“มินนี่ – ณัฐนิช สมิตชาติ” ทายาทคนสวยของคุณอาร์โต้ – สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ประธานบริษัท TRD (Thailand) ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทีอาร์ดี ชุดแต่งรถโตโยต้าแต่เพียงผู้เดียว เพิ่งจบปริญญาตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพลนไปเรียนต่อปริญญาโทด้าน Entrepreneurship and Innovation ที่ Hult International Business School ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว นอกจากนี้เธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะบล็อกเกอร์ minnieS ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ส่วนตัวในแง่มุมต่างๆ สำหรับวันนี้เธอล็อกคิวพิเศษเพื่อพา แพรว ชมโซนบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
พื้นที่ความสุขสุดหรู! ของ “มินนี่-ณัฐนิช สมิตชาติ” ทายาทสาวสวยแห่ง TRD ไทยแลนด์
บ้านใหม่
“เริ่มจากพื้นที่ของบ้านจากเดิม 700 ตารางเมตร คุณพ่อซื้อที่ขยายมา เป็นกว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งความตั้งใจแรกของท่านคืออยากได้ที่จอดรถเพิ่ม โดยสร้างเป็นโรงจอดรถแบบในเรื่องแบทแมน เหมือนเป็นภูเขาแล้วมีโรงจอดรถ ซ่อนอยู่ข้างใน แต่พอสมาชิกทุกคนทราบก็ขอใส่อันโน้นอันนี้เพิ่มเข้าไป คือ โรงจอดรถชั้นล่างของคุณพ่อยังอยู่ แต่รื้อแบบด้านบนที่เป็นภูเขาจนกลายเป็น บ้านใหม่ในที่สุด (หัวเราะ)
“ทำให้ตอนนี้พื้นที่บ้านแบ่งออกเป็นสองโซน คือโซนบ้านเดิมกับโซนบ้านใหม่ ซึ่งประกอบขึ้นมาจากความชอบของสมาชิกทุกคน สถาปนิก อินทีเรียร์ ดีไซเนอร์ และไลติ้งดีไซเนอร์จึงต้องทำงานร่วมกันในการดีไซน์ให้เข้ากับ ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อทำให้บ้านออกมาเพอร์เฟ็กต์ที่สุด”
น้องมินนี่พาเราตรงมาที่ชั้นล่างของบ้านใหม่ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์สุดๆ เพราะ เพียงแค่ประตูไฟฟ้าบานแรกของบ้านเปิดออก เราก็ได้ว้าวกับโรงรถที่เรียงรายไปด้วยรถซูเปอร์คาร์สีขาวล้วน
“คุณพ่อสะสมรถค่ะ และชื่นชอบความเร็ว ท่านเคยเป็นนักแข่งรถ มืออาชีพ และมีทีมรถแข่งเป็นของตัวเองชื่อว่า Toyota Gazoo Racing Team Thailand ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลก 3 ปีซ้อน ประกอบกับ คุณพ่อได้ไปเรียนหนังสือที่ญี่ปุ่น จึงติดความเป็นมินิมัลแบบคนญี่ปุ่นมา ทำให้ บ้านและรถทุกคันเป็นโทนสีขาวทั้งหมด
“รถในโรงจอดนี้เป็นคันโปรดของคุณพ่อค่ะ ประกอบด้วย McLaren 720S (ราคาเฉียด 40 ล้านบาท) McLaren GT (ราคา 20 ล้านปลายๆ) Lamborghini Aventador (ราคาเฉียด 50 ล้านบาท) และ Porsche Taycan เป็นรถยนต์ ไฟฟ้า EV 100 เปอร์เซ็นต์ (ราคาประมาณกว่า 7 ล้านบาท)”
สิ่งที่ยืนยันฝีมือของคุณอาร์โต้คือถ้วยรางวัลมากมายที่ตกแต่งอยู่ทุกมุม และทำให้ทราบว่าลูกสาวคนโตคนนี้ยังเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น เพราะเธอเคยลง แข่งขันในรายการ Toyota Gazoo Racing Thailand Open เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และสามารถคว้าอันดับ 4 มาครองให้คุณพ่อได้ชื่นใจพอเห็นความอลังการของโรงจอดรถแล้ว เราก็อยากรู้ว่าภูเขาของแบทแมน ถูกปรับเปลี่ยนเป็นอะไร แล้วก็ต้องว้าวดังๆ อีกรอบ เพราะสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าคือ สวนขั้นบันไดที่ไล่สเต็ปสูงขึ้นไปบนยอดอันเป็นพื้นที่ชั้นสองของบ้าน ถือเป็นการ ออกแบบสวนไล่ระดับสไตล์ Amphitheatre หรืออัฒจันทร์สมัยกรีกโบราณ ทำให้มีพื้นที่นั่งเล่นและพาน้องหมามาวิ่งเล่นได้ ซึ่งปัจจุบันแก๊งน้องหมามีทั้ง พันทางและพันธุ์เทศ อย่างไซบีเรียนฮัสกี้, คอร์กี้ ฯลฯจากสวนเราเดินลัดเลาะขึ้นไปบนพื้นที่ชั้นสองที่ทำเป็นห้องยิมขนาดใหญ่
“คุณแม่ (คุณกิติยา) ขอพื้นที่สำหรับสร้างเป็นห้องยิมที่มีอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับออกกำลังกาย และยังแบ่งพื้นที่ด้านข้างเป็นห้องน้องแมวที่คุณแม่เลี้ยงไว้ 4 ตัว มีทั้งบ้านแมวกับของเล่นเต็มไปหมด รวมทั้งห้องน้ำแมวแบบอัตโนมัติ ด้วย ต้องเล่าก่อนว่าเดิมคุณแม่ไม่ได้ชอบแมวมากขนาดนี้ แต่หลังจากที่มินนี่ ส่งรูปให้ แล้วพาไปเห็นของจริง คุณแม่ก็หลงรักจนพากลับมาเลี้ยงที่บ้านเลย
“ถัดไปเป็นห้องสปาที่คุณแม่ใช้ทุกครั้งหลังจากออกกำลังกาย การตกแต่ง เน้นความเป็นธรรมชาติ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ม่านก็สามารถปรับเพื่อให้รับแสงได้ ตามที่ต้องการ และที่ขาดไม่ได้คืออ่างอาบน้ำและเตียงสำหรับนวดตัว โดยจะมี นักกายภาพบำบัดมานวดเพื่อคลายเส้นและกล้ามเนื้อ เพราะคุณแม่เคยประสบ อุบัติเหตุที่หัวเข่า ซึ่งเตียงนวดนี้สั่งทำพิเศษจากประเทศเยอรมนี เป็นระบบไฟฟ้า สามารถปรับระดับความสูงต่ำให้พอดีกับผู้ใช้ ใกล้ๆ กันเป็นพื้นที่เหมือนเป็นร้าน ตัดผมส่วนตัวของคุณพ่อ ซึ่งจะมีช่างมาตัดผมที่บ้านทุกเดือน
“นอกจากนี้ความที่คุณแม่มักจะมีเพื่อนแวะมาเยี่ยมเยือน จึงขอคุณพ่อสร้าง ห้องพักสำหรับรับรองแขก 3 ห้อง แต่พอสร้างเสร็จ มินนี่กับน้อง (คุณมิฟฟี่) ก็ เข้ายึด 2 ห้องเพื่อเป็นห้องนอนใหม่ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ” (หัวเราะ)
“มินนี่” สไตล์
เธอเล่าพลางพาเราไปชมห้องนอนใหม่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรีสอร์ตริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะวิวที่มองเห็นสวนด้านนอก ขอบอกว่า… ชนะเลิศ
“ห้องนี้มีอินทีเรียร์ดีไซน์ที่แตกต่างจากของทุกคนในบ้าน เพราะมินนี่ ชอบความเป็นวินเทจผสมผสานกับออเทนติก (การอยู่ได้จริง) ไม่โมเดิร์นจัด จนเกินไป จึงมีส่วนประกอบหลายๆ อย่างที่ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ห้อง มีความสบายอบอุ่นมากขึ้น อย่างตรงผนังหัวเตียงเดิมเป็นไฟติดผนังขนาดใหญ่ ซึ่งมินนี่บอกอินทีเรียร์ดีไซเนอร์เลยว่าไม่ได้จริงๆ ค่ะ (หัวเราะ) สุดท้ายมา ลงตัวกับการตกแต่งด้วยของแขวนผนังที่เป็นงานวินเทจแท้จากยุโรป และ มีบางชิ้นทำขึ้นมาเป็นพิเศษ อย่างหัวนกกระจอกเทศทำจากเรซินกับโคมไฟ ทรงเชิงเทียน คือมินนี่ชอบอะไรที่มีดีเทลเล็กๆ พออยู่รวมกันแล้วทำให้ดูมี เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
“สำหรับเตียงนอนสีขาวเป็นคัสตอมเมดที่มินนี่เลือกแบบ สี และ เนื้อผ้าเอง ส่วนวอล์คอินคลอเสต ด้วยพื้นที่จำกัด ไม่พอสำหรับเก็บเสื้อผ้า และของแต่งตัวได้หมด จึงต้องเพิ่มตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้าไว้ตรงผนังด้านข้าง เพราะมินนี่ทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองด้วยนะคะ ชื่อ @simplebutnotlame วางขายทางไอจี เป็นสไตล์ที่สามารถใส่ได้ทุกวัน (ยิ้ม)
“เพื่อไม่ให้ห้องดูเรียบจนเกินไป บริเวณหน้าต่างบานใหญ่จึงวางโซฟา ที่ทำจากขนแกะเพื่อนั่งชมวิวสวน แล้วเติมความหรูหราให้กับห้องด้วยโต๊ะ สีทองที่ได้จากร้านโอลิเวียร์ ลีฟวิ่ง แบรนด์นำเข้าเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านระดับลักชัวรี่”
พื้นที่ความสุข
“สิ่งแรกที่มินนี่ขอคุณพ่อเมื่อทราบว่าท่านจะสร้างบ้านใหม่คือ ห้องสำหรับน้องหมาตัวโปรดสายพันธุ์คอร์กี้ทั้งสามตัว
“น้องหมาเป็นตัวผู้ทั้งหมด ชื่อพีนัท บัตเตอร์ และเจลลี่ เป็นลูกๆ ของเจ้าขนมปัง หมาพันธุ์คอร์กี้ตัวแรกของบ้านค่ะ เขามีลูก 5 ตัว แต่เสียไปตอนเกิด 2 ตัว ส่วน 3 ตัวนี้อาการไม่ค่อยดี มินนี่จึงต้องคอยประคบประหงมตั้งแต่เด็ก ตอนนี้กำลังจะครบ 3 ขวบแล้ว จึงอยากทำห้องนี้ไว้ให้พีนัท บัตเตอร์ และเจลลี่ มานั่งเล่นในช่วงกลางวัน
“ห้องนี้จึงมีดีเทลเยอะที่สุด คือมีองค์ประกอบเล็กๆ ที่เรียกว่าดีต่อใจ ตั้งแต่ ที่ห้อยสายจูงสุนัข และสร้างเป็นที่นอนสามอันสำหรับพวกเขา แต่ถึงเวลาไม่ได้ใช้เลย ค่ะ (หัวเราะ) พยายามแล้วเขาไม่ยอมนอน น้องแมวมานอนแทน ทั้งสามตัวสามารถ อยู่กับแมวได้ เพราะเขาเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
“สิ่งที่มินนี่ขอเป็นพิเศษคือต้องมีโซนอ่างอาบน้ำน้องหมา เพราะเคยมี ประสบการณ์ไม่ค่อยดีตอนพาขนมปังไปอาบน้ำที่ร้าน แล้วทางร้านทำสายจูงหลุด โชคดีว่าขนมปังจำรถได้จึงวิ่งกลับไปที่รถ ตั้งแต่นั้นมินนี่ไม่พาน้องๆ ไปอาบน้ำ ข้างนอกอีกเลย บวกกับคอร์กี้เป็นพันธุ์ขนสั้น ไม่จำเป็นต้องตัดขนตลอดเหมือน พันธุ์อื่นๆ จึงอาบเองที่บ้านได้
“โซฟาหลักในห้องนี้สั่งทำพิเศษจากขนเป็ด สามารถกางออกมาเป็นเตียงที่ นอนเล่นกับน้องหมาได้โดยไม่ต้องระวัง เพราะทำจากผ้าที่กันน้ำและรอยขีดข่วน แล้วตรงพื้นห้องยกสเต็ปขึ้นมานิดหนึ่ง เผื่อเวลาเพื่อนมาที่บ้านจะได้นั่งเล่นตรงพื้น กับน้องหมาได้ เพราะตั้งใจให้ห้องนี้มีเฟอร์นิเจอร์น้อยที่สุด อยากให้น้องหมา วิ่งเล่นไปมาได้สะดวก
“นอกจากนี้บนชั้นวางในห้องจะตกแต่งด้วยภาพวาดของพีนัท บัตเตอร์ และ เจลลี่ ได้มาจากร้านที่มินนี่สั่งทำผ้าห่มคัสตอมเมดพิมพ์ลายภาพวาดของน้องหมา ทั้งสามตัว มินนี่จึงขอซื้อไฟล์รูปมา แล้วส่งต่อให้อินทีเรียร์ดีไซเนอร์นำภาพไปพริ้นต์ บนผ้าแคนวาสมาใส่กรอบไว้ในห้องนี้ จะเห็นได้ว่าทุกอย่างมีองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อนำมารวมกันแล้ว เป็นสิ่งที่ดีต่อใจมินนี่ที่สุดค่ะ”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 985
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ