พ่อแม่ “บุ้ง ใบหยก” ใจดี! ไม่เรียกสินสอด “เวฟ สาริน” เผยเวลา 5 ปี พิสูจน์รักแท้

กลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยทีเดียว สำหรับการประกาศแต่งงานของนักแสดงหนุ่มอดีตพระเอก 7 สี “เวฟ-สาริน บางยี่ขัน” กับ “บุ้ง-สะธี ใบหยก” ทายาทพันล้านของ “พันธ์เลิศ-ปริยะดา ใบหยก” เจ้าของตึกใบหยก หลังจากคบหาดูใจกันมา 5 ปี ด้วยความที่เป็นสาวห้าวแถมตัดผมสั้นกุด ทำเอาหลายคนเข้าใจว่าฝ่ายหญิงเป็นสาวหล่อ และ “เวฟ” เป็นผู้ที่เปลี่ยนทอมให้เป็นเธอ ล่าสุดในรายการ คุยเช้า Show ทางช่อง one 31  “เวฟ” ได้เปิดปากถึงเรื่องแต่งงานอย่างหมดเปลือก พร้อมเผยว่า บุคลิกที่ดูห้าวของภรรยาเป็นเพียงลักษณะภายนอกเท่านั้น ถ้าได้คุยแล้วจะรู้ว่าเธอไม่ใช่อย่างที่หลายคนเข้าใจ

เปิดใจในรายการ คุยเช้า Show ทางช่อง one 31

จุดเริ่มต้นของความรักครั้งนี้
“จริงๆระยะเวลาที่เราเจอกันจนมาคบกัน รวมทั้งหมด 13-14 ปี รู้จักกันเพราะเขาเป็นเพื่อนของรุ่นน้อง ก่อนหน้าที่จะมาคบกัน ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่าน้องสาวโทร.มาถามว่า พี่เวฟมีคนเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ได้หรือเปล่า เราก็ถามกลับว่า ใครจะเปลี่ยน พอมีคนรู้จักอยู่บ้าง เขาก็บอกว่าน้องบุ้งจะเปลี่ยน เราก็ถามว่าบุ้งไหน เขาก็บอกว่าบุ้งนี้ เราก็บอกจริงเหรอ งั้นเดี๋ยวมาคุยกัน หลังจากนั้นมันคือช่วงของจังหวะที่ผมโสดพอดี ตอนแรกก็ไม่ได้ถูกชะตาหรอก แต่ชอบที่เป็นตัวของตัวเอง หลายบุคลิก มีทั้งสนุกสนาน ทั้งจริงจัง น่ารักครับ แล้วก็ขี้เล่น ที่สำคัญคือผมชอบผู้หญิงไม่แต่งหน้า คือผมโตมากับคุณแม่ที่ไม่แต่งหน้าเลย”

รู้สึกสนุกในชีวิตมากขึ้น
“หลังจากได้คบกันก็รู้สึกว่ามันมีอะไรหลากหลายมากขึ้นในชีวิตมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรหลายๆอย่าง พออยู่ด้วยกันแล้วมันไปกันได้ อยู่กันมา 5 ปีแล้วครับ จะเห็นว่าลุคเขาเป็นเหมือนผู้ชาย แต่เวลาที่เขาดูแลผม เขาดูแลเต็มที่ทุกอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือ เป็นตัวของตัวเองมากกว่า ไม่มีการเฟคเข้าหากัน อยู่แล้วมีความสุข อบอุ่น เรารักที่เขาเป็นตัวเขา รักในครอบครัวเขา เพื่อนๆเขา เพราะแวดล้อมเขาให้โอกาสตัวเองที่เราพิสูจน์ได้ และไม่แคร์ข่าวเรา”

โต้กระแสข่าวลือว่าที่ภรรยา “บุ้ง” เป็นทอม
“คนเราถ้าเห็นภายนอกมันไม่มั่นใจหรอก นอกจากจะได้ศึกษากันจริงๆ ถามว่าตัวจริงหวานไหม ผู้หญิงก็คือผู้หญิงนะ เป็นผู้หญิงคนนึง เขาเป็นคนชอบสบายๆ ไม่ชอบใส่กระโปรง ไม่ทะมัดทะแมง ถามว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนสงสัยไหม ก็มีแหละครับ แต่ผมก็บอกเขาว่าลองคุยกับเขาดูก่อนแล้วจะรู้”

ความหวานของ “เวฟ-บุ้ง” ขอบคุณครอบครัวฝ่ายหญิงให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง
“คือเรื่องการแต่งงาน การใช้ชีวิตคู่ เราคุยกันมานานแล้ว เขาก็อยากจะแต่ง  2 ปีที่แล้วเราก็คุยกัน แต่เรายังไม่พร้อม คือหนึ่ง เขาเป็นใคร เราเป็นใคร ต้องดูตัวเองก่อน ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่เขาที่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองมา 5 ปี ปัจจุบันนี้ที่ได้แต่งงานก็ต้องขอบคุณเขาที่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองว่าเราจะดูแลลูกสาวเขาได้ ผมพูดตรงๆว่า ผมคบเขาครั้งแรก ผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาเป็นทายาทใบหยก คือมันเป็นสิ่งของนอกกาย เราคบกันด้วยใจมากกว่า ถามว่าเครียดไหมในตอนแรกที่มีคนมองว่าเราตกถังข้าวสาร เอาจริงนะเครียด กลัวว่าครอบครัวเขาจะมองยังไง  เราเครียดมากกว่า แต่ก็ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ บอกว่า เวฟไม่ต้องไปอ่านนะ ใครอยากแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ต้องไปสนใจ ข่าวพวกนี้มันมาเดี๋ยวก็ไป เรารู้ว่าเราเป็นยังไง”

ครอบครัว “บุ้ง” ไม่เรียกสินสอด
“แต่งวันที่ 12 พ.ย.ปีนี้ครับ คุณพ่อคุณแม่น่ารักมาก ไม่ได้เรียกสินสอดอะไรเลย แต่เราก็ต้องเป็นตามพิธีการ ตามสมควร ให้เหมาะกับพิธีการครับ ส่วนเรื่องทายาท อยากมีนะ โดยตัวบุ้งเค้าเป็นคนที่รักเด็กอยู่แล้ว หลานคนเดียวที่เป็นลูกพี่ชาย บุ้งเค้าดูแลดีมากครับ”

หยอดหวานปิดท้าย
“จริงๆผมไม่ค่อยได้บอกเขาหวานๆ แต่วันนี้ก็อยากจะบอกว่า ขอบคุณที่อยู่ดูแลกัน อยู่เคียงข้างกันมาตลอด 5 ปี ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ พี่ๆน้องๆ ในครอบครัวของน้องบุ้งนะครับ ที่ให้โอกาสผมพิสูจน์ตัวเอง”

รายการ คุยเช้า Show
The Three Sisters Central Group

OMG! 3 บอสหญิง Central Group เผยสัมพันธ์พี่น้องเหนียวแน่นเพราะสิ่งนี้…

The Three Sisters Central Group
The Three Sisters Central Group

Central Group วันนี้ เดินทางมาถึงก้าวที่ 70 แล้ว เป็น 70 ปีที่อยู่คู่คนไทยและสังคมไทยอย่างงดงาม

ส่วนหนึ่งก็ด้วยฝีมือการบริหารของ 3 สาวพี่น้อง บอสใหญ่เซ็นทรัลกรุ๊ป อย่าง คุณยุ- ยุวดี  จิราธิวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า  บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล  จำกัด,  คุณนิด – นิตย์สินี  จิราธิวัฒน์  และคุณอ้อย – สิริเกศ  จิรกิติ  สองกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม  บริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด

อย่างที่ทราบกันว่าสามสาวพี่น้องเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของตระกูลจิราธิวัฒน์ โดยพวกเธอเข้ามาบริหารกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าในวันที่การแข่งขันรุนแรงหนักหน่วง และด้วยอินเนอร์ Working Woman ที่ทุกคนบรรจุแบบเต็มร่าง ทำให้เกือบจะ 24 ชั่วโมงของชีวิตเลยละมังที่ทั้ง 3 สาวมอบให้กับงาน งาน และงาน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ทั้งสามไม่ค่อยได้เจอกันนัก เพราะแม้แต่เวลาประชุมบอร์ดก็ยังเข้าไม่พร้อมกัน

แต่หากคุณกำลังคิดว่าสามศรีพี่น้องน่าจะไม่สนิทกันนัก ขอบอก… คิดใหม่เลยค่ะ เพราะพวกเธอรักกันอย่างเหนียว

The Three Sisters Central Group

คุณนิดเป็นฝ่ายแชร์เรื่องนี้ก่อน “โชคดีที่สุดที่สองคนนี้เป็นฝ่ายดูแลนิดมากกว่าที่นิดดูแลเขา  อย่างคุณอ้อยจะวางตัวเหมือนเป็นพี่ใหญ่ในทุกเรื่อง อยากรู้อะไร  อยากได้อะไรให้ถามคุณอ้อย  เขามีให้ทุกอย่าง  ในกระเป๋า เขานี่เหมือนกระเป๋าโดราเอมอนเลย  ลองให้เขาเปิดกระเป๋าแล้วถามว่า มีอันนี้อันนั้นไหมดูสิคะ  เขามีทุกอย่าง  ไม้จิ้มฟันยังมีเลย  หรือพวกเครื่องประดับจิเวลรี่พวกนี้นะ  คุณอ้อยก็มีเยอะ  จนมีเผื่อแผ่มาให้พี่น้อง ยืมใส่ได้ด้วย  ส่วนคุณยุจะคอยเตือนเรื่องสุขภาพ  นิดเองจึงดูแลทั้งสองคนน้อยหน่อย  เพราะทั้งคู่เก่งมากอยู่แล้ว”

ฝ่ายแบ็กอัพอย่างคุณอ้อยหัวเราะ “อ้อยไม่ค่อยได้ใช้เขาสองคนหรอกค่ะ  มีแต่เขาใช้อ้อย (ยิ้ม)  อย่างเวลาเดินทางไปด้วยกัน  คุณยุจะไม่เอาอะไรไปเลย  เพราะรู้ว่าโดราเอมอนมีทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องแบกไปให้เหนื่อย  แล้วเราไม่ได้มีแค่ของไงคะ  อยากได้เบอร์โทร. ร้านไหน  จะร้านนวดหรือร้านอาหารก็ถามอ้อยได้หมด  แต่อ้อยก็รู้ว่าถ้าเราต้องการความช่วยเหลือ  เขาสองคนก็จะช่วยเราเต็มที่ ต้องบอกว่าโชคดีมากที่มีพี่น้องผู้หญิงซึ่งสนิทกันขนาดนี้  แม้เราจะทำงานร่วมกันมานาน  แต่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงเลย เพราะความเห็นไม่ค่อยแตกต่างกันมาก  กลายเป็นข้อดีด้วยซ้ำคือทำให้เราทำงานเร็ว เพราะมองอะไรคล้ายกัน”

คุณยุตอบปิดท้าย  “เราสามคนเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกัน  แล้วยังทำงานด้วยกันอย่างหนักหน่วงยาวนานมา 35 ปีแล้ว  จึงรู้ทางกันหมด น้อยครั้งที่เราจะคิดอะไรไม่ตรงกัน  และหากมีเราก็จะพยายามปรับจูนเข้าหากัน  อย่างไรเสียพี่น้องก็ตัดไม่ขาด  ไม่มีใครจริงใจเท่ากับพี่น้องแล้ว ทุกวันนี้เราจึงยังคุยกันได้ทุกเรื่อง  มีเรื่องทุกข์ใจมาก็เล่าให้กันฟัง  แต่แค่ปรึกษานะ  เพราะสิทธิ์ในการตัดสินใจต้องให้เจ้าตัว เราไม่บังคับกัน  บางเรื่องเราก็พูดจนลูกบ่น  คือลูกไม่ชอบให้เรานำเรื่องส่วนตัวของเขาไปพูดให้ใครฟัง  แต่บางเรื่องเราคิดว่าเป็นเรื่องตลก  จึงอยากแชร์ให้น้องฟัง  ลูกก็จะบอกว่า ‘หม่าม้าอย่าเล่าเรื่องนี้ให้น้าฟังนะ’ (หัวเราะ)  เรียกว่าสนิทกันมากจนรู้สึกว่าเราพูดกันเยอะเกินไป  บางบ้านเขายังมีช่องว่างบ้าง  แต่เราจะรู้ทุกเรื่องของกันและกันหมดเลย”

ว่าแต่ใครสงสัยบ้างว่าไม่ค่อยได้เจอกันแล้วทำไมอัพเดททุกเรื่องของกันและกันได้ขนาดนี้  งานนี้คุณอ้อยมีเฉลย ”เราสามพี่น้องมีกรุ๊ปแชตไว้คุยกันค่ะ คือจริงๆ ตระกูลเรามีทั้งหมด 3 กรุ๊ป คือ  “All Sisters” ที่รวมเฉพาะพี่น้องผู้หญิง  “All Siblings” รวมพี่น้องทั้งหญิงชาย  แล้วก็ยังมีอีกกรุ๊ปนึงที่มีแค่เรา 3 คน…

“ใช้ชื่อว่า The Three Sisters โดยอ้อยเป็นแอดมินเอง”

ว้าว… สมเป็นบอสใหญ่ กุมธุรกิจที่ไม่เคยหยุดพัฒนาอย่าง Central Group จริงๆ

 

ที่มาเรื่อง : คอลัมน์ ‘สัมภาษณ์’ แพรว ฉบับที่ 910

ซึ้งปนเศร้า! “อั้ม-พัชราภา” และ “ไฮโซแหวน” แต่งหน้าศพ มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้มีพระคุณในวาระสุดท้าย

เป็นที่ทราบดีในวงการว่า ถ้าได้ชื่อว่าเป็นเพื่อน พี่สาว น้องสาวของ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” แล้ว ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรเธอพร้อมที่จะเคียงข้างไปด้วยกันเสมอ ล่าสุดนางเอกอันดับหนึ่งได้สูญเสียรุ่นพี่ในวงการที่เปรียบเสมือนพี่สาว “พี่เสา-เสาวลักษณ์ นิยมพานิช” บอสใหญ่ของแบรนด์เครื่องสำอางมิสทีน ดำรงตำแหน่งผู้จัดการแผนกอาวุโสด้านการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์และดูแลศิลปิน บริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังทรมานกับอาการป่วยจากโรคมะเร็ง โดยก่อนหน้านี้เธอไปเยี่ยมพี่สาวคนนี้ที่โรงพยาบาลวันเว้นวัน ซึ่งสร้างความประทับใจจน “คุณเสา” ต้องโพสต์ขอบคุณ

“พี่เสา” ขอบคุณ “อั้ม” นางเอกดังที่เปรียบเสมือนน้องสาว

ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมามีข่าวร้ายว่า “เสาวลักษณ์ นิยมพานิช” ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ท่ามกลางคนบันเทิงที่เคยร่วมงานแสดงความเสียใจผ่านหน้าอินสตาแกรม @saovaluk5_mistine อย่างคับคั่ง

บรรยากาศงานศพที่วัดทดราษฏร์เจริญมณีฤทธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มีพิธีรดน้ำศพและพระอภิธรรมศพเป็นคืนแรกที่วัดทดราษฏร์เจริญมณีฤทธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา และในพิธีรดน้ำศพ เซเลบริตี้สาว “แหวนแหวน-ปวริศา เพ็ญชาติ” ซึ่งมักได้รับเลือกให้ทำหน้าที่พิธีกรในการเปิดตัวสินค้า และ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” นางเอกที่ “คุณเสา” เลือกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ตั้งแต่ครั้งแรกให้กับเครื่องสำอางได้มาร่วมกันจัดพิธีศพพร้อมแต่งหน้าให้ผู้มีพระคุณในวาระสุดท้ายด้วย

“แหวนแหวน-อั้ม” มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้มีพระคุณในวาระสุดท้าย
“อั้ม” รดน้ำศพ

ภาพจาก @shuttercake.p,nanimikkiholic

ข้ออ้าง (หรือคิดจริง) ที่เขาไม่อยากลงลิ้นให้กับคุณ

account_circle

ใช่ว่าสาวๆ เท่านั้นที่รู้สึกตะขิดตะขวงใจจะใช้ปากให้กับของสงวนของอีกฝ่าย เพราะเท่าที่มาดามรู้มาเนี่ย หนุ่มบางคนก็อ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนกันนะเวลาที่สาวเจ้าเฝ้าเพียรขอให้ช่วย ลงลิ้น ให้ที เพียงแต่เหตุผล (อ๊ะ! หรือข้ออ้างก็ไม่รู้นะ) ของเขาน่ะสารพัดสารเพจริงๆ ทั้งฮา ทั้งเงิบ ทั้งแบบว่า…เอ๊ะหรือจะจริง ไปเช็คกันดีกว่าป่ะละ

“สารพัดกลิ่นไม่พึ่งใจ”

เคยลงลิ้นแล้วนะ เลยเข็ด!! ก็คุณนั่นละจ้ะสาวๆ ที่ไม่ดูแลสุขภาพน้องสาวให้ดี ลงไปทีโอ๊ย…อยากจะกลั้นใจตาย แม้สาวบางนางจะบอกว่า เฮ้ยยยยของแบบนี้มันก็มีบ้าง แต่ถ้าคุณริจะมีเซ็กส์แบบเร่งด่วนที่ไม่ได้อาบน้ำขัดสีฉวีน้องกันก่อน ก็ต้องดูแลความสะอาดเบื้องต้นไว้บ้างนะ ที่สำคัญมาดามยืนยันนะว่าด้วยกลไกของร่างกายที่พระเจ้าสร้างมา ได้จัดระบบทำลายของเสียกลิ่นไม่พึงประสงค์เบื้องต้นไว้บ้างแล้ว อยู่ที่คุณนั่นแหละต้องดูแลต่อบ้าง ถ้าคุณไม่ดูแล ปล่อยกลิ่นปลาเค็มปลาร้าเหม็นเน่าให้ลอยละลิ่ว ก็สมควรละปะที่เขาจะผงะหนี

“ทุ่งหญ้าป่าเขาลำเนาไพร”

ต้องบอกไหมว่าทุ่งหญ้าที่ว่าคือหญ้าชนิดไหนหรือขึ้นที่ภาคไหนบนเรือนกาย ใช่ว่าหนุ่มทุกคนจะชอบลุยป่านะฮะ แต่ในที่นี้มาดามไม่ได้บอกหรือบังคับว่าคุณต้องถางป่าให้โล่งเตียนเสมอไป เอาเป็นว่ารู้จักดูแลรักษาป่าต้นน้ำของคุณบ้างก็คงจะดี ไม่ใช่ว่าพอเขาจะลุยต้องใช้เวลาแหวกหญ้าอยู่นานกว่าจะเจอบ่อน้ำ เผลอๆ แหวกๆ ไปเจอสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ นี่กรี๊ดเลยนะ และถ้าคุณรู้ว่าหนุ่มของคุณชอบป่าที่ตกแต่งสวยงามยังกับสวนสวรรค์แล้วละก็ ยิ่งต้องไม่ลืมหาคนมาดูแลสวนเอาใจเขาบ้าง รับรองว่าเขาจะท่องป่าพาคุณไปสู่โลกสวันน่าแน่นอน

“พลังลมปราณฉุกเฉิน”

ไม่ขำนะสำหรับหัวข้อนี้ เพราะสาวบางคนลมในท้องอาจจะเยอะเกินไป พอเขาลงลิ้นให้เมื่อไหร่ เธอเป็นต้องผายลมทุกครั้ง ของแบบนี้มันอดทนอดกลั้นกันได้ ไม่เชื่อลองดูสิ แหม…ถ้ารักกันแค่ตดแล้วรังเกียจอันนี้ก็น่าน้อยใจ แต่คิดดูนะว่าถ้าหน้าอยู่ใกล้ในรัศมีน้อยกว่าคืบแล้วมีทั้งลมอุ่นๆ กับกลิ่นเบาๆ ลอยมีแตะจมูกเนี่ย เป็นคุณจะยังสตรองไหวป่ะ

“สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ”

ก็จริงนะที่ถ้าจะลงลิ้นก็ควรโฟกัสแต่ตรงจุดนั้น แต่คุณค่ะเซ็กส์ที่ดีประกอบด้วยหลายสิ่ง เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าเขาเอาแต่เล็งไปที่เป้าของคุณใช่ไหม หนุ่มบางคงจึงให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมแถวๆ น้องสาวเหมือนกัน บอกเลยว่าถ้าขาหนีบดำระดับอ่อนๆ ก็ยังพอลุยต่อได้ แต่ถ้าแบบว่าดำจัดหรือปล่อยเนื้อปล่อยตัวซะจนเกิดผื่นขึ้นหรือสิวพดขึ้นมา หนุ่มบางคนก็…คิดนะ

“ปากคุณไม่อยู่นิ่ง”

เขาลงลิ้นให้คุณด้วยความรักนะ แต่อารมณ์มันชะงักเพราะคุณนั่นแหละพล่ามเกิ๊น เดี๋ยวก็ติบ้างละว่าไม่โดนจุด เดี๋ยวก็บ่นบ้างละว่ามันยังไม่ใช่ ผู้ชายกับความมั่นใจและศักดิ์ศรีในการมีเซ็กส์เนี่ยสุดยอดนะจะบอกให้ ครั้นจะให้เขามาทนฟังคนสั่งการหรือพุดเหมือนสอนว่าเขายังอ่อนหัดเนี่ย มันไม่ได้เลยนะขอบอก ฉะนั้นต่อให้เขาจะไม่ได้อย่างใจ ก็ไม่ควรตำหนิตรงๆ เพราะยิ่งทำแบบนั้นเขาจะยิ่งหมดอารมณ์อยากจะเสิร์ฟลิ้นให้คุณมากขึ้นๆ แหม…ก็กำลังเพลินก็พูดอีกล่ะ เธอๆ ตรงนั้นไม่ใช่ เธอๆ ทำไมมันไม่โดนซะที ทางที่ดี ลองอ่าน “เมื่อผู้หญิงอยากบอก “ณ จุดนั้น ที่คุณโรมรัน มันยังไม่ใช่” จะได้รู้ว่า วิธีบอกเขาให้ตรงจุด มันต้องบอกยังไง

มาถึงจุดนี้ เข้าใจตรงกันละนะคะว่า เหตุผลกลใดหนุ่มบางคนถึงไม่ค่อยอยากลงลิ้นให้กับคุณ ถ้าอ่านแล้วคุณเข้าข่ายจงรีบปรับปรุง ก่อนที่น้องสาวจะเฉาสนิทเพราะเขาร้องยี้ส่ายหน้าทุกทีแบบว่าไม่เอาอีกแล้วลาก่อนกู้ดบายยยย

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : http://i.huffpost.com

6 นางเอกกับบทบาทแม่ในชีวิตจริง บอกเลยถึงมีลูกก็ยังสวยไม่สร่าง

ใกล้ถึงวันแม่แล้ว แพรวดอทคอมก็ขออัพเดตเรื่องราวเกี่ยวคุณแม่ในคอลัมน์นี้สักหน่อย โดยความพิเศษคือเราจะพาสาวๆไปดูการแต่งตัวของแม่ๆที่มีดีกรีเป็นถึงนางเอกแถวหน้าของไทย แม้คุณแม่บางคนจะผันตัวไปทำงานเบื้องหลัง หรือรับบทบาทอื่นนอกเหนือจากบทนางเอกไปแล้ว แต่ภาพลักษณ์ของพวกเธอก็ยังคงเป็นนางเอกในสายตาแฟนละครอยู่ดี วันนี้แพรวดอทคอมเลยมีคอนเทนต์แฟชั่นของคุณแม่นางเอกมาให้ดูกัน

ส่วนนางเอกที่กลายเป็นคุณแม่ไปแล้วจะมีใครบ้าง ต้องตามอ่านจ้า

 

แอฟ – ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ

นางเอกหน้าหวาน น้องเอยของพี่วิกจากเรื่องใจร้าว โสรยาจากจำเลยรัก หรือละครพีเรียดอย่างวนิดา ก็ทำให้คนรักสาวแอฟกันทั่วบ้านทั่วเมือง ถึงจะออกเรือนแต่งงานมีลูกสาวที่น่ารักอย่างน้องปีใหม่ไปแล้ว แฟนๆก็ยังคงคิดถึงฝีมือการละครของนางเอกหน้าหวานคนนี้อยู่ตลอด แพรวดอทคอมเองก็ยังอยากดูเลย อิๆ แต่เวลาผ่านไปคุณแม่แอฟก็ยังสวยหวาน การแต่งตัวก็มีความเรียบร้อย ตามภาพลักษณ์ของเธอไม่มีเปลี่ยน

ชุดสีขาวของคุณแม่แอฟมีความเข้าคู่กับลูกสาวสุดๆ น่ารักมากเลย


 

ลุคสาวแอฟใส่กางเกงอาจไม่ค่อยคุ้นตา แต่ก็ออกมาสวยมาร์ทเลยแหละ


สาวแอฟกับลุคขี่ม้าริมทะเล แม้จะใส่ยีนส์แต่ก็มีเสื้อสีขาวที่ให้ความชิลได้อยู่ 


d

อ้อม – พิยดา จุฑารัตนกุล

นางเอกอีกคนที่ผันตัวไปเป็นผู้จัด แต่บทบาทนางเอกของเธอจากหลายเรื่องๆ ก็ยังคงตรึงตราตรึงใจคนดูเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาลัยสามชายที่แฟนละครติดหนึบ หรือเรื่องเลือดขัตติยา เก็บแผ่นดิน และสองเรานิรันดรที่มีซีนเรียกน้ำตาท่วมจอ ถือว่าสร้างความประทับใจให้คนดูสุดๆ แต่ตอนนี้นางเอกฝีมือดีแต่งงานและเป็นคุณแม่ของน้องนาวาไปแล้ว เรื่องการวางตัวและการแต่งตัวก็เป็นไปตามวัยมีความเหมาะสม สวยดูดีตลอด

น้องนาวาเกาะแขนคุณแม่แน่นเชียว น่ารักกกก ส่วนสาวอ้อม – พิยดา ก็มาในเดรสลูกไม้สีขาว สวยสมวัย


d

คุณแม่ขอเซ็กซี่หน่อยด้วยเดรสเกาะอกตัวยาว และใส่โช้กเกอร์เข้าไปช่วยเพิ่มความเท่ให้กับลุค


d

เดรสสีขาวดีไซน์โก้ก็สวย ดีเทลเข็มขัดตรงเอวก็เก๋ เป็นคุณแม่ที่เลือกแต่งตัวได้ดีเลยค่า


f

เบนซ์ – พรชิตา ณ สงขลา

ต่อกันที่นางเอกสาวตาคม ที่ดังสุดๆจากเรื่องสะใภ้ไร้ศักดินา เพลงโดเรมีที่สาวเบนซ์ร้องในเรื่อง ก็ดังและได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น คือไม่มีใครไม่รู้จักจริงๆ อย่างทุกวันนี้เพลงกินจุ๊บจิ๊บยังถูกใช้อยู่เลย ฮาๆๆ และแม้ว่าหลังๆเราจะเห็นสาวเบนซ์ในบทนางร้ายบ้าง หรือบทนำที่ไม่ใช่นางเอกบ้าง แต่ภาพจำของเธอคนนี้ก็คือนางเอกอยู่ดี ถึงจะมีน้องปริม ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนแล้วสาวเบนซ์จะอวบขึ้นหน่อย แต่การแต่งตัวของเธอก็ปังนะจ๊ะ รอดทุกลุค เพราะการปรับเสื้อผ้าให้เข้ากับรูปร่างตัวเอง สาวเบนซ์เธอถนัดเลยจ้า

เดรสยาวกับรูปร่างสูงๆของเธอช่างรับกันจริงๆ แถมความน่ารักด้วยผ้าผูกผมเข้าไปก็ยิ่งสวย


คุณแม่สายเท่ก็ได้ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ทำให้แม่เบนซ์ดูเด็กลงสุดๆ


เดรสสีสุภาพ ให้ลุคความเป็นคุณแม่ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีความน่ารัก


แหม่ม – คัทลียา แมคอินทอช

คนต่อไปแหม่ม – คัทลียา แม่นกยูงจากเรือนมยุรา หรือจะเป็นส้วม ในเรื่องเขาวานให้หนูเป็นสายลับ ชื่อนางเอกที่แปลกแบบไม่มีใครเหมือนก็ทำให้ชื่อนี้ดังไม่แพ้ละครเลย ถึงตอนนี้คุณแม่แหม่มจะมีลูกสามคนแล้ว ก็ยังดูแลตัวเองให้สวยอยู่ตลอด และเรื่องสไตล์การแต่งตัวก็เข้ากับวัยแบบไม่ป้าด้วยนะจ๊ะ ใครที่เป็นคุณแม่ลูกสามแล้วก็แอบดูแฟชั่นของแม่แหม่มได้จ้า

ลุคพักผ่อนสบายๆกับครอบครัว ท่านั่งของคุณแม่และคุณลูกถอดแบบมาเลยนะ คิ้วต์มากกกก


f

เดรสลูกไม้สีดำกับกระเป๋าหนังงูของแม่แหม่ม ลุคนี้ดูสวยสง่า งามมาก


f

เดรสลายชมพูดำ มีดีเทลผูกโบตรงเอว ก็ให้ลุคดูเป็นผู้ใหญ่สมวัยอีกแล้ววว


f

หมิว – ลลิตา ปัญโญภาส

นางเอกตลอดการอีกคน สำหรับหมิว – ลลิตา ผลงานละครดังที่สาวหมิวเล่น ถูกกลับมารีเมคลงจอใหม่เยอะมาก อย่างเรื่องปริศนา วนิดา และทรายสีเพลิง ที่ล่าสุดเป็นเวอร์ชั่นของสาวชมพู่ – อารยา และยังมีอีกหลายเรื่องที่นางเอกมากฝีมือฝากไว้เป็นความทรงจำดีๆของแฟนละคร ซึ่งตอนนี้แม่หมิวก็มีลูกชายที่โตเป็นหนุ่มแล้ว และก่อนหน้านี้ทั้งคุณแม่และลูกชายก็ให้เกียรติขึ้นปกนิตยสารแพรวด้วยจ้า

ลูกๆโตกันหมดแล้ว แต่คุณแม่ยังสวยสดใสดอยู่เลย และเดรสสบายๆตัวนี้ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมาก 


d

มาในลุคที่ดูเป็นทางการกันบ้าง กับเสื้อและกางเกงสีขาว เครื่องประดับมีความเข้าชุด โก้หรูได้อีก


f

ลุคทะมัดทะแมงแบบนี้ มีความเข้ากับแม่หมิวได้ดีเลยนะ


d

พอลล่า เทเลอร์ 

นางเอกลูกครึ่งไทย – อังกฤษ ถึงภาพความเป็นวีเจของสาวคนนี้ดูจะชัดกว่านางเอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อจับงานละครก็ได้รับบทนางเอกตลอด อย่างซิตคอมเรื่องดัง เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร จนไปถึงภาคจบของซิตคอม บทขวัญใจ นางเอกของเรื่องก็ยังเป็นที่จดจำได้ถึงทุกวันนี้ และตอนนี้ขวัญใจในซิตคอมก็ได้กลายเป็นคุณแม่ในชีวิตจริงแล้ว แต่ความสวยใสของสาวพอลล่าก็ไม่มีเปลี่ยนไปเลย สไตล์การแต่งตัวก็ได้ทุกแนว

คุณแม่ยังสาวต้องคนนี้เลยจ้า การแต่งตัวก็ยังเริ่ดดด เดรสตัวนี้ดูเซ็กซี่เบาๆนะจ๊ะ


ชุดเดรสออกงานก็ยังมีความเป็นพอลล่าอยู่ดี คือแต่งอะไรก็สดใสตลอด


สาดความเท่ในแบบคุณแม่กันบ้าง แต่ลุคนี้เด็กมากกกก ดูไม่ออกเลยว่าเป็นคุณแม่ลูกสองแล้ว


กกก

ถึงนางเอกแต่ละคนจะเป็นคุณแม่แล้วแต่ก็ยังสวยจริงๆ ส่วนเรื่องการแต่งตัวที่ปกติก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิงอยู่แล้ว แต่พอเป็นคุณแม่ก็ยิ่งต้องคำนึงการแต่งตัวของตัวเองมากขึ้น ต้องดูดี สุภาพ เหมาะสม ประมาณว่ามีลูกแล้วจะทำอะไรก็ต้องคิดเผื่อไปหมด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการแต่งตัว สำหรับนางเอกทั้ง 6 คนที่แพรวดอทคอมเลือกมาพูดถึงกัน ก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้เลยดี ทั้งการวางตัวและแฟชั่นที่ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง

สาวๆคนไหนที่เป็นคุณแม่แล้ว และมีสไตล์การแต่งตัวคล้ายๆกับคุณแม่ทั้ง 6 คน ก็เข้าไปติดตามแฟชั่นของพวกเธอในไอจีกันได้เลย เผื่อจะมีไอเดียแต่งตัวแบบใหม่ผุดขึ้นมาทำให้สามีหลงได้อีก อิๆ

กก

เรื่อง : Hana (ฮานะ)

ภาพ : IG@pornchita , @aff_taksaorn , @aomphiyada , @mcintosh , @paulataylorbuttery , @mewlalita.fanpage

 

 

มีความเอาใจใส่? เบลล่าลุยช่วย น้ำท่วมอีสาน เวียร์ขันอาสาดูแลใกล้ชิด

น้ำท่วมอีสาน ภัยธรรมชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนในท้องถิ่น แต่นอกจากความทุกข์ยากของผู้ได้รับความเดือดร้อนแล้ว เรื่องราวดีๆ ก็มีแทรกเจออยู่เช่นกัน

ดังเช่นภาพจุดรอยยิ้มของคู่ที่ยังไม่บ่งสเตตัสชัด เบลล่า-เวียร์ ที่เหตุ น้ำท่วมอีสาน ทำให้เราได้เห็นความชัดเจนของคู่นี้มากขึ้น

ถึงจะมีข่าวความสัมพันธ์พิเศษกันมานานร่วม 5 ปีแล้ว แต่ภาพคู่ของนางเอกช่อง 3 “เบลล่า-ราณี แคมเปน” กับ พระเอก 7 สี “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” ก็ยังไม่ค่อยมีปรากฏตามสื่อสักเท่าไหร่ จนล่าสุดเป็นที่ฮือฮาเมื่อมีภาพทั้งคู่นั่งเรือออกไปแจกถุงยังชีพสำหรับผู้ประสบปัญหาน้ำท่วมที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งนอกจากจะเรียกรอยยิ้มจากแฟนคลับของ 2 หนุ่มสาวแล้ว ยังทำให้ชาวบ้านที่ประสบภัยมีรอยยิ้มในช่วงเวลาหนึ่งด้วย

ล่าสุดมีโอกาสได้เจอกับนักแสดงสาว เบลล่า จึงไม่พลาดที่จะสอบถามถึงเรื่องนี้

เบลล่า-ราณี แคมเปน
“เบลล่า-ราณี แคมเปน”

ถามถึงเรื่องไปช่วยน้ำท่วมกับเพื่อนๆ และ “พี่เวียร์” เป็นอย่างไรบ้าง ถือเป็นการเปิดเผยความสัมพันธ์มากขึ้นไหม?

เปิดตัวอะไรเหรอ(หัวเราะ) แต่จริงๆ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ปิดนะ(ยิ้ม) ถ้ามีโอกาสก็มีไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง คนมาขอถ่ายรูปเราก็ไม่ได้ติดอะไร ยิ่งเกี่ยวกับภัยน้ำท่วมอีสาน เรายิ่งรู้สึกว่าไปทำสิ่งดีๆ เพราะไปช่วยเหลือคน เป็นสิ่งที่อยากทำและพี่เขาก็อยากทำเหมือนกัน

“สำหรับการเดินทางไปแจกถุงยังชีพ เริ่มจากเห็นข่าวที่สกลนครน้ำท่วม รู้สึกว่าอยากไปช่วย เพราะเหมือนน้ำท่วมปี 54 ที่ท่วมหลายจังหวัด บ้านเบลเองเคยท่วมมาก่อน จึงรู้ว่ามันเป็นยังไง เลยรู้สึกว่าเราอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มากก็น้อย จึงได้เล่าให้ “พี่เวียร์” ฟัง พี่เขาก็บอกว่ามีเพื่อนอยู่ที่ จ.สกลนคร เดี๋ยวประสานงานให้ แล้วเขาก็ไปประสานงานจนสำเร็จ เบลก็หาวันลงพื้นที่ พี่เขาก็บอก งั้นเดี๋ยวไปด้วย จะได้ไปช่วยดูแล เพราะมันจะมีบางจุดที่เป็นน้ำลึก แต่จริงๆ ก็ไม่อันตรายอะไร เบลก็เซฟตัวเองด้วยการใส่ชูชีพ แล้วยังมีเจ้าหน้าที่ และพี่ๆ อาสาคอยช่วยดูแล

“การลงพื้นที่ช่วยเหลือคราวนี้แวะทั้งหมด 3 จุด รวมจุดที่เอาถุงยังชีพไปสต็อคไว้สุดท้ายก็ 4 จุด จุดแรกเหมือนน้ำลดลงมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีจุดที่ค่อนข้างลึก ซึ่งจุดนั้นชาวบ้านเดือดร้อนมาก เขาต้องทิ้งบ้านมาอยู่สำนักสงฆ์ ซึ่งเราได้เห็นความทุกข์ของชาวบ้าน โดยตอนที่ลงพื้นที่มีคุณป้าคนนึงมาระบายว่าสามีโดนงูเห่ากัด กำลังจะไปโรงพยาบาลแต่ไปไม่ได้ เลยต้องกลับมารีดพิษเอง เขารู้สึกดีใจมากที่เราไปช่วยเขา ยังเอาน้ำเย็นมาให้กินด้วย มันเป็นความรู้สึกที่ดี”

น้ำท่วมอีสาน
“เบลล่า-เวียร์”ช่วยน้ำท่วมที่จ.สกลนคร

ความรู้สึกที่ได้ไปช่วยเหลือคนเป็นยังไงบ้าง?

“ชาวบ้านแค่เห็นเราเขาก็ดีใจแล้ว ยิ้มให้เรา แทนที่เราจะได้เห็นความทุกข์ แต่เขาดีใจที่เราไป เข้ามากอด และบอกว่าชื่นชอบเรา หลายพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้า เราก็เอาถุงยังชีพไปให้”

หลายคนบอกว่าเราปล่อยภาพออกมาทีละนิดเพื่อกันแฟนคลับช็อก?

“ไม่ได้มองว่าอยากจะปล่อยภาพ หรือไม่ได้มองว่าจะลำดับอะไรยังไง คือไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลย และรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ได้แย่หรือเสียหายอะไร มันเป็นเรื่องดีๆ ด้วยซ้ำ”

อย่างนี้เรียกว่ามั่นใจประมาณนึงแล้วได้ไหม?

“กับพี่เขาก็คุยกันมาประมาณหนึ่ง เราแค่รู้สึกว่าคนเราจะรู้จักกันมากขึ้น มันก็ต้องเรียนรู้และศึกษากัน ถามว่า 5 ปีที่ผ่านมาพี่เขาสม่ำเสมอไหม? ความจริงแล้วมันแล้วแต่ช่วงเวลาด้วย ข่วงที่เราทำงานหนักมากๆ ก็ไม่ได้มาโฟกัสตรงนี้สักเท่าไหร่ ถามว่าที่ผ่านมาทุกอย่างดีไหม โอเคค่ะ เบลโอเคกับ 5 ปีที่ผ่านมานะ”

น้ำท่วมอีสาน
ลุยช่วยน้ำท่วมภาคอีสาน

จัดเป็นความรู้สึกดีๆ ท่ามกลางวิกฤตน้ำท่วมอีสานเลยเนอะ

ของขวัญวันแม่

เตรียมเซอร์ไพรส์คุณแม่ด้วยสกินแคร์ “8 เซตของขวัญ” สุดพิเศษ รับรองแม่ปลื้มปริ่มยิ้มแก้มปริชัวร์

Alternative Textaccount_circle
ของขวัญวันแม่
ของขวัญวันแม่
ตื่นเต้นจัง อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแม่แห่งชาติอีกครั้งแล้วนะคะ สำหรับปี 2017 นี้ คุณลูกๆ มีเตรียมของขวัญไว้เซอร์ไพรส์คุณแม่กันหรือยังคะ นอกจากพวงมาลัยดอกมะลิสดหรือเข็มกลัดดอกมะลิแบบเดิมๆ ก็คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรให้คุณแม่ดี ที่สามารถใช้ได้นานๆ แถมชื่นใจด้วย นี่เลยค่ะ แพรวดอทคอม ได้จัดเตรียมแนะ  8 เซตของขวัญที่เหมาะจะมอบให้คุณแม่ รับรองคุณแม่ปลื้มปริ่มฟินสุดๆ จะมีอะไรบ้างดูเลยค่ะ ชอบเซตไหนรีบไปซื้อมาซ่อนไว้เตรียมเซอรไพรส์กันนะคะ

 

SABAI-AROM Jasmine Infusion

คัดสรรกลั่นกลิ่นหอมละมุนชวนผ่อนคลายจากชาอู่หลงและดอกมะลิ พร้อมด้วยน้ำมันเมล็ดชาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันมูลนิธิชัยพัฒนามาบรรจุในผลิตภัณฑ์แห่งความสุข มีคุณสมบัติในการคืนความชุ่มชื้นซ่อมแซมและต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นอย่างดี พร้อมคุณค่าจากส่วนผสมธรรมชาติอื่นๆ กว่า 90%

  • SABAI-AROM Jasmine Infusion Hand Cream (75 กรัม / 239 บาท) ครีมบำรุงมือและเล็บ คืนความชุ่มชื่นให้ผิวแห้งกราน พร้อมกลิ่นหอมของชามะลิ
  • SABAI-AROM Jasmine Infusion Body Cream (200 กรัม / 379 บาท) ครีมบำรุงผิวกาย ช่วยซ่อมแซมและปกป้องผิวแห้งกร้านให้นุ่มน่าสัมผัส
  • SABAI-AROM Jasmine Infusion Nourishing Oil (100 มิลลิลิตร / 299 บาท) น้ำมันบำรุงผิว ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้านได้ดีให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง

DIVANA เซตผลิตภัณฑ์กลุ่มดอกมะลิ ประกอบไปด้วย

  • Divana Amrita Jasmine Immortal Rejuvenate Conditioner (354 มิลลิลิตร / 780 บาท) ครีมนวดผมให้นุ่มสลวย
  • Divana Amrita Jasmine Immortal Rejuvenate Shampoo (330 มิลลิลิตร / 780 บาท) แชมพูกลิ่นหอมชื่นใจ
  • Divana Amrita Jasmine Immortal Rejuvenate Shower Gel (350 มิลลิลิตร / 750 บาท) เจลอาบน้ำชำระสิ่งสกปรก เหลือไว้เพียงความหอม
  • Divana Amrita Jasmine Immortal Rejuvenate Organic Body (150 มิลลิลิตร / 1,250 บาท) ฟท้นฟูให้ผิวกายเนียนนุ่ม
  • Divana Amrita Jasmine Immortal Rejuvenate Hand Cream (80 กรัม / 780 บาท) และ(30 กรัม / 350 บาท) บำรุงมือและเล็บ

เริ่ดค่ะ มีครบหมดให้ใช้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากันเลยทีเดียว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิ จะทำให้คุณแม่ผ่อนคลายและนึกถึงคุณลูกที่ซื้อให้ด้วยนะ นี่ถ้าซื้อครบเซตแบบนี้แม่ปลื้มแย่เลย


THANN

กลิ่นหอมของดอกมะลิช่วยกระตุ้นการทำงานของคลื่นเบต้าในสมอง แสดงถึงการตื่นตัว ความมีพลัง กระฉับกระเฉง ในขณะเดียวกันกลิ่นหอมของมะลิยังช่วยสร้างความสงบสมดุลให้กับจิตใจ และเติมความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว

  • Jasmine Blossom Shower Cream (250 มิลลิลิตร / 750 บาท) นวัตกรรมแห่งการทำความสะอาดผิวด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากประเทศฝรั่งเศส ที่ผสมน้ำมันลงในเนื้อครีมอาบน้ำได้ถึง 8.5% ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
  • Jasmine Blossom Rice Extract Body Milk (250 มิลลิลิตร / 990 บาท) ครีมบำรุงผิวสารสกัดธรรมชาติทรงคุณค่าเสมือนวิตามินเอ ช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวให้เพิ่มขึ้น พร้อมกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว
  • Jasmine Blossom Infinite Hand Cream (40 กรัม / 790 บาท) ถนอมผิวมือให้เนียนนุ่มในทุกสัมผัส

ERB

เป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นสูตรโดยใช้พิกัดเกสร 7  ดอกไม้ไทยโบราณทั้ง 7 ประกอบด้วย พิกุล, บุนนาค, สารภี, บัวหลวง, มะลิ,จำปา และกระดังงา นำมาสกัดเป็นส่วนผสมหลักในการบำรุงผิว ปลอบประโลมผิว และต่อต้านการเกิดริ้วรอยแห่งวัย เรียกได้ว่าเป็นตำรับความงามแบบชาววัง ในคอลเล็คชั่นที่มีชื่อว่า Seven Pollen

  • Seven Pollen Cleansing Oil (120 มิลลิลิตร / 1,950 บาท) คลีนเซอร์เนื้อออยล์ ช่วยทำความสะอาดดูดซับเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด และมอบการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นจากน้ำมันธัญพืชสกัดเย็น
  • Seven Pollen Cleansing Water (120 มิลลิลิตร / 1,600 บาท) คลีนเซอร์ชนิดน้ำใสเนื้อเบา ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าหลังจากชำระล้างเครื่องสำอางด้วย Cleansing Oil แล้ว
  • Seven Pollen Face Detox Mask (ราคา 2,450 บาท) ดีท็อกซ์ให้ผิวใสด้วยมาส์กสุดพิเศษ ที่ต้องผสมสดใหม่ก่อนใช้ เพื่อให้ได้คุณค่าของสารอาหารผิวสูงสุด
  • Seven Pollen Balancing Essence (120 มิลลิลิตร / 2,200 บาท) เอสเซนส์เป็นตัวแรกหลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อให้การบำรุงในขั้นตอนต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • Seven Pollen Face Serum (30 มิลลิลิตร / 3,350 บาท) ส่วนผสมพิเศษในเซรั่มนี้คือข้าวงอก และขมิ้นชัน ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินให้สีผิวสม่ำเสมอ
  • Seven Pollen Face Cream (50 กรัม / 2,950 บาท) ครีมบำรุงผิวหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินตามธรรมชาติของผิว ปกป้องผิวจากริ้วรอยแห่งวัย

HARNN 

ผลิตภัณฑ์สปาเพื่อผิวมาพร้อมกับส่วนประกอบที่มาจากธรรมชาติ สรรค์สร้างความสมบูรณ์แบบและความเป็นหนึ่งอันเดียวกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติได้อย่างลงตัว ชุดผลิตภัณฑ์ HARNN Jasmine Body Care (700 บาท) ประกอบด้วย
  • Jasmine Natural Body Lotion (85 มิลลิลิตร) ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติของดอกมะลิ รังสรรค์กลายมาเป็นครีมบำรุงผิวกาย ช่วยให้ได้รู้สึกผ่อนคลาย
  • Jasmine Natural Cleansing Gel (85 มิลลิลิตร) เจลทำความสะอาดผิวกายสูตรธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูให้ผิวที่แห้งกร้านรู้สึกสะอาด ชุ่มชื่นและผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมแบบอโรมา

PAÑPURI

PAÑPURI Jasmine Hydration Body Gift Set (2,190 บาท) ชุดของขวัญขนาดกลางที่รวบรวมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกลิ่นอ่อนโยนจากมะลิผลิบานยามค่ำคืน  ประกอบด้วย

  • Siamese Water Uplifting Body Cream (200 มิลลิลิตร) โลชั่นบำรุงผิวให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส
  • Siamese Water Uplifting Body Cream Wash (200 มิลลิลิตร) ครีมอาบน้ำเนื้อสัมผัสละมุน
  • Siamese Water Uplifting Hand and Nail Cream (75 มิลลิลิตร) ครีมบำรุงเล็บและผิวมือให้ชุ่มชื่น มีอวบอิ่ม สุขภาพดี

 

RAMAI

รมัย ผลิตภัณฑ์สปาคุณภาพฟรีเมี่ยม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “จรุงเสน่ห์ไทย รมัยนิรันดร์” ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านกลิ่นที่คิดค้นเพื่อสร้างมนต์เสน่ห์ของความงามตามแบบฉบับหญิงไทยยุคใหม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้วย “Siam Rose Collection” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นหอมของดอกกุหลาบพันธุ์จุฬาลงกรณ์ เป็นกลิ่น “Signature” ของแบรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกกุหลาบสีชมพู ให้กลิ่นที่หอมละมุนเป็นพิเศษ

สยาม โรส คอลเลคชั่น ประกอบด้วย น้ำมันนวดบำรุงผิว (Massage Oil), เจลอาบน้ำ (Shower Gel), ครีมบำรุงมือและเล็บ (Hand and Nail Cream), ครีมบำรุงผิวกาย (Body Lotion), สบู่ (Soap) และผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของคอลเลคชั่นนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Siam Rose Massage Candle เทียนอโรมาที่ผสานไปด้วยคุณค่าของ Soy Wax ที่เข้มข้นด้วยโปรตีน และวิตามิน อี ที่บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น ประกอบกับน้ำมันมะพร้าวที่เข้มข้นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และน้ำมันมะกอกที่เป็นเกราะปกป้องผิวจากมลภาวะ ราคาสอบถามได้ที่ facebook/RAMAI


ALL ABOUT YOU
ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเครื่องสำอางออร์แกนิกแห่งแรกในไทย     

Alteya Organic Bulgarian Rose Water (100 มิลลิลิตร / 680 บาท) น้ำกุหลาบบริสุทธิ์ 100% ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของร้าน ALL ABOUT YOU กลั่นด้วยไอน้ำจากดอก Rosa Damascena ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ป้องกันการเกิดสิว และการอักเสบของผิว ช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื้น และชะลอการเหี่ยวย่นของผิว ฟื้นฟูและกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ สามารถใช้ได้กับผิวหน้าและเส้นผม

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : ลิขสิิทธิ์แบรนด์

หม่อมเจ้าการวิก

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก…ก่อนจะถึงสันติภาพ (ตอนที่28)

หม่อมเจ้าการวิก
หม่อมเจ้าการวิก

หม่อมเจ้าการวิก ลักลอบเข้าเมืองไทย

หม่อมเจ้าการวิก และคณะเพื่อนทหารเสรีไทยเตรียมตัวลักลอบเข้ามาปฏิบัติการในเมืองไทยผ่านเป็นไปด้วยดี เพราะได้รับความช่วยเหลือจากคณะเสรีไทยในเมืองไทย ขณะที่สถานการณ์สงครามโลกในยุโรปได้สิ้นสุดลงเมื่อเยอรมันประกาศยอมแพ้

ในราวเดือนสิงหาคม พ.ศ.2487 ปู่จุดได้รับอนุมัติจากสำนักงานใหญ่ของกองกำลัง 136 ในแคนดี้ ให้ส่งพวกช้างเผือกกลุ่มที่สามเข้าประเทศไทย และทางนายปรีดีขอให้ส่งแดง คุณะดิลก เข้ามาพร้อมกับคณะที่สามนี้ด้วย

ขณะนั้น แดงซึ่งได้เดินทางกลับมายังศรีลังกาเพื่อร่วมงานกับหน่วย O.S.S. ของสหรัฐฯ ปู่จุดจึงได้ติดต่อถึงกองบัญชาการทหารสูงสุดของสัมพันธมิตรที่แคนดี้ ขอตัวแดงมาร่วมคณะของกองกำลัง 136 ซึ่งทาง O.S.S. ตอบตกลง และแดงได้เดินทางมาฝึกกระโดดร่ม แต่เคราะห์ร้ายที่การซ้อมครั้งแรกแดงได้รับบาดเจ็บค่อนข้างหนัก ต้องนอนพักผ่อนอย่างน้อย 1 เดือน

แต่คณะที่จะกระโดดร่มเข้ามาโดยใช้ชื่อรหัส‘บริลหลิก’ (BRILLIG) ประกอบด้วยกฤษณ์กับประเสริฐ ซึ่งถูกกำหนดให้ร่วมคณะกับแดงนั้นไม่สามารถที่จะเลิกได้ ทั้งสองจึงเข้าเมืองไทยมาเมื่อวันที่ 7 กันยายน และให้ไทยทำหน้าที่เป็นสถานีวิทยุแห่งที่สองอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อรับข้อความที่หัวหน้าขบวนการต้องการให้ส่งถึงกองกำลัง 136 ในขั้นต่อไป

หลังจากคณะบริลหลิกเข้าประเทศไทยแล้ว ปู่จุดได้เขียนแผนงานอย่างสวยหรูว่า SIAM PLAN ระบุจุดประสงค์ในการช่วยเหลือประเทศไทยในด้านการฝึกอบรม และสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ในการต่อต้านญี่ปุ่น ทั้งร่วมปฏิบัติงานกับกองบัญชาการสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตร-ซีแอค (SOUTH EAST ASIA COMMAND-SEAC)

พันโทปีเตอร์ พอยน์ตัน หรือปู่จุด

ทางสำนักงานใหญ่ของกองกำลัง 136 ในแคนดี้ เสนอแผนนี้ต่อซีแอคอย่างภาคภูมิ แต่ยังทำอะไรจริงจังไม่ได้ ต้องรอทาง S.O.E. ในลอนดอนสั่งการก่อน หน่วยงานนี้ขาดความคล่องตัวในการทำงาน เพราะคณะทำงานเป็นตัวแทนมาจากกระทรวง (กลาโหม ต่างประเทศ สงคราม เศรษฐกิจ) การจะพิจารณาแผนงานแต่ละเรื่องจึงเสียเวลาและมีอุปสรรค แล้วระยะทางก็ห่างไกลกันมาก การติดต่อทางโทรเลขย่อมไม่สะดวกเท่ากับการพบหน้าคุยกันโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของแผนนี้ ปู่จุดได้ส่งพันตรี แอนดูรว์ กิลคริสต์ ผู้ช่วยผบ.ไปเจรจากับสำนักงานใหญ่ของกองกำลัง 136 ที่แคนดี้ เสนอแผนส่งพวกช้างเผือกกลุ่มที่ 4 เข้าประเทศไทยโดยเร็วที่สุด แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจา โดยให้ความเห็นว่าปู่จุดเป็นคนมองไทยในแง่ดี และไว้ใจขบวนการในประเทศมากเกินไป และแนะนำให้เปลี่ยนแผนการใหม่ คือ ส่งกลุ่มช้างเผือกเข้าไปดำเนินงานเป็นเอกเทศ ไม่ต้องขึ้นกับขบวนการในประเทศ และปฏิบัติงานตามแผนของกองกำลัง 136 เท่านั้น

เมื่อกิลคริสต์กลับมารายงานความล้มเหลวนี้ ปู่จุดก็รายงานชี้แจงไปว่า คณะช้างเผือก 2 และคณะกุมารจีน 3 คณะที่เข้าไปในไทยโดยไม่ได้ติดต่อล่วงหน้ากับขบวนการในประเทศ ล้วนปฏิบัติงานไม่สำเร็จ ในขณะที่คณะบริลหลิกซึ่งขบวนการในประเทศรับรู้มาแต่ต้นกำลังปฏิบัติได้ผลดียิ่ง ในที่สุดทางแคนดี้ก็จำนนด้วยเหตุผลที่เป็นจริง จึงสั่งให้ดำเนินการตามที่ปู่จุดเสนอ หลังจากต้องเสียเวลาไปนานถึง 2 เดือน

หลวงอดุลเดชจรัส

ในต้นเดือนพฤศจิกายน ปู่จุดส่งวิทยุถึงป๋วยว่า จะส่งพวกช้างเผือกไปลงที่ภูกระดึง จังหวัดเลย ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าชุกชุมแต่ฝ่ายไทยตอบกลับมาว่า หลวงอดุลฯขอเสนอให้ลงที่บริเวณป่าในอำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานีแทน เพราะจะปลอดภัยกว่า และไม่ถูกชาวบ้านสงสัย ซึ่งคณะที่กระโดดเข้ามานั้นใช้รหัสว่า ‘คัพลิ่ง’(COUPLING) ประกอบด้วยเสนาะ (หัวหน้าคณะ) ประโพธ (ส่งวิทยุ) และเทพ (ผู้ช่วย) โดยเดินทางออกจากอินเดียตอนหัวค่ำของคืนวันที่ 5 ธันวาคม รุ่งขึ้นป๋วยส่งข่าวมาว่าทุกคนปลอดภัย และให้เตรียมตัวส่งเข้ามาอีกในเดือนหงายตอนต้นปีพ.ศ.2488 ต่อไป

เหตุการณ์ต่อมาคือ เมื่อคณะบริลหลิกได้เข้าพบนายปรีดีและหลวงอดุลฯ แล้วหัวหน้าขบวนการทั้งสองก็ตกลงใจจัดส่งตำรวจสันติบาลชุดแรกออกไปฝึกอบรมในศรีลังกา ตำรวจคณะนั้นมีทั้งหมด 8 คน มีร้อยตำรวจเอก รัตน์ วัฒนะมหาตม์ เป็นหัวหน้าคณะทางกองกำลัง 136 ให้ชื่อรหัสตำรวจคณะนั้นว่า ‘ช้างดำ’ (เรียกย่อๆว่า BLACKS) ซึ่งมีจุดประสงค์รับไปฝึกเป็นพนักงานวิทยุ เพื่อช่วยปฏิบัติงานแทนพวกเราในระหว่างที่ทุกคนเข้ามาปฏิบัติงานในเมืองไทย โดยผมได้รับคำสั่งให้ขึ้นเครื่องบินคาทาลีนา (CATALINA) มารับคณะนี้ที่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล ในคืนหนึ่งของปลายเดือนธันวาคม โดยสวัสดิ์เป็นผู้พานายตำตรวจทั้ง 8 คนลงเรือศุลกากร ออกจากฝั่งมาขึ้นเครื่องบินที่จอดรออยู่กลางท้องทะเล แล้วนำทั้งหมดไปที่เมืองโฮรานา (HORANA) ประเทศศรีลังกาแทนในอินเดีย ซึ่งบริเวณนั้นเป็นดงมะพร้าว และอยู่ในที่ลี้ลับพอควร ผมอยู่ที่นั่นคืนหนึ่ง จากนั้นก็กลับมายังกัลกัตตา

(คณะที่มาฝึกเป็นพนักงานวิทยุนี้ ภายหลังได้กลายเป็นกำลังสำคัญของเมืองไทยในด้านเครือข่ายการสื่อสาร และร้อยตำรวจเอก รัตน์ วัฒนะมหาตม์ ได้เป็นหัวหน้าข่ายสื่อสารคนสำคัญของพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ กินตำแหน่งพลจัตวา (พันตำรวจเอกพิเศษ))

เมื่อคณะคัพลิ่งเข้าเมืองไทยมาแล้ว เป็นอันว่ายังเหลือคณะช้างเผือกอยู่ในอินเดียอีก 10 คน คือ จีริดนัย ภีศเดช บุญส่ง ปัทม์ อรุณ วัฒนา กำแหง ประพฤทธิ์ ทศ และผม ซึ่งแผนการของปู่จุดในช่วงปลายปีพ.ศ.2487 คือ จะแยกพวกเราทั้งสิบคนออกเป็น 5 คณะ เพื่อเร่งส่งเข้าเมืองไทยให้หมดภายในต้นปีพ.ศ.2488 เขาจึงคาดคั้นเคี่ยวเข็ญให้ทุกคนฝึกหัดส่งวิทยุให้มีมาตรฐาน แต่พวกเราที่ฝึกส่งวิทยุไม่ผ่านมี 3 คน คือ อรุณ บุญส่ง และทศ

พลจัตวาวิคเตอร์ เจคส์

ในระหว่างเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พวกเราได้ไปเดลีเพื่อเยี่ยมเยียนพบปะเพื่อนฝูงเสรีไทยฝ่ายบุ๋นที่ทำงานอยู่ที่นั่น ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่จะได้เห็นหน้ากันเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ เพราะพวกเราที่ฝ่ายบู๊ทุกคนจะต้องเข้าเมืองไทยภายในพ.ศ.2488

เพื่อนๆที่เดลีอาลัยพวกเรามาก เป็นห่วงว่าพวกเราที่จะเข้าไปปฏิบัติงานในประเทศคงจะไม่รอดชีวิต เมื่อถึงเวลาที่ทหารไทยและขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นในไทยลุกฮือขึ้นปฏิบัติการร่วมกับกองทัพสัมพันธมิตร เพราะได้ยินมาว่าพวกญี่ปุ่นเป็นทหารกล้าตาย สู้จนถึงที่สุดโดยไม่ยอมแพ้

แล้วในช่วงปลายปีนั้นเอง ทุกคนก็ได้รับข่าวดีของสงครามในยุโรปคือ กองทัพอังกฤษ สหรัฐอเมริกาและรัสเซียกลับเป็นฝ่ายรุกกลับ คาดว่าเยอรมันและอิตาลีจะต้องพ่ายแพ้ในไม่ช้า ทางเอเชียเองแสนยานุภาพของญี่ปุ่นก็อ่อนกำลังลงมาก และตกเป็นฝ่ายรับ ในพม่ากองทัพอังกฤษเริ่มได้เปรียบในการรบบริเวณคาบสมุทรอาราข่าน ใกล้พรมแดนอินเดีย และเตรียมส่งทหารมาเสริมกำลังรบในตะวันออกไกล

แล้วสงครามโลกในยุโรปก็ยุติลงเมื่อมุสโสลินี-ผู้นำอิตาลีถูกจับและประหารชีวิตเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2488 ฮิตเลอร์กระทำอัตวินิบาตกรรม เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2488 และเยอรมันประกาศยอมแพ้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2488

สันติภาพโลกกำลังจะหวนคืนสู่โลกในไม่ช้านี้แล้ว

 

 

 

 

 

น้องฉัตร

โบใหญ่กระโปรงไฟกะพริบได้ “น้องฉัตร” Makeover ตัวเองเป็นสาวสวยสุดสะดิ้ง ฆ่าชะนีตายเรียบ

Alternative Textaccount_circle
น้องฉัตร
น้องฉัตร
เคยแต่เมคโอเวอร์คนอื่นมาซะเยอะ ถึงคราว น้องฉัตร – ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ” เมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง เมคโอเวอร์ตัวเองเป็นผู้หญิงสำหรับไปปาร์ตี้ซะงั้น งานนี้จัดเต็มโบใหญ่กระโปรงไฟกะพริบอลังการงานสร้างสุดๆ แดงแรงฤทธิ์ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากันไปเลย คอสตูม เครื่องสำอางแน่นเว่อร์ ทั้งวิกผม ขนตาปลอม คอนแท็คท์เลนส์ ฯลฯ บอกเลยว่าแม่อั้ม แม่ชมพู่ แม่พลอย คนดังระดับตัวแม่ทั้งหลายตายเรียบ แม่ก็แม่เถอะ เพราะเจ้าแม่ฝีแปรงมหัศจรรย์ลงมือแต่งตัวเองซะขนาดนี้ รับรองสวยพิฆาตชะนีไปเลยค่ะ ไม่เชื่อไปลองชมภาพและคลิปในอินสตาแกรมของ nongchat ด้านล่างนี้เลยจ้า

 

 

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพจาก Instagram : nongchat

ดูดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : มีความเป็นผู้นำสูง เมื่อมุ่งมั่นจะทำการณ์สิ่งใดแล้วจะเดินหน้า แม้มีอุปสรรคก็ไม่ย่อท้อ หากต้องตัดสินใจอะไรขอให้เชื่อเซ้นส์ตัวเอง เพราะวันนี้ลางสังหรณ์ท่านแม่น

การเงิน : ระวังการบริหารจัดการเงินจะถูกหลอกหรือถูกโกงได้

ความรัก : วันนี้ท่านยอมให้ครอบครัวทุกอย่าง ขออย่างเดียวอย่ามาจำกัดอิสรภาพกัน มีเคือง คนโสด มีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม แนะนำให้เลือกคนเกิดปีวอกหรือปีระกา เพราะมีความรักจริงหวังแต่ง

สุขภาพ : ระวังโรคปวดหลังและปวดกระดูก รวมถึงโรคเครียด นอนไม่หลับ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อวานทุกข์ วันนี้สุข โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับการเกษตร หรือศิลปหัตถกรรม

การเงิน : ดีเลิศ มีโชคลาภ มีคนอุปถัมภ์ค้ำจุน

ความรัก :  วันนี้ความรักราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ตลอดวัน คนโสด ท่านจะเป็นที่อิจฉาริษยาของคนอื่น เพราะมีคนเข้ามาติดพันมากมาย แล้วรักจริงหวังแต่งเสียด้วย  

สุขภาพ : ท่านทานอาหารยากแล้วเลือกทานด้วย จึงควรต้องทานวิตามินเสริม

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  ระวังหน่อยค่ะวันนี้ ท่านอาจต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่คาบลูกคาบดอก หรือสถานการณ์ที่ยากลำบาก ต้องใช้ความสามารถและทักษะเฉพาะตัว เพื่อเอาตัวรอด

การเงิน :  ท่านกล้าเสี่ยงและกล้าลงทุน อาจกระทบทำให้การเงินสะดุดได้

ความรัก : วันนี้ท่านพยายามจะเอาชนะ หากอยากรู้อะไรต้องรู้ให้ได้ จึงอาจเป็นเหตุให้มีปากเสียงกันได้ คนโสด ระวังผู้หญิงจะมีเสน่ห์รุนแรง และมีฤทธิ์แฝงอยู่ในตัว

สุขภาพ : ปกติท่านไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากเป็นจะถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อเลยทีเดียว

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : ยังเอาแน่นอนไม่ได้ มีปัญหาขลุกขลักเข้ามาให้แก้ไขอยู่ตลอด จนถึงอาจมีโอกาสเป็นคดีความในเรื่องของผลประโยชน์ ควรหาบริวารที่ดีมีฝีมือมาช่วยดำเนินการ

การเงิน   : ไม่ควรค้ำประกัน หรือทำสัญญากู้ยืมเงิน เพราะท่านอาจต้องแบกรับหนี้สินเอง

ความรัก : ลดทิฐิ ลดความคาดหวังในชีวิตคู่ลงให้มากๆ เพราะเมื่อไม่คาดหวังก็ไม่ทุกข์ แล้วท่านจะได้กลับมาเกินกว่าที่ต้องการอีก คนโสด อาจถูกบอกเลิกกระทันหัน จนไม่อยากมีใครอีก

สุขภาพ : ลองไปตรวจเช็คสายตาดูบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ยังคงไม่หลุดจากวงการศิลปะศิลปิน ความสวยงาม วันนี้ท่านจะได้รับโอกาสดี มีความมั่นคง มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

การเงิน :   หาเงินได้เยอะจึงใช้เยอะ ส่วนมากจะหมดกับความสุขส่วนตัว

ความรัก : วันนี้ขอใช้เวลาอยู่ด้วยกันแบบสุนทรี รื่นรมย์ ดื่มกินในบรรยากาศที่ดี โรแมนติก ความสุขแบบนี้จะรออะไรล่ะ คนโสด มีคนมาจีบเยอะ แต่ท่านก็เลือกเยอะเช่นกัน จนกว่าจะพบคนที่ถูกใจ

สุขภาพ : พิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหารเลิศรส จนอาจมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินมาตรฐาน

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : มีหน้าที่ภาระรับผิดชอบงานที่หนักหนาสาหัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ท่านมีความมานะและอดทนมากกว่าคนอื่น อย่างไรก็ผ่าน

การเงิน : มีความสามารถด้านการบริหารการเงินเป็นอย่างดี

ความรัก : วันนี้ท่านยังให้ความสำคัญกับการทำงานมากกว่าแสดงออกในเรื่องของความรัก  คนโสด โอกาสและจังหวะยังไม่เอื้ออำนวย เป็นโสดต่อไปอีกหนึ่งวันนะคะ

สุขภาพ  :  ท่านไม่ชอบทานยาและไม่ไปหาหมอ จากไม่สบายเล็กๆ จึงมีอาการหนักขึ้น

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : อยู่นิ่งไม่ได้ค่ะ ต้องเดินทางหรือมีเหตุให้ติดต่อสื่อสารทั้งวัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ จนทำให้ท่านคิดมากและวุ่นวายใจ

การเงิน : เข้ามือซ้ายออกมือขวา บางทีต้องรบกวนผู้ใหญ่บ้าง

ความรัก :  อาจอยู่กันมานาน วันนี้เข้าสู่ช่วงเบื่อหน่าย วุ่นวายใจ ควรชวนกันไปดินเนอร์เปลี่ยนบรรยากาศ หรือหยุดยาวนี้วางแผนไปเที่ยวกันบ้างก็ดี คนโสด ท่านวางสเป๊คไว้สมบูรณ์แบบ อาจต้องรอคนๆ นั้นนานนิดนึง

สุขภาพ : ระวังเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม อาจเป็นความดันควรไปตรวจเช็ค

10 ชุดแต่งงานไทยจากละครน่าใส่ในชีวิตจริง

account_circle

หากพูดถึงฉากแต่งงานในละครไทยหลายคนคงนึกถึงฉากที่พระเอกกับนางเอกใส่ ชุดแต่งงานไทย ง่ายๆ จัดพิธีที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายเพราะคิดว่าเป็นแค่ฉากหนึ่งในละครแค่นั้น แต่วันนี้เราได้เฟ้นหาละครที่มีฉากแต่งงานแบบประเพณีไทยรวมถึงดีเทลชุดเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่เรียกได้ว่าลงลึกถึงแก่นของยุคสมัยนั้นๆ  จะเด็ดดวงแค่ไหนไปย้อนยุคย้อนดูกันเลยค่ะ เอ้ย! ไปดูกันเลยค่ะ

ขุนศึก
ชุดแต่งงานแบบไทยจากละคร “ขุนศึก”

1. พูดถึงละครย้อนยุคช่วงอยุธยาที่มีชุดไทยสวยๆ ก็คงพลาดไม่ได้กับ “ ขุนศึก ” ที่ลาจอไปเมื่อปี 2555 โดยเฉพาะชุดแต่งงานแม่หญิงเรไรโทนสีเขียวดูเย็นตา ห่มสไบและตาดที่ปักลวดลายหลากสีสัน นุ่งผ้าสีเขียว ส่วนเครื่องประดับนั้นก็จัดเต็มทั้ง ต่างหู สร้อยคอ กำไล เข็มขัด พร้อมกับทรงผมมวยต่ำปักปิ่นทองและมาลัยซีกสีขาว

ส่วนชุดของอ้ายเสมาก็ดูเข้ากันด้วยเสื้อคอจีนแขนกระบอกสีครีมนุ่งโจงสีเขียวรับกับผ้าคาดเอวสีแดงเข้มลายทองทับด้วยเข็มขัดเส้นโต เรียกได้ว่างานนี้ธีมชุดไทยสีเขียวนวลตาและดูเข้ากันสุดๆ ไปเลยค่ะ

ข้าบดินทร์
ชุดแต่งงานแบบไทยจากละคร“ข้าบดินทร์”

2. ชุดแต่งงานของพ่อเหมและแม่ลำดวนจากละครพีเรียด “ข้าบดินทร์” ก็ไม่ทำแฟนๆ ผิดหวัง โดยเฉพาะฉากแต่งงานที่ดูเรียบง่ายจัดตามพิธีไทย แม่ลำดวนที่สวยสะพรั่งในชุดไทยแขนกระบอกสีขาวปักลายทอง ห่มด้วยสไบจีบสีชมพูทับอีกชั้นด้วยผ้าตาดสีชมพูอ่อนแถบฟ้า นุ่งผ้าสีชมพูลายไทย สวมเครื่องประดับอย่างต่างหู สร้อยคอ สังวาล เข็มขัด และกำไล ทรงผมทำง่ายๆ ด้วยการมวยต่ำและปักปิ่นทองแซมมาลัยซีกงามตา ส่วนเจ้าบ่าวอย่างพ่อเหมก็สวมเสื้อคอจีนแขนกระบอกสีน้ำตาลกระดุมสีทอง และนุ่งโจงสีสีทองหม่นเขียว มีผ้าสีทองคาดเอว หล่อลากกระชากใจแม่ยกเลยทีเดียว

3

3. ย้อนเวลาทบทวนความจำกันหน่อยกับละครเรื่อง “ สี่แผ่นดิน ” เวอร์ชั่นละครทีวีในปี 2546 ในฉากแต่งงานที่แม่พลอยสวมใส่ชุดแต่งงานไทยประยุกต์แขนหมูแฮมสีชมพู พร้อมนุ่งโจงสีเข้ากันกับสีเสื้อ เครื่องประดับมีแค่กำไลทอง หวีผมเก็บเรียบง่ายตามแบบสมัยรัชกาลที่ 5  ส่วนคุณเปรมหรือเจ้าบ่าวก็หล่อไม่น้อยหน้าด้วยชุดไทยประยุกต์ สวมสูทสีครีมและนุ่งโจงกระเบนสง่างาม

ti10

4. “ ทวิภพ ” ที่จบไปในปี 2554 ก็ไม่ทำให้แฟนละครผิดหวัง กับชุดในพิธีแต่งงานของแม่มณีกับคุณหลวงอัครเทพวรากร โดยแม่มณีสวมเสื้อผ้าลูกไม้แขนหมูแฮมสีชมพูอ่อนสะพายแถบแพรสีเขียวใบไม้ลายทอง นุ่งโจงสีเขียวสดใส สวมใส่เครื่องประดับทอง เช่น สร้อยคอเส้นยาว ต่างหู และเข็มขัด รวบผมเก็บทรงมวยต่ำประดับด้วยปิ่นทองและมาลัยซีกสีแดงแซมขาว ส่วนคุณหลวงเทพฯ ก็สวมชุดราชประแตนและนุ่งโจงสีเขียวอมฟ้า แบบสมัยเครื่องแต่งกายรัชกาลที่ 5

บ่วงบาป

5. “ บ่วงบาป ” ละครพีเรียดชื่อดังแห่งปี 2556 ซึ่งก็ทำให้หลายคนนั้นหมั่นไส้ในความร้ายของแม่รำพึงไม่น้อย แต่ถึงจะร้ายแค่ไหนก็คงกลบความสวยของแม่รำพึงในฉากแต่งงานไม่ได้ โดยนางปรากฏกายในชุดไทยห่มสไบผ้าลูกไม้สีครีม นุ่งโจงกระเบนสีทอง เรื่องประดับมีเพียงต่างหู 1 คู่ สร้อยเส้นใหญ่ 1 เส้น กำไลทองสวมข้อมือ 1 วง และเข็มขัดเส้นงาม ทำผมทรงมวยต่ำแซมด้วยมาลัยซีกสีขาว แม้การแต่งตัวจะไม่ได้มากเหมือนนางเอก 4 คนแรกแต่ก็งามสมฐานะลูกเจ้าพระยา ส่วนขุนพิทักษ์นั้นก็หล่อตามแบบฉบับชายไทยไทยด้วยชุดราชปะแตนและโจงกระเบนสีน้ำเงินสีน้ำเข้ม

ลอออร-และ-ยศ-ล

6. ละครพีเรียดน้ำดีที่มีกระแสดอีกเรื่องก็คือ “มาลัยสามชาย” ที่เรทติ้งพุ่งแรงสุดๆ ในปี 2553 และหากถามถึงฉากแต่งงานก็แน่นอนว่าแม่ลอออรได้แต่งงานถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งที่ใส่ชุดไทยแท้ๆ นั้นคือการแต่งงานครั้งแรกกับคุณยศ โดยแม่ลอออรสวมสวมชุดไทยประยุกต์แขนทรงหมูแฮมสีครีมคาดสายแถบแพรสีขาว นุ่งโจงสีทองพร้อมเครื่องประดับมุกอย่างต่างหู สร้อยคอ ทำผมทรงดอกกระทุ่มเรียบง่าย คุณยศนั้นก็หล่อแบบชายเจ้าเล่ห์ด้วยชุดราชปะแตนและนุ่งโจงสีเหลืองทอง

อนวัชพัชรพจนาถ(หนึ่ง)-หทัยรัตน์ราชาพิทักษ์(ปุ้ม)-ล

7. ลาจอเมื่อไปเมื่อปีที่แล้วกับละครเรื่อง “หนึ่งในทรวง” ซึ่งฉากที่ทำให้สาวๆ ฟินกันไม่รู้ลืมก็คือฉากแต่งงานที่มีการจัดพิธีแบบเรียบง่าย โดยคุณปุ้มสวมชุดไทยจักรีสีขาวครีม ผ้าสไบปักพลอยสีเขียวและดิ้นทองสวยงาม เข้ากันกับผ้านุ่งสีครีมลายทอง เครื่องประดับก็เป็นแบบเรียบง่ายเช่น ต่างหู เข็มขัด และกำไล ทรงผมรวบเป็นมวยต่ำสวยงาม ส่วนคุณหนึ่งเจ้าบ่าวสุดหล่อก็สวมชุดราชปะแตน นุ่งโจงสีฟ้า สวยหล่อแบบนี้แฟนๆ ไม่ฟินได้ไงล่ะ

วนิดา-ล.วนิดา-

8. “วนิดา” ละครพีเรียดสุดคลาสสิกแห่งปี 2553  ที่ทำให้แฟนละครนอนจิกหมอนกันทั้งประเทศ กับฉากเด็ดวันงานแต่งงานที่พันตรีประจักษ์หล่อเหลาในชุดข้าราชการทหารเต็มยศ ส่วนนางเอกก็สวยงามด้วยชุดไทยประยุกต์สีเหลืองทอง เสริมด้วยเครื่องประดับอย่างต่างหูเล็กๆ สร้อยคอสีทอง เข็มขัด และพาหุรัด บวกกับการเกล้าผมและประดับด้วยปิ่นทอง สวยหยดย้อยขนาดนี้ พันตรีประจักษ์จะไม่หลงรักได้ยังไง

สะใภ้จ้าว

9. “สะใภ้จ้าว” ออกอากาศในปี 2558 ก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ช่อง 3 โดยเฉพาะฉากแต่งงานที่ดูเรียบง่ายสไตล์ผู้ดี โดยม.ร.ว.กิตติราชนรินทร์ (ชายรอง) สวมชุดไทยประยุกต์เสื้อสูทสีขาวครีมนุ่งโจงสีทอง ดูหล่อแบบคุณชายมาดเท่ ส่วนเจ้าสาวคนสวยอย่างสาลินก็ห่มสไบสีครีมปักลายอย่างประณีตสวยงาม พร้อมทั้งเครื่องประดับที่ดูไม่มากเกินไปอย่าง ต่างหูทอง สร้อยทอง สายสังวาลย์ เข็มขัดเส้นสวยและกำไลทอง 2 วง ทรงผมเก็บเรียบสวยงามปักด้วยปิ่นทอง

ปดิวรัดา

10. ละครเรทติ้งพุ่งกระฉูด “ปดิวรัดา” ภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อสามี แหมก็ทำให้คนแฟนๆ ฟินกันทุกฉากซะขนาดนี้จะไม่ยกฉากแต่งงานมาให้ชมกันได้ยังไง งานนี้นางเอกสาวรินใช้ชุดแต่งงาน 2 ชุด โดยในพิธีสงฆ์นางเอกใส่ชุดไทยประยุกต์สีเงิน ช่วงบนเป็นเสื้อแขนยาวซีทรู ต่อผ้าระบายสวยงามช่วงไหล่า ใช้เครื่องประดับเพียงแค่ต่างหูและเข็มขัด ทรงผมเกล้ามวยสูงและประดับปิ่นเงินเล็กๆ

ชุดที่สองคือชุดในพิธีรดน้ำสังข์ เป็นชุดไทยจักรีสีครีมทอง สไบปักลวดลายอย่างสวยงาม สวมใส่เครื่องประดับทองประกอบด้วย ต่างหู กำไล และเข็มขัด ทำผมทรงเดียวกันกับพีสงฆ์ แต่เปลี่ยนเป็นปักปิ่นทอง ด้านเจ้าบ่าวหรือคุณปลัดศรัณย์ก็สวมชุดราชประแตนและนุ่งโจงสีทองในพิธีสงฆ์ ส่วนพิธีรดน้ำสังข์สวมชุดสูทขาวทั้งชุด

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับชุดแต่งงานพิธีไทยที่เราจัดมาให้สาวๆ ได้ดูกัน ใครชอบตัวละครไหนหรือชุดแบบไหนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานแต่งของของตัวเองได้นะคะ

ขอบคุณภาพละครจาก : www.pantip.com, www.matichon.co.th, www.pantip.com, aketarot.blogspot.com, drama.kapook.com, www.bloggang.com, tv.truelife.com, dara.truelife.com

สปา

ชี้เป้า 7 สปาสุดหรูที่ควรพาคุณแม่ไปนวดผ่อนคลายสักครั้ง รับรองแม่ชอบ เชื่อสิ

Alternative Textaccount_circle
สปา
สปา

วันแม่วนมาบรรจบครบอีกปีแล้วนะคะ ถ้าสาวๆ คนไหนที่ยังไม่ได้มองหาของขวัญวันแม่ไว้แสดงความรักล้นใจ แพรวดอทคอม ขอแนะนำให้ลองพาคุณแม่ไปทำทรีทเมนต์ลดริ้วรอย ชะลอวัย เพิ่มความอ่อนเยาว์ หรือทำสปา เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้คุณแม่สบายตัวและรู้สึกดีขึ้นเป็นพิเศษในวันแม่นี้ดีกว่า รับรองเป็นของขวัญที่คุ้มค่ามากแก่การลงทุนเพื่อแม่ ซึ่ง แพรวดอทคอม ได้ลิสต์สปา 7 แห่งใจกลางกรุงเทพฯ มาให้สาวๆ ตัดสินใจแล้วค่ะ

ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิก สปา (Pañpuri Organic Spa)

Jasmine Indulgence แพ็กเกจเพื่อการดูแลปรนนิบัติอย่างเต็มที่ถึง 3 ชั่วโมง เริ่มต้นด้วยการแช่เท้า ตามด้วยบอดี้สครับด้วยผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกกลิ่นแบล็คจัสมิน ด้วยส่วนผสมบริสุทธิ์จากมะลิ มะกรูด และไม้จันทร์ พร้อมเผยความเปล่งปลั่งกระจ่างใสให้กับผิว หลังจากนั้นเป็นการนวดตัวด้วยน้ำมันออร์แกนิกเพื่อเป็นการผ่อนคลายจิตใจและช่วยให้ใจสงบนิ่ง ใช้เทคนิคการนวดที่หลากหลายเพื่อความผ่อนคลายสูงสุด ต่อด้วยการนวดเท้าเพื่อคลายเครียดเป็นเวลา 30 นาที และจบด้วยการนวดหน้าจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก

พิกัด : ชั้นล็อบบี้ของเกษร วิลเลจ ย่านราชประสงค์ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00-21:00 น.


คลาแรงส์ สกิน สปา (CLARINS Skin Spa)

สปาพรีเมียมอันดับ 1 จากประเทศฝรั่งเศส สาขาเอมโพเรียมนี้ ปรนนิบัติผิวในสไตล์ปาริเซียง มีทรีตเมนท์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งการปรนนิบัติผิวหน้าและผิวกาย พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ Supplement สูตร Professional ที่ฟื้นบำรุงถึงขีดสุดมอบส่วนผสมคุณค่าแห่งผิวสวยกระชับ กระจ่างใส สุขภาพดีมากกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป ถึง 10 เท่า ที่ผ่านการค้นคว้าจากศูนย์วิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ของสถาบันคลาแรงส์ ผสมผสานกับเทคนิคการนวดแบบฉบับเฉพาะ พร้อมเตียงนุ่ม สบายสะอาดระบบไฟฟ้าที่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อมอบไออุ่น ปรับอุณหภูมิให้สบายตัวในขณะนวด พร้อมความโค้งของเตียงที่สามารถปรับให้รองรับไปกับทุกสรีระได้อย่างลงตัว

พิกัด : คลาแรงส์ สกิน สปา สาขาใหม่ล่าสุด Beauty Hall ชั้น M ห้างสรรพสินค้า Emporium


เลอ สปา โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ

เลอ สปา ชวนคุณลูกควงแขนคุณแม่มานวดผ่อนคลาย ต้อนรับวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2560 กับ โปรโมชั่น Mom & Me สุดคุ้ม ตลอดเดือนสิงหาคม 2560 นี้ ในบรรยากาศแสนสงบและเป็นส่วนตัว เพื่อนวดผ่อนคลายด้วยน้ำมันมะลิ 60 นาที และนวดทรีทเม้นท์บนใบหน้า 30 นาที ราคา 3,300 บาทสุทธิต่อท่าน หรือ ราคา 6,000 บาทสุทธิ สำหรับ 2 ท่าน

พิกัด : เลอ สปา โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น.


arom:D artisan spa

คัดสรรสมุนไพรต่างๆ ที่มีการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัยนำมาใช้ดูแลผิว และการออกแบบตกแต่งภายในสาขานี้ เน้นงานหัตถศิลป์ของคนไทยเป็นหลัก อาทิ งานจักสาน งานปั้น งานไม้ งานแกะสลัก พร้อมแนะทรีทเมนท์ arom:D Golden Wood Massage (60 นาที / 1,800 บาท) สัมผัสกับการนวดที่ช่วยบำบัดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อในแต่ละมัดได้เป็นอย่างดี ผสมผสานกับท่วงท่าที่ใช้ไม้นวดเคลือบแผ่นทองคำบริสุทธิ์ กดไล้ไปตามแนวเส้นที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายอย่างล้ำลึก โดยช่างนวดผู้เชี่ยวชาญ

พิกัด : arom:D artisan spa สาขา Metropole Thonglor


QUAN SPA ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์

มอบช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายแบบครบวงจรในมุมสงบใจกลางเมืองกับ Oriental Fusion Massage สปาทรีทเมนต์แบบไทยประยุกต์ที่ผสมผสานสุดยอดเทคนิคการนวด ทั้งสไตล์ตะวันตกและตะวันออก ผสานเป็นการนวดที่แสนจะผ่อนคลายตลอดระยะเวลา 60 นาที โดยสปา เทอราปิส มากประสบการณ์ ต่อด้วยการนวดประคบสมุนไพรพิเศษ 30 นาที อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ ทรีทเมนต์ของ QUAN SPA ที่นอกจะช่วยลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในทุกส่วนของร่างกาย สมุนไพรหลากชนิดที่คัดสรรมาเป็นพิเศษในลูกประคบ ราคา 2,450 บาท

พิกัด : โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เปิดบริการทุกวัน


Dii Wellness Institute

สัมผัสประสบการณ์แห่งผิวงามอย่างมีสุนทรียะใช้ผลิตภัณฑ์และโปรแกรมทรีตเม้นท์ที่ออกแบบมา เพื่อปรนนิบัติผิวให้ผ่อนคลาย อ่อนเยาว์ และสุขภาพดี

พิกัด : Dii WELLNESS MED SPA ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 เซ็นทรัล แอมบาสซี่


Divana Nurture Spa

รีทรีตสปาเพื่อความเยาว์วัย เป็นไทยรีทรีตสปาแห่งแรกของกรุงเทพฯ ที่บูรณาการศาสตร์ไทยโบราณเข้ากับภูมิปัญญาตะวันออกและเทคโนโลยีทางการแพทย์มาใช้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกาย ใจ และจิตวิญญาณ ที่สมบูรณ์อย่างครบวงจร แบ่งเป็นโปรแกรมที่เป็นซิกเนเจอร์ 3 โปรแกรม ซึ่งจะมีการนำเอาส่วนประกอบต่างๆ ของดอกบัวที่มีคุณประโยชน์ทางยา ผสานกับศาสตร์แบบไทยโบราณ (การใช้ลูกประคบ, การนวดแผนไทย) ภูมิปัญญาตะวันออก (การฝังเข็ม, การนวดแบบโยคี, การนวดแบบอายุรเวท) และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (การใช้เครื่องยกกระชับ, เครื่องพ่นออกซิเจน, การให้ไวตามิน, เกลือแร่ หรือสารอาหารต่างๆ ผ่านทางเส้นเลือด ฯลฯ) มาใช้สอดแทรกเข้าไปในทุกซิกเนเจอร์

พิกัด : ถนนสุขุมวิท ซอย 11 ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ

เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : ลิขสิทธิ์แบรนด์

อากะ (AKA)

ฉลองครบรอบ 10 ปี อากะ (AKA) คืนกำไรนักชิม จัดโปรโมชั่นบุฟเฟต์สุดคุ้ม 15 ส.ค.-31 ต.ค.60

อากะ (AKA)
อากะ (AKA)

อากะ (AKA) มอบของขวัญสำหรับคนรักการทานอาหารสไตล์ปิ้งย่าง เพื่อฉลองความสำเร็จครบรอบ 10 ปีแห่งความเป็นผู้นำด้านยากินิคุ โดนจัดโปรโมชั่นยิ่งใหญ่คืนกำไรลูกค้า พร้อมเดินหน้ารุกตลาดระดับภูมิภาค

เป็นร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างขวัญใจคนชอบทานระดับท็อปๆ ที่เมื่อแก๊งเพื่อนหรือครอบครัวมีการมีตติ้งเมื่อไหร่ ร้านอากะย่อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกต้นๆ โดยหลังจากเสิร์ฟความอร่อย เปิดสาขาแรกเมื่อปี พ.ศ.2550 ด้วยรสชาติและการคัดสรรวัตถุดิบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแก่นักชิมจนถึงปัจจุบัน ร่วมเป็น 10 ปี ในปีนี้ร้านอากะจึงได้จัดของขวัญคืนกำไรแก่ลูกค้า ด้วยการจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มในราคา 319 บาท ทุกวัน ทุกเวลา ทุกสาขา ตั้งแต่ 15 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2560 

และยังเพิ่มความพิเศษสุดๆ กับยากินิคุ เดย์ เฉพาะวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ให้อิ่มสุขในราคาเพียง 10 บาทเท่านั้น ณ ร้านอากะ 5 สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เมกะ บางนา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต และเซ็นทรัล พระราม 2 สำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกของแต่ละสาขาเท่านั้น

นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจแบรนด์ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาว่า อากะเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เข้าสู่ตลาดร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ยากินิคุในประเทศไทย เราจึงเป็นผู้นำตลาดที่เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในการรับประทานอาหารปิ้งย่างอย่างแท้จริง โดยเรายังมุ่งมั่นนำเสนอสิ่งใหม่ๆ พร้อมวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมอบประสบการณ์ความอร่อยที่เหนือกว่า     

ร้านอากะเป็นหนึ่งในร้านอาหารเรือธงภายใต้ธุรกิจร้านอาหารจำนวน 12 แบรนด์ในเครือเซ็น กรุ๊ป ซึ่งโดดเด่นต่างจากร้านอาหารปิ้งย่างรายอื่นๆ ด้วยความเชี่ยวชาญในการนำเสนออาหารคุณภาพชั้นเลิศที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน จากแหล่งวัตถุดิบชั้นยอดทั่วทุกมุมโลก พร้อมให้เลือกสรรหลากหลายกว่า 40 รายการ อีกทั้งยังมีน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของอากะที่ไม่เหมือนใคร มีระบบเตา และระบบดูดควันที่ไร้กลิ่น รวมถึงบริการที่รวดเร็ว ซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยเติมเต็มรสชาติของเนื้อย่างยากินิคุทำให้ร้านอากะสามารถครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาตลอดระยะเวลา 10 ปี

นายธันยเชษฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า อากะเตรียมพร้อมบุกตลาดต่างประเทศด้วยการขยายธุรกิจแฟรนไชส์สู่ระดับภูมิภาคอย่างเต็มสูบ ซึ่งทางแบรนด์เล็งเห็นช่องว่างทางการตลาดและโอกาสการเติบโตอีกมาก และจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจของเซ็นกรุ๊ปเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมขยายฐานผู้บริโภคในต่างประเทศอีกด้วย โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับนักลงทุนต่างๆ หลายประเทศในแถบเอเชีย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://www.facebook.com/akarestaurant/

“นุชให้ด้วยใจ เฮียใส่ด้วยรัก” รวมไอเท็มจากแฟนคลับที่ “เป๊ก – ผลิตโชค” มิกซ์แอนด์แมตช์ได้อย่างลงตัว

แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู ฮาๆๆ หลายคนที่เข้ามาอ่านคงงงว่าร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ใคร แหม…ก็วันนี้เป็นวันเกิดของเฮียเป๊ก – ผลิตโชค หนุ่มที่กำลังฮ็อตที่สุดในตอนนี้ แพรวดอทคอมก็ขอหยิบเรื่องราวของนักร้องเสียงดีคนนี้ขึ้นมาพูดถึงกันอีกสักครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เราก็เขียนคอนเทนต์ถึงหนุ่มเป๊กอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเรื่องเพลง เรื่องราวดีๆ จากใจแฟนคลับ หรือเรื่องสไตล์การแต่งตัวที่เฮียแต่งออกมาได้เฟี้ยวสุดๆ แต่เรื่องราวการแต่งตัวของหนุ่มเป๊กในครั้งก่อนนั้นเรายกมาแค่เพียงลุคเท่ๆ จากแจ็กเก็ตเท่านั้น

วันนี้ถือเป็นวันดีๆ ของหนุ่มเป๊กและนุชes รวมถึงนุชาทุกคน แพรวดอทคอมเลยขอเสนอคอนเทนต์น่ารักๆ ระหว่างศิลปินและแฟนคลับผ่านการแต่งตัวที่โดดเด่นของเฮียมาให้นุชได้อ่านกันนะ

ก่อนจะเข้าเรื่องขอแวะมาเมาท์โมเมนต์น่ารักๆ ที่นุชทำให้หนุ่มเป๊กกันก่อน อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าวันนี้เป็นวันเกิดของหนุ่มเป๊ก รอบนี้นุชเขาก็ทุ่มอีกแล้วกับโปรเจ็คท์สุดพิเศษ ตั้งแต่ป้าย LED ภาพนิ่งอวยพรวันเกิดตรงทางออกรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสุขุมวิท นิทรรศการภาพ WALK ON AIR – PALIT’S PHOTO EXHIBITION ที่จัดขึ้นในห้างดัง เพื่อให้แฟนๆ ได้เข้าไปชมรูปคูลๆ ของหนุ่มเป๊กจากเรือนช่างภาพ

ยังไม่พอ เพราะยังมี LED 11 จุดทั่วกรุงเทพฯเพื่อฉายวิดีโออวยพรวันเกิดซึ่งมีความยาว 30 วินาที ส่วนในต่างจังหวัดที่จะมี LED ในรูปแบบวิดีโอขึ้นอวยพรวันเกิดก็คือจังหวัดอุบลราชธานี นครราชสีมา และเชียงใหม่ สำหรับภูเก็ตทำโปรเจ็คท์พาเฮียทัวร์รอบเมืองเก๋ๆ นอกจากนั้นยังมีโปรเจ็คท์ทำบุญ ทำความดีต่างๆ นับไม่ถ้วน บอกเลยว่าแกรนด์กว่านี้ไม่มีอีกแล้วจ้า ยอมใจจริงๆ

1 ใน LED 11 จุดทั่วกรุงเทพฯ พิกัด MBK

คราวนี้เรามาเข้าเรื่องที่ตั้งใจจะนำเสนอวันนี้ดีกว่าเนอะ เพราะร่ายมายาวมากแล้ว ฮาๆๆ เรื่องแกรนด์ๆ ในวันเกิดเมาท์พอกรุบกริบก็ได้ละ อิๆ เพราะวันนี้แพรวดอทคอมจะหยิบเอาแฟชั่นคูลๆ ของหนุ่มเป๊กที่เกิดจากการมิกซ์แอนด์แมตช์ของขวัญที่เหล่านุชได้ให้ไป มาแต่งตัวให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับก็จัดลุคออกมาเก๋กู้ดตลอด แต่ถ้าจะให้เอาไอเท็มทั้งหมดมารวมไว้ในคอนเทนต์นี้เลย แพรวดอทคอมคิดว่าวันนี้ก็คงบอกไม่หมด เพราะเยอะมากกกกกกจริงๆ เลยขอเลือกที่โดนใจเราละกันเนอะ ไม่ว่ากันน้าาา อิๆ

ของเยอะแค่ไหนถามใจอ้วนดู


f

ลุคแรกไม่ใช่เสื้อหรือหมวก แต่เป็นสร้อยคอจี้ไม้กางเขน หนุ่มเป๊กเลือกเสื้อเชิ้ตยีนส์แขนสั้นใส่ทับเสื้อแขนยาวสีดำ เพิ่มหมวกกับเข็มขัดเข้าไปให้ลุคดูบอยๆ และไม่ลืมหยิบสร้อยคอที่นุชให้มาใส่เพื่อคอมพลีตลุคให้ครบเครื่องมากขึ้น สร้อยก็สวย การแต่งตัวก็เท่ เข้ากันมากๆ

เยี่ยมไปเลยนุชของเฮีย


 

ถอดหมวกออกมา เหล่าแฟนคลับถึงกับกรี๊ดดดดด เพราะในภาพหนุ่มเป๊กเพิ่งตัดผมมาจ้า สำหรับลุคนี้ก็ไม่ใช่เสื้อหรือหมวกอีกแล้ว เพราะที่นุชให้มาคือสร้อยคอสั่งทำแฮนด์เมดแบบพิเศษเพื่อมอบให้หนุ่มเป๊ก สร้อยมีสีฟ้า ผลิตโชคก็เลือกใส่เสื้อสีฟ้าครามแซมสีขาว ยิ่งทำให้ลุคดูเข้ากับสร้อยไปอีกกก

กร๊าวใจเหลือเกิน รูปนี้มีความคุณหลวงสุดๆ


d

คราวนี้นุชให้เสื้อสไตล์ฮาวายสีเขียว ผลิตโชคหยิบเสื้อตัวนี้มาใส่ในวันที่กำลังจะออกจากเกาะสมุยเพื่อกลับกรุงเทพฯ ลุคมีความเข้ากับสถานที่ได้อยู่ เสื้อลายดอกไม่ต้องใส่กับกางเกงขาสั้นก็ได้นะ ใส่คู่กับยีนส์ขายาว แต่รองเท้าเลือกแบบสบายๆ ก็ได้ลุคเท่ๆ แล้วจ้า

เดินเท่มาเลยนะหนุ่มเป๊ก

ไฮฮีย์…ทุกคน เฮียกลับมาแล้ววว


d

สร้อยคอเงินที่นุชให้ก็เอามาแมตช์กับลุคแจ็กเก็ตไบเกอร์ ดีไซน์ของสร้อยคอกับสไตล์การแต่งตัววันนี้ดูเข้ากันสุดๆ ไปในทางเดียวกัน ถ้าไม่บอกว่าหนุ่มเป๊กเอามามิกซ์เอง ก็คิดว่าถูกจับคู่มาให้แล้วนะเนี่ย เซ้นส์ในการเลือกหยิบไอเท็มมาเติมแต่งดีตล้อดๆ

สายตาละมุนแบบนี้ มองใครอยู่นะ

จบเพลงแล้วก็ต้องโพสท่าสักหน่อย


d

เสื้อสีแจ่มตัวนี้แจกความสดใสไกลถึงโอกินาว่า นุชที่ให้มาต้องดีใจสุดๆ เพราะหนุ่มเป๊กเลือกเสื้อตัวนี้ใส่ไปถ่ายรายการถึงญี่ปุ่น ลุคนี้หนุ่มเป๊กมาในสไตล์เสื้อสองชิ้นอีกแล้ว โดยการใส่เสื้อสีขาวไว้ด้านใน แล้วสวมเสื้อสีสดทับเข้าไป แมตช์กับกางเกงยีนส์ขาดๆ และรองเท้าผ้าใบได้อย่างลงตัว

มีแฟนหรือยังจ๊ะ มานั่งรอใครนะ (ร้องเป็นเพลง) ฮาๆๆ

มิติใหม่แห่งการถ่ายรูปคือต้องวางผลไม้ไว้บนหัว ฮาๆ


 

มาต่อกันที่ลุคจัดเต็มบ้าง เพราะลุคเดียวหนุ่มเป๊กใส่ไอเท็มจากแฟนคลับถึง 3 ชิ้น ทั้งเสื้อยีนส์ สร้อยคอ และสร้อยข้อมือ ทุกอย่างถูกจัดไว้ในที่ที่เหมาะสม ไม่รกตา แต่กลับเติมเต็มลุคให้ดูคูลมากขึ้น

ท่าร้องเพลงที่ดูกร๊าวใจนี้คงกระชากใจนุชได้ไม่ยาก


 

มากันที่สร้อยคออีกแล้ว ดูเหมือนไอเท็มนี้นุชจะให้กันเยอะมาก ซึ่งครั้งนี้เป็นสร้อยคอแบบพื้นเมืองที่ดูจะแมตช์ยากสักหน่อย แต่หนุ่มเป๊กก็ทำให้มันดูง่าย สร้อยมีหลากสี ก็เลือกใส่เสื้อผ้าสีคลีนๆ อย่างเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ ใส่หมวกกลับด้านหน่อยก็ดูดีแล้ว

นิ้มทุกครั้งที่เห็นนุชมารับ


d

นี่เป็นอีกลุคที่หนุ่มเป๊กเลือกเสื้อยีนส์กับสร้อยคอหินนำโชคจี้ไม้กางเขนของขวัญจากนุชมาใส่ไว้ด้วยกัน ลุคนี้ก็เสื้อสองชั้นอีกเช่นเคย หนุ่มเป๊กเลือกเสื้อสีขาวไว้ด้านในและใส่ยีนส์คลุมข้างนอกอีกที แมตช์กับกางเกงขาสั้นลายต้นไม้ใบหญ้ากันไป และสร้อยคอที่ใส่ก็เข้ากับลุคได้ดีเลยนะ

ได้ข่าวว่าลุคนี้ไปลำปาง แต่ทำไมมีความบีช ฮาๆๆ


d

แจ็กเก็ตยีนส์สี Olive Green เข้มๆ สุดเท่ตัวนี้ก็มาจากนุชเหมือนกัน ลุคนี้เราเคยพูดถึงในคอนเทนต์ 15 ลุคแจ็กเก็ตสไตล์เป๊ก – ผลิตโชคไปแล้ว แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นของขวัญจากนุช ครั้งนี้เลยเลือกมาพูดอีกครั้ง เพราะสไตล์เท่ๆ แบบนี้แหละเป็นอีกหนึ่งลุคที่เหมาะกับหนุ่มเป๊กสุดๆ การเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อ กางเกง และหมวก ถือว่าทำได้ดีเลย

ไหนใครรักเฮียบ้าง ขอเสียงหน่อยยย


d

เสื้อสีขาวสกรีนคำว่าแชมเปี้ยน เห็นไหมลุคนี้ก็สองชั้นอีกแล้ว ฮาๆ หนุ่มเป๊กหยิบเสื้อลายสกอตมาแมตช์กับเสื้อสีขาวที่นุชให้มาได้อย่างคุมโทน มีความเข้ากัน เพิ่มหมวกที่เป็นไอเท็มโปรดเข้าไปก็ทำให้ได้ลุคสไตล์ตัวเองแล้ว

เวลามองนุช มันก็จะยิ้มอยู่หน่อยๆ


d

เสื้อลายเสือสีน้ำเงินสดที่นุชให้มาเป็นของขวัญตัวนี้แจ่มมาก เด่นมาก เท่มาก ดีมาก ชอบมาก เยอะไปละ ฮาๆๆ ดูเหมือนเสื้อสองชั้นจะเป็นซิกเนอร์เจอร์ลุคไปแล้วนะเนี่ย รอบนี้ไปสวนสัตว์ก็เลยเลือกหยิบเสื้อลายเสือมาใส่สินะ แต่ก็ถือว่าผ่านอีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็เท่ไปหมด

ภาพนี้ดูเด็กมากเลย เสือหรือแมวน้อยคะ อิๆ

มุมข้างก็ดี ขอกรี๊ดดดดแทนนุชละกัน


d

เสื้อเชิ้ตลายทางสุดเท่ตัวนี้ นุชก็ให้เฮียมา และพีคมากเพราะหนุ่มเป๊กเลือกใส่ไปถ่ายวีซ่าจ้า คิดว่านุชคนนี้คงแต้มบุญหนักจริงๆ แต่ด้วยดีไซน์ของเสื้อที่ดูเป็นทางการ เรียบร้อย สีสุภาพ ก็เหมาะจะใส่ไปทำอะไรแบบนี้จริงๆ หนุ่มเป๊กเลือกมิกซ์เสื้อเข้ากับกางเกงขายาวสีดำ และก่อนเข้าไปถ่ายรูปทำวีซ่าก็ขอชิคด้วยหมวกกับแว่นซะหน่อย

ถ้าได้ใกล้ตัวจริงขนาดนี้ คิดว่านุชคงเป็นลมค่ะ คือใกล้เว่อร์

ตกดึกค่ำคืนก็ใส่เสื้อตัวเดิม เพิ่มเติมคือแจ็กเก็ตนะจ๊ะ งานวันนี้ดูจะร้องเพลงรัวๆ แทบไม่ได้พูดเลย เต็มที่มาก


 

ไอเท็มที่นุชให้มาแล้วเฮียดีไซน์การใส่เองคือทำได้ดีนะ มีความเข้ากันได้ทุกลุคเลย ไม่ว่าของจะราคาถูกหรือแพง แพรวดอทคอมเชื่อว่านุชทุกคนก็ตั้งใจและเต็มใจให้ศิลปินที่ตัวเองรักเหมือนกัน มันคือความหวังดีที่แล้วแต่คนจะแสดงออกเนอะ ส่วนของขวัญใครที่ยังไม่เห็นหนุ่มเป๊กใส่ก็ใจเย็นๆ นะ เพราะหนุ่มคนนี้เขาใส่ทุกชิ้นที่แฟนคลับให้มาจริงๆ สุดท้ายแพรวดอทคอมขอให้นุชรักนุชหลง สมความปรารถนาของเฮียนะคะ และก็แฮ็ปปี้เบิร์ดเดย์หนุ่มวัย 33 ปีด้วยจ้า

 

 

 

เรื่อง : Hana (ฮานะ)

ข้อมูล : Twitter@WHATPALITWEARS

ภาพ : IG@peckpalit, Twitter@peckpalit, @LORM TAI PEAK, @toey_hutoob, @overdamxxn

คลิป : Twitter@zeromjk  

 

 

เปิดใจครั้งแรก ณเดชน์ – ญาญ่า หลังโผชัดเจนลง นาคี 2 ท่ามกลางกระแสบวกและลบ

บวงสรวงแล้วเช้านี้ (9 ส.ค. 60) กับ นาคี 2 ของผู้กำกับ อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่ได้นำนาคีมาต่อคลื่นความสนุกมอบให้แฟนๆ อีกครั้งในรูปแบบใหม่ จากละครสู่ภาพยนตร์ พร้อมกับทีมนักแสดงหลัก แต้ว – ณฐพร, เคน – ภูภูมิ, อุ้ม – ลักขณา และพระ-นางคู่ใหม่ ณเดชน์ คูกิมิยะ และญาญ่า – อุรัสยา ก็เดินทางมาร่วมงานบวงสรวงด้วย

หลังจากรายชื่อคู่พระ-นาง นาคี 2 ออกมาอย่างเป็นทางการ โดยผลออกที่ณเดชน์ คูกิมิยะ และญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก็ได้รับกระแสหลายทางทีเดียว ทั้งกระแสชื่นชอบ ดีใจ และรู้สึกว่าทำไมต้องเป็นคู่นี้อีกแล้ว แพรวดอทคอม ได้มาร่วมงานบวงสรวงนาคี 2 ด้วย จึงไม่พลาดคว้าตัวณเดชน์ – ญาญ่ามาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กันซะเลย

ได้อ่านกระแสหลังจากเราได้เล่นนาคี 2 บ้างหรือเปล่า รู้สึกอย่างไรบ้าง

ญาญ่า: ตื่นเต้นค่ะ อย่างที่บอกหนูเป็นคนที่ติดละครเรื่องนาคีมากๆ แล้วคือหนูก็เพิ่งได้รู้เร็วๆ นี้เหมือนกันค่ะ ก็รู้สึกโชคดีเหมือนกันค่ะ

กดดันไหมคะญาญ่า เพราะหลายคนก็พุ่งเป้ามาที่เราเลย

ญาญ่า: กดดันค่ะกดดัน กดดันอยู่แล้วทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะได้เล่นเรื่องไหนก็กดดันค่ะ แล้วนี่ก็เป็นหนังเรื่องแรกของหนูด้วย

กระแสก่อนหน้านี้มีทั้งคนที่อยากดูและไม่อยากดู รู้สึกอย่างไร

ญาญ่า: อ๋อ เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะหนูชินแล้ว มันก็จะมีคนอยากดูมั่ง ไม่อยากดูมั่ง ในทุกๆ เรื่องที่เราเล่นกัน นาคีเวอร์ชั่นละครเขาก็ทำดีมาก

คิดว่ามันจะท้าทายฝีมือเราอย่างไรบ้าง

ญาญ่า: ดีมากๆๆ จริงๆ เพราะเป็นละครโปรดเลย ท้าทายอยู่แล้วค่ะ ก็อย่างที่พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) บอก ต้องพูดภาษาอีสานด้วย แต่ว่าก็โชคดีหน่อยค่ะ เพราะว่ามันเป็นปัจจุบันแล้ว

หลายคนมีความเห็นว่าเราไม่เหมาะ เพราะหน้าตาลูกครึ่ง

ญาญ่า: ปัจจุบันค่ะ เป็นละครปัจจุบัน (ยิ้ม)

ได้มีการเริ่มฝึกพูดภาษาอีสานยังไงบ้าง

ญาญ่า: ฝึกค่ะฝึก ตอนนี้ก็ต้องเริ่มแล้วค่ะ โชคดีได้เล่นคู่พี่ณเดชน์ด้วย ฟังรู้เรื่องเกือบทุกอย่าง ตอนนี้ก็แค่ฝึกวิธีพูดออกเสียง

ณเดชน์: ฝึกเรื่องสำเนียง

ตอนนี้เวลาคุยกัน ณเดชน์ต้องคุยภาษาอีสานกับน้องไหม

ณเดชน์: ยังๆ (หัวเราะ) ยังไม่รู้อะไรเลย บทยังไม่รู้อะไรเลย

มีเทรนให้น้องไหม

ณเดชน์: ถ้าอยู่ด้วยกันก็คงต้องมีบอกบ้างครับผม แต่ผมมั่นใจว่าพี่อ๊อฟน่าจะมีเวิร์คชอปอย่างนี้อยู่แล้ว จริงๆ เวลานักแสดงจะรับเล่นอะไรต้องดูบทก่อน แต่เรื่องนี้ยังไม่มีบทเลย

เราตัดสินใจรับเล่นยังไง

ณเดชน์: หนึ่งก็คือมันเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็อยากมีส่วนร่วมด้วยนะครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นตำแหน่งใดก็ตาม มันเป็นเรื่องที่ภาคแรกดีอยู่แล้วนะครับ ฉะนั้นภาคสองจึงไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจได้ยากเลยในการรับเล่นภาพยนตร์หรือว่าละครเรื่องนี้ ผมเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่สนุกและเป็นประสบการณ์ที่ดี น่าจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมได้ในมุมมองของพี่อ๊อฟอย่างแน่นอนครับ

ซีเรียสไหมคะที่คู่เราอาจจะไม่ได้เด่น เพราะคู่แต้ว – เคน เขาก็ดังเป็นเจ้าแม่ไปแล้ว

ณเดชน์: ไม่ซีเรียสครับผม พอได้ทราบเนื้อเรื่องคร่าวๆ มันมีอะไรที่สำคัญกว่าอยู่แล้วในหนังของเรื่องนี้ครับ

ตอบสบายๆ พร้อมลุยนาคี 2 แบบนี้ แฟนๆ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปแล้วละ ไม่แน่เรื่องสนุกๆ หรือฉากเสียน้ำตาอาจรออยู่เพียบ!

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม

แย้มเรื่องย่อ”นาคี 2!” “อ๊อฟ พงพัฒน์” เปิดกล้องเดือนกันยายน เสร็จปลายปีนี้

ได้ฤกษ์ดีวันธงชัย วันที่ 9 ส.ค.60 บวงสรวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับภาพยนตร์ “นาคี 2″ของค่าย ดู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ร่วมกับ เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จับมือสร้างสรรค์คุณภาพ

โดยหลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ ลุ้นมานาน ล่าสุดได้รู้กันแล้วว่า “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และ “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” คู่จิ้นอันดับหนึ่งขวัญใจมหาชนจะมานำแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบเจ้าแม่นาคีเวอร์ชั่นแรกนำแสดงโดย “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์”และ “เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะในเวอร์ชั่นนี้ก็ยังได้เห็นหน้าค่าตาทั้งสองคนอยู่เหมือนเดิมด้วย

ความตั้งใจในการทำภาพยนต์เรื่อง “นาคี 2”?

พี่อ๊อฟ: สืบเนื่องมาจากในละครที่ได้รับการตอบรับจากผู้ชมกันเยอะและอยากให้ทำภาคสอง จริงๆ แล้วไม่ได้มีไอเดียแต่พอดี “คุณตาเทพ ตรี อภิรุม” ท่านเขียนภาพสองขึ้นมา ก็เลยมีไอเดียว่าน่าจะทำเป็นภาพยนตร์ได้ เลยปรึกษากัน

ทำไมถึงเป็น “ณเดชน์”และ “ญาญ่า” เห็นอะไรในตัวทั้งสอง?

พี่อ๊อฟ: จริงๆ แล้วผมไม่ได้สนใจว่านี่คือ “ณเดชน์” หรือ”ญาญ่า” ผมไม่ได้สนใจว่านี่คือ “แต้ว” หรือ “เคน” เราไม่ได้สนใจใครเลย เราสนใจแค่ว่านักแสดงท่านหนึ่งทำงานกับเรา ทุกเรื่องตั้งแต่ทำงานมา เพราะฉะนั้น “ณเดชน์-ญาญ่า” คือคนที่ปั้นขึ้นเป็นตัวละครในภาพยนต์เรื่องนั้น เหมือนที่ผ่านมาทุกๆ ครั้ง และเห็นว่าทั้งสองเหมาะกับตัวละครที่เป็นนางเอกและพระเอก

เนื้อเรื่องเป็นยังไงคะ?

พี่อ๊อฟ: จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของชะตากรรมของมนุษย์ ลิขิตของแต่ละคนซึ่งกรรมทั้งหมดเราเป็นคนสร้าง มนุษย์มีกรรมติดตัวมา ทุกภพทุกชาติ ภาพยนต์เรื่องนี้กำลังพูดถึงกรรม ซึ่งเกิดจากความอาฆาตมาดร้ายของตัวละครบางตัวซึ่งต้องการต่อกรรม ยืดกรรมความอาฆาตมาดร้ายของตัวเองออกไป ทั้งหมดเลยกลายเป็นทุกข์ และมีผลต่อตัวละครตัวอื่น เรื่องราวทั่งหมดเกิดขึ้นเป็นจากการแก้แค้นโดยสร้างเรื่องราวให้เกิดความเสื่อมเสียกับตัวละครตัวเก่า ซึ่งแต้วเล่นไว้ ซึ่งจะมีตัวละครตัวนึงขู่อาฆาตมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว เขามีความโกรธแค้นในการสูญเสียของเขาก็เลยทำให้เกิดเรื่องราวตรงนี้ แต่เรื่องจะจบลงอย่างไรนั้นต้องติดตามกัน

มีทั้งพาร์ทอดีตและปัจจุบัน?

พี่อ๊อฟ : มีครับ ตัวละครตัวอดีตครบหมด ส่วน “ณเดชน์” และ “ญาญ่า” เป็นตัวละครปัจจุบัน

จะได้ชมเมื่อไหร่?

พี่อ๊อฟ: ในขั้นตอนการสร้างภายในเดือนหน้าเราต้องเปิดกล้องแน่นอน คงใช้เวลาในการถ่ายจริงๆ ไม่เกิน 2 เดือน ประมาณสัก 2 เดือนกว่าๆ ต้องจบแล้ว หลังจากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการทำซีจีก็คงนานหน่อยเพราะอยากทำให้ดีที่สุด เนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดในละครเรื่องนี้ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ นอกเหนือจากตัวละครแล้วยังมีตัวละครที่เป็นซีจีด้วย จึงต้องให้เวลาเขานิดนึง

ในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดนาคีรู้สึกยังไงบ้าง?

แต้ว: ตื่นเต้นอยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่าจะเป็นยังไงต่อ
เคน: ตื่นเต้นครับอยากรู้เหมือนกับทุกคนเหมือนกัน
อุ้ม: งง เหมือนกัน ยังไม่มีใครทราบว่าเป็นยังไง

จะได้ยิน “ณเดชน์” และ “ญาญ่า” พูดภาษาอีสานในภาพยนตร์ไหม?

ณเดชน์: ผมเว้าบ่ได้ครับ บ่คือ หน้าจังซี้เว้าอีสานบ่ได้ครับ
พี่อ๊อฟ: คนนี้ไม่ต้องพูดแต่คนนี้ (ญาญ่า) ต้องพูด
ญาญ่า: ตื่นเต้นมากๆ เพราะหนูเองก็เป็นแฟนคลับนาคีอยู่แล้ว และยิ่งมีโอกาสได้มาเป็นส่วนหนึ่งของหนังก็รู้สึกดีใจมากๆ

“ณเดชน์” ทำการบันยังไงบ้าง?

ณเดชน์: ยังไม่ได้ทำครับ เดี๋ยวต้องมานั่งคุยกับพี่อ๊อฟ ส่วนตัวผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กับทุกคน และยังอยากฟังพี่อ๊อฟเล่าเนื้อเรื่องอีกหลายๆ ครั้ง ฟังแล้วรู้สึกมีพลังและขนลุก

รู้สึกนับถือพญานาคขนาดไหน?

ณเดชน์: พอสมควรครับ

เป็นบทประพันธ์ของ “คุณตรี อภิรุม”ทั้งหมดไหม?

พี่อ๊อฟ: ส่วนหนึ่งครับ บอกกับคุณตาแล้วว่าเราจะดึงส่วนหนึ่งของเรื่องราวของท่านมาและสร้างเพิ่มเติมเข้าไปด้วย

สถานที่ถ่ายทำ?

พี่อ๊อฟ:ก็คงทางอีสานครับ

ฟินแลนด์ไหมเพราะเลือกคู่จิ้นมา?

พี่อ๊อฟ: จริงๆ ผมไม่ได้รู้จักคู่จิ้น หลายคนอาจจะมองว่าเป็นคู่จิ้นเหรอ เราก็ไม่ได้สนใจความสำคัญตรงนั้นผมสนใจความสามารถของทั้งสองท่านเอามาใช้งานตรงนี้ดีกว่า เอาเรื่องให้สนุก เอาความหล่อความสวยทิ้งไว้ที่บ้าน เอาความสามารถมาใช้ในภาพยนตร์ให้เราทุกคนมีความสุข อันนี้สำคัญกว่าคู่จิ้นครับ

สุดท้ายอยากให้พูดถึงคำจำกัดความของละครเรื่องนี้?

พี่อ๊อฟ: มาดูความรักที่สวยงาม ความรักที่อยู่คู่กับโลกใบนี้ อยู่ตลอดไปและอยู่อีกนานแสนนาน ผมมั่นใจว่าความรักในละครเรื่องนี้สวยงาม

 

เรื่อง : Snowblack

6 กฎเหล็กมีเซ็กส์กับคนท้อง

account_circle

“ท้องแล้วมีเซ็กส์ได้ไหม” คำถามนี้ช่างเข้ากับชีวิตของคนรอบตัวในตอนนี้ซะเหลือเกิน เพราะแต่ละนางเรียงหน้ากันท้องไล่เดือนกันมาติดๆ ตอบสั้นๆ ได้เลยว่า “ ได้ค่ะ ” แต่ก็มีกฎเหล็กสำหรับการมีเซ็กส์กับคนท้องที่ควรรู้ไว้ไม่กี่ข้อเท่านั้นเอง

  1. มีเซ็กส์ได้ตลอดช่วงตั้งท้อง เว้นเสียแต่ว่าเคยมีประวัติแท้งมาก่อนต้องระวังการมีเซ็กส์ในช่วง 3 เดือนแรกว่าอย่าหักโหม แม้จะรับได้ทุกท่าแต่ไม่ควรบ้าบิ่นมากนัก เพราะอาจพลาดไปกดกระแทกโดนท้องน้อยเอาได้ง่ายๆ
  2. ถ้าคุณเคยคลอดก่อนกำหนดก็ต้องระวังในช่วง 3 เดือนหลัง คุณสามีไม่ควรหมั่นเขี้ยวภรรยาจนสอดใส่ซะลึกเกิน เพราะอาจไปกระตุ้นปากมดลูกให้ขยายตัวจนเกิดอาการเจ็บท้องคลอดได้
  3. แม้จะมีเซ็กส์ได้ตลอดระยะการตั้งครรภ์ แต่ก็ยังคงต้องระวังเรื่องท่วงท่ากันซะหน่อย ซึ่งท่าที่เหล่าคุณหมอแนะนำมากที่สุดคือ ทุกท่าที่ฝ่ายหญิงอยู่ด้านบน เพราะเป็นท่าที่ขนาดของท้องไม่เป็นอุปสรรคในการมีเซ็กส์ แถมว่าที่คุณแม่ก็ไม่อึดอัดด้วย
  4. ในน้ำอสุจิมีสารพรอสตราแกลนดิน (Prostaglandins) ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับยาเหน็บช่องคลอดที่ใช้เวลาเร่งคลอด สารนี้จะไปกระตุ้นมดลูกให้หดรัดตัวทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ เวลามีเซ็กส์จึงควรใส่ถุงยางอนามัยหรือหลั่งข้างนอกเสมอ
  5. ถ้ามีเลือดออกระหว่างหรือหลังการร่วมเพศ ควรหยุดเกมส์รักทันทีแล้วรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
  6. อย่าอายที่จะต้องปรึกษาคุณหมอหรือพูดคุยกับมาดามเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับการมีเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์
Madam’s Recommend
ผู้หญิงอยู่บน ทั้งหันหน้าเข้าหาและหันหลังให้ปลอดภัยสำหรับคุณแม่อย่างแน่นอน
ท่านอนตะแคง นอกจากคุณแม่จะสบายตัวแล้ว คุณสามียังสอดใส่ได้ลึกอีกด้วย
ท่าผู้หญิงยืนหันหน้าเข้าผนังหรือมือเท้าโต๊ะ  ให้ผนังหรือโต๊ะช่วยรับน้ำหนักของคุณภรรยาไว้ ส่วนคุณสามีประกบหลังประหนึ่งตำรวจตรวจค้น
ทีนี้ สาวๆ ทั้งหลายก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่า ช่วงท้องคุณสามีจะไปแอบกุ๊กกิ๊กกับอีหนูที่ไหน  เพราะคุณเองก็สนองความต้องการเขาได้ เว้นเสียแต่ว่า เขาเองนั่นแหละที่อยากซุกซนด้วยตัวเองใจจะขาด

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพ : maeluke.com

เลี้ยงลูกไม่ให้เป็นคุณหนู…ปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์ มาไทยพร้อมครอบครัว พาลูกทำกิจกรรมช่วยเด็กกำพร้า

เลี้ยงลูกไม่ให้เป็นคุณหนู…ปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์ มาไทยพร้อมครอบครัว พาลูกทำกิจกรรมช่วยเด็กกำพร้า

ยังคงเป็นขวัญใจทั้งแฟนนางงามและเด็กๆทั่วโลกอยู่เสมอ สำหรับ ปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน ซึ่งล่าสุดเพิ่งเดินทางกลับไทยพร้อมคุณแม่และลูกสาว น้องโซฟี ไซมอน เพื่อทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลวันแม่

ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าหายคิดถึงจริงๆสำหรับการกลับมาของปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน ที่เพิ่งเดินทางกลับมาประเทศไทย โดยครั้งนี้นอกจากจะมีคุณแม่และน้องแจ็คอรีน ลูกสาวบุญธรรรม ก็ยังพาน้องโซฟี ไซมอน ลูกสาววัย 7 ขวบมาด้วย และครั้งนี้ก็มาร่วมทำบุญบริจาคสิ่งของและอาหารให้เด็กกำพร้า 700 คน ที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า วัดดอนจั่น จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก็ทำให้ครอบครัวอิ่มอกอิ่มใจมาก โดยเฉพาะพี่ปุ๋ยที่ดูจะรู้สึกแฮ็ปปี้กับการได้เห็นลูกสาวคนเล็ก “น้องโซฟี” รู้จักการให้ การมีเมตตา และเคารพต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ในสังคมใดก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่พี่ปุ๋ยให้ความสำคัญและพยายามปลูกฝังลูกๆทุกคนมาตลอด

นับว่าเป็นอีกเรื่องราวดีๆของผู้หญิงคนนี้ ที่รู้สึกได้เลยว่าเธอทำด้วยใจจริงๆ คำว่านางงามรักเด็ก นางฟ้าจักรวาล คงไม่มีใครเหมาะสมและคู่ควรมากกว่าพี่ปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์ได้อีกแล้ว

 

ภาพ : [email protected]

 

keyboard_arrow_up