บูโดคอนโยคะ เทรนด์ใหม่กำลังมา เบิร์นอลังการถึง 700 Cal ขจัดเซลลูไลท์ เอาอยู่!

บูโดคอนโยคะ เล่นแล้วฟิน น้ำหนักลด ซิกแพ็คมา

บูโดคอนโยคะ ชื่อนี้แทบไม่เคยได้ยิน แต่มีอยู่วันเหยิงว่าบังเอิญอะพินไปวิ่งที่สวนเบญฯ แล้วเห็นมีคนกำลังเล่นโยคะอยู่ เกิดอาการคันไม้คันมืออยากเล่นบ้าง เลยเข้าไปขอแจมด้วย คิดว่าเป็นการฝึกโยคะธรรมดา แต่พอเล่นไปสักพักเริ่มรู้สึกว่าทำไมท่าแปลกๆ แล้วเล่นต่อเนื่องไม่มีหยุดพัก เหนื่อยม๊ากกก…เหงื่อมหาศาลพอๆ กับเล่นฮ็อตโยคะเลยจ้า สุดท้ายครูผู้สอน  (ครูนุ่น-ธนิตา วาสประสงค์) เลยมาเฉลยว่านี่คือการฝึกบูโดคอนโยคะจ้า

จากสาวที่อยากลดน้ำหนัก อยากผอม คิดอะไรไม่ออกเลยเลือกที่จะหัดเล่นโยคะ แต่ใครจะคิดว่าจะทำให้ครูนุ่นเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเอง กล้ามเนื้อไม่ตึง หรือรู้สึกปวดเมื่อย ทำให้เธอฝึกจริงจังจนได้มาอยู่บนเส้นทางของการเป็นครูโยคะ โดยตระเวณศึกษาหาความรู้เพิ่มกับครูโยคะชื่อดังระดับโลกมากมาย จนมาเจอเข้ากับบูโดคอนโยคะ ถูกจริตจนริเริ่มนำเข้ามาเผยแพร่ในเมืองไทยเป็นคนแรก

บูโดคอนโยคะ มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา โดยอาจารย์ชื่อ คาเมรอน เชน อดีตเคยเป็นดาราฮฮลลีวู้ด เล่นหนังบู๊ ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้ แล้วก็ฝึกโยคะไปด้วย จึงเกิดไอเดียรวมศิลปะการต่อสู้กับโยคะเข้าด้วยกัน แล้วก่อตั้งบูโดคอนโยคะขึ้นมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ศูนย์กลางอยู่ที่ไมอามี่ ครูนุ่นเล่าให้อะพินฟังว่า

“ส่วนตัวนุ่นตามดูอาจารย์อยู่ในเฟสบุ้คกับไอจี เลยคุยกับอาจารย์ว่าขอไปเรียนด้วย พอดีอาจารย์เองก็อยากให้เรานำความรู้มาเผยแพร่ต่อในเอเชีย เพราะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใหม่ในเมืองไทย ต่างจากโยคะทั่วไปตรงที่ต้องเล่นเป็นลำดับขั้นตอนที่ต่อเนื่องกัน เริ่มด้วยท่าหนึ่งต่อด้วยท่าที่สอง ซึ่งเป็นท่าที่อาจารย์ฟิกซ์เอาไว้แล้ว บางคนบอกว่าเหมือนกังฟู หรือไทเก๊กมารวมกัน เน้นการเคลื่อนไหวแบบเข้มแข็ง แข็งแรง ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น โดยโฟกัสจากข้างใน เหมือนโยคะทั่วไป  จริงๆ ความหมายของบูโดคอนคือ the way of warrior เป็นวิธีการที่นักรบฝึกกัน  ถึงจะเป็นนักรบที่เข้มแข็งแต่จิตใจภายในต้องสงบนิ่ง”

บูโดคอนโยคะที่ครูนุ่นเลือกเรียนคือ Teacher Training เรียนเสร็จแล้วสามารถเป็นครูสอนต่อได้ ครูนุ่นบอกว่า ที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดมากๆ หลังจากเรียนเสร็จจะต้องมีการสอบข้อเขียน แล้วทำวิดีโอส่งไปที่  Budocon University ให้อาจารย์แอฟพรูฟ เขาจะมีอาจารย์คนหนึ่งที่คอยออกเกรดอย่างเดียว ถ้าไม่ผ่านก็ต้องสอบซ่อม แต่ถ้าผ่านแล้วก็จะให้ใบ certificate แล้วขึ้นทะเบียนกับทางบูโดคอน ทุกๆ 2 ปีจะต้องไปหาอาจารย์อีก เพื่อไปอัพเดทข้อมูล เรียนเพิ่ม เป็นเหมือนการต่อทะเบียนครูบูโดคอน

ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อฝึกบูโดคอน
การฝึกบูโดคอนจะค่อนข้างหนัก เพราะฉะนั้นคนที่โฟกัสแค่เรื่องร่างกาย ต้องการลดความอ้วน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ มาฝึกแป๊ปเดียวผอมกันระนาว กล้ามเนื้อขึ้นแน่นอน ขนาดอะพินเล่นแค่ 45-50 นาที ยังรู้สึกเลยว่าเป็นการใช้กล้ามเนื้อที่ต่อเนื่องมากๆ แล้วค่อนข้างหนัก แอบคิดในใจทำไมถึงเหนื่อยขนาดนี้  ฝึกแบบไม่มีพัก จะคูลดาวน์แค่ช่วงท้ายเท่านั้น แต่อะพินว่าสำหรับคนที่ออกกำลังกายมาก่อนจะรู้สึกโอเคมาก เพราะมีมูฟเม้นต์หลายท่าที่คล้ายๆ กับการวิดพื้นเยอะ มีการใช้แขน หน้าท้องเยอะกว่าปกติ เล่นแล้วฟินแน่นอน  ครูนุ่นยังบอกอีกว่าตอนไปเรียนบูโดคอนโยคะ ซิกแพ็คมาเลย ส่วนคนกินอาหารคลีนควบคู่กับการฝึก ถึงน้ำหนักจะขึ้นนิดนึง เพราะมีกล้ามเนื้อ แต่ไซส์รูปร่างจะเล็กลง คือดีงาม… เพราะฉะนั้นอะพินว่าของแบบน่าจะแล้วแต่คน ถ้าไม่ได้ควบคุมเรื่องการกิน อารมณ์ประมาณว่าเล่นเสร็จแล้วไปกินของหวาน หรือบุฟเฟ่ต์ก็เท่านั้น

เบิร์นแคลฯ มหาศาล
คนส่วนใหญ่คิดว่าโยคะคือการยืดเหยียด แต่จริงๆ แล้วโยคะมีหลากหลายรูปแบบ โยคะแบบคาดิโอก็มี ให้อารมณ์เหมือนไปวิ่ง อย่างบูโดคอนพูดได้เลยว่าเหมือนเล่นเวทเทรนนิ่ง  เป็นการใช้กล้ามเนื้อตั้งแต่หัวจรดเท้า   แต่ครูนุ่นไม่แนะนำให้คนป่วย หรือคนชราเล่น เพราะค่อนข้างหนัก ส่วนเรื่องแคลลอรี่ที่เผาผลาญ ในแต่ละคลาสยังไม่มีการวัดออกมาชัดเจน เพราะคนเราเบิร์นได้ไม่เท่ากัน   แต่เคยมีการทำรีเสิร์ชออกมาว่าโยคะหนึ่งคลาสสามารถเบิร์นได้ตั้งแต่ 300-700 Cal  ดังนั้นยิ่งถ้าเป็นคลาสบูโดคอน ซึ่งหนักกว่าโยคะทั่วไป ต้องมี 700 Cal อัพแน่นอน
“จริงๆ ที่นุ่นฝึกโยคะ นุ่นคิดว่าเป็นการออกกำลังกายธรรมดา แต่พอเริ่มฝึกจริงจังก็รู้ว่ามันไม่ใช่แค่นั้น เพราะเป็น inner practice หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดเลยว่าเราต้องหุ่นแบบไหน กินทุกอย่างที่อยากกิน  ทำในสิ่งที่มีความสุข และสิ่งที่เราเชื่อในโยคะ” เอาเป็นว่าแล้วแต่จุดประสงค์ของคนเล่นละกันเนอะ แต่เล่นแล้วได้ทั้งเรื่องจิตใจและรูปร่างด้วย ถือว่าดีงามพระ รามแปดแล้วล่ะ

เริ่มจาก Downward Facing Dog หรือท่าสุนัขก้ม