คุณหนูสายเท่! เปิดรถหรู ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ราคากว่า 17 ล้านบาท

Alternative Textaccount_circle

สวย เก่ง และรวยมาก สามคำนี้ต้องยกให้ ‘ลิซ่า BLACKPINK‘ ล่าสุดถอยรถหรู Mercedes – AMG G 63 ราคากว่า 17 ล้าน

เมื่อเป็นถึง CEO แห่ง LLOUD รถประจำตำแหน่งก็ต้องให้สมฐานะกันสักหน่อย ในวันเกิดครบรอบ 27 ปีบริบูรณ์ ช่อง Youtube: LLOUD Official ได้ลงคลิปพิเศษเป็นของขวัญให้เหล่าแฟนคลับนั่นคือ ‘Special Birthday Q&A with Lisa | 27 years around the sun | Exclusive Merch Drop‘ ซึ่งเป็นวีดีโอ Q&A เกี่ยวกับชีวิตของลิซ่า พร้อมฉลองปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ในบ้านของตัวเอง โดยท้ายคลิปจบด้วยซีนที่เจ้าลิซก้าวขึ้นรถของตัวเอง แต่ใครจะไปคิดว่าซีนไม่กี่วินาทีก็ทำให้แฟนคลับและชาวเน็ตแตกตื่นไปตามๆ กัน เพราะรถรุ่นที่ลิซ่าขับนั่นเอง

โดยรถรุ่นดังกล่าวคือ Mercedes – AMG G 63 ออกแบบมาในดีไซน์สปอร์ตเหมาะกับสายเท่ มาพร้อมกับกระจังหน้าหม้อน้ำสุดพิเศษที่มีเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ส่วนภายใน พวงมาลัย AMG Performance ตรงบริเวณที่จับตกแต่งด้วย DINAMICA microfibre แป้นเปลี่ยนเกียร์อลูมิเนียมและเครื่องหมาย 12 นาฬิกา จึงทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสนามแข่งรถ

สำหรับระบบการปรับโหมดขับขี่ ‘AMG DYNAMIC SELECT’ สามารถเปลี่ยนลักษณะการขับขี่ได้เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัส เลือกโปรแกรมการขับขี่รูปแบบต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบช่วงล่าง และการบังคับเลี้ยว สามารถเลือกได้ไม่ว่าจะเป็นโหมด “Sport+” เพื่อการขับขี่แบบเร้าใจ หรือจะเป็นโหมด “Comfort” เพื่อการเดินทางแบบสะดวกสบาย

โดยราคาเริ่มต้นของ Mercedes – AMG G 63 ตอนนี้อยู่ที่ 17,920,000.00 บาท แต่แอบเห็นว่าภายในตัวรถของลิซ่ามีการ Customize เบาะต่างๆ เป็นสีเหลือง จึงคาดว่าราคารถของเจ้าลิซอาจมีมูลค่าที่สูงกว่านั้น


ภาพ: www.mercedes-benz.co.th และ Youtube: LLOUD Official
ข้อมูล: www.mercedes-benz.co.th

หลุยส์ วิตตอง เผยโฉมทรังก์ใส่คบเพลิง และเหรียญ โอลิมปิก ปารีส 2024

account_circle

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับกีฬาโอลิมปิก 2024 ซึ่งปีนี้เจ้าภาพคือ ประเทศฝรั่งเศส โดยจะจัดขึ้นที่กรุงปารีส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม ต่อด้วยกีฬาพาราลิมปิกในวันที่ 28 สิงหาคม – 8 กันยายนนี้

และเนื่องจากจัดที่เมืองแฟชั่น งานนี้ LVMH อาณาจักร Luxury Brand ที่มีแบรนด์ดังกว่า 75 แบรนด์ อาทิ Louis Vuitton, Dior, Celine, Fendi และ Loro Piana จึงเข้ามามีบทบาทในมหกรรมกีฬาระดับโลกครั้งนี้ด้วย

ล่าสุด หลุยส์ วิตตองได้เปิดตัวทรังก์สำหรับใส่คบเพลิง และเหรียญรางวัลที่จะมอบให้กับนักกีฬาที่ชนะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ซึ่ง Pietro Beccari ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ หลุยส์ วิตตอง กล่าวว่า

“เรารู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2024 ที่ปารีส ด้วยภารกิจในการทำบรรจุภัณฑ์ และการนำเสนอสัญลักษณ์ที่นิยามถึงโอลิมปิกและพาราลิมปิก”

สำหรับ ทรังก์ ดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อปกป้อง และโชว์ตัวคบเพลิง ด้านนอกของทรังก์โดดเด่นด้วยลวดลาย Damier มุมต่างๆ ของทรังก์ถูกป้องกันด้วยโลหะทองเหลือง ด้านในตกแต่งด้วยหนังสีดำป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นผิวคบเพลิง พร้อมกับฝาปิดแบบบานพับที่มีโลโก้ โอลิมปิก ปารีส 2024 แบบนูน เป็นทรังก์ที่ออกมาแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบรับกับคบเพลิงสีแชมเปญที่สร้างสรรค์โดย แมธทิว เลฮานเนอร์ นักออกแบบชาวฝรั่งเศส

นอกจากทรังก์ใส่คบเพลิงแล้ว หลุยส์ วิตตองยังออกแบบ ทรังก์สำหรับใส่เหรียญกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิก จำนวน 468 เหรียญ ซึ่งออกแบบโดยแบรนด์จิวเวลรี่ Chaumet ซึ่งทรังก์สำหรับใส่เหรียญรางวัลนั้นได้รับแรงบันดาลใจจาก “malle coiffeuse” ซึ่งแต่เดิมสร้างขึ้นสำหรับช่างทำผม

ตัวทรังก์นั้นยังคงโดดเด่นด้วยลวดลาย Damier ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ส่วนกลางของทรังก์มีส่วนที่ไว้สำหรับโชว์เหรียญ และมีลิ้นชักตรงกลางยาวลงมา ขณะที่ด้านข้างเป็นบานพับสองบาน เมื่อเปิดออกเผยให้เห็นลิ้นชักที่ออกแบบเป็นพิเศษ มีระบบแม่เหล็กเพื่อยึดเหรียญให้เข้าที่อย่างปลอดภัยระหว่างการขนส่ง ที่จับลิ้นชักทำจากหนังสีดำด้าน โดยทรังก์ทั้งสองแบบนี้จะถูกเปิดตัวในคืนวันพุธนี้ที่ Ateliers Louis Vuitton

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ หลุยส์ วิตตอง รังสรรค์ทรังก์สำหรับแวดวงกีฬา โดยแบรนด์หรูสร้างทรังก์สำหรับถ้วยรางวัลมาตั้งแต่ปี 1988 โดยให้ความสำคัญกับการแข่งขันกีฬาที่โดดเด่นที่สุดของโลกหลายรายการ รวมถึง America’s Cup, Australian Open, Ballon d’Or, Davis Cup, FIFA World Cup, Grand Prix de Monaco, NBA Championship, Roland Garros และ Rugby World Cup เป็นต้น

แบรนด์ในเครือบ้าน LVMH จะมีบทบาทพิเศษในระหว่างการแข่งขัน โดยสตาฟของทีมฝรั่งเศสจะใส่เสื้อผ้าของ Berluti ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ในเครือ อาทิ Chaumet, Dior, Sephora และแผนกไวน์และสุราของ Moët Hennessy ก็เข้าร่วมด้วย


จูเนียร์-กาจบัณฑิต

จูเนียร์-กาจบัณฑิต จากชีวิตไม่มีเป้าหมาย สู่อาชีพนักแสดงที่อยากทำให้ดีที่สุด

Alternative Textaccount_circle
จูเนียร์-กาจบัณฑิต
จูเนียร์-กาจบัณฑิต

จูเนียร์-กาจบัณฑิต ใจดี เขาเกิดวันที่ 12 กรกฎาคม 2539 อายุ 27 ปี สีที่ชอบคือ สีน้ำเงิน จบการศึกษาด้าน สถิติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หนุ่ม “จูเนียร์” ได้เล่าถึงการเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงของเขาว่า “เริ่มจากที่พี่แป๊ะผู้จัดการ มาเห็นผมในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ผมยืนถือธงหลัง ริว วชิรวิชญ์ และ พี่แป๊ะ (ทศพล แปงแก้ว) ได้เห็นผม เขาเลยติดต่อมาครับ”

จูเนียร์-กาจบัณฑิต

“จูเนียร์” เผยมาว่า “ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยในการจะมาเป็นนักแสดง คือผมก็มีแพลนชีวิตของตัวเองอยู่แล้วว่าจะต้องเรียนตรงนี้เพื่อไปทำงานตรงนี้ แต่มันเริ่มเข้ามาในวงการ เพราะผมตั้งใจจะถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา หรือถ่ายเอ็มวี เพื่อนำเงินไปเรียนต่อปริญญาโท จะได้ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ ก็เริ่มจากตรงนั้นมาเรื่อย ๆ จนถึงตอนนี้ และพอได้มาเล่นละครเรื่องแรก มันไม่เหมือนที่คิดไว้ตอนเด็ก ๆ คิดว่ามันน่าจะง่ายแค่จำบทอะไรแบบนี้ แต่พอได้มาทำจริงมันยากกว่านั้น ต้องสื่ออารมณ์ ซึ่งตรงข้ามกับเราเลย เราเรียนมากับคอมพิวเตอร์นั่งอยู่คนเดียวแทบจะไม่ได้พูดอะไรกับใครเลยครับ”

ส่วนเรื่องนิสัยของหนุ่ม “จูเนียร์” เขาได้เผยมาว่า “จริง ๆ ผมเป็นคนขี้เล่น กวน ๆ ถ้าอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่สนิทด้วย แต่ว่าถ้าอยู่กับคนแปลกหน้าหรือว่าคนที่ยังไม่ทันได้เริ่มสนิทก็จะนิ่ง ไม่ค่อยพูด เริ่มบทสนทนาก่อนไม่เป็น แต่ถ้าได้สนิทก็คือรั่วเลยครับ”

จากนั้นหนุ่ม “จูเนียร์” ยังพูดถึงสิ่งที่เขาชอบทำในเวลาว่างว่า “ผมชอบดูหนัง ออกกำลังกายเตะบอล มีชกมวยบ้าง” ส่วนในเรื่องอาหารที่เขาชอบก็คือ “แทบจะทุกเมนูที่เกี่ยวกับเนื้อและอาหารทะเล”

และเมื่อ “จูเนียร์” มาสายอาหารทะเลขนาดนี้สถานที่ที่เขาชอบไปเที่ยวที่สุดทุกคนคงเดาว่าเป็นทะเลใช่ไหม แต่ผิดคาดจ้า หนุ่มคนนี้ชอบไปเที่ยว บนภูเขาธรรมชาติสวย ๆ เขาเผยว่า “ผมชอบไปเที่ยวภูเขาครับ มันดูย้อนแย้งกับสิ่งที่ผมชอบกินมาก (หัวเราะ) แต่มันคือคนละอย่างกัน ถ้าถามถึงสถานที่ที่ผมอยากไปเที่ยวจริง ๆ ก็คือ ภูเขา ป่าธรรมชาติ สบาย ๆ แต่ไม่ถึงขั้นแบกเป้ลุยป่าครับ”

มาถึงเรื่องที่สาว ๆ อยากรู้ว่าหนุ่มหล่อคนนี้ เขามีสเปคผู้หญิงแบบ “จูเนียร์” เผยว่า “ชอบคนร่าเริง น่ารัก ขี้อ้อน แพ้ทางแบบนี้ครับ”

และเมื่อเรื่องการวางเป้าหมายในวงการบันเทิงของ “จูเนียร์” เขาได้ให้คำตอบว่า “ผมเคยมีปัญหานี้ คือไม่รู้ว่าจะตั้งเป้าหมายในวงการบันเทิงยังไง จนผมไปถามกับพี่ซีน ภัสธรากรณ์ เพราะว่าตอนนี้กำลังถ่ายละครด้วยกัน ไปคุยกับเขาว่าไม่รู้จะตั้งเป้าหมายยังไง จนได้ขอสรุปว่าทำไมเราไม่ตั้งเป้าหมายแค่ว่าเราเป็นนักแสดง เราก็แสดงเรื่องที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ทำการบ้านให้มันละเอียดที่สุด ผมว่าแค่นี้ก็พอแล้วครับ”

ทั้งนี้ “จูเนียร์” ยังหลุดปากถึงเป้าหมายอื่น ๆ ที่อยากทำว่า “ผมอยากทำสตาร์ทอัพเป็นของตัวเอง จริง ๆ ก็แอบเริ่มทำแล้ว อยากทำเกี่ยวกับ Data Science เพราะว่าเราเรียนมาเลยไม่อยากทิ้งมันไป แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ และตอนนี้ก็มีเป้าหมายอยากฟิตหุ่นเพิ่มด้วย ผมได้ปรึกษา ออกัส เรื่องนี้อยู่ เพราะว่าหุ่นเขาดีมากครับ”

“JASPAL Tropicana” แรงบันดาลใจจากสีสันของดอกไม้เมืองร้อน

account_circle

ต้อนรับซัมเมอร์ JASPAL Tropicana” แรงบันดาลใจจากสีสันของดอกไม้เมืองร้อน ลวดลายแอนนิมอลพริ้นท์ของนกแก้วและนกเงือก รวมถึงเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นและสีสันสวยงามอย่างค็อกเทล ที่ทางแบรนด์นำมาร้อยเรียงเรื่องราวถ่ายทอดลงเสื้อผ้าหลากหลายดีไซน์ กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ไปจนถึงของตกแต่งบ้านเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สำหรับฤดูร้อนนี้

ไฮไลท์ไอเทมที่ห้ามพลาด! สำหรับคอลเล็คชั่นผู้หญิง ได้แก่ ชุดเดรสและชุดเข้าเซ็ตลวดลายนกแก้ว นกเงือก และพืชพรรณดอกไม้ในสไตล์ทรอปิคอล พิเศษสุดกับชุดว่ายน้ำหลากหลายสไตล์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะช่วงซัมเมอร์นี้เท่านั้น และคอมพลีทลุครับซัมเมอร์กับ IT Bag ใบใหม่อย่าง Raffia Bag ที่มีให้เลือกแมตซ์ถึง 5 สี ได้แก่ เบจ ส้ม เขียว ชมพู และ น้ำเงิน

ในส่วนคอลเล็คชั่นผู้ชายจะเน้นไปที่สไตล์แคชชวล เน้นการสวมใส่ที่ให้ความรู้สึกสบายแต่ยังแฝงความสมาร์ท อาทิ เสื้อฮาวาย รีสอร์ทที่มาพร้อมดีเทลพิมพ์ลายนกแก้วบริเวณด้านหลัง หรือจะเป็นชุดเข้าเซ็ตลายพริ้นท์ที่สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับไอเทมชิ้นอื่นๆ ในตู้เสื้อผ้าของคุณได้อย่างสนุกสนานตลอดทั้งปี

นอกจากเสื้อผ้าแล้วในโซนของ JASPAL Home & Lifestyle เอาใจคนชื่นชอบการแต่งบ้านให้คอมพลีท Mood รับซัมเมอร์ด้วยผลิตภัณฑ์ของตกแต่งบ้าน อาทิ เซ็ตจานชามสีสันสดใสในโทนสีแดง เหลือง น้ำเงินสไตล์ทรอปิคอล และหมอนอิงดีไซน์ใหม่ลายโมโนแกรมตัวอักษร “J” มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีแดงและสีน้ำเงิน


เผยมุมมองความรักของ 5 คนดังผ่านแคมเปญ คาร์เทียร์ “TRINITY CENTENARY”

account_circle

คาร์เทียร์ Trinity ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1924 และในปีนี้ก็ได้เดินทางมาครบ 100 ปี คาร์เทียร์เฉลิมฉลองการครบรอบของเครื่องประดับที่เป็นไอคอนิคนี้ด้วยภาพยนตร์แคมเปญใหม่ ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นอย่างงดงาม แสดงให้เห็นว่า Trinity ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความหลากหลาย

เผยมุมมองความรักของ 5 คนดังผ่านแคมเปญ คาร์เทียร์ “TRINITY CENTENARY”

Paul Mescal นักแสดงหนุ่มชาวไอร์แลนด์ มีชื่อเสียงในด้านฝีมือการแสดงที่ละเอียดอ่อนและทรงพลัง ไม่ว่าบนเวทีหรือหน้ากล้อง เขาแจ้งเกิดจากบทบาทอันโดดเด่นในซีรีส์ Normal People และหลังจากนั้นก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Actor ของเวทีออสการ์ รวมถึงรางวัลเกียรติยศอื่นๆ อีกมากมาย

“Trinity สำหรับผมแสดงถึงมิตรภาพ ความรัก และอ่อนโยน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้” – Paul Mescal

JISOO ศิลปินระดับโลก ตั้งแต่การเดบิวต์ JISOO ได้สร้างชื่อเสียงมากมาย ทั้งในฐานะนักร้อง นักแสดง และผู้ทรงอิทธิพลโลกโซเชียล ซึ่งมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 77.6 ล้านคน เธอสร้างประวัติศาสตร์และรวบรวมผู้คนทุกเจเนอเรชั่นจากทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักร้องของวง BLACKPINK ที่ประสบความสำเร็จ ไปจนถึงการเป็นนักแสดงมากความสามารถ

“สำหรับฉัน Trinity คือส่วนหนึ่งของชีวิต มันเชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องความหลากหลาย และช่วยให้ฉันยอมรับทุกแง่มุมของตัวเอง รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าที่จะเป็นตัวเองเช่นกัน” – JISOO

YARA SHAHIDI นักแสดงมากความสามารถ โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน และดาวเด่นจากซีรีส์ black-ish ทางช่อง ABC ที่เคยเข้าชิงรางวัล Emmy และ Golden Globe เธอสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในฐานะศิลปินมากความสามารถ และเป็นที่จับตามองในวงการฮอลลีวูด นอกจากนี้บัณฑิตสาวจากฮาร์วาร์ดคนนี้ยังเป็นที่รู้จักจากการมีส่วนร่วมทางสังคมและการขับเคลื่อนเพื่อสิทธิความเท่าเทียม โดยเฉพาะการสนับสนุนความหลากหลายบนหน้าจอภาพยนตร์ เมื่อปี 2023 เธอรับบทเป็น Tinkerbell ในภาพยนตร์ Peter Pan and Wendy และยังรับบทนำในเรื่อง Sitting in Bars with Cake   ซึ่งเธอยังเป็นผู้อำนวยการผลิตอีกด้วย

“สำหรับฉัน Trinity คือสัญลักษณ์ของสายสัมพันธ์และความรัก ซึ่งสอดคล้องกับชีวิตของฉันที่เกิดขึ้นจากความรัก อันเต็มเปี่ยมที่ได้รับจากคอมมูนิตี้ที่คอยสนับสนุน” – YARA SHAHIDI

Jackson Wang ศิลปิน นักแสดง แฟชั่นดีไซเนอร์ และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ผู้มีผู้ติดตามรวมกว่า 97 ล้านคนบนโซเชียลมีเดียต่างๆ เขาคือผู้ก่อตั้ง TEAM WANG และเป็นศิลปินชาวจีนคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงบนเวที Coachella ติดต่อกันถึงสองปี

“ผมหวังว่าทุกคนจะค้นพบมาตรฐานของความสุขและความพึงพอใจในแบบของตัวเอง ผมกำลังสร้างความเชื่อมโยงทางความรู้สึกที่สะท้อนถึงคุณค่าของ Trinity” – Jackson Wang

LABRINTH นักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “หนึ่งในนักดนตรีอังกฤษที่สำคัญที่สุดของยุค” เขาประสบความสำเร็จอย่างมากกับผลงานอัลบั้มเดี่ยว 3 ชุด (Electronic Earth, Imagination & the Misfit Kid, Ends & Begins) นอกจากนี้ Labrinth ได้รับบทบาทเป็นนักแต่งเพลงประจำซีรีส์ยอดนิยม Euphoria ของช่อง HBO ทั้งซีซั่น 1 และ 2 ฝีมือของเขาการันตีด้วยรางวัลจากเวที EMMYs, Ivor Novellos, และ Brits รวมถึงการเข้าชิงรางวัล GRAMMY หลายครั้ง ในฐานะโปรดิวเซอร์ Labrinth เคยร่วมงานกับศิลปินระดับโลกมากมาย อาทิ Beyoncé, Rihanna, The Weeknd, Ed Sheeran, Billie Eilish และอีกมากมาย นอกจากนี้เขายังเป็นสมาชิกของกลุ่ม LSD ร่วมกับ Sia และ Diplo

“การได้รู้สึก ได้รัก และได้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกันเป็นประสบการณ์ที่วิเศษ การคอลลาบอเรชันได้เชื่อมโยงโลกที่แตกต่าง และรังสรรค์สิ่งใหม่ร่วมกัน นี่แหละคือสัญลักษณ์ความเป็นสากลอันแท้จริงของ Trinity” – LABRINTH


แอนน์ แฮทธาเวย์

ในจอฟาดหลังจอซี้ปึกคุยกับเพื่อนรัก แอนน์ แฮทธาเวย์ & เจสสิกา แชสเทน

Alternative Textaccount_circle
แอนน์ แฮทธาเวย์
แอนน์ แฮทธาเวย์

ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่น่าจับตาสำหรับ “Mothers’ Instinct สันดานแม่” ภาพยนตร์เขย่าขวัญจิตวิทยาเรื่องใหม่ที่ดัดแปลงมาจากนิยาย “Derrière La Haine” ของ “บาร์บารา อาเบล” นำแสดงโดยสองนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง “เจสสิกา แชสเทน” (The Eyes of Tammy Faye) และ “ แอนน์ แฮทธาเวย์” (Les Misérables) กับบทบาทเพื่อนรักเพื่อนร้ายที่พร้อมเล่นสงครามประสาทเขย่าขวัญผู้ชมกันแบบไม่ปรานี และถือเป็นการร่วมงานแบบจริงจังเป็นครั้งแรกหลังจากที่ทั้งสองเคยอยู่ในภาพยนตร์เดียวกันมาแล้วใน Interstellar เมื่อปี 2014

สำหรับ “Mothers’ Instinct” บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุค 60 เมื่อ อลิส (เจสสิกา แชสเทน) และ เซลีน (แอนน์ แฮทธาเวย์) สองสาวเพื่อนซี้ที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านกัน และทั้งคู่ยังมีลูกชายที่มีอายุใกล้เคียงกัน พวกเธอมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่ทุกอย่างพังทลายลงเมื่อเจอกับอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทำให้สูญเสียลูกชายคนหนึ่งในพวกเธอไป ความเคลือบแคลงค่อยๆกัดกินจิตใจของทั้งคู่ และทำลายความผูกพันของสองสาว เมื่อสัญชาตญาณความเป็นแม่เข้าครอบงำ ต่างคนต่างเผยสันดานแม่ออกมาเกิดเป็นสงครามสั่นประสาทสุดกดดันที่ระทึกจนเกินคาดเดา คอหนังและแฟนๆเตรียมปักหมุดพบกับการฟาดฟันกันของ 2 ตัวแม่ได้ใน “Mothers’ Instinct สันดานแม่” 4 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

แอนน์ แฮทธาเวย์

บทสัมภาษณ์ แอนน์ แฮทธาเวย์ & เจสสิกา แชสเทน

คุณมานำแสดงในหนังเรื่องนี้ได้อย่างไร?

แฮทธาเวย์: เจสสิกากับฉันได้พบกันในภาพยนตร์เรื่อง Interstellar แต่เราเจอกันตอนเดินสายสื่อมากกว่าตอนถ่ายทำ เพราะตัวละครของเราไม่มีฉากร่วมกันและฉันก็ไม่รู้สิ เราเริ่มใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเรากลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เมื่อเจสสิกาส่งภาพยนตร์ต้นฉบับเรื่องนี้มาให้ บอกว่าเธออยากนำมาดัดแปลงเป็นภาษาอังกฤษ ฉันตกลงทันที ฉันอยากร่วมผจญภัยและสร้างสรรค์พร้อมกับเธอ ดูว่ามันเป็นยังไงและได้เรียนรู้วิธีการทำงานของเธอ แล้วในเดือนมิถุนายนที่สุดหม่นในนิวเจอร์ซีย์ เราก็ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ที่หม่นไม่แพ้อากาศเรื่องนี้ และตอนนี้เรากลับมาสนุกกันอีกครั้ง

แชสเทน: ขอบคุณพระเจ้า

Day 19_06232022-31.JPG

เบอนัวต์ เดลออมม์ บอกกับเราว่าเขาไม่มีทางทำหนังเรื่องนี้ได้ ถ้าไม่เคยเป็นพ่อ คุณเองในฐานะแม่ ได้ใช้ประโยชน์จากมันในการเข้าถึงบทบาท อลิซ บ้างไหม?

แชสเทน: ฉันไม่ได้คิดถึงชีวิตส่วนตัวหรือในแง่ของการเป็นแม่ ฉันคิดว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าอยู่ในสังคม ทุ่มหัวใจให้ชายคนหนึ่ง ใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายที่มีอำนาจจะส่งคุณเข้าโรงพยาบาลบ้าหากคุณไม่เดินตามกรอบบางอย่าง และบทบาทเดียวที่ทำให้อลิซมีค่า และถูกมองเห็นในสังคมคือการเป็นแม่ ประเด็นนี้สำคัญมากแค่ไหน? ใช่ มันสำคัญ แน่นอนว่ามีความผูกพันทางอารมณ์ ความรักและความปรารถนาที่จะเลี้ยงดูลูกให้เติบโต แต่มันก็เป็นเรื่องค่านิยมในยุคนั้นด้วย เพราะคุณจะทำอย่างอื่นไม่ได้เลย การเป็นแม่ในยุค 60 มันเป็นแบบนั้น ฉันมองที่ประเด็นนี้เป็นหลักในการเข้าถึงตัวละครนี้

Day 18_06222022-194.JPG

คุณเตรียมตัวอย่างไรเมื่อเริ่มถ่ายทำ และคุณฟื้นตัวเมื่อหมดวันอย่างไร?

แฮทธาเวย์: ฉันพูดตามตรง ฉันบล็อกทุกอย่างเลย ฉันจำได้ว่าฉันปรึกษาคือเจสสิกาและเบอนัวต์ ซึ่งฉันโชคดีที่ได้ทำงานกับเขามาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง One Day ฉันรู้ว่าเจสสิกาเคยทำงานกับเขามาก่อนด้วย ฉันบอกพวกเขาว่า ‘ฉันรู้ว่าเราคุ้นเคยกันดี แต่ช่วยเรียกฉันด้วยชื่อตัวละครเท่านั้น อย่าถามเรื่องส่วนตัวของฉัน อย่าถามเรื่องลูกๆของฉัน ฉันรู้ว่าคุณรักรักฉัน ฉันก็รักคุณเช่นกัน แต่ฉันทำตามขั้นตอนนี้ทุกวันเพื่อให้เข้าถึงตัวละคร’ แล้วเมื่อถึงวันสิ้นสุดวันฉันก็ต้องทิ้งเซลีนไว้ตรงนั้น ฉันพยายามทิ้งช่องว่างระหว่างตัวเองกับตัวละครไว้ ไม่รู้สิ ฉันจำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นอย่างไร เราถ่ายกันแค่ 24 วัน ฉันแค่จำได้มันมีช่วงที่ฉันรู้สึกกลับมาเป็นตัวเอง ฉันเงยหน้าเจสสิกากำลังจะสติแตก แล้วฉันก็กังวลมาก ได้แต่คิดว่า ‘โอ้ไม่มันไม่ใช่เจสนะ มันคืออลิซ’ มันเป็นช่วงเวลาที่ประหลาดจริงๆ

แชสแทน: แปลกจริงๆ เป็น 24 วันที่ยาวนานและสั้นที่สุดในชีวิตฉันเลย และตอนนี้มันดีขึ้นเยอะ

Day 20_06242022-23.JPG

การทำงานของคุณทั้งคู่เป็นยังไงบ้าง สนุกสนาน เฮฮา ไหม?

แชสแทน: ไม่เลย ด้วยความที่เราทั้งคู่เป็นโปรดิวเซอร์ นี่เป็นหนังพีเรียดที่งบจำกัดมากถ้าเทียบกับสเกล มันมีบางวันที่เราไม่รู้ว่าซีนที่เราเตรียมกันอยู่จะอยู่ในหนังจริงหรือไม่ คือถ้าเราถ่ายไม่ทันวันนี้ก็ต้องตัดทิ้งไปเลย ไม่มีเวลามาย้อนถ่ายใหม่ มันเครียดพอสมควร…

แฮทธาเวย์: ใช่

แชสแทน: …การทำงานแข่งกับเวลาแบบนี้ อย่างที่แอนน์เล่าไป บางครั้งเรามีโอกาสถ่ายได้แค่ช็อตละ 2 เทกเท่านั้น มันช่าง…เอาเป็นว่ามันทำฉันเครียดเลยทีเดียว

แฮทธาเวย์: เจสสิกาเทกเดียวผ่านตลอด ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน จะทำแบบเธอได้ต้องมีทักษะการแสดงสูงมาก แต่มันช่วยให้ฉันรีดศักยภาพของฉันออกมา เพราะฉันจะทำให้เธอผิดหวังไม่ได้ เหมือนที่เจสสิกาพูดไว้เป๊ะ มันเป็น 24 วันที่ยาวนานและสั้นที่สุดในชีวิต คุณไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ แม้จะมีเวลาพัก แต่คุณพักไม่ลงหรอก เราอินกับบทตลอดเวลา สำรวจถึงเบื้องลึก

แชสเทน: ใช่

แฮทธาเวย์: พอเราหลุดออกมาแล้ว เราไม่เคยกลับไปพูดถึงมันอีกเลย

BEAUTRIUM เปิดตัว KIKO Milano แบรนด์เครื่องสำอางจากอิตาลี คัดสรรบิวตี้ไอเท็มสุดปังกว่า 500 รายการ

Alternative Textaccount_circle

BEAUTRIUM เปิดตัว KIKO Milano แบรนด์เครื่องสำอางอันดับ 1 จากอิตาลี พร้อมคัดสรรเมคอัพไอเท็มสุดปังกว่า 500 รายการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สาวไทย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ KIKO Milano เลือกจับมือกับร้านบิวตี้มัลติแบรนด์ พร้อมขนทัพผลิตภัณฑ์และของขวัญสุด Exclusive ที่ BEAUTRIUM สาขา Siam Square Flagship Store

สำหรับแบรนด์ KIKO Milano เป็นเเบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติอิตาลีที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 ที่เมืองมิลาน ตั้งแต่นั้น KIKO Milano ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำ และบุกเบิกแนวคิดไปจนถึงเมคอัพใหม่ๆ ให้กับหลากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งยังสร้างกระแสความงามต่างๆ ทำให้เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ มีการผสมผสานทั้งคุณภาพ และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับ ART BEAUTY JOY คอนเซ็ปต์ของแบรนด์ KIKO Milano

KIKO Milano ได้ก้าวข้ามกรอบแนวคิดเกี่ยวกับความงามแบบเดิมๆ และเล็งเห็นถึงความสวย ที่ไร้รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเฉดสี และเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย สามารถใช้ได้ทั้งกับช่างแต่งหน้ามืออาชีพไปจนถึงผู้บริโภคที่หลงใหลในการแต่งหน้า ซึ่งสอดคล้องกับทาง BEAUTRIUM ที่ต้องการเพิ่มความหลากหลายทั้งในเรื่องไลฟ์สไตล์เเละความงาม ตอบสนองเทรนด์ของกลุ่มลูกค้าหลักในทุกเจนเนอเรชัน (Generation) เเละคงคอนเซ็ปต์การนำเสนอสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ BEAUTRIUM เเละ KIKO Milano จึงถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวของผู้นำเทรนด์ในวงการความงามระดับสากล อีกทั้ง KIKO Milano ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์การช้อปแบบใหม่ๆ ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และยังคงได้รับคำแนะนำจาก Beauty Advisor ที่เชี่ยวชาญในเรื่องของ การแต่งหน้า สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเชื่อว่า BEAUTRIUM สามารถตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของ Customer Centric ที่ทั้ง KIKO Milano และBEAUTRIUM เองต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้


เปลี่ยนลุคให้สดใส! อัพเดท 6 ไอเท็มรับซัมเมอร์ในธีม ‘HAWAII CALLING’

Alternative Textaccount_circle

ถึงเวลาอัพเดทตู้เสื้อผ้า ส่องไอเท็มซัมเมอร์ในธีม ‘HAWAII CALLING’ จาก CC DOUBLE O

CC DOUBLE O ต้อนรับซัมเมอร์ด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสจากคอลเล็คชั่นล่าสุด ที่มาในธีม “HAWAII CALLING” โดดเด่่นด้วยลวดลายพริ้นท์และสีสันแรงบันดาลใจจากท้องทะเล ถ่ายทอดออกมาผ่านเสื้อผ้าหลากหลายดีไซน์ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการสวมใส่ที่มอบความรู้สึกสบาย

สำหรับคอลเลกชั่นนี้ คุณจะได้สนุกไปกับกลิ่นอายของสถานที่ท่องเที่ยวภาคพื้นทะเลสุดฮิตของโลกที่ถูกถ่ายทอดผ่านเสื้อผ้า อาทิ เสื้อยืดพิมพ์ลายทะเลฮาวายและสาวฮูล่าแดนซ์ เสื้อทรงฮาวายเชิ้ต เสื้อเชิ้ต และกางเกงขาสั้นผ้า Seersucker เสื้อยืดแบบ Knit เข้าเซ็ตแบบ Co-ordinate ทรง Oversize ขนาดวงแขนที่กว้างทำให้สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้หลากหลายสไตล์ที่เป็นตัวเอง

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด! คือ “OMBRE BEACH” โดดเด่นด้วยโทนสีเขียวมะนาว สีฟ้าโอเชียนบลู ที่สีสันสดใสเหมาะกับฤดูกาลนี้ที่สุด เพิ่มความสนุกให้เสื้อผ้าด้วยเทคนิกการไล่เฉดสี การมัดย้อมแบบ Dip Dye และ Tie Dye และดีไซน์ลวดลายโมโนแกรมพร้อมคาแรกเตอร์ Raccool ที่มาในกราฟฟิก Activity สุดเท่ในฤดูร้อนที่สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์หรือจะใส่เป็นชุดเซ็ตแบบ Co-ordinate ก็ลงตัว


การเดินทางของ Ayan สาวช่างฝัน สู่การเป็นศิลปินระดับโลก ผู้สร้างสรรค์ DIMOO

การเดินทางของ Ayan สาวช่างฝัน สู่การเป็นศิลปินระดับโลก ผู้สร้างสรรค์ DIMOO หนุ่มน้อยตากลมโต ที่พร้อมขโมยหัวใจคนทั่วโลกตั้งแต่แรกพบ

Alternative Textaccount_circle
การเดินทางของ Ayan สาวช่างฝัน สู่การเป็นศิลปินระดับโลก ผู้สร้างสรรค์ DIMOO
การเดินทางของ Ayan สาวช่างฝัน สู่การเป็นศิลปินระดับโลก ผู้สร้างสรรค์ DIMOO

อาร์ตทอยส์ (Art Toys) หรือ ‘ดีไซน์เนอร์ทอยส์’ (Designer Toys) ถือเป็นงานศิลปะที่มีคุณค่า ของเล่นที่เปี่ยมล้นไปด้วยแรงบันดาลใจ จากศิลปินที่ส่งออกให้ผู้ที่ชื่นชอบผลงานได้เสพงานศิลปะ มอบความสุข สร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงยังช่วยเยียวยา อีกทั้งยังเติมเต็มความฝันวัยเด็กของใครอีกหลายคนได้อีกด้วย

หากพูดถึงคาแรคเตอร์สุดน่ารักที่จะทำให้คุณยิ้มตามได้ง่ายๆและกำลังเป็นกระแสในตอนนี้คงหนีไม่พ้น ‘Dimoo’ (ดีมู่) เด็กชายตากลมโตสุดน่ารัก ที่มีสัญลักษณ์รูปก้อนเมฆอยู่บนหัวที่ทุกคนคุ้นตา ที่ถือเป็นผลงานสร้างชื่อของศิลปินชื่อดัง Ayan Deng ที่วันนี้เราจะขอพาทุกคนมาร่วมเดินทางเข้าสู่เรื่องราวการเดินทางตามความฝันของเธอกัน

อาเยียน เติ้ง (Ayan Deng) เป็นศิลปินชาวจีน นักวาดภาพประกอบ จบการศึกษาจากสถาบันศึกษาวิจิตรศิลป์กวางโจว หลังจากเรียนจบเธอก็เริ่มต้นเดินทางตามความฝันของเธอทันที โดยเธอนั้นเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสตูดิโอชื่อว่า MOUNTAIN STUDIO และหลังจากนั้นเธอก็ได้เริ่มสร้างสตูดิโอเป็นของตนเองชื่อว่า YAN STUDIO และใช้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์กว่า 2 ปีในการสร้างอาณาจักร Dimoo World ขึ้นมา โดยในอาณาจักรนี้ยังมีเหล่าคาแรคเตอร์ที่เธอเคยสร้างไว้อย่าง Candy, Snooks, Niko และ Mr.Worm แต่ปัจจุบัน น้องๆเหล่านี้ก็ยังไม่หายไปไหน เพราะยังปรากฏอยู่ในจักรวาลของ Dimoo อีกด้วย โดยอาณาจักรนี้ถือเป็นศูนย์รวมให้ทุกคนได้ใจฟูกับความน่ารักจากผลงานสร้างสรรค์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยจินตนาการของอาเยียน ที่ใส่ความเป็นตัวเองถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเด็กชายตากลมโต Dimoo ที่ทุกคนกำลังหลงรักอยู่นั่นเอง

Dimoo เด็กชายที่มาพร้อมดวงตากลมโตอันใสซื่อ ปัจจุบันอายุ 6 ขวบ ย่าง 7 ขวบแล้ว เป็นวัยที่กำลังน่ารัก มีความเป็นมิตร และเข้าถึงง่าย Dimoo ถูกออกแบบให้เป็นเด็กชายนักผจญภัยที่มีความพิเศษ สามารถบินได้อย่างอิสระ และมีหัวเป็นก้อนเมฆ ซึ่งน้อง Dimoo เป็นเด็กขี้อาย หวาดกลัวอนาคต แต่ทว่าหากอยู่ในโลกแห่งความฝัน เด็กน้อยจะมีความกล้าหาญในการสำรวจโลกใบใหม่ โดยในระหว่างการผจญภัย Dimoo ได้พบเหล่าเพื่อนใหม่มากมาย และหนึ่งในนั้นมี Mother Cloud ที่ได้นำ Baby Cloud วางไว้บนหัวของ Dimoo จนกระทั่ง Baby Cloud ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของน้อง Dimoo ที่คอยปกป้องและเปลี่ยนอารมณ์ไปตามน้อง Dimoo ได้อีกด้วย

เรื่องราวน่ารู้ของ Dimoo หนูน้อยนักผจญภัย

  • Dimoo มีใบหน้าที่อ่อนหวาน ดวงตากลมโต และถูกออกแบบให้ดูสดใสแม้ว่าจะใช้เพียงสี monotone อย่างสีขาวหรือสีดำ เพื่อสื่อถึงความฝันในรูปแบบที่ อาเยียน จินตนาการ
  • อาเยียน ได้ใส่เทคนิคพิเศษ ที่ทำให้คอลเล็คชันแต่ละคอลเล็คชันนั้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อย่างการเปลี่ยนสีได้เมื่อโดนน้ำ ทำให้นักสะสมต่างสนใจและตามหา

“ตอนเด็กๆ ฉันเป็นคนชอบนอนมาก เพราะเวลานอนจะได้ฝัน ฉันชอบความรู้สึกที่ได้อยู่ในความฝัน ในนั้นมีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสีสัน ฉันคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นฉันจึงออกแบบคาแรคเตอร์มากมายที่เกี่ยวกับความประทับใจในวัยเด็กของฉัน และฉันคิดว่า Dimoo เป็นตัวแทนที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและความฝันวัยเด็กของฉันออกมาได้อย่างดีที่สุด และฉันหวังว่า Dimoo จะสามารถเยียวยาจิตใจ สร้างความสุข และสร้างความกล้าหาญให้กับผู้คนแทนฉันที่ไม่สามารถทำได้จริง” อาเยียน เล่าอย่างมีความสุข

สรุปได้ว่า แรงบันดาลใจในการสร้าง Dimoo นั้นมาจากการที่คุณอาเยียน ชื่นชอบโลกแห่งความฝัน จึงต้องการถ่ายทอดออกมา โดยมีน้อง Dimoo ในการพาทุกคนผจญภัยไปด้วยกันนั่นเอง

Dimoo เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 กับ POP MART และต่อมาในปี 2019 เธอได้เริ่มสร้าง Dimoo World Series ซึ่งเต็มไปด้วยคอลเล็คชันที่น่าสนใจมากมาย โดยปัจจุบัน Dimoo กลายเป็นหนึ่งในอาร์ตทอยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีการผลิตคาแรคเตอร์ Dimoo ออกมาหลายร้อยแบบ แบ่งเป็นคอลเลคชั่นต่างๆ มากมายให้เหล่าแฟนคลับได้เก็บสะสมกันอย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้ Dimoo ได้รับความรักจากผู้คนอย่างท่วมท้นและกระแสตอบรับก็ดีมากๆตอนแรกที่รู้ก็แอบงงเหมือนกัน ฉันรู้สึกว่าความสามารถของฉันคู่ควรที่จะได้รับความรักจากผู้คนมากมายจริงๆเหรอ? บางทีฉันก็แอบคิดสงสัยขึ้นมาแต่อย่างน้อยแค่มีคนชอบเขา (Dimoo) แค่นี้ก็ทำให้ฉันมีความสุขมากแล้ว”

นอกจากนี้ Dimoo ยังมีคอลเล็คชันมากมายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ได้แก่

  • DIMOO Retro Series Figures คอลเล็คชันนี้เผยตัวตน DIMOO ที่กล้าหาญในรูปแบบต่างๆ ทั้งในจินตนาการสุดอัศจรรย์ และอาชีพในฝันที่หลายคนอยากเป็น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์ Dimoo อีกหลายๆ เวอร์ชัน โดย AYAN นำสิ่งที่ปรารถนาในวัยเด็กมาเป็นแรงบันดาลใจในการ สร้างสรรค์เด็กน้อยช่างฝันชอบท่องเที่ยวผจญภัย ซึ่งในความฝันเธอได้พบกับสิ่งต่างๆ และผองเพื่อนมากมาย ที่เป็นกระจกเงาที่คอยสะท้อนความทรงจำในอดีต
  • DIMOO Jurassic World Series คอลเล็คชันนี้ Dimoo ผจญภัยในโลกล้านปีกับบรรดาไดโนเสาร์ยุค จูราสสิก ในสวนสนุกไดโนเสาร์ Jurassic World บนเกาะอิสลานูบลาร์ ซึ่งถอดแบบภาพจากทางเข้า Jurassic Park
  • DIMOO Dating Series เรื่องราวความรักของ DIMOO ที่จะมาทำให้นึกถึงความรู้สึกความตื่นเต้น ของโมเม้นท์ไปเดทที่มีแต่ภาพทรงจำอันน่าประทับใจ
  • DIMOO: No One’s Gonna Sleep Tonight Series Figures คอลเล็คชั่นนี้ Dimoo เผยความกล้าหาญด้วยการออกตามล่าผีแบบต่างๆ ในปราสาทร้างแห่งหนึ่ง ณ ที่แห่งนี้ Dimoo ได้เปลี่ยนความน่ากลัวให้กลายเป็นการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น และสนุกสนาน
  • DIMOO Letters from Snowman Series Figures คอลเลคชั่นเทศกาลแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น กับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเวทย์มนตร์และความมหัศจรรย์ โดยคอลเล็คชั่นนี้เป็นอีกหนึ่งคอลเล็คชั่นที่ถูกตามหามากที่สุด

Dimoo ยังมีไซส์พิเศษที่ผลิตมาในจำนวนจำกัดมากๆ โดยมีเพียงไม่กี่ตัวในโลก รวมถึงคอลเล็คชันพิเศษที่คอลแลปกับศิลปินในสาขาต่างๆ มากมายอีกด้วย

  • Just Dimoo Maple Syrup Cocoa 400% “บางคนไม่ชอบช็อกโกแลต และเมเปิ้ลไซรัป“ แต่เราทุกคนไม่สามารถที่จะต้านทานความหวานของช็อกโกแลต และเมเปิ้ลไซรัปได้เลย เพราะของหวานจะช่วยเข้ามาเติมเต็มความสุขนั้นเอง นี่คือ Dimoo ที่มีผิวสีช็อกโกแลต แค่มองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นและรสชาติของไซรัปที่หอมหวาน
  • Just Dimoo Mika Ninagawa 1000% การ Collaboration ระหว่าง DIMOO X Mika Ninagawa ช่างภาพชื่อดังของญี่ปุ่น ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่นำความวิจิตรงดงามของมวลดอกไม้ ที่ถ่ายทอดศิลปะเกี่ยวกับดอกไม้ และ ความสวยงามไว้บนตัว
  • Mega Collection 1000% Just Dimoo Snowman เรื่องราวการผจญภัยในดินแดนหิมะที่อากาศหนาวเย็น จนทำให้ผมของ Dimoo เต็มไปด้วยหิมะที่ตกมาจากท้องฟ้า

และล่าสุดกับคอลเล็คชันล่าสุด Dimoo Animal Kingdom Series Figures พบกับจินตนาการสุดล้ำในอาณาจักรที่เต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่มากมาย และครั้งนี้ Dimoo ได้รับมอบหมายให้เป็นพี่เลี้ยงลูกๆของสัตว์เหล่านั้น พร้อมคอลเล็คชัน new launch ต้อนรับฤดูกาลสดใส เฉพาะที่นี่อีก 2 คอลเล็คชัน อย่าง DIMOO We are all performers figures และ DIMOO vacation rabbit action figure

โดยคอลเล็คชั่นล่าสุดนี้ วางจำหน่ายที่POP MART ทุกสาขา ตั้งแต่ 22 มีนาคม 2567 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนได้สำเร็จเท่านั้น และเตรียมพบกับ Dimoo Exclusive EVENT วันที่ 28-31 มีนาคม นี้ ณ ศูนย์การค้าเซนทรัลลาดพร้าวบริเวณชั้น

ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ที่แฟนคลับชาวไทยห้ามพลาด! ครั้งแรกกับ POP MART ประเทศไทย ที่ได้รับเกียรติจากศิลปินระดับโลกอาเยียน เติ้งเดินทางมาพบปะแฟนๆชาวไทยที่มีใจรักในงานศิลปะ Art Toys หรือหลงรักน้อง Dimoo อย่างเต็มตัว ต้องห้ามพลาดงานนี้ เพราะครั้งนี้ อาเยียน บินตรงมาเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดผลงานศิลปะ และบอกเล่าการเดินทางตามความฝันของเธอโดยเฉพาะ กว่าจะมาเป็นศิลปินระดับโลกที่ได้รับความรักจากแฟนคลับอย่างท่วมท้น ด้วยการเป็นเจ้าของผลงานน้อง Dimoo คาแรคเตอร์ที่สะท้อนตัวตนของเธอออกมาได้ดีที่สุด พร้อมกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Fansign with Ayan Deng’ที่เธอจะมาพบปะแฟนๆอย่างใกล้ชิด ในวันที่30 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว บริเวณชั้น1 


5 วิตามิน ช่วยบำรุงผิวพรรณ

5 วิตามินธรรมชาติ ช่วยบำรุงผิวสวยจากภายในด้วยอาหารที่กินเป็นประจำ

Alternative Textaccount_circle
5 วิตามิน ช่วยบำรุงผิวพรรณ
5 วิตามิน ช่วยบำรุงผิวพรรณ

อาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ต่างๆ นั้น เป็นแหล่งวิตามินที่สามารถช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นได้ ถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสม และถูกต้อง

วิตามินเป็นหนึ่งในสารอาหาร 5 หมู่ ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นสัตว์ และพืชต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ผักใบเขียว และผลไม้ต่างๆ นั้น วิตามินนอกจากจะให้สารอาหารเพื่อเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว วิตามินบางตัวที่อยู่ในอาหารยังสามารถทำให้ผิวพรรณของเราดีขึ้นอีกด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี วิตามินบีต่างๆ แอสตาแซนธิน และโคเอนไซม์ Q10 เป็นต้น

วิตามินเอ ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฝ้า กระ รอยดำ และริ้วรอย ซึ่งพบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ นมวัว ปลา ผักมีสีต่างๆ จำพวกฟักทอง มะเขือเทศ มะละกอ หรือผักใบเขียวเข้ม วิตามินซี สำคัญในกระบวนการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังช่วยต้านอนุมูลอิสระ พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ฝรั่ง มะขามป้อม เบอรี่ชนิดต่างๆ

วิตามินดี ช่วยปรับสมดุลแคลเซียมในระดับเซลล์ ซึ่งทำให้กระบวนการทำงานของเซลล์เป็นไปอย่างปกติ พบมากในอาหารจำพวกน้ำมันตับปลาและน้ำมันปลา ปลาแซลมอน นม ไข่แดง วิตามินอี ป้องกันริ้วรอยจากความชรา ปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดด ลดการเกิดฝ้า พบได้ในน้ำมันมะกอก น้ำมันทานตะวัน ข้าวโพด ถั่วเหลือง และผักใบเขียว

วิตามินบี 3 มีฤทธิ์ลดการอักเสบและเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวหนัง ช่วยลดเลือนริ้วรอยและชะลอวัย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว พบในเนื้อแดง เนื้อไก่ ตับ ปลาทูน่า ถั่วลิสง ข้าวที่ไม่ขัดสี และอะโวคาโด

วิตามินบี 7 นำมาใช้เสริมการรักษาโรคผิวร่วงและเสริมสร้างความแข็งแรงของเล็บ พบได้ในเนื้อสัตว์ ปลาแซลมอน หอยนางรม ธัญพืช นม ไข่ กะหล่ำปลี แอสตาแซนธิน มีความสามารถในการต้านการอักเสบได้ดีสามารถซ่อมแซมผิวหนังที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด ลดริ้วรอย ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นออกจากผิว ซึ่งสกัดได้จากสาหร่ายสีแดง และโคเอนไซม์ Q10 ช่วยลดการถูกทำร้ายของผิวจากความเครียดซึ่งมาจากปัจจัยภายนอกและภายใน พบมากในน้ำมันปลา ปลาทะเลน้ำลึก ถั่วเหลือง บร็อคโคลี และรำข้าว

ข้อมูล: สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์
ภาพ: Pexels


U Sathorn

“Make Your Wedding Unforgettable”Wedding Showcase ณ โรงแรม U Sathorn Bangkok

account_circle
U Sathorn
U Sathorn

รังสรรค์งานวิวาห์ท่ามกลางธรรมชาติ  กับโรงแรม ยู สาทร กรุงเทพฯ ขอเชิญชวนว่าที่บ่าวสาวทุกท่านร่วมงาน เวดดิ้ง โชว์เคส 2567 ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Make your wedding unforgettable” ในวันเสาร์ที่ 30 และ วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 นี้ 10.00 ถึง 20.00 น.

ความโรเมนติกสุดพิเศษที่เปิดรับว่าที่บ่าวสาวเข้าเยี่ยมชมสถานที่จริงสำหรับการจัดงานวิวาห์ พร้อมพบปะพูดคุยกับเวดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพ ที่จะช่วยรังสรรค์งานวิวาห์สานฝันของคุณในท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่น ใจกลางสาทร กรุงเทพฯ

นอกจากนี้โรงแรม ยู สาทร กรุงเทพฯ เตรียมแพ็คเกจงานวิวาห์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 190,000 บาท

พิเศษกว่านั้นสำหรับการจองและการมัดจำภายในงาน  Wedding Shoecase 2567   รับสิทธิ์ร่วมลุ้นรับของขวัญแสนพิเศษจาก โรงแรม ยู สาทร กรุงเทพฯ และของขวัญอื่นๆ อีกมากมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพักได้ที่ โทร 02 119 4888 และเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ https://www.uhotelsresorts.com/usathornbangkok

“สบายอารมณ์” ชวนมาฮีลใจในงาน We’re Being Mental Health : เป็น อยู่ คือ (เรา)

account_circle

“สบายอารมณ์ (Sabai arom)” แบรนด์ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Thai Home Spa และ Aromatherapy ที่มุ่งเน้นศาสตร์ธรรมชาติ
ช่วยบำบัดอารมณ์ด้วยพลังจากกลิ่นน้ามันหอมระเหย (Essential Oil) บริสุทธิ์ ภายใต้ Concept “Pamper your Mood,
Soothe Your day” ชวนทุกคนมาสำรวจสุขภาพใจ เชื่อมต่อและเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ในงาน We’re Being
Mental Health : เป็น อยู่ คือ (เรา) เทศกาลเพื่อสุขภาพใจ โดย “สบายอารมณ์ (Sabai arom)” ได้จัด Zone พิเศษ
Interactive Exhibition พลังบำบัดอารมณ์ผ่านกลิ่นหอม ออกเป็น 2 ห้อง คือ 1. “NO-OK Room สำรวจความรู้สึกตัว
เองผ่านกลิ่นหอมของ Essential Oil และ 2. “Insomnia Room สัมผัสกลิ่นเพื่อประสบการณ์นอนหลับที่มีประสิทธิภาพ
ด้วยพลังบำบัดจากธรรมชาติ Sabai arom Sleep Well” พร้อมด้วย Workshop คลาส Essential Oil for Mental Well-
Being & Self-Care มาเรียนรู้วิธีใช้ Essential Oil เพื่อดูแลสุขภาพจิตใจและช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้น (Workshop
วันที่ 31 มี.ค. 67 เวลา 16.30 – 18.00 น. ห้อง Energy Space ชั้น 2) พบกันที่งานช่วงวันที่ 23-24 และ 30-31 มี.ค. 67
เวลา 10.00-20.00 น. ณ Slowcombo สามย่าน ซอยจุฬาลงกรณ์ 50

We’re being Mental Health Festival : เป็น อยู่ คือ (เรา) จัดโดย The NOOK by Love Frankie เป็นเทศกาลเพื่อ
สุขภาพใจที่เปิดพื้นที่ให้กำลังใจสำหรับคนที่อยากเข้าใจตัวเอง ภายในงานพบกับนิทรรศการด้านสุขภาพใจ นำโดยผู้
เชี่ยวชาญที่มาให้ความรู้มาร่วมพูดคุยผ่าน Workshop และ Main Stage รวมถึง Panel ต่างๆ ที่จะเปิดมุมมองใหม่เกี่ยว
กับความเข้าใจ ของคำว่า ‘SELF’ ‘SENSE’ ‘SOUL’ และ ‘SOCIAL’ สุขภาพจิต โดยจะมี 4 โซน ไฮไลท์ คือ Wellness
Workshop, Interactive Exhibition, Marketplace และ Talks & Panels ซึ่งพบกับ “สบายอารมณ์ (Sabai arom)”
ได้ที่โซน Interactive Exhibition และ Marketplace และสามารถเข้าชมนิทรรศการพิเศษพลังบำบัดผ่านกลิ่นหอมได้
ตลอดทั้ง 4 วัน ที่ห้อง “No-OK Room” ห้องที่จะพาคุณเข้าสู่โลกของน้ำมันหอมระเหย รู้จักศาสตร์ของ
Aromatherapy บำบัดอารมณ์และจิตใจผ่านกลิ่นจากธรรมชาติ อาทิ กลิ่น Calm down, Free heart, Cheer up, Stress
away, Clear mind , Charge up เป็นต้น และ “Insomnia Room” ห้องที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การนอนหลับ
ที่ประสิทธิภาพ ด้วยพลังบำบัดจากพืชพรรณธรรมชาติของ Sabai arom Sleep Well Collection นอกจากนี้ยังมี
Workshop พิเศษ จาก “สบายอารมณ์ (Sabai arom)” กับคลาส Essential Oil for Mental Well-Being & Self-Care
นำโดย Karma Break ที่จะชวนคุณไปสัมผัสประสบการณ์ของศาสตร์ Aromatherapy เรียนรู้วิธีใช้ Essential Oil เพื่อ
ดูแลสุขภาพจิตใจ บำบัดอารมณ์ ลดความเครียด และช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้น โดย Workshop จะจัดวันที่ 31 มี.ค.
67 เวลา 16.30 – 18.00 น. ห้อง Energy Space ชั้น 2 (พิเศษ!!เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วม 15 คน เท่านั้น) นอกจากนี้
ยังมี NGO Market ตลาดสำหรับสินค้าและบริการที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพดีให้ผู้มาเข้าร่วมได้มาเลือกช้อปฮีลใจกัน โดย
“สบายอารมณ์ (Sabai arom) ได้ออกบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อาทิ Essential Oil , Essential Oil Roller, Essential Oil
Mist รวมถึง Sabai Arom Sleep Well Collection ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบรรเทาปัญหาเรื่องการนอนหลับ เป็นต้น สามารถ
เจอกันได้ที่บูธ No. 3 บริเวณชั้น 1
คุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “สบายอารมณ์ (Sabai arom)” กล่าวว่า “ด้วยสบายอารมณ์ให้ความสาคัญเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
จิตผ่านศาสตร์แห่งธรรมชาติบำบัดมาโดยตลอด เราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ Essential Oil ที่เป็นสารสกัดจากพืชพรรณ
ธรรมชาติ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่ช่วยในการปรับอารมณ์ ช่วยให้ผ่อนคลาย และช่วยการนอนหลับ เพราะเราอยากให้ทุก
คนมีสุขภาพจิตที่ดี โดยการได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน We’re being Mental Health Festival ที่เป็นเฟสติวัล
เพื่อสุขภาพจิต จึงเป็นพื้นที่ที่ตรงกับตัวตนของสบายอารมณ์ที่จะนำกลิ่นของ Essential oil ที่มีหลากหลายกลิ่นมาช่วย
ฮีลใจและใช้กลิ่นหอมในการช่วยบำบัดอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งสบายอารมณ์ได้นำ Essential Oil เข้าไปอยู่ใน
นิทรรศการที่เลือกใช้กลิ่นหอมในการบำบัดที่ห้อง Insomnia เพื่อให้ทุกคนเข้าใจในกลิ่นที่ช่วยในการนอนหลับได้ดีขึ้น
ด้วยผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่น Sabai arom Sleep Well ซึ่งได้รับรางวัลน้ำมันหอมระเหยเพื่อความผ่อนคลายที่ดีที่สุด
แห่งปีจาก Good Life Award 2023 และสำหรับห้อง NO-OK จะเป็นได้เรียนรู้ศาสตร์ของกลิ่นบำบัดจาก Essential Oil
ด้วยกลิ่นที่เป็นสารสกัดจากพืชพรรณและดอกไม้ธรรมชาติโดยเฉพาะ อาทิ Stress Away กลิ่นหอมอโรมาและมีความ
สดชื่นของพืชตระกูลมิ้นท์ ช่วยลดความตึงเครียดแบบฉับพลัน , Sleep Well กลิ่นหอมของดอกไม้ 3 ชนิด ลาเวนเดอร์
กระดังงา และคาโมมายด์ ช่วยคลายกังวล พร้อมเข้าสู่โหมดพักผ่อน หลับลึก ตื่นมาสดชื่น โดยการทำงานของ
Essential Oil นั้น เมื่อเราสูดดมเข้าไปกลิ่นจะซึมผ่านเข้าสู่สมองส่วน Limbic ที่ควบคุมอารมณ์ จิตใจ และการนอนหลับ
ก่อนออกฤทธิ์ไปยังทุกระบบทั่วร่างกาย จึงสามารถช่วยให้เรานอนหลับได้สบายมากขึ้น ซึ่งเราหวังว่าสบายอารมณ์จะ
เป็นตัวช่วยฮีลใจ เป็น Emotional Pamper ที่จะคอยดูแลและคอยใส่ใจให้ทุกคนมีอารมณ์ดีๆ ในทุกๆวัน”

แล้วพบกันที่งาน We’re being Mental Health Festival : เป็น อยู่ คือ (เรา) วันที่ 23-24 และ 30-31 มี.ค. 67 เวลา 10.00-20.00 น. สถานที่ Slowcombo สามย่าน ซอยจุฬาลงกรณ์ 50

การกลับมาของชุดข้าวแช่จากห้องอาหารเมโทร ออน ไวร์เลส

account_circle

โรงแรมอินดิโก้ กรุงเทพ ถนนวิทยุ เชิญคุณมาคลายร้อนในเดือนเมษายนด้วยชุดข้าวแช่จากห้องอาหารเมโทร ออน ไวร์เลส ที่จะมาเติมเต็มหน้าร้อนนี้ของคุณให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ต้อนรับเดือนที่ร้อนที่สุดของปีกับเมนูที่ใครต่างเฝ้ารอ ด้วยวิธีการทำที่ละเอียดลออ และซับซ้อนทำให้หารับประทานได้ยาก มีเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และในปีนี้เชฟนุช วรนุช ยาสุขแสง Sous Chef จากห้องอาหารเมโทร ออน ไวร์เลส ได้รังสรรค์ชุดข้าวแช่อย่างพิถีพิถันจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมมาให้คุณได้ลิ้มลอง

ข้าวหอมมะลิอบควันเทียนนำไปลอยน้ำดอกมะลิ และกุหลาบให้กลิ่นที่หอมกรุ่น รับประทานพร้อมเครื่องเคียง 6 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นลูกกะปิไข่เค็มทอด พริกหยวกยัดไส้กุ้งและไก่ห่อด้วยไข่ตาข่าย หอมแดงยัดไส้ปลาทอด ปลาหวาน ไชโป๊วหวาน และหมูฝอย แกล้มด้วยผัก-ผลไม้สดนานาชนิดแกะสลักอย่างวิจิตรช่วยตัดรสอย่าง มะม่วงมัน แตงกวา ต้นหอม พริก และกระชาย ปิดท้ายด้วยเมนูแตงโมปลาแห้ง รสชาติหวานเค็มเพิ่มความสดชื่นยามบ่ายในซัมเมอร์นี้

เติมเต็มหน้าร้อนนี้ด้วยชุดข้าวแช่จากห้องอาหารเมโทร ออน ไวร์เลส ชั้น 2 โรงแรมอินดิโก้ กรุงเทพ ถนนวิทยุ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึง วันที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 12:00 น. – 16:00 น.  ในราคาชุดละ 790++ บาทสำหรับสองท่าน

สำรองโต๊ะล่วงหน้าผ่านทางอีเมล [email protected] หรือติดต่อเราทาง LINE Official Account  @hotelindigobkk (https://lin.ee/F4S40Py) และโทร  02 207 4999

คิมซูฮยอน

ยืน 1 ระดับประเทศ เปิดค่าตัว คิมซูฮยอน ต่อหนึ่งตอนของ “Queen Of Tears”

account_circle
คิมซูฮยอน
คิมซูฮยอน

อย่างที่รู้กันว่า คิมซูฮยอน เป็นนักแสดงเกาหลีที่มีค่าตัวสูงสุดในประเทศ โดยในปี 2566 พระเอกหนุ่มได้รับค่าตัวต่อตอนเป็นจำนวน 15,139,170 บาท แต่ดูเหมือนว่าล่าสุดในซีรีส์เรื่อง “Queen Of Tears” จำนวนเงินที่เขาได้รับต่อตอนนั้นมากขึ้นกว่าเดิม กระแสที่เข้ามาไม่สามารถต้านความปังของเขาได้เลย

ทั้งนี้ มีรายงานจากสื่อเกาหลีใต้เปิดเผยค่าตัวต่อตอนของ คิมซูฮยอน ซึ่งปัจจุบันเขาได้รับเงิน 800 ล้านวอน (ประมาณ 21,677,440 บาท) ต่อตอน และด้วยจำนวนตอนทั้งหมด 16 ตอน เขาจะได้รับเงินจำนวน 12.8 พันล้านวอน (ประมาณ 346,839,040 บาท)

เรียกได้ว่าเงินจำนวนสร้างความน่าตกใจให้กับผู้คน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า งบประมาณการผลิตสำหรับซีรีส์เรื่องนี้อยู่ที่ ₩40.0 พันล้านวอน (ประมาณ 1,083,872,000 บาท) ซึ่งเงินค่าตัวของคิมซูฮยอนเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของงบประมาณ ส่วนที่เหลืออีก 2/3 พวกเขาจะต้องจ่ายให้กับทีมงาน, นักแสดงนำหญิง คิมจีวอน, นักแสดงสมทบ และอื่นๆ อีกมากมาย

เดิมทีนั้นค่าตัวของ คิมซูฮยอนได้รับอยู่ที่ 500 ล้านวอน (13,548,400 บาท) ต่อตอนสำหรับซีรีส์ One Ordinary Day ในปี 2021 หลังจากนั้นค่าตัวของเขาได้เพิ่มขึ้นในช่วง 3 ปีเป็นจำนวน 300 ล้านวอน (ประมาณ 8,129,040 บาท) ต่อตอน ซึ่งเพิ่มขึ้น 60% เมื่อดูค่าจ้างสำหรับนักแสดงคนอื่นๆ สื่อวงในระบุว่าค่าจ้างของคิมซูฮยอนนั้นสูงกว่าสำหรับผลงานในระดับประเทศ

ด้านนักแสดงหนุ่ม ลีจองแจ พบว่าเขาได้รับค่าตัวต่อตอนในซีรีส์ “Squid Game 2″ 1.30 พันล้านวอน (ประมาณ 35,225,840 บาท) ถึง 1.50 พันล้านวอน (ประมาณ 40,645,200 บาท) เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตระดับโลกอย่าง Netflix และเขายังเป็นตัวละครสำคัญในซีรีส์นี้ด้วย ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีเขาแสดงในซีซันที่ 2  ในทางกลับกัน ปัจจุบันค่าตอบตัวของคิมซูฮยอนอยู่ในระดับของนักแสดงระดับสูงที่มีชื่อเสียง เช่น ซงฮเยคโย และจอนจีฮยอน


สาวฮวีอินทุ่มสุดใจ เพิ่ม FAN BENEFITS ให้มูมู่ไทยได้ฟินฉ่ำใจ

Alternative Textaccount_circle

นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับมูมู่ไทยที่ล่าสุดผู้จัด O.N worldwide ใจดี ประกาศเพิ่ม FAN BENEFITS สำหรับคอนเสิร์ต 2024 Whee In 1ST WORLD TOUR: WHEE IN THE MOOD [BEYOND] IN Bangkok ของสาวเสียงหวานฮวีอิน (Whee In) เพื่อให้แฟนๆ ได้ฟิน ได้อิ่มความสุขกันอย่างเต็มที่มากที่สุด

โดยการเพิ่มสิทธิ์ BENEFITS ครั้งนี้เป็นการเพิ่ม BENEFITS ในส่วนของ GOODBYE SESSION บัตร 6,300 บาท เพิ่มเป็นรับสิทธิ์ ‘ทุกที่นั่ง’ / บัตร 5,300 บาท เพิ่มเป็น 300 ผู้โชคดี / บัตร 4,500 บาท เพิ่มเป็น 100 ผู้โชคดี ทั้งนี้ผู้ได้รับสิทธิ์ Goodbye Session ยังสามารถรับสิทธิพิเศษอื่นร่วมได้อีกด้วย จัดเต็มขนาดนี้มูมู่ไปก็ต้องไปแล้วดิ๊!!

ล่าสุดระดับความฮอตของสาวฮวีอินพุ่งสู่ Worldwide ขึ้นไปอีก เพราะทางต้นสังกัด THE L1VE LABEL เพิ่งประกาศว่าสาวฮวีอินมีคิวจะไปทัวร์คอนเสิร์ต “WHEE IN THE MOOD [BEYOND] ที่ประเทศในฝั่งยุโรปและอเมริกาเพิ่มเติมอีกหลายเมือง ซึ่งประกอบไปด้วย Warsaw, Helsinki, Tilburg, San Francisco, Los Angeles, Dallas, Houston, Orlando, Fort Lauderdale, Washington D.C. และ Brooklyn นับว่าเป็นการก้าวครั้งสำคัญของเธอคนนี้เลยก็ว่าได้

เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตที่ไทยในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำครั้งยิ่งใหญ่ของสาวฮวีอินแน่นอน แถมผู้จัดยังเพิ่ม FAN BENEFITS ให้แน่นขนาดนี้ ใครที่ยังไม่จับจองบัตรจะไม่ไปดูจริงๆ หรอคุณน้า!! อย่ารอช้าเพราะเวลาวารีไม่เคยรอใคร และบัตร คอนเสิร์ต 2024 Whee In 1ST WORLD TOUR :WHEE IN THE MOOD [BEYOND] IN Bangkok ก็เช่นกัน สามารถซื้อบัตรได้แล้วทาง www.beyondinbkk.com บัตรมีหลากหลายราคา เลือกสรรกันได้ ราคาบัตร 6,300 (VIP), 5,300, 4,500 และ 2,500 บาท ใครมีบัตรแล้วก็เก็บรักษาบัตรและเตรียมร้องเพลงของสาวฮวีอินกันให้เป๊ะๆ แล้วไปร้องเพลงกับเธอในวันที่ 6 เมษายน 2024 ณ BHIRAJ HALL ไบเทค บางนา

เอ็นซีที ดรีม ส่งผลงานใหม่ ‘DREAM( )SCAPE’ ครองอันดับ 1 ทั่วโลก

Alternative Textaccount_circle

NCT DREAM ส่งข้อความถึงวัยรุ่นทุกคน ผ่านผลงานใหม่ ‘DREAM( )SCAPE’ อัลบั้มที่พูดถึงการเดินทางครั้งแรกของ ‘วัยรุ่น’ NCT DREAM ( ที่หลีกหนีจากความจริงที่ไร้ความรู้สึก เนื่องจากสถานการณ์อันมืดมนและยากลำบาก และออกตามหาพื้นที่แห่งความฝันในอุดมคติ โดยหลากหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการหลบหนีจะถูกนำเสนอผ่านบทเพลงและเรื่องราวที่มีความสร้างสรรค์ตามสไตล์ของ NCT DREAM รวมถึงหวังว่าจะสามารถถ่ายทอดข้อความแห่งความเข้าใจ การปลอบโยน และกำลังใจอันอบอุ่นได้ ในฐานะวัยรุ่นที่เข้าใจถึงความกังวล ความเจ็บปวด และความไร้จุดมุ่งหมายของวัยรุ่นในยุคเดียวกัน

อัลบั้มใหม่ ‘DREAM( )SCAPE’ ประกอบด้วยทั้งหมด 6 เพลง ซึ่งทั้ง 7 สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการผลิตทั้งหมดตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนอัลบั้ม เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นและการเติบโตอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเพลงไตเติล ‘Smoothie’ เป็นเพลงฮิปฮอป แดนซ์ ที่มีไลน์เบส 808 จังหวะกลองสแนร์ และการร้องเพลงแบบซ้ำไปซ้ำมา เนื้อเพลงเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจว่า สายตาที่เย็นชาของโลกและความรู้สึกด้านลบต่าง ๆ ที่มีต่อตนเอง ทั้งหมดจะถูกบดขยี้และดื่มเข้าไปเหมือน ‘Smoothie’

สำหรับเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มที่จะได้พบกับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ NCT DREAM ได้แก่ ‘icantfeelanything’ เพลงป๊อปที่มีจังหวะแนว Jersey Club เผยความรู้สึกกลัวขณะหลบหนีออกจากความจริงที่ไร้ความรู้สึกไปสู่ความฝันในอุดมคติ, ‘BOX’ เพลงแนวฮิปฮอป แดนซ์ ถ่ายทอดความตั้งใจที่จะทำลายกล่องของโลกที่กักขังตัวเอง ก้าวข้ามข้อจำกัด และมุ่งไปข้างหน้า ซึ่ง MARK ได้ร่วมแต่งท่อนแร็ป, เพลงที่มีชีวิตชีวา ‘Carat Cake’ อธิบายถึงสิ่งดึงดูดใจต่าง ๆ ที่พบในโลกที่ไม่คุ้นเคย, เพลงที่ให้กำลังใจตัวเองอย่าง ‘UNKNOWN’ แนวอาร์แอนด์บี ป๊อป จังหวะปานกลาง มาพร้อมความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะกระโดดเข้าสู่โลกที่ไม่รู้จักด้วยความยินดี เพื่อไม่ให้สูญเสียตัวเองในช่วงเวลาแห่งความไร้จุดหมาย ซึ่ง MARK กับ JENO ได้ร่วมแต่งท่อนแร็ป และลำดับสุดท้าย ‘숨 (Breathing)’ เพลงบัลลาด จังหวะปานกลาง เนื้อเพลงมีคำสารภาพอันจริงใจถึงคนที่ทำให้มีแรงก้าวเดินต่อไปอย่างกล้าหาญอีกครั้ง ท่ามกลางช่วงเวลาที่เหน็ดเหนื่อยและยากลำบากจนหายใจไม่ออก ซึ่ง MARK JENO JAEMIN และ JISUNG ได้ร่วมแต่งท่อนแร็ป

นอกจากนี้ แฟนเพลงทั่วโลกยังให้การตอบรับร้อนแรงต่ออัลบั้มใหม่ ‘DREAM( )SCAPE’ ของ NCT DREAM ที่ปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 จนกวาดอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงและอัลบั้มมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอันดับ 1 รายวันบนชาร์ตอัลบั้มหลักในประเทศเกาหลีใต้อย่าง Hanteo Chart, YES24, CIRCLE CHART Retail Album รวมถึงอันดับ 1 บนชาร์ต Real-time rising ของ AWA แพลตฟอร์มท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น และอันดับ 1 บนชาร์ต RecoChoku Daily Album ในประเทศญี่ปุ่น

ไม่เพียงเท่านี้ อัลบั้มนี้ยังติดอันดับ 1 บนชาร์ต K-pop ซึ่งรวมยอดสตรีมมิง ยอดขายอัลบั้ม และดัชนีความนิยมจาก 5 แพลตฟอร์มภายใต้ Tencent Music ของประเทศจีน ได้แก่ QQ Music, KuGou Music, Kuwo Music, Bodian Music และ JOOX ตลอดจนอันดับ 1 บนชาร์ต Digital Album Sales ของ QQ Music และ KuGou Music ยิ่งไปกว่านั้น เพลงไตเติล ‘Smoothie’ สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต Melon HOT 100 และ Bugs ส่วนเพลงประกอบอัลบั้มก็ติดอันดับเรียงกัน

ทั้งนี้ NCT DREAM ประกาศจัดเวิลด์ทัวร์ครั้งที่สาม เริ่มต้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 2-4 พฤษภาคม 2567 จากนั้นทัวร์ในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือและใต้ ยุโรป ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฟนคลับชาวไทยเตรียมพบกับพวกเขาได้ในคอนเสิร์ต 2024 NCT DREAM WORLD TOUR in BANGKOK วันที่ 22-23 มิถุนายน 2567 ณ สเตเดียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ราชมังคลากีฬาสถาน นับเป็นการจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมครั้งแรกในประเทศไทยของพวกเขา

ไอคอนสยาม ตอกย้ำผู้นำการสร้างประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ

account_circle

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอกย้ำความเป็นเลิศในการรังสรรค์ความเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ลูกค้า เดินหน้าสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย เพื่อให้ไอคอนสยามเป็นหมุดหมายที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกยกให้เป็น Global Destination สัญลักษณ์ประเทศไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ล่าสุดไม่หยุดที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมสุดพิเศษแบบที่ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงินให้แก่ลูกค้าทุกท่าน  ในกิจกรรม ICONSIAM Experience กับความเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับที่หาที่ไหนไม่ได้  เพื่อตอบแทนลูกค้า ล่าสุดจัดทริปประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟมอบความสุขแบบเต็มพิกัดให้กับผู้โชคดีจากแคมเปญ The Great Dragon Journey 2024 ฉลองเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา  ด้วยการพาบินลัดฟ้าไป “รับพลังมังกรที่ฮ่องกง” นำโดย อ.คฑา ชินบัญชร  กับการไหว้ให้ถูกที่ ด้วยพิธีที่ถูกต้อง เพื่อสักการะขอพรจากเทพเจ้า 6 วัดดังในฮ่องกง  พร้อมเคล็ดลับที่จะทำให้ปีนี้เป็นปีที่เฮงแบบไม่สิ้นสุด  พร้อมด้วยการลิ้มรสสุดยอดของอาหารระดับ Michelin Star และร้านอาหารชื่อดังในทุกวันตลอดการเดินทางที่ผ่านมา  

เริ่มความเอ็กซ์คลูซีฟสุดพิเศษกับกิจกรรม ICONSIAM Experience  “รับพลังมังกรที่ฮ่องกง” กับ           อ.คฑา ชินบัญชร  ปักหมุดเช็คอินวัดแรกด้วยการรับความร่ำรวยจากการสักการะขอพรในวันเปิดทรัพย์กับเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ(Hung Hom) ที่ 1 ปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น  วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง ที่ตั้งอยู่ในย่านฮ่องฮำ (Hung Hom) ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1873 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบวัดจีนดั้งเดิม โดยเชื่อกันว่าหากใครได้มาไหว้ที่นี่จะช่วยเสริมเรื่องดวงการเงิน ให้มีโชคลาภเงินทอง ซึ่งควรมาให้ตรงกับ วันเปิดทรัพย์ หรือเรียกกันว่า “พิธียืมเงิน” พิธีศักดิ์สิทธิ์ที่มีเพียงปีละครั้ง ควรมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมดวงการเงินให้ตัวเอง

วันที่สอง พาไปมูกันต่อกับสถานที่อันซีนที่ต่อไปกับ ศาลเจ้าแม่ทับทิม Tin Hau Temple หรือเจ้าแม่ทับทิม 700 ปี ที่ Joss House Bay ก่อตั้งตั้งแต่ราชวงศ์ซ่ง ทางเดินธรรมชาติสองข้างทางเต็มไปด้วยความงดงามของวิวทิวทัศน์  ที่ด้านหน้าติดทะเลและด้านหลังเป็นภูเขา ซึ่งทำให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์และพลังชี่จากธรรมชาติที่โอบล้อม ลมพัดเย็น ไม่ร้อนและไม่หนาว ก่อนเข้าศาลเจ้าต้องไหว้ฟ้าดินเสียก่อน ไหว้องค์หม่าโจ้ว ผู้เป็นประธาน   นอกจากนี้ อ.คฑา ยังแนะนำเคล็ดลับเด็ดที่เอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ กับ “การลูบเตียงห้องลับ เจ้าแม่ทับทิม”  ซึ่งไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชม เรียกว่าทริปนี้ลูกค้าของไอคอนสยามได้ขอพรทั้งการเงิน การงาน ความรัก และสุขภาพ กันอย่างจุใจ

ถัดมากับเคล็ดลับการไหว้เสริมดวงชะตา และให้กังหันพัดพาสิ่งไม่ดีออกจากตัว พร้อมพัดเอาสิ่งดีเข้ามาในชีวิต  ที่วัดแชกงหมิว หมุนกังหันเปลี่ยนชีวิตนำพาอำนาจและความโชคดีให้มาสู่ชีวิต และได้โชคลาภ เงินทอง พร้อมนำพาสิ่งดีๆ เข้าหาตัว ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต  วัดนี้เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนฮ่องกง เคารพนับถือมาอย่างเนิ่นนาน โดยรูปปั้นองค์แชกงถูกสร้างเพื่อระลึกถึง นักรบแชกง นักรบฝีมือดีในราชวงศ์ซ่ง ที่คอยปราบศึกศัตรูที่เข้ามารุกรานดินแดนทางเกาะฮ่องกงให้อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบัน

สถานที่อันซีนอีกแห่งที่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย  คือวัดนัมชุง ทินหัว หรือวัด 5 มังกร ความพิเศษของวัด 5 มังกรนี้ คือฮวงจุ้ยการตั้งศาล ด้านหน้าของศาลหันทางทิศตะวันออก มองเห็นทะเลกว้างใหญ่ ด้านซ้ายจะเห็นช่องเขาเป็นมังกรเขียวโอบล้อม ด้านขวาเป็นภูเขาขนาดย่อมเสมือนเสือขาว และมีเกาะตรงกลาง ทำให้กระแสน้ำหมุนวน ยิ่งส่งพลังธรรมชาติให้แก่ผู้มาสักการะเทพเจ้า 5 มังกร  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ ความสุข และอายุยืนยาวในปีแห่งมหามังกร 

วันสุดท้ายมาขอพรด้านความรักกันต่อที่ วัดหวังต้าเซียน หรือที่เราเรียกกันว่า วัดด้ายแดง  เป็นวัดดังโดดเด่นในเรื่องของการไหว้ขอพรองค์เทพเจ้า อีกทั้งอาคารของวัดก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ได้รับอิทธิพลมาจาก ลัทธิเต๋า ศาสนาพุทธ และขงจื้อ ในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์นั้น คนส่วนใหญ่จะนิยมมาไหว้ขอพรในทุกๆ เรื่อง เพราะมีองค์พระมากมาย และที่สำคัญคือการมาขอพรด้านความรัก ผูกด้ายแดงขอเนื้อคู่ พร้อมเสริมรักให้ดียิ่งกว่าเดิม  นอกจากนี้ ที่วัดยังมีอีกหนึ่งจุดที่อันซีน ซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดิน ได้แก่ ห้องลับใต้ดิน (Taisui Yuenchen Hall) อันเป็นที่ประดิษฐานของ พระแม่เต้าบ้อ มารดาแห่งดวงดาว (Goddess of the Great Dipper) ผู้ให้กำเนิดจักรวาล และรูปปั้นเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เทพผู้คุ้มครองดวงชะตาของมนุษย์ตลอดทั้งปี ช่วยขจัดปัดเป่าเคราะห์กรรมให้เบาบางลง มีทั้งหมด 60 องค์ แต่ละองค์มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน มีทั้งบุคลิกเชิงบุ๋น บู๊ และดูสำราญ ซึ่งลูกค้าไอคอนสยามทุกคนได้ร่วมไหว้ขอพรสักการะองค์ไท้ส่วยเอี๊ยประจำปีเกิดแบบถูกต้องครบถ้วนอีกด้วย

ปิดท้ายทริป ICONSIAM Experience เสริมดวงให้ปังตลอดทั้งปีกับ วัดหมั่นโหมว  โดยวัดนี้ทุกคนจะได้กราบสักการะบูชาเทพเจ้าหมั่นไตกวั้น (Man) เทพด้านบุ๋น ซึ่งเป็นเทพแห่งตัวอักษร และเทพเจ้าโหมวไตกวั้น (Mo) หรือเทพเจ้ากวนอู เทพด้านบู๊ซึ่งเป็นเทพแห่งสงคราม  วัดนี้เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ด้านการศึกษา อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง มีเอกลักษณ์ที่งดงามไม่เหมือนใคร  นอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ภายในวัดยังมีความงดงาม และมี ไฮไลต์เป็น ธูปวงสีแดง และกระดิ่งด้านในแขวนประดับทั่วเพดาน ดูสวยงามแปลกตาเป็นอย่างมาก

นอกจากการพาผู้โชคดีไปไหว้พระขอพร รับปีมังกรแล้ว  ทุกท่านยังได้ลิ้มรสความอร่อยระดับ Michelin Star กับทุกวันตลอดการเดิน อาทิ ภัตตาคาร One Dim Sum ร้านติ่มซำชื่อดังที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว 2 ปีซ้อนและยังได้ Michelin Bib Gourmand ของหวานจาก Kai Kai Dessert ที่ได้รับรางวัลมิชลิน 8 ปีซ้อนกับเมนูเด่นอย่างบัวลอยน้ำขิง และซอสงาดำ ความสุขเต็มพิกัดยังไม่หมด เพราะยังจัดเต็มด้วยภัตตาคารลุร้านอาหารชื่อดังในฮ่องกง อาทิ ภัตตาคาร Yung Kee Restaurant ห่านย่างชื่อดังการันตีความอร่อยด้วยรางวัลมากมาย, Deluxe Cuisine ภัตตาคารอาหารจีนกวางตุ้ง, Lei Yue Mun สวรรค์ของคนรักซีฟู้ดกับเมนูพิเศษซาชิมิหอยงวงช้าง, ภัตตาคาร Jasmine Garden หนึ่งได้ร้านดังของเกาะฮ่องกง และภัตตาคาร Under Bridge Spicy Crab กับเมนูซิกเนเจอร์ปูผัดพริกแห้งกระเทียม  เพื่อให้ทุกนาทีของลูกค้าไอคอนสยามสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟที่เต็มไปด้วยความสุขที่สุด

ตลอดทั้งทริปของการเดินทางไปกับ “ICONSIAM Experience” ที่ไอคอนสยามจัดขึ้นครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นแบบฉบับของสุดยอดประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ  ที่สร้างให้ผูกพันและมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ารายการโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่โดนใจ และการบริการลูกค้าที่ให้มากกว่าความคาดหวัง ซึ่งจะยังคงมีแคมเปญสุดพิเศษและไม่เหมือนใครแบบหาที่ไหนไม่ได้มาให้ลูกค้านักช้อปทุกคนได้ร่วมกิจกรรมอีกมากมาย คอยติดตามได้ที่ Facebook: ICONSIAM และ www.iconsiam.com  

สมฉายาราชินีห้างดัง เปิด 5 นาฬิกาหรู ‘ฮงแฮอิน’ จากซีรีส์ Queen of Tears

Alternative Textaccount_circle

มาครบทุกแบรนด์ดัง เปิด5 นาฬิกาหรู ‘ฮงแฮอิน’ ราชินีห้างชื่อดังแห่งซีรีส์ Queen of Tears

กลับมาอีกครั้งกับบทความซูมอินไอเท็มจากซีรีส์ที่กำลังเป็นกระแส หนึ่งในช่วงนี้คงต้องยกให้ Queen of Tears ซีรีส์ โรแมนติก-ดราม่า ที่ฉายเพียงไม่กี่ตอนก็สามารถเรียกน้ำตาจากผู้ชมไปมากมาย แต่พาร์ทแฟชั่นคงไม่ได้พาทุกคนดำดิ่งในห้วงความรู้สึก แต่จะพาไปเพลิดเพลินกับนาฬิกาแสนหรูหราของ ‘ฮงแฮอิน’ ราชินีแห่งห้างสรรพสินค้า Queens Group

ขอไต่ระดับไปตามมูลค่าของนาฬิกา เริ่มต้นด้วย BVLGARI แค่ปิดชื่อแบรนด์มาก็ถึงกับสะดุ้ง สำหรับเรือนที่ฮงแฮอินสวมใส่ใน Episode 1 มีชื่อรุ่นว่า ‘Serpenti Seduttori Watch’ ตัวเรือนสีเงินที่มีดีไซน์หน้าปัดเป็นทรงหยดน้ำ มาพร้อมสายนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมากจากเกล็ดงู สัตว์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ สำหรับราคาอยู่ที่ 180,000 บาท

เรือนต่อมายังอยู่ในตอนที่ 1 กับนาฬิกาสายหนังสีน้ำเงินจาก PIAGET ในชื่อรุ่น Possession Watch โดยความหรูหราอยู่ที่กรอบหน้าปัดประดับเพชร 0.05 กะรัต อีกทั้งตำแหน่งของตัวเลยังฝังด้วยเพชรอีกจำนวน 11 เม็ด ประมาณ 0.07 กะรัต มูลค่าของนาฬิกาจึงสูงถึง 570,000 บาทเลยทีเดียว

นาฬิกาเรือนที่ 3 ขอเปลี่ยนไปที่ Cartier ในชื่อรุ่น ‘Ballon Bleu de Cartier watch’ ที่มาพร้อมกลไกจักรกลแบบไขลานอัตโนมัติ ตัวเรือนโรสโกลด์ และมีเม็ดมะยมแบบหยักรังสรรค์จากโรสโกลด์ประดับแซฟไฟร์คาโบชง หน้าปัดสีเงินประทับลายผิวสัมผัสด้านประดับเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์ทั้งหมด 21 เม็ด น้ำหนักรวม 0.10 กะรัต เข็มนาฬิกาทรงดาบทำจากสตีลสีน้ำเงิน คริสตัล แซฟไฟร์ สายหนังจระเข้สีน้ำเงิน บัคเคิลโรสโกลด์ ราคา 570,000 บาทเช่นกัน

เรือนต่อมาคล้ายกับเรือนก่อนหน้า ‘Ballon Bleu de Cartier watch’ แต่เปลี่ยนเป็นสีโรสโกลด์ทั้งตัวเรือน แต่ดีเทลต่างๆ ยังเหมือนเดิม ขยับราคาไปที่ 1,030,000 บาท

และปิดท้ายด้วยนาฬิกาที่มีมูลค่าสูงที่สุดจาก PIAGET ในรุ่น ‘Limelight Gala Watch’ โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงกลมที่รายล้อมด้วยเพชนทั้งหมด 60 เม็ด เรียกได้ว่าอลังการสมกับชื่อทีเดียว โดยมูลค่าของเรือนนี้อยู่ที่ประมาณ 1,650,000 บาท

รู้ราคาของแต่ละเรือนแล้วขนลุกซู่ไม่เบา สมกับที่เป็นแฟชั่นของ ราชินีแห่งห้างสรรพสินค้า Queens Group จริงๆ ตอนต่อจะไปมีแฟชั่นไอเท็มไหนน่าสนใจอีก ไว้มาอัพเดทให้อ่านไปพร้อมกันนะคะ


keyboard_arrow_up