ปรับรูปหน้า ชลิตาคลินิก

เจาะเทคนิค! การปรับรูปหน้าแบบองค์รวม ศาสตร์ความงามขึ้นชื่อของ ‘ชลิตาคลินิก’

ปรับรูปหน้า ชลิตาคลินิก
ปรับรูปหน้า ชลิตาคลินิก

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า ยุคนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อความสวยความงามของผู้หญิงเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีความงามล้ำๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญควบคู่กันไป ก็ต้องยกให้กับความเชี่ยวชาญและความเข้าอกเข้าใจคนไข้ของแพทย์

เฉกเช่น ‘คุณหมอสัณห์ (นพ.พิสัณห์ สุขประเสริฐ)’ และ ‘คุณหมอมะเหมี่ยว (พญ.ชลิตา สิรเมธี)’ แห่ง ‘ชลิตาคลินิก’ ที่เข้าใจลึกซึ้งว่า หัวใจสำคัญของความงามที่แท้จริง คือความสวยแบบอ่อนเยาว์ และดูเป็นธรรมชาติ จึงนำไปสู่แรงบันดาลใจในการนำศาสตร์ ‘การปรับรูปหน้าแบบองค์รวม’ หรือ Holistic Facial Design มาใช้ในการวิเคราะห์ปรับแต่งและแก้ไขรูปหน้าของคนไข้อย่างเป็นระบบ ทำให้ ‘ชลิตาคลินิก’ ขึ้นแท่นคลินิกความงามขวัญใจประจำจังหวัดอุบลราชธานี

 

อุดมการณ์สู่จุดเริ่มต้นของ ‘ชลิตาคลินิก’

คุณหมอสัณห์ : “สำหรับจุดเริ่มต้นของชลิตาคลินิก ผมต้องขอเล่าย้อนให้ฟังก่อนว่า ผมกับคุณหมอมะเหมี่ยว เราเป็นสามีภรรยากัน เรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมาด้วยกัน จึงมีโอกาสไปเป็นแพทย์ในชนบท ตั้งแต่โรงพยาบาลใหญ่ๆ ยันโรงพยาบาลที่เล็กที่สุดของจังหวัด ซึ่งถือเป็นประสบการณ์สำคัญ ได้ทำตั้งแต่พูดคุยกับคนไข้ ไปจนถึงขั้นตอนการรักษา จึงเห็นและเข้าใจปัญหาต่างๆ ทั้งหมด

คุณหมอสัณห์

“ประจวบเหมาะกับที่เราสองคนชอบด้านความงามเหมือนกัน และมีแนวคิดเดียวกัน โดยเรามองว่า การรักษาคนไข้ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ทั้งด้านสุขภาพร่างกายและด้านความงาม จะต้องประกอบด้วย 3 สิ่งสำคัญ ข้อแรก แพทย์จะต้องพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง และมีจรรยาบรรณแพทย์ที่สูง ข้อสอง เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องมีมาตรฐานระดับสากล ปลอดภัยสูงสุด และข้อสามคือการให้ความสำคัญกับคนไข้ ด้วยการตัดสินใจแนวทางการรักษาร่วมกันระหว่างแพทย์และคนไข้เสมอ จากมุมมองเดียวกันนี้ เราจึงตัดสินใจร่วมกันก่อตั้งชลิตาคลินิกขึ้น เพื่อเป็นศูนย์สุขภาพความงามและชะลอวัย ที่คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยได้”

 

คุณหมอมะเหมี่ยว: “นอกจากการรักษาคนไข้ด้านสุขภาพร่างกายแล้ว เรายังอยากรักษาคนไข้ด้านความสวยความงามด้วย เพราะปัจจุบันใครๆ ก็อยากดูดี อยากสวยกันทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ แต่ก็จำเป็นต้องอาศัยคลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีความรู้ มีฝีมือ และมีจรรยาบรรณ เราจึงตั้งใจเปิดชลิตาคลินิก เพื่อให้คนไข้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด”

‘การปรับรูปหน้าแบบองค์รวม’ ศาสตร์ความงามขึ้นชื่อของ ‘ชลิตาคลินิก’

คุณหมอมะเหมี่ยว

คุณหมอมะเหมี่ยว: “จุดแข็งของชลิตาคลินิกคือศาสตร์ความงามที่เรียกว่า การปรับรูปหน้าแบบองค์รวม หรือ Holistic Facial Design ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด โดยเราสองคนจะใส่ใจในทุกรายละเอียด และให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการรักษา ตั้งแต่การให้ความรู้กับคนไข้ การวางแผนการรักษา ไปจนถึงการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์และคนไข้ รวมถึงให้เวลากับคนไข้อย่างเต็มที่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”

 

คุณหมอสัณห์ :สำหรับการปรับรูปหน้าแบบองค์รวม ผมขออธิบายให้เข้าใจอย่างนี้ เมื่ออายุมากขึ้น รูปหน้าคนเรามีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ตั้งแต่โครงสร้างชั้นลึกสุด เช่น กระดูก ไขมันชั้นลึก จนถึงโครงสร้างชั้นนอกสุด เช่น ผิวหนัง ทำให้ใบหน้าดูโทรม ดูมีอายุ และหย่อนคล้อย ซึ่งตามคลินิกส่วนใหญ่ มักให้บริการปรับเสริมเฉพาะจุด ตามที่คนไข้บอกว่าอยากแก้ไขตรงนั้นตรงนี้ แต่สิ่งที่คนไข้ได้กลับไป คือ บริเวณนั้นๆ อาจดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้นก็ได้ หรืออาจเกิดผลเสีย เช่น ต้องปรับแต่งอยู่เรื่อยๆ เพราะการปรับเฉพาะจุด อาจทำให้บริเวณอื่นที่ไม่ได้ปรับผิดรูปไปด้วย เช่น ดูบวม ดูย้อย หรือดูปลอม เนื่องจากความต้องการที่แท้จริงของคนไข้ยังไม่ได้รับการแก้ไข

“แต่การปรับรูปหน้าแบบองค์รวมของชลิตาคลินิก แพทย์ต้องประเมินใบหน้าคนไข้ทั้งหน้าแบบ Total Face เพราะเราเข้าใจดีว่า โครงสร้างใดบนหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ละช่วงอายุ แพทย์จึงต้องประเมินและวิเคราะห์ว่า อะไรทำให้ใบหน้าเดิมของคนไข้เปลี่ยนแปลงไป เพื่อรักษาได้ตรงจุด เช่น คนไข้มีปัญหาใต้ตา ซึ่งเกิดจากโครงสร้างชั้นลึกทรุดตัว หรือไขมันฝ่อตัวลง เราจะไม่ฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ที่ใต้ตาก่อน เพราะจะทำให้ดูปลอม แต่จะฉีดฟิลเลอร์บริเวณต่างๆ เพื่อปรับโครงสร้างโดยรอบในรูปแบบองค์รวม ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดเฉพาะตัวของเราสองคน ทำให้สภาพใบหน้าโดยรวมดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนตอนที่อายุน้อยๆ

“ถ้าคนไข้มีปัญหาเรื่องร่องแก้ม ส่วนใหญ่มักเกิดจากโครงสร้างชั้นลึกของไขมันฝ่อตัวลง ทำให้แก้มด้านหน้าหรือด้านข้างหายไป ส่งผลให้ผิวหนังด้านบนหย่อนตัวลง ถ้าเราแก้ปัญหาตรงส่วนที่เป็นโครงสร้างชั้นลึกที่หายไปได้ ร่องแก้มก็จะดีขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำให้โครงสร้างใบหน้าดูสมส่วน อ่อนวัยเป็นธรรมชาติ ไม่ดูปลอม”

หัวใจสำคัญของ การปรับรูปหน้าแบบองค์รวม’ แบบฉบับ ‘ชลิตาคลินิก’

คุณหมอสัณห์ : “หัวใจสำคัญของการปรับรูปหน้าแบบองค์รวม หรือ Holistic Facial Design คือองค์ความรู้ของแพทย์ที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ต้องมีประสบการณ์ มีความเข้าใจในสรีรวิทยา เข้าใจเรื่องการใช้โปรดักต์และเครื่องมือที่ช่วยปรับรูปหน้าเป็นอย่างดี เพราะวงการแพทย์ไม่มีอะไรหยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวยา หรือเครื่องมือต่างๆ มีการวางแผนการรักษาอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ที่เหมาะกับปัญหาคนไข้แต่ละคน ต้องมองคนไข้แบบ Total Face เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

คุณหมอสัณห์

“นอกจากนี้ ยังต้องขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ด้วย เราจึงเน้นการพูดคุยกับคนไข้ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง การมีเวลาคุยกับคนไข้ แล้วค่อยตัดสินใจให้ครอบคลุมร่วมกัน ทั้งในเรื่องการรักษาและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เช่น ในเรื่องงบประมาณของคนไข้ เราสามารถช่วยเขาเลือกตามความเหมาะสมและความจำเป็น หารือร่วมกันว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เพื่อให้เขาเห็นถึงสาเหตุของปัญหา แล้วค่อยวางแผนการรักษาร่วมกัน เราจะทำอะไรก่อนหลังอย่างไร เพื่อให้เขาดูดีขึ้น เหมาะกับงบประมาณของคนไข้ เช่น ปัญหาร่องแก้ม มักไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เกิดจากทั้งไขมันทรุดตัว กระดูกทรุดตัว ผิวหน้าที่หย่อนตัวลง หรือคอลลาเจนที่หายไป ทำให้ผิวหนังหลวม เกิดการหย่อนคล้อย ซึ่งต้องแก้ไขในทุกๆ ชั้นผิวที่

มีการเปลี่ยนแปลง เช่น เมื่อกระดูกทรุดตัว หรือไขมันหายไป เราต้องใช้สารเติมเต็มฟิลเลอร์ ส่วนชั้นผิวหน้าที่หย่อนตัวลง ต้องใช้เครื่องอัลเทอร่า หรือถ้าผิวหนังย้วยลงตามอายุ ก็ต้องใช้เครื่องมือในกลุ่มเทอร์มาจ หรือโบท็อกซ์ร่วมด้วย

 “เมื่อเราวางแผนการรักษาเช่นนี้แล้ว จะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาคนไข้ครบทุกมิติในการแก้ปัญหารูปหน้า สิ่งที่ตามมาคือหน้าเขาจะดูเป๊ะและเด็กขึ้น แลดูเป็นธรรมชาติ”

การันตีความปังด้วยผลงานและประสบการณ์มากมาย

คุณหมอมะเหมี่ยว : “นอกจากความเชี่ยวชาญ ความใส่ใจ และจรรยาบรรณของแพทย์แล้ว ชลิตาคลินิกยังได้รับรางวัลยอดใช้สูงสุดระดับประเทศในปีที่ผ่านมา จากบริษัทฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ และได้รับการจัดอันดับเป็นคลินิกความงามกลุ่มท็อป โดยเฉพาะเรื่องการปรับรูปหน้า จากเว็บไซต์และสื่อชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ หรือการรักษาด้วยอัลเทอร่า

คุณหมอมะเหมี่ยว

คุณหมอสัณห์ : “ชลิตาคลินิกของเรามีคนไข้ที่ดูแลอยู่ ช่วงอายุระหว่าง 35-73 ปีเลยทีเดียว โดยช่วงอายุที่มีจำนวนมากที่สุดจะเป็น 45-55 ปี ส่วนปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือความหย่อนคล้อย ริ้วรอยแห่งวัย ผิวหน้าไม่กระชับ ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวต้องเริ่มจากการประเมินใบหน้าแบบองค์รวม เพื่อเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงของคนไข้ แล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนการรักษา บางรายก็ใช้วิธียกกระชับใบหน้าด้วยแรงดึงของสารเติมเต็มฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ บางรายก็กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวและยกกระชับใบหน้า เพื่อชะลอวัยด้วยอัลเทอร่าหรือเทอร์มาจ โดยวิธีการรักษาทุกแบบจะต้องวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ของแต่ละคนก่อนอย่างละเอียด เพื่อเลือกใช้วิธีการรักษาอย่างเหมาะสม ตามหลักการของศาสตร์การปรับรูปหน้าแบบองค์รวม”

สร้างสรรค์ความงามคุณภาพ ก้าวต่อไปของ ‘ชลิตาคลินิก’

ปรับรูปหน้า ชลิตาคลินิก

คุณหมอมะเหมี่ยว: “เราอยากพัฒนาให้ชลิตาคลินิกเป็นศูนย์ความงามครบวงจร ได้มาตรฐานสูงสุด มีเครื่องมือที่ดีที่สุด ดูแลเรื่องความสวยความงามได้ครบจบในที่เดียว เพื่อต่อยอดเป็นศูนย์ความงามครบวงจรแห่งภาคอีสาน”

คุณหมอสัณห์ : “ตอนนี้เราเน้นเรื่องการปรับรูปหน้าเป็นหลัก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะคนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกลับไปและพึงพอใจ เราจึงอยากเพิ่มเติมเรื่องการดูแลรูปร่าง การกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วน สำหรับอีกเรื่องที่วางแผนไว้คือด้านไลฟ์สไตล์สุขภาพ เช่น ฟิตเนส การรับประทานอาหารเพื่อชะลอความแก่

“สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างคือการพัฒนาองค์ความรู้ เพราะเรามองว่าความรู้ทางการแพทย์ไม่มีวันสิ้นสุด และเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การรักษาคนไข้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นการพัฒนาองค์ความรู้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง และนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยมาใช้ จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนไข้ทุกคน”

ชลิตาคลินิกเปิดให้บริการ วันพุธถึงอาทิตย์ 13.00-20.00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Line : @chalitaclinic

Tel : 088-1319189

FB : Chalita Clinic

Praew Recommend

keyboard_arrow_up