นวเวช Photo Cover

“คุณแม่รู้ทันครรภ์เสี่ยงสูง”

นวเวช Photo Cover
นวเวช Photo Cover

การมีลูกสักคนเป็นความฝันของผู้หญิงมากมาย สำหรับคุณจูเนียร์ – ณัฏฐาพัชร์ พูนผลหิรัญ Costume Artist วัย 27 ปี ทั้งที่รู้ว่าความฝันนี้ไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังหมายถึงความเสี่ยงต่อชีวิตของตัวเธอเอง เธอก็พร้อมจะเดินทางตามเส้นทางความฝันนี้ ด้วยความมั่นใจในการดูแลของแพทย์และโรงพยาบาลนวเวชที่เข้าใจถึงความหมายของลูกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพ่อแม่

คุณณัฏฐาพัชร์ ตั้งครรภ์โดยมีภาวะโรคหัวใจ ซึ่งย้อนกลับไปตอนเธออายุได้เพียง 13 ปี เริ่มมีอาการไอ เหนื่อยง่าย หอบ และเป็นลมอยู่บ่อยครั้ง เมื่ออัลตร้าซาวนด์ก็พบว่ากล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงและเจอเนื้องอก จึงเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกที่หัวใจในทันที แม้จะผ่านมา 13 ปีแล้ว เธอก็ยังคงมีอาการเหนื่อยง่ายอยู่

เมื่อมีปัญหาด้านสุขภาพ การเตรียมตัวจึงสำคัญมาก

“จูเนียร์แต่งงานปี 2565 ค่ะ แพลนกับแฟนว่าตั้งใจจะมีน้องเลยตอนนั้นก็กังวลนะ เพราะมีทั้งโรคหัวใจของตัวเองและประวัติโรคมะเร็งของสมาชิกในครอบครัวทางฝั่งสามี แต่เราก็ตั้งสติและจัดการว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด นั่นก็คือเรื่องโรคหัวใจของตัวเราเอง

“ทราบว่าตั้งครรภ์ตอนอายุครรภ์ 1 เดือน พอเมนส์ไม่มาก็เลยตรวจ แล้วก็เริ่มเสิร์ชหาข้อมูลโรงพยาบาลและคุณหมอที่จะไปฝากครรภ์ ส่วนตัวคิดว่าเนื่องจากโรคประจำตัวของเราหนักอยู่เหมือนกัน จึงอยากเลือกคุณหมอที่ไม่เครียดจนเกินไป ไม่เข้มงวดจนกดดัน เพราะเราเชื่อว่าคนท้องก็คือคนปกติคนหนึ่งนะ พี่สาวแฟนยังพูดว่าคนท้องไม่ใช่คนป่วย อย่าจำภาพในละคร ใครถามก็อย่าไปฟังมาก ใช้ชีวิตให้ปกติ”

สบายใจเมื่ออยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

“จูเนียร์อ่านเจอข้อมูลของคุณหมอฟลุ้ก -นายแพทย์ธิติพันธุ์ น่วมศิริ ก็ชอบสไตล์และแนวทางการดูแลคุณแม่ที่มีความเสี่ยง เลยตัดสินใจเข้ามาปรึกษาและฝากครรภ์กับคุณหมอที่โรงพยาบาลนวเวช”

นายแพทย์ธิติพันธุ์ น่วมศิริ สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM) ศูนย์สุขภาพผู้หญิง โรงพยาบาลนวเวช อธิบายถึงกรณีคุณณัฏฐาพัชร์ว่า “เป็นการตั้งครรภ์ที่มีภาวะครรภ์เสี่ยงสูง หรือที่เรียกว่า High-Risk Pregnancy คือภาวะใด ๆ ก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแม่เองและทารกในครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความผิดปกติของโครโมโซม หรือเป็นโรคประจำตัวของแม่ อาจทำให้เกิดอันตรายหรือเสียชีวิตได้ ทั้งในระหว่างตั้งครรภ์ ขณะคลอด หรือหลังคลอด ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์

“สำหรับเคสของคุณจูเนียร์ที่มีอาการของโรคหัวใจแต่กำเนิด และได้รับการผ่าตัดก้อนเนื้องอกที่หัวใจตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น เราเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษ เพราะในช่วงของการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนเลือดจะมากขึ้น ทำให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งเราได้ดูแลคู่กับคุณหมอหัวใจที่ทำ Echo ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและประเมินเรื่องของความดันเป็นระยะ ๆ”

คุณณัฏฐาพัชร์ เล่าเพิ่มเติมว่า “อาการที่จูเนียร์เป็นระหว่างการตั้งครรภ์คือไตรมาสแรกก็ยังเป็นลมง่าย วูบ เวลาทำงานบ้านอากาศร้อนจะเป็นลม ไตรมาสที่ 2 ก็ยังมีอาการเป็นลมอยู่บ้าง คุณหมอฟลุ้กก็แนะนำเพิ่มเติมว่าให้อยู่เฉย ๆ อย่าแอ็กทีฟเกินไป แต่อาการแพ้ท้องทั่วไปไม่มี”

นายแพทย์ธิติพันธุ์ กล่าวต่อว่า “ในส่วนทารก เราตรวจประเมินครบทุกอย่าง ทั้งตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม เบาหวาน ครรภ์เป็นพิษ ซึ่งทารกสมบูรณ์แข็งแรงดี ส่วนที่ผมกังวลมากกว่าคือการคลอด เพราะคุณแม่อยากคลอดธรรมชาติ ซึ่งคุณแม่ใจสู้มาก ลองคลอดธรรมชาติก่อนแต่ไม่สำเร็จ เพราะการเบ่งและความเจ็บปวดในการคลอดทำให้หัวใจทำงานเพิ่มมากขึ้น และปากมดลูกไม่เปิดเพิ่ม เลยต้องทำการผ่าคลอด เพราะกลัวภาวะหัวใจล้มเหลวระหว่างคลอด”

“ตอนนั้นทางโรงพยาบาลนวเวชให้คุณหมอ 3 ท่านมาดูแลเคสของจูเนียร์เลยค่ะ นอกจากคุณหมอฟลุ้ก ก็ยังมีคุณหมอวริษฐา เล่าสกุล อายุรแพทย์โรคหัวใจ ที่เชี่ยวชาญโรคหัวใจ และคุณหมอปรเมศวร์ วงศ์ประเสริฐ ที่ดูแลทารกแรกเกิดที่มีภาวะวิกฤต ก็เลยอุ่นใจมาก”

ดูแลรอบด้านด้วยความเข้าใจ

นายแพทย์ปรเมศวร์ วงศ์ประเสริฐ กุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนวเวช กล่าวว่า  “เราต้องแน่ใจว่าลูกไม่มีภาวะหัวใจผิดปกติตั้งแต่แรกเกิด ทารกไม่มีภาวะพร่องออกซิเจนตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพราะจะทำให้มีปัญหาเรื่องปอด ซึ่งคุณหมอธิติพันธุ์เป็นผู้ดูแลในส่วนนี้  ในส่วนของหมอ หลังคลอดเราจะวินิจฉัยทั้งเรื่องหัวใจ การหายใจ และปอดที่ต้องระวังมากกว่าทารกแรกเกิดทั่วไป

“การดูแลทารกแรกเกิดที่มีความเสี่ยงสูง เราต้องดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจซึ่งมักถูกละเลย เพราะคิดว่าทารกอาจไม่มีความเจ็บปวดทางจิตใจ ซึ่งการจะดูแลทารกได้เป็นอย่างดี หมอสูติฯ และหมอเด็กต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด หมอเองจะมีการตรวจติดตามที่มีความถี่สูงกว่ากรณีทั่วไป เพื่อเฝ้าระวังและสังเกตโอกาสที่จะมีปัญหาอื่น ๆ ร่วม รวมทั้งระวังผลข้างเคียงต่าง ๆ และดูเรื่องพัฒนาการของเด็กเป็นพิเศษ

“เมื่อคลอดน้องพีเจออกมา เราพบว่าน้องมีพังผืดใต้ลิ้น ซึ่งภาวะนี้แบ่งความรุนแรงได้เป็นน้อย ปานกลาง และมาก ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในการเข้าเต้าดูดนมมารดา และเมื่อเด็กโตขึ้นอาจมีปัญหาด้านการพูด การสะกดคำ เช่น พูดไม่ชัดในคำควบกล้ำ เพราะต้องใช้การกระดกลิ้น หมอจึงให้คำแนะนำคุณแม่ว่าการรักษาตอนนี้โดยการขริบพังผืดใต้ลิ้นในวัยทารกจะทั้งง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า ซึ่งคุณแม่ก็ตัดสินใจให้ดูแลตรงนี้ไปเลย”

บริการและสถานที่ดีเหมือนโรงแรม

“จูเนียร์ประทับใจพนักงาน วอร์ด และโรงพยาบาลมาก คุณแม่ของจูเนียร์ประทับใจพยาบาลมาก ห้องสะอาด แม่บ้านสะอาดมาก ทุกคนพูดเพราะ หลังผ่าคลอดจูเนียร์นอนพัก 3 คืน อาหารอร่อย เวลาใครจะมาเยี่ยมแล้วถามเราว่าคลอดที่ไหน ก็เผลอเรียกว่าโรงแรมนวเวชหลายครั้ง เพราะห้องพักและการดูแลดีมาก คิดถูกแล้วที่เลือกฝากครรภ์และคลอดที่โรงพยาบาลนวเวช ไม่ต้องกังวลอะไรเลยค่ะ”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up