5 สิ่งต้องทำ ถ้าไม่อยากให้เธอหน่ายเรื่องบนเตียงของคุณ

account_circle

ถ้าหนุ่มๆ คิดว่า หลังจากที่คุณมีอะไรกับสาวๆ แล้วเธอต่างหากที่จะต้องเป็นฝ่ายดูแลตัวเองให้ดีและทำนิสัยน่ารักเพื่อคุณจะไม่ไปแลใครนอกจากเธอละก็ จงคิดใหม่!! เพราะสาวสมัยนี้ แม้เธอไม่ปันใจง่ายๆ แต่อาจหน่าย เรื่องบนเตียง ของคุณได้ มาดูกันดีกว่าว่าสาวๆ เขาอยากให้คุณดูแลตัวเองอะไรบ้าง เพื่อที่เวลาจัดเซ็กส์ คุณจะยังคงเอ็กซ์ในสายตาเธอเสมอ

ดูแลรูปร่าง

สาวๆ หลายคนบ่นกับมาดามว่า ตอนเลิฟกันใหม่ๆ เขานะหุ่นดีมาก น่าฟัดน่ากอด แม้จะมีพุงก็มีแบบเบาๆ ไม่ย้วยจนต้องหันหน้าหนีหรือหลับตาปี๋เวลามีอะไรกัน แต่พออยู่ๆ ไปหนุ่มข้างกายก็กลายสภาพจากราชสีห์กล้ามแน่นเป็นเจ้าหมูตัวกลมที่จัดเซ็กส์ท่ามิชชั่นนารีทีไรรู้สึกหายใจไม่ออกทุกที ฉะนั้นเรื่องนี้หนุ่มๆ ก็ระวังหน่อย ชวนเธอไปออกกำลังกายช่วยกันกระชับกล้าม ไม่ใช่ขอเธอให้สวยแค่ฝ่ายเดียว เพราะเธอเองก็อยากให้คุณหล่อทั้งบนเตียงและนอกเตียงเหมือนกัน

เพิ่มสีสันให้เซ็กส์ซะบ้าง

เซ็กส์แบบเดิมๆ บางทีทำไปซ้ำๆ ก็เบื่อนะ และถ้าคุณคาดหวังว่าสาวๆ จะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำจัดเซ็กส์ทุกครั้งไปก็คงไม่ใช่ สาวๆ จึงอยากให้คุณเสาะหาเทคนิกเลิฟลีลาเซ็กส์ใหม่ๆ มาเสิร์ฟเธอบ้าง ไม่ต้องใหม่สดเสมอทุกทีจนเธอตามไม่ทัน แต่นานๆ ทีมีเซอร์ไพร้ส์ก็โอเหมือนกันนะ

รู้จักความเซ็กซี่ของตัวเอง

หนุ่มบางคนไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีความเซ็กซี่แฝงอยู่เหมือนกันนะ สาวบางคนมองว่า ผู้ชายมีหนวดมีเครานิดๆ เซ็กซี่มากๆ บางคนบอกว่าแผงอกแน่นๆ ต่างหากที่เรียกอารมณ์ได้ หรือสาวบางนางชอบมองบั่นท้ายของแฟนหนุ่ม เพราะมองทีไร อารมณ์พีคมาตลอดๆ ประเด็นคือ แค่คุณรู้จักว่าคุณมี่ความเซ็กซี่ดึงดูดอารมณ์เธอตรงไหนบ้าง แล้วหมั่นนำเสนอ (แบบเนียนๆ) รับรองว่าเธอไม่มีเบื่อ แถมยังถวิลหาคุณเรื่อยๆ แน่นอน

คุยกันก่อนฟัดก็ดีนะ

เจอหน้าจัดเลยนี่ไม่ไหวนะ แต่นี่กลายเป็นสิ่งที่คู่รักทั้งหลายเจอกันมาแทบทั้งนั้น เธอทั้งหลายอยากให้คุณมองเธอเป็นแฟนสาวที่น่าถนอม ไม่ใช่เป็นเครื่องจักรทางเพศที่มีอารมณ์ปุ๊บจัดเซ็กส์ปั๊บได้เลย  เพราะถ้าคุณทำกับเธอแบบนั้นกับเธอบ่อยๆ เธอจะรู้สึกไร้ค่า และไม่ได้สัมผัสถึงความรักของคุณเลย จะมีก็แต่ความใคร่ที่คุณหยิบยื่นให้ ฉะนั้นช่วยเอาใจกันบ้างดูแลกันหน่อย ชวนคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบก็ดีนะแล้วค่อยจู่โจม

ไม่ต้องแก้หมดก็ได้

สาวๆ รู้สึกว่า เวลาจะจัดเซ็กส์ไม่ต้องจับเธอเปลื้องผ้าออกหมดทุกชิ้นก็ได้นะ และตัวคุณเองก็เหมือนกัน ไม่ต้องถอดเสื้อผ้าจนหมดก็จัดเซ็กส์ได้ แถมบางทียังได้อารมณ์กว่าตอนล่อนจ้อนอีกด้วย ให้เหลือไว้บ้างชิ้นสองชิ้น พอให้ดูว่าคุณจัดเซ็กส์แบบหยาบๆ แบบนี้มาดามบอกเลยนะว่ามีรสชาติกว่าเซ็กส์เดิมๆ ตั้งเยอะ

5 เรื่องง่ายที่ที่มาดามนำมาฝากกัน หนุ่มๆ ลองทำตามกันดูละกัน ถ้าทำได้ครบรับรองเลยว่า เรื่องบนเตียงของคุณทั้งคู่จะมีสีสันและที่สำคัญเธอจะไม่เบื่อไม่หน่าย และมีแต่อยากจะจัดเซ็กส์กับคุณทุกเมื่อเชื่อวันเชียวละ

ภาพ : http://tipsofdivorce.com/

คัมแบ็กรอบนี้โดนมาก! “BLACKPINK” เกิร์ลกรุ๊ปวัยทีน สาดแฟชั่นสีแซ่บสดใส ถูกใจแฟนคลับ

หวีดดดด สาวๆ BLACKPINK คัมแบ็กแล้วววว กับเพลง AS IF IT’S YOUR LAST ทั้งเอ็มวีและสีสันของแฟชั่นมัน YG สไตล์จริงๆ เกิร์ลกรุ๊ปค่ายวายจีต้องแบบนี้แหละ มีความเป็นเอกลักษณ์ เน้นสีเจ็บๆ เอ็มวีสนุกสนาน ส่วนท่าเต้นเพลงนี้ก็แข็งแรง สาวๆ สื่ออารมณ์ได้สุดเหวี่ยงมาก เอ็มวีเปิดตัวได้ 20 ชั่วโมง ยอดวิวก็ปาไป 12 ล้านวิวแล้วจ้า ดูสิ แฟนคลับเขาคิดถึงกันขนาดไหน ถึงได้เปิดยูทูบฟังเพลง นั่งดูสาวๆ กันรัวๆ

สำหรับ BLINK (ชื่อแฟนคลับ) ของ 4 สาวแบล็กพิ้งค์ คงคอมพลีตมีความสุขกันไป ที่ได้เห็นไอดอลของตัวเองออกมาร้องเพลงสนุกๆ ให้ฟัง แต่หลายคนรู้หรือเปล่าว่าไอดอลเกาหลีวงนี้เขามีสมาชิกเป็นคนไทยด้วยนะ นั่นคือ ลิซ่า – ลลิสา มโนบาล สาวน้อยแก้มป่อง หุ่นเพรียว น้องเล็กของวง ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ก็น่ารักไม่แพ้กัน เริ่มที่พี่ใหญ่ คิมจีซู (김지수) ตามด้วยเจนนี่ คิม (김제니) และพักแชยอง (박채영) หรือโรเซ่

ลิซ่า เจนนี่ จีซู โรเซ่ (เรียงจากซ้ายไปขวา)

 เจนนี่ คิม (김제니) 

พักแชยอง (박채영) หรือโรเซ่

ลิซ่า – ลลิสา มโนบาล สาวไทยคนเดียวในวง

คิมจีซู (김지수) 

 

ดูทีเซอร์เรียกน้ำย่อย ก่อนจะส่องแฟชั่นแบบชัดๆ กันนะจ๊ะ

#BLACKPINK #블랙핑크 #20170622 #6PM #마지막처럼 #ASIFITSYOURLAST #MV #TEASER #COMEBACK #NEWRELEASE #YG

A post shared by BLΛƆKPIИK (@blackpinkofficial) on

Teaser เพลง AS IF IT’S YOUR LAST

เบื้องหลังความสนุกในมิวสิควิดีโอ

 

มาดูแฟชั่นในเอ็มวีแบบเต็มๆ กัน เสื้อผ้าสีสันโดนใจเจ๊จริงๆ

ใครยังไม่ได้ดูเอ็มวีตัวใหม่ของสาวๆ ก็อย่าลืมเข้าไปดูนะ รอบนี้คือน่ารัก สีแซ่บแจ่มรับกับช่วงซัมเมอร์ของเกาหลีสุดๆ แฟชั่นก็จี๊ดโดนใจเหลือเกิ๊นนน เห็นแล้วอยากแต่งตามบ้างเลยอะ อยากสดใส อิๆ

 

 

 

 

 

คลิป : IG@blackpinkofficial

ภาพ : twitter@BlackPink Thailand , @YGBlackPink

ขาวแยงตาทะลุซีน พี่เป้าไม่ได้มีอารมณ์! “เต๋า” แจงเปิดซิงรุกไซ้ “โทนี่”

กำลังดำเนินเรื่องมาถึงตอนเข้มข้นเลยสำหรับซีรี่ส์ Club Friday The Series 8 รักแท้มีจริงหรือไม่มีจริง ตอน รักแท้หรือแค่สับสนที่นำแสดงโดย 2 หนุ่มหล่อสไตล์โอปป้าเกาหลี โทนี่ รากแก่น” และ “เต๋า – เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” โดยตอนล่าสุดทำเอาฮือฮาไปทั้งโซเชียล เมื่อต๊อด” รับบทโดย “เต๋า” ต้องเข้าฉากเลิฟซีนนัวจูบบนเตียงกับ “เม้ง” แสดงโดย “โทนี่” โดยหลังจากที่ทั้งคู่ผละออกจากกันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ทว่าสายตาของชาวเน็ตกลับโฟกัสไปที่กางเกงของหนุ่ม “เต๋า” ที่นูนออกมาขโมยซีน ท่ามกลางกระแสเมาท์สนั่นเมืองว่างานนี้หนุ่ม ”เต๋า” ปล่อยอารมณ์อินเนอร์มาเต็ม!

ฉากเลิฟซีนระหว่าง “เต๋า” และ “โทนี่” ในซีรี่ส์ “รักแท้หรือแค่สับสน”

และก่อนที่บรรดาชาวเน็ตจะสรุปอะไรไปมากมายกว่านี้ “เต๋า” จึงได้ออกมาอธิบายผ่านรายการอีเอฟเอ็ม ออน ทีวี” ทางช่อง GMM25 ว่ารู้สึกเขินๆเหมือนกันที่คนจับจ้อง และยืนยันว่าไม่ได้มีอารมณ์ เป็นแค่มุมกล้อง ประกอบกับกางเกงตึงๆนิดนึง ภาพเลยออกมาแบบนี้นี่แหละครับผม

ก็เป็นมุมกล้องแหละ เขาก็อยู่ตรงนั้นปกติของเขาอยู่แล้ว ไม่ได้มอนิเตอร์ครับ เพราะคิดว่าถ้าผู้กำกับให้ผ่านก็คงผ่านแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีอารมณ์ ก็เป็นมุมกล้องแหละ ก็อยู่ตรงนั้น มันเป็นมุมกล้องมากกว่า อาจจะเป็นเพราะกางเกงที่ตึงๆนิดนึง (หัวเราะ) กางเกงเดฟมาก ถ้าถามถึงความรู้สึก (หัวเราะ) ถ่ายนานมากแล้ว จำไม่ได้ แต่คนโฟกัสเยอะก็รู้สึกเขินๆ จริงๆเจอข่าวแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าไม่ได้ชัดขนาดนี้ แต่อันนี้คือชัดสุดจริงๆ

2 นักแสดงนำในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรี่ส์ เห็นสายตาแล้วบอกได้คำเดียวว่า อื้อหือ

“ตอนถ่ายมองไม่ติดครับ ผมไม่กล้ามองหน้า ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ ‘พี่โทนี่’ เขาก็บอกเหมือนกันนะว่าไม่กล้ามองหน้าเราเหมือนกัน เพราะไม่รู้เราคิดอะไรอยู่ อาจจะเป็นตอนเล่นมันอินไง แต่ตอนนี้เป็นพี่น้องที่สนิทกันแล้ว อยู่ใกล้กันด้วย ก็ไปเจอกันบ่อย ก็ชวนกันไปทำโน่นทำนี่ เป็นพี่ชายที่น่ารักครับ เข้าออกบ้านสบาย แบบกริ๊งกร๊างมาก็ไปได้เลย”

“ถ้ามีการติดต่อให้เล่นกับ ‘พี่โทนี่’ อีก อันนี้ต้องคุยกันก่อนไงว่าจะโอเคไหม แต่กับคนอื่นขอพักไว้ก่อน เอาให้ ‘พี่โทนี่’ คนเดียวก่อน จริงๆไม่ได้กลัวติดภาพ แต่ต้องบอกก่อนว่าการเล่นแบบนี้มันใช้พลังงานเยอะ แต่เราไม่ได้เก่งหรอกครับ อยู่ที่บทด้วยแหละ”

ภาพตัวอย่างแต่ละภาพที่ออกมาทำเอาสาวๆหัวใจจะวาย

งานนี้หนุ่ม “เต๋า” ยังได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการเบี่ยงเบนทางเพศไว้ด้วย โดยบอกว่าตนไม่ได้เบี่ยงเบนแน่นอน แต่ตอนแสดงบทจูบก็แอบขนลุก เพราะเป็นจูบแรกกับ “พี่โทนี่”

“ไม่ได้เบี่ยงเบนครับ และก็ขอบคุณมากนะครับที่อิน เพราะทั้งบทและตัวนักแสดงรวมถึงทีมงานก็เต็มที่ บทมันมีอะไรหลายอย่างที่จะสอนคนดูและสังคมด้วยว่าปัจจุบันนี้สังคมมันเป็นแบบนี้นะ

“ยอมรับว่าอันนี้หนักกว่าที่เล่นละครกับผู้หญิงอีก เพราะกับผู้หญิงเขาก็เป็นผู้หญิงไง แต่กับผู้ชายเราไม่เคยมาก่อน ‘พี่โทนี่’ เป็นจูบแรกของผมไง คนแรกของผมไง มันก็ต้องแบบขนลุกนิดนึง”

ฉากจูบที่ทำเอา “เต๋า” ขนลุกซู่

สุดท้ายนักแสดงหนุ่มยังได้ฝากให้ติดตามฉากเด็ดที่จะออกอากาศในคืนวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2560 เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 ด้วยว่า “จะถึงฉากที่เข้าห้องน้ำด้วยกันแล้วนะครับ บอกเลยหนักกว่านี้ รับรองฟินแน่นอน”

ฉากอาบน้ำที่ “เต๋า” บอกว่าฟินแน่นอน
2 หนุ่มขาวแยงตาจริงๆ

 

ลุยงานเต็มที่..ภาพล่าสุด ‘คุณใหม่ สิริกิติยา’ เดินเก็บข้อมูลที่ จ. เพชรบูรณ์ ในอิริยาบถสุดเรียบง่าย

นับตั้งแต่ที่คุณใหม่ สิริกิติยา เจนเซน พระธิดาคนเล็กในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เข้ารับราชการสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2560  คุณใหม่ก็ได้เริ่มชีวิตการเป็นข้าราชการไทยเต็มตัว และตั้งใจกับการเข้ามาทำหน้าที่นี้เฉกเช่นเดียวกันคนธรรมดาทั่วไป

ล่าสุดคุณใหม่ สิริกิติยา ได้เดินทางไปเก็บข้อมูลโบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ คุณใหม่อยู่ในอิริยาบถที่เรียบง่าย ในชุดที่เน้นความทะมัดทะแมง เพื่อพร้อมกับการศึกษาดูงานภาคสนาม

โดยมีนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์,นางสาวศุภร รัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร,นายตระกูล หาญทองกูล ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ร่วมต้อนรับ พร้อมทั้งรับฟังการบรรยายและนำชมโดยนายเดชา สุดสวาท หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ และนางสุริยา สุดสวาท นักโบราณคดีชำนาญการ

อย่างไรก็ตามคนไทยก็อุ่นใจแล้วที่โบราณสถานต่างๆในประเทศไทย ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์จะไม่ถูกหลงลืมหายไปไหน เพราะคุณใหม่ สิริกิติยา ได้เข้ามาทำงานในด้านนี้อย่างเต็มตัวแล้ว

 

ขอขอบคุณภาพ และข้อมูลจาก FB@กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร

 

 

ดูดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

 

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้ท่านจะรับอาสาผู้บังคับบัญชาไปทำงานที่ต้องใช้ความรับผิดชอบสูง เพราะฉะนั้นอย่าประมาท ควรมีการวางแผนล่วงหน้าให้ดี เพราะดวงท่านมีอุปสรรคให้ต้องแก้ปัญหาอย่างกระทันหัน

การเงิน :  หมุนเวียน ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา แต่ก็จะผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิวทุกที

ความรัก : วันนี้ท่านขี้หึง แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของชัดเจน เหมือนกับอยากประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า คนนี้คือแฟนฉัน คนโสด ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จัก คนในที่ทำงานเดียวกัน

สุขภาพ :  งดดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ รวมถึงการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  วันนี้เป็นวันดีของท่าน สามารถเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ไปไหนก็มีแต่คนรัก

การเงิน : ดวงการเงินดี ลงทุนทำธุรกิจก็ประสบความสำเร็จ

ความรัก : โชคดีเรื่องชีวิตครอบครัว วันนี้วันเสาร์พากันไปเที่ยวให้มีความสุขเลย คนโสด มีแต่คนรักจริงหวังแต่งเข้าคิวกันมาเลยทีเดียว น่าอิจฉาจริงๆ

สุขภาพ : วันนี้อย่าลุยมากนะคะ เพราะสุขภาพไม่แข็งแรง เดี๋ยวจะป่วยเสียก่อน   

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  วันเสาร์หรรษา ท่านไปติดต่องานที่ไหนก็จะได้พบคนที่มีจิตใจดี เป็นมิตร สามารถคบไว้ได้เลย เป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานร่าเริง อาจมีการจัดเลี้ยงฉลองความสำเร็จ

การเงิน :  หมดไปกับการช่วยเหลือ จึงเก็บเงินยาก ควรซื้อเป็นพันธบัตรหรืออสังหาฯ เก็บไว้

ความรัก :  วันนี้อยากอยู่ใกล้ๆ คนรักอย่างไม่มีเหตุผล ไม่ยอมให้ห่างสายตาไปไหนเลย ไม่งั้นมีหงุดหงิด คนโสด รักง่าย ลืมง่าย

สุขภาพ : ระวังโรคเรื้อรังที่เป็นมานานจะกำเริบขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ยังคงอยู่ในโหมดแห่งความสำเร็จค่ะ ผลงานที่ท่านทำไว้จะเริ่มปรากฏมีชื่อเสียง เป็นที่กล่าวถึง ถือเป็นรางวัลตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยจากความยากลำบากที่ผ่านมา

การเงิน   :  เงินทองและชื่อเสียงจะหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย

ความรัก : วันนี้ต่างคนต่างมีโลกของตัวเอง มีความเป็นตัวของตัวเองสูงเหลือเกิน พากันไปทานข้าว เพื่อให้ได้มีเวลาแลกเปลี่ยนทัศนคติกันบ้าง คนโสด อกหักจนเข็ด ต้องดูกันนานๆ

สุขภาพ : โหมงานหนักจนนาฬิกาชีวิตบิดเบี้ยวไปหมด ระวังจะเป็นโรคกระเพาะและลำไส้

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ท่านยึดติดอยู่กับกฏระเบียบมากไป จนกลายเป็นคนจุกจิกจู้จี้ สนใจแต่ภาพลักษณ์ของตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาก้าวก่ายหรือวิจารณ์ท่านกับงานของท่าน

การเงิน :  คาดหวังเรื่องการเงินสูง ได้มาเท่าไหร่ก็เก็บหมด หายากนะเนี่ย

ความรัก :  กำลังสับสนวุ่นวายใจ ไม่มั่นใจเรื่องความรัก ค่อยๆ คิดค่ะ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ รอให้ผ่านวันนี้ไปก่อน คนโสด กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะแต่งงานดีหรือเป็นโสดดี

สุขภาพ :  ระวังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดการปวดเสียดท้องได้

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ผู้หญิงจะโดดเด่นในทุกๆ เรื่อง ทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติเลยทีเดียว พลังเยอะ หากมีปัญหาเธอชูธงเดินหน้าไม่เกรงกลัวสิ่งใดเลยค่ะ หากถามว่า จะลาออกมาทำอาชีพส่วนตัว หรือเป็นฟรีแลนซ์ดีไหม  ตอบว่า ดีค่ะ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับการขีดๆ เขียนๆ

การเงิน : ไม่น่าเป็นห่วง เพราะท่านใช้จ่ายเงินอย่างมีระบบระเบียบ

ความรัก :  วันนี้หากท่านเป็นหญิงจะดูแลเอาใจใส่ครอบครัวอย่างไม่มีที่ติ ส่วนผู้ชายก็โชคดีที่ได้ภรรยาที่เป็นแม่ศรีเรือนเพียบพร้อมเลยทีเดียว คนโสด มีแต่คนอยากเข้ามาทำความรู้จักด้วย

สุขภาพ  : หักโหมทำงานหามรุ่งหามค่ำ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : กากบาทตรงกับวันตัวเองเลยนะคะ งานมีปัญหา มีการขัดแย้งและแย่งชิงผลประโยชน์ อาจไปถึงการฟ้องร้อง ส่วนท่านอาจถึงกับถูกเลิกจ้าง ใช้สติ ใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ไขปัญหา เพราะหากท่านเป็นพนักงานประจำยังมีความจำเป็นในการใช้เงิน ก็ต้องอดทนต่อไป วันนี้วันเสาร์ไปวัดทำสังฆทานบ้างก็ดีนะคะ จากร้ายจะได้กลายเป็นเบา

การเงิน : ธุรกิจถูกคดโกงจนมีหนี้สิน หมุนเงินจนมือเป็นระวิง

ความรัก : วันนี้ชีวิตคู่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย น่าเบื่อหน่ายไปหมด อาจมีเกณฑ์หย่าร้างสูง คนโสด ยังคงเป็นโสดต่อไปค่ะ

สุขภาพ : อย่าประมาทเบอร์ 10 ค่ะ

คนไม่ใช่หุ่นยนต์ ! “ปู” เบรก 2 อาทิตย์เติมหวาน “แมทธิว” ชาร์จแบตให้ชีวิต

ถือเป็นปัญหาพื้นฐานของผู้หญิงเก่งส่วนใหญ่เลย สำหรับเรื่องความรักที่เป็นเส้นขนานกับเรื่องงาน หรือที่หลายคนเรียกว่า “ลักกี้อินเกม แต่อันลักกี้อินเลิฟ” บางครั้งลุกลามเลยเถิดไปถึงขั้นเลิกรากัน ซึ่งนางเอกสาว “ปู – ไปรยา ลุนเบิร์ก” เป็นอีกคนที่ประสบปัญหาดังกล่าว เมื่อถูกแฟนหนุ่มต่างชาติ “แมทธิว บราก” บอกเลิกและลบรูปออกจากอินสตาแกรม

และเมื่อเร็วๆนี้เธอได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “WOODYTALK” ว่าจุดแตกหักของความสัมพันธ์มาจากการที่หนุ่ม “แมทธิว” บินไปหาที่เมืองคานส์ โดยเลื่อนคิวงานเป็น 10 วัน แต่สุดท้ายก็ไม่มีเวลาให้ ประกอบกับเขาไม่เข้าใจคำว่า “ดูใจกันอยู่” และหาว่า “ปู” กั๊ก ทั้งๆที่เขาแนะนำตนให้รู้จักเพื่อนและรู้จักสังคมของเขา อีกทั้งในช่วงเวลาเดียวกันยังมีข่าวเรื่องหนุ่ม “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทานและมีคนแท็กหาหวานใจ ทำเอาเรื่องบานปลาย แต่สุดท้ายเรื่องราวดังกล่าวก็จบลงด้วยดี เมื่อนางเอกดังง้อสำเร็จ

ทั้งนี้มีโอกาสได้เจอกับนางเอกสาวในงาน “NUSA My Ozone Khao Yai” จึงถือโอกาสสัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ซึ่งสาว “ปู” ก็ได้อัพเดตให้ฟังว่า ความรักตอนนี้ดีและโอเคทุกอย่างแล้ว โดยสิ้นเดือนนี้เธอจะบินไปอเมริกาเพื่อไปเจอหนุ่ม “แมทธิว” เป็นเวลา 2 อาทิตย์ แม้จะดูยาวนาน แต่ ”ปู” บอกว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เธอไม่ได้หยุดทำงานเลย ดังนั้นถึงเวลาที่เธอจะพักบ้าง

“ปู – ไปรยา” และแฟนหนุ่ม “แมทธิว”

ความรักตอนนี้ดีค่ะ ทุกอย่างโอเค สิ้นเดือนจะบินไปอเมริกาเจอกันแล้ว ลางานและพัก 2 อาทิตย์ ถือเป็นครั้งแรกใน 1 ปีที่คุณเห็น ‘ปู’ บินทุกอาทิตย์ คือ ‘ปู’ มีส่วนร่วมในการทำงานทุกครั้ง ว่างไม่เป็น ก็จะหาแคสติ้ง หาอะไรทำ แต่ครั้งนี้จะไปพักเพื่อตัวเอง ที่วางแพลนไว้ก็มีเจอเพื่อนที่อังกฤษ ไปเจอครอบครัวคุณ ‘แมทธิว’ ที่ยุโรปด้วย

เมื่อถามว่าในการสัมภาษณ์ล่าสุดในรายการ “WOODYTALK” หลายคนเข้าใจว่ามีปัญหากันเพราะ “โอ๊ต – ปราโมทย์” ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ปู” ยืนยันว่าศิลปินหนุ่มร่างท้วมไม่ได้เป็นส่วนประกอบของปัญหา

“กับการให้สัมภาษณ์ล่าสุด ‘ปู’ ได้แปลให้เขาฟัง เขาก็โอเค ดูมีความสุข ส่วนเรื่อง ‘พี่โอ๊ต – ปราโมทย์’ จะบอกว่าไม่เกี่ยวกันนะคะ เดี๋ยวเข้าใจผิด คือมันเป็นการงอนกันเล็กๆน้อยๆ เรื่องใหญ่เกิดจากตัว ‘ปู’ ทั้งหมด  แม้เขาจะถาม แต่ว่าเรื่องที่เขาลบรูปนี่เกิดจากที่ปูเล่าให้ฟัง และตัวปูเองก็ต้องมาแก้ไขปัญหา ซึ่ง ‘โอ๊ต’ ไม่ได้เป็นส่วนประกอบใหญ่ในเรื่องนี้ ไม่อยากให้ดึงเข้ามาในเรื่องนี้เลย เล่าในเชิงตลกกับเรื่องนี้เฉยๆ

เมื่อถามว่าเพราะแฟนหนุ่มต่างชาติหึงหวงหรือเปล่า “ปู” จึงได้อธิบายว่า “ไม่เกี่ยวกับขี้หึงหรอกค่ะ เวลาที่ปูคบใครสักคน ก็เป็นธรรมชาติของเขาที่จะหวงและห่วงอีกคนนึง แต่ว่าเวลาคนเราคบและอยู่คนละประเทศ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ มันต้องหนักแน่น ซึ่งเขาก็เป็นคนที่หนักแน่น ก็ต้องรอดูไปเรื่อยๆ ก็เปิดจนไม่รู้จะเปิดยังไงแล้ว”

ในส่วนของแพลน 2 อาทิตย์ที่วางเอาไว้นั้น “ปู” บอกว่า “ไปหลายที่ค่ะ เขาเองเลยต้องเคลียร์งานเหมือนกัน ต่างคนต่างเคลียร์ การไปต่างประเทศครั้งนี้มันจำเป็น ‘ปู’ ​ไม่ใช่หุ่นยนต์ ‘ปู’ ใช้ชีวิตค่อนข้างหนักในการทำงาน และก็ลงพื้นที่ยูเอ็น จัดงานยูเอ็น แล้วก็มีคานส์ ก่อนหน้านั้นก็มีงานหนังอีก ยังไม่ได้หยุดเลย มันต้องมีความเป็นมนุษย์บ้าง พักผ่อนอยู่กับคนที่เรารัก และครอบครัวปูก็ต้องใช้เวลาด้วย ซึ่งถ้าถามว่าเจอครั้งแรกหรือแปล่า จริงๆก็เจอกันหลายครั้งแล้วค่ะ ครอบครัวเขาก็น่ารัก ใจดี ปูโชคดีที่คบกับคนไหน ครอบครัวเขาก็น่ารัก ปูก็รักพ่อแม่เขาค่ะ”

“ปู -ไปรยา”

“ปีนึงมันไม่ได้พัก มันผิดปกติ มันไม่ได้เกี่ยวแค่ตัวเขานะ มันเกี่ยวกับปูทำงานหลายด้าน ทั้งงานสังคม เล่นหนัง เดินแบบ หาเอเจนซี่ มันก็ดูเยอะ ทำคนเดียว มีผู้ช่วยคนเดียว แล้วก็ผู้ช่วยที่อเมริกาอีกคนนึง มีแค่นี้นะ สำหรับการวางแผนมันค่อนข้างใหญ่ ไปกันแค่สองคน แล้วก็ช่างแต่งหน้าอีกคน ซึ่งมันหนักมาก รายจ่ายที่ปูลงทุนอยู่เมืองนอก ‘ปู’ บอกไม่ถูกเลย เมื่อก่อนบินชั้นธุรกิจ ตอนนี้บินชั้นประหยัด ซึ่งเบื้องหลังมันก็ต้องสู้และพยายามเยอะ เลยบอกว่าไม่แปลกที่จะขอพัก คนเราถ้าจะอยู่เพื่อช่วยคนอื่น มันต้องดูตัวเองก่อน แล้วก็วางแผนที่จะช่วยเหลือทุกคนก่อน แต่บางครั้งลืมถามตัวเองว่าใจอยากทำอะไร เลยลองปิดเครื่อง นั่งอยู่ในทุ่งหญ้า พักผ่อน เดินเล่น อ่านหนังสือ วางใจแล้วหยุดบ้าง วงการบันเทิงเราไม่สู้ ไม่วิ่งหาโอกาส เราก็อยู่ไม่ได้นะ มันไม่ใช่ความบังเอิญที่คุณประสบความสำเร็จ มันต้องแลกเปลี่ยนด้วยการเสียสละ ปูก็เสียสละมาเยอะ เลยอยากเสียสละให้ตัวเองได้พักใจและยิ้ม ได้เป็นผู้หญิงปกติ ไม่ใช่ผู้หญิงเหล็กตลอดเวลา ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดี ปล่อยวางซะบ้างเถอะ จะได้กลับมาสู้ต่อ ซึ่งทุกครั้งที่ปูไปต่างประเทศ ไม่ได้มีทีมที่ยิ่งใหญ่ แต่ปูวางแผนการทำงานเอง และตรงนี้อาจจะดูว่าปูพยายามหนักไปรึเปล่าเพื่อจะถึงจุดนั้น แต่ปูไม่เคยทำอะไร 50 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เรื่องนี้ปูก็พยายามจนลืมว่าตัวเองเป็นใคร ว่าเราหนักไปรึเปล่า แต่ไม่ได้หยุดนะคะ พร้อมรับงานเต็มที่ค่ะ ถ้างานโฆษณาในเมืองไทยรับหมดนะคะ เรียกว่าพักชาร์จแบตเฉยๆ จะได้กลับมาหน้าสวยใสพร้อมทำงาน จริงๆช่วงนี้น้ำหนักลงหลายกิโลเหมือนกัน ตามที่เห็น แต่อย่างที่บอก เราเห็นภาพลงพื้นที่ เห็นการจัดงานทุกอย่าง มันต้องใช้ความคิด ใจ และแรงของตัวเอง ปูก็แค่ผู้หญิงคนนึง ปูมีความรับผิดชอบค่อนข้างเยอะ ต้องวางแผนชีวิตในหลายๆด้าน ตั้งเป้าหมายไว้สูงเหมือนกัน และปีที่ผ่านมาปูสู้แบบกัดฟันมาก มากกว่าที่คนรู้ ขอบคุณที่มีคนชื่นชม แต่ปูเชื่อมั่นว่าบางคนโชคดีพอที่โอกาสวิ่งเข้าหาเขา แต่โอกาสไม่ได้วิ่งเข้าหาปู ปูต้องสู้เพื่อมัน ขอเวลาชาร์จแบต แล้วกลับมาสู้ต่อ”

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องงานนั้น งานแสดงที่ต่างประเทศเยอะมาก จนไม่สามารถรับงานละครไทยได้เลย “งานใหญ่มีค่ะ แต่รู้สึกว่าจะทำหลายระลอก อาจจะเว้นนิดนึง แล้วถ่ายหนังที่ฉายในประเทศไทยและในอาเซียน และมีหนังติดต่อเข้ามา 3 เรื่อง ตอนนี้ก็กำลังเลือกว่าจะเล่นหนังแนวไหน ช่วงอยู่กองก็มีความสุขมาก และเราก็อยากจะเลือกบทที่อยากเล่นจริงๆ ในส่วนของงานแสดงที่เมืองไทยนั้นยังไม่รับค่ะ พูดตรงๆเลย ช่อง 7 ก็สนับสนุนเรื่องนี้ ปูเล่นมาตั้งแต่อายุ 13 ปีแล้ว 10 กว่าปีแล้ว ปูรู้สึกว่าปูทำแบบนี้แล้วมีความสุข สู้กับงานเมืองนอกและงานหนัง ลองดู ถ้าวันนึงจะกลับไปเล่นละครแน่นอน แต่ถ้าวันนี้กลับไปแล้วเป็นปัญหาให้กองละคร ทั้งเรื่องคิว เราก็ไม่อยากเห็นแก่ตัว มีคนสองร้อยกว่าคนต้องมารอเรา สำหรับตอนนี้ก็ยังอยู่ในสังกัดช่อง 7 ค่ะ รักและเคารพกันอยู่เหมือนเดิม ส่วนสัญญาก็ยังเหลือสักพักนึงค่ะ ก็ไม่ได้คิดเรื่องย้ายเลยค่ะ สัญญาเป็นเพียงกระดาษ ประสบการณ์ที่เขาได้สอน ‘ปู’ มา และโอกาสที่ให้มาตลอด มีความสำคัญมากกว่ากระดาษแผ่นนึงที่เราจะอยู่ดีๆคิดจะย้ายก็ย้าย ‘ปู’ รักและเคารพช่อง 7 หวังว่าวันนึงเราจะไปถึงจุดที่ ‘ปู’ ฝัน และวันนั้นก็ยังสนับสนุน ‘ปู’ อยู่

Hotel Art Fair Bangkok 2017

Hotel Art Fair Bangkok 2017 เสพศิลป์จัดเต็ม รวมงานศิลปะกว่า 30 แกลเลอรี่ ใจกลางเมือง

Hotel Art Fair Bangkok 2017
Hotel Art Fair Bangkok 2017

หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับการจัดนิทรรศการที่รวบรวมและแสดงงานศิลปะภายในห้องพัก โรงแรมฟาร์มกรุ๊ป บริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านครีเอทีฟดีไซน์ หนึ่งในองค์กรที่ทุ่มเทเพื่อวงการศิลปะ จึงได้จัดงาน “Hotel Art Fair Bangkok 2017” เพื่อเอาใจผู้หลงใหลงานศิลปะกันต่อเนื่อง โดยจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ณ โรงแรม Volve Hotel Bangkok สุขุมวิท 53 ระหว่างวันที่ 23-25 มิถุนายน 2560 

ได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำทีมแกลเลอรี่ชื่อดังของไทยกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ มาร่วมกันเนรมิตห้องพักของโรงแรมใจกลางกรุง ให้กลายเป็นแหล่งโชว์งานศิลปะ เพื่อเอาใจแฟนๆ หัวใจศิลป์ รวมถึงนักสะสมงานศิลปะท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเอง โดยการจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่เพียงจะดึงดูดนักเสพงานศิลป์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ได้มาสัมผัสการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่มีงานศิลปะเป็นแรงดึงดูด

ด้านผู้บริหาร ฟาร์มกรุ๊ป คุณวรทิตย์ เครือวาณิชกิจ ยังได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์สำหรับการจัดงานศิลปะตลอดมารวมถึงงานล่าสุด Hotel Art Fair Bangkok 2017 ด้วยว่า “ตลอดการจัดงานที่ผ่านมาทั้ง 3 ครั้ง ต้องขอยกความดีความชอบให้กับแกลเลอรี่และศิลปินที่เข้าร่วมงานกับเราทุกท่าน ทุกคนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ และสำหรับปีนี้เราได้พันธมิตรอย่างโรงแรม Volve Hotel Bangkok สุขุมวิท 53 ซึ่งเป็นดีไซน์โฮเทลใจกลางเมืองที่มีแนวคิดตรงกันในการสนับสนุนศิลปินไทยอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงค่อนข้างลงตัวทั้งสถานที่และคอนเซ็ปต์การจัดงาน โดย Hotel Art Fair Bangkok คือคอนเซ็ปต์ใหญ่ที่เราคิดไว้ ทุกๆ ปี รายละเอียดของงานจะมีความแตกต่างกันออกไปเพราะเนื้อหาและสถานที่ รวมถึงแกลเลอรี่และศิลปินที่เข้าร่วมก็หลากหลายขึ้น แกลเลอรี่เดิมที่เคยร่วมงานกับเราก็ curate งานให้ไม่เหมือนกันทุกปี เพราะฉะนั้นงานแต่ละครั้งจะไม่มีทางเหมือนกันเลย”

“เราเชื่อว่าศิลปะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง สามารถเชื่อมต่อและสร้างวัฒนธรรมที่ดีให้กับคนในชุมชนได้ สังคมและประเทศเราจะได้เดินไปข้างหน้าอย่างมีพลัง”

สำหรับแกลเลอรี่กว่า 30 แห่งที่นำผลงานมาแสดงภายในงาน ได้แก่ ARTSIT+RUN, ATTP Gallery and Paw Dee Lifestyle, Bangkok Art and Culture Centre, BANGKOK CITYCITY GALLERY, C.A.P Studio+JOJO KOBE, Chardchakaj & Antique Photo Gallery, Claustrophobic, Doo ood Group, Gallery Seescape, H Gallery Bangkok, Jack Poohvis & NEV3R, Lik Sriprasert, LYLA Gallery, Note Kritsada, Nova Contemporary, Viranod Buranasiri, PRACTICAL Design Studio, Pomme Chan, Serindia Gallery, Studio Jitti/ Kongsak Studio/ Aninta, Sujin Wattanawongchai, Temporary Contemporary, Tentacles, Our Musical King, The UNI_FORM x Earth Republic x The Archivist, YenakArt Villa และยังได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้นักสะสม อาทิ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ และ ชมวรรณ วีรวรวิทย์ ที่นำงานศิลปะซึ่งเป็นของสะสมส่วนตัวมาโชว์ในงานนี้ด้วย

ผู้สนใจร่วมชมงานศิลปะ Hotel Art Fair Bangkok 2017 สามารถชมได้ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น. ระหว่างวันที่ 24-25 มิถุนายน 2560 ณ โรงแรม Volve Hotel Bangkok สุขุมวิท 53 ติดตามความเคลื่อนไหวที่ได้ Facebook: Hotel Art Fair และ Instagram @hotelartfair

 

ภาพ: Wara Suttiwan

18 ชุดแต่งงานสุดยอดแห่งการเดรปผ้ามิลต่อมิลจาก Samuelle Couture

account_circle

ซามูแอล กูตูร์ (Samuelle Couture) โดยดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาวอเมริกัน แซม วอลล์ ที่มีความหลงใหลในผ้าย้อมมือ และการจับเดรปอันประณีต เธอยังได้รับการยอมรับในความละเอียดที่มีต่อการแฮนด์เมดชุดเจ้าสาวให้ออกมาสวยงามเหมาเจาะชนิดมิลลิเมตรต่อมิลลิเมตรอีกด้วย

ส่องภาพละครสาวมหัศจรรย์ ไอซ์-ปรีชญา หน้ากากหมอนข้าง ใน “รักกันพัลวัน” คู่นาย-ณภัทร!

ถือเป็นสาวมหัศจรรย์ มีความสามารถเก่งรอบด้านคนหนึ่งเลย สำหรับ ไอซ์ – ปรีชญา พงษ์ธนานิกร สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มสไตล์โคเรียเกิร์ล ที่เมื่อคืนล่าสุดได้สร้างปรากฏการณ์ทำให้คนไทยเกิดอาการเงิบกันค่อนประเทศ หลังจาก หน้ากากหมอนข้าง ในรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง เฉลยออกมาเป็น สาวไอซ์!! แทนเสียงส่วนใหญ่ที่เดาไปก่อนหน้านี้แบบมั่นใจ 100% ว่าเป็นนักร้องสาว วี – วิโอเลต วอเทียร์

แจ้งเกิดให้แฟนๆ ได้รู้จักหน้าค่าตาและความสามารถทางด้านการแสดงจากการเป็นนางเอกภาพยนตร์ค่าย GTH ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อมาเป็น GDH จากภาพยนตร์ดังอย่างเรื่อง ATM เออรัก..เออเร่อ ประกบคู่ เต๋อ – ฉันทวิชช์ และ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว เลิฟยู้ ประกบคู่ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ซึ่งหลังจากนั้นความสามารถในการร้องและเต้นของเธอก็เริ่มเปิดให้แฟนๆ ได้เห็นมากขึ้น แต่น้ำหนักส่วนใหญ่คือเอนเอียงไปด้านการเต้น ทั้งจากการเห็นสาวไอซ์เต้นเพลง ABC ชักกระตุก อัดคลิปเต้นเวลาฝึกซ้อมกับเพื่อนๆ ลงผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว หรือแม้แต่เล่นคอนเสิร์ต ทั้งคอนเสิร์ตของค่าย GDH หรือไปร่วมเต้นกับศิลปิน The Star โดยหารู้ไม่ว่าความสามารถในด้านการร้องเพลงของสาวไอซ์เทียบกับนักร้องมืออาชีพได้เลยทีเดียว

หลังจากมาใส่หน้ากากหมอนข้าง ร้องเพลง Habits และอยากหยุดเวลา ในรายการ The Mask Singer จนไม่ได้ไปต่อ ต้องโดนกระชากหน้ากาก ผลที่ออกมาเป็นสาวไอซ์ ก็ได้สร้างความเซอร์ไพร้ส์ตื่นตะลึงให้แก่แฟนๆ กันอย่างมาก โดยเมื่อเฉลยออกมา กระแสชื่นชมต่อฝีมือการร้องเพลงของสาวไอซ์ก็ถาโถมไปทางบวกเพียงชั่วข้ามคืน จนเกิดการขุดเอาคลิปร้องเพลงตามงานอีเว้นต์ต่างๆ และคลิปเต้นของสาวไอซ์ออกมาพูดถึงในทางชื่นชมกันมากบนโลกโซเชียล

วันนี้ แพรวดอทคอม คงไม่ต้องพูดถึงความสามารถในด้านการร้องและเต้นของสาวไอซ์มาก เพราะฝีมือก็คงประจักษ์ให้เห็นชัดกันอยู่แล้ว วันนี้เลยจะพามาอัพเดตละคร “รักกันพัลวัน” ของสาวไอซ์ ที่จับคู่กับ นาย – ณภัทร เสียงสมบุญ รับบทพระ-นางคู่กันครั้งแรกทางช่อง 3

สำหรับละคร รักกันพัลวัน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ตุลญาณา (ไอซ์ – ปรีชญา) ทอมบอยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่อกหักจากสาวๆ ถึง 3 ครั้ง จนหันกลับมาชอบผู้ชาย แต่ก็ต้องพบกับอริเก่า เมธากวิน (นาย – ณภัทร) ลูกชายเจ้าของสวนสัตว์ที่แย่งแฟนสาวของสาวไอซ์ไป ต่างคนต่างมีปมในใจ จนทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่กัดกัน แต่ก็นั่นแหละ ความพิเศษที่น่าติดตามคือ สองคนนี้จะมารักกันได้อย่างไร ซึ่งก็ต้องรอติดตามชมกันเร็วๆ นี้ ซึ่งเรื่องนี้ยังได้ยกกองไปถ่ายถึงใต้น้ำทะเลลึกกันถึงจังหวัดชุมพรด้วย น่าจะมีฉากใต้ท้องทะเลสวยๆ มาฝากแฟนๆ เพียบ วันนี้เลยจัดออร์เดิร์ฟ ส่องภาพคู่พระ-นาง ไอซ์ – นาย มาให้ได้ชมกันก่อน จะน่ารักหรือจะเกิดคู่จิ้นใหม่ในวงการไหม ก็ต้องคอยลุ้นกันนะจ๊าาา

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @icepreechaya @snaphat9_gallery #รักกันพัลวัน

10 เหตุผลจากใจแฟนคลับ ทำไมเราถึงรักผู้ชายที่ชื่อ “เป๊ก-ผลิตโชค”

“นี่ถูกเวลาหรือยัง ถ้าหากจะขอพูดคำในใจให้เธอได้ฟัง ถ้าหากจะพูดว่าฉันรักเธอ เธอว่าควรหรือยัง แต่กับตัวฉันมั่นใจว่าที่พูดไป ถูกคนแล้ว Oh Baby” นี่คงเป็นเพลงที่เหมาะกับ PFC (ชื่อแฟนคลับ) ของหนุ่มเป๊กสุดๆ แล้ว เพราะจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ตั้งแต่ได้รู้จักหน้ากากจิงโจ้ กระแสดราม่าหลังถอดหน้ากาก หรือแม้แต่พลังความรักที่แฟนๆ มีให้อย่างล้นหลาม จนสามารถครองตำแหน่งขวัญใจมหาชนคนล่าสุดไปได้

หลายเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่แฟนคลับหรือภรรยาของคุณหลวงผลิตเขาตั้งใจจะมอบให้ รวมถึงการแสดงออกหลายๆ อย่างของหนุ่มเป๊กที่ส่งให้แฟนคลับ สิ่งเหล่านี้แหละทำให้ทุกคนรับรู้ได้และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รักถูกคนแล้ว

นอกจากผลิตโชคจะดังและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในขณะนี้แล้ว เหล่าแฟนคลับก็ไม่น้อยหน้านะจ๊ะ ไปงานไหนมีแต่เสียงคนชม แถมยังขยันทำโปรเจ็คท์เซอร์ไพร้ส์นักร้องเสียงดีให้มีโมเมนต์แสนพิเศษได้แทบทุกวัน มุมคนนอกที่มองเข้าไปก็เลยเกิดความสงสัยว่า อะไรทำให้สาวๆ ประทับใจและรักผู้ชายที่ชื่อ ผลิตโชค

ไม่ต้องไปหาคำตอบที่ไหน วันนี้แพรวได้ล้วงเข้าไปในหัวใจของเหล่าภรรยาคุณหลวงแล้วว่า เพราะอะไรถึงมอบความรักให้หนุ่มเป๊กได้มากมายขนาดนี้ และเหตุผลเหล่านี้อาจทำให้คนนอกที่ยังไม่รู้จักเป๊ก – ผลิตโชค กลายเป็นแฟนคลับไปเลยก็ได้ อิอิ

 

1. เสียงเพราะๆ ชวนหลงใหล

อย่างที่รู้กัน ความไพเราะจากเสียงร้องของหน้ากากจิงโจ้ทำให้หลายคนหันกลับมาฟังเสียงของเขาอีกครั้ง โดยปราศจากอคติต่างๆ ที่ถูกใส่มาตลอด 10 ปี ด้วยความสามารถทางด้านดนตรีและการสื่ออารมณ์เพลงที่ออกมาเต็ม ทำให้ใครก็หลงรักจิงโจ้ เมื่อถอดหน้ากาก คนก็เปิดใจเรียนรู้ตัวตนของผลิตโชคมากขึ้น ได้ทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่จากข่าวเหมือนที่ผ่านมา และจากความติดใจเพลงสากลของหน้ากากจิงโจ้ แฟนๆ ก็อยากให้หนุ่มเป๊กออกอัลบั้มเพลงสากลด้วย


 

2. แฟนเซอร์วิสขั้นเทพ

เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลืออย่างมากในกลุ่มแฟนคลับ กับความจริงใจที่หนุ่มเป๊กมีให้กับทุกคน แถมยังเซอร์วิสดีสุดๆ ไม่ว่าจะรีบหรือยุ่งแค่ไหนก็ให้เวลาและสนใจแฟนคลับเสมอ

แฟนคลับรอรับที่สนามบินก็หยุดคุย หยุดถ่ายรูป แจกเซอร์วิสเพิ่มด้วยการเข้าไปจับมือแฟนๆ ใครไปรอรับ – ส่งที่สนามบินไม่มีนกนะจ๊ะ เพราะเฮียแวะทักทายแน่นอน

อันนี้ไม่ได้มาหาเสียง แต่เห็นแฟนคลับวิ่งตามรถ วิ่งถ่ายรูป เลยเปิดหลังคารถออกมาทักทายทุกคน พร้อมพูดให้ไปดูคอนเสิร์ตคืนนี้ด้วยภาษาถิ่น มีความน่ารักปนฮากันไป

เป็นศิลปินที่แพ้ดอกไม้ แต่กลับเอาดอกไม้มาแจกแฟนๆ แถมยังเอาหนามดอกกุหลาบออกซะเกลี้ยง แบบนี้แฟนๆ จะไปไหนรอดล่ะเนี่ย ดีขนาดนี้

ภาพซ้ายก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงทั้งในมุมคนนอกและแฟนคลับ เมื่อหนุ่มเป๊กขึ้นบันไดเลื่อนไปหาแฟนๆ ที่อยู่ชั้นสอง พร้อมร้องเพลงไปด้วย สร้างความสนุกสนานและแปลกใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก

ส่วนภาพขวามือ งานวันนั้นฝนตก ทำให้แฟนๆ ไม่สามารถใกล้ชิดหนุ่มเป๊กได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะนักร้องหนุ่มเอากระเป๋าคลุมหัวแล้วเดินออกไปหาแฟนๆ เองเลยจ้า


 

3. จริงใจ ทุกคำพูดเชื่อได้เสมอ

ทุกครั้งที่มีมินิคอนเสิร์ต หนุ่มเป๊กก็มีเรื่องมาเล่าให้ PFC ฟังตลอด ไม่ว่าจะแอบหนีเที่ยวก็มาบอก หรือการเล่าเรื่องกลางห้างว่าใส่กกน.กระดาษ เพราะรีบ เลยไม่ได้เอากระเป๋าเดินทางไปด้วย และยิ่งชัดไปอีกว่าเป็นคนโกหกไม่เป็น เก็บความลับไม่อยู่ ก็คือการสปอยล์ผลงานของตัวเองที่กำลังจะออกเดือนหน้า แบบนี้ทีมพีอาร์ไม่ต้องเหนื่อยกันเลยนะคะ อิๆ

เมาท์เรื่องถุงใต้ตาสามชั้นที่เกิดจากการพักผ่อนน้อย ปรึกษาแฟนๆ ตลอดว่าทำไงดี ฮาเนอะ

นี่ไง ปล่อยรูปเบื้องหลังการถ่าย MV มาไม่พอ ยังแอบบอกชื่อเพลงเป็นภาษาผลิตผ่านทวีตนี้ว่า อัมโซเร อ่านแล้วก็งงว่าคืออะไร แต่แฟนคลับก็ถอดรหัสได้ว่า I’m sorry นี่เอง ซึ่งน่าจะเป็นชื่อเพลงใหม่คุณหลวงเขาแหละ

ภาพเบื้องหลังมาอีกแล้ว เอาสิ ลงมันทุกมุม แถมมีรายงานตลอดว่าทำอะไรอยู่ แล้วจะไปไหนต่อ 


 

4. เป็นธรรมชาติ มีความเป็นตัวเอง

เวลามีงานในห้างหรือร้านอาหาร หนุ่มเป๊กก็เรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆ ได้ตลอด เพราะความเป็นธรรมชาติ อยากพูดอะไรก็พูด จนหลายคนบอกว่าไม่ต้องบอกทุกเรื่องก็ได้มั้ง เก็บบ้าง คีพลุคหน่อย แต่ด้วยความไม่คีพลุคเนี่ยแหละ ทำให้ทุกคนรักและชอบที่ตัวตนของผลิตโชคจริงๆ

ยิ้มได้ตลอด แฟนคลับส่งอะไรให้ก็เล่นด้วย และพูดติดตลกว่า หมดกันภาพลักษณ์นักร้องอาร์แอนด์บีที่สร้างมา ฮาไปอีก

รักทะเลยิ่งกว่าใคร ไปพักผ่อนคนเดียว แต่ไลฟ์ให้แฟนๆ ดูตลอด ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ทำให้แฟนๆ เห็นไลฟ์สไตล์และมองเห็นอีกมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

งานเล่นไฟเย็นบนเวทีก็มา แต่เกือบโดนไฟเล่นซะแล้ว เพราะไม่ทันระวัง ทำให้ไฟเกือบโดนมือ แต่ความโก๊ะแบบนี้แหละแฟนๆ ชอบ

ลงไปกลิ้งกับพื้นก็ทำมาแล้ว จะแจกเสื้อแบบธรรมดา ผลิตโชคทำไม่เป็น ต้องกระโดดหมุนตัวทำวงสวิง แล้วเป็นไงล่ะคะ ฮากันกระจาย เจ้าตัวเองก็ขำไม่หยุด ถือเป็นโมเมนต์ดีๆ ตลกๆ อีกหนึ่งโมเมนต์นะ


 

5. มุ่งมั่น อดทน ไม่ละความพยายามเพื่อความฝัน

ความฝันตั้งแต่เด็กของหนุ่มเป๊กคือการเป็นนักร้อง รักการร้องเพลง และตลอด 10 ปีก็มีผลงานเพลงออกมาให้ฟังตลอด แต่ผลตอบรับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะคนกลับไปโฟกัสอย่างอื่นมากกว่าผลงาน เลยทำให้กระแสแผ่ว แต่แล้วความพยายามก็ไม่เคยหยุดนิ่ง หนุ่มเป๊กพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่ยอมแพ้ ถ้าไม่ถึงที่สุด ยังไงก็ไม่มีวันหยุดวิ่งตามความฝัน จนวันนี้ได้กลายเป็นที่รักของแฟนๆ มีคนสนับสนุนมากมาย ถ้าวันนั้นท้อ ก็ไม่มีผลิตโชคในวันนี้ แฟนๆ หลายคนก็เอาหนุ่มเป๊กเป็นแบบอย่างเรื่องความพยายาม และเป็นแรงบันดาลใจในการตามฝันด้วย


 

6. เป็นหนุ่มคิดบวก มองโลกในแง่ดี

เจอข่าวร้ายๆ มา 10 ปีก็ไม่เคยออกมาเรียกกระแสดราม่าให้ตัวเอง แต่กลับเห็นหนุ่มเป๊กออกไปใช้ชีวิตชิลๆ ออกท่องเที่ยว ไปพักโฮมสเตย์ ไปนอนกับชาวบ้าน ไม่สนใจข่าวลบของตัวเอง ไม่เอาเรื่องไม่ดีเก็บมาคิดให้ตัวเองเฟล แต่เลือกจะมองมุมดีๆ ของชีวิต เช่น มีเวลาพักผ่อน มีความสุขกับแฟนๆ กลุ่มเล็กๆ เจอดราม่าอะไรก็ตอบติดตลกไปตลอด ไม่สานต่อดราม่าแต่อย่างใด เพราะแบบนี้ทำให้เป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ ใครอยู่ด้วยก็สนุก เฮฮา ไม่น่าเบื่อ

 

 


 

7. แคร์คนที่รัก ใส่ใจแม้แต่เรื่องเล็กน้อย

เป็นคนที่แคร์คนรอบข้างอยู่ตลอด ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน ผู้จัดการส่วนตัว หรือแฟนคลับที่ดูจะใส่ใจเป็นพิเศษ แฟนๆงอน หนุ่มเป๊กก็ง้อ ช่วงนี้ฝนตกบ่อย แฟนๆ มารอเจอเปียกฝนชุ่มฉ่ำกันถ้วนหน้าก็ไม่ปล่อยเฉย กลับเอาร่มมาแจก ใครไปหาบ่อยๆ จำหน้าได้ทุกคน ไปเที่ยวหรือกลับจากญี่ปุ่นก็ซื้อขนมมาฝาก และด้วยความที่แฟนคลับของหนุ่มเป๊กมาจากหลายสาย ทั้งเกาหลี จีน ญี่ปุ่น และสากล เลยทำให้เกิดโปรเจ็คท์อยู่บ่อยๆ แต่หนุ่มเป๊กเองก็มีโปรเจ็คท์ตอบแทนแฟนคลับเหมือนกัน จนแฟนคลับบอกว่าแพ้ใจผู้ชายคนนี้จริงๆ

แฟนๆ รอทำโปรเจ็คท์ต้อนรับกลับจากญี่ปุ่น หนุ่มเป๊กไม่สบาย ไม่มีเสียงพูด แต่ก็ยังห่วงความรู้สึกของทุกคน เลยเขียนข้อความบอกว่าต้องกลับเร็วเพราะอะไร จริงๆ จะเดินขึ้นรถไปเลยก็ได้ แต่ผลิตโชคเลือกจะทำแบบนี้ ทำให้ได้ใจแฟนคลับไปเต็มๆ

เอาร่มมาแจกจ้า ฝนตกไม่ต้องกลัว เฮียจัดร่มคันใหญ่มาให้เลย


 

8. สายบุญ จิตใจดี อ่อนน้อมถ่อมตน

เป็นคนที่เจอกับแฟนคลับก็ไหว้ตลอด ขอบคุณตลอด เจอผู้ใหญ่ก็โค้งงามๆ แม้ว่าจะชอบปาร์ตี้ยังไง แต่ก็ชอบทำบุญไม่ต่างกัน จะเห็นหนุ่มเป๊กเอาพวงมาลัยติดแบงก์ที่แฟนๆ ให้ไปทำบุญ หรือขนมที่แฟนคลับให้ก็เอาไปแจกน้องๆ บ้านเด็กกำพร้า ส่วนการเข้าวัด ไปจังหวัดไหนก็แวะไปไหว้พระ ทำบุญตลอด เป็นโรคทาลัสซีเมีย แต่บริจาคเลือดบ่อยมาก และยังบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วย

เหตุการณ์นี้ถึงกับเป็นกระทู้ดังด้านบวกในพันทิปเลย เมื่อหนุ่มเป๊กปฏิบัติกับเด็กพิเศษแบบน่ารัก ไม่ถือตัว ให้เกียรติน้อง ไม่เรียกทีมงานให้มาพาน้องลงไป ทำให้แฟนๆ ยิ่งมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้เขาดีจากข้างในจริงๆ


 

9. สนุกสนาน เฮฮา มีความกวน

เห็นหน้าตาใสๆ ดูเรียบร้อย แต่แสบใช่เล่น เรื่องแซว เรื่องแกล้งนี่ไม่แพ้ใคร หรือบางทีแฟนๆ ก็เรียกว่าผลิตสามขวบ เพราะชอบทำตัวเปิ่นๆ ฮาๆ เหมือนเด็กน้อย แต่แบบนี้แหละมันคือเสน่ห์ที่ทำให้แฟนๆ เขาหลงกัน อิๆ

แอบดูมุกที่จดไว้บนแขน โจ่งแจ้งทุกครั้ง ใครเห็นก็จับได้ว่าแอบดู แต่มาตีเนียนว่าไม่ใช่นะ

ใส่หัวจิงโจ้เต้นบนเวที ฮาได้อีก

เร็กเก้ก็มี จัดหมวกมาเองจากบ้าน เรียกเสียงกรี๊ดปนฮากันไป สังเกตก็จะรู้ว่าเตรียมตัวมาดี เพราะมีความกระบนหน้าด้วย

แซวแฟนคลับว่าคิ้วหายก็ได้เหรอคะ ^^


 

10. มีความเป็นผู้นำ ไหวพริบดี

หลายครั้งที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นบนเวที หนุ่มเป๊กก็รับกับสถานการณ์และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี บอกปฏิเสธแบบสุภาพ แต่ก็เด็ดขาดในเวลาเดียวกัน สำหรับการตอบคำถามนักข่าวก็อย่าหวังว่าจะเอาไปสร้างประเด็นต่อได้นะจ๊ะ เพราะหนุ่มเป๊กจบดราม่าตรงนั้นได้แบบสบายๆ ตอบติดตลก อารมณ์ดีตลอด


 

แพรวคิดว่า 10 เหตุผลที่มาจากคำบอกเล่า จากใจของแฟนคลับ จะทำให้หลายคนหายสงสัยได้บ้างว่า ทำไมแฟนๆ ถึงรักหนุ่มเป๊กขนาดนี้ เพราะทุกคนรู้สึกว่าสิ่งที่ให้ไปมันได้กลับมาตลอด ประมาณว่าให้ไปเท่าไหร่ก็ได้กลับมาเท่านั้น แสดงความรักต่อกันด้วยความจริงใจ ก็อย่างว่าเนอะ เขาจดทะเบียนกันแล้วนิ แถมหนุ่มเป๊กยังประกาศว่าจะเป็นสามีที่ดีบนเวทีไนน์เอ็นเตอร์เทนอีกด้วย หวานมว้ากกก…

 

 

 

 

เรื่อง : Hana

ภาพ : twitter@peckpalit , @overdamxxn , @LORM TAI PEAK  , @ppaenay , @Janenoiiii , @Palitchokelism , @PalitCottage , @gariing , @Mealycrab ,  @Ji_gab , @na_nuy

ช็อตเด็ดจาก หนังเอ็กซ์ อย่าหาทำ! สาวๆ หลายคนบอกว่าไม่โอเค

account_circle

หนุ่มๆ กับ หนังเอ็กซ์ บางทีก็เป็นของคู่กัน! ยิ่งไปกว่านั้นอาจดูจนอยากสวมบทบาทตามอย่างนักแสดงนำ ร้อนถึงสาวคู่ใจที่อยู่ๆ ก็ต้องเป็นนางเอกแบบจำยอม ขอบอกคุณผู้ชายไว้ก่อนเลยว่า อย่าหาทำ! เพราะบางทีสาวๆ เข้าไม่โอเคสุดๆ

ตัวอย่างจาก หนังเอ็กซ์ ไม่จำเป็นอย่าหาทำ ให้มันอยู่แค่ในจอก็พอ!

หนังเอ็กซ์
Image by artemtation from Pixabay

น้ำรักบนเรือนร่าง

ช็อตเด็ดที่หนังเอวีแทบทุกเรื่องบรรจุไว้เหมือนเป็นหลักสูตรบังคับ รู้ไว้เลยนะว่ามันทำให้สาวๆ อยากอ้วก! เพราะนอกจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ ยังมีความเหนอะหนะ เหนียวข้น เลอะเทอะ ไม่ว่าจะราดลงบริเวณไหน ห้วงอารมณ์ที่กำลังพีคอยู่จะดิ่งพสุธาไปเลย อย่าสงสัยว่าทำไมเธอไม่โวยวาย ก็เพราะยังไม่ทันอ้าปากแย้ง คุณก็ใส่มาเต็มรักซะแล้ว บ่อยครั้งจึงต้องเลยตามเลยแบบเหวอๆ ทั้งที่ใจสุดแขยง

หนังเอ็กซ์
Photo by Nikolai Chernichenko on Unsplash

ขอให้กลืนกินน้ำรัก

แม้ทางการแพทย์จะระบุว่าอสุจิของผู้ชายมีโปรตีนค่อนข้างสูง แต่มันไม่ใช่ของกิน!! การบังคับให้ฝ่ายหญิงกลืนกินจึงไม่เท่ากับการป้อนสารอาหารทรงคุณค่าให้เธอ ฉะนั้นอย่าหลอกล่อเธอด้วยคุณประโยชน์เหล่านี้ ผู้หญิงเขายี้มาก! (ถ้าสารอาหารเยอะอยากให้คุณผู้ชายลองดูค่ะ เชอะ!)

หนังเอ็กซ์
https://unsplash.com

ตีผัวะเพราะหมั่นเขี้ยว

หนุ่มๆ ชอบอ้างกันเหลือเกินว่า ณ อารมณ์นั้นมันยั้งไม่อยู่ เข้าใจได้ว่าคงหมั่นเขี้ยวผิวขาวๆ นวลๆ ของคนรัก แต่ว่าผู้ชายบางคนก็ไม่รู้จักน้ำหนักมือตัวเอง สักแต่จะตีให้ได้อารมณ์จนลืมนึกไปหรือเปล่าว่าสาวๆ ก็เจ็บเป็น นี่เนื้อคนนะไม่ใช้ลูกวอลเลย์บอล! แถมบางครั้งก็ฝากรอยมือจนม่วงแดงเป็นรอยช้ำ แล้วอย่างนี้จะให้สาวๆ  ปลื้มได้ไง

หนังเอ็กซ์
Photo by Charles Deluvio on Unsplash

ผลักไสมัดแน่น

หนุ่มบางคนอยากสวมบทโหดปนซาดิสแบบในหนัง จึงสร้างสถานการณ์ตามจินตนาการฝังจำกลายเป็นว่าต้องมีการผลักให้เธอล้มลงบนเตียงก่อนแล้วค่อยไซ้คอ บางรายจัดหนักขอจำลองเหตุการณ์มัดแน่นติดเตียงก็มี บอกเลยตรงนี้ว่าแม้จะแปลกใหม่เร้าใจแต่สาวๆ เธอกลัวนะ เพราะการโดนผลักและมัดแน่นก่อให้เกิดความรู้สึกขาดอิสรภาพและเดาไม่ได้ว่าคุณจะทำอะไรกับเรือนร่างของเธอ

หนังเอ็กซ์
Photo by Deon Black on Unsplash

ออรัลลึกสุดติ่ง

การที่ทำรักให้ด้วยปากหมายถึงสาวๆ อยากทำให้ด้วยใจ ฉะนั้นขอความกรุณาหนุ่มๆ จงพอใจในสิ่งที่ได้รับ อย่าได้ถือวิสาสะเอามือจับหัวกระแทกเข้าออกเช่นในหนังเลย เพราะนอกจากสาวๆ จะรู้สึกถึงการถูกบังคับใจแล้ว ยังส่งผลให้เจ็บเข้าไปถึงคอหอยจนอยากจะขย้อนออกมา

หนังเอ็กซ์
Photo by Michael Jasmund on Unsplash

ประตูหลังเรื่องต้องห้าม

เซ็กส์แบบปกติวิสัยคือการเข้าตามตรอกออกตามประตู การเข้าหลังบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเสียมารยาทอย่างรุนแรง ที่สำคัญประตูหลังไม่ใช่ช่องทางการมีเซ็กส์ที่ถูกต้อง แต่ที่ในหนังทำได้สบายๆ เพราะเธอเหล่านั้นกรำศึกมานัก แต่ไม่ใช่สาวข้างกายคุณอย่างแน่นอน (ยกเว้นเธอร้องขอ) ฉะนั้นเพื่อความแฟร์ หนุ่มๆ ควรสอบถามความสมัครใจและความต้องการของเธอก่อน ไม่ใช่นึกจะเข้าหลังบ้านก็จู่โจมเลย แต่ถ้าเธอยินยอมพร้อมใจก็อย่าลืมใช้เจลหล่อลื่นด้วยล่ะ คงไม่ต้องบอกนะว่าเพราะอะไร

หนังเอ็กซ์
Photo by cottonbro from Pexels

เซ็กส์หมู่ดูไม่ดี

ช็อตเอ็กซ์ในอุดมคติของหนุ่มๆ ที่สาวทั้งหลายส่ายหน้าคือการมีเซ็กส์หมู่ ไม่ว่าจะเป็นชายหนึ่งหญิงตรึมหรือหญิงหนึ่งชายสอง (ขึ้นไป) แม้จะอยากลองดูสักครั้ง แต่พูดเลยว่าไม่มีสาวไหนชอบหรอก ลองคิดง่ายๆ ว่าใครอยากจะแชร์ผู้ชายข้างกายให้คนอื่นเชยชม และถ้าคุณเองอยากแชร์สาวข้างกายเมื่อไหร่ มาดามว่าคุณค่อนข้างไม่ปกตินะจ๊ะ

ฉะนั้นถ้ารักกันจริงและอยากให้แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย ก่อนจะงัดช็อตเด็ดในหนังเอ็กซ์มาใช้ อย่าลืมสอบถามความสมัครใจเธอสักนิด ถ้าเธอเซย์โนว ขอเถอะว่าอย่าบังคับขืนใจ ของแบบนี้ไม่เต็มใจจะไม่เต็มที่หรอกนะจะบอกให้

ยังมีเคล็ดลับเสริมความสุขบนเตียงอีกมากมาย อยากรู้กดลิ้งค์ข้างล่างได้เลย

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : www.podmeifyoucan.com, tomschreck.wordpress.com, Unsplash.com, Pexels.com

เปิดมุมมองหนุ่ม-สาวลอสแอนเจลิสต่อรองเท้าไนกี้ รุ่นคอร์เทซ ตัวเอกประจำเมือง

เป็นรองเท้าแบรนด์ดังที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ วันนี้ไนกี้ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก เขามาเปิดเผยถึงเรื่องราวและมุมมองของชาวลอสแอนเจลิสที่มีต่อรองเท้าไนกี้ รุ่นคอร์เทซว่า ในโลกนี้มีรองเท้าหลายล้านรุ่น แต่มีรองเท้าไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับสถานที่บางแห่งอยู่ทั่วโลกในสายตาของแฟนๆ รองเท้าไนกี้ รุ่นแอร์ฟอร์ซ 1 ที่มีชื่อเล่นในหมู่แฟนๆ ว่า “รองเท้าอัพทาวน์ – Uptowns” นั้น มีความเชื่อมโยงกับนครนิวยอร์ก

ในขณะที่สีเงิน “เลอ ซิลเวอร์ – Le Silver” ของรองเท้าไนกี้ แอร์แม็กซ์ รุ่นปี 1997 นั้น เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งของประเทศอิตาลี แม้ว่ารองเท้าทั้ง 2 รุ่นข้างต้นจะมีภาพลักษณ์ที่เกี่ยวพันกับบางสถานที่ในทรรศนะของแฟนๆ แต่รองเท้าของไนกี้ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งอย่างแน่นแฟ้นที่สุดนั้น กลับเป็นรองเท้าไนกี้ รุ่นคอร์เทซ ที่ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1972 ที่มีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับนครลอสแอนเจลิส

ความชื่นชอบรองเท้าตระกูลคอร์เทซในหมู่ชาวลอสแอนเจลิสนั้นเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เฉกเช่นเดียวกับความชื่นชอบในรองเท้าตระกูลแอร์ฟอร์ซ 1 ของชาวนิวยอร์ก ที่ใช้เวลาบ่มเพาะหลายปี นับจากการวางจำหน่ายรองเท้ารุ่นแอร์ฟอร์ซ 1 ครั้งแรกในปี 1982 สำหรับรองเท้าตระกูลคอร์เทซนั้น สภาพภูมิอากาศของนครลอสแอนเจลิสถือเป็นกุญแจสำคัญ คุณอัลเลออาลิ เมย์ (Aleali May) สไตลิสต์ชื่อดัง อธิบายเบื้องหลังของข้อเท็จจริงนี้ว่า “ฉันเชื่อว่าภูมิอากาศเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ส่งเสริมให้รองเท้าตระกูลนี้โด่งดังที่นครลอสแอนเจลิส ที่นี่ไม่มีหิมะหรือฤดูหนาว ชาวเมืองนี้จึงไม่กังวลเรื่องฝนที่ตกหนักหรือโคลนที่จะทำให้รองเท้าสกปรก เมื่อคุณจินตนาการถึงนครลอสแอนเจลิส คุณจะคิดถึงรองเท้าที่น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง ดูไม่ซับซ้อน และสวมใส่ได้ง่าย”

เมื่อเวลาผ่านไป รูปลักษณ์ของรองเท้าตระกูลคอร์เทซก็ค่อยๆ กลายเป็นรองเท้าที่วางขายทั่วไป หรือเป็นรองเท้าที่ทั้งสมาชิกชมรมรถยนต์หรือนักเรียนต่างก็เลือกสวมใส่กัน เพื่อสืบสานตำนานของรองเท้าตระกูลคอร์เทซในโอกาสที่ครบรอบ 45 ปีในปีนี้ ไนกี้จึงเชิญชาวลอสแอนเจลิสที่มีชื่อเสียง 3 ท่านมาร่วมแบ่งปันความทรงจำของพวกเขาที่มีต่อรองเท้าอันเป็นเสมือนเอกลักษณ์ประจำเมือง

 

(ฉายา) มิสเตอร์ การ์ตูน (Mister Cartoon) ศิลปิน

“หากคุณใส่รองเท้ารุ่นคอร์เทซมาเดินแถวย่านที่ผมอาศัยอยู่ ทุกคนแถวนั้นจะทราบทันทีเลยว่าคุณจะต้องมีอะไรอยู่ในใจแน่ๆ รองเท้ารุ่นนี้สื่อว่าคุณฟังเพลงเก่าสไตล์ของเมืองชายฝั่งภาคตะวันตก รวมถึงเพลงแนวฟั้งก์และแร็พ ยิ่งไปกว่านี้ ถ้าคุณใส่รองเท้ารุ่นนี้มาเดินแถวบ้านผม ทุกๆ คนรอบตัวก็จะคิดว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบขับรถแต่ง และเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีความคิดขบถต่อสังคมปัจจุบัน เฉกเช่นเดียวกับผมและคนอื่นๆ ในย่านนี้

“รองเท้าตระกูลคอร์เทซเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองลอสแอนเจลิสตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 เพราะรองเท้ารุ่นนี้เรียบง่าย แต่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น คนเมืองนี้ชื่นชอบปลายรองเท้าที่เป็นทรงแหลมเหมือนปลายจมูกของรองเท้าตระกูลคอร์เทซ และรองเท้ารุ่นนี้เข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนส์แบบผ้าดิบ กางเกงสีกากี หรือกางเกงที่จับจีบผ้าเป็นริ้วๆ ไม่มีรองเท้ารุ่นไหนที่สะท้อนภาพของนครลอสแอนเจลิสได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่ารองเท้าตระกูลคอร์เทซอีกแล้ว

“ความทรงจำที่ผมประทับใจที่สุดเกี่ยวกับรองเท้ารุ่นคอร์เทซเกิดขึ้นในช่วงที่ผมเป็นวัยรุ่น ผมต้องออมเงินเพื่อจะได้ไปรอซื้อรองเท้ารุ่นนี้คู่ใหม่ที่ร้านฟุตล็อกเกอร์ใกล้ๆ บ้านผมทุกๆ วันศุกร์”

 

จาเน่ โรโบลว์ (Janáe Roubleau) ดีไซเนอร์

“ฉันรู้จักรองเท้ารุ่นคอร์เทซจากพวกแก๊งเด็กเม็กซิกัน -อเมริกันที่อยู่ห่างจากบ้านฉันไปแค่ 5 ช่วงตึก พวกเขาใส่รองเท้ารุ่นนี้ตั้งแต่ฟันแท้ของพวกเขายังไม่ขึ้นเลย จากนั้นพวกเราก็จะไปซื้อรองเท้ารุ่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเราจะเลือกรุ่นที่ผลิตโดยใช้เส้นใยไนลอนผสมกับหนังกลับเท่านั้น เราจะไม่เลือกไนกี้คอร์เทซรุ่นที่ใช้หนังสัตว์แท้เป็นวัสดุเด็ดขาด! แม้ว่าหนังสัตว์จะเป็นวัสดุแรกสุดที่มนุษย์นำมาทำรองเท้าก็ตาม ในย่านที่ฉันอาศัยอยู่ รองเท้ารุ่นคอร์เทซคือสัญลักษณ์ของพลังและความจริงจัง”

 

 อเล็กซิส ควินเตโร่ (Alexis Quintero) นางแบบ

“ฉันเติบโตที่เขตฝั่งตะวันออกของเมืองลอสแอนเจลิส เมื่อใดก็ตามที่ฉันเห็นรองเท้ารุ่นคอร์เทซ ฉันมักจะคิดว่านี่แหละรองเท้าของฉัน และฉันมักจะคิดถึงบ้าน ความทรงจำเกี่ยวกับรองเท้ารุ่นนี้ที่ฉันประทับใจที่สุดคือ ช่วงที่ฉันยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม ตอนฉันขึ้นชั้นมัธยมใหม่ๆ ฉันเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยความรู้สึกกลัวและกระวนกระวาย (รวมถึงเสียใจนิดๆ ด้วย เพราะฉันต้องใส่เครื่องแบบ) ฉันเดินอยู่ในสนามของโรงเรียน และเห็นเด็กที่ดูดีกลุ่มหนึ่งใส่รองเท้ารุ่นคอร์เทซสีกรมท่าที่เข้ากับเครื่องแบบสีกรมท่าได้อย่างพอดี ตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันรู้สึกว่าพวกเขาดูดีมากเมื่อใส่รองเท้ารุ่นนี้”

 

มีข้อดีขนาดนี้ แฟนไนกี้คงอยากมีไว้ครอบครองแล้วสินะ ใครที่สนใจรองเท้าไนกี้ รุ่นคอร์เทซ เบสิก ไนลอนคอมพ์ตัน (Cortez Basic Nylon “Compton”) และรุ่นลองบีช (Cortez Basic Nylon “Long Beach”) ก็จัดไป เพราะตอนนี้วางจำหน่ายทางแอพพลิเคชั่น Nike เว็บไซต์ www.nike.com/th/th_th/ ช็อปไนกี้ทุกสาขา รวมถึงร้านคาร์นิวัลและร้านอัพเปอร์กราวด์แล้ว

 

 

 

 

 

 

ภาพ : IG@misterctoons , @peeweetrespatas , @janaeroubleau , @_alexisq 

ระทึกทั้งวงการ “พี่ฉอด”แฉเผ็ดยิ่งกว่าซ้อเจ็ด ยำเรื่องลับคนบันเทิงสนองนี้ดขาเผือก

ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียวสำหรับ “คลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์” ที่ดำเนินมาถึงซีซั่นที่ 9 และนอกจาก “คลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์ ซีซั่นที่ 9 รักครั้งหนึ่ง ที่ไม่ถึงตาย” แล้ว ในซีซั่นนี้ “พี่ฉอด – สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสร้าง และ “เอส – วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตละคร ยังเปิดโปรเจ็คท์ใหม่ “คลับฟรายเดย์ เซเลบ สตอรี่” ที่จะหยิบเบสด์ออนทรูสตอรี่เบื้องหลังวงการมายามาให้ผู้ชมได้บริหารต่อมเผือก มันซะยิ่งกว่าอ่านคอลัมน์อักษรย่อดารายังไงยังงั้น!

คลับฟรายเดย์ เซเลบ สตอรี่

แรงบันดาลใจในการทำโปรเจ็คท์ใหม่ “คลับฟรายเดย์ เซเลบ สตอรี่”

เราได้ทำงานในวงการบันเทิงมานาน และมีโอกาสได้สัมผัส รวมถึงสัมภาษณ์และพูดคุยกันในรายการ “Club Friday SHOW ก็ได้ล่วงรู้เรื่องราวความในใจหลายๆอย่างของบรรดาศิลปิน ดารา นักร้อง คนดังทั้งหลาย และมีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าความรู้สึกของการเป็นเบื้องหน้ากับเบื้องหลังบางทีมันแตกต่างกัน อย่างที่ “พี่อ้อย – นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล” พูด บางครั้งคนที่ให้ความสุขคนอื่น เวลาถึงข้างในของตัวเองแล้ว บางทีเราอาจจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้แสดงความรู้สึกออกไปจริงๆ “พี่ฉอด” เจอน้องๆเยอะมากนะคะ ที่หลายๆคนรู้สึกทุกข์ยากกับชื่อเสียงของตัวเอง หรือภาระหนักหนาที่ตัวเองต้องยอมรับสภาพอยู่ ชีวิตคนดังลำบากมากจริงๆ รักก็เสียงดัง เลิกก็เสียงดัง ร้องไห้ก็เสียงดัง เพราะทุกอย่างมันอยู่ท่ามกลางแสงไฟ สปอตไลท์ส่องหน้าอยู่ตลอดเวลา 

บางทีชีวิตมันแปลกตรงที่ว่า คนที่ไม่ได้เป็นคนดังทำอะไรก็ได้ แล้วทำยังไงก็ได้ แต่คนที่มันมีไฟส่องหน้าตลอดเวลา บางทีมันทำอะไรไม่ได้อย่างที่ใจอยากทำจริงๆ เลยเป็นที่มาว่าเราอยากจะเอาเรื่องราวเหล่านี้มาถ่ายทอดเป็นเบสด์ออนทรูสตอรี่อีกแบบนึง จึงกลายเป็น “คลับฟรายเดย์ เซเลบ สตอรี่” ซึ่งเราได้หยิบยกเรื่องราวที่เป็นจุดสำคัญในชีวิตของคนดังทั้งหลายมาคุยกัน

ตอน “ความสุข” นำแสดงโดยแดน – วรเวช ดานุวงศ์

อย่างเรื่องแรกที่ชื่อว่า “ความสุข” อันนึงที่เราค้นพบก็คือ ชีวิตคนในวงการบันเทิงเรามักจะมองเห็นว่ามันสวยงามและมีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ความสามารถ ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง มีครบทุกอย่างหมดเลย แต่เป็นเรื่องน่าแปลกจริงๆนะคะ ที่บางทีมีครบทุกอย่าง แต่สิ่งที่ขาดหายไปมันคือความสุข หลายคนมองว่าความสุขจริงๆไม่มี มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด แต่ทำไมมันเกิดขึ้นในชีวิตคนดัง

เรื่องที่ 2 “การกลับมา” มันก็เป็นอีกสภาวะของคนที่เคยอยู่ในจุดสูงสุดของวงการ บรรดาซูเปอร์สตาร์ทั้งหลาย เคยได้ไปยืนบนที่สูงสุดแล้ว แต่วันนึงก็ต้องตกลงมา แต่วันที่ตกลงมาแล้วรับไม่ได้ แล้วมันตะเกียกตะกายอยากกลับไปยืนที่จุดเดิม มันเป็นเรื่องยากลำบาก ในขณะที่มีคนใหม่ๆก้าวขึ้นมาตลอดเวลา แต่เราอยากจะตะกายกลับขึ้นไป แต่มันมีคนอื่นที่อยู่สูงกว่า แล้วตอนนี้เราจะทำยังไง

เรื่องสุดท้าย “การแย่งชิง” ความรักเป็นเรื่องปกติที่รักแล้วก็ต้องมีการแย่งชิงกัน แต่การแย่งชิงของคนในวงการบันเทิงแตกต่างจากการแย่งชิงความรักของคนธรรมดาตรงที่ว่ามันมีแสงไฟกับสปอตไลท์จับอยู่ เพราะฉะนั้นชั้นเชิงหรือสิ่งที่ต้องแสดงออกไปกับสิ่งที่อยู่ข้างในมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น 3 สถานะนี้เป็น 3 สถานการณ์ที่สำคัญต่อชีวิตคนดังจริงๆ ถึงได้หยิบขึ้นมาเป็น 3 เรื่อง 3 ตอน

งานแถลงข่าว “คลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์” และ “คลับฟรายเดย์ เซเลบ สตอรี่”

ความแตกต่างระหว่าง “คลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์” และ “คลับฟรายเดย์ เซเลบ สตอรี่”

ไม่เหมือนกันนะคะ “คลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์” เราจะนำมาจากชีวิตใครคนใดคนหนึ่งที่โทร.เข้ามาเล่าเรื่อง และเราก็มาทำเป็นเรื่องของเขา “คลับฟรายเดย์ เซเลบ สตอรี่” เป็นเรื่องราวที่เราได้นำมาจากชีวิตคนดังมากมายที่เราได้ผ่าน ได้พบได้เห็นกันมา แล้วเอามาตีความและสร้างเป็นซีรีส์ ดังนั้นในเรื่องจะมีหลายชีวิต บางทีเราดูๆไปอาจจะรู้สึกเอ๊ะๆ กันตลอดเวลา บางคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็อาจจะมีความรู้สึกหัวตั้งนิดหน่อย (หัวเราะ) ว่าฉันจะมีส่วนกับ 3 ตอนนี้บ้างหรือเปล่า นี่แหละคือความสนุกของ “คลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์” ค่ะ

สุดท้ายหวั่นใจ กลัวจะโดนฟ้องหรือไม่

ไม่เป็นไรมั้งคะ ก็สนุกตอนเดานี่แหละค่ะ

“พี่ฉอด – สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสร้าง

เปิดเรื่องเล่าปนความรู้สึก 4 คนไทย ชมนิทรรศการภาพถ่ายเฉลิมพระเกียรติ KING OF KINGS

ร่วมมือกันทำกิจกรรมทาสีผนังเหลืองกันอย่างพร้อมเพรียงทั้งเหล่าเซเลบริตี้และคนดังที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK) โดยล่าสุดสถานที่แห่งนี้ยังได้จัด นิทรรศการภาพถ่ายเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร “KING OF KINGS” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย 
คุณคิด – คณชัย เบญจรงคกุล ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK)

สำหรับนิทรรศการนี้ได้จัดแสดงภาพถ่ายจากช่างภาพรับเชิญ 16 ท่าน และภาพถ่ายขาวดำจากคลังภาพถ่ายของพิพิธภัณฑ์ เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกและความทรงจำที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผ่านผลงานภาพถ่ายที่ได้บันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลาต่างๆ อย่างพระฉายาลักษณ์และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ตลอดจนถึงพระบรมฉายาลักษณ์ที่ฉายกับพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงภาพที่บันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในรัชสมัย พระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญด้วยพระวิริยอุตสาหะ และพระปรีชาสามารถด้านต่างๆ ซึ่งนำความผาสุกมาแก่ชาวไทยตลอด 70 ปี เป็นต้น

เซเลบริตี้คนดังมาร่วมกันทาผนังสีเหลือง ซึ่งพื้นที่นี้ได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์มาติดเพื่อจัดแสดง

ภายในนิทรรศการได้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภาพพระราชประวัติ และภาพพระราชกรณียกิจ เป็นภาพเก่าสะสมขาวดำของทางพิพิธภัณฑ์ 2.ภาพจากช่างภาพรับเชิญ ซึ่งเป็นภาพพระราชกรณียกิจและภาพในพระราชพิธีอันสำคัญ และ 3.ภาพถ่ายจากช่างภาพรับเชิญ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่สะท้อนความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่านออกมาเป็นภาพถ่าย

โดยตอนนี้ได้เปิดให้เข้าชมกันแล้วจนถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งก็มีทั้งเซเลบริตี้และคนดังต่างๆ เดินทางมาร่วมชมนิทรรศการนี้กันอย่างคับคั่ง วันนี้ แพรวดอทคอม จึงได้นำบทสัมภาษณ์ของแต่ละคนนั้นมาให้ได้ชมกันว่ารู้สึกอย่างไรกันบ้าง

รชฏ วิสราญกุล

ช่างภาพมากฝีมือ หนึ่งในศิลปินที่นำภาพมาร่วมจัดแสดง ซึ่งเป็นผู้บันทึกภาพประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 ย้อนความทรงจำอันภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสบันทึกภาพประวัติศาสตร์ในครั้งนั้นว่า “นับเป็นเกียรติประวัติในชีวิต และเป็นวันที่ได้ยินเสียงของพสกนิกรที่เปล่งคำว่า ทรงพระเจริญ จนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ รวมทั้งยังก้องอยู่ในใจผมอย่างไม่มีวันลืม และคงเป็นความทรงจำที่จะจดจำไปตราบนานเท่านาน”

นอกจากนี้ตนยังได้นำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิตประจำวันมาโดยตลอด “โดยเฉพาะการรู้จักประมาณตน  ความพอเพียงของฐานะและกำลังที่เรามีอยู่ รวมทั้งการปิดทองหลังพระ ซึ่งบางครั้งคนเราทำความดีอะไรก็ไม่จำเป็นต้องไปประกาศให้ใครรู้” ช่างภาพชั้นครูกล่าวถึงหลักคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งตนน้อมนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิต

เจย์ สเปนเซอร์

หนุ่มหล่อหัวใจไทยเผยความรู้สึกว่า “มีความสุขมากที่ได้ชมนิทรรศการซึ่งได้รวบรวมภาพที่หาชมได้ยาก ซึ่งผมก็เคยเห็นเพียงบางภาพ แต่พอได้เห็นภาพทั้งหมดที่นำมาจัดแสดงรวมกัน ก็เหมือนเป็นการร้อยเรียงเรื่องราวที่สร้างความประทับใจมากทีเดียว รวมทั้งมีภาพที่ชอบหลายภาพมาก ซึ่งล้วนเป็นภาพประวัติศาสตร์ ประทับใจที่สุดคือ พระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช และพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และผมก็มีลูกด้วย ตั้งใจจะสอนให้เขาเป็นคนดีของสังคม และน้อมนำแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นแบบอย่างในเรื่องของความพอดีและพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตด้วยครับ”

เนตรดาว วัฒนะสิมากร

ดีไซเนอร์สาวกล่าวถึงความประทับใจที่ได้มาร่วมชมนิทรรศการว่า “บางภาพไม่เคยเห็นมาก่อนเลย รู้สึกว่าโชคดีที่ได้เห็นพระจริยวัตรต่างๆ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งประทับใจหลายภาพมาก แต่ชอบที่สุดจะเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงฉายพระรูปคู่กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ครั้งยังทรงพระเยาว์ รวมถึงภาพพระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านเสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยือนพสกนิกรในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากทำความดีถวายพระองค์ท่าน โดยตั้งใจจะทำความดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และพร้อมแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือคนอื่นที่ลำบากกว่าเรา สิ่งไหนที่เราช่วยได้หรือมีกำลังพอช่วยได้ ก็จะพยายามทำ ตามพระราชประสงค์ของพระองค์ท่านที่ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างแก่คนไทยมาโดยตลอด รวมทั้งตั้งใจจะสอนสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่ตนน้อมนำแนวคิดมาจากพระองค์ท่าน ส่งต่อให้ลูกได้นำไปปฏิบัติตามเมื่อเขาโตขึ้น เพื่อเป็นการระลึกถึงสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทรงทำเพื่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดพระชนม์ชีพด้วย”

โสภิตนภา ชุ่มภาณี

เซเลบริตี้คนดังในแวดวงสังคมที่นอกจากมาร่วมชมนิทรรศการครั้งนี้แล้ว ก่อนหน้านี้เธอยังได้ร่วมกิจกรรมทาสีผนังเหลืองอีกด้วย พร้อมเผยความประทับใจว่า “ดีใจที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดโครงการดีๆ แบบนี้ เพื่อให้คนไทยได้ระลึกถึงพระองค์ท่าน โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มาร่วมทาสีผนังเหลือง ซึ่งตัวเองมองว่าเราก็เป็นเพียงจุดเล็กๆ ในสังคมไทย แต่ถ้าเราร่วมแรงร่วมใจกัน เหมือนการทาสีที่เราลงแปรงไปที่ผนัง 1 ครั้ง ก็เปรียบเหมือนการทำความดี 1 ครั้ง เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนสามารถทำดีได้ 1 ครั้ง เหมือนการทาสี และทุกคนทำอย่างเท่าเทียมกัน เชื่อว่าประเทศไทยจะมีความสงบสุขและมีความสุขกันทุกคน”

โสภิตนภากล่าวถึงความประทับใจที่ได้ร่วมชมนิทรรศการครั้งนี้ว่า “ทุกครั้งที่มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 จะตามไปชมแทบทุกนิทรรศการ และทุกครั้งที่ได้ชมก็จะประทับใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และมีความสุขเหมือนพระองค์ท่านทรงอยู่ใกล้ๆ พวกเราคนไทยเสมอ รวมทั้งน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในหลายด้านของชีวิต ทั้งการทำงาน การเลี้ยงลูก การดำเนินชีวิต ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระองค์ท่านพระราชทานข้อคิดมากมายแก่พสกนิกร ซึ่งตัวเองนำมาปฏิบัติตาม และได้เล่าเรื่องราวความพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ลูกฟังว่า อย่างหลอดยาสีพระทนต์ที่พระองค์ทรงใช้ด้ามแปรงรีดจนยาสีพระทนต์หมดจนถึงเกลียวคอหลอด จนวันหนึ่งลูกชายวิ่งเอาหลอดยาสีฟันมาให้ดูว่าใช้จนหมด และรีดจนแบนแบบที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นแบบอย่าง ซึ่งเป็นคำสอนที่นำมาปฏิบัติตามได้ง่ายและใช้ได้จริง แล้วก็ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ทุกคน”

เซเลบริตี้คนดังคนอื่นๆ ที่มาร่วมชมนิทรรศการ

สุรภาพ ลิ่มอติบูลย์ และธีราภา พร้อมพันธุ์
อัครรัฐ วรรณรัตน์ และมนตร์ลดา พงษ์พานิช
พลโทหญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ และพาสินี ลิ่มอติบูลย์
วรรณา เบญจรงคกุล, สุริยน ศรีอรทัยกุล และศุภรัตน์ เบญจรงคกุล
รวงวัชรี – ฤดีอำไพ – รวีพร และรัสวดี ควรทรงธรรม
จรินทร์ สุมานนท์

สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าชมนิทรรศการนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 29 ตุลาคมนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (Moca Bangkok) ถนนกำแพงเพชร 6 โดยจะเปิดให้เข้าชมวันอังคาร – วันศุกร์ เวลา 10.00 น. – 17.00 น. และวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. – 18.00 น. (หยุดวันจันทร์)

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและภาพ: นิทรรศการภาพถ่ายเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร “KING OF KINGS”

จากกันด้วยน้ำตา “อีพริ้ง” ร่ำไห้ ฝืนใจลบภาพนางเอก 7 สี ผันตัวรับงานอิสระเพราะธุรกิจ

ดูเหมือนว่าช่อง 7 สียังเผชิญกับปัญหาสมองไหลอย่างต่อเนื่อง เมื่อนักแสดงใต้สังกัดหลายคนพาเหรดไม่ต่อสัญญา อาทิ “นุ่น – วรนุช ภิรมย์ภักดี”, “ใหม่ – ดาวิกา โฮร์เน่”, “เชียร์ – ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์”, “ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ฯลฯ และล่าสุด จั๊กจั่น – อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” นางเอกที่เพิ่งมีผลงานเรื่อง “พริ้ง คนเริงเมือง” ลาจอไปสดๆร้อนๆ

ท่ามกลางกระแสข่าวลือถาโถม เนื่องจากเดิมที่สัญญาจะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม แต่จู่ๆสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้ร่อนจดหมายสิ้นสุดสัญญาก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา “จั๊กจั่น” ได้แถลงข่าวในรายการสนามข่าว 7 สีเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเธอได้อธิบายว่าการตัดสินใจก้าวออกจากชายคา 7 สีเนื่องจากเหตุผลทางธุรกิจ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการผิดใจกัน รวมถึงสัญญาจะพิจารณางานของช่อง 7 เป็นที่แรกเสมอ

“จั๊กจั่น – อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ยืนยันจบสวยลา 7 สี


ใบหน้าที่เป็นโลโก้ช่อง 7 ทำให้เวลาไปโผล่ช่องอื่นยากและกระทบงานธุรกิจส่วนตัว
“เรื่องไม่ต่อสัญญาอย่างที่ทราบกัน วันนี้เลยมาเปิดใจทุกข้อสงสัย เพราะต้องบอกก่อนเลยว่าตอนที่ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นมันมีกระแสเข้ามาจากทางอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก รวมถึงพี่ๆนักข่าวที่โทร.เข้ามา คือมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างที่บอก เลยอยากจะมาพูดทีเดียวพร้อมกัน ไม่อยากสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์หลายๆที
“ต้องขอบคุณคนที่เป็นห่วง แต่จริงๆแล้วไม่มีอะไร ด้วยความที่ ‘จั๊กจั่น’ ทำงานในช่อง 7 มาประมาณ 9 – 10 ปี อย่างที่บอกว่านักแสดงก็มีอาชีพที่ควบคู่กับงานแสดง เพราะงานแสดงเป็นอาชีพที่ไม่ได้มั่นคง ก็เลยมาจับธุรกิจสตาร์ทอัพ จริงๆเราทำมาประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ เพียงแต่ว่ามันมาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น อย่างหนึ่งอาจจะเพราะเรามีชื่อเสียงมากขึ้น ธุรกิจสตาร์ทอัพคือธุรกิจที่ช่วยวางแผนการตลาดโปรโมตสินค้า เอาง่ายๆก็คือขายของ ช่วยทำการตลาดให้เขา ด้วยความที่ตอนนี้เรามีสื่อหลายช่องทาง เราก็ต้องไปออกเพื่อพรีเซ้นต์สินค้าที่เรารับมาทางช่องต่างๆ เราก็รู้สึกเกรงใจ ถ้าหน้าเราที่เป็นโลโก้ของนักแสดง 7 สีไปโผล่ช่องอื่น บางทีช่องอื่นเองเขาก็ไม่สะดวกใจที่จะให้ไปโปรโมตสินค้าขายของ ซึ่งตอนตัดสินใจ ยอมรับว่าใจหวิวเหมือนกัน อย่างที่บอก อยู่ช่อง 7 มาประมาณเกือบ 10 ปีแล้ว เรียกได้ว่า (ตาแดง) ไม่อยากร้องไห้เลย ก็คืออยู่ในวงการเท่าๆอายุงานในวงการ คือเราก็เติบโตกับช่อง 7 มาโดยตลอด ก็เข้าวงการมา 10 ปี อยู่ช่อง 7 มา 10 ปี ก็มากกว่าครึ่งนึงของชีวิตในวงการ ‘จั่น’ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะไม่ได้เซ็นสัญญาต่อหรืออะไร เพียงแต่ว่าเหตุผลทางธุรกิจ เหมือนว่าเราไปโปรโมตช่องไหนก็ค่อนข้างที่จะลำบากและติดขัด เพราะภาพเราเป็นนางเอกช่อง 7 ค่อนข้างที่จะชัดเจน เขาก็ไม่สะดวกใจที่จะให้เราไปโปรโมต

นางเอกสาวร่ำไห้

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การเป็นนักแสดงภายใต้สังกัดช่อง 7 สีคือความภาคภูมิใจที่สุด
“สำหรับเรื่องที่มีจดหมายชี้แจงการหมดสัญญาออกมานั้น ‘จั่น’ ไม่ได้มีความโกรธเคืองเลยค่ะ หลายๆคนอาจจะตกใจกับการที่มีหมายประกาศมา จริงๆต้องขอบคุณช่องด้วยซ้ำที่ออกจดหมายมาอย่างนี้ ทำให้คนทั่วไปได้รู้ว่าเราเป็นนักแสดงอิสระแล้ว การที่เราจะติดต่อเอาสินค้าเราไปโฆษณาช่องไหน เขาก็สะดวกใจมากขึ้น
ตลอด 10 ปีที่อยู่กับช่องมา ทุกคนให้การดูแลเป็นอย่างดี รวมถึงพี่ๆนักข่าวและตากล้องของช่อง 7 บางคนก็โตขึ้นมาด้วยกันกับเรา (ร้องไห้) บางคนจากอยู่หลังกล้องก็ได้มาหน้ากล้อง พี่บางคนจากที่เป็นตัวเล็กๆ ตอนนี้ก็ขึ้นมาเป็นหัวหน้า ด้วยความที่ช่อง 7 เราทำงานเหมือนเป็นครอบครัว เวลาเราทำงานมีปัญหาติดขัดอะไร ‘จั่น’ ก็ไปคุยกับ ‘อาหน่อง – พลากร สมสุวรรณ’ ผู้ใหญ่ได้ทุกคน ก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่ได้รู้สึกว่าพี่ๆนักข่าวที่มาทำงาน มาขอสัมภาษณ์เรา แต่เรารู้สึกว่าเขามาเพื่อช่วยส่งต่อยอดละครของเรา ไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นนักแสดง เขาเป็นนักข่าว ก็เลยค่อนข้างที่จะสนิทกับทุกๆคน ก็เลยค่อนข้างที่จะมีความผูกพัน จนเรียกได้ว่าช่อง 7 เป็นครอบครัวของ ‘จั่น’ พูดจริงๆตอนนี้ ‘จั่น’ ก็เสียดายที่ไม่ได้เป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 สีแล้ว แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ชีวิตเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป เราก็ต้องหาอาชีพที่มันจะรองรับงานในอนาคต เพราะงานแสดงไม่ได้มีทุกวัน ต้องบอกว่าตลอดเวลา 10 ปีที่อยู่ช่อง 7 มา ไม่เคยเลยว่าจะไม่ภูมิใจที่เป็นนักแสดงช่อง 7 เวลาไปงานไหนที่เขาว่า ‘จั๊กจั่น’ จากช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ ก็จะดีใจตลอด

“จั๊กจั่น – อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” เปิดใจในรายการสนามข่าว 7

สัญญาจะพิจารณางานของช่อง 7 เป็นที่แรกเสมอ
“หลังจากนี้ ‘จั่น’ ก็ไม่ได้ทิ้งงานแสดงนะคะ เพราะ ‘จั่น’ ก็ยังรับงานแสดงเป็นหลักอยู่ เพราะรู้สึกว่าอาชีพนักแสดงของเรามันจะไปต่อยอดทางธุรกิจอีกต่อนึง เราจำเป็นต้องทำอาชีพนี้ และรักในอาชีพนี้ เรามีความสุขที่เล่นละคร และไปไหนคนด่าบ้างอะไรบ้าง จำชื่อตัวละครที่เราเล่นได้ สุดท้ายต้องขอบคุณแฟนๆละครค่ะ คนที่เข้าใจก็มีเยอะ ส่วนคนที่เสียดายก็จะเป็นแฟนคลับของช่อง 7 จริงๆ ‘จั่น’ ก็ไม่ได้อยากที่จะไม่เซ็นสัญญา แต่อย่างที่บอก คนเราอายุขั้นนึงปุ๊บ เราก็ต้องคิดถึงเหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าว่าเราจะวางแผนทำอะไรต่อไป ‘จั่น’ ไม่ได้โกรธอะไรกับช่อง 7 เพราะถ้าไม่อย่างนั้นวันนี้ก็คงไม่มานั่งออกในรายการ เลยอยากบอกทุกคนว่าให้สบายใจได้ ‘จั่น’ ก็บอกช่องไว้ว่า ถ้าช่องมีโอกาส อยากจะเรียกใช้ ‘จั่น’ ก็ยินดีที่จะกลับมา และจะพิจารณาช่อง 7 เป็นที่แรกก่อนเสมอ และขอบคุณค่ายอื่นด้วยนะคะ ที่พอรู้ว่าเราเป็นอิสระแล้วก็ติดต่อ มีเสนอบทเข้ามาให้เลือก”

โครงการ Talent Thai & Designers’ Room2017 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเปิดตัว 66 แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ผลักดันดีไซน์เนอร์ไทยสู่สากล

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสํานักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เปิดตัว 66 แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น จากโครงการ Talent Thai & Designers’ Room 2017ด้วยแนวคิด CREATIVITYBEYONDBORDERS ฉีกกฎการสร้างสรรค์ที่จะนำไปสู่ความโดดเด่นและเป็นตัวของตัวเอง ของสินค้าแบรนด์ไทยในตลาดโลกพร้อมจับมือพันธมิตรสำคัญ อย่างกลุ่มธุรกิจ International Fashion Brand Retail บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัดร่วมต่อยอดโอกาสครั้งสำคัญ พัฒนาศักยภาพนักออกแบบไทยในอนาคต เมื่อเร็วๆนี้ ณ สยามดิสคัฟเวอรี่

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.designers360.net/และ facebook : Talent Thai & Designers’ Room สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:พรพรรณ (แก้ว) โทร086-551-3403, พัณณ์ชิตา (ตาล) โทร 083-367-7537

 

ดูดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  อย่าไว้ใจคนใกล้ตัวหรือเพื่อนร่วมงาน เพราะเขากำลังเป็นหนอนบ่อนไส้ แอบเลื่อยขาเก้าอี้ท่านอยู่เงียบๆ

การเงิน :  ระวังเงินสูญหาย ถูกขโมย หรือถูกหลอกจากญาติพี่น้อง

ความรัก : วันนี้ให้ระวังจะมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ พยายามรักษาตัวรักษาใจให้ผ่านวันนี้ไปให้ได้ คนโสด อย่าทุ่มใจให้ใคร เพราะวันนี้ท่านมีแววบาดเจ็บหนัก

สุขภาพ :  ระวังเกิดบาดแผลจากของมีคม หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  วันนี้ท่านยังคงสมาธิสั้น ทำอะไรนิ่งๆ ได้ไม่นาน อยู่ไม่ติดที่ ต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจโน่นนี่อยู่ตลอดเวลา ควรให้ความสำคัญกับการปกครองบริวาร อย่าใจดีหรือให้ความสนิทสนมมาก

การเงิน : มีเงินทองเข้ามาไม่ขาดมือ แต่ก็ออกตลอดเวลาเช่นกัน จนต้องเดือดร้อนพ่อแม่บ่อยๆ

ความรัก : อยู่กันมานาน ความสุขมีโอกาสจางหายได้ วันนี้วันศุกร์วางโปรแกรมไปเที่ยวกันดีกว่า จะช่วยยืดอายุชีวิตคู่ได้ คนโสด เลือกมาก ตัดสินใจยาก

สุขภาพ : เลือดลมหมุนเวียนไม่สะดวก หน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  ท่านมีความคิดเป็นตัวของตัวเอง แล้วพยายามเดินไปให้ถึงจุดหมาย จนอาจมีปัญหากับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานในรูปแบบ วิธีการทำงาน และทัศนคติที่ไม่ตรงกัน หากเลือกได้ควรทำธุรกิจส่วนตัวดีกว่า

การเงิน :  ผันผวนไม่แน่นอน ระวังอย่าลงทุนแบบใจใหญ่จะทำให้มีหนี้สินได้

ความรัก :  วันนี้สำหรับผู้หญิงวิญญาณนักสิทธิสตรีเข้าสิง ท่านจะเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกัน หากเธอทำได้ ฉันก็ต้องทำได้ คนโสด เพื่อนมาแรง หรือรู้จักกันในที่ทำงาน หรือหากไปอบรมสัมนาก็ดูข้างๆ บ้างนะคะ

สุขภาพ : ควรเน้นดูแลสุขภาพจิต มีโอกาสเป็นโรคเครียด หรือไมเกรน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  วันนี้อยากทำอะไรให้รีบทำค่ะ เพราะท่านดวงดี จะประสบความสำเร็จ

การเงิน   :  จับจ่ายใช้สอยอย่างมีความสุข มีคนให้การอุปถัมภ์

ความรัก : ชีวิตคู่ราบรื่น คู่ให้ความเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คนโสด มีคนเข้ามามากมาย ล้วนรักจริงหวังแต่งทั้งนั้น

สุขภาพ : พยายามทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แม้ไม่ชอบก็ต้องฝืน เพราะท่านกำลังขาดสารอาหารหรือวิตามินบางตัว

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : วันนี้ท่านขี้เบื่อ จึงเหมาะกับการทำงานของตัวเอง หรือเป็นเจ้าของโปรเจ๊คท์ ยิ่งเป็นพวกที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน อสังหาริมทรัพย์ หรืองานที่ติดดิน ติดน้ำ ท่านจะทำได้ดี

การเงิน :  ต้องได้เหงื่อจึงจะได้เงินค่ะ เพราะฉะนั้นท่านจะไม่อด

ความรัก : วันนี้ท่านคิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวร่วมกัน คนโสด คู่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการช่วยกันทำมาหากินก่อน จึงจะผ่าน

สุขภาพ :  ระวังโรคที่เกี่ยวกับระบบต่อมน้ำเหลือง ควรตรวจเช็คสุขภาพทุกปี

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ท่านก้าวขึ้นมาสู่การพัฒนาด้านวุฒิภาวะ เป็นช่วงเวลาแห่งการศึกษาเรียนรู้ ท่านอยากมีเวลาอยู่คนเดียว ค้นหาและทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เพื่อนำมาเป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่

การเงิน : ไม่ค่อยมีโชคลาภ ยกเว้นลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร

ความรัก :  วันนี้ท่านวางกฏเกณฑ์ ข้อแม้ ให้กับชีวิตคู่มากไปหรือเปล่า เหมือนกับอยู่ด้วยกันเพียงเพราะความจำเป็นทางสังคมมากกว่าความรัก คนโสด อาจได้พบรักกับชาวต่างชาตินะจ๊ะ

สุขภาพ  : ระวังระบบหมุนเวียนเลือดไม่ปกติ ระวังโรคเหน็บชา และความดัน

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : มุ่งมั่น ครุ่นคิดอยู่กับการทำงานมาก จนไม่ได้สนใจดูแลจิตใจของคนรอบข้างเลย

การเงิน : ช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน แต่โชคดีที่มีผู้ใหญ่หรือเพื่อนให้ความช่วยเหลือ

ความรัก : ท่านกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่า จะอยู่เป็นโสดดี หรือจะไปต่อ อาจเพราะท่านอึดอัดกับชีวิตคู่มานาน คนโสด ชอบที่จะมีคนรักมากมาย เพราะฉะนั้นควรอยู่เป็นโสดดีกว่า

สุขภาพ : ระวังเรื่องระบบย่อยอาหาร โรคกระเพาะ และลำไส้ ปวดเสียดท้อง

 

“เมลาเนีย ทรัมป์” กับ 5 ลุคเด่นจาก Dolce & Gabbana แบรนด์หรูที่บอยคอตเธอไม่ลง

ตั้งแต่มีเรื่องมีราวว่าหลายแบรนด์ดังร่วมกันคว่ำบาตรสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ (Melania Trump) การแต่งตัวของเธอก็ถูกจับตามองมากขึ้นไปอีก สื่อก็คอยสังเกตว่าเธอจะมาในชุดของแบรนด์อะไร เมื่อต้องออกงาน แต่ที่เห็นกันบ่อยมากและเป็นลุคที่โดดเด่นนั้น มาจากแบรนด์ที่ยืนหยัดอยู่เคียงข้างสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง รวมทั้งยังเป็นแบรนด์ดังที่มีประเด็นร้อนกับนักร้องสุดซ่า ไมลีย์ ไซรัส เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง พูดมาขนาดนี้ก็คงไม่ใช่แบรนด์ไหนแล้วแหละ นอกจากแบรนด์ดังของอิตาลีอย่าง Dolce & Gabbana

วันนี้แพรวได้คัดลุคเด่นๆ มาให้สาวๆ ดูกันว่า D&G จะพาเมลาเนีย ทรัมป์ รอดทุกลุคหรือเปล่า

 

 

ลุคแรกกับแจ็กเก็ตที่ใส่ไปเยือนอิตาลี ถือว่ามีกระแสแรงเลยทีเดียว เพราะด้วยราคาของเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้เหยียบสองล้านบาท ทำให้สื่อดังมีเรื่องให้พูดเหน็บเธอและสามีจนได้


 

 

เป็นงานดอกไม้ทั้งสวนตามสไตล์ D&G เมื่อสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเลือกเดรสลายดอกไม้สีสันสดใส เดินชมเมืองตาโอร์มินา ในอิตาลี ก็ทำให้เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณดูมีสีสันขึ้นได้


 

 

ออกงาน New Year’s Eve Party คู่สามีทั้งที เธอจัดเดรสสีคลาสสิกอย่างสีดำเข้าร่วมปาร์ตี้ในค่ำคืนแห่งการรอคอยเข้าสู่ปีใหม่ เดรสดำตัวนี้มีดีไซน์ตรงสายที่แต่งด้วยโบสีดำ ประดับคริสตัลโชว์แสงระยิบเล็กๆ เพื่อไม่ให้ชุดดูเรียบและธรรมดาจนเกินไป 


 

 

ขึ้นพูดต่อหน้าผู้คนนับร้อย ความมั่นใจและความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่เมลาเนีย ทรัมป์ ไม่เคยละเลยคือลุคและภาพลักษณ์ของเธอ เพราะจะได้เห็นว่าเดรสที่เธอเลือกมาใส่ในวันนี้มีความเป็นทางการ แต่ในขณะเดียวกันก็มีลูกเล่น เป็นคริสตัลปักบริเวณด้านบนของชุด เพื่อเติมความสนุกสนานที่ยังคงบ่งบอกความเป็นตัวเองอยู่


 

 

ปิดท้ายด้วยเดรสสีเทาวิ้งวาวที่ดูเด่นตามาแต่ไกล เพราะความละเอียดของเนื้อผ้าทำให้เดรสส่องประกายออกมาในจังหวะที่พอดี รองเท้าที่เลือกสวมก็เป็นสีเทาที่มีความระยิบระยับเช่นกัน ทำให้ลุคนี้ไปในทางเดียวกัน แต่ไม่น่าเบื่อด้วยดีไซน์ของชุดที่น่ามอง


 

ต่อให้แบรนด์อื่นๆ จะพากันบอยคอต แต่ก็ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่พร้อมจะอยู่กับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนนี้ อย่าง D&G ที่ได้เลือกแล้วว่าจะสนับสนุนเมลาเนีย ด้วยเหตุผลนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะเลือกใส่แบรนด์ Dolce & Gabbana ในงานสำคัญๆ ที่เธอต้องเจอและออกไปปฏิบัติหน้าที่

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ : IG@melaniatrumpfashion , @dolcegabbana , @melaniatrumpworld

 

keyboard_arrow_up