มาร์ติน แคมป์เบลล์

ย้อนรอยความเดือด มาร์ติน แคมป์เบลล์ เจ้าพ่อผู้ปั้นดาว

Alternative Textaccount_circle
มาร์ติน แคมป์เบลล์
มาร์ติน แคมป์เบลล์

มาร์ติน แคมป์เบลล์ ถือเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์สายแอ็กชันที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก จากผลงานที่สร้างความโดดเด่นและมีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง “James Bond” ที่เขากำกับสองภาคก็ล้วนได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมมากมาย

แคมป์เบลล์เริ่มต้นด้วยการกำกับกับซีรีส์แอ็กชันตำรวจอังกฤษเรื่อง “The Professionals” (1978-1980) ตามด้วยซีรีส์ยอดนิยมของ BBC อย่าง “Shoestring” (1980) และ “Minder” (1980) เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับชั้นนำของอังกฤษ และได้กำกับมินิซีรีส์ความยาว 6 ชั่วโมงเรื่อง “Edge of Darkness” (1985) ที่ส่งให้เขาคว้ารางวัล BAFTA ไปถึง 6 สาขา

ส่วนผลงานภาพยนตร์เขาได้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกเมื่อปี 1988 เรื่อง “Criminal Law” และมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องจนเมื่อปี 1995 แคมป์เบลล์แท็กทีมกับ “เพียร์ซ บรอสแนน” คืนชีวิตให้สายลับระดับตำนาน “เจมส์ บอนด์” ใน “Goldeneye” จนเขาได้รับการยกย่องว่าช่วยฟื้นฟูแฟรนไชส์นี้โดยภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 350 ล้านดอลลาร์

ปลายปี 2006 แคมป์เบลล์กลับมาชุบชีวิตให้แฟรนไชส์ “เจมส์ บอนด์” อีกครั้งด้วย “Casino Royale” ที่ได้นักแสดงมากฝีมือ “แดเนียล เครก” มารับบทสายลับ 007 เป็นครั้งแรก โดยมันไม่เพียงประสบความสำเร็จด้านรายได้เท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องว่าเป็น “หนึ่งในหนังบอนด์ที่ดีที่สุดตลอดกาล” ด้วย

นอกจากนี้ เขาก็ยังมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น “Edge of Darkness” (2010), “The Foreigner” (2017), “The Protégé” (2021) รวมถึงหนังแอ็กชันระทึกขวัญ “Memory” (2022) ที่เป็นการรีเมกหนังเบลเยียมปี 2003 เรื่อง “The Memory of a Killer” ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งด้านคำวิจารณ์และยอดสตรีมมิง

และในปีนี้ “มาร์ติน แคมป์เบลล์” คัมแบ็กสู่การกำกับภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์ที่ทุกคนรอคอยใน “Cleaner ไต่ระทึก ตึกนรก” เตรียมส่ง “เดซี ริดลีย์” สู่ “แอ็กชันสตาร์สาวคนใหม่” หลังจากที่เคยผลักดันให้ “แดเนียล เครก” กลายเป็นตำนาน 007 มาแล้ว พร้อมพลิกคาแร็กเตอร์ของริดลีย์อย่างสิ้นเชิงจาก “เจไดสาว” สู่ “นักกอบกู้ชีวิต” ที่ต้องเสี่ยงตายเพื่อช่วยเหลือตัวประกันกว่า 300 ชีวิตรวมถึงน้องชายของเธอจากผู้ก่อการร้ายสุดคลั่งบนตึกสูงเสียดฟ้ากว่า 1,000 ฟุต

อะไรที่ดึงดูดให้คุณสนใจกำกับภาพยนตร์เรื่อง “Cleaner”

เพราะบทที่ “ไซมอน อัตลีย์” เขียนนั้นยอดเยี่ยมมาก ระทึกตั้งแต่ต้นจนจบ มันเป็นหนึ่งในบทที่อ่านแล้ววางไม่ลง พอเปิดหน้าแรกรู้ตัวอีกทีก็อ่านมาถึงหน้า 95 แล้ว มันเป็นหนังระทึกขวัญไฮคอนเซปต์ที่มีหัวใจว่าด้วยเรื่องราวความผูกพันของพี่น้อง 

ไซมอนมีลูกชายที่มีความหลากหลายทางระบบประสาท เขานำมันมาถ่ายทอดลงไปในตัวละคร “ไมเคิล” น้อยชายของ “โจอี้” ซึ่งรับบทโดย “เดซี ริดลีย์” ถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากการเลี้ยงดูลูกชายมาสร้างเป็นตัวละครที่มีมิติและสมจริง สิ่งที่ทำให้ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกคือเราได้ “แมตทิว ทัก” มารับบท “ไมเคิล” ซึ่งเขาเองก็มีความหลากหลายทางระบบประสาทเหมือนตัวละคร การที่ได้นักแสดงที่มีประสบการณ์ตรงมาแสดงช่วยให้การถ่ายทอดตัวละครและความสัมพันธ์กับเดซีออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เราไม่น่าจะหาใครที่เหมาะสมกับบทไมเคิลไปกว่านี้แล้ว

ทำไมถึงเลือกให้ตัวเอกเป็นผู้หญิง

ผมชอบตัวละครเอกที่เป็นผู้หญิง ผมกำกับหนังที่มีผู้หญิงเป็นตัวเอกหลายเรื่อง และมักจะทำให้พวกเธอเป็นซูเปอร์ฮีโร่ จัดการกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ถูกฝึกมาอย่างดีเป็นสิบคนโดยที่เหงื่อยังไม่ตกเลย แต่ผมคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง และแน่นอนว่าอยู่ในขีดความสามารถของตัวละคร

เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ “โจอี้” ต้องพาน้องชายไปทำงานด้วยหน่อย

วันนั้นเธอมาทำงานสาย เพราะได้รับโทรศัพท์จากสถานดูแลที่น้องชายอยู่ว่าเขาถูกไล่ออก สาเหตุเพราะเขารู้สึกว่าสถานดูแลขโมยเงินของเขา เธอจึงต้องไปรับเขาก่อน แม้ว่าจะไปทำงานสายแล้ว ตัวเลือกเดียวของเธอคือต้องพาน้องชายไปทำงานด้วย เธอฝากเขาไว้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเริ่มกะตามปกติ แต่แน่นอนว่าเขาแอบหนีจากการดูแลของเจ้าหน้าที่ไปได้ และขึ้นไปบนตึกเพื่อตามหาพี่สาว แล้วเรื่องราวความมันส์ก็บังเกิด

ความสัมพันธ์ระหว่าง “โจอี้” กับ “ไมเคิล”

ความสัมพันธ์ของพวกเขาเปราะบางมาตั้งแต่แรก ทั้งคู่เป็นเด็กมีปัญหา เราจะเห็นมันตั้งแต่ซีนเปิดเรื่องที่ย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่พวกเขายังเป็นเด็ก ชัดเจนว่าพวกเขามีพ่อที่ชอบใช้ความรุนแรง อาจเป็นพวกขี้เมา และแม้ว่าแม่จะพยายามปกป้องลูกชาย แต่ “โจอี้” มักจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมาตลอด มันเป็นเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่เคยแตกร้าว และการที่พวกเขาผสานมันกลับมาอีกครั้ง

การทำงานกับนักแสดงในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับผมไฮไลต์คือการได้ทำงานกับทีมนักแสดงมากฝีมือ “เดซี ริดลีย์” ไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงที่เก่ง แต่เธอยังทำงานด้วยได้ง่ายมาก เธอมอบทุกอย่างให้หนัง ไม่เพียงมีอารมณ์ขัน แต่ยังแสดงความหัวร้อนตามตัวละครออกมาได้ดี ส่วน “ทาซ สกายลาร์” เขาก็ปล่อยของเต็มที่ เขาขึ้นกล้องมากเป็นดาวรุ่งอนาคตไกลของแท้

คุณเคยกำกับ “ไคลฟ์ โอเวน” ในเรื่อง “Beyond Borders” การได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งใน “Cleaner” เป็นอย่างไรบ้าง

ผมเคยร่วมงานกับ “ไคลฟ์” มาก่อน เขาเป็นทั้งคนน่ารักและนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ฝีมือของเขาพูดแทนตัวเองอยู่แล้ว แล้วที่น่าสนใจคือนอกจอเขาเป็นคนตลกมาก ทุกอย่างที่เขาทำมันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ นั่นแหละคือตัวตนของเขา

คุณชอบซีนไหนที่สุดในเรื่อง

ซีนโปรดของผมในหนังเรื่องนี้คือซีนอารมณ์ระหว่าง “โจอี้” กับน้องชายของเธอ แม้ว่าซีนแอ็กชันจะออกมาเร้าใจ แต่สำหรับผมนั้นไม่ใช่หัวใจหลัก ความสัมพันธ์ระหว่าง “โจอี้” กับ “ไมเคิล” ต่างหากที่สำคัญ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ “ทาซ” อดีตเพื่อนรักที่หักหลังเธอ ซึ่งในที่สุดก็บีบให้ทั้งสองฝ่ายต้องมาประจันหน้ากัน

การถ่ายทำในตึกสูงมีความท้าทายอย่างไร

ส่วนใหญ่เราถ่ายทำในสตูดิโอซึ่งมีความท้าทายตรงที่เมื่อคุณอยู่บนตึก คุณต้องเห็นตึกทั้งหมดที่อยู่ตรงข้าม ต้องเห็นทุกอย่างสะท้อนในกระจก เราจึงต้องติดจอขนาดใหญ่รอบฉากเพื่อฉายภาพที่เราต้องการ แต่เราก็ถ่ายทำที่ตึกจริงด้วย มีทีมงานลงไปถ่ายในกระเช้าเช็ดกระจก เก็บภาพพื้นหลังมากมาย ซึ่งสิ่งที่ได้จากการถ่ายที่ตึกจริงๆ ผมว่ามันใช้ประโยชน์ได้เยอะ

ในแง่ของธีมและเนื้อหาของหนัง

มันมีความร่วมสมัย เพราะเกี่ยวข้องกับบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ที่มีฉากหน้าเป็นอย่างหนึ่ง อย่างในเรื่องของเราบริษัทนั้นอ้างว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเต็มที่ แต่เบื้องหลังนั้นกลับหาประโยชน์จากทุกช่องโหว่เท่าที่ทำได้ ทำตรงข้ามกับสิ่งที่พวกเขาสร้างภาพต่อสาธารณะ

คุณคิดว่าผู้ชมจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้

ผมคิดว่าผู้ชมจะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ระทึกแบบไม่ให้พักหายใจ ไม่เพียงแต่ความระทึกขวัญที่ต้องจิกเบาะ น่าตื่นเต้น แต่ยังมีอารมณ์ขันแทรกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ในขณะเดียวกันก็จริงจังมากในแง่ของโทนเรื่องมันน่าทึ่งมาก และผมคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่าง “ไมเคิล”, “โจอี้” และ “ทาซ” ยังน่าติดตามไม่แพ้กัน

นรกขุมนี้อยู่สูงเสียดฟ้า และ “เธอ” คือทางรอดเดียวของวินาศกรรมครั้งนี้ “Cleaner ไต่ระทึก ตึกนรก” ภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์ High Concept ระห่ำเต็มข้อจากผู้กำกับ “มาร์ติน แคมป์เบลล์” (Casino Royale) นำแสดงโดย “เดซี ริดลีย์” (แฟรนไชส์ Star Wars), “ทาซ สกายลาร์” (One Piece) และ “ไคลฟ์ โอเวน” (Children of Men, Sin City) มันส์เสียดฟ้าตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์

มินนี่ (G)I-DLE

มินนี่ แห่งวง (G)I-DLE เปิดตัวตนอีกมุมให้รู้จักผ่านนิทรรศการ

Alternative Textaccount_circle
มินนี่ (G)I-DLE
มินนี่ (G)I-DLE

มินนี่ แห่งวง (G)I-DLE เปิดตัวตนอีกมุมให้รู้จักผ่านนิทรรศการ และรูปภาพ กับ “MINNIE POP-UP STORE [HER]” เพื่อฉลองการเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรก

มินนี่ (G)I-DLE

เหล่า ‘NEVERLAND’ ชาวไทย เตรียมตัวให้พร้อมที่จะไปสัมผัสตัวตน และค้นพบโลกอีกมุมหนึ่งของไอดอลสาว “MINNIE” (มินนี่) แห่งวง (G)I-DLE หรือ “มินนี่-ณิชา ยนตรรักษ์” ผ่านโลกแห่งศิลปะ และรูปภาพ กับ “MINNIE POP-UP STORE [HER]” เพื่อฉลองการเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกของเธอ ในระหว่างวันที่ 19 – 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ชั้น 1 โซน Beacon 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศเกาหลี

ภายในงานแฟนๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจ และเก็บความประทับใจในโซนต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสดใสของสีชมพู และสีแดง ไม่ว่าจะเป็น “Entrance” กำแพงแห่งความสำเร็จและเรื่องราวของมินนี่ , “Photo Corner” มุมถ่ายรูปที่ยกเอาฉากเสมือนจริงจากในเอ็มวีเพลง HER มาไว้ที่นี่ , “Film Photo Exhibition” นิทรรศการภาพถ่ายฟิล์มที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน , “MINNIE’s Zone” โซนรวมคอสตูมที่มินนี่ใส่ในเอ็มวีเพลง HER , “Message to MINNIE” มุมส่งต่อความสุข และข้อความดีๆ จากทุกคนถึงมินนี่ , โซน “Photo Booth” ที่จะได้ใกล้ชิดแบบฟินๆ พร้อมด้วยเฟรมดีไซน์เฉพาะงานนี้ และโซน “Merchandise” มีสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟส่งตรงจากเกาหลี และสินค้าลิมิเต็ดคอลเลคชั่น ‘Bangkok Edition Merchandise’ ให้แฟนๆ ได้จับจองที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น และไฮไลต์สำคัญกิจกรรมร่วมลุ้นรับ Polaroid พร้อมลายเซ็นจากมินนี่ เรียกว่าคุ้มจุใจสุดๆ ครบจบในที่เดียว

สำหรับ “มินนี่” ยังคงครองตำแหน่งลูกรักสาวก K-POP ได้เป็นอย่างดี ด้วยความสำเร็จเป็นอย่างมากกับการเดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยว ในการปล่อยมินิอัลบั้มแรก [HER] เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่าน โดยสามารถคว้าที่ 1 ในรายการ Music Bank ทางช่อง KBS2 และเพลงยังติดอันดับชาร์ตแบบเรียลไทม์ของ Bugs ทั่วโลก นอกจากนี้ยังสร้างสถิติระดับโลกด้วยการขึ้นอันดับ 1 บน QQ Music Daily & Weekly Digital Bestsellers อันดับ 3 บน Worldwide iTunes Album Chart และอันดับ 5 บน European iTunes Album Chart ตอกย้ำความนิยมระดับสากลอีกด้วย

โดยอัลบั้ม HER นั้นถ่ายทอดเรื่องราวที่จริงใจของมินนี่ พร้อมด้วยดนตรีคุณภาพหลากหลายแนวที่เผยให้เห็นมิติทางดนตรีที่ลึกซึ้ง และการเติบโตยิ่งขึ้นผสานกับสไตล์ป็อปอันเป็นเอกลักษณ์ของมินนี่ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสดใสในอัลบั้มนี้ ทำให้เห็นถึงตัวตนที่เปรียบเสมือนงานศิลปะอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับ “MINNIE POP-UP STORE [HER]” ที่มินนี่ตั้งใจอยากให้ NEVERLAND รวมไปถึงแฟนๆ K-POP ได้สัมผัสตัวตนของเธออย่างใกล้ชิดมากขึ้นนั่นเอง

ห้ามพลาด! แล้วมาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างความทรงจำกับ “มินนี่” ที่ตั้งใจยกความพิเศษมาไว้ที่บ้านเกิดประเทศไทย กับ “MINNIE POP-UP STORE [HER]” ณ ชั้น 1 โซน Beacon 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ – 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 – 22.00 น.

ก้าวสู่ ความโชคดี ในปี 2025 นี้ VUUDH Aromatic Charm Lucky Stone Collection จาก HARNN

ก้าวสู่ ความโชคดี ในปี 2025 นี้ VUUDH Aromatic Charm Lucky Stone Collection จาก HARNN

Alternative Textaccount_circle
ก้าวสู่ ความโชคดี ในปี 2025 นี้ VUUDH Aromatic Charm Lucky Stone Collection จาก HARNN
ก้าวสู่ ความโชคดี ในปี 2025 นี้ VUUDH Aromatic Charm Lucky Stone Collection จาก HARNN

ช่วงเวลาพิเศษแห่งปีที่เต็มไปด้วยความหวังและความโชคดี VUUDH Aromatic Charm สัมผัสความมหัศจรรย์ของคอลเล็คชันใหม่ล่าสุด “Lucky Stone” ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานโบราณเกี่ยวกับพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของหินต่างๆ ที่เชื่อมโยงลึกซึ้งระหว่างธรรมชาติ จักรวาล และโชคชะตาของมนุษย์ สรรค์สร้างออกมาเป็นกลิ่นของความรื่นรมย์ทั้ง 5 กลิ่น เพื่อเติมเต็ม ความโชคดี และความสุขให้ทุกช่วงเวลา

หยก (Jade) – สัญลักษณ์แห่งความโชคดีและการปกป้อง
เสริมพลังแห่งความแข็งแกร่งและปัญญาที่ได้แรงบันดาลใจจากปีมะโรงและปีมะเส็ง สะท้อนธาตุดินที่เปี่ยมด้วยความมั่นคงและการดูแล กลิ่นหอมนี้โดดเด่นด้วยความละมุนของ ลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ และ มัสก์ให้ความรู้สึกบริสุทธิ์ และอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสร้างบรรยากาศสงบในพื้นที่เล็ก ๆ เช่น รถยนต์หรือตู้เสื้อผ้า

ไข่มุก (Pearl) สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความสง่างาม
สัมผัสถึงความผ่อนคลายหอมละมุนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปีเถาะและปีกุน สองสัญลักษณ์ที่สะท้อนความอ่อนโยน กลิ่นหอมนี้เชื่อมโยงกับธาตุน้ำ ที่สื่อถึงความลึกซึ้งทางอารมณ์ ด้วยส่วนผสมของเกลือทะเลและไม้จันทน์ ที่ช่วยให้ผ่อนคลายและผสานกลิ่นอายของความสดชื่นไว้ในคราเดียวกัน เหมาะกับผู้ที่ปรารถนาถึงความสงบและเรียบง่าย

เทอร์ควอยส์(Turquoise) สัญลักษณ์ของการรักษาและปกป้อง
เพื่อเติมเต็มการเดินทางที่ปลอดภัยและมั่นคง เชื่อมโยงกับปีขาลและปีฉลู สะท้อนพลังแห่งความแข็งแกร่ง ความซื่อสัตย์ และความมั่นคง ผสานกับธาตุไม้ กลิ่นหอมสดใสและมีชีวิตชีวาของเบอร์กามอท เลมอน และแอปเปิล ช่วยสร้างพลังบวกและความมั่นใจในการก้าวเดินอย่างมั่นคง

ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) สัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และปัญญา
สัมผัสพลังแห่งการตื่นรู้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปีวอก ปีระกา และปีชวด ที่สะท้อนถึงความเฉลียวฉลาดและมีไหวพริบ เชื่อมโยงกับธาตุโลหะที่เปี่ยมด้วยความชัดเจนและสมาธิ กลิ่นหอมผสานด้วยไม้และเครื่องเทศทั้ง ไซเปรสและมัสก์ ที่มอบความสดชื่นและเผ็ดร้อน กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และสมาธิ เหมาะสำหรับการแรงบันดาลใจใหม่

อำพัน (Amber) สัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวาและกล้าหาญ
ตัวแทนของพลังชีวิต จิตใจอันอบอุ่นเปรียบดั่งปีมะเมีย ปีจอและปีมะแมะ ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่น เชื่อมโยงกับธาตุไฟที่ลุกโชน ด้วยกลิ่นหอมอุ่นของสวีทสปรูซและเบอร์กามอท ผสมผสานกับอำพันและวานิลลา ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและเปี่ยมเสน่ห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มพลังและความรื่นรมย์ในทุกพื้นที่


“บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024” จัดกิจกรรมเสวนา “BAB 2024 Symposium” เรื่อง Gaia, Women, and Bodies

Alternative Textaccount_circle

เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติที่จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี “บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024” (ฺBangkok Art Biennale 2024) โดย มูลนิธิบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เครือข่าย พันธมิตรภาครัฐ และเอกชนทุกภาคส่วน ได้จัดแสดงผลงานครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด “รักษา กายา (Nurture Gaia)
อีกทั้งล่าสุดยังจัดกิจกรรมเสวนา “BAB 2024 Symposium” ในหัวข้อ Gaia, Women, and Bodies (ไกอา สตรี และเรือน ร่าง) โดยมี นายแพทย์ สุรพงษ์ สีบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ นายฌอง-โคล็ดปวงเบิร์ฟ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เปิดงานสัมมนาอย่างเป็นทางการ ณ ห้องออดิทอเรียมหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

Revitalizing Louise Bourgeois Memorial Hold Me Close, Nopparat Tara Krabi

โดยหัวข้อการเสวนาครั้งนี้ เริ่มต้นด้วย “Revitalizing Louise Bourgeois Memorial Hold Me Close, Nopparat Tara Krabi” ที่มี เจอร์รี่ โกโรวอย ประธานมูลนิธิอีสตัน ผู้ดูแลทรัพย์สินของศิลปินหลุยส์ บูร์ชัวส์ และฟิลิป ลาร์รัตต์-สมิธ ภัณฑารักษ์ประจำมูลนิธิอีสตัน, กุลภัทร ยันตรศาสตร์ สถาปนิก และศ.ดร. อภินันท์ โปษยานนท์ ผู้อำนวยการศิลป์เทศกาลบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ และ ลักขณา คุณาวิชยานนท์ ภัณฑารักษ์และกรรมการบริหารหอศิลปกรุงเทพฯ มาร่วมพูดคุย ย้อนรำลึกถึงผลงานประติมากรรม Hold me close โดย หลุยส์ บูร์ชัวส์ ประติมากรหญิงชื่อดังระดับโลกผู้ล่วงลับ

บูร์ชัวร์สร้างผลงานชุดนี้ขึ้นและมอบให้แก่ประเทศไทยเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทร อินเดีย พ.ศ. 2547 และผลงานเคยได้รับการติดตั้งไว้ ณ อนุสรณ์สถานในสวนสน หาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ก่อนจะมีการยืมไปจัดแสดงในนิทรรศการและเทศกาลศิลปะสำคัญ เช่น นิทรรศการฝันถึงสันติภาพ ณ หอ ศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (2553) และเทศกาลศิลปะนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนาเล่โคราช จังหวัดนครราชสีมา(2564) ปัจจุบันผลงานถูกเก็บไว้ภายใต้การดูแลของศาลาว่าการจังหวัดกระบี่ และไม่ได้จัดแสดง ผู้ร่วมเสวนาจะสนทนากัน ถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของการพลิกฟื้นประติมากรรมและอนุสรณ์สถานแห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีเรื่อง “ถึงชีวิตและความตาย: ภาพจิตรกรรมโดย หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธ์” ที่พูดถึงชีวิตและการทำงานศิลปะ และ “The Female Gaze: Conversation on bodies and the works of Ravinder Reddy” ระหว่างราวินเดอร์ เรดดี และ ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ที่มาร่วมพูดคุยถึงกระบวนการสร้างสรรค์งานประติมากรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเรดดี โดยเน้นไปยังผลงานที่เกี่ยวกับสตรีและความเป็นหญิง


เปิดคลังซูเปอร์คาร์! 3 รถหรู “ลิซ่า ลลิษา” มูลค่ารวมกว่า 80 ล้านบาท

Alternative Textaccount_circle

ในเวลานี้ ไม่มีอะไรหยุดความปังของ “ลิซ่า ลลิษา” ได้แล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าสามารถเรียกว่าเป็นปีทองได้หรือไม่ เพราะกระแสของเธอไม่เคยหายไปเลย รวมถึงในปี 2025 เราคงได้เห็นทั้งผลงานเพลง คอนเสิร์ต และซีรีส์ตลอดทั้งปี ซึ่งนอกจากจะเป็นเครื่องการันตีความฮ็อตแล้ว ก็ยังแสดงถึงการไม่หยุดพัฒนาตัวเองอีกด้วย สิ่งนี้จึงนำมาสู่ ความสำเร็จ ที่มาในรูปแบบจับต้องไม่ได้อย่าง ชื่อเสียง และจับต้องได้อย่าง ทรัพย์สิน เช่น ซูเปอร์คาร์ ที่เธอเพิ่งซื้อรถคันใหม่มาหมาดๆ นี่เอง บอกเลยว่าแต่ละคันไม่ธรรมดา แพรวจึงรวบรวมดีเทลมาให้ทุกคนได้อ่านไปพร้อมกันค่ะ

เผยดีเทล 3 รถหรู “ลิซ่า ลลิษา” มูลค่ารวมกว่า 80 ล้านบาท

FERRARI PUROSANGUE 2025 (ราคาประมาณ 40 ล้านบาท)

FERRARI PUROSANGUE 2025 (ซ้าย)

เริ่มด้วยคันล่าสุด FERRARI PUROSANGUE 2025 ที่หลายคนแตกตื่น หลังจากลิซ่าโพสต์รูปภาพรถคันนี้ลงในสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมคำบรรยาย “Welcoming my new baby to the fam” โดยรุ่นดังกล่าวเป็นรถ SUV รุ่นแรกของเฟอร์รารี่ ที่ถึงแม้จะดูเป็นรถครอบครัว แต่ระบบการขับขี่ก็ไม่เป็นรองใคร เพราะมาพร้อมเครื่องยนต์ V-12 ดูดอากาศตามธรรมชาติ 715 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ดัดแปลงมาจาก Ferrari FF และระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟที่แทบจะขจัดอาการโคลงตัวของตัวรถได้

ระบบควบคุมส่วนใหญ่อยู่บนพวงมาลัย แตกต่างจากรถยุคนี้ที่ส่วนใหญ่มีหน้าจอสั่งการอยู่บริเวณกลางคอนโซลหน้ารถ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นักรีวิวรถหลายคนแปลกใจ

Ferrari 812 GTS – Mansory Stallone NR.836 (ราคาประมาณ 30 ล้านบาท)

ถือว่าเป็นรถแขวนกระเป๋าที่หรูหรา ราคาแพงสุดๆ สำหรับ Ferrari 812 GTS – Mansory Stallone NR.836 โดยรถคันดังกล่าได้ปรับโฉมใหม่จาก Ferrari 812 GTS มาพร้อมตัวถัง Daytona-Grey สีเทาพิเศษที่เพิ่มความโดดเด่นด้วยการใช้สีน้ำเงินตัดเส้นรอบคัน ใช้เครื่องยนต์ V12 ไร้ระบบอัดอากาศขนาด 6,496 ซีซี 830 แรงม้า

ส่วนภายในยังเน้นควมสะดวกสบาย พร้อมสัมผัสที่นุ่มนวลจากวัสดุหนังแท้ และตัดเย็บด้วยมือทั้งหมด พวงมาลัยทรงสปอร์ต และที่สำคัญปักตรา Mansory ไว้บนเบาะนั่ง พรมวางเท้า และธรณีประตู

Mercedes – AMG G 63 (ราคาประมาณ 18 ล้านบาท)

สุดท้ายเป็นรถที่ดีไซน์เท่ไม่น้อยกับ Mercedes – AMG G 63 ซึ่งปรากฏในวีดีโอ ‘Special Birthday Q&A with Lisa | 27 years around the sun | Exclusive Merch Drop‘ ช่องยูทูป LLOUD Official รถคันนี้ ออกแบบมาในดีไซน์สปอร์ตมาพร้อมกับกระจังหน้าหม้อน้ำสุดพิเศษที่มีเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ส่วนภายใน พวงมาลัย AMG Performance ตรงบริเวณที่จับตกแต่งด้วย DINAMICA microfibre แป้นเปลี่ยนเกียร์อลูมิเนียมและเครื่องหมาย 12 นาฬิกา จึงทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสนามแข่งรถ

สำหรับระบบการปรับโหมดขับขี่ ‘AMG DYNAMIC SELECT’ สามารถเปลี่ยนลักษณะการขับขี่ได้เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัส เลือกโปรแกรมการขับขี่รูปแบบต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบช่วงล่าง และการบังคับเลี้ยว สามารถเลือกได้ไม่ว่าจะเป็นโหมด “Sport+” เพื่อการขับขี่แบบเร้าใจ หรือจะเป็นโหมด “Comfort” เพื่อการเดินทางแบบสะดวกสบาย


รูปภาพ: Ferrari, Mansory,mercedes-benz.co.th, @lalalalisa_m
ข้อมูล: bangkoksupercar.com, mercedes-benz.co.th, autospinn.com

พัคจินยอง

5 เหตุผลห้ามพลาดผลงาน ซีรีส์เกาหลี สุดปัง ของ พัคจินยอง

Alternative Textaccount_circle
พัคจินยอง
พัคจินยอง

5 เหตุผลห้ามพลาดผลงาน ซีรีส์เกาหลี สุดปัง ของ พัคจินยอง แห่ง GOT7 เรื่อง ‘The Witch สวยต้องสาป ผลงานสนุกสุดเข้มข้น

ปังของจริง สำหรับซีรีส์เกาหลีที่ใคร ๆ ก็พูดถึงตลอดทั้งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับ ‘The Witch สวยต้องสาป’ ซีรีส์ที่ผสมผสานแนวลึกลับและโรแมน ติกได้อย่างลงตัว แถมยังเป็นการกลับมาโลดแล่นบนหน้าจอซีรีส์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีของพระเอก ‘พัคจินยอง’ สมาชิกวงบอยแบนด์ระดับปรากฏการณ์อย่าง GOT7 ที่ผลงานล่าสุดทำเอาแฟนซีรีส์ฟินจัด จนทุบสถิติเรตติ้งสถานีโทรทัศน์ในเกาหลีที่ออนแอร์ซีรีส์เรื่องนี้ไปเรียบร้อย แต่ถ้าคุณยังลังเล นี่คือ 5 เหตุผลห้ามพลาด ที่จะทำให้คุณเริ่มเปิดดูตอนแรก ของซีรีส์สนุกสุดเข้มข้นเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กัน

พัคจินยอง

5 เหตุผลห้ามพลาดผลงาน ซีรีส์เกาหลี สุดปัง ของ พัคจินยอง

1.สิ้นสุดการรอคอย ‘พัคจินยอง’ ผงาดหน้าจออีกครั้ง – ‘The Witch สวยต้องสาป’ ขึ้นแท่นซีรีส์ที่ผู้คนนับล้านจากทั่วโลกรอคอย เพราะเป็นการกลับมาสู่หน้าจอ ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ของ ‘พัคจินยอง’ พระเอกหนุ่มสุดหล่อสมาชิกวง GOT7 หลังจากเบรกงานไปเข้ากรม รับใช้ชาติ ตามกฏที่หนุ่มเกาหลีทุกคนต้องปฏิบัติ โดยการกลับมาครั้งนี้ จินยองจัดหนักจักเต็ม มาทั้งงานเพลงของวง GOT7 และงานแสดงแบบควบคู่กันไป ยกระดับความฟินให้กับแฟน ๆ หลังจากที่อดทนรอคอยกันมานาน

2.จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อชายธรรมดาตกหลุมรักแม่มด – นี่คือซีรีส์ที่ผสมผสานแนว ลึกลับและโรแมนติก ได้อย่างน่าติดตามลงตัว จัดเต็มทั้งความลึกลับของเส้นเรื่องและความโรแมนติกของซีนต่างๆอย่างน่าดู เล่าถึง ดงจิน (รับบทโดย พัคจินยอง) หนุ่มทำงานที่ดูแสนจะธรรมดา ตกหลุมรัก มีจอง เพื่อนสาวตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เธอคือคนที่ผู้คนรอบข้างหวาดกลัว เพราะ เชื่อว่าเธอคือ ‘แม่มด’ หลังทุกคนที่แอบชอบหรือเข้าใกล้เธอ ล้วนได้รับบาดเจ็บ หรือได้รับอันตราย จนกระทั่งเวลาผ่านไป 10 ปี และทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาจึงพยายามทำทุกทางเพื่อช่วยให้เธอ หลุดจากคำสาปและฝันร้ายนี้

3.ยิ่งดูยิ่งอิน กับ เคมีที่เข้ากันสุดๆของพระเอกนางเอก – โดยในซีรีส์ ‘The Witch สวยต้องสาป’ พัคจินยอง จะได้ประกบกับ โนจองอี อดีตนักแสดงเด็กที่คนเกาหลีเอ็นดูมานับ 10 ปี ซึ่งล่าสุดขึ้นแท่นเป็นนางเอกจากซีรีส์ Hierarchy กลับมารับบทนำอีกครั้ง ในบทหญิงสาวที่ต้องเก็บตัวอย่างเงียบเชียบ เพราะถูกคนรอบข้างตราหน้าว่าเธอคือ ‘แม่มด’ มีเพียงพระเอกเท่านั้นที่เข้าใจและมองเธอจากตัวตนที่แท้จริง มิใช่คำที่บุคคลรอบข้างตราหน้า ซึ่งเปิดมาตอนแรก ผู้ชมก็จะได้เห็นแววตาของทั้งสอง ที่สื่อสารกันทำให้ยิ่งดูก็ยิ่งตกหลุมรักและเอาใจช่วยทั้งสองตัวละคร

4.ผลงานล่าสุดของมือเขียนบทตัวพ่อแห่งเกาหลี – นาทีนี้ชื่อของ ‘คังฟูล’ กลายเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีเยี่ยมว่า ผลงานของเขาล้วนมาพร้อมกับพล็อตแปลกใหม่ และเนื้อหาที่น่าติดตาม สอดแทรกด้วยประเด็นที่ลึกซึ้งมากกว่าแค่ดูผิวเผินทั่วไป คังฟูล กลายเป็นคนเขียนสุดฮ็อตจาก ผลงานเว็บตูนระดับปรากฏการณ์อย่าง Moving และ Light Shop ซึ่งผลงานล่าสุดอย่าง The Witch นั้น มียอดคนอ่านในเกาหลีสูงมากถึง 130 ล้านครั้ง เป็นการการันตีเบื้องต้นได้อย่างดีเยี่ยมว่า โครงเรื่องของ The Witch นั้นน่าติดตามอย่างแน่นอน

5.เปิดตัวสุดปัง กวาดผู้ชมแรงขึ้นอันดับ 2 ตั้งแต่สัปดาห์แรก – จะพลาดได้อย่างไร เมื่อซีรีส์ ‘The Witch สวยต้องสาป’ ผงาดกระแสตอบรับดีล้นหลาม หลังจากออกฉายเพียงแค่ 2 ตอนเท่านั้น ก็ทำสถิติพุ่งทะยานขึ้นสู่ชาร์ตความนิยมในแอปพลิเคชัน Viu แบบทันที ไม่รีรอไต่อันดับแต่อย่างใด กลับมาแรงแซงโค้งพุ่งขึ้นอันดับ 2 เลยทีเดียว เป็นการรับประกันอย่างได้ทันที ว่านี่คือซีรีส์ใหม่จากเกาหลีที่คุณไม่ควรพลาด

แฟนซีรีส์เกาหลีพล็อตแปลกใหม่ต้องไม่พลาดกับผลงานจาก Viu Original เรื่องนี้ The Witch
สวยต้องสาป รับชมตอนใหม่พร้อมซับไทยได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 20:30 น.ได้ที่ Viu เท่านั้น

เผยโฉม Luminara เรือซูเปอร์ยอทช์ลำใหม่จาก The Ritz-Carlton Yacht Collection

account_circle

ชวนสายท่องเที่ยวสไตล์ลักซ์ชัวรี่ปักหมุด Luminara เรือซูเปอร์ยอทช์ลำใหม่ล่าสุดจาก The Ritz-Carlton Yacht Collection ที่มาพร้อมกับเส้นทางการเดินทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสร้างสรรค์โดย Deck 9 (เดคไนน์) ตัวแทนจำหน่ายหลัก (Key Agent) แต่เพียงผู้เดียวของเรือ The Ritz-Carlton Yacht Collection ในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการลักซ์ชัวรี่ครูซเอเจนซี่ในประเทศไทย พร้อมได้รับเกียรติจาก แคท – ซอนญ่า สิงหะ เซเลบริตี้สาวตัวแทนของผู้ที่พร้อมเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ๆ และเชื่อว่าการเริ่มต้นด้วยสิ่งที่ดีที่สุดคือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เช่นเดียวกับการเลือกเรือ The Ritz-Carlton Yacht Collection สำหรับการล่องเรือครั้งแรกในชีวิต

เรือ The Ritz-Carlton Yacht Collection ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากนักเดินทางทั่วโลก โดยเฉพาะในเส้นทางสุดโรแมนติกแถบเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปเหนือ และแคริบเบียน ที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม และจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ซึ่งหลายๆ แห่งเรือใหญ่ไม่สามารถเข้าไปถึงได้ ตอบโจทย์นักเดินทางผู้หลงใหลในการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ผสมผสานประสบการณ์ท่องเที่ยวทางเรือสไตล์ซูเปอร์ยอทช์ที่สบายและเหนือระดับ เรือ Luminara ซูเปอร์ยอทช์ลำใหม่ล่าสุดเตรียมออกเดินทางในฤดูกาลแรกสู่เส้นทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเริ่มเส้นทางใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกช่วงปลายปี 2025 ตามด้วยอลาสก้าในช่วงกลางปี 2026

Luminara จะล่องสู่เส้นทางในเอเชีย ให้นักเดินทางได้ยลโฉมความงามทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของจุดหมายปลายทางยอดนิยม เช่น กรุงโตเกียว, เมืองโอซาก้า, กรุงโซล, ฮาลองเบย์, ปูเวร์โตปรินเซซา และเมืองอื่นๆ รวมถึงกรุงเทพฯ พร้อมด้วยบริการระดับ 5 ดาวที่เน้นความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้แก่นักเดินทาง เรือ The Ritz-Carlton Yacht Collection คือผู้นำด้านลักซ์ชัวรี่ยอทช์ระดับโลกที่รวบรวมความสง่างามของการเดินทางทางทะเลเข้ากับการบริการเหนือระดับจาก The Ritz-Carlton

เรือ The Ritz-Carlton Yacht Collection: ประสบการณ์ล่องเรือที่ไม่มีใครเทียบ

  • เรือซูเปอร์ยอทช์สุดหรูที่ออกแบบอย่างมีสไตล์และหรูหรา : เรือทุกลำได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความหรูหราและสะดวกสบายสูงสุด พร้อมพื้นที่กว้างขวาง มี Marina Platform ท้ายเรือ         ที่สามารถลงทะเลเพื่อไปทำกิจกรรมทางน้ำได้โดยตรง
  • ห้องพักทั้งหมดบนเรือเป็นห้อง Suite และมีระเบียงส่วนตัว : มีห้องพักหลากหลายประเภทและหลายขนาด พร้อมวิวทะเลแบบพาโนรามา
  • ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เหนือระดับ : มีห้องอาหารให้เลือกหลากหลายห้อง ทั้ง Fine dining และ Casual dining พร้อมเมนูที่รังสรรค์ด้วยเชฟระดับมิชลิน
  • บริการระดับโลกมาตรฐาน The Ritz-Carlton โดย The iconic “Ladies and Gentlemen of the Ritz-Carlton” ดูแลทุกความต้องการของผู้โดยสารอย่างใกล้ชิด ด้วยสัดส่วนพนักงานต่อผู้โดยสารเกือบ 1 ต่อ 1
  • เส้นทางการล่องเรือที่หลากหลาย และเข้าถึงจุดหมายที่เรือขนาดใหญ่เข้าไม่ได้ ครอบคลุมจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วโลก เช่น เมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปเหนือและบอลติก แคริบเบียน รวมถึงเส้นทางใหม่ในเอเชียและอลาสก้า
  • ซูเปอร์ยอทช์ของ The Ritz-Carlton Yacht Collection

1. Evrima: 149 suites, 298 guests (ออกเดินทางเมื่อปี 2022)

2. Ilma: 224 suites, 448 guests (ออกเดินทางเมื่อปี 2024)

3. Luminara: 226 suites, 452 guests (กำลังจะออกเดินทางกลางปี 2025 นี้)

  • สิทธิพิเศษ Marriott Bonvoy ลูกค้าสามารถสะสมหรือแลกคะแนน Marriott Bonvoy ได้

งานนี้ แคท – ซอนญ่า สิงหะ เซเลบริตี้สาวผู้เปี่ยมเสน่ห์และรสนิยมที่โดดเด่น เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หรูหราและไม่เหมือนใคร เผยว่า “จริงๆ แล้วแคทยังไม่เคยมีโอกาสล่องเรือมาก่อนเลยค่ะ แต่เมื่อได้เห็นภาพและรายละเอียดของเรือ The Ritz-Carlton Yacht Collection ทำให้รู้สึกว่าถ้าจะเริ่มต้นประสบการณ์การล่องเรือครั้งแรกก็ควรเป็นเรือจากแบรนด์นี้ เพราะทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบและพิเศษมาก ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งเรือที่มีสไตล์และหรูหรา เส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากๆ  และการบริการของ The Ritz-Carlton ซึ่งก็มีชื่อเสียงต้นๆ ระดับโลกอยู่แล้ว เลยคิดว่าการได้ล่องเรือกับ The Ritz-Carlton Yacht Collection น่าจะเป็นมากกว่าการเดินทางและยังถือเป็นโอกาสที่จะได้เปิดโลกใหม่ให้ตัวเองและครอบครัว แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วค่ะที่จะได้ลองสัมผัสประสบการณ์ที่หรูหราและน่าจดจำแบบนี้ในอนาคต”

Deck 9 พร้อมมอบประสบการณ์การล่องเรือซูเปอร์ยอทช์แบบเหนือระดับ ด้วยไลฟ์สไตล์สุดหรูและความเป็นส่วนตัวกับเรือ The Ritz-Carlton Yacht Collection


กระเป๋าไอคอนิกดีไซน์ใหม่ เผยดีเทล The Featherlight Puzzle จาก LOEWE

Alternative Textaccount_circle

ไม่ว่าใครก็คงรู้จัก Puzzle กระเป๋ารุ่นไอคอนิกจาก Loewe ซึ่งเป็นกระเป๋าใบแรกที่ โจนาธาน แอนเดอร์สัน ออกแบบขึ้น เมื่อปี 2015 ด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะการพับกระดาษ ผสมผสานกับความซับซ้อนทางเทคนิคในการรื้อออก และการประกอบขึ้นใหม่ของกระเป๋าทรงลูกบาศก์ นับจากนั้นถึงปีนี้ ถือเป็นเวลา 10 ปี โลโอเว่จึงเฉลิมฉลองด้วยการเปิดตัวกระเป๋ารุ่นใหม่ “The Featherlight Puzzle”

โดยกระเป๋าใบใหม่นี้รังสรรค์ด้วยวัสดุหนังนัปปาที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ให้มีสัมผัสที่เนียน และอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ มอบความโค้งมนอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งความเงางามที่ช่วยเสริมเน้นรายละเอียดโครงสร้างอันประณีต และซิลลูเอทอันเป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋าได้อย่างลงตัว

ดีไซน์ใหม่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ที่บางมากกว่ารุ่นเก่า พร้อมป้ายแท็กหนังพร้อมช่องใส่ของขนาดเล็ก ฮาร์ดแวร์ลูกเต๋าทรงบอลลูนที่ถอดใส่ได้ตามใจ และหมุดโลหะป้องกันรอยขีดข่วนที่บริเวณฐานกระเป๋า ภายในบุด้วยหนังแกะนัปปา และตกแต่งด้วยแผ่นโลหะสลักโลโก้โลเอเว่สีทองด้านใน

สำหรับคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2025 กระเป๋ารุ่น The Featherlight Puzzle มีให้เลือกในเฉดสี Black, Burnt Red, Pecan และ Dark Butter แมชต์กับฮาร์ดแวร์สีทอง หรือในเฉดสี Aquamarine แมชต์ฮาร์ดแวร์สีเงิน

กระเป๋ารุ่น The Featherlight Puzzle เปิดตัวครั้งแรกบนรันเวย์คอลเล็คชั่น Spring/Summer ปี 2025 ณ Château de Vincennes กรุงปารีส และยังปรากฏในแคมเปญคอลเล็คชั่นดังกล่าวที่ถ่ายทำร่วมกับนักแสดง และผู้กำกับชาวแคนาดา อย่าง เทย์เลอร์ รัสเซลล์ ซึ่งถ่ายทำโดยช่างภาพ เดวิด ซิมส์ ที่แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน


ภาพและข้อมูล: LOEWE

Sabrina Carpenter

ซาบรินา คาร์เพนเทอร์ (Sabrina Carpenter) นี่แหละป็อปสตาร์คนล่าสุด

Alternative Textaccount_circle
Sabrina Carpenter
Sabrina Carpenter

ซาบรินา คาร์เพนเทอร์ (Sabrina Carpenter) สานต่อความปัง ส่งอัลบั้ม Short n’ Sweet (Deluxe) พร้อมเพลงใหม่ “Busy Woman” ตอกย้ำตำแหน่งป็อปสตาร์คนล่าสุด

“Sabrina Carpenter” โกลบอลซูเปอร์สตาร์ เจ้าของ 2 รางวัลแกรมมี สานต่อความสำเร็จของอัลบั้ม Short n’ Sweet ด้วยการปล่อยเวอร์ชั่น Short n’ Sweet (Deluxe) เพิ่ม 5 เพลงใหม่ที่รวมถึง “Busy Woman” ที่ Sabrina เคยแสดงสดเป็นครั้งแรกระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต และ “Please Please Please” เวอร์ชั่นดูเอ็ตกับศิลปินระดับตำนาน Dolly Parton พร้อมปล่อยมิวสิควิดีโอที่ถ่ายทำที่เมืองแนชวิลล์ และร่วมกำกับโดย Sabrina และ Sean Price Williams ด้วย

อัลบั้ม Short n’ Sweet เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา สามารถครองตำแหน่งอันดับต้นๆ บนชาร์ตเพลงทั่วโลก และเป็นหนึ่งในอัลบั้มใหม่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2024 ทั้งการขึ้นไปถึงอันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้ม Billboard 200 นานติดต่อกันถึง 3 สัปดาห์ ซิงเกิลเปิดอัลบั้ม “Taste” ครองอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงของ Spotify ในอเมริกา โดยขึ้นไปแทนที่เพลง “Please Please Please” ของตัวเอง และยังเป็นเพลงที่ 3 ในอัลบั้มของเธอที่สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ได้สำเร็จ

ซาบรินา คาร์เพนเทอร์

นอกจากนี้ อัลบั้ม Short n’ Sweet ยังเป็นอัลบั้มที่ทำให้ “Sabrina Carpenter” ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่มากถึง 6 สาขาเป็นครั้งแรก และเธอสามารถกวาดรางวัลกลับบ้านมาได้ถึง 2 รางวัล ทั้ง Best Pop Vocal Album และ Best Pop Solo Performance จากเพลง “Espresso” Sabrina ยังได้แสดงบนเวทีแกรมมี่เป็นครั้งแรกกับเพลง “Espresso” และ “Please Please Please” ที่นิตยสาร Harper’s Bazaar ชื่นชมว่า “ถ้า Carpenter ได้เป็นเจ้าหญิงดาวรุ่งแห่งวงการเพลงป็อปไปก่อนหน้าค่ำคืนนี้ ในงานแกรมมี่ครั้งแรกของเธอก็คงเป็นการยืนยันอย่างหนักแน่นถึงสถานะในการเป็นป็อปสตาร์ของเธอได้สำเร็จอย่างงดงาม”

ล่าสุด “Sabrina Carpenter” ได้เป็นทั้งผู้เข้าชิง และศิลปินขึ้นแสดงบนเวทีในการงานประกาศรางวัล BRIT Awards โดยเธอได้เข้าชิงถึง 2 รางวัล ได้แก่ International Artist of the Year และ International Song of the Year จากเพลง “Espresso” นอกจากนี้เธอจะได้ขึ้นรับรางวัล Global Success และได้เป็นศิลปินต่างชาติคนแรกที่ได้รางวัลนี้จากเวทีนี้ด้วย

ปี 2025 นี้เป็นปีทองอีกปีของ Sabrina ที่เธอมีทั้งทัวร์คอนเสิร์ต Short n’ Sweet Tour ในยุโรป สหราชอาณาจักร และอเมริกาเหนือตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ได้กลับไปแสดงในรายการ Saturday Night Live เพื่อฉลองรายการครบรอบ 50 ปี และได้ถ่ายแฟชั่นเซ็ตพร้อมขึ้นปกนิตยสาร Vogue US เป็นครั้งแรก นาทีนี้ไม่อะไรมาหยุดยั้งความฮอตของเธอได้ และเธอจะยิ่งโด่งดังเป็นพลุแตกมากขึ้นอีกเรื่อยๆ สมฉายาป็อปสตาร์คนล่าสุดจริงๆ

Daisy Ridley

เดซี ริดลีย์ ( Daisy Ridley ) ทุ่มสุดตัวเปลี่ยนลุคแอ็กชันเดือด

Alternative Textaccount_circle
Daisy Ridley
Daisy Ridley

เดซี ริดลีย์ ( Daisy Ridley ) ทุ่มสุดตัวเปลี่ยนลุคพลิกคาแร็กเตอร์จาก “เจได” ในมหากาพย์แฟรนไชส์ “Star Wars” สู่บทที่โคตรบู๊ โคตรเดือด โคตรระทึกที่สุดในชีวิตการแสดง

เดิมพันนี้สูงเสียดฟ้า! “เดซี ริดลีย์” ทุ่มสุดตัวเปลี่ยนลุคพลิกคาแร็กเตอร์จาก “เจได” ในมหากาพย์แฟรนไชส์ “Star Wars” สู่บทที่โคตรบู๊ โคตรเดือด โคตรระทึกที่สุดในชีวิตการแสดงกับ “Cleaner ไต่ระทึก ตึกนรก” ภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์มันส์สนั่นฟ้าจากผู้กำกับสุดเก๋า “มาร์ติน แคมป์เบลล์” (Casino Royale, The Protégé) เล่าเรื่องราวการเสี่ยงตายของ “โจอี้” (เดซี ริดลีย์) อดีตทหารหญิงที่ทิ้งชีวิตความระห่ำไว้ข้างหลัง และเริ่มต้นใหม่กับการเป็น “นักโรยตัวเช็ดกระจก” ณ ตึกสูงกว่า 1,000 ฟุต แต่แล้วความท้าตายครั้งใหม่ก็เข้ามาหาเธออีกครั้ง เมื่อผู้ก่อการร้ายปริศนายึดตึก และขู่ว่าจะสังหารทุกคนในตึกกว่า 300 ชีวิต “โจอี้” จึงกลายเป็นความหวังเดียวที่จะกอบกู้ชีวิตคนทั้งหมดในตึกและหยุดยั้งวินาศกรรมอันบ้าคลั่งนี้

“Cleaner ไต่ระทึก ตึกนรก” คือผลงานสุดท้าทายและท้าตายที่สุดของ “เดซี ริดลีย์” ที่มาพร้อมการพลิกลุคเป็นสาวเท่ ปลุกสัญชาตญาณดิบแห่งนักสู้ให้พลุ่งพล่านกว่าครั้งไหนๆ เธอทุ่มเทพลังและความตั้งใจทั้งหมดให้กับฉากแอ็กชันเสี่ยงตายในเรื่องนี้อย่างดุเดือดและดุดัน ทำการบ้านอย่างหนัก แถมเล่นเองเกือบทั้งหมด เพื่อให้ภาพที่สมจริงตามที่ผู้กำกับต้องการ

Daisy Ridley

อะไรทำให้คุณตัดสินใจรับบท “โจอี้” ในภาพยนตร์เรื่อง “Cleaner”

ฉันชอบบท อ่านรวดเดียวจบ “โจอี้” เป็นตัวละครที่น่าสนุก เธอไม่กลัวใครหน้าไหน นอกจากนี้เธอยังซับซ้อนและมีข้อบกพร่อง แต่เธอรักน้องชาย อยากมอบสิ่งที่ถูกต้องให้เขา ขณะที่พยายามช่วยคนอื่นไปพร้อมกัน ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั้งสองนั้นซาบซึ้ง เต็มไปด้วยมิติ และฉันตั้งตารอที่จะแสดงสิ่งนั้นให้เห็น

ช่วยเล่าถึงตัวละคร “โจอี้” และจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

“โจอี้” เป็นอดีตทหารที่ผันตัวมาทำงานเป็น “นักโรยตัวเช็ดกระจก” เป็นคนรักการผจญภัย ชอบเห็นอะไรใหม่ๆ จริงๆ แล้วโจอี้มองงานเช็ดกระจกนี้เป็นแค่งานชั่วคราว เรื่องราวเริ่มต้นในวันที่เธอมาทำงานหลังจากเช้าที่วุ่นวาย เพราะน้องชายของเธอแฮ็กบัญชีของสถานดูแลที่เขาอยู่และถูกไล่ออก เธอจึงต้องพาน้องชายมาทำงานด้วย ทุกอย่างดูปกติดีจนกระทั่งเธอเป็นพยานเหตุการณ์ปล้นในตึก และต้องหาทางเข้าไปช่วยตัวประกันกว่า 300 ชีวิตในนั้น เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่ตึกแอ็กเนียน ย่านคานารี วาร์ฟ ในคืนเดียว

นอกจากความเป็นแอ็กชันแล้ว “Cleaner” ยังแอบซ่อนประเด็นดราม่าไว้อย่างน่าทึ่ง

ตัวละครของฉันมีพ่อที่ติดเหล้าและชอบใช้ความรุนแรง ตอนเด็กๆ ฉันมักจะหลบหนีปัญหาในบ้าน แต่ตอนนี้กลับต้องมาดูแลน้องชาย มันทำให้แผลเก่าในใจของทั้งคู่กลับมาเปิดอีกครั้ง แต่นั่นแหละที่ทำให้เราต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพราะไม่มีใครอื่นให้พึ่งพาได้อีกแล้ว ความยากลำบากในวัยเด็กทำให้เราเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก แม้บางครั้งจะมีปากเสียงกัน แต่สุดท้ายเราก็ยังมีแต่กันและกัน สายสัมพันธ์แบบพี่น้องมันลึกซึ้งเกินกว่าจะอธิบายได้ และนี่คือสิ่งที่ฉันหวังว่าผู้ชมจะสัมผัสได้จากความสัมพันธ์ของ “โจอี้”และ “ไมเคิล”

การทำงานกับ “แมตทิว ทัก” ที่รับบท “ไมเคิล” น้องชายของ “โจอี้” ซึ่งเขามีอาการหลากหลายทางระบบประสาทจริงๆ เหมือนกับตัวละครนี้

การได้ทำงานกับ “แมตทิว” ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องในเรื่องมีความสมจริงและน่าประทับใจมาก แมตทิวใส่ความรู้สึกจริงๆ ลงไปในการแสดง และความสัมพันธ์ระหว่างเรากลายเป็นแกนหลักทางอารมณ์ของเรื่อง ฉันชอบที่เราสามารถถ่ายทอดความผูกพันของพี่น้องได้อย่างลึกซึ้ง แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ระทึกขวัญก็ตาม ถึงแม้นี่จะเป็นประสบการณ์การแสดงครั้งแรกของเขา แต่เขาก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก และการที่เขามีประสบการณ์ตรงเหมือนตัวละครก็ช่วยให้การแสดงของเราสมจริงและมีมิติมากขึ้น

คุณเตรียมตัวยังไงบ้างสำหรับบท “โจอี้” โดยเฉพาะฉากแอ็กชันบนตึกสูงเสียดฟ้า

ด้วยความที่ “โจอี้” เป็นอดีตทหาร ฉันเลยต้องฝึกซ้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้อย่างหนักตลอดช่วงก่อนการถ่ายทำเพื่อให้ฉากต่อสู้ออกมาแม่นยำและสมจริงที่สุด และเนื่องจากฉากแอ็กชันส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนกระเช้านอกหน้าต่างตึกระฟ้า การถ่ายทำจึงท้าทายมาก ต้องผสมผสานทั้งความเข้มข้นของฉากต่อสู้กับความระทึกของการทำงานบนที่สูง แต่มันก็มีช่วงผ่อนคลายบ้าง อย่างฉากที่ฉันทำฟองน้ำหล่นจากกระเช้า มันเป็นการผสมผสานระหว่างแอ็กชันจริงจังกับอารมณ์ขันที่ลงตัว และนั่นทำให้การถ่ายทำสนุกมากด้วย

การทำงานกับผู้กำกับระดับตำนานอย่าง “มาร์ติน แคมป์เบลล์” เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนแรกฉันกังวลมาก คิดว่าพระเจ้า ฉันดูหนังของเขามาหมดแล้วและเป็นแฟนตัวยงของผลงานเขา แต่พอได้ทำงานด้วยกันจริง เขาให้กำลังใจและเปิดโอกาสให้ลองอะไรใหม่ๆ เสมอ ไม่มีฉากไหนที่ฉันไม่ได้ลองแสดงอย่างน้อย 10 แบบ เขาเก่งทั้งฉากอารมณ์ ฉากตลก และฉากแอ็กชัน ที่ประทับใจมากคือตอนถ่ายฉากนอกตึก เขาเขียนรายละเอียดทุกฉากและเหตุการณ์ก่อนหน้าให้ฉันถึงสองหน้ากระดาษ A4 เพื่อให้แน่ใจว่าฉันเข้าใจว่าตัวละครอยู่ ณ จุดไหนของเรื่อง

คุณหวังว่าผู้ชมจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้

ฉันรักหนังทุกแนว แต่ฉันรักหนังแอ็กชันเป็นพิเศษ ฉันหวังว่าคนดูจะเข้ามาและเต็มใจที่จะร่วมการผจญภัยสุดบ้าคลั่งนี้ มันมีตัวละครที่ยอดเยี่ยม งานฉากที่ยอดเยี่ยม แอ็กชันที่ยอดเยี่ยม มันเป็นเรื่องราวที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละครจริงๆ แต่ที่สำคัญกว่านั้น ฉันหวังว่าท่ามกลางความวุ่นวายทั้งหมดนี้ ผู้ชมจะสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ ความผูกพันของพี่น้อง ความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าคุณจะพบมันที่ไหนก็ตามนับถอยหลังสู่การคลีนทุกความคลั่งใน “Cleaner ไต่ระทึก ตึกนรก” หนังแอ็กชันทริลเลอร์ที่แค่คำว่า “มันส์ระห่ำ” ยังน้อยไป กับการเสี่ยงเป็นท้าตายที่สุดในชีวิตของ “เดซี ริดลีย์” ที่ขอไฝว้ฉากแอ็กชันโคตรเดือดเองแทบทุกฉาก จัดเต็มความมันส์ทะลุจอ 20 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์

MISS UNIVERSE THAILAND

การเปลี่ยนแปลง MGI ผู้ถือสิทธิ์ MISS UNIVERSE THAILAND

Alternative Textaccount_circle
MISS UNIVERSE THAILAND
MISS UNIVERSE THAILAND

วงการนางงามสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดแถลงข่าวเป็นผู้ถือสิทธิ์จัดการประกวด “MISS UNIVERSE THAILAND” อย่างเป็นทางการ กินรวบตลอด 5 ปี (ปี 2568 – 2572) ด้วยวงเงิน 180 ล้านบาท โดย คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประธานกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ พร้อมด้วย คุณแอน   จักราจุฑาธิบดิ์ CEO of Miss Universe Organization (MUO) ร่วมแถลงข่าว “The New Era of Miss Universe Thailand” อย่างยิ่งใหญ่ ณ MGI HALL ชั้น 6 ศูนย์การค้า BRAVO BKK พระราม 9 พร้อมเปิดตัว PD MUT2025 คว้าลิขสิทธิ์จัดการประกวดระดับจังหวัดแล้วกว่า 50 จังหวัด  เผยโฉมผู้เข้าประกวด Road To MUT2025 ท่ามกลางแฟนคลับเชียร์ล้นหลาม โดยจังหวัดเจ้าภาพเก็บตัว MISS UNIVERSE THAILAND2025 ในปีแรกของ บอสณวัฒน์ นั่นก็คือ จังหวัดภูเก็ต

นับเป็นโอกาสทางธุรกิจอันสำคัญยิ่งของ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล นอกเหนือจากรายได้ขายลิขสิทธิ์ MUT ให้กับผู้จัดการกองประกวดระดับจังหวัดแล้ว ยังได้ขยายฐานลูกค้าจากเวทีประกวดนางงาม มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไปยังเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งเป็นเวทีประกวดนางงามที่สามารถต่อยอดสู่เวทีระดับโลกอย่าง MISS UNIVERSE ได้อย่างง่ายดาย งานนี้ บอสณวัฒน์ เตรียมจัดการประกวดเต็มรูปแบบ เพื่อเฟ้นหานางงามผู้เพียบพร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมประกวด  MISS UNIVERSE 2025 ที่จะมีขึ้นที่ ประเทศไทย ในปีนี้

สำหรับบรรยากาศงานแถลงข่าวในวันนี้คึกคักและเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติ ผู้สนับสนุนที่ร่วมเป็นสปอนเซอร์หลักเม็ดเงินสะพัดกว่า 115 ล้านบาท นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ในขณะที่ชาวด้อมของว่าที่ผู้เข้าประกวด MISS UNIVERSE THAILAND 2025 ก็มากันแน่นฮอลล์ ไม่ว่าเป็นทีมเชียร์ของ วีนา ปวีนา ซิงห์ , หนูดี อรปรียา เนซ่า มามูดี้ , เกต เกตวลี พลบดี , มาลัยกะ คาร , พิมพ์จิรา เจริญลักษณ์ ฯลฯ ท่ามกลางทัพสื่อมวลชน ที่มาร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์ครั้งนี้อย่างล้นหลาม

สำหรับการประกวด MISS UNIVERSE THAILAND 2025 ในระดับจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด จะเริ่มต้นขึ้นในเดือน มีนาคม ถึง มิถุนายน 2568 และร่วมเก็บตัวสู่การประกวด MISS UNIVERSE THAILAND 2025 ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ก่อนจะได้ลุ้นกันในรอบตัดสิน วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568

ติดตามกิจกรรม MISS UNIVERSE THAILAND ได้ในช่องทาง Facebook : Miss Universe Thailand /Instagram @missuniversethailand / X : @missu_thailand / TikTok : @officialmuth

#TheNewEraofMUT #MissUniverseThailand #MissUniverseThailand2025 #MGIxMUT

เบื้องหลังคอสตูมแฟนตาซี “Wicked” ผู้คว้ารางวัล Costume Design ในงาน BAFTA 2025

Alternative Textaccount_circle

เผยเบื้องหลังความสำเร็จของคอสตูมแฟนตาซีใน “Wicked” ผลงานรังสรรค์จาก Paul Tacewell ดีไซเนอร์ผู้นำทีมให้ภาพยนตร์คว้ารางวัล Costume Design ในงาน BAFTA 2025

British Academy Film Awards ถือเป็นอีกงานประกาศรางวัลที่คนเบื้องหน้า เบื้องหลัง และแฟนวงการภาพยนตร์ทั้งหลายรอคอย ในปี 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 78 โดยมีทั้งหมด 28 สาขา หนึ่งในนั้นคือ Costume Design รางวัลที่มอบให้กับการออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ ซึ่งปีนี้มีรายชื่อภาพยนตร์เข้าชิง 5 เรื่อง ได้แก่ A Complete Unknown (Arianne Phillips), Blitz (Jacqueline Durran), Conclave (Lisy Christl), Nosferatu (Linda Muir) และผู้ชนะ Wicked ผลงานการออกแบบจาก Paul Tazewell ผู้รังสรรค์ชุดสุดแฟนตาซีให้บรรดาตัวละครในเรื่องนี้

Paul Tazewell กล่าวความรู้สึกหลังจากได้รับรางวัลนี้ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงถึงความมุ่งมั่นในด้านออกแบบเครื่องแต่งกายเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแรงบันดาลใจที่ลึกซึ้ง ซึ่งดึงมาจากความงามของอังกฤษ ประเทศที่ผสมผสาน ศิลปะ การออกแบบ และธรรมชาติ ไว้อย่างลงตัว

คอสตูมแฟนตาซี “Wicked”

เริ่มต้นด้วยคอมตูมไอคอนิกของกลินดาในฉากแรกกับเดรสสีชมพูกระโปรงบานฟูฟ่องที่จับระบายเป็นชั้น Paul Tazewell ได้นำซิลลูเอตจาก Dior ปี 1950 และ Romanticism มาผสมผสาน รวมถึงนำแรงบันดาลใจจากฟองอากาศที่ตัวละครกลินดาเสกในภาพยนตร์ มารังสรรค์เป็นดีเทลเล็กๆ ของชุด ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย ไปจนถึงมงกุฎที่เธอสวมใส่

ในขณะที่ เอลฟาบา ธรอปป์ นำแสดงโดย ซินเธีย เอริโว ต้องเพ้นท์ร่างกายด้วยสีเขียว ซึ่งเป็นความโดดเด่นพิเศษของตัวละคร ทำให้ทางทีมดีไซเนอร์กลับมาทำการบ้านว่าชุดที่ใช้สวมใส่ควรเป็นอย่างไร จนได้ข้อสรุปว่า ผ้าที่เลือกใช้ส่วนใหญ่ควรเป็นผ้าโปร่งแสงให้มากที่สุด เพื่อเผยผิวอันเป็นเอกลักษณ์

นอกจากนี้ไม่ใช่เพียงสองตัวละครหลักที่ต้องรังสรรค์ชุดขึ้นมาใหม่ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้คอสตูมกว่า 1,000 ชุด แม้ Paul Tazewell จะเป็นดีไซเนอร์ผู้นำการออกแบบ แต่ก็ต้องใช้ทีมถึง 140 คน จาก 4 ประเทศ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี


ภาพ: Getty Images, @wicked และ @paultazewell

ข้อมูล: @paultazewell และ @wicked

BAFTA 2025

เหล่าคนดังเฉิดฉายบนพรมแดง BAFTA 2025 ด้วยเสน่ห์จากเครื่องประดับ Chaumet

account_circle
BAFTA 2025
BAFTA 2025

เมื่อค่ำคืนแห่งความหรูหราและศิลปะการแสดงมาบรรจบกันบนพรมแดงของงานประกาศรางวัล BAFTA 2025 ซึ่งเปล่งประกายด้วยเสน่ห์และความสง่างามอันน่าหลงใหล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเหล่าดาราชื่อดังอย่าง Ariana Grande, Felicity Jones, Kelly Rutherford และ Letitia Wright ปรากฏตัวในลุคที่เจิดจรัส พร้อมเครื่องประดับสุดหรูจาก Chaumet ที่ช่วยเสริมความโดดเด่นให้พวกเธอเฉิดฉายอย่างไร้ที่ติ

เหล่าคนดังเฉิดฉายบนพรมแดง BAFTA 2025 ด้วยเสน่ห์จากเครื่องประดับ Chaumet

(Photo by Joe Maher/BAFTA/Getty Images for BAFTA)

นักร้อง และนักแสดงสาวชื่อดัง อารีอานา กรานเด (Ariana Grande) ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากบทบาทในภาพยนตร์ Wicked ปรากฏตัวอย่างโดดเด่นบนพรมแดง เธอเลือกสวม สร้อยคอ Valse Impériale อันเลอค่า เสริมด้วย แหวน Joséphine Amour d’Aigrette และ ต่างหู Joséphine Aigrette ที่ช่วยขับเน้นความอ่อนหวานและสง่างามของเธอได้อย่างลงตัว

เฟลิซิตี้ โจนส์ (Felicity Jones) นักแสดงหญิงมากฝีมือ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ The Brutalist ก้าวเข้าสู่พรมแดงด้วยลุคที่แฝงไปด้วยความเรียบหรูแต่ทรงพลัง เธอเลือกเครื่องประดับจาก Chaumet อย่าง ต่างหู Valse Impériale, กำไลข้อมือ Joséphine Aigrette Impériale และแหวนสองวงสุดหรู Joséphine Éclat Floral และ Joséphine Aigrette Impériale ที่สะท้อนความสง่างามและรสนิยมชั้นเลิศ

เลทิเทีย ไรท์ (Letitia Wright) นักแสดงหญิงเชื้อสายกายอานา-อังกฤษ ก้าวเข้าสู่งาน BAFTA 2025 ด้วยลุคสุดโมเดิร์นที่สะท้อนความมั่นใจและพลังของผู้หญิงยุคใหม่ เธอเลือก กำไลข้อมือ Torsade de Chaumet, แหวน A Fleur D’Eau และ ต่างหู Liens Inséparables ที่ช่วยเพิ่มประกายหรูหราและขับเน้นลุคให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

เคลลี่ รัทเธอร์ฟอร์ด (Kelly Rutherford) นักแสดงหญิงชาวอเมริกัน สะกดทุกสายตาบนพรมแดงด้วยลุคสุดสง่างาม เสริมเสน่ห์ด้วยเครื่องประดับสุดล้ำค่าจากแบรนด์ Chaumet ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ แหวน และต่างหูจากคอลเล็คชั่น Joséphine Aigrette Impériale ที่เปล่งประกายดุจราชินี เติมเต็มลุคให้เจิดจรัสสมกับค่ำคืนแห่งเกียรติยศ


Health Matter (EP.1) | 10 สิ่งที่หมอผิวหนังจะไม่ทำกับผิวหน้าตัวเอง

Health Matters (EP.1) | 10 สิ่งที่หมอผิวหนังจะไม่ทำกับผิวหน้าตัวเอง

Alternative Textaccount_circle
Health Matter (EP.1) | 10 สิ่งที่หมอผิวหนังจะไม่ทำกับผิวหน้าตัวเอง
Health Matter (EP.1) | 10 สิ่งที่หมอผิวหนังจะไม่ทำกับผิวหน้าตัวเอง

เพราะไลฟ์สไตล์รูทีนของแต่ละคนแตกต่างกัน “นนท์ อินทนนท์” พาไปทอล์คกับ คุณหมอสุดหล่อหน้าใสกิ๊ง “หมอโอ๊บ ธนดล” ว่าด้วยเรื่อง..อะไรที่หมอผิวหนังความงามจะไม่ทำกับหน้าตัวเองเด็ดขาด

Health Matters รายการทอล์คเรื่องสุขภาพ ตั้งแต่เรื่องเล็กในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเรื่องเชิงลึก ที่จะทำให้ทุกเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องเข้าใจง่าย ทุกวันพุธที่ 2 และ 4 ของเดือน เวลา 19:00 น.


สิ้นสุดการรอคอย เปิดตัวภาพยนตร์แอ็กชันซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ “Marvel Studios’ Captain America: Brave New World กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่” 

account_circle

หลังรอคอยกันมานานในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดฉากแอ็กชันครั้งใหญ่กับ “Marvel Studios’ Captain America: Brave New World กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่” ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ประเดิมรับปี 2025 ของค่าย Marvel Studios ซึ่งได้จัดงาน Thailand Gala Premiere เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมฉายรอบพิเศษให้สื่อมวลชนและเหล่านักวิจารณ์ได้ชมเป็นครั้งแรกก่อนใคร เมื่อวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ One Bangkok Park  @  One Bangkok แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรดาแฟน ๆ กัปตันอเมริกาและเรด ฮัลก์ ที่มาร่วมฉลองการเปิดตัวอย่างคับคั่ง ก่อนไปพบกับศึกหยุดโลกพร้อมกัน เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

งานนี้ Marvel Studios เปลี่ยนโฉม One Bangkok Park ให้เป็นเวทีสุดอลังการณ์ ด้วยการพา เรด ฮัลค์ ไซส์ใหญ่ยักษ์มาเปิดตัวบนรถเทรลเลอร์ ให้ผู้ร่วมงานได้ตื่นเต้นกับความรู้สึกสมจริง เหมือนเรด ฮัลค์ กำลังปะทะกับกัปตันอเมริกาอยู่ตรงหน้า พร้อมเอาใจแฟน ๆ ด้วยการยกเอาหุ่นกัปตันอเมริกา และเรด ฮัลค์ ขนาดเท่าจริงมาโชว์พลังให้ได้เก็บภาพอย่างใกล้ชิด โดยมีเซอร์ไพรส์เป็นสองหนุ่มฮ็อต ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี และ จอส-เวอาห์ แสงเงิน ที่มาร่วมพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟถึงการเป็นแฟนตัวจริงของกัปตันอเมริกาและ Marvel Studios พร้อมชวนทุกคนเชียร์ #ทีมกัปตันอเมริกา และ #ทีมเรดฮัลค์ ไปด้วยกัน 

อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์คือการเชิญ Maiimou (พี) ศิลปินจาก SMASHHH STUDIO ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์โปสเตอร์แฟนอาร์ต “Marvel Studios’ Captain America: Brave New World กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่” เวอร์ชั่นไทย มาเผยถึงการนำแรงบันดาลใจจากคาแรกเตอร์ในวรรณคดีไทยมาออกแบบจนเป็นกัปตันอเมริกาในลุคพญาครุฑ และเรด ฮัลค์ ในลุคยักษ์ใหญ่ ที่แฟน ๆ ชาวไทยต่างชื่นชอบ และได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม

และนอกจากกิจกรรมเปิดตัวสุดพิเศษ บรรดาสื่อมวลชนและนักวิจารณ์ยังมีโอกาสได้รับชมภาพยนตร์ “Marvel Studios’ Captain America: Brave New World กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่” รอบสื่อมวลชน ซึ่งจัดฉายให้ได้ชมก่อนใคร โดยต่างการันตีถึงความสนุกและความมันดุเดือด ที่ตรึงทุกคนให้ลุ้นจนไม่อยากกระพริบตาแม้แต่วินาทีเดียว ยืนยันคอหนังแอ็กชันและแฟนมาร์เวลพลาดไม่ได้เด็ดขาด 12 กุมภาพันธ์นี้ ต้องรีบไปดูในโรงภาพยนตร์ ก่อนถูกสปอยล์

ทั้งนี้เรื่องราวใน “Marvel Studios’ Captain America: Brave New World กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่” คือภารกิจครั้งใหญ่ หลังจากที่ แซม วิลสัน เข้าพบ Thaddeus Ross ประธานาธิบดีสหรัฐที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งมาหมาด ๆ (รับบทโดย Harrison Ford ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Marvel Cinematic Universe) แล้วต้องเผชิญกับเหตุการณ์ระหว่างประเทศที่สำคัญ ทำให้เขาต้องค้นหาสาเหตุเบื้องหลังแผนการร้ายระดับโลก ก่อนตัวการที่แท้จริงจะทำให้ทั้งโลกลุกเป็นไฟ

ห้ามพลาด ไปมันกับศึกครั้งยิ่งใหญ่ของกัปตันอเมริกาและเรด ฮัลค์ ใน “Marvel Studios’ Captain America: Brave New World กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ และระบบ IMAX

โซเชียลมีเดีย:
Website: www.marvel.com
X: @MarvelThailand
Instagram: @marvelthailand
Facebook: @MarvelThailand
Youtube: @MarvelThailand


จิบน้ำชายามบ่ายสุดชิค “Daisy Garden Afternoon Tea” @โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

account_circle

ต้อนรับสปริงซัมเมอร์ด้วยความสดใส ชวนเช็กอินโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ผ่อนคลายกับชุดน้ำชายามบ่าย “Daisy Garden Afternoon Tea” ที่คอลแล็บกับน้ำหอมมาร์ค เจคอบส์ (Marc Jacobs) อย่างลงตัว พร้อมเติมเต็มช่วงสปริงซัมเมอร์นี้ด้วยความหอมและความสดใสของดอกไม้จากคอลเล็กชั่น Daisy Glow Limited Edition ที่นำมารังสรรค์เป็นอาฟเตอร์นูนทีเซ็ตพิเศษ

สำหรับ Daisy Garden Afternoon Tea เชฟอนุพงษ์ นวลฉวี หัวหน้าพ่อครัวเพสทรี (Cluster Executive Pastry Chef) ของโรงแรมฯ ได้นำความโดดเด่นของน้ำหอมแต่ละกลิ่น เช่น ไวท์ สตรอเบอรี่, แพร์, เลมอน, เกรปฟรุต, ราสเบอร์รี่ มาครีเอตเป็นเมนูพิเศษในเซ็ตที่พร้อมเสิร์ฟทั้งของคาวและของหวาน

เมนูของหวาน เช่น Daisey Choux ชูว์ครีมสุดคิวต์ที่มาในโทนสีเหลือง ตกแต่งด้วยดอกเดซี่ทำจากน้ำตาลด้านบน, Lemon Blossom Sable Breton คุ้กกี้เนยท็อปด้วยเลมอนครีมสูตรคลาสสิกสไตล์ฝรั่งเศส, Patchouli Dulcey Blond Chocolate Macarons มาการองไส้ช็อกโกแลตสีทอง วาดลายพัตชูลี (Patchouli), Jasmin Tartlet ทาร์ตไส้แยมสตรอเบอรี่ พานาคอตต้าครีมที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิ นอกจากนี้เชฟยังได้นำดอกไม้รับประทานได้มาประดับ เพื่อเติมเต็มความสดใสให้กับเซ็ตอาฟเตอร์นูนทียิ่งขึ้นอีกด้วย

เมนูของคาว เช่น Spicy Tuna Pie ไส้บีทรูทครีมชีส, Millefeuille มิลย์เฟยไส้สลัดไก่ซอสครีมแกงกะหรี่, แซนวิชแซลมอนรมควัน, Garlic Butter King Crab เนื้อปูอลาสก้าอบเนยกระเทียม เสิร์ฟบนขนมปังบริออช, พาร์ตสลัดไก่ซอสครีมแกงกะหรี่ รวมถึงยังมีสโคน Valrhona ช็อกโกแลต และสโคนวานิลา ขนมอบคู่ชายามบ่าย เสิร์ฟพร้อมแยมโฮมเมด และ Clotted Cream

ตามมาสัมผัสความสดใส และเพลิดเพลินกับช่วงเวลาอันหอมหวาน ต้อนรับสปริงซัมเมอร์นี้ กับชุดเซ็ต Daisy Garden Afternoon Tea พร้อมจิบน้ำชา Mariage Frères” (มาคิยาจ แฟรส์) โอตกูตูร์แห่งชาอย่างรื่นรมย์ ได้ทุกวันตั้งแต่ เวลา 14.00 – 18.00 น. ณ เดอะ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

ชุดน้ำชายามบ่าย Daisy Garden Afternoon Tea มาในราคาเซ็ตละ 1,950++ บาท (สำหรับ 2 ท่าน) พร้อมรับชุดของขวัญสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากน้ำหอมมาร์ค เจคอบส์ (มีจำนวนจำกัด) เพื่อยกระดับประสบการณ์แห่งความหรูหรา และพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์น้ำหอม จะได้รับส่วนลด 15%  สำหรับมารับประทาน Daisy Garden Afternoon Tea Set ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0-2126-8866 


‘พบรักแบบสายฟ้าแลบ แต่จะหนึบหนับตัดไม่ขาดเลย ใช่คุณไหม??? ต้องเช็กแล้ว!!!’ ดวงรายสัปดาห์ 17-24 กุมภาพันธ์ 2568

Alternative Textaccount_circle

‘พบรักแบบสายฟ้าแลบ แต่จะหนึบหนับตัดไม่ขาดเลย’

ดวงรายสัปดาห์ 17-24 กุมภาพันธ์ 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  สัปดาห์นี้เทพพระอาทิตย์ซึ่งเป็นเทพประจำวันสถิตอยู่กับคุณ จึงยังคงเป็นสัปดาห์ที่ดีสำหรับคุณ ไม่ว่าจะทำอะไร ความสำเร็จก็ยังรออยู่ และก็ยังเป็นเช่นเดิมที่อีโก้ของคุณมีเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคราวนี้ความคิดและจินตนาการกว้างไกลมาก จนทำงานประจำอาจไม่เหมาะ เพราะขัดเขาไปหมด แต่ก็นั่นล่ะ หากอยากจะออกไปทำงานอิสระ หรือทำธุรกิจส่วนตัวก็มีผู้ใหญ่สนับสนุน ซึ่งสัปดาห์นี้น่าจะอยู่ที่สายบุญ สายกุศล เพื่อสังคม

การเงิน  :   มีโชคด้านการลงทุนและทรัพย์สิน ขณะเดียวกันก็จ่ายเงินแบบไม่ยั้งเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำบุญ ทำทาน ช่วยเหลือคนจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก  :  เป็นสัปดาห์แห่งการเอาแต่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนที่ดูแลครอบครัว เป็นผู้นำ แม้จะมีผู้ใหญ่คอยดูแลตลอดเวลาก็ตาม แต่คุณก็จะไม่ค่อยอยู่บ้าน อยากออกไปพบเพื่อนใหม่อยู่ตลอด  คนโสด  มีโอกาสได้พบกับผู้ใหญ่ที่มีบุญบารมี ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาเป็นอย่างอื่นหรือเปล่าก็ต้องดูกันต่อไป

สุขภาพ  :  ก็ยังอยู่กับการใช้แรงกายโหมไปกับการทำงานจนมีโอกาสป่วยไข้ แพ้อากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น ซึ่งจะมีผลต่อระบบหายใจ นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบเลือดและต่อมน้ำเหลืองต่างๆ ด้วยนะ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   เป็นสัปดาห์ที่ชาวจันทร์โหยหาเงินทองมากมาย ไม่ว่าคุณจะทำงานหรืออยู่ในธุรกิจอะไรคุณจะตั้งความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จพร้อมกับรายได้ที่สูงลิ่ว ซึ่งจริงๆ แล้วผู้ใหญ่หรือคนใกล้ชิดก็ให้การสนับสนุนในสิ่งที่คุณตั้งใจไว้ แต่ก็ต้องระวัง เพราะดวงของคุณยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เป็นไปได้ว่าจะมีปัญหาขลุกขลักตลอดเวลา หรือไม่ก็ถูกใส่ร้ายป้ายสี มีโอกาสถูกฟ้องร้อง มีคดีความ ทั้งทางแพ่งและอาญาจากสาเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับการแย่งชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจและส่วนตัว หากจะให้ดีควรหาเพื่อนที่รู้ใจมาช่วยกันทำงานหรือปรึกษาผู้มีความรู้และมีประสบการณ์

การเงิน  :  เป็นสัปดาห์ที่เป็นเงินเป็นทองไปหมด ซึ่งจะได้มาด้วยอำนาจวาสนาและบารมี และจากการเลี้ยงชีพ รวมถึงผู้ใหญ่ให้ด้วย แต่เมื่อได้มาแล้วก็มีโอกาสหมดไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรให้ใครกู้เงิน หรือไปค้ำประกันใคร เพราะมีโอกาสผิดพลาดจนคุณต้องแบกรับภาระหนี้สินเอง

ความรัก  :  มีโอกาสที่คุณจะแยกย้ายกันไปทำงาน เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวนะคะ ประมาณว่า ‘แยกกันเราอยู่ รวมกันเราอดตาย’  คนโสด  เป็นสัปดาห์ที่คุณยังไม่สนใจใครนอกจากทำงานหาเงิน เงินมาก่อน ความรักมาทีหลัง

สุขภาพ  :   ทำงานหนัก เหนื่อยและเครียด รับประทานเยอะ ระวังภาวะอ้วนจะตามมานะคะ แล้วเดี๋ยวโรคต่างๆ จะตามมาด้วย เช่น โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ จึงควรออกกกำลังกายด้วย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   ชาวอังคารก็ยังคงมีโอกาสได้บุกเบิกงานหรือธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับการใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน สื่อสารองค์กร งานขาย ฯลฯ แต่หากใครที่กำลังจะเสนองานหรือโครงการหรือเสนอไปแล้วก็ตาม คงต้องทำใจหน่อยว่าจะยังไม่ผ่านการพิจารณาง่ายๆ ต้องอาศัยแรงกายแรงใจและความพยายาม เชื่อมั่นในเป้าหมายที่วางไว้ ที่สุดแล้วคุณจะพบกับความสำเร็จ

การเงิน  :   จริงๆ ดวงคุณมีโชคเข้ามาไม่ขาดสายเลยนะ แต่เป็นไปได้ว่าจะมีเหตุให้คุณต้องเสียเงินไปกับความบันเทิง ดื่ม กิน เที่ยวจนเงินหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลี้ยงเพื่อนฝูง ลูกน้องแบบขัดไม่ได้

ความรัก  :   สำหรับใครที่เคยเป็นที่พึ่งให้กับครอบครัว ให้กับคู่ครองมาตลอด แต่สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะมีเหตุให้คุณหลงกับบางสิ่งบางอย่าง หรือบางคน จนกลายเป็นไม่อยากมีคนข้างตัวแล้ว  คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะหลงกับเด็กหนุ่มๆ ลูกน้อง รุ่นน้อง จนหัวปักหัวปำ ก็ต้องมีสติให้มากๆ เพราะจะมาเสียใจภายหลังไม่ได้นะ  

สุขภาพ  :  จริงๆ คุณดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองอย่างดีมาตลอด แต่หากลืมดูแลฟันไป สัปดาห์นี้คงต้องจัดคิวไปหาหมอฟันแล้วล่ะ  

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   สัปดาห์นี้ของชาวพุธเป็นไปได้ที่คุณจะต้องดึงความสามารถในการคิดพิจารณา ทบทวน และความรอบคอบมาใช้กับการทำงานหรือดำเนินธุรกิจเยอะขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษา แต่ก็ต้องระวังอีโก้ของคุณที่จะทำให้ความคิดเห็นขัดแย้งและนำไปสู่การทะเลาะกัน จนงานสะดุดหยุดลงกลางคัน แล้วหากคุณพลาดมีแต่คนจ้องจะใส่ร้ายป้ายสีอย่างเดียวเลย  

การเงิน  :  หากคุณใช้ชีวิตอย่างสมถะก็แล้ว แต่เงินก็ยังไม่พอใช้อยู่ล่ะก็ สัปดาห์นี้คาดว่าจะหนักกว่าเดิม เพราะมีเหตุให้คุณต้องเสียเงินไปกับคนรัก ความรัก หรือบุตรหลานผู้เป็นที่รัก

ความรัก  :  สัปดาห์นี้อย่าเพิ่งคาดหวังกับชีวิตคู่มาก เพราะมีโอกาสที่คุณจะผิดหวังเยอะมากจนอดไม่ได้ที่จะประชดประชันตัวเอง เพื่อเรียกร้องความสนใจ  คนโสด  มีโอกาสได้พบรัก หรือหากใครได้พบแล้วก็อย่าได้วางใจ เพราะคุณมีดวงที่จะต้องอยู่อย่างซ่อนเร้น เปิดเผยไม่ได้  

สุขภาพ   :  เป็นไปได้ว่าจะมีสาเหตุจากความเครียด กดดัน จนนำมาซึ่งการเจ็บป่วยทางระบบประสาท ความดัน ไมเกรน นอกจากนั้นยังต้องระวังได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุด้วย

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   นับว่าเป็นสัปดาห์ที่ค่อนข้างเครียดและกดดันของชาวพฤหัสเลยทีเดียว ทั้งจากตัวเองที่ตั้งความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จอย่างแรงกล้า  โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจภายในครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนสนิท แต่เพราะดวงคุณยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะมีปัญหาขลุกขลักตลอดเวลา หรือไม่ก็ถูกใส่ร้ายป้ายสี มีโอกาสถูกฟ้องร้อง มีคดีความ ทั้งทางแพ่งและอาญาจากสาเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับการแย่งชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจและส่วนตัว หากจะให้ดีควรหาเพื่อนที่รู้ใจมาช่วยกันทำงานหรือปรึกษาผู้มีความรู้และมีประสบการณ์

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะทำงานหาเงินได้จากอำนาจและวาสนาของตัวเอง มีโอกาสได้เงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัว ขณะเดียวกันภาระก็มีเข้ามาไม่ยั้งเช่นกัน ควรหลีกเลี่ยงเงินที่ไม่ถูกต้อง เพราะมีความเสี่ยงจะล้มละลายเลยทีเดียว

ความรัก  :  หากใครที่อยู่ด้วยกันด้วยทิฐิมานะ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ สัปดาห์นี้มีโอกาสที่ความสัมพันธ์ของคุณจะดีขึ้น มีโอกาสที่จะกลับมานั่งปรับความเข้าใจกัน เป็นที่พึ่งพาให้กันได้อีกครั้ง คนโสด  มีโอกาสได้พบรักแบบสายฟ้าแลบแบบจูงมือไปอยู่ด้วยกันเลย แต่ก็อาจต้องปรับอีโก้ ความคิดเห็นกันมากหน่อย

สุขภาพ   :   โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับระบบหมุนเวียนเลือดมีปัญหา  วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด วูบกลางอากาศ นอกจากนั้นโรคที่เป็นเรื้อรังจะกลับมากวนใจนะ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :    สัปดาห์นี้ของชาวศุกร์ต้องบอกว่าหากใครที่กำลังอึดอัดกับการทำงานหรือธุรกิจที่ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ ไม่ได้เลือก แต่ต้องทำเพราะคำสัญญาหรือข้อตกลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับวงการเอ็นเทอร์เทน เช่น พิธีกร นักร้อง นักดนตรี ร้านเหล้า สถานบันเทิง ขอให้อดทนไว้ เพราะชื่อเสียงและความสำเร็จกำลังจะเข้ามา

การเงิน  :  มีโอกาสได้เงินทองจากงานสีเทาหมุนเวียนเข้ามาให้มีใช้ไม่ขาดมือ แต่ก็ต้องระวังถูกหลอก ถูกโกง มีโอกาสสูญเสียเงินก้อนใหญ่ได้

ความรัก :   ความหวานในสัปดาห์นี้ก็ยังมีโอกาสมดเรียกพี่ได้อยู่นะ แต่ยังมีความสับสนอยู่ไม่ใช่น้อยว่า มดจะเรียกคนไหนว่าพี่ดีน้า เพราะคุณเนื้อหอมสุดๆ  คนโสด  เนื้อหอมสุดๆ หากคุณได้ออกงานสังคม สังสรรค์ ปาร์ตี้บ่อยๆ ต้องได้ติดมือมาสักคนล่ะ แต่ก็ต้องระวัง เพราะจะหนึบหนับแบบตัดกันไม่ขาดเลย

สุขภาพ  :  ออกงานสังคมบ่อยๆ ต้องระวังน้ำหนักขึ้นด้วยนะ เดี๋ยวไม่สวย รวมถึงภัยที่จะตามมา เช่น ดื่มไม่ขับ ส่วนโรคเลือดก็ยังต้องระวังอยู่

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  หากใครกำลังมีไอเดียที่อยากจะออกมาเปิดธุรกิจส่วนตัว หรือรับงานอิสระ ดวงคุณสัปดาห์นี้ชี้เป้ามาทางสายบันเทิง เช่น นักร้อง พิธีกร คอนเสิร์ต สถานบันเทิง ร้านเหล้า ฯลฯ แต่ต้องแลกมาด้วยพลังกายพลังใจ ความพยายาม และเป้าหมายที่ชัดเจน ก็อย่าได้ย่อท้อ เพราะด้วยความสามารถของคุณในการบริหารงาน การปกครองลูกน้อง ก็สามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่ยาก

การเงิน  :  ผันผวนไม่แน่นอน ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา มีโอกาสที่จะมีรายได้จากงานเทาๆ แต่ก็มีโอกาสที่จะเสียเงินไปกับการเลี้ยงเพื่อนฝูงและลูกน้อง

ความรัก  :   หากสัปดาห์นี้มีโอกาสได้ไปร่วมงานสังสรรค์ ปาร์ตี้ มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับรุ่นน้องที่รู้สึกคุยแล้วถูกคอมากกว่าคุยกับคนที่บ้านแล้วล่ะ  คนโสด มีโอกาสที่คุณจะถูกใจเด็กๆ กรุบๆ หน้าใสแบบพร้อมใจกันไปต่อตามที่ต่างๆ ได้เลย หากคุณจะลดความช่างคิดช่างหาเหตุผลลงบ้าง สามารถคบกันได้ยาวๆ เลย

สุขภาพ   :   จริงๆ แล้วคุณดูแลตัวเองมาเป็นอย่างดี แต่สัปดาห์นี้ก็ขอให้เพิ่มในเรื่องของระบบย่อยอาหาร ลำไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักดื่มด้วยแล้ว มีโอกาสที่จะท้องเสีย ลำไส้อักเสบได้

เมนคาแร็คเตอร์ 2 ลุคพรมเขียว “ลิซ่า ลลิษา” ในงานเปิดตัว The White Lotus ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle

โดดเด่นจนเป็นที่พูดถึงว่า “ทำการบ้านเรื่องคอสตูมมาดีทุกงาน” ซูมอิน 2 ลุคของ “ลิซ่า ลลิษา” ในงานเปิดตัว The White Lotus ซีซั่น 3 ที่ประเทศไทย

เดินสายโปรโมทกันต่อเนื่องสำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 จากการเปิดตัวไป ณ ลอสแอนเจลิส หมุดหมายต่อมาแลนด์ดิ้งลงที่ ประเทศไทย สถานที่ถ่ายทำหลักของซีซั่นนี้ โดยในงานมีนักแสดงนำของเรื่องมาร่วมงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เทม-เมธี ทับทิมทอง, เล็ก-ภัทราวดี มีชูธน, ดอม เหตระกูล, Jason Isaacs, Natasha Rothwell, Patrick Schwarzenegger, Parker Posey, Sarah Catherine Hook, Sam Nivola, Mike White แน่นอนว่าเมนคาแร็คเตอร์ “ลิซ่า ลลิษา” ก็ไม่พลาดงานนี้เช่นกัน อีกทั้งยิ่งช่วยเรียกเสียงฮือฮาจากทุกสายตาที่จับจ้องเธอ

โดยทันทีที่ลิซ่าปรากฏตัว โลกโซเชียลพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ว่างานไหน เธอก็ทำการบ้านเรื่องคอสตูมมาดีทุกครั้ง” เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ลิซ่ามาในคอสตูมสีชมพูโดดเด่น สั่งตัดพิเศษจาก Louis Vuitton พร้อมไฮจิเวลรี่ คอลเล็คชั่น Diva’s Dream และแหวน Serpenti Viper จาก BLVGARI นอกจากนี้ยังเพิ่มความพิเศษให้ลุคด้วยกิ๊บผมดอกไม้ และข้อมือพวงมาลัย ที่ทำให้ภาพรวมของลุคเข้ากับประเทศไทยจริงๆ

ส่วนลุคที่สอง ลิซ่าปรากฏตัวในมินิเดรสสีเหลือง ผลงานการรังสรรค์จาก 2 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ นั่นคือ Meshmuseum และ SARRAN ที่นำผ้าไหมไทยปักลูกแก้วมานำเสนอผ่านดีไซน์เดรสสั้น เสริมความโดดเด่นช่วงไหล่ด้วยดอกมะลิ 2,000 ดอก ซึ่งแต่ละดอกมีรูปแบบและโทนสีแตกต่างกัน

ทั้งนี้ SARRAN ได้เปิดเผยความหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการร้อยพวงมาลัยมะลิไว้ว่า “เสมือนการกล่าวต้อนรับกลับบ้าน และการกล่าวถึงพลังของผู้หญิงไทย”

นอกจากต้องชมเชยทีมดีไซเนอร์ และลิซ่าที่นำเสนอลุคออกมาได้อย่างโดดเด่นแล้ว ขอมอบความชอบให้กับ “แนนนิสต์ – หทัยรัตน์ เพิ่มพูนธนาลาภ” สไตลิสต์คู่บุญที่ช่วยทำให้ลุคโดยรวมออกมาสวยงาม และลงตัวที่สุดด้วยเช่นกัน


ภาพ: Getty Image, @sarranofficial

keyboard_arrow_up