แอฟ ทักษอร

ทริคความสวยใส…ในวัย 40+ ของ “แอฟ – ทักษอร” ยึดหลัก “กันไว้ดีกว่าแก้”

Alternative Textaccount_circle
แอฟ ทักษอร
แอฟ ทักษอร

แพรว คุยเอ็กซ์คลูซีฟกับ “แอฟ – ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ในวัย 40+ เจาะลึกเคล็ดลับความสวยใส (ที่มัดใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่) ตั้งแต่เรื่องผิวพรรณที่เป็นปัญหาใหญ่ของผู้หญิงวัยนี้ ทริคการกินเพื่อสุขภาพและรูปร่าง ไปจนถึงเรื่องสุขภาพใจ

ทริคความสวยใส…ในวัย 40+ ของ “แอฟ – ทักษอร” ยึดหลัก “กันไว้ดีกว่าแก้” เพราะประหยัดทั้งเงินและเวลา

ดูแลตัวเองอย่างไรในวัย 40+ ให้ยังสวยเป๊ะปังขนาดนี้คะ

“ขอบคุณค่ะ ก็สวยบ้าง ไม่สวยบ้าง (หัวเราะ) ตอบตามตรงว่าพออายุมากขึ้น สุดท้ายแล้วเรื่องเบสิกสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำเยอะๆ นอนให้พอ ไม่เครียด ที่เราเบื่อจะฟัง แต่มีผลจริงๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น ที่เพิ่มเติมคือต้องสม่ำเสมอด้วย อย่างเมื่อก่อนแอฟค่อนข้างปล่อย ไม่ต้องดูแลตัวเองก็ได้ เดี๋ยวใกล้ๆ เปิดละครค่อยจัดทีเดียว บำรุงผิว ดูแลรูปร่างอะไรก็ว่าไป แต่ตอนนี้จะทิ้งร่างเลยไม่ได้ นอกจากจะดูแลไม่ทันแล้ว ยังต้องกู้กลับไปไกลมาก (เน้นเสียง) ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะไม่ทาครีมก่อนนอนก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ลองไม่ทาสัก 3 วันนี่รู้เรื่อง กลายเป็นต้องแก้ปัญหาไปอีก ดังนั้นเราค้นพบว่าการดูแลรักษาตัวเองให้ดีไปเรื่อยๆ นั้นง่ายและประหยัดกว่าทั้งเวลาและเงิน ไม่ต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เมนเทนไว้ดีกว่าการกอบกู้ เพราะการกู้นั้นยากมากค่ะ

“ดังนั้นแม้ส่วนตัวแอฟจะไม่ได้บำรุงอะไรเยอะ ทาครีมปกติ เพราะเหนื่อย แต่เน้นสม่ำเสมอ พยายามทำไว้ก่อน อย่างกลับจากทำงานดึกๆ จะรู้ตัวว่าถ้าแวะทานอะไรก่อนอาจหลับทันที ไม่ได้ล้างหน้า ตื่นมาแล้วก็จะเครียด เพราะฉะนั้นพอกลับถึงบ้านจะพยายามอาบน้ำ ล้างหน้า สระผมให้เสร็จก่อน แล้วค่อยหาอะไรทาน ต้องรู้จังหวะตัวเอง

“อีกเรื่องที่สำคัญคือต้องไม่เครียด ซึ่งการมีลูกมีทั้งส่วนที่ทำให้เครียด ในแง่ที่เราเป็นห่วงได้สารพัดเรื่องเลย และคงจะติดเปลี่ยนเรื่องกังวลไปเรื่อยๆ ตามวัยของลูกไปจนเราแก่ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เราเครียดเรื่องอื่นน้อยลง เพราะไม่มีเรื่องไหนทำให้กลุ้มใจหรือเป็นเรื่องใหญ่ได้เท่าเรื่องลูกอีกแล้ว ดังนั้นอะไรที่เคยเครียดกลับเป็นไม่เครียด บางเรื่องก็เบาขึ้นเยอะ แต่อย่างที่บอกว่าเมื่อเรารู้จักตัวเองมากขึ้น มั่นคงขึ้น จึงรู้สึกสงบและมีความสุข พอความรู้สึกเราเป็นบวก เวลามีเรื่องอื่นๆ เข้ามากระทบจึงรู้สึกเบาลง จากที่แต่ก่อนเคยตกอกตกใจ เครียดกับมัน แต่ทุกวันนี้เฉยๆ ละ”

ขอวิธีผ่อนคลายในแบบของแอฟหลังจากเจอวันหนักๆ เหนื่อยๆ หน่อยค่ะ

“อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวนี้ความสุขมาง่ายขึ้นเยอะ แค่มีวันหยุด จริงๆ จะใช้คำว่าวันหยุดก็ยากละ เพราะไม่เคยได้มีเวลาเป็นของตัวเองเต็มวัน วันหยุดยังไงก็ต้องอยู่กับลูก อาจจะแค่มีโมเม้นต์หนึ่งที่เราได้หยุดพัก ทำอะไรของตัวเอง ทานขนม ออกไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง หรือบางทีแค่ได้นอน (หัวเราะ) ก็มีความสุขแล้วค่ะ คือทุกวันนี้ไม่ค่อยได้นอนนานๆ ทำงานด้วยส่วนหนึ่ง แล้วคนมีลูกก็ ‘ไม่มี’ วันได้นอนเยอะ ‘ไม่มี’ วันได้ตื่นสาย เพราะลูกจะปลุกให้เราตื่น คือต่อให้เขานอนดึก  เขาก็จะตื่นเช้า ยิ่งวันหยุดยิ่งตื่นเช้า เพราะเขารู้ว่าจะตื่นมาทำอะไรก็ได้ ก็จะตื่นมาเล่น แล้วก็จะให้เราตื่นด้วย

“ซึ่งความจริงเราไม่อยากตื่นหรอก แต่ไม่อยากเป็นตัวอย่างไม่ดี เพราะสอนเขามาเยอะ ความจริงลูกก็ไม่เห็นความจริงของเราแบบ 100 เปอร์เซ็นต์นะ เพราะแม่ก็มีมุมอยากนอนดูซีรี่ส์ ทานช็อกโกแลตบ้าง แต่เราจะไม่ทำให้เขาเห็นบ่อยๆ เดี๋ยวจะเป็นภาพประจำ แล้วจะโดนย้อนเวลาสอนเขา คือแอฟไม่ได้โกหกว่าแอฟไม่ทำสิ่งเหล่านี้เลย เชื่อว่าเขาแยกแยะได้ และคิดว่าถ้าเขาโตขึ้นกว่านี้ ก็จะทำให้เขาเห็นไปเลยว่าเรานอนดูซีรี่ส์เกาหลีนานๆ  คือด้วยความที่บ้านเราจำกัดเวลาการดูทีวี แอฟจึงไม่เคยเปิดทีวีดูเองให้เขาเห็น ยกเว้นเปิดเพื่อดูการ์ตูนกับเขาตามข้อตกลง แต่เมื่อไรก็ตามที่ลูกหลับแล้ว นั่นคือนาทีทองของแม่ อยากทำอะไรก็ทำ แต่บางทีเขาก็จับได้ เพราะเห็นถุงขนมที่แม่ทานตอนดูซีรี่ส์เกาหลีแล้วลืมทิ้งไว้เป็นหลักฐาน” (หัวเราะ)

ทานขนมด้วยเหรอคะ

“ทานค่ะ แอฟชอบของอร่อย ถ้าไม่อร่อยจะถือเป็นของอ้วน (หัวเราะ) คือไหนๆ จะทานแล้ว ขอให้อร่อย จะเป็นของอ้วนหน่อยก็ไม่เป็นไร แค่อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม จะได้ไม่ต้องไปเหนื่อยลดน้ำหนักทีหลัง อย่างในอินสตาแกรมแอฟนี่ ถ้าเปิดดูจะมีติดตามร้านอาหารอร่อยเป็นร้อยอัลบั้มเลย มีของทุกประเทศ เวลาไปต่างประเทศก็ต้องตามไปชิม ปีใหม่ก็ชอบเหมือนกัน ต้องบอกว่าเขาทานได้วาไรตี้มาก ไม่ได้จำกัดแค่อาหารเด็ก แต่หลากหลาย อย่างแตงกวาดองก็แทะเล่นเป็นสแน็กได้เฉยเลย จนตอนหลังต้องบอกนิดเดียวพอนะ แล้วทานข้าวก่อน

“แอฟฝึกลูกให้ทานผักหรือผลไม้ก่อนทานข้าว คือทานตอนท้องว่างแล้วค่อยไปทานเนื้อสัตว์หรือแป้ง ซึ่งคุณแม่ก็ฝึกแอฟมาแบบนี้ ปีใหม่จึงชอบทานผักมาตั้งแต่เด็ก เพราะตอนเด็กฝึกง่าย เราทำให้เขารู้สึกว่าการกินผักไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร เป็นเรื่องปกติ เขาจึงกินผักเก่ง ทุกมื้อจะมีมะเขือเทศกับแตงกวาเตรียมไว้ให้ เขาจึงชินกับผักสองอย่างนี้ เลยกินแตงกวาดองได้ง่าย ๆ ไปๆ มาๆ เขาทานผักเยอะจนทานข้าวได้น้อย เลยต้องขอให้ทานผักน้อยลงหน่อย กินข้าวให้อิ่มก่อนแล้วค่อยกลับไปทานผักต่อ โดยปล่อยเขาเลือกตามที่ชอบ บางชนิดไม่ถูกปากเขาจะทานน้อยหน่อย เราก็ไม่บังคับ ตอนนี้เขาเลยตัวเบ้อเริ่ม โตเร็วมาก ตัวโตแบบอยู่ในท็อป 3 ของห้องเรียน แต่แอฟก็พยายามบอกลูกว่าอย่าเพิ่งหยุดโตนะ เพราะแม่เคยอยู่หัวแถวมาก่อน พอเลิกออกกำลังกายก็ค่อยๆ เข้าไปสู่กลางแถว สักพักก็ท้ายแถว คือตัวเล็กลงเรื่อยๆ จนเพื่อนแซง”


ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 996

ภาพ : aff_taksaorn

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up