นอร์เวย์ ออกกฎหมาย ห้ามเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ แต่งรูป ผ่านแอปฯ แก้ปัญหาสวยเกินจริง
ก่อนหน้านี้ เคยเกิดกรณีห้ามเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ชาวอังกฤษแต่งรูปรีวิวสินค้า โดย ASA (Advertising Standards Authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการโฆษณาของสหราชอาณาจักร ได้ออกคำสั่งห้ามแบรนด์ต่างๆ ตลอดจนอินฟลูเอนเซอร์และเซเลบริตี้ทั้งหลาย ห้ามใช้ฟิลเตอร์ในการปรับแต่งภาพเพื่อโฆษณาเครื่องสำอางและสกินแคร์ต่างๆ ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย หากฟิลเตอร์ดังกล่าวทำให้ภาพออกมามีผลลัพธ์ที่บิดเบือนเกินจริง จนอาจจะสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภคหรือผู้ติดตามได้ เพราะแต่งออกมาแล้วดูหลอกตา ขายสวยเกินจริง!!
ล่าสุด ทางด้านประเทศนอร์เวย์ ก็ออกกฎหมายเรื่องการตกแต่งรูปผ่านแอปพลิเคชัน แก้ปัญหาสวยเกินจริง โดยกฎหมายฉบับใหม่นี้จะกำหนดให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ทรงอิทธิพลในโซเชียลมีเดียและภาพเพื่อการโฆษณา ต้องแจ้งในโพสต์ด้วยว่าตกแต่งรูปด้วยแอปฯ อะไร ฟิลเตอร์ไหน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ
จากการรายงานของวอชิงตันโพสต์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ระบุว่า นอร์เวย์ ผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วย “การตกแต่งรูปบนโซเชียลมีเดีย” โดระบุว่าเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ เน็ตไอดอล เซเลบริตี้ และการโฆษณาใดๆ ก็ตาม ที่โพสต์ภาพลงบนโซเชียลมีเดีย จะต้องมีระบุอย่างชัดเจนว่าภาพเหล่านั้นผ่านตกแต่งมาแล้วหรือไม่ หากผ่านการตกแต่ง จะต้องแจ้งให้หมดว่ารีทัชอะไรมาบ้าง ผ่านกี่แอปฯ ใส่กี่ฟิลเตอร์!!
ผลวิจัยในปี 2559 พบว่า เด็กผู้หญิงวัยรุ่นจำนวนมาก รู้สึกไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาของตนเอง คิดว่าตัวเองไม่สวยเหมือนกันคนในโซเชียล หากโพสต์รูปสดที่ไม่ได้ผ่านการตกแต่ง พวกเธอจะรู้สึกขาดความมั่นใจ และรู้สึกวิตกกังวล แต่ถ้าได้แต่งรูปให้ดูสวยขึ้นก่อนโพสต์ จะทำให้เธอมั่นใจมากขึ้น ซึ่งพวกเธอจะเชื่อว่าภาพที่แต่งจนสวยแล้วนั่นแหละคือตัวตนที่แท้จริง
กระทรวงเยาวชนและครอบครัวของนอร์เวย์ เปิดเผยว่า กฎหมายดังกล่าวตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหามาตรฐานความงามที่ไม่สมจริง (unrealistic beauty standards) และปัญหาทางสุขภาพจิตที่อาจเป็นอันตรายสำหรับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวและเยาวชน และต้องการรณรงค์งดการโพสต์ภาพโฆษณาที่ตกแต่งเกินจริง จนนายแบบและนางแบบดูไม่เหมือนคนปกติทั่วไป
ภาพ วิดีโอ หรือโฆษณาที่มีการปรับแต่งสีผิว สีผม รูปร่าง ริ้วรอยต่างๆ จะต้องติดป้ายกำกับระบุเอาไว้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ผู้โพสต์ภาพ วิดีโอ หรือโฆษณานั้นๆ จะมีโทษปรับตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งกฎหมายนี้จะครอบคลุมถึงเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ เน็ตไอดอล เซเลบริตี้ นายแบบ นางแบบ เหล่าคนดังที่แต่งรูปเพื่อการโฆษณาด้วย โดยจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2565
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า แม้ว่าจุดประสงค์กฎหมายนี้เกิดขึ้นด้วยเจตนาที่ดี เพราะการหมกมุ่นเรื่องรูปร่างหน้าตาตนเอง จนต้องแต่งรูปมากๆ เป็นสิ่งที่แพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลกจนเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว และยังสร้างผลกระทบอย่างมากต่อเยาวชนว่าที่คิดว่าต้องสวย รูปร่างดีเหมือนนางแบบในอินสตาแกรม
ซึ่งทำให้อาจก่อให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี ไม่ต่างกับการเอาพลาสเตอร์ธรรมดาไปปิดแผลที่เปิดกว้าง และการประกาศให้สังคมรับรู้ว่าภาพนี้ตกแต่งผ่านแอปพลิเคชั่นมาแล้ว จึงวืเคราห์ว่าการออกกฎหมายนี้อาจไม่ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่จะยิ่งสร้างความจิตตกให้เจ้าของภาพมากกว่าเดิม เพราะเริ่มหมกหมุ่นถึงความเป็นจริงว่าต่อไปจะตกแต่งรูปก่อนโพสต์ไม่ได้อีกแล้ว
ข้อมูล : washingtonpost.com
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สวยเกินจริง! บิวตี้บล็อกเกอร์ชาวอังกฤษ โดนสั่งห้ามใช้ฟิลเตอร์รีวิวเครื่องสำอาง
แต่งรูปจนโดนคอมเม้นต์ ‘ขวัญ’ ลั่นอย่าซีเรียส บ้านเบี้ยวแต่หน้าไม่เบี้ยว ขอสวยพอ!
นางแบบผิวแทนลูกครึ่งไทย-เยอรมัน เผยเคยต้องทาบีบีครีมให้ผิวขาวตามค่านิยม