เอมี่-อุทานพร

เปิดวาร์ปนักแสดงเจนเนอเรชั่นใหม่ เอมี่-อุทานพร ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรัก

Alternative Textaccount_circle
เอมี่-อุทานพร
เอมี่-อุทานพร

แจ้งเกิดเด็กใหม่ช่อง 3 กันแบบรัว ๆ ในละคร “เว้าวอนรัก” เพราะความสามารถที่ครบเครื่องมาพร้อมคาแรคเตอร์แสบซนโดนใจ จนแฟนละครยังเอ่ยปากชมสนั่นโซเชียล อย่าง “เอมี่-อุทานพร ฟัน พาสเซ่น” กับบท แวววิภา ละครพีเรียดเรื่องแรก แต่ฝีมือทั้งคู่ไม่ธรรมดาไปได้ไกลแน่นอน งานนี้ไม่พลาดพาไปรู้จักแล้วคุณจะตกหลุมรักและเอ็นดูได้มากขึ้นค่ะ

สำหรับ“เอมี่ อุทานพร ฟัน พาสเซ่น” เป็นลูกครึ่งไทย-เยอรมัน อินสตาแกรม: amily969 Tiktok: uthanporn เกิดวันที่ 12 มีนาคม 2544 อายุ 23 ปี ส่วนสูง 170 ซม. จบปริญญาตรีจากสาขาวิชานาฏศิลป์และศิลปะการแสดงโขนผู้หญิง คณะมนุษยศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เรียกได้ว่าถึงจะเป็นลูกครึ่งแต่หัวใจเป็นไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเธอคนนี้เล่นโขน เป็นยักษ์ พระ หรือนางสีดาได้หมด แถมยังมีสกิลการเต้นแนวสากลหรือร้องเพลงก็ทำได้เช่นกัน ส่วนเล่นกีฬาก็ใช่ย่อย

“เอมี่” เล่าว่า “โอ้โห หนูเล่นกีฬาเยอะมากเลยค่ะ ทั้งขี่ม้าที่เรียนมาตั้งแต่เด็ก ว่ายน้ำ ต่อยมวย ปีนเขา เล่นบาสเกตบอลกับวอลเลย์บอลได้นิดหน่อย และตอนนี้ก็กำลังฝึกกีฬาคาลิสเทนิคซ์อยู่ค่ะ” เห็นเป็นผู้หญิงสายกิจกรรมแอดเวนเจอร์ขนาดนี้ แต่อีกมุมเธอก็เป็นสายบุญเช่นกัน เธอเล่าว่า “ถ้ามีเวลาว่างไม่ได้ไปถ่ายละคร หรือละครปิดกล้องไปแล้ว หนูก็จะไปปฏิบัติธรรม 7 คืน 8 วัน ซึ่งหนูทำแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลย  เพราะว่าที่บ้านท่านทวดสอนกรรมฐาน แต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว และเราก็รู้สึกทำแล้วสบายใจ ก็เลยทำมาจนถึงทุกวันนี้ และถ้ามีเวลาก็จะไปทำบุญปล่อยปลาทำบุญถวายสังฆทาน ก็เป็นทั้งสายบุญสายมูเลยค่ะ หนูรู้สึกว่าอะไรที่ทำให้เราสบายใจไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไปเถอะค่ะ”

เอมี่-อุทานพร

นอกจากนี้“เอมี่” ยังเป็นทาสหมาทาสแมวตัวยงอีกด้วย เธอเม้าท์ถึงลูก ๆ ที่เลี้ยงอยู่ที่บ้านว่า “ตอนนี้มีทั้งแมวทั้งหมาเลยค่ะ น้องแมว 3 ตัว ชื่อแอลลี่, ซีซ่าร์, วอดก้า และเสือ แต่ตัวนี้น้องเขากลับดาวแมวไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังจะเพิ่มมาอีกหนึ่งตัวไม่แน่ใจว่าพันธุ์อะไร เพราะว่าแม่แมวคาบลูกมาทิ้งไว้หน้าบ้าน ซึ่งหนูก็เป็นคนไม่ซีเรียสเรื่องสายพันธุ์ คือถ้าเรารักอะไรก็อยากจะเลี้ยงสิ่งนั้น ส่วนน้องหมาก็มี 2 ตัว ชื่อป๊อกกี้ ส่วนอีกตัวชื่อลีโอค่ะ”

เอมี่-อุทานพร 01

เส้นทางในวงการบันเทิงของ “เอมี่” เริ่มจากแจ้งเกิดกับบท มุกกะ ในละครแอ็กชั่นแฟนตาซี “นรสิงห์” ตอน มารกามเทพ และปังต่อเนื่องกับ “เว้าวอนรัก” และบท หนูนิ่ม ในซีรีส์ “คุณได้ไปต่อ”(To be continued) เจ้าตัวเล่าว่า “จริง ๆ หนูเข้ามาในวงการนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ เคยแคสงานโฆษณา แต่พอมัธยมศึกษาปีที่4 จากเด็กต่างจังหวัดก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ก็เริ่มเข้าสู่วงการเดินแบบ ประกวดมิสทีนไทยแลนด์ ถ่ายแบบโฆษณา หลังจากนั้นหนูก็ส่งพอร์ตโฟลิโอไปที่ช่อง 3 เองเลยค่ะ และพอหนูรู้ว่าเราจะได้มาอยู่ในสังกัด ช่อง 3 คือหนูกรี๊ดลั่นบ้านเลย ดีใจมาก ตอนนี้อยู่ช่อง 3 มาได้ปีครึ่งแล้วค่ะ พอได้มาอยู่ในบ้านหลังนี้หนูรู้สึกว่าได้รับโอกาสหลาย ๆ อย่างมาก และทางผู้ใหญ่ก็ได้เห็นความสามารถของเรา ให้โอกาสหนูเล่นละคร เล่นซีรีส์ ซึ่งมันเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ หนูมาก ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของชีวิตหนูที่รู้สึกว่าเราเริ่มค่อย ๆ เติบโต และแฮปปี้ใจฟูทุกครั้งที่หนูได้ทำงานตรงนี้ค่ะ”

เอมี่-อุทานพร 02

โดยหลังจากนี้สาว “เอมี่” ได้วางแพลนในวงการบันเทิง พร้อมเผยอีกหนึ่งความฝันว่า “หนูจะเติบโตไปให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่ตัวเองทำได้ พัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ เอาทุกอย่างที่ตัวเองสามารถทำได้ออกมาใช้ให้ทุกคนเห็นศักยภาพของตัวหนู และทำให้แม่ภูมิใจสามารถทำงานตรงนี้ดูแลแม่ได้ จริง ๆ หนูก็มีอีกหนึ่งความฝันนอกจากการเป็นนักแสดง คืออยากเดบิวต์เป็นศิลปินค่ายไหนก็ได้ แต่ตอนนี้เราได้มาอยู่กับ ช่อง 3 ก็เหมือนเราได้ประสบความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งแล้ว และมันก็อาจจะเปิดโอกาสหลาย ๆ ด้านเข้ามา หนูก็จะตั้งใจทำตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อนค่ะ” ก่อนสาว “เอมี่” จะทิ้งท้ายฝากเนื้อฝากตัวและผลงานที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ “อยากให้ผู้ชมทางบ้านเป็นกำลังใจให้น้องใหม่ อย่าง เอมี่ ด้วยนะคะ และฝากบทบาท แวววิภา ในละคร เว้าวอนรัก ที่กำลังออกอากาศในตอนนี้ เป็นละครพีเรียดเรื่องแรกที่เอมี่ได้มาเล่นเต็มตัวเลย และเอมี่ได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างจากเรื่องนี้เลย นอกจากนี้ก็ฝากซีรีส์คุณได้ไปต่อ ที่เอมี่ได้รับเชิญไปเล่นในเรื่องด้วยนะคะ”

ภาพจาก : @usava123

Quiet Luxury เป็นเหตุ! The Row ขึ้นแท่นแบรนด์มาแรงในประเทศเกาหลีใต้

Alternative Textaccount_circle

กระแสแฟชั่น ‘รวยไม่ตะโกน’ ยังดีไม่มีตก! ล่าสุด The Row ขึ้นแท่นแบรนด์ Quiet Luxury ที่กำลังมาแรงในประเทศเกาหลีใต้

แม้ Quiet Luxury จะเป็นกระแสมาตั้งแต่ปี 2023 ที่คนฮิตใช้แฟชั่นไอเท็มที่ไม่มีโลโก้แบรนด์แบบตะโกนตามประโยคที่ว่า ‘If you know, you know’ สื่อถึงว่ามีเพียงคนที่รู้จักแบรนด์เหล่านี้เท่านั้น ถึงจะรู้ว่าเป็นแบรนด์อะไรและมีราคาสูงเท่าไหร่ หนึ่งในนั้นคือ The Row ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2001 โดย Mary-Kate และ Ashley Olsen ซึ่งแฟชั่นไอเท็มแต่ละชิ้นถ่ายทอดสไตล์ที่เรียบง่าย เน้นสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน

The Row เติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2023 จนถึง 2024 เมื่ออุตสาหรกรรมเกาหลีรายงานว่าแบรนด์เตรียมตัวมาเปิดช็อปแห่งแรกในประเทศอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้เป็นเพราะกระแส Quiet Luxury และ เจนนี่ BLACKPINK ที่เลือกหยิบไอเท็มจาก The Row มาใช้ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนวัย 10-20s หรือเรียกว่าคนรุ่น MZ

โดยไอเท็มที่เจนนี่เลือกใช้บ่อยๆ คือ ‘Soft Margaux 17 Bag’ กระเป๋าหนังสีดำใบยักษ์แสนเรียบง่ายที่มีกิมมิคสายเข็มขัดคาดไว้บริเวณข้างกระเป๋าเท่านั้น แต่เห็นว่าดีไซน์ไม่โฉ่งฉ่างอย่าเพิ่งเดาราคาต่ำไป เพราะกระเป๋าใบนี้มีมูลค่าสูงถึง $5,090 หรือประมาณ 183,000 บาทเลยทีเดียว รู้ราคาแล้วถึงกับขนลุกซู่กันเลยใช่ไหมคะ

นอกจากเจนนี่ก็ยังมีลิซ่าที่ดูเหมือนช่วงนี้ก็กำลังอินไอเท็มจาก The Row เช่นกัน เพราะเธอมีทั้งโค้ทตัวยาว ‘Malika Coat’ ที่ราคา $2,800 หรือ 98,000 บาท และเสื้อยืด Alasdair on the Beach T-shrit ในราคา $990 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 35,000 บาท หากพูดว่าเป็นแบรนด์ที่กำลังมาแรงในเกาหลีคงไม่ผิดอะไร เพราะแม้แต่ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นทั้ง 2 คนยังต้องเลือกใช้


ข้อมูล: naver

ฮอร์โมนไม่สมดุล อาจทำร่างพัง อารมณ์เพี้ยน

เช็คลิสต์ 10 สัญญาณเตือน ‘ฮอร์โมนไม่สมดุล’ อาจทำร่างพัง อารมณ์เพี้ยน

Alternative Textaccount_circle
ฮอร์โมนไม่สมดุล อาจทำร่างพัง อารมณ์เพี้ยน
ฮอร์โมนไม่สมดุล อาจทำร่างพัง อารมณ์เพี้ยน

ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่นอกจากการมี Work-Life Balance สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ส่งผลต่อการมีสุขภาพดี ครอบครัวมีความสุขมากยิ่งขึ้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ Hormone Balance หรือ การสร้างสมดุลฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยการทำงานของร่างกายในระบบที่จำเป็น ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานประสานกันได้อย่างเป็นระบบ ดังนั้น สมดุลของฮอร์โมนเพศจึงมีความสำคัญต่อระบบประสาทในการควบคุมอารมณ์ การนอนหลับ สมรรถภาพทางเพศ รวมถึงระบบการสร้างพลังงานของร่างกาย วันนี้มีโอกาสได้มาคุยกับ คุณหมอบาย – นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการ W9 Wellness Center และ W Ploenchit Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อมแบบองค์รวม เกี่ยวกับ “ฮอร์โมน” จุดเริ่มต้นและกุญแจไขความลับสู่การดูแล แก้ไข และปรับสมดุลสุขภาพและร่างกาย

หงุดหงิดง่าย ผิวแห้ง หัวล้าน นอนไม่หลับ
“ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อสุขภาพ ประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปมากทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยในการวินิจฉัยโรค การรักษา รวมถึงการดูแลสุขภาพองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรคแบบรายบุคคล ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 5 ปีมานี้ เนื่องจากทุกคนตระหนักว่า หากปล่อยให้เกิดอาการเจ็บป่วย จะส่งผลต่อการใช้ชีวิต คนรอบข้าง รวมถึงการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ซึ่งจากสถิติโรคเรื้อรังยอดฮิตของคนไทย ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคอ้วนซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอื่นๆ อีกมากมาย โดยสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ นี้ มาจากพันธุกรรม และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล”

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความไม่สมดุล ซึ่ง “ฮอร์โมน” เปรียบเสมือนผู้ส่งสารภายในร่างกายที่มีมากมายหลายหมื่นหลายแสนตัว เป็นระบบพื้นฐานในตัวเราที่ทำงานต่อเนื่องกันเป็นเครือข่ายและพึ่งพากันและกัน มีความสัมพันธ์กับทุกระบบในร่างกายช่วยส่งเสริมด้านพัฒนาการ จิตใจ อารมณ์ความรู้สึก ซ่อมแซมความเสื่อมทางสุขภาพ ชะลอวัยชะลอการเจ็บป่วย ช่วยการทำงานระบบย่อยอาหาร และระบบเผาผลาญของร่างกาย โดยความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพียง 1-2 ตัว ที่เกิดจากปัจจัยด้านพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เช่น อาหาร ภาชนะพลาสติก อาจเป็นต้นตอของภาวะหรืออาการผิดปกติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรค การตรวจฮอร์โมนจึงสำคัญ”

เช็คลิสต์สัญญาณเตือน “ฮอร์โมนไม่สมดุล”
สำรวจตัวเองหากมีอาการแบบนี้ รีบเช็คสมดุลฮอร์โมนให้ไว อย่าปล่อยไว้

  • อารมณ์แปรปรวน
  • นอนไม่ค่อยหลับ หลับไม่ลึก ตื่นไม่สดชื่น
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • การเผาผลาญลดลง อ้วนง่าย
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง
  • ผิวแห้งกร้าน เหี่ยวย่น เป็นสิวอักเสบ
  • กระดูกบางและกระดูกพรุน
  • ซึมเศร้า ภาวะเครียดสะสม
  • อาการไม่พึงประสงค์ที่มีสาเหตุไม่แน่ชัด และเป็นๆ หายๆ

ตรวจสมดุลฮอร์โมน ช่วยวางแผนและดูแลฟื้นฟูอย่างถูกต้องตรงจุด
ฮอร์โมนของผู้ชายกับผู้หญิงมีทั้งตัวที่เหมือนกันและตัวที่แตกต่างกัน โดยที่เหมือนกัน เช่น อินซูลิน ไทรอยด์ โกรทฮอร์โมน หรือฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต แต่ตัวที่ต่างกัน คือ ฮอร์โมนเพศ ผู้ชายก็จะมี ฮอร์โมนเพศชาย เรียกว่า Testosterone ในขณะที่ผู้หญิงมี ฮอร์โมนเพศหญิง เรียกว่า Estrogen กับ Progesterone ที่กำหนดความแตกต่างทางสรีระ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของต่อมในสมองที่เรียกว่า พิทูอิทารี นอกจากนี้ ฮอร์โมนเพศยังมีผลต่อการกำหนดภาวะอารมณ์ของผู้หญิงและผู้ชายให้แตกต่างกันอีกด้วย

ไม่มีใครทราบว่าสุขภาพในอนาคตจะเป็นอย่างไร การตรวจวัดระดับฮอร์โมน เป็นการตรวจที่ทำให้ทราบว่า เราควรวางแผนดูแลสุขภาพ และป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างไร เหมือนเป็น Life Navigator เพื่อให้เราทราบว่า ควรใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้น หรือควรหลีกเลี่ยงอะไร ร่างกายเราขาดวิตามินอะไรบ้างที่ต้องเสริมให้ร่างกายกลับมามีสมดุล สุขภาพดี แข็งแรงได้อย่างยืนยาว

ข้อดีของการตรวจสมดุลฮอร์โมนช่วยรู้ระดับฮอร์โมนที่สำคัญของร่างกาย หากตรวจพบภาวะไม่สมดุล จะได้วางแผนและดูแลฟื้นฟูอย่างถูกต้องตรงจุด โดยคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การป้องกัน ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ผ่านการผสมผสานทุกศาสตร์แห่งการป้องกัน ดูแล และฟื้นฟูความเสื่อม ทั้งให้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหรือลดน้อยลง ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนไลฟสไตล์ให้เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกจากสิ่งแวดล้อมที่อาจจะรบกวนความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย

Photo: Pexels


Colors of Buriram

Colors of Buriram นิทรรศการรูปแบบทันสมัย ชูหัตถศิลป์พื้นถิ่นสู่ไฮแฟชั่น

Alternative Textaccount_circle
Colors of Buriram
Colors of Buriram

จังหวัด บุรีรัมย์ เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง เนรมิต Colors of Buriram งานผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ที่เปิดประตูอาณาจักรองค์ความรู้ของเส้นทางสายไหม จังหวัด บุรีรัมย์ จากอดีตถึงปัจจุบัน ด้วยการนำเสนอนิทรรศการรูปแบบทันสมัย ชูหัตถศิลป์พื้นถิ่นสู่ไฮแฟชั่นสุดอลังการ นักท่องเที่ยวและประชาชนแห่สัมผัส ภูมิปัญญา, วัฒนธรรม และความเป็นไทย ผ่านผลิตภัณฑ์ผ้าทอนานาชนิด และงานหัตถกรรมต่างๆ มากกว่า 2,000 ชิ้น คาดมีผู้สนใจร่วมงานตลอด 3 วัน มากกว่า 20,000 คน

Colors of Buriram

นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า  งาน “Colors of Buriram” เป็นการจัดนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตถกรรมภูมิปัญญาชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด โดยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จมาทอดพระเนตรนิทรรศการ กระบวนการทอผ้าและจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไหม (เป็นการส่วนพระองค์) ณ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษบ้านนาโพธิ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (กลุ่มผ้าตุ้มทอง) ตำบลนาโพธิ์ อำเภอนาโพธิ์ และที่ว่าการอำเภอนาโพธิ์ หลังเสด็จกลับแล้ว จังหวัด บุรีรัมย์ จึงมีการจัดงาน Colors of Buriram ต่อเนื่องอีก เป็นระยะเวลา 3 วัน คือวันที่ 19-21 มีนาคม 2567

“งาน “Colors of Buriram” ในครั้งนี้เกิดจากความร่วมใจของชาวบุรีรัมย์กว่า 3,000 คน  บนพื้นที่ 6,000 กว่าตารางเมตร หรือขนาดเท่า 1 สนามฟุตบอล จัดในโดมติดแอร์ขนาดมหึมา บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอนาโพธิ์  มี Exhibition Wall นิทรรศการผ้า ที่จัดแสดงและงานหัตถกรรมผ้า 2,000 กว่าชิ้น ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาจากทั้ง 23 อำเภอ โดยเฉพาะผ้าไหมของชาวบุรีรัมย์ที่มีการพัฒนาต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัย ใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ถักทอด้วยความประณีต ออกแบบและตัดเย็บสวยงาม เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน ผ้าไทยใส่ให้สนุกให้คงอยู่คู่กับชุมชนและชาวบุรีรัมย์  สืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย และสนับสนุนกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น”

งานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจ ร่วมเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตผ้าไหมไทยที่ละเอียดอ่อนตั้งแต่ต้นจนจบ ตระหนักถึงศักยภาพและความสามารถในการผลิตและจำหน่ายสินค้าชุมชน ที่ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบให้มีความทันสมัยใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยมีเหล่านักแสดง,เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์เบอร์ท็อปต้นๆ ของเมืองไทย มาร่วมสร้างสีสันประชันความสวยงามอลังการ ได้แก่ อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม, ป้าตือ-สมบัษร ถิระสาโรช, ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม รวมทั้ง สยาม แยปป์ แนวรุกสุดหล่อ นักเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 19 ปี จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแชมป์ไทยลีก 8 สมัย โดยเป็นครั้งแรกกับการผนึกความเป็นเมืองกีฬาและวัฒนธรรม นำเสนอการแต่งกายด้วยผ้าไหมลายผ้าพระราชทานผสมผสานกับผ้าไทยลวดลายเอกลักษณ์ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นบุรีรัมย์ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่ตลาดแฟชั่นของคนรุ่นใหม่ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันผ้าไหมไทยในเวทีโลกอีกด้วย

ภายในงาน มีการจัดแสดง-จำหน่าย ของดีของขึ้นชื่อมากมาย และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ กิจกรรมสาธิต การเขียนผ้าบาติก, การเขียนทอง, การทอเสื่อกกยกขิด, มัดหมี่ลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์”, การปักผ้า (นกกะเรียน), การย้อมสีธรรมชาติ และงานผ้าอีโค ปริ้นต์ เป็นต้น รวมทั้งลายผ้าพระราชทานตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำให้เกิดการจุดพลังการขับเคลื่อนงานหัตถกรรมในทุกมิติ เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่นให้ร่วมสมัย คนนิยมใส่ผ้าไทยมากขึ้น จนสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างครบวงจร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบุรีรัมย์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-4466-651

ซูมอินงานเครื่องประดับอัญมณีศิลป์สุดหรูระดับไฮเอ็นด์ของ Cindy Chao “2023 Black Label Masterpiece II Pamir Brooch”

account_circle

ซูมอินงานอาร์ตบนเครื่องประดับชั้นสูงสุดหรูของ Cindy Chao

“2023 Black Label Masterpiece II Pamir Brooch”

อัญมณี:Diamonds, Yellow Diamonds, Brown Diamonds, Sapphires, Pink Sapphires, Greyish Green Sapphires, Purple Garnet, Purple Sapphires, Demantoid, Tsavorites

น้ำหนักรวม : 5,786 gemstones / 265.31 carats

เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษแล้ว ที่แบรนด์ CINDY CHAO the Art Jewel  ได้สร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณีศิลป์ชั้นสูงอันโดดเด่น แตกต่างและแปลกใหม่ ให้กับวงการเครื่องประดับมาตั้งแต่ปี 2004 กระทั่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เครื่องประดับของ CINDY CHAO จึงเปรียบเสมือนงานศิลปะล้ำค่า ที่ผสมผสานความงดงามและจิตวิญญาณแบบตะวันออกเข้ากับตะวันตก ผนวกเข้ากับงานฝีมือชั้นเยี่ยม และความคิดสร้างสรรค์อันเหนือชั้นของศิลปิน จนผลงานหลายชิ้นของเธอได้รับเลือกให้เข้าไปอยู่ในคอลเลกชั่นถาวรของมิวเซียมระดับโลกหลายแห่ง ด้วยผลงานที่สร้างความโดดเด่นอย่างมีนัยยะสำคัญให้กับวงการจิเวลรี่ จึงไม่แปลกใจที่เครื่องประดับอัญมณีศิลป์ของ CINDY CHAO จะสร้างสถิติใหม่ในทุกๆ การประมูล

2023 Black Label Masterpiece Pamir Brooch

หนึ่งในชิ้นงานล่าสุดของ CINDY CHAO คือ 2023 Black Label Masterpiece Pamir Brooch เข็มกลัดที่เธอได้แรงบันดาลใจมาจาก The Pamir Plateau หรือที่ราบสูงปามีร์ ที่มีภูมิประเทศปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ด้วยตั้งอยู่ในเทือกเขาปามีร์ที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียกลาง เอเชียใต้และเอเชียตะวันออก ถือเป็นจุดพักสำคัญของผู้คนที่เดินทางบนเส้นทางสายไหมในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นจุดบรรจบระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตก 

ผลงานชิ้นนี้ จึงกลายเป็นเครื่องประดับงานศิลป์ชิ้นงามสุดยูนีค ซ่อนไว้ซึ่งความแข็งแกร่งจากตัวเรือนที่ทำจากไททาเนี่ยม โลหะที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุด แล้วได้รับการประกอบขึ้นจากทีมช่างฝีมือชั้นเยี่ยมของยุโรปที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการทำงานกับไททาเนียม ทำให้โลหะอันแข็งแกร่ง ทว่าดูนุ่มนวลไหลลื่นสอดรับไปกับรูปทรงของพืชพรรณไม้ตามธรรมชาติ พร้อมรับการตกแต่งจากอัญมณีนานาชนิด ผลงานชิ้นนี้จึงเป็นการสร้างสรรค์เข็มกลัดไททาเนียมที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมอันเยี่ยมยอด อีกทั้งยังมีสัดส่วนลงตัวและบางเบาจนแทบไม่เห็นเนื้อไททาเนียม เพื่อขับความงามของอัญมณีให้เปล่งประกายเต็มที่ โดยมีน้ำหนักแค่ 76 กรัมเท่านั้น ซึ่งยิ่งบางเท่าไร ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงกระบวนการทำที่พิถีพิถันและยากขึ้นเท่านั้น

สำหรับกระบวนการทำงาน ซินดี้เริ่มทำงานด้วยการโดยใช้เทคนิคการแกะสลักแวกซ์ เพื่อเป็นการขึ้นรูปดอกไม้พืชพรรณที่กำลังเติบโตตามธรรมชาติ กลายเป็นเข็มกลัดรูปต้นพฤกษาสุดหรู ประดับด้วยอัญมณีหายากนานาชนิดที่เปรียบเสมือนเกล็ดน้ำแข็งพร่างพราวยามต้องแสงแดดในภูมิประเทศอันเยือกเย็นแห่งนั้น โดยด้านบนของเข็มกลัดประดับด้วยเพชรคุณภาพสูงหลากหลายชนิด ทั้งไวท์ไดมอนด์ เยลโล่ไดมอนด์ และบราวน์ไดมอนด์ ส่วนกิ่งก้านสีเขียวนั้นประดับด้วย tsavorites ไวท์ไดมอนด์ เยลโล่ไดมอนด์ แซฟไฟร์สีม่วงและการ์เน็ตสีม่วง ดูเปล่งประกายงดงามราวกับชีวิตของพืชพรรณที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ยังประดับประดาไปด้วยเพชรแบบโรสคัต ดูโปร่งบาง แต่เปล่งประกายเต็มที่ ราวประกายของน้ำแข็งยามต้องแสงแดด และเล่นแสงเงาได้ยอดเยี่ยม

เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว เข็มกลัดปามีร์ ชิ้นนี้อุดมอัดแน่นไปด้วยอัญมณีกว่า 5,786 เม็ด เพชรน้ำหนักมากกว่า 1 กะรัต 31 เม็ด และเพชร 9 เม็ดที่มีน้ำหนักมากกว่า 3 กะรัต ส่วนเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในงานชิ้นนี้หนักกว่า 5.26 กะรัต โดยซินดี้ ต้องการหลุดออกจากกรอบการออกแบบเครื่องประดับดั้งเดิม ที่ต้องมีอัญมณีเม็ดเด่นประจำชิ้น แต่หันมาเลือกใช้ศาสตร์งานศิลป์ในการนำทาง แล้วใช้อัญมณีหลากหลาย เสริมด้วยการเล่นกับแสงเงา เพื่อถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ของเธอออกมาในแบบที่แตกต่าง

นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังพัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “gradual immersive” ที่โชว์อยู่ในงานชิ้นนี้ โดยจะเห็นว่า ตัวเรือนที่เป็นกิ่งก้านต้นไม้ ซึ่งทำจากไททาเนียมนั้น ได้เกี่ยวพันไหลเลื้อยไปกับอัญมณีตลอดทั้งชิ้นงาน ทำให้ได้สัดส่วนทั้งในแง่ความยาว ความลึก จนดูราวกับมีชีวิตเสมือนจริง อีกทั้งยังดูแตกต่างกันไปในแต่ละมุม โดยตำแหน่งและมุมของการวางอัญมณียังถูกวางเพื่อสร้างสมดุลให้กับน้ำหนักของชิ้นงานและให้ความงามแบบสามมิติ รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความสั่นสะเทือนทางอารมณ์ ทำให้ 2023 Black Label Masterpiece Pamir Brooch เป็นเครื่องประดับแนวอาร์ตคอนเทมโพลารี่ ที่งดงามชนิดหยุดทุกสายตา

และในปี 2024 นี้ ถือเป็นปีพิเศษ ที่ CINDY CHAO จะฉลองครบรอบ 20 ปีของแบรนด์ แน่นอนว่าจะมาพร้อมเซอร์ไพรส์และสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการอย่างแน่นอน   รอติดตามได้เลย

#cindychao_artjewel

#artjewelry

#jewelryartist

#highjewellery

#craftmanship

แฟชั่นสุดใกล้ชิด คู่จิ้นเจนใหม่ จูเนียร์ – ฟลุ๊คจ์

account_circle

ร้อนแรงต่อเนื่องสำหรับซีรีส์ คุณได้ไปต่อ (To Be Continued) กับเคมีฟินๆ ของ “จูเนียร์ – กาจบัณฑิต และ ฟลุ๊คจ์ – พงศภัทร์” และพิเศษสำหรับแฟนแพรว จุใจกับแฟชั่นเซ็ตพิเศษใน #PraewDigitalCover

  • ช่างภาพ : Vorason Dvi-vardhana
  • สไตลิสต์ : @ashitavajropala #ashitacoloring
  • ผู้ช่วยสไตลิสต์ : @chanyaphon_p
  • เสื้อผ้า : @amiparis @hunterstudios_ @karllagerfeld
  • รองเท้า : @mangomojito @camper @camper_thailand

#PraewXJuniorFluke #PraewDigitalCover #JuniorFluke #จูเนียร์ฟลุ๊คจ์ #คุณได้ไปต่อ # TobecontinuedSeries #MANDEEWORK #Ch3Thailand #Praewmag

ชุดน้ำชายามบ่ายสไตล์ไทยธีมซัมเมอร์ ที่โรงแรมอินดิโก้ กรุงเทพ ถนนวิทยุ

account_circle

ชวนคุณมาเพิ่มความสดชื่น พร้อมดื่มด่ำกับช่วงเวลากลางวันด้วยชุดน้ำชายามบ่ายสไตล์ไทยเซตใหม่จากห้องอาหารเมโทร ออน ไวร์เลส เสิร์ฟมาในปิ่นโตสีสดใสในธีม “Summer Flavours” ที่จะมาเติมเต็มหน้าร้อนนี้ของคุณ

เริ่มต้นด้วยเวลคัมดริ๊งก์ดื่มคลายร้อนอย่างน้ำเก็กฮวยโฮมเมด ต่อด้วยเมนูขนมไทยทั้งคาว และหวานมากมายที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันจากเชฟของเรา ไม่ว่าจะเป็นเมนูส้มฉุน ของหวานหาทานยากที่มีเฉพาะหน้าร้อน ขนมค้างคาวเผือกไส้กุ้ง กุ้งและไก่สับห่อด้วยเผือกพอดีคำแล้วนำไปทอด ขนมจีบนก ขนมจีบสไตล์ไทยไส้ปลาปั้นเป็นรูปนก หรือจะเป็นขนมไทยที่เรารู้จักกันดีอย่างเปียกปูนอันชัญ และหยกมณี รวมไปถึงเมนูสโคนที่ขาดไม่ได้เมื่อทานชุดน้ำชายามบ่าย เสิร์ฟมาพร้อมกับคลอตเต็ดครีม แยมส้ม และแยมสตรอว์เบอร์รึ่ และเมนูอื่นๆอีกมากมายที่รอให้คุณมาลิ้มลอง

ชุดน้ำชายามบ่ายธีมซัมเมอร์มาพร้อมชา กาแฟ และเครื่องดื่มพิเศษเติมไม่อั้น ทั้งแบบร้อน และเย็นตลอด 3 ชั่วโมง ให้บริการทุกวันที่ห้องอาหารเมโทร ออน ไวร์เลส ชั้น 2 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. – 16.00 น. ในราคาเพียง 990++บาท ต่อเซตสำหรับ 2 ท่าน และราคา 1,590++ บาทสำหรับ 2 ท่านรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์2 แก้ว

สำรองโต๊ะล่วงหน้าผ่านทางอีเมล [email protected] หรือติดต่อเราทาง LINE Official Account  @hotelindigobkk ( https://lin.ee/F4S40Py)

ไข่มุกแห่งป่าตอง เหลียวมองแดนใต้ อิงกายกับทะเล ที่ โรงแรมอมารี ภูเก็ต

account_circle

ด้วยทำเลเป็นโค้งอ่าวสุดหาดป่าตองทำให้โรงแรมอมารี ภูเก็ต รีสอร์ตหรูระดับห้าดาวนั้นตั้งอยู่บนมุมที่เงียบสงบ ตัวห้องพักของโรงแรมเป็นอาคารเล่นระดับแทรกตัวลดหลั่นลงมาตามเนินเขาที่ทอดยาวลงสู่ทะเล รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงามทางธรรมชาติของชายหาดป่าตองและความเขียวขจีของแมกไม้นานาพรรณลงตัวกับท้องทะเลสีครามสวย

โรงแรมอมารี ภูเก็ตได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อที่จะให้ประสบการณ์การพักผ่อนที่แสนจะเป็นส่วนตัว พร้อมวิวท้องทะเลอันงดงามที่สามารมองเห็นได้จากระเบียงส่วนตัวของห้องพัก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์จากงานฝีมือการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิวทะเลอันดามันอันแสนงดงาม

ที่โรงแรมอมารี ภูเก็ต เรามีห้องพักหลากหลายแบบที่ล้วนตกแต่งหลากสไตล์ ทั้งที่ตึกโอเชี่ยน ฟร้อนท์ วิง หรือที่ โอเชียน สวีท วิง มีทั้งแบบวิลล่าส่วนตัวหรือห้องสวีทและห้องสูทอันหรูหราและทุกห้องยังมีระเบียงมองเห็นท้องทะเลอันกว้างใหญ่และวิวโค้งของหาดป่าตอง

มาเริ่มต้นวันด้วยเมนูอาหารเช้าหลายเมนูที่ห้องอาหารริมทะเล และยังเลือกเปิดประสบการณ์ความอร่อยกับร้านอาหารหลายบรรยากาศเริ่มด้วย

ลา กริตต้า ห้องอาหารอิตาเลียนร่วมสมัยแบบดั้งเดิมหนึ่งในห้องอาหารชื่อดังสุดโรแมนติกที่สุดในเมืองภูเก็ต โดยเสริฟเมนูอาหารสไตล์โฮมเมดจากทุกภูมิภาคของอิตาลี และที่ลา กริตต้า บาร์ มีเครื่องดื่มค็อกเทลสไตล์อิตาเลียนพร้อมบรรยากาศชิลสบาย ๆด้วยวิวทิวทัศน์ของอ่าวป่าตอง

เดอะ เจตตี้ ท่าเทียบเรือที่สวยงามของโรงแรมในระหว่างวันคุณสามารถพักผ่อนบนเก้าอี้อาบแดด พร้อมเครื่องดื่มแก้วโปรดคราฟต์ค็อกเทล แชมเปญ ไวน์ หรือวิสกี้ และจุดนี้ยังสามรถมองเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า          

เดอะ ทรีพอดมีลักษณะคล้ายกับเรือหางยาว อยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่าวป่าตอง โดยซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่เหนือน้ำทะเลสุดแนวชายฝั่งใกล้กับท่าเทียบเรือให้บริการอาหารที่เลือกอิ่มได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่มื้อเช้า ถึงดินเนอร์สุดโรแมนติก ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด

ห้องอาหารริมทะเลอันหรูหราแห่งนี้บริการอาหารที่เหมาะสำหรับทุกๆคนในครอบครัว โดยให้บริการทั้งบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ อาหารยุโรปชั้นเลิศ อาหารเช้าหลากหลายชนิด และห้องอาหารที่เปิดโล่งแห่งนี้ยังมีบาร์ริมสระน้ำถึงสองแห่งให้นั่งจิบค็อกเทลหรือเบียร์เย็นๆขณะพักผ่อนระหว่างวัน

และอย่าลืมมาสูดกลิ่นอายทะเลพร้อมสัมผัสความงดงามของท้องฟ้าที่สมุทรบาร์ บาร์สุดฮอตของหาดป่าตอง ที่นี่เราเสริฟอาหารทานเล่น ชา TWG เลิศรส คราฟต์ค็อกเทล วิสกี้พร้อมกับสูบซิการ์

ที่โรงแรมอมารี ภูเก็ต เรามีสระว่ายน้ำถึง 3 แห่ง แต่สำหรับครอบครัวแล้วการผ่อนคลาย ด้วยการนวดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ บรีซ สปา จะทำให้คุณหลับฝันดีและฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า ส่วนที่คิดส์คลับเรายังจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมสนุกๆของเด็กๆอย่างครบครัน หรือคุณยังออกกำลังกายได้ตามปกติที่ศูนย์ FIT Centre ที่มีอุปกรณ์ครบมาตรฐาน หากคุณต้องการดำน้ำลึก หรือดำน้ำตื้น เรายังมีทีมงาน Sea Bees คอยดูแลให้คำแนะนำเพื่อที่คุณจะได้สนุกและใกล้ชิดกับทะเลภูเก็ตที่สวยงามมากยิ่งขึ้น…เราพร้อมแล้วกับการต้อนรับที่ โรงแรมอมารี ภูเก็ต

ดีนี่ เปิดตัว “ดีนี่  ดีลักซ์” เอาใจวัยซิลเวอร์ ส่ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่

account_circle

เพราะเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มซิลเวอร์ เจน ที่มองหาผลิตภัณฑ์อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวบอบบางไม่ต่างจากผิวเด็ก ดีนี่ (D-nee) ผู้นำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อลูกน้อย และแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบความต้องการของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หนึ่งในแบรนด์สินค้าคุณภาพในเครือ นีโอ คอร์ปอเรท  บริษัทสินค้าอุปโภคชั้นนำสัญชาติไทย คุณภาพระดับสากล เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ดีนี่ ดีลักซ์” เอาใจวัยซิลเวอร์ ด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเพื่อทุกคนในครอบครัวรวมถึงผู้สูงวัยผลิตภัณฑ์ ซักผ้า ดีนี่ ดีลักซ์ ซักสะอาด สุดอ่อนโยน หมดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ และ ผลิตภัณฑ์ โลชั่น ดีนี่ ดีลักซ์  ฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นยาวนาน โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก พ.ญ. ชนิกานต์ เทพรส  แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย(American Board of Anti-Aging) ร่วมพูดคุยถึงสภาพผิวของผู้สูงวัย และการดูแลตัวเอง พร้อมด้วย “โต๋” ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร และคุณแม่ ธนภรณ์ เวชสุภาพร ในวันที่ 15 มีนาคมนี้  ที่ โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ

ศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับ 3 ของประเทศในเอเชียที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย* และคาดว่าอีกไม่เกิน 15 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super aged society) เมื่อสัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี สูงถึง 28% ของประชากรทั้งหมด

“ดีนี่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เด็ก และแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จึงขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบความต้องการของผู้ใหญ่กลุ่ม SILVER AGE ซึ่งมักพบปัญหาจากปัจจัยของอายุที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยระบบการทำงานของร่างกายและผิวที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งแห้งและระคายเคืองง่ายขึ้น เนื่องจากชั้นผิวถูกทำลาย รวมถึงการมีกลิ่นกายผู้สูงวัย หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ติดเสื้อผ้า ทำให้เริ่มมองหาสินค้าที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ทั้งยังต้องมีความอ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวด้วยเช่นกัน  

“ทั้งนี้จากข้อมูลอินไซด์ของผู้บริโภคกลุ่ม SILVER AGE พบว่า  ผู้ใหญ่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวก็เปลี่ยนแปลงไป    ผิวอ่อนแอไม่ต่างกับผิววัยแรกเกิด ที่ต้องการการบำรุง ทำให้ผู้สูงวัยหลาย ๆ คน หันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก แบรนด์ดีนี่จึงเห็นโอกาส และต้องการให้กลุ่มลูกค้าสูงวัยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและตอบความต้องการของกลุ่มนี้โดยเฉพาะ จึงศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าดีนี่ ดีลักซ์ ที่พัฒนาสูตรขึ้นมาสำหรับกลุ่มผู้สูงวัยโดยเฉพาะ หมดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ ด้วยคุณสมบัติของสารสกัดจากลูกพลับญี่ปุ่น ซึ่งพบว่ามีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นได้ดีที่สุด และผลิตภัณฑ์โลชั่น บำรุงผิวกาย ดีนี่ ดีลักซ์ ที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เหมาะกับสภาพผิวของกลุ่มผู้สูงวัย หรือผิวแพ้ง่ายที่ไวต่อการระคายเคือง” 

ใหม่ ! ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ดีนี่ ดีลักซ์ ซักสะอาด สูตรอ่อนโยน ขจัดคราบฝังลึกด้วยเอนไซม์สารสกัดจากธรรมชาติ ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ  ปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น พาราเบน          สีสังเคราะห์ สารฟอกขาว โดย ดีนี่ ดีลักซ์ มีส่วนผสมของออร์แกนิค อโลเวร่า ผสานสารสกัดจากลูกพลับญี่ปุ่น (Persimmon Extract)  ที่มีคุณสมบัติช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ  เช่น กลิ่นอับ กลิ่นตัว กลิ่นเหงื่อ กลิ่นปัสสาวะ กลิ่นน้ำมันนวด กลิ่นน้ำมันใส่ผม และหมดกังวล 6 คราบฝังแน่น ได้แก่ คราบอาหาร ชากาแฟ น้ำลาย น้ำมัน ปัสสาวะ และอุจจาระ มีให้เลือก 2 กลิ่น ได้แก่ Morning Delight (สีฟ้า) หอมสะอาดเหมือนแดดยามเช้า และ Beauty Dream    (สีชมพู)หอมสดชื่นฝันดี ขนาด 1,100 มล. พร้อมหัวจุกเปิดปิดใช้สะดวก ราคา 209 บาท

ใหม่ ! ผลิตภัณฑ์โลชั่น บำรุงผิวกาย ดีนี่ ดีลักซ์ บอกลาปัญหาผิวแห้ง ผิวระคายเคือง ขาดความชุ่มชื้น ด้วยโลชั่นที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนามาเพื่อผิวบอบบางโดยเฉพาะ มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน 8 ชนิด  และเซราไมด์ 3 ชนิด ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีวิตามินอีให้ผิวเนียนนุ่ม และชุ่มชื้นพิเศษยาวนาน 48 ชม. อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิว เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมถึงทารกและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ขวดปั้มใช้สะดวก ขนาด 450 มล. ราคา 279 บาท

เปิด 2 ชุดแต่งงานแบรนด์ดังระดับโลกของ ‘นัมฮานึล’ ในซีรีส์ Doctor Slump

Alternative Textaccount_circle

Happy Ending! เปิดชุดแต่งงาน 2 สไตล์จากแบรนด์ดังระดับโลกของ ‘นัมฮานึล’ ในฉากจบซีรีส์ใจฟู Doctor Slump

จบลงอีกเรื่องกับซีรีส์เกาหลีโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่ปนดราม่าเล็กน้อยอย่าง ‘Doctor Slump’ เรียกว่าคงทำให้แฟนคลับเศร้าใจกันไปพักใหญ่เพราะหลังจากนี้คงไม่ได้เฝ้ารอซีรีส์เรื่องโปรดอีกต่อไป ถึงอย่างในฉากจบก็ยังทิ้งซีนประทับใจให้แฟนคลับได้จดจำไปอีกนานแสนนานกับงานแต่งงานระหว่าง ‘นัมฮานึล’ และ ‘ยอจองอู’

โดยนางเอก ‘นัมฮานึล’ ได้ปรากฏตัวในชุดวิวาห์ทั้งหมด 2 ลุค 2 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นมินิเดรสที่โดดเด่นด้วยลายผ้าลูกไม้จาก Giambattista Valli และเดรสยาวแขนกุดที่ประดับลายพริ้นต์ดอกไม้ และตกแต่งด้วยริบบิ้นสีดำบริเวณเอวจาก Monique Lhuillier ซึ่งสองแบรนด์ดังกล่าวเป็นที่เลื่องลือในระดับโลก ออกแบบชุดแต่งงานให้กับเหล่าเซเลบริตี้มาแล้วมากมาย ไม่เว้นแม้แต่พรมแดงที่คนดังหลายคนไว้ใจให้เป็นผู้ออกแบบให้ในวันสำคัญของชีวิต ถือว่าสไตลิสต์ของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวที่สามารถกวาดแบรนด์ดังมาอยู่ในฉากสุดท้ายได้สำเร็จ

Doctor Slump

Doctor Slump
Doctor Slump


ภาพ: Instagram: ssinz7

‘แฟนเก่ารังควาญ อยู่แบบปลง ทั้งที่รู้ว่ามีอีกคนซ้อนอยู่ ใครกันนะ?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายสัปดาห์ 18-24 มีนาคม 2567

Alternative Textaccount_circle

‘แฟนเก่ารังควาญ อยู่แบบปลง ทั้งที่รู้ว่ามีอีกคนซ้อนอยู่ ใครกันนะ??’

ดวงรายสัปดาห์ 18-24 มีนาคม 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ช่วงสัปดาห์นี้ เทพพระอาทิตย์เทพประจำวันเกิดสถิตอยู่กับคุณ นั่นหมายถึงไม่ว่าคุณจะจับงานหรือธุรกิจอะไรอยู่ มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูง มีช่องทางใหม่ๆ โอกาสดีๆ มาให้ตลอดๆ เป็นไปได้ว่าคุณจะโดดเด่นทั้งความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ การวางตัว การปกครองลูกน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน บริหารจัดการ และให้บริการคำปรึกษาในด้านต่างๆ ก็จะเข้ามา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าใจร้อน ตัดสินใจวู่วาม ไม่ฟังความคิดเห็นของใครเลย เพราะมีโอกาสที่งานหรือธุรกิจง่ายๆ จะกลายเป็นยากขึ้นมาทันที

การเงิน  :   ก็ยังคงสดใส มีโอกาสโชคดีทางด้านการลงทุน มีโชคลาภ ซึ่งสัปดาห์นี้คุณจะมีการวางแผนการใช้เงินอย่างเป็นระบบมากขึ้น รู้คุณค่าเงินทุกบาททุกสตางค์ แต่ก็ยังอดใช้เงินมือเติบไม่ได้   

ความรัก  :  อิทธิพลของเทพพระอาทิตย์จะทำให้คุณมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ยอมใครง่ายๆ พร้อมบวกตลอด แต่ขณะเดียวกันใครจะรู้ว่า ข้างในใจนั้นฟรุ้งฟริ้งโรแมนติกมากมาย อยากให้คู่ครองมาพะเน้าพะนอเอาใจอยู่ข้างๆ เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เวลาในการปรับทัศนคติให้ตรงกัน คนโสด เนื้อหอมอยู่นะคะ แต่ด้วยอิทธิพลของเทพพระอาทิตย์ก็จะแบบ…สวย ทั้งเริ่ดและเลิศ เชิด หยิ่ง แต่จริงๆ แล้วในใจนั้นโรแมนติก วาดฝันที่จะเจอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาขอเป็นแฟนตลอดๆ

สุขภาพ  :   ช่วงสัปดาห์นี้คุณจะแข็งแรง แต่จะป่วยไข้หรือไม่ อยู่ที่คุณทำตัวเอง นั่นคือทำงานหนักเกิน ไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ หรือรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งจะทำให้คุณล้มป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางหัวใจ เส้นเลือดตีบตัน

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   สำหรับเจ้าของธุรกิจรายย่อย เช่น เปิดร้านขายของที่บ้าน ร้านเสริมสวย เถ้าแก่เนี้ย รวมถึงสายเกษตรกรรม ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้คุณจะโดดเด่นในเรื่องการใช้เทคนิค แทกติก กลยุทธ์ต่างๆ มีความคิดสร้างสรรค์ พยายามที่จะเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ เพื่อนำมาใช้กับธุรกิจของตัวเองให้เติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ แต่ก็ต้องระวังความคาดหวังจากเจ้านาย หรือลูกค้าที่จะทำให้คุณเครียดและกดดันกว่าเดิม  

การเงิน  :   ต้องบอกว่า เป็นสัปดาห์แห่งความโชคดีของคุณ ไม่ว่าจะทำอะไรมีโอกาสที่เงินจะเข้าตลอดๆ แล้วไม่ใช่แค่งานเดียวด้วย มีงานซ้อนตลอด แต่ก็ควรดูให้ดีว่า โปร่งใส ขาวสะอาด หลีกเลี่ยงการติดสินบน หรือส่วยทุกประเภท เพราะมีโอกาสที่เงินที่ได้มากลายเป็นศูนย์จนถึงติดลบได้เลย   

ความรัก  :  เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้คุณจะมี 2 บุคลิกโดยไม่รู้ตัว เดี๋ยวก็เป็นแม่บ้านที่อบอุ่น แต่เดี๋ยวก็พร้อมบวก เหวี่ยงวีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหึงหวง การแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้า ซึ่งจะมีผลต่อคนใกล้ชิดทันที เขาจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่คุณแสดงอารมณ์กับเขา  คนโสด  ระวังบุคลิกแปรปรวนโดยไม่รู้ตัว เดี๋ยวก็ดูเรียบร้อย เป็นแม่บ้านแม่เรือน แต่เดี๋ยวคุณก็เอาแต่ใจ หึงหวง เป็นไปได้ว่าจะถึงขั้นไปหาหมอดูบูชาของขลังเลยทีเดียว

สุขภาพ  :   ต้องระวังมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ชอบไปหาหมอด้วยแล้ว นิยมซื้อยามารับประทานเอง มีโอกาสที่โรคจะเป็นหนักขึ้น จนถึงเรื้อรัง รักษายาก

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน    สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้หลักวิชาความรู้และทฤษฎีขั้นสูง รวมถึงประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในงานหรือธุรกิจที่ทำ เช่น แพทย์ ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย หากในช่วงสัปดาห์นี้มีกำหนดการที่จะลงแข่งขัน ไม่ว่าจะประมูล ประกวด สอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง สอบสัมภาษณ์ สอบเรียนต่อ ฯลฯ ซึ่งคุณปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะผ่านศึกนี้ไปให้ได้ โดยสามารถทำได้ทุกอย่างแม้จะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมก็ตาม อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณจะมองข้ามไม่ได้คือ เพื่อนร่วมงานที่จะเล่นนอกกติกา แทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้ เพื่อไม่ให้คุณไปถึงจุดนั้น  

การเงิน  :   ก็ยังคงมีโอกาสที่เจ้านายและเพื่อนร่วมงานจะนำพาเงินและงานดีๆ มาให้ ซึ่งเป็นไปได้ที่คุณจะได้เงินรางวัลด้วย แต่อย่าเพิ่งวางใจ เพราะยังมีการตกลงไม่ลงตัว ขัดผลประโยชน์ หากจะไปทวงหนี้ นอกจากยังไม่ได้แล้ว ยังมีโอกาสถูกขโมยเงินด้วย

ความรัก  :   ก็ยังมีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะยังเข้ามามีบทบาทในครอบครัวคุณอยู่ ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้จะร้อนแรงมาก เรียกว่าบ้านร้อนจนลุกเป็นไฟทีเดียว เพราะเป็นไปได้ว่าจะเป็นประเด็นมือที่สามที่จะเข้ามาให้เห็นกันตัวเป็นๆ จนที่สุดแล้วอาจมีการแยกบ้านกันได้นะ คนโสด  เช่นเดิม หัวอย่าร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใจ เย็นเข้าไว้ เพราะเป็นไปได้ว่าจะมีเรื่องมือที่สามเข้ามา ไม่ว่าจะแฟนเก่าของคุณ หรืออาจไปชอบคนที่มีแฟนแล้ว

สุขภาพ  :   มีโอกาสได้รับบาดเจ็บจากของมีคม เช่น ผ่าฟันคุด นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคในช่องปากและทางเดินหายใจ ซึ่งจะส่งต่อไปถึงระบบย่อยอาหาร เป็นไปได้ว่าจะมีสาเหตุมาจากความกดดันและความเครียดด้วย

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   หากในช่วงสัปดาห์นี้คุณยังคงติดงานรับอาสาเจ้านายไปทำงานเชิงลับ ที่อ่อนไหวเสี่ยงต่อความผิดพลาดได้ง่าย เช่น ตำรวจ ทหาร นักสืบ นักข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน บ้าน อาคาร สำนักงาน สิ่งปลูกสร้างทุกๆ ชนิด ยิ่งหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย ข้อตกลง เงื่อนไขสัญญาด้วยแล้ว ยิ่งต้องจับตาดูเพื่อนสนิทไม่ให้คลาดสายตาเลย เพราะจากที่เคยไว้ใจได้จะเปลี่ยนท่าทีอย่างไม่มีสาเหตุ กลายเป็นหักหลังหรือทรยศคุณได้นิ่มๆ เลย

การเงิน  :   ก็ยังคงมีโอกาสใช้เงินเดือนชนเดือนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะมีรายจ่ายที่เกี่ยวกับเรื่องบ้าน อสังหาริมทรัพย์ เข้ามา ซึ่งหากลงทุนกับคู่รักหรือคู่ครอง มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนนะคะ

ความรัก  :   มีโอกาสที่คุณจะได้ย้ายบ้านใหม่ หรือมีเหตุประการหนึ่งประการใดที่เกี่ยวกับบ้าน ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับกฎหมาย เอกสารสัญญา เงื่อนไขการตกลง ซึ่งคุณจริงจังมาก คนโสด  เป็นไปได้ว่าในช่วงสัปดาห์นี้คุณจะเอาจริงเอาจังกับการทำงานหาเงิน ส่วนเรื่องความรัก คุณก็คาดหวังสูงที่อยากได้คนมาช่วยกันทำมาหากิน จนเหมือนว่า ใครเข้ามา ก็ไม่ใช่ไปเสียหมด

 สุขภาพ  :  อย่ากลั้นปัสสาวะนะคะ เพราะเป็นไปได้ว่ากรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะมีปัญหา หากในกรณีรุนแรงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนั้นยังต้องระวังเรื่องโรคกระเพาะและลำไส้ด้วย

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจทางด้านบันเทิงเริงรมย์ ดนตรี กวี ศิลปะ ศิลปิน งานฝีมือ เย็บปักถักร้อย  ในช่วงสัปดาห์นี้คุณมีโอกาสที่จะเข้าไปจับงานบุญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานราชการ รัฐวิสาหกิจ การเงิน การธนาคาร การศึกษา การแพทย์และสาธารณสุข ด้วยแล้ว หากกำลังโลเล ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ยาวหรือไม่ ก็วางใจได้ เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข อย่างน้อยก็ในช่วงสัปดาห์นี้ล่ะ หากถามต่อว่า จะยาวถึงเกษียณหรือเปล่า ต้องรออ่านสัปดาห์หน้า  

การเงิน  :  ในช่วงสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่า คุณจะประหยัด ใช้ชีวิตอย่างสมถะ กินอยู่อย่างเรียบง่ายขึ้น แต่ก็ต้องระวังอย่าใจอ่อน เชื่อใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนใกล้ชิด เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นประหยัดเพื่อให้คุณมิจฉาชีพใช้หมดนะ

ความรัก  :   เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้ชีวิตคู่ของคุณจะอยู่กันแบบสงบๆ ราบเรียบ ไม่หวือหวา จนถึงขั้นปลง มีโอกาสที่จะชวนเข้าวัดทำบุญ หาคอร์สไปปฏิบัติธรรมกันแล้ว คนโสด  เป็นไปได้ว่าจะมีเรื่องแฟนเก่าไม่ของคุณก็ของคนรักคุณมาขอคืนดี แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์นี้คุณเริ่มจะปลงกับปัญหานี้ได้แล้ว ก็อยู่กันไปแบบทั้งๆ ที่รู้ว่า มีอีกคนซ้อนอยู่

สุขภาพ   :   โรคผู้สูงวัยถามหา วัยทองเริ่มมาเยือน ทั้งกระดูกที่จะบางลง รวมถึงระบบเลือดลมก็มีปัญหา มีโอกาสที่จะวิงเวียนศีรษะ เป็นลมหน้ามืดได้โดยไม่รู้ตัว จนมีความเสี่ยงที่จะชนโน่นนี่นั่น เป็นแผลฟกช้ำดำเขียว

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่เป็นไปได้ว่าคุณนั่งบนหลังเสือมาเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญชำนาญงานทางด้านการเจรจา ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการติดต่อประสานงาน การประนีประนอม ต่อรอง หรือไกล่เกลี่ย ด้วยแล้ว มีโอกาสที่คุณจะใช้วิธีตัดเป็นตัด ไม่มีการใช้ไม้อ่อน พูดจาโผงผาง ดุดัน ซึ่งค่อนข้างร่วมงานกับคนอื่นได้ยาก บริวารจะไม่ซื่อสัตย์ จึงมีโอกาสที่งานหรือธุรกิจจะผิดพลาดเสียหายอย่างไม่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นจึงควรใช้สติให้มาก

การเงิน  :  มีโอกาสโชคดีในเรื่องของการลงทุนและผลตอบแทน แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะหมดไปกับการเข้าสังคม เดินทางท่องเที่ยว รวมถึงการต่อทุน นอกจากนั้นจากความใจดีของคุณที่ให้อย่างไม่มีสิ้นสุดจากภาษีสังคม จนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก :   สัปดาห์ที่แล้วไม่แคร์แค่ไหน สัปดาห์นี้ต้องบวกๆ ค่ะ เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะไม่สนใจใดๆ เลย ทั้งที่มีคนเข้ามาขอคำแนะนำจากคุณตลอดๆ   คนโสด ยืดอกกว้างเตรียมไว้นะคะ เพราะเป็นไปได้ว่าจะเป็นสัปดาห์แห่งการกอดของคุณ เพราะจะมีทั้งหญิงและชายเข้ามาขอคำแนะนำเล่าปัญหาคับอกคับใจให้ฟัง จนต้องกอดๆ ซับน้ำตา อกไม่แห้งเลยทีเดียว  

สุขภาพ  :   จริงๆ คุณแข็งแรงพลังเยอะ ไม่ค่อยเจ็บป่วยกับใครง่ายๆ แต่ก็ต้องระวังหากยืนหนึ่งตลอดมีโอกาสที่จะปวดขา ตั้งแต่สะโพกลงมา นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวมีฝน จะไม่สบายได้ง่ายๆ  

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน งานส่งเสริมการขายทุกประเภท ในช่วงสัปดาห์นี้มีโอกาสที่ผู้ใหญ่ผู้หญิงจะดึงตัวคุณให้เข้าไปช่วยงานหรือธุรกิจทางด้านสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล  มูลนิธิ จิตอาสา สังคมสงเคราะห์ ซึ่งเป็นไปได้ว่านอกจากคุณจะได้ทำบุญแล้ว ยังมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งด้วยนะ   

การเงิน  :   ในช่วงสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่ารายได้จะมาจากหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ผู้หญิงที่จะช่วยเหลือและอุปถัมภ์ ซึ่งคุณมีโอกาสได้ทำบุญและช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนด้วย

ความรัก  :  ช่วงสัปดาห์นี้คุณจะเด่นในความเป็นแม่ และแม่บ้าน อยู่กันตามประสา 2 คนแม่ลูก หากยังไม่มีลูกก็จะอยู่กันตามลำพัง 2 คนสามีภรรยา แต่ก็ไม่ได้หมายถึงจะสงบ เพราะมีโอกาสที่คุณจะเหวี่ยงวีน อารมณ์แปรปรวนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว   คนโสด หากคุณเป็นคนขี้เหงา ต้องหาคนกอดตลอดๆ สัปดาห์นี้มีลุ้นได้พบคนที่ถูกใจ แต่ก็อยู่ที่อารมณ์ของคุณอีกล่ะ เพราะหากอารมณ์ดีคุณก็จะดูแลทนุถนอมเขาแบบไข่ในหินเลยทีเดียว  แต่หากตรงกันข้ามก็ตัวใครตัวมัน   

สุขภาพ   :   เป็นไปได้ว่า ในช่วงสัปดาห์นี้คุณจะเอ็นจอยกับการรับประทานอาหาร มีโอกาสที่น้ำหนักจะขึ้นโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้นหากคุณเพิ่งผ่าตัดหรือผ่าคลอด อย่าเพิ่งยกของหนัก เพราะมีความเสี่ยงที่แผลจะปริแตกได้

ซีรีส์จีน

เช็คลิสต์ 4 สุดยอดซีรีส์จีน “ฮีโร่หญิง พลังหญิง”

Alternative Textaccount_circle
ซีรีส์จีน
ซีรีส์จีน

สำหรับเดือนมีนาคมเป็นเดือนแห่งสตรีสากล เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองจึงได้รวบรวม 4 สุดยอดซีรีส์จีนคุณภาพที่เน้นเรื่องราวของผู้หญิง ที่จะแสดงถึงความเก่งและแกร่งของเหล่าวีรสตรีผู้กล้าที่เราได้รวบรวมการแสดงจากนักแสดงนำหญิงตัวแม่ของวงการ ไม่ว่าจะเป็น ไป๋ลู่ , ซ่งอี้ , จางเทียนอ้าย และจ้างลี่อิง ครบทุกรสชาติ ส่งตรงให้กับแฟนๆ iQIYI (อ้ายฉีอี้) ทั่วโลก

สตรีกล้าท้าสงครามรัก (Fighting for love)

เปิดด้วยออรินัลซีรีส์จีนมาแรง ที่กวาดความนิยมทั่วเอเชียอย่าง “สตรีกล้าท้าสงครามรัก (Fighting for love)” ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ “อาม่าย” (รับบทโดย จางเทียนอ้าย) ลูกสาวขององค์ชายแคว้นจิ้งแห่งหนานเซี่ย ทั้งครอบครัวของเธอถูกฆ่าโดยเฉินฉี่ (รับบทโดย ซุนเส้าหลง) คนรักในวัยเด็ก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอาม่ายได้ปลอมตัวเป็นผู้ชายและพเนจรไปในยุทธภพ พยายามตามหาเฉินฉี่เพื่อแก้แค้น ในระหว่างทางอาม่ายได้ช่วยชีวิต “ซางอี้จือ” (แสดงโดย จางฮ่าวเหวย) ลูกชายขององค์หญิงใหญ่โดยบังเอิญ และหลังจากนั้นได้ช่วยให้เขาหลบหนีหลายครั้ง ชะตากรรมของทั้งสองจึงเกี่ยวพันกันตั้งแต่นั้นมา เธอช่วยเหลือซางอี้จือที่พยายามค้นหาตัวเองให้เจอและประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไปทีละก้าว ทั้งสองมักจะประสบกับความเป็นและความตายร่วมกัน นำแสดงโดย “จางเทียนอ้าย” ที่มาพลิกบทบาทรับบทเป็น อาม่าย ในการปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเข้าไปในกองทัพ กับการตามล่าหาชายผู้ฆ่าครอบครัวของเธอ แฟนๆ ต่างยกบทบาทนี้ขึ้นหิ้งและเป็นที่สุดของบทบาทในตำนาน

ซีรีส์จีน

เล่ห์รักวังคุนหนิง (Story of Kunning Palace)

ออริจินัลซีรีส์จีนแนวพีเรียดครองใจแฟนๆ iQIYI (อ้ายฉีอี้) ทั่วโลกอย่าง “เล่ห์รักวังคุนหนิง (Story of Kunning Palace)” ที่บอกเล่าเรื่องเล่าเรื่องราวของ เจียงเสวี่ยหนิง (รับบทโดย ไป๋ลู่) สตรีผู้ที่โหยหาและต้องการไขว่คว้าอำนาจจากการขึ้นเป็นจักรพรรดินี นางต้องเหยียบย่ำผู้คนมากมายเป็นเปิดทางให้ตัวนางเองได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดินี แต่แล้ววันหนึ่งในวังเกิดการก่อกบฏขึ้น นำโดย เซี่ยเวย (รับบทโดย จางหลิงเฮ่อ) ซึ่งบุกมาสังหารจักรพรรดิจนสิ้นพระชนม์ เธอเองถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายตาม แต่แล้วเธอได้โอกาสครั้งที่สองในการเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเธอจะเขียนชะตาชีวิตของเธอใหม่อีกรอบเอง บทบาทนี้ของ “ไป๋ลู่” ได้แสดงทักษะด้านการแสดงอย่างเต็มเปี่ยม เฉิดฉายไปกับทุกๆ มิติของตัวละคร

สยบรักจอมเสเพล (Destined)

ต่อด้วยออริจินัลซีรีส์จีนพีเรียดที่ขึ้นแท่นซีรีส์มาแรงอันดับ 1 นับตั้งแต่วันออกอากาศกับ “สยบรักจอมเสเพล (Destined)” ที่บอกเล่าเรื่องราวของ หลิ่วอวี้หรู (รับบทโดย ซ่งอี้) หญิงสาวผู้อาภัพในโชคชะตา และกู้จิ่วซือ (รับบทโดย ไป๋จิ้งถิง) หนุ่มเสเพลชื่อดังในเมืองหยางโจว เมื่อหลิ่วอวี้หรูที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากแม่เลี้ยงใจร้าย เธอถูกครอบครัวหมั้นหมายให้แต่งงานกับกู้จิ่วซือ หนุ่มเสเพลที่ไม่ทำงานทำการอะไร ใช้ชีวิตแบบวันต่อวันไร้จุดหมายปลายทาง ถึงแม้ว่าในตอนแรกทั้งสองเริ่มต้นไม่ค่อยดีนัก เจอปัญหาต่างๆ รายล้อม ไม่ว่าจะเป็นจากในครอบครัวและในสังคม แต่ท้ายที่สุดทั้งสองก็ได้จับมือกันเขียนเรื่องราวบทใหม่ของชีวิตให้กันและกัน โดยได้ “ซ่งอี้” นักแสดงเจ้าบทบาทมารับบทเป็น หลิ่วอวี้หรู ที่เธอได้ถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ แฟนๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “การแสดงของเธอสะกดทุกอารมณ์” 

ยอดหญิงแกร่ง (Wild Bloom)

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งซีรีส์ที่นักแสดงระดับท็อปของวงการ “จ้าวลี่อิง” เคยกล่าวว่าเป็นบทที่ยากที่สุดในชีวิต กับซีรีส์เรื่อง “ยอดหญิงแกร่ง (Wild Bloom)” ซีรีส์ที่จะพาทุกคนย้อนเวลาไปในช่วง ค.ศ. 1990 ถ่ายทอดชีวิตของ สวี่ป้านเซี่ย (รับบทโดย จ้าวลี่อิง) ตั้งเธอเกิดมาพ่อของเธอก็ไม่เคยสนใจไยดี เลี้ยงเธอออกมาให้มีนิสัยเย่อหยิ่งและกล้าได้กล้าเสีย ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน เธอได้พาพี่น้องของเธอเริ่มต้นทำธุรกิจเศษเหล็กและการขนส่ง ในอุตสาหกรรมเหล็กที่ผู้ชายมีอำนาจเหนือกว่า เธอใช้ความกล้าและความจริงจังนำพาธุรกิจของเธอเข้าสู่รัสเซีย ด้วยวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยม เธอเอาชนะความยากลำบากทั้งหมดและค่อยๆ ขยายกิจการของเธอให้ใหญ่ขึ้น หลังจากผ่านประสบการณ์ชีวิต เธอได้เรียนรู้และแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาด ฝ่าฟันอุปสรรค และประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงานและความรัก นำแสดงโดย จ้าวลี่อิง ที่อ้ายขอการันตีความสนุก เข้มข้น ครบรส ที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด

'โพรไบโอติกส์' จุลินทรีย์ตัวจิ๋ว ที่มีดีมากกว่าเรื่องช่วยขับถ่าย

มีดีมากกว่าช่วยขับถ่าย ‘โพรไบโอติกส์’ สายพันธุ์ไหนมีประโยชน์กับร่างกาย และด้านใดบ้าง

Alternative Textaccount_circle
'โพรไบโอติกส์' จุลินทรีย์ตัวจิ๋ว ที่มีดีมากกว่าเรื่องช่วยขับถ่าย
'โพรไบโอติกส์' จุลินทรีย์ตัวจิ๋ว ที่มีดีมากกว่าเรื่องช่วยขับถ่าย

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “โพรไบโอติกส์” จนชินหู และรู้ถึงสรรพคุณเด่นในเรื่องระบบขับถ่าย แต่น้อยคนจะรู้ว่าโพรไบโอติกส์ในลำไส้ของเรามีประโยชน์ต่อระบบอื่นๆ ในร่างกายอีกมากมาย

พอดีมีโอกาสได้พบกับ คุณหมอบาย – นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการ W9 Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อมแบบองค์รวม ซึ่งคุณหมอบายไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ว่า “โพรไบโอติกส์ คือจุลินทรีย์ที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ มีหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 500 ชนิด มีชีวิตแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน สามารถพบได้ในช่องปาก กระเพาะอาหาร ลำไส้ และระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งโพรไบโอติกส์แต่ละชนิดส่งผลต่อร่างกายแตกต่างกัน จุลินทรีย์ดีจะช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ช่วยการขับถ่าย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เผาผลาญไขมัน และลดสารพิษในลำไส้ จุลินทรีย์ร้ายก่อให้เกิดโรคต่อร่างกาย”

อยากเพิ่มจุลินทรีย์ดี ต้องเริ่มที่ลำไส้
“ระบบทางเดินอาหารของมนุษย์เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ หรือโพรไบโอติกส์หลายชนิด ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของร่างกาย ทั้งระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท ระบบขับถ่าย รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ที่เป็นระบบหนึ่งที่สำคัญและช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ซึ่ง 70% ของระบบภูมิคุ้มกัน (Immunity System) เกิดขึ้นในลำไส้ของเรา รวมถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สำคัญอย่าง NK Cells (Natural Killer Cells) ซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าที่ต่อสู้ป้องกันเชื้อโรคก็อาศัยอยู่ที่ลำไส้เช่นกัน เพราะกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีคือ การรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกายให้มีความสมดุลและมีความหลากหลายของสายพันธุ์ในร่างกาย” คุณหมอบาย กล่าว

2. นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการ W9 Wellness Center.JPG

ประโยชน์ของโพรไบโอติกส์ในร่างกายมีมากมายหลายร้อยสายพันธุ์ ทำหน้าที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไหนมีประโยชน์กับร่างกายเราในด้านใดบ้าง

  • Bifidobacterium Bifidum (B.bifidum)  ถือเป็นโพรไบโอติกส์สำคัญ ช่วยป้องกันการเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียก่อโรค โดยไปยึดเกาะผนังลำไส้ และแย่งสารอาหารจากจุลินทรีย์ตัวร้าย มีหน้าที่เสริมภูมิคุ้มกัน, ช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ, ลดโอกาสการเกิดโรคในลำไส้, ลดระดับคอเลสเตอรอลในพลาสมา, ลดความเสียหายที่เกิดจากสารพิษในอวัยวะ และผลิตกรดแล็กติก และยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดไม่ดี
  • Bifidobacterium breve (B.breve)  เป็นจุลินทรีย์ที่ดี สามารถช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งเด็กคลอดธรรมชาติจะมีโอกาสได้รับจุลินทรีย์ชนิดนี้ตั้งแต่แรกเกิดผ่านทางช่องคลอดของแม่ ทำให้เด็กคลอดธรรมชาติมีพื้นฐานร่างกายที่แข็งแรง ทำหน้าที่ช่วยลดการอักเสบ, ช่วยในการย่อยอาหาร, สนับสนุนการทำงานของลำไส้, ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง และช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ได้เป็นอย่างดี
  • Bifidobacterium lactis (B.lactis)  มีประโยชน์ในผู้ป่วยที่มีโรคผิวหนังอักเสบ ช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T (T lymphocytes) และเซลล์เพชฌฆาต NK Cell (Natural Killer Cells) ทั้งหมด ส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย ส่งเสริมการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุในลำไส้ให้ดียิ่งขึ้น
  • Lactobacillus gasseri (L.gasseri) เป็นโพรไบโอติกส์ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก ลดไขมันในช่องท้อง เส้นรอบเอวและเส้นรอบสะโพก ส่วนใหญ่พบในน้ำนมของแม่ มีหน้าที่สำคัญในการเสริมสร้างการสังเคราะห์ Growth Hormone, ช่วยให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้า และลดความกระวนกระวาย, สังเคราะห์ Gassericin A ในร่างกายซึ่งมีหน้าที่ต่อสู้กับจุลินทรีย์ชนิดไม่ดี, ลดความเครียดและช่วยให้การนอนมีคุณภาพขึ้น รวมถึงลดอาการท้องผูกจากสาเหตุความเครียด รวมทั้งคุมน้ำหนัก และลดความเสี่ยงการเกิดกลุ่มอาการการเผาผลาญผิดปกติ (อ้วนลงพุง)

“อ้วนลงพุง” หัวขบวนโรคร้ายของคนยุคใหม่
“ปัจจุบันพบว่าคนไทยเป็นโรคอ้วนลงพุง (Metabolic syndrome) เพิ่มมากชึ้น เพราะการเผาผลาญอาหารที่ผิดปกติ เกิดการสะสมไขมันบริเวณช่องเอว หรือช่องท้องปริมาณมากเกินไป ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายหลายระบบโดยสังเกตุจากรอบเอวมากกว่าหรือเท่ากับ 80 เซนติเมตรในผู้หญิง และมากกว่าหรือเท่ากับ 90 เซนติเมตรในผู้ชาย ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่มีพลังงานสูง กินหวาน มัน เค็ม หรือการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการปรับสมดุลลำไส้ด้วยโพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคล ที่ช่วยฟื้นฟูระบบเผาผลาญอาหารให้เป็นปกติ ดังนั้นการเสริมโพรไบโอติกส์ให้ตรงกับความต้องการของร่างกายตัวเอง (Personalized Probiotics) รวมถึงสัดส่วนที่ควรบริโภคในแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่ปรับสมดุลลำไส้” หมอกล่าว ปิดท้าย

เสริมโพรไบโอติกส์ที่ร่างกายต้องการ สร้างสมดุลสุขภาพ
เพราะเซลส์ 90% ในร่างกายคือเซลส์ของจุลินทรีย์ หากจุลินทรีย์ในลำไส้ที่เสียสมดุล จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคเรื้อรังร้ายแรงมากมาย และแต่ละคนมีความต้องการโพรไบโอติกส์แต่ละชนิดที่แตกต่างกันจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และพันธุกรรม ดังนั้น การตรวจจุลินทรีย์ (Gut Microbiome DNA Test) จึงเป็นการตรวจเพื่อดูว่าร่างกายของเรากำลังขาดโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ชนิดใด เพราะการกินโปรไบโอติกส์ให้เห็นผล ต้องกินสายพันธุ์ที่ใช่ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อการมีสุขภาพที่ดีและยั่งยืน

Cover: Pexels


Oceania Cruises

เรือครูซระดับพรีเมียมลักซ์ชัวรีกับ Oceania Cruises เติมเต็มทุกประสบการณ์คุ้มค่ามากกว่าเดิมแบบ Simply MORE

Alternative Textaccount_circle
Oceania Cruises
Oceania Cruises

บริษัท Deck 9 (เดคไนน์) ลักซ์ชัวรีครูซเอเจนซี่ชั้นนำ เปิดตัวโปรแกรมใหม่ Simply MORETM ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Oceania Cruises ที่เหล่าครูซเซอร์ทั่วโลกตื่นเต้นและตั้งตารอ Simply MORETM นับเป็นบริการที่ทางเรือมอบให้กับครูซเซอร์อย่างครบครันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิ อาหารรสเลิศระดับ Fine Dining ใน ห้องอาหาร Specialty ต่างๆ บนเรือซึ่งรวมแชมเปญ ไวน์ และเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมนานาชนิดในมื้ออาหาร รวมเครดิตสำหรับเที่ยวชายฝั่ง อีกทั้งฟรี Wi-Fi เติมเต็มความสุขให้กับครูซเซอร์ตลอดการเดินทาง

คุณรังสิวิภา จินดาพร กรรมการผู้จัดการบริษัทเดคไนน์ กล่าวว่าOceania Cruises เป็นหนึ่งในเรือครูซ ระดับพรีเมียมลักซ์ชัวรีที่ครองใจครูซเซอร์ทั่วโลก ด้วยความโดดเด่น 4 ประการ ได้แก่ บริการที่ดีเยี่ยม เรือตกแต่งสวยงาม สถานที่เที่ยวสุดประทับใจ และสุดยอดอาหาร ด้วยความตั้งใจอย่างจริงจังของผู้ก่อตั้ง Oceania Cruises ที่มีหัวใจของแบรนด์คือคอนเซ็ปต์ “The Finest Cuisine at Sea®” จุดเด่นที่อาหารรสเลิศที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันตั้งใจตั้งแต่จุดเริ่มต้นเมื่อ 20 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากเชฟชื่อดังระดับโลกอย่างเชฟ Jacques Pépin และ Giada De Laurentiis เซเลบริตี้เชฟชาวอเมริกัน-อิตาเลียน ผู้เป็นที่ชื่นชอบของ Foodie มาเป็น Godmother ของเรือVista อีกด้วย ทั้งนี้เรือ Oceania ยังมีจำนวนเชฟต่อผู้โดยสารบนเรือ เป็นอัตราที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเรือครูซในระดับเดียวกัน เป็นการตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารบนเรือ Oceania Cruises ไม่เพียงเท่านี้จุดเด่นหลักอย่างอื่นสำหรับเรือOceania Cruises ยังได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยเรือที่มีขนาดกลางถึงเล็ก ทำให้ผู้โดยสารไม่มาก จึงได้รับการบริการที่ดีเยี่ยมและทั่วถึง พร้อมการจัดทริปเที่ยวชายฝั่งที่เลือกสรรมาอย่างดีเพื่อให้ประสบการณ์ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แปลกใหม่ และตราตรึงใจ”

ทางด้าน คุณเฟย์ – อรชุมา ดุรงค์เดช ครูซเซอร์สาวสุดสวยที่เคยได้เดินทางไปกับ Oceania Cruises กล่าวว่า “เฟย์ประทับใจทุกครั้งเมื่อนึกถึงประสบการณ์ที่ไปล่องเรือกับOceania Cruises เพราะไม่ใช่แค่ความตื่นตาตื่นใจจากการท่องเที่ยวไปยังเมืองสวยงามทั่วโลกแล้ว เฟย์ยังประทับใจกับอาหารบนเรือมากๆ ค่ะ กับความพิถีพิถันด้านอาหารแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นห้อง Specialty Dining หรือ Grand Dining ห้องอาหารที่เฟย์ชอบมากคือ Toscana อาหารอิตาเลียน เพราะมี Olive Oil หลากหลายรสชาติมาให้เลือกทานกับขนมปัง มี Lobster Spaghetti ที่เป็นของโปรดของเฟย์ค่ะ หรืออย่างห้อง Polo Grill ที่เป็น Steakhouse เสิร์ฟ Steak แบบต่างๆ เฟย์ชอบทาน Steak และ Grilled Lobster ของห้องนี้มากๆ ทางเรือคัดวัตถุดิบชั้นยอดมาเลยจริงๆ ส่วนอาหารเอเชียบนเรือก็มีห้องอาหาร Red Ginger เฟย์ชอบหลายอย่างค่ะ แต่เมนูโปรดคือ Black Cod Miso ช่วงบ่ายก็จะแวะไปจิบชา Afternoon Tea กับ Scone ทุกครั้งที่มีโอกาส เรื่องอาหารที่ถือเป็นปัจจัยแรกๆ ในการเดินทางของเฟย์เลย เพราะการได้ทานอาหารอร่อยในทุกมื้อบนเรือครูซเป็นอะไรที่หาได้ยาก พอเราได้ลองแล้วบอกเลยว่าติดใจมากค่ะ ยิ่งตอนนี้ทาง Oceania Cruises นำเสนอโปรแกรม Simply MORETMที่ทำให้ทุกอย่างง่ายและสะดวกสบายคุ้มค่ามากกว่าที่เคย ยิ่งมาเติมเต็มการพักผ่อนของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เฟย์เชื่อว่าทุกคนที่ได้ล่องเรือกับ Oceania Cruises จะต้องประทับใจเหมือนเฟย์อย่างแน่นอนค่ะ”

Oceania Cruises เป็นบริษัทครูซระดับพรีเมียมลักซ์ชัวรีจากสหรัฐอเมริกา มีเรือครูซสุดหรูขนาดกลางและเล็ก ทั้งหมด 7 ลำ คือ Riviera, Marina, Regatta, Insignia, Sirena, Nautica และเรือลำใหม่ล่าสุด Vista ที่เริ่มให้บริการในปี 2023 ที่สร้างความประทับใจให้ผู้โดยสารจากทั่วทุกมุมโลก และปีหน้ากำลังจะมีเรือลำใหม่ Allura ออกมาสร้างความสุขให้กับครูซเซอร์ทั่วโลก ความโดดเด่นของเรือขนาดกลางและเล็ก (684 – 1,250 คน) คือทำให้สามารถล่องไปยังเมืองเล็ก ๆ ที่เรือขนาดใหญ่จอดเทียบท่าไม่ได้ ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะผู้โดยสารมีจำนวนไม่มาก ทำให้การเดินทางและการใช้ชีวิตบนเรือมีความสะดวกสบายด้วยบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บนเรือตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมหลากหลายให้ทุกท่านได้พักผ่อนกับเพื่อนฝูงและครอบครัว เช่น ฟิตเนส สปา บาร์ คาสิโน เธียเตอร์

ใหม่ ! กับโปรแกรม Simply MORETM ความครบครันและคุ้มค่ามากกว่าเดิมในทุกช่วงเวลาของการล่องเรือ

  • ฟรี เครดิตสำหรับเที่ยวชายฝั่ง
  • ฟรี แชมเปญ ไวน์ และเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมนานาชนิด
  • ฟรี อาหารรสเลิศระดับ Fine Dining
  • ฟรี Wi-Fi

“ร่วมสัมผัสบรรยากาศล่องเรือครูซสุดหรู พร้อมประสบการณ์ใหม่อย่างเหนือระดับ คุ้มค่าและครบครันกับ Simply MORETMจาก Oceania Cruises”


แบรนด์แว่นตา Handmade

MYKITA ดีไซน์ผสานแฟชั่นและฟังก์ชัน สู่แว่นตาเรียบง่ายแต่ทรงพลัง

account_circle
แบรนด์แว่นตา Handmade
แบรนด์แว่นตา Handmade

MYKITA (ไมกิต้า) แบรนด์แว่นตา Handmade ยอดนิยมสัญชาติเยอรมัน โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เปิดตัวความพิเศษด้วยการนำเสนอการดีไซน์ของแบรนด์ ซึ่งผสมผสานระหว่างแฟชั่นและฟังก์ชันให้เข้ากันได้อย่างลงตัว ผ่านการเลือกใช้วัสดุชิ้นสำคัญ

คุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดของ MYKITA คือวัสดุที่ใช้ในแต่ละคอลเล็คชั่น ทำให้แว่นตามีคุณภาพเหนือระดับ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เน้นความออริจินัลและทันสมัย นำเสนอการออกแบบที่เรียบง่าย พร้อมสินค้าที่ผลิตด้วยความประณีต รวมไปถึงศิลปะที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี อันเป็นหัวใจของแบรนด์แว่นตาระดับโลกจากเบอร์ลิน พร้อมถ่ายทอดความเป็นมาของแบรนด์โดยผู้ก่อตั้งแบรนด์ Moritz Krueger (มร.มอริทซ์ ครูเกอร์) อีกด้วย

MYKITA ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 โดย Moritz Krueger (มร.มอริทซ์ ครูเกอร์) และเติบโตบนเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร แบรนด์พัฒนาสายการผลิตอิสระแบบองค์รวม ด้วยความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ว่าความร่วมมือแบบสหวิทยาการและการแลกเปลี่ยนอย่างสร้างสรรค์จะนำมาซึ่งความก้าวหน้าต่างๆ ให้กับ MYKITA โดยมุ่งเน้นสร้างสรรค์แว่นตาคุณภาพสูง ให้ความทนทานยาวนาน ซึ่งในขณะเดียวกันก็ปฏิบัติตามหลักความโปร่งใสเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอีกด้วย แว่นตา MYKITA ผลิตด้วยเทคโนโลยีดีไซน์สิทธิบัตรและความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด

หัวใจหลักของแบรนด์คือ การให้ความสำคัญในคุณภาพ ความแม่นยำ ภายใต้มาตรฐานการผลิตแบบเมด อิน เยอรมนี ทำให้ MYKITA ได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่องกว่า 50 รางวัล ซึ่งมอบให้เป็นเกียรติแก่ดีไซน์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม

การสร้างสรรค์กรอบแว่นตา MYKITA 

  • หลักสี่ประการของการออกแบบอย่างมีความรับผิดชอบของ MYKITA ปรากฏชัดในกรอบแว่นตาทุกชิ้น อันประกอบไปด้วย ความงามเหนือกาลเวลา, การผลิตตามหลักจริยธรรม, ดีไซน์ล้ำสมัย และคุณภาพระดับงานฝีมือ 
  • การออกแบบเริ่มต้นจากแมททีเรียลชิ้นสำคัญ โดยเน้นคุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดของวัสดุที่ใช้
    อย่าง Stainless Steel, Acetate และ MYLON
  • การสร้างต้นแบบ นับเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการออกแบบ ทีมดีไซน์พัฒนากรอบแว่นตา
    แต่ละชิ้นจะคำนึงถึงผู้สวมใส่เป็นสำคัญ พร้อมพิถีพิถันในทุกรายละเอียด 
  • ฟีเจอร์กรอบแว่นตา MYKITA ที่โดดเด่นที่สุด คือองค์ประกอบสำหรับการใช้งาน อย่างบานพับ
    แบบเกลียว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์งานดีไซน์ของ MYKITA
  • กรอบแว่นตาสเตนเลสสตีลซิกเนเจอร์ของ MYKITA แต่ละชิ้นต้องผ่านกระบวนการทำมือกว่า 80 ขั้นตอน

MYKITA มีผลงานร่วมออกแบบแว่นตากับดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลกและแบรนด์ชื่อดังต่างๆ อย่าง Helmut Lang, Leica, Maison Margiela, Martin Rose, Moncler, Park-Seo -Bo, และ 032c. เป็นต้น

ปัจจุบันนอกจาก MYKITA SHOP ในกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีช็อปอีก 14 แห่งทั่วโลกให้ทุกท่านสนุกกับการเลือกสรรแว่นโปรด ซึ่งคอลเลคชั่น ต่างๆ มีจำหน่ายที่ร้านแว่นตาและร้านค้าปลีกที่ได้รับการคัดเลือกในกว่า 80 ประเทศให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ในโลกแห่ง MYKITA อย่างสมบูรณ์แบบ


ในรอยทราย

เปิดวาร์ปสายซัพฯ สุดหล่อใจละลาย จากทีมพระเอกละคร ในรอยทราย

Alternative Textaccount_circle
ในรอยทราย
ในรอยทราย

รู้ตัวอีกที่…ก็รัก (เขา) หมดหัวใจ ประเดิมต้นปีได้แบบสมการรอคอยของละครกระแสดี คำชมล้นหลาม สำหรับละครแนวโรแมนติก แอ็กชั่น เรื่อง ในรอยทราย Twist Of Fate รังสรรค์ผลงานชิ้นพรีเมี่ยมด้วยการผลิตละครหลังข่าวเป็นเรื่องแรกของค่าย “มากกว่าฝัน” ที่ต้องบอกเลยว่าถูกอกถูกใจแฟนละครจนต้องเอ่ยปากกันว่า….ทำถึง!!! ด้วยเนื้อเรื่องกำลังเข้มขันใกล้โค้งสุดท้าย ก็ยิ่งทวีคูณความสนุกครบทุกรสทั้งบู๊ รัก เศร้า แบบจัดเต็มนอนสต๊อปซึ่งนอกจากนักแสดงนำอย่างพระเอกนางเอก นำโดย ไมค์-ภัทรเดช กับบทฝาแฝดสองคนสี่บุคลิกโคจรมาประชันกับสองนางเอก ฐิสา-วริฏฐิสา และ สกาย มาเรีย พร้อมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง

นอกจากนักแสดงดั่งกล่าวแล้ว ทางผู้จัดยังเสิร์ฟดาราชายหนุ่มรุ่นใหม่ ฝีมือไปได้ไกลในวงการอย่างแน่นอน กับสายซัพพอร์ต สุดหล่อ ใจละลายที่ต้องบอกว่าบทบาทของพวกเขาไม่ได้มีดีแค่ฝีมือ แถมความหล่อมาดแมนพ่วงด้วยแล้ว ไม่ว่าจะบทของสันต์ รับบทโดย ทศ รวิศชา , จ่าแดน รับบทโดย บอส นวไพบูลย์ และ จ่าตัส รับทโดย ตัส ทศวรรษ มันเริ่ดมากเลยคุณน้า ทั้งฟีดแบ็คและกระแสตอบรับที่ดีด้วย ทำเอาสาว ๆ ถึงกับเลือกไม่ถูกว่าจะกรี๊ดหุ่น เอ้ยหนุ่มคนไหนดี เพราะหนุ่ม ๆ สายซัพฯ หล่อ งานดี มีเสน่ห์ไม่แผ่วต่างจากพระเอกเลย

วันนี้จึงขอรวบรวมภาพความหล่อแบบชุดใหญ่ของ 3 หนุ่มนักแสดงเลือดใหม่ จากละคร ในรอยทราย ค่ายมากกว่าฝัน ของผู้จัดคนเก่ง “กีต้าร์ ศิริพิชญ์ วิมลโนช” มาให้ทุกคนได้ชมและติดตามผลงานกัน จะได้ทำความรู้กัน ไลฟ์สไตล์ ความหล่อ ความแซ่บของ หนุ่มทศ หนุ่มบอส และหนุ่มตัวส ไปเลยแบบฉ่ำ ๆ ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร

เริ่มจากคนแรกหุ้นส่วนบริษัทพระเอกอย่าง คุณสันต์ รับบทโดย ทศ รวิศชา นักแสดงหนุ่มน่าจับตามองของสถานีฯ แจ้งเกิดจากเวทีประกวดเวทีสมาร์ทบอย 2020 แสดงเป็นพาร์ทเนอร์คู่คิดเพื่อนสนิทกับนักแสดงรุ่นพี่ ไมค์ ภัทรเดช บท “ตะวัน” ใส่สูท ผูกไทน์ เดินเกมธุรกิจทันคู่แข่งได้ชิงไหวชิงพริบกันสุด ๆ IG : tos_rawidcha

ถัดมาทางฝั่งของแฝดผู้น้องอย่างตำรวจมาดขรึม “ทิวา” กับสองตำรวจหนุมไฟแรง อย่าง จ่าแดน รับบทโดย บอส นวไพบูลย์ ตำรวจนอกเครื่องแบบ ขี้เล่น เฟรนด์ลี่ อารมณ์สุนทรี ซัพทั้ง ผู้กองทิวา และ ตะวัน ที่ต้องสลับตัวมารักษาตัวที่เกาะมุก IG : navapaibool

ต่อด้วยอีกหนึ่งหนุ่ม จ่าตัส รับทโดย ตัส ทศวรรษ นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งที่ข้ามฝากมาแสดงละครเต็มตัวเป็นเรื่องแรก คาแร็กเตอร์เป็นอีกหนึ่งคู่หูสายสืบนอกเครื่องแบบให้กับผู้กองทิวา ออกไม่กี่ฉาก แต่ตกแฟน ๆ ไปหลายหลุมหัวใจอยู่ IG : buutuss

ละครในรอยทรายกำลังเข้มข้น ใกล้จะลาจอแต่ความแซ่บของทั้ง 3 หนุ่ม และความสนุกยังมีให้ติดตามชมต่อ ทุกวัน จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 20.40 น. ทางช่อง 7HD กด35

เอ็มจีซี มารีนฯ ชวนดื่มด่ำประสบการณ์สุดพิเศษ กับ อะซิมุท ‘The New S7’

account_circle

เครื่องดื่มแก้วโปรดเคล้าบรรยากาศแสนวิเศษบนเรือยอทช์สุดหรู เป็นสัญญาณให้รู้ว่าช่วงเวลา
แห่งการพักผ่อนอย่างสำราญได้เริ่มต้นขึ้น บริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจำหน่ายเรือยอทช์
อะซิมุท (AZIMUT) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชวนสัมผัสประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
กับเรือยอทช์หรูสัญชาติอิตาเลียน รุ่นล่าสุด ‘The New S7’ ภายใต้คอนเซ็บต์ Smart Sport Yacht
ที่เปียมด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่น ทั้งการดีไซน์และเทคโนโลยีทันสมัย ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงาน มอบความสมบูรณ์แบบเหนือระดับ สำหรับผู้ชื่นชอบความสำราญในแบบเฉพาะตัว

ฉัตรชัย แก้วผ่องศรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด กล่าวว่า
“เรือยอทช์ อะซิมุท The New S7 มาพร้อมแนวคิด Smart Sport Yacht จะช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์การพักผ่อนระดับลักชัวรี่ โดยเรือยอทช์รุ่นนี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ S Collection ที่ได้รับความนิยมสูง
ในตลาด ที่สำคัญเป็นเรือยอทช์หัวใจสีเขียว ลดการปล่อยมลพิษ ขอเชิญผู้พิสมัยการดื่มด่ำ
ความสำราญทางน้ำ และความเป็นส่วนตัว สัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษ ได้แล้ววันนี้ ที่ อะซิมุท เลานจ์, โอเชียน มารีน่า ยอทช์ คลับ พัทยา”

The New S7 รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวผสานความหรูหรา ไอคอนิกแห่งอิตาเลียน นับเป็นเรือยอชท์ทรงสปอร์ตทันสมัยที่สุดในกลุ่มตระกูล S Collection ของ อะซิมุท โครงสร้างภายนอก ได้รับการออกแบบอย่างประณีตบรรจง โดดเด่นด้วยกระจกโค้งด้านหน้าขนาดใหญ่ ทอดยาวไปตามโครงสร้างอย่างไร้รอยต่อ รวมทั้งฮาร์ดท็อป และดาดฟ้า ที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ส่งผลให้เรือมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ สร้างความมั่นคง และความสะดวกสบายในการล่องมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระเบียงขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่อาบแดดและส่วนรับประทานอาหารกลางแจ้ง เหมาะสำหรับจัดดินเนอร์รับลมธรรมชาติ ยามอาทิตย์อัสดงแสนโรแมนติก

ละเมียดละไมในการออกแบบไม่แพ้กัน นั่นคือพื้นที่ภายในเรือโดยสาร ที่แบ่งสรรปันส่วนอย่างลงตัว
อันประกอบด้วยห้องนอนขนาดมาตรฐานถึง 4 ห้อง พร้อมห้องน้ำ 3 ห้อง สามารถรองรับผู้โดยสาร
ได้ถึง 8 คนอย่างสะดวกสบาย และมีพื้นที่แยกสำหรับลูกเรือ 1-2 คน เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของเรือ ขณะที่อีกไฮไลท์สำคัญสะท้อนถึงรสนิยมและคมคิดในการออกแบบ คือการสร้างสรรค์
ให้แสงจากธรรมชาติ สามารถส่องเข้ามายังห้องโดยสารผ่านกระจกบานใหญ่ของโครงสร้างส่วนบน ผสานการออกแบบระบบไฟส่องสว่างบนเรืออย่างลงตัว เคล้าบรรยากาศภายใน ที่เน้นเฉดสี
ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบหรู ตั้งแต่ครีมไปจนถึงน้ำตาลเข้ม สอดรับกับการเลือกใช้วัสดุชั้นดี ใส่ใจ
ทุกกระเบียดแม้ในรายละเอียดที่เล็กที่สุด

รูปลักษณ์โฉบเฉียบ ทันสมัย ผสานดีไซน์ภายในที่มีความเรียบหรูลักชัวรี่ มาพร้อมความสะดวกสบายแบบเหนือระดับไปอีกขั้น ในการเพลิดเพลินกับการนั่งเรือยอทช์ อะซิมุท The New S7 โลดแล่น
ในทะเลกว้าง ด้วยระบบขับเคลื่อน 3 เครื่องยนต์ Volvo Penta D13 IPS 1050 กำลัง 800 แรงม้า (588kW) รับรองระดับ Tier III แม้เรือจะมีขนาดกะทัดรัด ทว่าทรงประสิทธิภาพสูง ให้ความเร็วสูงสุด 35 นอต
ที่สำคัญยังเป็นเรือยอทช์รักษ์โลก ที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การลดใช้เชื้อเพลิง ลดการปล่อยมลพิษได้ 20-30% เมื่อเทียบกับเรือขนาดเดียวกัน สมเป็นนวัตกรรมยานยนต์สุดล้ำ อิตาเลียนสไตล์อย่างแท้จริง

ได้เวลาทอดอารมณ์ บ่มความรู้สึก ไปกับการพักผ่อนแบบลักชัวรี่ The New S7 ความลงตัวแห่งนิยามเรือยอทช์ยุคใหม่ ที่ไม่เพียงหรูหรา สปอร์ต และทรงสมรรถนะ ทว่ายังอินเทรนด์ฉบับพาหนะในฝัน
ของผู้ชื่นชอบการดื่มด่ำความสำราญทางน้ำแห่งยุค

“แอสเซทไวส์” พาส่องโปรเจ็กต์แฟล็กชิป “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา”

account_circle

บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ส่งเซอร์ไพรส์เขย่าวงการบ้านระดับลักชัวรีเมืองไทยด้วยการเผยโฉมโครงการบ้านหรูระดับแฟล็กชิป “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana)” ชวนลูกค้าใช้ชีวิตเหนือระดับแบบไร้ขีดจำกัดที่ “The Social Club” และ “The Residential Club” สองคลับเฮาส์สุดอลังการบนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรไว้สำหรับรองรับทั้งลูกบ้านและแขกของลูกบ้านโดยเฉพาะ โดย “แอสเซทไวส์” เผยทุกดีไซน์คอนเซ็ปต์ การออกแบบฟังก์ชัน และบริการครบวงจรทั้งหมดภายใน “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา” พัฒนาขึ้นจากอินไซต์จริงของตลาดไฮเอนด์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม “Wealth” อีกหนึ่งจุดแข็งของโครงการฯ คือ “บริการ Concierge Services ผู้ช่วยส่วนตัวครบวงจร” ทำหน้าที่เป็นเลขาประจำตัวทุกคนในบ้าน โดดเด่นด้วยความเชี่ยวชาญหลากหลายที่พร้อมดูแลลูกบ้านครบทุกมิติ นับเป็นการสร้างสแตนดาร์ดใหม่ให้โครงการบ้านหรูของเมืองไทยอย่างแท้จริง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า“โครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา ถือเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนาโครงการบ้านหรูในยุคนี้ ซึ่งจุดเด่นของโครงการคือ คลับเฮาส์ 2 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 2,000 ตารางเมตร โดยแห่งแรก คือ The Social Club ตั้งอยู่ด้านหน้าของโครงการเพื่อรองรับแขกของลูกบ้าน โดยแยกสัดส่วนจากพื้นที่พักอาศัยเพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด ซึ่งไฮไลท์คือห้อง Gentle Club ที่ประกอบด้วย Wine & Cigar Room, Fine Dining Space, Tea Room & Car Salon และ The Residential Club สำหรับลูกบ้านได้มาผ่อนคลายและสังสรรค์กับหลากหลายสเปซ ไม่ว่าจะเป็น Private Chef’s Table Space, Private Spa Therapy, Residential Lounge, The Gym, Kids Club หรือ High Tea Pavilion นอกจากนี้ คลับเฮาส์ยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานของทุกเจนเนอเรชัน โอบล้อมสวนสวยขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ มอบบรรยากาศเหมือนลูกบ้านได้เข้าพักในรีสอร์ตสุดหรูภายใต้คอนเซ็ปต์ Stylish Resort อีกทั้งยังมอบบริการ Living Fulfillment จากทีม Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมซัพพอร์ตลูกบ้านที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกมิติ ตั้งแต่งานด้าน Maintenance โดยผู้เชี่ยวชาญที่ไว้วางใจได้ บริการรถรับส่งสนามบิน บริการสปาที่บ้าน บริการจัดเลี้ยง จัดปาร์ตี้ งานทำบุญเลี้ยงพระ การดูแลด้านสุขภาพ และอีกมากมาย”

“ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ มองหาบ้านระดับลักชัวรีที่ให้มากกว่าแค่ดีไซน์ที่หรูหราและพื้นที่กว้างขวาง หนึ่งปัจจัยสำคัญคือทำเลที่ตั้งที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก ทั้งยังต้องแวดล้อมด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์สำคัญ นอกจากนี้ การออกแบบทุกพื้นที่ในบ้าน ยังต้องตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันของครอบครัวใหญ่ที่มีคนหลายเจนอยู่ร่วมกัน และที่สำคัญ ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบเอ็กซ์คลูซีฟและมองหาบ้านที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ยูนีคของสมาชิกทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือเรียนที่บ้าน การต้อนรับแขกพิเศษ การจัดงานสังสรรค์ นอกจากนี้ บ้านยังต้องเป็นสเปซแห่งการพักผ่อน การรีชาร์จร่างกายและจิตใจของทุกคน เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบหรือ Living Fulfillment ซึ่งโครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ เสริม

โครงการ “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา” บ้านเดี่ยว 3 ชั้นพร้อมสระว่ายน้ำและลิฟต์ส่วนตัวทุกหลังจำนวน 106 หลัง ในคอนเซ็ปต์ “Timeless Design” ชูความเรียบหรูและงดงามเหนือกาลเวลา ทว่าเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชันและสเปซที่เข้าใจครอบครัวที่คนหลายเจนเนอเรชันมาอยู่ร่วมกัน พร้อมให้ความเป็นส่วนตัวและสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของทุก ๆ สเปซให้ตอบโจทย์สมาชิกแต่ละคนได้อย่างลงตัว นำเสนอแบบบ้านทั้งสิ้น 3 แบบ มอบพื้นที่ใช้สอย 455-710 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถสูงสุด 6 คัน ราคาเริ่มต้น 40-60 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 4,200 ล้านบาท

โครงการฯ ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนาบนพื้นที่โครงการรวมกว่า 38 ไร่ สามารถเดินทางเชื่อมต่อ 3 ย่านสำคัญ อย่างถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, ถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนลาดพร้าว ทั้งยังใกล้ทางด่วนฉลองรัชเพียง 5 นาที และเดินทาง 15 นาทีถึงทองหล่อ อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วย Lifestyle Hub ครบครัน ทั้งสถานศึกษาชั้นนำ, ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาล อาทิ KIS International School, Shrewsbury International School, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, เดอะคริสตัล เอกมัย – รามอินทรา นับเป็นอีกหนึ่งไพรม์โลเคชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นอันดับต้น ๆ ในกรุงเทพฯ

ทุกรายละเอียดที่เรานำเสนอผ่านดีไซน์และฟังก์ชันของตัวบ้าน คลับเฮาส์ทั้งสองแห่งที่พร้อมซัพพอร์ตไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ และบริการ Concierge ผู้ช่วยครบวงจรสำหรับลูกบ้าน คือความใส่ใจและความตั้งใจของแอสเซทไวส์ ในการคราฟต์ Privileged Living Beyond Limits ในแบบฉบับของ “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา” อย่างแท้จริงนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

keyboard_arrow_up