แชร์สูตรอาหาร 'ลดน้ำตาล' เมนูดูแลรูปร่างสำหรับคนขี้เกียจคุมอาหารและออกกำลังกาย

แชร์สูตรอาหาร ‘ลดน้ำตาล’ เมนูดูแลรูปร่างสำหรับคนขี้เกียจคุมอาหารและออกกำลังกาย

Alternative Textaccount_circle
แชร์สูตรอาหาร 'ลดน้ำตาล' เมนูดูแลรูปร่างสำหรับคนขี้เกียจคุมอาหารและออกกำลังกาย
แชร์สูตรอาหาร 'ลดน้ำตาล' เมนูดูแลรูปร่างสำหรับคนขี้เกียจคุมอาหารและออกกำลังกาย

วิธีลดน้ำหนักที่ง่ายกว่าการทำ IF โดยไม่จำเป็นต้องอดอาหารและไม่ต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย นั่นคือ การปรุงอาหารแบบ ลดน้ำตาล นั้นเริ่มต้นได้ง่ายมาก ตราบใดที่รักษาปริมาณน้ำตาลในอาหารให้น้อยที่สุด นอกจากจะลดน้ำหนักได้แบบคงที่แล้ว ยังเพิ่มพลังงานได้ด้วย

น้ำตาล คือ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายมนุษย์ต้องการในแต่ละวัน การบริโภคที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาการทำงานของร่างกาย แต่หากบริโภคมากเกินไป น้ำตาลก็จะขัดขวางไม่ให้สารอาหารอื่นๆ ที่ร่างกายบริโภคได้ เพราะร่างกายจะเผาผลาญอาหารก่อน เมื่อบริโภคแคลอรี่คาร์โบไฮเดรตจะมาเป็นอันดับสองรองจากสารอาหารอื่นๆ ดังนั้นหากมีน้ำตาลมากเกินไปสารอาหารอื่นๆ ก็ไม่สามารถบริโภคได้และแคลอรี่ก็จะสะสมอยู่ในร่างกายทำให้เกิดโรคอ้วนได้

อาหารลดน้ำตาลคืออะไร?
ประมาณ 55% ของความต้องการพลังงานในแต่ละวันมาจากน้ำตาล (คาร์โบไฮเดรต) 30% จากไขมัน และ 15% จากโปรตีน อาหารลดน้ำตาล คือการลดสัดส่วนการบริโภคน้ำตาลลงเหลือ 20% ถึง 30% ทุกวัน เช่น ข้าวประมาณ 1 ถึง 2 ชามต่อวัน หรือกินขนมปังโฮลวีตแทนขนมปังขาวเป็นอาหารเช้า ถือเป็นหนึ่งในวิธีอาหารลดน้ำตาล ซึ่งนักแสดงหญิงหลายคนก็หันมากินอาหารลดน้ำตาล เพื่อควบคุมน้ำหนักของตนเอง 

สูตรลดน้ำตาล : อกไก่หมัก
อกไก่หั่นเป็นชิ้นบางๆ ทอดด้วยอุณหภูมิสูงเพื่อให้เนื้อนุ่มเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์หลากหลายและสามารถปรุงรสด้วยพริกไทยดำได้ ผงยี่หร่า หรือสมุนไพรอื่นๆ รสชาติเปลี่ยนไปต่างกันกันเบื่อในแต่ละวัน
● ส่วนผสม: อกไก่ 100 กรัม/เกลือ 1 กรัม/น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา

  1. นำอกไก่แล้วใส่ลงในกล่อง โรยด้วยเกลือ ปิดผนึกและเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อหมักไว้อย่างน้อยสองชั่วโมง
  2. นำอกไก่ออกจากตู้เย็นและกลับสู่อุณหภูมิห้อง ใช้ผ้าเช็ดครัวเพื่อดูดซับความชื้นที่ปล่อยออกมาจากพื้นผิว แล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ หนาประมาณ 1 ซม.
  3. เทน้ำมันมะกอกลงในกระทะ ตั้งกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่อกไก่เป็นชิ้นๆ แล้วทอดทั้งสองด้านเป็นเวลาประมาณ 2 นาที จนเป็นสีน้ำตาลทองสวยงาม

สูตรลดน้ำตาล : เต้าหู้ เห็ด และผักตามฤดูกาล
จานนี้เหมาะมากที่จะลองเมื่อลดน้ำตาล อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้เติมน้ำมัน ไวน์ ซีอิ๊ว และน้ำตาลตามวิธีดั้งเดิมมากนัก คุณสามารถลองปรับการปรุงให้เบาลงได้
● ส่วนผสม: พริกหยวกแดง 50 กรัม / พริกหยวกสีเหลือง 50 กรัม / เห็ดนางรมหลวง 50 กรัม / เห็ดหงซี 50 กรัม / เต้าหู้ทอด 50 กรัม / น้ำ 1 ช้อนชา / เจดีย์เก้าชั้น 15 กรัม / น้ำมันงาดำ 2 ช้อนชา / ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา / ไวน์ข้าว 2 ช้อนชา / กระเทียม 2 หัว / ขิง 3 แผ่น

  1. ล้างพริกหยวกแดงและเหลืองแล้วหั่นเป็นชิ้นกว้างประมาณ 3.5 ซม. ล้างและสะเด็ดน้ำ ส่วนเห็ดนางรมหลวงและเห็ดออรินจิแล้วเอารากออก หั่นเห็ดนางรมหลวงเป็นชิ้นเฉียงหนาประมาณ 1 ซม. หั่นเต้าหู้ทอดเป็นชิ้นหนา ใส่กระเทียมและขิงซอย ล้างและสะเด็ดน้ำพักไว้
  2. เทน้ำมันงาดำเล็กน้อยลงในกระทะ ตั้งกระทะบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน ใส่กระเทียมฝานและขิงซอยลงไปผัดประมาณ 3 นาที จากนั้นเปิดไฟปานกลาง ใส่พริกแดงและเหลืองซอยลงไป ผัดประมาณ 2 นาที เติมน้ำ 1 ช้อนชา แล้วผัดต่อ 2 นาที
  3. จากนั้นใส่เห็ดนางรมหลวงและเห็ดหงซีผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่เต้าหู้ทอด ซีอิ๊วขาว และไวน์ข้าว ผัดจนซอสลดลงครึ่งหนึ่ง คนเข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

สูตรลดน้ำตาล : ผักหวาน ข้าวโพด และซุปไก่
น้ำซุปกระดูกไก่เคี่ยวกับผักนานาชนิด มีสีเข้มข้น มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า รสชาติสดชื่นมาก ให้รสชาติหวานเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้น้ำซุปเสริมคุณค่าทางโภชนาการผักเมื่อลดน้ำตาลหรือทานคู่ กับอาหารประเภทโปรตีน แป้งเพียงเล็กน้อย สะดวกในการใช้เมื่อคุณต้องการเพิ่มความรู้สึกอิ่ม บางครั้งอาจเคี่ยวน้ำสต๊อกเพิ่มในคราวเดียว ปิดฝา และแช่แข็งในตู้เย็นไว้อุ่นกินทีหลังได้
● ส่วนผสม: กระดูกอกไก่ 2 ชุด/ผักกาดขาว 100 กรัม/แครอท 50 กรัม/ข้าวโพดสีเหลือง 1 ชิ้น (ประมาณ 140 กรัม)/ต้นหอม 1 ต้น/เกลือ 1 ช้อนชา/น้ำ 1,000 มล.

  1. ล้างกระดูกไก่ที่ใช้ทำซุป เตรียมหม้อน้ำ (น้ำควรจะท่วมกระดูกไก่) ต้มน้ำให้เดือดโดยใช้ไฟแรง ใส่กระดูกไก่ ปรุงจนน้ำเดือดอีกครั้ง ลดไฟลง เปิดอ่อนๆ ทิ้งไว้ 3 นาที สะเด็ดน้ำ เอากระดูกไก่ออกแล้วล้าง
  2. เตรียมหม้อซุป เติมน้ำ 1,000 มล. และหัวหอมสีเขียวที่ล้างแล้ว นำไปต้มบนไฟร้อนปานกลาง ใส่กระดูกไก่ลวก จากนั้นลดไฟลงและเคี่ยวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  3. ใส่แครอทที่ล้างและหั่นเป็นชิ้นหนาแล้วหั่นข้าวโพดสีเหลืองแล้วปรุงเป็นเวลา 15 นาที สุดท้ายใส่ผักกาดขาวและเกลือแล้วปรุงต่ออีก 15 นาที เท่านี้ก็เรียบร้อย

Photo : Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up