คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในไทยของSUHO วง EXO จองบัตร 14 มิถุนายนนี้ !

Alternative Textaccount_circle

เอสเอ็ม ทรู ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่บ้านที่มีแต่ความอบอุ่นให้เสมอของ SUHO (ซูโฮ) วง EXO (เอ็กซ์โซ) กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย ที่จะมาแบ่งปันทุกความรู้สึก เป็นที่พักพิงใจ พร้อมโอบกอดกันและกัน ผ่านหลากหลายบทเพลงอันไพเราะและเปี่ยมล้นด้วยคุณภาพ ‘2024 SUHO CONCERT IN BANGKOK’ วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 18:00 น. ณ พารากอน ฮอลล์

SUHOหัวหน้าวงอันเป็นที่รักของวง EXO ที่นอกจากจะทำกิจกรรมร่วมกับวงจนประสบความสำเร็จได้รับความนิยมไปทั่วโลกแล้ว ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านในฐานะศิลปินเดี่ยว ผ่านการทำกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ ภาพยนตร์, ละครเวที, พิธีกร ฯลฯ และล่าสุดกับการรับบทเป็นนักแสดงนำในซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ย้อนยุคเรื่อง ‘Missing Crown Prince’ ทางช่องเกาหลี MBN ไม่เพียงเท่านี้ SUHO ได้มีส่วนร่วมทั้งการวางแผนคอนเซ็ปต์และการแต่งเนื้อร้องทุกเพลงในโซโล่อัลบั้ม

ตั้งแต่มินิอัลบั้มชุดแรก ‘Self-Portrait’ (เซลฟ์-พอร์เทรต) ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมปี 2563 บอกเล่าเรื่องราวที่วาดขึ้นด้วยเสียงเพลงออกมาเป็นภาพเหมือนตนเอง และมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Grey Suit’ (เกรย์ สูท) เมื่อเดือนเมษายนปี 2565 ใช้ธีมเกี่ยวกับเวลาเพื่อเพิ่มความรู้สึกของดนตรี โดยวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา SUHO (ซูโฮ) คัมแบ็กด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 3 ‘점선면 (1 to 3)’ (วัน ทู ทรี) ปรับลุคเป็นนักดนตรีร็อก รวบรวมเพลงร็อกสไตล์ต่าง ๆ ตั้งแต่บริติช ร็อก, อัลเทอร์เนทีฟ ร็อก, ป๊อป ร็อก ไปจนถึงอินดี้ ร็อก ทั้งหมด 7 เพลง พร้อมดับเบิลไตเติลอย่าง ‘치즈 (Cheese)’ (ชีส) เพลงซาวด์สุดสดใสที่มี ‘WENDY’ (เวนดี้) วง Red Velvet (เร้ด เวลเว็ท) มาร่วมร้อง เนื้อเพลงเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างคนรักเก่ากับ ‘ชีส’ ว่ายามอากาศเย็นจะขาด แต่จะมีความยืดหยุ่นเมื่ออากาศร้อน และเพลง ‘점선면 (1 to 3)’ สื่อถึงความมุ่งมั่นของ SUHO (ซูโฮ) ที่จะรวบรวมก้าวของตัวเองเพื่อแสดงภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น และสร้างโลกใหม่ในฐานะศิลปิน เช่นเดียวกับพื้นที่ในมิติที่แตกต่างกัน ที่ค่อย ๆ ขยายออกเป็นจุด เส้น และระนาบ

พร้อมกันนี้ SUHO ยังได้ประกาศคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในรอบ 12 ปีนับตั้งแต่เดบิวต์ ‘2024 SUHO CONCERT ’ เปิดบ้านโชว์การแสดง ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2567 ซึ่งบัตรถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง และเดินหน้าทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชีย อาทิ มะนิลา, ฮ่องกง, ไทเป, กรุงเทพฯ, กัวลาลัมเปอร์ ฯลฯ แน่นอนว่า เขาตั้งใจทุ่มเทอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีส่วนร่วมวางแผนคอนเซ็ปต์และเสนอความคิดเกี่ยวกับโปรดักชันโดยรวมของคอนสิร์ตครั้งนี้ ภายใต้ชื่อ ‘SU:HOME’ (ซู:โฮม) เปรียบดั่งการเชิญชวนมาบ้านที่ SUHO จะรับหน้าที่เป็นเจ้าบ้าน พร้อมบอกเล่าหลากหลายประสบการณ์ และถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ ของเขาออกมาทั้งหมด เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสและเพลิดเพลินไปด้วยกันกับโลกแห่งดนตรีและเสียงอันไพเราะในแบบฉบับของ SUHO

เปิดจำหน่ายบัตรรอบ “EXO-L” Membership (GL) Pre-Sale ในวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 19:00 น. – 20:59 น. ทางเว็บไซต์เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com

โอกาสพิเศษสุดใกล้ชิดกับ NCT DREAM ในงาน FANSIGN & EVENT

Alternative Textaccount_circle

เอสเอ็ม ทรู ร่วมกับ ช้อปปี้ อีคอมเมิร์ซเบอร์ 1 ครองใจนักช้อป สร้างสรรค์โอกาสพิเศษให้แฟนคลับชาวไทยได้ใกล้ชิดกับ เอ็นซีที ดรีม ในกิจกรรมแฟนไซน์และมีตแอนด์กรี๊ดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Shopee x NCT DREAM( )SCAPE FANSIGN & EVENT’ที่จัดขึ้นในวันที่20 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ สุราลัย ฮอลล์ ไอคอนสยาม

ภายในงาน ‘Shopee x NCT DREAM( )SCAPE FANSIGN & EVENT’ แฟนคลับผู้โชคดีจากการซื้ออัลบั้ม [FANSIGN EVENT] NCT DREAM ‘NCT DREAM( )SCAPE’ (Photobook Ver.) และ [MEET & GREET EVENT] NCT DREAM ‘NCT DREAM( )SCAPE’ (Photobook Ver.) ที่ร้านค้า SM True Store บน Shopee Mall ได้เข้าร่วมทั้งกิจกรรมแฟนไซน์ที่ขึ้นรับลายเซ็นสดจากศิลปินบนเวที และกิจกรรม Hi-Bye ที่ได้ทักทายอย่างใกล้ชิด

ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์ Top Spenders ได้ถ่ายภาพ Group Photo ร่วมกับศิลปินด้วย แน่นอนว่า รอบพื้นที่จัดงานก็มีแฟน ๆ มารอต้อนรับอย่างเนืองแน่น พร้อมส่งเสียงเชียร์เรียกชื่อ เอ็นซีที ดรีม ดังกระหึ่ม ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีกิจกรรมสุดท้ายอย่างมีตแอนด์กรี๊ด ที่เต็มไปด้วยการพูดคุยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง

ทั้งนี้ เอ็นซีที ดรีม เตรียมกลับมาพบกับแฟนคลับชาวไทยอีกครั้ง ด้วยคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์ ‘2024 NCT DREAM WORLD TOUR in BANGKOK’ ที่จะจัดขึ้นในสเกลสเตเดียมครั้งแรก ณ สเตเดียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ‘ราชมังคลากีฬาสถาน’ ทั้งหมด 2 รอบการแสดง ในวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น. และวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น. ยิ่งไปกว่านั้น บัตรจำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งอย่างรวดเร็วทันทีที่เปิดจำหน่าย ตอกย้ำกระแสความนิยมร้อนแรงถล่มทลายของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

‘ICEPADIE’ อินฟลูเอนเซอร์คุณแม่ชื่อดัง นั่งแท่น Friend of Mommy Booster คนแรกของแบรนด์

Alternative Textaccount_circle

Mommy Booster (มัมมี่บูสเตอร์) จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘Mommy Booster Protein  3X’ โปรตีนที่ดีที่สุดสำหรับคุณแม่ที่เตรียมตั้งครรภ์ พร้อมเปิดตัว Friend of Mommy Booster คนแรกของแบรนด์ “ICEPADIE” อินฟลูเอนเซอร์คุณแม่ชื่อดัง พร้อมจัดแคมเปญ Mommy Booster, Mommy Power ส่งต่อพลังบวกและแรงบันดาลใจ ให้คุณแม่ทุกคนเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข ผ่าน 10 คุณแม่เซเลบริตี้ หม่อมราชวงศ์ แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์-ชูโต, คุณฐฤณณรัตน์ เดชะทวีวัฒน์, คุณมณีรัตน์ ธรรมมณีวงศ์, คุณนุชนันท์ อรัณยะนาค, คุณไมร่า รามณรงค์, คุณรัสรินทร์ ธนะชัยวัฒนะโภคิน, ผศ.พญ.สุเนตรา นิตยวรรธนะ, คุณศจิกา ทองสุข , คุณเจสสิก้า คูนี่ และ คุณ กัณญมนต์ บูรณพงษ์ศักดิ์ ที่พร้อมใจกันมาชวนคุณแม่ทุกคนร่วมส่งต่อความมหัศจรรย์แห่งความเป็นแม่ไปสู่สังคม ด้วยการร่วมสมทบทุนเพื่อเพิ่มเตียงไอซียูสำหรับผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤต มาร่วมกันสร้างปาฏิหาริย์เล็กๆ ให้เด็กๆ ได้เข้าถึงการรักษาอย่างรวดเร็ว เท่าเทียม และทันท่วงที โดยมอบ 1% ของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ Mommy Booster บริจาคให้มูลนิธิโรงพยาบาลเด็กโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ – 31 ส.ค. 2567


นูโทรจีนา เปิดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ากลุ่มแอนตี้ เอจจิ้ง ‘NEUTROGENA® VISIBLE REPAIR’ สูตรเรตินอล ใหม่

Alternative Textaccount_circle

อัพเลเวลการดูแลผิวหน้าขั้นสุดตามคำเรียกร้องของแฟนๆ ชาวไทย นูโทรจีนา (NEUTROGENA®) แบรนด์ความงามจากสหรัฐอเมริกา จัดงานสุดยิ่งใหญ่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดครั้งแรกในไทย “NEUTROGENA® VISIBLE REPAIR (นูโทรจีนา วิซิเบิล รีแพร์)” ด้วยนวัตกรรมความงามทางวิทยาศาสตร์ Dual Actionดูแลผิวสองขั้นตอนในหนึ่งเดียว เรตินอล ผสานกับ แอนตี้ออก ซิแดนซ์ ตอบโจทย์ความนอยด์จากการใช้เรตินอล เตรียมขึ้นแท่น สกินแคร์ รูทีน”ที่เป็น “A-Must-Have” ของปี 2024

เพราะเทรนด์ผิวในปี 2024 ยังคงเน้นไปที่การคงความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะเริ่มส่งสัญญาณ ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย ผิวไม่กระชับ เทรนด์ย้อนวัยให้กับผิวจึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วโลกอย่างมาก ที่หันมาใส่ใจดูแลผิวด้วยสกินแคร์ล็อกอายุผิวที่ตอบโจทย์ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า นูโทรจีนาจึงไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมความงามทางวิทยาศาสตร์ผ่านการวิจัยและได้รับการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ ล่าสุดกับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าในกลุ่มแอนตี้ เอจจิ้ง ‘NEUTROGENA® VISIBLE REPAIR (นูโทรจีนา วิซิเบิล รีแพร์)สูตรเรตินอล


บอกลาผิวเปลือกส้มด้วยตัวช่วยสุดปัง Clarins Body Lift Active ให้เรือนร่างแลดูเนียนกระชับ

Alternative Textaccount_circle

บอกลาเซลลูไลท์แบบติดสปีด ด้วยตัวช่วยสุดปัง Clarins Body Lift Active โฉมใหม่ ดูแลรูปร่างและช่วยจัดการกับผิวเปลือกส้ม ให้ผิวขรุขระไม่สม่ำเสมอบนเรือนร่างแลดูเรียบเนียนกระชับขึ้น ด้วย “วงจรครีเอทีน” ที่มีส่วนช่วยเผาผลาญเซลล์ไขมันที่สะสมและเซลล์ที่เป็นสาเหตุของการก่อตัวของผิวเปลือกส้ม

โดยเปิดวงจรครีเอทีนเพื่อเร่งกระบวนการกำจัดไขมัน ด้วยสารสกัดจากชามัทฉะออร์แกนิกที่ถูกเลือกจากส่วนผสม 117 ชนิด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวงจรครีเอทีนได้ถึง 50% สารสกัดนี้รวมกับคาเฟอีนจากพืช ซึ่งเป็นโมเลกุลไลโปลิติก เพื่อสร้างสารเชิงซ้อนที่คลาแรงส์ให้ชื่อว่า Skin Smoothing Power Complex เมื่อส่วนผสม 2 ชนิดที่ถูกคัดสรรอย่างเชี่ยวชาญนี้ จะทำงานใน 2 ระดับ ได้แก่ การต้านการกักเก็บไขมันไว้ในเซลล์ และการปล่อยไขมันออกจากเซลล์ เพื่อช่วยให้ผิวเปลือกส้มที่ขรุขระดูเรียบเนียนขึ้นและป้องกันการปรากฏบนผิว เนื้อสัมผัสแบบ Cryo-Active ให้เอฟเฟกต์เย็นจัด ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยี Cryotherapy ช่วยเสริมประสิทธิภาพของส่วนผสมหลัก ให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นในทันที เจลเนื้อสีชมพูเย็นสดชื่น ใช้ง่ายและไม่ทิ้งความเหนอะหนะให้กับผิว


ซัมเมอร์นี้…ต้องมี! Shokubutsuไอเท็มดูแลน้องสาวสมดุลดีด้วยพรีไบโอติก

account_circle

เชื่อว่าทุกคนต่างรู้กันดีว่าซัมเมอร์ปีนี้ร้อนแรงแสนสาหัสเบอร์ไหน ซึ่งแน่นอนว่าความโหดร้ายของอุณหภูมิที่ทะลุ 40 องศาไปแล้วนั้น ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของสาวๆ หลายอย่าง ทั้งสารพัดปัญหาผิวที่ต้องเผชิญ ความอ่อนล้าง่ายของร่างกาย และที่สำคัญคือปัญหาน้องสาวอับชื้น เสียสมดุล ไม่สดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งทำให้สาวๆ ขาดความมั่นใจในที่สุด

จากปัญหาน้องสาวไม่แฮ็ปปี้กับอากาศสุดฮ็อต Praew Survey รอบนี้จึงไม่พลาดที่จะหยิบไอเท็มทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นจาก Shokubutsu มาแนะนำสาวๆ กันอีกครั้ง นั่นคือ Shokubutsu Feminine Cleansing (โชกุบุสซึเฟมินีนคลีนซิ่ง) ที่เป็นไอเท็มลูกรักของสาวๆ หลายคนนั่นเอง เพราะของดีจริงอะไรจริงแบบนี้ จะให้แนะนำอีกสักสิบครั้งก็ไม่ติดค่ะ 

ขอบอกเลยว่าที่กล้าแนะนำกันแบบย้ำๆ เพราะ Shokubutsu Feminine Cleansing เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มาพร้อมกับสารสกัดพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี ช่วยคงสมดุลดี และให้ค่า pH เหมาะสมกับจุดซ่อนเร้น อีกทั้งยังมีสารสกัดออร์แกนิคจากว่านหางจระเข้ ซึ่งผ่านการทดสอบโดยสูตินรีแพทย์ว่าอ่อนโยนต่อผิวบอบบางช่วยดูแลน้องสาวให้สะอาดสดชื่น พร้อมช่วยเคลียร์ความอับชื้นได้แบบไร้กังวล โดย Shokubutsu Feminine Cleansing มาพร้อมกับ 2 สูตรน่าใช้ คือสูตร Daily Gentle Care(ขวดสีชมพู) และสูตร Everyday Confidence(ขวดสีฟ้า)

สำหรับสูตร Daily Gentle Care ขอแนะนำสำหรับวันสบายๆ ของสาวๆ เพราะสูตรนี้มี Shiso Extract ที่มีส่วนผสมของ Anti-oxidant ช่วยลดการระคายเคืองผิวและดูแลน้องสาวอย่างอ่อนโยน

ส่วนวันไหนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจเป็นพิเศษ เช่น วันนั้นของเดือน หรือวันที่ต้องเจออากาศร้อนๆ ขอแนะนำสูตร Everyday Confidence เลยค่ะ เพราะสูตรนี้มีส่วนผสมของ Kirara Extract ที่ช่วยดูแลน้องสาวให้สดชื่นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ Kurara Extract ที่มีคุณสมบัติลดการสะสมของแบคทีเรียอันเป็นต้นเหตุของกลิ่นอับชื้น เรียกว่าช่วยดูแลน้องสาวเป็นพิเศษ เพื่อให้สาวๆ รู้สึกสบายและมั่นใจตลอดทั้งวัน

แต่เอาเป็นว่าดีงามทั้งสองสูตร สาวๆ สามารถเลือกใช้ตามความชอบและความเหมาะสมได้เลยซัมเมอร์นี้ให้ Shokubutsu Feminine Cleansing ช่วยดูแลให้น้องสาวสะอาด สดชื่น และสมดุลดีด้วยพรีไบโอติกกันนะคะ

ประจำเดือนขาด แต่ “ไม่ท้อง”

ประจำเดือนขาด แต่ ‘ไม่ท้อง’ อาจเป็นสัญญาณเตือนภาวะ PCOS 

Alternative Textaccount_circle
ประจำเดือนขาด แต่ “ไม่ท้อง”
ประจำเดือนขาด แต่ “ไม่ท้อง”

เคยไหม? ประจำเดือนขาด ๆ หายๆ แอบดีใจคิดว่าท้อง แต่หลังตรวจตั้งครรภ์กลับพบว่าไม่ท้อง นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีภาวะ PCOS ซึ่งส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไข่ไม่ตก ส่งผลให้ท้องยาก  

สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนขาดหาย เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น อาหารที่กิน ความเครียด และการออกกำลังกายที่มากไปหรือน้อยไป หรือมีภาวะน้ำหนักตัวน้อยหรือมากเกินไป มีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ที่ผิดปกติ การสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่เกี่ยวกับข้องภาวะเจริญพันธุ์ในผู้หญิง เมื่อฮอร์โมนไม่สมดุลจึงส่งผลให้ไข่ไม่ตก และอาจส่งผลให้ไข่ไม่ตกเรื้อรังสะสมเป็นถุงน้ำในรังไข่เล็กๆ หลายใบ ซึ่งเรียกภาวะนี้ว่า PCOS หรือ Polycystic Ovary Syndrome ซึ่งอาจจะมีในรังไข่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง จึงทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ

รอบประจำเดือนที่ปกตินั้นจะมีระยะเวลา 28 วัน หากรอบประจำเดือนน้อยกว่า 21 วัน หรือยาวเกินไป 35 วัน หรือประจำเดือนขาดหายไป 1 – 2 เดือน ในช่วงวัยเจริญพันธุ์และได้ทำการทดสอบการตั้งครรภ์แล้ว หากไม่ได้ตั้งครรภ์ อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของการทำงานของระบบสืบพันธุ์ที่ผิดปกติ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือปัญหาที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์อื่นๆ เช่น

1. ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ในผู้หญิง ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) หรือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งต้องพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุอย่างละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด อาจเกิดจากรังไข่เสื่อม วัยทองก่อนวัย หรือมีโรคอย่างอื่น เช่น ไทรอยด์

2. มีภาวะถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic Ovary Syndrome) หรือเรียกว่า PCOS ซึ่งส่งผลให้ “ไข่ไม่ตกเรื้อรัง” เป็นภาวะที่ผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป มีอาการอ้วนลงพุง ขนดก หน้ามัน เป็นสิว ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในภาวะนี้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หลายเดือนมาที หรือประจำเดือนขาดหายไปเลย ทำให้ไข่ไม่ตก จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Obesity & Weight Loss Therapy เมื่อปี 2015 ศึกษาพบว่า รูปแบบการกินอาหาร โภชนาการที่ถูกต้องสามารถช่วยเยียวยาภาวะ PCOS ได้ โดยได้สรุปรูปแบบการกินที่จะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและลดการอักเสบ ลดความเสี่ยงภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายอักเสบ และเหนี่ยวนำฮอร์โมนเพศชายให้สูงขึ้น และยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ซึ่งส่งผลดีต่อการเยียวยา PCOS ดังนี้  

  • A low glycemic index (GI) diet: รูปแบบการกินอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ค่าดัชนีน้ำตาลในอาหาร  เพราะเมื่อรับน้ำตาลเข้าไปในร่างกายมากเกินไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนอินซูลินมากำจัดน้ำตาลส่วนเกิน หากน้ำตาลพุ่ง อินซูลินค้าง เหนี่ยวนำให้มีการสร้างฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ฮอร์โมนเพศหญิงเพี้ยน จึงเป็นสาเหตุที่ประจำเดือนไม่มา ไข่ไม่ตก ดังนั้นควรเลี่ยงของหวานทุกชนิด คาร์บขัดขาว ข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปังขาว และเลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ ข้าวไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ธัญพืช เช่น งาดำ แฟล็กซีด ควินัว เมล็ดฟักทอง ถั่วต่างๆ ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต
  • An anti-inflammatory diet: รูปแบบอาหารที่ต้านการอักเสบ การอักเสบเป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้กลับมาเป็นปกติ การอักเสบจะเกิดขึ้นเพื่อป้องกันการทำลายเซลล์ หรือ การบาดเจ็บในร่างกายซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก ความเครียด ความเจ็บป่วย การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมไปถึงสภาวะทางจิตที่ไม่ปกติ จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Reproductive Science เมื่อปี 2011 ศึกษาพบว่าการอักเสบเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคทางสูติศาสตร์ (Gyneological disease) ซึ่งการอักเสบ (Inflammation) ส่งผลต่อการตกไข่และการสร้างฮอร์โมนรวมไปถึงเกี่ยวข้องกับภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งการลดการอักเสบในร่างกายที่สำคัญที่สุดคือการปรับโภชนาการ การกินอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ได้แก่ ผักใบเขียว ผักผลไม้หลากสี สารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี่

3. น้ำหนักเพิ่มหรือลดมากเกินไป ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มหรือลดมากเกินไปอาจเกิดอาการประจำเดือนไม่มา โดยผู้ที่น้ำหนักตัวลดลงมากอย่างรวดเร็วนั้นมักกินอาหารน้อย ทำให้ไม่มีสารอาหารไปกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้ไข่ตก ส่วนผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปหรืออ้วนมากนั้น จะทำให้ร่างกายผลิตเอสโตรเจนมากซึ่งส่งผลต่อรอบเดือน และทำให้ประจำเดือนไม่มา

4. ออกกำลังกายมากเกินไป การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้ร่างกายออกแรงหนักหน่วง จะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวกับรอบเดือน เนื่องจากร่างกายสูญเสียไขมันมากเกินไปจากการหักโหมทำกิจกรรมดังกล่าว ส่วนใหญ่นักกีฬามักจะประสบปัญหานี้ จากงานวิจัยเรื่อง Body mass index, physical activity and fecundability in a North American preconception cohort study ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility เมื่อปี 2016 ศึกษาพบว่า การออกกำลังกายแต่พอดีส่งผลดีต่อสุขภาพผู้หญิงและส่งผลดีต่อภาวะเจริญพันธุ์ สำหรับผู้หญิงที่มีภาวะโรคอ้วนการออกกำลังกายหนักกว่าปกติเพื่อลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ช่วยให้มีโอกาสในการตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น แต่สำหรับผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติ การออกกำลังกายที่หนักเกินไปจะส่งผลในเชิงลบต่อภาวะเจริญพันธุ์ มีงานวิจัยศึกษาพบว่าการออกกำลังกายที่หนักเกินไปส่งผลให้ “ไข่ไม่ตก” ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ท้องยาก อ้างอิงงานวิจัยเรื่อง Effect of Exercise on Ovulation: A Systematic Review ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sports Medicine เมื่อปี 2017เปิดเผยผลการศึกษาว่า ผู้หญิงที่ออกกำลังกายหนัก  (Vigorous exercises) โดยใช้เวลามากกว่า 60 นาทีต่อวัน มีความเสี่ยงต่อ “ภาวะไข่ไม่ตก” เพิ่มขึ้น

5. ความเครียด ผู้ที่มีความเครียดอาจส่งผลต่อรอบเดือน เพราะฮอร์โมนความเครียดจะหลั่งออกมารบกวนฮอร์โมนเพศ ทำให้ประจำเดือนมามาก มาน้อย เกิดอาการปวดท้องรุนแรงเมื่อมีรอบเดือน หรือประจำเดือนไม่มาเลย โดยมีรายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Sleep Medicine Report เมื่อปี 2016 ศึกษาพบว่าทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย สมองส่วนที่ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เราหลับ หรือ ตื่น เช่น ฮอร์โมนเมลาโทนิน และ คอติซอล เป็นสมองส่วนที่กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเพศด้วยเช่นกัน โดยในผู้หญิงนั้น การนอนไม่เพียงพอในระยะยาวส่งผลโดยตรงต่อ การสร้าง Luteinizing Hormone (LH) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมาในช่วงที่จะมีการตกไข่ หากฮอร์โมน LH ผิดปกติก็จะส่งผลต่อรอบเดือนที่ไม่ปกติ ส่งผลให้ไข่ไม่ตก หรือ ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการมีบุตรยากนั่นเอง

สรุปคือปัญหาประจำเดือนเลื่อน ประจำเดือนไม่มา หรือประจำเดือนขาดหาย สาเหตุหลักๆ เกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลซึ่งมีที่มาจากปัจจัยหลายอย่างตามที่กล่าวข้างต้น ดังนั้น ผู้หญิงที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติควรปรับพฤติกรรม หรือหาวิตามินเสริมเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน รวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไม่หักโหมจนเกินไป  ควบคุมน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ไม่อ้วนและไม่ผอมเกินไป ลดอาหารไขมันสูง น้ำตาล ของหวาน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หันมากินอาหารที่ช่วยบำรุงเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน หรือเสริมด้วยวิตามินและอาหารเสริมสำหรับสตรีที่มีภาวะ PCOS โดยเฉพาะเพื่อช่วยบรรเทาอาการ PCOS 

ขอบคุณข้อมูล: ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ เจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th เพจให้ความรู้เตรียมตั้งครรภ์ตามหลักวิทยาศาสตร์สำหรับผู้มีบุตรยาก
ภาพ: Pexels


เจาะเทคนิคการปรับรูปหน้า “คุณหมอเพชร Fiora Clinic” เจ้าของรางวัลจาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2023

account_circle

การปรับรูปหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ความงามแห่งยุค ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ไม่อยากพลาดตกขบวน ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงรีบคว้าตัวคุณหมอคิวทอง นักปั้นหน้าแห่งสมุทรสาคร เจ้าของรางวัล ICONIC BOTULINUM TOXIN TREATMENTS FOR FACIAL SCULPTING จาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2023 “
คุณหมอเพชร – นพ.ชัยรัตน์ เสริมศิลป์” แพทย์ผู้ก่อตั้งและบริหาร Fiora Clinic ซึ่งโดดเด่นด้วยเทคนิคการปรับรูปหน้าเฉพาะตัวที่สร้างความประทับใจให้กับผู้รับบริการ และเป็นตัวแทนแพทย์คนไทยเพียง 2 คนที่ถูกรับเลือก เข้าโครงการ Ascent สัมมนาวิชาการระดับโลกด้านแนวทาง เทคนิคการสอนแพทย์ และการเลือกใช้เทคโนโลยีด้านความงาม

ทำไมปรับรูปหน้าต้องที่ Fiora Clinic

“สำหรับ Fiora Clinic เราเปิดมานานกว่า 8 ปีแล้วครับ ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สาขา เริ่มต้นสาขาแรกที่มหาชัย สมุทรสาคร สาขาต่อมาอยู่ที่จันทบุรี อีกสาขาอยู่ที่อรัญประเทศ สระแก้ว และสาขาล่าสุดอยู่ที่ถนนกัลปพฤกษ์ กรุงเทพฯ โดยทุกสาขาของเรารวมถึงบุคลากรทุกคนจะยึดมั่นในคอนเซ็ปต์เดียวกัน คือ การดูแลความงามแบบเฉพาะบุคคล เพราะแต่ละคนต่างก็มีพื้นฐานความงามที่ไม่เหมือนกัน และมีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้น การดูแลความงามตามแนวคิดของเรา จึงไม่ใช่การเสริมเติมแต่งให้ดูดีกว่าใครหรือเหมือนใคร แต่เป็นการดูแลความงาม เพื่อเสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นให้กับบุคคลนั้นๆ

“ถ้าจะให้พูดถึงบริการของ Fiora Clinic ที่กำลังได้รับความสนใจในตอนนี้ ก็ต้องยกให้กับการปรับรูปหน้า โดยล่าสุดเราเพิ่งได้รับรางวัล ICONIC BOTULINUM TOXIN TREATMENTS FOR FACIAL SCULPTING จาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2023 มาด้วย ซึ่งเป็นรางวัลที่สะท้อนให้เห็นถึงความชำนาญและศักยภาพของเราในด้านนี้ รู้สึกดีใจและภูมิใจมาก ๆ ครับ”

เทคนิค (ไม่) ลับ ปรับรูปหน้า

“Fiora Clinic เรามีการใช้สารลดเลือนริ้วรอยในการปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดรูปหน้าให้เล็กลง หรือการปรับยกรูปหน้าให้กระชับขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับการดูแลปัญหาริ้วรอย ที่นับเป็นปัญหาแก้ยากที่คนส่วนใหญ่กังวลใจ

“ที่สำคัญคือเรามีเทคนิคการปรับรูปหน้าเฉพาะตัวที่เรียกว่า Natural Lift ซึ่งเป็นเทคนิคที่หมอคิดค้นขึ้นเองจากการสั่งสมประสบการณ์หลายปี แล้วพัฒนาปรับปรุงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเทคนิคที่ลงตัว

“การปรับรูปหน้าด้วยเทคนิค Natural Lift ถือเป็นการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คือ จะไม่มีแพทเทิร์นตายตัว เพราะปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยขั้นตอนสำคัญคือการวิเคราะห์ใบหน้าก่อน เพื่อวางแผนว่า
เคสลักษณะนี้จะต้องฉีดตำแหน่งไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ

“จุดเด่นของการปรับรูปหน้าด้วยเทคนิค Natural Lift คือเห็นผลลัพธ์ไวและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยในการรอให้ใบหน้าเข้าที่ เช่น คนที่กำลังจะแต่งงาน เทคนิคนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี”

ต้องรู้! ก่อนปรับรูปหน้า

“เทรนด์การปรับรูปหน้าในปัจจุบันเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ คือ ความรวดเร็วของผลลัพธ์ที่ต้องมาควบคู่กับความปลอดภัย ซึ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับการดูแลความงามทุกรูปแบบ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการใด ๆ ก็ตาม เราควรคำนึงถึงความปลอดภัยให้มาก ๆ เริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน การเลือกคลินิกความงามที่ไว้วางใจได้ มีแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีความรู้และประสบการณ์เป็นผู้วางแผนการรักษา ไปจนถึงการใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ถ้ามีทั้งหมดนี้ประกอบกัน ก็สวยขึ้น มั่นใจขึ้นได้ครับ”

Fiora Clinic

สาขามหาชัย โทร. 09-9414-5662

สาขากัลปพฤกษ์ โทร. 06-2156-6162

สาขาอรัญประเทศ โทร. 09-2645-2566

สาขาจันทบุรี โทร. 06-2546-4664

เว็บไซต์ : www.fioraclinic.com

เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/FioraByDrPhed

ไลน์ : @fioraclinic

'Peggy Gou' ขึ้นแท่น Maybelline Global Ambassador คนใหม่

ดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงระดับโลก ‘Peggy Gou’ รันวงการความงาม ขึ้นแท่น Maybelline Global Ambassador คนล่าสุด

Alternative Textaccount_circle
'Peggy Gou' ขึ้นแท่น Maybelline Global Ambassador คนใหม่
'Peggy Gou' ขึ้นแท่น Maybelline Global Ambassador คนใหม่

เมย์เบลลีน นิวยอร์ก เปิดตัว Peggy Gou ดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงระดับโลก สู่บทใหม่ของวงการความงาม ขึ้นแท่น Maybelline Global Ambassador คนใหม่ล่าสุดที่พร้อมสะท้อนทุกตัวตนและแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่

แพ็กกี้ กู (Peggy Gou) ดีเจและโปรดิวเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลในวงการเพลงมายาวนาน อันเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากเพลงฮิต “(It Goes Like) Nanana” ในปี 2023 เธอไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในวงการเพลงเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำด้านแฟชั่น และได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความงามอย่างเต็มตัว

แพ็กกี้คือดีเจที่ร้อนแรงที่สุดในโลก เพลงของเธอเป็นเหมือนซาวด์แทร็กในช่วงซัมเมอร์ของทุกคน พลังที่เปี่ยมล้นและความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้ชมที่หลากหลายของเธอ คือ เครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นตัวตนและศิลปะของเธอ” การแสดงที่เปี่ยมไปด้วยพลังและสไตล์ที่ล้ำสมัยของแพ็กกี้ ทำให้เธอมีผู้ติดตามมากมายทั่วโลก แฟนๆ ของเธอไม่เพียงแต่ชื่นชอบในเสียงเพลงของเธอเท่านั้น แต่ยังชื่นชมในแนวทางความงามที่เป็นธรรมชาติและสร้างสรรค์ของเธออีกด้วย

ฉันรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเมย์เบลลีน นิวยอร์ก แบรนด์ที่สนับสนุนความเป็นตัวของตัวเองและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นคุณค่าที่ฉันให้ความสำคัญ ผลิตภัณฑ์ของเมย์เบลลีนไม่เพียงแต่มีคุณภาพ แต่ยังเป็นเมคอัพที่ขึ้นชื่อว่าติดทน เหมาะสำหรับตารางการเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกที่ค่อนข้างหนักหน่วงของฉัน ฉันรอคอยที่จะเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้” – Peggy Gou

ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเมย์เบลลีน แพ็กกี้จะได้ร่วมงานในแคมเปญผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟนๆ ในการยอมรับความเป็นตัวของตัวเองที่ถ่ายทอดผ่านเมคอัพ การร่วมงานกันครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่แพ็กกี้ กู จะมาร่วมสร้างสีสันให้กับไอคอนนิคลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวดังอย่าง SuperStay Matte Ink Liquid Lipstick เป็นแคมเปญแรก


ส่วนผสมที่ลงตัว “พวงมาลัย” ศรราม น้ำเพชร x คาซูยะ

account_circle

อีกหนึ่งสีสันของวงการเพลง ที่มาพร้อมความน่ารัก สดใส สนุกสนาน กับส่วนผสมที่ลงตัว ไทย – ญี่ปุ่น ในเพลง “พวงมาลัย” กับทำงานร่วมกันของ แบงค์ – ศรราม น้ำเพชร x คาซูยะ (KAZUYA) ศิลปินไอดอลญี่ปุ่น

ที่มาของเพลง “พวงมาลัย”

แบงค์   “ผมอยากทำเพลงป๊อป ก็คุยกับผู้จัดการว่าเราอยากชวนศิลปินไทยมาร่วมร้องด้วยกัน ก็คิดกันว่าจะเป็นใครดี บังเอิญว่าตอนนั้นทางผู้จัดการของคาซูยะ ทักมาหา พี่จิมมี่ (ผู้จัดการของแบงค์) ก็เลยได้รู้ว่ามีสมาชิกจากบอยแบนด์จากญี่ปุ่นกำลังมาไทย ซึ่งน่าจะดีมากๆ ถ้าได้แร็พเปอร์อย่างคาซูยะ มาร่วมงานกัน มาร้องท่อนแร็พเป็นภาษาญี่ปุ่น น่าจะทำให้เพลงของดูน่าสนใจและสนุกมากขึ้น

คาซูยะ “ตอนที่ทราบว่า แบงค์รบกวนชวนให้มาทำงานร่วมกัน รู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันใจมากครับ เพราะแบงค์มีประสบการณ์มากกว่า แฟนคลับเยอะกว่า ผมดีใจมากๆ ที่เขาเลือกผม ตอนแรกก็รู้สึกกดดันนิดนึง แต่พอทำงานด้วยกันเขาคอยช่วยเหลือผม ใจดีกับผมมากๆ ผมก็รู้สึกดีใจและคิดว่าเขาน่าจะเป็นที่รู้จักที่ญี่ปุ่นมากขึ้นด้วยครับ” (ยิ้ม)

ทำไมถึงเลือกนำพวงมาลัยมานำเสนอในเพลงนี้คะ

แบงค์   “ที่มาของเพลงพวงมาลัย เนื่องจากแบงค์เป็นพระเอกลิเก จึงต้องการนำเสนอความเป็นไทยและเสน่ห์ของลิเกให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก เป็นการผสมผสาน 2 วัฒนธรรมเข้าด้วยกัน

“แบงค์เปรียบผู้หญิงเป็นแม่พวงมาลัย ตามเนื้อหาเพลงที่ร้องว่า ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงยังไม่มาหากันเลย ส่วนของทางคาซูยะ แบงค์ได้บรีฟเนื้อหาไปว่าขอเป็นแนวเกี่ยวกับความรัก ซึ่งแบ่งออกเป็นสองพาร์ต พาร์ทของแบงค์เป็นความรักที่ไม่สมหวัง แต่พาร์ทของคาซูยะ อยากได้ฟีลแบดๆ นิดนึง ซึ่งพอบอกคอนเซ็ปต์ไป เขาก็แต่งมาเนื้อร้อง ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยระหว่างดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ของไทยกับซากุระของญี่ปุ่น ซึ่งเข้ากับคอนเซ็ปต์เพลงพวงมาลัยมากๆ ครับ”

คาซึยะ “ตอนที่ได้รับโจทย์มาว่าให้คิดท่อนแร็ปเวิร์สในเพลงพวงมาลัย ตอนนั้นเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นหรือช่วงที่ดอกซากุระบานพอดี ผมก็เลยเสิร์ชดูว่าซากุระเมืองไทยเขาเรียกว่าอะไร ก็พบว่าเป็นดอกชมพูพันธ์ทิพย์ ซึ่งดอกซากุระญี่ปุ่นก็ไม่ได้อยู่ตลอดนะ พอหมดฤดูก็ร่วงโรยไป เหมือนความรักที่ไม่สมหวัง ผมมองว่าความหมายตรงนี้เข้ากับเพลงได้ดี ก็เลยเอามาแต่งเป็นเนื้อเพลงเพื่อจะเชื่อมโยงกัน ระหว่างดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ของไทยกับซากุระของญี่ปุ่นครับ”

ทราบว่าคาซึยะได้ลองเล่นลิเกครั้งแรกด้วย รู้สึกอย่างไรบ้างคะ

คาซึยะ “ตื่นเต้นมากครับ ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แต่ผมชอบทำอะไรใหม่ๆ ยิ่งมีโอกาสได้ขึ้นเวทีลิเกกับแบงค์ ยิ่งรู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก ผมนับถือเขามากครับ เพราะว่าการขึ้นเวทีแต่ละครั้ง เหมือนเป็นการแสดงแบบฟรีสไตล์ ณ ตอนนั้น การร้องแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน ผมชื่นชมแบงค์มากๆ ครับ”

แบงค์สอนคาซูยะร้องลิเกด้วยใช่มั้ยคะ

แบงค์   “พอต้องร้องลิเกเป็นภาษาไทย ความยากคือ การสื่อสารครับ ซึ่งแบงค์ก็ได้ให้เขาซ้อมร้อง ออกเสียงตามแบงค์ ซึ่งเขาทำได้ดีเลยครับ แม้ว่าจะเป็นชาวต่างชาติแต่สามารถร้องกลอนลิเกได้ จำทำนองได้ แบงค์ว้าวมากๆ และทุกคนเห็นถึงความตั้งใจของคาซูยะที่อยากจะทำหน้าที่ตรงนี้ออกมาให้ดีที่สุด ทั้งที่แทบไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย แต่ว่าถ้าคาซูยะอยากเล่นลิเกจริงจัง ต้องมาอยู่เมืองไทยสัก 2 ปีครับ (หัวเราะ) ถ้าโอเคแบงค์จะสอนให้เลย” (ยิ้ม)

คาซึยะ “ถ้าคุณแบงค์สอน ผมก็จะทำเต็มที่ครับ (ยิ้ม) เพราะตั้งแต่ได้เวทีลิเก ผมก็สนใจและชอบลิเกมากขึ้น ก็เลยหาวิดีโอลิเกที่แบงค์แสดง ซึ่งมีหลายคาแรคเตอร์มากๆ เก่งมากครับ ผมประทับใจมาก”

ในการทำงานร่วมกัน ประทับใจอะไรกันและกันคะ

แบงค์   “จริงๆ ในการทำงานด้วยกัน ราบรื่นมากๆ ครับ เพียงแต่อาจจะติดเรื่องการสื่อสารเรื่องภาษา แต่ว่าคาซูยะเป็นคนที่ตั้งใจและเต็มที่กับการทำงานมากๆ ก็เลยทำให้รู้สึกว่าการทำงานนี้ไม่มีอุปสรรค หรือติดขัดเลย ตอนอัดเพลงก็ใช้เวลาแปบเดียว ทุกอย่างผ่านฉลุยเลยครับ”

คาซูยะ “การทำงานครั้งนี้เป็นสเกลที่ค่อนข้างใหญ่ครับ ตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ร่วมงานด้วยกัน และแม้ว่าเราจะอายุเท่ากัน แต่ผมรู้สึกเหมือนแบงค์เหมือนเป็นพี่ชาย เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่า ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากเขา ซึ่งผมก็เอาประสบการณ์ตรงนี้กลับไปใช้ในการทำงานที่ญี่ปุ่นด้วย ทำให้ผมเติบโตขึ้นครับ”

ชม MV เพลง “พวงมาลัย” ได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=OgSGWqwIdKs

ขอบคุณสถานที่ The Craftor Cafe

อาการไข้หวัดใหญ่ เมื่อเป็นแล้วดูแลตนเอง และรับมืออย่างไรให้ดีขึ้น

account_circle

อาการเจ็บป่วยไม่ว่าจะมากหรือน้อย เชื่อว่าหลายท่านหากเลือกได้ ใคร ๆ ก็ต้องมีสุขภาพที่ดี เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาแล้ว หลากหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวันก็ต้องหยุดชะงักเพื่อพักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย “อาการไข้หวัดใหญ่” หนึ่งในอาการป่วยที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วควรดูแลตนเองและรับมืออย่างไรบ้าง เพื่อให้อาการไข้หวัดใหญ่ที่เป็นอยู่ดีขึ้น จนสามารถไปเรียน ไปทำงาน ไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ 

ถ้าอยากรู้ แนะนำว่าต้องอ่านบทความนี้ เพราะเราได้รวบรวมสาระดี ๆ เกี่ยวกับอาการไข้หวัดใหญ่ที่คุณควรรู้ไว้แล้ว

ไข้หวัดใหญ่ มีอาการอย่างไร

ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) คือการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อบริเวณทางเดินหายใจ โดยไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้จากการรับเชื้อผ่านพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานอาหารโดยไม่ใช้ช้อนกลาง การได้รับเชื้อผ่านทางอากาศที่สูดหายใจเข้าไป และการสัมผัสสารคัดหลั่งเป็นต้น

โดยปกติแล้วเมื่อได้รับเชื้อร่างกายจะแสดงอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ดังต่อไปนี้

  • มีไข้ประมาณ 39-40 องศา
  • รู้สึกร้อน ๆ หนาวๆ 
  • มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกล้ามเนื้อ
  • อ่อนเพลีย
  • เจ็บคอ คอแดง พร้อมกับมีอาการไอแห้งร่วมด้วย
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • รู้สึกไม่อยากอาหาร

ภาวะแทรกซ้อนจากอาการไข้หวัดใหญ่

หลายท่านอาจไม่ทราบว่าไข้หวัดใหญ่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นอาจอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน 

โดยภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่นั้นจะมีอาการในลักษณะที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ มีไข้สูง กว่าปกติ หายใจเร็วหายใจติดขัดมีปัญหาหายใจได้ลำบาก เจ็บบริเวณหน้าอกเจ็บช่องท้อง รวมถึงยังสามารถเกิดอาการขาดปฏิกิริยาการตอบสนองได้ด้วยเช่นกัน

สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ควรระมัดระวังหากเกิดภาวะแทรกซ้อนอาการไข้หวัดใหญ่ ได้แก่

  • ทารกและเด็กเล็ก
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด เป็นต้น
  • ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
  • สตรีที่กำลังตั้งครรภ์
  • ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

ไขข้อสงสัย ไข้หวัดใหญ่ หายเองได้ไหม

อาการไข้หวัดใหญ่สามารถรักษาให้หายเองได้ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อฟื้นฟูร่างกายที่ป่วยอยู่ สามารถกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ที่สำคัญในขณะที่มีไข้สามารถรับมือได้โดยการเช็ดตัว เพื่อระบายความร้อนของอุณหภูมิในร่างกายให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมรับประทานยาตามอาการควบคู่ไปด้วย

วิธีการดูแลตัวเอง เมื่อคุณมีอาการไข้หวัดใหญ่

เมื่อมีอาการไข้หวัดใหญ่ การดูแลตนเองเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว และหายจากอาการไว ๆ ผู้ป่วยควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

  • รับประทานยาลดไข้ทุก 4 – 6 ชั่วโมง 
  • หมั่นเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา เพื่อช่วยลดไข้ ช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอ
  • นอนพักผ่อน 

ป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่อย่างไรได้บ้าง

สำหรับการป้องการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอาการไข้หวัดใหญ่
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือสถานที่ที่มีอากาศ ปิด อากาศถ่ายเทยาก
  • ควรใช้ช้อนกลาง เมื่อต้องรับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ

สรุปไข้หวัดใหญ่

อาการไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาการของโรคดังกล่าวจะมีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดแบบธรรมดา อย่างไรก็ตามหากเกิดอาการไข้หวัดใหญ่ขึ้นแล้ว ควรดูแลตนเองตามอาการที่เกิดขึ้น เช่น รับประทานยาลดไข้ทุก ๆ 4 – 6 ชั่วโมง หมั่นเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิ เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรค แนะนำว่าควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี

หากสังเกตว่าคนรอบตัวหรือตนเองมีอาการไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรง และอาการที่เป็นอยู่ไม่ดีขึ้น แนะนำว่าควรรีบพบแพทย์จะดีที่สุด 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาหมอเกี่ยวกับอาการไข้หวัดใหญ่ หรือปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่รับประทาน พร้อมทั้งช้อปสินค้าสุขภาพ สามารถโหลด BeDee แอปพลิเคชันบริการดูสุขภาพแบบครบวงจร พร้อมช่วยดูแลสุขภาพของคุณ ทุกที่ ทุกเวลา สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดี ๆ ได้ที่ App Store และ Play store ดาวน์โหลด BeDee คลิก https://bit.ly/4btcZSY 

หมั่นสังเกตตัวเองให้ดี โรคแพนิคอาจใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด

account_circle

ในปัจจุบันนี้โรควิตกกังวลอาจเป็นโรคใกล้ตัวกว่าที่ใครหลาย ๆ คนคิด เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือเหตุการณ์ทางสังคมในทุกวันที่มีความกดดันสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนก่อให้เกิดความเครียดได้ง่าย

โดยหนึ่งในประเภทของโรควิตกกังวลที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ ‘โรคแพนิค’ นั่นเอง แม้ว่าโรคแพนิคจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ควรสังเกตลักษณะอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ดี เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างราบรื่น

ทำความรู้จักกับโรคแพนิค

โรคแพนิค คือโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งซึ่งเกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติที่สามารถส่งผลต่อการระบบทำงานส่วนอื่น ๆ บนร่างกายได้มากมาย โรคแพนิคแสดงอาการออกมาได้หลากหลายอย่างร่วมกัน เช่น หัวใจเต้นแรง, มือเท้าสั่น, ตัวชา, หายใจถี่ หรือท้องไส้ปั่นป่วน เป็นต้น

ซึ่งอาการของโรคแพนิคนี้ยังอาจทำให้ผู้ป่วยตื่นกลัวและวิตกกังวลเป็นอย่างหนัก จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตหรือสร้างความลำบากในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

โรคแพนิคมีอาการอย่างไร

อาการของโรคแพนิคนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังคาดเดาได้ยากว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นก่อนที่จะรู้จักกับแนวทางการดูแลตนเองหรือวิธีรักษาโรคแพนิค ในหัวข้อนี้เราจะพามาดูกันก่อนดีกว่าว่าโรคแพนิคมีอาการอย่างไรบ้าง

อาการของโรคแพนิค

  • หัวใจเต้นแรงหรือเร็ว ใจสั่น
  • เจ็บแน่นบริเวณหน้าอก
  • หายใจถี่ หายใจติดขัด
  • ตัวสั่น มือเท้าสั่น
  • ท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้
  • เหงื่อออกมาก
  • วิงเวียนศีรษะ มึนงง จะเป็นลม
  • ชาตามปลายมือและปลายเท้า
  • รู้สึกหวาดกลัวทุกอย่าง หรือกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับตนเอง

สาเหตุของโรคแพนิค

โรคแพนิคเป็นโรคที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจกันเพียงแค่ว่าเป็นโรคที่เกิดจากความวิตกกังวล แต่ความจริงแล้วโรคแพนิคนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่

  • สารเคมีในสมองขาดความสมดุลจากความผิดปกติของฮอร์โมน
  • ผู้ที่มีญาติหรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคแพนิค จะมีโอกาสเป็นโรคแพนิคได้มากกว่าคนทั่วไปเนื่องจากกรรมพันธุ์
  • เกิดจากการเสพหรือใช้สารเสพติด
  • เกิดจากการทำงานผิดปกติของสมองส่วนควบคุมความความทรงจำที่มีชื่อว่า ‘Amygdala’ ที่ส่งผลต่อความกลัวโดยตรง
  • มีความเครียดสะสมจากการดำเนินชีวิต
  • เคยผ่านเหตุการณ์หรือได้รับประสบการณ์เลวร้ายในอดีต
  • ถูกกระตุ้นจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น เผชิญหน้ากับความกดดัน, วิตกกังวล, ขาดการออกกำลังกาย, พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ๆ

ตรวจวินิจฉัยโรคแพนิคได้อย่างไร

การที่จะมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าตนเองเป็นโรคแพนิคนั้นการสังเกตอาการด้วยตนเองหรือคนใกล้ตัวเพียงอย่างเดียวก็อาจไม่พอ แต่จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้วยเช่นกัน เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์จะมีการวินิจฉัยโรคแพนิคในผู้ป่วย ดังนี้

  • เกิดอาการแพนิคที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการใช้สารเสพติด, การใช้ยาบางชนิด หรือมีปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ เช่น โรคย้ำคิดย้ำทำ เป็นต้น
  • เกิดอาการแพนิคขึ้นบ่อยครั้งโดยที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้
  • มีความรู้สึกกังวลหรือหวาดกลัวเป็นระยะเวลาเกินหนึ่งเดือนแม้ว่าจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมานานแล้วก็ตาม

โรคแพนิครักษาอย่างไรได้บ้าง

วิธีการรักษาโรคแพนิคนั้นสามารถทำได้ด้วยการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง เพื่อให้ยาเข้าไปปรับสารเคมีในสมองที่ผิดปกติให้กลับมาสมดุล ทั้งนี้ก็จำเป็นต้องรักษาทางจิตใจ หรือที่เรียกว่า ‘จิตบำบัด’ ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งการรับการรักษาอีกช่องทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันก็คือการปรึกษาหมอออนไลน์นั่นเอง เนื่องจากมีความสะดวกที่มากกว่า

นอกจากนี้การจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลเองก็สำคัญเช่นกัน รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันหรือเลือกอาศัยอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคแพนิค

สำหรับผู้ที่เป็นโรคแพนิคนั้นไม่เพียงแค่ควรรู้วิธีการรักษาเท่านั้น แต่ยังควรรู้ถึงวิธีการดูแลตนเองด้วยเช่นกัน เพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างเหมาะสมเมื่อเกิดอาการโรคแพนิค หรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมซึ่งจะส่งผลให้อาการรุนแรงยิ่งขึ้น

วิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคแพนิค

  • ฝึกเทคนิคหรือหาวิธีการผ่อนคลายเพื่อลดระดับความเครียดที่อาจเกิดขึ้น
  • ห้ามบรรเทาอาการโรคแพนิคด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการรับประทานยานอนหลับ เพราะจะทำให้อาการโรคแพนิครุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อหยุดรับประทาน
  • หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ สามารถออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินเล่น โยคะ หรือเต้นแอโรบิกได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นการออกกำลังกายอย่างหักโหม 
  • ควรงดหรือลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นชา, กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง รวมไปถึงน้ำอัดลมบางชนิด
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคและรับการรักษาตามขั้นตอน

สรุปโรคแพนิค

ในยุคปัจจุบันนี้ที่มีสถานการณ์อันน่ากดดันมากมายรายล้อมตัวเราอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนมากมายเกิดความเครียดสะสมและวิตกกังวลกับสิ่งต่าง ๆ รอบกาย จึงไม่แปลกเลยที่โรคแพนิคจะกลายมาเป็นโรคที่สามารถพบเจอกันได้มากยิ่งขึ้น 

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไป เนื่องจากโรคแพนิคนั้นสามารถรักษาได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งจะให้การรักษาที่เหมาะสมตามแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายยาไปให้รับประทาน หรือการทำจิตบำบัดก็ตาม

นอกจากนี้คุณยังสามารถป้องกันโรคแพนิคแบบเบื้องต้นด้วยตัวเองได้โดยการปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดไปในทางบวกให้มากยิ่งขึ้น หรือย้ายตนเองไปอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ผ่อนคลาย เพื่อให้การใช้ชีวิตของคุณมีความสุขและห่างไกลความเครียด

และสำหรับใครที่กำลังมีปัญหา หรือต้องการได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ไม่สะดวกเดินทางไปหาหมอสามารถหาหมอออนไลน์ในแอปพลิเคชัน BeDeeได้เลย แอป BeDee มีจิตแพทย์และนักจิตวิทยาจากเครือ BDMS ให้บริการทุกวันถึง 23.00 น. หรือสามารถทำแบบประเมินความเครียด Burnout โรคซึมเศร้า หรือประเมินความเข้มแข็งทางใจเบื้องต้นกับพยาบาล ไม่มีค่าใช้จ่าย ดาวน์โหลด BeDee คลิก https://bit.ly/4btcZSY

เริ่มแล้ว นิทรรศการ I AM FINE ! DIVE INTO THE LIVES OF 10 ICONIC ARTISTS

account_circle

“I AM FINE !” นิทรรศการศิลปกรรมเปิดตัวหนังสือสิบศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย พร้อมคอลเลกชันของที่ระลึกน่าสะสมสุดพิเศษ ภายใต้แนวคิด “DIVE INTO THE LIVES OF 10 ICONIC ARTISTS” ให้ได้สัมผัสเรื่องราวชีวิตบนเส้นทางศิลปะ และผลงานอันทรงพลัง ผ่านตัวหนังสือที่เรียงร้อยถ้อยคำโดยตัวศิลปินเอง 10 เล่ม 10 ศิลปิน 10 แรงบันดาลใจ  เริ่มแล้ววันนี้ ถึง วันที่ 23 มิถุนายน 2567 ณ ห้อง RCB 1-2-3 ชั้น 2 ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก

I AM FINE ! DIVE INTO THE LIVES OF 10 ICONIC ARTISTS นับเป็นนิทรรศการแรกที่ศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยทั้งสิบท่านร่วมกันจรดปากกาเล่าเรื่องราวการเดินทางต่อสู้เพื่อความฝันบนเส้นทางศิลปะกว่าจะมาเป็นตัวตนบนผืนผ้าใบผ่านตัวหนังสือที่จัดพิมพ์สองภาษา (ไทย-อังกฤษ) รวมทั้งบอกเล่ามุมมอง และรายละเอียดผลงานชิ้นสำคัญที่นำมาจัดแสดงภายในงาน ให้ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ และผู้ที่สนใจมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ศิลปะสุดพิเศษครั้งนี้  สำหรับศิลปินทั้งสิบท่าน ได้แก่

“ประทีป คชบัว” เรื่องเล่าของเด็กบ้านช่างหล่อ สู่ศิลปินวาดภาพแนว Surrealism อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ผลงานของเขาล้วนสะท้อนเรื่องราวในใจต่าง ๆ มากมาย หลั่งไหลพรั่งพรูลงอาบผืนผ้าใบชิ้นแล้วชิ้นเล่า ตามห้วงเวลา และดูเหมือนจะร้อยเรียงเรื่อยไปไม่จบสิ้น

“วัชระ กล้าค้าขาย” ศิลปินผู้มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ในการวาดภาพเหมือนบุคคลได้งดงามวิจิตรบรรจง ศิลปินผู้เลือกเดินทางตรงสู่เป้าหมายผ่านผลงานทางศิลปะและงานเพื่อสังคมการศึกษา ผู้ซึ่งมองว่า “ความสามารถไม่เพียงสร้างประโยชน์ให้ตนเอง แต่ยังส่งต่อผู้อื่น”

“แดง บัวแสน” ศิลปินผู้มีฝีไม้ลายมือขั้นเทพคนหนึ่ง กับผลงานสอดแทรกเรื่องราวความสนุก ความทรงจำ และธรรมะ ไว้ได้อย่างลงตัว จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ใคร ๆ ต่างรอคอยที่จะได้ชื่นชมและสะสมงานชิ้นใหม่ ๆ ของเขาเสมอ “From Realism to Surrealism ศิลปะแห่งช่วงเวลา”

“ธีธัช ธนโชคทวีพร” ศิลปินผู้มีผลงานโดดเด่นด้านความต่างในสไตล์ Neo Surrealism และการใช้สัญลักษณ์มากมาย ซึ่งล้วนแสดงออกถึงความคิดในรูปแบบเสรี  มีสีสันเด่นชัดสะดุดตา และเนื้อหาที่อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต

“ชัยณรงค์ กองกลิ่น” ศิลปินผู้ใช้ชีวิตบนผืนผ้าใบ สะท้อนมุมมองต่อโลกและสังคมผ่านฟิกเกอร์เรทีฟ (Figurative) อันทรงพลังซึ่งกวาดรางวัลมามากมายตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา จนกลายเป็นไอดอลของหลายคน เพราะผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ในหลายรูปทรงทั้ง คน สัตว์ สิ่งของ ที่ล้วนอ้วนใหญ่กว่าปกติ สร้างความน่ารัก น่าสนใจ และน่าจดจำ เพราะสำหรับ “ชัยณรงค์” แล้ว “ศิลปะ” คือ “ความสุข”

“จงจิตร มูลมาตย์” ศิลปินลูกอีสานที่บนทางเดินศิลปะของเขาไม่ง่ายหรือสวยหรู แต่ก็ฟันฝ่าจนสามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมและเหรียญเงินจากเวทีการประกวดงานศิลปะของธนาคาร UOB ปี 2559 และปี 2561 พลิกชีวิตเข้ามาสู่วงโคจรของศิลปะพิสุทธิ์แบบเต็มตัว สร้างงานจากแรงบันดาลใจจากสิ่งที่พบเจอในชีวิตประจำวัน

“เกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์” ศิลปินที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงว่าประสบความสำเร็จขั้นสุดในศิลปะบนโลกออนไลน์ (NFT) ของไทย เจ้าของนามปากกา Line Censor ผลงานภาพเขียน งานปั้น งานโมเดล ขนาดเล็กใหญ่ล้วนเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั้งใน และต่างประเทศ

“อัญชลี อารยะพงศ์พาณิชย์” ศิลปินหญิงที่ก้าวเดินมาบนเส้นทางศิลปะด้วยเอกลักษณ์งานซึ่งมีจุดเด่นชัดเจน ทั้งเนื้องานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์และรูปแบบงานตาโต ที่ใคร ๆ ในวงการศิลปะ ก็รู้จัก ด้วยผลงานภาพวาดเหมือนจริงที่มีส่วนผสมของลายเส้นการ์ตูนดูแปลกตาของเธอ เข้าตาหลายแกลเลอรี่จนได้รับเชิญไปจัดแสดงร่วมกับผลงานของศิลปินหน้าใหม่จากทั่วโลกในต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง

“ออฟ สมิธ” ศิลปินหนุ่มผู้มีแนวคิดไม่เหมือนใครและมีผลงานโดดเด่นถึงต่างแดน หรือที่รู้จักกันในนามของ “AOF SMITH” ศิลปินที่มีความมั่นคงทางความคิด และพัฒนางานต่อเนื่องอย่างหนักหน่วง จนผลงานเป็นที่ยอมรับของนักสะสม ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีคิวการแสดงภาพในต่างประเทศยาว ๆ ไปถึงปี 2026

“วิษณุพงษ์ หนูนันท์” ศิลปินรุ่นใหม่ที่บรรดานักสะสมต่างให้ความสนใจ และชื่อที่บรรดานักสะสมหรือคนรู้จักต่างมักเรียกเขาจนติดปากก็คือ “หนูนันท์”  ผู้ซึ่งเน้นย้ำเสมอว่า “ภาพของหนูนันท์ต้องไม่มีภาพพิมพ์ เช่นเดียวกับงานประติมากรรมงานปั้นต้องไม่มีการทำซ้ำจากจำนวนที่กำหนด งานทุกชิ้นของ “หนูนันท์” จะประณีตตั้งใจ ทุกชิ้นจะมีเรื่องราวที่สะท้อนแง่มุมบางสิ่งบางอย่างสอดแทรกเอาไว้อย่างลึกซึ้งเสมอ หากถาม “หนูนันท์” ว่า ทำไมนักสะสมถึงชอบผลงานของเค้า คำตอบที่ได้คือ “เพราะเวลาที่นักสะสมมองภาพนั้น เขาจะเหมือนได้คุยกับตัวเขาเอง” “หนูนันท์” ศิลปินที่มีนักสะสมรอคอยจับจ้องเป็นเจ้าของผลงานมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้

ภายในงานนิทรรศการ “I AM FINE !” DIVE INTO THE LIVES OF 10 ICONIC ARTISTS นอกจากจะเป็นการเปิดตัวหนังสือของศิลปินทั้งสิบท่านแล้ว ยังมีการแสดงผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมหลากหลายรูปแบบให้ผู้เข้าชมได้เต็มอิ่มไปกับเรื่องราวซึ่งสะท้อนมุมมองของศิลปินหลักทั้งสิบท่าน และศิลปินรับเชิญอีกเก้าท่าน ได้แก่ อินสนธ์ วงศ์สาม ศิลปินแห่งชาติ ปี 2542 สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม), วีระพันธ์ ผลธรรมา, สนามชัย พวงระย้า, จักรี คงแก้ว, สุชาติ ม่านทอง, มาลี นารี, อำนาจ ฉลอง, คงศักดิ์ เจียมสากล และ พงษ์ภูธาร ทำดี ที่ให้เกียรตินำผลงานมาร่วมสร้างสีสันภายในงานอีกด้วย

ความพิเศษที่พลาดไม่ได้อีกอย่างในงานนี้ คือโอกาสที่จะได้เลือกซื้อของที่ระลึกน่าสะสมผลงานสร้างสรรค์จากศิลปิน ที่ไม่เคยทำที่ใดมาก่อน เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่เพราะเป็นการออกแบบร่วมกันครั้งแรกของแปดศิลปินหลักที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์และสไตล์ของแต่ละคนไว้บนลวดลายถือได้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ดสุดคิ้วที่น่าจับจองเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้สายชอปปิงไอเทมเด็ดต้องถูกใจ เพราะสามารถเป็นเจ้าของผลงานศิลปินที่ชื่นชอบ บนของที่ระลึก เช่น แก้ว ร่ม ซองการ์ด ที่เปิดขวด และอีกมากมายในราคาที่จับต้องได้อีกด้วย

นอกจากนี้ผู้ที่สนใจหนังสือสุดพิเศษของศิลปินทั้งสิบท่าน มีจำหน่ายที่งาน ในราคาเล่มละ 500 บาท ซื้อครบชุด 10 เล่ม รับส่วนลดพิเศษ 10% จาก 5,000 บาท เหลือเพียง 4,500 บาท สำหรับนักเรียน-นักศึกษา รับส่วนลดพิเศษ 40% จากราคา เล่มละ 500 บาท เหลือเพียง 300 บาท เพียงแสดงบัตรประจำตัวนักเรียน-นักศึกษา และหลังจบนิทรรศการ หากมหาวิทยาลัยใดสนใจ โดยเฉพาะที่มีสอนสาขาด้านศิลปะ สามารถแจ้งความประสงค์ผ่าน inbox ระบุชื่อสถาบันและที่อยู่ มาที่เฟสบุ๊คเพจ TNC.ART ทางผู้จัดจะทยอยส่งมอบหนังสือทั้ง 10 เล่มซึ่งมีจำนวนจำกัดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้มีโอกาสสัมผัสและชื่นชมผลงานของศิลปินที่ชื่นชอบต่อไป

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ทางศิลปะสุดพิเศษนี้ ที่งาน “I AM FINE !” DIVE INTO THE LIVES OF 10 ICONIC
ARTISTS ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 23 มิถุนายน 2567 ที่ห้อง RCB 1-2-3 ชั้น 2 ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก เวลา 10.00 น
– 20.00 น.  งานนี้ชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

รายละเอียดเพิ่มเติม Facebook : TNC.art

หวานละมุน เปิดกระเป๋า Louis Vuitton สีฟ้าพาสเทลของ ‘คิมแทยอน’

Alternative Textaccount_circle

คิมแทยอน‘ โพสต์รูปใหม่ทั้งทีแอบมาซูมอินกระเป๋า Louis Vuitton สีฟ้าพาสเทลแสนละมุนของเธอกันดีกว่า ใบที่ถืออยู่นี้ชื่ออะไรกันนะ?

แบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำ Louis Vuitton อย่าง ‘คิมแทยอน’ ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานไกลถึงประเทศอินโดนีเซียทั้งทีงานนี้จึงจัดเต็มลุคน่ารักๆ มาฝากแฟนๆ กัน โดยเธอเลือกใส่เป็นเสื้อเชิ้นสีขาวแขนตุ๊กตาที่เลเยอร์ทับมินิเดรสลายดอกเดซี่อีกหนึ่งชั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกระเป๋าคู่ใจดีไซน์สวยรุ่น Capucines Mini โดยกระเป๋าใบดังกล่าวปรียบได้ดั่งผลงานแห่งการสดุดีแด่ร้านแห่งแรกของหลุยส์ วิตตองที่เปิดขึ้นในปี 1854 บนถนน Rue Neuve-des-Capucines ในปารีส ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ความชำนาญด้านงานศิลป์ของผู้คนในย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้ ความพิเศษของกระเป๋าแต่ละใบต้องผ่านกรรมวิธีกว่า 250 ขั้นตอนจากช่างผู้มากประสบการณ์ สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 240,000 บาท ปรับปลี่ยนตามสีและวัสดุความหายาก ขอแอบกระซิบว่าสีฟ้าพาสเทลใบนี้ไม่มีของบนเว็บไซต์แล้วนะคะ!


ภาพ: Instagram @taeyeon_ss

สายฝนแห่งความสำเร็จ 3 โมเมนต์น่าจดจำของ ‘พีพี กฤษฏ์’ บนรันเวย์ Balenciaga

Alternative Textaccount_circle

Talk of the Town! รวม 3 โมเมนต์น่าจดจำของ ‘พีพี กฤษฏ์‘ บนรันเวย์ Balenciaga ที่จัดขึ้นท่ามกลางสายฝน

กลายเป็นแฟชั่นโมเมนต์ที่หลายคนพูดถึง เมื่อ ‘พีพี กฤษฏ์’ โกลบอลแบรนด์แอมบาสเดอร์คนสำคัญของ Balenciaga ปรากฏตัวบนรันเวย์ Spring 2025 ในลุคออลแบล็คลำดับที่ 3 ซึ่งจัดขึ้น ณ นครเซี่ยงไฮ้ และทันทีที่เขาปรากฏตัว #BalenciagaxPPKRIT บนทวิตเตอร์ก็ไต่ขึ้นเทรนด์อย่างรวดเร็ว อีกทั้งสื่อแฟชั่นทั้งไทยและต่างประเทศยังจับจ้องพีพีในค่ำคืนนี้เป็นพิเศษ เรียกว่าเป็นดาวเด่นของงานนี้ก็ว่าได้

การเดินแบบครั้งแรกกับ Balenciaga

แม้หลายคนจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเริ่มแรกของการก้าวเข้าวงการ ‘พีพี กฤษฏ์’ เคยอยู่ในฐานะโมเดล ก่อนเริ่มรับงานแสดงและเป็นศิลปินแบบเต็มตัว จนวันนี้เขาได้หวนคืนรันเวย์อีกครั้งในฐานะ Global Brand Ambassador Balenciaga นำเสนอลุคที่ 3 ในคอลเล็คชั่น Spring 2025 ซึ่งทั้งนี้พีพียังเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเชิญให้ปรากฏตัวอยู่บนรันเวย์ของแบรนด์อีกด้วย

ความท้าทายสู่ความสำเร็จ

จากที่เห็นกันการเดินแบบครั้งนี้ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย เพราะพีพีต้องเดินอยู่บนรองเท้าบู๊ตส้นตึกที่มีความสูงถึง 18 เซนติเมตร โดยเขาออกมาเผยว่า ก่อนเดินจริงแบรนด์ได้ส่งรองเท้ามาให้ฝึกซ้อมล่วงหน้า ซึ่งเขาก็ฝึกเดินจนชินและนำมาปรับใช้ในโชว์ที่เกิดขึ้น และอีกหนึ่งความท้าทายคงเป็นสายฝนที่โปรยลงมา หากใครได้ดูวีดีโอจะเห็นว่าฝนตกระหว่างโชว์ค่อนข้างหนัก แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคเพราะเขาสามารถผ่านไปได้ด้วยดี และทำให้ทุกคนได้เห็นสปิริตความเป็นโมเดลที่อยู่ในตัวเขาอย่างชัดเจน

รายล้อมด้วยคนดัง

เป็นโอกาสดีๆ ของพีพีอีกครั้งสำหรับการร่วมงานระหว่าง Balenciaga เพราะเขาได้พบเจอกับคนดังมากมายตั้งแต่นางแบบอย่างคุณ BFRND ที่ดูเอ็นดูพีพีเป็นพิเศษ คุณฮ่าวหรานที่มาร่วมจอยด้วยกันในช่วง After Party หรือจะเป็นคุณมาร์ค จาคอบ Legendary Designer ระดับโลกที่มาคอมเมนต์อิโมจิหัวใจให้ สมกับการเป็นดาวเด่นของงานที่รายล้อมไปด้วยคนดังจริงๆ

รู้จัก Chin Design Locked เทคนิคเสริมคางที่เข้าใจสาวไทยของ “หมอหนึ่ง EMMA CLINIC”

account_circle

“การเสริมคาง” ถือเป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัย ซึ่งด้วยวิวัฒนาการด้านความงามที่ก้าวไกล ทำให้คนรักสวย รักงาม มีตัวเลือกมากมาย Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “คุณหมอหนึ่ง – นายแพทย์อนันต์ จึงสุวัฒนานนท์” แพทย์ประจำเอมม่าคลีนิก มากประสบการณ์แห่ง EMMA CLINIC เจ้าของรางวัล Iconic Chin Augmentation จาก Praew Iconic Beauty 2023 พร้อมเจาะลึกเทคนิค Chin Design Locked ที่ช่วยเนรมิตคางสวยประทับใจให้สาวไทยมาแล้ว

เทรนด์อัพคางปังแบบไม่โป๊ะ

“นิยามความงามในมุมมองของหมอ หากเป็นความงามที่มีการเสริมเติมแต่งใดๆ ก็ต้องเป็นความงามที่ยังดูเป็นธรรมชาติอยู่และเข้ากับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร เรียกว่าเป็นตัวเองในแบบที่ดูดีขึ้น ซึ่งตรงกับเทรนด์การเสริมคางในตอนนี้ที่หลายคนเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าการเสริมคางไม่จำเป็นต้องยาวหรือยื่นจนเกินไป ที่สำคัญคือคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาชื่นชอบคางที่ดูเนียนรับกับใบหน้าและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างมิติให้กับภาพรวมของใบหน้าด้วยครับ”

เสริมคางสวยสไตล์ “หมอหนึ่ง EMMA CLINIC”

“แนวคิดการเสริมคางของหมอและ EMMA CLINIC คือ เราจะให้ความสำคัญกับขั้นตอนการวิเคราะห์ใบหน้าของผู้รับบริการแต่ละคนว่าปัญหาจริง ๆ ของเขาคืออะไร คางมีลักษณะแบบไหน เช่น คางสั้น คางถอย เพราะคนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าตัวเองคางสั้น แต่ความจริงแล้วปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่เป็นปัญหาจากคางที่ถอยเข้าไปต่างหาก ทำให้ดูเหมือนคางสั้น ต่อมา คือ การทำความเข้าใจถึงรูปทรงคางที่ผู้รับบริการต้องการหรือคาดหวัง ซึ่งหมอต้องวิเคราะห์ก่อนด้วยว่าสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะบางเคสอาจมีข้อจำกัด เช่น เรื่องสรีระ ความมากน้อยและความยืดหยุ่นของเนื้อผิว ดังนั้น หมอจึงต้องวิเคราะห์ปัญหาอย่างถี่ถ้วนก่อน แล้วจึงให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม ที่สำคัญคือต้องมองถึงภาพรวมของใบหน้าในระยะยาว

“จากแนวคิดการเสริมคางของ EMMA CLINIC ดังกล่าว บวกกับจุดเด่นสำคัญอย่าง การใช้เทคนิค Chin Design Locked ซึ่งเป็นการเปิดแผลด้านในปาก จึงเห็นโครงสร้างและปัญหาของคางเดิม ทำให้สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้รับบริการได้อย่างตรงจุด พร้อมช่วยให้ภาพรวมของใบหน้าดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ”

ความเริ่ดของเทคนิค Chin Design Locked

“หัวใจสำคัญของการเสริมคางด้วยเทคนิค Chin Design Locked อยู่ที่การเปิดแผลด้านในปาก ทำให้เห็นโครงสร้างและเข้าใจปัญหาของคางเดิมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด อีกทั้งเทคนิค Chin Design Locked ยังช่วยให้สามารถวางซิลิโคนแนบไปกับพื้นผิวกระดูก ทำให้ลดโอกาสการเกิดปัญหาเบี้ยวหรือเอียง โดยที่ EMMA CLINIC เราเลือกใช้ซิลิโคนเกรดที่สามารถฝังอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต มีความคงตัวสูง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อร่างกาย

“นอกจากนี้การเปิดแผลด้านในปากตามเทคนิค Chin Design Locked ยังมีข้อดีตรงที่ไม่เกิดแผลด้านนอก ช่วยลดความกังวลเรื่องรอยแผลเป็น อีกทั้งแผลด้านในปากยังมีขนาดเล็ก ทำให้แผลค่อนข้างหายไว จึงใช้เวลาพักฟื้นน้อย รวมถึงไม่จำเป็นต้องทานอาหารอ่อน ๆ เป็นเวลานาน จากตัวอย่างเคสของหมอส่วนใหญ่ประมาณ 1 – 2 วัน ก็สามารถทานอาหารได้ตามปกติ ส่วนเรื่องการดูแลรักษาแผลด้านในปากก็ค่อนข้างง่าย ไม่ต่างจากการดูแลแผลด้านนอกเลย เพียงแค่ต้องงดแปรงฟันประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลฉีกขาด แต่สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากและไหมขัดฟันในการทำความสะอาดช่องปากแทนได้ครับ 

“สำหรับผลลัพธ์ของการเสริมคางด้วยเทคนิค Chin Design Locked จะเริ่มเห็นผลในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยรูปทรงคางจะเข้าที่ประมาณ 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเข้าที่ไว ส่วนรัดแกนเต็มที่ประมาณ 1 – 3 เดือน  

“ที่สำคัญ คือ การเสริมคางด้วยเทคนิค Chin Design Locked ถือว่าค่อนข้างครอบคลุมปัญหาเกี่ยวกับรูปทรงคาง ไม่ว่าจะเป็นคางสั้น คางถอย คางตัด หรือคางบุ๋ม ซึ่งจากประสบการณ์ของหมอพบว่าคนไทยส่วนใหญ่มีปัญหาคางถอยเป็นหลัก ดังนั้น การเสริมคางด้วยเทคนิคนี้จึงตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้ดี”

EMMA CLINIC

Website : www.emmaclinicthailand.com

Facebook : www.facebook.com/Emmaclinicthailland

Instagram: www.instagram.com/emmaclinic_thailand

Youtube : www.youtube.com/c/EMMAClinic

Line OA : @emmaclinic หรือ https://lin.ee/yuvfxgR

โทร. 06-6115-3521 หรือ 06-6115-3522

ระเบิดความมันส์ ครั้งแรก! กับคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ “Bangkok Bank M Visa The LegeMdary Exclusive Concert”

account_circle

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประเดิมความปัง เอาใจลูกค้ามอบประสบการณ์คอนเสิร์ตสุด Exclusive ระดับตำนาน  “Bangkok Bank M Visa The LegeMdary Exclusive Concert” ครั้งแรกกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบสุดยิ่งใหญ่  สิทธิพิเศษเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต Bangkok Bank M Visa  เท่านั้น

ประเดิมความสนุกสุดมันส์ไปกับ 2 วงน้องใหม่ที่น่าจับตามองอย่าง I Hate Monday กับสไตล์เพลงป็อปแจ๊สที่โดดเด่น และน้ำเสียงอันไพเราะชวนฝัน และอีกหนึ่งศิลปินหนุ่มผู้หลงใหลในเสียงดนตรีอย่าง The White Hair Cut พร้อมอีก 2 วงร็อคสัญชาติไทยที่ทุกคนรอคอย อย่างวง Paradox และ Potato ที่มาระเบิดความมันส์ตลอด 4 ชั่วโมงเต็ม ให้เหล่าแฟนคลับสมาชิกบัตรเครดิต Bangkok Bank M Visa ได้สนุกสุดมันส์ ณ  MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค

เตรียมพบกับคอนเสิร์ตสุด Exclusive เพื่อลูกค้าสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิต หรือเดบิต Bangkok Bank M Visa ได้ตลอดปี 2567 เพียงสมัครสมาชิกบัตรเครดิต หรือเดบิต Bangkok Bank M VISA ได้ที่บูธรับสมัครในห้างเครือเดอะมอลล์ ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์,   เอ็มสเฟียร์, พารากอน , ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา และโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ ได้แล้ววันนี้ ติดตามกิจกรรมและสิทธิพิเศษอื่นๆได้ที่ www.mcardmall.com, www.facebook.com/mcardforall และ www.bangkokbank.com/BangkokBankMVisa

ยูไนเต็ดฟูดส์ เปิดตัวสินค้าใหม่น้ำแร่ธรรมชาติ แบรนด์ “All Spring”

account_circle

บริษัท ยูไนเต็ดฟูดส์ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทในเครือผู้นำด้านขนมขบเคี้ยวที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 50 ปี อาทิ ขนมเวเฟอร์ตราเซียงไฮ, ข้าวโพดอบกรอบ ตราโตโร, เยลลี่ ตราโยโย, ช็อกโกแลต ตรายูไนเต็ด อัลมอนด์ และอื่นๆ อีกมากมาย นำโดย  อจลา สุทธิสัมพัทน์ รองประธานกรรมการ บริษัท ยูไนเต็ดฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ น้ำแร่ ธรรมชาติ 100 %  “ออลสปริง (All Spring)”  ตอบโจทย์ผู้บริโภคใส่ใจในสุขภาพสำหรับ ทุกเพศทุกวัย

ออลสปริง (All Spring) น้ำแร่ธรรมชาติ 100% เป็นน้ำบริสุทธิ์ ใส สะอาดจากธรรมชาติ ผ่านกระบวนการกรองจากชั้นหินธรรมชาติที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ ที่ความลึก 400 เมตร จากแหล่งน้ำวังจุฬา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่ ไบคาร์บอเนต ซิลิกา แมกเนเซียม แคลเซียม ซัลเฟต โปแตชเซี่ยม คลอไรด์ และ ออลสปริง (All Spring) ยังมีค่าความเป็นด่าง pH 8.0-8.5 ช่วยปรับสมดุลของความเป็นกรด-ด่างในร่างกายอีกด้วย นับว่าเป็นอีกแหล่งน้ำคุณภาพสูงที่หาได้ยากมากในประเทศไทย   ทางบริษัทฯ มีความประสงค์หลักที่อยากให้คนไทยทั่วประเทศได้เข้าถึงน้ำแร่ธรรมชาติที่มีรสชาติดี คุณภาพเทียบเท่าน้ำแร่ต่างประเทศ ในราคาที่จับต้องได้ เรามุ่งมั่นรังสรรค์นวัตกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสังคมด้านสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ น้ำแร่ ออลสปริง (All Spring) ยังได้ผ่านการทดสอบจาก Water Sommelier ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิเคราะห์และแยกรสชาติของน้ำผ่านการอบรมจากสถาบัน Doemens Academy (โดร์เมน อคาเดมี่) ในประเทศเยอรมนี จึงมั่นใจได้ว่า น้ำแร่ออลสปริง (All Spring) เป็นน้ำแร่ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ มาพร้อมรสชาติอมหวาน มีมวลน้ำที่ละมุน กลมกล่อมลงตัว ทำให้รู้สึกถึงความสดชื่น ดับกระหาย คลายร้อน เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารได้หลากหลายเมนูจะช่วยให้รสชาติของอาหารโดดเด่นยิ่งขึ้น   และเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารักษ์โลก ออลสปริง (All Spring) ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมฝารูปแบบใหม่ที่แรกของประเทศไทย ฝา (Tethered Cap) ในคอนเซ็ปต์ “เปิด…ปิด ง่าย ฝาไม่หลุด” สะดวกในการดื่ม ลดขยะ และรักษาสิ่งแวดล้อม โดยฝาจะติดกับขวดตลอดจนไปถึงกระบวนการรีไซเคิล เพื่อความยั่งยืนของโลกใบนี้

                มาเป็นครอบครัวสุขภาพดีกับ น้ำแร่ธรรมชาติ  ออลสปริง (All Spring) ได้แล้ววันนี้  กับ 2 ขนาด บรรจุ 600 ML ราคา 10 บาท และ ขนาด 1,500 ML  ราคา 20 บาท  พร้อมพบกับโปรโมชั่นพิเศษมากมาย  ทาง

Line Official : @allspring

Facebook : All Spring 

หรือสนใจสั่งซื้อออนไลน์ได้ทาง 

Shopee : https://shopee.co.th/allspringdelivery

Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/allspring 

Tiktok : https://www.tiktok.com/@allspringdelivery

keyboard_arrow_up