account_circleใครติดตามแอ๊กเคานต์ @annethong จะเห็นว่าโพสต์ในช่วงเช้าของ “แอน ทองประสม” จะเป็นคลิปวิดีโอหรือรูปขณะออกกำลังกาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพเหงื่อพร้อมแก้มแดงๆ และหุ่นสุดเฟิร์ม ที่แม้จะเห็นผ่านหน้าจอ ก็ทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉง อยากลุกขึ้นมาสวมรองเท้าวิ่งไปกับเธอด้วย
เปิดเคล็ดลับสวยสุขภาพดี “แอน ทองประสม” ตื่นเช้าเก็บเกี่ยวกำไรชีวิต
ชีวิตเปลี่ยน แค่ตื่นเช้า
“ปกติแอนตื่นเช้าอยู่แล้ว เพราะต้องถ่ายละคร แต่จะมีช่วงหนึ่งที่พักงานยาว 4-5 ปี ตอนนั้นกลายเป็นตื่นสาย กว่าจะลุกคือ 10 โมง เพราะเข้านอนตี 3 ห่วงดูซีรี่ส์ ผลคือหุ่นพัง เพราะไม่ออกกำลังกาย อ้วน หน้าเหี่ยว ขี้หงุดหงิด กรดไหลย้อนก็ถามหา ระบบขับถ่ายไม่ดี กระทั่งวันที่แอนตัดสินใจว่าไม่ไหวละ ฉันจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ ลองกัดฟันตื่นเช้าลุกขึ้นมาวิ่ง ปรากฏว่าชีวิตเปลี่ยนเลยนะ
“จากวันนั้นแอนตื่นเช้าและออกกำลังกายอย่างจริงจังต่อเนื่องมา 6-7 ปีแล้ว รูทีนของแอนคือเข้านอน 4 ทุ่มครึ่ง ดึกสุดคือ 5 ทุ่ม วิธีทำให้นอนหลับง่ายๆ ช่วงเย็นแอนจะไม่คิดเรื่องหนักๆ เป็นการคูลดาวน์ร่างกาย อาจดูหนัง ซีรี่ส์ อยู่กับแฟน คุยกับเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำ พอประมาณ 4 ทุ่มก็เริ่มง่วง พอถึงเวลาใกล้นอนจะเปิดแนวเพลงเปียโนแจ๊ส เพลงกล่อมเด็ก หรือเพลงแนว Deep Sleep เมื่อก่อนไม่เคยฟังเลยนะคะ แต่พอลองเปิดติดกัน 2 สัปดาห์ กลายเป็นติด เพราะพอได้ฟังเพลงทำให้หยุดคิดแล้วหลับง่าย
“ทุกวันนี้แอนตื่น 6 โมงเช้า พอตื่นแล้วหาของว่างง่ายๆ กินก่อนออกกำลังกาย เมื่อก่อนเป็นไข่ต้ม 1 ฟอง หรือกล้วยหอม 1 ลูก มารู้เมื่อ 2 ปีที่แล้วว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้อาหารชนิดรุนแรง และอาการจะปรากฏเฉพาะเวลาที่ออกกำลังกาย เนื่องจากหัวใจกำลังสูบฉีด ทำให้สิ่งที่แพ้ปะทุออกมาง่าย ซึ่งสิ่งที่แอนแพ้คือกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้าค่ะ พอกินแล้วไปออกกำลังกาย อาการคือง่วงมาก เหมือนความดันเริ่มตก อยากเข้าห้องน้ำ รู้สึกอาการไม่ดีจึงเรียกรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เพราะไม่มีแรงขับเอง หมอบอกว่าอาการอย่างนี้อันตราย เพราะเรากำลังจะหายใจไม่ได้ ใกล้ตาย ถึงขั้นเข้าไอซียูเลย หมอบอกว่าจากสถิติที่รู้ แอนเป็นคนไทยคนแรกที่แพ้กล้วยน้ำว้ากับกล้วยหอม ทุกวันนี้ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ และจะแพ้เฉพาะเวลาที่กินกล้วยตอนท้องว่างแล้วไปออกกำลั งกายนะคะ ถ้ากินกับอาหารมื้ออื่นๆ จะไม่เป็นไร
“วิธีแก้คือความที่ไม่แน่ใจว่าร่างกายแพ้อาหารชนิดไหนอีก พอตื่นเช้าก่อนออกกำลังกาย หมอให้ดื่มแค่น้ำเปล่า พยายามทำท้องให้ว่าง ถ้าหิวให้กินอินทผลัม 1 ลูก หรือนมสักแก้วก็ได้ นับตั้งแต่นั้นไม่เคยมีอาการแพ้อะไรอีกเลย หลังจากนั้นแอนจะวอร์มร่างกายเป็นเวลา 15 นาที แล้วออกกำลังกายต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง พยายามให้เสร็จภายใน 9 โมง กินข้าวเช้าแล้วออกไปทำงานค่ะ
“ปกติแอนออกกำลังกาย 4-5 วันต่อสัปดาห์ ใช้หลักออกกำลังกาย 2 วัน เว้น 1 วัน แต่ถ้าวันไหนมีงานติดกัน ก็จะใช้วิธีว่าว่างแค่ไหนออกแค่นั้น เช่น ถ้าว่าง 3 วัน ก็ออกกำลังกายติดกันไปเลย”
“วิ่ง โยคะ เวตเทรนนิ่ง” 3 กีฬาโปรด
“การออกกำลังกายหลักๆ ที่แอนต้องทำคือโยคะ วิ่ง และเวตเทรนนิ่ง จัดไปเลยวันละอย่าง อย่างการวิ่ง แอนไม่ใช่สายวิ่งจริงจัง แต่จะชิลกับการวิ่งมากกว่า เพราะฉะนั้นการวิ่งเร็วให้ได้ระยะทาง 20-30 กิโล จึงไม่ใช่เป้าหมาย แอนคิดว่าเราวิ่งไหวเท่าไหนก็เท่านั้น แค่ใช้สมรรถภาพที่ธรรมชาติสร้างมาให้เต็มที่ เท่าที่จะมีแรง สำหรับวัยแอน แค่วิ่ง 5 กิโลก็ถือว่าดีแล้ว ช่วงแรกแอนวิ่งบนลู่ จนวันหนึ่งได้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ชุดออกกำลัง เขาจัดงานวิ่งบนถนนในกรุงเทพฯ แอนก็ไปร่วมวิ่งตามระยะทางที่เขากำหนดคือ 5 กิโลเมตร ตอนนั้นอึดอัดมาก เพราะคนเยอะ รถเยอะ ควันเหม็น เสียงดัง คือไม่มีสมาธิเหมือนวิ่งบนลู่ แต่พอวิ่งไปได้ 3 กิโล แอนเลิกโฟกัสอะไรอื่นๆ กลายเป็นว่ารอบตัวเงียบมาก คนที่วิ่งข้างๆ ก็ไม่มีผล เหมือนเราหลุดไปอยู่ในภวังค์ จากนั้นเลยเริ่มวิ่งในสวนตอนเช้า แอนชอบสวนเบญจกิติ เพราะนอกจากจะสวย ยังทำรอบวิ่งได้ง่าย อีกที่คือสวนรถไฟ สนามกว้าง วิ่งรอบเดียวได้หลายกิโล โดยชวนเพื่อนไปด้วย ส่วนต่างจังหวัดชอบวิ่งที่พัทยา ตามเขื่อนและชายหาดค่ะ
“ช่วงแรกที่ไปวิ่งในสวนมีบาดเจ็บกลับมาบ้าง กระทั่งมีโอกาสถ่ายละครกับเจมส์ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) ที่เป็นสายวิ่งตอนเช้าเหมือนกัน เขาชวนแอนไปวิ่ง แล้วสอนว่าค่อยๆ วิ่งตามผมมา ไม่ต้องคิดอะไร สอนวิธีก้าวขา ลงน้ำหนัก รวมถึงทัศนคติในการวิ่ง เช่น ไม่ต้องคิดว่าวันนี้วิ่งได้เท่าไร แค่วิ่งไปเรื่อยๆ กับให้ฝึกหายใจช้า เพราะเขาเห็นเราหายใจผิด ส่วนใหญ่แอนชอบใส่หูฟังเพราะกลัวเบื่อ เขาบอกว่าให้ถอดออกแล้วฟังเสียงรอบตัว ที่สุดค้นพบความสงบบางอย่าง ถ้าถามว่าชอบวิ่งในสวนหรือวิ่งลู่มากกว่ากัน แอนชอบทั้งคู่นะคะ แต่ในหนึ่งสัปดาห์ต้องออกไปสวนสาธารณะบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ สิ่งหนึ่งที่แอนอยากบอกทุกคน ถ้าจะลงทุนอะไรสักอย่างในชีวิต ให้ซื้อลู่วิ่ง ถึงจะไม่วิ่ง แค่เดินก็ได้ ยังไงก็มีประโยชน์ กับเพื่อนที่รักกันมากๆ แอนซื้อลู่วิ่งให้เลย ยังไงก็คุ้ม
“ถัดมาคือโยคะ กีฬาชนิดนี้ช่วยยืดหยุ่นร่างกาย ขณะที่เวตช่วยเรื่องความทนทาน หัดให้ร่างกายมีแรงต้าน ฝึกความอดทน และช่วยปั้นหุ่น อย่างเมื่อไม่นานมานี้แอนติดโควิด เราเคยออกกำลังกายทุกวัน พอถึงวันที่ 4 อยู่แต่ในห้องก็เริ่มงุ่นง่าน อยากออกกำลังกาย เพราะตึงมาก อยากเอาเลือดลงหัวบ้าง เลยลองทำโยคะ เอาหัวปักลงพื้น ลองกระโดดดู ทดลองว่าร่างกายเหนื่อยหรือเปล่า ไหวไหม ปรากฏว่าทำได้ แต่ไม่ทำหักโหมนะคะ แค่ 20 นาทีพอ รุ่งขึ้นก็ทำใหม่ พอได้เหงื่อ น้ำมูกก็ไหลออกมาเหมือนน้ำ เหมือนปลดล็อก โล่งไปทั้งจมูก ทำให้เลือดหมุนเวียน อาการปวดหัวก็เบาลง สำหรับแอน การออกกำลังกายช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
“นอกจากกีฬาทั้งสามอย่างนี้ ที่เหลือจะเป็นกิจกรรมแก้เลี่ยน เช่น บางวันคิมเบอร์ลี่ชวนไปต่อยมวย บางวันว่ายน้ำ เล่นเซิร์ฟ ขี่จักรยาน ตีเทนนิสบ้าง แอนเคยไปลงคอร์สเตะฟุตบอลกับนักแสดงชายวัยรุ่น เป็นการฝึกความคล่องตัว ฝึกสมอง ความฉับไว เราไม่ได้กะว่าจะเตะจริงจังนะ แต่อยากฝึกสมองตัวเองให้หัดรู้จักทิศทางที่ไม่คุ้นเคย ช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ หรือบางครั้งแอนลองไปวิ่งเทรลในป่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่คุ้นชิน ต้องปีนเขา ข้ามลำธาร เราไปเพื่อให้ร่างกายรู้จักว่าสิ่งนี้คืออะไร และเป็นการทดสอบสมรรถภาพกล้ามเนื้อที่เราไม่เคยลอง เพราะถ้าเราออกกำลังกายแบบเดิมติดต่อกันนานๆ มันจะจำ ต้องท้าทายอย่างอื่นบ้าง แต่ต้องอยู่ในพื้นฐานของอายุและแรงของเราที่รับไหวด้วยนะคะ”
ตื่นเช้ารับกำไรชีวิต
“แอนรู้สึกว่าการออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนการปลุกตัวเอง นับหนึ่งเริ่มต้นใหม่ เพราะถ้าออกกำลังกายตอนเย็น เราล้าจากการทำงาน ท้องก็อืด เพราะผ่านการดื่มน้ำ กินอาหาร ถ้าต้องไปออกกำลังกายอีกจะน่ารำคาญ อึดอัด แถมถ้าออกกำลังกายเสร็จแล้วหิว ก็จะมีมื้อเย็นหรือมื้อค่ำพ่วงอีก
“สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือการออกกำลังกายตอนเช้าทำให้เรามีนาฬิกาชีวิตที่มากกว่าคนอื่น ได้โควตาเพิ่มขึ้น 2 ชั่วโมง ที่ไม่มีรถบนถนน ไม่มีใครมาแย่งอากาศหายใจ เราได้เห็นพระอาทิตย์สีทองกำลังจะขึ้นพ้นขอบฟ้า เสียงนกร้องตอนเช้า ถ้าเดินตามถนนจะเห็นคุณยายขายห่อหมก หมูปิ้ง อากาศยังดี มันเป็นโลกที่คนกลุ่มหนึ่งจะได้สัมผัสเท่านั้น แอนอธิบายไม่ถูก รู้สึกทุกอย่างดีไปหมด อีกข้อคือระบบขับถ่ายในร่างกายก็ดีขึ้นด้วย
“บางวันแอนก็ชวนเพื่อนไปออกกำลังกายตอนเช้าด้วย เป็นทฤษฎีที่ดีมาก ที่จริงคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำเขาสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องการเพื่อนเลย แถมยังมีสมาธิกว่าด้วย แต่มนุษย์เราชอบสังคม ต้องมีจังหวะปลดปล่อยบ้าง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือบทสนทนาตอนเช้าของเรากับเพื่อนจะไม่เหมือนกับที่คุยบนโต๊ะอาหารหรือก่อนเข้านอน แต่จะคุยกันเรื่องทัศนคติ มีแต่เรื่องน่ารัก เพราะเรากำลังรู้สึกดีในยามเช้า ยิ่งเวลาเดินผ่านดอกไม้ในสวนสาธารณะ เราจะอยากรู้ว่ามันคือดอกอะไร น่ารักจัง อยากซื้อไปปลูกบ้าง เห็นคนแก่แกว่งแขน รำกระบี่กระบองก็น่ารัก เหมือนได้เห็นตัวเองในอนาคต ที่สำคัญคือเวลาที่เห็นเพื่อนมีความสุขจากการออกกำลังกาย มันภูมิใจนะกับการลากใครสักคนมาออกกำลังกายด้วยกัน แล้วพอเขาทำได้ เรารู้สึกมีความสุขมากกว่าการซื้อของขวัญราคาแพงให้เขาอีก
“สุดท้ายคือพลังงานที่ดีระหว่างที่ออกกำลังกาย แอนไม่ถึงขั้นได้ไอเดียงานเป็นรูปธรรม แต่จะได้พลังงานมากกว่า เพราะตอนกลางคืนแอนเหมือนโทรศัพท์ที่ปิดเครื่องชาร์จแบตเต็มที่ พอเปิดเครื่องตอนเช้า เราพร้อมจะรับความรู้สึกดีๆ เข้าตัว รู้สึกถึงความกระปรี้กระเปร่า โลกไม่น่าเบื่อ ทุกวันแอนจะรู้สึกว่ามีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะและไม่กลัวที่จะทำสิ่งใหม่ๆ จัดมาเลยค่ะ”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 982
ภาพ : @annethong
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เสกผิวสวยราวกระจกเหมือน “โรเซ่” ต้องเคร่งครัดกับสกินแคร์รูทีนอะไรบ้าง
Bella Hadid เผยทิปส์เด็ดมี ‘หุ่นสวย’ ได้ แบบไม่ต้องเครียดกับการออกกำลังกายเกินไป