให้ได้รับรางวัล “Screen International Rising Star Asia Award” ติดไม้ติดมือกลับมาฝากคนไทยด้วย