ทาทายังสาว 33 ที่ยังมหัศจรรย์

คุณหมอเตือนว่า เคสของทาไม่ควรออกกำลังหายหักโหม เพราะเวลาป่วยจะเป็นหนักและนานกว่าคนอื่น วิธีลดน้ำหนักจึงต้องเน้นไปที่การควบคุมอาหาร ซึ่งไม่ได้ทำเองมั่วๆ ทาอ่านข้อมูลทั้งจากหนังสือและอินเตอร์เน็ตเยอะพอสมควร

นานมาแล้วที่ “แพรว” กับ “ทาทา” ไม่ได้จับเข่าคุยกันยาวๆ และเป็นหลายปีที่เจ้าตัวไม่ค่อยพูดถึงชีวิตในทุกแง่มุมแบบนี้ หนนี้ เราชวนทาทามาอัพเดท ทุกๆ สิ่งสำคัญของชีวิต ตั้งแต่งานเพลงที่หลายคนอาจบอกว่า เธออยู่ในช่วงขาลง การต่อสู้โรคไทรอยด์ที่ทำให้อ้วนขึ้น 20 กิโลกรัม เรื่องน่ารักๆ ระหว่างทาทากับคุณพ่อที่จากไป ซึ่งอาจกระตุกให้หลายคนหันมามองคนใกล้ตัวมากขึ้น มุมมองความรักในวันนี้ ชีวิตส่วนตัว จนถึงการเป็นติ่งดาราเกาหลีแบบเข้าไส้ (ใครจะเชื่อ)

แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจคิดตรงกันเมื่ออาจบทสัมภาษณ์นี้จนจบ คือไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ‘ทาทา’ ยังเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ที่รักการร้องเพลงอย่างบ้าคลั่งเหมือนเดิม เป็นสาวมั่นที่เลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด ส่วนใครจะคิดอะไรนั้น ขอโทษที เธอไม่แคร์

และนี่คือส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์มันแซ่บของเธอในนิตยสารแพรว

เริ่มจากเรื่องรูปร่างก่อน ตอนนี้ดูทาทาผอมลงเยอะนะ
ใช่ค่ะ (ยิ้ม) น้ำหนักลดลง 15 กิโลกรัม จากที่เคยขึ้นมากว่า 20 กิโล ตั้งใจว่าให้ลงอีกสัก 5-6 กิโลกรัมก็น่าจะพอ ไม่อยากผอมมากเหมือนช่วงหนึ่งที่หนักแค่ 42 กิโลกรัม ซึ่งไม่พอดีกับส่วนสูง 172 เซนติเมตรเท่าไร ทาไม่ชอบหนังหน้าตัวเองตอนนั้นเลย นอกจากดูตอบ ยังไม่ค่อยมีแรง ร้องเพลงได้ไม่เต็มที่ ผิดกับตอนนี้ที่สุขภาพดีขึ้น มีเรี่ยวแรงออกไปทำโน่นนี่นอกบ้านได้ ทำให้จิตใจดีตามไปด้วย

มีวิธีลดน้ำหนักอย่างไรครับ
คุมอาหารอย่างจริงจังค่ะ สารภาพว่า ไม่ค่อยออกกำลังกาย มากสุดที่ทำคือ ดำน้ำซึ่งเป็นกิจกรรมโปรด เพราะทุกครั้งที่ออกกำลังกายหนักๆ ทามักจะป่วย ไม่ใช่ข้ออ้างนะ คุณหมอเตือนว่า เคสของทาไม่ควรออกกำลังหายหักโหม เพราะเวลาป่วยจะเป็นหนักและนานกว่าคนอื่น วิธีลดน้ำหนักจึงต้องเน้นไปที่การควบคุมอาหาร ซึ่งไม่ได้ทำเองมั่วๆ ทาอ่านข้อมูลทั้งจากหนังสือและอินเตอร์เน็ตเยอะพอสมควร

อย่างนิตยสารฉบับหนึ่งพูดถึงวิธีลดน้ำหนักของบียอนเซ่ ทำให้รู้ว่า นางคุมอาหารอย่างเคร่งครัด มีแค่มื้อเช้าที่กินเต็มที่ ส่วนมื้อเที่ยงค่อยเบาลงมา เริ่มจากกินผักรองท้องก่อน ต่อด้วยไก่ที่เป็นอาหารและโปรตีนหลัก ส่วนแป้งนี่ไม่แตะเลย เวลาไปสังสรรค์กับเพื่อนก็ดื่มแอลกอฮอล์น้อยๆ กินผักและน้ำเปล่าเยอะๆ เพื่อให้ขับสิ่งไม่ดีออก ทาลองใช้วิธีเหล่านี้ตั้งแต่ก่อนคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองเมื่อต้นปี เพิ่งมากินแป้งเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่แค่ข้าว 2 คำเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนั้นช่วยให้น้ำหนักลดลงเรื่อยๆ และคงบวกกับการไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ประเทศเยอรมัน เพื่อรักษาไทรอยด์และปัญหาฮอร์โมนที่ทำให้น้ำหนักเยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

ย้อนเล่าถึงช่วงที่ป่วยมากๆ หน่อยครับ
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาน่าจะหนักที่สุดในชีวิตแล้วละ พอป่วยก็ไม่อยากทำงาน เพราะในเมื่อเราทำได้ไม่เต็มที่ จะทำไปทำไม ตอนแย่สุดๆ แทบไม่มีแรง เหนื่อยง่าย อยู่แต่บนเตียงนอน แม้ไม่ค่อยกินอะไร แต่อ้วน ดื่มน้ำก็บวมน้ำ ปวดประจำเดือนจนต้องฉีดมอร์ฟีนช่วย ที่หนักสุดๆ คือสภาพจิตใจ เพราะนิสัยเราแอคทีฟ พอจู่ๆ ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนดูทีวีอยู่เฉยๆ ใจจึงยิ่งแย่ แล้วทาก็ดูทีวีแค่ไม่กี่ช่อง ไม่ดูช่องไทยนานแล้ว ไม่ได้แอนตี้นะคะ เพราะที่บ้านก็ไม่รับหนังสือพิมพ์ ไม่อ่านข่าวกอสซิป ยกเว้นจะมีคนมาเล่าให้ฟังบ้าง

ที่ทำแบบนั้นเกี่ยวกับข่าวต่างๆ ของตัวเองไหม
เกี่ยวค่ะ ไม่อยากรับรู้ และเมื่อเราไม่อยากรู้ข่าวของตัวเอง ก็ไม่ควรรู้ของคนอื่นด้วย จะรู้ไปทำไม ตัวเองยังไม่รอดเลย และไม่ใช่แค่ข่าวบันเทิง ทาเซ้นสิทีฟกับข่าวแย่ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งความจริงควรรู้บ้าง แต่เพราะอาการป่วยทำให้เราจิตตกง่าย พอรู้เรื่องแบบนั้นยิ่งอินแล้วคิดไม่เลิก จึงตัดสินใจตัดการรับรู้ มีช่วงหลังที่เริ่มกลับมารู้เรื่องต่างๆ กับเขาบ้าง

ครั้งหนึ่งเคยมีคำถามว่า ทาทาอยู่ในช่วงขาลงแล้วหรือเปล่า แต่คำตอบของทาเปรี้ยวมากว่า ฉันยังพีคตลอดเวลา
ใช่ค่ะ ทาดีตลอด ไม่เคยลง ความหมายคือ วันนี้เรายังทำได้ดีที่สุดอยู่ในแบบของตัวเอง ทุกคนต้องเจอมรสุม เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่แล้ว สิ่งที่ควรทำคือ ปล่อยวาง แล้วยอมรับ นี่คือสัจธรรมที่แน่นอนที่สุด ทาก็คิดอย่างนั้น เมื่อวานเราอาจเป็นแบบหนึ่ง แต่วันนี้เป็นอย่างนี้ ถ้ามีเสียงดูถูก ก็ช่างเขา เราไม่ฟัง ทาไม่สามารถทำให้ทุกคนเชื่ออย่างที่เราคิดได้ เพราะฉะนั้นการกำจัดคนแบบนี้คือ อย่านำมารกสมอง ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น ก็ยืนหยัดในสิ่งที่เป็น

วางแผนในวงการเพลงปี 2557 ไว้อย่างไรครับ
ทายังเป็นศิลปินที่ชอบอยู่บนเวที แม้ที่ผ่านมาอาจได้ทำงานหลายอย่างในวงการบันเทิง แต่วันนี้สรุปได้แล้วว่า เวทีคือพื้นที่ที่ทามีความสุขและสบายใจในการทำงานมากที่สุด หลังจากวันนี้ คนอาจเจอเราน้อย แต่ถ้าเจอคือ บนเวทีคอนเสิร์ต ทาไม่ได้พูดรวมถึงการร้องเพลงตามงานอีเว้นต์นะคะ ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ทาชอบความรู้สึกของคอนเสิร์ตใหญ่มากกว่า ซึ่งหลังจากนี้จะพยายามทำให้ได้ปีละ 1 ครั้ง

ในส่วนเรื่องการรับงาน ทาไม่ได้วางแผนแบบ 7 วันต่อจากนี้ ฉันต้องทำงานอะไรบ้าง อาจเพราะส่วนหนึ่งมีทีมงานช่วยดูแล ตัวเองจึงสามารถโฟกัสแบบวันต่อวันได้ ถ้าวันนี้รับผิดชอบงานอะไร ทามีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด อย่างช่วงนี้มีงานเฉลี่ยประมาณสัปดาห์ละ 2-3 วัน ทาไม่ได้รับทุกงาน ความจริงเจอตัวยากนะ แต่ถ้าเจอต้องเป็นงานพิเศษ มีคุณค่า ทาเลือกทุกงานด้วยตัวเอง ไม่เคยทำแบบพร่ำเพรื่อ อย่างวันนี้ที่มาคุยแพรว ทาก็ทิ้งระยะจากแม็กกาซีนฉบับอื่นมาพอสมควร ไม่อย่างนั้นคุยไปเยอะๆ ก็เหมือนกันหมด คนอ่านและหนังสือจะไม่ได้อะไรใหม่

ถ้าให้ย่อตัวตนทั้งหมอของทาทาลงในคำ 3 คำ นั่นคือ…
Oh my God… (ยิ้มไปคิดไป) Sing Happy Love ได้ร้องเพลง ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวัน มีความรักให้กับทุกคนที่หวังดีกับเรา สำคัญที่สุดคือรักตัวเอง ซึ่งถ้าพูดไปแล้ว สิ่งที่ทาได้รับมาตลอดชีวิตถือว่า มหัศจรรย์มาก เป็นชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่สนุกและครบรส ได้เป็นนักร้องอย่างที่ฝัน ซึ่งถือว่าโชคดีมาก เพราะทามีเพื่อนมากมายที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกับชีวิตกันแน่ หลายคนเรียนสาขาวิชาหนึ่งตั้งนานแล้วมาพบว่าไม่ใช่สิ่งที่ชอบ แต่ทาได้ทำสิ่งที่รักมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยเจอปัญหาว่า อยากทำหรืออยากเป็นอะไร เพราฉะนั้นทาจึงไม่เคยละเลยกับงานที่ทำอยู่เลย

ทุกครั้งที่ขึ้นเวที ไม่มีแม้แต่แวบเดียวที่จะไม่ทุ่มจนสุดชีวิต

เรื่อง :

Praew Recommend

keyboard_arrow_up