บอลติก

หลงเสน่ห์ชนบทยุโรป 9แลนด์มาร์คแห่งบอลติก ดินแดนสุดฟินที่ชีวิตนี้ต้องไป

บอลติก
บอลติก

เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแถบยุโรปแน่นอนว่าทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยหิมะที่มาพร้อมกับความหนาวเย็นระดับติดลบทั่วทั้งทวีป  แต่นี่ก็เป็นอีกบรรยากาศที่มีมนต์เสน่ห์จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างถิ่นอยากไปเยือน  

บอลติก

12 ชั่วโมงกับการเดินทางไปอีกซีกโลกอาจจะเหมือนไกล แต่เผลอแป๊ปเดียวความงดงามที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง การเดินทางครั้งนี้ไม่มีภาพในจินตนาการว่าจะเจอกับอะไรบ้าง เพราะทุกอย่างคือความสดใหม่ และยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวคนไทยไปกันมากนัก โดยเฉพาะในดินแดนยุโรปแถบบอลติก กับ 3 ประเทศที่จะพาไปเปิดความอันซีนในวิถีชีวิตของคนชนบท

บอลติก
กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์

เริ่มต้นทริปนี้มุ่งหน้าไปยังกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ที่นี่คือเป้าหมายแรกเพื่อต่อเครื่องบินอีก 1 ชั่วโมง มุ่งสู่ไข่มุกแห่งยุโรปอย่างเมืองริกา ประเทศลัตเวีย โดยในเขตเมืองเก่าของริกาเป็นเมืองประวัติศาสตร์มีสถาปัตยกรรมยุโรปอันเก่าแก่สไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วย ใครที่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์มาที่นี่ไม่ผิดหวัง เพราะคุณจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งในโลก

บอลติก
The House of Blackheads แลนด์มาร์คที่เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองเก่าริกา
บอลติก
อนุสาวรีย์แห่งอิสรภาพ (Freedom Monument) อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนการเรียกร้องอิสรภาพของลัตเวียจากสหภาพโซเวียต .

ความสวยงามของประเทศลัตเวียไม่ได้มีแต่แค่ในเมืองหลวงอย่างริกาเท่านั้น เดินทางออกมายังเมือง Bauska ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ใจกลางหุบเขาที่สวยงามอย่างคฤหาสน์ Mazmezotne สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 

บอลติก
คฤหาสน์ Mazmezotne

ที่นี่ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่ให้กลายเป็นโรงแรม และยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของการทำโรงงานน้ำตาล ตัวอาคารทำจากอิฐและหินคงความออริจินัลเอาไว้ และปรับบางพื้นที่ให้เป็นห้องพักและสปาด้วย โดยพื้นที่ภายนอกอาคารทั้งหมดยังรายล้อมไปด้วยธรรรมชาติเหมาะกับการมาพักผ่อนและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

บอลติก
คฤหาสน์ Mazmezotne
บอลติก
คฤหาสน์ Mazmezotne
บอลติก
คฤหาสน์ Mazmezotne

พิกัด : Mazmežotnes muiža, Mazmežotne, Rundāles pag., Rundāles nov, Mazmežotne, LV-3921, Latvia

การมาดูวิถีชนบทของชาวลัตเวียอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ ก็คือ ความเป็นอยู่ที่แสนจะเรียบง่าย จนกลายเป็นแพชชั่นอย่างหนึ่งที่ทำให้พวกเขาได้หันกลับมาเริ่มต้นทำอะไรที่ไม่ต้องหวือหวา แต่สามารถกลายเป็นธุรกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้ด้วย ที่บอกแบบนี้เพราะสถานที่ที่พูดถึงคือ Ķiploku Pasaule ฟาร์มแห่งหนึ่งที่อยู่กลางทุ่งในเขตชนบท ที่เกิดขึ้นจากสามีภรรยาชาวลัตเวีย ซึ่งทั้งคู่หลงใหลในเรื่องการทำฟาร์มกระเทียมและทำอย่างจริงจัง

บอลติก
 Ķiploku Pasaule
บอลติก
 Ķiploku Pasaule

ทำให้ที่นี่นอกจากจะปลูกกระเทียมเป็นหลักแล้ว ยังเอาผลผลิตจากกระเทียมมาแปรรูปเป็นสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งซอส,เทียน ไปจนถึงทำคราฟเบียร์ จนกลายเป็น Local Product ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศมามากมาย 

พิกัด : Olaine parish, LV-2127, Latvia

บอลติก
Brantu Manor

ก่อนจะมุ่งหน้าไปอีกประเทศ ที่สุดท้ายที่มาเยือนลัตเวียคือ อาคารเก่าที่เคยเป็นโรงเรียนมาก่อน มองจากภายนอกแทบดูไม่ออกเลยว่าที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งความอันซีนที่นักท่องเที่ยวจะได้รู้จักกับวิถีชนบทของชาวลัตเวียอย่างแท้จริง อาคารหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนกระทั่งถูกนำมารีโนเวทใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม กลายเป็นคฤหาสน์สุดแอนทีคที่ชื่อว่า Brantu Manor โดยที่นี่จะมีบริการจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน และการทำเวิร์คชอปขนมปังแบบดั้งเดิมของชาวลัตเวียด้วย

บอลติก
บอลติก

พิกัด : Brantu muiža, Brantu pagasts, Smiltenes novads, LV-4708

บอลติก

เส้นทางท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศแถบบอลติกยังมีให้สัมผัสกันต่อ โดยมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือของลัตเวียเพื่อเข้าสู่ประเทศเอสโตเนีย ทุกคนอาจจะคิดถึงเมืองหลวงอย่างทาลลินน์ก็ไม่ผิด เพราะที่นั่นมีเมืองเก่าที่สวยงามมากๆ

บอลติก
Christmas Market ย่าน Old Town เมืองทาลลินน์

แต่ทริปนี้ขอฉีกแนวพาไปนอกเมืองหลวงของเอสโตเนีย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นเมืองมากมาย ใครที่ชอบแนวลุยหน่อย ก็อาจจะไปทำกิจกรรมส่องสัตว์ป่า ที่ Toosikannu Wildlife Park ที่นี่มีสัตว์มากมายหลายชนิด โดยจะมีรถสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวพาชมรอบพื้นที่ด้วย

บอลติก
Toosikannu Wildlife Park
บอลติก
Toosikannu Wildlife Park

พิกัด : Toosikannu Puhkekeskus ja Metsloomapark / Toosikannu Holiday Center and Wildlife Park, Jõeküla, Järva County, Estonia

การไปดูวิถีของสัตว์ป่าที่เอสโตเนียก็ได้ประสบการณ์แบบหนึ่ง แต่การได้มาสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวเอสโตเนียก็เป็นอีกความทรงจำ ซึ่งถ้าได้มาจะต้องประทับใจกับบ้านหลังนี้ที่ Mooska Farm โดยตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเอสโตเนีย

บอลติก
Mooska Farm

ความพิเศษของที่นี่คือนอกจากจะมีบริการอาหารท้องถิ่นที่ทุกคนจะได้นั่งร่วมกันกินกับเจ้าของบ้านแล้ว ยังมีซาวน่าแบบดั้งเดิมของชาวเอสโตเนีย โดยวิธีการซาวน่าของที่นี่จะมีขั้นตอนพิเศษทั้งการสวดร่ายคาถาเป็นภาษาเอสโตเนียน และมีการนำกิ่งของต้นเบิร์ชมาตีตามร่างกาย ถือเป็นประเพณีอย่างหนึ่งที่บอกเล่าถึงวิถีชีวิต จิตวิญญาณ ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและบรรพบุรุษ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจาก Unesco ด้วย และยิ่งในช่วงหน้าหนาวหิมะตกแบบนี้ ใครที่อยากท้าทายความหนาวหลังจากซาวน่าเสร็จ ก็สามารถลงไปในบ่อน้ำนี้ได้เลย ขอบอกว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว และถ้าไปยังไงก็ต้องลอง

พิกัด : Mooska farm, Haanja parish, Võru county, Estonia 65601

มาเอสโตเนียแล้วอีกหนึ่งที่สำหรับคนรักชีสยังไงก็ต้องห้ามพลาด เพราะฟาร์มแห่งนี้ผลิตนมสำหรับทำชีสส่งออกไปทั่วยุโรปรวมถึงที่สิงคโปร์ใกล้บ้านเราด้วย Andre Cheese Farm ถือเป็นแหล่งผลิตชีสที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยังได้รับรางวัล World Cheese Award  หลายครั้ง ที่นี่นอกจากจะได้เห็นขั้นตอนการทำชีสแล้ว ยังมีช็อปน่ารักๆ ให้เข้าไปชมและช้อปปิ้งกันด้วย ที่นี่จะมีขายตั้งแต่แบบหั่นเป็นชิ้นๆ ขาย หรือขนาด 1 กิโลกรัมไปจนถึงก้อนละ 10 กิโลกรัม ส่วนเรื่องราคาก็ตามน้ำหนักของชีส อย่างชีส 1 กิโลกรัมราคาจะอยู่ที่ประมาณ 14 ยูโร

บอลติก
Andre Cheese Farm
บอลติก
Andre Cheese Farm

พิกัด : TalvikTalvikese küla, Kambja vald, Tartu maakond, 62028

เอสโตเนียนอกจากขึ้นชื่อเรื่องชีสแล้ว นมก็เป็นอีกหนึ่งโปรดักส์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 100 ปี จนในที่สุดได้มีการจัดทำพิพิธภัณฑ์นมเอสโตเนียกันเลยทีเดียว ที่นี่จะมีดิสเพลย์จำลองเกี่ยวกับการผลิตนมตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงได้รวบรวมเอาอุปกรณ์การผลิตนมวัวแบบโบราณมาให้ชม พร้อมกับมีเวิร์คชอปทำขนมจากนมวัวให้เราได้ชิมกัน ทั้งไอศกรีม ชีสเคลือบชอคโกแลต และสมูทตี้โยเกิร์ตที่ทำกันสดๆ 

บอลติก
The Estonian dairy museum
บอลติก
The Estonian dairy museum

พิกัด : Hans Rebase tee 1, Imavere küla, Järva vald, Järva maakond

หลังจากไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเอสโตเนียแบบจริงจังกันแล้ว จุดหมายต่อไปก็คือการเดินทางเข้าประเทศฟินแลนด์อีกครั้ง ซึ่งจะนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามจากทาล์ลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ไปยังเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงนั่งเรือข้ามทะเลบอลติกแบบชิลๆ โดยภายในเรือก็สะดวกสบายมาก มีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต บาร์ ร้านอาหาร รวมถึงห้องพักให้บริการด้วย 

บอลติก
ภายในอาคารผู้โดยสารสำหรับขึ้น-ลง เรือเฟอร์รี่ จากเมืองทาล์ลินน์ ประเทศเอสโตเนียไปยังกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
บอลติก

พอกลับเข้ามาฟินแลนด์อีกครั้งแน่นอนว่าทริปนี้เราเน้นไปที่การดื่มด่ำกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนพื้นที่จริงๆ สำหรับในฟินแลนด์ ทุกคนคงรู้จักเมืองหลวงอย่างเฮลซิงกิ และแลปแลนด์เมืองซานตาครอสไปส่องดูแสงเหนือกันแล้ว แต่จริงๆฟินแลนด์ยังมีที่สวยๆ อีกเพียบ อย่างเช่นที่เมือง Lohja ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเฮลซิงกิมากนัก ใช้เวลานั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะสายแคมป์ปิ้งและเดินป่าคือเหมาะมากและมาได้ทุกซีซัน

บอลติก
The Campfire Kettukallio 
บอลติก
The Campfire Kettukallio 

The Campfire Kettukallio ที่พักที่ล้อมรอบด้วยป่าสน ซึ่งในช่วงหน้าหนาวบรรยากาศนั้นสวยมาก โดยเขาจะมีบริการอาหารแบบแคมป์ปิ้ง หรือถ้าอยากเดินป่าก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีห้องซาวน่าแบบTraditional ให้บริการพร้อมกับบ่อน้ำร้อนแบบเอาท์ดอร์ และด้วยบรรยากาศที่สวยงามเป็นธรรมชาติแบบนี้ จึงทำให้ที่นี่เคยได้รางวัลแหล่งท่องเที่ยวของเมือง Lohja ในปี 2018 ด้วยนะ มาแล้วไม่ผิดหวังเลยจริงๆ

บอลติก
The Campfire Kettukallio 
บอลติก
The Campfire Kettukallio 

พิกัด : Joenpellontie 145 08480 Lohja, FINLAND

ฟินกับบรรยากาศหนาวหิมะขาวทั่วเมืองกันไปแล้วลงมาดำดิ่งสู่ชั้นใต้ดินกับที่พิพิธภัณฑ์เหมืองแห่ง Lohja  : The Tytyri Mine Experience กันบ้าง

บอลติก
The Tytyri Mine Experience 

ที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวและยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ของคนทุกวัย ให้ได้สัมผัสกับการย้อนอดีตไปในยุคที่มีการขุดเหมืองในปี 1897 โดยภายในเหมืองมีการจัดแสดงนิทรรศการทั้งในรูปแบบ Installation แสง สี เสียง ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังมีพื้นที่จัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นบรรยากาศที่หาที่ไหนไม่ได้ นอกจากที่นี่เท่านั้น 

บอลติก
The Tytyri Mine Experience 
บอลติก
The Tytyri Mine Experience 

พิกัด : Kuilukatu 42, LOHJA,FINLAND

ความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งก็ว่าสวยงามและตราตรึงใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ใครที่ได้มาเที่ยวประเทศในกลุ่มบอลติกต้องหลงรักก็คือ ความอบอุ่นและความน่ารักของผู้คนที่นี่ ซึ่งทำให้เปลี่ยนความคิดใหม่ไปได้ว่า เที่ยวยุโรปไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประเทศยอดฮิตอย่างเดียว แต่เสน่ห์ของยุโรปฝั่งบอลติกก็มีดีไม่แพ้กัน

ที่สำคัญคือค่าครองชีพนั้นถูกกว่าโดยเฉพาะที่ลัตเวียกับเอสโตเนีย และยิ่งถ้ามาช่วงหน้าหนาวหิมะตกจะสวยงามโรแมนติกมาก แต่ก็อย่าลืมติดเสื้อโค้ท เสื้อกันลม และอุปกรณ์เพิ่มความอบอุ่นกันมาให้ครบด้วยนะ เพราะอุณหภูมิที่นี่หนาวไม่แพ้แถบสแกนดิเนเวียเหมือนกัน

สำหรับใครที่สนใจอยากไปทริปแบบนี้สามารถติดต่อไปที่ Baltic Country Holidays, Visit Lohja and Estonian Rural Tourism: https://gorural.countryholidays.info/en/contacts เพื่อสอบถามข้อมูลและเส้นทางการท่องเที่ยวแบบนี้ได้เลย ประสบการณ์เปิดโลกกว้างแบบนี้ดูแต่ภาพยังไงก็ไม่ฟินเท่าได้ลองไปสัมผัสเอง

ภาพ : Tommykae

Praew Recommend

keyboard_arrow_up