เมื่อเดือนแห่งความหลากหลาย หรือ Pride Month 🏳️🌈 มาถึง แพรวไม่พลาดนำเสนอสไตล์การแต่งตัวสุดจัดจ้านของ “พรี – ปฏิภาณ รังสิมานิช” @prehighskyfly คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายแฟชั่นที่มิกซ์แอนด์แมตช์ความ “เฟมินีน”และ “แมสคิวลีน” ไว้อย่างลงตัว

BE MYSELF
“ย้อนกลับไปตอนอายุ 18 ปี ขณะเรียน BBA (Marketing) ที่วิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นคณะที่ให้เสรีภาพในการแต่งกาย นักศึกษาชายส่วนใหญ่จึงเลือกสวมเสื้อนิสิตคู่กับกางเกงยืนปั้นเฟดที่กำลังฮิตในยุคนั้น ส่วนแอ็กเซสซอรี่ส์มีทั้งเข็มขัด Louis Vuitton และ Hermes รวมถึงกระเป๋าคาดอก ด้วยความวัยรุ่น เห็นเพื่อนใส่ก็อยากตามเทรนด์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ซื้อแบรนด์เนม แต่ก็ยังมิกซ์แอนด์แมตช์ไม่เป็นเท่าไหร่
“จนมารู้จักวงเคป็อปอย่าง BIGBANG เป็นช่วงที่เขาปล่อยเพลงใหม่ชื่อว่า BAD BOY พอได้ดูมิวสิควิดีโอแล้วไปสะดุดตาเข้ากับ G-Dragon สมาชิกตำแหน่งแร็พเปอร์ที่ใส่บอมเบอร์แจ๊กเก็ตสีเขียวประดับขนเฟอร์คู่กับกางเกงหนังสีดำ เราเห็นก็รู้สึกว่าคนนี้แต่งตัวจัดมาก มารู้ทีหลังว่าวงนี้เป็นแฟชั่นไอคอนด้วย จึงเริ่มติดตามตั้งแต่ตอนนั้นเห็นเขาใส่อะไรก็ซื้อตาม อย่างช่วงที่เขาใส่ Givenchy และ Chrome Hearts เราก็ซื้อมาใส่เหมือนกัน จากนั้นจึงเปิดใจให้สไตล์ใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น SLP (Saint Laurent Paris) ที่เป็นแนวร็อคสตาร์ รวมถึงเริมรู้จักหยิบไอเท็มต่าง ๆ มาแมตช์กัน ความสนุกของการแต่งตัวจึงเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น (ยิ้ม)

“ปัจจุบันชอบแต่งตัวแนวสตรีทที่สุด เพราะคล่องแคล่ว อีกทั้งยังแมตซ์ได้หลายสไตล์ ไม่ว่าจะ Classy Street, American High Street หรือ Japanese Street โดยไอเท็มที่ใส่บ่อยมีทั้ง Acne Studios, Maison Margiela และ Louis Vuitton เป็นสามแบรนด์ที่ตรงกับสไตล์ นอกจากนี้เรายังไม่มีลิมิตเรื่องการแต่งตัว อย่างสีสันก็สามารถใส่ได้ทุกสี
บางวันอยากใส่สีชมพูก็ใส่ อาจเพิ่มความท้าทายด้วยการลองแต่งตามคู่สีที่มีคนบอกว่าไม่ควรแมตช์กัน เช่น ชมพูกับเขียว ซึ่งเราลองแต่งตามก็ไม่รู้สึกว่าแปลกแถมได้ลุคสนุกด้วยซ้ำ แม้กระทั่งกระโปรง ไอเท็มที่โดนแปะป้ายโดยสังคมว่ามีไว้สำหรับ ผู้หญิงเท่านั้น แต่เราไม่สนใจ ลองหยิบมาใส่คู่กับแจ็กเก็ตหรือสูท ก็ได้อีกลุคที่ดูคอนทราสต์และยังบาลานซ์ระหว่างความเฟมินีนและแมสคิวลีนไปด้วย”
WOMENSWEAR
“ขลุกอยู่โซนเสื้อผ้าผู้ชายมาสักพัก เริ่มรู้สึกว่าไอเท็มในโซนนี้มีสไตล์ไม่หลากหลายเท่าไหร่ อย่างอยากได้กางเกงสแล็กสีชมพู เดินเข้าออกทุกแบรนด์ทั่วห้างก็หาไม่เจอ ส่วนใหญ่มีแค่สีเทา ดำ จึงตัดสินใจเดินไปโซนผู้หญิง ความรู้สึกแรกตอนก้าวขาเข้าไปเหมือนอยู่กันคนละโลก เพราะมีทุกอย่างที่โซนผู้ชายไม่มี ทั้งกางเกง กระโปรง เสื้อเชิ้ต เสื้อลูกไม้ซึ่งไม่ใช่เพียงดีไซน์ที่มากกว่า แต่สีสันยังเยอะกว่า และเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ได้ อย่างกางเกงสแล็กและสูทสีชมพูก็ได้จากโซนนี้ นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ซื้อเสื้อผ้าจากโซนผู้หญิง

“บางคนอาจสงสัยว่ากล้าใส่ไอเท็มของผู้หญิงได้อย่างไร ส่วนตัวคิดว่าเสื้อผ้าไม่มีเพศแต่สิ่งที่มีคือความเฟมินีนและแมสคิวลีนที่แฝงอยู่ในแต่ละชิ้น เช่น กระโปรง ก็เป็นสิ่งที่ใครจะใส่ก็ได้ ไม่ได้แปลว่าจะแต่งเป็นผู้หญิง เราแค่ใส่เพื่อเพิ่มความเฟมินีนให้กับลุค
“แน่นอนว่าการแต่งตัวที่ไม่เหมือนคนกลุ่มใหญ่ในสังคมมักมีเสียงวิจารณ์ตามมาบางครั้งที่ลงคอนเทนต์เกี่ยวกับทริคแฟชั่น เช่น วิธีแมตซ์กระโปรง หรือจับคู่เสื้อผ้าสีโทนหวาน ก็จะมีคอมเมนต์ว่าแต่งตัวอะไร เข้าไม่ถึง แต่เรามีภูมิคุ้มกันทีดีจากคนในชีวิตจริง ทั้งครอบครัว แฟน หรือเพื่อนสนิท ที่พวกเขาไม่เคยตั้งคำถามเรื่องสไตล์การแต่งตัวเมื่อเจอคนที่ไม่รู้จักกันมาพูดแบบนั้นจึงไม่รู้สึกโกรธหรือเสียใจ คิดเสียว่าเขาคงรู้จักเราไม่ดีพอ และไม่ใช่คนที่อยากเปิดใจให้การแต่งตัวแบบไร้ขีดจำกัด”
DARE TO TRY
“Genderless Fashion สำหรับผู้ชายไม่จำเป็นต้องแต่งตามผู้หญิง 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่บอกว่าเสื้อผ้าของผู้หญิงมีหลายเลเวล ตั้งแต่สีสันไปจนถึงดีไซน์ ฉะนั้นลองเริ่มจากกางเกงก่อน เพราะดีเทลหรือทรงของ ผู้หญิงก็แตกต่างจากผู้ชายแล้ว อย่างลุดที่นำมาถ่ายรูปกับ แพรว วันนี้ก็เลือกกางเกงดีเทลจับเดรปที่ดูเผิน ๆ ชิลลูเอตต์คล้ายกระโปรง แต่ความจริงเป็นกางเกง จากนั้นเมื่อรู้สึกมั่นใจขึ้นก็อาจขยับไปลองกระโปรงยาว นำมาเลเยอร์เข้ากับกางเกงให้เป็นสไตล์ Skirt Over Pant ในเมื่อท่อนบนเรามีเสื้อนอกเป็นแจ็กเก็ตได้ ท่อนล่างก็สามารถใส่กระโปรงทับกางเกงได้เหมือนกัน
“หากใครไม่มั่นใจแต่อยากใส่จริง ๆ เริ่มต้นจากแอ็กเซสซอรี่ส์ก็ได้ เช่นกระเป๋าสะพายของผู้หญิง เหมือน Chanel 25 ทีเรานำมาแมตช์ลุคครังนี้อาจสวมแว่นตาประดับคริสตัลหรือไข่มุก ก็ช่วยเพิ่มความเฟมินีนได้ ที่สำคัญ ค่อยเป็นค่อยไป แค่เรามีความคิดอยากใช้ไอเท็มผู้หญิงกถือว่าแทบจะใส่มันแล้ว เหลือแค่ซื้อมาใส่เท่านั้น
“ลองดูครับ รับรองว่าการแต่งตัวจะสนุกมากขึ้น” (ยิ้ม)

“ไม่จำเป็นต้องใส่กระโปรงหรือแต่งตัวเหมือนผู้หญิง แค่เราซื้อเสื้อผ้าจากฝั่ง Womenswear ก็ถือว่าก้าวขาสู่ Genderless Fashion แล้ว”
พรี – ปฏิภาณ รังสิมานิช
สามารถติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว เดือนมิถุนายน 2568
เรื่อง: Mild Wipada
ภาพ: วรสันต์