account_circleเปิดฉากการบินไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเส้นทาง เที่ยวญี่ปุ่น สุดฟิน บินตรงง่ายๆ จากเชียงใหม่สู่โอซาก้า ที่สายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการมีไฟลท์บินตรงจากเชียงใหม่ ประเทศไทย สู่ประเทศญี่ปุ่น แถมเส้นทางบินนี้ยังถือเป็นเส้นทางบินตรงที่ไกลที่สุดจากท่าอากาศยานเชียงใหม่อีกด้วย
ทริป เที่ยวญี่ปุ่น ที่บินตรงง่ายๆ จากเชียงใหม่สู่โอซาก้า จะฟินขนาดไหน แพรว มีรีวิวมาฝากกันค่ะ
หลังจากจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม รวมถึงวางแผนทริป เที่ยวญี่ปุ่น สุดฟินกันเรียบร้อยแล้ว เราก็รีบจัดแจงลงทะเบียน Visit Japan Web ผ่านทางเว็บไซต์ www.vjw.digital.go.jp เพื่อให้สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาตรงด่าน ตม. ที่นู่น พอลงทะเบียน Visit Japan Web เสร็จ รอไม่นานก็จะได้รับการอนุมัติ หลังจากนั้นก็เก็บกระเป๋าเตรียมโกทูเจแปนกันได้เลย
สตาร์ททริปกันที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อเช็คอินเที่ยวบิน VZ822 ของสายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” ที่ออกเดินทางในเวลา 23.00 น. สู่สนามบินคันไซ ซึ่งเขาใช้เครื่องบินแบบ Airbus A321 ขอบอกเลยดีงามสมราคา ที่นั่งกว้างขวาง สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ เขามีเต้าเสียบให้ทั้งแบบปลั๊กไฟและ USB ส่วนใครที่หิวดึกๆ ก็มีบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มครบครัน พออิ่มแล้วก็ตีตั๋วนอนยาวสบายๆ
เมื่อถึงเวลาราวๆ 6 โมงเช้า ตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น เราก็เดินทางมาถึงสนามบินคันไซ ซึ่งข้อดีของการมาถึงแต่เช้าตรู่ คือคนน้อยมากๆ ไม่พลุกพล่าน ผ่านด่าน ตม. ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีเวลาเหลือเฟือสำหรับอาบน้ำและกินมื้อเช้าง่ายๆ
หลังจากเสร็จภารกิจที่สนามบิน ก็มุ่งหน้าสู่มหานครโอซาก้า โดยทริปนี้เราเลือกเดินทางด้วยบัตร Kansai Thru Pass ที่สามารถใช้เดินทางในภูมิภาคคันไซได้ทั้งรถไฟ รถไฟใต้ดิน และรถบัส (ยกเว้นรถไฟ JR) แบบไม่จำกัดรอบ เรียกว่าจะขึ้นผิดขึ้นถูกกี่รอบก็ได้ รวมถึงสามารถใช้นั่งรถไฟสาย Nankai ไปกลับสนามบินคันไซกับย่านนัมบะได้เลย เพราะทริปนี้เราพักกันที่โรงแรม Namba Oriental Hotel ซึ่งอยู่ใจกลางย่านนัมบะ และอยู่ใกล้ย่านโดทงโบริเพียงนิดเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่สายช้อป ชิม ชิล จะต้องชอบมากๆ แถมจองง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ www.skyfun.travel/th ได้เลย
หลังจากฝากกระเป๋าที่โรงแรม และกินมื้อกลางวันเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไปเช็คอินแลนด์มาร์กอย่างปราสาทโอซาก้า เดินเที่ยวเล่นชมปราสาท ถ่ายรูปชิคๆ พร้อมกินไอติมเย็นๆ ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ให้ฟินหนำใจ
หลังจากนั้นไปช้อปปิ้งกรุบๆ กันที่ห้าง Yodobashi – Umeda ซึ่งถือเป็นดินแดนสวรรค์ของคนรักเกมส์ กล้อง คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงยังมีโมเดล กาชาปอง เสื้อผ้า รองเท้า และข้าวของกระจุกกระจิกให้ช้อปกันอีกด้วย
ตกเย็นเราเดินทางกลับไปที่ย่านโดทงโบริ เพื่อเช็คอินอีกหนึ่งแลนด์มาร์กห้ามพลาดอย่างป้ายกูลิโกะ พร้อมกับหามื้อค่ำกินกัน แล้วเดินช้อปปิ้งกันต่อที่ย่านชินไซบาชิก่อนกลับเข้าโรงแรม
วันต่อมาเราเดินทางไปเที่ยวกันที่อีกหนึ่งเมืองห้ามพลาด! แห่งภูมิภาคคันไซ นั่นคือเกียวโต เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของศิลปะและวัฒนธรรมสุดคลาสสิก
พิกัดแรกเราเช็คอินกันที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ หรือที่คนไทยมักเรียกว่า ศาลเจ้าจิ้งจอก โดยหลังจากไหว้ขอพรแล้ว เราก็ไม่พลาดถ่ายรูปกับเสาโทริอิสีแดงนับพันต้นที่ตั้งเรียงรายอย่างสวยงามเป็นที่ระลึกด้วย
พิกัดต่อมาเรามุ่งหน้าไปยังวัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Sites) พร้อมทำกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่ นั่นคือการแต่งชุดกิโมโนเดินเที่ยวเล่น ปลอมตัวเป็นสาวญี่ปุ่นสุดคาวาอี้
เราใช้เวลาที่วัดน้ำใสอยู่ประมาณหนึ่งเลย เพราะอากาศดี ทำให้ถ่ายรูปเล่นจนเพลิน ก่อนจะเดินทางกลับโอซาก้าในช่วงเย็น เพื่อกินมื้อค่ำกันที่ย่านโดทงโบริ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับโรงแรม
สำหรับวันกลับเมืองไทยนั้น เราเดินทางด้วยเที่ยวบิน VZ823 ของสายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นไฟลท์เช้าตรู่ที่ออกเดินทางในเวลา 8.30 น. แล้วถึงสนามบินเชียงใหม่ในเวลา 13.05 น. ตามเวลาประเทศไทย
แม้จะเป็นไฟลท์กลับที่เช้ามากๆ แต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไปสนามบินเลย เพราะเราพักที่ย่านนัมบะ จึงสามารถนั่งรถไฟสาย Nankai รอบแรกตอน 05.15 น. ไปถึงสนามบินคันไซได้ง่ายๆ ซึ่งรถไฟเที่ยวแรกถึงสนามบินตอน 05.58 น. ตามตารางแบบเป๊ะๆ ทำให้มีเวลาเช็คอินและผ่านด่าน ตม. ก่อนขึ้นเครื่องแบบชิลๆ จากนั้นก็ขึ้นไปกินมื้อสายบนเครื่อง แล้วนอนพักเอาแรงอีกสักหน่อย ช่วงบ่ายโมงตามเวลาประเทศไทย ก็ถึงสนามบินเชียงใหม่พอดี จบทริปเชียงใหม่ – โอซาก้า แบบแฮ็ปปี้ดีต่อใจสุดๆ
FYI สำหรับสายเที่ยวที่อยากบินตรงง่ายๆ เชียงใหม่ – โอซาก้า แบบนี้บ้าง “ไทยเวียตเจ็ท” เขามีบริการขาไป 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ได้แก่ วันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ส่วนขากลับก็มีบริการ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์เช่นเดียวกัน ได้แก่ วันพุธ วันศุกร์และวันอาทิตย์ รวมถึงหากใครต้องการเชื่อมต่อไฟลท์จากสนามบินสุวรรณภูมิสู่สนามบินเชียงใหม่ เขาก็มีให้เลือกหลากหลายเที่ยวบินเลยค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ