สำหรับนักวิ่ง เหนือกว่าเส้นชัย อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ “การมีสุขภาพที่แข็งแรง” แต่ก็มีหลายคนที่เตรียมความพร้อมก่อนวิ่งไม่เพียงพอ จนทำให้แมตช์วิ่งนั้นกลายเป็นสนามแห่งการบาดเจ็บและ “การทำลายสุขภาพ” ซึ่งสาเหตุที่พบกันบ่อยก็คือ การได้รับบาดเจ็บจากการยืดหรือคลายกล้ามเนื้อไม่มากพอหรือไม่ถูกวิธีนั่นเอง ซึ่ง ครูแนน – วริษา สุทธิกุลพานิช ครูโยคะนักวิ่งมากประสบการณ์กว่า 12 ปี ได้สาธิตท่า โยคะสำหรับนักวิ่ง ที่ควรนำไปปฏิบัติเพื่อการยืดเหยียดหลังการวิ่ง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นได้
ครูแนน-วริษา สุทธิกุลพานิช เจ้าของหนังสือ “Yoga for Runners: โยคะสำหรับนักวิ่ง” ได้บอกไว้ว่า “โยคะสอนให้เราทุกคนรู้จักร่างกาย ได้ฝึกสมาธิ ทำให้จิตใจเรานิ่งมากขึ้น เมื่อเรารู้จักร่างกายเราได้ดีขึ้น เราก็จะเคารพและรักร่างกายเรามากขึ้น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ ในชีวิตได้ด้วย
“และด้วยความที่เราชอบวิ่งและมีนักวิ่งมาฝึกโยคะกับเราบ้าง และเริ่มมีมาปรึกษาเรื่องวิธีการยืดคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาและป้องกันอาการบาดเจ็บจากการวิ่งค่อนข้างมาก ซึ่งการใช้โยคะในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังการวิ่ง โดยใช้ท่ายืดเหยียดแบบค้าง สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
บรรเทาอาการปวดตึงบริเวณต่างๆ และการฝึกฝนท่ายืดเหล่านี้เป็นประจำสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แกนกระดูกสันหลัง เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และข้อต่อทั่วร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อของเราแข็งแรง ข้อต่อ และกล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น ก็จะช่วยป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บจากการใช้กล้ามเนื้อ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการวิ่งของเราดียิ่งขึ้นตามไปด้วย”
นอกจากนี้ครูแนนยังนำท่าโยคะที่สามารถนำไปปฏิบัติหลังวิ่งมาฝากกัน
ท่า Low Lunge Pose
ท่ายืดบริหาร ผ่อนคลายกล้ามเนื้อร่างกายส่วนล่าง (Lower Body) จุดเด่นของท่านี้คือการยืดคลายสะโพกและหน้าขา และสร้างความแข็งแรงให้กับหัวเข่า พร้อมปรับสมดุลการทรงตัวของร่างกายให้ดีขึ้น เพียงยืดแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ค้างไว้ 5-10 วินาที สลับข้าง ทำซ้ายขวา (หากไม่สามารถยกมือขึ้น ให้นำมือวางไว้ที่ต้นขาได้)
ท่า Pigeon Pose
ท่านี้ทำให้กล้ามเนื้อรอบๆ สะโพกและรอบหน้าขาผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นบริเวณ Hip Flexor ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บจากการวิ่งเร็วๆ และนานๆ และช่วยผ่อนคลายบริเวณหลังล่าง เริ่มต้นที่ท่าคลานเข่า จากนั้นโน้มตัวไปด้านหน้า โดยใช้แขน ทั้งสองข้างช่วยประคอง น้ำหนักตัวไว้ก่อน ยืดขาด้านหนึ่งไป ด้านหลัง ขาอีกข้างหนึ่งงอหัวเข่าพับนั่ง ดูให้ช่วงหัวเข่ากว้างมากกว่าแนวสะโพกของขาข้างนั้น ส้นเท้าชี้มาที่ด้านหน้าสะโพกพยายามคว่ำส่งสะโพกชี้ไปด้านหน้า ปลายเท้าของขาอีกข้างกระดกวางตั้งกับพื้น หรือปล่อยวางราบไปกับพื้นก็ได้ หากสามารถก้มพับตัวลงไปแนวราบด้านหน้าได้ ก็จะสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะ ภายในบริเวณช่องท้องให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
ท่าโยคะในหนังสือ “Yoga for Runners: โยคะสำหรับนักวิ่ง” มีมากถึง 25 ท่าให้นำไปปฏิบัติกันได้ง่ายๆ ประกอบไปด้วย คือ “ท่ายืดบริหาร/ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อร่างกายส่วนบน” (Upper Body) และ “ท่ายืดบริหาร/ผ่อนคลายกล้ามเนื้อร่างกายส่วนล่าง” (Lower Body) โดยในส่วนของ Lower Body นั้น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย คือ ท่ายืน (Standing Position) ท่านั่ง (Seating Position) และท่านอน (Reclining Position) นักวิ่งสามารถเลือกฝึกตามความสะดวกของร่างกายและตามความเหมาะสมของสถานที่หรือพื้นที่ที่มี แม้จะดูเหมือนเป็นการแยกส่วนร่างกายออกจากกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การวิ่งหรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม เราใช้ร่างกายและกล้ามเนื้อทุกส่วน ครูแนนจึงอยากแนะนำ ให้ฝึกท่าบริหารทั้งสองส่วน เพื่อช่วยให้ร่างกายทุกส่วนแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น สร้างสมดุลให้กับร่างกายค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
4 วิถีสายเอ้าท์ดอร์ ออกกำลังกายท่ามกลางมลพิษ ให้รับผลกระทบสุขภาพน้อยที่สุด
ฟิตให้ถูกจังหวะ! รูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมแต่ละช่วงเวลา เช้า กลางวัน เย็น
จากคนไม่เคยคิดจะออกกำลังกาย! “ฮารุ สุประกอบ” ฟิตร่างหนักจนหุ่นเปลี่ยนไป
ระวังน็อก! ลองเช็คตัวเองว่า หักโหมออกกำลังกาย เกินพอดีไปหรือเปล่า
ยืน เดิน นั่ง นอน ผิดท่า! กระทบต่อโครงสร้างร่างกายและก่อให้เกิดโรคต่างๆ ที่ซ่อนอยู่
รู้จัก “โยคะ นิทรา” การดูแลสุขภาพแบบป้องกัน เสริมภูมิคุ้มกันจากมลภาวะรอบตัว