ฝุ่นพิษ PM2.5

วิธีลดความเสี่ยงจาก ฝุ่นพิษ PM2.5 หนึ่งในสารก่อมะเร็ง ที่เริ่มกลับมาทำร้ายสุขภาพอีกครั้ง

Alternative Textaccount_circle
ฝุ่นพิษ PM2.5
ฝุ่นพิษ PM2.5

ฝุ่นพิษ PM2.5 กลับมาอีกครั้งและรุนแรงกว่าเดิม โดยสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน อัพเดตในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เวลา 07.00 น. ปริมาณฝุ่นละออง วัดได้ 31.5 – 75.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ซึ่งค่าฝุ่นที่เกินระดับมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะเด็กเล็กและเด็กที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ การสูดเอาฝุ่นพิษเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการแสบจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก ไอ มีเสมหะและเจ็บคอ มีผื่นคันบริเวณที่สัมผัสฝุ่น หากได้รับเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้มีความผิดปกติด้านสติปัญญาและพัฒนาการ ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น ทำให้โรคหืด ภูมิแพ้กำเริบได้ และถ้าได้รับ PM2.5 ในปริมาณมาก เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้ นอกจากนี้ ฝุ่น PM2.5 ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปทั่วร่างกาย อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบและภาวะหลอดเลือดหดตัวได้

สำหรับกลุ่มเสี่ยงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็ก เนื่องจากหายใจเร็ว พฤติกรรมของเด็กชอบเล่นในที่กลางแจ้ง มีโอกาสรับฝุ่นปริมาณมาก สำหรับผู้สูงอายุ พบว่า ฝุ่น PM2.5 เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเพิ่มเป็น 1.5 เท่า หญิงตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3 อายุครรภ์ 24 – 42 สัปดาห์ ถ้าได้รับฝุ่นมลพิษ อาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหอบหืด ซึ่งผู้ป่วยโรคหอบหืด จะมีความไวต่อการกระตุ้นจาก ฝุ่น PM2.5 หรือสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ ทำให้มีสมรรถภาพปอดลดลง และเกิดอาการกำเริบได้ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ควรสวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น ควรเป็นหน้ากากอนามัยปกติ สำหรับหน้ากาก N95 หากต้องการใส่เพื่อป้องกันฝุ่น ไม่แนะนำให้ใส่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพราะหน้ากาก N95 ถูกออกแบบมาให้แนบสนิทกับใบหน้า ทำให้ต้องออกแรงหายใจมากขึ้น เมื่อใส่เป็นเวลานานๆ อาจทำให้รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก เมื่อยล้า หรือปวดศีรษะได้

วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นคือ การเลี่ยงพาตัวเองและเด็กเล็กๆ ไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือไปในบริเวณที่มีค่าฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ขณะอยู่ในบ้านควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิทและเปิดเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองแบบ HEPA ซึ่งช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ลงได้ กรณีจำเป็นต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือไปในบริเวณที่มีปริมาณฝุ่นเกินมาตรฐานต้องสวมหน้ากากชนิด N95 ในทารก หรือเด็กเล็กไม่แนะนำให้เดินทางออกนอกบ้าน ควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำจะช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้น หมั่นเช็ดทำความสะอาดบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กภายในบ้าน หากพบว่าตนเองหรือเด็กในบ้านมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือมีผื่นคันขึ้นตามร่างกายที่ผิดปกติให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที

นอกจากนี้ ด้วยความที่ฝุ่นละอองมีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือเล็กประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผม ทำให้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ลอยอยู่ในอากาศได้นาน อาจมีสารพิษเกาะมาด้วย ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น จึงควรติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศในแอปพลิเคชั่น Air4Thai หรือข่าวสารตามช่องทางต่างๆ

ข้อมูล : กรมประชาสัมพันธ์
ภาพ : Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up