ถอดเมคอัพลุคเหล่านางแบบเบื้องหลังคอลเล็คชั่น Cruise 2024/25

ถอดเมคอัพลุคเหล่านางแบบเบื้องหลังคอลเล็คชั่น Cruise 2024/25

Alternative Textaccount_circle
ถอดเมคอัพลุคเหล่านางแบบเบื้องหลังคอลเล็คชั่น Cruise 2024/25
ถอดเมคอัพลุคเหล่านางแบบเบื้องหลังคอลเล็คชั่น Cruise 2024/25

หลังจบแฟชั่นโชว์พิเศษคอลเล็คชั่น CHANEL CRUISE 2024/25 ที่จัดขึ้น ณ MAMO, Centre d’art de la Cité radieuse ในเมือง Marseille เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แพรวจะพามาถอดเมคอัพลุคเหล่านางแบบเบื้องหลังรันเวย์กันว่าใช้บิวตี้เท็มตัวไหนบ้าง ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมผิวถึงฟินิชชิ่งลุค

เริ่มกันที่การเตรียมผิวด้วยการลงรองพื้น  LES BEIGES WATER-FRESH COMPLEXION TOUCH ที่ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ดูเปล่งประกาย พร้อมปกปิดริ้วรอยจุดด่างดำด้วยคอลซีลเลอร์ LE CORRECTEUR DE CHANEL พร้อม RETRACTABLE DUAL-TIP CONCEALER BRUSH N°105 ก่อนจะเซ็ตผิวด้วย LES BEIGES HEALTHY GLOW SUN-KISSED POWDER 

ตกแต่งคิ้วด้วย TYLO SOURCILS WATERPROOF โดยใช้แปรงคิ้ว DUAL-ENDED BROW BRUSH N°207
ตามด้วยเจลปัดขนคิ้ว LE GEL SOURCILS เพื่อปรับให้เข้ากับสีของคิ้ว สำหรับบริเวณเปลือกตา ผสม OMBRE ESSENTIELLE 222 JADE FACETTÉ สองเฉดสี และ OMBRE ESSENTIELLE 224 BLÉ D’OR ANTIQUE เข้ากับ RETRACTABLE DUAL-ENDED EYESHADOW BRUSH N°200 ทาบนเปลือกตาแล้วเกลี่ยให้ตรงไปที่ขมับ ระวังไม่ให้ไม่สูงเกินไป และต้องไม่ลืมปัดมาสคาร่า LE VOLUME DE CHANEL 10 NOIR เพื่อให้ขนตางอนเด้งมีมิติยิ่งขึ้น ก่อนปิดจบลุคด้วยการทา 31 LE ROUGE 1 ROUGE BEIGE บนริมฝีปาก สีสวย อ่อนดูละมุน เป็นสีที่ดูเป็นธรรมชาติไม่โดดจนเกินไป


RETHINK TO START “A NEW GENERATION OF INNOVATIVE AESTHETICS”

account_circle

บนทางเลือกมากมายของคลินิกความงามสายหัตถการที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นดุเดือด
เหล่าบิวตี้คลินิกต่างมีตัวเลือกหลากหลายจากบรรดานวัตกรรมความงามที่คิดว่าดีที่สุด

สารเติมเต็ม NeauWay โปรแกรม Hybrid Filler คือสารเติมเต็มเจเนอเรชั่นใหม่จากประเทศอิตาลี ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบจากความคิดต่างเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า ที่น่าสนใจจนต้องอัพเดตเพราะกําลังเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผู้ชํานาญการที่มีแนวคิด Innovative มองการณ์ไกลถึงผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และสรรหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากทั่วโลกเพื่อสร้างผลงานที่สมบูรณ์แบบโดยคํานึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

“REVIZE CLINIC เปิดเพื่อเสริมสร้างความงามไปพร้อมกับความมั่นใจ ด้วยคอนเซ็ปต์ Perfect ME “ความงามที่ฉันภูมิใจ” จากประสบการณ์ ที่ดูแลเคสด้านผิวพรรณความงามมาเกือบ 20 ปี จึงเห็นความเปลี่ยนแปลงของตลาดความงามมาตลอด และรู้ดีว่าการบริหารคลินิกให้ประสบความสําเร็จอย่างยั่งยืนคือการปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยตามโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หมอจึงไม่เคยพลาดอัพเดตเทรนด์ความงามใหม่ ๆ ในระดับโกลบอลเพื่อนํามาปรับใช้กับคลินิกเสมอ

“ซึ่งก่อนที่หมอจะนําผลิตภัณฑ์อะไรเข้ามาให้ผู้เข้ารับบริการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นต้องผ่านการใช้จริงจากหมอก่อน และไม่เคยพลาดเช็กเทรนด์โลกเสมอว่ามีนวัตกรรมอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งยังลงเรียน อัพเดตเทรนด์และร่วมงานประชุมวิชาการทั้งทวีปยุโรป อเมริกา และเกาหลีใต้ อย่างสม่ำเสมอ เวลาที่เห็นผลิตภัณฑ์ตัวไหนได้รับความนิยม หมอจะคุยกับคุณหมอที่เป็นวิทยากรผลิตภัณฑ์นั้น ๆ แบบเจาะดีเทลตั้งแต่กระบวนการการผลิต มีความแตกต่างกับตัวอื่น ๆ อย่างไร มีงานวิจัยรองรับหรือไม่ แม้กระทั่ง ความสนใจของคนใน GEN Y และ GEN Z ที่ปัจจุบันให้ความสําคัญกับเรื่อง ภาพลักษณ์ควบคู่กับความนําสมัย หมอจะดูว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้มีความ สอดคล้องไหม ทั้งนี้ต้องคํานึงเสมอว่าเราอยู่ในวงการสุขภาพ ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ จะ Innovative อย่างไร ต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย และทําให้ ผู้เข้ารับบริการพึงพอใจ ได้รับผลลัพธ์อย่างที่ต้องการมากที่สุด

“สําหรับสารเติมเต็ม NeauWay โปรแกรม Hybrid Filler หมอรู้จักมาสักระยะหนึ่งแล้วก่อนที่จะเข้ามาในไทย แบรนด์นี้มุ่งเน้นไปที่การรักษาแบบ Holistic นําเทคโนโลยีด้านเครื่องมือมาใช้คู่กับสารเติมเต็ม ซึ่งส่วนผสมมีความแตกต่างจากสารเติมเต็มตัวอื่น ๆ คือมีทั้งแอมิโนแอซิดและ CaHA ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทําให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่ใช้ปริมาณสารเติมเต็มน้อยลง ที่สําคัญคือเจ็บตัวน้อยลงด้วย

“ผู้บริโภคที่กําลังมองหาคลินิกเสริมความงาม อย่างแรกที่ควรคํานึงคือ หาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนเลือกทํา และตรวจสอบชื่อแพทย์จากเว็บไซต์แพทยสภา เช็กรีวิวเรื่องความชํานาญการด้านหัตถการของแพทย์ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ เป็นอีกเรื่องที่สําคัญมาก จึงควรเช็กผลิตภัณฑ์ที่จะเลือกใช้ว่าผ่าน อย.ไหม ซึ่งต้องเป็น อย.สําหรับฉีดบนใบหน้าด้วย เลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจว่าฉีดแล้ว จะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม

“นอกจากตอบโจทย์ปัญหาที่เรามีแล้ว ต้องไม่มีผลข้างเคียง จึงจะเสริมสร้างความมั่นใจได้ใช่ที่สุด”


“คอนเซ็ปต์ของคลินิกเราคือ Be Your Best การเป็นเวอร์ชั่นที่สุดของตัวเองได้โดยไม่ต้องเหมือนใคร ไม่ใช่ว่าใครฉีดหน้าแล้วก็ต้องออกมาสวยแบบเดียวกันทุกคน โดยที่คลินิกแพทย์จะทําเองในทุก ๆ เคส ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์หรือ หัตถการใด ๆ ฉะนั้นมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดโดยแพทย์ที่มีความชํานาญ เพื่อผลการรักษาที่น่าพึงพอใจ

“การเป็นแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมความงาม หากเราไปเช้าเย็นกลับ คลินิกอย่างเดียวก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ หมอจึงชอบไปงานประชุมวิชาการอย่าง ที่ยุโรปหรือเกาหลีใต้อย่างน้อยสักปีละครั้ง ส่วนที่เมืองไทยไปทุกเดือน เพื่ออัพเดตนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยวิธีการเลือกนวัตกรรมที่จะนํามาใช้ที่คลินิกของเรามีมาตรฐาน อยู่ที่การดูแลให้มีความปลอดภัยและได้ผล และอีกข้อคือราคาต้องจับต้องได้ เพราะหากปลอดภัย เห็นผล แต่ราคาสูง จนเกินเอื้อม ผู้บริโภคก็เข้าถึงไม่ได้

“ล่าสุดที่ประทับใจคือสารเติมเต็มจากอิตาลีตัวใหม่ ต้องเล่าก่อนว่าสารเติมเต็มในบ้านเรามีมานาน 15 – 16 ปีแล้ว ทุกตัวที่อยู่ในท้องตลาดเป็นแบบที่ใช้สาร BDDE ซึ่งมีเคสที่เกิดการอักเสบบวมได้ แต่ตัวนี้เป็นตัวเดียวที่ใช้แบบ PEG ซึ่งมีงานวิจัยว่าปลอดภัย ช่วยลดอาการแพ้ ลดบวม และไม่ทําให้ร่างกายจับว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงทําให้เรามั่นใจ ในความปลอดภัย

“ที่สัมผัสได้จากประสบการณ์ตรงคือข้อดีของการปรับรูปหน้าที่ทําให้ใบหน้ามี Definition คมขึ้น จึงทําให้คนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้สารเติมเต็มในปริมาณ ที่น้อยลง เช่น เคยใช้ 5 ซีซี ตัวนี้แค่ 3 ซีซีก็เอาอยู่แล้ว เพราะสามารถขึ้นทรง ได้ดี ทําให้เจ็บตัวน้อยลง แถมประหยัดงบมากขึ้น

“นอกจากนี้ที่หมอเลือกสารเติมเต็ม NeauWay โปรแกรม Hybrid Filler เพราะนอกจากจะทําหน้าที่แบบสารเติมเต็มแล้ว เขายังมีรุ่นที่มีส่วนผสมของ CaHA ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นการทํางานของไฟโบรบลาสต์ ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจน ทําให้คุณภาพผิวดีขึ้น ยกกระชับขึ้นด้วย ซึ่งเทรนด์ของนวัตกรรมที่มีส่วนกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนแบบนี้กําลังมาแรงและน่าจะอยู่ไปอีกหลายปี

“ถือเป็นเทรนด์โปรดักต์ที่น่าจับตา”


“หมอใช้วิธีการบริหารคลินิกแบบ Feel Like Home” โดยหมอจะคิดว่า ทุกคนที่ตัดสินใจมาที่คลินิกเป็นเหมือนคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง โดยพยายามให้ทุกคนสบายใจและไม่มีความสงสัยในการรักษา ความรู้สึกเหมือนโดนยัดเยียด คอร์สแบบที่หลายคนกังวลจึงไม่เกิดขึ้นที่คลินิก เพราะหมอเข้าใจดีว่าการสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการทุกคนโดยแก้ปัญหาที่เขากังวลต้องเกิดขึ้นก่อน แล้วค่อย ๆ กําหนดเป้าหมายของการรักษาให้ตรงกัน

“การดูแลความงามให้ใครสักคน หมอมองแต่ละเคสไม่เหมือนกัน และมองว่าควรเน้นให้การดูแลความงามแบบองค์รวม โดยจะมองถึงอนาคตด้วยว่าหน้าของเขาจะเป็นอย่างไร ต้องใช้นวัตกรรมจากหลายศาสตร์ร่วมกัน อาจใช้สารเติมเต็ม ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เป็นการใช้ความรู้องค์รวมเข้ามาดูแลร่วมกัน ซึ่งเรื่องนี้ ก็กลายเป็นที่บอกกันปากต่อปาก ถึงความสวยที่เกิดขึ้นในภาพรวมอย่างน่าพอใจ

“หลายครั้งเจอเคสซึ่งเขาทําที่อื่นมาก่อน เรียกว่าทําสวยมาเป็นส่วน ๆ จากหลายที่ด้วยกัน หมอต้องแก้ไขโดยวิเคราะห์ว่าจะทําอย่างไรให้ใบหน้าแต่ละส่วนที่ทํามาก่อนหน้านั้นดูกลมกลืนเข้ากันได้ในแบบของเขา ซึ่งจะทําให้ดูมีความเฉพาะตัวและสวยลงตัวขึ้น

“ทั้งนี้เวลาไปงานประชุมวิชาการ หมอจะเปิดใจให้กับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ เสมอ โดยมีเกณฑ์คือผลิตภัณฑ์นั้นต้องใช้มาทั่วโลกในระดับหนึ่ง และมีผลวิจัยระดับโลกรองรับ อย่างสารเติมเต็มจากอิตาลีตัวใหม่นี้เป็นเทคโนโลยี ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ผลิตภัณฑ์คงอยู่ได้นาน พบอาการแทรกซ้อนอย่างอาการ บวมหลังฉีดตรงบริเวณที่ทําการรักษาน้อยลง

“จากที่เคยได้ยินชื่อเสียงมาจากทางยุโรป เมื่อนํามาใช้จริงก็รู้สึกว่าได้ผลลัพธ์ตรงใจตามที่ต้องการ รวมถึงเสียงตอบรับถึงความพอใจในแบบธรรมชาติ ด้วยความ ที่เจอเคสแก้มาเยอะ ต้องวิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดจากการทําอะไรมาบ้าง ซึ่งโดยมากมักเกิดจากทั้งเทคนิคการฉีดและตัวผลิตภัณฑ์ที่เลือก

“พอมาใช้สารเติมเต็ม NeauWay โปรแกรม Hybrid Filler ก็ถือว่าตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาที่เจอมาได้อย่างชัดเจน”

เรื่อง PADCHA_PRAEWNISTA, Lutairat Ch. ภาพ อิทธิศักดิ์ สไตลิสต์ Pangsama S.

เที่ยวญี่ปุ่น ต้องช้อป เปิดพิกัดช้อปปิ้งแบรนด์เนมสุดฟิน ต้องเช็คอิน “โตเกียว & โอซาก้า”

account_circle

ช่วงนี้เห็นสายเที่ยวชาวไทยหนีร้อนไปปักหมุดที่ประเทศญี่ปุ่นกันเยอะสุด ๆ และเชื่อว่ามีสายเที่ยวอีกจำนวนไม่น้อยที่กำลังวางแผนทริปเที่ยวญี่ปุ่นกันอย่างขะมักเขม้น ซึ่งนอกจากการเที่ยวฟิน ๆ และกินของอร่อยแล้ว ญี่ปุ่นยังถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายช้อปอีกด้วย โดยเฉพาะเหล่าสาวกแบรนด์เนมที่ขอบอกเลยว่าดีต่อใจสุด ๆ เพราะนอกจากที่นี่จะรวบรวมแบรนด์หรูระดับโลกเอาไว้ให้ช้อปมากมาย แถมมาพร้อมกับราคาดีงามแล้ว ยังประจวบเหมาะกับช่วงนี้ค่าเงินเยนถูกลงมาก ๆ ทำให้การช้อปแบรนด์เนมที่ญี่ปุ่นดีต่อใจยิ่งขึ้นไปอีก

ดังนั้น Praew Survey ครั้งนี้ จึงไม่พลาดที่จะพาเหล่าสายช้อปไปเปิดวาร์ปพิกัดช้อปแบรนด์เนมฉ่ำ ๆ กันที่เมืองสุดฮอตอย่างโตเกียวและโอซาก้า งานนี้ขอบอกเลยว่าสายช้อปตัวแม่ตัวมัมทั้งหลายต้องปักหมุดกันให้ได้ค่ะ

Ginza

สตาร์ทพิกัดแรกกันที่เมืองหลวงอย่างโตเกียวซึ่งถือเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมปักหมุดช้อปกันที่ย่าน Ginza (กินซ่า) ซึ่งถือเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ของเหล่านักช้อปสายแบรนด์เนม เพราะที่นี่รวบรวมช็อปหรูของแบรนดังระดับไฮเอนด์เอาไว้แบบละลานตา เช่น Hermes, Louis Vuitton, Gucci, Prada รวมถึงยังมีห้างใหญ่อย่าง Ginza Six ที่จัดเต็มแบรนด์เนมเอาไว้อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังจากต่างประเทศ หรือแบรนด์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ย่านกินซ่ายังถือเป็นพิกัดของแรร์ ใครที่กำลังตามหาไอเท็มแบรนด์เนมชิ้นลิมิเต็ด ก็มีโอกาสเจอได้ที่นี่ เรียกว่าเป็นพิกัดที่ครบเครื่องเรื่องแบรนด์เนมจริง ๆ

Omotesando

อีกหนึ่งพิกัดช้อปแบรนด์เนมฉ่ำ ๆ ของโตเกียว ก็ต้องยกให้กับย่าน Omotesando (โอโมเตะซันโดะ) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านหรูแห่งใหม่ โดยนอกจากจะเต็มไปด้วยแบรนด์ดังระดับลักซ์ชัวรี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Chanel, Burberry, Hermes หรือ Dior อีกทั้งยังเป็นพิกัดของห้างหรูอย่าง Omotesando Hills และ Tokyo Plaza ที่อัดแน่นไปด้วยแบรนด์เนมชื่อดังแล้ว ที่นี่ยังเริ่ดด้วยบรรยากาศสุดลักซ์ชูของอาคารดีไซน์สวยโมเดิร์น ซึ่งรายล้อมไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ เรียกว่าดีต่อใจสุด ๆ จนได้รับการขนานนามให้เป็น Champs-Élysées (ช็องเซลีเซ) แห่งโตเกียวเลยทีเดียว ดังนั้นจึงปักหมุดความฟินได้ทั้งสายช้อปและสายเที่ยวเลยค่ะ

Shinsaibashi

วาร์ปข้ามไปปักหมุดช้อปไอเท็มแบรนด์เนมกันต่อที่โอซาก้าซึ่งถือเป็นเมืองยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยว แล้วเริ่มต้นความฟินกันที่ย่านช้อปปิ้งสุดฮ็อตของเมืองอย่าง Shinsaibashi (ชินไซบาชิ) ที่ละลานตาไปด้วยช็อปแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย ทั้งแบรนด์ดังของญี่ปุ่นเองและแบรนด์ดังจากต่างประเทศ โดยมีตั้งแต่แบรนด์สตรีทราคาดีงามไปจนถึงแบรนด์หรูราคาจึ้งใจ รวมถึงยังมีห้างดังอย่าง Etoile Shinsaibashi และ Shinsaibashi Parco ให้เหล่านักช้อปได้เดินช้อปแบรนด์เนมกันแบบฟิน ๆ อีกด้วย สายช้อปที่ไปเที่ยวโอซาก้า ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดพิกัดนี้

Midosuji

มูฟมาจากย่าน Shinsaibashi ไม่ไกลนัก ก็จะพบกับ Shopping Street ณ ใจกลางย่านเศรษฐกิจของโอซาก้าอย่างถนน Midosuji (มิโดซุจิ) ที่รับรองว่าโดนใจนักช้อปสายแบรนด์เนมอย่างแน่นอน เพราะถนนเส้นนี้เรียงรายไปด้วยช็อปหรูของเหล่าแบรนด์ไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Fendi, Prada, Channel, Hermes, Burberry, Louis Vuitton หรือ Cartier เรียกว่าเดินช้อปยาว ๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ หรือหากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินห้างเพื่อช้อปแบรนด์ดังของญี่ปุ่น ที่นี่ก็ยังมีห้างหรูอย่าง Daimaru และ Shinsei Sogo พร้อมเอาใจสายช้อปให้ได้เดินช้อปเพลิน ๆ อีกด้วย

หลังจากป้ายยาพิกัดช้อปแบรนด์เนมให้เหล่าสายช้อปใจฟูไปเรียบร้อยแล้ว Praew Survey ก็ขอป้ายยากันต่อกับทริกดี ๆ ที่จะทำให้ทริปเที่ยวญี่ปุ่นของคุณทั้งฟินและคุ้มค่ายิ่งขึ้น ง่าย ๆ เพียงแค่มีบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และ Krungsri Boarding Card เอาไว้ในมือ เพราะนาทีนี้ขอบอกเลยว่า “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” เลยค่ะ

ความเริ่ดของแคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” คือ บัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้แก่ บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส ช่วยตอบโจทย์คนรักญี่ปุ่นได้แบบจัดเต็มจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายเที่ยว สายกิน หรือสายช้อป แถมเปย์ความฟินให้ตั้งแต่ช่วงวางแผนทริป ช่วงท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ไปจนถึงช่วงกลับมาประเทศไทยแล้ว แต่ยังมูฟออนจากความฟินไม่ได้ เรียกว่าครอบคลุมทุกบริการและประสบการณ์เกี่ยวกับญี่ปุ่นเลยทีเดียว

นี่คือตัวอย่างความฟินที่สายเที่ยวจะได้รับ เพียงแค่มีบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เช่น ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษเมื่อจองบัตรโดยสารสายการบินที่ร่วมรายการ, สิทธิพิเศษเมื่อเลือกจองโรงแรม สายการบิน และบัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นกับแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ เช่น Klook, Traveloka, Trip.com, Agoda การใช้คะแนนสะสมแลกซื้อซิมเพื่อใช้งานที่ญี่ปุ่นในราคาพิเศษ หรือแลกสิทธิเข้าเลานจ์ภายในสนามบิน, สิทธิพิเศษเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรที่ห้างและร้านค้าพันธมิตรที่ญี่ปุ่น เช่น Takeya, Matsuya Ginza, Mitsui Outlet Group, Bic Camera นอกจากนี้ ทุกยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นตามเงื่อนไขยังสามารถสะสมยอดเพื่อรับเครดิตเงินคืนแบบคุ้ม ๆ ได้อีกด้วย เช่น บัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม และบัตรเครดิต สยาม ทาคาชิมายะ เจซีบี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10% และรับเพิ่มรวมสูงสุดอีก 5% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นตามเงื่อนไข

ส่วนใครที่มูฟออนจากความฟินได้ยาก หากตัวกลับถึงไทยแล้ว แต่ใจยังอยู่ญี่ปุ่น ก็สามารถรับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ กันต่อได้ เช่น อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นจากแคมเปญ “กินคุ้ม หลุดโลก รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 17% ทุกมื้อ ทุกวัน ทุกร้านทั่วไทย” เมื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไข เช่น Oishi Grand, Oishi Eaterium, Oishi Buffet, Nikuya, Shabushi, Oishi Ramen, Sushi Hana, Sushi Seki, Letao, Yamachan, Tokyo Milk Cheese Factory, Kabocha Sushi ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2567 หรือรับสิทธิพิเศษรวมสูงสุด 30% จากแคมเปญ “ปลุกระดมสายกิน! ยกขบวนบุฟเฟต์ ปิ้งย่าง ชาบู มาเป็นกองทัพ” ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการ เช่น Shibuya Shabu, Neta Grill, Fuku In Town, Evaime Shabu Shabu, Yakiniku Yuu, Oshinei, Kouen Premium Buffet, Kagonoya ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2567

ความฟินจากแคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” ยังขอเอาใจสายเที่ยวด้วย Krungsri Boarding Card จากธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งเป็นบัตร VISA Prepaid Card Multi-Currency ที่มีกระเป๋าเงิน E-Wallet 16 สกุลเงินต่างประเทศ และ 1 Wallet สกุลเงินบาท ที่มาพร้อมกับเรทเงินดีต่อใจ โดยเฉพาะเรทเงินเยนที่ขอบอกเลยว่าถูกมาก อีกทั้งยังใช้งานสะดวกสบาย โดยผู้ถือบัตรสามารถแลกเปลี่ยนเงินบาทจากบัญชีออมทรัพย์เป็นสกุลเงินต่างประเทศเข้าไปใน Wallet ที่อยู่ในบัตรได้ด้วยตัวเองผ่าน Krungsri Mobile Application ซึ่งสามารถแลกเงินเข้าไปในบัตรได้ตลอดเวลาและเรียลไทม์ หากมีเงินเหลืออยู่ใน Wallet ก็สามารถแลกคืนเป็นเงินบาทกลับเข้าไปในบัญชีออมทรัพย์ได้ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นตั้งซื้อเรทที่ต้องการแลกได้ และมีแคมเปญส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำมากมายทั้งในต่างประเทศและในประเทศตลอดทั้งปี โดยเฉพาะร้านค้าชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น

สายเที่ยวคนไหนที่กำลังวางแผนทริปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ ขอแนะนำว่าต้องมี! ทั้งบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และ Krungsri Boarding Card รับรองว่าเที่ยวญี่ปุ่นฟินสุด ๆ แน่นอน ส่วนใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” ก็สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://kcc.gg/sf0n เลยค่ะ

ยูนิโคล่ เปิดตัวคอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชัน UNIQLO x Marimekko ฤดูร้อน 2024

account_circle

ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก เปิดตัวคอลเลคชันใหม่ของ UNIQLO x Marimekko จากความร่วมมือกับมารีเมกโกะ (Marimekko) แบรนด์ไลฟ์สไตล์และดีไซน์เฮาส์จากฟินแลนด์ โดยคอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชันประจำฤดูร้อน 2024 นี้ โดยได้แรงบันดาลใจจากกิจกรรมปิกนิคที่สนุกสนานในช่วงฤดูร้อนนำเสนอไอเทมเรียบง่ายและเบาสบายจากยูนิโคล่ ที่มาพร้อมลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของมารีเมกโกะ ด้วยเสื้อผ้าที่สดใสรับซัมเมอร์ พร้อมเติมสีสันให้กับช่วงเวลาพิเศษระหว่างครอบครัว เพื่อนๆ และคนที่คุณรักให้น่าจดจำยิ่งขึ้น พร้อมวางจำหน่ายที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และออนไลน์สโตร์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

6 ลายพิมพ์ไอคอนิกจาก Marimekko

พบกับลายพิมพ์ไอคอนิกสุดสดใสรับซัมเมอร์ทั้ง 6 ลาย ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง 4 คน จากดีไซน์เฮาส์มารีเมกโกะ โดยแพทเทิร์นในคอลเลคชันนี้เป็นผลงานจากช่วงสามทศวรรษตั้งแต่ ยุค 50 ยุค 60 และ ยุค 70 ลายกราฟิกที่โดดเด่นอย่าง Melooni (เมล่อน) โดยไมยา อิโซลา และ ลาย Asema (สถานี) โดยแพนติ รินต้าที่เป็นลายเล็กๆ ซ้ำไปซ้ำมา นอกจากนี้ยังมีลาย Ruukku (กระถางดอกไม้) ซึ่งเป็นลายดอกไม้ในสไตล์ abstract ของไมยา อิโซลา เสริมด้วยลายพิมพ์ Demeter จาก คัตซึจิ วากิซากะ นอกจากลายพิมพ์ 4 ลายแรก ยังมีผลงานที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกและอารมณ์ของรินต้ากับลายคลื่น Lirinä (เสียงน้ำไหล) และลาย Galleria (แกลเลอรี่) ที่เรียบง่ายของโวคโก เอสโกลิน นูร์เมสเนียมี ซึ่งเน้นอารมณ์ความรู้สึกของคอลเลคชันนี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยลายพิมพ์ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้สไตล์ abstract และลายทางที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำให้คอลเลคชันนี้เข้ากับฤดูร้อนได้อย่างลงตัว

สร้างสีสันให้ฤดูร้อนด้วยชุดเดรส เสื้อยืด และเครื่องแต่งกายอื่นๆ

คอลเลคชันล่าสุดนี้มีชุดเดรสหลากสไตล์เหมาะสำหรับใส่ในช่วงฤดูร้อนพร้อมกับไอเทมต่างๆ ที่เข้าชุดกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมวกบักเก็ต กระเป๋าสะพายไหล่ รองเท้าสวมผ้าแคนวาส และเครื่องแต่งกายอื่นๆ อีกมากมาย โดยสินค้าไลน์อัพนี้มีทั้งสำหรับเด็กเล็ก เด็กโต และผู้หญิง และพบกับชุดที่เพอร์เฟคสำหรับหน้าร้อน อย่างเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตสุดเบาสบายที่พิมพ์ลายเข้าเข้าคู่กันกับกระโปรง

คอลเลคชันลิมิเต็ด เอดิชัน UNIQLO x Marimekko ฤดูร้อน 2024

วันวางจำหน่าย:                  วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567

สาขาที่วางจำหน่าย:         พบกับสินค้าทั้งไลน์อัพได้ที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และออนไลน์สโตร์

เว็บไซต์พิเศษ:                    https://www.uniqlo.com/th/th/contents/collaboration/uniqloxmarimekko/24ss/

สาขาที่วางจำหน่าย:           พบกับสินค้าทั้งไลน์อัพได้ที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และออนไลน์สโตร์     

เปิดการตีความคอสตูม ‘เจนนี่ BLACKPINK’ เข้าธีม Met Gala อย่างไร?

Alternative Textaccount_circle

เมื่อลุค ‘เจนนี่ BLACKPINK’ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ตรงธีม The Garden of Time เรามาเปิดการตีความในมุมมองเธอไปพร้อมกัน

เกิดเป็นประเด็นวิพากย์วิจารณ์บนโลกโซเชียลจนได้ สำหรับลุค ‘เจนนี่ BLACKPINK’ ในงาน Met Gala 2024 ที่ผ่านมา โดยเดรสโค้ดของปีนี้คือ ‘The Garden of Time’ ที่บรรดาเหล่าเซเลบริตี้แต่ละคนต่างจัดเต็มคอสตูมในฉบับการตีความของตัวเองมา ซึ่งเจนนี่เลือกใส่มินิเดรสสีน้ำเงินจาก ALAÏA ที่มีดีเทลเป็นการจับเดรปตลอดทั้งตัว จึงทำให้เกิดความคิดเห็นหลายอย่างตั้งแต่คอสตูมปีนี้ไม่ตราตรึง ไปจนถึงไม่ตรงกับธีม

โดยในวีดีโอเบื้องหลัง เจนนี่ได้เล่าว่า “ธีม Garden of Time ทำให้เธอนึกถึง ธรรมชาติ ดอกไม้ และสีเขียว แต่เจนนี่เลือกตีความลุคของตัวเองออกมาเป็น Natural Timeless Look หรือ ธรรมชาติเหนือกาลเวลา โดยเลือกใช้ผ้าไหม Georgette และสีจากธรรมชาติ ซึ่งความพิเศษของชุดนี้อยู่ที่การใช้ผ้าผืนเดียวขนาด 13 เมตร มาตัดเย็บ ใช้เวลาทำชุดกว่า 200 ชั่วโมง อีกทั้งยังเลือกเครื่องประดับเป็น Irregular Baroque Pearls หรือไข่มุกที่เป็นรูปทรงธรรมชาตินั่นเอง”

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างการตีความเดรสโค้ดที่ลึกซึ้งจริงๆ และสิ่งนี้ก็ถือเป็นสีสันและความสนุกของ Met Gala ที่ทำให้เรารูสึกเซอร์ไพรส์ไปกับลุคของเซเลบริตี้แต่ละคนว่า พวกเขาจะตีโจทย์ที่ได้มาในคอสตูมแบบไหน


รูปภาพ: @jennierubyjane

ระยิบระยับทั่วเวที! 2 คอสตูมตัวแม่ Taylor Swift ในคอนเสิร์ต The Eras Tour

Alternative Textaccount_circle

ยังไปสุดทุกดีเทล! เปิด 2 คอสตูมสั่งตัดพิเศษจาก Versace ของ Taylor Swift ในคอนเสิร์ต The Eras Tour

แม่ก็คือแม่ เมื่อ The Eras Tour ยังคงเดินทางมอบความสนุกให้กับคนทั่วโลก ซึ่งล่าสุด Taylor Swift ได้ไปเยือนยุโรปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมการแสดงสุดยิ่งใหญ่ที่จัดเต็มทุกดีเทล แม้กระทั่งคอสตูมของเธอทัวร์ครั้งนี้เทย์เลอร์ปรากฏตัวในชุดบอดี้สูทและเบลเซอร์สีแดงประดับคริสตัลระยิบระยับ โดยทั้ง 2 ชุดสั่งตัดพิเศษจาก Versace

โดยชุดแรก เป็นบอดี้สูทสีส้มประดับด้วยคริสตัล อันโดดเด่นด้วยเทคนิคการออกแบบโครงสร้างของชุด ที่ทำให้รูปร่างดูเพรียวยิ่งขึ้น พร้อมดีเทลปักเลื่อมไล่ระดับลดหลั่นกันไป และตกแต่งด้วยองค์ประกอบสีเหลือบรุ้ง และชุดที่สองเบลเซอร์กระดุมสองแถว ประดับด้วยคริสตัลในโทนสี Fuchsia เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยกระดุมเมดูซ่าสีทอง ทั้งนี้ยังมาพร้อมรองเท้าบู๊ตสีเจ็บ ไล่สี ชมพู-แดง และเหลือง ถือเป็นสองชุดที่สะดุดตาแม้นั่งอยู่บนดอยยังไงก็ต้องเห็นแน่นอน!


ภาพและข้อมูล: Versace

ซนซอกกู

เบอร์เบอรี่ ประกาศแต่งตั้ง “ซนซอกกู” ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์

account_circle
ซนซอกกู
ซนซอกกู

ซนซอกกู นักแสดงหนุ่มเกาหลีมากความสามารถ ได้รับการแต่งตั้งจากแบรนด์ Burberry (เบอร์เบอรี่) ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด โดยเขาจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกครอบครัวโกลบอลของเบอร์เบอรี่

ซนซอกกู นักแสดงมากความสามารถซึ่งเป็นที่รู้จักจากซีรีส์และภาพยนตร์ โดยเขาได้มีโอกาสแสดงซีรีส์และภาพยนตร์หลายประเภท และยังได้รับบทบาทที่หลากหลายอีกด้วย

ในปี 2021 เขาได้แสดงซีรีส์ยอดนิยมของ Netflix เรื่อง ‘D.P.’ ในปีต่อมา เขาได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ในการแสดงบทบาท คุณกู ในซีรีส์เรื่อง ‘My Liberation Notes’ และได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘The Roundup’ ในงาน Korean Association of Film Critic Awards

นอกจากเขาจะได้เป็นหนึ่งในดาราที่มีชื่อเสียงที่สุดของปี 2022 แล้ว เขายังร่วมแสดงละครเวทีเรื่อง ‘Army on a Tree’ ในปี 2023 อีกด้วย

โดยซนซอกกูเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของแบรนด์อย่างชัดเจน และเป็นส่วนเติมเต็มที่จะเข้ามาเป็นครอบครัวเบอร์เบอรี่ได้อย่างสมบูรณ์

“เบอร์เบอรี่เป็นแบรนด์ที่ผมชื่นชมมาอย่างยาวนาน จึงเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และผมตั้งตารอการเดินทางไปพร้อมกับเบอร์เบอรี่ในอนาคต” ซนซอกกูกล่าว


THE PARROT เปิด Flagship Store แห่งใหม่ แห่งแรกบนถนนสาทร

account_circle

ครั้งแรกกับการเปิดตัว THE PARROT FLAGSHIP STORE แห่งใหม่และแห่งแรก บนถนนสาทร ย่านศูนย์กลางธุรกิจ
ภายใต้ชื่องาน EXCLUSIVE CRAFTSMANSHIP JOURNEY

THE PARROT แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย ที่นำคาแรคเตอร์ของนกแก้ว มาเป็นแรงบันดาลใจหลักของแบรนด์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ด้วยงานพลีทดีไซน์เรียบ เก๋ แต่แฝงด้วยความน่าสนใจ เข้ากับทุกสมัยพร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้สวมใส่ ซึ่งทุกครั้งที่ผ้าพลีทเคลื่อนไหวจะเปรียบเสมือนปีกของนกแก้วที่พร้อมจะสยายและบินไปสู่ท้องฟ้า

ครั้งแรกกับการเปิดตัวร้านใหม่ ในงาน THE PARROT FLAGSHIP STORE OPENING & EXCLUSIVE CRAFTSMANSHIP JOURNEY  เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ความพิเศษของงานในครั้งนี้ สามารถสัมผัสพร้อมลองเสื้อผ้าได้ตรงใจ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญจากทางแบรนด์ (Personal Stylist) ช่วยแนะนำ รวมถึงมี Customized gift ที่เป็นงาน Craftsmanship ของทางร้านจากช่างฝีมือ โดยสามารถระบุอักษร เลือกแบบ สี และลวดลายเองได้อย่างสร้างสรรค์

“เพลิน” พิมสิริ นาคสวัสดิ์ ประธานบริหาร และผู้อำนวยการ  ฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ THE PARROT  กล่าวว่า คอลเลกชั่นพิเศษสำหรับงานครั้งนี้คือ  Womenswear Collection “The Symphonist” การแต่งตัวในแต่ละวันเปรียบเสมือนกับการแต่งเพลงและบรรเลงเพลงให้เข้ากับอารมณ์และความรู้สึกของแต่ละวัน

โดยครั้งนี้ทาง THE PARROT ได้นำเรื่องราวของแนวเพลงหลากหลายแนว มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ และเชื่อมโยงในเรื่องของการ Customized อันเป็นเอกลักษณ์ มาผสมผสานเข้ากับการแต่งเพลงอย่างลงตัวจึงเป็นที่มาของคอลเลกชั่น “The Symphonist” และอีกหนึ่งคอลเลกชั่น เอาใจสายครอบครัวที่จะพลาดไปไม่ได้เลย คือ เสื้อผ้าเด็กKids’ Collection “Coterie” หรืออีกความหมายแปลว่า กลุ่มคนที่มีความชอบเหมือน หรือคล้ายกัน เป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้าที่ทำออกมาให้ใส่ด้วยกันได้ทั้งครอบครัว มีกลิ่นอายความเป็น THE PARROT อย่างชัดเจน มีทั้งลายพิมพ์และผ้าพลีทซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ ใส่ลงไปในดีไซน์ ของคอลเลกชั่นครอบครัวครั้งนี้ด้วย

โดยร้านใหม่นี้ มีกันทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นจะประกอบไปด้วยโซน Ready to wear collection, โซนงาน Customized ต่าง ๆ ตลอดจนเสื้อผ้าเด็ก และโซน The Parrot Home Edition ที่เป็นคอลเลกชั่นใหม่อีกด้วย

นอกจากเสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางแบรนด์แล้ว โซน Fabric gallery ที่รวบรวมลายพิมพ์ที่ทางแบรนด์ออกแบบมาด้วยความประณีตให้ได้เลือกชม ลูกค้าจะได้ลองเลือกสิ่งที่เป็นตัวเองมากที่สุด ตามคาแรกเตอร์ของลูกค้าแต่ละท่าน โดยสามารถนำลายผ้าที่ถูกใจไปแมทช์กับดีไซน์ชุดของ THE PARROT ให้เข้ากับสไตล์ตัวเองในแบบต่าง ๆ  รวมถึงภายในร้านยังมีงานชุดเพื่อนเจ้าสาว

โดยลูกค้าสามารถเลือกผ้าและออกแบบลายผ้าใหม่ตามตีมงาน และตัดในแบบที่ต้องการได้ มีให้เลือกสรรค์กันอย่างครบถ้วน เรียกได้ว่ามาร้านเดียวได้กลับไปครบทั้งงานสร้างสรรค์ งานฝีมือ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง และเร็ว ๆ นี้ทางร้านยังมีแพลนที่จะมีโซนเครื่องดื่มให้กับลูกค้าที่มานั่งรอ หรือแวะมาเยี่ยมชมร้านอีกด้วย

ร้าน THE PARROT FLAGSHIP ตั้งอยู่บน ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ติดกับถนนใหญ่ บริเวณหน้าซอยนราธิวาสฯ 15 เดินทางง่าย มีจุดบริการที่จอดรถอย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันถนนเส้นสาทร-นราธิวาสฯ เป็นที่ตั้งของ Urban Destination มากมาย ทำเลทอง ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร Cafe และบาร์เท่ ๆ ที่มี Concept ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ในอนาคตแฟลกชิปสโตร์นี้จะเป็นแลนด์มาร์คสุดเก๋ จุดเช็คอินคนเมืองแห่งใหม่อย่างแน่นอน

ร้าน THE PARROT FLAGSHIP STORE ร้านเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11:00 – 20:00 น. หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ IG: @THEPARROTBANGKOK, Line@: @THEPARROTBANGKOK และ  www.theparrotbangkok.com


สำรวจหนัง Dior Gravity ผ่านกระเป๋าเมนเซนเจอร์ใบใหม่ของ อาโป ณัฐวิญญ์

Alternative Textaccount_circle

เป็นถึง House Ambassador ทั้งทีไม่มีพลาด! อาโป ณัฐวิญญ์ กับกระเป๋าหนัง ‘Dior Gravity’ ใบใหม่จากคอลเล็คชั่น Fall 2024

ได้เวลาเจาะไอเท็มใหม่อีกครั้งเมื่อดิออร์เปิดตัววัสดุหนัง ‘Dior Gravity’ ที่ออกแบบโดย Kim Jones และประทับลวดลาย Dior Oblique ที่เป็นเอกลักษณ์ของเฮาส์ โดยในคอลเล็คชั่น Fall 2024 ได้ใช้วัสดุดังกล่าวมาครีเอทเป็นไอเท็มหลายชนิดตั้งแต่กระเป๋า รองเท้า และเข็มขัด

แน่นอนว่าตัวแทนอย่าง House Ambassador ของ Dior อย่าง ‘อาโป ณัฐวิญญ์’ ก็ไม่มีพลาด หยิบไอเท็มใหม่มาใส่อวดโฉมโดยในลุค Fall 2024 ของเขา ไอเท็มที่โดดเด่นที่สุด ต้องยกให้กับ Dior Hit the Road Messenger Bag ที่ทำมาจากหนัง Dior Gravity ในรูปทรงกระเป๋าเมสเซนเจอร์ อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานเต็มรูปแบบ จุของได้เยอะ และมีฝาปิดพร้อมประดับลาย CD ปั๊มลาย Christian Dior โดยรวมแล้วกระเป๋าใบนี้ให้ความสตรีท รับรองว่าหยิบใช้ได้ใน Everyday Look แน่นอน สนนราคาประมาณ 130,000 บาท


ภาพ: @apo555 และ Dior.com

So Hot! ลุคเกินต้านของ 5 สาว VIIS และความปังจัดเต็มในซิงเกิ้ลล่าสุด

account_circle

#PraewDigitalCover เป็นอีกหนึ่งเกิร์ลกรุ๊ปที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้ทุกครั้ง ครั้งนี้มาพร้อมกับซิงเกิ้ลล่าสุด “Mirror Mirror” จาก VIIS (วิส) “ปลายฟ้า – ปลายฟ้า ศิระอาชา, ธารา – อนันต์ธารา กิ๊บสัน, ซอนญ่า พราว บีสัน, เชียร์ – กชพรรณ กิจไกรลาศ และ อะตอม – ปริยะ ปิยะพันธ์โอภาส” ที่มาพร้อมลุคสุดร้อนแรง ใน #PraewDigitalCover พร้อมด้วยพัฒนาการด้านการร้อง เต้น และเสน่ห์แบบจัดเต็ม

พูดถึงผลงานล่าสุด “Mirror Mirror” หน่อยค่ะ

เชียร์    “Mirror Mirror เป็นเพลงที่พูดถึงความสัมพันธ์ที่ Toxic ที่เขาต้องการให้เราเปลี่ยนตัวเอง ซึ่งความจริงแล้วถ้าเขารักเราจริง เขาต้องรักที่เราเป็นเรา ซึ่งตรงกับเนื้อเพลงท่อนที่ว่า ‘บอกว่ารักฉันจริง แต่ให้เป็นเหมือนใคร มันก็คงไม่ใช่ OK’

อะตอม            “ซึ่งถ้าดูจากผลงานก่อนหน้านี้ก็จะเป็น Barbie (Oops Oops) , ร้ายก็ได้ (Don’t Mind) , เล่นไม่คิด (Thoughless) จะเป็นแนวกำลังเริ่มมีความรัก แต่ตอนนี้อัพเกรดแล้ว ก็จะมีความดุขึ้น มีความโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”

จากเพลงแรกจนถึงเพลงล่าสุด คิดว่า VIIS เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ธารา    “โดยรวมเติบโตขึ้น อย่างตอนเพลง Barbie (Oops Oops) ตอนนั้นพวกเรายังเป็นเฟรชชี่ แต่ตอนนี้โตขึ้นเป็นซีเนียร์ ขึ้นมานิดนึงค่ะ”

ซอนญ่า            “คิดว่าลุคโตขึ้นด้วยค่ะ ทั้งการแต่งตัว หน้า ผม และยังคงคอนเซ็ปต์เต้นแข็งแรงเก็บทุกบีท” (หัวเราะ)

เชียร์    “ใช่ค่ะ และเข้าใจความรักหลายรูปแบบมากขึ้นด้วย”

ถ้าในมุมส่วนตัว แต่ละคนคิดว่าตัวเองโตขึ้นในมุมไหนบ้าง

ซอนญ่า          “มีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ (ยิ้ม) พอเราผ่านมาหลายสเตจ มีเพลงเยอะขึ้น เราก็มีประสบการณ์มากขึ้น ก็เลยมีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ”

เชียร์    “คิดว่าน่าจะมีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่ก็ยังต้องพัฒนาต่อไปค่ะ” (ยิ้ม)

ธารา    “น่าจะเป็นเรื่อง Mindset รู้สึกว่าตัวเองมี Mindset โตขึ้น Positive ขึ้นกว่าเดิมค่ะ

อะตอม “ของหนูนอกจากอายุแล้ว ก็น่าจะเป็นพลังค่ะ (หัวเราะ) เหมือนเราโตขึ้นตามเพลง เป็นเด็กที่มีพลังพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ”

ปลายฟ้า          “ของหนูเหมือนอะตอมเลยค่ะ ปีนี้เป็นปีที่โตขึ้นด้านความคิด และจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น อย่างตอนนี้เรียนจบแล้ว ก็โฟกัสกับงานได้เต็มที่มากขึ้น และพัฒนาตัวเองเรื่องงานได้เต็มที่ขึ้นด้วยค่ะ”

ในการทำงานแต่ละคนช่วยเหลือกันอย่างไรบ้างคะ

ซอนญ่า            “ในการทำงาน หนูคิดว่าแต่ละคนมีเอเนอร์จี้ที่ต่างกัน คอยช่วยเหลือกัน อย่างหนูเอง เป็นคนที่คอยทำให้เสียงดังค่ะ” (หัวเราะ)

เชียร์    “การทำงานหนูรู้สึกว่าพวกเราทั้ง 5 คน มีเรื่องเสริมและช่วยกันเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ การซ้อมเต้น การไปโชว์ ทุกอย่างเลยค่ะ”

ขอ 1 คำ แทนความตัวเอง

ซอนญ่า            “เสียงดัง! (หัวเราะ) หนูเป็นคนเสียงดังค่ะ”

ปลายฟ้า          “อืม… คำว่า พูดไม่รู้เรื่อง ค่ะ” (หัวเราะ)

เชียร์    “หมวยเล็ก แล้วกันค่ะ ดูจำง่าย และเข้ากับลุคหนูด้วย”

ซอนญ่า          “หมวยเล็ก เข้ากับพี่อะตอมมากกว่าอีก”

อะตอม (รีบตอบ) “งั้นหนูขอคำว่า หมวยเล็กค่ะ” (หัวเราะ)

ซอนญ่า          “เชียร์เหมือนการ์ตูนปุ๊กก้า”

เชียร์    “งั้นคำว่า ปุ๊กก้าค่ะ” (หัวเราะ)

อยากให้ VIIS ฝากอะไรถึงแฟนคลับหน่อยค่ะ

อะตอม “ขอบคุณที่ติดตามพวกเราทั้ง 5 คนนะคะ เราจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ จะทำให้ทุกคนดีใจและภูมิใจในตัวพวกเรานะคะ”

เชียร์    “อยากบอกว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอทุกคน ไม่ว่าจะเป็นงานไหนก็ตาม ขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะ”

  • ช่างภาพ : Vorason Dvi-vardhana
  • Digital Editor & Style : Minim
  • Art Director: Voravat
  • Story : รินรดา นีราณิชกุล
  • Fashion Writer : Mild Wipada
  • เสื้อผ้า : Kloset / PENNYPINCHER

‘Chai Jia Chai’ รังสรรค์อาหารจีนโอมากาเสะ ช่วยแผ่นดินไหวในไต้หวัน ในงานดินเนอร์การกุศล ‘Helping Hands for Taiwan’

Alternative Textaccount_circle

“Chai Jia Chai” (ไชย เจีย ชัย) ร้านอาหารจีนกวางตุ้งไฟน์ไดนิ่ง ที่นำเสนอในรูปแบบโอมากาเสะแห่งแรกในประเทศไทย ชวนนักชิมร่วมดินเนอร์การกุศล “Helping Hands for Taiwan: Earthquake Relief Charity Dinner” ที่พาคนรักอาหารจีนออกเดินทางไปกับเมนูรสเลิศล้ำถึง 9 คอร์ส พร้อมส่งต่อน้ำใจช่วยบรรเทาภัยแผ่นดินไหวในไต้หวัน เมื่อเร็วๆ นี้

บรรยากาศมื้อค่ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Helping Hands for Taiwan: Earthquake Relief Charity Dinner” ณ Chai Jia Chai ร้านอาหารจีนกวางตุ้งไฟน์ไดน์นิ่งในกรุงเทพฯ ที่นำโดยเชฟชาวไต้หวัน อบอวลไปด้วยความรื่นรมย์ อบอุ่น และความร่วมใจกันเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวัน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ซึ่งนับเป็นมหันตภัยครั้งรุนแรงที่สุดของไต้หวันในรอบ 25 ปี สร้างความเสียหายให้กับผู้คนนับล้าน รวมถึงร้านค้า โรงเรียน และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ล้วนได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายในการบูรณะสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 22.7 พันล้านบาทไทย) และโปรเจกต์ดินเนอร์การกุศลของ Chai Jia Chai ครั้งนี้ ก็ได้เปิดโอกาสให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศที่อาศัยในไทย ได้ร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งนี้ ผ่านกิมมิกอาหารจีนกวางตุ้ง “โอมากาเสะ” ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน และจะมอบรายได้ทั้งหมด (หลังหักค่าใช้จ่าย) ให้กับรัฐบาลไต้หวัน เพื่อสนับสนุนการบรรเทาภัยพิบัติฟื้นฟูชีวิตและชุมชนใน ฮวาเหลียน (Hualien) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ความพิเศษของค่ำคืนนี้ รังสรรค์โดย ‘เชฟไช่ ชื่อ เหวย’ (Chef Tsai Shih Wei) เชฟชาวไต้หวันผู้มีประสบการณ์ในร้านมิชลินมากว่า 23 ปี แห่งร้าน Chai Jia Chai ได้เผยด้านใหม่ของอาหารจีน (Cantonese Cuisine) ในสไตล์ไต้หวัน และนำเสนอในรูปแบบ “โอมากาเสะ” สุดครีเอทีฟ กับเมนูอันเลิศล้ำ 9 คอร์ส เมนูที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันนี้ จะพานักทานท่องเที่ยวไปในดินแดนแห่งรสชาติของ “ไต้หวัน” ทั้งยังเผยให้เห็นทั้งมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวยและอนาคตอันน่าตื่นเต้นของอาหารไต้หวัน แต่ละเมนูได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบและประเพณีท้องถิ่นอันเป็นที่รัก นำมาตีความใหม่ด้วยสัมผัสความทันสมัย รวมถึงหยิบยกเมนู “สตรีทฟู้ด” อันโด่งดังของไต้หวันมาผสานเทคนิคการปรุงอาหารชั้นเลิศแบบกวางตุ้ง ที่จะทำให้ทั้งงานอบอวนไปด้วยรสสัมผัสและกลิ่นอายของไต้หวันอย่างแท้จริง

คอร์สแรก เริ่มต้นการผจญภัยคอร์สอาหารจีนโอมากาเสะ กับเมนูเรียกน้ำย่อย 3 อย่าง ได้แก่ “สลัดกุ้งแลงกูสทีน” สดชื่นกับสลัดผลไม้ตามฤดูกาลและผักย่าง ออนท็อปด้วยกุ้งหวานฉ่ำ และคาเวียร์ Prunier “Osciètre”  “อกเป็ดรมควันกับไข่ปลากระบอก” อกเป็ดรมควัน 14 วัน เนื้อนุ่มละมุน จับคู่กับ ไข่ปลากระบอก หรือ Mullet Roe อาหารชนชั้นสูงของไต้หวัน และ “โรลปลาหมึกราดซอสห้ารส” ปลาหมึกนุ่มยัดไส้กล้วย กระเทียม ผักชี และพริกไทย เคลือบด้วยซอสห้ารสแบบดั้งเดิม เพิ่มความอร่อยเข้มข้น

คอร์สที่สอง ซิมโฟนีแห่งเนื้อสัมผัสและรสชาติ “หมี่กรอบหอยนางรม” (Oyster Crispy Rice Noodles) หอยนางรมสดจากทะเลไทยบนเส้นหมี่กรอบ โรยหอมเจียวหอมกรุ่น ปลาแห้ง และคาเวียร์ Prunier “Osciètre” ให้รสสัมผัสอันแตกต่างแต่ลงตัว

คอร์สที่สาม สัมผัสประวัติศาสตร์กับ “ซุปสี่สหาย” (Four Gods Soup) ซุปรสเข้มข้นของการผสานส่วนผสมต่าง ๆ อาทิ เคียมซิก เม็ดบัว และลูกเดือย ให้สัมผัสที่นุ่มนวล ขณะที่รังนก หอยเชลล์แห้ง และตังกุย เพิ่มความซับซ้อนของรสชาติ ชุ่มช่ำด้วยประวัติศาสตร์

คอร์สที่สี่ “กระเพาะปลาตุ๋นกับหมู” (Braised Fish Maw with Pork) ลิ้มลองเมนูแห่งความหรูหรา ผ่านความนุ่มละมุนของเนื้อหมูสามชั้นกับกระเพาะปลาเนื้อพรีเมี่ยม ตุ๋นในน้ำซอสเข้มข้นกลมกล่อม พร้อมเห็ดทรัฟเฟิลดำและเผือก

คอร์สที่ห้า คั่นระหว่างมื้อด้วยPalate Cleanser ผลไม้เชื่อมและชะเอมเทศที่ให้รสสัมผัสที่น่าแปลกใจแต่แสนอร่อย เข้ากันอย่างลงตัวกับความหวานของลูกพรุนอบแห้ง มะเขือเทศ และเถาเจียว หรือน้ำตาลดอกท้อ (peach gum)

คอร์สที่หก ความสุขของคนรักเนื้อกับ “เนื้อสันใน A5 ตุ๋น” (Braised A5 Fillet) เนื้อสันในวากิว A5 จากคาโกชิม่าละลายในปาก ยกระดับด้วยน้ำซอสเนื้อวัวสไตล์ไต้หวันรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมหน่อไม้จีนดองและหน่อไม้ สร้างสรรค์คำที่หรูหราและน่าจดจำ

คอร์สที่เจ็ด “ข้าวต้มล็อบสเตอร์” (Lobster Porridge) ดื่มด่ำกับแก่นแท้ของความหรูหราด้วยเมนูสุดพิเศษ ข้าวต้มล็อบสเตอร์เนื้อเนียนนุ่ม เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่หรูหราและอบอุ่น ชูรสชาติความหวานของล็อบสเตอร์ไทยได้อย่างลงตัว

ปิดท้ายด้วยของหวานสุดพิเศษฝีมือเชฟชื่อดังอย่าง เชฟคณิน บุญตันบุตร เชฟขนม จาก “Potong” (โพทง) ร้านอาหารไทย-จีนชื่อดังและได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ที่มาร่วมสร้างสรรค์ขนมหวานในงานนี้ เพิ่มประสบการณ์การรับประทานให้เหนือระดับยิ่งกว่าที่เคย ด้วยเมนูขนมหวานซิกเนเจอร์ ‘Famous’ (คอร์สที่แปด) และ‘Petit Four’ (คอร์สที่เก้า) ที่นำเอาผลไม้เมืองร้อน ได้แก่ สับปะรด มะพร้าว และมะม่วง มาสร้างสรรค์เป็นของหวานตบท้ายที่สดชื่นและน่าประทับใจ ปิดท้ายมื้อค่ำเพื่อไต้หวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากอาหารอันเลิศล้ำแล้ว เชฟไช่ยังได้จับคู่อาหารกับค็อกเทลสุดพิเศษจาก “เกาเหลียง” (Kaoliang) และ “คาวาลาน (Kavalan) เครื่องดื่มอันโด่งดังและเป็นสัญลักษณ์ของไต้หวัน ที่เข้ากันอย่างลงตัวกับอาหารแต่ละคอร์สอีกด้วย

เชฟ ไช่ ซื่อ เหว่ย กล่าวว่า “ผมรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับการสนับสนุนอันล้นหลามที่เราได้รับสำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำ ‘Helping Hands for Taiwan’ ในครั้งนี้ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ร้านอาหารของเรามีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์ที่ฮวาเหลียน การได้เห็นน้ำใจอันเอื้อเฟื้อของแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ทำให้ผมมีความหวังอย่างมากสำหรับอนาคต ความสำเร็จของงานเลี้ยงอาหารค่ำ “Helping Hands for Taiwan” นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแขกผู้มีเกียรติจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย การมีส่วนร่วมของท่านเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของงานเลี้ยงครั้งนี้ และแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของชาวโลกที่มีต่อไต้หวันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

“Chai Jia Chai” อัญมณีแห่งไฟน์ไดน์นิ่งตั้งอยู่ในกลางกรุงเทพฯ บนถนนสุขุมวิท 31 เมื่อก้าวผ่านประตูสู่ “Chai Jia Chai” ซึ่งมีความหมายว่า “บ้านเชฟไช่” นักชิมจะได้สัมผัสกับดินแดนแห่งความอร่อยอันแสนสงบและอบอุ่น กับสไตล์การตกแต่งโมเดิร์น คลาสสิก ที่เชื่อมโยงกับสไตล์อาหารจีนยุคใหม่ของร้าน ฝีมือการรังสรรค์โดยเชฟผู้มีวิสัยทัศน์อย่าง ‘เชฟไช่ ชื่อ เหวย’ด้วยประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในการฝึกฝนฝีมือในครัวมิชลินสตาร์ทั่วโลก สู่เมนูอาหารเลิศรสที่เป็นงานศิลปะแห่งรสชาติ และสร้างบทใหม่ให้กับอาหารจีนกวางตุ้ง ด้วยการนำเสนอในรูปแบบโอมากาเสะแห่งแรกในประเทศไทย


MET GALA 2024

ชมลุคเหล่าคนดัง สวม Burberry ในงาน Met Gala 2024 รังสรรค์โดย Daniel Lee

account_circle
MET GALA 2024
MET GALA 2024

แม้งานจะลงไปแล้วสำหรับ Met Gala 2024 แต่หลายคนยังคงพูดถึงลุคต่างๆ ของเหล่าคนดังที่ไปร่วมงาน โดยปีนี้คนดังฝั่งไทยอย่าง ไบร์ท วชิรวิชญ์ ก็ได้รับเชิญไปร่วมเดินพรมแดงในฐานะ Burberry เจ้าภาพแขกในงาน Met Gala 2024 นอกจากนี้ยังมีเซเลบริตี้คนอื่นๆ ที่ใส่โททัลลุคของแบรนด์อีกด้วย

ชมลุคเหล่าคนดัง สวม Burberry ในงาน Met Gala 2024 รังสรรค์เครื่องแต่งกายโดย Daniel Lee

ไบร์ท วชิรวิชญ์ สวมเสื้อแจ็คเก็ตผ้าจอร์จเจ็ตจับจีบสีดำ ตกแต่งด้วยงานปัก tonal bullion เสื้อกล้ามตาข่ายสีทอง และกางเกงทักซิโด้สีดำพร้อมแถบ tonal bullion พร้อมรองเท้าโลฟเฟอร์หัวเหลี่ยมสีดำ และต่างหูรุ่น Hollow Spike สีเงิน โดยการออกแบบชุดของไบร์ทได้รับแรงบันดาลใจมาจากราชวงศ์ ขุนนางอังกฤษ อีกทั้งเสื้อแจ็คเก็ตยังมีดีเทลด้วยงานปักซึ่งทำด้วยมือโดยใช้ระยะเวลานานกว่า 100 ชั่วโมง

แบรี่ คีโอแกนสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสูทผ้ากำมะหยี่สีมะกอก เสื้อกั๊กผ้ากำมะหยี่ และกางเกงขายาวผ้ากำมะหยี่ในเฉดสีเดียวกันทั้งชุด ทับเชิ้ตผ้าไหมป๊อปลินจับจีบพร้อมโบว์ที่คอและปลายแขนจับจีบ พร้อมสวมรองเท้าหนังออกซ์ฟอร์ดสีดำ และหมวกไหมพรมสีดำ

ชิโอมา นันดิ สวมชุดเดรสเจอร์ซีย์สีแซนด์สโตนประดับด้วยระบายและคริสตัลลายดอกไม้ พร้อมด้วยขนแกะ คู่กับกางเกงทักซิโด้สีแซนด์สโตนเช่นเดียวกัน และรองเท้ารุ่น Bay Sandal ทำจากขนสัตว์และหนัง

ฮี คองสวมชุดเดรสตาข่ายประดับหมุดสีทอง พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงรุ่น Ivy Shield ทำจากหนังนัปป้าสีดำ คู่กับกระเป๋ารุ่น Mini Knight ที่ประดับด้วยคริสตัลโทแพซ และต่างหูห่วงรุ่น Thorn Triple สีทอง

โจดี้ เทิร์นเนอร์-สมิธ สวมชุดเดรสทูลสีชอล์ก ประดับด้วยงานปักด้วยมือพร้อมด้วยดอกไม้ขนนกผ้าออร์แกนซ่าไหมสีไอวอรี่ และตาข่ายที่ประดับด้วยไข่มุกคริสตัล

ลูอิส แฮมิลตัน สวมเสื้อโค้ทขนสัตว์สีดำ ปักลวดลายดอกไม้แบบบูลเลียง ภายในมีการปักคำพูดจากบทกวี ‘The Gardener’ โดย อเล็กซ์ วาร์ตัน พร้อมชุดสูทไหมกระดุมสองแถวสีดำ และรองเท้าบูทหนังสีดำรุ่น Saddle

ลิตเติ้ล ซิม สวมเสื้อโค้ทหนังถักด้วยลายดอกไม้สีครีมคู่กับเสื้อเชิ้ตป็อปลินไหมสีขาว เสื้อกั๊กผ้าไหมผสมขนสัตว์สีครีม ผ้าไหมถักลายดอกไม้สีครีม และกางเกงผ้าไหมผสมขนสัตว์สีครีม สวมคู่กับรองเท้าบูทหนังรุ่น Chelsea Stride  กระเป๋าหนังรุ่น Rocking Horse ต่างหูสีทองรุ่น Shield แหวนรุ่น Thorn Cuban Chain แหวนรุ่น Shield Infinity และแหวนรุ่น Horse Sphere Pavé สีทอง 

ลิลลี่ โดนัลด์สัน สวมชุดเดรสสีทองประดับพู่และปักเลื่อม พร้อมด้วยคลัทช์โลหะสีทองรุ่น Shield

นาโอมิ แคมป์เบล สวมชุดเดรสสีอะควาที่ประดับด้วยเลื่อมและพู่

โรแบร์โต้ โบเล่ สวมเสื้อแจ็คเก็ตคู่กับกางเกงผ้าขนสัตว์ และเสื้อเชิ้ตซาตินสีฟินช์ที่ประดับด้วยหมุดทองเหลือง สวมรองเท้าหนังสีดำรุ่น Cobble 


แชร์สกินแคร์รูทีนและบิวตี้ไอเท็มชิ้นโปรดของนางเอกสาว คิมจีวอน (Kim Ji Won)

แชร์สกินแคร์รูทีนและบิวตี้ไอเท็มชิ้นโปรดของนางเอกสาว คิมจีวอน (Kim Ji Won)

Alternative Textaccount_circle
แชร์สกินแคร์รูทีนและบิวตี้ไอเท็มชิ้นโปรดของนางเอกสาว คิมจีวอน (Kim Ji Won)
แชร์สกินแคร์รูทีนและบิวตี้ไอเท็มชิ้นโปรดของนางเอกสาว คิมจีวอน (Kim Ji Won)

#PraewCelebLook แชร์สกินแคร์รูทีนและบิวตี้ไอเท็มชิ้นโปรดของนางเอกสาว คิมจีวอน (Kim Ji Won) @geewonii แต่ละชิ้นเหมาะกับ Everyday Look มาก อาทิเช่น ชิ้นเด็ดที่กำลังเป็นกระแสอย่างตลับลิปบาล์มเนื้อแมตต์ของ AOU แบรนด์เมคอัพจากเกาหลีใต้ มีเนื้อสัมผัสที่เบาบางใช้ได้แบบ 2-in-1 เป็นได้ทั้งลิปและบลัชออน เกลี่ยง่าย ซึ่งสีที่คิมจีวอนป้ายยาเอาไว้คือสี 04 COLD BALM มีความชมพูอมแดงตุ่นๆ สวยมาก สีผู้ดีสุดๆ

บิวตี้ไอเท็มชิ้นโปรดของนางเอกสาว คิมจีวอน (Kim Ji Won)

SKINCARE ROUTINR

  • Dr.G Brightening Peeling Gel
  • Round Lab Dokdo Toner
  • CosRx Hydrium Centella Aqua Soothing Ampoule
  • Etude Soonjung Director’s Moisture Sun Cream SPF50+ PA++++

LIP & CHEEK

  • AOU FLOOFY MATTE BALM Tinted Balm Blusher for Lips and Cheeks #04 Cold Balm

LIP

  • HERMES Rouge Hermes, Satin lipstick, #13 Beige Kalahari

เปิดคอสตูมกุหลาบยักษ์ ‘บิว วราภรณ์’ อินฟลูฯไทยหนึ่งเดียวใน Met Gala

Alternative Textaccount_circle

เก็บตกอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ด้วยกันอีกครั้งกับอินฟลูเอนเซอร์ตัวแทนจากประเทศไทย ‘บิว-วราภรณ์‘ หรือที่เหล่าผู้ชมรู้จักกันในนาม ‘แจ้’ หรือ ‘ภรรยาพี่ธนิน’ ซึ่งเธอได้รับหมายเชิญจาก TIKTOK และ TIKTOK Thailand ให้เข้าร่วม Met Gala Creator Watch Party งานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นเพื่อให้เหล่าครีเอเตอร์คนพิเศษมาร่วมรับชมบรรยากาศภายในงาน Met Gala 2024 แบบเรียลไทม์

อย่างที่คอแฟชั่นรู้กันดีว่าธีมงานจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้คือ ‘Sleeping Beauties: Reawakening Fashion’ และมีเดรสโค้ดเป็น ‘The Garden of Time’ แจ้ของเราจึงไม่รอช้า รีบตรงดิ่งไปหาดีไซเนอร์คู่ใจ ‘คุณนุ๊กนิก’ จาก T AND T ทันที ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยออกแบบชุดเจ้าสาวให้เธอมาแล้ว หลังจากได้รับโจทย์ ทางทีมงานก็เริ่มทำการบ้านอย่างหนัก จนได้ข้อสรุปว่าจะครีเอทคอสตูมเป็นเดรสกุหลาบสีม่วงซึ่งเป็นเฉดสีที่เธอไม่ค่อยได้สวมใส่เท่าไหร่นัก

โดยเดรสที่เราเห็นอยู่นี้เสร็จสมบูรณ์ด้วยเวลา 3 วันเต็มๆ จากนำพักนำแรงจากทีมงานที่ช่วยกันรังสรรค์เดรสเลเยอร์ 2 ชั้น ข้างในโดดเด่นด้วยกระโปรงทรงบอลลูนและแขนตุ๊กตา ส่วนข้างนอกคลุมด้วยผ้าตาข่ายประดับดอกกุหลาบสีแดงอีกชั้นเพื่อเพิ่มความฟู่ฟ่องและโดดเด่น ทั้งนี้ยังมาพร้อมกระเป๋าดอกกุหลาบเข้าเซ็ต แน่นอนหากกวาดตาดูคร่าวๆ กิมมิกของลุคนี้คือเจ้า ‘ดอกกุหลาบ’ ที่เรียงรายอยู่บนชุดมากกว่า 100 ดอกนั่นเอง ซึ่งทั้งหมดต้องใช้มือในการขดผ้าเพื่อขึ้นรูปทรง เรียกได้ว่าเป็นรายละเอียดที่ประณีตจริงๆ ขอปรบมือให้ความสามารถของเหล่าทีมงานที่สามารถเสกลุคสุดอลังการนี้ให้เสร็จทันภายในระยะเวลาอันสั้น

หากใครอย่างเห็นชุดเต็มๆ ของแจ้ หรือฟังดีเทลต่างๆ ผ่านดีไซเนอร์ตัวจริง อย่าลืมไปดูกันใน Tiktok @bewvaraporn นะคะ


รูปภาพ: Instagram @bewvaraporn

ส่องประกายทั่วงาน เหล่าคนดังสวมใส่ Tiffany & Co. เข้าร่วมงาน Met Gala 2024

account_circle

ส่งท้ายลุคสุดจึ้งบนพรมแดง Met Gala 2024 ของเหล่านักแสดง และคนดังที่สวมใส่เครื่องเพชรล้ำค่าจากแบรนด์จิวเวลรี่สุดหรู Tiffany & Co.

ส่องประกายทั่วงาน เหล่าคนดังสวมใส่ Tiffany & Co. เข้าร่วมงาน Met Gala 2024

เริ่มกันที่ลุคของ Jennifer Lopez เธอสวมใส่สร้อยคอ ต่างหู กำไลข้อมือ แหวนแพลตตินัม และเยลโลว์โกลด์ประดับเพชร และ แหวน Jean Schlumberger by Tiffany Bird on a Rock ในการทำหน้าที่ประธานร่วม (Co-Host) งาน MET GALA 2024 ที่มหานครนิวยอร์ก

ขณะที่ Jeff Goldblum นักแสดงมากความสามารถ สวมใส่เข็มกลัด Jean Schlumberger by Tiffany และนาฬิกา Tiffany Cocktail เข้าร่วมงาน Met Gala 2024 

ส่วน Gabrielle Union สวมใส่ต่างหู Paloma Picasso for Tiffany & Co. Archives, เข็มกลัด Elsa Peretti® Starfish, กำไลข้อมือแพลตตินัมประดับทัวร์มาลีนสีเขียวและเพชร, กำไลข้อมือแพลตตินัมประดับโอปอลสีดำและเพชร แหวนแพลตตินัม และแหวนแพลตตินัมประดับบลูไซเปรียน

ด้านนักร้อง และนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง Dua Lipa สวมใส่สร้อยคอแพลตตินัมและเยลโลว์โกลด์ 18k ประดับเพชร ต่างหูและแหวนแพลตตินัมประดับเพชร และสร้อยคอ Elsa Peretti® Diamonds by the Yard®

ปิดท้ายด้วยลุคที่น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ของ Kaia Gerber ที่สวมใส่จี้ ต่างหู และแหวนแพลตตินัมประดับมอร์แกนไนต์และเพชร


“55 ปี LION FAM RUN ชวนกันรักษ์โลก” งานวิ่งฉลองครบรอบสุดยิ่งใหญ่ของ ไลอ้อน ประเทศไทย

account_circle

ปิดฉากไปแล้วอย่างสวยงาม กับ “55 ปี LION FAM RUN ชวนกันรักษ์โลก” เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา งานวิ่งที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจของ “ไลอ้อน ประเทศไทย” ที่ยืนหยัดเคียงคู่ครอบครัวคนไทยมาตลอด 55 ปี และสะท้อนภาพลักษณ์ขององค์กรคนดีที่ยึดมั่นในการดําเนินธุรกิจคู่คุณธรรม พร้อมสร้างสรรค์กิจกรรมดี ๆ เพื่อดูแลผู้บริโภคและโลกด้วยความใส่ใจเสมอมาและตลอดไป

กิจกรรมนี้เรียกได้ว่า ปิดเกาะลอย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเปิดฟลอร์ให้กับเหล่าบรรดาสายวิ่งทั้งมือสมัครเล่น และสายวิ่งมืออาชีพตบเท้าเข้ามารวมพลังกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งกว่า 1,400 ชีวิต

เปิดสนามกันแต่เช้ามืดเวลา 04.00 น. ให้เกียรติกดปุ่มเปิดงานโดย นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา และ นายสายชล ศีติสาร กรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด

เวลา 05.00 น. เริ่มปล่อยตัวนักวิ่งตามระยะเส้นทาง เริ่มจาก Mini Marathon 10 กิโลเมตร ตามด้วย Fun Run
5 กิโลเมตร และเส้นทางวิ่งพิเศษ Family Run ระยะทาง 3 กิโลเมตร กับ 3 ฐานกิจกรรม ที่มุ่งสร้างการเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถร่วมสนุกได้ เก็บคะแนนเพื่อรับรางวัล

แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าว แต่ก็ไม่ทำให้เป็นอุปสรรคต่อเหล่าบรรดาสายวิ่งแม้แต่น้อย ทุกคนมีร่างกายที่ฟิตมาอย่างดีมาพร้อมใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นที่จะวิ่งเพื่อสุขภาพที่ดี  ในบรรยากาศอบอวลไปด้วยรอยยิ้มมิตรภาพ และเสียงกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจตลอดเส้นทาง 

สิ้นสุดการแข่งขันในเวลา 08.30 น. แล้วเราก็ได้ผู้ชนะเลิศในระยะทาง Mini Marathon 10 กิโลเมตร ระยะทาง
Fun Run 5 กิโลเมตร และเส้นทางวิ่งพิเศษ Family Run ระยะทาง 3 กิโลเมตร ที่ได้รับเงินรางวัลและโล่เกียรติยศ นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษให้กับ สายวิ่งที่จัดพร็อพแฟนซีมาอย่างเต็มยศ เพื่อมาร่วมสร้างสีสันในงานนี้อีกด้วย

อีกความความภูมิใจของไลอ้อน ประเทศไทย กับงานวิ่งที่มุ่งเน้นการประหยัดทรัพยากรธรรมชาติอย่างสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น เสื้อวิ่งรักษ์โลกที่ใช้ในการแข่งขัน เส้นใยผลิตจากขวดพลาสติก PET เหรียญรางวัลและโล่รางวัล ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล งาน ECO DESIGN อีกสิ่งที่เป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจที่จะร่วมรักษ์โลกไปด้วยกัน

ไลอ้อน ประเทศไทย มุ่งมั่นในการร่วมส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง ด้วยแนวทางการดำเนินธุรกิจมุ่งสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับคนไทยในทุกมิติ ดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ซึ่งรายได้จากการจัดงานในครั้งนี้ บริษัท ไลอ้อนได้มอบให้กับสาธารณประโยชน์แก่องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี รวม 6 แห่ง 

ติดตามชมภาพบรรยากาศงานวิ่ง “55 ปี LION FAM RUN ชวนกันรักษ์โลก” พร้อมกิจกรรมดี ๆ ที่ไลอ้อนจัดขึ้น
ในครั้งต่อไปได้ทาง FB : LionFamilyThailand และ www.lion.co.th

โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ

RUN YOUR RACE พัฒนาสู่ความสำเร็จ โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ

Alternative Textaccount_circle
โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ
โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ

ต้องบอกว่าเป็นทายาทที่หล่นใต้ต้นสุด ๆ สำหรับ โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ ที่นอกจากหน้าตาจะหล่อถอดแบบคุณพ่อพีท ทองเจือ ยังมีความรักความชอบ เรื่องการแข่งรถเหมือนกันอีกด้วย

อดีตคือทายาท…วันนี้นักแข่งเต็มตัว

“ผมชอบรถ เพราะซึมซับจากคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก ผมเริ่มแข่งรถโกคาร์ตตอนอายุ 7 ขวบ ก่อนหน้านั้นเคยขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก พอคุณแม่ปรามว่าอันตรายจึงเปลี่ยนมาขับโกคาร์ต และเริ่มแข่ง ตอน 8 ขวบ ทั้งที่ฝรั่งเศสและทั่วเอเชีย รายการที่ได้แชมป์คือ Rotax Max Challenge 3 ปีรวด คือ 2018 – 2020 ซึ่งเป็นรายการแข่งรถโกคาร์ตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย จากนั้นผมก็หันมาฝึก การแข่งรถเซอร์กิต เริ่มซ้อมจริงจังตอนอายุ 13 พออายุ 14 ซึ่งสามารถทำใบขับขี่แข่งรถได้ก็เริ่มแข่ง เซอร์กิตจริงจังตั้งแต่นั้น

“ส่วนโกคาร์ตตอนนี้ผมหยุดไปแล้ว เพราะหากมาทางสายโกคาร์ต เป้าหมายคือการแข่ง F1 ซึ่งเป็นรายการที่ยากจะเข้าถึง ในโลกมีคนแข่งไม่ถึง 30 คน และค้างอยู่ที่จำนวนนี้มาเป็นสิบปีแล้ว ด้วยหลายปัจจัย คุณพ่ออยากให้ผมลองแข่งสายแรลลี่ อย่างรายการ World Rally Championship ที่ยากกว่า F1 เพราะต้องขับเข้าป่าด้วยความเร็วสูง โดยมีแค่เนวิเกเตอร์ที่คอยนั่งบอกทางไปกับเรา Run Your Race อีกคน ที่ยากเพราะไม่รู้เลยว่าเราจะไปโผล่ตรงไหนของป่า เนินอยู่ตรงไหน ทางอาจแคบ ลื่น อันตราย เป็นรายการที่ ผมยังไม่เคยลอง จึงตั้งเป้าว่าอยากแข่งรายการนี้ให้ได้ครับ“ส่วนอีกรายการที่อยากลงแข่งคือ DTM (Deutsche Tourenwagen Meisterschaft หรือ German Touring Car Championship) การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบประเภท ทัวริ่งคาร์ เป็นรายการใหญ่ที่ขับซูเปอร์คาร์แข่งกัน ดูน่าสนุกดี ผมชอบซูเปอร์คาร์นะ แต่เรื่องขับคงรอให้โตกว่านี้หน่อย ผม อยากขับปอร์เช่ อาจไม่แรงมาก แต่มีประสิทธิภาพ แม้ในรุ่น เล็ก ๆ ก็สู้รถรุ่นใหญ่แบรนด์อื่นได้ ขับแล้วรู้สึกดี (ยิ้ม) ถ้า เป็นตอนนี้ผมอยากขับ BMW ซีรี่ส์ 2 และ 3 ที่เรียกกันว่า รถไม่นิ่ง และสไตล์คนขับส่วนใหญ่ก็จะไม่เรียบร้อย เหมาะกับ ใครที่ชอบความเร็ว”

สำคัญที่มายด์เซต

“ตอน 7 ขวบผมแข่งประเภทแรลลี่แล้วรถคว่ำ เนวิเกเตอร์ ข้อมือหัก ส่วนผมไม่เป็นอะไรมาก การแข่งรถต้องเจอเหตุการณ์ แบบนี้อยู่แล้ว อย่างโกคาร์ต ความที่เป็นรถโล่ง ๆ ไม่มีสายคาด ตัวเราอาจกระเด็นออกมาตอนไหนก็ได้ ผมเคยเห็นนักแข่ง หลุดออกจากรถไปนอนสลบตรงสนาม แม้เคยผ่านอุบัติเหตุมา ผมก็ไม่กลัวนะ เพราะสำหรับผมเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเรามากกว่า อย่างเวลาขับ ถ้ารู้ว่าแซงไม่พ้น ผมไม่เสี่ยง เพราะมีสิทธิ์ ที่รถจะหมุนหรือชน ไม่คุ้มที่จะต้องหยุดแข่ง“เพราะฉะนั้นมายด์เซตของนักแข่งสำคัญมาก เรื่องยาก คือต้องใจเย็น มีสติ ยิ่งเราลน พยายามจะไปให้เร็วขึ้นอาจ ยิ่งช้า เหมือนต้องแข่งกับตัวเอง นิสัยนักแข่งจะแสดงออกมา ตอนขับรถครับ ถ้าคนไหนลน ไม่นิ่ง รถที่ขับก็จะไม่นิ่ง ตัวผมเองก็ยังต้องฝึกอีกมาก อย่างเวลาขับแต่ละรอบควรจะนิ่ง แล้วไปปรับความเร็วในรอบถัดไป สมมติว่ารอบแรกความเร็ว 100 ก็ควรรักษาไว้ให้เสถียร พอวนในสนามอีกครั้งค่อยปรับ เป็น 100.5 รอบต่อไปเป็น 101 ต้องคุมระดับความเร็ว ไม่งั้น อาจเกิดอันตราย”

โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ

ความภูมิใจของแชมป์

“ผมเพิ่งได้แชมป์ Superrace Championship ที่เกาหลี ดีใจมาก โดยผมเป็นคนไทยคนแรกที่ไปแข่งที่นั่น ในรถรุ่น Radico ไม่มีหลังคา น้ำหนักรถอยู่ที่ 800 กิโล ใช้เครื่อง มอเตอร์ไซค์ ถ้าบิดแรงก็อยู่ที่ความเร็ว 230 หลายคนอาจคิด ว่าเป็นรถเล็ก ไม่เร็ว แต่ที่จริงมีความแรงเหมือนโกคาร์ต ขนาดใหญ่

“การชนะแต่ละครั้งรู้สึกดีนะ เหมือนเราเก่งขึ้น แต่ ผมไม่ใช่แนวดีใจแล้วปล่อยจอย คิดว่าตัวเองเก่งสุดแล้วหยุด ซ้อม การแข่งรถไม่ควรเป็นแบบนั้น ซึ่งเวลาซ้อมคุณพ่อจะคุม ตลอด ตั้งเป้าเลยว่าต้องขับได้กี่รอบ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ใน แต่ละวัน (หัวเราะ) คุณพ่อจะมีเทคนิคแนะนำให้ด้วย คอย เตือนว่าให้ใจเย็น แข่งให้จบ ให้สนุก แค่นั้นพอ

โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ

“ที่สำคัญคือต้องพัฒนา ผลักดันตัวเองไปข้างหน้า เรื่อย ๆ”

ทะเล สวนดีกุล

หนุ่มตี๋หน้าใส ทะเล สวนดีกุล ผู้หลงรักการแสดงและเสียงดนตรี

Alternative Textaccount_circle
ทะเล สวนดีกุล
ทะเล สวนดีกุล

ต้องบอกว่าตอนนี้วงการบันเทิงไทยเต็มไปด้วยศิลปินรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพจริงๆ แต่ละครมีมีทั้งผลงานและแฟนคลับในปนระเทศและนอกประเทศเป็นจำนวนมาก และหนึ่งคนที่ แพรว จะมาแนะนำให้รู้จักในวันนี้คือ ทะเล สงวนดีกุล ศิลปินและนักแสดงชายชาวไทย ที่นอกจากจะมีแฟนคลับเหนียวแน่นแล้ว ยังมีทั้งผลงานแสดงและเพลงออกมาเป็นกระแสให้ได้ฟังกันอย่างต่อเนื่อง

ทะเล เกิดเมื่อวันที่  9 กันยายน พ.ศ. 2538 โดยที่มาของชื่อ “ทะเล” คือการที่คุณพ่อของทะเลเคยทำรีสอร์ทที่เกาะเสม็ด จึงตั้งชื่อว่าทะเล จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับสอง[2] วิชาเอกการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมีเดียจาก วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ทะเลยังมีช่องสตรีมเกมของตัวเองชื่อว่า “LAYYO” ผ่านทางแพลตฟอร์ม Facebook

ผลงานเพลงแสดง สายลับจับแอ๊บ, YYY มันส์เว่อร์นะ, Close friend โคตรแฟน ตอน ชาตินี้พอ, Switch On เกมรักสลับมิติ, Sing Again รักอีกครั้ง, War of Y The Series และ Start up  ส่วนผลงานเพลง  แอบอยากรู้, แพ้ความอ่อนแอ, แต่ได้เป็นคนสุดท้ายที่คิดถึงเธอฯลฯ  รวมถึงโปรเจ็กต์งานเพลงอย่าง Be My Boyfriends ที่เป็นอีก บทพิสูจน์ความสามารถ

ทำความรู้จัก ทะเล สวนดีกุล ผู้หลงรักการแสดงและเสียงดนตรี

ทะเล สวนดีกุล

อินกับการร้องเพลง จนมีเพลงแรกในชีวิต

“ผมคลุกคลีอยู่กับดนตรีมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่เซนต์คาเบรียล เป็น นักดนตรีในวงโยธวาทิต เล่นเครื่องดนตรีฟลูต พอจบมาก็เว้นว่างไป ถ้ามีโอกาส ชอบร้องคาราโอเกะ ร้องเพลงในห้องน้ำและตอนขับรถ ยิ่งช่วงนี้ได้กลับมาอินกับ เสียงดนตรีเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสได้เล่นซีรี่ส์เรื่อง Sing Again รับบทเป็น นักดนตรีและร้องเพลงด้วย ก่อนที่พี่ฟองเบียร์ (ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม) จะชักชวน ให้เข้าค่าย Baked Brownie ในเครือมิวสิคมูฟ “ซิงเกิ้ลแรก แอบอยากรู้ เขียนโดยพี่ฟองเบียร์ แต่งมาจากเรื่องราวของผม แนวเพลงเป็นสไตล์ร็อคช้า ๆ ซึ่งผมมีส่วนร่วมหลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ ไอเดียเอ็มวี เรื่องดนตรี จนถึงเรื่องราวที่ต้องการจะเล่าในเพลง เกี่ยวกับคนที่ คิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ บรรยากาศที่ผ่านไปแล้ว แต่ไม่สามารถกลับไปอยู่ในช่วงเวลา นั้นได้อีก”

ทะเล สวนดีกุล

แพสชั่นเกิดขึ้นใหม่ได้เสมอ

 “ปัจจุบันผมมีหลากหลายบทบาท ทั้งร้องเพลง แสดง สตรีมเมอร์ และ ทำเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเอง @doppio.bkk ทำมาตั้งแต่เดือนเมษายน เป้าหมาย ของผมเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามจังหวะของชีวิต ไม่หยุดนิ่ง พร้อมปรับให้เข้ากับ Find My Passion สถานการณ์อยู่เสมอ อย่างตอนที่มีโอกาสทำเพลงก็วางเป้าหมายระยะสั้น ตั้งใจ ทำให้สุดทั้งแนวเพลงช้าเพลงเร็วสลับกันไป หรือเรื่องการแสดง ผมเล่นซีรี่ส์มา ค่อนข้างหลากหลาย ก็อยากลองเล่นภาพยนตร์ดูบ้าง อยากมีโอกาสได้ลองทำ หลาย ๆ อย่าง เพื่อจะได้มีประสบการณ์หลาย ๆ ด้านครับ

“ตอนนี้ชอบงานทั้งหมดที่ทำมา ไม่ว่าจะเป็นการแสดง สตรีมเมอร์ หรือ การทำแบรนด์ โดยเฉพาะการร้องเพลงที่พยายามฝึกฝนอยู่ตลอด อยากให้งาน ออกมาดีขึ้น มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ

“ยอมรับว่าการทำหลายอย่างผมค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการจัดการเวลา ต้อง ใช้วิธีจดว่าต้องทำอะไรในแต่ละวัน ใช้ความชอบเล่นเกมมาปรับใช้กับชีวิตว่า มีภารกิจอะไร ต้องทำอย่างไร ต้องทำให้หมดภายในวันไหน เมื่อทำเสร็จก็ ขีดออก เพื่อจะได้รู้ว่าภารกิจนี้ทำเรียบร้อยแล้วและไม่ลืม

“สำหรับแพสชั่นในชีวิตด้านอื่น อย่างมุมมองความรัก พอโตขึ้นก็เปลี่ยน ไปเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน ตอนนี้ผมขอแค่ใครที่เคมีตรงกัน เข้าใจ เข้ากันได้ ไม่ต้องฝืน ก็โอเคแล้วครับ เพราะในวัยนี้ต่างคนต่างก็มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ หลายอย่าง อยากได้คนที่เป็นเซฟโซนให้กันได้ จะได้ช่วยเป็นกำลังใจ เป็น แพสชั่นในการใช้ชีวิตให้พัฒนาขึ้นในทุก ๆ วัน

“สำหรับคติประจำใจของผมคือ ‘แพสชั่นเกิดขึ้นใหม่ได้เสมอ’ เมื่อทำไป สักพักแล้วเกิดเบื่อก็หยุดพัก ไปทำสิ่งที่มีความสุขมากกว่า เมื่อกลับมามีแพสชั่น ในเรื่องเดิมค่อยกลับมาทำใหม่ อย่าไปกดดันตัวเอง

“อย่างผมเคยเล่นซีรี่ส์ เวลาทำซ้ำ ๆ แล้วเกิดความรู้สึกเบื่อก็ลองไปออกงาน อีเว้นต์ ร้องเพลง ไลฟ์สตรีมเกม ทำให้แพสชั่นในการแสดงค่อย ๆ กลับมา มี แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการทำงานต่อไป”

keyboard_arrow_up