กินไข่ดิบ

เตือน! ชอบกินไข่ดิบ ไข่ดอง ระวังเสี่ยงติดเชื้อ “ซาลโมเนลลา”

Alternative Textaccount_circle
กินไข่ดิบ
กินไข่ดิบ

เตือน! ชอบกินไข่ดิบ ไข่ดอง ระวังเสี่ยงติดเชื้อ “ซาลโมเนลลา”

ช่วงนี้กระแสกักตุนจนไข่ขาดตลาด ไข่แพงโก่งเกินราคา มากมายสารพัดเรื่องที่เกี่ยวกับไข่ เพราะ ไข่ จัดเป็นหนึ่งในอาหารที่หาทานได้ง่ายตามท้องตลาด และปรุงกับอาหารอะไรก็ได้ แถมดีต่อสุขภาพเพราะอุดมไปด้วย โปรตีนที่ดี เลซิติน ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินบี ซีลีเนียม ฟอสฟอรัสและโฟเลต โดยปริมาณที่แนะนำคือ วันละ 1-3 ฟอง

แต่พักหลังๆ มานี้ กระแสการทานไข่ดิบ ไข่ดองน้ำปลา กำลังเป็นที่พูดถึงและเลียนแบบ มีต้นกำเนิดมาจากอาหารญี่ปุ่น โดยมีการนำไข่ดิบตอกลงไปบนข้าวทานกับซอสต่างๆ หรือการดองไข่แดงดิบด้วยการแช่ไข่แดงลงในซอสถั่วเหลืองข้ามคืน จนไข่มีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลวคล้ายไข่เค็ม แล้วนำมาทานกับข้าวหรือผัก จากกระแสนี้ทำให้หลายคนอยากลอง แต่ผู้ทานไข่ดิบ หรืออาหารที่มีส่วนผสมจากไข่ดิบจะทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) มากกว่าคนทั่วไป

ประโยขน์ของการกินไข่ดิบ

  • การทานไข่ดิบก็มีประโยชน์เหมือนกับไข่ที่ปรุงสุก โดยไข่ดิบอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี วิตามินแร่ธาตุสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถปกป้องดวงตา เช่น ลูทีนและซีแซนทีน รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • ไข่ดิบ 1 ฟองประกอบไปด้วยโคลีนถึง 147 มิลลิกรัมซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อทำงานของสมองที่ดี เหนือไปกว่านั้นประโยชน์ของโคลีนยังมีบทบาทต่อสุขภาพของหัวใจและตับ เนื่องจากโคลีน (Choline) เป็นวิตามินกลุ่มเดียวกับวิตามินบี ช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยให้เซลล์ตับมีการเผาผลาญไขมันได้อย่างปกติ ลดการสะสมของไขมันที่ตับหรือภาวะไขมันพอกตับ

ความเสี่ยงในการบริโภคไข่ดิบ

  • มีการวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานไข่ดิบ ร่างกายจะดูดซึมโปรตีนได้เพียง 51 % เท่านั้น จึงแนะนำให้ทานแบบสุกมากกว่า
  • มีคนจำนวนไม่น้อยที่นิยมบริโภคไข่ดิบ ในขณะเดียวกันองค์กรอาหารและยา (FDA) มีการค้นพบและคาดการณ์ว่ามีคนประมาณ 79,000 คนที่ป่วยเป็นโรคจากการทานอาหาร และ 30 คนที่เสียชีวิตในแต่ละปี เนื่องมาจากการรับประทานไข่ที่มีสารปนเปื้อนด้วยเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ ซาลโมเนลลา (Salmonella) ที่มีอยู่ในไข่ดิบ เนื่องมาจาก แม่ไก่บางตัวมีเชื้อ Salmonella typhimurium และ Salmonella enteritidis อยู่ในอวัยวะสืบพันธุ์

กินไข่ดิบ

ปัจจัยที่มีอิทธิพล ส่งผลต่อการปนเปื้อนของเชื้อ ซาลโมเนลลา (Salmonella)  ในไข่ได้แก่

  • จำนวนของไก่หรือเป็ดในฝูง
  • ความเครียดหรือกังวลของสัตว์
  • อาหารที่เลี้ยงสัตว์
  • การฉีดวัคซีนป้องกัน
  • สุขอนามัยและความสะอาดในบริเวณที่เลี้ยง

อาการสังเกตหากติดเชื้อ ซาลโมเนลลา ( Salmonella )

การติดเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลา อาจใช้เวลานานหลายชั่วโมงจนถึง 2 วัน จึงจะปราฏอาการของโรค เช่น ปวดท้อง  ท้องเสียโดยอุจจาระอาจมีเลือดปน อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เป็นไข้ หนาวสั่น และเบื่ออาหาร

โดยปกติแล้วอาการจะคงอยู่ประมาณ 2-7 วัน ส่วนอาการท้องเสียอาจคงอยู่ประมาณ 10 วัน อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนจนกว่าลำไส้จะกลับมาทำงานปกติ  ซึ่งหากยังมีอาการผิดปกตินานเกิน 2 วัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง

คำแนะนำในการทานไข่ดิบ

ไข่ดิบนั้นมีสารอาหารที่เทียบเคียงกับไข่ปรุงสุก ทว่า การดูดซึมโปรตีนจะลดลงจากไข่ดิบ และมีความเสี่ยงจากเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ และอาจนำไปสู่การติดเชื้อ ซาลโมเนลลา (Salmonella) ได้ ดังนั้น วิธีการป้องกัน ตัวเองจากความเสี่ยงในการทานไข่ดิบคือ เลือกซื้อไข่พาสเจอร์ไรส์ จะทำให้ปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่สำหรับ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ควรหลีกเลี่ยงการทานไช่ดิบ และทางที่ดีที่สุดก็คือหันมาบริโภคไข่ปรุงสุกก็สามารถทำให้ลดความเสี่ยงต่างๆ ลงได้ และยังมีประโยชน์ที่ใกล้เคียงกัน


ข้อมูล : พญ. สมรรจน์ ลิ้มมหาคุณ แพทย์ด้านโรคติดเชื้อ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กินแล้วดี! ประโยชน์ของอาหาร 5 สี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้าน COVID-19

ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ปวดท้องหลังกินข้าว หนึ่งในสัญญาณ มะเร็งกระเพาะอาหาร

เช็ค อาหารต้องห้าม ของคนมีโรคประจำตัว กินดีได้ยา กินไม่ดีได้โทษ!

3 กลุ่ม อาหารเสริม ที่อาจพบยาต้องห้าม เสี่ยงทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

6 วิธีแก้สาเหตุที่ กินจุแต่ไม่รู้จักอิ่ม เพราะดื้อต่อ ฮอร์โมนอิ่ม จนอ้วน

 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up