ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนำและใช้ ครีมกันแดด ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ
ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปในอุทยานแห่งชาติทางทะเลจำนวนมาก รวมทั้งมีการนำและใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการัง โดยจากข้อมูลวิชาการพบว่า สารเคมีหลายชนิดที่พบในครีมกันแดดมีส่วนทำให้ปะการังเสื่อมโทรมลง เนื่องจากสารเคมีเหล่านั้น ทำลายตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์และทำให้ปะการังฟอกขาว
กรมอุทยานฯ พิจารณาแล้วเพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการังและระบบนิเวศ ในอุทยาน จึงออกประกาศ ดังนี้
1. ห้ามนำและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3), Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate), 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC) และ Butylparaben หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
2. ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2564
โดยภายหลังจากที่ประกาศดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวโซเชี่ยลก็แตกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายเสียง บ้างก็บอกว่าคงไม่มีใครมานั่งดูส่วนผสมของครีมกันแดดก่อนซื้อทุกขวด แถมตัวหนังสือยังเล็กมากๆ ถ้าไม่อยากให้ใช้ก็ไปบอกให้บริษัทเลิกผลิต
นอกจากนี้ ความคิดเห็นของอีกฝ่ายยังมองว่าคนที่บอกให้บริษัทเลิกผลิตนั้นเป็นตรรกะที่ป่วยมาก เพราะครีมกันแดดมีหลากหลายประเภท ทุกคนที่ซื้อครีมกันแดดไม่ได้ซื้อเพื่อไปเที่ยวทะเลเท่านั้น บางคนก็ซื้อใช้ในชีวิตประจำวันก็มี เมื่อก่อนไม่รู้ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามันทำลายธรรมชาติ ทำลายปะการัง ฉะนั้น ก่อนซื้อ ควรช่วยสละเวลาอ่านฉลากกันสักนิด เพื่อเฟ้นหาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีกับสิ่งแวดล้อม
ข้อมูล : ราชกิจจานุเบกษา
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ผิวสวยใสใส่ใจสิ่งแวดล้อม! 5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล
วิธีแก้ปัญหา คราบขาวจาก ครีมกันแดด ผู้ร้ายทำลายผิวสวยเวลาต้องออกแดด
สภาผู้บริโภคฮ่องกง ตรวจพบ 25 ครีมกันแดด ค่า SPF ต่ำ กว่าบนฉลากผลิตภัณฑ์