ททท. มอบความสุขส่งท้ายปีชวนออกเดินทาง ภายใต้แนวคิด 5 MUST DO IN THAILAND เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน ปักหมุดเมืองน่าเที่ยว กิจกรรมไฮไลท์ทั่วไทย ที่ต้องไม่พลาดไปเช็กอินช่วงวันหยุดยาวนี้

เข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ใครยังมีวันลาพักร้อนเหลือเฟือ หรืออยากชวนก๊วนเพื่อน คนรัก และครอบครัวไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยกัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนแพ็กกระเป๋าออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์เมืองน่าเที่ยวทั่วไทยที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมปักหมุดจุดท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปี ที่ถือเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากงานเทศกาลต่าง ๆ และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทยแล้ว ยังมีเมืองน่าเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวให้กว้างยิ่งขึ้น

โดย ททท. ได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นการแนะนำแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงกิจกรรมไฮไลท์หลากหลายตลอด 365 วันของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ แบบ 360 องศาให้นักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด 5 MUST DO IN THAILAND ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับกิจกรรมและวิถีชุมชนที่หลากหลายของเมืองน่าเที่ยวในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น MUST TASTE พบเมนูเด็ดต้องลองชิม MUST TRY กิจกรรมต้องลองลุย MUST BUY สินค้าท้องถิ่น ไอเทมอาร์ต ๆ ที่ต้องลองช้อป MUST SEEK วิวสวยต้องลองหา MUST SEE ไลฟ์สไตล์แบบคนท้องถิ่นต้องลอง บอกเลยสายเที่ยวต้องไม่พลาดไปเช็กอิน รับรองฟินแน่นอน! 

ปลายปีนี้เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วออกไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยกัน!  กับเมืองน่าเที่ยวรวมถึงกิจกรรมไฮไลท์ในแต่ละภาค ที่ ททท. แนะนำให้ไปเยือนในช่วงหยุดยาวส่งท้ายปี   ดังนี้

• ภาคเหนือ

สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ ปฏิมากรรมหุ่นโคมไฟในงานเทศกาลหุ่นโคมไฟ ครั้งที่ 7 ในคอนเซ็ปต์ “Light Of Blessing” ปานเทพนิมิต ตื่นตาตื่นใจกับงานโคมไฟสุดอลังการ “เทศกาลหุ่นโคมไฟนครสวรรค์” ชมประติมากรรมหุ่นโคมไฟ ที่ผสาน ศิลปะ แสง สี ดนตรี และสวนสวยเข้าด้วยกัน พบกับ หุ่นโคมไฟสามพิภพ การประกวดหุ่นโคมไฟ ต้นไม้แห่งความปรารถนา อุโมงค์แห่งแสง สี เสียง วันที่ 21 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568 เวลา 17:30 – 22:00 น.ณ อุทยานสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

หวนกลับมาอีกครั้งกับ มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์บุผชาติ งามพฤกษาเวียงพิงค์”ชื่นชมกับความงดงามของไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ สัมผัสกับศิลปะวัฒนธรรมประเพณีล้านนา  พร้อมชมไฮไลท์ขบวนรถบุปผชาติ ตลอดจนจับจ่ายซื้อของดีของแต่ละอำเภอทั้ง 25 อำเภอ วันที่ 2 – 4 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สวนสาธารณะสวนบวกหาด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

เยือนถิ่นเหนือทั้งทีพลาดไม่ได้กับเมนูยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน จ.ลำปาง,ทุเรียนหลง-หลิน ลับแล จ.อุตรดิตถ์, ฮังเลลำไย จ.ลำพูน, ไก่ทอดมะแขว่น จ.น่าน และขนมเส้นน้ำย้อยเมืองลอง จ.แพร่รวมถึงของฝากติดไม้ติดมือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเงิน จ.แม่ฮ่องสอน จ.น่าน จ.เชียงใหม่, กาแฟ จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน, ผ้าทอไทลื้อ จ.เชียงราย, ผ้าทอซิ่นตีนจกแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ผ้าฝ้ายยกดอก จ.ลำพูน, ผ้าทอลายน้ำไหล จ.น่าน, ขนมปังสังขบา จ.อุทัยธานี

• ภาคกลาง

ตื่นตาตื่นใจไปกับ งานจัดแสดงแสงไฟ NaSatta Light Festival Winter illumination 2025 ในธีม “นางในวรรณคดีและดอกไม้ในวรรณกรรมไทย”ที่จะทำให้ได้เห็นทิวทัศน์อันตระการตาที่ถักทอมาจากจิตนการของผู้ออกแบบและความอุตสาหะของทีมวิศวกร ถ่ายทอด เรื่องราวและตำนานอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ด้วยการเนรมิตผืนป่าภายใน อุทยาน ณ สัทธา ด้วยแสงไฟนับล้านดวงออกมาเป็นภาพอันแสนประทับใจ ณ สัทธา อุทยานไทย อ.บางแพ จ.ราชบุรี วันที่ 21 พ.ย. 2567 – 27 เม.ย. 2568 (เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 

สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวบนขบวนรถนำเที่ยวขบวนพิเศษ (รถไฟลอยน้ำ) ราวกับว่ารถไฟกำลังลอยแล่นอยู่เหนือผิวน้ำ เส้นทางกรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ถึงมกราคม 2568 นั่งรถไฟสัมผัสลมหนาวกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือระบบ D-Ticket ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

เชิญเที่ยวงานฤดูหนาว พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน วาระ 100 ปีพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ร่วมฟังดนตรีทุกบ่ายวันเสาร์ของเดือนธันวาคม 2567 แล้วมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากร้านค้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน รายได้เพื่อการอนุรักษ์และบูรณะพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ณ สโมสรเสวกามาตย์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนธันวาคม 2567

และแน่นอนว่าสายอีทต้องไม่พลาด! กับสตรีทฟู้ดบนถนนเยาวราช และถนนบรรทัดทอง กรุงเทพฯ, กุ้งแม่น้ำเผา จ.พระนครศรีอยุธยา,ปลาช่อนแม่ลา จ.สิงห์บุรี, น้ำพริกกะปิ+ปลาทูทอด ใบชะคราม จ.สมุทรสงคราม, ข้าวแช่เมืองเพชร จ.เพชรบุรี ก่อนกลับแวะช้อปผ้าโขมพัสตร์ จ.ประจวบคีรีขันธ์, ผลิตภัณฑ์ผ้าทอชาวไทยยวน จ.ราชบุรี, หัตถศฺลป์เครื่องทอง จ.เพชรบุรี, นิลเมืองกาญจน์ จ.กาญจนบุรี, เครื่องเบญจรงค์ดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร

• ภาคตะวันออก

สายงานวิ่งเทรลพลาดไม่ได้! ไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัด “นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว” แหล่งรวมของทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย มีอุทยานแห่งชาติถึง 4 แห่ง  เริ่มวันที่ 4 – 5 มกราคม 2568 ณ น้ำตกเขาอีโต้ จ.นครนายก, วันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก, วันที่ 1 – 19 ตุลาคม 2568 แก่งคลองช้างคลาน จ.ปราจีนบุรี, วันที่ 22 – 23 พฤศจิกายน 2568 อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว  สามารถเลือกสมัครเฉพราะสนามที่สนใจ หรือจะสมัครเป็นแพ็คเกจรวมทั้ง 4 สนาม พร้อมรับสิทธิ์ประโยชน์มากมาย

ตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ครั้งที่ 17 ประจำปี 2567 จัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ของทุกปี เพื่อน้อมรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณยิ่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อประชาชนชาวตราดและชาวเกาะช้าง พระองค์ทรงเสด็จประพาสเมืองตราดรวมทั้งเกาะช้าง รวมถึง 17 ครั้ง เพื่อทรงตรวจตราความสงบเรียบร้อยของหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกในฐานะเป็นเมืองชายแดน ทรงเยี่ยมเยียนราษฎร ซึ่งการจัดงานนี้มีกิจกรรม เริ่มตั้งแต่พิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากน้ำตกธารมะยม การจัดขบวนแห่น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากทางเข้าน้ำตกธารมะยม ไปยังปลายสะพานท่าเทียบเรือธารมะยม เพื่อนำน้ำพระพุทธมนต์ฯ ไปลงเรือของส่วนราชการ รวมทั้งมีการจัดริ้วขบวนแห่น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทางน้ำ จากปากอ่าวสลักคอกไปยังบริเวณสะพานหน้าชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอกโดยเรือมาดจนกระทั่งการจัดพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณล้นเกล้า รัชกาลที่ 5 โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 27 ธันวาคม 2567 ณ วัดวัชคามคชทวีป เกาะช้าง จ.ตราด

และแน่นอนว่าต้องไม่พลาดกับสดของอาหารทะเล (จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด), แกงส้มผักกระชับ จ.ระยอง, ปลาย่ำสวาท จ.ตราด,ข้าวคลุกพริกเกลือ จ.จันทบุรี จ.ตราด, ทุเรียน (จ.จันทบุรี จ.ระยอง จ.ตราด จ.ปราจีนบุรี)อิ่มท้องแล้วก็แวะซื้ออาหารทะเลแปรรูป (จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด), ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี, อัญมณี จ.จันทบุรี, ปลาสลิดบางบ่อ จ.สมุทรปราการ, สินค้ามือ 2 ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว 

• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สนุกไปกับการเรียนรู้จากเรื่องราวธรณีวิทยาและภูมิศาสตร์อีสานก่อนกำเนิดมนุษย์กับ “เส้นทางท่องเที่ยวบรรพชีวิน” ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แก่ ผาแดงภูสิงห์ และภูกุ้มข้าว (พิพิธภัณฑ์สิริธร) อำเภอสหัสขันธ์ วนอุทยานภูแฝก อำเภอนาคู วนอุทยานภูน้ำจั้น อำเภอกุฉินารายณ์แหล่งซากดึกดำบรรพ์ปลาโบราณ และแหล่งไดโนเสาร์ ภูน้อย อำเภอคำม่วง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ภาคอีสานเคยเป็นทะเลมาก่อนและได้ยกตัวขึ้นเป็นภูเขาและภูเขาไฟหลายแห่ง รวมทั้งพื้นที่บางแห่งทรุดตัวลงกลายเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำและทะเลสาบที่มีความอุดมสมบูรณ์และหลากหลาย และกลายเป็นสถานที่สำคัญที่ทั้งเที่ยวสนุก และได้รับความรู้ไปพร้อมกัน 

ผามออีแดง เป็นจุดชมทัศนียภาพระหว่างเส้นทางขึ้นสู่เขาพระวิหาร ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะประมาณ 300 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพของแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไปอย่างเป็นมุมกว้าง มีฝูงค้างคาวในยามพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณใกล้เคียงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมโบราณสถานสถูปคู่รูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ส่วนบนกลมข้างในเป็นโพรง สำหรับบรรจุสิ่งของสร้างด้วยหินทรายแดง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 

สามล้อเรืองแสง เลาะแลงแยงเมืองหนองคาย เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยนำรถสามล้อสกายแลปมาประดับตกแต่งไฟสีสันสวยงาม มองเห็นได้ชัดและเป็นที่สะดุดตาผู้ที่พบเห็น เป็นการเพิ่มความสนุกในการเดินทางท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว โดยพาไปเยี่ยมชมสถานที่ที่นิยมของนักท่องเที่ยว อาทิ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง พระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำจำลอง ลานวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณหน้าวัดลำดวน ที่มีพญานาคคู่ และจวนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายหลังเดิม อีกทั้งยังได้ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของตัวเมืองหนองคาย

 อย่าลืมสัมผัสรสชาติของอาหารพื้นเมืองอย่าง ผัดหมี่โคราช จ.นครราชสีมา,ไก่ย่าง (จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ จ.ขอนแก่นจ.ยโสธร), กาแฟดงมะไฟ จ.นครราชสีมา, เนื้อโคขุนโพนยางคำ จ.สกลนคร, ส้มตำ (จ.นครราชสีมา จ.เลย จ.ขอนแก่น จ.หนองบัวลำภู จ.อำนาจเจริญ), เมนูหม่ำ จ.ชัยภูมิ พร้อมของฝากติดไม้ติดมือ ผ้าฝ้ายลายผ้าขาวม้า จ.อำนาจเจริญ, ผ้าไหมมัดหมี่ ลายแคนแก่นคูน จ.ขอนแก่น, ผ้าชัยภูมิ (ไหม, ฝ้าย) จอุบลราชธานี, ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด, ข้าวฮางหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู

• ภาคใต้

สุขทันทีที่เที่ยว…ตามรอยพ่อ นั่งรถลางชมเมือง เริ่มต้นจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนืองมากจากพระราชดำริ  เข้าสู่วงเวียนนกสันติภาพ ชมรูปปั้นจากคู้ (ประตูเมืองจังหวัดนราธิวาส) จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และพลับพลาที่ประทับ พร้อมชมทัศนียภาพเขื่อนท่าพระยาสาย รวมถึงสถาปัตยกรรมของอาคารสไตล์ชิโน-โปรตุกีส และร้านรวงต่าง ๆ เช่น ร้านสีสมนัมเบอร์วัน ร้านอั้งม้อ เดอะ โกลบ ซีนีม่า รวมถึงสถานที่ไฮไลท์ เช่น วงเวียนหอนาฬิกา มัสยิดยุมอียะห์   พิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส และแวะเยี่ยมชมเทวสถานพระพิฆเนศ ศาลเจ้าโกวเล้งจี่ เขามงคลพิพิธ วันที่ 21 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนืองมากจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

 พบกับอีกหนึ่งงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ “ปลายฝนต้นหนาว Season 2” ที่ชวนทุกคนมาเคาท์ดาวน์ในบรรยากาศงานมิวสิคเฟส และตื่นตาการแสดงบอลลูนโชว์ พร้อมกิจกรรมให้ความรู้เชิงวิชาการเพื่อการท่องเที่ยว ในหัวข้อ “การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และความยั่งยืนในการบริหารการจัดการ การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย” และพาชมนิทรรศการแห่งขุนเขาเล่าเรื่องเชี่ยวหลาน ช้อปชิมสินค้าและบริการผลผลิตท้องถิ่น สินค้า OTOP และการประกวดควายสวยงาม วันที่ 27 – 31ธันวาคม 2567 ณ เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ชวนมาเคาท์ดาวน์ปีใหม่ในงาน“ส่งตะวันแสงสุดท้ายที่เขาหลัก พังงา” ที่จะได้ชมพระอาทิตย์ตกส่งแสงตะวันสุดท้ายของปี 2567 ณ หาดนางทอง สนุกกับกิจกรรม Art on the Beach และคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียงและวงดนตรี Local Brand พร้อมถ่ายภาพสุดประทับใจที่จุดเช็กอิน 2024’s Last Sunbeam @ Khao Lak, Phang-nga ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 14:00 – 18:30 น. ณ หาดนางทอง เขาหลัก จังหวัดพังงา

แวะชิมปลานิลสายน้ำไหล เบตง จ.ยะลา, ขนมจีนเมืองคอน จ.นครศรีธรรมราช, หอยนางรมสุราษฎร์ธานี, ไก่ทอดหาดใหญ่ จ.สงขลา, หมูย่างเมืองตรัง จ.สงขลา  แวะซื้อผ้าไหมพุมเรียง จ.สุราษฎร์ธานี,มะม่วงเบาแช่อิ่ม จ.สงขลา,ปลากุเลาเค็ม จ.สงขลา, ผ้าจวนตานี จ.ปัตตานี, เครื่องเงินเครื่องถม จ.นครศรีธรรมราช  

เตรียมจัดกระเป๋าให้พร้อม แล้วออกเดินทางท่องเที่ยวส่งท้ายปีอย่างมีความสุขกับเมืองน่าเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ตั้งใจส่งมอบประสบการณ์สุดประทับใจ เพื่อให้ทุกคนเที่ยวเมืองไทยได้อย่างสุขใจตลอด 365 วัน 

“จมูก” ถือเป็นอวัยวะที่ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ ส่งเสริมโหงวเฮ้งที่ดี ทำให้การศัลยกรรมจมูกได้รับความนิยมสูงขึ้นในปัจจุบัน โดยบทความนี้จะแนะนำการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) หรือเสริมจมูกแบบเปิด ซึ่งเป็นการผ่าตัดเปิดโครงสร้างจมูก ที่จะช่วยให้สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในทั้งหมดได้ชัดเจน และแก้ไขปัญหาจมูกได้อย่างครอบคลุม 

ไม่ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับจมูกแบบไหน เช่น สันจมูกคด, ปลายจมูกใหญ่, จมูกมีกระดูกฮัมพ์สูง (สันจมูกปูด), จมูกสั้น หรือมีจมูกงุ้ม ก็สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด จมูกเป็นทรงสวย และมีความสมส่วนยิ่งขึ้น ด้วยการทำจมูกแบบโอเพ่น

การเสริมจมูกแบบโอเพ่นเหมาะกับใคร

ก่อนเสริมจมูกแบบโอเพ่น ผู้ที่ต้องการทำจะต้องได้รับการพิจารณาโครงสร้างจมูกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน ว่าเหมาะที่จะเสริมจมูกเทคนิคโอเพ่นหรือไม่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความยั่งยืนในระยะยาว

โดยส่วนมากผู้ที่เหมาะจะเสริมจมูกแบบโอเพ่น คือคนที่มีปัญหาจมูกสั้น มีเนื้อจมูกน้อย ทำให้การเสริมจมูกมีความยากมากขึ้น เมื่อใส่แท่งซิลิโคนเข้าไปจะมองเห็นจมูกเป็นแท่งได้ชัดเจน ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังเสี่ยงซิลิโคนทะลุและก่อให้เกิดอันตรายแก่จมูกอีกด้วย

นอกจากนี้ เทคนิคโอเพ่นยังเหมาะกับคนที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกผิดปกติ จมูกมีการเบี้ยว คด ดูผิดรูป ต้องการทำให้ตรง หรือในคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้วแต่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น และอยากแก้ทรงใหม่ให้ดูเรียวสวย มีความเป็นธรรมชาติ หากมีปัญหาเกี่ยวกับจมูกตามที่ได้กล่าวมา จะเหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น 

รูปแบบของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

เสริมจมูกแบบโอเพ่น จะใช้กระดูกอ่อนหลังหู, กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก, กระดูกอ่อนซี่โครง หรือเนื้อเยื่อเทียม นำมาเสริมบริเวณช่วงปลายจมูก ซึ่งสามารถป้องกันการทะลุ และช่วยให้จมูกมีความยาวขึ้น แก้ปัญหาโครงสร้างได้ดี โดยแต่ละรูปแบบมีความแตกต่างกันไป ดังนี้

กระดูกอ่อนหลังหู 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เหมาะกับคนที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อย หรือเคยผ่านการเสริมจมูกมาแล้ว แต่มีอาการอักเสบเกิดขึ้น โดยกระดูกอ่อนหลังหูจะนำมาใช้ในการแก้ไขโครงสร้างจมูกได้ดี อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่ร่างกายต่อต้านซิลิโคน เพราะการทำจมูกโอเพ่นจะใช้กระดูกอ่อนหลังหู ซึ่งเป็นสิ่งที่มาจากร่างกายของตนเอง จึงปลอดภัยมากยิ่งขึ้นและมีโอกาสแพ้ต่ำ 

กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก เหมาะสำหรับคนที่อยากมีปลายจมูกพุ่ง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งซิลิโคน ด้วยการตัดกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกด้านหลัง มาเย็บเข้ากับผนังกั้นจมูกด้านหน้า เพื่อให้ผนังกั้นจมูกยาวขึ้น แล้วปลายจมูกจะมีความโด่งขึ้นตามไปด้วย

กระดูกอ่อนซี่โครง 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง เหมาะสำหรับคนที่เคยทำจมูกมาแล้วแต่ยังคงมีปัญหาอยู่ โดยสามารถแก้จมูกเทคนิคโอเพ่น ด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงที่มีความแข็งแรงและความยาว ซึ่งการนำกระดูกส่วนนี้ออกมาใช้ จะต้องผ่าตัดบริเวณใต้ราวนม โดยจะต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อขึ้นภายหลัง

เนื้อเยื่อเทียม 

เสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยเนื้อเยื่อเทียม เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย หรือผู้ที่เคยเสริมจมูกแต่มีปัญหาปลายจมูกบาง ซิลิโคนดัน โดยสามารถใช้เนื้อเยื่อเทียมที่ผลิตมาจากคอลลาเจน และมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย เพื่อจัดการปัญหาจากการเสริมจมูกได้

เมื่อเสริมจมูกแบบโอเพ่นด้วยเนื้อเยื่อเทียม จะช่วยเพิ่มความหนาบริเวณเนื้อปลายจมูก ช่วยให้จมูกมีความโด่งเชิดขึ้น อีกทั้งยังแก้ปัญหาเรื่องผิวบาง และลดความชัดของซิลิโคน จมูกจึงดูสวยเนียน เป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ เนื้อเยื่อเทียมยังช่วยป้องกันการเกิดซิลิโคนทะลุ และกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ที่จะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่นมีอะไรบ้าง

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น แม้จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อน มีการใช้ยาสลบ ต้องใช้เวลาพักฟื้น และยังมีราคาสูง แต่ก็มีข้อดีมากมายที่คุ้มค่าต่อการลงทุน เพื่อให้ได้จมูกที่มีทรงสวยงาม ปลอดภัย และยั่งยืนในระยะยาว

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น จะช่วยให้ปลายจมูกโด่งและยาวขึ้นได้โดยไม่เสี่ยงทะลุ อีกทั้งยังสามารถแก้ไขโครงสร้างจมูก เพื่อให้อาการผิดรูป คดงอหายไป และยังช่วยลดขนาดปีกจมูก เพิ่มความเรียวสวย ทำให้จมูกดูมีสัดส่วนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเสริมจมูกแบบโอเพ่นยังมีประโยชน์ด้านการรักษาในคนที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ หรือหายใจได้ข้างเดียวจากการมีโครงสร้างในจมูกคดอีกด้วย  

เสริมจมูกแบบโอเพ่น เพิ่มความเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คนเนื้อน้อยก็ทำได้

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างจมูกได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นจมูกคด ดูผิดรูป ไม่ได้สัดส่วน รวมถึงคนที่เคยผ่านการเสริมจมูกมาแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องแก้ซ้ำซ้อนหลายรอบ นอกจากนี้ คนที่ร่างกายต่อต้านซิลิโคนและคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ก็สามารถใช้วิธีเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพื่อเพิ่มความสวยงามให้จมูกได้เช่นกัน 

แต่ก่อนจะทำการเสริมจมูกแบบโอเพ่น ควรปรึกษาแพทย์และรับการประเมินเพื่อหาวิธีเสริมจมูกที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดเสียก่อน โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ SLC Hospital โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ที่จะช่วยให้คุณเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด

เพราะการดูแลสุขภาพคือยาที่ถูกและดีที่สุด ดังนั้น เพื่อรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ การดูแลสุขภาพให้ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย ตลอดจนสุขภาพใจ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากพูดถึงการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามนอกจากการตรวจสุขภาพประจำปี การออกกำลังกาย และการรับกินอาหารที่มีประโยชน์ คือการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตโดยรวม สุขภาพช่องปากที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้กินอาหารได้หลากหลาย ทั้งเมนูโปรดและอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ยังช่วยให้ร่างกายสามารถรับสารอาหารได้อย่างครบถ้วน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมและเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ สุขภาพช่องปากที่ดีไม่ได้มีความสำคัญเพียงแค่ในด้านการส่งเสริมโภชนาการ แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนสุขภาพองค์รวมอย่างยั่งยืน เนื่องจากสุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) อย่างมีนัยสำคัญ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเหมาะสมจึงเป็นหัวใจสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน และช่วยควบคุมความรุนแรงของโรคปริทันต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสมยังช่วยลดโอกาสการสูญเสียฟัน และเพิ่มการตอบสนองต่อการรักษาโรคปริทันต์ให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น จากผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ได้รับการรักษาโรคปริทันต์จนมีสุขภาพช่องปากดีขึ้น สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมในเชิงบวก และช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนในระยะยาว

และล่าสุด บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกัน ได้เปิดตัวแนวคิดใหม่ Aesthetic Dentistry หรือเทคโนโลยีทันตกรรมเพื่อศาสตร์แห่งความงาม ผสานศิลปะการออกแบบรอยยิ้มในยุคดิจิทัล พร้อมชูรากฟันเทียมเซรามิก (Ceramic Implant หรือ Zi Implant System) เทคโนโลยีทันตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติ ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและการใช้งาน ช่วยเสริมความแข็งแรงและคืนความมั่นใจให้กับรอยยิ้ม นำโดย ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม และ ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล รองผู้อำนวยการ คลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ร่วมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ ป้อง – ณวัฒน์ นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ที่มาเผยเคล็ดลับการดูแลรอยยิ้มอันทรงสเน่ห์พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้สัมผัสถึงคุณค่าของรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเอง และยิ้มได้อย่างมั่นใจในทุกวัน

“ด้วยวิสัยทัศน์ของ BDMS Wellness Clinic ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งรวมถึงบริการทางด้านทันตกรรมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดี ผ่านการใช้เทคโนโลยีทันตกรรมที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปี การครอบฟันแบบ One-Day Crown การขัดฟันด้วยเทคโนโลยี Airflow ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีทันตกรรมความงามอย่างการฟอกสีฟัน ZOOM! Teeth Whitening เซรามิกวีเนียร์ การจัดฟันใส Invisalign และเทคโนโลยีล่าสุดอย่างรากฟันเทียมเซรามิก (Ceramic Implant) หรือรากฟันเทียมสีขาว ที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี คืนความมั่นใจพร้อมทั้งมอบสุขภาพช่องปากที่สมบูรณ์แข็งแรงให้กับทุกคน” – ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ เกียรติธนากร

“การที่จะมีรอยยิ้มที่สวยงามได้ จำเป็นต้องเริ่มจากการมีสุขภาพช่องปากที่ดีเป็นพื้นฐาน ในฐานะทันตแพทย์ หมอมีโอกาสได้ดูแลผู้รับบริการที่มีสุขภาพช่องปากที่ดี มีฟันแข็งแรงครบทุกซี่ ไปจนถึงผู้รับบริการที่สูญเสียฟันทั้งหมดและต้องการที่จะมีรอยยิ้มที่สวยงามอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยบางกลุ่มลังเลที่จะเข้ารับการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาและหาสาเหตุที่แท้จริงของการสูญเสียฟัน คือความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดระหว่างการรักษาแต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีทางทันตกรรมได้พัฒนาก้าวไกลอย่างมาก ไม่เพียงช่วยลดระยะเวลาในการรักษา แต่ยังมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เช่น การฝังรากเทียม ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ทุกวันนี้กระบวนการดังกล่าวมีความซับซ้อนน้อยลงและส่งผลให้ความเจ็บปวดระหว่างการรักษาลดลงอย่างชัดเจน ผู้รับบริการจึงสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างมั่นและเบาใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเปิดตัว Aesthetic Dentistry ของ BDMS Wellness Clinic ในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจที่ไม่เพียงแค่ช่วยมอบสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับผู้รับบริการเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ทางด้านทันตกรรมมาผสานเข้ากับศิลปะการออกแบบรอยยิ้มเฉพาะบุคคล เช่น รากฟันเทียมเซรามิก (Ceramic Implant) ที่นอกจากจะมอบความคงทนในแง่ของการใช้งานแล้ว ยังมอบรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติให้กับผู้ที่ประสบปัญหาการสูญเสียฟัน ให้สามารถมีสุขภาพช่องปากที่สามารถใช้งานได้ดีที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่สวยงามได้อีกครั้ง”” – ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล

นอกจากนี้ เจ้าของรอยยิ้มกระชากใจสาวอย่างหนุ่มป้อง – ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ยังร่วมแชร์เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพช่องปากและสุขภาพกายแบบครบองค์รวมที่ BDMS Wellness Clinic โดยกล่าวถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปากว่า “ในฐานะนักแสดง ผมต้องดูแลรักษาร่างกายของผมให้ดูดีอยู่เสมอ ซึ่งบริการของ BDMS Wellness Clinic ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผมมาก ตั้งแต่การดูแลสุขภาพร่างกายภายใน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจร่างกายเชิงป้องกันต่างๆ การปรับไลฟ์สไตล์เพื่อให้สุขภาพดีอย่างยั่งยืน ไปจนถึงการดูแลภายนอก เช่น การออกกำลังกาย นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ผมประทับใจมากเกี่ยวกับที่นี่คือคลินิกทันตกรรมที่ทันสมัย ที่มอบสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับผมโดยทีมทันตแพทย์ ทำให้ผมเข้าถึงการแสดงทุกบทบาทได้อย่างมั่นใจและสามารถมอบรอยยิ้มสวยๆ ให้กับแฟนคลับได้ในทุกๆ วันครับ”

การมีขนขึ้นในบริเวณที่ไม่พึงประสงค์มักสร้างความกังวลและความไม่มั่นใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มองเห็นได้ง่าย หลายคนจึงเลือกใช้วิธีการโกน ถอน หรือแว็กซ์ แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาขนขึ้นใหม่เร็ว หรือการระคายเคืองที่ตามมา การเลเซอร์ขนจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัย เนื่องจากสามารถกำจัดขนและชะลอการขึ้นใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือสร้างแผลเหมือนวิธีอื่น ๆ

การเลเซอร์ขนคืออะไร ทำไมจึงได้รับความนิยม?

การทำเลเซอร์ขน คือ การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์เพื่อกำจัดขนโดยตรง เลเซอร์จะส่งพลังงานผ่านผิวหนังไปสู่เม็ดสีในรากขน ซึ่งทำให้รากขนได้รับความร้อนจนถูกทำลายและหยุดการเจริญเติบโต โดยการเลเซอร์สามารถทำได้กับบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งใบหน้า, รักแร้, ขา หรือแขน โดยไม่ทิ้งรอยแผลไว้หลังทำหัตถการ

การที่เลเซอร์กำจัดขนได้รับความนิยมในปัจจุบันนั้น เป็นเพราะมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าวิธีอื่น ๆ เช่น การโกนหรือแว็กซ์ที่ขนมักจะขึ้นใหม่ได้เร็ว และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการบาดเจ็บจากการถอน นอกจากนี้ การทำเลเซอร์ไม่เพียงแค่ช่วยลดจำนวนขนที่ขึ้นใหม่ แต่ยังสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอหลังการทำเพียงไม่กี่ครั้ง จึงทำให้กลายมาเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนอย่างปลอดภัย

เลเซอร์ขนกำจัดขนได้อย่างไร?

เครื่องกำจัดขนด้วยเลเซอร์นั้น ทำงานโดยการปล่อยแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะไปยังบริเวณที่มีขน เมื่อแสงเลเซอร์ลงไปใต้ผิวหนังจะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีในเส้นขน ส่งผลทำให้รากขนได้รับความร้อนจนสลายตัว โดยจะมีประสิทธิภาพที่ชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรากขนและหลอดเลือดที่เลี้ยงรากขน หลังจากรากขนสลายตัวแล้ว ขนจะไม่สามารถเจริญเติบโตรวดเร็วเท่าเดิม ทำให้คงผลลัพธ์หลังเลเซอร์ขนได้ยาวนาน

การเลเซอร์ขนมีกี่แบบ เลือกทำแบบไหนดี?

การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัย ในการเลือกเครื่องเลเซอร์ขนที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสีขน มีหลายประเภทให้เลือกใช้ หากต้องการรู้ว่าเลเซอร์ขนแบบไหนดีที่สุดสำหรับตัวเอง สามารถอ่านคุณสมบัติและประสิทธิภาพของแต่ละเครื่องได้ดังนี้

Diode laser

Diode laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นประมาณ 800-810 นาโนเมตร ซึ่งสามารถเจาะลึกไปถึงชั้น Dermis ได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวค่อนข้างเข้ม และขนหนาหรือหยาบ เนื่องจากเลเซอร์ประเภทนี้สามารถทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อผิวหนังด้านบน ทั้งยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพิ่มความกระจ่างใส

Nd: YAG Laser

Nd: YAG Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร ซึ่งสามารถส่งพลังลึกถึงผิวชั้นลึก ทำให้เหมาะสำหรับทุกสีผิวและสีขน รวมถึงยังสามารถช่วยแก้ปัญหาขนคุด และผิวหนังไก่ได้อีกด้วย

Alexandrite Laser

Alexandrite Laser มีความยาวคลื่นประมาณ 755 นาโนเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาวถึงปานกลาง โดยสามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเลเซอร์ประเภทนี้ใช้ผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลาง ช่วยให้สามารถดูดซับเม็ดสีในเส้นขนได้ดี 

IPL 

IPL (Intense Pulsed Light) ไม่ใช่เทคโนโลยีเลเซอร์แบบเดียวกับประเภทที่กล่าวมาข้างต้น แต่ใช้พลังงานแสงที่มีหลายความยาวคลื่น ซึ่งสามารถกำจัดขนโดยการปล่อยแสงไปยังรากขน โดยมีความปลอดภัยเช่นกันและเจ็บน้อยกว่าการใช้เลเซอร์ แต่ผลลัพธ์อาจไม่อยู่ยาวนาน ต้องทำหลายครั้งกว่า

AFT (Advanced Fluorescence Technology)

AFT คล้ายกับ IPL โดยเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดขน โดยใช้แสงในช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลาย ตั้งแต่ 700-950 นาโนเมตร พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้การกำจัดขนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและเจ็บน้อยกว่า

ผลข้างเคียงหลังทำเลเซอร์ขน

หลังจากการทำเลเซอร์ขน ผู้ใช้บางรายอาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ผิวหนังแดง บวม หรือรู้สึกแสบเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน แต่อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่สามารถพบได้บางครั้ง เช่น การเกิดรูขุมขนอักเสบหลังเลเซอร์ เนื่องจากการทำลายรากขนอาจกระตุ้นการอักเสบของรูขุมขน หากมีอาการบวมที่ไม่หาย หรือมีหนองบริเวณที่ทำเลเซอร์ ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจลุกลามได้

การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ขน

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ขนเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การทำเลเซอร์มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ดังนั้น เราควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

• หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ การโกน หรือการถอนขนก่อนทำเลเซอร์อย่างน้อย 3-4 วัน
• หลีกเลี่ยงการโดนแดดแรงก่อนทำเลเซอร์ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
• หลีกเลี่ยงการทาครีมที่ทำให้ผิวบางหรือไวต่อแสง เช่น AHA หรือ BHA
• ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผิวและสีขน เพื่อให้สามารถเลือกประเภทของเครื่องเลเซอร์ขนที่เหมาะสม
• โกนขนบริเวณที่ทำเลเซอร์ในวันก่อนเข้ารับบริการ โดยใช้มีดโกนที่สะอาดและทำอย่างเบามือ 

วิธีดูแลตนเองหลังทำเลเซอร์ขน

หลังจากการทำเลเซอร์ขนแล้ว เราควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และเพิ่มความคงทนของผลลัพธ์ในการกำจัดให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

• หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง และใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
• งดการสครับหรือขัดผิวในบริเวณที่ทำเลเซอร์
• หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง เช่น สารสเตียรอยด์หรือกรดผลไม้
• รักษาความสะอาดและไม่เกาหรือขูดผิวหนังที่อาจเกิดการระคายเคือง
• ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
• หากมีอาการบวม แดง หรือเจ็บอย่างรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันที

เลเซอร์ขน เพิ่มความมั่นใจอย่างปลอดภัยและคงผลลัพธ์ยาวนาน

การทำเลเซอร์ขนเป็นวิธีการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะใช้เทคโนโลยีเลเซอร์เพื่อทำลายรากขน ทำให้มีผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัย นอกจากนี้ การทำเลเซอร์ขนยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผล ต่างกับการใช้วิธีอื่น ๆ อีกด้วย

สำหรับผู้ที่มองหาคลินิกทำเลเซอร์ขนที่มีคุณภาพ Apex Profound Beauty เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัยและการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ทำให้ผู้ที่เข้ารับบริการสามารถมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีการรับรองตามมาตรฐาน พร้อมการบริการที่เอาใจใส่ในทุกขั้นตอน รับรองผลลัพธ์ลับหลังเลเซอร์ขนที่น่าพึงพอใจ

ไม่ว่าใครก็อยากกำจัดพุงย้อย พุงย้วย หรือรอยแตกลายที่พุงให้หายไป เพราะปัญหาเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคที่คอยจำกัดสไตล์การแต่งตัว จะใส่เสื้อรัดรูปก็จะทำให้เห็นพุงย้อย หรือจะใส่เสื้อเผยหน้าท้องก็เห็นรอยแตกลายดูไม่สวยงาม อีกทั้งยังส่งผลต่อบุคลิกภาพ ทำให้ผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนยานอาจสูญเสียความมั่นใจในการเข้าสังคมได้

ในที่นี้การตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) จะเป็นวิธีช่วยคลายความกังวลให้กับผู้ที่อยากกำจัดหน้าท้องส่วนเกินได้ โดยการตัดหนังหน้าท้องจะเป็นการผ่าตัดหน้าท้องที่หย่อนคล้อยออกไป ทำให้หน้าท้องกลับมาเรียบเนียน ดูสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งหลังผ่าตัดหนังหน้าท้องมีวิธีดูแลตัวเองยังไง ปลอดภัยจริงมั้ย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้

การตัดหนังหน้าท้องเหมาะกับใครบ้าง

การตัดหนังหน้าท้องจะเหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหาหน้าท้องดังนี้

• ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าท้องไม่เรียบเนียน มีรอยแตกลาย แล้วต้องการตัดแต่งหนังหน้าท้องเก็บรายละเอียดให้กลับมาสวยงาม
• ผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนยานจากการลดน้ำหนักปริมาณมากในระยะเวลาอันสั้น
• ผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยหลังผ่านการตั้งครรภ์
• ผู้ที่ผ่านการดูดไขมันและต้องการตัดหนังหน้าท้องให้กระชับ

ซึ่งแม้ว่าการตัดหนังหน้าท้องจะช่วยทำให้มีหน้าท้องที่สวยและกระชับมากขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับการทำหัตถการนี้ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้องจะต้องพบแพทย์เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย รวมถึงจะต้องแจ้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติยาที่ใช้เพื่อพิจารณารักษาตามความเหมาะสม โดยผู้ที่ไม่เหมาะกับการศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้องมีดังนี้

• ผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มากจนเกินไป
• ผู้ที่ไม่สามารถดมยาสลบได้ควรหลีกเลี่ยงการทำศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้อง
• ผู้ที่วางแผนมีบุตรควรเลื่อนการตัดหนังหน้าท้องออกไปก่อน เพราะในกรณีที่ตัดหนังหน้าท้องแล้วตั้งครรภ์ หนังท้องจะยืดออก ทำให้ต้องกลับมาตัดหนังหน้าท้องออกอีกครั้ง

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการตัดหนังหน้าท้อง

การทำศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้องจะช่วยผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องดังต่อไปนี้

• ช่วยตัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องให้ดูกระชับ เรียบเนียนมากขึ้น
• การตัดหนังหน้าท้องช่วยเก็บรอยผิวแตกลาย เป็นคลื่นให้น้อยลง
• ช่วยทำให้บุคลิกภาพภายนอกดูดี ดูแข็งแรงมากขึ้น
• ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในหุ่นและรูปร่างของตนเอง
• ช่วยให้สวมใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์มากขึ้น

ขั้นตอนการตัดหนังหน้าท้อง

การตัดหนังหน้าท้องเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมที่ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยจะมีขั้นตอนการผ่าตัดดังต่อไปนี้

1. ผ่าตัดเปิดแผลบริเวณเหนือหัวหน่าวเป็นแนวยาว
2. เลาะชั้นไขมันออกจากกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อนำไขมันออก
3. เย็บกล้ามเนื้อหน้าท้องเข้าหากันให้กระชับ
4. ดึงหนังหน้าท้องให้ตึงเล็กน้อย และตัดหนังส่วนเกินออกไป
5. ตกแต่งสะดือให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
6. เย็บแผลผ่าตัดหนังหน้าท้องเข้าหากัน

โดยในวันที่เข้ารับการผ่าตัดจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ และงดน้ำ งดอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง

การดูแลตนเองหลังตัดหนังหน้าท้อง

เนื่องจากการตัดหนังหน้าท้องเป็นการศัลยกรรมผ่าตัดใหญ่ ดังนั้นหลังจากศัลยกรรมแผลผ่าตัดหน้าท้องจะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1-2 วันเพื่อติดตามอาการ และจะต้องดูแลตนเองให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ ดังนี้

• ปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อน และให้ผลลัพธ์หลังจากผ่าตัดเป็นที่น่าพึงพอใจ
• พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง โดยแพทย์จะนัดตัดไหมภายใน 10-14 วันหลังผ่าตัด และนัดติดตามอาการอื่น ๆ เป็นระยะ 
• นอนงอตัวอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์เพื่อไม่ให้แผลตึง เนื่องจากอาจรู้สึกเจ็บแผลผ่าตัดได้
• พยายามอย่าให้แผลตัดหนังหน้าท้องโดนน้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลอักเสบและเกิดการติดเชื้อ
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่ขยับตัวเยอะอย่างน้อย 2 เดือน เพื่อไม่ให้แผลผ่าตัดปริออก
• ใช้ผ้ายืดรัดหน้าท้อง 2-6 เดือน เพื่อช่วยพยุงหน้าท้องให้มีทรงสวย และกระชับมากขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจพบหลังตัดหนังหน้าท้อง

หลังตัดหนังหน้าท้องแล้วอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนี้

• อาการเจ็บ ปวด คันบริเวณแผลผ่าตัด
• รู้สึกชาบริเวณที่ผ่าตัด
• แผลผ่าตัดเป็นรอยนูน เกิดคีลอยด์ ซึ่งสามารถรักษาแผลเป็นในภายหลังได้ ขึ้นอยู่เฉพาะบุคคลและการดูแล
• การติดเชื้อหลังจากการผ่าตัดหนังหน้าท้อง

โดยปกติแล้ว แม้ว่าหลังจากตัดหนังหน้าท้องจะมีโอกาสพบอาการข้างเคียงข้างต้นได้ก็จริง แต่อาการส่วนใหญ่สามารถหายเองได้ ในกรณีที่แผลผ่าตัดเกิดอาการติดเชื้อหรือแผลผ่าตัดปริออก ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

สรุปอยากตัดหนังหน้าท้องต้องทำอะไรบ้าง

การตัดหนังหน้าท้องจะช่วยให้หน้าท้องที่หย่อนคล้อย แตกลาย กลับมากระชับเต่งตึงมากขึ้น แต่ก่อนผ่าตัดจะต้องแจ้งแพทย์เรื่องประวัติโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ และหลังจากผ่าตัดก็จำเป็นที่จะต้องใส่ใจกับการดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อหรืออาการข้างเคียงอื่น ๆ อันไม่พึงประสงค์

สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการตัดหนังหน้าท้อง SLC Hospital เป็นสถานพยาบาลที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และให้แพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ดำเนินการรักษาให้เท่านั้น โดยสามารถอ่านรีวิวตัดหนังหน้าท้องหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้

• Tel : (+66)2-714-9555
• Line ID : @SLCHospital
• Facebook : SLC Hospital

SENKA แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ไฟน์ ทูเดย์ (ไทยแลนด์) จำกัด มีจุดมุ่งหมายของบริษัทที่ต้องการส่งเสริมคุณค่าการใช้ชีวิตของทุกคนในวันนี้ และคนรุ่นต่อไปในวันข้างหน้าให้ทุกวันเป็นช่วงเวลาที่ดี ตามสโลแกนที่ว่า “Making every day a fine day” ให้ผู้คนรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นในทุกๆ วัน ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค

แบรนด์เซนกะจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตั้งแต่การทำความสะอาดผิวหน้า โดยมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นอย่าง SENKA Perfect Whip ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอันดับ 1 ในญี่ปุ่นและเกาหลี ที่มีหลากหลายสูตรให้เลือก ตามความต้องการที่แตกต่าง

ล่าสุดเซนกะได้จัดแคมเปญเพื่อมอบโมเมนต์ดีๆ ให้กับผู้บริโภค ส่งเสริมให้ทุกวันเป็นวันที่ดี และมอบประสบการณ์ความนุ่มฟูไปกับวิปโฟมหนานุ่มของ SENKA Perfect Whip กับกิจกรรม ”SENKA X PERSES ชวนแก๊งหน้าใสตะลุย Giant Foamy Land !” เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ให้ผู้โชคดีจากกิจกรรม Lucky Fan ได้สัมผัสความนุ่มฟูของต้าวโฟมมี่ พร้อมเอนจอยความสดใสในกิจกรรม SENKA Giant Foamy Land กันแบบจัดเต็ม

โดยได้ชูจุดเด่นของเซนกะ เพอร์เฟ็ค วิป ด้วยวิปโฟมหนานุ่มดุจคุชชั่น อณูฟองเล็กละเอียด ที่มีพลัง 2X ไมโคร บิวตี้ โฟม ผสาน 2 ประสิทธิภาพ ในการทำความสะอาดผิวหมดจด พร้อมบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นในขณะเดียวกัน จากส่วนผสมบำรุงผิวที่อัดแน่น ด้วย Moisture Boosting Technology ที่มีไวท์ โคคูน เอสเซ้นส์ และดับเบิ้ล ไฮยา มอบความชุ่มชื่นให้ผิวเด้งนุ่ม ฟินแบบจัดเต็มทุกครั้งที่ล้าง อ่อนโยนต่อผิว ล้างแล้วผิวไม่แห้งตึง ไม่เอี๊ยด ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ไม่ใส่พาราเบน, ซัลเฟต, มิเนอรัล ออยล์ และซิลิโคน โดย SENKA Perfect Whip มาพร้อมกับหลากหลายสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของผิวได้ทุกวัน

• SENKA Perfect Whip White Clay สูตรไวท์ เคลย์ มอบผิวใสนุ่ม ไม่หมอง ช่วยขจัดสิ่งสกปรกอุดตันบนผิว ด้วยส่วนผสมจากไวท์ เคลย์ และชาโคล
• SENKA Perfect Whip Acne Care สูตรแอคเน่ มอบผิวใส ไกลสิว ด้วยส่วนผสมซาลิไซลิก แอซิด และเจแปนนีส คาโมมายล์ เอ็กซ์แทร็กซ์ บำรุงผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น ดูสุขภาพดี
• SENKA Perfect Whip สูตรผิวสะอาดใส มอบผิวใส นุ่มเด้ง พร้อมส่วนผสมบำรุงผิวอัดแน่นจากไวท์ โคคูน เอสเซ้นส์ และดับเบิ้ล ไฮยาลูรอนิค แอซิด
• SENKA Perfect Whip Collagen in สูตรคอลลาเจน มอบผิวนุ่มเด้ง ดูเปล่งปลั่ง ด้วยส่วนผสมจากบิวตี้เซรั่ม 60%

SENKA Perfect Whip Low pH Calming Cica สูตรซิก้า วิปโฟม pH friendly ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนพร้อมมอบเกราะปกป้องผิวดูแข็งแรงขึ้น ผสานส่วนผสมเจแปนนีส ซอยบีน เอ็กซ์แทร็กซ์ และซิก้า ปลอบประโลมผิวที่บอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมพูดคุยถึงการดูแลผิว และ SENKA Perfect Whip สูตรที่ชอบที่ใช่ร่วมกับ 5 หนุ่มทีป๊อปวง PERSES ที่มาโชว์ร้องเพลงแบบสด ๆ โชว์สเตปการเต้นจนเรียกเสียงกรี๊ด พร้อมเกมพิเศษในงานนี้ ที่ช่วยสร้างโมเมนต์ตื่นเต้น สนุกสนาน ให้กับ Lucky Fan จำนวน 133 ท่านที่มาร่วมกิจกรรม SENKA GIANT FOAMY LAND ณ ลาน Centerpoint Siam Square  ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง หอบประสบการณ์ดี ๆ กลับบ้านกันแบบใจฟูกันเลยทีเดียว

พิเศษในช่วง Wefie ทางแบรนด์เซนกะพร้อมด้วยสมาชิกวง PERSES ได้ร่วมเซอร์ไพร์สวันเกิดล่วงหน้า ของเน ณรัณ วิกัยรุ่งโรจน์ ที่เพิ่มความฟินใจ และสนุกสนานไปแบบจัดเต็มเลย

ใครอยากมีผิวสวยสะอาดหมดจดแบบอ่อนโยน สัมผัสถึงผิวนุ่มเด้ง ต้อง SENKA Perfect Whip เพื่อนรักผิวใสตัวจริงเท่านั้น สามารถเลือกซื้อสินค้า SENKA ได้แล้ววันนี้ที่ Watsons, Boots, EVEANDBOY, Beautrium, Tsuruha, Tops, Matsukiyo, Lotus’s, Big C, NINE BEAUTY, CJ MORE และ ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ทาง FineToday Official Store @ Shopee, FineToday Japanese Beauty @ Lazada, Watsons Online และ SENKA Official Store at Konvy