ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

บทสัมภาษณ์ ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ นักแสดงที่ไม่หยุดพัฒนา

Alternative Textaccount_circle
ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ
ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

นักแสดงสาวนัยน์ตาคมที่โด่งดังมาจากซีรีส์เกิร์ลเลิฟ “ทฤษฎีสีชมพู GAP The Series” (2565-2566) จนเป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ “ฟรีน สโรชา” มีเสน่ห์น่าจับตามองมาตั้งแต่เป็นผู้เข้าประกวด “มิสทีนไทยแลนด์ 2016” โดยเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย และได้รับ “ตำแหน่งหุ่นสวยสุขภาพดี” นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถมากมายทั้งรำโขน, เต้น, ร้องเพลง, คทากร, พิธีกร, วาดภาพ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นนักแสดงสังกัด “Idol Factory” ของ “เซ้นต์ ศุภพงษ์” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ

ฟรีนมีผลงานการแสดงอันโดดเด่นหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ยูเรนัส2324” (ภาพยนตร์, 2567), “แอบหลงรักเดอะซีรีส์” (ซีรีส์, 2565), “ทฤษฎีสีชมพู” (ซีรีส์, 2565-2566) และ “ปิ่นภักดิ์” (ซีรีส์, 2567)

ผลงานเพลงประกอบซีรีส์ “ทฤษฎีสีชมพู” ได้แก่ “ทฤษฎีรักนี้สีชมพู” (2565), “คำสั่งจากหัวใจ” (2565), “Whisper” (2565), “Marry Me” (2566) และ “No More Blues” (2566)

รวมไปถึงผลงานการแสดงมิวสิกวิดีโอ เช่น “ก่อนฤดูฝน” (THE TOYS, 2560), “Goodbye” (สิงโต นำโชค, 2561), “ผิดที่ฉันกอดเธอไม่แน่นพอ” (Playground feat. เรนิษรา, 2566) และ “มองหน้ากันไม่ติด” (โอ๊ต ปราโมทย์ feat. MAIYARAP, 2567)

และล่าสุดฟรีนมีภาพยนตร์สยองขวัญคอมเมดี้เรื่อง “ไรเดอร์” (สหมงคลฟิล์มฯ) ที่แสดงคู่กับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ในบทบาทหญิงสาวลึกลับที่แก๊งไรเดอร์ต้องออกตามหาจนเข้าไปปะทะเหล่าผีร้ายสุดวายป่วง

จุดเริ่มต้นในการร่วมงานโปรเจกต์นี้

“พี่กังฟู” (ผู้กำกับ) เล่าให้ฟังว่าไปเห็น “ฟรีน” ในหนังเรื่องหนึ่งที่พี่เค้าเข้าไปดูการถ่ายทำซึ่งหนูอยู่ในเซต พอคัตเสร็จหนูก็มานั่งเฉยๆ กำลังพักอยู่ไม่คุยกับใคร เก็บเอเนอร์จีไว้เตรียมเข้าเซตต่อ พี่เค้ามาเห็นหนูตอนนั่งเหม่ออยู่คนเดียวพอดี แล้วก็มาเล่าให้หนูฟังทีหลังว่าวันนั้นพี่เจอหนูที่กองถ่ายนี้นะ แล้วรู้สึกว่าหนูเหมาะกับบทที่กำลังทำพอดี เลยติดต่อให้หนูลองไปแคสต์ให้หน่อย มาลองเป็น “พาย” ให้ดูหน่อย พี่ฟูส่งบทมาให้แล้วไปลองเล่นซีนหนึ่ง พี่ฟูดูเสร็จก็บอกขอบคุณมาก แล้วหนูยังไม่รู้ว่าจะได้เล่นหรือเปล่า เพราะระยะเวลาก็ห่างไปหลายอาทิตย์อยู่ แล้วพี่ฟูก็แจ้งกลับมาว่า โอเคเป็นหนูค่ะที่ได้เล่นบทนี้

ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ

บทบาท-คาแร็กเตอร์

เรื่องนี้หนูรับบทเป็น “พาย” เจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ชอบใส่หูฟังแล้วอยู่กับตัวเอง รักอิสระ อยากทำในสิ่งที่อยากทำ มีอะไรในใจค่อนข้างเยอะแต่ก็ไม่รู้จะพูดกับใคร ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ มีคาแร็กเตอร์น่าค้นหา ลึกๆ แล้วเป็นคนเฟรนด์ลีเข้ากับคนอื่นได้ นะถ้ารู้จักกันจริงๆ แต่อย่างที่บอกเขาโลกส่วนตัวสูง มีกำแพง ก็ยากที่ใครจะทำลายกำแพงเข้าไปได้ จนกระทั่งได้รู้จักกับ “นัท” (มาริโอ้ เมาเร่อ) ไรเดอร์ที่มาส่งของให้เรา จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ทั้งโรแมนติกทั้งสยองทั้งฮาค่ะ

ก่อนถ่ายทำเรื่องนี้ พี่ทีมงานพาฟรีนไปเวิร์กชอปวิธีการซ่อมมือถือมาด้วย ดูว่าเขาไขน็อตตรงไหน แงะตรงไหน ขั้นตอนการเปลี่ยนหน้าจอต้องเริ่มจากอะไร เพื่อให้เวลาเราถ่ายทำจะไม่ต้องมาพะวงกับวิธีการตรงนี้ แล้วคิดว่าถ้าคนในกองถ่ายอยากเปลี่ยน หนูเปลี่ยนได้ละ แต่ต้องมีอะไหล่มาให้นะคะ เปิดทำเป็นรายได้เสริมได้เลย

การร่วมกับแก๊งไรเดอร์ “มาริโอ้-โน่-อาร์ต”

หนูยังไม่เคยร่วมงานกับพี่ๆ ทั้งสามคนมาก่อนเลยค่ะ สำหรับ “พี่โอ้” นี่หนูติดตามผลงานมาตั้งแต่ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” (2553) พี่โอ้เป็นคนเก่งมาก ติดตามผลงานของเขามาเสมอ และตื่นเต้นที่จะได้มาร่วมงานกับพี่โอ้พระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งหนูเพิ่งเข้ามาในวงการภาพยนตร์ใหม่ๆ รู้สึกยินดีมากที่ได้มีโอกาสร่วมงาน พี่โอ้เป็นพี่ชายที่น่ารักมากคนหนึ่ง เขาเข้าได้ดีกับทุกคนรอบตัวเลย ดูพี่เขาทำงานชิลๆ คงเพราะประสบการณ์เยอะ ตอนหนูกับพี่โอ้ไปเวิร์กชอปกัน พี่เค้าก็ทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละครได้มากตั้งแต่ครั้งแรกเลย พอตอนเข้าเซตจริงๆ เราก็เอาความรู้สึกวันที่เราเวิร์กชอปมาใช้ได้เลย

“พี่โน่” หนูก็ไม่เคยร่วมงานมาก่อนเช่นกัน หนูไปทำการบ้านเลยว่าพี่โน่เป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง พอตามดูพี่โน่ไปเรื่อยๆ ติดเลยทีนี้ พี่โน่มืออาชีพมาก เป็นคนนอกบทตลอด แต่ขำสุด มีพรสวรรค์ในด้านการแสดง และมีอะไรแปลกใหม่มาเซอร์ไพร์สเสมอ มีพี่โน่จะสนุกมาก ขำมาก เวลาอยู่ในกองถ่ายบรรยากาศมันน่ากลัว และถ่ายทำตอนกลางคืน หนูจะคอยชวนพี่โน่ไปนี่หน่อย ไปกินน้ำ ไปกินข้าวกัน เล่นกีตาร์ให้ฟังหน่อย อยู่ในกองหนูจะติดพี่โน่เหมือนกัน อุ่นใจเพราะพี่โน่ไม่กลัวผี

ส่วน “พี่อาร์ต” เก่งตรงที่ไม่หลุดขำออกมาได้ไง เพราะเวลาพวกพี่เขาเล่นด้วยกันมันตลกมาก พวกเขามีจังหวะในการแสดงได้ลงตัว เข้าออกถูกจังหวะกันเป๊ะๆ พี่อาร์ตจะเป็นสายแบบพี่เหนื่อยมาก พี่ไม่ไหว หนูก็จะทำหน้าที่กองเชียร์ พี่อาร์ตสู้ๆ พี่อาร์ตเก่งมาก คอยส่งกำลังใจให้ ถึงพี่อาร์ตจะบ่น ดูเหนื่อย แต่พอเข้าเซตคือทำได้ดีตลอด จนสงสัยว่าพี่อาร์ตเหนื่อยจริงหรือเปล่าเนี่ย อย่างมีอยู่ซีนหนึ่งพี่อาร์ตปวดท้องเข้าห้องน้ำทั้งวัน แล้วคืนนั้นมีหลายซีนมากถ่ายทำทั้งคืนจนตี 2 ลากยาวมาจนคิดว่าไม่น่าจะไหวแล้ว แต่พี่อาร์ตอยู่จนถึงซีนสุดท้าย สปิริตสูงมาก หนูรู้เลยว่าพี่อาร์ตเก่งมาก

ร่วมงานกับผู้กำกับ “กังฟู นิติวัฒน์” เป็นยังไงบ้าง

“พี่กังฟู” น่ารักมาก เป็นผู้กำกับที่ใจดี เวลาที่เราไม่เข้าใจอะไรก็เดินไปถาม เราก็จะได้คำตอบกลับมา แล้วไม่ใช่แค่ว่าเราเข้าใจเฉยๆ แต่มันเข้าใจลึกลงไปมากกว่านั้น พี่เขามีภาพในหัวที่คิดไว้หมดแล้วว่าอะไรจะอยู่ตรงไหน หรือควรเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งมันทำให้เราทำงานง่ายมากในการถ่ายทำ ไม่ใช่แค่หนู แต่กับทุกฝ่าย การถ่ายทำเลยรวดเร็วตามเวลาตามกำหนด พี่กังฟูใจดีมาก เป็นคนใจเย็น ทำงานสบายๆ แต่คุณภาพแน่นอนค่ะ

แต่ละโลเคชันในเรื่องนี้ทำเราหลอนบ้างไหม

มีหลอนหลายที่เลยค่ะ แต่ก็มีที่ไม่หลอนด้วยอย่าง “สะพานพุทธ” เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับ “ฟรีน” เพราะหนูไม่เคยไปเดินเล่นแถวนั้นเลย ได้เห็นบรรยากาศทั้งกลางวัน กลางคืน มีคนเดินข้ามไปมาทั้งวัน มีร้านขายของ คนมานั่งชิล บรรยากาศดี วิวสวย ประทับใจที่นี่เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อน

ส่วนที่หลอนสุดสำหรับหนูคือที่ “วัด” มันน่าขนลุกนิดนึง มีโบสถ์ และเจดีย์เก็บกระดูกเก่าแก่กว่าสี่ร้อยปี ตอนกลางวันสวยงามมาก ตกกลางคืนยอมรับเลยว่าน่ากลัว ทางเปลี่ยว ตรงเมรุตรงเจดีย์ไม่มีไฟเลย ตรงที่เราไปนั่งรอเข้าเซตก็อยู่ข้างเจดีย์เก็บกระดูกอันใหญ่ๆ แล้วเราถ่ายทำกันจนถึงตี 2 ในเซตที่เป็นป่าช้า เป็นป่าที่ทีมอาร์ตเซตขึ้นมาตรงลานหลังโบสถ์ แต่มันเหมือนของจริงมากจนเกิดความไม่แน่ใจ แล้วต้องมีการเล่นกับเรื่องราวของศพอีก น่ากลัวเลยค่ะ แล้วคุณแม่ที่มาแต่งเอฟเฟกต์เป็นศพ แกนั่งอยู่ในระยะที่มองเห็นกัน หนูกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ เงยหน้ามาแล้วเห็นแกแล้วตกใจสุด เพราะทั้งบรรยากาศทั้งมุมที่อยู่  ทุกอย่างมันเหมือนว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์ในเรื่องของจริงเลยค่ะ

ส่วนตัว “ฟรีน” เป็นคนกลัวผีมากน้อยแค่ไหน

กลัวระดับสูงสุดค่ะ สมมติถ้าหนูต้องล้างหน้า หนูไม่สามารถล้างหน้าไปปิดตาไปได้ ใจมันจะคอยคิดว่าจะมีคนมาอยู่ข้างๆ กลัวขนาดนั้นเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ หนูจะกลัวไปเองมากกว่า สมมติว่าได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงแปลกๆ หนูจะคิดละว่าต้องมีผี ส่วนตัวเลยยังไม่เคยเจออะไรจังๆ แต่ก็กลัวอยู่ดี หนูมากองถ่ายนี้คุณแม่ก็ให้พระมาด้วย พกไว้อุ่นใจดีค่ะ แต่มาอยู่กองนี้ไม่เจอผีนะคะ ถึงแต่ละที่ที่ไปมันหลอนมากจริงๆ มันต้องมีแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไรค่ะ

ส่วนตัวใช้บริการไรเดอร์บ้างไหม

ทุกวันนี้พี่ “ไรเดอร์” อยู่ในทุกช่วงเวลาของหนูเลย บางวันเราขี้เกียจจะออกไป รถติด เหนื่อย จะหิวข้าวสั่งข้าว เวลาป่วยสั่งยา ส่งของ พี่เขารันได้ทุกวงการ สะดวกสบายมากขึ้น แล้วเขาก็เก่งมากขี่มอเตอร์ไซค์ไปได้ทุกที่ทุกเวลา ฝนตกก็ไป เส้นทางที่อาจจะไม่เคยไป หรือเส้นทางแปลกๆ ก็ไป ต้องใช้ Google Map เป็น หนูว่าทุกอาชีพเลยนะที่ต้องใช้บริการเขา อาชีพเดียวรับจบได้ทุกอย่างจริงๆ

ประทับใจอะไรบ้างในการแสดงเรื่องนี้

ประทับใจที่การทำหนังเรื่องนี้ของ “ฟรีน” เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่อง “ไรเดอร์” นี้ รู้สึกสนุก มีความสุขในทุกวันที่มาออกกอง พี่ๆ ทุกฝ่ายเก่งมากทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง รู้สึกว่ามันผ่านการวางแผนมาแล้ว มันเริ่มสนุกมาตั้งแต่เจอกันวันแรก ที่เราได้ฟิตติ้งกันจนถึงวันปิดกอง มาเล่นหนังผีที่มันน่ากลัวแต่บรรยากาศกองน่ารัก หนูได้รับประสบการณ์ทั้งการแสดงและเอนจอยกับทุกคนในกองมากๆ ค่ะ

ความน่าสนใจโดยรวมของเรื่องนี้ในมุมมองของฟรีน

ความเป็น “ไรเดอร์” ค่ะ เพราะทุกวันนี้เราใช้บริการพี่ไรเดอร์อยู่ตลอดเวลา หนูเป็นแค่ผู้ใช้บริการปกติธรรมดาทั่วไป แต่เราไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วไรเดอร์แต่ละคนเขาต้องเจอะเจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง เจอลูกค้าแบบไหนมาก่อน เขาเคยไปรับออเดอร์หรือเคยเจอออเดอร์ประหลาด ลึกลับ สยองขวัญแบบในเรื่องนี้บ้างไหม ซึ่งหนูคิดว่าพอภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดอีกมุมหนึ่งของอาชีพไรเดอร์ มันก็จะทำให้เรารู้สึกแปลกใหม่แบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อาชีพพี่เขาต้องไปทุกที่ บางสถานที่เราไม่รู้จักแต่พี่เขารู้ มันต้องมีอยู่แล้วกับเรื่องความน่าขนลุกระหว่างทำงาน การเอาอาชีพของไรเดอร์มาเป็นตัวเล่าเรื่อง เป็นตัวที่พาเราไปในที่หลอนๆ แค่นี้ก็สนุกน่าติดตามแล้วค่ะ

หนูก็ขอฝากผลงานเรื่อง “ไรเดอร์” ด้วยนะคะ พวกเราทั้งพี่ฟู, พี่โอ้,พี่โน่, พี่อาร์ต, หนู และทีมงานทุกคนเต็มที่กับหนังมาก อยากให้คนที่มาดูได้เดินออกจากโรงไปพร้อมกับรอยยิ้มและความสนุก อยากให้ทุกคนได้มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมๆ กันขอบคุณค่ะ

อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย
อู่เหลียงเย่ เฉิดฉายในงาน Michelin Guide 2025 ประเทศไทย

อู่เหลียงเย่ (Wuliangye) แบรนด์ไป๋จิ่วชื่อดังจากประเทศจีน ในฐานะ Global Partner สร้างความโดดเด่นและน่าประทับใจในงาน Michelin Guide Ceremony 2025 Thailand หรือ ประกาศผลรางวัลร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำ พ.ศ. 2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

งานนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของปีที่สำคัญสำหรับ Wuliangye ในฐานะ “พันธมิตรระดับโลก” ของ Michelin Guide ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ตั้งแต่ศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่น ความประณีตของ อาหารอิตาเลียน การผสมผสานอาหารมาเลเซีย และรสชาติอันหลากหลายของอาหารไทย Wuliangye ได้แสดงให้เห็นถึงความลงตัวของไป๋จิ่วจีนกับอาหารระดับโลกผ่านพิธีประกาศผล Michelin Guide


ออฟ-นพณัช ผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ซีรีส์วาย

account_circle

“ทุกคนคู่ควรกับการมีความรักที่ดี” คือแนวคิดในสร้างสรรค์ผลงานของ “ออฟ – นพณัช ชัยวิมล” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ซีรีส์วาย

ออฟ – นพณัช ชัยวิมล” ผู้อำนวยการฝ่าย Content Production GMMTV คือผู้อยู่เบื้องหลัง ซีรีส์วาย ที่สร้างหลายปรากฏการณ์ อาทิ เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมผมครับ, เพราะเรา (ยัง) คู่กัน, นิทานพันดาว, แค่เพื่อนครับเพื่อน, พระจันทร์มันไก่ และล่าสุด Last Twilight…ภาพนายไม่เคยลืม ฯลฯ ส่งให้ออฟคว้ารางวัลมากมาย อาทิ Best LGBTO+ Programme Media in Asia จากเวที Content Asia Awards 2023 ติดต่อกัน 4 ปี ผู้กำกับ ซีรีส์วาย แห่งปี FEED Y Capital Awards 2022 ผู้กำกับซีรีส์ยอดเยี่ยม Y Universe Awards 2023

ขณะที่เส้นทางชีวิตก็น่าสนใจไม่แพ้กับ เขาตัดสินใจคัมเอาต์กับครอบครัวตอนอายุ 38 เพราะอยากเข้าใจความรู้สึกของตัวละคร รวมถึงความตั้งใจที่จะสร้างค่านิยมว่า ความรักของ LGBTQ+ ไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยโศกนาฎกรรม

ออฟ - นพณัช ชัยวิมล

เริ่มสนใจงานกำกับการแสดงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ

            “ต้องเล่าก่อนว่า เราโตมากับการอ่านหนังสือ ดูหนัง ดูละคร เป็นความบันเทิงที่ฮีลใจตั้งแต่เด็ก และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่หล่อหลอมให้เป็นตัวเองในวันนี้ ที่บ้านมีหนังสือเยอะ จำได้ว่า มีนิยายโรแมนซ์เรื่องหนึ่งที่เปิดโลกมาก เสียดายจำชื่อไม่ได้ เป็นเรื่องราวการสลับตัวของฝาแฝด ที่คนหนึ่งไปทำภารกิจและเสียชีวิตในทะเล ส่วนแฝดที่ยังอยู่ ถูกคนรักของแฝดที่ตายเข้าใจผิด คิดว่าเป็นแฟน อ่านแล้วรู้สึกประทับใจกับการคิดพล็อตเรื่อง พร้อมกับที่ได้รู้ว่า นิยายมีองค์ประกอบสำคัญนอกจากคาแร็คเตอร์ของตัวละครคือ พล็อต, การพลิกปมต่างๆ จากนั้นก็ติดหนังสือมาตลอด ส่วนภาพยนตร์ก็ดูทุกประเภท จนมาถึงเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ตัวว่าอยากทำงานสายนี้ คือตอนที่โรงเรียนจัดละครเวที แล้วเราอยากมีส่วนร่วมมาก มันเหมือนมีพลังงานบางอย่างดึงดูด กระทั่งม.ปลาย ก็ได้ทำสมใจ พอรู้ตัวว่าสนใจงานแนวนี้ จึงตัดสินใจเรียนสายนิเทศศาสตร์”

เข้ามาสู่เส้นทางการเป็นผู้กำกับอย่างไรคะ

            “เราเริ่มงานแรกที่ GMMTV มีโอกาสทำงานหลายส่วน ทั้งอีเวนท์ การตลาด ฝ่ายสถานี จนรู้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ตัวเรา จึงคุยกับพี่ถา (สถาพร พานิชรักษาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GMMTV) ว่า ผมทำงานสายนี้ได้นะ แต่วันหนึ่งคงลาออก พี่ถาถามว่า งั้นอยากทำอะไร ผมตอบว่า ซีรีส์ ทั้งที่ไม่เคยทำ

            “พอพี่ถาอนุญาต ก็เริ่มจากทำหนังสั้น ‘รักจริงปิ้งเก้อ’ ที่คล้ายรายการคลับฟรายเดย์ คือนำเรื่องที่ทางบ้านโทรมาเล่า มาทำเป็นหนัง จากนั้นขยับไปเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เขียนบท กระทั่งได้กำกับเต็มตัวเรื่องแรกใน ‘เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ’ โดยได้สิงโต-ปราชญา และโอม ภวัต มาแสดงนำ”

งานกำกับฯยากไหมคะ

            “ความรู้สึกโดยรวมคือไม่ยาก ทั้งที่ไม่เคยกำกับ ไม่รู้เหมือนกันว่ามั่นมาจากไหน (หัวเราะ) แต่ตอนนั้นพร้อมกระโจน อยากทำมาก ทำทุกอย่าง นอกจากกำกับเอง ยังเป็นโค้ชแอ็คติ้ง และเขียนบทเองด้วย มันทำให้รู้ว่าตัวเองต้องการสื่ออะไร และใช้ทุกประสบการณ์จากการดูหนัง ฟังเพลง มาสร้างซีรีส์ ซึ่งเราเล่นของยากตั้งแต่แรก คือเลือกแนวแฟนตาซี สืบสวนสอบสวน มีผี ซึ่งความยากก็คือฉากซีจีนี่แหละ

             “ความที่ไม่ได้จบด้านฟิล์ม พอเจอฉากเทคนิค เช่น ผีต้องตัวโปร่งแสง หรือหายตัว ก็หาคนเก่งๆ มาช่วยให้ภาพในหัวเป็นจริง เขาแนะนำว่า ฉากนี้ต้องถ่ายสิงโตคนเดียวก่อน แล้วค่อยถ่ายน้องโอม จากนั้นค่อยมาแมตช์กัน นั่นกลายเป็นเรื่องยากของเรา เพราะถ้าน้องๆ ไม่ได้ถ่ายด้วยกัน ก็ต้องหาเครื่องมือมาช่วยให้อารมณ์นักแสดงต่อเนื่อง แม้จะถ่ายคนละเทคก็ตาม เป็นความยากที่สนุกด้วย”

ย้อนกลับไปตรงจุดเริ่มที่อยากกำกับซีรีส์วายหน่อยนะคะ

            “ในฐานะคนในสังคมของ LGBTQ+ เราเข้าใจความโรแมนติกของผู้ชายกับผู้ชายเป็นอย่างดี บวกกับได้ทำซีรีส์ในช่วงที่ตลาดวายกำลังเติบโต จึงเหมือนได้ทำเรื่องที่ตัวเองเข้าใจดีที่สุด”

            “ช่วงที่เรามาทำงานตรงนี้ เริ่มมีซีรีส์วายออกมาบ้างแล้ว แน่นอนว่าอาจจะมีบางคนที่ยังไม่ชินกับภาพที่ผู้ชายรักกันแล้วสับสน เกิดการตั้งคำถามว่า ซีรีส์วายคือซีรีส์เกย์หรือเปล่า โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ว่าจะซีรีส์วายหรือเกย์ ก็สามารถอยู่ในหมวดเดียวกันได้ ทฤษฎีของความเป็นวาย รากเหง้ามาจากการ์ตูนมังงะ (สำหรับคำว่า วาย (Y) ย่อมาจากคำว่า ยาโอย (Yaoi) เป็นคำจากภาษาญี่ปุ่น หมายถึงชายรักชาย) ที่เล่าถึงความรักของผู้ชาย-ผู้ชาย ในประเด็นโรแมนติก เนื้อหาเบา ย่อยง่าย แต่ขณะเดียวกันก็สื่อสารประเด็นบางอย่างออกไป เช่น  กฎหมาย การกดทับในครอบครัว หรือการคัมเอาท์ โดยเนื้อหาต้องไม่หนักเกินไป เราสามารถใช้ซีรีส์วายมาเล่าประเด็นของ LGBTQ+ให้สังคมเข้าใจมากขึ้น ทั้งการสมรสเท่าเทียม ตัวตน ครอบครัว การบูลลี่ต่างๆ โดยไม่เสียความโรแมนติกไป”

มีประเด็นที่อยากสอดแทรกในงานเป็นพิเศษไหมคะ

            “การยอมรับตัวตนของกลุ่ม LGBTQ+ ทั้งจากตัวเอง ครอบครัวและสังคม ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักอีกทีว่าแต่ละเรื่อง สามารถใส่ได้แค่ไหน อย่างน้อยที่สุด ต้องสื่อว่าคนกลุ่มนี้สามารถมีความรักที่ดีได้ มีปลายทางที่สว่างไสว เพราะเมื่อก่อนละครมักพรีเซนต์กลุ่ม LGBTQ+ ผ่านตัวละครตลก เป็นช่างแต่งหน้า ช่างทำผม หากมีความรัก สุดท้ายมักไม่สมหวัง ฆ่าตัวตายบ้าง หรือไม่ก็ถูกจับแต่งงานกับผู้หญิง ซึ่งเราเชื่อว่าซีรีส์วายจะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ ชี้ให้เห็นว่า ผู้ชายกับผู้ชายมีความรักที่ดี สมบูรณ์และสวยงามได้ ทุกวันนี้เราคิดว่า คนเริ่มชินแล้วกับการเห็นผู้ชายเดินจับมือกัน  เพราะเขาก็เคยเห็นจากซีรีส์ ขณะเดียวกันการที่ประเทศถูกผลักดันเดินมาถึงวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านร่างพรบ.ก็คิดว่า ส่วนหนึ่งมาจากกระแสของซีรีส์วายที่ทำหน้าที่บอกสังคมทางอ้อมให้เห็นความสำคัญของความรักและความเท่าเทียมด้วย”

ในยุคที่มีซีรีส์วายมากมาย คุณออฟคิดว่าปัจจัยอะไรที่จะทำให้ซีรีส์ประสบความสำเร็จ

“เนื้อเรื่องสนุก โปรดักชั่นดี แคสติ้งตัวละครได้น่าสนใจ และวิธีการกำกับที่สามารถใช้วัตถุดิบที่มีออกมาได้ตรงใจคนดู แต่สุดท้ายเราไม่สามารถตอบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า จะดัง หรือถูกใจคนดูหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่า นักแสดงมีผลอย่างมาก คู่นี้เคมีดีมากจนฉันอยากดู ฉันเริ่มเชื่ออะไรบางอย่างจากคู่นี้ จากนั้นเขาจะไปสวมบทบาทไหน เรื่องสนุกยังไง ก็เป็นองค์ประกอบถัดไป”

มีวิธีประเมินเคมีนักแสดงยังไงคะ

“ต้องเริ่มจากดูบทว่า คาแร็คเตอร์ในเรื่องว่านิสัยเป็นยังไง แล้วดูนักแสดงในค่ายว่าใครน่าจะเหมาะกับบท สิ่งที่ยากกว่านั้นคือเคมี เพราะไม่มีสูตรตายตัว ต้องใช้ประสบการณ์ เนื่องจากเคมีไม่ได้ขึ้นกับความสามารถเพียงอย่างเดียว มีนักแสดงหลายคนที่แสดงเก่งมาก แต่อยู่ด้วยกันแล้วอาจไม่มีเคมีเลย หรือบางคู่ แสดงยังไม่เก่ง แต่เวลาอยู่ด้วยกัน มีเคมีที่เชื่อว่าไปด้วยกันได้

“อย่าง ไบรท์ – วิน เริ่มจากรูปถ่าย พอวางรูปคู่กันก็เจอพลังงานบางอย่างที่รู้สึกว่า อยู่ด้วยกันแล้วน่าจะดี จากนั้นก็ให้น้องมาแคสติ้ง พูดคุยว่า นิสัยตัวละครเป็นยังไง ที่สำคัญคือ เวลาเขาอยู่ด้วยกัน เราจิ้นหรือเปล่า (ยิ้ม) คือเราต้องเชื่อก่อนว่า เขาจะจีบกันได้ เป็นแฟนกันได้ สามารถจินตนาการต่อได้ว่า หากคู่นี้ไปกินข้าวกันสองคน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ซึ่งคู่นี้แม้ตอนแรกจะมีกระแสดราม่าบ้าง ว่าวินไม่เหมาะกับบทของไทน์ เพราะรูปร่างใหญ่กว่าพระเอก แต่เพราะการแสดงที่ดี บทดี เคมีดี ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ได้

            “เต – นิว ก่อนจะมาแสดงเรื่อง Dark Blue Kiss เขามีเคมีความเป็นเพื่อนอยู่แล้ว พอมาอยู่ด้วยกันเราก็รู้สึกถึงอะไรบ้างอย่าง หรือคู่ เอิร์ท – มิกซ์ ในเรื่อง นิทานพันดาว เราแคสติ้งได้เอิร์ธมาก่อน พอถึงบทครูเทียน ผ่านไปหลายสิบคนก็ยังไม่เจอที่ใช่ กระทั่งได้เจอมิกซ์ พอเขาอยู่ด้วยกันแล้วเคมีมันใช่ ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เขาเป็นเพื่อนมาก่อนเข้าวงการ

            “ส่วน เจมีไนน์ – โฟร์ท คู่นี้เข้าวงการมาพร้อมกัน พอมาทำเวิร์คช็อป เห็นเลยว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่ดึงดูด แต่จำได้ว่า วันแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ ‘แฟนผมเป็นประธานนักเรียน’ ไม่มีใครสนใจ กระทั่งถึงวันออนแอร์เพียงสองตอนแรก ก็รู้เลยว่าคู่นี้มาแน่นอน”

การจะสร้างซีรีส์ ใช้เกณฑ์การเลือกเรื่องอย่างไรให้ปัง

            “มีสองอย่าง อย่างแรกถ้าเป็นเรื่องที่มีไอเดีย อยากทำ ก็แต่งขึ้นมาใหม่เลย เช่น Last Twilight ก็แต่งใหม่ทั้งหมด กับอีกแบบคือ อ่านจากนิยายแล้วสนุก เห็นภาพว่าสามารถเป็นซีรีส์ได้ หรือมีพล็อตบางอย่างที่น่าสนใจ ก็จะหยิบจุดนั้นมาพูด เช่น ตอนที่อ่านนิยายเรื่อง ‘หลังม่าน’ เจอพล็อตที่น่าสนใจมากคือ เด็กสองคนเป็นเพื่อนสนิท แต่ครอบครัวเกลียดกัน สุดท้ายเด็กก็ต้องเกลียดกันไปด้วย รู้สึกประเด็นนี้แข็งแรง จึงหยิบมาพัฒนาต่อ จนกลายเป็นซีรีส์ ‘แค่เพื่อนครับเพื่อน’

            “และที่สำคัญคือ ก่อนจะสร้างซีรีส์ต้องทำการบ้านเยอะ อย่างตอนทำเรื่อง ‘เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ’  ตัวละครเรียนนิติศาสตร์  ก็ต้องไปสัมภาษณ์เด็กที่เรียนสาขานี้ ว่ามีวิธีคิดยังไง บุคลิกเป็นแบบไหน เช่น เด็กเรียนกฎหมายต้องอ่านหนังสือเยอะ สิ่งที่ต้องมีในกระเป๋าคือปากกาไฮไลท์ โพสต์อิท ฯลฯ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ต้องมีในตัวละคร หรืออย่างเรื่อง นิทานพันดาว ตัวละครเป็นคุณครูอาสา ตอนนั้นก็โพสต์ทวิตเตอร์เลยว่า มีใครเป็นครูอาสาบ้าง อยากขอสัมภาษณ์ เราก็ได้ข้อมูลเยอะว่าเขาไปเผชิญความลำบากยังไง ต้องปรับตัวเยอะขนาดไหน เรียกว่าเป็นข้อมูลชั้นดีที่ไม่มีทางนั่งเขียนได้ ถ้าไม่ได้รู้จากตัวบุคคลจริงๆ

            “อย่างล่าสุด Last Twilight ตัวละครต้องเล่นเป็นคนที่กำลังจะตาบอด เราก็ต้องหาข้อมูลจากคนที่ตาเพิ่งบอด กับบอดแต่กำเนิดให้เขามาทำเวิร์คช็อปกับนักแสดง เพื่อให้น้องๆ เห็นความต่างและได้เข้าใจว่าคนตาบอดได้รับการดูแลยังไง มีวิธีมองโลกและคิดแบบไหน โดยให้นั่งกินข้าว พูดคุยกัน เพื่อให้เขาได้ทำความรู้จักจริงๆ”

มีฟีดแบคจากผู้ชมที่ประทับใจบ้างไหมคะ

            “มีคุณแม่ท่านหนึ่ง ส่งข้อความมาหลังจากได้ดูซีรีส์ Dark Blue Kiss ว่า เข้าใจแล้วว่าลูกกำลังเผชิญกับอะไร แล้วเขาจะเป็นแม่แบบไหนเพื่อให้ลูกมีความสุข ขอบคุณมากที่ได้ดู เพื่อรู้ว่าจะคุยกับลูกยังไง อ่านแล้วภูมิใจมาก ไม่น่าเชื่อ  ณ วันนั้นที่ทำซีรีส์ ไม่ได้คิดหรอกว่าจะสร้างอิมแพคได้ขนาดนี้ และรู้สึกดีใจกับครอบครัวของน้อง ที่อย่างน้อยเขาจะได้รับความเข้าใจจากครอบครัว ซีรีส์วายกลายเป็นช่องทางที่ทำให้คนเข้าใจง่ายขึ้นว่า ความรักเหล่านี้มีอยู่จริงๆ กับที่บ้านของตัวเองก็เข้าใจเรื่องเหล่านี้มากขึ้น ก่อนที่พ่อจะเสีย มีวันหนึ่งเรากับพ่อไปนั่งกินข้าวในห้าง เห็นเด็กผู้ชายจูงมือกัน พ่อบอกว่า เหมือนในซีรีส์ที่ลูกทำเลยนะ จึงรู้สึกว่างานเราช่วยทำให้คนเข้าใจและมองว่านี่คือเรื่องปกติ”

ทราบว่า คุณออฟก็คัมเอาท์ตอนอายุ 38

            “ใช่ครับ เป็นการสารภาพกับที่บ้านครั้งแรก คิดว่าเขาน่าจะรู้อยู่แล้วล่ะ แต่ที่ไม่ได้เปิดเพราะเราก็เหมือนคนทั่วไป ที่รู้สึกถูกกดทับว่าสิ่งที่เราเป็นนั้นผิด พ่อแม่จะเสียใจ ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองมากมาย เพราะเราถูกหล่อหลอมโดยสื่อต่างๆ จนไม่สามารถเป็นตัวเอง สุดท้ายก็ตัดสินใจปลดล็อคตัวเอง ตอนนั้นกำลังจะเขียนบทเรื่อง ‘เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ’ แล้วต้องเขียนฉากคัมเอาท์ ที่ผ่านมาเวลาเราดูหนัง ก็รู้ว่าตัวละครต้องพูดประมาณไหน แต่เป็นการรู้ในฐานะคนนอก ซึ่งเราอยากเข้าใจจริงๆ จึงตัดสินใจคัมเอาท์กับครอบครัว เพื่อให้เจอโมเมนต์ว่าตัวละครรู้สึกยังไง

            “ตอนนั้นวางแผนพาแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วสารภาพบนเครื่องบินขากลับ เป็นการเลือกสถานที่ที่หนีไปไหนไม่ได้ (ยิ้ม) บอกแม่ว่า รู้ใช่ไหมว่าผู้ชายที่เราคุยไม่ใช่เพื่อน แม่บอกว่ารู้แหละ เราก็เลยสารภาพออกไปทั้งหมด ความรู้สึกตอนนั้นทั้งกลัวแม่เสียใจ กังวล สับสน อยากจะร้องไห้ เหมือนเราแบกก้อนอะไรใหญ่ๆ ไว้กับตัว ฟังดูไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่คือการก้าวข้ามครั้งยิ่งใหญ่ที่อยากปลดล็อคสิ่งนี้ ตอนนั้นแม่บอกว่า ลูกเป็นอะไร แม่ก็รัก ขอแค่ให้มีความสุข ซึ่งแม่ไม่ได้ขอให้เราเป็นคนดีด้วยนะ ปกติเวลาเราดูละคร เขามักจะพูดประโยคว่า ลูกเป็นอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนดี แต่แม่กลับบอกว่า ขอให้มีความสุขกับตัวเองก็พอ รู้สึกชอบประโยคนี้มากจึงนำความรู้สึกไปถ่ายทอดให้นักแสดงฟัง ใช้ในซีรีส์ไปเลย แล้วก็กลายเป็นซีนที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ตัวเราเองก็รู้สึกถูกปลดล็อคด้วยเช่นกัน”

“แต่ส่วนตัวคิดว่าการคัมเอาท์ไม่จำเป็นขนาดนั้นนะ เพราะใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสทำ และบางคนก็ไม่อยากพูด แต่เขาอาจจะโดนคนอื่นกดดันว่า ต้องบอกๆ ฉะนั้นถ้าใครสบายใจที่จะเป็นอะไรก็ตามโดยไม่ต้องออกมาประกาศ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา”

อยากทำซีรีส์แนวไหนอีกคะ

            “อยากทำคอนเซ็ปต์หลากหลายช่วงวัย เพราะเชื่อว่าแต่ละวัยมีความโรแมนติกที่ต่างกัน ที่ผ่านมา เราทำ ซีรีส์วาย ที่ตัวละครอยู่ในวัยมัธยม หรือไม่ก็มหาวิทยาลัย อยากทำเนื้อหาเกี่ยวกับคนวัยทำงานหรือคนที่อายุ 40-50 บ้าง เพราะเชื่อว่าความโรแมนติกยังมีอยู่ในทุกช่วงวัย และเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เราเชื่อด้วยว่า

LGBTQ+ มีความรักที่ดีได้ ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม”

วิตามินซีเซรั่ม จาก OBAGI MEDICAL คว้ารางวัล Iconic Antioxidant & Brightening Vitamin C Serum ตอกย้ำความผู้ช่วยผิวโกลว์สวย

account_circle

ในแง่ความงามถ้าพูดถึง ‘วิตามินซี’ หลายคนคงทราบกันดีเรื่องการช่วยปรับผิวพรรณให้แลดูกระจ่างใสและสุขภาพดี ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ แต่หลายคนมักมองข้าม เพราะอนุมูลอิสระคืออีกหนึ่งตัวการร้ายที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าก่อนวัย ซึ่งจะเข้ามาทำลายเซลล์ผิวจนเสื่อมสภาพ ยิ่งในคนที่มีผิวแห้งมากจนเป็นขุย แต่งหน้าไม่ค่อยติด ควรต้องมีผู้ช่วยสำคัญที่จะทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งอย่าง วิตามินซีเซรั่ม เพื่อนคู่ใจของคนอยากมีผิวแลดูกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ เป็นอีกไอเท็มชิ้นที่มีในท้องตลาดเยอะจนเลือกยาก แถมหากเลือกไม่ดีอาจจะแพ้และไม่เห็นผลลัพธ์อีกด้วย และวิตามินซีเซรั่มชิ้นโดดเด่นแห่งปีต้องยกให้นั่นคือ Obagi Medical Professional-C Serum 20% จากแบรนด์เวชสําอางลักชัวรี่ที่แพทย์ผิวหนังจากสหรัฐอเมริกาแนะนํา ที่หลังจากเข้าไทยได้ไม่นาน แฟนๆ ก็ยกใจให้ แถมยังเริ่มกวาดรางวัลทางความงามแบบรัวๆ

แต่ที่ชนะใจกรรมการเพราะประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดแต่ยังมีความอ่อนโยนต่อผิว แถมผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังและได้รับการรับรองจากแพทย์เพื่อการเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ต้องการ ด้วยอนุพันธ์วิตามินซี L-Ascorbic Acid เข้มข้นสูงสุดถึง 20% ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับและเชื่อถือได้สูงสุดของวิตามินซีที่ใช้ทางการแพทย์ ที่มีความบริสุทธิ์ เข้มข้น และประสิทธิภาพสูงด้วยความเสถียรขั้นสุด ไม่เปลี่ยนสีแม้ในอุณหภูมิสูง มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส และชุ่มชื้น

บำรุงผิวครั้งหน้าอย่าลืมเพิ่มวิตามินซีเซรั่มจาก Obagi Medical เข้าไปลิสต์สกินแคร์ที่ต้องทาทุกเช้าควบคู่กับเซรั่มวิตามินบี เพียงแค่หยดวิตามินซีเซรั่มบนฝ่ามือ 5-7 หยด วอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์เบาๆ ก่อนลงให้ทั่วผิวหน้า เนื้อเซรั่มให้สัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว แนะนำให้ใช้คู่กับ Daily Hydro-Drops Facial Serum ที่อุดมไปด้วย Niacinamide และน้ำมันบำรุงผิวจากดอกไม้หลากหลายชนิด ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน โดยใช้เซรั่มทั้งสองสูตรควบคู่กันเป็นประจำทุกๆ เช้า เพื่อผลลัพธ์ผิวฉ่ำโกลว์

จึงไม่น่าแปลกใจที่ Obagi Medical Professional-C Serum 20% จะครองรางวัล Iconic Antioxidant & Brightening Vitamin C Serum เป็นวิตามินซีเซรั่มที่น่าประทับใจแห่งปี ด้วยผลลัพธ์ที่ให้ทั้งการปกป้องผิวพร้อมต้านอนุมูลอิสระ L-Ascorbic Acid บริสุทธิ์ เพิ่มความชุ่มชื้นด้วย Sodium Hyaluronate ที่ทําให้ผิวนุ่มฟูดูอ่อนเยาว์ บวกกับการตอบโจทย์ผลลัพธ์ผิวแลดูกระจ่างใสด้วยเนื้อสัมผัสที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว บางเบา ไม่รู้สึกเหนอะหนะ ถือเป็นวิตามินซีเซรั่มที่ทําให้ชีวิตง่าย เบาใจเรื่องอาการแพ้ แต่ยังคงผลลัพธ์แบบเลิศจัดเต็ม

นอกจากทริคดูแลผิวฉ่ำโกลว์ด้วยผู้ช่วยตัวตึงอย่าง Obagi Medical Professional-C Serum 20% ที่สามารถใช้เป็นสกินแคร์รูทีน ถ้าอยากรู้ว่าผิวของคุณเหมาะกับเซรั่ม Obagi Medical Professional-C Serum สูตร 10% หรือ 15% สามารถเข้ามาตรวจเช็กสภาพผิวหน้าได้ที่เคาน์เตอร์ Obagi Medical สาขาBeauty Hall ชั้น M Paragon Department Store และBeauty Galerie ชั้น G Central Chidlom


เปิดประสบการณ์ใหม่กับกลิ่นหอมซีรีส์สุดพิเศษกับผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น เดอ ปารี จากแรงบันดาลใจแห่งเมืองน้ำหอมฝรั่งเศส

account_circle

เปิดประสบการณ์ใหม่กับกลิ่นหอมซีรีส์สุดพิเศษกับผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น เดอ ปารี พาคุณเดินทางไปฝรั่งเศสในมุมใหม่ ผ่านความหอมที่รังสรรค์จากแรงบันดาลใจของ 3 เมืองแห่งเสน่ห์ 

  • กราซ (Grasse) เมืองหลวงแห่งน้ำหอมที่อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้ กลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยความละเอียดอ่อนและเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากดอกไม้นานาชนิด เช่น กุหลาบและมะลิ ที่ผสานกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสงบและหรูหรา เหมือนได้เดินเล่นในสวนดอกไม้แห่งกราซ  
  • โพรวองซ์ (Provence) ดื่มด่ำกับความสดชื่นของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่กว้างไกล พร้อมกลิ่นสมุนไพรอย่างโรสแมรี่และไทม์ภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น ที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจและเติมพลังในทุกลมหายใจ 
  • เฟร้นช์ริเวียร่า (French Riviera) สัมผัสกลิ่นแห่งชีวิตหรูหราริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผสานกลิ่นผลไม้ซิตรัสสดใสจากเลมอนและเบอร์กาม็อท กลิ่นหอมสดชื่นจากท้องทะเล สะท้อนความสดใสและมีชีวิตชีวา 

ปลุกทุกประสาทสัมผัสของคุณด้วยกลิ่นที่บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละเมืองราวกับคุณได้เดินทางไปเอง กับ De PARIS Limited Edition ทั้ง 3 กลิ่นใหม่ Blooming Grasse, Provence Dream และ Mediterranean Sense 

เดอ ปารี รังสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมสไตล์ฝรั่งเศส Luxury French Perfume Style ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองในฝัน กลั่นเป็นน้ำหอมของเสื้อผ้า ผสานเทคโนโลยี Solar Dry Perfume สดชื่นหอมแดด แม้ตากในที่ร่ม ล็อกความหอมโดดเด่นยาวนาน 30 วัน* ด้วยสารสกัดธรรมชาติ^ Natural Scent พร้อมถนอมผ้าให้นุ่มลึกถึงเส้นใย ให้ผ้าคุณรีดง่าย ยับยาก ช่วยลดกลิ่นอับ มีผลทดสอบการระคายเคืองผิว**  

ดื่มด่ำกับกลิ่นหอมที่พาคุณหลีกหนีจากความวุ่นวาย สู่การเดินทางสุดผ่อนคลายใน 3 เมืองฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์กับผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ De PARIS ได้แล้ววันนี้ทางช่องทางออนไลน์ 

Lion Shop Online : https://bit.ly/3D5IgQc 

Lazada : https://bit.ly/4ilOPy4 

​Shopee : https://bit.ly/3BjQ8Nh 

TikTok Shop : https://bit.ly/49oorzn 

หรือ Line Official @LIONFAMILY 

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และโปรโมชั่นพิเศษ  

ทาง Facebook Page: @DePARISThailand 

*เมื่อเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในตู้ 

**จากผลทดสอบการระคายเคืองจากบริษัท Green Leaf Chemical CO.,LTD. ในกลุ่มตัวอย่าง 27 คน ผิวสุขภาพดี อายุระหว่าง 18-60 ปี ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2567 

^น้ำหอมมีส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ 


“มายด์ – ณภศศิ” เช็คอินงานฉลอง 19 ปี “สยามพารากอน” สุดปังสมกับเป็น World Class Luxury Destination

account_circle

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ส่งท้ายช่วงปลายปีที่สายช้อปและสายลักซ์ชูต้องมาเช็คอินจริงๆ ค่ะ สำหรับโอกาสฉลองความสำเร็จครบรอบ 19 ปีสุดยิ่งใหญ่ของ “สยามพารากอน” กับงาน “Siam Paragon 19th Anniversary : The Magical Celebration” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 10 ธันวาคม 2567 ชวนทุกคนมาฟินกับมหกรรมอีเว้นต์และเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นสุดพิเศษเอาใจนักช้อปเพียบ ทั้งศูนย์ฯและห้างฯ รวมถึงยังมีของที่ระลึกมอบให้ในโอกาสพิเศษนี้ด้วย เพื่อตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้งในฐานะ Luxury Destination และ World Class Shopping Destination ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครองใจลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลยทีเดียว

ที่สำคัญคือมีเซอร์ไพร้ส์สุดอลังการเมื่อค่ำคืนวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่ง แพรว ชวนสาวฮ็อตแห่งโลกโซเชียลอย่าง “มายด์ – ณภศศิ” ไปเช็คอินพร้อมเปิดวาร์ปความสุดปังของงาน “Siam Paragon 19th Anniversary : The Magical Celebration” ที่จัดเต็มมหกรรมแห่งความสุขทั่วทุกพื้นที่มาฝากทุกคนกันตรงนี้เลยค่ะ 

พิกัดแรกที่สายคอนเท้นต์อย่างสาวมายด์ไม่พลาด คือการถ่ายรูปเช็คอินต้นคริสต์มาสสุดลักซ์ชัวรี่จากคาเทียร์ ที่สูงเด่นเป็นสง่าสุดๆ และส่องแสงเปล่งประกายเจิดจ้า ณ บริเวณอุโมงค์ Cascade ชั้น M รอให้ทุกคนมาถ่ายรูปสวยๆ พร้อมแชร์โมเม้นต์ประทับใจ อีกทั้งยังตระการตาไปกับการตกแต่งจากแบรนด์ดังระดับโลกที่เนรมิตให้ทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งความสุข และพิเศษสุดสำหรับค่ำคืนนี้ที่ช็อปของหลากหลายแบรนด์ดังได้เตรียมเซอร์ไพร้ส์มอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้าคนพิเศษโดยเฉพาะ

มาถึงความฟินเมื่อค่ำคืนวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา กับมหกรรมความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ โดย “สยามพารากอน” ได้ขนทัพศิลปินสุดฮ็อตนับ 100 คน มาร่วมเดิน Black Carpet เพื่อนำทุกคนเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความประทับใจ ณ บริเวณ Cascade ชั้น M เช่น หลิงหลิง-ออม, ต่อ-ธณภพ, อแมนด้า, แจม-รชตะ, ฟิล์ม-ธนภัทร, ไบร์ท-นรภัทร, ออฟโรด-กันตภณ, เฟิร์น-นพจิรา, พีพี-ปุญญ์ปรีดี, จูเนียร์-กรวิชญ์, ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์, เทศน์ ไมรอน, อุ้ม-อิษยา, ซี-พฤกษ์, จูเนียร์-แทด-มิวอ้อน จาก ATLAS และศิลปินจาก one TRANIEE เป็นต้น อีกทั้งยังมีโชว์พิเศษจาก ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น และ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ที่มอบความฟินให้กับทุกคนบริเวณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1

และอีกหนึ่งความพิเศษที่รับรองว่าถูกใจสายช้อป นั่นคือสิทธิประโยชน์เหนือระดับสำหรับลูกค้าคนสำคัญที่ “สยามพารากอน” จัดเต็มให้แบบสุดปัง กับดีลพิเศษสุดฉลอง 9 วันมหัศจรรย์ ทั้งศูนย์ฯและห้างฯ ผนึกกำลังมอบส่วนลดและสิทธิประโยชน์มากมายทุกชั้นทุกแผนก ระหว่างวันที่ 2 – 10 ธันวาคม 2567 เช่น ส่วนลดสูงสุด 70%  พร้อมสินค้าราคาพิเศษสำหรับร้านค้าที่ร่วมรายการ ช้อปครบตามเงื่อนไขที่กำหนดภายในศูนย์ฯ แลกรับ SIAM GIFT CARD มูลค่าสูงสุด 6,900 บาท และ Cash Coupon มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท (สำหรับใช้ซื้อสินค้าภายในห้างฯตามเงื่อนไขที่กำหนด ยกเว้น POWER MALL และ GOURMET MARKET) 

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้าแฟชั่น บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร เป็นต้น พร้อมโปรโมชั่นจัดเต็มจาก 9 บัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ พิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย และบัตรเครดิตกสิกรไทย รับสิทธิประโยชน์เพิ่มมากมาย เช่น ส่วนลดพิเศษเพิ่มเติม, ONESIAM COINS, รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17% และ บัตรจอดรถฟรี สยามพารากอน 1 ปี พิเศษเฉพาะสมาชิกใหม่ ONESIAM SuperApp ใช้จ่าย 1,900 บาท รับ 190 ONESIAM COINS ตั้งแต่วันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2567 เท่านั้น

อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับพารากอน ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ รับ M Point  9,000 คะแนน เมื่อช้อปสะสมภายในห้างฯครบ 19,000 บาท ขึ้นไป/วัน (รวม POWER MALL และ GOUMET MARKET) และพิเศษยิ่งกว่า ลูกค้า ONESIAM SuperApp รับเพิ่ม E-Cash Coupon มูลค่า 900 บาท รวมถึงยังมีความความพิเศษอื่นๆ ที่จัดเต็มทุกชั้นทุกแผนกตลอด 9 วัน

ขอบอกเลยว่า “สยามพารากอน” ฉลองครบรอบ 19 ปี แบบเล่นใหญ่แบบทำถึงสุดๆ จัดเต็มความฟินเอาไว้เพียบจริงๆ ชนิดที่ทุกคนต้องมา! สำหรับงาน “Siam Paragon 19th Anniversary : The Magical Celebration” ซึ่งสามารถพุ่งตัวมาได้เลยตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-610-8000 หรือติดตาม Facebook และ Instagram : SiamParagon ได้เลยค่ะ


“ศิรินุช ประสาทชัย” เผยความสำเร็จ WHERY WELL PROTEIN คว้ารางวัลแห่งความภาคภูมิใจ

account_circle

ด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่มาแรง ทำให้อาหารเสริมอย่างเวย์โปรตีนขึ้นแท่นไอเท็มฮ็อต ดังนั้น Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาไปพูดคุยกับ “คุณลี – ศิรินุช ประสาทชัย” ซีอีโอสาวเก่งเจ้าของแบรนด์ WHERY WELL PROTEIN ที่ล่าสุดคว้ารางวัล Iconic Innovative Protein Supplement จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024 

เวย์โปรตีนรสชาติดี

“คอนเซ็ปต์หลักของ WHERY WELL PROTEIN คือการเป็นเวย์โปรตีนที่ทานง่าย อร่อย ไม่ฝืดคอ ลบภาพจำเรื่องรสชาติของเวย์โปรตีนแบบเดิมๆ ไปได้เลยค่ะ รวมถึงเรายังเน้นการนำเสนอคอนเท้นต์เกี่ยวกับการดูแลรูปร่างด้วยการทานเวย์โปรตีน ทำให้ผู้บริโภคทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานหันมาสนใจการดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น

“การดูแลรูปร่างโดยใช้เวย์โปรตีนเป็นตัวช่วยได้รับความนิยมมากขึ้น จนเกิดเป็นกระแสการทานเวย์โปรตีน ซึ่งด้วยรสชาติที่เราพัฒนาและสร้างสรรค์ขึ้นมา ทำให้คนที่ไม่ชอบทานอาหารเสริมเพราะรสชาติไม่ดี สามารถทานได้ง่ายขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อ WHERY WELL PROTEIN ไปทานแทนน้ำหวาน เพราะรสชาติอร่อย ทานง่าย และได้รับคุณประโยชน์จากสารอาหาร เรียกว่าได้รักสุขภาพอย่างมีความสุขนั่นเองค่ะ”

มุ่งตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ

“ในมุมมองของลี ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งเรื่องการออกกำลังกายและอาหารการกิน รวมถึงอาหารเสริมที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ดังนั้น WHERY WELL PROTEIN จึงตอบโจทย์ ทั้งในแง่ของการเป็นอาหารเสริมที่ทานง่าย มีรสชาติหลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น บวกกับเราเลือกใช้สารสกัดที่ดี ผลิตกับโรงงานพาร์ทเนอร์ที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบเพื่อความมั่นใจได้ ซึ่งเราตั้งใจแสดงความโปร่งใส เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจ

“สำหรับในปี 2025 ลีคาดว่าคนจะหันมาดูแลสุขภาพมากกว่าเดิม และเลือกทานอาหารเสริมบำรุงร่างกายมากขึ้น ที่สำคัญคือเลือกซื้อสินค้าจากข้อมูลมากขึ้น ไม่ซื้อตามกระแส ดังนั้นลีจึงวางแผนให้กับ WHERY WELL PROTEIN โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพแนวใหม่ๆ ออกมา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดค่ะ”

ทำถึง! ขึ้นแท่นเจ้าของรางวัลสุดปัง

“การได้รับรางวัล Iconic Innovative Protein Supplement จาก Praew Iconic Beauty 2024 ถือเป็นความภาคภูมิใจ ลีรู้สึกดีใจมากๆ เพราะเราตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้มากๆ รวมถึงทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ ซึ่งล้วนเกิดจากความตั้งใจที่อยากให้ผู้บริโภคได้ทานอาหารเสริมดีๆ ในราคาที่จับต้องได้ 

“แม้ว่า WHERY WELL PROTEIN จะได้รับรางวัลแล้วก็ตาม แต่ลีและทีมก็จะไม่หยุดพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ โดยเราจะใส่ใจกับทุกคอมเม้นต์และฟีดแบ็กจากลูกค้าเหมือนเดิม เพื่อพัฒนาแบรนด์ให้ดีกว่าเดิม พร้อมรักษามาตรฐานให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการคิดค้น การผลิต ไปจนถึงการจัดส่งถึงมือผู้บริโภค ลีขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนเราตลอดมา ทำให้ WHERY WELL PROTEIN มาถึงจุดนี้ได้ ลีสัญญาว่าจะไม่หยุดพัฒนาอย่างแน่นอนค่ะ”


พาลูกวิ่งดะ Obstacle & Trail 2024 Little Zoo Keeper Run คีปเปอร์ตัวจิ๋วตะลุยด่านอุปสรรค

account_circle

ครั้งแรก!! กับการวิ่งฝ่าด่านอุปสรรค พร้อมประสบการณ์เป็นคีปเปอร์จิ๋วสุด exclusive แบบที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสทำมาก่อนสมัครก่อนมีสิทธิ์ลุ้นให้อาหารสัตว์สุด exclusive เฉพาะงานพาลูกวิ่งดะ เท่านั้น เช่น  ปั้น EMบอล ให้พี่ช้าง พ่นแคทนิปสิงโตขาว ป้อนอาหารสิงโตขาว นกกาบบัว และยังมีให้อาหารเหล่าเพื่อนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสิงโตขาว คาปิบาร่า ม้าแคระ เม่น คู่แม่ลูกแรดขาว นกกาบบัว นกพิราบหงอนวิกตอเรีย นกชาปิไหน นกเขาเขียว ละมั่ง ฮิปโป แรดขาว ยีราฟ และช้าง

ครั้งนี้ เพิ่มระยะทาง เพิ่มด่านอุปสรรค เพิ่มความท้าทาย !เพิ่มประสบการณ์ใหม่สไตล์คีปเปอร์จิ๋ว คุ้มสุดๆ วิ่งวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ณ โซน Wildlife Wonderland สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

รุ่นนักวิ่งและระยะ แบ่งเป็น 2 รุ่น

  • รุ่น Little Keeper ระยะ 4K เส้นทางวิ่งในสวนสัตว์ 4 KM กับ 13 ด่านอุปสรรค
  • รุ่น Big Keeper ระยะ 5.5K เส้นทางวิ่งในสวนสัตว์ 4 .5 KM กับ 13 ด่านอุปสรรค และเส้นทางธรรมชาติ (Jungle Trail) 1 KM กับ 2 ด่านอุปสรรค

ภายในงานมีกิจกรรมสนุกๆ จากผู้ใหญ่ใจดีในพื้นที่ส่วนกลางของงาน อาทิ เช่น ธนาคารออมสิน  : เป็นลูกค้าธนาคารออมสินเท่ากับช่วยสังคม ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อสังคม มีกิจกรรมให้ชาวคีปเปอร์จิ๋วได้ร่วมสนุก กดไลค์ กดเเชร์เพจธนาคาร รับกระปุกออมสิน ไอเทมสุดคิ้วท์ที่ต้องมีจากธนาคารออมสินไปเลย Vitamilk Champ แจกนมไวตามิ้ลค์แชมป์ และ ไวตามิ้ลค์ นมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก แคลเซียมสูง สนุกกับกิจกรรมเล่นเกมส์ ลุ้นรับของรางวัล  นมแมกโนเลียยูเอชที  : นมแมกโนเลียยูเอชที นมดีดี อร่อยชัวร์ ท้าให้ลอง มาที่บูธวันนี้ได้อร่อยแล้ว ยังเล่นเกมจิกซอร์ลูกเต๋ารับของรางวัล สวนสัตว์เปิดเขาเขียว: เด้งดังจนฉุดไม่อยู่แล้ว !!  เปิดรับสมัครสมาชิกรายปี บัตร Guest pass เที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ดูหมูเด้งฟรี 1 ปีไปเลย

ในงาน “พาลูกวิ่งดะ Obstacle & Trail 2024 Little Zoo Keeper Run คีปเปอร์ตัวจิ๋วตะลุยด่านอุปสรรค” เหล่านักวิ่งคีปเปอร์จิ๋วจะได้พบกับกิจกรรมสนุกๆจากผู้ใหญ่ใจดีในพื้นที่ส่วนกลางของงาน ทั้งเพลินทั้งสนุกกลับบ้านกันทุกครอบครัว


ชุดแต่งงานไทย

ชุดแต่งงานไทย สี Cherry Blossom Pink แรงบันดาลใจจาก นกฟลามิงโก้

Alternative Textaccount_circle
ชุดแต่งงานไทย
ชุดแต่งงานไทย

ชมชุดแต่งงานไทย สไตล์สาวหวาน ของ นักแสดงเจ้าบทบาท เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ สี Cherry Blossom Pink แรงบันดาลใจจาก นกฟลามิงโก้

เป็นพิธีหมั้นที่เรียบง่ายแต่อบอุ่น สำหรับงานมงคลของนักแสดงสาว เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ ที่ถือฤกษ์ดีวันที่ 7 ธันวาคม 2567 โดยแฟนหนุ่มนักธุรกิจ แก๊ป-วิทนาถ วรรธนะกุล ได้แห่ขันหมากสู่ขอเจ้าสาว เข้าพิธีหมั้น โดยจัดงานตามแบบประเพณีไทยในช่วงเช้า และเข้าพิธีสมรสทางศาสนาคริสต์ในช่วงบ่าย ท่ามกลางครอบครัวญาติมิตรและเพื่อนสนิทร่วมเป็นสักขีพยาน อบอวลไปด้วยความสุข

พิธีหมั้นในช่วงเช้าจัดขึ้นที่ โรงแรมรอยัล คลิฟ พัทยา ชลบุรี ช่วงเวลา 08.30 น. ตามเวลาฤกษ์มงคล ฝั่งว่าที่เจ้าบ่าว แก๊ป วิทนาถ พร้อมญาติผู้ใหญ่และประธานในพิธี ได้นำขบวนขันหมากไปสู่ขอ

ชุดแต่งงานไทย

สำหรับในพิธีนี้เจ้าสาว เบนซ์ ปุณยาพร งดงามภายใต้ชุดที่ไทยศิวาลัยประยุกต์ จากห้องเสื้อ AMATA โดยชุดนี้เป็น ชุดไทยศิวาลัยประยุกต์แบบนุ่งสดโบราณ สี Cherry Blossom Pink ที่ทางเราได้แรงบันดาลใจจาก ”นกฟลามิงโก้“ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความรักที่มั่นคง รักเดียวใจเดียว และความซื่อสัตย์ อันดูสอดคล้องกับบุคลิกลักษณะของเจ้าสาว

ด้วยลักษณะความสวยหวาน ดูน่ารักสดใสรักสนุก ทางห้องเสื้อจึงเลือกใช้โทนสีชมพูเป็นสีหลักในการออกแบบ บนรูปทรงแบบชุดไทยศิวาลัย(ประยุกต์) เพื่อให้เข้ากับอิโมชั่นเนลที่ดูหรูหรา คลาสซี่ และสวยเด่นแบบเป็นเอกลักษณ์ของคุณเบนซ์ให้ได้มากที่สุด โดยดีไซน์ตัวเสื้อเป็นลูกไม้ฝรั่งแขนยาว ดีเทลจับจีบบริเวณหัวไหล่แขนหมูแฮม แลปักโปรยกระจายทั่วลายลูกไม้ ลำตัว แขนเสื้อ และเชิงขอบอย่างละเอียดละออดูหวานฉ่ำชวนละมุนตา พร้อมคาดห่มสไบแบบหน้าเรียวเล็กเข้าลำตัวงานแฮนด์คราฟต์ ที่วาดปักลวดลายดั่งเลียนคล้ายท่าสยายปีกของนกฟลามิงโก้

ด้านล่างแบบนุ่งห่มสดโบราณ ด้วยผ้าไหมอินเดียสีชมพูอ่อนสว่างแบบไล่สี (การย้อมแบบสไลด์สี) โดยไล่จากสีชมพูนู้ดอ่อนลงไปหาเข้ม ที่มัดย้อมแบบวิธีโบราณด้วยสีจากธรรมชาติบริสุทธิ์ จึงทำให้ได้สีที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นชัดเจนไม่มีใครเหมือน พร้อมการนุ่งพกจับจีบชายพกแบบด้ามพัดจิ่วที่เรียงตัวชดช้อยอย่างไล่ระดับ ที่ดูอ่อนช้อยหวานละมุนตา พร้อมทั้งปักประดับเน้นบริเวณชายพก หน้านาง และขอบเชิงปลายกระโปรง ด้วยวัสดุแล่งปักโทนสีชมพูเงินปรอทกว่า 42 ชนิด และคริสตัล Swarovski ที่ช่วยเพิ่มให้ดูมิติอย่างเด่นชัด พร้อมด้วยเครื่องประดับทองโบราณสี Pink Gold ที่ประดับตกแต่งลงยาด้วยเพชรประดับสีชมพูทับทิม ที่ช่างสวยงดงามดูชวนฝัน ที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องพิ้มเพลิดประณีตวิจิตรอย่างตระการตา

ข้อมูลจาก ห้องเสื้อ AMATA

Wedding Dress

4 ลุค วุ้นเส้น-วิริฒิพา ในชุด Wedding Dress สไตล์เรียบหรูสวยแบบแพง ๆ

Alternative Textaccount_circle
Wedding Dress
Wedding Dress

ตามส่อง 4 ลุคเจ้าสาว ของ วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ภายใต้ชุด Wedding Dress  สไตล์เรียบหรูรันตีสวยแบบแพง ๆ

แม้จะเคยจัดงานวิวาห์ที่ฝรั่งเศสไปแล้ว แต่งานแต่งงานที่ประเทศไทยก็อลังการไม่น้อยหน้าเลย สำหรับงานแต่งงานสุดตื่นตาตื่นใจ ที่เนรมิตสวนดอกกุหลาบและไฮเดรนเยียฮอลแลนด์มาไว้กลางโรงแรม ของ วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ กับ นิกม์ ธนะภูมิ ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องนภาลัย เเกรนด์บอลรูม โรงเเรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

โดยนอกจากการเตรียมงานที่สุดแสนจะเพอร์เฟคแล้ว ชุดเจ้าสาว ในวันนี้ยังเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ซึ่งขอแอบกระซิบว่างานนี้ จัดหนักจัดเต็มมีชุดเจ้าสาวมากถึง 4 ชุดเลยทีเดียว

โดยวุ้นเส้นกล่าวว่า “วันนี้มี 4 ชุดค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือชุดแถลงข่าว ชุดนี้ตั้งใจไปเอาจากฮ่องกง คือวุ้นบอกนิกม์ว่าไม่ได้อยากจะซื้อแพง แต่ขอให้สวย คือเรามีเพื่อนที่เป็นดีไซน์เนอร์เยอะ บางคนก็ตัดให้เรา บางคนก็ให้เป็นของขวัญ เราก็จะได้ประหยัดงบตรงนี้นิดนึง เพราะว่าเราใส่ชุดแค่วันเดียว”

4 ลุคเจ้าสาว Wedding Dress  สไตล์เรียบหรูรันตีสวยแบบแพง ๆ

เริ่มต้นที่ชุดแถลงข่าว ของแบรนด์ เอลอน ลิฟเน่ ไวท์ (Alon Livne White)  จาก ฮ่องกง สวมสร้อยคอ เครื่องประดับ จากแบรนด์ chopard ต่างหู แหวน สร้อยคอ รวม 110 กะรัต มูลค่า 38 ล้าน

ชุดที่สองสำหรับถ่ายรูปหน้าแบคดรอฟ จากแบรนด์ Vera Wang เครื่องประดับ Kavantsharart

ชุดที่สาม ชุดพิธี  จากแบรนด์ asava ตัดเย็บพิเศษเป็นของขวัญวันแต่งงานจาก หมู อาซาว่า น้ำหนักชุดเวอร์วังถึง 10 กิโลกรัม พร้อมเครื่องประดับจาก Gemspavilion

และชุดที่ 4 ชุด After Party สั่งตัดพิเศษจากแบรนด์ไทย Peace by Silsupa พร้อมเครื่องประดับจากแบรนด์ scintilla

Wedding Dress

‘ขึ้นต้นด้วยแย่งชิงและหึงหวง แต่ลงท้ายด้วยความสุข ใช่คุณไหม?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายสัปดาห์ 9-15 ธันวาคม 2567

Alternative Textaccount_circle

‘ขึ้นต้นด้วยแย่งชิงและหึงหวง แต่ลงท้ายด้วยความสุข’

ดวงรายสัปดาห์ 9-15 ธันวาคม 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ดวงของชาวอาทิตย์ก็ยังคงมีฝุ่นตลบอบอวลอยู่ ยังหาทางออกไม่เจอ มีโอกาสตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องรับผิดชอบในความผิดที่ไม่ได้ก่อ หรือต้องทำงานที่งอกออกมาจากที่รับปากไว้ แล้วไม่เพียงเท่านั้น เพราะเป็นไปได้ว่าคุณยังตกอยู่ในช่วงของการพิจารณาความดีความชอบอีก หากกำลังรอว่างานหรือโครงการจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ หรือกำลังรอโบนัสปลายปีอยู่ทางที่ดีควรเตรียมแผนสองไว้รอเลย อีกทั้งพยายามเข้าหาผู้ใหญ่ผู้หญิงไว้ เพราะท่านเมตตาสูง สามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้คุณก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรือธุรกิจ รวมถึงสิ่งที่รออยู่ได้เลย  

การเงิน  :   ก็ยังมองเห็นเงินเข้ามาเรื่อยๆ อยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน คาดว่ามาจากครอบครัวและผู้ใหญ่ที่อุปถัมภ์คุณอยู่ ขณะเดียวกันยิ่งใกล้เทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ เป็นไปได้ว่าคุณจะสั่งซื้อของขวัญของฝากให้กับผู้ใหญ่ที่เคารพ มิตรสหาย จนมีโอกาสที่เงินจะไม่พอใช้ได้นะ  

ความรัก  :  สัปดาห์นี้ยังมีวันหยุดอีก 1 วัน แล้วหากใครลาพักร้อนด้วยก็หยุดยาวกันมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จึงเป็นสัปดาห์ที่คุณจะได้มีโอกาสอยู่พร้อมหน้าครอบครัวกันยาวๆ จนกลายเป็นไม่อยากไปทำงานซะงั้น คนโสด  สัปดาห์นี้คุณเสน่ห์แรงกับเพศตรงข้ามมากนะเนี่ย แล้วมีโอกาสที่จะเกิดความพอใจแบบปุบปับ แค่มองตาก็ขอเป็นแฟนเลย ซึ่งคาดว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไม่จีรังยั่งยืน

สุขภาพ  :  เทศกาลเฉลิมฉลองใกล้เข้ามา หากใครที่มีงานปาร์ตี้สังสรรค์บ่อยๆ ก็ต้องระวังโรคที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับการย่อยอาหาร การเจ็บป่วยในช่องท้องและลำไส้ รวมถึงการอักเสบของแผลในช่องท้อง และแผลจากการคลอดบุตร

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ สำหรับดวงของชาวจันทร์จะบอกว่ายังมีผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดคอยสนับสนุนและส่งเสริมให้คุณได้ทำงานหรือธุรกิจที่อยากทำอยู่ แต่หากใครที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้างทุกชนิดด้วยแล้ว ต้องบอกว่าทางยังไม่โล่ง เพราะเป็นไปได้ว่าคุณกำลังตกอยู่ในช่วงการพิจารณาความดีความชอบ โครงการที่เสนอไปมีโอกาสที่จะยังไม่ผ่านการพิจารณาสูงมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรเชื่อมั่นในตัวเองมาก มีโอกาสที่จะตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายๆ ทางที่ดีควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย

การเงิน  :  ก็ยังคงมีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนเงินๆ ทองๆ อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัปดาห์นี้มีโอกาสได้ซื้อ-ขายบ้านและที่ดิน แต่ก็มีความเสี่ยงที่รายจ่ายจะไม่พอกับรายได้ หรือได้มาแบบไม่คุ้มทุน

ความรัก  :  ก็ยังคงหาความแน่นอนให้กับชีวิตตัวเองไม่ได้ เป็นไปได้ว่าหากคุณหลงใหลอะไรจะทุ่มเทให้สุดๆ ไปเลย แล้วคาดว่าสัปดาห์นี้คุณมีโอกาสหลงอยู่กับบ้านและการทำงาน จนคนรอบข้างเอาใจไม่ถูกเลยทีเดียว  คนโสด  เช่นกันค่ะ ยังเอาแน่กับตัวเองไม่ได้ มีความหลงในกิจกรรมบางอย่าง รวมถึงบุคคล แต่ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว เพราะถึงที่สุดแล้วคุณก็ยังคงถือหลักการ ‘โน มันนี่ โน ทอล์ค’ อยู่

สุขภาพ  :  ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่น้ำหนักจะขึ้นอยู่ ยิ่งสัปดาห์นี้ยังรวมถึงภัยจากการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย หากใครที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางระบบต่อมน้ำเหลือง ยิ่งต้องระวังพวกเนื้องอกและเนื้อร้าย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ สำหรับสัปดาห์นี้ของชาวอังคารควรระวังตัวให้หนักเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายบริการ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม โรงแรม การท่องเที่ยว สปา และสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวกับเด็ก รวมถึงงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อสื่อสาร ประสานงาน งานส่งเสริมการขายทุกประเภท เพราะมีโอกาสที่คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับการทำงานหรือธุรกิจที่ผิดพลาด ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะส่งผลให้ผู้บริหารไม่ให้ความสำคัญคุณอีกต่อไป ขณะเดียวกันรุ่นน้องก็ไม่เกรงใจ นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่เพื่อนร่วมงานจะชิงลาออกโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าอีก ที่สำคัญคุณจะอ่อนไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มากด้วย

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะเสียเงินให้กับเรื่องของเด็กๆ และบริวารในบ้านอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน คาดว่าน่าจะเป็นเหตุกะทันหัน แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลเกินไปนัก เพราะมีโอกาสที่คุณจะสามารถหาเงินได้จากหลายๆ ช่องทาง

ความรัก  :  สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าอารมณ์คุณจะหวั่นไหวง่ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกๆๆ และบริวารในบ้าน เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะโหยหาพวกเขามากๆ อยากให้มาอยู่ใกล้ๆ แบบไม่มีเหตุผล  คนโสด  เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้จะหลงเด็กเสียแล้วสิเนี่ย แล้วก็โรแมนติกสุดๆ ขอบอกค่ะว่า แม้อยากได้เขามากแค่ไหน แต่เป็นเด็กน้อยเกินไปไม่เหมาะสมกับคุณเลย

สุขภาพ  :   ต้องระวังความเจ็บไข้ได้ป่วยจากโรคที่อยู่เงียบๆ มานาน โดยไม่มีอาการหรือลางบอกเหตุใดๆ เลย ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวกับสมองและจิตใจที่ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างฉับพลัน รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนเลือดที่ผิดปกติ

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับเดือนสุดท้ายของปี อยากบอกชาวพุธว่า สัปดาห์นี้ขอให้อดทนสักนิด เพราะจริงๆ แล้วดวงคุณดีมีผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดส่งเสริมสนับสนุนให้ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสิ่งที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกี่ยวกับงานการเกษตร เรือกสวนไร่นา นักออกแบบตกแต่งสวน ศิลปวัฒนธรรม สินค้าโอทอป ด้วยแล้ว จะไปได้ดี แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเป็นไปได้ว่าคุณจะอึดอัดและร้อนรุ่ม ทั้งกับบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน จนถึงเจ้านาย จนอยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป เพราะฉะนั้นขอให้อดทนจนผ่านตรงนี้ไปให้ได้

การเงิน  :  เช่นกันกับการงาน ก็คือจริงๆ แล้วคุณมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์อยู่ แต่หากมีโครงการที่จะซื้อ-ขายที่ดินทางการเกษตร หรือแต่งสวน หรือทำอะไรที่เกี่ยวกับเรือกสวนไร่นา มีโอกาสที่คุณจะได้ผลตอบแทนไม่คุ้มกับที่ลงทุนไป แต่หากไม่ได้เงินก้อนนี้มาก็อาจเดือดร้อนกว่านี้  

ความรัก  :  ก็ยังไม่แน่นอนอีกล่ะ สำหรับใจของคุณ เพราะคาดว่าสัปดาห์นี้คุณจะจับได้ว่า คู่คุณมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ แอบคบใครอยู่โดยที่คุณไม่รู้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จากเหตุการณ์นี้จะเป็นโอกาสให้คุณได้พบคนใหม่ที่ดีกว่าก็ได้นะ   คนโสด  เป็นไปได้ว่าดวงความรักของคุณจะเริ่มต้นด้วยความร้อนแรง เต็มไปด้วยความหึงหวงและแย่งชิง แต่มีโอกาสที่จะลงท้ายด้วยความสุข เพราะฉะนั้นก็ทนหน่อยนะ

สุขภาพ   :   ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกโรคอ้วนทำลายสุขภาพนะคะ พวกไขมัน เบาหวาน ความดัน เพราะฉะนั้นอย่าตามใจปากมากนัก นอกจากนั้นยังมีพวกอารมณ์ลบต่างๆ เช่น ความหึงหวง โกรธแค้น อาฆาต ที่จะส่งผลให้ปวดศีรษะ ไมเกรนได้นะ  

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับเดือนสุดท้ายของปี อยากจะบอกชาวพฤหัสว่า คุณมีดวงที่จะไม่ได้ไปต่อนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้สติปัญญาและความจำค่อนข้างสูง รวมถึงเซ้นส์ด้วย หากกำลังมีความมุ่งมั่นปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ ยิ่งคาดหวังมากเท่าไหร่ คุณมีโอกาสที่จะผิดหวังมากเท่านั้น เพราะเป็นไปได้ว่าในช่วงสัปดาห์นี้จะมีปัญหาขลุกขลักตลอดๆ  มีโอกาสถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือเอกสารทางราชการมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด กลายเป็นคดีความทั้งทางแพ่งและอาญา ทางที่ดีควรหาเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้มาช่วยกันทำงาน หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ด้วย  

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะใช้เงินเกินตัว เช่น หมดไปกับการเลี้ยงเพื่อนฝูง ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความเสี่ยงที่จะสูญเงินไปกับการค้ำประกัน และการให้กู้ยืม หากเป็นไปได้ในช่วงสัปดาห์นี้งดให้กู้เงิน หรือเซ็นค้ำประกันให้ใครอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ

ความรัก  :  สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะแสดงความหึงหวงคู่ครองอย่างออกนอกหน้าเลยทีเดียว จนมีความเสี่ยงที่จะทำให้ความรักความสัมพันธ์ของคุณนั้นแย่ลง แล้วแต่ละคนก็ทิฐิเยอะเกินกว่าจะหันหน้าเข้ามาคุยกันได้อีกแล้ว คนโสด  หากคุณกำลังทุ่มเทให้กับความรักอย่างมากมาย ก็ควรถอนตัวถอนใจออกมาบ้างนะ เพราะมีโอกาสไม่สมหวังสูงมาก

สุขภาพ   :  อย่าประมาท เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย อันเป็นผลจากการปฏิบัติงาน นอกจากนั้นยังต้องระวังหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทุกชนิด รวมถึงสายตาด้วย พวกตระกูลต้อกำลังมาเยือน

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับเดือนสุดท้ายปลายปี ก็ต้องแสดงความยินดีกับชาวศุกร์ด้วยที่มีโอกาสได้ริเริ่มหรือบุกเบิกงานหรือธุรกิจใหม่ๆ อีกแล้ว แล้วเป็นไปได้ที่คุณจะได้เป็นถึงระดับหัวหน้างาน หัวหน้าโครงการ หรือหัวหน้าทีม ซึ่งจะเกี่ยวกับงานบุญ การกุศล หรืองานเพื่อสังคม ทางด้านสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล จิตอาสา มูลนิธิ ก็ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วยนะคะ เพราะมีความเสี่ยงที่งานหรือธุรกิจจะไปไม่ถึงฝัน เพราะสะดุดหยุดลงกลางคันอย่างน่าเสียดาย

การเงิน  :   เป็นไปได้ว่าคุณจะสามารถจัดสรรการเงินได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้สัปดาห์นี้คุณสามารถทำงานที่เน้นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน คิดถึงผลงานมากกว่าผลตอบแทน

ความรัก :  เป็นไปได้ที่สัปดาห์นี้คุณจะให้เวลากับงานจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ขณะเดียวกันในเรื่องของจิตใจคุณยังโหยหาความสนใจและความอบอุ่นจากครอบครัวอยู่เสมอ  คนโสด  ความมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามก็ยังคงไม่เลือนหายไปจากชาวศุกร์ง่ายๆ นะคะ แม้งานจะยุ่ง แต่ใจก็ยังโหยหาอ้อมกอดอยู่ไม่คลาย  

สุขภาพ  :  ก็ยังคงอยู่กับเรื่องของอาหาร การรับประทานอยู่นะคะ เป็นไปได้ว่ายิ่งเครียดก็ยิ่งหิว ยิ่งรับประทานก็ยิ่งเอ็นจอย จนมีความเสี่ยงที่น้ำหนักจะขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ต่อมทอนซิลอักเสบ และหลอดลมอักเสบ ด้วย  

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ของเดือนสุดท้าย สำหรับชาวเสาร์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เช่น นักแสดง ศิลปิน นักร้อง ดีไซเนอร์ งานสารพัดช่าง หรือหากใครที่กำลังทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคมแล้วล่ะก็ หากตลอดมาคุณใช้ทักษะและความสามารถและความเชี่ยวชาญอย่างหนักมาเป็นเวลานาน เป็นไปได้ที่คุณมาถึงจุดที่ต้องพัก ทั้งเกิดจากความตั้งใจของตัวเอง หรือจากสถานการณ์บังคับก็ได้ทั้งนั้น  

การเงิน  :  มีโอกาสได้โชคหรือลาภลอย แต่เป็นไปได้ว่าคุณจะไม่ใส่ใจ ยกให้เป็นของสังคมหมด แต่หากอยากจะลงทุนสำหรับสัปดาห์นี้ควรทำคนเดียว ไม่ควรร่วมหุ้นกับคนอื่น

ความรัก  :  ก็ยังมีโอกาสที่ยังมีการคุมความประพฤติกันอยู่ เป็นไปได้ว่าจะสลับตำแหน่ง เพราะคนที่จะถูกคุมคราวนี้คือคุณ จนมีความเสี่ยงที่จะเกิดความคิดเห็นขัดแย้งกันได้ง่ายๆ  คนโสด จิตใจอ่อนไหวตามสไตล์ศิลปินเลยค่ะสำหรับชาวเสาร์สัปดาห์นี้ มีโอกาสที่จะบูชาความรักอยู่เหนือสิ่งอื่นใด แต่สุดท้ายแล้วมีความเสี่ยงที่จะไปไม่ถึงฝั่งฝันด้วยทิฐิและความคิดแบบเด็กๆ  

สุขภาพ   :  หากคุณนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมๆ มาตลอดสัปดาห์ หรือตลอดปี สัปดาห์นี้มีความเสี่ยงที่ออฟฟิศซินโดรมจะถามหา ปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ทางที่ดีควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หรือบริหารกาย ทำโยคะ หรือหากจะไปให้หมอนวดแก้อาการ ก็เว้นท่าบิดคอ บิดหลัง หรือท่าที่มีความเสี่ยงสูงด้วยนะคะ  

“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS - AESLA AWARDS 2024”

“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” มอบรางวัลแก่แพทย์ความงามระดับแนวหน้า พร้อมเปิดไลน์อัพนวัตกรรมใหม่

account_circle
“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS - AESLA AWARDS 2024”
“AESLA” จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS - AESLA AWARDS 2024”

AESLA ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามและเวชสำอางชั้นนำระดับโลก มาตรฐาน U.S.FDA และ Gold Standard ภายใต้การบริหารของ คุณวรุตม์ สุทธินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสล่า จำกัด จัดงาน “A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแพทย์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและขับเคลื่อนวงการแพทย์ด้านความงามในประเทศ  

ภายในงานได้รับเกียรติจากบรรดาแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ นิวัติ พลนิกร, นายแพทย์ วิชัย หงส์จารุ, ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิง มาริษา พงศ์พฤฒิพันธ์, นายแพทย์ สมิทธิ์ อารยะสกุล ตลอดจนเซเลบริตี้ “ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” และ “มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” นอกจากนี้ยังมีบรรดาแขกกิตติมศักดิ์ “มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ์, จินนี่-เอมษิกา โชติวิจิตร, นายแพทย์ ณัฐภัทร มีนชัยนันท์, ใบปอ-ยิ่งรัก พัวถาวรสกุล” มาร่วมงาน พร้อมด้วยนักร้อง “บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง” และ “จูน-สาวิตรี
โรจนพฤกษ์” รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินงาน  

นอกจากนี้ภายในงานยังมี Innovative Exhibition สำหรับจัดแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์ด้านความงามจากแบรนด์ระดับโลกต่างๆ พร้อมด้วยหนึ่งในไฮไลต์ของงานคือการเปิดตัวสารเติมเต็ม ได้แก่ Dermal Filler จากแบรนด์ Revanesse ประเทศแคนาดา และPolynucleotide จากแบรนด์ Plinest ประเทศอิตาลี  

ปัจจุบัน บริษัท เอสล่า จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ทางด้านความงามและเวชสำอางชั้นนำอย่างครบวงจร ได้แก่ Asclepion, biotec italia, capillus, Cynosure Lutronic, GME, Human Med, Hydrafacial, NoIR, SoftFil, Syris Scientific, Venus, Zimmer และ Product ในกลุ่มของสารเติมเต็มอย่าง Plinest และ Revanesse 



วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์

วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภายใต้ลุคเจ้าสาวแสนหวานปนเซ็กซี่แบบมินิมอลมินิใจ

Alternative Textaccount_circle
วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์
วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์

วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ภายใต้ลุคเจ้าสาวแสนหวานปนเซ็กซี่แบบมินิมอลมินิใจ จากแบรนด์ฮ่องกง เอลอน ลิฟเน่ ไวท์ (Alon Livne White)

หลังจากจัดงานแต่งงานที่ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุดถือฤก์ดีวันที่ 7 ธันวาคม 2567 จัดงานฉลองวิวาห์ที่ประเทศไทย สำหรับคู่รักคู่หวาน “วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์” กับนักธุรกิจ “นิกม์ ธนะภูมิกุล” ห้องนภาลัย เเกรนด์บอลรูม โรงเเรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

โดยในวันนี้ตกแต่งธีมงานอาร์ตหรูหรา Art Nouveau แต่งเต็มด้วยดอกกุหลาบหลากชนิดหน้าประตูทางข้าง ภายในงานประดับด้วยดอกไฮเดรนเยียฮอลแลนด์สุดตระการตา

ทั้งนี้นอกจากการจัดงานที่อลังการแล้วความสาวยของเจ้าสาวก็ย่งใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยลุคเจ้าสาวแสนหวานปนเซ็กซี่แบบมินิมอลมินิใจ ซึ่งชุดของวุ้นเส้นมาจาก แบรนด์ฮ่องกง เอลอน ลิฟเน่ ไวท์ (Alon Livne White) สวมสร้อยคอ เครื่องประดับ จากแบรนด์ chopard ต่างหู แหวน สร้อยคอ รวม 110 กะรัต มูลค่าถึง 38 ล้านบาท

วุ้นเส้น-วิริฒิพา
บลูพอร์ต หัวหิน

บลูพอร์ต หัวหิน The New Chapter of Journey Celebrating 9 Anniversary ฉลองกิจกรรมจัดเต็มพร้อมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง

Alternative Textaccount_circle
บลูพอร์ต หัวหิน
บลูพอร์ต หัวหิน

13 ธันวาคมนี้ เตรียมตัวให้พร้อม! บลูพอร์ต หัวหิน พาทุกคนก้าวเข้าสู่เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ครบรอบ 9 ปี กับเทศกาล “The New Chapter of Journey Celebrating 9 Anniversary” พบกับการกลับมาของสวนคริสมาสต์ยักษ์สุดอลังการที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองหัวหิน พร้อมด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย

โดยเนรมิต พื้นที่ด้านหน้าลาน เดอะแสควร์ ให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขและการเฉลิมฉลอง กับการเดินทางแห่งความสำเร็จครบรอบ 9 ปี ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ กับเทศกาล “The New Chapter of Journey Celebrating 9 Anniversary”  ที่มาพร้อมกับสวนคริสมาสต์ยักษ์สุดอลังการที่ใหญ่ที่สุดแห่งเดียวในหัวหิน อลังการด้วยการประดับตกแต่งด้วยไฟ และแสง สี เสียง และเครื่องเล่นแบบจัดเต็ม ที่ปีนี้มาในบรรยากาศกลิ่นอาย ธีม Disco ยุค 70’s ตอกย้ำการเป็น A MUST CHECKIN DESTINATION แลนด์มาร์คแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขหนึ่งเดียวของเมือง กับจุดถ่ายรูปเช็คอินสุดชิคและลานโรลเลอร์สเก็ตที่มาสร้างสีสันแห่งความสนุกและความสดใส พร้อมกองทัพเหล่าบรรดา Elf และ ซานต้า ที่ยกขบวนมาร่วมสร้างความสุขและรอยยิ้ม และไฮไลท์พิเศษในปีนี้กับการกลับมาของหิมะที่หลายๆคนรอคอย พร้อมเซอร์ไพรส์กับไลน์อัพของมหกรรมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังที่ขนทัพกันมาแบบจัดเต็มตลอดทั้งเดือนธันวาคม

  • 13 ธันวาคม 2567 พาคุณไปตื่นตาตื่นใจ กับเทศกาลเปิดไฟคริสมาสต์สุดยิ่งใหญ่ ที่หลายๆคนรอคอย พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ ที่ยกขบวนมาร่วมเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ครบรอบ 9 ปี ของบลูพอร์ต หัวหิน พร้อมโชว์การแสดงสุดอลังการต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ต จากศิลปิน ส้ม มารี
  • 26 ธันวาคม 2567 ร่วมสนุกกับมินิคอนเสิร์ต จากศิลปินวง ลิปตา และ No One Else
  • 27 ธันวาคม 2567 จัดเต็มกันอย่างต่อเนื่องกับมินิคอนเสิร์ตจาก ศิลปินสาวเสียงหวาน เอิ้ต ภัทรวี
  • 31 ธันวาคม 2567 ปิดท้ายปีเก่าด้วยความสนุกแบบจัดหนักพร้อมรับปีใหม่ กับมินิคอนเสิร์ตจาก เจ เจตริน เจ้านาย และเจ้าขุน 3 หนุ่มหล่อ 3 สไตล์ ที่เตรียมมาเรียกเสียงกรี้ดจากแฟนๆ

นอกจากนี้ ยังมีโซนอาหารและเครื่องดื่มที่ขนกันมาทุกร้านเด็ด ร้านดังให้ได้มาลองชิม นั่งชิลล์กันแบบยาวๆในทุกค่ำคืนตลอดเดือนธันวาคม ที่ ลาน เดอะสแควร์ บลูพอร์ต หัวหิน

ตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเช็คอิน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลแห่งความสุขกับงานเฉลิมฉลองสุดอลังการ กับการเดินทางแห่งความสำเร็จครบรอบ 9 ปีของบลูพอร์ต หัวหิน “The New Chapter of Journey Celebrating 9 Anniversary” เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 -31 ธันวาคมนี้ อย่าลืมมาพบกัน ที่ลาน เดอะสแควร์ บลูพอร์ต หัวหิน แลนด์มาร์คแห่งการเฉลิมฉลองที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งเดียวในหัวหิน ที่คุณไม่ควรพลาด


CRAVITY

ทำความรู้จัก CRAVITY (กราวิตี) ดวงดาวทั้ง 9 ที่มีความสมดุลอันยอดเยี่ยม

Alternative Textaccount_circle
CRAVITY
CRAVITY

ทำความรู้จัก CRAVITY (กราวิตี) ดวงดาวทั้ง 9 ที่มีความสมดุลอันยอดเยี่ยม พร้อมทะลายกำแพงและก้าวไปอีกขั้นด้วยซิงเกิลอัลบั้มแรก FIND THE ORBIT

กราวิตี พร้อมทะลายกำแพงและก้าวไปอีกขั้นด้วยซิงเกิลอัลบั้มแรก FIND THE ORBIT ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับการเดินทางของวง ผลงานชิ้นนี้บ่งบอกถึงพัฒนาการของ กราวิตี ที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม รวมถึงฐานแฟนคลับอันเหนียวแน่นที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นผ่านกิจกรรมทั้งในบ้านเกิดและระดับนานาชาติ FIND THE ORBIT สะท้อนความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในการสร้างความแตกต่างและมุ่งนำเสนอตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ในโลกของเคป็อป

CRAVITY

เส้นทางใหม่ : FIND THE ORBIT

วงโคจรถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุถูกดึงดูดด้วยแรงบางอย่าง อาทิ แรงโน้มถ่วงที่ทำให้โคจรรอบวัตถุอื่นในลักษณะเดียวกัน กราวิตี ดวงดาวทั้ง 9 ที่มีความสมดุลอันยอดเยี่ยมได้สร้างเส้นทางเฉพาะตัวผ่านการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และแรงผลักดันที่หล่อหลอมให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา  ระหว่างการเดินทางและล่องลอยออกไป พวกเขาก็ค่อยๆปรับจูนเพื่อรักษาสายสัมพันธ์และจุดมุ่งหมายของพวกเขาเอาไว้ กราวิตี ได้สร้างวงโคจรอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านแรงกดดัน , ความขัดแย้ง และพลังงานของการเดินทางครั้งนี้ขึ้นมา   

“Remember who we are – จดจำว่าเราเป็นใคร”

FIND THE ORBIT ของ กราวิตี ส่งสัญญาณถึงเรื่องราวบทใหม่แห่งวัยเยาว์และความมุ่งมั่นของพวกเขา   ผลงานที่ปล่อยออกมาสะท้อนถึงการเดินทางที่ทำให้เติบโตและพัฒนาขึ้น ขณะที่ผลงานก่อนหน้านี้จะถ่ายทอดถึงการค้นหาตัวตนที่แตกต่าง แต่ FIND THE ORBIT  ได้ผสานแก่นแท้ของวัยรุ่นที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นมาตลอด เข้ากับความทะเยอทะยานที่มุ่งไปข้างหน้าเพื่อก้าวสู่สิ่งใหม่ ซิงเกิลอัลบั้มนี้ทำหน้าที่ดั่งฉากเปิดที่พร้อมส่งสารอันทรงพลังและสอดประสานกัน เพื่อเน้นย้ำถึงการทำงานเป็นทีม , ตัวตนอันโดดเด่นของ กราวิตีไปจนถึงการแสดงและแนวเพลงที่ชัดเจน ซึ่งพวกเขาเตรียมเผยโฉมเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่

การเดินทางครั้งนี้ กราวิตี นำเสนอเรื่องราวการรวมตัวของวัยรุ่นที่มีภูมิหลังอันหลากหลาย ได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตในแต่ละวันและร่วมกันก้าวไปข้างหน้าเพื่อมุ่งสู่อนาคต แฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของ กราวิตี  จะเข้าใจได้อย่างแจ่มชัดถึงสารที่สอดแทรกมาในอัลบั้ม นับตั้งแต่เดบิวต์สู่การแสดงคอนเสิร์ตเพื่อแฟนๆ , เวิลด์ทัวร์ ไปจนถึงการร่วมรายการต่างๆ ที่ทำให้พวกเขาค่อยๆ เติบโต วันนี้กราวิตี ยังคงเดินหน้า ก้าวข้ามขีดจำกัด และกรุยทางในแบบฉบับของตัวเอง

CRAVITY

ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสแล้ว : ผลงานอันน่าจับตา “Now or Never”

เพลง “Now or Never” ถ่ายทอดพลังงานและสไตล์อันเจิดจ้าของ กราวิตี พร้อมกับสื่อสารอันแรงกล้าถึงการคว้าโอกาสไว้อย่างไม่ลังเล ริฟฟ์กีตาร์ , จังหวะกลองเปี่ยมพลัง และท่วงทำนองของเสียงร้องอันเข้มข้น ผสานกันจนกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ กราวิตี ที่พร้อมเผชิญโลก มิวสิกวิดีโอที่เต็มไปด้วยฉากน่าตื่นเต้นชวนให้ติดตาม นำเสนอสมาชิกแต่ละคนที่โคจรบนเส้นทางอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าทึ่งที่เผยให้เห็นด้านใหม่ๆของ กราวิตี

ก้าวสำคัญบนเส้นทางของพวกเขา

สำหรับ FIND THE ORBIT นั้น วง กราวิตีสะท้อนความเป็นศิลปินที่เดินทางมาถึงปีที่ 4 และพร้อมจะก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญเพื่อการเติบโตในอนาคต ผลงานที่ปล่อยมานี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงสไตล์สุดเนี้ยบและการทำงานเป็นทีมได้อย่างราบรื่น แต่ยังเสริมให้พวกเขามีบทบาทในวงการเคป็อปในขณะที่พวกเขายังคงจะสร้างความแปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง

FIND THE ORBIT ของ กราวิตี ถือเป็นก้าวสำคัญ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเข้มแข็ง รวมถึงเป็นผู้กำหนดทิศทางในอนาคตอีกด้วย

Asian Academy Creative Awards

ผลงานจากไทยบนเวทีโลก Asian Academy Creative Awards

Alternative Textaccount_circle
Asian Academy Creative Awards
Asian Academy Creative Awards

ละคร/ซีรีส์ ไทย คว้ารางวัล Grand Final Winner ในงานประกาศรางวัล Asian Academy Creative Awards 2024 ณ ประเทศสิงคโปร์

สำหรับงานประกาศรางวัล เอเชียน อะคาเดมี่ ครีเอทีฟ อวอร์ด 2024 ปีนี้นั้น เกมรักทรยศ (The Betrayal) ละครไทยที่ดัดแปลงจากซีรีส์อังกฤษ เรื่อง Doctor Foster คว้ารางวัล Grand Final Winner สาขา BEST ADAPTATION OF AN EXISTING FORMAT (NON SCRIPTED) โดยมีคุณ ฐิติ สุทธิกุลพานิช และคุณ วิรดา คุหาวันต์ เป็นผู้ขึ้นรับรางวัล นอกจากนี้ยังขอแสดงความยินดีซีรีส์เรื่อง ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียวที่คว้างรางวัล BEST DRAMA SERIES โดยมีคุณ เอกชัย เอื้อครองธรรม เป็นผู้ขึ้นรับรางวัล และนักแสดงหนุ่ม ปิง-กฤตนัน อัญชนานันท์ ยังคว้ารางวัล The Best Dressed Celebrity-Fans Choice จากงานในครั้งนี้อีกด้วย

เรียกได้ว่าเป็นกระแสพูดถึงมาก ๆ สำหรับแฟน ๆ ชาวไทย กับงาน เอเชียน อะคาเดมี่ ครีเอทีฟ อวอร์ด 2024 หรือ “AACA2024” ซึ่งจัดขึ้นที่ Singapore’s historic Capitol Theatre ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม 2567 ที่เพิ่งผ่านมา เพื่อมอบรางวัลให้กับคอนเทนต์คุณภาพ ส่งเสริมและเป็นกำลังใจให้กับนักแสดง และผู้ผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์ พัฒนาคุณภาพสู่ระดับสากล โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจากนานาประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Asian Academy Creative Awards
Asian Academy Creative Awards

และในงานครั้งนี้ประเทศไทยได้มีนักแสดงและทีมงานตบเท้าเข้าร่วมลุ้นรางวัลในการประกาศผลรอบ Grand Final Winner มากมายหลายท่าน เช่น ปิง – กฤตนัน อัญชนานันท์ นักแสดงหนุ่มจากซีรีส์ The Rebound เกมนี้เพื่อนาย (Viu Thailand) , สายรุ้ง – ประภากร ไชยรักษ์ จาก ซีรีส์ The Outing ทริปซ่อนชู้ (Viu Thailand)

นอกจากบรรดาเหล่านักแสดงแล้วยังมีทีมงานคนเบื้องหลังเข้าร่วมลุ้นรางวัลอีกมากมายหลายท่าน อาทิ คุณเอกชัย เอื้อครองธรรม (Executive Producer/Show Runner) จากซีรีส์ ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียว, ออฟ-นพณัช ชัยวิมล ผู้กำกับจากซีรีส์ Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม , ฐิติ สุทธิกุลพานิชและวิรดา คุหาวันต์ จากละคร เกมรักทรยศ (The Betrayal) และยังมีผู้คนในวงการอีกหลายท่านจากหลากหลายค่ายตบเท้าเข้าร่วมงานประกาศรางวัลยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย “เอเชียน อะคาเดมี่ ครีเอทีฟ อวอร์ด 2024”นี้อีกด้วย

สำหรับ Viu Original (วิว ออริจินัล) นั้น ปีนี้ได้มีผลงานเข้าชิงรอบไฟนอลจาก ปิง-กฤตนัน อัญชนานันท์ รางวัล BEST ACTOR IN A SUPPORTING ROLE จากซีรีส์ The Rebound เกมนี้เพื่อนาย, พงศ์ธร ทองวัฒนา รางวัล BEST CINEMATOGRAPHY (FICTION) จาก Shadow เงา/ล่า/ตาย และ สายรุ้ง-ประภากร ไชยรักษ์ รางวัล BEST ACTRESS IN A SUPPORTING ROLE จากซีรีส์ The Outing ทริปซ่อนชู้

ทางด้านฝั่งของ GMMTV ก็ได้มีผู้เข้ารอบในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ นพณัช ชัยวิมล จาก Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม เข้าชิงสาขา BEST DIRECTION (FICTION), เนติ สุวรรณจินดา จากเรื่อง Only Friends เพื่อนต้องห้าม เข้าชิงสาขา Best Editing และนอกจากนี้ตัวซีรีส์เองยังได้เข้าชิงในสาขา BEST PROMO OR TRAILER อีกด้วย , วาสุเทพ เกตุเพ็ชร์ จากภาพยนตร์เรื่อง เธอ ฟอร์ แคช สินเชื่อ..รักแลกเงิน เข้าชิงสาขา BEST FEATURE FILM, พงศ์เศรษฐ์ ลักษมีพงศ์, กิตติศักดิ์ คงคา จากซีรีส์เรื่อง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม เข้าชิงสาขา BEST SCREENPLAY

ส่วนทาง Workpoint ในปีนี้ก็ได้เข้าชิงในรอบ Grand Final Winner จากรายการ FACE OFF แฝดคนละฝา เข้าชิงรางวัลสาขา BEST GENERAL ENTERTAINMENT PROGRAMME, รายการ ปัญญา 5 ดาว เข้าชิงรางวัลสาขา BEST NON SCRIPTED ENTERTAINMENT และรายการ Genwit อัจฉริยะพันธุ์ใหม่ เข้าชิงรางวัลในสาขา BEST GAME OR QUIZ PROGRAMME

ในส่วนของ Channel 3 Thailand โดย บริษัท Juve9 ในปีนี้ได้เข้าชิงในรอบไฟนอลจากละครเรื่อง เกมรักทรยศ (The Betrayal) ละครที่ดัดแปลงมาจากซีรีส์อังกฤษชื่อดังเรื่อง Doctor Foster ได้เข้าชิงรางวัลในสาขา BEST ADAPTATION OF AN EXISTING FORMAT (NON SCRIPTED)

มาถึงทางค่าย GMM Studios International และ Netflix ก็ได้ส่งซีรีส์เรื่อง ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียว เข้าชิงรางวัลในสาขา BEST DRAMA SERIES

และนอกจากนี้ยังมีผลงานจากอีกหลายสังกัดที่ได้เข้าชิงรางวัลในรอบ Grand Final Winner ในงานประกาศรางวัล เอเชียน อะคาเดมี่ ครีเอทีฟ อวอร์ด ครั้งนี้อีกด้วย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานในปีนี้ต้องยกให้ ปิง-กฤตนัน อัญชนานันท์, สายรุ้ง-ประภากร ไชยรักษ์ , แอนนี่ – เฌออัณณ์ ฤชวีชุติชัยยุทธ์ และ แม็กซ์ ณัฐพล ดิลกนวฤทธิ์ ที่ได้เป็นตัวแทนร่วมเดิน Red Carpet และขึ้นเชิญรางวัล เฉิดฉายบนเวทีนานาชาติ ประกาศผลรางวัลสำคัญบนเวที “เอเชียน อะคาเดมี่ ครีเอทีฟ อวอร์ด 2024” อีกด้วย

โดยการเข้าร่วมงานของทีมงานและนักแสดงไทยในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะอนุกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ด้านภาพยนตร์ ละครและซีรีส์ ,กรมส่งเสริมวัฒนธรรม , กระทรวงวัฒนธรรม และ THACCA-Thailand Creative Culture Agency

ปู-ไปรยา

ปู-ไปรยา เดินพรมแดง เทศกาลหนัง Red Sea ปะทะซุปตาร์ระดับโลก

Alternative Textaccount_circle
ปู-ไปรยา
ปู-ไปรยา

ออร่าแรงตลอดกาล นักแสดงสาวไทยหัวใจอินเตอร์ “ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก” ฮอตท๊อปฟอร์มตลอดเวฯ ล่าสุดโดดร่วมงานระดับโลก ร่วมเดินพรมแดงเทศกาลหนังชื่อดังแห่งภูมิภาคตะวันออกกลาง The Red Sea International Film Festival 2024 (Red Sea IFF) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-14 ธันวาคม 2567 ณ เมืองเจดดาห์ เมืองท่าริมชายฝั่งทะเลแดง ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยพิธีเปิด Opening Ceremony เปิดพรมแดงวันแรกของเทศกาลหนังดัง สาวแซ่บขวัญใจไทยแลนด์ “ปู ไปรยา” ตัวแทนจากซีรีส์ดังที่คนทั้งโลกจับตามอง “The White Lotus Season 3” จาก HBO

ปู-ไปรยา

สำหรับงานนีี้ ปู-ไปรยา มาในลุคชุดราตรีสุดแกลม Tony Ward Couture คอลเลคชั่น SPRING SUMMER 2024 จากรันเวย์โอต์กูตูร์ แบรนด์ Tony Ward แบรนด์กูตูร์ระดับโลก Tony Ward ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในการทำชุดกูตูร์สำหรับงานพรมแดง โดยเธอเลือกสวมใส่ราตรีสีน้ำเงินที่ตัดกับสีพรมแดงได้อย่างลงตัว ที่ถือว่าแบรนด์ Tony Ward ผลงานจากดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน-เลบานอนเป็นขวัญใจของชาวตะวันออกกลางเลือกนิยมสวมใส่ในโอกาสสำคัญยิ่งใหญ่ เติมเต็มลุคความแพงด้วยสร้อยคอจิลเวอร์รี่จากผู้สนับสนุนใหญ่แบรนด์ดังประจำภูมิภาคอย่างแบรนด์ “Kooheji Jewellery” มูลค่าสูงถึง 8 ล้านบาทไทย เพิ่มกิมมิกด้วยเมคอัพโซนตะวันออกกลางเพิ่มลูกเล่นที่การแต่งคิ้วเข้มกลมกล่อมงดงามลงตัวสุดๆ

งานนี้สาวสวยตัวแทนดินแดนแม่สยามเมืองยิ้ม “ปู ไปรยา” ยังมีโอกาสกระทบไหล่นักแสดงดังระดับโลกอาทิ “Emily Blunt” (เอมิลี่ บลันต์) นักแสดงมากฝีมือชื่อก้องโลกจาก The Devil wears prada ร่วมไปถึงแม่มดสุดฮอต “Cynthia Erivo” (ซินเธีย เอริโว) จากภาพยนตร์เพลงแฟนตาซีที่กำลังเข้าโรงฉายอยู่ในขณะนี้อย่าง ภาพยนตร์ “Wicked” เจ้าของบทบาท “เอลฟาบา” แม่มดผู้ชั่วร้ายแห่งตะวันตกที่กำลังเป็นกระแสนิยม ร่วมไปถึงซุปตาร์จากแดนโสม “Park Sung Hoon” นักแสดงจากซีรีส์ดัง “Squid game 2” ที่ใกล้ออนแอร์สิ้นปีนี้ด้วย

สวยสง่าราวกับเทพนิยาย 3 ชุดแต่งงานของ พราวด์ – ม.ล.สิริสมร สวัสดิวัตน์

Alternative Textaccount_circle

อบอวลไปด้วยมวลความสุขของคู่รักอีกหนึ่งคู่ ‘คุณพราวด์ – ม.ล.สิริสมร สวัสดิวัตน์’ และ ‘คุณอ๋อง – ศุภกิจ บัณฑรวรรณ’ ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เรียกว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นท่ามกลางคนสำคัญของทั้งสองคน ทั้งนี้แพรวจึงนำบทสัมภาษณ์พิเศษของเจ้าสาวเกี่ยวกับชุดแต่งงานที่เธอเลือกสวมใส่ มาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพราะแต่ละชุดมีที่มาทั้งลงทุนบินไปถึงประเทศสิงคโปร์ และแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ของพี่สาวคนสนิท

“ก่อนพราวด์จะตัดสินใจบินไปเลือกชุดที่ประเทศสิงคโปร์ พราวด์เคยไปลองชุดเจ้าสาวที่สตูดิโอในไทยมาแล้วค่ะ ก็เป็นสตูดิโอที่รวมชุดแต่งงานจากแบรนด์ต่างประเทศเหมือนกัน ซึ่งก็มีแบรนด์ที่เราชอบด้วยนะคะ แต่เขาอาจจะนำแบบชุดเข้ามาน้อยอย่างหนึ่งแบรนด์มีให้เลือกแค่ 2-3 ชุด ทำให้ยังไม่ตรงกับดีไซน์ที่เราชอบเท่าไหร่ เลยต้องข้ามไปก่อนค่ะ”

“จนพราวด์มาเจอ Ads ชุดแต่งงานของประเทศสิงคโปร์ที่เด้งขึ้นมา จากนั้นเราก็ใช้เวลาตัดสินใจแค่ครู่เดียวรีบจองตั๋วเครื่องบิน และที่พัก 2 วัน 1 คืนไปกับเพื่อนเลยค่ะ แต่ถึงจำนวนวันที่ไปจะน้อยมาก พราวด์ก็จองสตูดิโอสำหรับลองชุดไว้ถึง 4 ที่ จนได้ชุดที่ใช้ในวันแต่งงานทั้งหมด 2 ชุด”

“เริ่มด้วยชุดหน้า Backdrop จาก Monique Lhuillier Bride ที่จริงๆ แล้วแพลนเดิมชุดนี้วางไว้ใช้ในงานแต่งงานที่ขอนแก่น (บ้านเจ้าบ่าว) ค่ะ แต่พอคิดกันไปคิดกันมาได้ข้อสรุปว่า ทุกคนคงยุ่ง และเหนื่อยกันมาก เราเลยเลือกไม่จัดงานที่นั่น แต่ชุดก็ดันจ่ายมัดจำไว้แล้ว เราเลยเอาเป็นชุดหน้า Backdrop แทนค่ะ”

“ชุดที่สองพราวด์ใช้สำหรับเดินเข้างาน เป็นชุดที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด แล้วก็เป็นดั่งหวังจริงๆ ค่ะ เพราะตั้งแต่แรกเห็นเราก็ตกหลุมรักเลย พราวด์ชอบชุดที่ไม่เซ็กซี่จนเกินไป และเป็นคนชอบดอกไม้มากๆ มาเจอชุดแต่งงานจาก ‘Zuhair Murad’ ในดีไซน์แขนยาวปาดไหล่ ใช้ลูกไม้ทั้งตัว แล้วก็เป็นชุดที่คุณแม่ให้ผ่านด้วยค่ะ ชุดนี้เลยตอบโจทย์ทุกอย่าง”

“สุดท้ายชุด After Party จาก Peach by Silsupa เป็นความตั้งใจเดียวเลยค่ะที่จะให้พี่พีชดีไซน์ชุดให้ เพราะเราสนิทกันอยู่แล้ว (พี่พีชเป็นเพื่อนพี่สาว) แล้วก็วางใจด้วยค่ะพี่พีชทำชุดแนวนี้เก่ง ยังไงก็ต้องเป็นเขาอยู่ดี ระหว่างปรับแก้ชุดกันไปก็มีเรื่องให้ขำตลอด ด้วยพราวด์ไม่อยากให้ชุดโป๊มากเลยขอให้พี่พีชต่อผ้าเพิ่ม จนพี่พีชแซวว่าพี่ขอสั้นกว่านี้อีกนิดได้มั้ยน้องพราวด์ (หัวเราะ) “


keyboard_arrow_up