รู้จัก “รัมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม” เชื้อไวรัสทำลายเส้นประสาท อัมพาตหน้าครึ่งซีก

กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผยเส้นประสาทใบหน้าอักเสบพบได้ทุกช่วงอายุ เน้นย้ำสังเกตอาการแยกจากโรคหลอดเลือดสมอง รู้จัก “รัมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม” เชื้อไวรัสทำลายเส้นประสาท อัมพาตหน้าครึ่งซีก รัมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) เป็นโรคที่เกิดจาก Varizella Zoster Virus ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดอาการของโรคอีสุกอีใส ซึ่งคนที่เคยเป็นโรคนี้แล้วตัวไวรัสอาจจะยังอยู่ในร่างกาย โดยไม่ก่อให้เกิดโรคได้หลายปี แต่เมื่อก่อโรคก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบ โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ทำให้เกิดโรค อาการของโรคจะเริ่มต้นจากอาการอักเสบทั่วไป ซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะที่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวด บวม แดง ร้อน ในตำแหน่งบริเวณใบหูของข้างที่เกิดอาการ หรืออาจจะมีไข้ต่ำๆ รู้สึกไม่สบายตัวร่วมด้วยได้ หลังจากนั้นจะพบตุ่มน้ำใส ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของไวรัสขนิดนี้ เกิดขึ้นที่บริเวณใบหู โดยตุ่มน้ำจะทำให้รู้สึกแสบๆ คันๆ หรือแสบร้อนมากกว่าตุ่มคันทั่วๆไป การอักเสบติดเชื้อดังกล่าวจะทำให้เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งทำหน้าที่ในการเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้า หูชั้นใน และการรับรสบางส่วนเกิดการอักเสบ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการอัมพาตของใบหน้าครึ่งซึก หลับตาไม่สนิท ทำให้มีอาการเคืองตา หรือล้างหน้าแล้วแสบตาเนื่องจากน้ำสบู่เข้าตา เป็นต้น การขยับกล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาตทำให้การพูด การออกเสียง การดื่มน้ำและทานอาหารมีปัญหา อาการจะคล้ายกับอาการเส้นประสาทใบหน้าอักเสบชนิด Bell’s […]

นพ.สันติ ไฉไลวณิชย์กุล ฟื้นจากคนอัมพาตมาเป็นหมอไคโรแพรคติกเบอร์ต้นของเมืองไทย

จากเด็กยากจนย่านคลองเตย  ที่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 10 ขวบ  ทั้งคนงานแบกปูน คนขับรถสองแถว ฯลฯ  แต่เพราะอยากเรียนหนังสือ  ทำให้เขา…  นพ.สันติ ไฉไลวณิชย์กุล  ดิ้นรนทุกหนทาง จนได้ไปเรียนหนังสือต่อที่อเมริกา  ที่นั่นเขาเริ่มต้นใหม่จากศูนย์  ต้องฝ่าฟันบททดสอบชีวิตขั้นทรหดถึงขั้นเป็นอัมพาตไปครึ่งซีก นี่คือบทคัดย่อเรื่องราวชีวิตของ นพ.สันติ  ไฉไลวณิชย์กุล  แพทย์สาขาไคโรแพรคติกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่พร้อมเล่าทุกประสบการณ์โลดโผนที่ผ่านมาให้แพรวฟังอย่างอารมณ์ดี  ราวกับชีวิตนี้ไม่เคยผ่านเรื่องเศร้า  หรือไม่เคยลำบากมาก่อน “ชีวิตลำบากครับ”  คุณหมอสันติพูดประโยคแรกพร้อมรอยยิ้ม  ก่อนเล่าต่อว่า  “ผมมีพี่น้อง 5 คน  พ่อเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ  ใกล้กับที่เช่ารถสามล้อของปู่  พอว่างก็ไปช่วยปู่ซ่อมรถ  แต่ปู่คุมเงินทั้งหมด  พ่อจึงมีเงินติดตัวไม่มาก  ไม่พอเลี้ยงทั้งครอบครัว  แต่แม่อยากให้ผมเรียนหนังสือ  จึงเอาเข็มขัดนากซึ่งมีอยู่เส้นเดียวไปจำนำเพื่อส่งผมเข้าเรียน ป.1  พอเรียนจนถึง ป.7  ก็ต้องออกมาทำงาน เด็กประถมจะทำงานอะไรได้หรือคะ แบกปูนซีเมนต์ให้ร้านขายเครื่องสุขภัณฑ์  โอ้ย… เกือบตาย  ปูนถุงหนึ่งหนัก 50 กิโลกรัม  ไปวันแรกโดนแกล้งโยนถุงปูนลงบ่า  ผมถึงกับหัวทิ่ม  แต่พวกที่แกล้งหัวเราะชอบใจ ทำงานสักพักอยากเรียนหนังสือต่อ  จึงขอเถ้าแก่เลิกงานเร็วขึ้นครึ่งชั่วโมงเพื่อไปเรียนภาคค่ำที่วัดแถวนั้น  เรียนได้ 3 ปีก็จบมัธยม จึงไปช่วยพ่อขับรถสองแถวรับส่งผู้โดยสารแถวถนนเชื้อเพลิงอยู่ […]

“ขวัญ หทัยรัตน์ สิริศรีสกุลชัย” เล่าอุทาหรณ์ “งูสวัด” พ่นพิษ เป็นอัมพาตครึ่งหน้า

ช่วงสิ้นปี 2020 ท่ามกลางบรรยากาศวันหยุดปลายปีที่ผู้คนเดินทางกลับบ้าน เพื่อใช้เวลากับครอบครัว เตรียมตัวฉลองปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง ทว่าสำหรับ “คุณขวัญ หทัยรัตน์ สิริศรีสกุลชัย” ทายาทโรงแรมลำปางเวียงทอง กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่คงลืมไม่ลง โดยเธอถูกโรคงูสวัดเล่นงาน จนเป็นอัมพาตครึ่งหน้า “ขวัญ หทัยรัตน์ สิริศรีสกุลชัย” เล่าอุทาหรณ์ “งูสวัด” พ่นพิษ เป็นอัมพาตครึ่งหน้า เช้าวันใหม่กับอาการหน้าเบี้ยว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันที่ 27 ธันวาคม 2020 ซึ่งเธอกลับไปใช้เวลากับครอบครัวที่จังหวัดลำปาง “วันนั้นตื่นเช้ามามีอาการเจ็บจี๊ดๆ ในหูข้างซ้ายเป็นพักๆ แต่คิดว่าอาจเป็นเพราะอาบน้ำแล้วคงเผลอใช้คอตต้อนบัดเช็ดหูแรงไปหน่อย จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก พอตกเย็นเริ่มมีอาการปวดบริเวณคอและบ่าสองข้าง คล้ายคนเล่นโทรศัพท์มือถือหรือพิมพ์งานนานๆ ประมาณว่าเป็นออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเราเป็นอยู่แล้ว เวลาทำงานหนักหรือเครียดจะมีอาการปวดบ่าและหลังแบบนี้ จึงซื้อยาคลายกล้ามเนื้อมากินก่อนนอนหนึ่งเม็ด เหมือนที่เคยกินแล้วหาย ผ่านไปสองวันอาการยังไม่ดีขึ้น แต่ไม่ได้เอะใจ เพราะเคยปวดแบบนี้มาเป็นเดือนๆ จึงกินยาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ “กระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม ตื่นเช้ามาไม่รู้สึกเจ็บแล้ว จึงไปวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะใกล้บ้าน ทำกิจกรรมนั่นนี่โน่นชิลๆ จนถึงเช้าวันที่ 31 ธันวาคม ตื่นเช้ามาเตรียมตัวจะออกไปวิ่งเหมือนเดิม ขณะล้างหน้าแปรงฟันก็เหลือบเห็นหน้าตัวเองในกระจก เอ๊ะ…ทำไมร่องริมฝีปากบนเบี้ยวไปทางขวา แต่ก็คิดว่าคงเพิ่งตื่นนอน หน้ายังไม่เข้าที่ […]

9 โรคเสี่ยงตายจาก ผลิตภัณฑ์อกฟูรูฟิต แม้เป็นสมุนไพรแต่ทำไมไม่ควรกิน!!

เชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีคนซื้อเพราะเชื่อโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงในโซเชี่ยลอีกมาก และก็ยังมีหลายคนที่อยากทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์อกฟูรูฟิต ที่กล่าวอ้างว่าช่วยให้อกฟูรูฟิต เพราะมีเพื่อนบ้านมาแนะนำให้ซื้อกิน บอกว่าจะช่วยให้หน้าอกใหญ่ขึ้นและทำให้ช่องคลอดกระชับ ซึ่ง พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ รพ.ประจำจังหวัดพิจิตร จะมาไขข้อข้องใจว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีอันตรายไหม และสามารถกินได้หรือไม่ ความกลัวที่ว่าสามีจะไม่รัก หากไม่เซ็กซี่ ไม่มีหน้าอกใหญ่ๆ ช่องคลอดไม่ฟิตกระชับนั้น ย่อมซ่อนอยู่ในใจของผู้หญิงจำนวนหนึ่ง นี่จึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ประเภทช่วยอกฟูรูฟิต ซึ่งขายดิบขายดีมียอดขายรวมหลายร้อยหลายพันล้านต่อปี หากเราเปิดอินเทอร์เน็ตค้นคำว่าอกฟูรูฟิต จะเจอกับผลิตภัณฑ์นับร้อยที่โฆษณาสรรพคุณว่าช่วยให้หน้าอกใหญ่ กระชับช่องคลอด ร่วมกับสรรพคุณด้านความงามอื่นๆ แต่ก็จะเจอผู้โพสต์เกี่ยวกับอันตรายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากมาย เช่น มีคนไข้รายหนึ่ง หลังจากกินผลิตภัณฑ์อ้างสรรพคุณอกฟูรูฟิตติดต่อกันเป็นเดือน พบว่าหน้าอกเต่งตึงขึ้นจริง แต่ปัสสาวะไม่ออก ปวดท้องรุนแรง ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัดด่วน เพราะมีเนื้องอกมดลูกขนาดโตเท่าผู้หญิงที่มีอายุครรภ์สี่เดือนกดทับกระเพาะปัสสาวะจากฤทธิ์ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว คนไข้อีกหลายรายประจำเดือนมามาก ตกเลือดจนต้องให้เลือด และไปจบที่ต้องนอนโรงพยาบาล ทั้งยังมีคนไข้เป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเต้านมกำเริบจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นได้ ในเมื่อคำโฆษณาของผลิตภัณฑ์กล่าวถึงสรรพคุณที่ว่าอกฟูรูฟิต มีส่วนประกอบของสมุนไพรจากธรรมชาติปลอดภัย มีงานวิจัยรับรอง มี อย. และ GMP ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แม้เป็นสมุนไพร แต่ไม่ผ่านการทดลองตามข้อกำหนดเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่จะรับรองให้เป็นยา จึงได้ชื่อว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือเสริมอาหาร ไม่ใช่ยา บนฉลากจึงไม่สามารถเขียนคำว่ารักษาโรคและป้องกันโรคได้ ส่วนการที่ อย.รับรอง แปลว่ามีส่วนประกอบของสมุนไพรตามฉลาก ไม่ได้แปลว่าได้ผลดีและปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ […]

หัวใจเต้นผิดจังหวะ

เรื่องของหัวใจเป็นเรื่องที่บอบบางและเข้าใจยากอยู่เสมอ หัวใจที่ว่านี้ ไม่ใช่เรื่องความรัก แต่เป็นก้อนเนื้อที่อยู่ภายในร่างกายของเรา ซึ่งหน้าที่ของหัวใจจะสูบฉีดเลือด

keyboard_arrow_up