บังเอิญเหมือน! Sunny VS Lee Dong Wook หนุ่มมาดกวนชวนหลงรักหัวปักหัวปำ

มีคนเคยพูดว่ามนุษย์เรามีคนที่หน้าเหมือนตัวเองอยู่ 7 คนด้วยกัน โดยคนเหล่านั้นไม่ใช่ครอบครัวเดียวกับเราเลยก็ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนที่ทำโปรเจ็กต์ตามหาคนหน้าเหมือนขึ้นมา และไม่น่าเชื่อว่ามันก็เกิดขึ้นจริงๆ เช่นเดียวกับคนในวงการบันเทิงหลายคนมีหน้าตาใกล้เคียงกัน ยิ่งบางมุมพอถ่ายรูปออกมา ก็เหมือนจนรู้สึกเซอร์ไพร้ส์เลยทีเดียว

“ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” ( Sunny Suwanmethanont ) และ “อีดงอุค” ( Lee Dong Wook ) เป็นคู่ที่แฟนคลับพูดถึงว่ามีส่วนที่คล้ายกันค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะหน้าตาของพวกเขาที่ดูคล้ายกัน มีข้อมูลในเว็บไซต์หลายแห่งที่ชื่นชมเขาว่าเป็น อีดงอุค เวอร์ชั่นไทยแลนด์ วันนี้ “แพรวดอทคอม” เลยจะพาไปเจาะลึกว่าจริงๆ แล้วสองหนุ่มนี้มีความคล้ายกันในเรื่องอะไรอีกบ้าง

1. หล่อกินกันไม่ลง

อย่างแรกเลยก็คือเรื่องความหล่อของพระเอกเบอร์ใหญ่ทั้งสอง ที่ทำเอาสาวๆ หนักอกหนักใจ เพราะเทคะแนนไม่ถูกว่าจะให้ฝั่งไทยแลนด์หรือฝั่งเกาหลีใต้ดี ก็แหมหล่อพรีเมียมทั้งคู่ อย่างอีดงอุคก็เคยถูกโหวตให้ติดโผหนุ่มหล่อทั้งในประเทศและในระดับเอเชีย ขณะที่ฟากหนุ่มหล่อมุกแพรวพราวอย่างซันนี่ก็มีความหล่อแบบโกอินเตอร์ เพราะเป็นลูกครึ่งไทย – สิงคโปร์บวกฝรั่งเศส ถึงจะคนละประเทศแต่ก็หล่อบาดใจสาวๆ ทั้งคู่ เห็นแล้วตัดสินใจยากมากจริงๆ

2. หุ่นดีงามดึงดูดใจ

ต่อกันที่หัวข้อที่สาวๆ อาจใจเต้นโครมครามสักหน่อยนั่นคือ รูปร่างและซิกแพคที่ดึงดูดสายตา พวกเขาเป็นหนุ่มที่ใส่ใจการออกกำลังกาย แม้จะไม่ได้โชว์ให้เห็นบ่อยๆ แต่ก็มีการปล่อยฉากอาบน้ำออกมาเล็กๆ น้อยๆ ให้แฟนคลับได้ฮือฮา และย้อนกลับไปในอดีต กว่าจะได้หุ่นพิชิตใจสาวๆ แบบนี้ ทั้งสองเคยเป็นหนุ่มร่างท้วมมาก่อน โดยในรายการ Roommate อีดงอุคเปิดเผยว่าเขาเคยถูกวิจารณ์ถึงรูปลักษณ์ว่าน่าเกลียด และในช่วงที่เกณฑ์ทหารเขายังถูกเรียกว่าไอ้หมูขาว ซึ่งหลังออกจากกรม หนุ่มคนนี้กลับมาฟิตหุ่นเต็มที่ ดูเหมือนว่ารูปร่างของเขาจะดูดีกว่าแต่ก่อนอีกด้วย

ด้านซันนี่เขาเข้าวงการมาด้วยน้ำหนัก 80 กิโลกรัม แต่หลังจากที่แคสติ้งภาพยนตร์เรื่องแรก “เพื่อนสนิท” ก็ได้ตั้งใจลดน้ำหนักอย่างเต็มที่จนเหลือ 60 กว่าๆ และคงน้ำหนักระดับนี้มาจนถึงปัจจุบัน (ยกเว้นตอนเล่นหนัง “รัก7ปีดี7หน” ที่ต้องเปลี่ยนรูปร่างให้เข้ากับบทบาท แต่พอหนังจบน้ำหนักกลับลงมาเท่าเดิม)

3. หนุ่มโสดวัย 38

ไม่ใช่หน้าตาที่หล่อสไตล์เดียวกันเท่านั้น แต่พวกเขายังมีอายุ 38 ปีเท่ากันอีกด้วย ซันนี่และหนุ่มอีดงอุคเกิดในปี ค.ศ. 1981 โดยพระเอกไทยเกิดในเดือนพฤษภาคม ขณะที่พระเอกเกาหลีเกิดในเดือนพฤศจิกายน สำหรับเรื่องสถานะนั้นทั้งคู่เสียงแข็งว่าโสดมากๆ ส่วนสเปคนั้นซันนี่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ได้มีตายตัวแต่แพ้ทางคนดี จิตใจดี และจริงใจ ขณะที่ทางด้านดงอุคเผยว่าเขาชอบผู้หญิงทานเก่ง เฉลียวฉลาด กระตือรือร้น และเป็นผู้ฟังที่ดี แต่ก็ไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายว่าเขาชอบคนสวยด้วยเหมือนกัน

4. ความหลงใหลในตัวการ์ตูน

ถึงจะอายุไม่น้อยแล้ว แต่พวกเขายังหลงใหลในตัวการ์ตูน อย่างซันนี่ในวันที่เขาไม่ได้ไปงานที่เป็นทางการ เราก็มักจะเห็นเขาในชุดกางเกงยีนกับเสื้อยืดลายการ์ตูนน่ารักเสมอ ซันนี่เคยให้สัมภาษณ์กับ the people ว่าเขามีหนังสือการ์ตูนและฟิกเกอร์เยอะมาก ซึ่งเรื่องที่เขาชื่นชอบมากที่สุดคือ “โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ” โดยเขาบอกอีกว่าการ์ตูนไม่ไร้สาระเลยสำหรับเขา ถ้าเรามีปัญหาเราก็สามารถหาสาระได้แม้ในหนังสือการ์ตูน ด้านดงวุคก็ได้ให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ GQ KOREA ว่าเวลาเขาไปต่างประเทศและเจอร้านขายของที่ระลึกของดิสนีย์ เขาจะเข้าไปอย่างไม่รีรอ เขาบอกว่าการได้อยู่กับตัวการ์ตูนมันทำให้เขารู้สึกมีพลังขึ้น ถึงเขาจะแก่จนเป็นคุณปู่ความรู้สึกแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิม

5 . ห่างไกลอบอุ่นและโรแมนติก

ถึงในละครสองหนุ่มในจะมีภาพลักษณ์อบอุ่นและโรแมนติก แต่ชีวิตจริงนั้นพวกเขายืนยันชีวิตจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ซันนี่ได้ให้สัมภาษณ์ในนิตยสารแพรว ฉบับที่ 954 เดือนมกราคม 2563 เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ส่วนตัวเขาไม่ชอบทำเซอร์ไพร้ส์ เพราะคิดว่าไม่อยากทำดีเพื่อให้หวังอะไร เขาแค่เป็นคนดื้อๆ ถ้ารู้สึกอะไรก็บอกเลยไม่อยากปิดบัง ด้านดงอุคก็เคยให้สัมภาษณ์บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเป็นผู้ชายที่ไม่มีความโรแมนติกเลย แต่คนก็คาดหวังเพราะบทที่แสดงทำให้คนคิดว่าในชีวิตจริงเขาต้องเป็นแบบนั้น

6. สายขำ

ไม่ใช่ว่าสองหนุ่มจะดูอารมณ์ดีแค่ในจอเท่านั้น เพราะนอกจอซันนี่ก็ทำให้นักข่าวที่มารอสัมภาษณ์ขำท้องคัดท้องแข็งไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรหนุ่มคนนี้ก็มักจะมีมุกตลกแทรกตลอด ทำเอาแฟนคลับหลายคนถึงกับบอกว่าอยากจะซื้อตั๋วไปยืนขำข้างๆ เลยทีเดียว ด้านหนุ่มดงอุค ถึงภาพลักษณ์จะไม่เน้นตลกเท่าไหร่ แต่จากที่เห็นเบื้องหลังรายการต่างๆ ที่เขาไปออก หนุ่มคนนี้ก็ตบมุกเก่งใช่ย่อยนะจ๊ะ