ไทยเบฟ

ไทยเบฟ ร่วมสนับสนุนนิทรรศการ “รัตนแห่งจุฬาฯ” จากพรรณไม้ สู่นวัตกรรม เพื่อความยั่งยืน

Alternative Textaccount_circle
ไทยเบฟ
ไทยเบฟ

เนื่องในโอกาส สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2568 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “รัตนแห่งจุฬาฯ” จากพรรณไม้ สู่นวัตกรรม เพื่อความยั่งยืน โดย ไทยเบฟ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญภาพถ่ายฝีพระหัตถ์มาจัดแสดงนิทรรศการ จำนวน 38 ภาพ ซึ่งทรงฉายภาพทั้งในไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2567 เพื่อให้คนไทยได้ร่วมชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพ  ณ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์

ไทยเบฟ
ไทยเบฟ

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “รัตนแห่งจุฬาฯ” จากพรรณไม้ สู่นวัตกรรม เพื่อความยั่งยืน

ไทยเบฟ

โดยภายในงานนิทรรศการได้แบ่งเป็น 5 โซนหลักๆ คือ โซนนิทรรศการภาพถ่ายดอกไม้ฝีพระหัตถ์ โซนต้นไม้ประจำพระองค์ คือ ต้นจำปีสิรินธร และพรรณไม้พระราชทาน ได้แก่ ม่วงเทพรัตน์ ไอยริศ และ ช้องเจ้าฟ้า โซนพรรณไม้เทิดพระเกียรติ อาทิ เทียนสิริธร กุหลาบพระนามสิรินธร และ เอื้องศรีอาคเนย์ โซนต้นไม้ทรงปลูก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เช่น ต้นรวงผึ้ง ต้นมหาพรหม ต้นสรัสวตี และ ต้นจำปีสิรินธร และโซนพรรณไม้สู่นวัตกรรม จัดแสดงโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สนองพระราชดำริ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อพัฒนาพรรณพืชสู่การสร้างผลิตภัณฑ์

ไทยเบฟ
ไทยเบฟ

นอกจากนี้ยังได้จัดเวทีเสวนาความรู้ “จากพรรณไม้ สู่นวัตกรรม เพื่อความยั่งยืน” โดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์ รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์จากโครงการในพระราชดำริ อพ.สธ. ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ต่อยอดจากพรรณไม้หรือดอกไม้ กิจกรรมเวิร์คช็อปที่เกี่ยวเนื่องกับดอกไม้ และพืชพรรณต่างๆ อาทิ การชงชาดอกไม้ การสร้างภาพพิมพ์ธรรมชาติ รวมทั้งได้มีการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ เพื่อนำรายได้สมทบมูลนิธิมหาจักรีสิรินธร เพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ไทยเบฟ

‘สงกรานต์มีรัก สาดฉ่ำๆ ด้วยความหวาน ใช่คุณไหม?? เช็กเลย!!’ ดวงรายสัปดาห์ 7-13 เมษายน 2568

Alternative Textaccount_circle

‘สงกรานต์มีรัก สาดฉ่ำๆ ด้วยความหวาน’

ดวงรายสัปดาห์ 7-13 เมษายน 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  สำหรับสัปดาห์ก่อนหยุดยาวของชาวอาทิตย์ มีโอกาสติดอยู่กับความอึดอัดขัดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการเรียนการสอน เช่น ครูบาอาจารย์ เทรนเนอร์ โค้ชชิ่ง ติวเตอร์ ฯลฯ รวมถึงผู้ที่ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับงานสายนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตามจะมีโอกาสได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับงานนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรู้สึกอึดอัด กดดัน เพราะเป็นงานที่ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ และไม่ถนัด แต่ก็ต้องทำ เพราะติดที่สัญญา ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือสัญญาใจ ที่สุดแล้วด้วยความสามารถของคุณก็จะทำออกมาได้ดี แม้จะช้ากว่าเดทไลน์ก็ตาม

การเงิน  :  หลักๆ มาจากงานประจำ แต่ก็จะมีเงินพิเศษไหลเวียนเข้ามาไม่ขาด แม้คุณพยายามใช้แบบกระเหม็ดกระแหม่ พร้อมกับวางแผนการใช้เงินอย่างดี แต่ก็ยังไม่วายที่จะเสียกับการถูกหลอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการลงทุน การค้ำประกัน และการกู้ยืม

ความรัก  :  เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตคู่ของคุณ หากความรักความเข้าใจของคุณไม่แข็งแรงพอ ก็มีโอกาสที่จะทะเลาะกับคู่ครองได้อย่างง่ายดาย  คนโสด  สัปดาห์นี้มีโอกาสที่ได้พบรักกับผู้ใหญ่ หรือชาวต่างชาติ แม้เขาจะทำให้คุณเจ็บช้ำ แต่ก็ตัดใจไม่ได้  

สุขภาพ  :   มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเลือดจาง ดีซ่าน  ไวรัสตับอักเสบ บี นอกจากนั้นยังต้องระวังอวัยวะภายใน เช่น มดลูก รวมถึงในช่องท้อง หากเป็นก็คาดว่าจะมีความรุนแรงจนถึงขั้นไปหาหมอ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   ชาวจันทร์เริ่มจะหายใจหายคอได้บ้างสำหรับสัปดาห์ก่อนขึ้นปีใหม่ไทย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับความบันเทิง ความสวยความงาม ดนตรี นักร้อง ดารา นักแสดง นักเขียน ฯลฯ รวมถึงชาวจันทร์ที่ไม่ได้อยู่ในสายงานด้านนี้ด้วย สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปสัมผัสกับงานเหล่านี้ล่ะ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าคุณจะได้เป็นเด็กใหม่ในสายงานราชการ รัฐวิสาหกิจ การแพทย์ และสาธารณสุข ซึ่งคุณจะใช้ความรู้ ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ แล้วหากได้ทำแล้วก็จะอยู่ยาวเลยล่ะ  

การเงิน  :  ก็ยังมาจากน้ำพักน้ำแรงและความรู้ความสามารถของตัวเอง ที่เพิ่มเติมคือจะมาจากความสิเน่หาด้วย แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้คุณเสื่อมเสียชื่อเสียง

ความรัก  :   ก็ยังคงความเนื้อหอม ความเจ้าชู้อยู่ไม่รู้คลายนะคะ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังพวกปากหอยปากปู ปากโซเชียล ที่จะนำเศษซากความเจ้าชู้มาบอกกล่าวให้เป็นหนามยอกอก แม้คุณจะเพียรบอกว่า เป็นเพื่อนร่วมงานก็ตาม  คนโสด  เสน่ห์มาเต็มๆ ต้องระวังจะมีศึกชิงนาง ชิงนายเกิดขึ้น ซึ่งคุณจะคิดแค่ว่าอยากคบไว้เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจเท่านั้น ไม่ได้คิดมากกว่านั้นล่ะ ดูออก

สุขภาพ  :  เอ็นจอยกับการแสวงหาอาหารอร่อยๆ รับประทานจนมีโอกาสที่จะน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จากการรับประทานอาหารที่ไม่สดสะอาด ของหมัก ของดอง ก็จะตามมาด้วย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน    น่าหนักใจกับชาวอังคารจังเลย คุณมีโอกาสก้าวสู่ปีใหม่ไทยพร้อมๆ กับความอึดอัด ร้อนรุ่มกับการงานหรือธุรกิจที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและความถูกต้องยุติธรรม เช่น นักกฎหมาย อัยการ ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ตำรวจ ฯลฯ เป็นไปได้ที่คุณจะไม่ค่อยมีความสุขกับระบบ เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย ทั้งที่จริงๆ แล้วพวกเขาเหล่านั้น ทั้งเมตตา เอ็นดู และพร้อมจะส่งเสริมและสนับสนุนคุณอยู่    

การเงิน  :   ร้อนเงิน ร้อนใจ ชักหน้าไม่ถึงหลัง จะหมดไปกับการสงเคราะห์ช่วยเหลือญาติมิตร จนตัวเองไม่พอใช้ ต้องไปหยิบยืมแหล่งเงินกู้ ซึ่งบุญกุศลเหล่านั้นจะส่งผลให้ว่าหากคุณร่วมหุ้นร่วมทุนทำธุรกิจกับคู่ครอง คนรัก ก็มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะช่วย

ความรัก  :  ก็ยังคงกรุ่นๆ อยู่กับความหึงหวง การมีปากเสียง จนมีโอกาสที่คุณเลือกที่จะใช้กฎหมายจัดการกับชีวิตคู่ของคุณ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่ก็จะเข้ามามีอิทธิพลกับเรื่องนี้ด้วย คนโสด  ยิ่งเลือกมากเท่าไหร่ กลับยิ่งไม่ได้ดังที่คาดหวัง มีโอกาสที่จะมีเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ มือที่สาม และความหึงหวงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความรักของคุณ

สุขภาพ  :   ความเครียด เก็บกด และอาฆาต จากปัญหาต่างๆ มีความเสี่ยงที่จะทำลายสุขภาพจนคุณปวดศีรษะ ไมเกรน  จึงควรปล่อยวาง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด นอกจากนั้นยังต้องระวังอุบัติเหตุในบ้าน เช่น ตกบันได ลื่น/ล้มในห้องน้ำ จนข้อเท้าพลิก/แพลง อย่าประมาท

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   ก็ยังคงเบาตัวโล่งใจกับการสะสางงานเก่า พร้อมทั้งข่าวที่น่ายินดีอีกว่า คุณมีโอกาสได้เริ่มต้นงานหรือธุรกิจใหม่ๆ ในสัปดาห์ขึ้นปีใหม่ไทย โดยเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับสายงานทางด้านการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงผู้ที่เชี่ยวชาญด้านภาษา โดยคุณจะได้รับการอุปถัมภ์และส่งเสริมสนับสนุนจากผู้ใหญ่ผู้หญิงที่จะผลักดันให้ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเลยทีเดียว

การเงิน  :  ก็ยังคงได้เก็บเกี่ยวจากผลงานที่สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างแล้ว อาจได้รับเงินพิเศษจากผู้ใหญ่ผู้หญิงด้วย แต่ก็ยังคงต้องเก็บเงินไว้ เพราะคุณมีโอกาสที่จะหมดเงินไปกับความรัก และคนรัก

ความรัก  :  ก็ยังต้องคงพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันอยู่ แต่ดูเหมือนว่าสัปดาห์นี้น่าจะยาก เพราะมีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว อยู่ท่ามกลางคนรักและคนที่รัก ก็เป็นความสุขที่นานๆ จะได้พบกันสักครั้ง  คนโสด  เป็นสัปดาห์ที่ความรักผลิบาน มีความสุขอยู่กับคนรักและการเป็นที่รัก สงกรานต์นี้เป็นสีชมพูเลยล่ะ ดูออก

สุขภาพ   :  เดินทางไปท่องเที่ยวกันที่ไหนก็อย่าประมาท ขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งผ่าตัด หรือเพิ่งผ่าคลอด อย่ายกของหนัก หรือนั่งรถนานๆ เพราะมีความเสี่ยงที่แผลผ่าตัดจะได้รับความกระทบกระเทือนจนเกิดการอักเสบได้

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   ขึ้นสัปดาห์ใหม่ ปีใหม่ไทยแล้ว ชาวพฤหัสบดีก็ยังคงต้องวุ่นวายใจกับความพยายามที่จะให้ตัวเองมีตัวตนอยู่ในสายตาของเจ้านาย ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อนร่วมงานยังมีโอกาสตีตัวออกห่าง โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้คำพูดในการติดต่อประสานงาน นักการทูต สื่อสารมวลชน งานบันเทิง  และงานส่งเสริมการขายทุกประเภท ในที่สุดจากความขยัน ความรับผิดชอบ และความสามารถของคุณ ก็จะสามารถรอดพ้นจากอุปสรรคและปัญหาไปได้ แม้จะหนักและเหนื่อยก็ตาม

การเงิน  :  มีโอกาสที่จะเสียเงินให้กับคนใกล้ชิดอย่างไม่คาดคิดมาก่อน แต่ที่สุดแล้วคุณก็สามารถกู้คืนในส่วนที่เสียรู้ไปได้จากความขยันทำงาน ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีหลากหลายช่องทางที่จะสร้างรายได้ให้คุณ ก็อย่าใจอ่อนอีกล่ะ   

ความรัก  :  มีโอกาสที่จะโหยหา หรือพยายามเรียกร้องความสนใจกับความรักความสัมพันธ์ที่ขาดหายไปให้กลับคืนมา ซึ่งอาจไม่ได้ผล จึงเป็นไปได้ที่คุณจะใช้การทำงานหนักเพื่อให้ลืมเรื่องปวดใจต่างๆ   คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะเลือกคนที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เป็นไปได้ที่จะไม่ลงตัวกันในเรื่องของเวลา เพราะคุณงานเยอะ แต่อยากอยู่ด้วยกันตลอดๆ จึงส่งผลให้คุณหงุดหงิดใจเวลาที่จะต้องอยู่ห่างกัน

สุขภาพ   :  โหมงานหนักรับปีใหม่ไทยก็ต้องระวังโรคภัยจะถามหาด้วย ช่วงนี้เป็นไปได้ที่จะมีอาการของโรคเก่าๆ ขึ้นมาเตือนให้รำคาญใจ นอกจากนั้นสภาพจิตก็ต้องให้ความสำคัญ ระวังจะเป็นซึมเศร้า  

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   สำหรับชาวศุกร์มีโอกาสขึ้นปีใหม่ด้วยการเริ่มต้นงานหรือธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และการให้บริการคำแนะนำปรึกษาในด้านต่างๆ ซึ่งคุณจะให้ความสำคัญกับความถูกต้องรัดกุม slow but sure แม้จะทำให้งานล่าช้าไม่ทันการณ์ไปบ้าง แต่ด้วยความที่คุณมีความเป็นผู้นำสูง กล้าคิดกล้าทำ เมื่อมุ่งมั่นจะทำการสิ่งใดแล้วจะเดินหน้า ใครก็ขัดไม่ได้ จึงมีความเสี่ยงที่งานหรือธุรกิจนั้นๆ จะเกิดความเสียหายอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น จึงควรใจเย็นๆ หาจังหวะและโอกาสที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก็จะทำให้งานราบรื่นขึ้น  

การเงิน  :  รายจ่ายเยอะ ต้องหมุนเงินเหนื่อยเลยล่ะ เพราะฉะนั้นคุณจึงควรใช้เงินอย่างรู้คุณค่าทุกบาททุกสตางค์ อย่าเพิ่งเสี่ยงกับการลงทุนนัก

ความรัก :   อบอุ่นจนอึดอัดเลยล่ะ ยามที่คุณรักก็จะบูชาความรักยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด แต่ที่เหนือกว่าความรักคือทิฐิ จึงมีโอกาสที่จะขัดแย้งกันได้ง่ายมาก แล้วก็ไม่มีใครยอมกันเลย คนโสด  มีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม แต่หากเคยมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดกับความรักมาแล้ว ก็เป็นผลให้คุณไม่กล้าที่จะเริ่มต้นรักใครอีก

สุขภาพ  :   เดินทางท่องเที่ยวต่างสถานที่ควรระวังเรื่องอาหารด้วย เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จนถึงมีพยาธิ์ในลำไส้ นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคหัวใจ และกระดูกสันหลัง อาการปวดหลังจะมาเยือน

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  สัปดาห์ขึ้นปีใหม่ของชาวเสาร์ เป็นไปได้ว่าคุณจะใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์นำบุญ มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับงานหรือธุรกิจที่จะต้องติดต่อประสานงาน การประนีประนอม ประชาสัมพันธ์ ฝ่ายขาย รวมถึงการใช้ภาษาในทุกๆ ด้าน โดยมีความน่าจะเป็นที่จะเกี่ยวข้องกับงานบุญ งานสร้างประโยชน์ให้กับสังคม เช่น มูลนิธิ  องค์กรการกุศลต่างๆ

การเงิน  :  ได้จากความรู้ความสามารถของตัวเอง มีการจัดวางระบบการเงินได้อย่างดี แบ่งสันปันส่วนให้กับการทำบุญทำทานด้วย รวมถึงส่วนที่เกี่ยวกับความรัก คนรัก บุตรหลาน และสัตว์เลี้ยง

ความรัก  :   เบ่งบานนะคะ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้ไปฮันนีมูนรอบสาม รอบสี่กันอีก แต่คราวนี้จะเริ่มมีความหึงหวง การแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้าด้วยนะ คนโสด  มีเฮ สงกรานต์นี้มีโอกาสกลายเป็นสีชมพู น้ำที่สาดก็จะหวานกว่าทุกปี

สุขภาพ   ก็ยังอยู่กับการชิมอาหารอร่อยๆ ดื่มไวน์ชั้นดี ดังนั้น น้ำหนักก็ยังคงติดตามมาเป็นเงาตามตัว รวมถึงไขมัน เบาหวาน ความดันด้วย ส่วนที่จะเตือนเพิ่มเติมคืออุบัติเหตุ อย่าขับขี่ตอนดื่มสุรา

"แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี" ผสมผสานความหรูหรากับธรรมชาติใจกลางเมือง

วิวจึ้ง ไวป์เริ่ด”แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี” ผสานความหรูหรากับธรรมชาติใจกลางเมือง

Alternative Textaccount_circle
"แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี" ผสมผสานความหรูหรากับธรรมชาติใจกลางเมือง
"แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี" ผสมผสานความหรูหรากับธรรมชาติใจกลางเมือง

ถ้าได้มาลองพักอาจจะรักไม่รู้ตัว สำหรับโรงแรมหรูแห่งใหม่ใจกลางเมืองที่ “แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี” (Grande Centre Point Lumphini) ที่พร้อมมอบประสบการณ์ลักซ์ชัวรี่ย่านใจกลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพฯ โดยเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา วีคเอนท์หรือหยุดยาว หากเบื่อไม่อยากออกต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาสเตย์เคชัน แล้วเพื่อนๆ อาจจะลืมวันลืมคืน เพราะภายในมีบริการและกิจกรรมมากมาย

แถมเดินทางก็สะดวก มารถส่วนตัวก็มีที่จอดเพียบ ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้ MRT ลุมพินี (ทางออก 1) เพียง 150 เมตร และสามารถเดินทางสะดวกไปยังโซนธุรกิจอย่างสีลม สาทร อโศก รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น สวนลุมพินี สวนเบญจกิติ และเยาวราช เมื่อก้าวเข้าสู่โรงแรม แขกจะได้รับการต้อนรับด้วยล็อบบี้ที่หรูหราพร้อมสระน้ำพุพื้นที่รวมกว่า 100,000 ตารางเมตร ผสานกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่อบอวลทั่วพื้นที่ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสงบและผ่อนคลาย

ห้องพักหรู พร้อมวิวเมืองและแม่น้ำห้องพักและห้องสวีทสุดหรู 512 ห้อง โดดเด่นด้วยความเงียบสงบ กว้างขวาง และหรูหรา มาพร้อม หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน ที่เปิดรับแสงธรรมชาติ และมอบวิวอันงดงามของ สวนลุมพินี สวนเบญจกิติ และแม่น้ำเจ้าพระยา ทุกห้องได้รับการออกแบบอย่างประณีตด้วยดีไซน์หรูหราเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของย่านลุมพินี ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อมอบประสบการณ์การเข้าพักที่เหนือระดับ แบ่งออกเป็น

  • Premium (ขนาด 44 ตารางเมตร) – ออกแบบให้กว้างขวางเพื่อการผ่อนคลายสูงสุด พร้อมเตียงขนาดเอ็มเพอเรอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • Premium Connecting (ขนาด 88 ตารางเมตร) – เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ด้วยห้องพรีเมียม 2 ห้องที่เชื่อมต่อกัน มอบทั้งความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายครบถ้วน
  • Executive Suite (ขนาด 88 ตารางเมตร) – ผ่อนคลายในห้องนั่งเล่นกว้างขวาง พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ เพลิดเพลินกับวิวเมืองจากโซฟาในห้องนอน ห้องน้ำมาพร้อม อ่างจากุซซี่ ฝักบัว และสุขภัณฑ์อัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
  • Family Suite (ขนาด 132 ตารางเมตร) – เหมาะสำหรับการเข้าพักเป็นครอบครัว ด้วยห้องนอนแยกพร้อมเตียงขนาดเอ็มเพอเรอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
  • Lumphini Penthouse (ขนาด 176 ตารางเมตร) – ห้องพักสุดหรูแบบ สองห้องนอน เตียงขนาดเอ็มเพอเรอร์ ห้องนั่งเล่นกว้างขวางพร้อมชุดโซฟา และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม เพื่อประสบการณ์การเข้าพักที่เหนือระดับ

ห้องพักทุกห้องมาพร้อม สมาร์ททีวี, Wi-Fi, เครื่องชงกาแฟ Nespresso พร้อมแคปซูล, เครื่องเป่าผม Dyson และมินิบาร์ฟรี เพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุด นอกจากนี้ ทุกชั้นของห้องพักยังมีเครื่องทำน้ำแข็งฟรี และ ตู้จำหน่ายของว่าง เครื่องดื่ม และสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทาง ช่วยให้แขกสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก

สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารระดับไฮเอนด์

  • Malai Restaurant – บุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ผสานรสชาติแท้ดั้งเดิมเข้ากับอาหารไทยต้นตำรับ
  • Manhin by Chef Man – อาหารจีนสไตล์ฮ่องกงระดับพรีเมียมจาก “เชฟแมน”
  • Bloom & Brew – คาเฟ่ที่นำเสนอเครื่องดื่มจากกาแฟท้องถิ่น พร้อมอาฟเตอร์นูนทีที่คัดสรรจากวัตถุดิบ พรีเมียม
  • Eric Kayser X Anonymous Cafe – การผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านขนมอบของ Eric Kayser เข้ากับกาแฟคุณภาพจาก Anonymous Coffee มอบประสบการณ์การรับประทานที่ยอดเยี่ยม
  • Level 50 Rooftop Restaurant – ดื่มด่ำกับการรับประทานอาหารไปกับบรรยากาศวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาพร้อมชมเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ

ผ่อนคลายและดูแลสุขภาพในระดับเวิลด์คลาส

  • Lets Relax Onsen & Spa – พื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร ให้บริการออนเซ็นแท้ที่นำเข้าจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ พร้อมด้วยบริการนวดและทรีตเมนต์ต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่
  • Sky Pool – สระว่ายน้ำความยาว 50 เมตร มอบประสบการณ์การว่ายน้ำเหนือเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ
  • Gravity Fit Club – ฟิตเนสระดับพรีเมียมที่มอบประสบการณ์การออกกำลังกายในพื้นที่ขนาด 1,400 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ TechnoGym รุ่นล่าสุด อีกทั้งยังมีห้องล็อกเกอร์ที่ครบครัน พร้อมจากุซซี่และห้องอบ ไอน้ำเพื่อการผ่อนคลายสูงสุด
  • Tiny Tree Kids Club – คิดส์คลับธีมรักษ์โลก ออกแบบโดย Plantoy ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด มอนเตสซอรี่ เพื่อการเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างสร้างสรรค์และเป็นธรรมชาติ
  • Games Room, Playground – พื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่สำหรับผู้เข้าพักทุกเพศทุกวัย ให้บริการเกมส์ อาร์เคด บอร์ดเกมส์ และเครื่องเล่นนานาชนิด

พื้นที่ห้องจัดเลี้ยงรวมกว่า 6,345 ตารางเมตร ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ 3 ห้องสามารถรองรับแขกได้มากถึง 1,000 คน พร้อมจอ LED ขนาดใหญ่ทุกห้อง และระบบแสงสีเสียงครบครัน ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งงานจัดเลี้ยง งานสัมมนา และงานแต่งงาน โดยมีพื้นที่เชื่อมต่อถึง 3 ชั้น อีกทั้งยังมีพื้นที่จัดงานกลางแจ้งสำหรับจัดงานสุดพิเศษในบรรยากาศสวนสวยลอยฟ้า

สำหรับแขกที่หลงรักเสน่ห์ของมาสคอตแสนน่ารักน้องมาลัยและน้องวนา ตัวแทนแห่งการต้อนรับและภูติจิ๋วจากสวนสวรรค์ สามารถเลือกซื้อของที่ระลึกสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าใส่แล็ปท็อป ขวดน้ำ แก้วน้ำ และสินค้าลวดลายเอกลักษณ์ของ โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี เพื่อเก็บความทรงจำที่ดีจากการได้มาเยือน สนใจสำรองห้องพักและห้องจัดเลี้ยงที่ 02 481 5888 หรือ ผ่านทางเว็บไซต์ www.grandecentrepointlumphini.com


"Wellfinity" กิจกรรมสร้างสมดุลสุขภาพกายใจแบบองค์รวม

“Wellfinity: Thriving Day” กิจกรรมสร้างสมดุลสุขภาพกายใจแบบองค์รวมในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ

Alternative Textaccount_circle
"Wellfinity" กิจกรรมสร้างสมดุลสุขภาพกายใจแบบองค์รวม
"Wellfinity" กิจกรรมสร้างสมดุลสุขภาพกายใจแบบองค์รวม

“Wellfinity: Thriving Day” กิจกรรมเพื่อยกระดับประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่ไม่เหมือนใคร ให้คนยุคใหม่ได้มีสุขภาพดีในระยะยาว ด้วยแนวทางการเพิ่มความแข็งแรงเชิงรุก พร้อมการแก้ปัญหาด้านสุขภาพแบบองค์รวม โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ดร. โทมัส ราว (Thomas Rau) ผู้บุกเบิกด้าน Swiss Biological Medicine ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จาก BioMed Center Sonnenberg ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้นำศาสตร์ Swiss Biological Medicine หรือ “การแพทย์เพื่อแก้ไขต้นตอของปัญหาเฉพาะบุคคล” มาสู่ออกแบบบริการอันเป็นเอกลักษณ์และหลากหลายที่ AMSEL Biohealth Center โดยเริ่มต้นด้วย EP แรกการปรับความสมดุลของร่างกายและจิตใจ ไปจนถึง EP ต่อไปในอนาคต กับกิจกรรมที่จะเจาะลึกในหัวข้อการดูแลสุขภาพด้านต่างๆ อาทิ พลังแห่งการล้างพิษ และ “Living Table — อาหารคือยา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมิติที่ทั้งกว้างและลึก

สำหรับกิจกรรม “Wellfinity: Thriving Day EP 1” ที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยผู้เข้าร่วมได้ทำความรู้จักกับ Swiss Biological Medicine อย่างครอบคลุม ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ของ AMSEL Biohealth Center และต่างได้รับแรงบันดาลใจในการจัดลำดับความสำคัญของความเป็นดีอยู่ดีของตัวเอง โดยกิจกรรมการดูแลสุขภาพหนึ่งวันประกอบด้วย การวิเคราะห์เลือดขั้นสูง พร้อมรับคำปรึกษาจากผู้ชำนาญการ ซึ่งเป็นการปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพและความไม่สมดุลที่ซ่อนอยู่ของแต่ละคน

นวัตกรรมบำบัดอันหลากหลาย: ผลการตรวจวิเคราะห์และการวินิจฉัยได้ถูกสร้างเป็นแผนการบำบัดรักษาที่ปรับให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล ด้วยบริการอันเป็นเอกลักษณ์และหลากหลายของ AMSEL Biohealth Center อาทิเช่น Oxygen Bath (การแช่อ่างออกซิเจน) ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียดผ่านการแช่ในน้ำที่อุดมด้วยออกซิเจน Balance & Body Therapy (การบำบัดร่างกายเพื่อสร้างความสมดุล) ช่วยจัดการความเจ็บปวดทางร่างกาย ด้วยเทคนิคที่เชื่อมโยงร่างกายและอารมณ์ Colon Hydrotherapy (การสวนล้างลำไส้ใหญ่) การล้างพิษและปรับสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ Electro Lymphatic Therapy (การบำบัดด้วยไฟฟ้ากระตุ้นระบบน้ำเหลือง) และ Neural Therapy (การบำบัดด้วยระบบประสาท) แนวทางการแพทย์แบบ Swiss Biological Medicine สำหรับการจัดการความเจ็บปวด การรีเซ็ตระบบประสาทอัตโนมัติ และการเร่งกระบวนการฟื้นฟูผ่านการกระตุ้นบริเวณที่มีปัญหาโดยตรง รวมถึง Sound Healing แบบกลุ่ม ประสบการณ์ฟื้นฟูจิตวิญญาณอันแตกต่าง

ทั้งยังอิ่มอร่อยกับอาหารสุขภาพจาก Living Table อาหารออร์แกนิกและอาหารฟื้นฟูร่างกายที่หลากหลาย รวมถึงการปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อเก็บคุณค่าของสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ดีอยู่ทั้งทางกายและใจจากแนวคิด อาหารคือยา

รวมถึงฝึกด้วยโยคะและการฝึกหายใจเพื่อสติและการบูรณาการ ในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากความเข้าใจของผู้คนส่วนใหญ่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อปลอบประโลมระบบประสาทและปัดเป่าความเครียด ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีพลัง ปิดท้ายด้วยการฝึกโยคะนินทราเพื่อการผ่อนคลาย 

AMSEL Biohealth Center ศูนย์สุขภาพแบบองค์รวมแห่งใหม่ในไทย ที่นำเสนอการดูแลสุขภาพด้วย Swiss Biological Medicine ครอบคลุมทุกมิติของสุขภาพที่ดี ทั้งทางร่างกาย (360 องศา) จิตใจ (360 องศา) และจิตวิญญาณ (360 องศา)


 

เปล่งประกายเหนือกาลเวลา! สำรวจ 5 นาฬิกาอัญมณีสุดโดดเด่น ในงาน “Watches and Wonders 2025”

Alternative Textaccount_circle

กลับมาเจออีกครั้งสำหรับงานแสดงนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก “Watches and Wonders 2025” ณ เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยปีนี้มีถึง 60 แบรนด์ชั้นนำที่มาร่วมนำเสนอเรือนเวลาอันทรงคุณค่า ซึ่งนอกจากนวัตกรรมที่ชวนให้เราตื่นตาแล้ว ความหรูหราที่สะท้อนผ่านการออกแบบก็น่าจับตามองไม่แพ้กัน สังเกตได้จากหลายแบรนด์ดังที่นำอัญมณีน้ำงามมาประดับไว้บนเรือนเวลา ปีนี้มีแบรนด์ไหนโดดเด่นบ้าง แพรวพาชมไปพร้อมกัน

เริ่มด้วย Tressage Watch จาก Cartier ที่นำดีไซน์จิเวลรี่สุดไอคอนิกประจำแบรนด์ มาตีความใหม่เป็นเรือนเวลา 4 แบบ ตั้งแต่ทองคำเหลือง จนถึงเรือนเวลาทองคำที่ประดับเพชร 570 เม็ด พร้อมแซฟไฟร์ 330 เม็ด

ถัดมาSerpenti Aeterna จาก BVLGARI เรือนเวลาด้วยแรงบันดาลใจจากงูในตำนาน สะดุดตาด้วยการฝังเพชรทรงกลมรีเลียนท์คัทแบบพาเว่ทั้งเรือน ต่อมา L’HEURE DU DIAMANT MOONPHASE จาก Chopard แม้มาในดีไซน์เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความหรูหราจากเพชรรอบหน้าปัด น้ำหนักรวม 7.7 กะรัต

Lady Arpels Pont des Amoureux จาก Van Cleef & Arpels เรือนเวลาที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักที่นัดพบกันบนสะพานในปารีส โดยคอลเล็คชั่นนี้เพิ่มความพิเศษด้วยสายนาฬิกาประดับอัญมณี และสุดท้าย J12 BLEU TOURBILLON DIAMOND CALIBER 5 จาก @chanel ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เลือกใช้สีน้ำเงินเข้มผิวด้านมานำเสนอบนเรือนเวลา ทั้งยังมีเพชรเม็ดเดี่ยวใจกลางกลไกทูร์บิญงที่หมุนตามจังหวะของวินาทีอีกด้วย ซึ่งในโลกมีเพียง 55 เรือน

สัมผัสการตกแต่งบ้านสไตล์เดนิช ‘The Art of Living Danishly’ จาก BoConcept Thailand

account_circle

หากพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของแต่งบ้าน ที่เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง คงนึกถึง “BoConcept Thailand” เป็นชื่อแรก เพราะเฟอร์นิเจอร์พรีเมียม สัญชาติเดนมาร์กนี้ ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพ ดีไซน์ และคุณค่าของงานคราฟต์ ล่าสุด 31 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา Index Living Mall ได้ฉลองครบรอบ 10 ปีให้ BoConeept พร้อมเปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ สาขาทองหล่อ เป็นที่เรียบร้อย โดยสาขานี้ยังใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

อีกทั้งยังเป็นหนึ่งก้าวสำคัญสำหรับ BoConcept นั่นคือการแต่งตัง ARTISTIC DIRECTOR ระดับโลกคนใหม่ที่ได้ Helena Christensen มาผลักดันให้แบรนด์ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยนิยามที่สะท้อนเอกลักษณ์การใช้ชีวิตระดับไร้กาลเวลา พร้อมส่งมอบคุณภาพและความประณีตบนมาตรฐานที่ดีที่สุดด้วยแรงบันดาลใจ “The Art of Living Danishly”

โดยงานเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์ สาขาทองหล่อ มี แบงค์ – ปรีดากร เมธเกรียงชัย, ตาม จำนงอาษา และโดนัท – พิชญา ส่งสกุลชัย มาร่วมถ่ายทอดสไตล์การแต่งบ้านในแบบของตัวเอง

3 Styles with “The Art of Living Danishy”

แบงค์ – ปรีดากร เมธเกรียงชัย (Co-Founder of RAMS)

“ผมให้ความสำคัญกับเฟอร์นิเจอร์ทั้งรูปลักษณ์และการใช้งาน ซึ่ง BoConcept ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีมาก 2 ชิ้นโปรดของผมคือ Imola Chair กับ Santiago Round Table เพราะทั้งคู่มีคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นต่างกัน แต่กลับเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

“Imola Chair ไม่ใช่เก้าอี้ธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของดีไซน์ที่บอกเล่าแนวคิดผ่านเส้นสายที่โค้งมน เฉียบคม ผมประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น จนต้องซื้อมาไว้ที่บ้าน ทุกครั้งที่เอนตัวลงนั่ง มันให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลายเหมือนถูกโอบ ขณะที่ Santiago Round Table แม้ดูเรียบง่าย แต่สำหรับผม มันคือจุดศูนย์กลางของทุกกิจกรรมในบ้าน ทั้งมื้ออาหารกับครอบครัว หรือรวมกลุ่มกับเพื่อนสนิท ดีไซน์ที่เรียบแต่นิ่ง เท่ ผสานกับฟังก์ชันการขยายพื้นที่ที่ยืดหยุ่น ทำให้ใช้งานได้หลากหลายและเข้ากับทุกโอกาส

“เฟอร์นิเจอร์สองชิ้นนี้จึงไม่ใช่แค่ของตกแต่งบ้าน แต่สามารถสะท้อนตัวตนของผมอย่างชัดเจน ดีไซน์ที่อบอุ่น มีมิติ และฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้จริง นี่แหละคือสไตล์ที่ผมชอบ”

ตาม จำนงอาษา

            “ผมชอบงานออกแบบของ BoConcept ที่ความเรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และให้ความรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ใช้ เช่น Salamanca Sofa โซฟาสีขาวดีไซน์โมดูลาร์ที่สามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับทุกมุมในบ้าน ตัวเบาะโฟมขนาดใหญ่พิเศษก็นุ่มสบายมาก แถมเบาะพิงหลังก็ยืดหยุ่น ขยับจัดวางได้ตามใจ เหมาะสำหรับการพักผ่อนได้ทั้งวันเลยครับ อีกทั้งดีไซน์ยังมีกลิ่นอายโบฮีเมียนในยุค 1970 เพิ่มบรรยากาศอบอุ่นให้ห้องนั่งเล่นดูมีเสน่ห์มากขึ้น ที่สำคัญ BoConcept ยังให้เราได้เลือกดีไซน์เองได้ทั้งวัสดุทั้งผ้าและหนังที่มีมากกว่าร้อยแบบ ตอบโจทย์คนที่ชอบความแตกต่าง”

โดนัท – พิชญา ส่งสกุลชัย (Founder of AIMER)

“เราเป็นผู้หญิง จึงชอบมองหาเฟอร์นิเจอร์ที่มินิมอล น่ารัก และถ้าเป็นสินค้าลิมิเต็ด อิดิชันก็ยิ่งอยากได้ เพราะไม่เหมือนใคร อย่าง Sweet Art ก็เป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่นที่ผู้หญิงหลายคนชอบ ด้วยดีไซน์แบบเดนมาร์กที่มีความอบอุ่นสไตล์ hygge ผสมกับรายละเอียดน่ารักๆ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากขนมเค้ก และเซรามิกรูปทรงโค้งมนทุกชิ้นก็ดูนุ่มนวล และช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้บ้านดูอบอุ่นขึ้น เป็นคอลเล็คชั่นที่ BoConcept ถ่ายทอดออกมาได้ตรงใจโดนัทมากค่ะ”

สำหรับใครที่อยากสัมผัสการตกแต่งบ้านสไตล์เดนิช “The Art of Living Danishly” เหมือนเซเลบริตี้ทั้งสามคน สามารถเยี่ยมชมแฟล็กชิปต์สโตร์ BoConcept ได้ทั้ง 3 สาขา ไม่ว่าจะเป็น ทองหล่อ, สยามพารากอน และภูเก็ต

ที่สำคัญยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสาขาใหม่ (ทองหล่อ) ให้ทุกคนได้รับส่วนลด 5% เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2568


รวมลิสต์กันแดดปกป้องผิวและผมจาก รังสียูวี ..ที่ซัมเมอร์นี้ต้องมีติดเป๋า!

รวมลิสต์กันแดดปกป้องผิวและผมจาก รังสียูวี ..ที่ซัมเมอร์นี้ต้องมีติดเป๋า!

Alternative Textaccount_circle
รวมลิสต์กันแดดปกป้องผิวและผมจาก รังสียูวี ..ที่ซัมเมอร์นี้ต้องมีติดเป๋า!
รวมลิสต์กันแดดปกป้องผิวและผมจาก รังสียูวี ..ที่ซัมเมอร์นี้ต้องมีติดเป๋า!

#PraewSurvey #ItemsOfTheWeek ท่ามกลางอุณหภูมิหน้าร้อนในไทยที่ระอุมากขึ้นทุกปีนั้น ไม่ได้มีแค่ความร้อน แต่ยังมาพร้อมกับรังสียูวีที่วัดค่าได้สูง แสงอาทิตย์ก็แผดเผาจนเกือบจะทำให้ผิวไหม้ในเวลาไม่กี่นาที และแม้จะอยู่ในที่ร่ม หรือในอาคาร แต่ภัยจากรังสียูวีก็สามารถลอดเข้ามาทำร้ายผิวได้เช่นกันทั้งจากการทะลุผ่านกระจก หรือสะท้อนกับพื้น เช่นนี้แล้วก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงยูวีไปได้ ทั้งนี้เพราะในรังสียูวี ประกอบไปด้วย UVA ที่จะก่อให้เกิด ผิวแพ้ง่าย ไวต่อแดด (Allergy) ริ้วรอย และจุดด่างดำ (Aging) ขณะที่ UVB ก็จะทำให้เกิดผิวแสบ แดง และไหม้ (Burn) และถ้าสะสมไปนานๆ ก็อาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง ยูวีในแสงแดดจึงเป็นภัยร้ายที่เราควรระวังและป้องกัน “Praew Survey” เลยอาสาพาทุกผิวเข้าสู่เขตปลอดภัยจากรังสียูวีกับเหล่ากันแดดที่พัฒนาสูตรใหม่มาเสิร์ฟในปีนี้ เริ่มกันที่กันแดดตัวดังอย่าง LA ROCHE-POSAY ปกป้องผิวแบบจัดเต็มมีให้เลือกลองหลายสูตรหลากเนื้อผลิตภัณฑ์ ฟากไฮแบรนด์ AUGUSTINUS BADER และ DIOR ก็โซจึ้ง เติมความชุ่มชื้นให้ผิว แล้วยังเป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB แถมงัดความปังขับให้ผิวสวยโกลว์อีกแหน่ะ ส่วนฟากแบรนด์แมสอย่าง BIORE และ CERAVE ก็ฮ็อตและคุณสมบัติปกป้องผิวไม่แพ้เพื่อนๆ ในกลุ่มเลย และนอกจากไอเท็มปกป้องผิวแล้วสิ่งที่คนมักมองข้ามคือเส้นผมก็ถูกแสงแดดทำร้ายได้เช่นกัน BALMAIN HAIR เลยขอเสนอตัวมาช่วยปกป้อง บำรุง และปรับสภาพเส้นผมที่โดนทำร้ายจากแสงแดด ทะเลหรือคลอรีน…แต่ละไอเท็มเริ่ดกันขนาดนี้ ทำเอาเลือกไม่ถูกเลย ก็จัดมาลองอย่างละหนึ่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยสิคะ

AUGUSTINUS BADER The Sunscreen SPF50
ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVBพร้อมกระตุ้นฟื้นฟูเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ป้องกันสัญญาณแห่งวัย รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด ด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มละมุน ซึมซาบเร็ว และอัดแน่นไปด้วย TFC8® ที่เป็นเอกสิทธิของแบรนด์ ทั้งยังเป็นคลีนบิวตี้ ปราศจากนํ้าหอม และไม่อุดตันรูขุมขน

DIOR Prestige Le Protecteur UV Jeunesse et Lumière SPF 50+ PA++++
ครีมกันแดดเนื้อโกลว์เพื่อผิวเปล่งประกายมีชีวิตชีวา ผสานสารสกัดจากกุหลาบ Rose de Granville ที่มีคุณสมบัติทนต่อแสง ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย และบำรุงผิวในตัว รวมถึงยังช่วยคงความชุ่มชื้นของผิวได้นานขึ้น

LA ROCHE-POSAY Anthelios Uvmune 400
กันแดดของสายกิจกรรม มีให้เลือกทั้งเนื้อฟลูอิด, เจล, ครีม ส่วนผสม Mexoryl 400 เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ที่ปกป้องผิวจาก Ultra-Long UVA ซึ่ง UVA มีความยาวคลื่นถึง 380-400 นาโนเมตร ตัวการผิวหมองคล้ำ ซึ่งเทคโนโลยี Netlockช่วยล็อกเนื้อผลิตภัณฑ์กับผิว เคลือบชั้นฟิล์มปกป้องผิว ช่วยกันน้ำ เหงื่อ และทราย แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล ไม่มีส่วนผสมสารเคมีทำร้ายปะการัง

BIORE UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
กันแดดเนื้อเอสเซ้นท์บางเบาสูตร Micro Defense นวัตกรรมขั้นสุดจากญี่ปุ่น อนุภาคเล็กปกปิดแดดมิดชิด ช่วยกันน้ำ กันเหงื่อ สามารถทาทับเมคอัพได้ และผ่านการทดสอบการระคายเคืองผิว และไม่ก่อให้เกิดสิว

CERAVE Facial Moisturizing Lotion SPF50
โลชั่นเติมความชุ่มชื้นที่มี SPFช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB มีกรดไฮยาลูโรนิกที่ให้ความชุ่มชื้น และไนอาซินาไมด์ ปลอบประโลมผิว พร้อมด้วยเทคโนโลยี MVE Delivery กักเก็บความชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน ปราศจากน้ำหอม เนื้อแน่นแต่ซึมง่าย แถมไม่เหนียวเหนอะหนะ

BALMAIN HAIRSun Protection Spray
สเปรย์ปกป้องเส้นผมจากแสงแดด ป้องกันรังสี UVA และ UVB พร้อมบำรุงและปรับสภาพเส้นผมที่โดนทำร้ายจากแสงแดด ทะเลหรือคลอรีน ทั้งป้องกันสีผมซีดจาง เพื่อผมนุ่มสลวยเงางามและเปล่งประกายดุจต้องแสงแดดอยู่เสมอ สามารถฉีดซ้ำไม่ว่าจะหลังการว่ายน้ำ หรือหลังจากโดนแดดเป็นเวลานาน ช้อปฯ ออนไลน์ที่ (https://www.kingpower.com/th), หรือ (https://www.firster.com)


สุนัขกู้ภัย

ทำความรู้จักฮีโร่สี่ขา สุนัขกู้ภัย ในภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว

Alternative Textaccount_circle
สุนัขกู้ภัย
สุนัขกู้ภัย

ท่ามกลางความโศกเศร้าและซากปรักหักพังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ยังมีเหล่าฮีโร่สี่ขาที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้ประสบภัย พวกเขาคือ สุนัขกู้ภัย โดยสุนัขเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งหมดมีความสามารถในการดมกลิ่นหาร่องรอยของผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังได้อย่างแม่นยำ ด้วยประสาทสัมผัสที่ชั้นทำให้สามารถแยกแยะกลิ่นของมนุษย์จากกลิ่นอื่นๆ ได้อย่างน่าทึ่ง

สำหรับการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวสุนัขกู้ภัยได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ความอดทน และความจงรักภักดี พวกเขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากและอันตราย พวกเขาคือความหวังของผู้ประสบภัยที่รอคอยความช่วยเหลือ

ทำความรู้จักฮีโร่สี่ขา สุนัขกู้ภัย ในภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว

เอกชน : K9 USAR Thailand

ซาฮาร่า สุนัขสายพันธุ์โกลเด้นรีทริฟเวอร์ เพศเมีย ได้รับการฝึกมาตรฐาน ตามหลักสูตรของ IRO (International Rescue Dog Organisation) หรือ องค์การสุนัขกู้ภัยโลก เคยเข้าร่วมการกู้ภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกี

สุนัขกู้ภัย

สีนวล สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

นารี สุนัขสายพันธุ์เบลเยี่ยม มาลินอยส์

แซนดี้ สุนัขสายพันธุ์เบลเยี่ยม มาลินอยส์

เบอร์นี่

ซาฟารี สุนัขสายพันธุ์โกลเด้นรีทริฟเวอร์ อายุ 5 ปี

ลิลลี่ สุนัขสายพันธุ์โกลเด้นรีทริฟเวอร์ เพศเมีย ได้รับการฝึกมาตรฐาน ตามหลักสูตรของ IRO (International Rescue Dog Organisation) หรือ องค์การสุนัขกู้ภัยโลก อดีติลลี่สุนัขบ้านแต่หลังจากปี 2021 K9 USAR Thailand ได้รับเลี้ยงน้องและกลายเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นของทีม

ซิมบ้า สุนัขสายพันธุ์โกลเด้นรีทริฟเวอร์

ผักเคล สุนัขสายพันธุ์เบลเยี่ยมมาลินอยส์

เอกชน : United SAR K9

แอ๊บบี้ สุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด เพศเมีย สีดำ วัย 5 ปี สอบผ่าน RH2-T B (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับสูงสุด)

อู่หลง  สุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด เพศผู้ สีดำ วัย 5 ปี สอบผ่าน RN-T B (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับสูงสุด เฉพาะส่วนค้นหา)

โออาน่า สุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด เพศเมีย สีเทา วัย 2 ปีครึ่ง สอบผ่าน RH2-T A (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับกลาง)

สมหญิง สุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดผสมเบลเยียมมาลินัวส์ เพศเมีย วัย 5 ปีสอบผ่าน RH2-T A (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับกลาง)

 ร็อคกี้ สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ เพศผู้ สีเหลือง วัย 4 ปี สอบผ่าน RH1-T V (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับต้น)

สมชาย สุนัขพันธุ์เบลเยียมมาลินัวส์ เพศผู้ วัย 4 ปี สอบผ่าน RN-T V (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับต้น เฉพาะส่วนค้นหา)

ฟอร์เต้ สุนัขพันธุ์บีเกิ้ล เพศผู้ วัย 2 ปี สอบผ่าน RN-T V (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับต้น เฉพาะส่วนค้นหา) สุนัขที่ Standby เป็นกำลังเสริม 4 ทีม

เคนาย สุนัขพันธุ์อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย เพศผู้ สีขาวแต้มน้ำตาล วัย 9 ปีสอบผ่าน RN-T B (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับสูงสุด เฉพาะส่วนค้นหา)

โอฮานะ สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ เพศเมีย สีดำ วัย 4 ปี สอบผ่าน RN-T B (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับสูงสุด เฉพาะส่วนค้นหา)

โอเลี้ยง สุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด เพศผู้ สีดำ-น้ำตาล วัย 6 ปี สอบผ่าน RH1-T V (สุนัขค้นหาและกู้ภัย ประเภทค้นหาในซากตึกถล่ม ระดับต้น)

เอกชน : Thai Volunteer SAR Dog (ไทยอาสาสมัครสุนัขกู้ภัย)

บ๊อบ สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ ผ่านการทดสอบระดับสากล การค้นหาในพื้นที่ระดับต้น การค้นหาในซากปรักหักพังระดับต้น

บ๊อบ และ จันทร์หอม

บลู สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์คอลลี่ ผ่านการทดสอบระดับสากลในพื้นที่ระดับหกลาง การค้นหาในซากปรักหักพังสูงสุด

จันทร์หอม สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ด ผ่านการทดสอบระดับสากล การค้นหาในพื้นที่ระดับสูงสุด การค้นหาในซากปรักหักพังสูงสุด และผ่านการทดสอบการค้นหาเจาะจงบุคคล

สายฟ้า สุนัขสายพันธุ์ไทยหลังอาน ผ่านการทดสอบระดับสากลการค้นหาในพื้นที่ระดับต้น การค้นหาในซากปรักหักพังระดับต้น

รัฐบาล : สุนัขตำรวจ K9

สุนัขตำรวจตรี การ์มิน สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

 สุนัขตำรวจตรี โคล่า สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

 สุนัขตำรวจตรี คริสติน่า สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

สุนัขตำรวจตรี ไบเลย์ สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

รัฐบาล : ศูนย์การสุนัข กรมการสัตว์ทหารบก

ลอมเมล สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟ วัย 2 ปี เพศผู้

เนล  สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟ วัย 2 ปี เพศเมีย

น้องจิ๋ว สุนัขพันธุ์ผสมระหว่างเบลเยี่ยมเชพเพิร์ดมาลีนอยส์และเยอรมันเชพเพิร์ด วัย 1 ปี 3 เดือน เพศผู้

อาดิดาส กอล์ฟ

อาดิดาส กอล์ฟ เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ “แพนเค้ก-เข้ม” กับคอลเล็คชั่น Originals Golf

account_circle
อาดิดาส กอล์ฟ
อาดิดาส กอล์ฟ

อาดิดาส กอล์ฟ เปิดตัวแบรนด์แอมฯ “Originals Golf” แพนเค้ก-เข้ม กับคอลเล็คชั่นล่าสุดของแบรนด์ ยกระดับเอกสิทธิ์แห่งสไตล์ด้วยโลโก้ adidas Trefoil
อาดิดาส กอล์ฟ ประเทศไทย เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คู่ “แพนเค้ก” ดร.เขมนิจ จามิกรณ์ เปรมานนท์ และ “เข้ม” หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ชูคอลเล็คชั่น “Originals Golf” เซ็ทล่าสุดของอาดิดาส

อาดิดาส กอล์ฟ เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ “แพนเค้ก-เข้ม” กับคอลเล็คชั่น Originals Golf

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายใน Originals Golf โดดเด่นด้วยชิ้นงานที่ออกแบบมาอย่างประณีต โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบที่โดดเด่น ในช่วงยุค 70-80 ด้วยคอนเซปท์ที่ต้องการเคารพประวัติศาสตร์ของอาดิดาสผ่านความทันสมัย ตอกย้ำให้เห็นว่าอาดิดาสเป็นผู้นําการขับเคลื่อนวงการ “กีฬาและแฟชั่น” มายาวนานหลายทศวรรษ ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อมาจนถึงปัจจุบัน อาดิดาสจึงหยิบเอามรดกและเอกสิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง adidas Originals Trefoil กลับสู่สนามกอล์ฟอีกครั้งในคอลเล็คชั่นที่มีชื่อว่า “Originals Golf”


คุณนิศารัตน์ ฉายมงคลชัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจ อาดิดาส กอล์ฟ บริษัท อาดิดาส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า Originals Golf นับเป็นคอลเล็คชั่นที่เราภูมิใจนำเสนอและมีความพิเศษเป็นอย่างมาก ไม่บ่อยนักที่อาดิดาสจะใช้โลโก้ Trefoil ในกีฬาชนิดอื่นๆ ซึ่งกอล์ฟก็ถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่อาดิดาสให้

ความสำคัญจนกำเนิดเป็นคอลเล็คชั่นนี้ขึ้นมา, และเพื่อให้เข้าถึงคอนเซปท์ของคอลเล็คชั่นนี้เราจึงมองหาผู้ที่สื่อสารได้ทั้งความรักในแบรนด์และรักในกอล์ฟ เล่นในแบบฉบับที่เป็นตัวเอง และสนุกไปกับการแต่งกาย ทั้งยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจต่อไปให้กับกลุ่มแฟนอาดิดาสหรือยังไม่เป็นแฟนอาดิดาส ให้หันมาสนใจเข้าร่วมสู่วัฒนธรรมของเรา

“คุณเข้มและคุณแพนเค้กไม่เพียงเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการแสดงเท่านั้น แต่ในบทบาทของการเป็นนักกอล์ฟทั้งสองคนมีความเป็นตัวของตัวเอง จริงจังกับเกมส์กอล์ฟแต่ก็ไม่ทิ้งความสนุกสนาน และให้ความสำคัญกับการเลือกเสื้อผ้าทั้งในเกมส์และหลังเกมส์ โดยจะเห็นได้จากชุดที่ทั้งสองท่านสวมใส่ในวันนี้ดูแล้วลงตัวมาก สามารถสวมใส่ได้ทั้งในชีวิตประจำวันหรือออกรอบก็แฟชั่นสุดๆ ทำให้รู้สึกว่า “ในสนามกอล์ฟ ทุกคนคือออริจินัล” ได้อย่างชัดเจน” คุณนิศารัตน์ กล่าว


 

ยลความงามผ้าไหมผ่านแคมเปญ KEEP IT GUCCI: THE ART OF SILK

Alternative Textaccount_circle

คิดเหมือนกันไหมคะว่า “ผ้าพันคอ” ควรเป็นไอเท็มที่ต้องมีติดตู้เสื้อผ้า เพราะผ้าผืนเล็กๆ ที่ว่านี้ ฟังก์ชั่นครบครันเกินคุ้ม นอกจากคล้องคอได้แล้ว ยังสามารถแปลงร่างเป็นผ้าคลุมศีรษะ ผ้าคลุมไหล่ เข็มขัด และใช้พันหูกระเป๋าได้อีกด้วย แต่จะหาผ้าพันคอที่มีทั้งคุณภาพและความสวยงามนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แพรวจึงอยากชวนมาทำความรู้จักผ้าพันคอของ GUCCI ผ่านแคมเปญใหม่ KEEP IT GUCCI: THE ART OF SILK

Julia Garner & Steven Meisel

KEEP IT GUCCI: THE ART OF SILK ถ่ายทอดผ่านมุมมองจากช่างภาพชื่อดังอย่าง Steven Meisel ที่ได้นักแสดงหญิชาวอเมริกัน Julia Garner มานำแสดง โดยร้อยเรียงเรื่องราวผ่านภาพถ่ายที่สื่อถึงความลึกลับ การเคลื่อนไหว และเสน่ห์ที่เย้ายวน โดยมีเมืองในยามค่ำคืนเป็นฉากหลัง ทำให้ผ้าไหมเป็นได้มากกว่าผืนผ้า แต่ยังเป็นสื่อในการเปิดเผยความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ความพริ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติที่เต็มไปด้วยจังหวะเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่

The Iconic from 1966

สำหรับลวดลาย Floral ได้รับการเปิดตัวตั้งแต่ปี 1966 โดยฝีมือของนักวาดภาพชาวอิตาลี Vittorio Accornero de Testa ซึ่งได้นำมาพิมพ์ลงบนผ้าพันคอผ้าไหมของ Gucci ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์และจิตวิญญาณอันมั่นคงของแบรนด์

แคมเปญนี้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ The Art of Silk ซึ่งรวบรวมแนวคิดในหลากหลายแง่มุมเพื่อร่วมฉลองให้กับ                  ความเป็นมาอันยาวนานของ Gucci และงานช่างฝีมือด้านผ้าไหม รวมถึงมุมมองอันทันสมัยในเชิงศิลป์ ซึ่งแนวคิดสร้างสรรค์ยังรวมไปถึง 90 x 90 project ซึ่งได้ศิลปินจากหลากหลายประเทศจำนวน 9 คน มาร่วมออกแบบและตีความใหม่ให้กับสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ โดยแบ่งออกเป็น 5 ธีมอันได้แก่ ลวดลาย Flora, ลวดลาย Fauna ซึ่งก็คือเหล่าสัตว์ต่างๆ, สัญลักษณ์ของการเดินเรือ, สัญลักษณ์จากการขี่ม้า และสุดท้ายในลวดลาย GG Monogram


ข้อมูลและภาพ: Gucci

ทำความรู้จัก ‘เอ็นโซ่ สุภาวีระ ธารวณิชกุล’ คลื่นลูกใหม่แห่งมอเตอร์สปอร์ตโลก

account_circle

แฟนกีฬาความเร็วต้องรู้จัก ‘เอ็นโซ่ สุภาวีระ ธารวณิชกุล’ นักแข่งรถสัญชาติไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เยาวชนโลกของการแข่งขันโกคาร์ต 2022 ในวัย 13 ปี และเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอ็นโซ่เข้าสู่สนาม ‘ยูโรเปี้ยนฟอร์มูล่าทรี’ (European Formula 3) ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น เรียกว่าเส้นทางสู่การเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน คนที่ 3 ของไทย…น่าจะอยู่ไม่ไกล

 หลง (รัก) ความเร็ว

“ผมสนใจรถโกคาร์ตมากๆ มาตั้งแต่เด็ก ตอนวันเกิด3 ขวบได้รับรถโกคาร์ตเป็นของขวัญวันเกิด ครั้งแรกที่ได้ขับก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที คุณพ่อคุณแม่คอยซัพพอร์ตตลอด ทั้งจ้างโค้ชมาสอน ซึ่งช่วยพัฒนาฝีมือผมให้ดีขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งตัดสินใจลงแข่งระดับเยาวชนครั้งแรกตอน 6 ขวบ ในรายการ Toyota Junior Go-Kart 2016 ที่เมืองไทย ถือเป็นผู้แข่งขันที่อายุน้อยสุดและปีถัดไปผมก็คว้าแชมป์ประจำปีในรายการ Superkart Thailand 2017 รุ่น Super BNB และรองแชมป์ประจำปี รุ่น Cadet A

“จากนั้นผมเริ่มลงแข่งในสนามต่างประเทศ เริ่มจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และมาเก๊า ก่อนจะตัดสินใจลงแข่งที่ยุโรปแบบเต็มฤดูกาล โดยคว้าแชมป์โลกประจำฤดูกาล 2022 (FIA World Karting Championship) ในรุ่น OK JUNIOR (อายุ12-14 ปี) เอาชนะผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด109 คน จาก 40 ประเทศ” (ยิ้ม)

 สู่สนามฟอร์มูล่า

“ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ซึ่งผมภาคภูมิใจมาก เพราะกว่าจะมีวันนี้ ผมซ้อมวันละหลายชั่วโมง 300 วันต่อปี แต่แม้รางวัลนี้จะแสดงความเป็นที่ 1 ของโลก เราจะยึดติดกับความสำเร็จตลอดไปไม่ได้ ต้องมองไปข้างหน้า และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ผมจึงวางแผนลงแข่งรุ่นซีเนียร์ ปี 2023 ก่อนที่เรดบูลล์ เรซซิ่งจะติดต่อมาเพื่อเซ็นสัญญาให้เข้าร่วมโปรแกรมเรดบูลล์ จูเนียร์ เพื่อไปแข่งขันฟอร์มูล่า

“แม้วันนี้จะผ่านมากว่า 3 ปีแล้วผมยังจำความรู้สึกดีที่ได้เป็นตัวแทนชาวไทย และยังตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ฝึกซ้อมกับเรดบูลล์ ซึ่งช่วยพัฒนาผมในทุกๆ ด้าน อย่างรถโกคาร์ต ผมมีโอกาสขับและดูแลรถอย่างใกล้ชิด ส่วนการฝึกซ้อมในระดับฟอร์มูล่าโฟร์ (Formula 4) มีความแตกต่างในแง่ของสภาพรถยนต์ และการเตรียมความพร้อมลงแข่งขัน นอกจากต้องเพิ่มทักษะการฝึกขับผ่านเครื่อง Simulator อย่างสม่ำเสมอ ยังต้องให้ความสำคัญกับความแข็งแรงทางร่างกาย ด้วยการเข้ายิมเป็นประจำด้วย

“เพราะฉะนั้นเมื่อการแข่งขันโกคาร์ตรุ่นซีเนียร์ ในปี 2023 สิ้นสุดลง ผมเป็นคนเดียวในทีมที่คว้าแชมป์ยุโรปหรือยูโรซีรีส์ (Euro Series) จากรายการแชมเปี้ยนส์ออฟเดอะฟิวเจอร์ 2023 (Champions of the Future 2023) สนามที่ 4 ณ คาร์โตโดรโม เครโมนา เซอร์กิต เมืองเครโมนา แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลีได้ และได้รับโอกาสร่วมแข่งขันในระดับเนชั่นแนลแชมเปี้ยนชิป (National championships) ในรายการฟอร์มูล่าโฟร์ สแปนิช แชมเปี้ยนชิป 2024 (F4 Spanish Championship 2024) สังกัดทีมแคมโปส เรซซิ่ง (Campos Racing) ของสเปน

“สำหรับฤดูกาลหน้า ผมอยากคว้าอันดับหนึ่งทุกสนาม แม้จะมีการปรับเปลี่ยนตัวรถ และเครื่องยนต์ก็ตาม แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือสไตล์การขับรถของตัวเอง เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เป็นผมอย่างทุกวันนี้”

“ผมคิดว่าความสำเร็จไม่มีสูตรตายตัว การไปถึงเป้าหมายมีหลายวิธี อันดับแรกนอกจากต้องฝึกซ้อมให้มาก ยังต้องกระตือรือร้น พยายามรักษาวินัยที่จะทำ สุดท้ายต้องได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว เหมือนที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยซัพพอร์ตผมอย่างมาก”

ข่าวดีล่าสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยคือ เอ็นโซ่ขยับขึ้นไปสู่ยูโรเปี้ยนฟอร์มูล่าทรี (European Formula 3) ถือเป็นความหวังของแฟนๆ ที่จะได้เห็นนักขับไทยก้าวสู่ฟอร์มูล่าวัน (Formula 1) อีกคน ต่อจากพระองค์ชายพีระ- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช และอเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์

“การจะไปถึงฟอร์มูล่าวันถือเป็นเรื่องยาก และคงตอบยากว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไร ฉะนั้นผมต้องพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างนักแข่งที่เป็นไอดอลของผมคือ แม็กซ์ เวอร์สแทปเพน นักแข่งฟอร์มูล่าวันที่เก่งสุดในเวลานี้ ผมอยากเก่งให้ได้เท่าเขา หรือถ้าได้มากกว่าก็ถือว่าสุดยอด”

ROYAL IVY REGATTA x ENZO T.

“ปีนี้ผมมีโปรเจ็กต์พิเศษที่ได้คอลแล็บกับ Royal Ivy Regatta แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์อเมริกันเอลิแกนซ์ คอลเล็คชั่น ROYAL IVY REGATTA x ENZO T. ในคอนเซ็ปต์ Elegance in Motion โดยผมมีส่วนร่วมในการแชร์ไอเดียทุกขั้นตอน ผมจึงชอบทุกแบบในคอลเล็คชั่นนี้เลย ไม่ว่าจะเสื้อ กางเกง หรือเเจ็กเก็ต รวมไปถึงรองเท้า โดยผมนำเสนอความเป็นตัวเองในสไตล์ Smart Casual ที่ยังมีความเอลิแกนซ์และมีกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ต รวมถึงได้แรงบันดาลใจการแข่งรถ อย่างลายเส้นของชุดแข่งรถหรือลายธงตารางหมากรุกมาใช้ในการออกแบบ นอกจากนี้ยังมีหมายเลข 8 ที่ผมใช้ในการแข่งขัน รวมถึงมีลายเซ็นของผมอยู่ด้วย ส่วนโทนสีหลักของคอลเล็คชั่นนี้เน้นสีกรมท่า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Royal Ivy Regatta และสีขาว แดง ดำ ที่สะท้อนถึง ความเร็วและพลัง ทำให้ดีไซน์ทั้งเรียบหรู โดดเด่น และเต็มไปด้วยเอเนอร์จี้

“อีกหนึ่งไอเท็มที่ผมชอบมากคือรองเท้าสนีกเกอร์ที่ดูเรียบง่าย แต่มีความเป็นสปอร์ต เพิ่มลูกเล่นโดยใส่สายเซ็นของผมที่ใต้พื้นรองเท้า ทำให้คอลเล็คชั่นนี้ออกมาลงตัวมากๆ และมีหลายลุคที่สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้ในหลายโอกาส ไม่ว่าจะลุควันสบายๆ หรือแม้แต่วันที่ต้องการความเป็นทางการก็สามารถใส่ได้เช่นกัน

“ผมอยากฝากให้ติดตามผลงานในฐานะนักขับทาง IG: @enzo.tarnvanichkul และติดตามผลงานดีไซน์จากคอลเล็คชั่น ROYAL IVY REGATTA x ENZO T. ที่วางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ด้วยนะครับ หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ”


เช็คอาการและความต่างระหว่าง 'สมองเมาแผ่นดินไหว' และ 'สมองหลอนแผ่นดินไหว'

เช็คอาการและความต่างระหว่าง ‘สมองเมาแผ่นดินไหว’ และ ‘สมองหลอนแผ่นดินไหว’

Alternative Textaccount_circle
เช็คอาการและความต่างระหว่าง 'สมองเมาแผ่นดินไหว' และ 'สมองหลอนแผ่นดินไหว'
เช็คอาการและความต่างระหว่าง 'สมองเมาแผ่นดินไหว' และ 'สมองหลอนแผ่นดินไหว'

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุหลายคนหลงคิดว่าตัวเองหน้ามืด ตาลาย เวียนหัวเหมือนบ้านหมุน เพราะทำงานหนัก ไม่มีใครคิดว่าแผ่นดินไหวเลย นั่นเพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะประสบพบเจอแผ่นดินไหวในประเทศไทย ซึ่งหลังจากเหตุแผ่นดินไหวสงบ นอกจากความตื่นตระหนก และวิตกกังวลที่เกิดขึ้นกับคนทั่วไปแล้ว ข้าวของและสิ่งก่อสร้างบางที่ก็ได้รับความเสียหาย รวมถึงมีอาการตอบสนองต่อร่างกายยังไม่จบเป็นอาการต่อเนื่องด้วย ซึ่งกลุ่มอาการต่อไปนี้ที่ญี่ปุ่นอาจเป็นเรื่องปกติในการรับมือเพราะเกิดแผ่นดินไหวบ่อย แต่ในไทยที่เพิ่งเกิดเหตุแบบนี้ครั้งแรก ก็ต้องเตรียมการรับมือไว้ ในการสังเกตตัวเองว่าจะมีอาการอะไรบ้าง ที่อาจเกิดต่อร่างกาย จิตใจหลังแผ่นดินไหว

เช็คอาการและความต่างระหว่าง ‘สมองเมาแผ่นดินไหว’ และ ‘สมองหลอนแผ่นดินไหว’

คนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงมีอาการเวียนหัว โยกคลอน ใจสั่น ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว สาเหตุหลักมาจาก โรคสมองเมาแผ่นดินไหว (Earthquake Drunk) กลุ่มอาการวิงเวียนหลังแผ่นดินไหว หรือ Post-Earthquake Dizziness Syndrome หรือ PEDS) ที่จะรู้สึกเหมือนยังคงเคลื่อนไหวอยู่ คล้ายกับความโคลงเคลงที่รู้สึกหลังจากลงจากเรือ ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “อาการป่วยจากแผ่นดินไหว” หรือ “จิชิน-โยอิ” (แปลตรงตัวว่า “เมาแผ่นดินไหว” ในภาษาญี่ปุ่น) การศึกษาชี้ว่าอาการนี้อาจเกิดจากการรบกวนในระบบการทรงตัว (vestibular system) ซึ่งเป็นส่วนของหูชั้นในที่ควบคุมความสมดุล การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดจากแผ่นดินไหวสามารถทำให้ระบบนี้เสียสมดุล ส่งผลให้สมองพยายามปรับความรู้สึกให้กลับมาปกติอย่างยากลำบาก บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ หรือรู้สึกไม่สบายตัวร่วมด้วย และอาการนี้อาจรุนแรงขึ้นในคนที่ไวต่อการเมารถอยู่แล้ว หรือในคนที่อยู่ในอาคารสูงระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งการสั่นไหวจะรู้สึกชัดเจนกว่า

ระยะเวลาของอาการทางร่างกายเหล่านี้แตกต่างกันไป ในหลายคน อาการวิงเวียนจะค่อยๆ หายไปภายในไม่กี่นาทีหรือชั่วโมงเมื่อร่างกายปรับตัวได้ อย่างไรก็ตาม การวิจัยหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เช่น แผ่นดินไหวโทโฮกุในญี่ปุ่นปี 2011 (ขนาด 9.0) หรือแผ่นดินไหวคุมาโมโตะในปี 2016 พบว่าบางคนมีปัญหาการทรงตัวนานถึงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน การศึกษาหนึ่งพบว่า มากกว่า 42% ของผู้ที่ถูกสำรวจรายงานถึง “ความรู้สึกโคลงเคลงที่เหมือนภาพลวงตา” ในช่วงหลายสัปดาห์หลังแผ่นดินไหวคุมาโมโตะ

ส่วนอาการของ “โรคสมองหลอนแผ่นดินไหว“ หรือ “แผ่นดินไหวทิพย์” “Earthquake illusion” เป็นปรากฏการณ์ทางจิตใจที่รู้สึกเหมือนมีแรงสั่นสะเทือนทั้งที่มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง อาจเป็นเพราะความตื่นตัวที่สูงขึ้นหรือความทรงจำจากเหตุการณ์อาการทางจิตสั่นไหว แผ่นดินไหวสามารถกระตุ้นการตอบสนองต่อความเครียดเฉียบพลัน เช่น ความวิตกกังวล ความกลัว แพนิก บางคนนำไปสู่โรคเครียดหลังเหตุสะเทือนใจ (PTSD) ซึ่งมีอาการเช่น การย้อนนึกถึงเหตุการณ์ ความตื่นตัวเกินเหตุ หรือการนอนหลับยาก กลัวการอยู่ในตึก หรือการขึ้นรถไฟฟ้าไปเลย

สาเหตุของอาการเหล่านี้ซับซ้อน น่าจะเป็นเพราะสมองพยายามประมวลผลข้อมูลทางประสาทสัมผัสที่ขัดแย้งกัน เช่น ตาบอกว่าพื้นดินนิ่งแต่ระบบการทรงตัวบอกว่าเคลื่อนไหว จนเกิดการพุ่งขึ้นของคอร์ติซอล (ฮอร์โมนแห่งความเครียด) และอะดรีนาลีน (ฮอร์โมนแห่งความตื่ตตัว) ระหว่างและหลังเหตุการณ์สามารถเพิ่มความไวต่อความรู้สึกในร่างกาย ทำให้อาการวิงเวียนหรือคลื่นไส้รู้สึกหนักขึ้น

คนที่เป็นภาวะนี้มากได้แก่ คนมีโรควิตกกังวลหรือประวัติปวดไมเกรน ยังไม่มีวิธีรักษาเฉพาะสำหรับอาการหลังแผ่นดินไหว แต่สามารถใช้วิธีจากอาการเมารถและการจัดการความเครียดได้ การมองไปที่จุดไกลๆ (เช่น เส้นขอบฟ้า) การนอนลง หรือการจิบน้ำอาจช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนในระยะสั้นได้ สำหรับผลกระทบทางจิตใจ การพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์กับผู้อื่น จะช่วยระบายหรือหลีกเลี่ยงการดูสื่อเกี่ยวกับเหตุการณ์มากเกินไป รวมถึงอาจกินยาแก้เวียนได้ 2-3 วัน และถ้ามีอาการใจสั่นจิตตก ให้ลองทำสมาธิ ไม่เสพข่าวมาก หากมียาช่วยนอนหลับ สามารถกินได้ หลังจากนั้น หากยังคงแพนิคควรปรึกษาแพทย์

ภาพ: Pexels
ขอบคุณข้อมูล: ผศ. นพ.สุรัตน์ ตันประเวช หัวหน้าหน่วยประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (official)


 

PP Krit

ใจหล่น ซิงเกิลใหม่สุดเศร้าจาก PP Krit แทนความรู้สึกที่แตกสลาย

Alternative Textaccount_circle
PP Krit
PP Krit

PP Krit ปล่อยซิงเกิลใหม่สุดเศร้า “ใจหล่น (Ruined)” แทนความรู้สึกที่แตกสลายของคนที่ถูกทิ้งไว้ให้จมอยู่กับความเสียใจ พร้อมได้ “กระทิง ขุนณรงค์” มาถ่ายทอดความรู้สึกใน MV

“ใจหล่น (Ruined)” ซิงเกิลใหม่สุดเศร้าจาก “PP Krit” (พีพี – กฤษฏ์ อำนวยเดชกร) เป็นเพลงเศร้าที่บอกเล่าความรู้สึกที่แตกสลายของคนที่ถูกทิ้งไว้ให้จมอยู่กับความเสียใจ ซิงเกิลลำดับที่ 4 จากอัลบั้ม Billkin & PP-Krit OST THE RED ENVELOPE โดยเพลงนี้เป็นหนึ่งแทร็กที่อยู่ในซีนสำคัญของตัวละคร “ตี่ตี๋” รับบทโดย “พีพี กฤษฏ์” และ “ดิน” ซึ่งรับบทโดย “กระทิง – ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์”

โดยเพลงนี้ได้ไอเดียมาจากโปรดิวเซอร์มือทอง “โต้ง – บรรจง ปิสัญธนะกูล” ที่ได้อธิบายถึงความรู้สึกของตัวละครตี่ตี๋เมื่อต้องกลับไปเจอเรื่องที่ทำให้เสียใจจนหัวใจหล่นวูบ ซึ่งเพลงนี้ได้ “ธีร์” ศิลปินมากความสามารถ จากวง “Only Monday” และ “VibeUps Team” มาร่วมกันทำเพลงนี้

โดยในพาร์ทของมิวสิกวิดีโอนี้ได้ผู้กำกับฝีมือดี “จีน – ปราชญ์ โรจนสินวิไล” เลือกที่จะนำเสนอมิวสิกวิดีโอในมุมที่แตกต่างจากภาพยนตร์ โดยการพาทุกคนเข้าสู่โลกแห่งความทรงจำของตี่ตี๋ที่ถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยว และกำลังจะถูกดินเข้ามาเก็บเรื่องราวย้ายออกจากความทรงจำของตี่ตี๋ไป

สามารถฟังเพลง “ใจหล่น (Ruined)” จาก พี กฤษฏ์ ได้แล้วในอัลบั้ม Billkin & PP-Krit OST THE RED ENVELOPE ทาง Music Streaming และติดตามชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ได้แล้วทาง YouTube : Billkin & PP Krit Official

H&M x Magda Butrym คอลเล็คชั่นสุดโรแมนติกที่เฉลิมฉลองความเป็นผู้หญิง

account_circle

H&M ร่วมมือพิเศษกับ มักดา บูตรีม (Magda Butrym) ดีไซเนอร์ชาวโปแลนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้า Ready-to-wear สำหรับผู้หญิง โดยคอลเล็คชั่นนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ และจิลเวลรี่ ที่สะท้อนเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 20 ปีของ H&M ที่ได้ร่วมงานกับนักออกแบบชาวโปแลนด์ ซึ่งคอลเล็คชั่นนี้เน้นถ่ายทอดมรดกทางแฟชั่นและเอกลักษณ์ของ มักดา บูตรีม ที่โดดเด่นด้วยสไตล์อันโรแมนติกแบบ Slavic ที่เฉลิมฉลองความงดงามและความเป็นผู้หญิงในทุกมิติ

“ฉันมองว่าคอลเล็คชั่นนี้เป็นโอกาสให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสโลกของเรา เฉลิมฉลองความเป็นผู้หญิงและดอกไม้ ทุกชิ้นงานล้วนสื่อถึงความโรแมนติกในแบบสลาฟ พร้อมสะท้อนประวัติศาสตร์ของแบรนด์เรา” มักดา บูตรีม กล่าว

ดอกกุหลาบถูกเลือกเป็นลวดลายหลักของคอลเล็คชั่น สำหรับมักดาแล้ว กุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งประกอบไปด้วยความอ่อนโยน ความมั่นใจ ความละเอียดอ่อน ความเป็นอิสระ ความดึงดูดใจ และการเติบโตอยู่เสมอ คอลเล็คชั่นนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของแบรนด์ มักดา บูตรีม ผ่านการนำเสนอผลงานที่เป็นเอกลักษณ์จากตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เดรสผ้าโปร่งบางเบาที่ชวนให้นึกถึงกลีบดอกไม้ เสื้อเปิดไหล่สุดเย้ายวน และเสื้อโค้ตทรงคลาสสิกที่ตัดเย็บอย่างประณีต

ไอเท็มเด่นของคอลเล็คชั่น ได้แก่ ชุดเดรสตัวยาวหลายชั้นสีแดงสดที่ให้ความรู้สึกเหมือนช่อกุหลาบ เดรสลูกไม้โครเชต์อันแสนประณีต เสื้อโค้ตหนังสีเบอร์กันดีสุดหรู ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ มักดา บูตรีม ผ่านการผสมผสานความเป็นผู้หญิง ความกล้าหาญ และทักษะการตัดเย็บขั้นสูง

นอกจากนี้ ยังนำเสนอเดรสผ้าเจอร์ซีย์ในเฉดชมพูและแดงที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมลายพิมพ์ดอกกุหลาบที่สะดุดตา รวมถึงเดรสเข้ารูปที่ให้ลุคโมเดิร์นเหนือกาลเวลา เสื้อผ้าสีดำสุดคลาสสิกที่มาพร้อมดีไซน์ไหล่โดดเด่น และซับในแจ็คการ์ดสีชมพูที่เผยให้เห็นทักษะการออกแบบที่เหนือชั้น ขณะที่เครื่องประดับโดดเด่นไม่แพ้กัน ตั้งแต่รองเท้าแตะรัดส้นประดับดอกไม้ ต่างหูรูปดอกไม้คริสตัลสีเงิน ไปจนถึงผ้าคลุมหัวที่นำเสนอความเป็นผู้หญิงแบบชาวโปแลนด์ในมุมมองใหม่ที่ร่วมสมัย

ทั้งนี้ แอน-โซฟี โจแฮนสัน ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เชิญชวนทุกคนเข้าสู่โลกของมักดา คอลเลกชันนี้เต็มไปด้วยพลัง ความสุข และสะท้อนถึงทักษะอันยอดเยี่ยมของเธอในการตีความความเป็นผู้หญิงในแบบที่ร่วมสมัยและมีเอกลักษณ์”


AIS Serenade

เปิดวาร์ป! สมาร์ทโฟนจอพับ 3 ทบ รุ่นแรกของโลก @งาน AIS Serenade Night, the Art of Ultimate Design

Alternative Textaccount_circle
AIS Serenade
AIS Serenade

แพรว พาชมภาพบรรยากาศอีเว้นต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เสิร์ฟที่สุดของประสบการณ์เหนือระดับ “เอไอเอส เซเรเนด” พาลูกค้าคนสำคัญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพลิกโฉมวงการสมาร์ทโฟนครั้งยิ่งใหญ่ จัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟดินเนอร์ AIS Serenade Night, the Art of Ultimate Design เพื่อส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าเอไอเอสเซเรเนดได้เป็นเจ้าของพร้อมสัมผัสกับนวัตกรรมล้ำสมัยเป็นกลุ่มแรกก่อนใคร กับ HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตที่มาพร้อมหน้าจอพับ 3 ทบ ที่ใหญ่และบางที่สุดในโลก

AIS Serenade

เปิดวาร์ป! สมาร์ทโฟนจอพับ 3 ทบ รุ่นแรกของโลก @งาน AIS Serenade Night, the Art of Ultimate Design

โดยผู้ร่วมงานได้เพลิดเพลินกับเมนูสุดพิเศษพร้อมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ในบรรยากาศสุดลักซ์ชัวรี่ที่ร้าน Nobu Bangkok ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ สาทร ที่งานนี้รายล้อมไปด้วยเหล่าเซเลบริตี้จากหลากหลายวงการ นำโดย คุณปรางค์-อภินรา ศรีกาญจนา, ดร.หมวย-อริสรา กําธรเจริญ และ คุณณพน เจนธรรมนุกูล ซึ่งเป็นลูกค้าเอไอเอสเซเรเนดที่ได้มาสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับก่อนใคร กับ HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN ที่สุดแห่งความสมบูรณ์แบบของสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่มาพร้อมกับนวัตกรรมสุดล้ำของจอ 3 พับที่ใหญ่ที่สุดและบางที่สุดในโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์อันสง่างามแต่คงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง

AIS Serenade

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันอัจฉริยะ AIS AI Calling ฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ระหว่างการโทร ใช้งานได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอป ช่วยให้การสื่อสารสะดวกในทุกสถานการณ์ ที่เตรียมเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้ ปิดท้ายด้วยกิจกรรมลุ้นโชค Lucky Draw แจกรางวัลใหญ่ทริปเยี่ยมชม HUAWEI Head Quarter เรียกได้ว่าจัดเต็มความเอ็กซ์คลูซีฟตลอดทั้งงาน

AIS Serenade

ใครที่อยากสัมผัสสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตอย่าง HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ กับ AIS ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ! รับส่วนลดค่าเครื่องทันที 14,000 บาท และพิเศษสำหรับลูกค้า AIS Serenade รับส่วนลด 50% เมื่อเปิดเบอร์ VIP (เบอร์โฟร์) แบบ Exclusive ในแพ็กเกจราคา 1,499 บาท จากปกติ 2,999 บาท โทรทุกเครือข่าย 3,000 นาที เล่นเน็ตเต็มสปีดได้ไม่จำกัด พร้อมรับชมความบันเทิงฟรีกับ PLAY PREMIUM PLUS ติดตามรายละเอียดที่ https://m.ais.co.th/PYHrOz6uo

AIS Serenade

ปู-ไปรยา

กลายเป็นไวรัล! ปู-ไปรยา ฟาดอินเนอร์แรงบทดูถูกสาวไทย

Alternative Textaccount_circle
ปู-ไปรยา
ปู-ไปรยา

ไวรัลทั่วโลก! ปู-ไปรยา ฟาดอินเนอร์แรงบทดูถูกสาวไทย แฟนอินเตอร์แห่เปิดวาร์ป คอมเมนต์สวยเทียบ เซเลน่า โกเมซ

สร้างสีสันเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับการร่วมงานซีรีส์ระดับโลก The White Lotus ซีซั่น 3 ของนางเอกสายอินเตอร์ “ปู ไปรยา” กับบทบาท “มาดามไปรยา” เสียดสีเรื่องจริงของสังคมไทย บทภรรยาสาวไทยที่พบรักออนไลน์กับหนุ่มสูงวัยต่างชาติ ล่าสุดใน EP.7 กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ซีนเด็ดปะทะตัวแม่ “Parker Posey” (พาร์กเกอร์ โพซีย์) เป็นซีนสนทนาพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันแบบเพื่อนหญิงพลังหญิง

โดยปูโดนบูลี่เรื่องคนไทยยอมมีสามีแก่ รักครั้งนี้มีเงินเป็นตัวแปรสำคัญไม่ใช่รักแท้! ถอดจากบทสนทนาตามบทกล่าวถึงว่า

พาร์กเกอร์ โพซีย์ : “คุณเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ทั้งยังสาวทั้งยังสวยอยู่ ทำไมเธอถึงมาอยู่กับตาแก่ตัณหากลับ เขามีเงินเยอะเหรอ”
ปู ไปรยา : “ไม่ควรถามนะคะ”
พาร์กเกอร์ โพซีย์ : “มาที่นอร์ทแคโรไลนาซิ ฉันแนะนำผู้ชายที่เค้าน่านับถือได้ คนที่เค้าหลงรักคุณแน่ๆ”
ปู ไปรยา : “ฉันรักรูเพิร์ตมากค่ะ”
พาร์กเกอร์ โพซีย์ : “เขาทำให้กลัวหรือเปล่า ฉันช่วยให้คุณหลุดพ้นได้นะ”

สำหรับซันดังกล่าวกลายเป็นไวรัลทุกแพลตฟอร์มในโลกออนไลน์ เป็นการเปรียบเปรยตามภาษาแสลงการเม้าท์มอยต่างๆระหว่างเพื่อนสาวมากมาย และซีนนี้ยังทุกแชร์ไปทุกช่องทางในชั่วข้ามคืน ซึ่งซีรีส์ The White Lotus 3 อีพีล่าสุดสร้างประวัติศาสตร์ต่อเนื่อง มียอดผู้ชมพุ่งทะลุ 4.8 ล้านคนในคืนเดียว จากทุกแพลตฟอร์มของ HBO และ Max เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนเลยทีเดียว ที่สำคัญการโดดมาเล่นรับเชิญจากซีนเด่นซีนนี้ แฟนอินเตอร์ที่ได้รับชมการแสดงฉากนี้ต่างหลงเสน่ห์และสะดุดกับใบหน้าความสวยของสาวไทย “ปู ไปรยา” พากันเปิดวาร์ปคอมเมนต์กันเพียบ คอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ว่า แขกรับเชิญคนนี้มีไปรไฟล์ผลงานการแสดงอะไรให้น่าติดตามอีกบ้าง ร่วมไปถึงทิศทางเสียงชื่นชมพากันอวยยศว่าเธอ มีลุคสวยเป๊ะเหมือนคนดังอย่าง “Selena Gomez” (เซเลน่า โกเมซ) เครื่องหน้าชวนฝัน สวยยันเงาที่แท้ทรู

นับว่าผลงานการแสดงของ “ปู ไปรยา” มาน้อย..แต่มานะ ถีบประตูสู่วงการซีรีส์ต่างประเทศผ่านฉลุย สิบเต็มสิบไม่หัก

จองแฮอิน

Dolce & Gabbana เปิดตัว จองแฮอิน ในฐานะ Global Ambassador คนใหม่

account_circle
จองแฮอิน
จองแฮอิน

Dolce & Gabbana ต้อนรับนักแสดงชาวเกาหลีใต้ จองแฮอิน สู่บทบาท Global Ambassador คนใหม่ของแบรนด์ ด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์และพรสวรรค์ทางการแสดงที่โดดเด่น จองแฮอินสามารถสะกดใจผู้ชมทั่วโลกด้วยการปรากฏตัวที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความมีเสน่ห์

Dolce&Gabbana เปิดตัว จองแฮอิน ในฐานะ Global Ambassador คนใหม่

หลังจากปรากฏตัวครั้งแรกในมิลาน ณ Dolce & Gabbana Men’s Fashion Show ล่าสุด นักแสดงหนุ่มได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานด้วยสไตล์ที่สง่างามและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่น่าจับตามอง และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งของเขาในฐานะตัวแทนของแบรนด์

ในภาพแคมเปญที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองบทบาทใหม่นี้ จองแฮอิน ได้นำเสนอคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2025 ของ Dolce&Gabbana ถ่ายทอดความสง่างามและงานฝีมืออันประณีต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเอกลักษณ์แบรนด์

“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Dolce & Gabbana และตั้งตารอคอยการเดินทางครั้งใหม่นี้ รวมถึงพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่เราจะได้ร่วมกัน” – จองแฮอิน

การร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงอิทธิพลของนักแสดงชาวเกาหลีใต้ในวงการแฟชั่นระดับโลก แต่ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Dolce & Gabbana ในการนำเสนอความหรูหราและสไตล์อันโดดเด่นในยุคปัจจุบัน ติดตามลุคของ จองแฮอิน ในคอลเล็คชั่นล่าสุดได้ที่ Dolce & Gabbana ทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ของแบรนด์


 

เทศกาล ‘Devasom Sol Festival’ 2568 กลับมาอีกครั้ง กับ 11 วันแห่งการฮีลใจและฟื้นฟูจิตวิญญาณ

account_circle

เตรียมพบกับการกลับมาอีกครั้งของ Devasom Sol Festival (เทวาศรม โซล เฟสติวัล) เทศกาลเวลเนสสุดลักซ์ชูรี ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 11 พฤษภาคม 2568 ณ เทวาศรม เขาหลัก บีช รีสอร์ต

ดื่มด่ำประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ 11 วัน แห่งความผ่อนคลาย การปรับสมดุลร่างกายและจิตใจ เจริญสติและฟื้นฟูจิตวิญญาณ กับหลากหลายกิจกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของชายหาดเขาหลัก ขนาบข้างด้วยทะเลสาบอันเงียบสงบ โดยเทศกาลนี้ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเวลเนสแบบองค์รวม และศิลปินจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศกว่า 28 ท่าน มาร่วมรังสรรค์โปรแกรมและเวิร์กชอปสุดพิเศษมากมาย อาทิ โยคะ, กิจกรรมเพื่อสุขภาวะแบบองค์รวม, เวิร์กชอปด้านเวลเนส, ความบันเทิงที่ช่วยเจริญสติ, ประสบการณ์ด้านอาหาร รวมไปถึงเซสชั่นส่วนตัว และกิจกรรมสำหรับเด็ก ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาความสุขภายใน ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน และสมาชิกทุกคนในครอบครัว ให้ได้มีช่วงเวลาที่มีความหมายกับทุกคน

เทศกาล Devasom Sol Festival ได้แรงบันดาลใจมาจากคำว่า ‘Sol’ ซึ่งหมายถึง ‘พระอาทิตย์’ ในภาษาละติน สะท้อนถึงการเฉลิมฉลองให้กับแสงแดด พลังงาน และการฟื้นฟูจิตวิญญาณ ท่ามกลางธรรมชาติบนชายหาดที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกอันน่าตื่นตา เคียงข้างด้วยลากูนแสนเงียบสงบ ณ เทวาศรม เขาหลัก สถานที่แห่งการพักผ่อน ซึ่งพร้อมมอบความผ่อนคลาย การค้นพบตนเอง และฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม นับเป็นพื้นที่โดดเด่นที่ผสานความหรูหราเข้ากับการปรับสมดุลร่างกายและจิตใจได้เพียงไม่กี่ก้าวจากประตูห้อง

ตลอดช่วงเทศกาลนี้ ผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้พักกายและฟื้นฟูจิตใจไปกับกิจกรรมมากมายกว่า 90 ชั่วโมง โดยมี เวิร์กชอปและเซสชั่นต่าง ๆ กว่า 4 – 6 เซสชั่นต่อวัน รองรับ 10-20 ท่านต่อเซสชั่น ทุกเวิร์กชอปได้รับการคัดสรรมาเพื่อคืนความสมดุลให้แก่ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ภายใต้ 3 แนวคิดหลัก ที่ประกอบไปด้วย:

  • Mindfulness – เจริญสติ สร้างความสุขสงบภายในจิตใจและสัมผัสแก่นแท้ของจิตวิญญาณ ผ่านกิจกรรมโยคะ, การทำสมาธิ, การนอนอาบคลื่นเสียง และดนตรีบำบัด
  • Wellbeing – สำรวจแนวทางการดูแลตัวเองแบบองค์รวม ผ่านเซสชั่นเวิร์กชอปสุดพิเศษ ที่นอกจากทุกท่านจะได้เรียนรู้มรดกทางศิลปะวัฒนธรรม ยังได้ค้นหาความหมายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี
  • Nature – สัมผัสช่วงเวลาใกล้ชิดธรรมชาติ สร้างสมดุลและความสุขสงบ ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามน่าประทับใจของเขาหลัก

สำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ ‘โยคะ’ เฉพาะทาง ที่เน้นการฝึกปฏิบัติอย่างลึกซึ้ง เทศกาลนี้ได้รับเกียรติจาก ‘Jonas Westring’ นักบำบัดโยคะชื่อดัง ที่จะมานำเซสชั่นโยคะบำบัด เพื่อเสริมสร้างสมดุลของร่างกายและจิตใจ พร้อมด้วย ‘Ricardo Martin’ และ ‘Joy Kunkanit Phrombut’ สองกูรูโยคะ ที่จะนำเสนอคลาสโยคะฟื้นฟู ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอย่างล้ำลึก

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเซสซั่นพิเศษด้าน ‘คลื่นเสียงบำบัด’ อย่าง ‘Aqua Sound Bath’ หรือการ ‘นอนอาบเสียง’ ลอยตัวเหนือน้ำใต้แสงแดดอุ่น ปล่อยให้ท่วงทำนองของฆ้องและขันทิเบต รวมถึงเสียงคลื่นลมทะเลรอบกาย ช่วยให้คุณค้นพบความสุขสงบภายในจิตใจ และเซสชั่น ‘Plant Symphony Soundscape’ ดนตรีสมาธิสุดล้ำ ที่สร้างสรรค์จากความถี่พลังงานของพืช สู่เสียงแห่งธรรมชาติที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณ

เพื่อเติมเต็มประสบการณ์อันน่าจดจำ Devasom Sol Festival ได้เตรียมกิจกรรมในค่ำคืนสุดพิเศษมากมาย อาทิ ‘Spiritual Jazz Night’ โดย ‘DJ Paulie’ ท่ามกลางบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดิน, การแสดงดนตรีสดอะคูสติกจากศิลปินอินดี้ชื่อดัง ‘ภูมิ วิภูริศ’, และ ‘Drum Circle’ การตีกลองรอบกองไฟ โดย ‘Pordee Studio’ ที่ให้ทุกคนได้คอนเนกกันผ่านจังหวะของดนตรี รวมถึงยังมีกิจกรรมกลางแจ้งที่ได้สัมผัสและเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น การดื่มด่ำทิวทัศน์ริมชายหาดอันสวยงาม, พายเรือคายัคสำรวจลากูน ผ่อนคลายใต้แสงอาทิตย์ท่ามกลางธรรมชาติแสนบริสุทธิ์

และเพื่อให้ทุกท่านไม่พลาดทุกประสบการณ์สุดประทับใจ เทวาศรม เขาหลักจัดข้อเสนอ Sol Stay สุดพิเศษ เริ่มต้นเพียง 6,900 บาทต่อคืน* สามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม สำหรับการเข้าพักระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 12 พฤษภาคม 2568 พร้อมสิทธิพิเศษ เช่น เข้าชมกิจกรรมความบันเทิงของเทศกาลตลอดการพักฟรี และส่วนลด 10% สำหรับ Devasom Sol Festival Day Pass

มาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งจิตวิญญาณภายใต้แสงอาทิตย์อันอบอุ่นที่ เทวาศรม เขาหลัก บีช รีสอร์ต ด้วยกัน โดยมีราคาบัตรให้เลือกหลากหลาย ดังนี้:

ช่องทาง Megatix Thailand

Day Pass: Pre – Sale 3,000 บาท รวมกิจกรรม 2 เซสชั่น, เครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว รวมสิทธิ์ใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกของรีสอร์ต และกิจกรรมบันเทิง

ช่องทาง Festival Assistant

อีเมล์ [email protected], Line OA @devasomexperience, และ WhatsApp: +66952573508

  • Individual Sessions: ร่วมกิจกรรมเซสชั่นเดี่ยว 1,500 บาท/เซสชั่น
  • Festival Entertainment Event: 1,500 บาท
  • Private Sessions: จัดเซสชั่นเวิร์กชอปส่วนตัว เริ่มต้นที่ 3,000 – 5,000 บาท/คน/เซสชั่น

สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทศกาล Devasom Sol Festival ได้ที่ Instagram หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ Devasom Khao Lak หรือติดตามข่าวล่าสุดที่ Facebook หากต้องการดาวน์โหลดภาพของรีสอร์ต คลิกที่นี่ สำหรับภาพเทศกาล Devasom Sol Festival 2566 คลิกที่นี่


keyboard_arrow_up