4 คัมภีร์การเงิน ปี 2563 จาก "เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา" รู้ไว้ไม่มีจน

ไม่ใช้เงินเกินตัว – ไม่สร้างหนี้ – ออม – ลงทุนอย่างระมัดระวัง คัมภีร์การเงิน ปี 2563 ของ เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชื่อดัง หญิงเก่งแห่งแวดวงการเงินมานานกว่า 20 ปี และไม่ว่าสถานการณเ์ศรษฐกิจการเงินของประเทศและของโลกจะเป็นอย่างไร แต่เธอขอให้มี 4 สิ่งดัวต่อไปนี้รับไม่มีว่าจน

ในฐานะที่คุณเมธ์เป็นผู้บริหารเบอร์ 1 ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล หรือ BCAP Asset บริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ ที่ช่ำชองในการบริหารเงินให้ทั้งกลุ่มลูกค้าไพรเวตฟันด์ ลูกค้าสถาบันและ บริษัทใหญ่ ๆ เราจึงขอให้เธอฉายภาพเศรษฐกิจและการเงินคร่าวๆ ของปี 2563 ได้คำตอบว่า

เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังดูเหนื่อย และยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกที่จะผลักดันเศรษฐกิจประเทศ ส่วนตลาดหุ้นของไทยคงปรับตัวขึ้นลงตามตลาดในภูมิภาค ความเสี่ยงในการลงทุนยังสูง จากปัจจัยหลายอย่างทั้งในและต่างประเทศ แบงก์ชาติเพิ่งปรับลดดอกเบี้ยลง เพราะค่าเงินบาทแข็ง

เนื่องจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกปรับลดดอกเบี้ย ถ้าเราไม่ปรับ ลดตาม เงินก็จะไหลเข้าประเทศ ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง การส่งออกจะลำบาก การท่องเที่ยวไม่ได้ดีเหมือนที่ผ่านมา ภาษีการค้าต่าง ๆ ที่สหรัฐฯประกาศออกมาล้วนส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจต่าง ๆ ค่อนข้างมาก

ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เราจึงไม่ควรใช้เงินเกินตัว อย่าสร้างหนี้ เก็บออม รู้จักลงทุนอย่างระมัดระวังและ อย่าโลภ ส่วนตัวมองว่าการออมโดยการฝากเงินอย่างเดียวไม่พอ เพราะอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ถ้าออมเป็นเงิน ฝากออมทรัพย์หรือซื้อสลากออมสิน ผลตอบแทนก็ต่ำกว่าเงินเฟ้อ จึงควรแบ่งมาลงทุนด้วย

แต่การลงทุนเราต้อง ให้เวลาที่จะอยู่กับการลงทุนนั้นอย่างน้อย 3 – 5 ปี เลือกหุ้นที่พื้นฐานดี ลงทุนในบริษัทที่ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นผู้นำในตลาด และปรับตัวเร็ว ในที่สุดผลตอบแทนจากการลงทุนก็จะสูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคาร

แต่ทั้งนี้การลงทุนที่ชาญฉลาดต้องทำควบคู่กับการกระจายความเสี่ยงที่ดี หมั่นศึกษาหาข้อมูล ติดตามข่าว สภาพเศรษฐกิจทั่วไป ยิ่งถ้าลงทุนในหุ้น ต้องเข้าใจธุรกิจของบริษัทนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไร อ่านบทความเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวข้องและบทวิเคราะห์ของบริษัทนั้น ๆ

อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงเมื่อลงทุนผ่านกองทุนรวมคือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพราะค่าธรรมเนียมทุกอย่างที่คิดคือผลตอบแทนของเราที่หายไป ตัวอย่างเช่น บางกองทุนคิดค่าธรรมเนียม การจัดการ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ผลตอบแทนตลาดเฉลี่ย 8 เปอร์เซ็นต์ เขาเอาไปแล้ว 2 เปอร์เซ็นต์ อาจดูไม่เยอะ แต่ถ้าลงทุนระยะยาว เช่น ถ้าลงทุน 10 ปี เงินที่เราจ่ายค่าธรรมเนียมไปอย่างเดียวก็ 20 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งถือว่าเป็น จำนวนมาก รายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม

ในส่วนของมุมมองการลงทุน คุณเมธ์ยังมองว่าโอกาสการลงทุนอยู่ที่ตลาดต่างประเทศมากกว่า โดยมีปัจจัยที่ ส่งผลเชิงบวกจากการที่ธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ มีนโยบายผ่อนคลาย เป็นการบรรเทาการชะลอตัวจากสงครามการค้า และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มสู่การเจรจา นโยบายทางการเงิน แบบผ่อนคลายนี้จะช่วยลดความตึงเครียดลง เป็นผลบวกต่อตลาดโดยรวม

แต่อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจ ที่อ่อนแอทำให้ตลาดหุ้นค่อนข้างอ่อนไหวต่อข่าวต่าง ๆ การกระจายความเสี่ยงที่ดีจะช่วยลดความผันผวนต่อพอร์ต การลงทุน และสิ่งที่ผู้บริหารหญิงเก่งคนนี้ทิ้งท้ายไว้คือ

“ต้องจำไว้เสมอว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ยิ่งผลตอบแทนสูงก็ต้องรับความเสี่ยงที่สูง เป็นของคู่กัน ไม่มีหรอกที่ความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนสูง”

ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 953

เรื่อง : ๙ ลมหายใจ

ภาพ : วรสันต์

ขุ่นพระ! ถ่ายพรีเวดดิ้ง ถึงออสเตรีย สะท้อนภาพอภิมหางานวิวาห์กรณ์และศรีริต้า

สละโสดไป 1 เหลืออีก 2 พี่น้องตระกูลค้าทองคำ เซนต์ ฮิม ไท้

โกรธจนตัวสั่น ทายาทฟอร์มูล่า 1 ถูกโจรบุกคฤหาสน์ กวาดทรัพย์สิน 2 พันล้านเกลี้ยง

กระเป๋า แอร์เมส Birkin “Shiny Rouge H Porosus” พิเศษยังไง ถึงแพง 8 หลัก

สุดยอดบอส! พนักงานเฮลั่น เจ้านายจัดหนักจ่าย ‘โบนัส’ ตกคนละ 1.5 ล้านบาท

เทาไม่น่าเบื่อ “กระเป๋าแอร์เมส” ตระกูลสีเทา เรียบหรู ดูดี มีความเอลิแกนซ์

เปิดลิสต์ 16 กระเป๋า Navy Blue โทนสีสุภาพ เรียบหรู แมทช์กับชุดไหนก็ดูแพง

เก๋กรุบ กระเป๋าคลัทช์ ALEXANDER WANG ไอเดียจากถุงกระดาษใส่อาหาร