วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องเทรนด์ผิวขาว ที่กลายเป็นค่านิยมที่บางครั้งเราก็คิดว่ามัน “เกินพอดี” ไม่ได้หมายความว่าการที่เราอยากมีผิวขาวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่บางคนต้องการจะมีผิวขาวมากจนไม่สนวิธีการว่าอันตรายหรือเปล่า
ถ้าไม่นับรวมเมคอัพกลบที่เนียนบ้างไม่เนียนบ้าง หรือแต่งรูปผ่านแอพฯ ก็มีทั้งฉีดผิว กินกลูต้า บริโภคทุกอย่างที่เชื่อว่าจะทำให้ผิวขาวขึ้น คงไม่ต้องอธิบายหรอกนะว่าโทษของมันมีอะไรบ้าง เพราะตัวอย่างก็มีให้เห็นในข่าวกันตลอดเวลา
แต่ถ้าจะถามว่าค่านิยมผิวขาวนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็คงตอบยาก เพราะไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากการรับวัฒนธรรมต่างประเทศเข้ามาโดยไม่กลั่นกรอง เช่น อยากผิวขาวแบบดารา ไอดอลเกาหลี หรือแม้แต่สื่อต่างๆ ก็มักจะโน้มน้าวใจคนดูให้เกิดค่านิยมที่ว่า “ผู้หญิงผิวขาวคือผู้หญิงสวย” แต่จริงๆ แล้ว มีใครรู้บ้างว่าในอดีตมีการกล่าวถึงความงามตามแบบฉบับของผู้หญิงไทยว่า ต้องเป็นผู้หญิงที่มีผิวสีทอง นวลงามเหมือนสีน้ำผึ้ง นั่นก็เพราะว่าผู้หญิงที่มีผิวสีทองหรือผิวสีน้ำผึ้ง ในอดีตจะถือว่าเป็นผิวพรรณที่มีสุขภาพดี หากใครขาวซีดมักจะถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอ ขี้โรค แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมากระแสผิวสีแทน หรือผิวสีน้ำผึ้งก็ได้กลับมาอีกครั้ง แต่ก็คงต้องยอมรับว่าความแรงยังสู้กระแสผิวขาวออร่าไม่ได้อยู่ดี แต่ลองสังเกตสิ ถ้าผิวแทนไม่ดีจริง ฝรั่งเขาจะมานอนอาบแดดทำผิวสีแทนกันทำไม
และไหนๆ ก็เกริ่นเรื่องนี้มาแล้ว ก็ขอหยิบยกเรื่องของ Dorothy Petzold นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน สาวสวยผู้มีผิวสีแทนมาเล่าให้อ่านกัน เมื่อไม่กี่วันมานี้ เธอได้โพสต์รูปและข้อความอินสตาแกรมว่า “นับตั้งแต่ที่เธอเริ่มทำงานเป็นนางแบบ เธอเคยถูกปฏิเสธงาน ด้วยเหตุผลที่ว่าผิวของเธอดูแทนเกินไป หรือบางคนเรียกว่า “ดำ” และเวลาเธอถ่ายงาน ผิวของเธอในภาพจะถูกปรับแต่งทำให้ขาวขึ้นจนตัวเธอเองแทบจะจำตัวเองไม่ได้ แถมช่างแต่งหน้าบางคนก็ไม่มีรองพื้นเฉดเข้ม เพราะมันไม่ตรงกับมาตรฐานความงามส่วนใหญ่ นี่คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่เธอเคยประสบในอดีต
ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกขอให้ไปซื้อบีบีครีมที่มินิมาร์ท และทาผิวของเธอทั้งตัว ไม่ใช่แค่ที่ใบหน้า เพื่อให้เธอดูมีผิวขาว ด้วยเหตุผลที่ว่า ผิวธรรมชาติของเธอดูไม่ขึ้นกล้องเท่ากับนายแบบที่มีผิวขาว ซึ่งเธอคิดว่านี่มันไม่ใช่เรื่องของแฟชั่นหรือสิ่งที่ทำให้ผิวของเธอดูสวยขึ้น แต่มันเป็นเส้นคั่นบางๆ ระหว่างการเลือกปฏิบัติตามสีผิว
และเธอมองว่าเรื่องค่านิยมสีผิวแบบนี้ควรหยุดได้แล้ว ไม่ควรนิยามความงามด้วยวิธีนี้ คนไทยส่วนใหญ่มีผิวสีแทนสวยโดยธรรมชาติ แต่เธอไม่เคยเห็นสาวผิวสีแทนแสดงในภาพยนตร์ ไม่เคยเห็นสาวผิวสีแทนแสดงโฆษณา มีโฆษณาเพื่อผิวสุขภาพดีที่ไหนบ้างที่ไม่มีคำว่า“ lightening / brightening / whitening”
ไม่รู้ว่าต้องได้ยินเรื่องแบบนี้อีกนานแค่ไหน แต่ พริมพี่_แพรวนิสต้า เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนสวย ไม่ว่าคุณจะมีโทนผิวสีไหนก็ตาม อย่าปล่อยให้ค่านิยมหรืออุดมคติผิดๆ มาหลอกได้นะคะ และส่วนตัวเราก็ไม่ได้จะบอกหรือตัดสินว่าผิวสีไหนสวย ผิวสีไหนดี เพียงแค่อยากเตือนว่าถ้าคุณเกิดมาเป็นผู้หญิงผิวสีแทน ก็ไม่ต้องพยายามจะขาวจนเกิดอันตรายต่อตัวเองหรอก การที่เรายอมรับความสวยตามแบบของเราน่ะดีที่สุดแล้ว เชื่อสิ xoxo
ภาพ IG : dorothypetzold
เรื่อง : Primphy_praewnista
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ผิวสีไหนก็แซ่บได้ไม่ต่างกัน..แต่ถ้าอยาก ผิวขาว แบบปลอดภัยมี 4 เรื่องที่ควรรู้!
เทรนด์ผิวขาวเอ๊าต์หรือยัง?? สาวๆ ยังหาวิธีทำผิวขาวกันอยู่หรือเปล่า ลองอ่านดู
พอกันทีหน้าเทา! รวมทริคแต่งหน้าให้เข้ากับโทนสีผิว รับรองสวยรอดเริ่ด