ขอยอมรับตรงนี้เลยว่า ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พัดชาประสบปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่ยกกระชับเต่งตึงเหมือนสมัยวัย 20+ ชนิดที่จัดเต็มสกินแคร์เยอะเบอร์ไหนก็เอาไม่อยู่ แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี เพราะพัดชาได้รู้จักกับ Patcha Clinic (พัชชาคลินิก) ที่นอกจากจะดวงสมพงษ์กันด้วยชื่อแล้ว ที่นี่ยังเปรียบเสมือนเป็นเนื้อคู่ที่หากันจนเจอ เนื่องจากเขาขึ้นชื่อเรื่องการร้อยไหม ซึ่งเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างเห็นผล จนถึงขั้นได้รับรางวัล Iconic Thread Lifting Technique จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024
โดยวันนี้พัดชามาเยือน Patcha Clinic สาขาบางแค ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 2 ของเขาแล้ว ขอบอกเลยว่าใหม่เอี่ยม สวยงาม บรรยากาศเหมาะกับการทำสวยสุดๆ แถมยังเดินทางมาง่าย พิกัดคลินิกอยู่ติดกับห้างซีคอน บางแค ถ้านั่ง MRT มาก็ปักหมุดสถานีภาษีเจริญ แล้วพุ่งตัวไปยังทางออกที่ 2 ได้เลยค่ะ
ซึ่งครั้งนี้พัดชาได้รับการดูแลจากคุณหมอคนสวยฝีมือดี ‘คุณหมอมิลค์ – พญ.พิชญ์ญาพร ศิริอุดมเศรษฐ’ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ก่อตั้ง Patcha Clinic เองเลย ขั้นตอนนั้นก็พิถีพิถันครบถ้วน เริ่มที่คุณหมอมิลค์จะวิเคราะห์ปัญหาความหย่อนคล้อยอย่างละเอียด พร้อมอธิบายให้ฟังว่า การร้อยไหมช่วยกอบกู้รูปหน้าให้กลับมายกกระชับ ขึ้นกล้องทุกมุมมองได้อย่างไรบ้าง
โดยพัดชาประสบปัญหาหลักๆ คือผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ กระเปาะแก้มตอบ เริ่มมีร่องแก้มที่เกิดจากหน้าแก้มพับลงมา ซึ่งการร้อยไหมสามารถช่วยจัดการได้ โดยไหมจะช่วยดึงผิวให้กระชับขึ้น ซึ่งพัดชาได้ฝากความหวังไว้ที่ฝีมือและเทคนิคของคุณหมอมิลค์เรียบร้อยแล้ว
นอกจากการร้อยไหมจะช่วยเรื่องการยกกระชับแล้ว คุณหมอมิลค์ยังเล่าให้ฟังอีกว่า การร้อยไหมสามารถช่วยเรื่องการเติมเต็มได้ในระดับหนึ่ง เพราะการทำงานของไหมมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนด้วย
มาถึงช่วงเวลาของการขึ้นเขียงทำสวยที่หลายคนกังวลเรื่องความเจ็บ ก็ต้องขอเล่าให้ฟังเลยว่า เจ็บแค่ขั้นตอนการฉีดยาชาเท่านั้น ซึ่งเป็นความเจ็บแบบทนได้ เพราะคุณหมอมิลค์และคุณหมอทุกท่านของ Patcha Clinic ใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการร้อยไหม ที่แม้จะฉีดยาชาแล้ว แต่คุณหมอก็ไม่ลืมที่จะทำสวยให้อย่างเบามือที่สุด เพื่อป้องกันอาการช้ำ บวม หรือระบมหลังทำให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากประสบการณ์ครั้งนี้ของพัดชา ก็ต้องขอบอกเลยว่า คุณหมอมิลค์มือเบามากๆ ค่ะ
อีกหนึ่งจุดเด่นของการร้อยไหมที่ปลื้มมาก คือไม่ต้องพักฟื้นอะไรมากมาย เหมาะกับคนรักงานอย่างพัดชาสุดๆ และเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ รวมถึงคนที่ต้องการทำสวยเร่งด่วน ไม่มีเวลาพักฟื้น เช่น ออกงานสำคัญ แต่งงาน เป็นต้น โดยหลังทำใบหน้าจะดูตุ่ยๆ นิดหน่อยประมาณ 3 – 7 วันแรก เรียกว่าแทบดูไม่ออก หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนเรื่องแผลหลังทำก็เป็นรอยรูเข็มเล็กนิดเดียว ซึ่งส่วนใหญ่คือบริเวณไรผม ขมับ และหน้าหู ตรงจุดเหล่านี้ขอแค่ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ สกินแคร์ และเครื่องสำอางสัก 2 วัน ส่วนบริเวณอื่นๆ ก็ตามปกติได้เลย
ปิดท้ายด้วยเรื่องผลลัพธ์ที่หลายคนอยากรู้ หลังทำจะเห็นได้ว่าใบหน้าแลดูยกกระชับขึ้น แต่นั่นเป็นแค่ 50% แรกเท่านั้น โดยใบหน้าจะเริ่มเข้าที่เข้าทางแลดูเป๊ะยิ่งขึ้นในช่วง 4 – 6 สัปดาห์ผ่านไป ซึ่งพัดชาเอาภาพที่ถ่ายหลัง 4 สัปดาห์มายืนยันด้วย ทำสวยไปไม่เท่าไหร่ก็ถ่ายงานรัวๆ และจะบอกว่าจึ้งขึ้นกล้องสุดๆ ไม่ต้องหลบมุม ถ่ายรูปอย่างมีความสุขมาก
ส่วนข้อสงสัยที่ว่าการร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน คุณหมอมิลค์ก็อธิบายให้ฟังว่า การร้อยไหมจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี สำหรับไหมปกติ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มสังเกตเห็นความเป๊ะขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
เรียกว่าเวิร์คมากๆ สำหรับใครที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยตามวัย อยากยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ลองเปิดใจให้กับการร้อยไหม และต้องไม่พลาด! ปักหมุด Patcha Clinic กันได้เลยค่ะ