ไลฟ์สไตล์ระดับคุณหนู! ซูมอิน 7 กระเป๋าหรูของสมาชิก BABYMONSTER

Alternative Textaccount_circle

หากให้ลิสต์เกิร์ลกรุ๊ปที่มีสไตล์โดดเด่น ยังไง BABYMONSTER ก็ต้องติดโพลแน่นอน เพราะการแต่งตัวของทั้ง 7 สมาชิกนอกจากจะน่าจับตามองแล้ว ยังแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงเซ้นส์ในการเลือกไอเท็มก็ไม่ธรรมดา บทความนี้จึงอยากพาไปเปิดดีเทลกระเป๋าของแต่ละคนที่มีทั้งรุ่นฮิต และใบหายากในปัจจุบัน

PHARITA

เริ่มต้นด้วยคุณหนูประจำวง แพร ภริตา ในแอร์พอร์ตลุคสายหวานที่ปนความเท่ไว้นิดๆ กับเสื้อโค้ทตัวยาว และกระเป๋าหนังใบใหญ่สีดำ “CHROME HEART BS FLARE TOTE BAG” ราคาบนเว็บไซต์มือสองพุ่งสูงถึงประมาณ 180,000 บาท โดยความโดดเด่นของใบนี้คือขนาดของกระเป๋าที่ใหญ่จนสามารถจุสัมภาระทุกอย่างลงไปได้ เหมาะแก่การเดินทางเหมือนกับที่แพรเลือกใช้ อีกทั้งดีไซน์ยังมีความเรียบง่ายจากสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ปั๊มนูน และหมุดโลโก้ทั้ง 7 แห่ง

CHIQUITA & ASA

ชิกิต้า หรือแคนนี่ มาพร้อมกระเป๋าสะพายชาเนลใบโปรด “CHANEL MINI FLAP With TOP HANDLE Black Caviar Gold Hardware” ราคาประมาณ 210,000 บาท เป็นอีกหนึ่งใบที่เห็นเธอสะพายอยู่บ่อยๆ ด้วยขนาดที่กะทัดรัดจึงเหมาะกับส่วนสูง และรูปร่างของเจ้าตัว อีกทั้งสีดำยังแมตช์ง่ายในทุกสถานการณ์ด้วยค่ะ

ส่วน อาสะ สาวหน้าหวานแต่สไตล์เท่คนนี้มาพร้อมกระเป๋า “Balenciaga Small Essex Shoulder Bag” ราคา 59,000 บาท ความพิเศษอยู่ที่หนังของกระเป๋าที่แม้จะทำมาจากหนังลูกวัว แต่เขาเลือกพิมพ์ลายจระเข้ลงไปเพื่อสร้างความโดดเด่น อีกทั้งยังเปิดปิดง่ายด้วยฝาปิดแม่เหล็ก พร้อมประดับโลโก้อัพฟาเบทตัว B บริเวณกึ่งกลางกระเป๋า

AHYEON

คนต่อมา อาฮยอน กับกระเป๋าที่เธอสะพายติดตัวอยู่เสมอขณะไปทริปนิวยอร์ก นั่นคือ “BACKPACK CELINE BONNIE BLACK” ราคา 105,000 บาท เป็นกระเป๋าที่แบรนด์ครีเอทขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกแทนกระเป๋าถือ มาในดีไซน์ที่ดูสบายๆ เป็นกันเองมากขึ้น ไม่หรูหราเกินจับต้อง แต่ยังตัดเย็บอย่างประณีตด้วยโครงสร้างไร้รอยต่อ ปิดด้วยเชือกผูก และประดับด้วยลายเซ็น TRIOMPHE สีเมทัลลิก

RORA

โรร่า เป็นสาวกชาเนลอีกคน เธอมักถือ CHANEL LARGE HOBO BAG สีฟ้าอยู่เป็นประจำ โดยราคากระเป๋าใบนี้อยู่ที่ 190,000 บาท ด้วยสีสันโทนสดใสจึงเหมาะกับเป็นไอเท็มเสริมลุค ที่แม้วันนั้นแต่งตัวคุมโทน All Black แต่รับรองว่าถ้าเพิ่มกระเป๋าใบนี้ไปยังไงก็โดดเด่นแน่นอน ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเพิ่งถอยมาหมาดๆ ด้วย เพราะไอเท็มชิ้นนี้อยู่ในคอลเล็คชั่น Cruise 2024/25

RAMI

รามี กับสไตล์สุดน่ารักในแอร์พอร์ตลุคผมสีชมพู เธอเลือกใส่เป็นชุดเซ็ตลายตารางจาก PLASMA ทำให้ไม่แปลกใจว่าทำไมเธอถึงเลือกแมตช์ลุคด้วยกระเป๋าเรียบๆ อย่าง “GUCCI GG SMALL SHOULDER BAG BLACK ” ราคาประมาณ 120,000 บาท หากใครชอบความเรียบง่าย แต่ยังคงคอนเซ็ปต์โลโก้ตะโกน ใบนี้ตอบโจทย์ค่ะ

RUKA

และเมมเบอร์คนสุดท้ายกับ รุกะ ที่มาพร้อมกระเป๋า “LOUIS VUITTON BE ALMA” ราคาประมาณ 74,000 บาท เป็นอีกใบที่มาในขนาดกะทัดรัด อีกทั้งถ้าแมตช์ให้ดียังดูเก๋เหมือนกับรุกะในลุคนี้ด้วย!


ย้อนรอย 4 ซีรีส์ “ไอยู” นักแสดงฉายา Queen of Tears แห่งเกาหลีใต้

Alternative Textaccount_circle

 

คอซีรีส์เกาหลีเห็นชื่อ “ไอยู” หรือ “อีจีอึน” เป็นนักแสดงนำในซีรีส์เรื่องไหนก็รู้ตัวเลยว่าต้องเตรียมน้ำตาไว้ให้ดี เพราะจากผลงานที่ผ่านมาเธอเป็นนักแสดงที่ต้องรับบทดราม่าจนทำให้คนดูเสียน้ำตาอยู่ตลอด จนได้รับฉายาว่าเป็น Queen of Tears ประจำซีรีส์เกาหลีเลยทีเดียว
ไอยูเริ่มเข้าสู่วงการนักแสดงตั้งแต่ปี 2011 ในเรื่อง Dream High ซีรีส์ที่ได้รับเรตติ้งสูงถึง 20.1% หลังจากนั้นเธอก็โลดแล่นในวงการซีรีส์มาเรื่อยๆ จนฝีมือเป็นที่กล่าวขานผ่านการการันตีด้วย 16 รางวัลในฐานะนักแสดง และมักได้รับคำชมเป็นพิเศษผ่านบทดราม่าที่เรียกน้ำตาจากคนดูอยู่เสมอ พิสูจน์ได้จาก 4 เรื่องต่อไปนี้

 

Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo (2016)

หากใครดูเรื่องนี้แล้วไม่ร้องไห้ ถือว่าจิตแกร่งพอควร เพราะเป็นซีรีส์บีบเค้นอารมณ์ โดยเล่าเรื่องของ “แฮซู” ที่ย้อนเวลากลับไปยังปลายยุคสมัยพระเจ้าแทโจ และคอยช่วยเหลือเหล่าองค์ชายไม่ใช่ช่วงชิงบัลลังก์จนถึงขั้นเลือดตกยางออก ความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน และเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น ทำให้ต้องคอยติดตามไปจนถึงตอนจบที่ขอแนะนำว่ากำผ้าเช็ดหน้าไว้ให้แน่นนะคะ

 

My Mister (2018)

ซีรีส์โทนหม่นที่พูดถึง “อีจีอัน” หญิงสาวที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เติบโตมากับการทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูย่าที่เป็นอัมพาตและหูหนวก ด้วยภาระที่บ้านทำให้เธอต้องรับจ้างสะกดรอยตาม พัคดงฮุน แต่แล้วเขากลับเป็นจุดเปลี่ยนให้เธอเจอแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่สะท้อนความจริงของชีวิตปากกัดตีนถีบ ที่แม้จะเสียน้ำตาบ้าง แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นแน่นอน

 

Hotel Del Luna (2019)

ซีรีส์โรแมนติก-แฟนตาซี ที่ใครจะคิดว่าต้องเสียน้ำตาให้กับจางมันวอล เจ้าของโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะผีเท่านั้น ซึ่งเธอเป็นวิญญาณที่ถูกกักขังและต้องคำสาปมาเป็นเวลากว่าพันปี จนวันหนึ่งที่ได้เจอกับกูชานซอง พันธนาการที่จองจำเธอไว้ก็เริ่มคลี่คลาย

 

When Life Gives You Tangerines (2025)

สุดท้าย ผลงานล่าสุดที่ปล่อยมาแค่ 8 ตอน ก็เรียกน้ำตาจากคนดูได้ล้นหลาม เป็นซีรีส์ย้อนเรื่องราวของแอซุน หญิงสาวที่สู้ชีวิตไปพร้อมกับความกบฏของตัวเอง โดยซีรีส์จะเล่าตั้งแต่วัยเด็กของเธอในปี 1950 จนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต และด้วยฉากเริ่มที่เปิดมาในบ้านพักคนชรา จึงทำให้แฟนซีรีส์เดาไปต่างๆ นานาว่า สุดท้ายแล้วสามีหรือลูกอาจจากลาไประหว่างทาง จนเหลือเพียงตัวเธอในตอนจบ ซึ่งเรื่องที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร ต้องรอชมไปพร้อมกัน

 


สโนว์ไวท์

เบื้องหลังฉากสุดอลังการของ “สโนว์ไวท์” ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่งานภาพสวยที่สุดแห่งปี

account_circle
สโนว์ไวท์
สโนว์ไวท์

คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า “Disney’s Snow White สโนว์ไวท์” เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่งานภาพสวยที่สุดในปีนี้ ด้วยเทคนิคการสร้างสรรค์สุดล้ำของทีมโปรดักชัน ทำให้ทุกฉากในเรื่อง ตั้งแต่ปราสาท หมู่บ้าน กระท่อมคนเหมือง ไปจนถึงป่ามหัศจรรย์ ล้วนตระการตา เชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกแห่งเวทมนตร์สุดแฟนตาซีได้อย่างน่าทึ่ง และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่ควรพลาดไปดูภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ 

เบื้องหลังฉากสุดอลังการของ “สโนว์ไวท์” ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่งานภาพสวยที่สุดแห่งปี

เติมเต็มจินตนาการด้วยเทคนิคการสร้างสรรค์ฉากและ Visual Effect

SNOW WHITE – © 2024 Disney Enterprises, Inc. All Rights Reserved.

การถ่ายทำ “Disney’s Snow White” เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ถึงกุมภาพันธ์ 2022 โดยทีมผู้สร้างเผยว่าแทบทุกฉากที่จะได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นฉากที่สร้างขึ้นใหม่ใน Pinewood Studios กลางกรุงลอนดอน เสริมด้วยโลเคชันต่าง ๆ ทั่วสหราชอาณาจักร และเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด ยังได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาเติมความสมจริงให้กับฉากต่าง ๆ ซึ่งฉากที่สร้างขึ้นในสตูดิโอ ออกแบบโดยโปรดักชันดีไซเนอร์มากฝีมือ Kave Quinn และทีมสร้างสรรค์ของเขา ซึ่งได้นำสถาปัตยกรรมและศิลปะยุคกลาง (Medieval), กอธิค (Gothic), อาร์ตเดโค (Art Deco) รวมถึงภาพยนตร์เงียบ (Silent Movies) มารวมเข้ากับความท้าทายจากเอกลักษณ์อันเป็นภาพจำในเวอร์ชันแอนิเมชันต้นฉบับ ตามที่ Kave Quinn บอกว่า “ทุกอย่างตั้งแต่ห้องกระจกและระเบียงของราชินีไปจนถึงกระท่อมของคนเหมืองและบ่อน้ำขอพร เราต้องทั้งรักษาและยกระดับองค์ประกอบเหล่านั้นให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น” 

Rachel Zegler as Snow White in DISNEY’s live-action SNOW WHITE. Photo courtesy of Disney. © 2024 Disney Enterprises, Inc. All Rights Reserved.

นอกจากนี้โปรดิวเซอร์ Jared LeBoff ยังกล่าวว่า “เหตุผลที่ทำให้รู้สึกว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสร้างภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันเรื่องนี้ คือเทคโนโลยีปัจจุบันที่สามารถสร้างโลกแฟนตาซีและถ่ายทอดออกมาในรูปแบบไลฟ์แอ็กชันได้อย่างที่ไม่เคยเป็นไปได้ เราสามารถขยายขอบเขตของวิชวลเอฟเฟกต์ให้ไปไกลขึ้น เพื่อให้ตัวละครอันเป็นที่รักของเราดูเหมือนมีตัวตนอยู่ในโลกเดียวกันกับนักแสดงที่เป็นมนุษย์จริงๆ”

แรงบันดาลใจของปราสาท-หมู่บ้าน และสัญญะที่ซ่อนอยู่

สำหรับฉากสำคัญอย่างปราสาท Kave Quinn เผยว่าต้องการให้ปราสาทและอาณาจักรมีบรรยากาศแบบแคว้นบาวาเรีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ต้นฉบับเทพนิยายของพี่น้องกริมม์ถือกำเนิดขึ้น เขาจึงพยายามศึกษารายละเอียดของปราสาทและชาโตหลายแห่งในฝรั่งเศส ซึ่งเคยถูกใช้เป็นต้นแบบสำหรับภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่องอื่น ๆ รวมถึงปราสาทในเยอรมนีซึ่งมีมากกว่า 20,000 แห่ง จนในที่สุดได้ตัดสินใจหยิบเอารายละเอียดของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคตอนปลายและกอธิคตอนต้นของเยอรมนีมาใช้ โดยมี “Albrechtsburg Castle” ในเมืองไมส์เซิน (Meissen) ประเทศเยอรมนี เป็นแรงบันดาลใจหลัก นอกจากนี้ยังได้แนวคิดการสร้างคุกใต้ดินของราชินี จากปราสาท “Chillon Castle” ในสวิตเซอร์แลนด์

ในส่วนของหมู่บ้านรอบ ๆ ปราสาท Kave Quinn ได้ยึดตามแนวคิดของผู้กำกับ Marc Webb ในการสร้างหมู่บ้านและปราสาทให้อยู่ในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่คล้ายกันจนแทบจะเป็นหนึ่งเดียว เพื่อสะท้อนภาพว่า ปราสาทไม่ได้มีอำนาจล้นพ้นจนครอบงำหมู่บ้าน นอกจากนี้ในบางฉากยังแฝงไปด้วยสัญญะความแตกต่างในการปกครองอาณาจักร เช่น ประตูปราสาท “จะสังเกตได้ว่าตอนเป็นอาณาจักรที่ดี ประตูปราสาทจะเปิดอยู่เสมอ แต่เมื่อราชินีเข้าควบคุม ประตูปราสาทก็ถูกปิดลง แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างแนวทางที่เธอใช้ปกครอง” Kave Quinn กล่าว

รายละเอียดของป่าและกระท่อมคนเหมือง

Rachel Zegler as Snow White in DISNEY’s live-action SNOW WHITE. Photo courtesy of Disney. © 2024 Disney Enterprises, Inc. All Rights Reserved.

ป่าอันน่ากลัวและทุ่งหญ้านิทราเป็นอีกฉากที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันใน Pinewood Studios ยกเว้นฉากภายนอกของป่าที่ทีมผู้สร้างได้เลือกถ่ายทำในเขตอนุรักษ์ Burnham Beeches ใน Buckinghamshire ผืนป่าโบราณขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสตูดิโอ เพื่อเพิ่มความสมจริงยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับสัตว์ในเรื่องที่ใช้ทั้งสัตว์จริงและสัตว์ที่สร้างขึ้นจาก Visual Effect โดยม้า ลา และไก่ ที่ปรากฏในฉากหมู่บ้าน เป็นสัตว์จริงที่นำมาเข้าฉาก ส่วนสัตว์ป่าอย่างนกฮูก กระต่าย นก เต่า กระรอก หนู ค้างคาว ใช้ Visual Effect สร้างขึ้นในขั้นตอนโพสต์โปรดักชั่น และสำหรับตัวเด่นอย่างกวาง เป็นการใช้ทีมเชิดหุ่นแสดงสดในกองถ่ายระหว่างการถ่ายทำหลัก 

Rachel Zegler as Snow White in DISNEY’s live-action SNOW WHITE. Photo courtesy of Disney. © 2024 Disney Enterprises, Inc. All Rights Reserved.

นอกจากนี้อีกหนึ่งฉากที่คนดูจะต้องประทับใจคือ กระท่อมคนเหมือง ซึ่งทีมสร้างสรรค์ใส่ใจทุกรายละเอียดทั้งภายนอกและภายใน โดยภายนอกเป็นกระท่อมไม้หลังคามุงจาก ส่วนภายในตกแต่งด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่ารัก อย่างนกฮูกแกะสลักบนคาน โคมไฟระย้ารูปนกฮูก รวมถึงเปียโนไม้แกะสลักที่ออกแบบให้ดูคล้ายกับเปียโนในแอนิเมชันต้นฉบับ 

Rachel Zegler as Snow White in Disney’s live-action SNOW WHITE. Photo courtesy of Disney. © 2024 Disney Enterprises Inc. All Rights Reserved.

ความละเอียดละออ สวยสมจริง ของฉากต่าง ๆ สร้างความประทับใจให้กับเหล่านักแสดงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Rachel Zegler ผู้รับบทเป็นสโนว์ไวท์ ที่ถึงกับเอ่ยปากว่า “ฝีมือการออกแบบและสร้างสรรค์ของ Kave Quinn เหลือเชื่อมาก ฉากภายนอกของกระท่อมคนเหมือง และทุ่งหญ้าทั้งหมดที่อยู่ด้านนอก รวมถึงป่าอันน่ากลัว ทำให้ฉันต้องตะลึง Marc (Webb) กับฉันพูดกันตลอดว่า ฉากทั้งหมดดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องเล่นที่สมบูรณ์แบบในดิสนีย์แลนด์เลย” 

(L-R) Gal Gadot as Evil Queen and Rachel Zegler as Snow White in Disney’s live-action SNOW WHITE. Photo by Giles Keyte. © 2024 Disney Enterprises, Inc. All Rights Reserved.

ไม่เพียงแค่งานภาพที่สวยแบบตะโกน “Disney’s Snow White” ยังรวมความเป็นที่สุดในหลายด้านเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งบทภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมจาก Erin Cressida Wilson นักเขียนบทชื่อดัง งานคอสตูมเครื่องแต่งกายที่ได้นักออกแบบเครื่องแต่งกายเจ้าของรางวัลออสการ์ 3 สมัย Sandy Powell มาสร้างสรรค์ลุคต่าง ๆ ให้กับตัวละครในเรื่อง เพลงประกอบภาพภาพยนตร์โดย Benj Pasek และ Justin Paul คู่หูนักแต่งเพลงเจ้าของรางวัล EGOT จากผลงาน Only Murders in the Building, Dear Evan Hansen และ La La Land ซึ่งทุกองค์ประกอบล้วนแล้วแต่เพิ่มเสน่ห์และความน่าสนใจ ทำให้ “Disney’s Snow White” เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่น่าดูแห่งปี


L’Oréal Paris เปิดตัว Elseve Hyaluron Pure สำหรับหนังศีรษะมัน ปลายผมแห้ง ร่วมด้วย ชมพู่ อารยา และ เจมีไนน์ เผยทิปส์ผมสวยเงางาม

L’Oréal Paris เปิดตัว Elseve Hyaluron Pure สำหรับหนังศีรษะมัน ปลายผมแห้ง ร่วมด้วย ชมพู่ อารยา และ เจมีไนน์ เผยทิปส์ผมสวยเงางาม

Alternative Textaccount_circle
L’Oréal Paris เปิดตัว Elseve Hyaluron Pure สำหรับหนังศีรษะมัน ปลายผมแห้ง ร่วมด้วย ชมพู่ อารยา และ เจมีไนน์ เผยทิปส์ผมสวยเงางาม
L’Oréal Paris เปิดตัว Elseve Hyaluron Pure สำหรับหนังศีรษะมัน ปลายผมแห้ง ร่วมด้วย ชมพู่ อารยา และ เจมีไนน์ เผยทิปส์ผมสวยเงางาม

ลอรีอัล ปารีส ตอกย้ำความเป็นผู้นำความงามระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ L’Oréal Paris Elseve Hyaluron Pure ตอบโจทย์ปัญหาหนังศีรษะมัน แต่ปลายผมแห้งโดยเฉพาะ ในงานอีเว้นท์สุดพิเศษ “House of Hyaluron Pure” พร้อมการปรากฏตัวของ brand Spokesperson ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต และ เจมีไนน์ นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ ร่วมพิสูจน์พลังผมสวย เงางาม แบบไม่มัน

ความพิเศษของงานนี้คือการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะด้วยผลิตภัณฑ์จริงจาก Hyaluron Pure ผ่านบริการสระ – ไดร์ ผมฟรี! ภายในงาน หลังจากที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากงาน House of Hyaluron Pure เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา การกลับมาของอีเว้นท์สุดพิเศษในครั้งนี้ ลอรีอัล ปารีส มีความตั้งใจอยากให้ผู้บริโภคทุกคนได้พิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมไลน์ใหม่ด้วยตัวเอง ความพิเศษของ House of Hyaluron Pure ในครั้งนี้ที่เมกาบางนา ได้มีการโชว์ผลิตภัณฑ์ ไฮยาลูรอน สำหรับผิวหน้าเข้ามาด้วย เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านส่วนผสมนี้ กับ เซรั่ม รีไวทัลลิฟท์ ไฮยาลูรอนนิค แอซิด เซรั่มยอดขายอันดับหนึ่งของโลก ให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพเพื่อผิวอิ่มเด้ง

ชมพู่ อารยา และ เจมีไนน์ นรวิชญ์ L’Oréal Paris Spokesperson ได้แบ่งปันเคล็ดลับการดูแลเส้นผมของตัวเองว่า “ส่วนตัวเป็นคนให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะเป็นพิเศษ เพราะผมสวย เงางาม สามารถสะท้อนบุคลิกของเราได้ จึงเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากลอรีอัล ปารีส อย่าง L’Oreal Paris Elseve Hyaluron Pure ที่ผสานส่วนผสมจากสกินแคร์ เพื่อทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก พร้อมบำรุงเส้นผม ทำให้ผมสวยและเปล่งประกายยาวนาน”

โรมัง เวเบอร์ Brand General Manager ของ L’Oréal Paris Thailand กล่าวถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมใหม่ว่า “นับเป็นครั้งแรกที่เรามี Spokesperson ผู้ชายสำหรับไลน์สินค้าแฮร์แคร์ เพราะปัญหาหนังศีรษะมันพบได้ในผู้ชายไม่น้อยไปกว่าผู้หญิง ครั้งนี้ทางแบรนด์จึงได้เลือก เจมีไนน์ มาเป็น Spokesperson ร่วมกับ ชมพู่ อารยา ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ชัดเจนให้กับสินค้าได้มากขึ้นในการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภค และหวังว่า Elseve Hyaluron Pure จะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่หนึ่งในใจสำหรับทุกคน”

กลุ่มผลิตภัณฑ์ L’Oréal Paris Elseve Hyaluron Pure ประกอบด้วย แชมพูและคอนดิชันเนอร์ที่ผสมผสานส่วนผสมจากสกินแคร์ที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ ซาลิไซลิก แอซิด ที่ช่วยจัดการกับความมันบนหนังศีรษะ และ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและปิดเกล็ดผมให้ผมดูนุ่มสวย ชุ่มชื้นยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยทำความสะอาดล้ำลึก พร้อมบำรุงเส้นผมในคราวเดียวกัน ส่วนผลิตภัณฑ์ไฮยาลูรอนสำหรับบำรุงผิวหน้า มีให้เลือกตั้งแต่ เซรั่ม ไฮยา สำหรับผิวปกติ / ผิวแห้ง และสำหรับคนผิวมันโดยเฉพาะ รวมถึงครีมเพื่อผิวอิ่มเด้ง โดยทั้งหมดหาซื้อได้แล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย


10 คนดังสไตล์โดดเด่นในยุค Genderless Fashion กำลังเฟื่องฟู

Alternative Textaccount_circle

เพราะวลี “แฟชั่นไร้เพศ” กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทำให้ผู้คนยุคนี้สนุกกับการแต่งตัวที่ไม่มีขีดจำกัด แพรวจึงรวบรวม 10 คนดังที่โดดเด่นเรื่อง Genderless Fashion มาให้ชมกัน

Genderless Fashion

หลายคนอาจคิดว่าแฟชั่นไร้เพศนั้นเป็นเรื่องใหม่ แต่แท้จริงนักประวัติศาสตร์สังเกตว่า ในอดีตชายและหญิงแต่งตัวคล้ายกัน มาตรวัดเดียวที่มีคือความยาวของเสื้อคลุมที่บ่งบอกฐานะ แต่ช่วง ค.ศ. 1500 เริ่มมีการแบ่งเพศของเสื้อผ้าชัดเจนว่า ผู้ชายต้องใส่กางเกง ส่วนผู้หญิงควรใส่กระโปรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับอิสรภาพที่ทุกคนอยากได้รับ ทำให้มีการเรียกร้องสิทธิจนเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1800 ที่กลุ่มเรียกร้องสิทธิสตรีเริ่มหันมาใส่กางเกงเพื่อให้สามารถทำในสิ่งที่ผู้ชายทำได้ แต่แล้วช่วง 1940 และ 1950 ความแตกต่างของเครื่องแต่งกายก็กลับมาเด่นชัดอีกครั้ง

จนกระทั่งปี 1960 และ 1970 แฟชั่นยูนิเซ็กกลายเป็นที่นิยม และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟชั่นไร้เพศในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับมากขึ้น สังเกตได้จากชุดทักซิโด้ Le Smoking Tuxedo ของ Yves Saint Lauren สำหรับผู้หญิงในปี 1966 ไปจนถึงชุดกระโปรงของ Jean Paul Gautier สำหรับผู้ชายในปี 1985 ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการเปิดกว้างบนรันเวย์

TODAY

แน่นอนว่าปัจจุบันความสนุกในการแต่งตัวเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด เห็นได้จากเหล่าคนดังที่หยิบไอเท็มไม่ว่าจากคอลเล็คชั่นสุภาพสตรี หรือสุภาพบุรุษมาแมตช์เป็นลุคแสนสะดุดตาจนกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลบ่อยๆ เหมือนกับ 10 เซเลบริตี้ที่แพรวรวบรวมมาให้ชมมีทั้ง ประเทศไทย เกาหลีใต้ ไปจนถึงซีกโลกตะวันตก

RENJUN (NCT/NCT DREAM)

เริ่มต้นด้วยหนึ่งในสมาชิก NCT “เหรินจวิ้น” หรือ “อินจุน” สไตล์การแต่งตัวของเขาเรียกแสงแฟลชอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Airport Look ที่ไม่ว่าปรากฏตัวครั้งไหนก็มักเป็นที่พูดถึงจากการมิกซ์แอนด์แมตช์ไอเท็มจาก Womenswear ได้อย่างลงตัว เช่น ลุคล่าสุดที่เขาถือกระเป๋า Lady Dior Art ผลงานจาก Duy Anh Nhan Duc ศิลปินชาวเวียดนาม แมตช์เข้ากับแจ็กเก็ตและกางเกงทวีตพร้อมเข็มขัดหนังสีขาวจากชาเนล สุดท้ายจึงคอมพลีตลุคด้วยรองเท้าบู๊ตส้นสูง รวมถึงลุคอื่นๆ เขายังสวมสร้อยคอไข่มุกเป็นเครื่องประดับ

TEN (NCT/WayV)

น้องเล็กผ่านไปแล้ว ถึงคราวพี่ใหญ่กันบ้าง เตนล์ถือเป็นอีกคนที่ไม่ว่าแต่งตัวแบบไหนก็มักได้ลุคสมบูรณ์แบบ ฉะนั้นเราจึงได้เห็นเขาในหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะ หล่อเท่, ติสท์ๆ หรือเซ็กซี่ปนความเฟมินิน เหมือนกับในลุคชมแฟชั่นวีคที่เตนล์ปรากฏตัวในชุดซีทรูสีดำ มาพร้อมผ้าคลุมศีรษะ ซึ่งถือเป็นลุคที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ YSL ได้เป็นอย่างดี สมฐานะแอมบาสเดอร์ประจำแบรนด์

FELIX (Stray Kids)

ศิลปินคนต่อไปจะขาดคนนี้ไปไม่ได้กับ FELIX แร็ปเปอร์จากวง Stray Kids ที่สไตล์การแต่งตัวแสนโดดเด่นของเขาได้เข้าตาแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton จนได้รับแต่งตั้งให้เป็น Global House Ambassador อีกทั้งยังได้รับโอกาสให้ร่วมเดินแฟชั่นโชว์ในคอลเล็คชั่น Fall 2024 และ Spring/Summer 2025 สำหรับการแต่งตัวของเขา เราจะเห็นการแมตช์เสื้อครอป กระโปรงทับกางเกง และเครื่องประดับไข่มุกอยู่บ่อยๆ ซึ่งถือเป็น Genderless Fashion

G-Dragon

คนที่ 4 ขอยกให้เจ้าพ่อแฟชั่นแห่งวงการ K-POP อย่าง G Dragon ที่เป็นถึงแอมบาสเดอร์คนแรกของ CHENEL ในประเทศเกาหลีใต้ ทำให้เราได้เห็นเขาปรากฏตัวในเบลเซอร์ผ้าทวีต ปกคอเสื้อตกแต่งระบายเหมือนตุ๊กตา โบยักษ์ หรือเสื้อกลิตเตอร์อยู่เสมอ เรียกว่าเป็นหนึ่งตัวอย่างของบุคคลที่แต่งตัวด้วยนิยามคำว่า “แฟชั่นไรเพศ” ได้ดีทีเดียว

นะ Polycat

ในฝั่งเอเชีย ประเทศไทยของเราก็ไม่แพ้ใคร เพราะมีนักร้องนำจากวง Polycat นั่นคือ “นะ-รัตน จันทร์ประสิทธิ์” ที่ไม่ว่า On Stage หรือ Off Stage เขาก็สามารถครีเอทลุคออกมาได้น่าจับตามอง ไอเท็มที่เห็นเขาหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์อยู่บ่อยๆ มีทั้ง เสื้อลูกไม้ เดรสลายดอกไม้ เสื้อเชิ้ตขนนก สร้อยคอไข่มุก ไปจนถึงเสื้อถักโครเชต์ลายดอกไม้

Jeff Satur

เจฟ ซาเตอร์ ศิลปินเจ้าของเพลงฮิตหลายเพลงก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เอาอยู่ทุกสไตล์ แม้กระทั่งความเฟมินินของถุงมือลูกไม้ สเวตเตอร์โครเชต์ ไปจนถึงปกคอเสื้อดีไซน์ระบายสุดน่ารัก เหตุเพราะการเปิดรับและสนุกกับแฟชั่นทุกรูปแบบของเขาจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมถึงคว้าตำแหน่งแอมบาสเดอร์ ประจำ Valentino ของประเทศไทยไปครองได้สำเร็จ

Alessandro Michele

สำหรับ Alessandro Michele ไม่ใช่เพียงหัวเรือใหญ่ของ Valentino (ปัจจุบัน) และ Gucci (อดีต) แต่เขายังเป็นผู้ผลักดัน Genderless Fashion ในแบรนด์หรู ที่เราเห็นได้จากงานออกแบบคอลเล็คชั่นแรกของเขาใน Gucci Fall/Winter 2015 ที่นายแบบสามารถสวมเดรสหรือกระโปรงได้ และผู้หญิงก็ยังสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ได้เช่นกัน รวมถึงเขายังนำดีเทลของแฟชั่นยุค Renaissance, Baroque และ Victorian ที่เคยใช้สำหรับผู้หญิง มาปรับให้เป็นแฟชั่นสำหรับทุกเพศ และอีกผลงานที่เด่นชัดที่สุด คือ Gucci ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่น “Mx” โดยใช้โมเดลเป็น androgynous และ Non-Bibary ในการเดินแบบ

Alessandro Michele (ขวา)
Alessandro Michele (ซ้าย)

Harry Styles

ถ้าพูดถึง Alessandro Michele แล้วไม่พูดถึง Harry Styles ก็คงแปลก เพราะเขาเป็นศิลปินที่ใกล้ชิดกับดีไซเนอร์ชื่อดังและร่วมงานกันมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งสไตล์ของเขามักประกอบไปด้วยไอเท็มแสดงถึง Soft Masculinity เช่น กางเกงขาบาน, กระโปรง, สูทลายดอกไม้, เสื้อคอระบาย, เครื่องประดับไข่มุก ทั้งนี้เขายังเคยได้เปิดเผยความคิดเกี่ยวกับการแต่งตัวไว้ว่า “Clothes are there to have fun with and experiment with and play with” – เสื้อผ้ามีไว้ให้สนุกด้วยการทดลองและเล่นไปกับมัน

Timothée Chalamet

แม้ Timothée Chalamet จะไม่ได้สวมเดรสหรือกระโปรงเหมือนคนอื่น แต่สไตล์ของเขายังผสมผสานดีเทลความเฟมินินในชุดผู้ชายไว้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่มีเลื่อมและกลิตเตอร์ หรือชุดเปิดหลังสีแดง Backless Halter Top จาก Haider Ackermaann ที่เขาใส่ใน Venince Film Festival 2022 จนกลายเป็นไวรัล ด้วยดีไซน์นี้จะพบบ่อยในเดรสผู้หญิงมากกว่า

Jaden Smith

ส่งท้ายด้วย Jaden Smith ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ Louis Vuitton คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2016 Womenswear โดยลุคโดดเด่นที่เขาสวมใส่ในแคมเปญคือ กระโปรงพลีตสีดำ ซึ่งเป็นไอเท็มหลักประจำซีซั่น การปรากฏตัวของเขาครั้งนั้นจึงถือเป็นสัญญาณของการที่ผู้ชายใส่เสื้อผ้าของผู้หญิงในวงการไฮเอนด์เป็นเรื่องปกติ

Jaden Smith (คนที่ 4 นับจากซ้าย)

ข้อมูล: beyondtalentrecruitment.com

ซีรีส์เกาหลี

เปิดเบื้องหลัง ซีรีส์เกาหลี ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน (When Life Gives You Tangerines)

Alternative Textaccount_circle
ซีรีส์เกาหลี
ซีรีส์เกาหลี

เปิดเบื้องหลัง ซีรีส์เกาหลี ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน  (When Life Gives You Tangerines)  ละครที่บอกเล่าเรื่องราวการยกย่องคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ลมใต้ปีกของลูกสาวและลูกชายให้ก้าวเดินต่อไปในโลกอนาคต

เรียกว่าเป็นซีรีส์น้ำดีที่ทำให้ผู้ชมถึงกับหลั่งน้ำตาเลยสำหรับผลงานของผู้กำกับมากฝีมือ คิมวอนซอก  ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน  (When Life Gives You Tangerines)  ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติก-ดราม่า ที่มอบความสุข ความอบอุ่น และกำลังใจให้กับผู้ชม  กับการนำเสนอเรื่องราวความรักและการเติบโตของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในชีวิต

ซีรีส์เกาหลี

ช่วยเล่าถึงซีรีส์ ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน (When Life Gives You Tangerines) รวมถึงที่มาของชื่อเรื่อง และถึงสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้

ผู้กำกับคิมวอนซอก : ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน (When Life Gives You Tangerines) ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตตลอด 4 ฤดูกาลบนเกาะเชจูของ “แอซุน” สาวจอมรั้น และ “กวานชิก” ฉายาหนุ่มใจแกร่ง เราสร้างซีรีส์เรื่องนี้ด้วยความหวังว่าจะเป็นการยกย่องบรรพบุรุษรุ่นพ่อรุ่นแม่ รวมถึงเป็นเสมือนบทเพลงให้กำลังใจสำหรับลูกสาวและลูกชายที่จะก้าวเดินต่อไปในโลกอนาคต ผมหวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะช่วยทำลายกำแพงล่องหนระหว่างวัย เพศ และผู้คนทั่วไปได้ไม่มากก็น้อยครับ

ซีรีส์เกาหลี

นี่เป็นครั้งแรกที่คุณจับคู่กับผู้เขียนบทอิมซังชุน  พวกคุณแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมมือกันอย่างไรบ้างตลอดการผลิตผลงานเรื่องนี้

ผู้กำกับคิมวอนซอก : นักแสดงหลายท่านตรงนี้บอกว่าพวกเขาร้องไห้ฟูมฟายตอนที่ได้อ่านบท ซึ่งอาจทำให้คุณเข้าใจได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้าโศกและซาบซึ้งมาก แต่ผมอยากจะบอกว่ามันอาจจะทำให้คุณน้ำตาซึมและสะอึกสะอื้นก็จริง แต่ขณะเดียวกันก็จะทำให้คุณหัวเราะด้วยความสนุกและมีอารมณ์ขันปะปนอยู่ด้วย ผมคิดว่านี่เองคือสิ่งที่ดึงดูดให้นักแสดงทุกคนอยากมีส่วนร่วมในผลงานเรื่องนี้ ผมโชคดีที่ได้ร่วมงานกับผู้เขียนบทที่มีความสามารถมากมายอย่างอิมซังชุน หลักการของผมสำหรับทุกผลงานคือต้องพูดคุยและปรึกษากับทีมงานในทุกขั้นตอน ซึ่งรวมถึงการคัดเลือกนักแสดง หรือแม้กระทั่งขั้นตอนหลังการถ่ายทำ เช่น การตัดต่อและการใส่ดนตรีประกอบ เราจึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในทุกขั้นตอน ผู้เขียนบททุกคนมักจะมีไอเดียในใจอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าผมทำให้มันเป็นจริงได้ตามวิสัยทัศน์ของพวกเขา ก็จะส่งผลดีต่อผลงานครับ

ผู้กำกับคิมวอนซอก : นการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ เราเน้นถ่ายทอดเสน่ห์อันงดงามและอารมณ์ของตัวละคร เพื่อที่จะเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น และเราต้องการให้นักแสดงมีสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด เพื่อที่จะดึงเอาตัวตนของพวกเขาออกมาและเพื่อให้พวกเขาได้แสดงได้อย่างลื่นไหล เราจึงลดจำนวนคัทลงเพื่อไม่ให้รบกวนการแสดง และปล่อยให้เขาแสดงไปตามจังหวะของตัวเอง ผู้กำกับศิลป์เองก็น่าทึ่งมากที่เนรมิตให้ภาพทางประวัติศาสตร์และรายละเอียดต่างๆ ของตัวละครดูสมจริงครับ

อะไรคือเหตุผลที่คุณตัดสินใจเลือกนักแสดงเหล่านี้มาเล่นบทเดียวกัน

ผู้กำกับคิมวอนซอก : อย่างแรกเลย บทของผู้เขียนบทอิมซังชุนจำเป็นต้องได้นักแสดงที่เปี่ยมด้วยความสามารถ ตัวละครแต่ละตัวมีขอบเขตที่กว้างมาก และต้องสามารถทำให้ผู้ชมร้องไห้ หัวเราะ และแสดงอารมณ์ที่หลากหลายได้ บทละครก็เขียนไว้อย่างละเอียดมาก ผมไม่คิดว่าจะมีใครอื่นอีกที่จะเหมาะกับตัวละครเหล่านี้นอกจากนักแสดงเหล่านี้ หลังจากที่เราเลือกไอยูมารับบทแอซุน ซึ่งมีความแสบซนและหัวรั้น เราจึงอยากเสนอบทแอซุนเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ให้กับมุนโซรี เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าเธอมีศักยภาพด้านการแสดงสูงและแสดงได้หลายบทบาท อีกอย่างตัวละครแอซุนเป็นนักเขียนที่ดี และนักแสดงทั้งสองคนนี้ก็ชอบอ่านหนังสือในชีวิตจริงด้วย ผมรู้สึกว่าพวกเขาเป็นตัวเลือกเดียวสำหรับตัวละครแอซุนเลยครับ

สำหรับตัวละครกวานชิกก็ต้องการนักแสดงมากความสามารถเช่นเดียวกัน แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ผมคิดว่าบุคคลได้รับคัดเลือกให้รับบทนี้ต้องเป็นคนดีในชีวิตจริง พวกเขาต้องมีจิตใจดี แอซุนในสองเวอร์ชั่นจะมีความคล้ายคลึงกันด้วยวิธีการพูด แต่สำหรับกวานชิก สิ่งที่พวกเขาเชื่อมโยงกันคือลักษณะของคนที่มีนิสัยดี ซึ่งต้องถ่ายทอดผ่านจอได้อย่างเป็นธรรมชาติ แฮจุนเป็นนักแสดงที่นิสัยดีที่สุดที่ผมรู้จักในชีวิตจริง เขาชอบเล่นมุกแป้กแต่ผมก็รับได้เพราะเขาเป็นคนดีจริงๆ (หัวเราะ) ส่วนโบกอม ทุกคนในวงการรู้ว่าเขาเป็นคนดีแค่ไหน ผมคิดว่าถ้าเราสามารถแสดงด้านที่แตกต่างของโบกอมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนได้ นี่จะเป็นตัวละครที่มีความภักดี ทุ่มเท และมีหัวใจที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่มีความมุ่งมั่นและเข้มแข็งเท่านั้น แต่ภาพลักษณ์ที่เขามีก็มีความละเอียดอ่อนมากเช่นกัน

 อยากฝากอะไรถึงผู้ชม Netflix กว่า 190 ประเทศทั่วโลกที่รอติดตามชมซีรีส์ ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน (When Life Gives You Tangerines) 

ผู้กำกับคิมวอนซอก : พวกเราทุกคนทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับผลงานเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โปรดรับชมซีรีส์เรื่องนี้และเพลิดเพลินกับมันจนถึงตอนสุดท้าย หลังจากเครดิตของตัวละครแต่ละบทบาท ผู้เขียนบทได้แอบซ่อนของขวัญเล็กๆ น้อยๆ สำหรับคุณผู้ชม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาของซีรีส์นี้ครับ

นักโภชนาการ เผยสูตรอาหาร "With Love, Meghan" ดีต่อสุขภาพหรือไม่?

นักโภชนาการ เผยสูตรอาหาร “With Love, Meghan” ดีต่อสุขภาพหรือไม่?

Alternative Textaccount_circle
นักโภชนาการ เผยสูตรอาหาร "With Love, Meghan" ดีต่อสุขภาพหรือไม่?
นักโภชนาการ เผยสูตรอาหาร "With Love, Meghan" ดีต่อสุขภาพหรือไม่?

 

เมแกน มาร์เคิล  ดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ หวนคืนสู่โซเชียลอีกครั้งในรายการไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวกับการดูแลบ้านและการทำอาหาร “With Love, Meghan” ที่เพิ่งเปิดตัวบน Netflix ไม่นานมานี้ ซึ่งรายการนี้เป็นโปรเจกต์ล่าสุดของเธอและสามี เจ้าชายแฮร์รี่โดยเมแกนเชื่อว่าควรใส่ใจเป็นพิเศษในสูตรอาหารทั้งหมดของเธอ เลือกใช้ส่วนผสมสดคุณภาพสูงทุกที่ที่ทำได้ เช่นเกลือโคเชอร์ Diamond Crystal, น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว และดอกไม้กินได้แทนการโรยหน้า แม้ว่าเมแกนจะไม่ได้ระบุสูตรอาหารของเธออย่างชัดเจนว่า “ดีต่อสุขภาพ” แต่การเลือกใช้ส่วนผสมและวิธีการปรุงจะทำให้อาหารจานเหล่านี้ดูมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไรนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการได้วิเคราะห์อาหารไว้ว่ายากที่จะกำหนดว่าสุขภาพดีหมายความว่าอย่างไร แต่โดยทั่วไปแล้วหมายถึงการรวมอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย ดังนั้น เมื่อพูดถึงสูตรอาหารของเมแกน “แม็กกี้ มิคาลซีค” นักโภชนาการ ที่ขึ้นทะเบียนในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ได้ยกนิ้วให้ “การที่เมแกนเน้นผักสดจากสวน ก็ดูใส่ใจสุขภาพ” และนี่คือจานที่โดดเด่นใน With Love, Meghan สำหรับ แม็กกี้ มิคาลซีค จากมุมมองด้านโภชนาการ

  • ปลาอบเกลือกับมะเขือเทศย่าง สำหรับเมนูนี้ เมแกนปลากะพงขาวยัดด้วยสมุนไพรสดและมะนาว จากนั้นอบโดยห่อด้วยเปลือกเกลือก่อนเสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศย่าง ตามคำบอกเล่าของ แม็กกี้ มิคาลซีค สูตรนี้คุ้มค่าที่จะนำมาทำใหม่ เพราะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง “ฉันคิดว่าหลายคนรู้สึกหวาดกลัวที่จะทำอาหารจากปลา ฉันหวังว่าการเห็นว่าการทำอาหารจากปลาทั้งตัวที่บ้านนั้นง่ายเพียงใด จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนอยากทำอาหารและได้รับประโยชน์ ปลาเป็นแหล่งกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่ดี”
  • สลัดผักสวนครัว ในการทำสลัดนี้ เมแกนจะผสมผักกาดแก้วสีแดงและผักกาดแก้วเล็กๆ ที่เก็บจากสวนของเธอเข้าด้วยกัน แล้วราดด้วยน้ำสลัดโฮมเมด “การกินอาหารตามฤดูกาลเมื่อทำได้ เช่น ไปตลาดเกษตรกรหรือปลูกสวนครัว และทำสลัดง่ายๆ เหมือนที่เธอทำกับอลิซ วอเตอร์ส เป็นการเตือนใจที่ดีว่าควรใส่ผักตามฤดูกาลเข้าไปในอาหารของเราด้วยวิธีที่ไม่ยุ่งยาก แม้ผักใบเขียวเพียงอย่างเดียวจะเต็มไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่การเพิ่มสีสันให้กับจานอาหารด้วยผักชนิดต่างๆ เป็นสิ่งที่ดีโดยเฉพาะต่อสุขภาพลำไส้ เนื่องจากลำไส้ของเราต้องการอาหารจากพืชที่หลากหลายเพื่อให้จุลินทรีย์ที่ดีมีแบคทีเรียที่ดีอยู่เต็มไปหมด”
  • จานผักสด ของเมแกนจากตอนที่ 1 ทำด้วยแครอท แตงกวา แตงโม หัวไชเท้า ถั่วลันเตา ผักชีฝรั่ง ดอกไม้ที่กินได้ และฮัมมัส “เป็นของขบเคี้ยวที่มีไฟเบอร์สูงที่ยอดเยี่ยม นี่เป็นแนวทางที่ดีเพราะคุณสามารถใส่ผักตามฤดูกาล ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงได้ และเพิ่มปริมาณผักที่คุณกินในแต่ละวันด้วยการนำไปเป็นของขบเคี้ยว”
  • ผลไม้ดอง เมแกนใช้ผลเบอร์รี่ในสวนของเธอทำผลไม้ดองแทนแยมผลไม้ เพราะเธอเชื่อว่าน้ำตาลที่เติมลงไปจะกลบรสชาติของผลไม้เท่านั้น “ฉันชื่นชมสิ่งนี้จริงๆ เพราะทำไมต้องเติมน้ำตาลถ้าไม่จำเป็น ผลไม้เป็นแหล่งน้ำตาลตามธรรมชาติอยู่แล้ว และในระหว่างขั้นตอนการปรุงอาหาร น้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นคาราเมล ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารให้ความหวานในตัว”
  • ผลไม้หลากสี อย่าเพิ่งตัดสินว่าผลไม้หลากสีเป็นเรื่องจริง จนกว่าคุณจะได้ลองเอง คนส่วนใหญ่คงไม่แปลกใจที่ผลไม้เป็นแหล่งวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี แต่ แม็กกี้ มิคาลซีค บอกว่าสูตรนี้ควรค่าแก่การเน้นย้ำเป็นพิเศษ เพราะเด็กๆ เข้าถึงได้ง่าย “แม้ว่าแนวคิดนี้จะดูเหมือนเป็นสิ่งที่เราเคยเห็นมาก่อนใน Pinterest แต่ฉันคิดว่านี่เป็นวิธีที่สนุกในการทำให้เด็กๆ ตื่นเต้นกับการกินผลไม้หลากสีและง่ายต่อการหยิบด้วยมือเล็กๆ” 

 

แม้จะไม่ใช่ทุกจานที่ดูมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพียงแค่ปรับให้จานนั้นๆ สมดุลมากขึ้น อาทิเช่น พาสต้าที่ทำจากมะเขือเทศ คะน้า และผักร็อกเก็ตนั้นไม่ใช่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่ใช่อาหารที่มีโปรตีนสูงเช่นกัน แค่ปรับลองเพิ่มเนื้อไก่ ใช้พาสต้าที่มีโปรตีนสูง หรือเสิร์ฟพร้อมปลาน้ำจืดแทน เพราะอาหารนั้นสามารถพลิกแพลงได้ตลอด ถ้าคุณค่าดูน้อย ก็แค่ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมส่วนผสมให้เหมาะกับความต้องการทางโภชนาการและเป้าหมายด้านสุขภาพส่วนบุคคล 

 

Photo: Netflix

 

 


'อีซองคยอง' เผยทริคปั้นหุ่นสวยให้สมฉายา "เจ้าหญิงจัสมินเวอร์ชั่นเกาหลีที่สวยที่สุด"

‘อีซองคยอง’ เผยทริคปั้นหุ่นสวยให้สมฉายา “เจ้าหญิงจัสมินเวอร์ชั่นเกาหลีที่สวยที่สุด”

Alternative Textaccount_circle
'อีซองคยอง' เผยทริคปั้นหุ่นสวยให้สมฉายา "เจ้าหญิงจัสมินเวอร์ชั่นเกาหลีที่สวยที่สุด"
'อีซองคยอง' เผยทริคปั้นหุ่นสวยให้สมฉายา "เจ้าหญิงจัสมินเวอร์ชั่นเกาหลีที่สวยที่สุด"

 

อีซองคยอง (Lee Sung Kyung) เธอเริ่มต้นอาชีพนางแบบ ทั้งยังมีความสามารถทางการแสดงและร้องเพลงได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยม เธอจึงได้ปรากฏตัวในละครโทรทัศน์หลายเรื่องและได้รับโฆษณาทางโทรทัศน์มากมาย และไม่นานมานี้ เธอเข้าร่วมแสดงในละครเพลงเรื่อง “อะลาดิน” ด้วยคอสตูมของเจ้าหญิงจัสมินที่ต้องโชว์เอวทำให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่สวยแน่นของอีซองคยอง จนแฟนๆ อดตะลึงและชื่นชมการดูแลรูปร่างสุดเป๊ะของเธอไม่ได้ และยังทำให้เธอได้รับฉายาว่า “เจ้าหญิงจัสมินที่สวยที่สุดในโลก” อีกด้วย

 

ในฐานะนางแบบมืออาชีพ เธอมีรูปร่างที่สูงเพรียว ขาเรียวสวย ไร้ไขมัน ถึงแม้ว่าเธอจำเป็นต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นประมาณ 5-7 โล เพื่อรับบทเจ้าหญิงจัสมิน แต่เมื่อละครเพลงจบลง เธอก็สามารถกลับมามีหุ่นที่เพรียวบางและสมบูรณ์แบบได้อย่างรวดเร็ว เพราะเธอเคยมีประสบการณ์ต้องเพิ่มน้ำหนักในซีรีส์เรื่อง Weightlifting Fairy Kim Bok-joo มาก่อน ซึ่งเธอได้แชร์วิธีลดน้ำหนัก ปั้นรูปร่างให้สวยเพรียวและมีสุขภาพดี โดยไม่ต้องอดอาหาร โดยใช้แนวทางสองด้านคือควบคุมอาหารและออกกำลังกาย อย่างแรกเลยเริ่มจาก

 

กินอาหาร 3 มื้อต่อวัน และอย่าอดอาหาร
เธอยอมรับว่าเป็นคนชอบกินมาก ดังนั้น เธอจึงต้องกินอาหารเป็นเวลาทั้ง 3 มื้อ และปริมาณพออิ่มเกือบเท่าๆ กันทุกมื้อเพื่อรักษาระดับพลังงานของร่างกาย และพยายามเลี่ยงการอดอาหารเป็นเวลานาน ซึ่งจะนำไปสู่อาการหิวมากเกินไป จนอาจทำให้กินมากเกินไป และส่งผลต่อการจัดการระเบียบร่างกาย อีกทั้งเธอไม่ได้จำกัดประเภทของอาหารอย่างเคร่งครัด และไม่ได้หลีกเลี่ยงขนมปัง ข้าว หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่เน้นที่ความสมดุลของสารอาหารโดยรวม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาหารจะพยายามเน้นอาหารเดิมๆ เช่น ผักสด ผลไม้ และโปรตีนคุณภาพสูง เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ โปรตีนที่กินมากที่สุด ได้แก่ อกไก่ ปลาแซลมอน เต้าหู้ ไข่เป็นต้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดเวลาความรู้สึกอิ่ม รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และเลี่ยงความเสี่ยงจากการกินมากเกินไป

 

นอกจากนี้ เธอยังจะพยายามเตือนตัวเองให้เคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ เคี้ยวคำละอย่างน้อย 10 ถึง 20 ครั้ง เพื่อให้อาหารละเอียด และการเคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ ช่วยให้สมองได้รับข้อมูลอิ่มได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนได้ ในทางกลับกัน การเคี้ยวอาหารช้าๆ จะช่วยลดภาระในการย่อยอาหารในทางเดินอาหารได้ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารของร่างกาย และช่วยให้ร่างกายรักษาระดับการเผาผลาญให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุด

 

ว่างแล้วต้องหาเวลาออกกำลังกาย
เธอมักจะออกกำลังกายด้วยการ จ็อกกิ้งสลายไขมันแบบอยู่กับที่ 40 นาทีทุกวัน การออกกำลังกายวิ่งแบบแอโรบิกจะช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยการยกน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายกระชับและได้สัดส่วนมากขึ้น

และอีกเรื่องที่สาวๆ บางคนกังวลว่าการยกน้ำหนักจะทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว นอกจากอุปกรณ์กีฬาแล้ว การฝึกยกน้ำหนักแบบปานกลาง เช่น การสควอท การบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เดดลิฟต์ ดัมเบลฯลฯ จะไม่ทำให้การออกกำลังกายมีความเข้มข้นสูงเกินไป ในทางกลับกัน การฝึกแบบนี้ยังช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและปรับปรุงการเผาผลาญพื้นฐานเพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่ผอมเพรียวได้ง่ายอีกด้วย

 

นวดขจัดอาการบวมน้ำ
เพื่อให้ดูดีในกล้องขณะทำงาน อีซองคยองเล่าว่าเธอมีนิสัยชอบนวดก่อนนอน เนื่องจากลักษณะงานของเธอ กิจวัตรประจำวันของเธอจึงไม่ได้ตายตัวนัก แม้ว่าเธอจะใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการบวมน้ำได้

 

ดังนั้น เธอจึงชอบนวดกระตุ้นระบบน้ำเหลืองในร่างกายด้วยตัวเอง และเร่งการกำจัดน้ำและสารพิษออกจากร่างกาย ไม่เพียงแต่ช่วยให้รูปร่างกระชับขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาอาการบวมและรู้สึกไม่สบายที่เกิดจากอาการบวมน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

Photo: heybiblee


รวม 6 กระเป๋าไอคอนิก Loewe ที่ยังคงครองใจแฟชั่นนิสต้า ควรค่าแก่การครอบครอง

account_circle

การอำลาตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ โจนาธาน แอนเดอร์สัน ทำให้ Loewe ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อีกครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงคือเสน่ห์อันไร้กาลเวลาของกระเป๋า Loewe ที่เป็นตำนาน

Loewe เป็นที่รู้จักในด้านงานฝีมือชั้นเลิศและวัสดุสุดหรูมานานหลายทศวรรษ ทำให้กระเป๋าของแบรนด์นี้เป็นที่ต้องการของเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก แบรนด์ก่อตั้งขึ้นในปี 1846 โดยกลุ่มช่างฝีมือในกรุงมาดริด ก่อนที่ Enrique Loewe Roessberg ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหนังจากเยอรมนีจะเข้ามาสานต่อและก่อตั้งแบรนด์ Loewe อย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา Loewe ได้รับการยอมรับจนกลายเป็นผู้จัดหาสินค้าให้กับราชวงศ์สเปนในปี 1905

ก้าวเข้าสู่ปี 2013 โจนาธาน แอนเดอร์สัน เข้ารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ และพลิกโฉมแบรนด์ให้โดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะไลน์แอคเซสซอรี่ที่สร้างสรรค์กระเป๋าดีไซน์ล้ำสมัยมากมาย โจนาธาน กล่าวถึงช่วงเวลา 11 ปีของเขาว่า “ผมโชคดีที่ได้ทำงานร่วมกับทีมที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ความสามารถ และความมุ่งมั่น ที่พร้อมจะทำให้ทุกไอเดียสุดบ้าคลั่งของผมกลายเป็นจริง”

หนึ่งในผลงานระดับตำนานของเขาคือ Puzzle Bag ซึ่งเปิดตัวในปี 2014 และกลายเป็นกระเป๋าแห่งยุคในทันที Kay Barron ผู้อำนวยการฝ่ายแฟชั่นของ Net-a-Porter เปิดเผยว่ากระเป๋า Puzzle ถูกขายไปแล้วกว่า 12,000 ใบในหลายรูปแบบและสีสัน นอกจากนี้ กระเป๋าของ Loewe ยังติดอันดับสินค้าขายดีในหมวดหมู่แอคเซสซอรี่ของ Net-a-Porter ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

แต่ Puzzle Bag ไม่ใช่แค่ใบเดียวที่สร้างตำนานให้ Loewe นี่คือกระเป๋าสุดไอคอนิกที่ยังคงครองใจสายแฟชั่น และจะยังเป็นที่ต้องการต่อไปไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำแบรนด์คนต่อไปก็ตาม

6 กระเป๋าไอคอนิก Loewe ที่ยังคงครองใจแฟชั่นนิสต้า

The Flamenco Bag

กระเป๋าสุดคลาสสิกที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Loewe มาตั้งแต่ยุค 1980s Flamenco Bag ได้แรงบันดาลใจจากกระโปรงของนักเต้นฟลาเมงโก ตัวกระเป๋ามีความนุ่มพริ้วและเดิมทีออกแบบมาพร้อมสายรูดปมเชือก ปัจจุบันมีดีเทลโซ่สุดเก๋ที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบคลัทช์ สะพายไหล่ หรือสะพายข้าง

The Puzzle Bag

Puzzle Bag คือผลงานมาสเตอร์พีซของ โจนาธาน ที่เปิดตัวในปี 2015 และกลายเป็น Game Change ของวงการกระเป๋าลักชัวรี ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นจากการพับเป็นรูปทรงเรขาคณิต นอกจากนี้ กระเป๋ารุ่นนี้ยังได้รับการตีความใหม่หลายครั้งในเวอร์ชันต่าง ๆ เช่น Edge และ Fold

The Paula’s Ibiza Anagram Basket Bag

กระเป๋ารุ่นนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2017 จากความร่วมมือระหว่าง Loewe และ Paula’s Ibiza บูติกชื่อดังบนเกาะอิบิซา ทุกปี Loewe จะเปิดตัวคอลเล็คชั่นแคปซูลที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายฤดูร้อน และหนึ่งในไอเท็มที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือกระเป๋าราฟเฟียที่ให้ลุคสบาย ๆ แต่ยังคงความหรูหรา

The Paseo Bag

กระเป๋าใบนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานเด่นของ Anderson โดย Paseo Bag ได้แรงบันดาลใจจาก Flamenco Bag ด้วยดีไซน์ที่มีหูจับทรงท่อและปมเชือกสุดเนี้ยบ เปิดตัวในคอลเล็คชั่น Spring 2023 และกลายเป็นที่โปรดปรานของแฟชั่นนิสต้าทันที ด้วยรูปทรงแนวยาวสไตล์ east-west ที่ดูโฉบเฉี่ยว

The Hammock Bag

หากพูดถึง Loewe สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นคือการออกแบบที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับฟังก์ชันการใช้งาน Hammock Bag เปิดตัวในปี 2016 และมีดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามต้องการ สามารถกางข้างออกเพื่อให้ดูเหมือนเปล หรือพับเก็บด้านข้างให้ได้ลุคที่กะทัดรัดขึ้น

The Gate Bag

เปิดตัวบนรันเวย์ Spring 2018 สำหรับ Gate Bag กระเป๋ามีความเรียบหรูแต่แฝงด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ตัวกระเป๋ามาพร้อมดีเทลปมเชือกสุดประณีต และหมุดโลหะด้านข้าง สายสะพายเป็นผ้าแจ็คการ์ดพิมพ์โลโก้ Loewe ขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มความโมเดิร์นให้กับกระเป๋าคลาสสิกใบนี้

กระเป๋าของ Loewe โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างมรดกทางแฟชั่นและความทันสมัย ซึ่งเป็นเหตุผลที่เหล่าคนดังอย่าง Zendaya, Emily Ratajkowski และ Ayo Edebiri ต่างเลือก Loewe เป็นหนึ่งในแบรนด์กระเป๋าประจำตัวของพวกเธอ แม้ว่า โจนาธาน จะโบกมือลาแบรนด์ไปแล้ว แต่ความสง่างามและความเป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋า Loewe ยังคงอยู่ต่อไป

ไม่ว่าคุณกำลังมองหากระเป๋า Loewe สักใบเพื่อการลงทุน หรือเพียงต้องการชื่นชมความงามของแบรนด์ กระเป๋าเหล่านี้คือเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์แฟชั่นที่หรูหราและไร้กาลเวลา เราอาจต้องบอกลายุคของ โจนาธาน แต่อนาคตของ Loewe นั้น ยังคงน่าจับตามองไม่แพ้กัน

ข้อมูล : Marie Claire

ภาพ : Loewe


สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จฯ เยือน “Colors of Buriram” งานผ้าไทยแห่งปี

Alternative Textaccount_circle

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จฯ ทอดพระเนตรงานผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “Colors of Buriram”  จัดโดยจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อสืบสานและต่อยอด จากโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ด้วยความตั้งใจที่จะถ่ายทอดผ้าไทยในมุมมองใหม่ ให้มีความทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และเหมาะสำหรับทุกช่วงวัย และภายในงานยังได้ถ่ายทอดประวัติศาสตร์และกระบวนการหัตถกรรมในการทอผ้า อันเป็นเอกลักษณ์และศิลปวัฒนธรรมของชาวบุรีรัมย์ เพื่อส่งต่อวัฒนธรรมของคนหลากหลายเจนเนอเรชั่น

 

 

โดยคอนเซ็ปต์ของงานในครั้งนี้คือ “The Gradients” เป็นแนวคิดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อพาผู้เข้าชมเดินทางผ่านเรื่องราวอันรุ่มรวยของวิวัฒนาการผ้าไหมไทย การเดินทางครั้งนี้ถูกถ่ายทอดผ่านห้องจัดแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยแต่ละโซนนำเสนอแง่มุมที่แตกต่างกัน ได้แก่

 

  • The Traditions ดินแดนแห่งมรดกอันทรงคุณค่าของผ้าไหมไทยเผยโฉมอย่างงดงาม เปิดประสบการณ์ดื่มด่ำไปกับความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพัฒนาการทางศิลปะของผ้าไหมไทย

 

 

  • The Cultivation in Fashion วิวัฒนาการอันพลิ้วไหวของผ้าไหมไทยในโลกแฟชั่นร่วมสมัย โดยเน้นการผสมผสานเข้ากับงานออกแบบสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และสร้างเสน่ห์ให้กับแฟชั่นยุคปัจจุบัน
  • The Cultivation in Creative Lifestyle นวัตกรรมการนำผ้าไหมไทยมาประยุกต์ใช้กับเครื่องประดับและของใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเน้นแนวคิด Up-cycling และการสร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ เพื่อต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

 

 

  • The Reclamation and Innovation แนวคิดสำคัญสองประการ คือ การอนุรักษ์ผ้าไหมไทยโบราณ ควบคู่ไปกับการค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมผ้าไหมในยุคปัจจุบันทั่วประเทศไทย
  • See Now, Buy Now Section ดื่มด่ำกับโลกแห่งสิ่งทอไทยผ่านการคัดสรรผืนผ้าไหมคุณภาพเยี่ยมจากช่างทอท้องถิ่นโดยตรง ที่เราสามารถเลือกซื้อผ้าไหมลวดลายพิเศษที่จัดแสดงในนิทรรศการ

 

 

สำหรับใครที่อยากเข้าร่วมชมงาน สามารถไปเยือนได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 16 เมษายน 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ สนามฟุตบอล ช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์

 

havaianas พา Gigi Hadid พลิกโฉมรองเท้าแตะสู่ไอคอนแห่งแฟชั่นระดับโลก

account_circle

 

รองเท้าแตะจะไม่ได้เป็นเพียงไอเท็มสำหรับวันหยุดอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นหนึ่งในไอเท็มแฟชั่นที่มาแรงที่สุด โดยหยิบแรงบันดาลใจจากรองเท้าแตะ ทรง thong sandals มาออกแบบเป็นไอเท็มสุดล้ำ เป็น Must-Have Item ล่าสุด ของ havaianas ที่ตอกย้ำสถานะของแบรนด์ในการเป็นผู้นำแฟชั่นด้านรองเท้าแตะ ด้วยการคว้าตัว Gigi Hadid ซูเปอร์โมเดลระดับโลกมารับตำแหน่งแอมบาสเดอร์ระดับโกลบอล สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งแฟชั่นที่ผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

 

 

havaianas พร้อมที่จะสร้างนิยามใหม่ให้กับรองเท้าแตะ ด้วยดีไซน์ที่คลาสสิก-ไร้กาลเวลา แสดงให้เห็นว่าความเรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์คือเสน่ห์ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย และเมื่อกระแสรองเท้าแตะกำลังพุ่งทะยานสู่โลกแฟชั่น havaianas คือผู้นำเทรนด์ที่กำลังสร้างปรากฎการณ์ใหม่ และการได้ Gigi Hadid มาร่วมเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งนี้ คือการตอกย้ำว่า havaianas คือรองเท้าแตะที่แฟชั่นนิสต้าทั่วโลกต้องมี!

Gigi Hadid จะเป็นการเปิดแคมเปญของ havaianas ตลอดปี 2025 ถ่ายทอดเสน่ห์ของรองเท้าแตะที่ทุกคนหลงรัก ผ่านไอเท็มยอดฮิตอย่าง Brazil Logo และ Slim Point พร้อมพาแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกสัมผัสกับมิติใหม่ของรองเท้าแตะที่เกินกว่าคำว่า “ลำลอง”

 

 

“การได้ร่วมงานกับ havaianas เป็นอะไรที่พิเศษมาก ทั้งน่าตื่นเต้นและชวนให้คิดถึงวันเก่า ๆ” Gigi กล่าว “ฉันโตมากับทะเล และรองเท้าแตะ havaianas เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตเสมอ ตอนนี้ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะพา havaianas ไปกับฉันทุกที่ ตั้งแต่ปารีสไปจนถึงนิวยอร์ก และแน่นอนว่าบนชายหาด”

ความร่วมมือระหว่าง havaianas และ Gigi Hadid ครั้งนี้ ไม่เพียงเสริมให้ havaianas ก้าวสู่เวทีระดับโลกในฐานะสัญลักษณ์แห่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ แต่ยังยกระดับรองเท้าแตะให้เป็นไอเท็มที่ต้องมี ด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานความสวยงาม ทันสมัย และเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ตอกย้ำความโดดเด่นของแบรนด์  havaianas ในฐานะแบรนด์รองเท้าแตะชั้นนำที่คุณไม่ควรพลาด

รองเท้าแตะรุ่น Slim Point ราคา 1,390 บาท และ Brazil Logo ราคา 1,090 บาท ที่ Gigi สวมใส่ในแคมเปญนี้ มีวางจำหน่ายแล้วที่  https://havaianas.co.th/collections/gigi รวมถึงร้านค้า havaianas ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านแฟรนไชส์ที่ร่วมรายการ

 

Dior เผยภาพลักษณ์ขบขันผ่าน แคมเปญ D-Journey Bag

Alternative Textaccount_circle

ถือเป็นภาพลักษณ์ใหม่ๆ ในวงการแฟชั่นโดยเฉพาะแบรนด์ระดับลักชัวรี่ เพราะล่าสุด Dior แบรนด์ที่สะท้อนตัวตนความเฟมินีน ได้พลิกอีกมุมที่มีความขบขันให้เราเห็นผ่านแคมเปญ “Introducing Dior D-Journey Bag”

แคมปเปญนี้เริ่มต้นด้วยการโยนโจทย์หัวข้อใหญ่ว่า “การหากระเป๋าที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นเรื่องท้าทาย” เพราะในแต่ละวันเราคงมีของเต็มไม้เต็มมือให้ถือ จะมาคอยถือกระเป๋าด้วยก็เหมือนจะเกะกะเกินไป หรือบางวันที่ต้องการใส่ของในกระเป๋าเยอะๆ เทรนด์กระเป๋าใบจิ๋วในอดีตก็ไม่ตอบโจทย์เสมอไป Dior จึงนำกระเป๋า 2 รุ่นมาเปรียบเทียบผ่านแคมเปญ นั่นคือรุ่น Saddle Bag และ D-Journey Bag โดยกระเป๋ารุ่นใหม่นี้สามารถใส่ได้ทุกอย่างเท่าที่ต้องการ จนแบรนด์เปรียบเทียบว่ากระเป๋าเหมือนบ้านหลังที่สอง

พร้อมทั้งกระเป๋ารุ่นดังกล่าวไม่จำเป็นต้องถืออีกต่อไป แต่สามารถนำมาสะพาย Crossbody ได้อย่างง่ายดาย คราวนี้ก็หมดปัญหาที่มือหนึ่งต้องหิ้วกระเป๋าอีกต่อไป หรือในโอกาสสำคัญก็สามารถเปลี่ยนเป็นคลัทช์ได้เช่นกัน และความขบขันสุดท้าย D-Journey Bag ใบนี้ยังช่วยกดจุดได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นแคมเปญรูปแบบใหม่ในวงการแฟชั่นลักชัวรี่เลยทีเดียว


รูปภาพ: Christian Dior

พระเอกเกาหลีใต้

ใครจะขึ้นแท่น พระเอกเกาหลีใต้ ค่าตัวสูงสุดคนต่อไป?

Alternative Textaccount_circle
พระเอกเกาหลีใต้
พระเอกเกาหลีใต้

เป็นประเด็นที่ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่องสำหรับกรณี “ไม่หยุดแถแฉอีก” ของอดีตพระเอกขวัญใจสาวๆ  คิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun) ซูเปอร์สตาร์ชายแถวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ที่ตอนนี้กำลังถูกสาปอย่างหนักหลังครอบครัวของนักแสดงหญิง คิมแซรน ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ในอดีต พร้อมเบื้องหลังการเสียชีวิตที่มาจากการกดดันของบริษัท Gold Medalist ต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน  ซึ่งจากเรื่องราวที่บานปลายในครั้งนี้ ทำให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของนักแสดงชายอย่างรุนแรง ทั้งแฟนคลับไม่สนับสนุนต่อ รวมถึงแบรนด์ต่างๆ ตัดสินใจยกเลิกสัญญาธุรกิจ ส่งผลให้ตอนนี้พระเอกดังทนไม่ไหวต้องหนีออกนอกประเทศ โดยยังไม่มีรายงานว่าเขาจะกลับมาเผชิญหน้ากับเรื่องดังกล่าวเมื่อไหร่

และจากเรื่องดังกล่าวนี้ ถ้าหาก คิมซูฮยอน ออกจากวงการบันเทิงจริงๆ การจัดอันดับนักแสดงชายที่มีค่าตัวแพงที่สุดในเกาหลีใต้ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นมาดูกันว่า ใครจะขึ้นแท่นพระเอกค่าตัวสูงสุดคนต่อไป

เปิดค่าตัว พระเอกเกาหลีใต้  ใครจะขึ้นแท่นพระเอกค่าตัวสูงสุดคนต่อไป?

พระเอกเกาหลีใต้

อีจองแจ (Lee Jung Jae)  

อันที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะย้อนกลับไปในปี 2022 คิมซูฮยอนได้เสียแชมป์ให้กับพระเอกรุ่นใหญ่ อีจองแจ นักแสดงนำจาก Squid Game โดยในซีซั่น 1  อีจองแจได้รับค่าเหนื่อยเพียง 300 ล้านวอน แต่เพราะความสำเร็จจากผลงานนี้ ทำให้ในซีซั่น 2 เขาได้รับเงินมากขึ้นกว่าเดิมเป็น 1,000 ล้านวอนต่อ 1 ตอนเลยทีเดียว

พระเอกเกาหลีใต้ 001

อีมินโฮ (Lee Min Ho)

อีกหนึ่งพระเอกที่ค่าตัวแรงไม่แพ้ใครก็คือพระเอกเจ้าของฉายาจูบสมจริง อีมินโฮ โดยในปี 2022 นักแสดงหนุ่มได้มีผลงานซีรีส์ อเมริกา Pachinko  ที่ผลิตโดย Apple TV สำหรับเรื่องนี้ไม่เพียงเส้นเรื่องหลักจะเข้มข้นเท่านั้น แต่บทเลิฟซีนยังร้อนแรงสุดๆ ไม่แปลกใจที่งานนี้พระเอกดังจะฟันค่าตัวไปถึง 1,000 ล้านวอนต่อ 1 ตอน

พัคโบกอม (Park Bo Gum)

จากนักแสดงสมทบที่ได้รับบทเล็กๆ ในซีรีส์ ปัจจุบัน พัคโบกอม กลายเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยรูปลักษณ์หล่อเหล่าและความสามารถครบเครื่อง โดยเฉพาะผลงานล่าสุด  When Life Gives You Tangerines โบกอมพลิกคาแร็คเตอร์ที่แตกต่างไปจากที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ว่ากันว่าเพราะความทุ่มเทอย่างสุดตัวทำให้ โบกอม ได้รับค่าเหนื่อยจากเรื่องนี้สูงถึง 500 ล้านวอน

พัคฮยองชิก (Park Hyung Sik)

ชาวเน็ตหลายคนมักดูถูกว่าไอดอลที่เบนเข็มไปเป็นนักแสดงมักไม่ประสบความสำเร็จ แต่ พัคฮยองชิก สมาชิกวง ZE:A กลับเป็นศิลปินที่ไปไกลเก่าการคาดเดา โดยเฉพาะผลงาน Dr. Slump ที่นักแสดงหนุ่มทุ่มเทความสามารถอย่างสุดตัว และได้รับค่าเหนื่อยมากถึง 500  ล้านวอนต่อ 1 ตอน

ชเวมินชิก (Choi Min Sik)  

ชเวมินชิก คือนักแสดงระดับตำนาน  เขาเป็นที่รู้จักจากบทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Oldboy , I Saw the Devil, The Admiral: Roaring Currents  และ Lucy  แม้ว่าปัจจุบันเขาจะอายุมากแล้ว ฝีมือการแสดงยังเป็นที่ยอมรับ โดยในปี 2022 เขา ได้รับค่าเหนื่อย 350  ล้านวอนต่อ 1 ตอน จากผลงานการแสดงเรื่อง Casino

ซงจุงกิ (Song Jong Ki)

อีกหนึ่งพระเอกที่ค่าตัวขึ้นเรื่อยๆ เลยคงหนีไม่พ้น ซงจุงกิ พระเอกจากซีรีส์ Descendants of the Sun, Arthdal Chronicles, Vincenzo  และ Reborn Rich โดยในปี 2021 มีรายงานว่าเขาได้รับค่าจ้างจากผลงานเรื่อง Vincenzo 200 ล้านวอนต่อตอน ในปีต่อมาผลงานเรื่อง Reborn Rich ค่าตัวของเขาพุ่งขึ้นถึง 300  ล้านวอนต่อ 1 ตอน

จูจีฮุน (Ju Ji hun)

อีกหนึ่งคน จูจีฮุน นักแสดงชาวเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการบันเทิง ด้วยความสามารถทางการแสดงที่หลากหลายและโดดเด่น ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดบทบาทต่างๆ ได้อย่างสมจริงและน่าประทับใจ ว่ากันว่าเขา ได้รับค่าตัวจากการแสดงในซีรีส์เรื่อง Jirisan ไป 250 ล้านวอนต่อ 1 ตอน

ฮยอนบิน (Hyun Bin)

พระเอกฮ็อตตลอดกาล  “ฮยอนบิน” หนึ่งในนักแสดงที่ดังที่สุดของเกาหลีใต้ มีผลงานเป็นที่จดจำมากมายอาทิ My Name Is Kim Sam-soon, Secret Garden, The World That They Live In รวมถึงผลงานขึ้นหิ้ง Crash Landing on You ที่ทำเอาสาวๆ ทั้งเกาหลีและไทยคลั่งไคล้กันยกใหญ่ โดยจากการหาข้อมูลพบว่าเขาได้รับค่าจ้าง 150  ล้านวอนต่อ 1 ตอน จากการแสดงในผลงานชิ้นนี้

อีบยองฮอน (Lee Byung Hun)

พระเอกตัวท็อปที่เคยไปโกอินเตอร์ในฮอลลีวู้ด “อีบยองฮยอน” นักแสดงชายจากละครเรื่อง “Mr. Sunshine” ได้รับค่าตัวการแสดงจากเรื่องดังกล่าวอยู่ที่ตอนละ 150 ล้านวอน ต่อ 1 ตอน ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างมีเนื้อหาที่ยาวถึง 24 ตอน  ดังนั้นเขาจึงรับทรัพย์จากเรื่องนี้ไปไม่ต่ำกว่า 3,600 ล้านวอน เลย

อีซึงกิ (Lee Seng ki)

ปิดท้ายที่พระเอกฝีมือดีเจาะใจคนทุกเพศทุกวัย อีซึงกิ นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ โดยเฉพาะผลงานบู๊ๆ  ที่เรียกว่าจ้างร้อยเล่นล้าน ด้วยทักษะการแสดงที่ครบเครื่องจึงมีรายงานว่า อีซึงกิ ได้รับค่าจ้าง 100 ล้านวอน ต่อ 1 ตอน จากการเล่นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ Vagabond

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

วาสนา อินทะแสง

เปิดอาณาจักรส่วนตัว 200 ล้านกลางขุนเขาของ เมย์-วาสนา อินทะแสง

account_circle
วาสนา อินทะแสง
วาสนา อินทะแสง

ฉบับนี้พิเศษอีกแล้วกับคิวเปิดบ้าน มาดามเมนี่ – ดร.วาสนา อินทะแสง ซีอีโอไซส์ S หัวใจ XL เจ้าของอาณาจักรรีโว่เมด กรุ๊ป ที่ขอเวลาพักเบรกหนีความวุ่นวายของข่าวคราวร้อนๆ และฝุ่นพิษชวน แพรว  มารับลมที่บ้านเขาใหญ่บนเนื้อที่ 2 ไร่ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

บ้านฮีลใจ   

“ก่อนหน้านี้เมนี่มีเพนท์เฮาส์ที่เขาใหญ่แล้ว แต่มองหาบ้าน เพราะชอบว่าอากาศเย็นสบาย อยู่ใกล้กรุงเทพ ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ ยิ่งปีนี้จะเปิดมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ซึ่งในอนาคต มูลค่าที่ดินแถบนี้จะสูงขึ้นอีก

หลังจากตระเวนดูบ้านเดี่ยวตามโครงการต่างๆ นานพอสมควร ก็มาชอบบรรยากาศโซนบ้านเดี่ยวของโครงการเมอเวนพิค เขาใหญ่ ซึ่งเป็นเชนสำคัญของโรงแรมและรีสอร์ทระดับโลก จากบ้านมองเห็นวิวเทือกเขาแบบพาโนรามา ถือเป็นโครงการที่มีภูมิทัศน์ดีแห่งหนึ่งในเขาใหญ่

“นอกจากโลเคชั่น เมนี่ยังชอบดีไซน์บ้านที่เป็นสไตล์ Modern European Cottage  มีความเป็นยุโรปร่วมสมัยแบบอังกฤษผสมกับคอตเทจแบบนิวซีแลนด์ มีทั้งความโมเดิร์น คลาสสิก และอยู่เหนือกาลเวลา คือเมนี่ไม่ได้ชอบตึกโมเดิร์นจัดๆ หรือหรูหราเกินไป ประกอบกับโทนสีของบ้านที่เน้นความเป็นเอิร์ธโทน ทำให้รู้สึกความอบอุ่น ผ่อนคลาย ถ้าดูจากภายนอกเหมือนเราอยู่ยุโรป แต่พอเข้ามาในบ้านเหมือนวิลล่าที่มีสระว่ายน้ำ เรียกว่าถูกใจไปหมด (ยิ้ม)

“ด้วยสถาปนิกต้องการให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ตั้งแต่เปิดประตูบ้านเขามา จะได้รับลมเย็นๆ จากฝั่งเทือกเขา แล้วถ้ามองจากด้านหน้าจะเหมือนเป็นบ้านชั้นเดียว แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบว่า ส่วนที่เรามองเห็นจากด้านนอกนั้นคือชั้น 2 ของบ้าน”

“บ้านหลังนี้มี 5 ห้องนอน โดย Master Bedroom หรือห้องนอนของเมนี่อยู่ชั้น 2 ฝั่งขวา ถ้าเปิดประตูตรงระเบียงออกไป จะเห็นสวนแบบมุมท็อป และวิวเทือกเขาแบบพาโนรามาสวยมา…ก แล้วยังมี Walk in Closet กับห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่สามารถนอนแช่น้ำชมวิวแบบที่ทำไม่ได้ที่กรุงเทพ (หัวเราะ) เรียกว่าบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมภายนอกจะช่วยได้มากเวลาทำงานเหนื่อยๆ  หรือถ้าเปลี่ยนพื้นที่มาทำงานท่ามกลางต้นไม้ เทือกเขา และอากาศดีๆ ก็ถือเป็นการชาร์จแบต ช่วยให้ฮอร์โมนเซโรโทนิน หรือฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมา การทำงานของเราจะยิ่งมีคุณภาพ (ยิ้ม)

“ส่วนด้านซ้าย เป็นพื้นที่ของ 3 ห้องนอน สำหรับครอบครัว กับเพื่อนๆ  ชั้นล่าง เป็นห้องนอนสำหรับแขกผู้ใหญ่จะได้ไม่ต้องเดินมาก กับเป็นพื้นที่ของโซนห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวที่เชื่อมถึงกัน

“ส่วนการตกแต่งภายใน อย่างบ้านเมนี่ที่กรุงเทพ ให้คะแนนความชอบประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีข้าวของเต็มไปหมด แต่ที่นี่คือลงตัว ไม่เยอะหรือน้อยเกินไป พยายามเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ไปกันได้ดีกับโทนของบ้าน สีสันไม่จัดจ้าน เน้นดีไซน์เรียบ หรูและการใช้งาน อย่างประตูกระจกเป็นแบบบานเฟี้ยม ที่สามารถพับเปิดได้หมดทั้งบาน เพื่อรับลมชมวิวสระว่ายน้ำ และสวนสวย จุดนี้สามารถจัดปาร์ตี้เอาท์ดอร์ สำหรับแขกประมาณ 20-30 คน ได้สบายๆ

“สำหรับห้องครัว มีทั้งครัวฝรั่ง ที่อยู่พื้นที่เดียวกับห้อง Living Room แล้วยังมีครัวไทย ที่ดีไซน์แบบครัวในโรงแรมเลย ถือว่าลงตัวทุกอย่างสำหรับการมาพักผ่อน ทำให้ทุกครั้งที่มาบ้านหลังนี้เหมือนได้ชาร์จพลัง ถือเป็นบ้านตากอากาศในฝันเลยค่ะ

“ช่วงไหนว่างจากงาน เมนี่จะตรงมาที่นี่ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวมาบ่อยมาก เมนี่มีบ้านพักตากอากาศหลายแห่ง สำหรับที่เขาใหญ่มีสองหลัง คือบ้านนี้กับเพนท์เฮ้าส์ของโครงการนี้เช่นกัน”

Mediterranean Garden 

            สำหรับสวน มาดามเมนี่ยกหน้าที่ให้กับนักจัดสวนอันดับหนึ่งของประเทศ คุณวิทย์-ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง แห่ง Little Tree Garden เช่นเดียวกับบ้านหลังอื่นๆ ของเธอ

            “สวนเป็นสไตล์ Mediterranean เพื่อให้เข้ากับดีไซน์บ้านและบรรยากาศเขาใหญ่ ด้วยโจทย์ของพื้นที่มีความเป็นเนิน ไหล่เขา ที่ค่อนข้างชัน จึงทอนพื้นที่ให้เป็นสเต็ปลงมาเรื่อยๆ นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังจะได้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเดินเล่น หรือตั้งโต๊ะจัดเลี้ยง สำหรับงานปาร์ตี้เอาท์ดอร์ได้ 

            “ด้วยพื้นที่บ้าน 2 ไร่ ถ้าเราลงต้นไม้ไม่ใหญ่มาก และจำนวนไม่เยอะ อาจถูกบรรยากาศรอบๆ กลืนหายไป จึงต้องนำต้นไม้ไฮไลท์มาไว้ใกล้ระยะสายตา อย่าง ต้นโอลีฟขนาดใหญ่อยู่ข้างสระว่ายน้ำ ส่วนสนไซเปรสปลูกติดเป็นแนวกั้นซ้ายขวาระหว่างพื้นที่บ้านกับสนามกอล์ฟ ซึ่งถ้ารอให้โตเต็มที่จะสูงประมาณ10 เมตร ลำต้นใหญ่เท่าสองคนโอบเลยทีเดียว

            “คุณวิทย์แนะนำพันธุ์ไม้ที่มีความหลากหลาย เหมาะกับพื้นที่ ดูแลง่าย อย่าง อากาเว่ โรสแมรี่ รัสเซียนเสจ พวงคราม สามารถอยู่ในที่อากาศแห้งได้ดี ส่วนสีสันเน้นโทนพาสเทล ม่วง ขาว ฟ้า กับใส่ดีเทลดอกไม้ เพื่อเป็นสีสันในแต่ละซีซั่น คือทุกต้นไม่ได้บานพร้อมกัน อย่าง หน้าร้อนเป็นโรสแมรี่ รัสเซียนเสจ ช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาเว่จะแข่งกันออกดอกสวยมาก และหน้าหนาว เป็นช่วงเวลาที่พวงครามผลิดอกเยอะสุด เวลามาบ้านทุกครั้งจะมีอะไรให้ตื่นตาได้ตลอด แม้แต่ไม้ใบก็มีความเขียวหลายเฉด เขียวอมเทา เขียวเข้ม เขียวอ่อน กลายเป็นเสน่ห์ของสวนตามธรรมชาติ”

 อัพเดท(วิกฤต)ชีวิต

ช่วงอาทิตย์ก่อนที่จะมีนัดกับแพรว ชื่อมาดามเมนี่ เป็นที่พูดถึงอย่างวงกว้างจากข่าวดาราสาวขอยืมเครื่องประดับและข้าวของอื่นๆ หลายสิบล้านบาท จึงต้องขออัพเดทกันเบาๆ 

 “ช่วงนี้เจอมรสุมค่ะ (หัวเราะ) จู่ๆ ก็กลายเป็นมาดามเมนี่ ตอนนี้ข่าวไปเกินความจริงมากพอสมควร เมนี่ขอยังไม่พูดอะไรมาก แค่อยากพูดถึงคนที่เข้ามาติดตามและชื่นชมในสไตล์การทำงาน ในความอดทน และสู้ชีวิตของเมนี่นะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ให้กำลังใจและติดตามไลฟ์สไตล์ และเห็นเมนี่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน

“จากที่เห็นไลฟ์สไตล์ของเมนี่ทางสื่อโซเชียล อยากจะบอกว่า ไม่ได้มีมากขนาดนั้น ไม่ได้รวยระดับหมื่นล้าน แต่เป็นคนสุดโต่งมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะซื้อของให้ตัวเอง หรือของกินต่างๆ คือเป็นคนที่ค่อนข้างสุดทุกเรื่อง

“แพรวรู้จักเมนี่มานาน เห็นกันตั้งแต่ก่อร่างสร้างตัว จากสร้อย SERPENTI (เครื่องประดับไอคอนิครูปงูของ Bvlgari) ตัวเล็ก เส้นละ 4-5 ล้านบาท จนขยับขยายมาเป็นเส้นละ 20 กว่าล้านบาท เพราะเราเห็นกันมาตลอดจึงไม่มีใครแปลกใจในความเป็นเมนี่ ปัจจุบันเมนี่ดูแลหลายธุรกิจมาก แต่ตำแหน่งหลักๆ คือซีอีโอ บริษัท รีโว่เมด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีธุรกิจในเครือหลายบริษัท และกำลังจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ในเร็วๆ นี้ สำหรับความตั้งใจของปีนี้ เมนี่อยากยกระดับอุตสาหกรรม Health&Beauty ของโรงงานประเทศไทยให้มีความโกลบอลจริงๆ เจาะตลาดจีน อเมริกา และยุโรป ให้สำเร็จ

“ตอนนี้กำลังทำโปรเจ็กต์ใหญ่เกี่ยวกับ Anti-aging หรือ Wellness ที่เป็นระดับโกลบอล ทำร่วมกับหุ้นส่วนชาวนิวซีแลนด์ อยากฝากให้ทุกคนติดตาม เป็นอีกโปรเจ็กต์ที่เมนี่หมายมั่นปั้นมือมากๆ

“สำหรับเมย์ความสำเร็จที่ผ่านมาขึ้นอยู่กับช่วงเวลา สมัยเด็ก เมนี่ทุ่มเท และเต็มที่กับทุกงานที่ทำ ถ้าจะล้างจานก็ใส่ใจล้างให้ดี ถ้าจะเสิร์ฟอาหาร ก็ต้องใส่ใจในสิ่งที่เราจะส่งให้ลูกค้า เมนี่เคยเห็นฝุ่นที่จานลูกค้าแล้วขอเปลี่ยนจานให้เขา ลูกค้าให้ทิปมาเลยสามพันบาท นั่นสะท้อนถึงความใส่ใจ สุดท้ายสิ่งเหล่านี้จะเป็นเกราะป้องกันเรา แล้วต้องเป็นคนที่เรียนรู้ตลอดเวลา อย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว เมื่อมาถึงวันหนึ่งที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์ สามารถต่อยอดแล้วแปลงมาเป็นทุนได้ เอาเงินมาต่อเงิน เมนี่บอกเลยว่าเงินหนึ่งล้านแรกหายากว่าเงินร้อยล้านพันล้าน เพราะเราได้มาจากการเก็บออม การประหยัด ค่อยๆ สะสม แล้วนำประสบการณ์มา ความเก๋าเกม และคอนเน็คชั่นมาต่อยอด อีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จคือ ต้องหา Unique Selling Point (จุดขายที่ไม่เหมือนใคร) ของตัวเองให้เจอ

“สำหรับเมนี่คือ ขยัน จริงใจ มีวินัย และใส่สุดค่ะ”


คอลัมน์ Luxury Living ฉบับ 1016 เดือน มีนาคม 2025  เรื่อง : กิดานันท์                                                             

ภาพ : อิทธิศักดิ์ บุญปราศภัย,วรสันต์ ทวีวรรธนะ                          

สไตลิสต์ : ชัญญาภัค เขมพิรัญกิจ

ก้าวใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยวของ เตนล์ ชิตพล กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในบ้านเกิด

Alternative Textaccount_circle

SM Trueและ TEN ร่วมกำหนดนิยามของการแสดงสู่มิติใหม่ที่ทุกคนจะต้องตกตะลึง กับคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรก ณ บ้านเกิด ประเทศไทย 2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT ‘STUNNER’ IN BANGKOKวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2025 เวลา 18:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2025 เวลา 16:00 น. ณ อิมแพ็ค อารีน่า
TEN (เตนล์) หรือ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล เป็นศิลปินเค-ป็อปสัญชาติไทยที่อยู่ภายใต้สังกัด SM ENTERTAINMENT บริษัทบันเทิงชั้นนำของเกาหลีใต้ การเป็น ศิลปินไทยเพียงคนเดียวในค่าย ทำให้ได้รับความสนใจและน่าจับตามองตั้งแต่วันแรกที่เดบิวต์ ตลอดจนการเติบโตและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำกิจกรรมร่วมกับวง NCT (เอ็นซีที) และ WayV (เวย์วี) จนเป็นที่รู้จักระดับโลก ด้วยความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ด้านการแสดงบนเวทีและมุมมองทางศิลปะอันโดดเด่นที่ทำให้ เตนล์ เป็น “ความสมบูรณ์แบบเต็มสิบ” ในวงการบันเทิงอย่างแท้จริง

เส้นทางศิลปินเดี่ยวของเขาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดตัวมินิอัลบั้มชุดแรก ‘TEN’ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 กับการทดลองปรับเปลี่ยนและตีความคาแรกเตอร์ผ่านบทเพลงต่าง ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง อีกทั้งผลงานเดี่ยวก่อนหน้านี้ เช่น ‘夢中夢 (몽중몽; Dream In A Dream)’, ‘New Heroes’, ‘Paint Me Naked’ และ ‘Birthday’ ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของเขาในการสร้างสรรค์งานเพลงที่ผสมผสานความเป็นเลิศทางเทคนิคและแนวเพลงที่มีเอกลักษณ์เข้ากับอารมณ์อันลึกซึ้ง ส่งผลให้เขาได้รับการขนานนามว่า ‘Artistic Performer’ หรือศิลปินที่สามารถถ่ายทอดศิลปะผ่านเสียงเพลงและการเคลื่อนไหวได้อย่างงดงาม ล่าสุด เตนล์ ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้งกับ ภาพลักษณ์ใหม่ในมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘STUNNER’ (สตันเนอร์) ซึ่งเตรียมเปิดตัวในวันที่ 24 มีนาคม 2025 อัลบั้มนี้จะพาผู้ฟังเข้าสู่โลกดนตรีที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง ‘BAMBOLA’ (แบมโบลา) ออกมาล่วงหน้าเพื่อยกระดับความตื่นเต้นให้มากขึ้นก่อนการคัมแบ็ก

ความสำเร็จของ เตนล์ ในฐานะศิลปินเดี่ยวไม่ได้หยุดอยู่แค่ในผลงานเพลงเท่านั้น แต่ยังได้รับการพิสูจน์ผ่านแฟนคอนทัวร์ ‘2024 TEN FIRST FAN-CON [1001]’ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2024 ใน 6 เมืองสำคัญทั่วเอเชีย โดยบัตรขายหมดเกลี้ยงทุกโชว์ ไม่เพียงเท่านี้ TEN (เตนล์) ยังสร้างประวัติศาสตร์กับการขึ้นแท่นเป็น ‘ศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของ SM ENTERTAINMENT ที่จัดแฟนคอนเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบ และบัตรหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง’ สะท้อนให้เห็นถึงกระแสตอบรับอันร้อนแรง

ก้าวไปสู่จุดที่สูงขึ้นในฐานะศิลปินเดี่ยวกับ 2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT ‘STUNNER’ IN BANGKOK ซึ่งจะตอกย้ำสถานะความนิยมและทำให้ เตนล์ กลายเป็น ‘ศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT’ ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่า’ เตรียมสัมผัสช่วงเวลาแห่งการผลิบานและเปล่งประกายอย่างเจิดจรัสที่สุดของ เตนล์ บนเวทีคุณภาพสูงเต็มสิบ กับการแสดงอันพลิ้วไหวในทุกจังหวะ สง่างามราวกับผลงานศิลปะทุกท่วงท่า อัดแน่นไปด้วยพลังทุกการขยับตัว และเต็มเปี่ยมทุกความรู้สึกอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีเพียงแค่ เตนล์ เท่านั้นที่ทำได้ ร่วมด้วยโปรดักชันสุดอลังการที่จะสร้างนิยามใหม่ของการแสดงที่ทุกคนจะต้องตกตะลึงพร้อมสะกดทุกสายตาไว้ที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

เปิดจำหน่ายบัตรรอบสมาชิกในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2025 เวลา 11:00 น. – 15:00 น. เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2025 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศและทางเว็บไซต์ www.allticket.com

“GATEWAY TO THE WORLD THAILAND 2025”

ค่ำคืนแห่งมิตรภาพ “GATEWAY TO THE WORLD THAILAND 2025”

Alternative Textaccount_circle
“GATEWAY TO THE WORLD THAILAND 2025”
“GATEWAY TO THE WORLD THAILAND 2025”

ค่ำคืนแห่งมิตรภาพ THE UNIQUE PRIME CONSULTANT x PRAEW THE MASTER “GATEWAY TO THE WORLD THAILAND 2025”

ถือเป็นค่ำคืนที่รวบรวมนักธุรกิจเจนเนอร์เรชั่นใหม่ระดับท็อปๆ ของประเทศไทยไว้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง สำหรับงาน THE UNIQUE PRIME CONSULTANT x PRAEW THE MASTER “GATEWAY TO THE WORLD THAILAND 2025” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12  มีนาคม 2568 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ สุขุมวิท

สำหรับงานนี้ถือเป็นการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตร THE UNIQUE PRIME CONSULTANT SINGAPORE และ นิตยสารแพรว ที่อยากเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยได้มาพบปะ สร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย เพื่อขยายธุรกิจในระดับนานาชาติ

ทั้งนี้ภายในงาน THE UNIQUE PRIME CONSULTANT x PRAEW THE MASTER “GATEWAY TO THE WORLD THAILAND 2025” มีนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ มาร่วมพบปะเปิดประตูสู่โอกาส

คุณวสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ Excutive Manager Marketing YAN WAL YUN Corporation group . Co.,ltd.,

คุณกรกนก สว่างรวมโชค Chief Executive of SHU GLOBAL

คุณฝันดาว แบ้สกุล Fundao Baesakul CEO FUNDAO

คุณอภินรา ศรีกาญจนา CO-FOUNDER, U DRINK I DRIVE CO LTD FOUNDER, APINARA JEWELLERY

คุณดวงพร ต๊ะปัญญา CEO แห่งบริษัท Figure 8 Pilates

คุณพรปวีณ์ ด่านมิ่งเย็นวงศ์   Creative Director / CEO of Merge

คุณกานต์พิชชา เกียรติขจรฤทธิ์ Head of project manager at divana

คุณศวิษฐ์ อุทัยเฉลิม   CEO ASICS THAILAND

คุณ Nini Wu CEO GWS CLOUD

คุณวิภาพร สัตยาอภิธาน CEO P.J. Garment

คุณSerena Ma President of APAC, Nebulas Jet Management PTE.LTD

คุณ Dr. Polly Hason CEO & Founder of Jiancha และ คุณ PANUWAT WATTANAKITRUNGROJ

CEO & Founder of Jiancha

คุณวัจณา เจริญสมสมัย Founder and designer of ChatoStudio

คุณกัญญฉัชฌ์ เลิศธนไพบูลย์ CEO & Co-Founder of Her Hyness

คุณพรรธกา ขันติธรรมากร  Founder Skin Syrup Co., Ltd

ทั้งนี้ คุณธณาภรณ์ โยวะ CEO of  THE UNIQUE PRIME CONSULTANT ได้มาแชร์ประสบการณ์การขยายธุรกิจไปในระดับสากล รวมถึงข้อมูลอินไซต์ในการบุกตลาดต่างประเทศให้เติบโต

“THE UNIQUE PRIME CONSULTANT เปรียบเสมือนสะพานหรือเครื่องบิน ที่จะพาคุณไปลงทุน ไม่ว่าประเทศใด เราก็สามารถช่วยเหลือให้เจ้าของธุรกิจเปิดตลาดในระดับสากลได้อย่างราบรื่น โดยเป้าหมายในปี 2025 เราตั้งใจจะขยายเรื่องของ พาร์ทเนอร์ คอนเน็คชั่น และการบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในทุกก้าวของความสำเร็จ ”

ขณะที่ คุณ Ken Liew ผู้ร่วมก่อตั้ง Watch Estate Singapore ได้มาร่วมแบ่งปันแนวคิดและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนนาฬิกาอย่างไรให้ได้กำไร รวมถึงการสร้างกำไรจากคนรักนาฬิกา

THE UNIQUE PRIME CONSULTANT มุ่งมั่นที่จะเป็นประตูของนักธุรกิจไทยก้าวสู่ธุรกิจในระดับสากล #UniquePrime #UniquePrimeXPraew#Praewmag

BLYSS

ลิซ่า-แคนดี้-นีญ่า 3 สมาชิกจากวงเกิร์ลกรุ๊ป BLYSS

Alternative Textaccount_circle
BLYSS
BLYSS

BEC MUSIC เปิดตัว BLYSS เกิร์ลกรุ๊ปเบอร์แรก“ลิซ่า-แคนดี้-นีญ่า” 3 สาวแสนซนพร้อมมอบความสุขให้ทุกคน

ถือเป็นอีกหนึ่งค่ายเพลงที่มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ได้ตลอด สำหรับ “BEC MUSIC” ค่ายเพลงของช่อง 3 ล่าสุดเพิ่งปล่อยทีเซอร์เปิดตัว 3 สาว เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ของค่าย ชื่อวง BLYSS (บลิซ) กับการรวมตัวของสมาชิกสาวสวย ซน แซ่บ กระแทกใจ

และแล้วก็ถึงเวลาเปิดตัวเดบิวต์ซิงเกิลแรก “Verified (ติ๊กถูก)” เป็นเพลงสนุก ๆ แนว POP ผสมกับ Hip Hop จากฝีมือโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เบนซ์ วรเชษฏฐ์ ฐานุพงศ์ชรัศ หรือ bnz ซึ่งเนื้อร้องและทำนองอัดแน่นไปด้วยความสนุกสดใส ผสมกับลูกเล่นด้วยท่อนแร็ป และมีคำติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง โดยในเอ็มวีบอกเล่าเรื่องราวความรักแบบน่ารัก ๆ ที่แอบปลื้มผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผู้ชายคนนี้เพอร์เฟคทุกอย่าง ทั้งนิสัยดี และการกระทำที่มีความเป็นสภาพบุรุษมาก จนต้องยกให้เป็นผู้ชาย Green Flag ที่สาว ๆ ทุกคนต้องติ๊กถูกให้ทุกข้อเลย  

BLYSS

โดยทั้ง 3 สาว เปิดใจถึงการทำงานเพลงในครั้งนี้ว่า “พวกเราดีใจและตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้เดบิวต์แล้ว เป็นการทำงานเพลงร่วมกันครั้งแรกที่สนุกมาก ๆ  พวกเราเต็มที่มากค่ะ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ พวกเราซุ่มซ้อมร่วม 2 ปี ถือเป็นความสำเร็จที่พวกเราภูมิใจมาก ๆ การทำงานกับพี่เบนซ์โปรดิวเซอร์ไม่กดดันเลยค่ะ มีความเป็นกันเองมาก และยังช่วยสอนเทคนิคการร้องเพลงให้อีกด้วย

สำหรับตัวลิซ่าจะต้องมีร้องท่อนแร็ปด้วย ความรู้สึกแรกคือยากมาก เพราะไม่เคยร้องแร็ปมาก่อน แต่ด้วยความพยายามและฝึกฝน ทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องเต้นต้องยกให้แคนดี้เลยค่ะ เพราะแคนดี้เต้นเก่งมากและสามารถเต้นได้ทุกแนวเลย แต่ถ้าเรื่องเสียงร้องต้องยกให้นีญ่า เสียงใสกังวานมากค่ะ สำหรับการถ่ายทำเอ็มวีเพลงนี้ สนุกมาก ๆ เป็นการทำงานที่มีความสุขมากค่ะ พี่ ๆ ทีมงานทุกคนใจดีมากช่วยสอนช่วยแนะนำให้ตลอด ส่วนพระเอกเอ็มวีของเราบอกเลยว่าเพอร์เฟคมาก อยากรู้ว่าเป็นใครต้องรอชมนะคะ ฝากทุกคนติดตามเพลงของพวกเราด้วยนะคะ”

เตรียมรอรับความสุขครั้งใหม่จาก 3 สาว BLYSS (บลิซ) ที่พร้อมมาโชว์พลังแสบซ่าแสนซนเขย่าใจแฟนเพลงผ่านซิงเกิลแรก แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้ ได้ทาง Youtube: Ch3Thailand Music และ เว็บไซต์ /แอพพลิเคชั่น 3Plus

“พญ.มัณฑนัส พีระพัฒน์ชัย” (ว.37626) KMB Hospital เผยทริคการดูแลรูปร่าง สร้างได้จากกำลังใจที่ดี

account_circle

ปัจจุบันการดูแลรูปร่างให้สมส่วนไม่ใช่แค่การมุ่งเน้นไปที่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การดูแลตัวเองของคนยุคใหม่ Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงพาไปพูดคุยกับ ‘คุณหมอลูกหนู – พญ.มัณฑนัส พีระพัฒน์ชัย’ (ว.37626)  แห่ง KMB Hospital พิกัดเฉพาะทางด้านการดูแลรูปร่าง เพื่อเจาะลึกเทรนด์และทริคดีๆ ที่ทั้งคนรักสวยและสายเฮลท์ตี้ต้องไม่พลาด!

รู้จัก ‘หมอลูกหนู’ (ว.37626)  แห่ง KMB Hospital  

“ถ้าพูดถึงแค่ส่วนตัวหมอเอง แนวคิดการทำงานตลอดระยะเวลา 16 ปี คือการทำงานด้วยใจรักและรู้สึกชอบ เพราะหมอเชื่อว่าถ้าเราได้ลงมือทำในสิ่งที่รักหรือชอบ เราจะทำอย่างดีที่สุด เต็มที่ที่สุด และผลลัพธ์ที่ตามมาจะทำให้เรามีความสุข ซึ่งแนวคิดนี้ยังส่งผลดีต่อผู้รับบริการด้วย เพราะเมื่อเราให้บริการอย่างเต็มที่ ผู้รับบริการก็จะมีความสุขทั้งจากผลลัพธ์ที่ดีและความพึงพอใจในบริการของเรา

“สำหรับ KMB Hospital เรามุ่งเน้นไปที่เรื่องการดูแลรูปร่าง ซึ่งเป็นการดูแลให้มีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่างสวยเพียงอย่างเดียว แต่เรายังให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพเป็นหลักด้วย เพราะผู้รับบริการส่วนใหญ่มักต้องการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปร่างให้สมส่วน หรือการลดน้ำหนัก แต่สิ่งที่เราอยากให้ผู้รับบริการได้กลับไปมากกว่านั้น คือการทราบถึงสาเหตุของปัญหา เพื่อให้หลังการรักษายังสามารถคงสภาพรูปร่างโดยที่ไม่กลับไปเผชิญกับปัญหาเดิมอีก ซึ่งขึ้นอยู่กับวินัยในการดูแลตัวเองของผู้รับบริการด้วย

“เรียกง่ายๆ ว่าเราช่วยดูแลรูปร่างตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์สาเหตุ วางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล พร้อมติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรูปร่างและสุขภาพที่ดีแบบยั่งยืน และที่สำคัญคือการสร้างกำลังใจให้กับผู้รับบริการ เพราะอีกหนึ่งปัญหาของผู้รับบริการหลายคนคือความวิตกกังวล ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะมีรูปร่างที่ดีขึ้นได้หรือไม่ ดังนั้นการสร้างกำลังใจที่ดีจึงถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักในการบริการของ KMB Hospital ค่ะ”

เรื่องต้องรู้! ดูแลรูปร่างอย่างถูกทาง

“เทรนด์การดูแลรูปร่างในตอนนี้ถือว่าเปลี่ยนไปมาก จากเมื่อก่อนที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แต่ปัจจุบันผู้ชายก็หันมาดูแลรูปร่างกันมากขึ้น ส่วนถ้าวัดจากอายุ เมื่อก่อนวัยรุ่นที่มีระบบเผาผลาญดี ก็จะมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นวัยไหนๆ ก็สนใจในการดูแลรูปร่างตัวเอง เพราะความผิดปกติของน้ำหนักส่งผลต่อสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น หากน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ นอกจากนี้ด้วยข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันยังทำให้ผู้คนตื่นตัวและหันกลับมารักสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

“วิธีดูแลรูปร่างที่คนส่วนใหญ่รู้กันโดยทั่วไป คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย แต่ปัญหาหลักๆ คือบางคนไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยตัวเอง เกิดความท้อหรือหมดกำลังใจ รวมถึงการลงมือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ แล้ว แต่ไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ซึ่ง KMB Hospital จะเข้าไปช่วยหาคำตอบให้ได้ว่าเป็นเพราะอะไร พร้อมวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม โดยหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ ก็อาจจะมีการใช้ยาเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการกินหรือการฉีด รวมถึงบางเคสที่ต้องอาศัยการผ่าตัดกระเพาะอาหารให้มีขนาดเล็กลง หรือใส่บอลลูน ซึ่งเราจะมีการพูดคุยกับผู้รับบริการอย่างละเอียด เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิต แล้ววางแผนการรักษาร่วมกัน นำเสนอข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อนำไปสู่วิธีที่สะดวกและเหมาะสมกับตัวเองที่สุด

“อีกหนึ่งจุดเด่นของ KMB Hospital คือเรามีโปรแกรม Signature Slim ซึ่งเป็นโปรแกรมการรักษาขั้นที่สองสำหรับเคสที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว แต่ยังมีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือไขมันส่วนเกิน โดยเราจะออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถทำได้จริงโดยที่ไม่ต้องฝืนตัวเอง เริ่มจากวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา เช่น พฤติกรรมการนอนหลับที่ไม่เหมาะสม ระบบการขับถ่ายไม่ดี ฮอร์โมนในร่างกายเป็นอย่างไร ซึ่งโปรแกรม Signature Slim จะมีหลากหลายสูตรการรักษา ตั้งแต่ระดับหนึ่งแล้วไต่ระดับการรักษาไปตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล และอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของโปรแกรม Signature Slim คือนอกจากน้ำหนักที่ลดลงแล้ว มวลกล้ามเนื้อจะต้องไม่หายด้วย เพราะมวลกล้ามเนื้อสำคัญมากๆ ต่อร่างกาย ทำให้ระบบเผาผลาญของเราดีขึ้น

“สำหรับอีกหนึ่งตัวช่วยที่ได้รับความสนใจคือ ‘เปปไทด์คุมหิว’ ที่ช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีภาวะรู้สึกหิวตลอดเวลา ทำให้กินเยอะมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ยาก โดยกระบวนการทำงานคือทำให้เกิดความอยากอาหารลดลง รู้สึกอิ่มเร็วและนานขึ้น ในการใช้เปปไทด์คุมหิวจะอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ โดยขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคน บางคนหากมีโรคประจำตัวบางโรคก็จะไม่แนะนำให้ใช้ ส่วนคนที่สามารถใช้ได้ เราจะมีการวิเคราะห์เพื่อประเมินปริมาณและระยะเวลาในการใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน และมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับการใช้ให้เหมาะสม รวมถึงติดตามเรื่องผลข้างเคียงว่ามีหรือไม่ด้วยค่ะ”

ทริคดูแลรูปร่างแบบฮีลใจจาก ‘หมอลูกหนู’ (ว.37626)  

“จากประสบการณ์ของหมอ คำแนะนำที่อยากฝากถึงคนที่กำลังดูแลรูปร่าง ทั้งเพื่อความงามและสุขภาพ สิ่งสำคัญคือการมีวินัยและความสม่ำเสมอในการลงมือทำในทุกๆ วัน โดยอาจเริ่มต้นไปทีละขั้นตอน ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ใช้เวลากับมัน ทำให้เกิดความคุ้นชินจนติดเป็นลักษณะนิสัย ไม่ควรหักโหมจนเกินไป เพราะการลดน้ำหนักแบบผิดวิธีอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ อยากให้เชื่อมั่นในการลดน้ำหนักแบบถูกวิธีที่ถึงแม้จะต้องใช้ทั้งเวลา วินัย ความสม่ำเสมอ แต่ส่งผลดีในระยะยาวและไม่ต้องกังวลว่าจะกลับไปมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานซ้ำอีก

“ที่สำคัญอีกอย่างคือการสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง อย่าคิดไปก่อนว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากจนรู้สึกท้อ อยากให้มองว่าการลดน้ำหนักส่งผลดีกับตัวเอง ทั้งรูปร่างที่ดีขึ้นและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งหมอและ KMB Hospital พร้อมจะเป็นทั้งที่ปรึกษาและกำลังใจที่ดีให้กับทุกคนที่กำลังดูแลรูปร่าง เพื่อช่วยให้ทุกคนมีความสุขกับการดูแลสุขภาพไปด้วยกันค่ะ”


keyboard_arrow_up