ปีนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีทองของ “มิว – ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” เพราะนอกจากจะมีผลงานปังๆ จ่อคิวมาให้แฟนๆ ชมรัวๆ ฟากชีวิตรักเจ้าตัวก็แง้มมาแล้วว่ามีคนคุยด้วย เบื้องหลังความลงตัวทั้งชีวิตและงานที่นอกจากฝีมือของเขาแล้ว มิวยังถือเป็นสายมูตัวจริง เกริ่นมาขนาดนี้ อยากรู้แล้วใช่ไหม มิวพกอะไรจึงช่วยให้เฮงและปังเบอร์นี้
สายมูตัวจริง “มิว – ศุภศิษฏ์” เผยข้าวของต้องมู! และความเชื่อส่วนตัวพาเฮง
“ผมเชื่อเรื่องมูมานานแล้ว อย่างสมัยเรียนอยากได้เกรดเอมาก ถ้าทำของตกก่อนสอบจะรู้สึกเป็นลางว่าอาจสอบตก ก็จะถือเคล็ดช่วยว่าถ้าของชิ้นที่ตกนั้น มีตัวอักษร A จะได้ A แน่ๆ แต่ถ้าไม่มีก็จะพยายามหาทางเชื่อมโยง เช่น ทำ ขวดน้ำตก ขวดคือ Bottle ผมก็จะลิงก์ไปว่า Bottle of Water เป็นต้น คือมี A อยู่ตรง Water (หัวเราะ) สำหรับผมรู้สึกว่าได้ผลในแง่จิตใจน่ะ เพราะพอเรามีกำลังใจทำข้อสอบ เกรดก็จะดี ส่วนอีกอย่างที่ต้องทำเสมอก่อนออกจากบ้านคือใส่เสื้อสีมงคลครับ หากรีบหรือจำไม่ได้ว่าวันนั้นใส่สีอะไรแล้วโชคดี ผมจะดูแค่ว่าอย่าใส่สีกาลกิณี เช่น วันจันทร์ห้ามใส่สีแดง เป็นต้น
“แต่ถ้าเป็นของที่ผมพกติดตัวเสมอคือแหวนครับ อย่าง LV Onyx แบรนด์หลุยส์ วิตตอง เป็นหินออนิกซ์สีดำ ผมเชื่อเรื่องพลังงานจากหิน ซึ่งออนิกซ์เป็นหินนำโชค ช่วยให้มีโชคลาภและช่วยเรื่องความกล้าหาญ ความเชื่อเกี่ยวกับแหวนคือนอกจากตัวแหวน นิ้วที่สวมก็มีผลด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้ช่วยเรื่องอะไร เช่น ถ้าเรื่องงานจะสวมที่นิ้วชี้ข้างขวา นิ้วชี้หมายถึงความเป็นผู้นำ การสวมแหวนที่นิ้วนี้ ช่วยเรื่องการจัดการ การบริหารงาน ถ้าอยากได้เรื่องความรัก เขาก็แนะนำให้สวมที่นิ้วนางมือซ้าย ซึ่งตอนที่ผมไปซื้อก็เหลือแค่ไซส์นี้ไซส์เดียวและวงเดียวด้วย

“นอกจากวงนี้ผมยังมีแหวนอื่นๆ อีก รวมแล้วน่าจะประมาณ 10 วง เวลาใส่ ตามศาสตร์แล้วให้เป็นจำนวนเลขคี่ พอใส่แหวนแล้วรู้สึกว่าตัวเองอุ่นใจ แม้ผมจะไม่หวังอะไรจากแหวน แต่การมีอยู่ที่นิ้วก็ช่วยให้มั่นใจมากขึ้น
“นอกจากนี้ผมยังนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลากหลาย เช่น เทพเจ้าแชกง วัดแชกงหมิวหรือวัดกังหันลมที่ฮ่องกง ท่านช่วยให้ชีวิตโชคดี ปัดเป่าสิ่งไม่ดี ที่นั่นจึงมีเครื่องรางกังหันขายเยอะ ผมเองก็เช่ากลับมาเหมือนกัน นอกจากนี้ยังบูชาพ่อชูชก วัดป้อมรามัญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นองค์เล็กๆ ไว้ที่บ้าน ช่วยเรื่องโชคลาภครับ
“ส่วนเรื่องขอพรผมไม่ถนัด ผมว่าบางทีเวลาขอพร ใจเรารีบ จึงไม่ค่อยเห็นผล ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นการไหว้สักการะโดยไม่หวังผลอะไร รู้สึกดีกับใจมากกว่า เพราะเวลาอยากได้อะไร เราต้องลงมือทำด้วย แค่ไหว้ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เข้ามา ส่วนถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะอำนวยพรอะไรให้ ก็แล้วแต่ท่านเลย

“ส่วนตอนนี้ถ้ามีปัญหาหรืออยากขอคำแนะนำจะพึ่งหมอดู เฉพาะเวลาที่รู้สึกว่ามีเรื่องสำคัญต้องตัดสินใจแล้วยังไม่ค่อยแน่ใจนัก หมอดูท่านนี้แม่นมาก มีคนแนะนำมาอีกที ผมเริ่มดูเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตอนนั้นไปถ่ายซีรี่ส์ที่เกาหลี ใช้วิธีแอดไลน์ไป ซึ่งไลน์ของผมไม่ขึ้นชื่อ มีแค่รูปโปรไฟล์การ์ตูน คือดูไม่ออกเลยว่าเป็นมิว บวกกับไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร เขาขอแค่วันเดือนปีเกิดกับเวลาเกิดเท่านั้น แล้วก็ทักมาว่าตอนนี้คุณทำงานแถวๆ เกาหลี จีน ญี่ปุ่นใช่ไหม ซึ่งใช่ เขาบอกว่าผมมีดวงการเดินทางเยอะ เช่น เดือนตุลาคมก็จะไปอเมริกา โอ้โฮ แม่นมาก เพราะผมซื้อตั๋วไว้แล้ว แต่ไม่ได้บอกใคร ขนาดคุณแม่ยังไม่ได้บอกเลย
“อย่างเรื่องงาน ซึ่งผมแพลนว่างานที่ยังค้างคาน่าจะจบช่วงเดือนเมษายนปีนี้ แต่เขาบอกว่าไม่ถึงหรอกนะ ธันวาคมทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็จริงตามนั้น อย่างความรักก็ถามจากเขาเหมือนกัน ผลออกมาตรงหลายอย่าง นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำให้ไปไหว้หลวงพ่อโสธร เพราะช่วงที่ผ่านมาผมเจอเรื่องยุ่งๆ หลายเรื่อง หลังจากไปไหว้ท่านและสวดมนต์ พบว่าปัญหาคลี่คลายดีขึ้น สิ่งสำคัญคือผมสวดมนต์ทุกวัน โดยเฉพาะบทชินบัญชร ไม่เคยขาดเลย เป็นบทสวดที่ป้องกันสิ่งไม่ดีและเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองครับ”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 990
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ