น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ

แพทย์ด้านจิตเวช แนะวิธีปรับสมดุลอารมณ์ช่วงหน้าร้อนด้วยกลิ่นหอมของ น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ

Alternative Textaccount_circle
น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ
น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ

“อากาศเปลี่ยน อารมณ์ปรวน” ช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวไม่เพียงจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ อย่างเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด หรือฮีตสโตรก (Heat stroke) แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจด้วย เพราะอากาศร้อนอบอ้าวจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสภาวะความเครียด ความฉุนเฉียว รวมถึงการแสดงออกถึงพฤติกรรมก้าวร้าว ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช แพทย์หญิงดุจฤดี อภิวงศ์ แนะ “วิธีปรับสมดุลอารมณ์ช่วงหน้าร้อนด้วยกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ” 

เมื่อคลื่นความร้อนมาปะทะกับตัวเราส่งผลทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เส้นเลือดเกิดการขยายตัว กล้ามเนื้อหดเกร็ง ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว เมื่อรู้สึกไม่สบายตัวก็ทำให้มีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวและตีความสิ่งต่างๆ ในทางลบมากขึ้น เกิดสภาวะอารมณ์ไม่คงที่ หงุดหงิดและอารมณ์เสียได้ง่าย กระบวนการดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ซึ่งสามารถแบ่งออเป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มฮอร์โมนความสุข ฮอร์โมนกลุ่มนี้จะหลั่งจากต่อมใต้สมอง ได้แก่

  • เอ็นโดรฟิน (Endorphin) ฮอร์โมนแห่งความสุข ความพึงพอใจ ความผ่อนคลาย จะหลั่งเพื่อกระตุ้นความรู้สึกในแง่บวก แต่เมื่ออยู่ในภาวะเครียดฮอร์โมนชนิดนี้ก็จะลดลง
  • โดพามีน (Dopamine) ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ รักใคร่ และความยินดี หากมีปริมาณต่ำเกินไปจะทำให้รู้สึกหดหู่และซึมเศร้า
  • เซโรโทนิน (Serotonin) ฮอร์โมนต้านความเครียด ถ้าระดับฮอร์โมนต่ำเกินไปจะทำให้เราหงุดหงิด นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ มีภาวะปวดศีรษะ ไมเกรน หรืออาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

กลุ่มฮอร์โมนความเครียด ฮอร์โมนกลุ่มนี้จะหลั่งจากต่อมหมวกไต ได้แก่

  • คอร์ติซอล (Cortisol) ฮอร์โมนความเครียด ซึ่งจะถูกกระตุ้นให้หลั่งมากขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์คับขัน เรื่องวิตกกังวล หรือความป่วยไข้ของร่างกาย
  • อะดรีนาลีน (Adrenaline) หรืออิพิเนฟริน (Epinephrine) ฮอร์โมนแห่งความโกรธ เกี่ยวเนื่องกับการป้องกันตัว ปกติแล้วจะหลั่งช่วงที่เราตื่นเต้นหรือมีภาวะฉุกเฉินแล้วจะลดลงมาอยู่ในระดับปกติ แต่ถ้าหลั่งมากผิดปกติจะทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง

สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ส่งผลต่อสภาวะอารมณ์โดยเฉพาะผู้ที่ภาวะความเครียดอยู่แล้ว จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว โมโหง่าย ดังนั้น ควรหาวิธีปรับสมดุลทางด้านอารมณ์และความรู้สึก อย่างวิธีที่ง่ายและเป็นที่นิยมคือ การใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) ผ่านการสูดดมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential oil) โดยกลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น (Olfactory Nerves) ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory Bulbs) และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์ และความรู้สึก (Limbic System) อณูของน้ำมันหอมระเหยจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งฮอร์โมนที่มีประโยชน์และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก

กลิ่นยังส่งผลต่อสมองส่วนที่เรียกว่า “ไฮโปทาลามัส” (Hypothalamus) ควบคุมสารเคมีและฮอร์โมนเพศ สมองส่วน Frontal Lobe ควบคุมความตั้งใจ สมาธิและความจำ รวมทั้ง Reticular System ช่วยผสมผสานการทำงานของร่างกายและจิตใจ นอกจากการใช้กลิ่นบำบัดแล้วยังมีแนวทางปฎิบัติในการดูแลตัวเองช่วงที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ดังนี้

  • หากรู้สึกหงุดหงิดหรือโมโห ลองเปลี่ยนอิริยาบถ ตั้งสมาธิ ฝึกลมหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดหรือสถานที่ที่มีความร้อนสูง และควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ คือ วันละประมาณ 2 ลิตรครึ่ง เนื่องจากสมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 80 หากขาดน้ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้ระดับฮอร์โมนความเครียดเพิ่มสูงขึ้นได้
  • กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรือเผ็ดร้อน
  • หากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำยามว่าง เช่น เล่นโยคะ ว่ายน้ำ หรือออกไปตามสถานที่ต่างๆ

การใช้ประโยชน์จากกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential Oil) เป็นศาสตร์แห่งการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 6,000 ปี ตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน และอียิปต์ มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหย นอกจากจะช่วยเรื่องการนอนหลับแล้ว ยังสามารถช่วยสร้างสมาธิในการทำงาน สร้างบรรยากาศผ่อนคลายโดยสามารถเลือกเปลี่ยนกลิ่นได้ตามอารมณ์ความต้องการ รวมถึงใช้มอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษได้อีกด้วย

กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติไม่เพียงสร้างความพึงพอใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังแฝงคุณค่าในการฟื้นฟูสภาพจิตใจและอารมณ์ตามคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด อ้างอิงตามหลักการของกลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) การใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างความผ่อนคลาย ปรับสมดุลอารมณ์และความรู้สึก โดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศความหอมให้กับพื้นที่ต่างภายในบ้าน ได้แก่ 

เครื่องกระจายกลิ่นหอม (Electric aroma diffuser) ทำงานด้วยกลไกการกระจายความหอมแบบ Ultrasonic Water – Oxygen โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงถึง 2.5 ล้านรอบ/วินาที ทำให้น้ำแตกตัวเป็นไอเย็นที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 5 ไมครอน นำพาน้ำมันหอมระเหยขึ้นสู่อากาศ กลิ่นหอมจึงกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการทำงานแบบไม่ใช้ความร้อนจึงปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับ 2 ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ โหมดทำงานแบบต่อเนื่อง (Green Light) ตัวเครื่องจะทำงานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง เมื่อเสร็จการทำงานเครื่องจะปิดแบบอัตโนมัติ และโหมดควบคุมจังหวะการทำงาน (Orange Light) ตัวเครื่องจะพ่นควัน 1 ครั้ง สลับกับการหยุด 30 วินาที สามารถใช้ได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง

น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Pure essential oil) น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100% แต่งเติมความหอมหลากหลายรูปแบบสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องกระจายกลิ่นหอมเพื่อรังสรรค์บรรยากาศความสุขภายในบ้านได้อย่างมีรสนิยม มีให้เลือก 7 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นอะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), กลิ่นอีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze), กลิ่นเอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion), กลิ่นสปริง ฟอเรส (Spring Forest และกลิ่นดอกลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ (Lavender & Rosemary) 

ก้านไม้หอม (Aroma diffuser) มอบกลิ่นหอมนุ่มนวลจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ตกแต่ง และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน มีให้เลือก 5 กลิ่น อาทิ อะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), อีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), อีเดน บรีซ (Eden Breeze) และ เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion)


ภาพ Cover : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up