จุ๊มเหม่ง

เปิดความน่ารัก! ครอบครัว “จุ๊มเหม่ง” จากตัวท็อปบนโลกโซเชียลสู่อินฟลูฯสี่ขาห้างแตก 

Alternative Textaccount_circle
จุ๊มเหม่ง
จุ๊มเหม่ง

“จุ๊มเหม่งมีอารายๆ” กลายเป็นวลีไวรัลบนโลกโซเชียลที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้จักและหลงรัก “จุ๊มเหม่ง” อินฟลูเอนเซอร์แสนรู้ หนึ่งในสมาชิกน้องหมาพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จากคลิปที่เผยแพร่ทาง TikTok และเพจ “Japan จอมโหด and friends” ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.7 ล้านคนของ คุณแป้น – ณภัค ภักดีอิสรา เจ้าของโกเด้นรีทรีฟเวอร์สามตัว “เจได, ใจดี, จุ๊มเหม่ง” และผู้อยู่เบื้องหลังเสียงพูดของจุ๊มเหม่งที่ทำให้แฟนคลับติดกันงอมแงม ถึงขั้นมีเทรนด์สีผมแบบจุ๊มเหม่ง

เปิดความน่ารัก! ครอบครัว “จุ๊มเหม่ง” จากตัวท็อปบนโลกโซเชียลสู่อินฟลูฯสี่ขาห้างแตก

ตกหลุมรักโกลเด้นรีทรีฟเวอร์

“ก่อนหน้านี้แป้นเลี้ยงแต่หมาพันธุ์เล็กอย่างมอลทีส วันหนึ่งเพื่อนสนิทซื้อลูกหมาพันธุ์โกลเด้นฯเพื่อมอบเป็นของขวัญ แต่ผู้รับไม่สามารถเลี้ยงได้ เพื่อนจึงถามแป้นว่าสนใจไหม ด้วยความสงสารแป้นจึงรับไว้ก่อน เผื่อส่งต่อให้คนอื่น แต่แล้วกลับตกหลุมรักในความขี้เล่นและจิตใจดีของหมาพันธุ์นี้ เลี้ยงได้ไม่นานเขาก็เสียชีวิตเพราะหัวใจวายจากเสียงฟ้าร้อง แป้นร้องไห้หนักมาก จนพี่สาวต้องพาเจแปนมาให้

“เจแปนเป็นเพศเมีย เลี้ยงมาจนเขาอายุ 2 ขวบกว่าจึงทราบว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วตั้งแต่กำเนิด พยายามหาหมอรักษา จนที่สุดได้รับการผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาฯ เจแปนถือเป็นหมาไทยตัวแรกที่ผ่าตัดหัวใจได้สำเร็จ ตอนนั้นเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับเลยค่ะ จากที่คาดว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 4 เดือน เจแปนสามารถอยู่ต่อมาได้อีก 2 ปี

“ส่วนเจไดได้มาหลังจากเลี้ยงเจแปนไม่นาน เพราะอยากได้หมาตัวผู้มาเป็นเพื่อนเจแปน แต่เจไดมีคาแร็คเตอร์เงียบๆ ไม่ค่อยขี้เล่น ชอบนอนอย่างเดียว ตอนที่เจแปนตายใหม่ๆ แป้นเกือบเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเวลานั้นเราต้องการกำลังใจ แต่เจไดเอาแต่นอนทั้งวัน อาจเพราะอารมณ์และแพลนชีวิตของแป้นขึ้นอยู่กับหมา วันนี้จะทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอยากทำอะไรเป็นหลัก

“หลังจากเจแปนจากไป แป้นก็ได้ใจดีจากฟาร์มแห่งหนึ่ง เห็นเขาครั้งแรกคือใช่เลย หน้าตาเหมือนเจแปนมาก ทุกครั้งที่หมาตาย แป้นจะหาน้องหมาตัวใหม่มาเลี้ยงแทนตลอด เพราะไม่อย่างนั้นชีวิตเราจะไม่สามารถก้าวข้ามผ่านการจากลาได้ เหมือนเป็นปมในใจ เวลาคิดถึงเขาก็จะทำให้เราเศร้าจนไม่สามารถมูฟออนต่อได้

“อย่างหนึ่งที่ได้รับจากการเลี้ยงหมาคือให้อยู่กับปัจจุบัน แล้วทำทุกอย่างให้มีความสุข อย่างเจได ใจดี และจุ๊มเหม่ง ไม่เคยสนใจเลยว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร หิวก็กิน ง่วงก็นอน อย่างเมื่อวานพาไปว่ายน้ำ วันนี้ลืมแล้ว (หัวเราะ) ฉะนั้นแทนที่เราจะมัวคิดกังวลเรื่องอนาคต ขอแค่อยู่ตรงไหนแล้วแฮ็ปปี้แค่นั้นพอ” 

จุ๊มเหม่ง

JUMMENG’s Story 

“พอเลี้ยงใจดีได้ไม่นานก็ปรึกษากับเพื่อนว่าอยากให้ใจดีมีลูกเพื่อเป็นทายาทสืบทอด เพราะเราไม่อยากเศร้าอีกแล้ว พอดีเพื่อนมีโกลเด้นฯตัวเมียจึงพามาผสม ปรากฏว่าคลอดออกมาเป็นตัวผู้กับตัวเมียอย่างละตัว และคลอดตรงกับวันเกิดแป้นพอดี คือ 29 พฤศจิกายน จึงต้องแบ่งกับเพื่อนคนละตัว แป้นเลือกตัวผู้ คือจุ๊มเหม่ง เพราะเจไดกับใจดีเป็นตัวผู้ ถ้าเอาตัวเมียมาอาจจะผสมกันได้

“ทีแรกเกือบจะตัดสินใจไม่เลี้ยงเพิ่มแล้ว เพราะอยากได้ลูก แต่ไม่อยากเลี้ยง จึงคิดว่าจะเอาไปให้เพื่อนสนิทที่สามารถพาไปเที่ยวด้วยกันได้ แต่วันที่ต้องยกให้เขาจริงๆ แป้นถึงกับน้ำตาร่วง ทำใจไม่ได้ ที่สุดจึงตัดสินใจเลี้ยงไว้เอง

“หมาสามตัวแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เจไดนิ่งๆ เน้นนอนอย่างเดียว ส่วนใจดีขี้น้อยใจ อารมณ์เหมือน Wednesday Child ลูกคนกลาง ตอนที่ยังไม่มีจุ๊มเหม่ง ใจดีจะหยิ่ง เพราะรู้ว่าเรารักมาก พอมีจุ๊มเหม่งมา ใจดีเปลี่ยนไปเลย ติดแป้นมาก คงกลัวโดนแย่งความรัก

“ตอนจุ๊มเหม่งมาอยู่ใหม่ๆ ใจดีไม่ชอบมาก ถึงขั้นถ้าจุ๊มเหม่งมาโดนตัวก็จะวิ่งหนี แป้นพยายามหาวิธีให้เขาสนิทกันให้ได้ อย่างเวลาให้ขนมจะให้ใจดีกินก่อน แล้วค่อยให้จุ๊มเหม่ง เพื่อให้ใจดีรู้สึกว่าการที่อยู่ใกล้จุ๊มเหม่งแล้วดีนะ จะได้กินขนม แต่ใจดียังขี้น้อยใจตลอด ทุกครั้งที่แป้นจับตัวจุ๊มเหม่ง เขาจะหันมาจ้อง แล้วรีบตรงเข้ามาแทรกตรงกลาง ส่วนตัวลูกชายไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเลย ชอบเข้าไปหาและอ้อนปะป๊าใจดีตลอด จุ๊มเหม่งเป็นหมาที่อะไรก็ได้ Happy Go Lucky (สบายใจไม่ทุกข์ร้อน) จริงๆ”

จุ๊มเหม่ง

ดูแลและใส่ใจ

“เพราะเขาเป็นหมาใหญ่ พลังงานเยอะ ทุกวันแป้นจะพาเดินรอบๆ หมู่บ้าน ไม่อย่างนั้นเขาอาจเครียด เคยไม่พาไปแล้วเขามีอาการ โดยเฉพาะจุ๊มเหม่งที่วิ่งวนไปทั่วห้อง เพราะเขายังเล็ก แล้วพลังงานเยอะ บางทีมีทำร้าย (หัวเราะ) ชอบกัดแขนขาเราเล่น นอกจากนี้แป้นจะพาไปอาบน้ำทุก 3 วัน โดยพาไปว่ายน้ำที่สระของโรงพยาบาลประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วทางโรงพยาบาลจะจัดการอาบน้ำเป่าขนให้ ซึ่งราคาเท่ากับพาไปอาบน้ำตามร้านเลย

“สำหรับอาหารเราให้วันละ 2 มื้อ มื้อเช้าประมาณตี 5 มื้อเย็นบ่าย 3 โมง โดยใช้สูตรนำข้าวกล้อง เนื้อไก่ แซลมอน พริกหยวกสามสี กะหล่ำม่วง กะหล่ำปลี บรอกโคลี ผักโขม ผสมเครื่องในไก่นิดหน่อย ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ มาต้มรวมแล้วบด จากนั้นนำมาแพ็คแบ่งเป็นแต่ละมื้อเก็บใส่ช่องฟรีซ พอจะกินก็นำออกมาละลาย ส่วนใหญ่ทำตุนไว้สองอาทิตย์ครั้ง โดยใจดีจะกิน 300 กรัมต่อมื้อ ส่วนเจไดกับจุ๊มเหม่ง 250 กรัมต่อมื้อ นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมระหว่างมื้ออย่างเนื้อไก่อบแห้งกับนมแพะด้วย

“แป้นศึกษาจากคลิปต่างประเทศว่าเขาเลี้ยงกันอย่างไร แม้อาหารเม็ดจะมีคุณค่าทางสารอาหารครบ แต่แป้นมองว่าทำอาหารสดให้เขาเองดีกว่า เพราะเราไม่ปรุงรสและได้สารอาหารครบจริง เพราะแป้นใส่สารอาหารจากธรรมชาติอย่างแฟลกซ์ซี้ด เมล็ดงาดำ สาหร่ายสไปรูลินา และขมิ้นให้พวกเขาในทุกมื้อด้วย”

บุกโลกโซเชียล

“แป้นเริ่มถ่ายภาพน้องหมาลงโซเชียลตั้งแต่ตอนเลี้ยงเจแปน ตอนนั้นแป้นถ่ายคลิปเจแปนสอนน้องหมาไทยแถวบ้านลงบันไดแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีการแชร์ไปนับหมื่น จนสื่อในอังกฤษติดต่อขอซื้อคลิปเพื่อไปลงข่าว แล้วสื่อจากญี่ปุ่นติดต่อขอสัมภาษณ์ออกทีวีด้วย ลงคลิปนี้แค่วันเดียวทำให้มีคนมาขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กแป้นกว่าหมื่นคน ทำให้ต้องเปิดเพจ ‘Japan จอมโหด and friends’ แต่ช่วงนั้นแป้นไม่ได้ทำสม่ำเสมอ มีหยุดไปตอนที่เจแปนป่วยหนัก กลับมาอีกทีตอนมีใจดี ทำคลิปลงใน TikTok เวลานั้นมีผู้ติดตามประมาณ 6 แสนคน แรกๆ ยังไม่มีเสียงพากย์ จนมีจุ๊มเหม่งถึงได้เริ่มใส่เสียงพากย์เข้าไป ปรากฏว่าดังมาก (หัวเราะ) จนกลายมาเป็นไวรัล ทำให้ปลายปีที่ผ่านมามีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคนแล้วภายในระยะเวลาหนึ่งปี

“เวลาพากย์เสียงหมาแต่ละตัวแป้นจะมองหน้าเขาก่อนว่าควรมีเสียงอย่างไร อย่างใจดีต้องกวนๆ ดุๆ หน่อย เจไดดูชิลๆ หน้านิ่งๆ เหมือนไม่อยากพูดกับแป้นสักเท่าไร (หัวเราะ) ส่วนจุ๊มเหม่ง แป้นมองหน้าเขาแล้วก็ได้เสียงนี้มาโดยอัตโนมัติ เหมือนเขาคอนเน็กต์กับเรา เสียงที่ออกมาจึงดูเป็นธรรมชาติ แล้วสิ่งต่างๆ ที่เขาทำแป้นจะรู้ทันทีว่าเขาคิดอะไรอยู่ เป็นโมเมนต์ที่เกิดขึ้นจริง อาจเพราะสิ่งเหล่านี้ที่ทำให้คลิปจุ๊มเหม่งเข้าถึงใจคน

“สำหรับคำว่า ‘จุ๊มเหม่งมีอารายๆ’ มาจากตัวเขาเอง ช่วงนั้นแป้นกำลังปรับปรุงห้อง เก็บข้าวของต่างๆ ใส่ลังแล้ววางในห้องรับแขก พอจุ๊มเหม่งเห็นก็ยืนเลือกว่าจะคาบของชิ้นไหนดีเพื่อเอามาให้แป้นดู แล้วทำท่าดึ๊งๆๆ (หัวเราะ) ก้นบิดไปบิดมา ประมาณว่าอยากรู้ไหมว่าฉันมีอะไร หลังจากทำคลิปคำพูดนี้ออกไปก็มีคอมเมนต์เข้ามาถามตลอดว่าวันนี้จุ๊มเหม่งจะคาบอะไรมาให้ดู”

พลัง KFC

“ไม่คิดว่าจะมีคนรักหมาของเราเยอะขนาดนี้ เวลามีงานไปโชว์ตัวที่ไหนจะมีแฟนคลับเดินทางมาให้กำลังใจเยอะมาก บ้านเราเรียกพี่ๆ แฟนคลับว่า KFC ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษ แค่เมื่อก่อนแป้นเขินเวลามีคนนบอกว่าเป็น FC เพราะดู Over Claim จึงเรียกเล่นๆ ไปว่าพี่ๆ KFC จนติดไปแล้ว วันไหนแป้นบอกในเพจว่าเจได ใจดี และจุ๊มเหม่ง จะไปปรากฏตัวที่ไหน พี่ๆ KFC จะมารอกันตั้งแต่เช้า เพื่อเข้ามาจับและสัมผัสเด็กๆ ซึ่งแป้นไม่หวง สามารถจับและกอดได้เลย เพราะหมาทุกตัวเกิดมาเพื่อให้พลังงานดีๆ กับโลกนี้อยู่แล้ว อยากให้ทุกคนแฮ็ปปี้ที่ได้สัมผัสเขา แป้นเชื่อว่าเจได ใจดี และจุ๊มเหม่ง ก็รู้สึกดีใจเหมือนกันที่ได้เจอพี่ๆ เพราะเขาไม่ตื่นตกใจ ให้ทำอะไรก็ทำหมด ขอแค่อากาศไม่ร้อน ไม่อย่างนั้นอาจอารมณ์เสีย (หัวเราะ)

“แป้นรู้สึกว่าเจได ใจดี และจุ๊มเหม่ง เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข การอยู่กับเขาสอนให้เราได้เรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วคนเราไม่ต้องการอะไรมากในชีวิต แค่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ เงินทองอาจจะสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต อย่างแป้นการได้อยู่กับหมาก็รู้สึกแฮ็ปปี้แล้ว เมื่อก่อนแป้นทำธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์สำหรับถ่ายโฆษณา ใครจะคิดว่าการอยู่กับหมาแล้วได้ทำในสิ่งที่รักทุกวันจะกลายเป็นอาชีพ จนมาเป็นเน็ตไอดอลและเปิดบริษัทชื่อ Japan and friends

“แป้นว่าเราต้องเริ่มต้นจากการคิดดีและคิดบวกก่อน แล้วทำในสิ่งที่รัก ก็จะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาได้ จริงๆ แล้วแป้นต้องการแค่ส่งความรักที่มีต่อน้องหมาทั้งสามตัวให้คนที่ติดตามได้ดูแล้วมีความสุขอย่างที่เรามี พอแป้นโพสต์คลิปแล้วเห็นคอมเมนต์ ‘รอทั้งวันเลยค่ะ นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดรอยยิ้มแรกของวันนี้’ หรือ ‘เหนื่อpมาทั้งวัน แต่แฮ็ปปี้ได้เพราะจุ๊มเหม่งเลยนะ’ แป้นอ่านแล้วรู้สึกใจฟูขึ้นมาเลยค่ะ ถือเป็นการตอบแทนสิ่งที่แป้นทำมาได้คุ้มค่าที่สุด”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 991

ภาพเพิ่มเติม

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up