เคี้ยวพริกยังไม่เผ็ดเท่า! “เมลาเนีย ทรัมป์” สุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกา

อดีตจะเป็นอย่างไรใครแคร์!? เมื่อคุณสามีกำชัยชนะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกาก็ตกเป็นของคุณนายที่แซ่บที่สุดในสามโลก “เมลาเนีย ทรัมป์” 

และแล้ววันนี้ที่รอคอยของอดีตนางแบบสโลวีเนียชาวอเมริกันวัย 46 กะรัต “เมลาเนีย ทรัมป์” ก็มาถึง! วันที่ได้เป็น สุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกา ขอบอกว่าโปรไฟล์ของสตรีหมายเลข 1 ผู้นี้ก็ไม่ธรรมดาไก่กาอาราเล่นะคะคุณขา เพราะเธอบอกว่าพูดได้ถึง 5 ภาษา คือ ภาษาพื้นเมืองของสโลวีเนีย ภาษาเซอร์เบีย ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเยอรมัน

สวยแซ่บและสื่อสารได้กว้างไกลแบบนี้ เพราะเธอออกสตาร์ทอาชีพนางแบบตั้งแต่อายุ 16 ปี แม้หลังจากที่เข้ามหาวิทยาลัยได้เพียงแค่ปีแรกก็ลาออก! แต่ ณ จุดนี้หาแคร์ไม่ เพราะเธอเลือกผันตัวไปเดินสายเป็นนางแบบตั้งแต่มิลาน ปารีส ถึงนิวยอร์ก เก็บแต้มสะสมชื่อเสียงมาเรื่อยๆ ยิ่งพอมาแต่งงานกับอภิมหาเศรษฐีอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” ออร่าของสาว “เมลาเนีย” ยิ่งระเบิดปังขึ้นไปอีก ไต่ระดับความเป็นนางแบบและเซเลบระดับเอลิสต์ตั้งแต่วันแต่งงาน ได้อวดโฉมบนปกนิตยสารชื่อดังต่อเนื่อง

แต่ความสวยหรูในฐานะนางแบบนี้ แอบสะดุดขาตัวเองนิดหน่อยก็ตรงที่เธอไม่ได้ถูกมองว่าเป็น “ซูเปอร์โมเดลแห่งยุคสมัย” แต่ถูกมองว่าเป็น “นางแบบนู้ดสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊มพ์” เสียมากกว่า!! หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ขึ้นชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อดีตของ “เมลาเนีย” ที่แซ่บสุดขอบเลนส์ ก็ถูกขุดขึ้นมาตีแผ่บนหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดังฝั่งเทศมากมาย เรียกว่าใครที่ลืมเลือนภาพเหล่านั้นหรือเกิดไม่ทัน ก็ได้เห็นภาพโป๊เปลือยของเธอกันถ้วนหน้ แถมระหว่างขึ้นกล่าวบนเวทีช่วยสามีหาเสียงก็ดั๊นโป๊ะแตก! ที่สุนทรพจน์อันยอดเยี่ยมของเธอก็ดันดูเหมือนจะไปก็อปปี้สุนทรพจน์ของ “มิเชล โอบามา” อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 มาซะงั้น! แต่งานนี้ถามว่าใครแคร์? ในเมื่อวันนี้เธอได้ชื่อว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ไปเรียบร้อยโรงเรียนสหรัฐอเมริกาแล้ว!

บอกเลยว่าเคี้ยวพริกสดยังไม่เผ็ดเท่าสุภาพสตรีหมายเลข 1 คนนี้!

เคี้ยวพริกยังไม่เผ็ดเท่า! "เมลาเนีย ทรัมป์" สุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกา

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา
ภาพ: Jamie McCarthy/Getty Images
เมลาเนีย ทรัมป์
ภาพ: Larry Busacca/Getty Images
WASHINGTON, DC - APRIL 25: Melania Trump attends the 101st Annual White House Correspondents' Association Dinner at the Washington Hilton on April 25, 2015 in Washington, DC. (Photo by Michael Loccisano/Getty Images)
ภาพ : Michael Loccisano/Getty Images

หลบหน่อย สุภาพสตรีหมายเลข 1 มาล้าวว-ว!

PALM BEACH, FL - JANUARY 04: Donald Trump, Barron Trump and Melania Trump attends Trump Invitational Grand Prix Mar-a-Lago Club at The Mar-a-Largo Club on January 4, 2015 in Palm Beach, Florida. (Photo by Gustavo Caballero/Getty Images)
โดนัลด์ ทรัมป์, เมลาเนีย และแบร์รอน ลูกชายคนเล็กสุด ภาพ : Gustavo Caballero/Getty Images

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม

ไปไม่ถึงฝัน “ฮิลลารี คลินตัน” ชวดสร้างประวัติศาสตร์ เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ

ถึงแม้ผลโพลจากหลายๆ สำนักก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะคาดการณ์ว่า “ฮิลลารี คลินตัน” ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตจะได้รับชัยชนะโค่น “โดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน แต่ผลการเลือกตั้งจริงในวันนี้ที่ออกมานั้นกลับพลิกโผเพราะคนที่ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 กลับเป็น โดนัลด์ ทรัมป์  ทำให้เธอชวดตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกาไปอย่างน่าเสียดาย

Hillary Clinton: She's With Us

แต่ถึงจะไปไม่ถึงฝันก็ต้องพูดว่า ฮิลลารี คลินตัน เดินทางมาได้ไกลมากทีเดียว หากใครที่ติดตามเธอจะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดา ประสบการณ์การทำงานที่โชกโชนของเธอสามารถต่อสู้กับคู่แข่งที่เป็นผู้ชายได้อย่างดุเดือด โดยก่อนหน้านี้นางฮิลลารี คลินตัน วัย 68 ปี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 67 ในรัฐบาลประธานาธิบดี “บารัก โอบามา” และเธอยังเป็นภริยาของ “บิล คลินตัน” ประธานาธิบดีคนที่ 42 แห่งสหรัฐอเมริกาอีกด้วย และนั่นทำให้เธอกลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริการะหว่างปี ค.ศ.1993 – 2001

Hillary Clinton: She's With Us

ฮิลลารีนับเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกที่ลงรับเลือกตั้ง และได้รับเลือกถึง 2 สมัยด้วยกัน แต่ในสมัยที่ 2 ดำรงตำแหน่งไม่ครบวาระ เนื่องจากเธอเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในปี ค.ศ.2009 และในปี ค.ศ.2016 นี้ ก่อนหน้าที่จะลงเลือกตั้ง ต้องยอมรับว่าคะแนนเสียงของเธอตกลงมาจากการที่ถูกโจมตี เนื่องจากในอดีตเธอเคยสนับสนุนสงครามอิรักสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช  ทำให้ตำแหน่งว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของเธอห่างไกลไปมาก และนั่นน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้คะแนนนิยมของเธอตกลงฮวบ! แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ประชาชนส่วนหนึ่งของอเมริกาก็ยังสนับสนุนเธอเพราะนโยบายที่คนอเมริกันมองว่าจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตได้ในอัตราที่เร็วและแข็งแกร่งขึ้น ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯตกต่ำลงไปมาก ทำให้เธอได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่จากตรงนี้ไปนั่นเอง หรือแม้แต่คนดังจากแวดวงฮอลลีวู้ดยังออกมาร่วมสนับสนุนฮิลลารีเป็นจำนวนมาก เอาเป็นว่าเราไปฟังนโยบายคร่าวๆ ของพรรคเธอกันเลยดีกว่า

MIAMI, FL - JULY 23: Democratic presidential candidate former Secretary of State Hillary Clinton and Democratic vice presidential candidate U.S. Sen. Tim Kaine (D-VA) attend together a campaign rally at Florida International University Panther Arena on July 23, 2016 in Miami, Florida. Hillary Clinton and Tim Kaine made their first public appearance together a day after the Clinton campaign announced Senator Kaine as the Democratic vice presidential candidate. (Photo by Gustavo Caballero/Getty Images)

โดยนโยบายหลักของฮิลลารี คลินตัน ที่ได้ใจประชาชนไป หลักๆจะเน้นไปที่ด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายภาษีใหม่แบบ “โรบินฮู้ด” โดยจะมีการขึ้นภาษีของผู้ที่มีรายได้สูงจากหลายช่องทาง เช่น หากใครมีรายได้ทั้งปีรวมแล้วสูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ จะต้องเสียภาษีอย่างต่ำไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ หากทำทั้งหมดนี้ได้จริงๆ รัฐบาลสหรัฐฯจะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นทั้งหมดราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี

Hillary Clinton Miami Rally

ซึ่งเงินที่ได้จากการเก็บภาษีจะแบ่งอย่างชัดเจน โดยจะนำไปลงทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจหลายด้านด้วยกัน ทั้งลงทุนในด้านการศึกษา ปรับปรุงและสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เช่น ถนนหนทางและการคมนาคมในประเทศ ซึ่งชาวอเมริกันทราบดีว่าถึงเวลารื้อของเก่าแล้ว เพราะคุณภาพสู้เมืองใหม่ๆในเอเชียไม่ได้แล้ว และเงินภาษีบางส่วนจะนำไปสนับสนุน paid family leave นั่นแปลว่าชาวอเมริกันจะสามารถลาไปเลี้ยงบุตรและยังได้ค่าตอบแทนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของเงินเดือนปกติ โดยคาดว่านโยบายนี้จะสามารถลดต้นทุนของการทำงานและเพิ่มอัตราส่วนการเข้าร่วมแรงงานได้ หากฮิลลารี คลินตัน ได้เป็นประธานาธิบดีจริง ละได้ดำเนินตามนโยบายนี้ มีการคาดการณ์ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าสหรัฐฯจะกลับมาแข็งแกร่งเป็นมหาอำนาจอีกครั้ง

Hillary Clinton Campaigns In Crucial States Ahead Of Tuesday's Presidential Election

แต่ถึงนโยบายจะดีงามยังไงก็เห็นชัดแล้วว่าศึกการเลือกตั้งครั้งนี้เธอไม่สามารถซื้อใจประชาชนให้หันมาเลือกเธอเป็นประธานาธิบดีได้ ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะข่าวฉาวต่างๆ ของเธอทำให้คนอเมริกาส่วนใหญ่ได้หมดศรัทธาและความเชื่อมั่นในตัวเธอ ถึงแม้ฝั่งตรงข้ามอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ได้ดีงามไปกว่าฮิลลารี คลินตัน ซักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ เขาก็เป็นเหมือนความหวังใหม่สำหรับคนอเมริกาคงคล้ายๆ กับสุภาษิตไทยที่ว่า “ไปตายเอาดาบหน้า” ล่ะมั้ง

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : www.gettyimages.com

 

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ

ย้อนอ่านบทสัมภาษณ์พิเศษ ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ สว.สหรัฐฯ ลูกครึ่งไทยคนแรก

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ

 

สำหรับนาง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ  สตรีลูกครึ่งไทย – อเมริกัน แห่งพรรคเดโมแครต ผู้พิการสูญเสียขาทั้งสองข้างจนต้องใส่ขาเทียมและนั่งรถเข็น เหตุโดนยิงระเบิดขณะเป็นนักบินผู้ช่วยอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ UH-60 แบล็คฮอว์ค ระหว่างเข้าร่วมรบในสงครามรุกรานอิรัก ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ.2555 เธอชนะการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 8 รัฐอิลลินอยส์ คว้าผลคะแนนเสียงชนะโจ วอลช์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน และเป็นสตรีเชื้อสายไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านการเลือกตั้งเข้าไปทำงานในรัฐสภาสหรัฐอเมริกา ทั้งยังเป็นสตรีชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับเลือกเข้าสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์ ต่อมาในปี 2009 เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐ และปี 2012 เธอได้รับชัยชนะการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส่งผลให้เธอเป็นสตรีทุพพลภาพคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงเชื้อสายไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ: Getty images

โดยครั้งหนึ่ง “นิตยสารแพรว” ได้มีโอกาสนั่งสัมภาษณ์เธอผ่านทางสไกป์ออนไลน์ตรงจากนครชิคาโก เรื่องราวของสตรีผู้พิการแต่หัวใจแกร่ง ที่มีประวัติเคยเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตอภิปรายโต้แย้งถึงนโยบายของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้รับเลือกแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯในปี พ.ศ.2552 ชนะคะแนนเสียงเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขต 8 รัฐอิลลินอยส์ รวมถึงรับราชการเป็นทหารในสังกัดกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแห่งรัฐอิลลินอยส์ เธอคนนี้เป็นอย่างไร แพรวพาย้อนรอยไปนั่งพูดคุยกันเลย

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ: Facebook – Tammy Duckworth

ทราบว่าชื่อ “ลัดดา” มีที่มาอย่างไรคะ?

แทมมี่: ใช่ค่ะ ตอนคุณเเม่ท้องเเทมมี่ ท่านฝันเห็น “ดอกไม้หอมสีขาว” จึงตั้งชื่อจริงให้ว่า “ลัดดา” มาจากดอกลัดดาวัลย์ค่ะ

ชีวิตครอบครัวของ ด.ญ.ลัดดาเป็นอย่างไรคะ?

แทมมี่: คุณพ่อ (แฟรงค์ แอล ดักเวิร์ธ) เป็นทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน เคยร่วมรบสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อยมาจนถึงสงครามเวียดนาม ส่วนคุณเเม่ (ละมัย สมพรไพลิน) เป็นคนไทย เเทมมี่เกิดเเละเติบโตที่เมืองไทย เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนนานาชาติ International School Bangkok ต่อมาคุณพ่อทํางานเป็นเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ ต้องเดินทางไปๆมาๆในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่คุณเเม่เลี้ยงเเทมมี่กับน้องชาย (ทอม ดักเวิร์ธ) อยู่เมืองไทย แทมมี่จึงพูดไทยคล่อง หลังจากนั้นเราไปอยู่อินโดนีเซีย 8 ปี ก่อนจะย้ายไปปักหลักที่ฮาวายตอนเเทมมี่อายุ 16 ปี แม้จะมีเวลาอยู่ที่เมืองไทยบ้านเกิดเพียง 8 ปี เเต่เเทมมี่มีความเป็นไทยเต็มเปี่ยม ชอบอาหารไทย มีญาติพี่น้องที่เมืองไทย คิดว่าตัวเองเป็นผลผลิตของ 2 ประเทศ 2 วัฒนธรรม คือ ภายใต้ความแข็งแรงของอเมริกา เรายังไม่หลงลืมความอ่อนช้อยและมารยาทแบบไทยๆ

ชีวิตแทมมี่เจอมรสุมหลายครั้ง เริ่มจากตอนที่หน้าที่การงานของคุณพ่อซึ่งเคยดีมาตลอด แต่พออายุ 55 ปีกลับประสบกับภาวะว่างงาน สถานภาพครอบครัวเปลี่ยนทันที เราต้องย้ายจากบ้านหลังใหญ่มาอยู่ห้องสตูดิโอเล็กๆ ทุกคนในครอบครัวต้องช่วยกันหาเงิน ตื่นเช้ามาต่อเเถวรับแสตมป์ค่าอาหารของรัฐบาล ได้ความช่วยเหลือเจือจุนจากผู้อื่นบ้างนิดๆหน่อยๆ แม่ต้องเย็บผ้าหารายได้ ส่วนแทมมี่พยายามส่งตัวเองเข้าเรียนวิทยาลัยด้วยการขอทุน และทำงานเสิร์ฟอาหาร ได้ค่าแรงวันละไม่กี่เหรียญ ประสบการณ์นี้เองที่ทำให้บอกตัวเองว่า สักวันเราต้องทำงานที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ: Facebook – Tammy Duckworth

การเติบโตมาในครอบครัวทหาร เป็นสาเหตุให้คุณแทมมี่อยากดําเนินรอยตามคุณพ่อหรือเปล่าคะ?

แทมมี่: ใจจริงทีแรกไม่ได้คิดจะเป็นทหารหรอกค่ะ แต่ความที่เรียนด้านรัฐศาสตร์การทูต พอจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยฮาวาย ก็เรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน อาจารย์แนะนำให้เรียนด้านยุทธวิธีการเจรจาทางทหาร แทมมี่จึงสมัครเป็นนายทหารกองหนุน หรือ ROTC (The Army Reserve Officers’ Training Corps) ปรากฏว่าชอบทันที (หัวเราะ) เป็นโปรแกรมที่ทุกคนมีตำแหน่งเท่าเทียมกันทั้งชาย หญิง คนเอเชีย ผิวดํา ผิวขาว ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องยอมเสียสละทำงานหนักเเละช่วยเหลือกัน แทมมี่ยิ่งเรียนยิ่งชอบ ไปๆมาๆจึงสมัครเป็นทหาร ได้รับการประดับยศเป็นนายร้อย หรือนายทหารสัญญาบัตร (Commissioned Officer) ของกองทัพบกสหรัฐฯ เมื่อปี 1992

ตอนนั้นต้องเลือกว่าจะทำงานทหารประเภทไหน เเล้วบังเอิญได้ยินมาว่าต่อให้ผู้ชายเลือกเป็น Finance Officer หรือนักกฎหมาย จะต้องเขียนว่า Infantry (ทหารราบ) หรือ Armor (ทหารยานเกราะ) เเล้วต้องไปออกรบ ไม่มีทางเลือก ขณะที่ทหารหญิงสามารถประนีประนอม ไม่ต้องไปรบก็ได้ โดยส่วนตัวคิดว่าไม่แฟร์ ไม่ต้องการหลบสิ่งที่อันตรายเพียงเพราะเราเป็นผู้หญิง จึงถามเจ้าหน้าที่ว่ามีงานทหารบกด้านไหนที่ผู้หญิงเข้าร่วมรบได้บ้าง เขาบอกมีแค่อย่างเดียว คือต้องสมัครเป็นนักขับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ โอเค เราเขียนเป็นนัมเบอร์วันเลย (หัวเราะ) แล้วสอบได้ด้วย ทั้งชั้นมีผู้หญิงเรียนเเค่ 2 คนเท่านั้น

หลังเข้าเรียนที่โรงเรียนการบินครบถ้วนตามหลักสูตรที่กําหนด เเทมมี่ก็สมัครเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังป้องกันชาติแห่งรัฐอิลลินอยส์ (Illinois Army National Guard) ในปี 1996 ทำคะแนนเป็นอันดับ 3 ในรุ่น ซึ่งมีประมาณ 40 คน ต้องฝึกบินหนักมาก เเทมมี่เคยขับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กเข้าสู่สมรภูมิมาแล้วกว่า 200 เที่ยว บ้าระห่ำมาก (หัวเราะ) จากการทุ่มเทเเรงกายเเรงใจกับการบิน สุดท้ายจึงได้เป็นผู้บังคับการกองร้อยปฏิบัติการ แบล็กฮอว์ก UH-60A ทำหน้าที่ฝึกอบรมทหารอากาศ 60 นาย รวมทั้งดูแลการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์มูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์ ในฐานะผู้อำนวยการยุทธและผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องการวางแผน มอบหมายหน้าที่ และติดตามภารกิจของกองกำลังพิเศษขนาดกำลังพล 500 นายในอิรัก

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ : Getty images

ช่วงที่ต้องไปประจำการอยู่อิรักลำบากไหมคะ?

แทมมี่: บอกตามตรงว่าการใช้ชีวิตอยู่ที่อิรักง่ายกว่าอยู่บ้านอีก (หัวเราะ) เพราะปกติต้องตื่นเช้าขับรถไปทํางาน เสาร์ – อาทิตย์ไปฝึกทหารอย่างน้อยเดือนละ 1 – 2 ครั้ง บวกกับต้องไปซ้อมการบินอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง คือมีหลายอย่างต้องทำ ขณะที่เมื่อประจำการอยู่อิรัก แน่นอนว่าลำบาก อยู่ไกลครอบครัว แต่ชีวิตง่าย ตื่นเช้ามาไปทำงานวันหนึ่งประมาณ 18 – 20 ชั่วโมง พอกลับถึงที่พักก็นอนหลับแบบสลบ ตื่นมาก็ไปทำงานต่อ เป็นแบบนี้ทุกวัน เสื้อผ้าใช้วิธีส่งซัก เพราะไม่มีที่ซัก อาหารประจำวันส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยที่คุณแม่จัดเตรียมใส่กล่องส่งมาให้ที่แบกแดดเสมอ ชีวิตช่วงนั้นจึงมีแค่นอนกับทำงานปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยกันให้ดีที่สุด

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ: Facebook – Tammy Duckworth

ขออนุญาตถามถึงเหตุการณ์เฉียดตายที่ทำให้ต้องใส่ขาเทียมได้ไหมคะ?

แทมมี่: จำได้ไม่ลืม วันที่ 12 พฤศจิกายน 2004 วันนั้นแทมมี่ปฏิบัติภารกิจขับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก UH-60 โดยมีเพื่อนนักบินอีกคนช่วยกันขับ บินทั้งวันตั้งแต่ตีสามจนทั่วน่านฟ้าประเทศอิรัก ตอนกำลังจะกลับไปที่สนามบินได้รับคำสั่งด่วนว่ามีทหารอีก 2 นายต้องการขึ้นเครื่อง เราจึงบินไปรับ แต่ระหว่างทางกลับเครื่องบินเราถูกซุ่มโจมตีด้วยเครื่องยิงจรวด Rocket-Propelled Grenade (RPG) ขาขวาแทมมี่หายไปพร้อมระเบิดเลย ส่วนขาซ้ายและแขนขวาแหลกละเอียด วินาทีนั้นพยายามคุมสติบังคับเครื่องลงจอด แล้วยังพยายามดับเครื่องด้วย เพราะกลัวจะมีระเบิดหรืออะไรตามมาอีก ก่อนจะสลบไปเนื่องจากเสียเลือดมาก รู้ตัวอีกทีนอนอยู่โรงพยาบาลที่แบกแดดแล้ว และจำอะไรไม่ได้เลย

ทุกคนบอกว่าแทมมี่เพ้อถามหาลูกน้องตลอดว่าเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็ถูกส่งไปรักษาตัวที่วอลเตอร์รีด (โรงพยาบาลทหารในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.) นานหลายสิบวัน พอฟื้นคืนสติขึ้นมาจึงรู้ว่าเสียขาทั้งสองข้างไปแล้ว เวลานึกย้อนหลังแทมมี่คิดว่าตัวเองโชคดีที่พกเหรียญหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ ที่คุณแม่ให้คล้องติดตัวไว้ตลอดเวลา ถ้าไม่มีท่านคุ้มครองอาจไม่มีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ก็ได้ แต่คุณแม่กลับบ่นน้อยใจว่าทำไมพระท่านไม่ช่วยลูกสาว (หัวเราะ)

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ: Facebook – Tammy Duckworth

ย้อนถามถึงความสนใจการเมือง เริ่มตั้งเเต่เมื่อไรคะ?

แทมมี่: ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล มีทหารชั้นประทวนที่ได้รับบาดเจ็บมาขอคำปรึกษาปัญหาสังคมสงเคราะห์จากแทมมี่ตลอดว่าจะได้รับเงินเดือนตามปกตินานเท่าไร ได้เงินชดเชยค่าบาดเจ็บอย่างไร หรือจะหางานพลเรือนได้ที่ไหน ซึ่งแทมมี่ก็ต้องโทรศัพท์ไปถาม ส.ส.หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบ่อยๆ แต่บางครั้งก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้เรามีความมุ่งมั่นอยากจะลงสมัครผู้แทนเพื่อเป็น ส.ส. เพราะรู้สึกไม่พอใจกับกฎหมายเรื่องความช่วยเหลือและสวัสดิการของทหารที่ได้รับบาดเจ็บในสงคราม บวกกับตอนนี้แทมมี่ถือว่าตัวเองอยู่ในช่วงเวลาที่เรียกว่า “โบนัสชีวิต” เพราะเราอาจตายไปกับเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้นแล้ว แต่เมื่อชีวิตได้โอกาสที่สอง มุมมองการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนไป แทมมี่อยากทำตัวให้มีค่า ทำทุกอย่างที่คิดว่าถูกต้อง ไม่เคยกลัวหรือวิตกต่อการโจมตีทางสื่อหรือทางการเมือง

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ : Getty images

แล้วมาร่วมงานกับบารัก โอบามา ได้อย่างไรคะ?

แทมมี่: แทมมี่พบกับคุณบารัก โอบามา ครั้งแรกตอนนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลทหารที่วอลเตอร์รีด อาร์มี เมดิคัล เซ็นเตอร์ จำได้ว่าเขาเดินทางมาเยี่ยมทหารบาดเจ็บเป็นการส่วนตัวเงียบๆ ตอนกลางคืนรวมทั้งวันเสาร์ – อาทิตย์ เพื่อถามไถ่ทุกข์สุข นั่งฟังทหารแต่ละคนเล่าเรื่องราวว่าได้รับบาดเจ็บอย่างไร ครอบครัวเป็นอย่างไร พอออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ช่วงนั้นแทมมี่มุ่งมั่นอุทิศตนทำงานการกุศลเพื่อทหารผ่านศึกรัฐอิลลินอยส์ จนปี 2006 ก็ได้รับการเเต่งตั้งจากร็อด บลาโกเยวิช (Rod Blagojevich) อดีตผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ให้เป็นผู้อำนวยการองค์การทหารผ่านศึก ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเดินมาถูกทางเเล้ว จึงตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 6 เรียกว่าก้าวสู่วงการการเมืองเต็มตัวครั้งแรก เพราะแทมมี่เชื่อว่าการเข้าไปทำงานในสภาคองเกรสจะสามารถขับเคลื่อนประเด็นปัญหาต่างๆที่อยากจะแก้ไขได้ง่ายขึ้น ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การปฏิรูปเรื่องการศึกษา เรื่องสิทธิสตรี รวมถึงเรื่องสวัสดิการที่เหมาะสมของเหล่าทหารผ่านศึกด้วย

เเม้ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นเเทมมี่จะเเพ้ เเต่อย่างน้อยก็ยังมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เมื่อมีโอกาสเจอคุณโอบามาอีกครั้ง  คราวนี้เขาออกปากชวนแทมมี่ให้ไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องทหารผ่านศึก พร้อมทั้งเสนอชื่อแทมมี่ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ตอนแรกก็งงว่าทำไมจึงอยากทำงานกับเรา เขาบอกว่าชอบโครงการที่แทมมี่เคยทำที่รัฐอิลลินอยส์  โดยเฉพาะการให้เงินช่วยเหลือ 600 เหรียญกับบริษัทที่จ้างทหารผ่านศึกทำงาน ซึ่งนับเป็นรัฐแรกในประเทศที่ทําแบบนี้ คุณโอบามาต้องการจะขยายโครงการนี้ไปทั่วประเทศ เลยถามว่าแทมมี่จะยอมออกจากอิลลินอยส์ไปวอชิงตันไหม ฟังแล้วในหัวเราตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ต้องไปนะ (หัวเราะ) ไม่ไปไม่ได้ โดยเฉพาะงานนี้เป็นงานที่มีประโยชน์ต่อประเทศ

ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ
ภาพ: Facebook – Tammy Duckworth

ภายนอกดูเป็นผู้หญิงหัวใจเเกร่งมากๆ ตัวตนของเเทมมี่เป็นอย่างนั้นไหมคะ?

แทมมี่: เป็นทหารมา 20 ปี ถ้าอ่อนแอคงทําไม่ได้ ก่อนหน้านี้แทมมี่ชอบช็อปปิ้ง ชอบเเฟชั่นเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่ชีวิตมาเปลี่ยนตอนที่โดนระเบิด พอตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าตัวเองรอดตาย หลังจากนั้นทุกวันของเราก็มีค่ามาก เพราะเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง ดังนั้นถ้ามีเรื่องอะไรที่เข้ามากระทบจิตใจ ทําให้เสียใจ หรือเหนื่อยล้าขนาดไหนไม่เป็นไร คิดเสมอว่าคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่าวันนั้นอีกแล้ว แทมมี่ยึดคติว่า “Count Your Blessings” คิดถึงสิ่งดีๆในชีวิต แม้วันพรุ่งนี้อาจเจอเรื่องที่ไม่ดีบ้าง แต่การมีชีวิตอยู่นับว่าเป็นเรื่องดีที่สุด ต้องนึกถึงสิ่งดีๆมากกว่าสิ่งไม่ดีค่ะ

 

ประวัติไม่ธรรมดา แต่ที่น่านับถือคือความคิดและจิตใจของเธอนี่แหละ…ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ว.รัฐอิลลินอยส์


เรียบเรียงโดย : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูล : นิตยสารแพรว ปักษ์ 796 ปี 2555
ภาพ : Getty Images, แฟนเพจ Facebook – Tammy Duckworth

ภาพประวัติศาสตร์ ‘บิล-ฮิลลารี คลินตัน’ ร่วมชมการแสดงโขนกับในหลวง-พระราชินี เมื่อครั้งมาเยือนไทย

จากสถานะสตรีหมายเลข 1 เมื่อครั้งที่สามีของเธอ บิล คลินตัน ขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ เวลานั้นบทบาทของฮิลลารี คลินตัน ก็ดูจะเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เธอติดตามสามีเพื่อสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีประเทศไทยอยู่ด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ประธานาธิบดี บิล คลินตัน ของสหรัฐฯ ได้เดินทางมาพร้อมกับภริยา นางฮิลลารี คลินตัน ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินาถ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2539 โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ฯ เพื่อตอนรับผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนั้น

การมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะ ทำให้เรารู้จักสตรีหมายเลข 1 อย่างนางฮิลลารี คลินตันมากขึ้นด้วย ซึ่งในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการต้อนรับในรูปแบบรัฐพิธี พระราชทานเลี้ยงในพระบรมมหาราชวังกับทั้งสองอย่างสมเกียรติ อีกทั้งทรงโปรดเกล้าฯให้มีการจัดแสดงโขนรามเกียรติ์ ชุดยกรบ เฉพาะพระพักตร์ ณ บริเวณสนามหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ให้เป็นสถานที่จัดการแสดง เนื่องจากพระองค์มีพระราชประสงค์ให้แขกต่างถิ่นที่มาเยือนได้เห็นว่าประเทศไทยนั้นมีศิลปวัฒนธรรมอันงดงามที่ไม่เหมือนกับชาติใดในโลก ซึ่งในวันนั้นพระราชอาคันตุกะทั้งสองยังได้รับพระมหากรุณาจากพระองค์ให้ร่วมชมการแสดงอย่างเป็นกันเองอีกด้วย

หลังจากบทบาทของสตรีหมายเลข 1 จบลงไปพร้อมกับการเปลี่ยนประมุขของสหรัฐตามกำหนดวาระ นางฮิลลารี คลินตันก็เข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นอีกครั้ง ทั้งการเป็นสมาชิกวุฒิสภารัฐนิวยอร์ก จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ในสมัยที่บารัค โอบามา ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2555 นางฮิลลารี คลินตันก็ได้มาประเทศไทยอีกครั้งพร้อมกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในฐานะแขกของรัฐบาลสมัยนั้น

นางฮิลลารี คลินตัน กลับมาเยือนเมืองไทย และได้เข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกครั้งร่วมกับประธาธิบดีบารัค โอบามา
นางฮิลลารี คลินตัน กลับมาเยือนเมืองไทย และได้เข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกครั้งร่วมกับประธาธิบดีบารัค โอบามา

ขณะเดียวกันก็เป็นครั้งที่สองที่นางฮิลลารีได้มาเยือนไทย และมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีกครั้งด้วย

เรื่อง : sriploi

ภาพ : http://www.ibtimes.co.uk/thailand-life-times-king-bhumibol-adulyadej-worlds-longest-reigning-monarch-1564362 และคลิปกษัตริย์ปฐมครูโขน-ละครแห่งแผ่นดินB45

 

 

 

น้ำหอม

4 น้ำหอมที่สาวๆ ควรพก กลิ่นละมุนจนหนุ่มๆ ต้องเหลียวหลัง

Alternative Textaccount_circle
น้ำหอม
น้ำหอม

น้ำหอม กับ ผู้หญิง เป็นของคู่กันที่ไม่ควรขาด เพราะเป็นช่วยทำให้ผู้หญิงมั่นใจขึ้น นอกจากช่วยกลบกลิ่นไม่พึงปรารถนาแล้ว ยังเสริมเสน่ห์สร้างบุคลิกให้ดูดีชวนน่าหลงใหล เดี๋ยวจะหาว่าพูดเว่อร์เกินจริง ลองนึกตามสิ เชื่อว่าทุกคนเคยเจอเวลาที่คนเดินผ่านแล้วมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นชวนสูดดมลอยละล่องมากระแทกจมูก เราถึงขั้นต้องหันมองตามเลยนะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหอมของแท้กลิ่นหอมอ่อนๆ ดูอ่อนโยน มีความละมุนไม่ฉุนจมูก แถมติดทนนานด้วย

เกริ่นมาตั้งเยอะก็แค่จะบอกว่าแพรวมีน้ำหอมมาแนะนำ 4 แบรนด์ที่ผู้หญิงควรต้องมีอย่างน้อยสักแบรนด์สองแบรนด์พกไว้นะจ๊ะ บอกเลยจำเป็นสำหรับผู้หญิงมากๆ เรียกได้ว่าเป็นไอเท็ม Must Have เลยค่ะ แล้วคุณจะรวยเสน่ห์จนหนุ่มๆ ต้องเหลียวหลังเลยทีเดียว

ซึ่งแบรนด์ที่แพรวแนะนำนั้น บรรดาเหล่าแพรวนิสต้า เมคอัพอาร์ติสต์ ซูเปอร์โมเดล และบิวตี้บล็อกเกอร์ อาทิ ทิวากร โสภาอัศวภรณ์, เจตประวิทย์ ตรีพิทักษ์, พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, แพรวเพชร กาญจน์เกียรติกุล, ณัฐกฤตา เกษรมาศมณี และธนฤทธิ์ แสงสิน ร่วมทดสอบในกิจกรรมสุดยอดผลิตภัณฑ์ความงาม Praew Iconic Beauty 2016 แล้วได้ผลลัพธ์ตรงกันว่าหอมจริง ติดทนจริง และมีความยูนีกตามสไตล์แต่ละแบรนด์ สาวๆ คนไหนไม่มีถือว่าพลาด! จะรออะไรล่ะ เก็บเงิน แล้วไปสอยกันค่ะ

 

2331s420570_main_zoom-jpg

Dior J’adore Eau de Parfum
สุดยอด ICONIC CLASSIC SCENT PERFUME

กลิ่นหอมในตำนานของ “House of Dior” ที่มีภาพลักษณ์หรูหราราวกับน้ำทิพย์ในขวดสีทองเลอค่า น้ำหอม “J’adore” สูตรแรกวางขายตั้งแต่ปี 1999 และเป็นที่นิยมติดอันดับยอดขายสูงสุดเสมอมา จนกลายเป็นกลิ่นสุดคลาสสิกที่สาว ๆ ทั่วโลกพากันหลงรัก ดีไซน์สุด “Luxury” ของรูปทรงขวดที่มีคอยาวระหงสง่างาม ดึงดูดให้เปิดมาพบกับ
กลิ่นอายของดอกกระดังงา กุหลาบ และมะลิอาหรับเข้มข้น ปิดท้ายด้วยกลิ่นบางเบาสไตล์ Woody จาง ๆ จาก “Sandalwood” ที่หลอมรวมกัน กลายเป็นบรรยากาศของแสงอาทิตย์สีทองทาบทอลงบนพื้นน้ำทะเลยามเย็น
สง่างามสมเป็นตำนาน ทั้งกลิ่นและภาพลักษณ์ที่ทำให้นึกถึงผู้หญิงสง่างามแบบ “ชาร์ลีซ เทอรอน”
(100 มิลลิลิตร / 6,250 บาท)


i_0690251019113_50_20160419

Jo Malone English Pear & Freesia Cologne
สุดยอด ICONIC REFRESHING SCENT PERFUME

เดินผ่านแล้วแทบสะดุดกับกลิ่นหอมหวานชวนสดชื่นตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วงจากโจ มาโลนคอลเลคชั่น “English Pear & Freesia” ถ่ายทอดความหอมละมุนของผลแพร์ที่สุกงอมกำลังดีผลิดอกออกผลอย่างพร้อมพรั่งอุดมสมบูรณ์ในสวนผลไม้แห่งชนบทของอังกฤษ “English Pear & Freesia Cologne” เป็นแนวกลิ่นที่แสดงถึงออกถึงคาแรคเตอร์ของความเรียบง่าย ผ่อนคลาย อารมณ์สัมผัสอันแสนบางเบาสื่อสารถึงความสดใส มีชีวิตชีวา เปรียบดั่งสวมใส่เครื่องประดับชิ้นงามเติมเต็มความหอมให้กับเรือนร่าง ผสมผสาน English Pear & Freesia ด้วยโจ มาโลนกลิ่น Orange Blossom ความหอมสดใสที่ได้จากดอกลิลลี่ ดอกไลแลค และดอกส้ม คละเคล้าได้ดีกับความสดชื่นหอมหวานของผลแพร์ที่กำลังสุกงอมน่าสัมผัส กลายเป็นแนวกลิ่นที่เต็มไปด้วย ความหอมหวานละมุนละไม น่าทะนุถนอมของแนวกลิ่นฟรุ๊ตตี้ฟลอรัล
(100 มิลลิลิตร / 4,250 บาท)


coco-mademoiselle-edp-100ml_

CHANEL COCO MADEMOISELLE Eau de Parfum Spray
สุดยอด ICONIC GLAM SCENT PERFUME

เติมเต็มเสน่ห์หรูหราแบบที่ผู้หญิงพึงมี “COCO MADEMOISELLE Eau de Parfum” เป็นน้ำหอมรุ่นท็อปของชาแนล ที่มีกลิ่นหวานละมุน หรูหรา มีคลาสในแบบฉบับของ Chanel ให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงมั่น หรูหรา และทันสมัย ทั้งยังมีกลิ่นที่ติดทนนาน โดยกลิ่นหอมของน้ำหอมนี้จะมาจากการผสมผสานของดอกมะลิอย่างลงตัว เหมาะกับอากาศเมืองไทย ไม่ฉุนจนเกินไป
(100 มิลลิตร / 5,400 บาท)


236005278

NARCISO RODRIGUEZ Poudrèe Eau de Parfum
สุดยอด ICONIC SEXY SCENT PERFUME

เสน่ห์ของหญิงสาวเปรียบเสมือนแสงที่อบอุ่นของดวงอาทิตย์ กลิ่นนี้เหมาะสำหรับสาวทันสมัย เป็นกลิ่นแนววู๊ดดี้อัมเบอร์ กลิ่นที่ช่วยส่งผ่านความหรูหรา แปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Honey Flower  กลิ่นดอกส้ม อำพัน และกลิ่นวนิลา กลิ่นหลักจาก Solar Musk, Tactile Musk,  Vetiver ผสมผสานรวมกันจนได้กลิ่นหอมที่หลอมรวมอวลไออันอ่อนโยน ละมุนละไม และทรงอำนาจในหนึ่งเดียว เพื่อถ่ายทอดอารมณ์แห่งความเป็นผู้หญิงได้กว่าที่เคยเป็น และ “มัสค์” กลิ่นหอมที่พร้อมหลอมรวมกับผิวกายอิสตรีเพื่อทวีเสน่ห์ตราตรึงชวนหลงใหลในทันที ออกแนวสาวหวานไฮโซที่ไม่อ่อนปวกเปียก สดชื่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่เวียนหัวด้วย ฉีดแรกๆ อาจจะแอบฉุนเล็กน้อยเพราะไม่คุ้น แต่หลังจากนั้น พอเซ็ตตัวกับผิวแล้วหอมสุดฉุดไม่อยู่เลยคร๊า
(100 มิลลิลิตร / 4,700 บาท)

 

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและรูปภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับ 892 ปักษ์ 25 ตุลาคม 2559 


บทความบิวตี้อื่นๆ ที่น่าสนใจ
ดีจริงไม่ต้องพูดเยอะ! 8 โปรดักต์ปราบริ้วรอยร่องลึก
10 ไอเท็มเด็ดน่าสอย กลบรอยหมองคล้ำ ล็อกผิวเนียนใสไร้ที่ติ
ใช้ดีเลยบอกต่อ ชี้เป้า 10 สกินแคร์ หน้าขาวกระจ่างใส
เลิกซะ! 5 พฤติกรรมใช้บรอนเซอร์ผิดๆ
ลิปสติก 8 เฉดลุคธรรมชาติ งดจัดจ้าน ราคาน่ารัก

ส่องชุดสมรสประทาน “หญิงแม้น-แม้นนฤมาส ยุคล”

account_circle

คุณหญิงแม้น – ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคล และ หนุ่มไฮโซตระกูลดัง ซัน – ต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต ควงคู่สู่พิธีมงคลสมรสประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เราไม่รอช้ารีบเสาะหาข้อมูลและยกหูโทรฯ สายตรงไปหาคุณปลา-สุดจิตร์ แห่ง Finale Wedding Studio เจ้าของผลงาน ชุดแต่งงานหญิงแม้น อย่างด่วนจี๋

หญิงแม้น-แม้นนฤมาส ยุคล
สวมชุดไทยบรมพิมานเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์

หญิงแม้นเลือกใช้ชุดไทยบรมพิมานและชุดไทยประยุกต์ สำหรับ 2 ช่วงพิธีการ โดย ชุดไทยบรมพิมาน ที่หญิงแม้นใส่ออกมาสวยเป๊ะ เป็นชุดที่ออกแบบและตัดเย็บโดย Finale Wedding Studio  และคนที่จะช่วยเราพลิกตะเข็บชุดได้ดีที่สุดจึงได้แก่คุณ ปลา – สุดจิตร์ สุดจิตต์ เจ้าของแบรนด์นั่นเอง

หญิงแม้น-แม้นนฤมาส ยุคล
ชุดไทยบรมพิมาน ออกแบบและตัดเย็บโดย Finale Wedding Studio

คุณปลาให้รายละเอียดเกี่ยวกับชุดไทยพระบรมพิมานของเจ้าสาวราชนิกูลคนนี้ว่า  “เป็น 1 ใน 8 ชุดไทยพระราชนิยม ที่มีลักษณะเป็นเสื้อเรียบสีงาช้าง คอตั้ง  แขนกระบอก นุ่งทับด้วยผ้ายกใหญ่ ลายทองโบราณ จับจีบหน้านาง สวมเครื่องประดับ ต่างหู สร้อยคอ และเข็มขัด อันเป็นเครื่องประดับเก่าแก่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5”

และคุณปลายังกำกับมาอีกด้วยว่า “เจ้าสาวที่จะเข้าพิธีพระราชทานน้ำสังข์ ต้องสวมชุดไทยบรมพิมาน และต้องเป็นโทนสีอ่อน อย่าง สีงาช้าง สีขาว และสีครีม”

หญิงแม้น-แม้นนฤมาส ยุคล
ชุดสำหรับพิธีทางศาสนา

สำหรับพิธีทางศาสนาหญิงแม้นเลือกใส่ชุดไทยประยุกต์ โดยคุณปลาเล่ารายละเอียดของชุดให้เราฟังด้วยเช่นกันว่า ตัวเสื้อตัดเย็บจากผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสลายในเนื้อผ้าแท้ๆ  เป็นคอสูง เอวจับจีบรูดเล่นระบาย กระดุมด้านหลังยาวตลอดตัวเสื้อ วางผ้าเล่นเชิงลายลูกไม้ที่คอเสื้อ ปลายแขนเสื้อ และระบายรอบเอว ด้านในเป็นเสื้อเกาะอกสีขาว  กระโปรงป้ายด้านหน้าเป็นลายทอพิเศษออกแบบโดย คุณเกสินี กล่ำอยู่สุข และคุณปลาเอง โดยผู้ประกอบพิธีทางศาสนาในงานมงคลนี้คือ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

เราขอแสดงความยินดีกับบ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันคู่นี้ และมีงานฉลองสมรสประทานเมื่อไหร่ เราจะรีบนำมาเสิร์ฟให้อ่านกันทันที แต่ที่แน่ๆ เรามีรูปฟิตติ้งชุดสวยมาให้ดูกันเป็นน้ำย่อย บอกเลยว่า สวยและเซ็กซี่สุดๆ ไปเลย

หญิงแม้น-แม้นนฤมาส ยุคล
ชุดฉลองสมรสประทาน

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ ปลา – สุดจิตร์ สุดจิตต์ เจ้าของแบรนด์ Finale Wedding Studio

ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก : Finale wedding Studio ไอจี: yingmann

กษัตริย์จิกมี

รักล้นเกล้า 23 พระราชอิริยาบถ กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏาน ผู้ดำเนินรอยตามในหลวงรัชกาลที่ 9

กษัตริย์จิกมี
กษัตริย์จิกมี

ไม่ทรงเป็นเพียงต้นแบบให้แก่พสกนิกรชาวไทยได้เดินตามรอยพระบาทเท่านั้น แต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังทรงเป็นต้นแบบให้พระมหากษัตริย์พระองค์อื่นๆทั้งในและต่างประเทศ เฉกเช่นกษัตริย์จิกมี ราชันแห่งภูฏาน ที่ทรงเดินตามแนวทางปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และดูแลทุกข์สุขประชาชนให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขอีกด้วย

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก หรือที่มักคุ้นหูเรียกพระนามสั้นๆว่า กษัตริย์จิกมี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ในรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก ทรงได้รับการยกย่องจากชาวภูฏานรวมถึงชาวไทยส่วนใหญ่ว่ามีพระจริยวัตรที่งดงาม และทรงเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวภูฏาน เนื่องจากพระองค์นั้นทรงทุ่มเทพระวรกาย ทรงงานหนัก ไม่เว้นแม้แต่เสด็จลงพื้นที่เยี่ยมเยือนราษฎรในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อพัฒนาประเทศและนำความผาสุขมาสู่ราษฎรชาวภูฏาน และที่สำคัญพระองค์ยังทรงให้ความใกล้ชิดกับราษฎรชาวภูฏานโดยไม่ถือพระองค์อีกด้วย

หากพิจารณาแล้ว เมื่อมองกษัตริย์จิกมี คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนคงนึกถึงภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือพ่อหลวงของชาวไทยอย่างแน่นอน ซึ่งกษัตริย์จิกมีเคยมีพระราชดำรัสถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยว่า “ข้าพเจ้ารัก เคารพ และชื่นชมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างมาก พระองค์ท่านทรงเป็นสุดยอดพระมหากษัตริย์” (Facebook: Bhutan Center) กล่าวได้ว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นแรงบันดาลใจ และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่พระราชาแห่งภูฏานทรงศรัทธาและเคารพเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงทรงยึดเป็นต้นแบบในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆด้วย

อีกทั้งความรักต่อพระราชินี นั่นคือสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก และพระราชโอรส เจ้าฟ้าชายจิกมี นัมเกล วังชุก กษัตริย์จิกมีก็ทรงสนพระราชหฤทัยดูแล และทรงมอบความปรารถนาดีให้อย่างสม่ำเสมอถึงแม้พระองค์จะทรงงานหนักก็ตาม เรียกว่าทรงเป็นกษัตริย์ผู้ดำเนินตามรอยพ่อหลวงของไทยอย่างแท้จริง และทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวภูฏาน ไม่เว้นแม้แต่ชาวไทยอีกด้วย

พระบรมฉายาลักษณ์ในพระราชอิริยาบถต่างๆของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน ในหลายพระบรมฉายาลักษณ์ก็มีความคล้ายคลึงกับพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เฟซบุ๊กแฟนเพจที่ชื่อ Bhutan Center นั้นได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งสองพระองค์มาโพสต์เพื่อให้ประชาชนได้ชมกัน ซึ่งทุกภาพล้วนสะท้อนให้เห็นว่าพระมหากษัตริย์ของไทย “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ทรงเป็นต้นแบบของกษัตริย์หนุ่มแห่งภูฏานพระองค์นี้อย่างแท้จริง

 


เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ : แฟนเพจ Facebook – Bhutan Center, www.bhutancenter.com

Ralph Lauren’s Coffee

Ralph Lauren’s Coffee @ NEW YORK “คอ #กาแฟ สาย #แฟชั่น” ต้องจัด! ต้องโดน!

Ralph Lauren’s Coffee
Ralph Lauren’s Coffee

 

Pound_Praewnista พาชมร้านกาแฟสไตล์ราล์ฟ ลอเรน ที่ถนน 5th Avenue New York ขอบอกว่า “มีที่นี่ที่เดียว” เท่านั้นนะครับ

อากาศที่นี่เริ่มเย็นลงแล้วครับ ก็ประมาณ 6 องศาได้แล้ว (บรื๋อ) เลยตั้งใจจะได้ช็อปบอมเบอร์แจ็กเก็ตสักหน่อย อยู่อเมริกาทั้งทีก็ต้องหาแบรนด์ที่นี่ใส่นิสนึง “POLO Ralph Lauren” จึงเป็นชื่อแรกๆที่ปิ๊งขึ้นมา ที่นึกถึง POLO Ralph Lauren เพราะผมว่ามีอะไรให้เล่นมากกว่า Ralph Lauren เฉยๆ  ลวดลายและสีก็มันกว่าเยอะ ส่วนราคาก็มีแบบไม่แพงจนถึงแพงมาก แล้วแต่ “ชิ้น” กันไปครับ 

ว่าแล้วก็ปักหมุดพุ่งไปที่สโตร์ใหญ่ตรง 5th Avenue (711 5th Avenue at 55th Street)

01-shop

สโตร์หาไม่ยากครับ เพราะมันมีความเว่อร์อลังการอยู่ แวะซื้อเค้กที่อร่อยจนน้ำตาไหลที่ Lady M @The Plaza Hotel มาปุ๊บ เลยขวามือของ Bergdorf Goodman มาอีกนิดก็จะเห็นทันที แฟล็กชิปสโตร์นี้เปิดมาได้ 2 ปีแล้วครับ (28 สิงหาคม 2014) มีทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งข้าวของละลายตาเว่อร์ เอาเป็นว่าเรื่องเสื้อผ้าผมไม่แตะแล้วกัน เพราะที่ไทยของก็แซ่บและน่าสอยไม่แพ้กัน ใครว่างแวะไปดูกันนะครับที่ Groove เซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนผมพอได้ชิ้นที่ต้องการแล้ว ก็พุ่งไปที่ชั้น 2 เพื่อขอนั่งจิบกาแฟที่ “Ralph’s Coffee” ทันที

ตั้งใจแวะมาหลายครั้งแล้ว แต่พลาด! วันนี้ฤกษ์ดี ต้องจัด!

061115_rl_coffee_lp_03_us img_0010 polo-menu ralph3 PEN90514_1_0114.tif rl_coffee_02

วันที่ผมไปคนเยอะใช่เล่นนะครับ พนักงานน่ารักของที่นี่ถามผมว่า “รับเป็น Take Away ไหม” เพราะเกรงว่าจะต้องรอโต๊ะนาน แต่ Hello! มีหรือจะยอมเดินออกไปเฉยๆ ยังไงก็ต้องขอนั่งสักหน่อย เพราะร้านบรรยากาศดีมาก…เริ่มตั้งแต่ตัวพื้นที่นำโมเสกสีขาวชิ้นเล็กมาเรียงต่อกันแบบไม่จงใจ ผมใช้คำว่าไม่จงใจนะครับ เพราะมันไม่ได้ดูเนี้ยบซะทีเดียว น่าจะอยากให้มีความเท่ปนๆอยู่นะครับ ตัวพื้นสีขาวตัดกับลังไม้โอ๊กสีน้ำตาลที่เรียงสูงขึ้นไปเกือบถึงเพดานได้อย่างลงตัว แถมตัวหน้าต่างทรงโค้งบานใหญ่ โชว์ให้เห็นด้านนอกของถนนเส้น 5th ของนิวยอร์กเขาละครับ ก่อนจะสั่งเครื่องดื่ม ผมถามบาริสต้าคนเดิมว่า “เก้าอี้” ที่ใช้ได้มาจากไหน ฮีว่า “มิสเตอร์ราล์ฟได้มาจากตลาดเก่าที่ฝรั่งเศส” ส่วนโต๊ะก็ท็อปด้วยหินอ่อน “Carara” ธรรมดาที่ไหน ทั้งหมดก็เพื่อสื่อให้เห็นถึงสไตล์แบบ “American boathouse & a Parisian bistro” นั่นเองครับ

03-coffee-cup

เคยมีคนบอกว่า “ถ้าอยากรู้ว่ากาแฟดีไม่ดี ให้ลองสั่งเอสเปรสโซ”

แต่ผมว่ามันขึ้นอยู่ความชอบของแต่ละคนนะครับ อย่างผมลิ้นจระเข้ ดื่มได้หมด จะขม จะอ่อน จะนุ่ม จะดาร์ก หรือจะกึ้ก! เพราะส่วนตัวกาแฟดีต้องมาพร้อมบรรยากาศที่ดี และที่ Ralph’s Coffee ตอบโจทย์ผมเรื่องบรรยากาศได้ดีเยี่ยม ต่อให้นั่งดื่มน้ำล้างเมล็ดกาแฟต้มสุก (หัวเราะ) ผมก็ไม่ติดอะไรเลย…

แต่เดี๋ยวก่อน เห็นเขียนแบบนี้ เดี๋ยวจะว่าเอสเปรสโซที่นี่ไม่ได้เรื่องนะครับ กลับกัน! ถือได้ว่า “ยอดเยี่ยม” เชียวครับ ด้วยกาแฟได้รับมาตรฐานจาก La Colombe Torrefaction ซึ่งถือว่าไม่ง่ายเลย เพราะนอกจากเรื่องแหล่งที่มาของกาแฟแล้ว การบดที่ต้องถูกจังหวะก็สำคัญ การจับเวลาในการต้ม รวมถึงคุณภาพน้ำก็ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้คนที่อินเรื่องกาแฟเขาใส่ใจกันเป็นพิเศษ มิสเตอร์ราล์ฟก็ด้วย เพราะนอกจากรสชาติที่พี่เขาปลิ้มปริ่มแล้ว เขายังอัญเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหลายท่านอย่าง Mario Batali, Alain Ducasse และ Jean-Georges Vongerichten มาค้นหากาแฟที่ใช่เพื่อเสิร์ฟในร้านนี้อีกด้วย! เอาซี้!

04-%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%b2

จริงๆบาริสต้าก็คะยั้นคะยอให้ลองชิมตัวอื่นด้วยอะนะ แต่เดี๋ยวก่อน แค่แก้วนี้ก็ตาแข็งเว่อร์ละ สิ่งที่ทำได้คือยิ้มอ่อนๆให้นางพร้อมเมินหน้าหนี (ประมาณว่าสวยมาก?)

ที่ Ralph’s Coffee ไม่ได้มีเฉพาะกาแฟนะครับ

08 082

ที่นี่เป็นมินิคอนเซ็ปต์สโตร์ก็ว่าได้ เพราะนอกจาก a cup of drink แล้ว ยังมีพวกสโคน คุกกี้ และแซนด์วิชเสิร์ฟด้วย ซึ่งแซนด์วิชเป็นแบบ Daily Special ที่แต่ละวันนั้นเสิร์ฟไม่เหมือนกันครับ แถมยังมี The Coffee & Espresso Blends ทั้งแบบใส่ถุงและกล่องโลหะให้เลือกซื้อกลับบ้านกันไปอีก ราคาก็อยู่ที่ 15 – 17 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแบรนด์โรยัลตี้ท่านอื่นๆที่ไม่สนกาแฟ ก็ยังมีเสื้อโปโลโลโก้ร้านกาแฟ หมวก ผ้ากันเปื้อน ตุ๊กตาหมี กระเป๋าโท้ต รวมถึง Table Book หายากให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน

06

07-book-%e0%b9%81%e0%b8%a2%e0%b8%81

อ้อ! เกือบลืมช็อกโกแลตบาร์สีขาวและสีเขียว

08

เป็นอะไรที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ทั้งสองสีรสชาติเดียวกันครับ แต่ที่อยากแนะนำให้ซื้อทั้งสองสีเพราะมันเก๋ไร้บรรยายอะสิ! ส่วนรสชาติก็ละมุนลิ้นดีเหลือเกิน (แผลบๆ)

09-mr-ralph

“The smell of freshly brewed coffee evokes so many memories for me, Mostly of time spent with friends and family, the people I love. I want to develop this coffee blends in that spirit and create a place where people could come together and take a break from their busy day”

Ralph Lauren

ผมเชียร์คุณอยู่ คุณก็รู้

เรื่อง : Pound_Praewnista

ณเดชน์ คูกิมิยะ ตอบคำถาม ภูมิใจแค่ไหนได้เกิดเป็นคนไทยในรัชกาลที่ 9

ความภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยในรัชกาลที่ 9 และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวงจะฝังรากลึกลงในหัวใจและเลือดเนื้อของลูกหลานคนไทยสืบไป ประหนึ่งต้นไม้ที่ฝังรากลงบนดิน และเติบโตมั่นคงขึ้นได้ด้วย “น้ำ” ซึ่งคือ “หยาดเหงื่อของพ่อ” 

ด้วยความสำนึกจากหัวใจนั้น พระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ได้บอกเล่าเรื่องราว แนวคิด และการดำเนินชีวิตตามรอยพ่อว่า

“ผมเกิดในปี 2534 ครับ และถัดมาไม่นานพระองค์ท่านก็มีพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการเศรษฐกิจพอเพียง จึงทำให้ผมได้รู้จักพระองค์ท่าน พอเราโตขึ้นมาก็ยิ่งรู้จักพระองค์ท่านมากขึ้น รู้ในเรื่องของพระราชกรณียกิจต่างๆที่พระองค์ท่านเสด็จฯไปทรงงานในหลายๆพื้นที่ผ่านทางข่าวในพระราชสำนัก ซึ่งภาพที่เห็นคือพระองค์ท่านทรงงานอยู่ตลอด ทำให้ผมได้เห็นถึงความเหนื่อยที่พระองค์ท่านทรงดูแลประเทศไทย ทรงสั่งสอนคนไทยในสังคมให้เป็นคนดีและรักประเทศไทย ถ้าถามผมว่าภูมิใจแค่ไหนที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9 ผมคงหาคำตอบมาไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่เราโชคดีมากๆที่ได้เกิดมาในแผ่นดินของประเทศไทย โชคดีมากที่ได้เกิดมาอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 9″ 

สำหรับแนวคิดและการดำเนินชีวิตตามรอยพ่อนั้น พระเอกหนุ่มบอกว่า ความกตัญญูต่อพ่อแม่สำคัญที่สุด

“ผมจะน้อมนำในเรื่องของพระราชกรณียกิจต่างๆมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชีวิต นำไปบอกต่อแก่สังคม นำไปใช้เวลาที่เรามีครอบครัว นำพระราชดำรัสต่างๆของพระองค์มาใช้ โดยเฉพาะเรื่องของความพอเพียงครับ การมีอยู่ มีกิน รู้จักพอดี แล้วก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดในการใช้จ่าย และที่สำคัญคือหน้าที่ของความเป็นลูก ต้องรู้จักกตัญญูต่อพ่อแม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กทุกคนควรจะทำครับ นิทรรศการ ‘พระบารมีปกเกล้า เหล่าปวงประชา’ เป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่ผมอยากเชิญชวนให้มาชมกัน ไม่ว่าจะเป็นน้องๆเยาวชน คุณพ่อ คุณแม่ เพราะงานในครั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เป็นนิทรรศการที่อยากให้ทุกคนได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจ พระมหากรุณาธิคุณ รวมไปถึงพระบรมฉายาลักษณ์ในพระราชอิริยาบถต่างๆ อยากจะให้ทุกคนน้อมนำสิ่งเหล่านี้เก็บไว้ในดวงใจของเราตลอดไปครับ”

ณเดชน์ คูกิมิยะ

ณเดชน์ ภูมิใจที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9
ชมนิทรรศการ “พระบารมีปกเกล้า เหล่าปวงประชา” ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2559 เวลา 10.00 – 17.00 น. ณ ชั้น G อาคารมาลีนนท์ 2 สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 พระราม 4

nadach04

ณเดชน์ คูกิมิยะ

nadach08

nadach07


เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : Thai TV3

3 เซเลบริตี้สาวหัวใจอาร์ตพาตะลุยช็อปใหม่ “โจนาธาน แอดเลอร์” แบรนด์โปรดของอาร์ตเลิฟเวอร์ทั่วโลก

การแต่งบ้านเป็นความสุขของใครหลายๆคน เพราะการแต่งบ้านสามารถบ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของบ้านได้ ด้วยเหตุนี้ “โจนาธาน แอดเลอร์” (Jonathan Adler) ผู้นำด้านของแต่งบ้าน จึงเปิดช็อปแห่งใหม่เอาใจผู้ที่ชื่นชอบของแต่งบ้าน โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ใจกลางศูนย์รวมไลฟ์สไตล์สุดอัพเดตอย่าง “สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม”

โจนาธาน แอดเลอร์ ผู้สร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสุดเก๋ที่ผสมผสานการดีไซน์เข้ากับฟังก์ชันการใช้งาน โดดเด่นด้วยวัสดุที่เลือกใช้ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นแบรนด์โปรดของอาร์ตเลิฟเวอร์ทั่วโลก ได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดาเซเลบริตี้คนดังและเหล่าผู้นำเทรนด์ในบ้านเรา โดยเฉพาะ 3 เซเลบริตี้สาวหัวใจอาร์ต ปอม – ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง, แป็กกี้ – ฐิติยา ฮุนตระกูล และข้าวโพด – มัญชุมาศ นำเบญจพล ที่วันนี้พวกเธอได้แท็กทีมมาสำรวจช็อปแห่งใหม่ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

1

เริ่มที่ศิลปินคนดัง “ปอม – ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง” หรือ Pomme Chan นักวาดลายเส้นที่ผลงานมีเอกลักษณ์ เป็นที่รู้จักระดับอินเตอร์ หนึ่งในแฟนของแบรนด์ เล่าว่า “ในฐานะศิลปินที่รักการสร้างสรรค์งานศิลปะเหมือนกัน ปอมนับถือโจนาธาน แอดเลอร์ มาก เพราะเขาเป็นคนมีสไตล์ เห็นได้จากงานแต่ละชิ้นของเขาได้ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี แต่ละคอลเล็คชั่นเต็มไปด้วยเรื่องราวและมีความแปลกใหม่เสมอ ไม่จำเจ เขากล้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เลือกใช้วัสดุหลากหลาย เป็นต้นว่า ไม้ ผ้า ทองเหลือง กระจก ลูไซต์ (Lucite)”

2

ปอม – ธัชมาพรรณเล่าต่อไปด้วยแววตาเป็นประกายว่า “ตอนนี้ปอมกำลังอินกับพวกเครื่องปั้นค่ะ เพราะกำลังจะขยายแบรนด์ของตัวเอง โดยเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์จำพวกเซรามิก จากที่เคยมองแล้ว ปอมชอบที่ความสวยของสินค้าเขา ตอนนี้ยิ่งรู้สึกชื่นชมมากขึ้น เพราะเราได้สัมผัสและรู้ว่างานปั้นพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ไหนจะวัสดุ การขึ้นรูป การเผา ทุกอย่างต้องเป๊ะมากถึงจะได้ของออกมาทั้งบางและสวยเนี้ยบขนาดนี้”

3

ด้าน “แป็กกี้ – ฐิติยา ฮุนตระกูล” 1 ใน 3 พี่น้องเจ้าของ “Bake Ministry” แบรนด์ขนมสุดเก๋ มีสไตล์แตกต่างไม่เหมือนใคร เล่าให้ฟังบ้างว่า “ชอบดีไซน์ของแบรนด์นี้มาก ยิ่งพวกจาน ชาม ของประดับเล็กๆน้อยๆ น่านำไปแต่งร้าน และเป็นพร็อปส์สวยๆไว้สำหรับถ่ายภาพขนม ตอนนี้กำลังหาซื้อของขวัญให้พี่สาวพอดี เลยตั้งใจว่าจะหาชิ้นเด็ดๆไปให้ จะได้นำมาใช้ในงานได้ด้วย และดีใจมากที่เปิดสาขาใหม่ที่นี่ เพราะทำให้เดินทางง่ายและแวะมาซื้อสะดวกขึ้น ซึ่งจะต่างจากแต่ก่อนมาก ตอนสมัยที่ยังไม่ได้นำเข้ามาเปิดแบรนด์ในเมืองไทยต้องฝากเพื่อนหิ้วมาให้ ต้องรอว่าเมื่อไหร่เขาจะเดินทางกลับมา เวลาจะซื้อของขวัญแต่ละทีต้องวางแผนดีๆ ไม่อย่างนั้นมีเลยวันแน่ๆ แต่ตอนนี้สามารถแวะมาซื้อได้เองที่นี่เลย”

4

ส่วนดีไซเนอร์สาวเจ้าของแบรนด์ดัง “Munchu’s” อย่าง “ข้าวโพด – มัญชุมาศ นำเบญจพล” ที่สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการเดินสำรวจเฟอร์นิเจอร์ในช็อป เผยว่า “โพดชอบแต่งบ้านและให้ความสำคัญกับการแต่งบ้านมาก เพราะถ้าเราทำให้บ้านเราดี อยู่แล้วมีความสุข การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีของสวยๆงามๆ มีดีไซน์เก๋ๆ โพดว่ามันช่วยทำให้เราอบอุ่น ผ่อนคลาย และยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการริเริ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ด้วย

6

“ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้นอกจากจะสวยงามและแฝงประโยชน์ใช้สอยเข้ากับดีไซน์ได้อย่างลงตัวแล้ว จุดเด่นอีกอย่างที่โพดเห็นชัดคือ เขาเลือกใช้แต่วัสดุชั้นเยี่ยม คุณภาพดี และทนทาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกเฟอร์นิเจอร์ เพราะของพวกนี้เราไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ ต้องใช้ไปอีกนาน ดังนั้นเราต้องมั่นใจได้ว่าวัสดุต้องดีจริงๆ ยิ่งเราเป็นดีไซเนอร์ คลุกคลีกับพวกวัตถุดิบอยู่แล้ว เลยรู้ว่าอันไหนของดี อันไหนของถูก แค่เห็นแค่จับก็รู้แล้วว่าของดี มีคุณภาพ คุ้มค่ากับราคาไหม ซึ่งโพดเลือกใช้ของแบรนด์นี้แล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ”

7

ได้ฟังคำบอกเล่าของแก๊งเซเลบริตี้สาวหัวใจอาร์ตกันไปแล้ว ใครที่รักการแต่งบ้าน รักความมีสไตล์ พิถีพิถัน และชื่นชอบงานดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร แวะไปพบกับโจนาธาน แอดเลอร์ ได้ทุกสาขาเลยนะคะ

8 9 10

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : โจนาธาน แอดเลอร์

“คุณหญิงต้น” เปิดบันทึกจากดวงใจ ถึงกษัตริย์ผู้ทรงเสียสละทุกอย่างเพื่อประชาชน!

 

“คุณหญิงต้น” เผยถึงเรื่องราวตลอดชีวิตที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท

“คุณหญิงต้น” หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ได้เผยถึงเรื่องราวตลอดชีวิตที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท พร้อมกับพระบรมราโชวาทโดยตรงที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เคยรับสั่งกับคุณหญิงต้นเมื่อวันแต่งงาน 19 มีนาคม พ.ศ.2527 

คุณหญิงต้น

(ภาพ : @chitpas)

“อะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นต่อไปในวันข้างหน้า ถ้ามีปัญหาหรือมีอะไร ขอให้นึกถึงความสุขในวันนี้ และความยินดีของทุกคนในครอบครัวที่มีให้กับเรา จะได้ช่วยในการแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจในอนาคต” ถือเป็นคําพระราชทานและคําสั่งสอนที่คุณหญิงต้นยึดถือมาโดยตลอดในการใช้ชีวิตครอบครัวกับคุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี

Mono hair replacement systems

คุณพ่อ ม.ร.ว.ยงสวาสดิ์ กฤดากร ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มจากตำแหน่งผู้อำนวยการกองมหาดเล็ก จนเป็นผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวังช่วงปีพุทธศักราช 2513 – 2525 และเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จนถึงปี 2552 (ภาพ : @chitpas)

“ตั้งแต่เกิดมาถือว่าต้นโชคดี มีโอกาสได้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท เพราะคุณพ่อคุณแม่ทํางานถวาย ต้นได้ทราบเรื่องราวของพระองค์ท่านจากคําบอกเล่าของคุณพ่อคุณแม่ และจากที่ประสบด้วยตัวเอง สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ ทําไมใครคนหนึ่งจะเสียสละทุกอย่างในชีวิตเพื่อคนไทยกว่า 60 ล้านคนได้มากมายขนาดนี้ (เสียงเครือ) คุณพ่อเล่าว่า พระองค์ท่านทรงเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไปที่โปรดความสนุกสนาน โปรดกีฬา ทรงเป็นศิลปิน ทรงรักครอบครัว แต่ในที่สุดก็ต้องทรงละทิ้งทั้งหมดเพื่อที่จะทรงงานอย่างเดียว โดยเฉพาะช่วงพระชนมพรรษา 40 พรรษา ทรงงานอย่างหนักโดยไม่ได้ทรงผ่อนคลายพระราชอิริยาบถเลย”

คุณหญิงต้น

ม.ร.ว.ยงสวาสดิ์ กฤดากร และคุณพ่อของสามี คุณจำนงค์ ภิรมย์ภักดี เกิดวันเดียวกันคือ 29 กุมภาพันธุ์ 2471 เป็นสหชาติ (เกิดในปีเดียวกัน) ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในภาพ) ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ เนื่องในโอกาสที่ท่านทั้งสองมีอายุครบ 6 รอบ (ภาพ : @piyapas)
screen-shot-2016-11-08-at-3-02-33-pm

“ถ้าจะยกตัวอย่าง เครื่องบินโบอิ้งที่เรานั่งกันมากว่า 30 – 40 ปี พระองค์ท่านไม่ทรงเคยประทับเลย เป็นไปได้อย่างไร เรื่องนี้คนไทยอาจจะมองข้ามและลืมไปว่าพระองค์ท่านทรงเป็นมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง เสด็จประพาสต่างประเทศครั้งล่าสุดที่ประเทศอังกฤษ ถ้าจําไม่ผิด พ.ศ.2509 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เสด็จประพาสที่ไหนอีกเลย ในขณะที่พระสถานะของพระองค์ทรงทําได้ แต่ก็ไม่ทรงทํา ทรงเสียสละมากมายเหลือเกิน เพราะสิ่งที่พระองค์รักมากกว่า

“ไม่ใช่แค่พูดว่ารักในหลวง เราได้ทําอะไรที่เป็นรูปธรรมถวายพระองค์ท่านบ้างหรือเปล่า หากคนไทยหันไปมองและดําเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ไม่ว่าจะเรื่องความประหยัด การให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ต้องถึง 100 เปอร์เซ็นต์ที่พระองค์ท่านทรงทํา แค่คนละนิดละหน่อย ต้นคิดว่าเมืองไทยคงน่าอยู่ขึ้น”

ที่มา : นิตยสารแพรว คอลัมน์ “คำพ่อสอน”

ภาพ : @piyapas

เสียง “ทรงพระเจริญ” ก้องกังวาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ ทรงเปิดอาคารเรียน รร.บางกอกพัฒนา

เสียง “ทรงพระเจริญ” ก้องกังวาน ณ โรงเรียนบางกอกพัฒนา เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารเรียนวิทยาศาสตร์หลังใหม่ของโรงเรียนบางกอกพัฒนา เขตบางนา กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา

พระราชกรณียกิจที่ไม่มีว่างเว้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงส่งเสริมด้านการศึกษา เพราะทรงเห็นความสำคัญของหลักสิทธิมนุษยชน และทรงห่วงใยในความด้อยโอกาสทางการศึกษาของราษฎรทุกหมู่เหล่า ทั้งชนกลุ่มน้อยและประชาคมเมือง โดยโอกาสนี้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารเรียนวิทยาศาสตร์หลังใหม่ ทอดพระเนตรการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบางกอกพัฒนา ซึ่งตลอดทางเดินมี ดร.เตช บุนนาค ประธานคณะกรรมการมูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา นำคณะกรรมการมูลนิธิ คณะผู้บริหารโรงเรียน ตลอดจนผู้ปกครองและนักเรียนเฝ้าฯรับเสด็จ

ในการนี้ ดร.เตช บุนนาค ประธานมูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา กราบบังคมทูลถวายรายงานว่า โรงเรียนบางกอกพัฒนา โดยมูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา ได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ ได้อย่างเต็มศักยภาพ มีเจตคติเชิงบวก ตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อมและสังคม มีความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของตน และสามารถอยู่ร่วมกันในวัฒนธรรมที่แตกต่าง เพื่อเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคมโลกได้อย่างมีความสุข

จากนั้น ดร.เตช บุนนาค ได้กราบบังคมทูลเบิกคณะผู้ปกครองเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดผ้าแพรคลุมป้าย “อาคารเรียนวิทยาศาสตร์หลังใหม่” และทอดพระเนตรการจัดการเรียนการสอน ห้องเรียนวิทยาศาสตร์
และเสด็จฯไปยังอาคารห้องสมุดมัธยมศึกษา ทอดพระเนตรภายในห้องสมุดมัธยมศึกษาและห้องสมุดประถมศึกษา จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรอาคารเรียนเยียร์ 1 เยียร์ 2 แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารอำนวยการ ทอดพระเนตรห้องเรียนวิชาดีไซน์และเทคโนโลยี จากนั้นเสด็จฯไปฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะกรรมการมูลนิธิและผู้บริหารโรงเรียน ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ทั้งนี้กุลวดี ศิริภัทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิโรงเรียนบางกอกพัฒนา กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตรัสชื่นชมที่โรงเรียนบางกอกพัฒนาพยายามถ่ายทอดความรู้ให้สังคมไทย เมื่อ มร. ริชาร์ด สมิท หัวหน้าภาควิชาออกแบบและเทคโนโลยี ได้กราบบังคมทูลว่า โรงเรียนบางกอกพัฒนาได้ให้ความร่วมมือแก่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนและจัดประชุมเชิงปฏิบัติการให้ครูไทยที่สอนวิชาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

princess-sirindhorn01

princess-sirindhorn02

princess-sirindhorn03

princess-sirindhorn06

princess-sirindhorn04

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

สำหรับโรงเรียนบางกอกพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 122 ไร่ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2500 ดำเนินการในรูปแบบของมูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากลจาก Council of International Schools และจาก The New England Association of School and Colleges ถือเป็นหนึ่งในโรงเรียน IB World (International Baccalaureate World School) ปัจจุบันมีนักเรียน 2,260 คน จากกว่า 64 สัญชาติ อายุตั้งแต่ 2 – 18 ปี จะได้รับการศึกษาตามแนวทางระบบการศึกษาของอังกฤษที่เข้มข้น ประกอบกับโปรแกรมกิจกรรมเสริมหลักสูตรต่างๆที่โรงเรียนจัดเพิ่มเติมให้อย่างหลากหลาย ช่วยบ่มเพาะให้นักเรียนเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี

โดยนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนบางกอกพัฒนา สามารถเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของโลก อาทิ ออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford), เคมบริดจ์ (University of Cambridge), วิทยาลัยอิมพีเรียลลอนดอน (Imperial College London), คิงส์คอลเลจ (King’s College) และวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (London School of Economics) ในประเทศอังกฤษ

และสถาบันอุดมศึกษาในไอวีลีกสกูล (Ivy League Schools) ในสหรัฐอเมริกา อาทิ เยล (Yale University), พรินซ์ตัน (Princeton University), ฮาร์วาร์ด (Harvard University) และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (University of California) รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆในยุโรป

ทั้งนี้โรงเรียนบางกอกพัฒนาประกอบด้วยอาคารเรียนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย อาคารประกอบ เช่น ห้องสมุด สระว่ายน้ำ อาคารกีฬาในร่ม สปอร์ตคอมเพล็กซ์ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส หอประชุม อาคารศิลปะ ดนตรี และการละครที่ทันสมัย

เปิดบันทึกจ่าเอก กาย โพธิ์งาม เล่าเหตุอัศจรรย์ขณะในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเรือใบเมื่อ 50 ปีก่อน

แม้จะเคยได้ยินเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตรัสกับชาวบ้านที่ฉุดพระบาทพระองค์ท่านขึ้นไปบนหัวว่า “เราไม่ใช่เทวดานะ” แต่ก็มีเรื่องอัศจรรย์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นกับพระองค์ท่าน จนเราอดคิดไม่ได้ว่า หรือพระองค์ท่านทรงเป็นเทวดาที่มีลมหายใจของปวงประชาจริงๆ

อย่างเช่นเหตุการณ์ที่จะกล่าวต่อไปนี้ ทำให้เราขนลุกในพระบารมีอันสูงส่งของพระองค์ท่าน เป็นเรื่องเล่าจากปากของ “จ่าเอก กาย โพธิ์งาม” นักทำลายใต้น้ำรุ่นที่ 4 ผู้ที่เคยถวายอารักขาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชวังไกลกังวล แม้ว่าปัจจุบันจะอายุล่วงเลยถึง 77 ปีแล้ว แต่ก็ยังทำงานเป็นพนักงานของธนาคารกรุงไทย สาขาจังหวัดระยองอยู่ จ่าเอก กาย โพธิ์งาม เล่าว่า

1

“เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2509 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงแล่นเรือใบ โอ.เค. จากพระราชวังไกลกังวล หัวหิน ข้ามอ่าวไทยด้วยพระองค์เองพระองค์เดียว ใช้เวลา 17 ชั่วโมงเต็ม กว่าจะแล่นเรือมาถึงหาดเตยงาม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันนั้นหลังจากที่ทรงแล่นใบห่างจากฝั่งมาได้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ผู้ที่อยู่ในเรือยางถวายอารักขา ซึ่งติดตามเรือใบพระที่นั่งอย่างใกล้ชิด รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่นอกจากมีเรือใบพระที่นั่งแล่นฝ่าคลื่นลมตัดอ่าวมาอย่างโดดเดียวลำเดียวแล้ว ปรากฏว่ามีฝูงปลาโลมาอีกประมาณเกือบ 10 ตัวว่ายน้ำตามเสด็จมาห่างๆ และเริ่มกระโดดขึ้นเหนือน้ำ พร้อมกับส่งเสียงร้องเมื่อเรือพระที่นั่งออกมาไกลจนผู้ติดตามมองไม่เห็นฝั่ง เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้พวกเรารับทราบว่าพระองค์ท่านทรงอยู่จุดไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก

4

“หลังจากนั้นอีกไม่นานก็เริ่มมีฝูงปลาโลมาว่ายมาสมทบมากขึ้น สร้างความประหลาดใจให้กับชุดนักทำลายใต้น้ำที่ถวายอารักขาเป็นอย่างยิ่ง ร.ท.อนุวัต บุญธรรม ร.น. และ พ.จ.อ.ฉลองศักดิ์ ไตรสนธิ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดและรองหัวหน้าชุด ต่างช่วยกันนับได้ประมาณร้อยกว่าตัว ยิ่งเรือพระที่นั่งใกล้เข้ามาทางฝั่งสัตหีบ ก็ยิ่งมีฝูงปลาว่ายมาสมทบมากขึ้นทุกที ขณะนั้นเป็นช่วงบ่าย อากาศแจ่มใส ทะเลเรียบไม่มีคลื่นลม จึงสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ฝูงปลาโลมาเป็นร้อยๆตัวเหมือนนัดหมายกันมารับเสด็จ หรือไม่ก็มาคอยถวายความปลอดภัยคุ้มกันอันตรายใต้น้ำ”

5

จ่าเอก กาย โพธิ์งาม เล่าต่ออีกว่า “ปลาที่อยู่ใกล้เรือพระที่นั่งว่ายน้ำเคียงคู่อยู่ข้างเรืออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ห่างไม่ชิดเกินไป แต่ว่ายล้อมรอบเรือพระที่นั่ง พวกเราเฝ้าสังเกตฝูงปลาโลมาเหล่านี้อย่างเงียบๆจากเรือยางที่แล่นถวายอารักขา จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นตะวันลับฟ้า พวกเราก็ยังรู้สึกว่าฝูงปลาโลมายังถวายงานว่ายเคียงคู่ไปกับเรือพระที่นั่ง จวบจนเรือพระที่นั่งแล่นใบเข้ามาใกล้จุดหมายที่อ่าวเตยงามเมื่อเวลาประมาณสองทุ่ม

3

“สิ่งที่ชุดนักทำลายใต้น้ำถวายอารักขาเห็นกันในวันนั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง และเชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หากไม่ได้เห็นด้วยตนเองแล้วคงยากที่จะเชื่อ จึงได้แต่พูดคุยกันเฉพาะแต่กับพวกเราที่ไปด้วยกันในครั้งนั้น บัดนี้กาลเวลาได้ล่วงเลยผ่านพ้นมา 50 ปีแล้ว จึงได้นำเรื่องที่ประสบพบเห็นด้วยตนเองมาเปิดเผยให้แก่ประชาชนชาวไทยได้รับทราบ เพื่อน้อมระลึกถึงพระบารมีและพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้”

2
จ่าเอก กาย โพธิ์งาม ศิษย์เก่าชุมพลทหารเรือ รุ่น 2502

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : www3.navy.mi.th, FB:อ่านเองนะ, ชุมชนคนบ้านๆ

 

หญิงแม้น

หวานสุขชื่นมื่น หญิงแม้น – ต่อสวัสดิ์ เข้าพิธีสมรสพระราชทานแล้ว ณ พระตำหนัก วังสวนกุหลาบ

หญิงแม้น
หญิงแม้น

แสดงความยินดีกับอีกหนึ่งวันสุดแสนพิเศษในชีวิตลูกผู้หญิง สำหรับหญิงแม้น หรือ ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล และแฟนหนุ่ม ซัน – ต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเข้าพิธีสมรสพระราชทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งนับเป็นศิริมงคลแก่การเริ่มต้นชีวิตคู่ ท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัว ญาติสนิท มิตรสหาย ที่มาร่วมอวยพรในพิธีมงคลครั้งนี้

หญิงแม้น
ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล และซัน – ต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต (ภาพ: IG @chartmakeup)

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆในช่วงปลายปี เมื่อหญิงแม้น – ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล ธิดาคนที่ 4 ของพลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล พระอนุชาในหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล พระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา โดยมีน้องสาว 1 คนคือ หญิงไหม – ม.ร.ว.จันทรนิภา ยุคล ได้ควงคู่ลั่นระฆังวิวาห์กับแฟนหนุ่ม ซัน – ต่อสวัสดิ์ โดยได้รับเกียรติเข้าพิธีสมรสพระราชทานน้ำสังข์จากพระองค์เจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งจัดงานแต่งงานที่โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ (The Sukosol) ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่นจากครอบครัวและเพื่อนๆ รวมถึงได้ถ่ายรูปหมู่ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พร้อมถือทะเบียนสมรส หน้าพระตำหนัก วังสวนกุหลาบ

หญิงแม้น
ภาพ: IG @chartmakeup

ทั้งนี้พระตำหนัก วังสวนกุหลาบ ถือเป็นศูนย์รวมแห่งความรักตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากเป็นตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานไว้แก่พระราชโอรส ซึ่งในพิธีสมรสพระราชทานระหว่างหญิงแม้นและคุณต่อสวัสดิ์ นอกจากจะได้ชุดแต่งงานสุดประณีตจากฝีมือบริษัทฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ จำกัด เรื่องเครื่องประดับที่หญิงแม้นสวมใส่คู่ชุดไทยก็สุดแสนพิเศษเช่นกัน เพราะเป็นเครื่องประดับที่เป็นมรดกตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 อีกด้วย

หญิงแม้น
ภาพ: IG @chartmakeup

วันพิเศษที่มีพิธีสมรสพระราชทานเช่นนี้ แพรวเลยขอนำภาพหวานสุขชื่นมื่นของหญิงแม้น – ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล และคุณซัน – ต่อสวัสดิ์ ท่ามกลางความยินดีจากครอบครัวและเพื่อนๆมาให้ได้ชมกัน

หญิงแม้นOne of the happiest days of my life เครดิตรูป @wirun #wirunkultanphotography | ขอพักเหนื่อยก่อน เดี๋ยวมาลงเพิ่มนะคะ ขอบคุณทุกคนที่แสดงความยินดีค่ะ (IG @yingmann)

หญิงแม้นหญิงแม้น

หญิงแม้น

หญิงแม้น

หญิงแม้น

หญิงแม้น
IG @yingair

เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ : IG @yingair @yingnoyyugala @jinnychotivichit @fome_phatthara @yingmann

งามสง่าสมเป็นราชนิกุล “หญิงแม้น” ในลุคเจ้าสาว สวมเครื่องทองโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕

Alternative Textaccount_circle

สละโสดเป็นที่เรียบร้อย สำหรับหญิงแม้น เจ้าสาวหมาดๆเมื่อวานที่ผ่านมา (7 พ.ย. 59) อินสตาแกรมของช่างแต่งหน้าคู่ใจ chartmakeup ได้โพสต์ภาพหวานซึ้งละมุนสุดเรียบง่ายของ ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล และไฮโซตระกูลดัง ต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต ที่ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระราชทานน้ำสังข์พิธีมงคลสมรส นับเป็นวันที่ทรงคุณค่าแก่ทั้งสองและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

โดยแพรวดอทคอมขอแสดงความยินดีกับบ่าว – สาวป้ายแดงทั้งสองท่านด้วยนะคะ ถือเป็นคู่ที่เหมาะสมลงล็อกอย่างยิ่ง เอาละ ถึงเวลาที่แพรวดอทคอมจะพาสาวๆไปส่องเมคอัพลุคแบบหวานใส และทรงผมสุดเป๊ะแบบไม่เว่อร์วัง แต่สวยอลังการตามแบบฉบับสาวไทยในพิธีมงคลสมรสครั้งนี้ และเครื่องประดับที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 พร้อมชุดไทยบรมพิมาน เครื่องแต่งกายอาภรณ์ไทยสุดเรียบหรูสง่างาม ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ชุดไทยพระราชนิยม

14717339_734630750023866_2781745490352406528_n

ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล และต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต

14565035_200299287077004_2093647783427833856_n

เครื่องประดับชุดไทยของหม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ยุคล ซึ่งเป็นมรดกตกทอดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถือฤกษ์งามยามดีพิธีมงคลสมรส จึงนำมาสวมใส่ประดับบนชุดไทยบรมพิมาน ยิ่งทำให้ดูสง่างามสมความเป็นไทย เสริมลุคให้ดูเรียบร้อย บุคลิกดี และวิจิตรงดงามตามากขึ้น

14714591_154942298307460_677834878275813376_n

ส่วนทรงผมเน้นความเรียบง่าย ไม่ลงดีเทลเยอะ แค่เพียงเกล้าผมเก็บให้เรียบร้อยดูเป็นทางการ เหมาะสมกับการรับพระราชทานน้ำสังข์ ซึ่งผมทรงนี้จริงๆทำไม่ยาก แต่อาศัยความใจเย็น ค่อยๆประณีตบรรจงเก็บผม พวกไรผมปอยผมที่ชี้โด่ชี้เด่ให้เรียบกริบ หากสาวๆคนไหนสนใจอยากลองทำทรงนี้ด้วยตัวเอง เริ่มจาก
– แสกกลางผมให้ตรงเป๊ะ
– แบ่งช่อผมด้านหน้าซ้าย – ขวา เหลือช่อผมพอประมาณให้เท่ากันทั้งสองข้าง
– จากนั้นรวบผมที่เหลือด้านหลังทั้งหมดเป็นหางม้าทรงต่ำ รัดหนังยางสีดำให้แน่น
– จับหางม้าค่อยๆม้วนขึ้นเหมือนโรลจนสุดบริเวณที่รัดหนังยางไว้ ติดกิ๊บยึดให้แน่น
– จับช่อผมด้านหน้าที่เหลือไว้ตอนแรก โยกปาดเรียบหรือใช้ที่หนีบตรงก่อนก็ได้ โยกพาดด้านข้างมาไขว้สลับรวมกันซ้าย – ขวาเหนือมวยผมที่เกล้าไว้ ติดกิ๊บ
– ใช้หวีหางแหลมค่อยๆแทรกผมด้านหลัง ดึกผมให้ยกขึ้นดูพองๆ ระวังผมหลุดลุ่ย ค่อยๆทำนะ
– จากนั้นใช้สเปรย์ฉีดล็อกผม หรือลูบเจลปาดให้ได้ผมทรงเนี้ยบเรียบกริบ
– ปิดท้ายด้วยการหาดอกไม้ช่อเล็กๆสีขาวแซมประดับเหนือมวยผม เพื่อช่วยให้ทรงผมดูสดใสน่ามองขึ้น

14718394_554591794746402_6903820003133358080_n

เมคอัพหน้าเจ้าสาวเน้นอ่อนหวาน งดแต่งเข้มจัดจ้า เพื่อขับใบหน้าให้ผ่อง ดูเป็นสาวชาววัง ซึ่งเมคอัพจะเป็นโทนสีทองพีชให้ลุคดูเบาๆซอฟต์ๆ แต่มีความเอเลแกนซ์ โดยลุคเจ้าสาวของหญิงแม้นได้พี่ชาติ chartmakeup ช่างแต่งหน้าคิวทองของไทยมารังสรรค์ให้ ซึ่งแพรวมีทริคแต่งตาโทนทองพีชมาฝาก เริ่มจาก
– ลงรองพื้นทั่วใบหน้าให้เรียบเนียน
– ลงคอนซีลเลอร์บริเวณใต้ตาเป็นรูปสามเหลี่ยมหัวกลับ เพื่อกลบรอยหมองคล้ำใต้ตา
– เบลนด์อายแชโดว์สีทองไล่จากหางตามาจนถึงบริเวณหัวตา คือเบลนด์ทั่วเปลือกตา แต่เน้นเข้มบริเวณหางตา
– จากนั้นใช้แปรงปลายตัดแต้มอายแชโดว์สีพีชไล้บริเวณกึ่งกลางเปลือกตาจนถึงหางตา
– แต้มอายแชโดว์สีมุกไล้เน้นบริเวณหัวตา ระวังอย่าเยอะมาก เดี๋ยวจะเลอะกลายเป็นหน้าเงา
– ใช้อินเนอร์ไลเนอร์สีน้ำตาลหรือสีดำกรีดขอบตาบนให้พอดีกับหางตา อย่ากรีดเลยตวัดสูงมากเกินไป จะกลายเป็นแคทอายลุค
– ใช้อินเนอร์ไลเนอร์สีทองกรีดขอบตาล่างแบบชิดขอบตา
– ปัดมาสคาราให้ขนตางอนงาม

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพจาก Instagram : chartmakeup

 

สยบแฟชั่นนิสต้า! “ฮิลลารี คลินตัน” สไตล์ไอคอนคนใหม่ ปลุกเทรนด์ Colorful Pantsuits

อีกไม่กี่อึดใจก็จะรู้ผลว่าใครจะชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แต่ที่ไม่ต้องรอเพราะเห็นผลกันแบบชัดๆคือ แฟชั่นสไตล์ของ “ฮิลลารี คลินตัน” นี่แหละ! เพราะล่าสุดกลายเป็น “สไตล์ไอคอน” ของเหล่าดาราคนดัง และ “มิวส์” (Muse) ของเหล่าดีไซเนอร์ไปเรียบร้อยโรงเรียนแฟชั่นแล้วคร้าาา

 

กลายเป็นแฟชั่นเทรนด์ใหม่ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าต้องเหลียวหลังหันมาจับ Pantsuits (ชุดสูทกางเกง) สีสันสดสว่างแบบหญิงแกร่ง “ฮิลลารี คลินตัน” เป็นคีย์เวิร์ดหลักในการแต่งตัวสำหรับช่วงนี้ ดูได้จากเหล่าดีไซเนอร์หลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Gucci, J.Crew และ Topshop ที่หยิบสไตล์ Pantsuits มาแตกยอดออกคอลเล็คชั่นใหม่ๆ กระแทกสายตาอยู่บนรันเวย์ Spring 2016 รวมไปถึงคอลเล็คชั่น Autumn/Winter 2016

แล้วไม่ใช่แค่เทรนด์ในช่วงนี้ที่ “ฮิลลารี” ทำให้ไอเท็ม Pantsuits มาแรง หากส่องไปตั้งแต่ปี 2014 – 2015 จะพบว่าสไตล์ Colorful Pantsuits แบบ “ฮิลลารีสไตล์” ออกคอลเล็คชั่นมาอวดสายตาไม่น้อย ซึ่งนี่อาจจะเรียกได้ว่า “ว่าที่ผู้นำหญิง” เป็นผู้ปลุกเทรนด์ Pantsuits สีเจ็บสว่างวาบ! ให้กลับมาเปรี้ยงอีกครั้ง

นอกจากหลายแบรนด์ดังจะขานรับ “ฮิลลารีสไตล์” แล้ว เหล่าดาราคนดังในแวดวงฮอลลีวู้ดยังสตีลสไตล์ นี้มาอวดโฉมบนพรมแดงกันอีกด้วย อาทิ นางเอกสาว จูเลียต บิโนช” ที่หยิบสไตล์ Pantsuits ของ Gucci คอลเล็คชั่น Fall 2016 Menswear ไปเดินสวยมั่นบนพรมแดง Rome Film Festival 2016 ที่ผ่านมา

ฮิลลารี คลินตัน ในชุดสีแดงของ Ralph Lauren หนึ่งในแบรนด์โปรดของเธอ

Hillary Clinton's Iconic Style
ภาพ: luxpresso.com

Pantsuits สีสันสดสว่างทั้งตัวกลายเป็น Fashion’s Favorite New Trend!

ฮิลลารี คลินตัน

อีกสิ่งหนึ่งที่การันตีว่าเทรนด์การแต่งกายแบบ “ฮิลลารี คลินตัน” กลายเป็นแฟชั่นสไตล์ไอคอนไปแล้วจริงๆ
ก็คือ วิดีโอสุดฮา การรวมตัวกันออกมาแดนซ์กระจายเป็น Flash mob เพื่อ “ฮิลลารี” หลังการต่อสู่ดุเดือดกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” โดยหยิบเอกลักษณ์โดดเด่น เห็นปุ๊บนึกถึงเธอปั๊บ!! ซึ่งก็คือแฟชั่นสไตล์ฮิลลารีนั่นเอง
แล้วผุดแฮชแท็กตบท้ายงานเบาๆ #Pantsuitpower

pantsuits-newtrend01
ภาพ: Laura Crozier

หลายแบรนด์เลือกจับเทรนด์ Colorful Pantsuits แบบ “ฮิลลารีสไตล์” มามิกซ์แอนด์แมตช์ให้ดูเป็น Street Style บ้างอะไรบ้าง เพื่อตอบโจทย์สาวทำงานยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ASOS, J.Crew และ Topshop (เรียงจากซ้ายไปขวา)

pantsuits-newtrend02
ภาพ : ASOS, J.Crew และ Topshop

Gucci คอลเล็คชั่น Autumn/Winter 2016

guc_pantsuits-newtrend
ภาพ : Gucci AW16 collection

Tod’s คอลเล็คชั่น Spring 2015

pantsuits-newtrend04
ภาพ : Imaxtree

Ralph Rucci คอลเล็คชั่น Fall 2014

pantsuits-newtrend03
ภาพ : Imaxtree

Barbara Casasola คอลเล็คชั่น Fall 2014

pantsuits-newtrend05
ภาพ : Imaxtree

Christian Dior คอลเล็คชั่น Fall 2014

pantsuits-newtrend06
ภาพ : Imaxtree

เหล่าดาราคนดังในฮอลลีวู้ดหันมาจับแฟชั่นสไตล์ Pantsuits ใส่ออกงาน

จูเลียต บิโนช สวม Gucci คอลเล็คชั่น Fall 2016 Menswear
บนพรมแดง Rome Film Festival 2016

juliette_pantsuits-newtrend
ภาพ :REX

ทิลดา สวินตัน ภาพในงานแถลงข่าว “Doctor Strange” ที่ฮ่องกง เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 

swinton_pantsuits-newtrend
ภาพ :REX

โอลิเวีย พาเลอร์โม ขอสวยเก๋แบบสีพาสเทลซอฟต์ๆ

olivia_palermo_pantsuits-newtrend
ภาพ :REX

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม

ดีจริงไม่ต้องพูดเยอะ! 8 โปรดักต์ปราบริ้วรอยร่องลึก

Alternative Textaccount_circle

ถึงคิวปราบเซียนกันแล้วจ้าสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือน ริ้วรอย ร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น และยกกระชับให้ผิวดูเฟิร์ม แลดูอ่อนเยาว์เดาอายุไม่ถูก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวย่างเข้าเลข 3 ขึ้นไปที่ต้องการกำจัดริ้วรอย สตัฟฟ์ความเต่งตึงด้วยวิธีการยื้อแบบธรรมชาติ งดเกี่ยวข้องศัลยกรรม เราเข้าใจจึงคัดโปรดักต์คุณภาพสูงสมราคามาฝาก จะมีตัวไหนเข้าตากรรมการ โดนใจแฟนแพรวบ้างไปดูกัน

ซึ่งรับรองประสิทธิภาพสุดคุ้มค่าจากกรรมการทั้ง 7 ท่าน ที่ร่วมพลีชีพใช้จริง พิสูจน์จริง ไม่อิงมโน โดยเหล่าแพรวนิสต้า เมคอัพอาร์ติสต์ ซูเปอร์โมเดล และบิวตี้บล็อกเกอร์ อาทิ ทิวากร โสภาอัศวภรณ์, เจตประวิทย์ ตรีพิทักษ์, พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, แพรวเพชร กาญจน์เกียรติกุล, ณัฐกฤตา เกษรมาศมณี และธนฤทธิ์ แสงสิน กับกิจกรรมสุดยอดผลิตภัณฑ์ความงาม Praew Iconic Beauty 2016 ที่คัดแล้วคัดอีกจนได้ 8 ชิ้นเด็ดแอนไทเอจจิ้ง เพื่อสาวๆแพรวทุกคน

 

rc_eye

YVES ROCHER Riche Crème Comforting Anti-Wrinkle Eye Cream

อุปสรรคความงามระดับชาติของผู้หญิงคือริ้วรอยรอบดวงตาที่มาบดบังเสน่ห์ ไม่กล้าเผยรอยยิ้มหวานๆให้ใคร ดูแลผิวรอบดวงตาด้วย “Riche Crème Comforting Anti-Wrinkle Eye Cream” ครีมบำรุงเนื้อนุ่มลื่น ให้สัมผัสเบาสบายและซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย ไฮไลต์คือส่วนผสมสุดเข้มข้นที่ได้จากวิธีสกัดน้ำมันอันแสนพิถีพิถันจากดอกกุหลาบ 1,000 ดอก และน้ำมันสกัดจากพืชอีก 30 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตาให้ดูเปล่งประกายความอ่อนเยาว์ พร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื่นและปรับผิวให้ดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น เทคนิคง่ายๆ นำไปแช่เย็นก่อนทา จะช่วยรีเฟรชผิวรอบดวงตาให้สดชื่น แถมยังลดอาการบวมบริเวณใต้ตาไปด้วย นับคืนวัน…รอรอยยิ้มกลับมาได้เลย


sulwhasoo

Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing Eye Cream

ดวงตาสวยเปล่งประกายไร้ริ้วรอยด้วย “Concentrated Ginseng Renewing Eye Cream” คุณค่าของสารสกัดจากโสมในปริมาณที่สูงกว่า 2 ใน 5 ของส่วนผสมทั้งหมดทีเดียว และนอกจากสารสกัดซาโปนินจากโสมแล้ว ส่วนผสมพิเศษที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในนี้ก็คือ สารสกัดจากใบโสม เพราะปกติแล้วส่วนของโสมที่นำมาใช้กันมักจะเป็นส่วนของ “ราก” ซึ่งการเพาะเลี้ยงโสมนั้นนอกจากจะมีต้นทุนที่สูงแล้ว ยังปลูกยากมากอีกด้วย แถมรากของโสมที่มีคุณภาพดีที่สุดนั้นต้องใช้เวลาถึง 6 ปีในการปลูก ยิ่งทำให้ต้นทุนของการนำรากโสมมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางนั้นยิ่งแพงมากขึ้นไปอีก ส่วนเนื้อสัมผัสครีมมีความเข้มข้นเนียนละเอียดมาก ยิ่งถ้าสาวๆคนไหนใต้ตาแห้งเป็นพิเศษจะรับรู้ถึงความชุ่มชื่นขึ้นทันที ริ้วรอยรอบดวงตาก็ดูตื้นขึ้น ประคองสภาพให้ดูเด็กลงเยอะเลย…ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองด้วยตัวเองนะจ๊ะ (25 มิลลิลิตร / 5,500 บาท)


whoo-4039-essence

The history of Whoo Bichup Ja Saeng Essence  

เผยความลับสวยดุจจักรพรรดินีแห่งเกาหลี “Bichup Ja Saeng Essence” เซรั่มจักรพรรดินีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยตัวเองใน 24 ชั่วโมง เหนือระดับกว่าการผลัดเซลล์ผิวแบบทั่วไปด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรกองจินบิดัน พร้อมเทคโนโลยีสุดพิเสษที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำให้ดูกระจ่างใส ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เปล่งประกาย แลดูอ่อนเยาว์ และสเต็มเซลล์จากพลาเซนต้าที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง และช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมช่วยให้ผิวยืดหยุ่น ยกกระชับผิวภายใน 2 สัปดาห์ และลดเลือนริ้วรอย พร้อมช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นภายใน 4 สัปดาห์ ฟังสรรพคุณแล้วบอกเลยว่าคุ้มค่าต่อภาพลักษณ์อันงดงามตั้งแต่แรกเห็น ( 45 มิลลิลิตร / 7,950 บาท)


wrinkle-free-sulwhasoo-capsulized-ginseng-fortifying-serum_2

Sulwhasoo Capsulized Ginseng Fortifying Serum

เน้นการฟื้นฟู เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก “Capsulized Ginseng Fortifying Serum” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ค้นคว้าวิจัยมาเพื่อปรับสมดุลให้ผิว และฟื้นฟูผิวอย่างยั่งยืนให้สวยสุขภาพดีระยะยาว โดยใช้ส่วนผสมหลักจากพืชสมุนไพรตะวันออก บวกกับสารสกัดจากโสมเกาหลีบ่มด้วยสูตรเฉพาะ กระตุ้นประสิทธิภาพของโสมให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นกว่า 100 เท่า จากนั้นก็นำไปตากแห้งเพื่อให้โสมผลิตสาร Compound K และ Ginsengnoside F1 ที่ช่วยในการบำรุงผิว ผลัดเซลล์ผิว และช่วยให้ผิวแข็งแรง สดใส ดูสุขภาพดี นอกจากประสิทธิภาพด้านส่วนผสมที่ทรงพลังแล้ว การใช้เทคโนโลยีก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถึงส่วนผสมจะดีแค่ไหน แต่ถ้าส่งไปไม่ถึงชั้นผิวด้านในก็ไร้ค่า เทคโนโลยีที่ใช้ในเซรั่มนี้มาในรูปแบบแคปซูลที่หุ้มสารบำรุงส่งลงลึกไปถึงผิว นั่นคือ Micro Ginsenisphere™ แคปซูลที่ห่อหุ้มสารสกัดจากโสม (Ginsengnoside F1) ช่วยผลักดันให้สารบำรุงนี้ลงลึกไปยังส่วนของจุดเชื่อมต่อเซลล์ผิวระหว่างผิวชั้นในและชั้นหนังกำพร้าได้ดีกว่าปกติถึง 4 เท่า Macro Ginsenisphere ส่วนผสมที่ห่อหุ้มสารสกัดจากรากโสมแดง ที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงและเติมเต็มความยืดหยุ่นในผิว ซึมลงผิวและเป็นกำแพงปกป้องชั้นเซลล์ผิว และที่สาวๆต้องชอบมากนั่นคือ เนื้อเซรั่มเป็นแบบใส ซึมลงผิวได้ไวเว่อร์ ไม่ทิ้งคราบหรือเหนียวเหนอะเลย ถือว่าเนื้อสัมผัสยอดเยี่ยม…ใช้แล้วระวังจะติดใจนะจ๊ะ (35 มิลลิลิตร / 4,500 บาท)


boots-no7-protect-perfect-intense-advanced-serum-tube-1500x1500

No.7 Protect & Perfect Intense Advanced Serum

รู้อนาคตของผิวได้ ไม่ต้องพึ่งคำทำนาย กับเซรั่มที่มีความเข้มข้นสูงในกลุ่มลดเลือนริ้วรอยที่ขายในร้าน Boots และขายดีติดอันดับมากว่า 7 ปี มาคราวนี้ปรับสูตรใหม่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เป็นเซรั่มที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากคลินิกในเรื่องของการชะลอวัย เห็นผลเร็วขึ้นกว่าเดิม “Protect and Perfect Intense ADVANCED Serum” เหมาะกับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับริ้วรอยแรกเริ่ม มีส่วนผสมของ Matrixyl 3000 Plus ที่เป็นเปปไทด์เข้มข้น ช่วยจัดการกับริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้วอย่างได้ผล โปรวิตามินเอที่ช่วยเสริมการทำงาน และกรดไฮยาลูโรนิกที่เพิ่มความชุ่มชื่นในผิว เนื้อสัมผัสบางเบา เรียบลื่น เกลี่ยง่าย ซึมลงผิวทันที ไม่เหนียวเหนอะหนะ (30 มิลลิลิตร / 1,350 บาท) และ (50 มิลลิลิตร / 1,800 บาท)


so2010_03_0021_7

CHANEL Sublimage la Crème

สำหรับผู้หญิงที่มีความพิถีพิถันในการใช้ชีวิต การบำรุงผิวไม่ใช่เพียงการทาครีม แต่เป็นประสบการณ์แสนดื่มด่ำเพื่อเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่รื่นรมย์ หากพูดถึงศิลปะ การบำรุงผิวแบบนี้ “SUBLIMAGE LA CRÈME” จาก “CHANEL” ถือว่าเป็นชิ้นมาสเตอร์พีซ ตั้งแต่ความหรูหราของบรรจุภัณฑ์สีทองที่เป็นเหมือนจิเวลรี่ประดับโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมทั้งมอบประสิทธิภาพและกลิ่นหอมบอบบางไม่มีใครเหมือน ด้วยสารสกัดจาก Vanilla planifolia (กล้วยไม้วานิลลาจาก
มาดากัสการ์) ที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ จนแม้แต่คนไม่ชอบน้ำหอมยังต้องหลงรัก ส่วนเนื้อครีมนุ่มละมุนนั้นอัดแน่นไปด้วยคุณค่าจากพฤกษา ช่วยฟื้นฟูผิวพรรณให้ยกกระชับ ดูอ่อนเยาว์ นับเป็นรางวัลล้ำค่าที่ผิวเฝ้ารอ (50 มิลลิลิตร / 14,000 บาท)


0

ARTISTRY Youth Xtend Enriching Cream

งานนี้ต้องเรียกว่า…เหมือนผิวได้เกิดใหม่ “Youth Xtend Enriching Cream” รู้สึกได้ถึงผิวที่เรียบเนียนแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดดเด่นด้วยส่วนผสมอันทรงคุณค่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพืชที่อายุยืนยาวอย่าง “ไลฟ์เซิร์ท” ใบพืชจากแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่ช่วยรีโปรแกรมผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอยต่างๆให้จางลง ผสานกับ “ผลแอฟริกันเบาบับ” ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด ผสานกับเทคโนโลยีอันเหนือชั้นของอาร์ทิสทรี “ไมโคร-เอ็กซ์ 6 เปปไทด์” ฟื้นบำรุงและคืนความยืดหยุ่นให้กับผิว พร้อมล็อกความชุ่มชื่นอย่างยาวนานตลอดคืน เชื่อเถอะ…ลองแล้วดีจริง (2,050 บาท)


833863-hydra-global

Sisley Hydra-Global Intense Anti-Aging Hydration

“Hydra Global Hydratation Intense Anti-Age” ช่วยส่งเสริมกลไกธรรมชาติให้ผิวโอบอุ้มความชุ่มชื่นไว้ได้ดุจผิวอ่อนเยาว์ ครีมเจลเนื้อบางเบาซึมซาบหมดจด โดยมุ่งตรงเข้ากระตุ้นระบบหมุนเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ผิวอิ่มเต็มความชุ่มชื่นด้วยน้ำหล่อเลี้ยงผิวด้วยธรรมชาติ เปี่ยมชีวิตชีวา เปล่งปลั่งสดใส ผิวนุ่มละมุน เนียนเรียบ ริ้วรอยลดเลือนหาย อ่อนเยาว์อย่างสมบูรณ์แบบ (40 มิลลิลิตร / 7,900 บาท)

 

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและรูปภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับ 892 ปักษ์ 25 ตุลาคม 2559 


บทความบิวตี้อื่นๆ ที่น่าสนใจ
10 ไอเท็มเด็ดน่าสอย กลบรอยหมองคล้ำ ล็อกผิวเนียนใสไร้ที่ติ
ใช้ดีเลยบอกต่อ ชี้เป้า 10 สกินแคร์ หน้าขาวกระจ่างใส
สักคิ้วเสริมโหงวเฮ้ง ทางเลือกของสาวรุ่นใหม่
เลิกซะ! 5 พฤติกรรมใช้บรอนเซอร์ผิดๆ
คลิป How To : แต่งตาหวานใสแบบเนเชอรัลลุค

พลิกแผ่นดินเสื่อมโทรมเป็นงดงาม เปิดลายแทง 9 พื้นที่ตามรอยกษัตริย์นักพัฒนา “ในหลวงรัชกาลที่ 9”

จากความแห้งแล้งเป็นชุ่มชื้น แปรเปลี่ยนความเสื่อมโทรมให้เป็นความงดงาม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ใช้เวลาเพียงวันสองวันที่สร้างขึ้น แต่คือการลงมือทำอย่างตั้งใจตลอดระยะเวลา 70 ปีที่พระองค์ทรงครองราชย์

หลายสถานที่ในเมืองไทยในวันนี้ เราแทบไม่ได้เห็นความเสื่อมโทรมที่เคยมีมาเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งก็เป็นเพราะโครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงก่อร่างสร้างพื้นฐานจนสามารถสร้างชีวิตใหม่ให้แก่ประชาชน และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ ในวันนี้คนไทยทุกคนสามารถตามรอยเส้นทางของสถานที่ต่างๆนี้ได้ โดยผ่านแอพพลิเคชันแผนที่นำทาง NOSTRA Map ซึ่งมีข้อมูลพิเศษ ๙ สถานที่ตามรอยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้อย่างครบถ้วน

royal-project-2

  1. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

นับเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของเมืองไทย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ แต่เดิมเป็นป่าเขา ชาวบ้านทำไร่เลื่อนลอย ปลูกฝิ่น ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา จนกระทั่งปี พ.ศ.2512 สถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อช่วยเหลือชาวไทยภูเขาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามพระราชดำริ “ให้ช่วยเขา ช่วยตัวเอง”

royal-project-14

  1. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่

ในปี พ.ศ.2522 “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” ได้ก่อตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อช่วยเหลือชาวไทยภูเขาส่วนใหญ่ในพื้นที่ให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง เพิ่มรายได้ เลิกการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอยบุกรุกป่า อันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมาย

royal-project-15

  1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านวัดจันทร์และ หมู่บ้านใกล้เคียง  เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2522 ทรงพบว่าราษฎรมีความแร้นแค้น ไม่มีเส้นทางคมนาคม ทรงรับทราบถึงความลำบาก ความทุกข์ยากของชาวเขาในพื้นที่ ทั้งมีการถางป่าทำไร่เลื่อนลอย ทำนาในพื้นที่ลุ่มระหว่างหุบเขา จึงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาบ้านวัดจันทร์เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฎร  รวมถึงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมให้สะดวกมากยิ่งขึ้น  เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฏรในพื้นที่

royal-project-10

  1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2521 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา โดยการนำผลวิจัยทางการเกษตรไปถ่ายทอดและส่งเสริมให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยทดแทนการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย

royal-project-9

  1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ศูนย์นี้ก่อตั้งตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาอันเกิดจากการขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีพ ที่ก่อให้เกิดการบุกรุกป่าทำไร่เลื่อนลอย ปลูกพืชเสพติด โดยการนำความรู้ทางด้านเกษตรที่เหมาะสมมาพัฒนา เพื่อให้ราษฏรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

royal-project-7

  1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะป๊อก อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2526 เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฏร โดยการนำพืชผลที่ผ่านการวิจัยมาช่วยเพิ่มผลผลิต ทำให้สามารถสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ เพื่อให้ราษฏรเลิกการปลูกฝิ่น หยุดทำไร่เลื่อนลอย และปลูกฝังให้เกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ป่า อันเป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำที่สำคัญซึ่งช่วยหล่อเลี้ยงชาวบ้านบริเวณนี้

royal-project-8

  1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

เดือนมีนาคม พ.ศ.2521 ชาวเขาเผ่าม้งจากจอมทองได้ทูลเกล้าฯถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อขอพระราชทานที่ดินทำกิน พระองค์ท่านรับสั่งให้หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เข้าไปช่วยเหลือและพิจารณาพื้นที่บ้านห้วยลึกให้แก่ราษฏร จากนั้นจึงได้ก่อตั้งศูนย์เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ให้ยั่งยืน

royal-project-13

  1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่

จากหมู่บ้านเล็กๆที่ห่างไกลความเจริญ ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม รายได้น้อย ความเป็นอยู่ยากลำบาก แต่สายพระเนตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชก็ยังทรงมองไปถึง ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 300,000 บาท ในปี พ.ศ.2524 เพื่อใช้เป็นทุนทรัพย์ในการเริ่มต้นก่อตั้งศูนย์ในการวิจัย เพื่อพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการเพาะเห็ดและกาแฟพันธุ์อาราบิก้าให้แก่ราษฏรในพื้นที่ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

royal-project-12

  1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ปี พ.ศ.2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมหมู่บ้านหนองหอย ราษฏรเป็นชาวเขาเผ่าม้ง มีอาชีพปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย เพื่อช่วยเหลือราษฏรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งให้หยุดการปลูกฝิ่นและบุกรุกแผ้วถางป่า จึงมีพระราชดำริก่อตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย

royal-project-11

ทั้งนี้แอพพลิเคชันแผนที่ NOSTRA Map เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เพียงเปิดแอพแล้วเลือก Map Layer  “๙ ตามรอยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” หรือ “๙ Royal Projects” ก็จะสามารถเข้าถึงทั้ง 9 ตำแหน่งได้ทันที ดาวน์โหลดแผนที่และใช้งานฟรีได้ที่ http://map.nostramap.com/download

keyboard_arrow_up