ฮิตติดลมบน! ส่อง Rally The Bag กระเป๋าหลักพันของอินฟลูฯ สายแฟ(ชั่น)

Alternative Textaccount_circle

หันไปทางไหนก็เห็นแต่คนสะพาย Rally The Bag! พาส่องทุกดีเทลของกระเป๋าหลักพันที่กำลังฮิตในช่วงนี้

ไหนๆๆ สายแฟ(ชั่น) คนไหนชอบช้อปปิ้งออนไลน์กันบ้างคะ ถ้าอยู่ในวงการนี้เดาว่าคงจะรู้จักแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ ‘Rally Movement’ กันแน่นอน เพราะก่อนมี Pop-Up Store ตามห้างดังต่างๆ แฟชั่นแบรนด์ดังกล่าวก็มีจุดเริ่มต้นจากโลกออนไลน์ตั้งแต่ปี 2017 เช่นกัน ซึ่งหากให้จำกัดเอกลักษณ์ด้วยหนึ่งคำ ‘ความโมเดิร์น’ นี่แหละจะเป็นคำตอบที่อธิบายได้ดีที่สุด

โดยไอเท็มต่างๆ ของแบรนด์ถูกออกแบบมาในดีไซน์เบสิก สวมใส่ง่ายจริงในชีวิตประจำวัน เหมือนกับ Rally The Bag ที่กำลังเป็นเทรนด์ในช่วงนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นบรรดาอินฟลูฯ สายแฟชั่น หรือคนทั่วไปก็หลงรักกระเป๋าใบนี้สุดๆ ชนิดที่วางขายเพียงไม่กี่นาที คำว่า ‘Sold Out’ ก็ปรากฏบนหน้าจอเว็บไซต์

เริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่า กระเป๋าอะไรถึงได้ฮ็อตขนาดนั้น? ฉะนั้นเรามาหาคำตอบไปพร้อมกันดีกว่า สำหรับเจ้า Rally The Bag มาในทรง Bucket จุของได้แบบหนำใจ ทอลายโลโก้ด้วยเทคนิค Sturdy Stretch Knit เห็นแบบนี้แต่เขาเคลมไว้ว่าน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน นอกจากนี้หูกระเป๋ายังทำจากหนังวีแกนอีกด้วย และถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นกระดุมลายโลโก้ RM ซึ่งเป็นกิมมิกเล็กๆ ที่แบรนด์ตั้งใจใส่ไว้นั่นเอง จากที่พูดมาทั้งหมดสนนราคาที่ 2,490 บาท ก็ไม่แปลกใจ เพราะถูกและดีนี่เองที่ทำให้ Out of Stock จนต้องเปิดพรีออเดอร์


ภาพและข้อมูล: Rally Movement

เปิดตัว Cento นิยามใหม่การบริการอาหารเชิง ‘Hospitality House’

account_circle

ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Cento (เชนโต้) ที่นำเสนอนิยามใหม่ของอาหารอิตาเลียนที่แตกต่าง ณ ใจกลางกรุงเทพฯ โดยเร็วๆ นี้จะเปิดให้บริการรอบพิเศษตั้งแต่วันที่ 20-29 กุมภาพันธ์ สำหรับแขกผู้มีเกียรติของทางร้านที่ได้รับเชิญ และพร้อมเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปแบบเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มีนาคม ที่จะถึงนี้ โดยสามารถจองโต๊ะเพื่อสัมผัสประสบการณ์พิเศษล่วงหน้าได้ก่อนใครที่ https://centobangkok.com/reservations/

Cento ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองที่สะดวกต่อการเดินทาง ณ 120 ศาลาแดง 1/1 สีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500 โดยไม่ได้เป็นแค่เพียงร้านอาหารแต่นำเสนอนิยามใหม่ของการบริการที่ครบครันแก่กลุ่มลูกค้าในเชิง ‘Hospitality House’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะความเรียบง่ายและการให้บริการด้านอาหารที่โดดเด่นและไม่ยุ่งยากสไตล์อิตาเลียนแท้  ยึดหลักปรัชญาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดแบบเข้าใจง่ายและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าอย่างซื่อสัตย์ เน้นการนำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนแท้ที่ไม่เหมือนใครพร้อมชูวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อรังสรรค์มื้ออาหารที่แสนเรียบง่ายแต่โดดเด่นในรสชาติ ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย ทั้งเสริมความรักและความห่วงใย

Cento เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความตั้งใจอย่างถ่องแท้ของคุณ Manuel Palacio (มานูเอล ปาลาซิโอ) ผู้คร่ำหวอดมือฉมังในอุตสาหกรรมการบริการมายาวนานถึง 25 ปี โดยเส้นทางด้านอาชีพของเขาเริ่มต้นขึ้นที่ กรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อเขาอายุ 14 ปี และนำไปสู่ความสำเร็จอย่างการเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Pirata Group ซึ่งปัจจุบันให้บริการลูกค้าเกือบ 2 ล้านคนต่อปีในประเทศฮ่องกง โดยนำเสนออาหารและสไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะ อิตาเลียน สแปนิช อินเดียน ญี่ปุ่น เปรู และอีกมากมาย

ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างโชกโชนจนเรียกได้ว่าชำนาญในวงการนี้ของเขา ทำให้เขาได้เลือกกรุงเทพฯ เพื่อเปิดตัว Cento ซึ่งปฏิรูปแนวคิดของร้านอาหารทั่วไปสู่คอนเซ็ปต์ที่ถูกนำมาเล่าใหม่อย่าง ‘Hospitality House’ ที่แสดงความเป็นตัวตนและมีความสำคัญอย่างมากสำหรับเขา อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนถึงเส้นทางอันยิ่งใหญ่ในวงการตลอด 25 ปีที่ผ่านมาของเขา ซึ่งทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความรักในทุกสิ่งที่เขาทำและคิดค้น โดยเฉพาะการรังสรรค์และยกระดับโลกของการบริการและวงการร้านอาหารที่ยากที่จะเทียบเคียงได้แก่กลุ่มลูกค้ามากมายที่ได้รับความประทับใจกลับไปในทุก ๆ ครั้งที่ได้มาเยี่ยมเยือน

Manuel Palacio, ผู้ก่อตั้ง Cento กล่าวว่า “จุดประสงค์หลักของร้าน Cento คือการเปิดประสบการณ์ของการบริการที่อบอุ่นเสมือนอยู่ที่บ้านของคนสนิท ชูความเรียบง่ายอย่างมีคลาส ให้ความสำคัญดั่งนิยามที่ว่า “น้อยแต่มาก” ตอกย้ำการรับรองลูกค้าที่มาเยี่ยมเยือนอย่างใจจริง”

“สำหรับอาหารของเราที่ได้เลือกสรรแก่ลูกค้านั้นต้องขออธิบายว่าเป็น ‘อาหารอิตาเลียนโดยแท้’ เมนูต้นตำรับที่ทานง่ายถูกปากในทุก ๆ วัน ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพสูง ใส่ใจในทุกรายละเอียดที่นำเสนอโดยทีมบริการที่ทุ่มเทด้วยหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้นร้านของเราก้าวข้ามไปมากกว่าแค่การรับประทานอาหาร แต่คำว่า Cento คือ ‘Hospitality House’ ไม่ได้แค่เสิร์ฟอาหารอิตาเลียนแบบธรรมดา แต่สะท้อนถึงความทุ่มเทอย่างแน่วแน่ของทีมงานทุกคนของเราที่มีต่อลูกค้าในร้านซึ่งเป็นหัวใจของเรา”

ตั้งแต่เพลย์ลิสต์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเพิ่มบรรยากาศ ไปจนถึงลิสต์ไวน์ที่คัดสรรอย่างลงตัวโดยประสบการณ์ที่ลูกค้าพึงได้รับเมื่อเข้ามาใช้บริการที่ Cento นั้นครอบคลุมการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสุนทรีย์ของบรรยากาศที่ร้าน การต้อนรับที่อบอุ่น ลิสต์ไวน์ที่ได้ผ่านการเลือกสรรมาอย่างดี และเมนูอาหารที่ใส่ใจทุกรายละเอียด”

ทีมครัวของ Cento นำโดยเชฟคุณ Mutaro Balde (มูทาโร่ บัลเด้) ซึ่งจบจากโรงเรียนสอนทำอาหารชื่อก้องโลกของ Joel Rebuchon และ Alain Ducasse ณ ที่ร้านลูกค้าจะได้พบกับเมนูที่ถูกคิดค้นและรังสรรค์ขึ้นพิเศษซึ่งประกอบด้วยขนมปัง ครูโด พาสต้า และโดยอย่างยิ่งเมนูย่างต่าง ๆ ที่เป็นหัวใจสำคัญของครัว Cento  ทั้งนี้แทนที่การเลือกดื่มรายการไวน์แบบเดิม ๆ Cento มีห้องไวน์โดยเฉพาะที่รวบรวมไวน์ที่คัดสรรมาแล้วกว่าร้อยรายการเพื่อเติมเต็มประสบการณ์และล้อไปกับเมนูอาหารต่าง ๆ ได้อย่างไร้ที่ติ ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ร้านสามารถสำรวจคอลเลกชันไวน์นี้ได้ร่วมกันกับทีมงาน Cento ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกไวน์ที่คุ้นเคยและรสชาติใหม่ ๆ ที่ลองแล้วติดใจ นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลอิตาเลียนคลาสสิกสุดพิเศษมากมาย เช่น Negronis, Spritzes, Sours และ Martinis ที่พร้อมรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายอีกด้วย

ท้ายนี้งานออกแบบภายในร้านของ Cento ได้รับการออกแบบโดยคุณ Max Trullas Moreno (แม็กซ์ ตรูลาส โมเรโน) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ MTM Design Studios สตูดิโอออกแบบภายในอันโด่งดังซึ่งเป็นหนึ่งในสตูดิโอออกแบบที่ล้ำสมัยที่สุดในกรุงเทพฯ ที่โดดเด่นในด้านนำเสนอการต้อนรับและการบอกเล่าเรื่องราวผ่านการออกแบบ

Cento จะเปิดให้บริการสำหรับมื้อเย็นเท่านั้น (ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป) โดยเวลาทำการดังนี้ ร้านอาหาร: วันอังคารถึงวันเสาร์ 17.30 – 00.00 น บาร์: เปิดตั้งแต่ 17:30 น. – 00:00 น

ขณะนี้ Cento เปิดให้จองโต๊ะเพื่อร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่พร้อมกันในวันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป โดยสามารถสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ www.centobangkok.com หรือ 02 023-7100 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและอัพเดทล่าสุดของ Cento สามารถติดตามได้ที่ช่องทาง  Instagram และ Facebook ผ่าน @centobangkok หรือทางไลน์ที่ centobangkok

CELINE เปิดตัวป๊อปอัพสโตร์ พร้อมคอลเล็คชั่น “LES GRANDS CLASSIQUES”

account_circle

CELINE เปิดตัว CELINE LES GRANDS CLASSIQUES POP UP STORE แห่งใหม่ล่าสุด ณ CENTRAL EMBASSY พร้อมนำเสนอคอลเล็คชั่น “LES GRANDS CLASSIQUES COLLECTION” เสื้อผ้าสุภาพสตรี ประจำฤดูร้อน 2024 ที่ยังคงถ่ายทอดจิตวิญญาณของ HEDI SLIMANE ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

CELINE เปิดตัวป๊อปอัพสโตร์ พร้อมคอลเล็คชั่น “LES GRANDS CLASSIQUES”

HEDI ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่มีต่อโลกแฟชั่นและพร้อมก้าวข้ามกำแพงแฟชั่นแบบไร้เพศ ด้วยการถ่ายทอดคอลเล็คชั่น      “LES GRANDS CLASSIQUES” โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่มีท่วงท่าแห่งความสง่างามและโดดเด่น แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถแสดงออกได้ถึงความแข็งแกร่งและความทะมัดทะแมงดั่งเช่นผู้ชายออกมาได้เป็นอย่างดี

โดย HEDI ได้ผสานเรื่องราวในยุคสมัยแห่งความวินเทจคลาสสิคเข้ากับความหรูหราของศิลปะในยุคสมัยใหม่ ประกอบกับความขบถในด้านความรู้และแฟชั่น ทำให้คอลเล็คชั่น “LES GRANDS CLASSIQUES” เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 

CELINE LES GRANDS CLASSIQUES POP UP STORE แห่งนี้ได้รวบรวมไอเท็มชิ้นเด่นที่น่าสนใจ อาทิ เครื่องหนังอย่างกระเป๋ารุ่น TRIOMPHE ที่สามารถสะพายได้แบบ Genderless, เสื้อสูทลายทางทรงโอเวอร์ไซส์ , สปอร์ตแจ๊กเก็ต, กางเกงยีนส์ขาบาน, กางเกงสกินนี่ขายาว หรือรองเท้าบูตหนังยาว ที่ล้วนแสดงให้เห็นถึงดีเอ็นเอของ CELINE ที่ชัดเจนและเฉียบคมอยู่เสมอ

นอกเหนือจากเสื้อผ้าและกระเป๋าแล้ว POP-UP STORE แห่งนี้ยังถูกเติมเต็มให้คอมพลีทด้วยไอเท็มจากไลน์เครื่องหอม  เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ตลอดจนแอคเซสเซอรี่หลากหลายรูปแบบจาก MAISON Collection ที่รังสรรค์ขึ้นมาด้วยความประณีตและใส่ใจในรายละเอียด อย่างกระเป๋าใบเล็กขนาดพกพา กระเป๋าเดินทางหนังแคนวาส และของใช้ภายในบ้านอีกมากมาย ทำให้ CELINE LES GRANDS CLASSIQUES POP UP STORE ณ Central Embassy สามารถขยายความเชี่ยวชาญของ HEDI นำไปสู่อัตลักษณ์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของ CELINE ได้อย่างสมบูรณ์โดยแท้จริง

ร่วมสัมผัสประสบการณ์แบบสาวปารีเซียงไปกับ CELINE LES GRANDS CLASSIQUES POP UP STORE ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ชั้น G


โอลิเวีย ร็อดริโก

ทริคสไตล์ลิ่งผมสวยสไตล์ Old Hollywood แบบ ‘โอลิเวีย ร็อดริโก’

Alternative Textaccount_circle
โอลิเวีย ร็อดริโก
โอลิเวีย ร็อดริโก

โอลิเวีย ร็อดริโก นักร้อง-นักแต่งเพลงชาวอเมริกันวัย 20 ปี สร้างความฮือฮาบนบนเวทีประกาศรางวัลดนตรีสุดยิ่งใหญ่แห่งปีอย่าง Grammy Awards 2024 ที่ผ่านมา ด้วยการโชว์เพลง “Vampire” ซิงเกิ้ลนำจากอัลบั้มล่าสุด “Guts” ในลุคแวมไพร์สุดแซ่บ พร้อมชุดเดรสสีแดงเลือดและลิปสติกสีแดงแมตช์ชุด และว้าวให้สุดกับลุคพรมแดงที่โด่ดเด่นไม่แพ้กันด้วยชุดจาก Versace พร้อมเมคอัพและทรงผมสวยคลาสสิกที่มีกลิ่นอาย Old Hollywood ครั้งนี้จึงขอนำเคล็ดลับจาก เคลย์ตัน ฮอว์กิน (Clayton Hawkins) ช่างผมตัวจริงของเธอที่จะมาเผยเทคนิคและวิธีการอย่างละเอียดจากการเนรมิตทรงผมสุดปัง

ซึ่งลุคสวยคลาสสิก โอลิเวีย ร็อดริโก นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ Old Hollywood ทั้งลุคบนพรมแดงและบนเวทีรางวัลแกรมมี่ เคลย์ตัน ฮอว์กินส์ แฮร์สไตล์ลิสต์ประจำตัวของเธอ เป็นผู้ครีเอททรงผม และเขาได้เผยวิธีการเนรมิตทรงผมสวยสะกดแบบละเอียด พร้อมเผยเคล็ดลับสร้างลุคโดดเด่นสะดุดสายตาที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน

  1. เคลย์ตันเริ่มเสกลุคสวยด้วยการชโลมมูสเพิ่มวอลลุ่มลงบนผมเปียก โดยเฉพาะบริเวณโคนผม จากนั้นจึงเริ่มเป่าผมแห้งโดยใช้เครื่องเป่าผม Dyson Supersonic™ Professional Edition พร้อมหัวต่อเป่าผมแบบเสริมกำลังลมระดับมืออาชีพ โดยใช้ความร้อนและลมระดับกลาง
  2. เมื่อผมสลวยแห้งสนิท เคลย์ตันใช้อุปกรณ์เป่าผมและจัดแต่งทรง Dyson Airwrap™Multi-styler พร้อมแกนม้วนผม Airwrap™ long barrel ขนาด 1.2 นิ้ว ที่ความร้อนและลมระดับกลาง เพื่อเป่าและม้วนผมส่วนโมฮอว์กของโอลิเวียเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม จากนั้นเซ็ตผมด้วยโรลม้วนผม โดยม้วนออกจากใบหน้า
  3. ต่อไปเป็นการลอนผมของโอลิเวีย โดยใช้เครื่องหนีบผม Dyson Corrale™ ที่ตั้งค่าความร้อนระดับกลาง เคลย์ตันแบ่งเส้นผมเป็นช่อขนาดเท่าๆ กัน หนีบม้วนออกจากใบหน้าให้เป็นลอนในทิศทางเดียวกัน
  4. หลังจากม้วนผมครบทุกช่อ เคลย์ตันใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมฉีดเพื่อล็อคให้ผมอยู่ทรงสวยยาวนาน จากนั้นถอดโรลม้วนผมด้านหน้าออก แล้วแปรงผมทั้งศีรษะออกโดยใช้หวีซี่ห่าง เคลย์ตันแนะนำว่าการแปรงผมในตอนสุดท้ายเคล็ดลับระดับโปรสำหรับการทำทรงผมสไตล์ Old Hollywood ให้สวยเหมือนกับโอลิเวีย
  5. สุดท้าย เคลย์ตันเปลี่ยนจากการแสกกลางแบบปกติ มาเป็นการแสกข้างที่สวยงาม ผลลัพธ์ที่ได้คือทรงผมสุดคลาสสิก สวยงาม และเข้ากับโอลิเวียมาก
LOS ANGELES, CALIFORNIA – FEBRUARY 04: (FOR EDITORIAL USE ONLY) Olivia Rodrigo attends the 66th GRAMMY Awards at Crypto.com Arena on February 04, 2024 in Los Angeles, California. (Photo by Lionel Hahn/Getty Images)

Photo: Getty Image


ปีเตอร์ ธูนสตระ

รักแท้อยากดูแลกัน ปีเตอร์ ธูนสตระ & จอย สุจิตรา ต่อสู้โรคธาลัสซีเมีย

Alternative Textaccount_circle
ปีเตอร์ ธูนสตระ
ปีเตอร์ ธูนสตระ

ตำนานพระเอกสายฝอที่หล่อคงกระพันสุดๆ “ปีเตอร์ ธูนสตระ” อดีตพระเอกละครดัง “ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด” กลับมาฮือฮาอีกครั้งหลังรับเล่นมิวสิควีดีโอ “ฟ้ารักพ่อ” ขึ้นแท่นชูการ์แด๊ดดี้ ป๋าสายเปย์โดนใจทั้งสาวแท้สาวเทียม ซึ่งชีวิตจริงโรแมนติกกับแฟนสาว “จอย สุจิตรา” แบบสุดๆ ครองชีวิตคู่กันมายาวนาน ก้าวเข้าสู่ปีที่13 แถมยังดูแลซึ่งกันและกัน จับมือต่อสู้โรคร้ายแบบหวานมากมาย ล่าสุดควงกันมาเติมความหวาน เล่าเรื่องรักผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา เมื่อฝ่ายหญิงต้องเผชิญโรคธาลัสซีเมียป่วยมาแต่กำเนิด

ปีเตอร์ ธูนสตระ

กว่าจะมีวันนี้ต้องเจอกับอุปสรรคความรักมากมาย?

ปีเตอร์ : “ตอนแรกชวนไปทานข้าว ชวนไปดูหนังไม่รู้ว่าเค้าป่วย เค้าต้องไปโรงพยาบาล ต้องไปทุกเดือน ผมไม่เข้าใจศัพท์ทางการแพทย์ เค้าใช้คำว่าให้เลือด ไม่ได้รับ ผมก็งงว่าเค้าไปบริจาคเลือดหรอ ตอนแรกผมไม่เข้าใจว่าเค้าป่วย”
จอย : “จอยเป็นธาลัสซีเมีย เป็นตั้งแต่กำเนิดต้องไปเติมเลือดที่โรงพยาบาลตลอด คือเลือดจะหมดไปเอง ระยะเวลา1เดือนเราใช้ชีวิตประจำวันยังไง เลือดจะหมดไปเรื่อยๆ เหมือนรถยนต์ที่นำมันหมดก็ต้องไปเติมน้ำมัน ไปทุกเดือนที่หมอนัดแล้วก็ต้องมียาประจำที่กินทุกวัน”

แล้วสำหรับคู่เราดูแลกันยังไงบ้าง?

ปีเตอร์ : “ตอนที่ได้ยินก็ตกใจ เราโชคดีที่เกิดมาตลอดชีวิตสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่ได้เจออะไรแบบนี้ตอนที่เค้าเล่าให้ฟังตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ก็ให้เค้าเขียนให้อ่านหน่อยเดี๋ยวผมจะไป Google เอง จะให้เข้าใจเป็นภาษาตัวเอง พอเข้าไปอ่านเค้าตกใจมากว่ามันเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก มันเป็นโรคทางพันธุกรรมไม่สามารถเลือกได้เกิดมาก็เป็น ตอนนั้นคิดว่าเกิดมาเพิ่งเจอคนที่รักที่ชอบแต่ว่าเค้าเป็นโรคนี้ พูดตรงๆก็ไม่รู้ว่าเค้าจะอยู่ได้นานแค่ไหน เราก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับคนคนนี้ แต่ก็ไปคิดมาเค้าน่ารักมาก คิดว่าถ้าให้เค้าเข้ามาในช่วงชีวิตสั้นแล้วออกไปมันไม่เวิร์ค เค้าเป็นคนน่ารักขนาดเจอสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้เค้ายังมีรอยยิ้ม ไม่ได้เศร้าร้องไห้หรือบ่นกับชีวิต เค้าเจออุปสรรคแบบนี้แต่ว่าเค้ายังมีมุมมองที่ดี มันก็เหมือนกับว่าเราได้แรงบันดาลใจได้สิ่งที่ดีกลับมาด้วย ก็ลองดูกันต่อไปจนได้ของดีกลับมาด้วย ปรากฏว่าเข้ากันได้ดีจนมีวันนี้”

ปีเตอร์ ธูนสตระ

คุณปีเตอร์ดูแลจอยดีแค่ไหน?

จอย : “ดูแลดีมากๆ อย่างที่บอก เป็นความรักที่ดีมาก โชคดีที่สุดในชีวิต”

ตอนนี้วางเป้าหมายในชีวิตคู่ไว้ยังไงบ้าง?

ปีเตอร์ : “คือวางเป้าหมายไว้ว่าให้เราสองคนมีความรู้สึกดีให้แก่กันและกัน ให้มีสุขภาพดียาวนาน แล้วใช้เวลาที่มีให้กันอย่างสนุกสนาน ไม่เครียด ไม่มีอุปสรรคหนักเข้ามา ชีวิตอาจจะส่งอะไรหนักๆเข้ามาแต่ว่าเราควบคุมความรู้สึกมันได้ ก็เลยคิดว่ามีความสุขดีๆให้กัน”

เลอโนโว ปลุก Spider-Senses ร่วมกับ ‘Madame Web’ 

account_circle

เตรียมพบกับภาพยนตร์แอ็คชันซูเปอร์ฮีโร่หญิงเรื่องใหม่จาก Columbia Pictures “มาดามเว็บ (Madame Web)” ที่เหล่าสาวกจักรวาล Sony’s Spider-Man Universe รอคอย ร่วมกับ เลอโนโว แจกเซอไพรส์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแฟน ๆ มาร์เวลและเลอโนโวโดยเฉพาะ สัมผัสประสบการณ์อันตื่นเต้นและติดตามเรื่องราวอันน่าพิศวงพร้อมกันได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

เรื่องราวระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหาของหญิงสาวผู้มีพลังหยั่งรู้เหนือสรรพสิ่ง โดยมีนักแสดงนำอย่าง ดาโกต้า จอห์นสัน (Dakota Johnson) มารับบท คาสซานดร้า เว็บบ์ (Cassandra Webb) แพทย์ฉุกเฉินแห่งแมนฮัตตันที่มีนิมิตพิเศษมองเห็นอนาคตได้หลังจากประสบอุบัติเหตุ ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวในอดีต และการพยายามเอาชีวิตรอดจากวายร้ายพร้อมกับหญิงสาวอีก 3 คน ที่โชคชะตาได้โยงใยพวกเขาเข้าไว้ด้วยกัน

เพื่อเป็นการต้อนรับการเข้าฉาย “มาดามเว็บ (Madame Web)” ในโรงภาพยนตร์ ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปเกมมิ่งที่ร่วมรายการของเลอโนโว จะมีสิทธิ์รับเสื้อยืด Madame Web รุ่น Limited Edition เป็นของขวัญสมนาคุณพิเศษทันที เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกมมิ่งในซีรีส์ Lenovo Legion และ Lenovo LOQ ที่ร่วมรายการ ได้แก่ Legion 5i; Legion Pro 5i; Legion Slim 5; LOQ 15 และ LOQ 16 ณ ร้านค้าพันธมิตรอย่างเป็นทางการของเลอโนโวทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2567 นี้

ตรวจสอบรายการผลิตภัณฑ์ ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดได้ที่ LINK 

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lenovo.com/th หรือ https://www.facebook.com/LenovoTH

RML รุกกลยุทธ์ ‘CARETAKER’ สร้างสรรค์กิจกรรมที่ไม่เหมือนใคร

account_circle

RML (บริษัทไรมอนแลนด์จำกัดมหาชน) ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ที่ส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การดูแลลูกค้ามากว่า 36 ปี รุกกลยุทธ์ ‘CARETAKER’ สร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ ให้กับลูกค้าคนสำคัญ ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำ ประเดิมแคมเปญแรกของปี’67 จับมือ เอ็ม สปา อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้พัฒนาและบริหารจัดการสปาชั้นนำของโลกในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป จัดงาน RML X Longevity Hub by Clinique La Prairie’ สุดยอดโปรแกรมตรวจสุขภาพ รับการปรึกษา และทรีทเมนต์ดูแลสุขภาพองค์รวมครบวงจรแบบรายบุคคล ให้กับลูกค้าคนสำคัญของ RML ที่ ลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรีศูนย์ดูแลสุขภาพระดับอัลตร้าลักชัวรี่จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนชั้น 15 โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 17 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีแขก VIPs จากแวดวงธุรกิจต่างๆ มาร่วมกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หนิง-ปัญญชลีเพ็ญชาติ, เปิ้ล-จริยดีสเป็นเซอร์, เล็ก-กรกนกยงสกุล, อ๋อย-อุไรพรเฉลิมทรัพยากรและพรรษ-พรรษมนพจนประพันธ์ 

นาย กรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร RML กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ  RML ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ โดยในปีนี้เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบสุดยอดการดูแลลูกค้าไปอีกขั้น ภายใต้กลยุทธ์ ‘CARETAKER’ เพื่อสร้างประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติ และครองความเป็น Top of Mind หรือ เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า ซึ่งในปีนี้เราได้วางแผนที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบที่แตกต่างออกไป ครอบคลุม 3 มิติที่สำคัญ ได้แก่

  • The Moments Behind Velvet Rope เปิดประสบการณ์ และเติมเต็มความเป็นที่สุดของลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์ ผ่านอีเวนต์ที่ลูกค้าคนสำคัญได้ VIP access ดั่ง celebrities จากแบรนด์พันธมิตรชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านลักชัวรี่ ไลฟ์สไตล์จากหลากหลายวงการ
  • The Special Treats เติมเต็มความประทับใจ กับการดูแลอย่างต่อเนื่องผ่านของขวัญในช่วงเวลาพิเศษต่างๆ ของลูกค้าคนสำคัญได้อิ่มเอมกับทุกโมเม้นต์ เพื่อขอบคุณทุกความเชื่อใจที่มอบให้ RML มาโดยตลอด
  • The Benefits & Perks เติมเต็มความคุ้มค่า กับสิทธิพิเศษทั้งจาก RML เองรวมถึง Benefits ต่างๆ จากแบรนด์พาร์ทเนอร์มากมาย ที่สงวนไว้เพื่อลูกค้าของ RML เท่านั้น

นาย หฤษฏ์ ลักษณะโยธินเกิดทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสผู้บริหารฝ่ายการตลาด RML กล่าวเสริมว่า “เราประเดิมงานแรกของปีนี้ ภายใต้แคมเปญ ‘RML X Longevity Hub by Clinique La Prairie’ โดยร่วมมือกับ ลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี ศูนย์ดูแลสุขภาพระดับอัลตร้าลักชัวรี่จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดโปรแกรมยกระดับ Well-Being ผ่านเวิร์คช็อป ‘Health and Detox Purity’ มุ่งเน้นการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อร่างกายที่แข็งแรง และแลดูอ่อนเยาว์ เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์ดัชนีมวลกาย พร้อมบริการให้คำแนะนำข้อมูลสุขภาพเชิงลึกในด้านต่างๆ ก่อนเข้ารับบริการโปรแกรมทรีทเมนต์เพื่อบำบัดและฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคลในวันเดียวกัน”

ด้านนางสาว สุทธิดา สุทธิพงษ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายพันธมิตรพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ – สปาแอนด์เวลเนสจาก บริษัท เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อว่าสุขภาพที่แข็งแรงไม่ได้เป็นเพียงการไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความเป็นอยู่ที่ดีทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณอีกด้วย จึงนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้จัดเวิร์คช็อปเพื่อยกระดับ Well-Being ส่งมอบความรู้ เพื่อการสร้างสุขภาพที่สมดุลจากภายในสู่ภายนอกให้กับลูกค้าคนสำคัญของ RML ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ ที่เอาใจใส่ในคุณภาพชีวิตของลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยคาดหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์เช่นนี้อีกในอนาคต”

เพลียเรื้อรัง

นอนเต็มอิ่มแต่กลับไม่มีแรง ใช่ ‘เพลียเรื้อรัง’ หรือไม่? ควรแก้ยังไง ก่อนส่งผลเสียสุขภาพกายและใจ

Alternative Textaccount_circle
เพลียเรื้อรัง
เพลียเรื้อรัง

สัญญาณเตือนจากร่างกายอย่าง อาการเพลีย ไม่สดชื่น ไม่มีแรง อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ทำให้เกิดการไม่สบายตัว เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง ปวดเมื่อยตามตัว จนเกิดภาวะอ่อนล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome หรือ CFS) นอกจากส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตใจ ให้หดหู่ ห่อเหี่ยว ท้อแท้ ไร้พลังงานที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนอย่างเคยได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขอาการ เพลียเรื้อรัง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

  • ทำงานหนักเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ประสิทธิภาพการผลิตพลังงานระดับเซลล์ไม่ดี
  • ความเครียดสะสม
  • อายุที่มากขึ้น
  • โรคประจำตัวที่เป็นอยู่ เช่น เบาหวาน โลหิตจาง ภาวะตับทำงานผิดปกติ หรือการใช้ยารักษาโรคบางอย่าง เช่น การให้เคมีบำบัด การฉายแสง
  • ฮอร์โมนไม่สมดุล ได้แก่ ฮอร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนต่อมหมวกไต ฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะผู้ที่เข้าสู่วัยทอง
  • ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินดี แมกนีเซียม สังกะสี เป็นต้น

ซึ่งถ้าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด หรือไม่ถูกวิธีก็จะกลายเป็นอาการเรื้อรัง เบื้องต้นนี่คือวิธีการแก้อาการอ่อนเพลียด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน ดังนี้

  • กินอาหารให้หลากหลายและดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยอาจเพิ่มในส่วนของวิตามินบี วิตามินดี แมกนีเซียม สังกะสี ซึ่งพบได้ในอาหารประเภท ธัญพืช เนื้อสัตว์ นม ไข่ เป็นต้น
  • นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเต็มที่
  • หาวิธีผ่อนคลายความเครียด หากิจกรรมที่ชอบทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง นั่งสมาธิ เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ บุหรี่
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหมเกินไปจนร่างกายเกิดอาการล้าได้
  • กินอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มพลังงาน ลดอาการอ่อนเพลีย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือต้องการทางลัดเร่งด่วน เช่น Vitamin B Complex, CoenzymeQ10, NMN เป็นต้น

ทั้งนี้ ถ้าหากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยตัวเองแล้วก็ยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ในปัจจุบันการแพทย์ทางชะลอวัยและป้องกัน มีวิธีการตรวจหาสาเหตุของอาการเพลียจากภายในลึกถึงระดับเซลล์ ตรวจได้ละเอียดและดีกว่าการตรวจสุขภาพทั่วไป

Source: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)

Photo: Pexels


บอลลูน

“มิ้น-ภัทรนันท์” แห่ง iParty BKK 10 ปี กับบอลลูนแห่งความสุข

account_circle
บอลลูน
บอลลูน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “ลูกโป่ง” หลากสีสัน แปลกตา ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในงานต่างๆ ทั้งงานปาร์ตี้ วันเกิด หรือแม้แต่งานวิวาห์ ลูกโป่งช่วยสร้างบรรยากาศให้งานต่างๆ อบอวลไปด้วยความรัก ความสุขและความสนุก ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังลูกโป่งดีไซน์เก๋ไก๋เหล่านี้ คือ คุณมิ้น – ภัทรนันท์ ศิริเจริญแสง เจ้าของธุรกิจ iParty BKK ที่วันนี้ธุรกิจเดินทางเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว และยังเติบโตต่ออย่างต่อเนื่องด้วยงานดีไซน์และลูกเล่นใหม่ๆ ที่ชวนให้ติดตาม บอกเลยว่าหัวใจหลักของงานนี้ คือความรักในสิ่งที่เธอทำล้วนๆ

ความชอบ + ช่องว่างของตลาด = ธุรกิจใหม่

คุณมิ้นเล่าถึงช่วงแรกของการมาจับธุรกิจบอลลูนว่า “ย้อนกลับไปสมัยที่มิ้นยังเป็นนักศึกษา สังเกตว่าตอนนั้นงานปาร์ตี้อย่างวันเกิดส่วนใหญ่มีแค่เค้กกับดอกไม้ มิ้นรู้สึกว่ามันยังไม่สมบูรณ์ ถ้าเพิ่มลูกโป่งจะทำให้ความรู้สึกตอนที่จัดงานเติมเต็มมากขึ้น อีกอย่างคือเวลาถ่ายรูปก็สวย สนุกขึ้น เหมือนลูกโป่งไปเพิ่มให้งานสมบูรณ์ขึ้นไปอีก

“ส่วนตัวมิ้นเอง ชอบความครีเอทีฟตั้งแต่เด็ก แม้จะเรียนจบมาสายบริหาร แต่ชอบจัดงานปาร์ตี้ตามเทศกาล อย่างฮาโลวีน คริสต์มาส มีฉายโปรเจ็คเตอร์บนดาดฟ้า ชวนเพื่อนๆ มาดูหนังกัน ตอนไปเรียนต่อที่อเมริกาก็มีจัดปาร์ตี้ตลอด แล้วทุกงานที่จัด มิ้นก็ให้ความสำคัญกับการมีโมเมนต์พิเศษที่น่าจดจำ

“เมื่อมองเห็นโอกาสที่จะได้นำความรู้เชิงธุรกิจมาบวกกับความถูกจริต จึงได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนเข้ามาทำธุรกิจ iParty BKK ซึ่งก็มาจากว่า ฉันชอบจัดปาร์ตี้ นี่แหละ (หัวเราะ) โดยช่วงเริ่มแรก iParty BKK มีหน้าร้านเป็นป๊อปอัพเล็กๆ ที่ The Circle ราชพฤกษ์ก่อน เน้นขายลูกโป่งอัดแก๊สฮีเลียม สามารถสกรีนชื่อได้ หรือมีของตกแต่งเป็นกระดาษฟอยล์พู่สวยๆ สร้างเป็นภาพจำ น่าตื่นเต้นว่าลูกโป่งทำอะไรได้มากขนาดนี้ หลังจากนั้นเริ่มรับออเดอร์ที่ลูกค้าสามารถ customize (ปรับแต่ง) รูปแบบและสีสันเองได้มากขึ้น

“ขณะเดียวกัน ความที่ลูกโป่งเป็นธุรกิจใหม่ ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก เราจึงต้องสร้างภาพจำให้ผู้คนเห็นบ่อยๆ เริ่มจากการทำงานกับดารา เซเลบฯ บุคคลที่มีชื่อเสียง โดยให้ลูกโป่งเขาไปใช้ในงาน เช่น งานปาร์ตี้ งานวันเกิด หลังจากนั้นก็มีคนสนใจทำตามจนเป็นวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมา ที่สุดก็ไปเข้าตาพวกแบรนด์หรือองค์กรต่างๆ จากนั้นเราก็ค่อยๆ เติมลูกเล่นอย่างอื่นเข้าไป เพราะมิ้นมองมาแต่แรกแล้วว่า คงไม่ได้ทำแค่ลูกโป่ง แต่อยากทำให้เป็นงานปาร์ตี้ที่น่าจดจำ โดยเราจะดีไซน์ว่างานไหนเหมาะกับอะไร ให้มีความแตกต่างในแต่ละงาน ถ้าต้องเพิ่มอะไรเข้าไปที่นอกจากลูกโป่งเพื่อให้งานคอมพลีตและน่าประทับใจจริงๆ เราก็จะเพิ่มค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแบ็คดรอปที่ใช้ตกแต่ง  หรืออย่างทุกวันนี้ เราไม่ได้มีแค่ลูกโป่งแต่ยังมี bubble house บ้านพองลมที่มีลูกโป่งลูกเล็กๆ หมุนอยู่ข้างใน หรือ  iParty Pool สระลูกบอลพร้อมไม้ลื่น ไว้ให้เด็กๆ เล่นได้ เป็นต้นค่ะ”

มุ่งเน้นให้พนักงานมีส่วนร่วมเคล็ดลับสร้างทีมให้แข็งแกร่ง

“แต่ช่วงที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ถือว่าค่อนข้างหนัก เจอทั้งความท้าทายและอุปสรรคหลายอย่าง เพราะลูกโป่งมีความเปราะบางจึงมีข้อจำกัดเรื่องของเวลา บางชนิดก็ไม่สามารถพองตัวอยู่ได้นานๆ แต่พอเราต้องรับงานขนาดใหญ่ขึ้น ก็ยากขึ้นไปอีก เพราะต้องเลือกลูกโป่งชนิดที่สามารถอยู่ได้เป็นสัปดาห์ หรือการสั่งล่วงหน้าก่อนส่งแค่ไม่กี่ชั่วโมง ตอนนั้นก็ยังไม่สามารถทำได้ แต่ระหว่างที่เจอปัญหาก็กลายเป็นว่า เราได้เรียนรู้ และนำกลับมาจัดการกับระบบ ทำอย่างไรไม่ให้เลท จนทุกวันนี้สามารถส่งงานให้ได้ภายในวันที่สั่งเลย หรือเรื่องคุณภาพของงาน ทำอย่างไรไม่ให้พลาด เราก็มีการจัดทีม QC ขึ้นมา เพื่อเทสต์ลูกโป่งที่ได้มาใหม่ให้ชัวร์ว่าไม่มีจุดรั่ว สูบลมไปแล้วลูกโป่งไม่ฟีบเร็ว เป็นต้น เมื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดก็ทำให้ไม่เกิดปัญหา

“พูดง่ายๆ ว่าในช่วงแรก เรายังลองผิดลองถูกกันอยู่ ทั้งเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับลูกโป่ง และในเรื่องของระบบที่ยังไม่มีความเสถียรทำให้เกิดความล่าช้าในระบบ แต่ตลอด10 ปีที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้มากขึ้น มีการเซ็ตระบบขึ้นมาและพัฒนาอยู่ตลอด พนักงานที่ทำงานกับเราก็ยังเป็นทีมเดิมที่ทำมาตั้งแต่แรก ประสบการณ์ทำงานของทีมจึงแน่นตามอายุร้านที่เปิดมา นอกจากนั้น เรายังสนับสนุนให้พนักงานเติบโต มีการส่งทีมงานไปเรียนทำลูกโป่งที่ต่างประเทศ คอยสังเกตว่าพนักงานคนไหนถนัดอะไร อย่างถ้าเห็นว่าพนักงานคนนี้เก่งวาดรูป ก็จ้างครูมาสอนเพิ่มเติมให้เขาที่ร้าน แล้วให้เขามาเพ้นต์ลายลูกโป่งของร้าน ทำให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมว่า เขามีส่วนช่วยครีเอทอะไรใหม่ๆ ให้ร้านเราแตกต่างจากร้านอื่น ในขณะเดียวกันก็มีความก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน ไม่ให้รู้สึกว่าตัวเองย่ำอยู่กับที่ค่ะ”

ความแปลกใหม่และไว้ใจได้ คือหัวใจหลักของธุรกิจ

​​“หัวใจหลักของแบรนด์คือ การเป็น trend setter เราไม่เคยมองว่าแบรนด์อื่นมีอะไร แต่จะมองว่าเเบรนด์เราไม่มีอะไร แล้วในตลาดยังขาดอะไร สิ่งใดที่จะทำให้เราแตกต่าง เราจึงเน้นเรื่องความแปลกใหม่มาก่อนกาล อย่างลูกโป่งของเรานั้น ก็สั่งมาจากหลากหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อังกฤษ เพราะลูกโป่งแต่ละประเทศมีจุดที่เด่นไม่เหมือนกัน อย่างพวกลูกโป่งลิขสิทธิ์ดิสนีย์ ลายการ์ตูน ควรจะมาจากประเทศอเมริกา เพราะให้สีชัด ตรงตามคาแร็คเตอร์ เป็นต้น หรือ ช่อดอกไม้ที่ทำจากลูกโป่ง เราก็เป็นเจ้าแรกๆ ที่เริ่มทำในไทย แล้วมิ้นค่อยทำการตลาด โดยการดึงตัวบุคคลอย่างอินฟลูเอนเซอร์ ดาราที่เรามองว่าจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเราได้ดีมาช่วยโปรโมทจนเป็นกระแส ต้องบอกเลยว่าก่อนที่จะได้รับการตอบรับที่ดีขนาดนี้ ทางทีมงานมีการออกแบบวางแผนงานกันมาอย่างดีและตั้งใจ

​​“จุดที่ 2 ความไว้วางใจ ความสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบหรือเติมความสนุกให้กับงาน ที่ทีมของเราสามารถแนะนำลูกโป่งให้เหมาะสมกับการใช้งาน และความสวยงาม รวมทั้งดีไซน์ให้เหมาะ เติมเต็มกับงาน และดูพิเศษกว่างานอื่นๆ นอกจากนี้เรายังจัดหาสินค้าหลากหลาย สินค้านำเข้า และเสนอไอเดียเพื่อคอมพลีตงานปาร์ตี้ให้ลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น ทีมเราได้รับโจทย์ให้จัดงานปาร์ตี้คริสต์มาส ซึ่งทีมเราได้ไปสรรหาต้นคริสต์มาสจริงนำเข้ามาจากประเทศแคนนาดาเพราะลักษณะพิเศษรูปทรงสวยทั้ง 4 ด้าน มีกิ่งก้านสาขาที่แข็งแรง คงตัวได้ดี เหมาะกับการแขวนของประดับตกแต่ง และที่สำคัญยังเป็นพันธุ์ที่เชื่อว่ามีกลิ่นหอมที่สุดในโลก

 ซึ่งนอกจากลูกโป่งแล้ว เรายังมองว่าอะไรก็ตามที่ทำให้งานปาร์ตี้เติมเต็มได้สมบูรณ์แบบที่สุด เราจะพยายามหามาให้ เรียกได้ว่านี่คือจุดเด่นของร้าน

​​“นอกจากนี้ เรามีทีมหลังบ้านเยอะ เวลาที่มีงานขนาดใหญ่หรือช่วงที่มีเทศกาลสำคัญๆ ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความผิดพลาดภายในงาน ร้านของมินต์สามารถทำให้ถึงแม้ว่าจะจัดงานใหญ่พร้อมกันทั้ง 7 สาขาก็ตาม เพราะทีมมีความเป็นมืออาชีพ อีกจุดคือความรวดเร็วสั่งวันนี้ก็สามารถได้วันนี้ รีบใช้งานทางร้านทำให้ได้ ก็เป็นจุดที่เป็นความไว้วางใจ​

​​“สำหรับแผนต่อจากนี้ อย่างที่บอกไปว่ามิ้นชอบสร้างวัฒนธรรมใหม่เกี่ยวกับลูกโป่ง เราจึงมองไว้ว่า อยากนำพาลูกโป่งเข้าไปเป็นองค์ประกอบสำคัญของงานแต่งงาน ไม่ใช่แค่งาน Hen Night (เลี้ยงส่งเจ้าสาว) แต่เป็นการตกแต่งหลักของงานแต่งงานเลย เพราะทุกวันนี้คนมักใช้ดอกไม้เป็นหลัก แต่เรามีลูกโป่งใหม่ๆ หลายแบบที่ให้ลุคเท่และหรูหรา อย่างลูกโป่งที่เป็นเนื้อเมแทลลิก ก็ถือเป็นอีกความท้าทายที่อยากฝากให้ทุกคนติดตามและเป็นกำลังใจให้เรา และเร็วๆ นี้ ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ทาง iParty BKK มีของขวัญพิเศษที่เหมาะกับทุกคนที่กำลังมองหาของขวัญให้ผู้รับประทับใจ อย่างบอลลูนหัวใจยักษ์ ที่บอกเลยว่าแค่ถือไปมอบให้ใคร รับรองว่าคนต้องหันมองตลอดทางค่ะ(ยิ้ม)

This image has an empty alt attribute; its file name is S__13132265_0-1024x1000.jpg

​​“สุดท้าย มิ้นมองว่าธุรกิจของเราเป็นร้านที่ขายความสุข และโมเมนต์พิเศษ จึงไม่ได้หยุดแค่ที่ลูกโป่ง แต่อะไรที่ทำแล้วงานดูพิเศษขึ้น ครบขึ้น ได้สร้างประสบการณ์และความสุขให้ลูกค้า เราก็ยินดีทำเต็มที่ค่ะ ขอแค่ให้คุณลูกค้าประทับใจ เราก็มีความสุขแล้ว”

ไขที่มา ‘รูปทรงหัวใจ’ สัญลักษณ์ยอดฮิตในไอเท็มแห่งความรัก

Alternative Textaccount_circle

รู้หรือไม่! ‘รูปทรงหัวใจ’ ที่เป็นกิมมิกของไอเท็มช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์มีที่มาจากอะไร

ช่วงนี้มองไปทางไหนบรรยากาศก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรักในวันวาเลนไทน์ เพราะไม่ว่าจะสถานที่หรือไอเท็มไหนๆ ที่วางขายเป็นคอลเล็คชั่นพิเศษก็พากันประดับประดาด้วยสีแดง ชมพู ดอกกุหลาบ และสัญลักษณ์ ‘หัวใจ’ ที่เราแสนคุ้นตาเมื่อพูดถึงคำว่า ‘ความรัก’

หากพูดถึงสัญลักษณ์ของ’ความรัก’ รูปหัวใจคงเป็นลิสต์ลำดับแรกที่เรานึกถึง แต่ทุกคนเคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่า ทำไมหัวใจถึงวาดด้วยรูปทรงแบบนี้ ‘❤’ ? เพราะหน้าตาของมันก็ไม่ได้ละม้ายคล้ายกับอวัยวะที่ใช้สูบฉีดเลือดเลย ฉะนั้นเราขอพาทุกคนมาไขข้องใจนี้ไปด้วยกัน

หากค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตคงเห็นมาหลายข้อสันนิษฐาน ไม่ว่าจะเป็น ❤ ถูกเลียนแบบขึ้นมาจากผลของพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งชื่อว่า ‘silphium’ ซึ่งมีสรรพคุณรักษาโรคต่างๆ รวมถึงยังเป็นสมุนไพรที่ช่วยคุมกำเนิดในสมัยกรีกโรมันโบราณ ทำให้คนเชื่อว่าพืชดังกล่าวมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับเพศและความรัก

และอีกทฤษฎีหนึ่งก็บอกไว้ว่ารูปทรงของหัวใจมาจากใบไอวี่ที่เป็นตัวแทนของความนิรันดร์ เพราะไม่ว่าฤดูกาลจะผันเปลี่ยนอย่างไรต้นไม้ชนิดนี้ก็ยังเขียวชอุ่มอยู่เสมอ คนจึงนำมาใช้แทนสัญลักษณ์ของความรักนั่นเอง

ใครจะคิดว่าสัญลักษณ์ ‘รูปทรงหัวใจ’ บนไอเท็มช่วงวาเลนไทน์จะมีความซับซ้อนขนาดนี้ และเราก็หยิบมาฝากถึง 2 ทฤษฎี หลังจากอ่านจบแล้วคิดว่าอันไหนพอเป็นไปได้มากที่สุดเอ่ย?


กลุ่มอลิอันซ์เปิดโผ 5 ความเสี่ยงสำคัญของธุรกิจไทย

account_circle

กลุ่มอลิอันซ์ เปิดเผยรายงาน Allianz Risk Barometer ซึ่งวิเคราะห์จากข้อมูลเชิงลึกของนักบริหารความเสี่ยงกว่า 3,000 คน ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศไทยในปี 2567 ชี้ให้เห็นว่า การเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก และความเสี่ยงด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นความเสี่ยง 2 อันดับแรกที่มีคะแนนด้านความเสี่ยงใกล้เคียงกัน ตามมาด้วยภัยทางไซเบอร์ (อันดับ 3) เช่น มัลแวร์เรียกค่าไถ่ การละเมิดข้อมูลและการหยุดชะงักด้านไอที ภัยไฟไหม้และการระเบิด (อันดับ 4) และเทคโนโลยีใหม่ (อันดับ 5) เช่น ความเสี่ยงจากผลกระทบของ AI และรถยนตร์ไฟฟ้า 

ลาร์สไฮบุทสกี้กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอลิอันซ์อยุธยาประกันภัยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงกำลังกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ บริษัทต่างๆจำเป็นต้องใหความสำคัญกับแผนการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานและความต่อเนื่องทางธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถรับมือกับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวได้”

ประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากภัยทางธรรมชาติ น้ำท่วมในภาคใต้คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมากและส่งผลกระทบต่อครัวเรือนนับหมื่น นับตั้งแต่น้ำท่วมซึ่งเริ่มขึ้นธันวาคมปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนกว่า 70,000 หลังคาเรือนในจังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส บริการรถไฟบางแห่งในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งติดกับมาเลเซียกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากปิดไปหลายวัน เนื่องจากรางรถไฟทรุดตัว ช่วงฤดูฝนในประเทศไทยมักเกิดน้ำท่วมทุกวันเป็นเวลาหลายเดือน แต่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดโดยฝีมือมนุษย์อาจทำให้ฝนตกหนักมากขึ้น

การผลิตข้าวนอกฤดูกาลในเอเชียมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากปัญหาความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ลดลง และผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนิโญอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้ผลผลิตลดลงในช่วงต้นปี 2567 ทำให้อุปทานไม่เพียงพอ ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้น จากการวิเคราะห์ของผู้ค้าข้าวและนักวิเคราะห์ ประเทศไทยซึ่งผลิตข้าวมากเป็นอันดับ 2 ของโลก อาจจะผลิตข้าวนอกฤดูลดลงในไตรมาสแรก และคาดว่าจะมีการส่งออกข้าวน้อยลง 

นอกจากนั้นความเสี่ยงในเรื่องเทคโนโลยีใหม่โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ยังเป็นเรื่องที่ธุรกิจต้องสนใจและคำนึงถึงโดยลาร์สแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่า “การเร่งพัฒนา AI ในปี 2566 ช่วยให้เกิดโอกาสอย่างมากสำหรับธุรกิจต่างๆ และสังคมโดยทั่วไป ในขณะเดียวกัน ยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลที่จะตามมาของเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ ซึ่งปัญหาหลายอย่างที่เรากังวลว่าจะเกิด ได้เกิดขึ้นจริงแล้วในอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ ศักยภาพของ AI ในการพลิกโฉมธุรกิจจะพัฒนาขึ้นไปอีก โดยจะสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรมและทุกด้านของชีวิตตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ในฐานะเทคโนโลยีอเนกประสงค์”

เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ผลกระทบด้านความเสี่ยงจาก AI ถือเป็นความเสี่ยงอันดับที่ 5 ของประเทศไทย สื่ออย่างบางกอกโพสต์รายงานว่า 72% ของผู้สำเร็จการศึกษาชาวไทยอาจตกงานเพราะ AI ภายในปี 2573 โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานธุรการและการจัดการสำนักงานทั่วไปที่ขาดทักษะเฉพาะด้าน นอกจากแผนที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบด้าน AI แล้ว แนวทางสำคัญของยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้าน AI แห่งชาติของประเทศไทยที่เปิดตัวในปี 2565 ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถด้านการศึกษาและกำลังคนที่เกี่ยวข้องกับ AI รายงานความคืบหน้าในเดือนสิงหาคม 2566 ให้ข้อมูลไว้ว่า รัฐบาลได้อนุมัติแผนการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะด้าน AI แล้วเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของภาคอุตสาหกรรม

ชาล็อต ออสติน

ชาล็อต ออสติน นางเอก มนต์รักลูกทุ่ง เวอร์ชั่นที่ 5ของประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
ชาล็อต ออสติน
ชาล็อต ออสติน

ขึ้นแท่นเป็น “นางเอก” ครั้งแรก และเป็น “นางเอกเวอร์ชั่นที่ 5” ของละครและภาพยนตร์ในตำนาน “มนต์รักลูกทุ่ง” โดยสานต่อบท “ทองกวาว” จากนางเอกรุ่นพี่ โดยเวอร์ชั่นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2513 คือ เพชรา เชาวราษฎร์ เวอร์ชั่นละครในปีพ.ศ. 2538 น้ำผึ้ง ณัฐริกา ส่วนในปีพ.ศ. 2548รับบทโดย กบ สุวนันท์ และ จ๊ะ จิตตาภา ในปีพ.ศ. 2554พอมาในเวอร์ชั่นปี 2567 แน่นอนว่า ชาล็อต ออสติน ถูกจับตามองมากที่สุดว่าเธอจะเป็น “ทองกวาว” ในละคร “มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗” ได้ดีแค่ไหน? โดย สาวชาล็อต เผยถึงบท “ทองกวาว” ในเวอร์ชั่นนี้ว่า

ปี พ.ศ. 2513 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์
ปี พ.ศ. 2538 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย ตั้ว ศรัณยู และ น้ำผึ้ง ณัฐริกา
ปี พ.ศ. 2548 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ และ กบ สุวนันท์ คงยิ่ง
ปี พ.ศ. 2553 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ และ จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม

สัมภาษณ์ ชาล็อต ออสติน นางเอก มนต์รักลูกทุ่ง เวอร์ชั่นที่ 5ของประเทศไทย

มนต์รักลูกทุ่ง

“รู้สึกว่า ทองกวาว เป็นคนที่สวย แสบ อ่อนโยน สามคำนี้ เป็นคนที่แบบต้องเป็นคนสวย เป็นดาว ความแสบคือเป็นเหมือนเด็กแก่น คอยแกล้ง แล้วก็เป็นคนซนๆ โก๊ะๆ อ่อนโยนด้วย ไม่ได้แบบแสบซนแบบกัาวร้าว แต่แซบซนแบบอ่อนโยน แต่ต้องเป็นคนที่เราอยากอ่อนโยนด้วยเท่านั้น อย่าง สายใจ แสบซนมา เราก็แสบซนกลับ” ซึ่งเธอบอกว่า ทองกวาว เวอร์ชั่นนี้ สู้คนนะ!!

“ใช่ค่ะ ถ้าดูในละครอยากให้ดูต่อไปเรื่อยๆ จะเห็นถึงความเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ รักตัวเองจะประมาณว่า ถ้าพี่คล้าว รัก ทองกวาว จริง ต้องทำทุกอย่างให้ ทองกวาว เห็นว่ารัก แต่ถ้าสมัยก่อนผู้ชายไม่รักก็จะแบบเศร้า ตัวเองไม่ดีพอ ไม่รักตัวเอง พอมาเวอร์ชั่นนี้คือแบบรักตัวเอง ถ้าไม่ดีพอคือฉันปล่อยเธอนะ”

สิ่งที่ดีที่สุดของการรับบทเป็น “ทองกวาว” ของชาล็อตคืออะไร? เราถามต่อ

“คือการได้รับบทเป็น ทองกวาว ค่ะ ด้วยความที่เวอร์ชั่นก่อนๆ ตัวละครทองกวาวคือ ทำได้ดีมาตลอด เราเลยรู้สึกว่าห้ามต่ำกว่ามาตรฐาน ต้องไม่เท่าหรือว่าสูงกว่ามาตรฐาน ถือเป็นตัวละครที่เป็นตำนาน เป็นตัวละครที่ไม่ใช่ใครก็ได้ ต้องเหมาะจริงๆ ที่จะสามารถถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ว่านี่คือ ทองกวาว ในเวอร์ชั่นใหม่และเก่า ยากมากๆ แต่ก็ทำออกมาได้ค่ะ”

ชาล็อต ออสติน

สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเป็น “ทองกวาว” ในเวอร์ชั่นนี้คือ?

คือการต้องทิ้งความเป็นตัวเองไป เพราะเราไม่ได้เล่นเป็นตัวเอง เราเล่นเป็นทองกวาว คนคนนี้ ทองกวาวเวอร์ชั่นใหม่ แต่ก็ต้องเอา ทองกวาว เวอร์ชั่นเก่ามาใส่ไปด้วย ทำให้คนนึกเป็นภาพจำ สิ่งที่ยากคือ จะสื่อสารออกมายังไงให้คนจำว่านี่คือ ทองกวาว ค่ะ”

ความแตกต่างของ ทองกวาว กับ ชาล็อต อยู่ตรงไหน?

“ทองกวาว จะเป็นคนที่สู้เพื่อความรักมากเกินไป ในเรื่องคือมีตัวเลือกมากมายมาให้เลือก แต่ไปเลือกคนคนเดียวที่เราไม่รู้ว่าอนาคตจะมีด้วยกันหรือเปล่า แต่ถ้าขีวิตจริง ถ้าเค้าไม่ได้ดีพอเท่าหนู หรือมากกว่าหนู หนูก็ไม่เอาดีกว่า หนูทำงานหาเงินเองได้ รักตัวเองดีกว่า แต่ ทองกวาว จะเป็นแบบไม่ได้ต้อง พี่คล้าว ซึ่งเราไม่ใช่แบบนั้น ส่วนความเหมือนคือเป็นนักสู้ สู้เพื่องาน สู้เพื่อเพื่อน สู้เพื่อความรักจนถึงที่สุด สุดท้ายคือถ้าทองกวาวไม่ได้ลงเอยกับพี่คล้าว แต่ก็ถือว่าสู้แล้ว แต่ถ้าสู้แล้วลงเอยกันด้วยดี ก็ถือว่าสู้สำเร็จเพื่อความรัก”

ชาล็อต ออสติน

นอกจากเป็น “นางเอก” แล้ว เธอต้องสวมบทเป็น “นักร้อง” ร้องเพลงประกอบในละครเรื่องนี้ด้วย!!

เครียดกว่าตอนคอนเสิร์ตอีก เพราะว่าอันนี้คือประกอบละครที่มันจะอยู่กับละครเรื่องนี้ไปตลอด เพลงนี้ ละครเรื่องนี้ ตัวเรา ทองกวาว2567 ก็เลยรู้สึกว่าต้องทำออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งกว่าจะได้ รักเธอที่สุด เพลงเดียวเนี่ย หนูแก้ 3 รอบ รอบแรกรู้สึกร้องแข็งไป รอบที่ 2 ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเข้ากับทำนอง เลยขอแก้รอบที่3 ลดเสียงตัวเอง เหมือนบิดเสียงตัวเองให้ดูใส ดูน่ารัก เพราะเวลาเอาไปประกอบกับฉาก มันจะได้เข้ากับฉากละคร พวกทำนองเนื้อเพลงที่มีความน่ารัก พอผสมรวมกันก็จะเฟอร์เฟคมากกว่าเดิม ที่ต้องแก้เพราะตอนแรกรู้สึกเป็นชาล็อตก็เลยออกมาแข็ง เพราะว่าเสียงเราทุ้ม พอรอบ 3 รู้สึกว่าเป็น ทองกวาว ร้องเพลงนี้ให้ พี่คล้าว มันก็เลยออกมาตามนั้น ถ้าดูละครนะ ก็จะรู้ว่า ทองกวาว เนี่ยแสบซนซ่า อยู่กับพี่คล้าวจะเป็นแบบตัวเล็กตัวน้อย ฟีลคลั่งรัก เขินๆ อายๆ ค่ะ”

ชาล็อต ออสติน

ทำไมคนดูต้องดู มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗

“อยากให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ความทันสมัยของ มนต์รักลูกทุ่ง ถึงชื่อเรื่องมันจะเก่า แต่เราเพิ่ม 2567 ให้คนได้รู้ว่าเป็นเรื่องของปัจจุบัน แต่เราก็เอามารีเมคได้ในอีก10 ปีข้างหน้าก็อาจจะมี มนต์รักลูกทุ่ง เหมือนกัน มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ก็อยากให้ติดตามในเวอร์ชั่นนี้ ด้วยรู้ว่าต้องมีเปรียบเทียบ แต่ดูให้สนุกไม่ต้องเปรียบเทียบอะไรเยอะ ดูให้บันเทิงดีกว่า อยากให้เห็นถึงการแสดงของทุกคน เพราะทุกคนที่แสดงต้องมีผลงานอีกมากมายแน่นอนค่ะ”

เพอร์เซส

มุมมองความรัก 5 หนุ่ม เพอร์เซส เล่าผ่านสีดอกกุหลาบสื่อรักวันวาเลนไทน์

Alternative Textaccount_circle
เพอร์เซส
เพอร์เซส

เทศกาลวาเลนไทน์วันแห่งความรักคงหนีไม่พ้นดอกไม้สื่อรัก อย่างดอกกุหลาบ ซึ่งดอกกุหลาบแต่ละสี ก็บ่งบอกมุมมองความรักที่ต่างกันไป มาดูกันว่าหนุ่มๆ PERSES ( เพอร์เซส ) ให้ดอกกุหลาบสีไหนแทนมุมมองความรักของพวกเขา

เน-ณรัณ วิกัยรุ่งโรจน์ แร็ปเปอร์ประจำวง PERSES หนุ่มติสท์นักอ่าน คนนี้ชอบดอกกุหลาบสีชมพูอ่อน “ผมคิดว่าสีชมพูอ่อนเป็นสีที่น่ารัก และมีเสน่ห์ครับ เหมือนความรักหวานๆ อ่อนโยน น่าทะนุถนอม น่าหลงใหล แบบที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ของกันและกัน ถ้าให้ใครไป และเขาเอาไปใส่แจกันตกแต่งห้อง ก็น่าจะทำให้บรรยากาศห้องสดใสขึ้นด้วยครับ”

จั๋ง-วิกร บูรณภิญโญ พ่อหนุ่มไมโครเวฟประจำวง PERSES “ผมชอบดอกกุหลาบสีขาว เพราะ ให้ความรู้สึกน้อยเเต่มาก ซึ่งในมุมมองความรักของผม ดอกกุหลาบสีขาวเป็นเหมือนความรักที่บริสุทธิ์ เต็มไปด้วยความจริงใจ แบบที่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ไม่ต้องการสิ่งใดตอบเเทน และสีขาวก็เหมาะสมและลงตัวกับทุกๆอย่างได้ง่าย ไม่ว่าจะเอาไปตกแต่ง หรือมอบให้ใคร ก็เข้าได้ทุกบรรยากาศ และเหมาะกับทุกคนครับ”

เพอร์เซส

กฤติน-กฤติน สอสูงเนิน เมนโวคอล สายแฟสุดคูล จากวง PERSES ที่ชื่นชอบความลึกลับ ทำให้กฤตินชอบดอกกุหลาบสีดำ “ผมชอบสีดำ เพราะผมรู้สึกว่าเป็นสีที่ลึกลับ มีเสน่ห์ ดุดันและน่าค้นหา ถ้าจะนิยามความรักสำหรับผม รู้สึกว่าถ้าเราได้รักใครซักคน ผมจะมั่นคงในความรัก ทุ่มเทให้เขาหมดหน้าตัก คงจะรักเขาไม่เปลี่ยนแปลง และคงไม่มีใครมาเปลี่ยนใจผมได้ครับ เพราะถ้าผมชอบอะไรแล้วคงยากที่จะเปลี่ยนไปให้ไม่ชอบได้ และผมก็มั่นคงในความรู้สึกของตัวเองครับ”

เพอร์เซส

ปาล์ม-พีรวิชญ์ พินธะ เมนแดนซ์สุดเท่ พ่อหนุ่มจิตใจดีอย่างปาล์ม คงหนีไม่พ้นสีชมพู “ผมชอบดอกกุหลาบสีชมพู เพราะสำหรับผมสีชมพูเหมือนเป็นตัวแทนของความรัก เป็นสีที่ให้ความรู้สึกถึงความสุข ความอบอุ่น มีเสน่ห์ และสดใส เหมือนความรักที่อบอุ่น น่ารัก หวานๆ ซึ่งส่วนตัวผมเป็นคนเรียบง่าย ถ้าได้มีความรักก็จะทะนุถนอมความรักนั้น อย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้เป็นความรักที่อบอุ่นสดใสและมีความสุขครับ”

ปลั๊กกี้-ธรากร คำสิงห์ ความสดใสประจำวง PERSES “ผมชอบดอกกุหลาบสีขาวครับ เพราะเปรียบเหมือนความรักที่บริสุทธิ์ ยิ่งถ้าเป็นช่อรวมกันเยอะๆ ทำให้รู้สึกว่ามีพลัง สง่างาม และสวยมาก ซึ่งนิยามความรักสำหรับผม สีขาวทำให้รู้สึกถึงความรักที่บริสุทธิ์ ถ้าผมได้รักใครสักคน ผมคงไม่หวังสิ่งไหนตอบแทน มีแต่ความรัก และความสุขที่อยากจะมอบให้ครับ”

พูดถึงเรื่องความรักทั้งที ขอแอบเปรยไว้เลยว่าวาเลนไทน์นี้ เพอร์เซสกำลังจะปล่อยเพลงรักสุดเศร้าออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันกับเพลง คนใกล้ที่คิดไกล (Far Too Close) ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 18:00 น. รอติดตามฟังกันได้ที่สตรีมมิ่งทุกช่องทาง และขอฝากว่า มุมมองความรักของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไปตามความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ที่ได้พบเจอ แต่สิ่งหนึ่งที่หนุ่มๆ PERSES อยากจะบอก คือความรักตัวเอง กล้าที่จะคิด และทำเพื่อความสุขของตัวเอง มอบของขวัญให้คนที่เรารักแล้ว อย่าลืมมอบของขวัญให้ตัวเองกันด้วย

ติดตามอัพเดทข่าวสาร PERSES ได้ทาง: Youtube: gnest_official, Instagram/Twitter /TikTok: @perses_official @gnest_official , Facebook: Perses และ Gnest #PERSES #PERSES_TH #GNEST #GMMMUSIC #PERSES_คนใกล้ที่คิดไกล #valentineday #TPOP

Coach Love น้ำหอมใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความรักอันเป็นความสดใส มีชีวิตชีวา

account_circle

Coach Love สื่อถึงความรักอันอบอุ่นและสนุกสนานผ่านมุมมองของปัจเจกบุคคล เป็นการยกย่องความรักในทุกรูปแบบและการแสดงออกที่แตกต่างกัน ถ่ายภาพโดยผู้กำกับและช่างภาพ Juergen Teller โดยแคมเปญนี้รวบรวมเหล่าคู่รักกันในชีวิตจริงที่กำลังแบ่งปันช่วงเวลาการแสดงความรักที่มีร่วมกันผ่านภาษารักอันเป็นเอกลักษณ์ และน่าจดจำในแบบฉบับของแต่ละคู่ ทำให้เราย้อนนึกถึงคติอันโดดเด่นของความรักว่าเป็นสิ่งที่มากกว่าแค่สิ่งที่คุณสัมผัสแต่เป็นสิ่งที่คุณล้วนรู้สึกภายในใจ  

น้ำหอมจากกลิ่นดอกไม้และผลไม้ เปิดตัวด้วยท็อปโน๊ตที่เติมพลังของสตรอเบอร์รี่ป่า เสริมด้วยฮาร์ทโน๊ตที่เข้มข้นและนุ่มนวลราวกำมะหยี่ของดอกกุหลาบแดง ปิดท้ายสู่กลิ่นไม้ซีดาร์ที่ให้ความรุ้สึกอบอุ่น THE INSPIRATION แรงบันดาลใจCoach Love ได้รับแรงบันดาลใจจาก วิธีที่เราแสดงความรักต่อตัวเราเองและผู้อื่น นักปรุงน้ำหอม Antoine Maisondieu สร้างสรรค์กลิ่นอันมีชีวิตชีวาด้วยระดับกลิ่นที่หลากหลาย ซึ่งสื่อถึงธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของความรัก ที่แม้จะเป็นภาษาที่คนทั่วโลกต่างรู้จักและสัมผัสได้ แต่ต่างคนต่างมีวิธีแสดงออกต่างกันไปอย่างเอกเทศ การผสมผสานความขี้เล่นของสตรอเบอรี่ป่าและส้มแมนดารินที่ชุ่มฉ่ำ และความเข้มข้นของดอกกุหลาบกำมะหยี่และดอกมะลิ และความอบอุ่นของไม้ซีดาร์และอำพัน Coach Love สนับสนุนให้เราเปิดโลกในการแสดงภาษารักของเราอย่างกล้าหาญ จริงใจและที่สำคัญที่สุด คือการแสดงความรักในแบบของตัวเราเอง

“Coach Love เฉลิมฉลองเสรีภาพในการแสดงความรักกับคนที่เรารัก เพื่อปลุกความรู้สึกนี้ในแคมเปญ โดยสัญชาตญาณฉันรู้ว่า Juergen Teller จะสามารถจับภาพความรักและใกล้ชิดที่บ่งบอกได้ถึงกลิ่นหอมมีเสน่ห์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อรวมกันแล้ว กลิ่นหอมและจินตภาพจะส่งผลต่อความรูปแบบความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ และตอกย้ำความเชื่อของฉันที่ว่า เมื่อเราแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริง เราสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นเช่นเดียวกัน” – สจวร์ต วีเวอร์ส ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของโค้ช (Stuart Vevers ,Coach Creative Director)

เซเลบริตี้

เปิดความหมายของ “เวลา” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจจาก 8 เซเลบริตี้

account_circle
เซเลบริตี้
เซเลบริตี้

 “เวลา” เป็นสิ่งที่ทุกคนได้มาอย่างง่ายได้ แต่ไม่อาจรู้ถึงจุดสิ้นสุด วันนี้ แพรว! จะพามาเปิดนิยามคำว่า เวลาของเซเลบริตี้ทั้ง 8 ท่าน ได้แก่

เจย์ สเป็นเซอร์, คุณชายอดัม- ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล, ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล, ปรางค์-อภินรา ศรีกาญจนา, ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์, เป๋า-วฤธ หงสนันทน์, แพม-สรีนา ธีระวิทยภิญโญ และ ริชชี่-ชวัล เจียรวนนท์ ที่ได้ร่วมแคมเปญ My Grand Seiko My Pride บอกเล่าเรื่องราวความภาคภูมิใจกับความสำเร็จของเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัว Heritage Collection รุ่นไอคอนิก “Sakura” จาก Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก)

เปิดความหมายของ “เวลา” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจจาก 8 เซเลบริตี้

ความหมายของ “เวลา” และคุณค่าของเวลา

เจย์ สเป็นเซอร์ แฟมิลีแมน ผู้บริหารแห่ง Woof Pack Bangkok ที่ทุกเวลาให้ความสำคัญกับครอบครัวและการช่วยเหลือสังคม

“เวลา เป็นสิ่งที่ล้ำค่า เพราะเราไม่เคยรู้ว่าแต่ละคนมีเวลาเท่าไหร่ เราจึงต้องใช้เวลาของคุณให้ดีที่สุด ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เวลาที่ทำเพื่อครอบครัวและพยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเราจะเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ ถ้าให้จำกัดความของ ‘เวลา’ น่าจะเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดที่เรามีในชีวิต มีคุณค่ามากกว่าเงินและทุกสิ่งทุกอย่าง”

คุณชายอดัม- ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้กำกับมากฝีมือ ที่ใช้เวลาทุกวินาทีด้วยแพสชันที่ต้องไปถึงเส้นชัย

“เวลา เป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ เพราะทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ ด้วยอาชีพเป็นคนทำภาพยนตร์ เวลาเดินลงจากรถแล้วกลับขึ้นมาอีกที เวลาทั้งวันก็หายไปแล้ว ดังนั้นเวลาของผมมีน้อยมากจริงๆ บางคนอาจจะมองเวลาเป็นสิ่งที่เราได้มาอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องไขว่คว้า แต่สำหรับผมชีวิตเรามีเวลาจำกัด สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันคือ เวลาค่อยๆ หายไป ดังนั้นสำหรับผม เวลาเป็นของที่มีค่าที่สุดเสมอ ไม่มีอะไรที่มีค่าเท่ากับเวลา ผมมักจะพูดกับคนอื่นเสมอว่าเวลาเป็นของเรา เพราะผมให้มูลค่ากับเวลาเสมอ การทำอะไรก็ตามแต่ ผมให้คุณค่ากับเวลาทุกครั้ง ผมจึงชนะเสมอไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ดังนั้นสำหรับผม เวลาคือทุกอย่าง”

ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล นักธุรกิจหนุ่มความสามารถรอบด้านบอกกับแพรว ว่า

“เวลาเป็นสิ่งที่เอากลับคืนมาไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดได้ ดังนั้นจะทำอะไรก็ต้องคิดก่อนทำ และหากมีโอกาสก็ควรคว้ามันไว้ เพราะโอกาสแบบนั้นอาจจะไม่กลับมาอีกแล้วก็ได้”

ด้าน ปรางค์- อภินรา ศรีกาญจนา ภรรยาคุณก้อง-กรุณ ได้ให้จำกัดความว่า

“คนเรามีโอกาสไม่เท่ากัน แต่ทุกคนมีเวลาเท่ากัน คือ 24 ชั่วโมง ดังนั้นหากเรารู้จักจัดการเวลาในแต่ละวันอย่างคุ้มค่า ก็ถือว่าได้เปรียบ เพราะมีโอกาสได้ทำสิ่งต่างๆ มากกว่าคนอื่น” 

ศิลปินหนุ่ม ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ เป็นอีกหนึ่งเซเลบริตี้ที่ให้คำนิยามของเวลา คือ ความใส่ใจ ทั้งด้านหน้าที่การงาน และเรื่องส่วนตัว

“ผมว่าเวลา เป็นเรื่องของความใส่ใจ โดยเฉพาะการตรงต่อเวลา ผมว่ามีนัยยะที่บอกได้ว่า การมาตรงเวลาคือ การใส่ใจ ผมไม่อนุญาตให้ตัวเองมาสาย เพราะเราให้ความสำคัญกับการนัดครั้งนี้  เหมือนคำขวัญของทหารเรืออเมริกัน Early is on time, on time is late and late is unacceptable!” (จากนักเขียนชาวอเมริกัน Eric Jerome Dickey) ตัวผมเองไม่เคยเห็นความเสียหายของการมาก่อนเวลาเลย มาก่อนเวลาอย่างมากก็เท่าตัว อย่างดีคือได้เปรียบ ได้ที่จอดรถดีกว่า ได้นั่งพัก ได้ที่หายใจเข้าสักทีก่อนเข้าไปทำงาน ดังนั้นเรื่องเวลาจึงสำคัญมาก มันคือทรัพยากรที่เราไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่ แต่มันมีจำกัด”

เป๋า-วฤธ หงสนันทน์ เซเลบริตี้หนุ่มที่ตอนนี้ทุ่มเทเวลาให้กับการรับช่วงธุรกิจของครอบครัว บอกว่า 

“เวลา เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เวลาที่เรามีความสุขเวลามักผ่านไปเร็วเสมอ แต่ทางกลับกันเวลาเรามีความทุกข์ เวลามักเดินช้า แต่จริงๆ เราทุกคนมีเวลาเท่ากัน คือ มีเวลาจำกัด ทุกคนรู้ว่าหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง แต่เราไม่รู้ว่าเราจะใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงในทุกๆวันไหม เราจึงควรใช้เวลาให้คุ้มค่า”

ริชชี่-ชวัล เจียรวนนท์ นักธุรกิจหนุ่มที่มีดีกรีถึงอดีตนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมชาติไทย กับคำนิยามคำว่า

เวลา ที่เปลี่ยนไปเวลา “ปีนี้ผมจะอายุ 30 ปี แล้วก็ทำให้การมองเวลาเปลี่ยนไป จากตอนสมัยเด็กๆ เรามักทำอะไรตามใจโดยไม่เคยให้ราคากับเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน แต่พอโตขึ้น บทบาทหน้าที่เปลี่ยนไป ทำให้เข้าใจว่า เวลา เป็นทรัพยากรที่ไม่ได้มีไม่จำกัด ดังนั้นต้องเลือกใช้เวลาให้ฉลาดขึ้น ผมว่ายิ่งเราโตขึ้น ความรับผิดชอบมากขึ้น สวนทางกับเวลาที่มีน้อยลง”

เซเลบริตี้สาว แพม-สรีนา ธีระวิทยภิญโญ ทายาทรุ่นที่ 2 แห่ง Scintilla Gioielli  ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องประดับไฟน์จิวเวลรีชั้นนำจากอิตาลีมากกว่า 20 แบรนด์ ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเวลา 

“เวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เรารู้ว่าเรามีเวลาเท่าไหร่ในหนึ่งวัน ดังนั้นต้องจัดสรรเวลาให้ Work-life Balance หากเรารู้จักบริหารเวลาให้ถูกต้อง เราก็จะไม่สูญเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ สำหรับแพมเวลา คือ สิ่งที่สะท้อนว่าเราให้คุ้มค่ากับใครบ้าง อย่างแพมเองนอกจากเวลาทำงานแล้ว ต้องแบ่งเวลาให้ครอบครัว คนรัก เพื่อน”


เสน่ห์เย้ายวนใจ Fred “Pretty Woman In My Heart” จี้รุ่นใหม่ในคอลเล็คชั่นสุดไอคอนิค

account_circle

ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ Ferd เผยโฉมสร้อยคอรุ่นใหม่ภายใต้คอลเล็คชั่น Pretty Woman ตัวแทนแห่งถ้อยภาษาในการสื่อรัก ความขี้เล่นสนุกสนานเผยให้เห็นถึงหลากหลายมิติของความรักด้วยเอกลักษณ์แห่งการใช้ “หัวใจที่ซ้อนภายในหัวใจ” ส่องประกายออกมาอย่างเย้ายวนใจ

เสน่ห์เย้ายวนใจ Fred “Pretty Woman In My Heart” จี้รุ่นใหม่ในคอลเล็คชั่นสุดไอคอนิค

สำหรับตัวจี้ “Pretty Woman In My Heart” ถือเป็นจี้รุ่นใหม่ล่าสุดในคอลเล็คชั่น โดยมีตัวเรือนเป็นรูปหัวใจสีพิงค์โกลด์ประดับด้วย เพชรเรียงล้อมรอบ พร้อมจุดเด่นอย่างหัวใจสีชมพูที่ทำมาจากแซฟไฟร์ขนาด 0.3 กะรัตอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของหัวใจดวงใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และความอ่อนโยน ตัวสายสร้อยยังมีหัวใจดวงเล็ก ๆ ดวงหนึ่งประดับอยู่อย่างอสมาตรบน สายโซ่ที่ทำจากทองและอีกดวงตรงปลายสายเพื่อคล้องกับตัวล็อกได้อย่างสง่างาม

นอกจากจี้รูปทรงหัวใจซ้อนหัวใจสุดไอคอนิคแล้ว ในฤดูกาลนี้ FRED ยังได้ออกเซ็ตจิเวลรี่รุ่น Multiple มาในคอลเล็คชั่น Pretty Woman อีกด้วย ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรักที่มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักสำหรับลูกหลาน เพื่อนพี่น้อง หรือ ระหว่างคนรัก โดยมีการเพิ่มหัวใจเป็น 5 ดวงที่ประดับเพชรอยู่ถึง 75 เม็ดมาร้อยเรียงบนสายสร้อยคอแบบโชคเกอร์อย่างประณีต และพริ้วไหวในสีไวท์โกลด์และพิงค์โกลด์ พร้อมด้วยสร้อยข้อมือรูปทรงเดียวกันทว่ามีเพชรประดับอยู่บนหัวใจสองดวงอย่างสวยงาม

ต่างหูในเซ็ตนี้เองก็มีทั้งแบบครอบ (ear cuff) และแบบระย้าที่มาในทรงรูปหัวใจทั้งสีไวท์โกลด์และพิงค์โกลด์ ประดับด้วยเพชร เม็ดงามตรงจุดกึ่งกลาง พร้อมด้วยเพชรที่ร้อยเรียงกันเป็นสายเชื่อมโยงระหว่างตัวเรือนหัวใจยาวขึ้นไปถึงตัวก้าน สามารถสวมใส่ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะใส่เพียงข้างเดียวหรือใส่คู่กันทั้งสองข้างก็เข้าเซ็ตกันอย่างโดดเด่น

ด้วยรูปทรง ขนาด และวิธีการสวมใส่ที่หลายนี้เอง ทำให้ทุกคนได้สนุกไปกับคอลเล็คชั่น Pretty Woman ที่มีลูกเล่นหลากหลายให้ผู้สวมใส่ได้แสดงออกความเป็นตัวเองอย่างใจปรารถนา รูปทรงหัวใจซ้อนหัวใจสุดไอคอนิคเองก็สามารถ เสริมได้ทุกลุคไม่ว่าจะเป็นวันสบายๆ หรือวันที่ต้องเป็นทางการ เปรียบดั่งการเพลิดเพลินไปกับหลากหลายมิติของความรักได้ อย่างสนุกสนานและเป็นอิสระ


คิง เพาเวอร์ ฉลองตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ รับพลังปีมังกรจัดงาน KING POWER CHINESE NEW YEAR 2024POWER YOUR LUCK, POWER YOUR LIFE

account_circle

คิง เพาเวอร์ เปิดศักราชฉลองการเริ่มต้นใหม่เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ ต้อนรับปีมังกรจัดงาน
KING POWER CHINESE NEW YEAR 2024 POWER YOUR LUCK, POWER YOUR LIFE ส่งมอบพลังมังกรที่นำพาแต่ความโชคดี ความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่งมั่งมี สุขมงคล และสมหวังให้กับลูกค้า ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้ง
ชาวไทยและต่างชาติ จัดเต็มกับกิจกรรมสุดพิเศษให้ทุกคนได้มาร่วมกิน เที่ยว ขอพร และสนุกของคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง พร้อมโปรโมชั่นพิเศษฉลองตรุษจีน ให้ทุกคนได้ทะยานสู่ความโชคดีไปด้วยกัน ตลอด 18 วัน ตั้งแต่วันที่
1-18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำพิธีเปิดงานจัดขึ้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น.
ณ ฟาวน์เท่น สแควร์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สร้างปรากฎการณ์ครั้งแรกกับขบวนเชิดมังกรสุดยิ่งใหญ่ ณ ถนนรางน้ำ โดยได้รับ
เกียรติ จาก คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการพิธีเปิดงาน ร่วมด้วย
พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร และคุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “การจัดงานเฉลิมฉลองตรุษ
จีนในครั้งนี้ เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และพัฒนาย่านรางน้ำให้เป็นเดสติเนชั่นการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพมหานคร และส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้รู้จักวัฒนธรรมและประเพณีไทย-จีน ตลอดจน
ได้สัมผัสความอร่อยของอาหารนานาชนิด โดยได้คัดสรรจากร้านชื่อดังที่การันตีความอร่อยโดย Michelin Guide และร้านชั้นนำที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ซึ่งกิจกรรมในวันนี้เป็นเพียงหนึ่งในกิจกรรมเริ่มต้นของกลุ่มบริษัท คิง เพา
เวอร์ เพื่อพัฒนาย่านรางน้ำ ที่จะต่อยอดในการสร้างชุมชน และเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวให้กับกรุงเทพมหานครในอนาคต”สำหรับกิจกรรมตลอด 18 วัน เริ่มต้นด้วยกิจกรรมสักการะองค์เทพและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ และ
สนุกกับคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย พบกับความยิ่งใหญ่ของขบวนแห่มังกร นำขบวนโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง,ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว และ
ออฟโรด-กันตภณ จินดาทวีผล และวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 นำทัพโดย หยิ่น-อานันท์ ว่อง พร้อมพบโชว์พิเศษจาก ชามุก-สุชานันท์ มหาพรหมวัน และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 พบ นนท์-ธนนท์ จำเริญ พร้อมชมโชว์สุดตระการตา
จากแดนมังกรอีกมากมาย

ร่วมสักการะองค์เทพนาจา และเทพมังกรเขียว ที่ทุกคนต้องได้สักการะในปีมังกร พร้อม “ลิ้มรสอาหารมงคลร้านดังกว่า 50 ร้าน” พบอาหารมงคลจากร้านอร่อยในตำนานพร้อมการันตี Michelin Guide อีกมากมาย อาทิ ร้านตั้งใจอยู่, ตั้งใจย่าง หมูแดงมิชลิน, MAZE Dining, Cross BKK, MOTT32 BANGKOK, ข้าวขาหมูตรอกซุง, ชานมไข่มุก Chaffeine, กุ้ยช่ายสะพานหัน, ฮ่องเต้กุยช่ายบางกรอบ, ชาม ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก เป็นต้น ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ บริเวณ ฟาวน์เท่น สแควร์ พร้อมให้ทุกคนได้เต็มอิ่มกับอาหารอร่อยที่หลากหลาย ตั้งแต่วันนี้ -18 กุมภาพันธ์ 2567

พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ “ช้อปมั่งคั่ง โชคมั่งมี” กับ 3 ความโชคดีที่จะส่งมอบความสุขไม่รู้จบ โชคดีที่ 1 รับทันทีอั่งเปาส่วนลด 2 ใบ รวมมูลค่า 8,000 บาท โชคดีที่ 2 ลุ้นออกเดินทางสู่แดนมังกร ท่องเมืองมรดกโลก ลี่เจียง แชงกรีลา พิชิตภูเขาหิมะมังกรหยก รับคูปองลุ้นรางวัลทันที 1 ใบ เมื่อช้อปครบทุก 8,000 บาท และโชคดีที่ 3 ลุ้นมังกรทองคำ น้ำหนัก 1 บาท กับกิจกรรมสะสม Dragon Hunter พิเศษ! สมาชิก คิง เพาวเวอร์ SCARLET รับทองคำฟรี 1 สลึง เพียงช้อปครบ 80,000 บาท ในวันที่สมัคร

เชย์ลีน วู้ดลีย์

7 เรื่องไม่ลับแต่บางทีก็ไม่รู้! เชย์ลีน วู้ดลีย์ นักแสดงหญิงขวัญใจฮอลลีวู้ด

Alternative Textaccount_circle
เชย์ลีน วู้ดลีย์
เชย์ลีน วู้ดลีย์

เชย์ลีน วู้ดลีย์ (Shailene Woodley) นักแสดงสาวมาแรงแห่งวงการฮอลลีวู้ด วัย 32 ปี ผู้เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงจากการเป็นนางแบบโฆษณา ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักแสดงจนโด่งดัง และกลายเป็นดาราขวัญใจของวัยรุ่นทั่วโลกในปัจจุบันนี้ ด้วยการฝากฝีมือการแสดงไว้ในผลงานเด่นที่แฟนๆ ต้องรู้จักกันดีอย่าง “The Divergent Series” และ “The Fault in Our Stars” ซึ่งวันนี้ “แพรวดอทคอม” จะพาทุกคนไปรู้จักตัวตนของเธอ แต่บอกเลยว่าเธอมีเรื่องราวและความท้าทายที่จะทำให้คุณต้องทึ่งอย่างแน่นอน

7 เรื่องไม่ลับแต่บางทีก็ไม่รู้! ของ เชย์ลีน วู้ดลีย์   สาวติสท์แห่งวงการ

1.ไม่นิยมพกโทรศัพท์มือถือ

นางเอกสาวจาก “ADRIFT” เป็นคนไม่นิยมพกโทรศัพท์มือถือ เพราะเธอมองว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่คุกคามความเป็นส่วนตัว ดังนั้นเธอจึงชอบที่จะสนทนาพูดคุยกันแบบต่อหน้ามากกว่า นอกจากนี้เธอยังบอกด้วยว่า การไม่พกโทรศัพท์มือถือนี้ทำให้เธอได้เริ่มทำความรู้จักกับคนแปลกหน้า และได้พบเพื่อนใหม่ๆ

เชย์ลีน วู้ดลีย์

2.ไม่ชอบใช้ขวดพลาสติก

ขวดพลาสติกหรือถ้วยกระดาษเป็นอะไรที่ใช้ง่ายและสะดวก แต่ในทางกลับกันมันก็เป็นขยะที่ทำลายโลก เชย์ลีน ไม่ชอบที่จะดื่มน้ำจากขวดพลาสติกหรือถ้วยกระดาษ ดังนั้นเธอจึงมักจะพก เมสัน จาร์ (ขวดน้ำวินเทจ) ติดตัวอยู่ตลอดเวลา

เชย์ลีน วู้ดลีย์

เชย์ลีน วู้ดลีย์

เชย์ลีน วู้ดลีย์

 

เชย์ลีน วู้ดลีย์

3.สนุกกับงานที่เราทำ

คติประจำใจของเธอ หลังจากที่เริ่มเข้าสู่วงการฮอลลีวู้ดอย่างเต็มตัวแล้วคือ จงเป็นในสิ่งที่เราเป็น, จงทำให้เต็มที่สนุกสนานกับการงาน และอย่าละทิ้งการเรียน

4.มองคนจากภายในไม่ใช่ภายนอก

สำหรับมุมมองด้านความรักนั้น เธอเลือกที่จะรักใครคนหนึ่ง โดยการมองลึกลงไปภายในตัวตนของคนๆ นั้นจริงๆ ไม่ใช่การมองแค่เพียงภายนอกเท่านั้นว่าเขาคนนั้นทำอะไรให้คุณตกหลุมรัก

5. น้ำดื่มของเธอมาจากแหล่งน้ำพุธรรมชาติ โดยเธอเป็นคนปีนเขาไปกรองน้ำมาเอง

เธอชื่นชอบการออกเดินทางและผจญภัย งานอดิเรกที่เธอทำบ่อยๆ คือการออกเดินป่าและเดินขึ้นภูเขา โดยเธอมักจะพกเหยือกใบใหญ่ติดตัวไปด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อไปกรอกน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำพุธรรมชาติมาดื่มนั่นเอง

เชย์ลีน วู้ดลีย์

6.ทำความเข้าใจกับบทอย่างถ่องแท้

เธอมีความสามารถด้านการแสดงของเธอได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ซึ่งเธอจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากไม่ได้ศึกษาบทอย่างถ่องแท้ ซึ่งที่ผ่านมาเธอได้รับรางวัลจากหลากหลายเวที อาทิ การเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากบท “อเล็กซานดรา” ในเรื่อง “The Descendants” บทบาทของ “ทริซ ไพรเออร์” จากหนังสือเบสต์เซลเลอร์สุดฮิต “The Divergent Series” ต่อเนื่องด้วยบทบาท “เฮเซล” จากนิยายวัยรุ่น “The Fault in Our Stars” ซึ่งบทบาทในสองเรื่องหลังนี้ส่งให้เธอคว้ารางวัลจากเวที MTV Movie Awards, The Teen Choice Awards มาแล้ว เรียกได้ว่ายืนยันความเป็นขวัญใจฮอลลีวู้ดอย่างเต็มตัว

เชย์ลีน วู้ดลีย์

7.เธอเอาใจใส่เรื่องสุขภาพร่างกาย

เชย์ลีน เป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก โดยการกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย, ออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวช่วยเธอได้อย่างดีมากๆ ในการรับบทนำในผลงานล่าสุด “ADRIFT รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน” ที่ถือได้ว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ เธอก็พร้อมทุ่มสุดตัว โดยวู้ดลีย์ต้องฝึกฝนหลายอย่างก่อนเปิดกล้องเพื่อให้มีทักษะไม่ต่างจากทามี่ตัวจริง ทั้งฝึกล่องเรือใบ เรียนรู้การควบคุมเรือประเภทต่างๆ ร่วมเดือน รวมไปถึงช่วงขณะถ่ายทำที่ถ่ายทำกันกลางทะเลจริงวันละไม่ต่ำกว่า 14 ชั่วโมง เผชิญกับอาการเมาเรือ แสงแดดแรงที่แผดเผา และเล่นซีนกระโดดหน้าผาสูงด้วยตัวเอง

และนี่คือ 7 สิ่งที่นางเอกสาวคนนี้ทำเป็นประจำ ซึ่งแต่ละเรื่องราวก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ ถือเป็นนางเอกสาวที่หัวใจน่าชื่นชมจริงๆ

keyboard_arrow_up