เสริมความเฮงปีมะเส็ง ชวนขอพรพระโพธิสัตว์กวนอิม ณ วิหารกวนอิม อี่ ทง เทียน ไท้

account_circle

เมื่อเทศกาลตรุษจีนผ่านไป อีกหนึ่งธรรมเนียมปฏิบัติของเหล่าคนไทย คนจีน และคนไทยเชื้อสายจีน คือการไปสักการะขอพรพระหรือเทพเจ้า และองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่เป็นที่เคารพนับถือ กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล

แพรว จึงขอชวนปักหมุด วิหารกวนอิม อี่ ทง เทียน ไท้ สักการะขอพรองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมโชคลาภ เสริมดวงการงาน เบิกทรัพย์รับพรตลอดปีมะเส็ง โดยสามารถเข้าสักการะได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น. (โถงชั้นใต้ดินเปิด-ปิดเวลา 06.00-18.00 น.) และโดยรอบวิหารฯ มีการประดับโคมไฟตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมทุ่งคอสมอสสีสันสดใสบานสะพรั่งที่สามารถถ่ายภาพเช็กอินแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกบินทร์บุรีได้ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ

วิหารกวนอิม อี่ ทง เทียน ไท้ ตั้งอยู่ด้านหน้าสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี สามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งเส้นทางนครนายก ทางถนนหมายเลข 33 เมื่อเข้าเขตกบินทร์บุรี วิหารจะอยู่ทางซ้ายมือ หรือเดินทางมาจากเส้นฉะเชิงเทราที่มาตามถนนหมายเลข 304 แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกตัดถนนหมายเลข 33 ชิดซ้ายก่อนถึงแยกเพื่อมุ่งหน้าไปยังปราจีนบุรี วิหารฯ จะตั้งอยู่ด้านหน้าสวนอุตสาหกรรมฯ ทางขวามือริมถนนใหญ่มองเห็นได้อย่างชัดเจน

สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ของ วิหาร กวนอิม อี่ ทง เทียน ไท้ ได้ทาง Line OA: @Yitongtiantai , เฟซบุ๊ก วิหารกวนอิม อี่ ทง เทียน ไท้ , อินสตาแกรม @guanyinpavillion และเว็บไซต์ yitongtiantai.com


Neal’s Yard Remedies เปิดตัวไอเท็มใหม่จาก Damask Rose ต้อนรับวาเลนไทน์

account_circle

ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก แบรนด์สกินแคร์ออร์แกนิกจากอังกฤษ Neal’s Yard Remedies เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Morris & Co. X Rehydrating Rose Limited Edition ที่รังสรรค์ขึ้นพิเศษจาก “กุหลาบดามาสก์” โดยร่วมมือกับแบรนด์ Morris & Co. ผู้ออกแบบและผลิตวอลเปเปอร์ชื่อดังสัญชาติอังกฤษที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ ในการออกแบบลวดลายพิเศษบนขวดสีน้ำเงินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลาย Sweet Briar ของ Morris & Co. ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีตสำหรับ Neal’s Yard Remedies เท่านั้น

การเปิดตัวในครั้งนี้ยังเป็นการปรับสูตรใหม่ของผลิตภัณฑ์กลุ่ม Rehydrating Rose เพื่อให้มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลผิวและเติมความชุ่มชื้นที่ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง และการรับรองมาตรฐานออร์แกนิกระดับสูงจาก Soil Association ประเทศอังกฤษ และส่วนผสมสำคัญ Damask Rose จากประเทศบัลแกเรีย แหล่งเพาะปลูกที่ส่งเสริมความยั่งยืน ทั้งยังคงรักษามาตรฐานความเป็นมิตรกับสัตว์และสิ่งแวดล้อม พร้อมความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้าน Luxury Organic Skincare อย่างแท้จริง

กุหลาบดามาสก์ออร์แกนิก ส่วนผสมสำคัญจากหุบเขากุหลาบในประเทศบัลแกเรีย ส่วนผสมหลักในน้ำมันหอมระเหย Rose Otto ของ Neal’s Yard Remedies  ซึ่งถูกเก็บเกี่ยวในช่วงรุ่งสาง ที่กลีบดอกกุหลาบมีน้ำมันมากที่สุด และจะถูกกลั่นภายในไม่กี่ชั่วโมงเพื่อคงคุณสมบัติในการฟื้นบำรุงและปลอบประโลมผิว ทั้ง Rehydrating Rose Face Wash และ Rehydrating Rose Daily Moisture ได้รับการรับรองมาตรฐานออร์แกนิกระดับสูง ปราศจากส่วนผสมจากสัตว์ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์อีกด้วย

คอลเล็กชั่นใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลาย Sweet Briar ของ Morris & Co. ที่สะท้อนถึงมุมมองอันอ่อนโยนแต่จริงใจต่อธรรมชาติ โดยดอกกุหลาบที่บอบบางแต่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางกิ่งหนาม แนวคิดของ วิลเลียม มอร์ริส ในการสร้างสรรค์ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นที่หนึ่ง คือสิ่งเดียวกับที่ Neal’s Yard Remedies ยึดมั่นตลอดมาและตลอดไป

Morris & Co. X Rehydrating Rose Face Wash ช่วยทำความสะอาดเมคอัพและสิ่งสกปรกจากการเผชิญมลภาวะในแต่ละวัน ปรับสมดุลให้ผิวไม่แห้งตึง พร้อมกลิ่นหอมหรูช่วยมอบความรู้สึกสดชื่น ด้วยส่วนผสมออร์แกนิกจากน้ำมันหอมระเหย Rose Otto และน้ำกุหลาบสกัดจากกลีบกุหลาบสีชมพู พร้อมอโลเวร่าเพื่อการบำรุงยิ่งขึ้น

Morris & Co. X Rehydrating Rose Daily Moisture ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิวทันที เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบสู่ผิวได้เร็ว ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน และเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สกัดจากกุหลาบดามาสก์ออร์แกนิก และกรดไฮยาลูโรนิกเพื่อการเติมน้ำให้ผิวอิ่มฟู เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

คนรักผิวสายออร์แกนิกสามารถตามไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษของคอลเล็กชั่น “Morris & Co. X Rehydrating Rose Limited Edition” ได้ที่เคาน์เตอร์ Neal’s Yard Remedies สาขาเซ็นทรัล ชิดลม ชั้น G โซน Organic and Niche Beauty Zone หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ www.nealsyardremedies.co.th และ Line Official: @nyr_th


The Order

เปิดไฮไลต์รู้ไว้ก่อนดู The Order รวมสุดยอดนักแสดงเอลิสต์ของฮอลลีวู้ด

Alternative Textaccount_circle
The Order
The Order

จากเหตุการณ์จริงสุดสะเทือนขวัญสู่ภาพยนตร์แอ็กชันอาชญากรรมคุณภาพขึ้นหิ้งและกระแสวิจารณ์ยอดเยี่ยมแห่งปี “The Order” ผลงานล่าสุดของผู้กำกับน่าจับตา “จัสติน เคอร์เซล” (Nitram) และผู้เขียนบทที่เคยเข้าชิงออสการ์ “แซค เบย์ลิน” พร้อมการแสดงสุดเข้มข้นและทรงพลังที่เหล่านักวิจารณ์ต่างยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุดของ “จู๊ด ลอว์” และ “นิโคลัส ฮอลต์” การันตีความเดือดทะลุจอจากการได้รับเสียงปรบมือใน “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส 2024” ยาวนานกว่า 10 นาที กวาดคะแนนสูงลิ่วจากทั้งฝั่งนักวิจารณ์ถึง 90% และผู้ชม 89% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes จนติดอันดับต้นๆ ของปีที่ผ่านมา

“มงคลเมเจอร์” เปิดไฮไลต์ความน่าสนใจขั้นสุดของ “หนังดีที่ไม่ควรพลาด” เรื่องนี้ ก่อนไป “จับตายขบวนการเดนคน” พร้อมกันในโรงภาพยนตร์

“สร้างจากเรื่องจริง” อิงคดีสะเทือนขวัญระดับโลก

“The Order” เป็นภาพยนตร์น้ำดีที่สร้างจากเรื่องจริงอิงคดีสะเทือนขวัญสุดระทึกที่เคยเกิดขึ้นต้นยุค 80 ในแถบตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา เมื่อเกิดการปล้นธนาคารและรถขนเงินอย่างอุกอาจอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าหนึ่งปีสร้างความหวาดผวาแก่ผู้คนทั้งประเทศ จนเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ “เทอร์รี ฮัสก์” (จู๊ด ลอว์) ต้องแท็กทีมตามสืบและไล่ล่าจับตายกลุ่มก่อการร้ายนี้ที่นำโดย “บ็อบ แมตทิวส์” (นิโคลัส ฮอลต์) ผู้นำลัทธิเหยียดผิวหัวรุนแรงที่มีเป้าหมายก่อกบฏล้มล้างรัฐบาลในช่วงเวลานั้นทำให้คดีนี้กลายเป็นที่จับตาระดับโลก และล่าสุดผู้กำกับมือดี “จัสติน เคอร์เซล” นำมาตีแผ่ให้ทุกคนได้รู้ซึ้งถึงปฏิบัติการการปลุกปั่นของเดนมนุษย์ที่ต้องจับตายสถานเดียว

“แคสต์แห่งปี” รวมสุดยอดนักแสดงเอลิสต์ของฮอลลีวูด

การโคจรมาเชือดเฉือนบทบาทของสองนักแสดงแห่งยุคอย่าง “จู๊ด ลอว์” และ “นิโคลัส ฮอลต์” ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึงและจับตามองเป็นอย่างมากกับการปะฉะดะกันอย่างสุดมันส์ดุเดือดในบทที่เรียกได้ว่าเป็นเสมือนเหรียญสองด้านที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดยลอว์สามารถสลัดลุคเทพบุตรสุดหล่อ กลายเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ได้อย่างน่าเกรงขามและทรงพลังเป็นอย่างมาก ส่วนฮอลต์นั้นก็จัดเต็มและใส่สุดในบทผู้นำลัทธิสุดคลั่งได้อย่างน่าขนลุก

นอกจากนี้ยังได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง “ไท เชอริแดน” ในบทรองนายอำเภอรุ่นใหม่ไฟแรง และ “เจอร์นี สโมลเล็ตต์” ในบทเจ้าหน้าที่เอฟบีไอสุดมุ่งมั่น ทั้งคู่พร้อมลุยเต็มที่เพื่อสะสางคดีและไล่ล่าจับตายเดนคนร่วมไปกับลอว์ งานนี้ฮอลต์จึงต้องรับศึกหนักจากการผนึกกำลังของทั้งสามนักแสดงเลยทีเดียว

“ไม่มีคำว่าธรรมดา” เผยเบื้องหลังความทุ่มเทกว่าจะมาเป็น “The Order”

แม้จะได้นักแสดงระดับเอลิสต์มาฟาดฟันกันอย่างดุเดือดสะเทือนความมันส์ แต่ผู้กำกับ “จัสติน เคอร์เซล” ก็ยังมิวายมอบมิชชันสุดท้าทายให้นักแสดงเสมอ ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาให้ “จู๊ด ลอว์” แอบสะกดรอยตาม “นิโคลัส ฮอลต์” ทั้งวันเพื่อคอยจับตาว่าวันนั้นฮอลต์ทำอะไรบ้าง ถึงแม้มันจะเป็นวิธีที่แปลกประหลาดแต่นักแสดงก็ยอมรับว่า “มันได้ผล!” เป็นวิธีที่ทำให้พวกเขาเข้าถึงบทบาทได้อย่างดีเยี่ยม

การสลัดภาพเดิมๆ ของลอว์จนทำให้เขากลายเป็นโคตรเอฟบีไอสุดโฉดทั้งโหดและเท่ในเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนลุคโดยผู้กำกับเคอร์เซลที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เนื่องจากในระหว่างการถ่ายทำมีครั้งหนึ่งที่ลอว์ป่วยและดูโทรม แต่ผู้กำกับเห็นว่าลุคนี้เหมาะกับตัวละครเอฟบีไอบ้างานในเรื่องจึงทำให้ลอว์พยายามรักษาลุคนี้ไว้ตลอดการถ่ายทำ พร้อมจัดเต็มอารมณ์การแสดงระดับเคยชิงออสการ์มาแล้ว ดุเดือดขนาดเผลอทุบพวงมาลัยรถจนกระจกด้านในแตกกันเลยทีเดียว

ด้านฮอลต์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า แม้จะรังเกียจความเชื่ออันสุดโต่งของตัวละคร แต่เขาก็ทำการบ้านด้วยการศึกษาคำปราศรัยจากบันทึกฉบับจริงของผู้นำกลุ่มดิออร์เดอร์เพื่อให้สามารถแสดงบทปลุกปั่นออกมาได้อย่างทรงพลังจนทำเอาผู้กำกับและทีมงานอ้าปากค้างกันไปตาม ๆ กัน “การได้มาร่วมงานกับ ‘ลอว์’ ครั้งนี้มันวิเศษมาก” เขาชื่นชมทิ้งท้าย

มัดรวมพิกัด วัดดัง วัดลับ พร้อมเคล็ดลับการไหว้แบบครบจบเพื่อสายมู!

มัดรวมพิกัด วัดดัง วัดลับ พร้อมเคล็ดลับการไหว้แบบครบจบเพื่อสายมู!

Alternative Textaccount_circle
มัดรวมพิกัด วัดดัง วัดลับ พร้อมเคล็ดลับการไหว้แบบครบจบเพื่อสายมู!
มัดรวมพิกัด วัดดัง วัดลับ พร้อมเคล็ดลับการไหว้แบบครบจบเพื่อสายมู!

ฮ่องกงเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวไทยในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับการมูเตลู จากการมีวัดที่ศักดิ์สิทธิ์มากมายทั่วทั้งเมือง การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) จึงเอาใจนักเดินทางสายมูฯ ให้ได้วางแผนทริปเที่ยวฮ่องกงได้ตรงความต้องการ ด้วยการเปิดตัว “คู่มือเที่ยววัดฮ่องกง: Hong Kong ที่สุดแห่งพิกัดการมูเตลู” ไกด์บุ๊กสายมูฯ สุดคิวท์โดยฝีมือของศิลปินไทยอย่าง “Painterbell” เจ้าของลายเส้นตัวละคร John & Lulu โดยคู่มือเที่ยววัดฮ่องกงเล่มนี้ได้รวบรวมเอาพิกัดวัดดัง และวัดลับ ในฮ่องกงถึง 25 วัด พร้อมกิจกรรม และแหล่งท่องเที่ยวประจำย่านต่างๆ ที่คัดสรรมาแล้วว่าห้ามพลาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้วางแผนทริปสายมูฯ ของตัวเองได้ตรงกับสิ่งที่อยากขอ และไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว เพียงดาวน์โหลด “คู่มือเที่ยววัดฮ่องกง: Hong Kong ที่สุดแห่งพิกัดการมูเตลู” ฉบับดิจิทัลได้ฟรี https://www.discoverhongkong.com/content/dam/dhk/market-site/th/highlights/travel-fair-2025/HKTB-HONG-KONG-TEMPLE-GUIDEBOOK.pdf

จากเทรนด์การท่องเที่ยวสายมูฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย การท่องเที่ยวฮ่องกงจึงผุดไอเดียการจัดทำคู่มือเที่ยววัดฮ่องกง เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและความเชื่อท้องถิ่นของฮ่องกงที่ผสานกับชีวิตในตัวเมืองใหญ่อันทันสมัยได้อย่างกลมกลืน โดยพาผู้อ่านเดินทางไปเยี่ยมชม 25 วัดดังและวัดลับ ใน 15 ย่านหลักของฮ่องกง ซึ่งแต่ละวัดก็จะมีชื่อเสียงในด้านการให้พรที่แตกต่างกันไป อาทิ ด้านการเงิน ความรัก โชคลาภ และอีกมากมาย พร้อมแชร์เคล็ดลับการไหว้ที่ถูกต้องจากวัด และ อาจารย์คฑา ชินบัญชร ซินแสชื่อดังที่เชี่ยวชาญด้านการบูชาเทพเจ้า เป็นการจุดประกายทริปการเดินทางครั้งใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย นอกจากการมูฯ แล้ว คู่มือฉบับนี้ยังจะพาไปรู้จักเทศกาลสำคัญทางวัฒนธรรมที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมไฮไลต์ประจำย่านต่างๆ เพื่อเติมเต็มให้ทริปฮ่องกงครั้งหน้าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว

ในส่วนของดีไซน์ “คู่มือเที่ยววัดฮ่องกง: Hong Kong ที่สุดแห่งพิกัดการมูเตลู” ยังได้นำคาแรคเตอร์ John & Lulu เข้ามาเป็นสีสันเพื่อให้เส้นทางสายมูฯ น่ารักสดใส เอาใจสายมูฯ รุ่นใหม่ โดยถือเป็นอีกหนึ่งการร่วมมือครั้งสำคัญของศิลปินชาวไทยอย่าง Painterbell (คุณเบล-เศรษฐพร ก่อวาณิชกุล) ที่รังสรรค์ผลงานสุดน่ารักกับการท่องเที่ยวฮ่องกงไว้หลายโปรเจ็กต์ อาทิ วอลเปเปอร์มือถือ “จอห์นและลูลู่พามูฯ ที่ฮ่องกง” และ Arts in HK with S.E.A artists โดยในอนาคต การท่องเที่ยวฮ่องกง ยังคงมีแผนต่อยอดกิจกรรมน่ารักแบบนี้อย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวฮ่องกงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าสายมูเตลูเป็นอย่างมาก โดยมีการเปิดตัวแคมเปญประชาสัมพันธ์ใหม่ๆ เพื่อนำเสนอแง่มุมใหม่ของการมูฯ ให้สนุก และน่ารัก ตอบโจทย์พฤติกรรมและความสนใจของสายมูรุ่นใหม่ในกลุ่มเจนมิลเลนเนียล และ เจนซี อาทิ การร่วมมือกับ TOYZEROPLUS แบรนด์อาร์ตทอยจากฮ่องกง เปิดตัวเครื่องราง LULU THE PIGGY รุ่นลิมิเต็ดที่ออกแบบเพื่อการท่องเที่ยวฮ่องกงโดยเฉพาะ เป็นของที่ระลึกสำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงในงาน TITF#30 ที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดตัววอลเปเปอร์โทรศัพท์สายมูสุดน่ารัก ผลงานการออกแบบของศิลปิน Painterebell เอาใจสายมูฯ ยุคดิจิทัลที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ https://bit.ly/muteluinhk

ในอนาคตการท่องเที่ยวฮ่องกง ยังมีกิจกรรมใหม่ๆ สำหรับสายมูฯ ให้ได้ติดตามกันอีกแน่นอน ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.discoverhongkong.com/th/what-s-new/goodfortune.html


หลิน-มาลิน

ความท้าทายครั้งใหม่ หลิน-มาลิน จากนางงามสู่นางเอกป้ายแดง

Alternative Textaccount_circle
หลิน-มาลิน
หลิน-มาลิน

หลังจากสวมมง…มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ประจำปี 2024 สาวสวย หลิน-มาลิน ชระอนันต์ ก็ได้รับโอกาสดีจาก เจ๊ใหญ่-คุณณัฐธนาวรรน เพ็ญชาญวัฒนกิจ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์รักโรแมนติก เรื่อง “เพราะรักต้องมี Why We Love” ผลิตโดย บริษัท บลูแซม พิคเจอร์ จำกัด โดยมี สำรวย รักชาติ รับหน้าที่กำกับการแสดง ให้มารับบท “นางเอก” ในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก!!!

แน่นอนว่าสร้างความตื่นเต้นและกังวลให้กับเธอไม่น้อย เพราะบทที่ได้รับนั้นค่อนข้างจะไกลตัวจากชีวิตจริง แต่สำหรับ หลิน-มาลิน เธอขอลุยเต็มที่กับงานแสดงเรื่องแรก!!!

หนูรับบทเป็น น้ำแข็ง น้ำแข็งเป็นนักวิทยาศาสตร์ น้ำแข็งมีภาระครอบครัวค่อนข้างเยอะ และเป็นคนปิดกั้นเรื่องความรัก มีปมเกี่ยวกับคุณพ่อและน้องสาว ความยากของเรื่องนี้ก็คือ น้ำแข็ง เป็นคนที่มีความเครียดค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างจะตรงกันข้ามกับเราที่ไม่ได้จะไปทางใดแบบสุดโต่ง แต่ตัวน้ำแข็งเค้าจะปฏิเสธความรักค่อนข้างจะสุดโต่ง100%เลย คือโฟกัสแต่งานกับครอบครัว

หลิน-มาลิน

การปรับตัวกับหนังเรื่องแรก

“จริงๆ ก็ไม่ได้ปรับอะไร มีจังหวะช็อกตกใจบ้าง บางทีเราไม่รู้ต้องเข้าบทยังไง ยืนบล็อกกิ้งยังไง ก็มาเรียนรู้เอาหน้าฉาก ทำการบ้านด้วยการอ่านบทเยอะๆ หน้าเซ็ทก็จะมีแอ็คติ้งโค้ชคอยบอกเราอีกทีว่า ตอนนี้ตัวละครรู้สึกอย่างนี้ๆ นะ ก็พยายามทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด แต่ก็มีงงๆ บ้าง มันไม่ได้ยากที่เป็นตัวน้ำแข็ง แต่มันยากที่เป็นการแสดงเรื่องแรก ซึ่งหนูก็เต็มที่นะ”

เช็คผลงานของตัวเองผ่านมอนิเตอร์บ้างมั้ย

“หนูไม่เคยดูมอนิเตอร์เลย หนูไม่กล้าดูตัวเอง หนูเขิน วันรอบพรีเมียร์ หนูยังคิดอยู่เลย ไม่กล้าดู กลัว โดยรวมให้ตัวคะแนนตัวเอง 7 เต็ม10แล้วกัน หักเรื่องเทคนิคการแสดงโน่นนี่นั่นไปหน่อย เรายังอ่อนวิชาอยู่  เรื่องความมั่นใจก็ไม่ได้มั่นใจ100% ต้องให้คนอื่นเป็นคนพูดค่ะว่าการแสดงของหนูเป็นอย่างไร”

ผู้กำกับฯ แนะนำคาแร็กเตอร์ น้ำแข็ง ยังไงบ้าง

“น้ำแข็ง เป็นคนที่ไม่ค่อยดี๊ด๊ามาก ไม่ได้มีความสดใสในชีวิตมาก แต่เค้าก็ไม่ได้เอาอะไรมาใส่ในหัวหนูเยอะนะ เค้าอยากให้เราลองปล่อยออกมาเองให้ดูเป็นธรรมชาติ”

เป็นนางเอกของ เข้ม หัสวีร์  

“ตอนแรกก็กลัวค่ะ ไม่รู้ว่าจะทำให้การทำงานเรายากขึ้นเปล่า กังวลว่าเราจะทำให้ทีมงานเหนื่อยหรือเปล่า เป็นภาระของทุกคนหรือเปล่า  พอได้ร่วมงานก็น่ารักทุกคนเลย ต้องบอกว่าอย่าง เข้ม เนี่ยเป็นคนที่ชิวมาก เราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเป็นดาราเบอร์ใหญ่ ลืมไปเลยเพราะความชิวของเค้า (ฉากไหนเข้ากันแล้วยาก) ไม่มีนะคะ จะมีแค่เวลาที่อยู่ใกล้ๆ กันแล้วเค้าสูงมาก เราไม่ได้เตี้ยนะคะ (หัวเราะ) แต่เค้าสูงมาก ก็มีเรื่องของบล็อกกิ้ง ด้วยความที่เราใหม่ เราก็จะตกใจกับบล็อกกิ้ง ก็จะมีนิดนึงที่กลัวหลุดบล็อก”

เข้มแนะนำอะไรบ้าง

“เค้าบอกเล่นช้าๆ ไม่ต้องรีบ แต่ด้วยเป็นการแสดงเรื่องแรก เราลน เราคิดแค่ว่าเราท่องบทที่จำมาเนี่ยให้มันเสร็จให้มันผ่านก็พอ (หัวเราะ)”

ประทับใจฉากไหนมากที่สุด

“น่าจะเป็นฉากที่เราขึ้นไปบนหน้าผา  เหนื่อยมากนะ ทีมงานเดินขึ้นไปเป็นลม แต่หนูไม่ได้เป็นลมนะ เดินไปบ่นไป แต่คือภาพที่ออกมา สวยมาก และตอนที่ไปยืนหน้าผาจริงๆ คืออากาศดีมาก รูปที่ออกมาก็โอเค ฟีลกู๊ดเลย (ท้อมั้ย) หนูไม่ท้อแต่สงสารผู้จัดการ เป็นลมเลย (หัวเราะ) ตากล้องก็เป็นลม เป็นลมกันหลายคนมาก มันสูงมาก จริงๆ มันเป็นป่าที่มีความชุ่มชื้นมาก กลายเป็นว่าอากาศหายใจมันจะน้อยลง ถือว่ายากสุดๆ ปีนขึ้นไปต้องซับหน้า แล้วก็ทำอารมณ์ต่อ แต่ภาพที่ออกมาสวยจริงๆ ค่ะ”

แอบรู้มาว่ามีฉากเมาด้วย  

“จริงๆ พี่รวย (ผู้กำกับฯ) ก็แอบซีเรียสฉากนี้นิดนึง หนูก็งงว่าทำไมซีเรียสฉากนี้ เอาจริงๆ คือเค้าไม่อยากให้ภาพลักษณ์ที่เราแสดงออกไปแบบ ลำยอง ไม่ได้อยากให้เมาขนาดนั้น หนูก็เลยอยากให้เมา แค่ฟิวแบบเกาหลี น่ารักๆ (แล้วน่ารักมั้ย) ไปดูเอาเองเลย”

เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับนักแสดงหลายคน อย่าง นีโน่-เมทะนี บุรณศิริ

“อย่างที่บอก นักแสดงทุกคนน่ารักหมดเลย เป็นกันเองมากๆ  อย่าง พี่โน่ก็น่ารักมาก!! ด้วยความที่เรามาเจอดาราหลายคน เพราะเราก็ยังตั้งต้นว่าเราเป็นคนธรรมดาอยู่ ก็ไม่คิดว่าดารารุ่นใหญ่อย่างพี่โน่ เค้าจะน่ารัก เหมือนคุณพ่อ เหมือนพ่อจริงๆ คอยเรียกเราว่า ลูก น่ารักค่ะ”

Why We Love เพราะรักต้องมี

“ในหนังก็จะเป็นคนกลัวความรัก ไม่กล้ามีความรัก ไม่กล้ามีแฟน ไม่กล้ามีลูก เพราะเกิดจากปมในเรื่องแหละ อันนี้ต้องไปรอดูในหนัง จริงๆ น้ำแข็งก็ไม่ได้กลัวความรัก แต่ก็ไม่อยากมี ถ้าในชีวิตจริงก็แบบ เอาจริงๆ ก็กล้าๆ เปิดใจค่ะ ความรักไม่ใช่สิ่งน่ากลัว อกหักก็แค่นั้น ไม่ถึงตายค่ะ “

มีคนถามว่า หลิน มีแฟนผู้หญิงหรือผู้ชาย

อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะมาจีบ แต่ก็ยังไม่มีคนจีบ ไม่ใช่เพราะเราไม่เปิดนะ แต่เราไม่มีเวลาคุยกับเค้า ก็เลยไม่รู้ว่าจะไปคุยกับเค้าทำไม   

คาดหวังกับความเป็น นางเอกป้ายแดง แค่ไหน

“กังวลแล้วเนี่ย (หัวเราะ) ก็คงคาดหวัง เพราะเรามีผลงานออกมา แต่ก็อยากให้รู้ว่า หลินทำดีที่สุดแล้วนะ ถ้าไม่ดียังไงก็ติกัน แต่ว่าหลินจะพัฒนาต่อไปละกัน ถ้ามันยังไม่ดีพอ”

รู้สึกว่าเราเป็นนักแสดงเต็มตัวหรือยัง

“ยังค่ะยัง หนูยังอ่อนวิชาอยู่ ยังต้องฝึกการแสดงอีกเยอะเลย แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่ชมนะคะ เราก็จะมีความไม่มั่นใจในตัวเองอีกเยอะเลย”

วางเส้นทางการเป็นนักแสดงของตัวเองไว้อย่างไร

“ถ้าคนให้โอกาสหลิน ก็จะทำตามโอกาสที่ให้มา แต่ถามว่าชอบการแสดงมั้ย ตอนนี้ก็ชอบนะ แต่ไม่รู้ว่า ถ้าไปเจอบทที่ท้าทายกว่านี้ เรายังจะรับอยู่มั้ย”

แสดงว่ามีบทที่อยากเล่นด้วย

“บอกพี่รวยไปแล้ว อยากเล่นหนังผี อยากเป็นผีเองเลย เอาแบบน่ากลัวๆ เลย เพราะหนูเป็นคนเสพติดหนังผีมาก ชอบดูหนังผีทุกวัน เราอยากไปสายน่ากลัวจัดเลยค่ะ อยากได้พล็อตใหม่เลย หนูเป็นคนชอบดูหนังผีไทยมาก รู้สึกว่าผีไทยน่ากลัวที่สุดแล้ว คลาสสิกด้วย ตอนเด็กก็จะดูเยอะมาก “แม่นาค” “สามแพร่ง” “สี่แพร่ง” ยุคหลังๆ แล้ว เมื่อก่อนจะมี “ผีสามบาท” น่ากลัวมาก “ชัตเตอร์” เรารู้สึกว่าหนังผีไทยคลาสสิกมาก แล้วก็เอาจริงๆ อยากให้มีหนังผีโหดๆ มาเรื่อยๆ นะ หลังๆ จะมีหนังผีน่ารักๆ แต่ก็ดูนะ”

ชวนคนไทยไปดูหนังเรื่องนี้กันหน่อย

“เพราะรักต้องมี Why We Love”เป็นหนังรักคอมเมดี้ เอามาเติมจิตใจกัน ช่วงวาเลนไทน์เนอะ ในเดือนกุมภาฯ มันฉายหลังวาเลนไทน์ แต่ควันหลงอาจจะยังอยู่ ก็อยากให้คนที่ยังไม่กล้าเปิดใจ คนที่ไม่กล้ามีความรักมาดูเรื่องนี้อาจจะได้มุมมองความรักใหม่ๆ กลับไป ช่วงนี้หนังไทยเยอะมาก เรื่องนี้ก็เป็นหนังไทยอีกหนึ่งเรื่องของ ผู้กำกับฯ ไทย นักแสดงไทย ทีมงานไทย ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ” 

CELINE

CAMILLE 16 ความงามไร้กาลเวลาของกระเป๋าโฮโบจาก CELINE

account_circle
CELINE
CELINE

เมื่อศิลปะแห่งเครื่องหนังชั้นสูงมาบรรจบกับความเรียบหรูไร้ที่ติ Camille 16 กระเป๋ารุ่นล่าสุดจาก CELINE ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยยังคงถ่ายทอดจิตวิญญาณของแบรนด์ผ่านดีไซน์ที่สง่างามเหนือกาลเวลา

ด้วยรูปทรง Hobo Bag ที่ใช้งานง่ายแต่เปี่ยมด้วยสไตล์ Camille 16 โดดเด่นด้วยวัสดุ หนังลูกวัวเกรดพรีเมียม ซึ่งให้สัมผัสที่นุ่มละมุน พร้อมความเงางามอย่างลงตัว ผ่านเทคนิคการเย็บแบบกลับและการเสริมโครงสร้างด้วยเอ็นอันประณีต เพิ่มความโค้งมนให้กับกระเป๋าอย่างไร้ที่ติ นี่คือผลงานที่สะท้อนถึงความชำนาญด้านเครื่องหนังอันเป็นเอกลักษณ์ของ CELINE

อีกหนึ่งจุดเด่นของกระเป๋าใบนี้คือ ตัวปิดล็อกสีทอง ที่ถูกออกแบบให้มีเส้นสายเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ราวกับอัญมณีที่ซ่อนความหรูหราไว้ในทุกมุมมอง ขณะที่สายกระเป๋าถูกออกแบบให้มีสองรูปแบบ สายสะพายสั้น ที่โค้งรับกับช่วงไหล่ได้อย่างลงตัว และ สายสะพายยาวปรับระดับได้ ที่สามารถถอดออกและปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ว่าจะถือแบบคลาสสิกหรือสะพายข้างในวันสบาย ๆ ก็สะท้อนสไตล์ของผู้ใช้ได้อย่างมีเสน่ห์

ในซีซั่นแรกนี้ Camille 16 มีให้เลือกในขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยแต่ละขนาดมาพร้อมเฉดสีที่สะท้อนถึงความเรียบหรูเหนือระดับ สีดำ สีแทน และสีแซนด์เหลืองอ่อน สำหรับขนาดกลาง ขณะที่ขนาดเล็กเพิ่มความพิเศษด้วย สีขาวนวล และ ลวดลายหนังงูธรรมชาติ ซึ่งล้วนแต่เป็นโทนสีที่ขับเน้นความหรูหราของดีไซน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


สัมผัสฟีลแผงลอยญี่ปุ่น ในงาน "THANIYA JAPAN DAYS: YATAI MURA" เสิร์ฟกว่า 20 ร้านดัง

สัมผัสฟีลแผงลอยญี่ปุ่น ในงาน “THANIYA JAPAN DAYS: YATAI MURA” เสิร์ฟกว่า 20 ร้านดัง

Alternative Textaccount_circle
สัมผัสฟีลแผงลอยญี่ปุ่น ในงาน "THANIYA JAPAN DAYS: YATAI MURA" เสิร์ฟกว่า 20 ร้านดัง
สัมผัสฟีลแผงลอยญี่ปุ่น ในงาน "THANIYA JAPAN DAYS: YATAI MURA" เสิร์ฟกว่า 20 ร้านดัง

ศูนย์การค้าธนิยะ สีลม ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงาน “THANIYA JAPAN DAYS: YATAI MURA” เนรมิตถนนด้านหน้าศูนย์การค้าให้เป็นย่านร้านอาหารแผงลอยสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟความอร่อยระดับตำนานจากร้านดังกว่า 20 ร้าน ระหว่างวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.00-24.00 น.

สัมผัสความอร่อยกับร้านระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาให้ลิ้มลองครบทุกรสชาติ นำโดย KENJI’S RAMEN LAB ราเมงที่ผ่านการทดลองมาอย่างพิถีพิถันจากเชฟเคนจิ กรรมการรายการ Iron Chef Thailand จนได้มาเป็น 5 เมนูราเมนให้ได้ลิ้มลอง, SAKU BANGKOK เจ้าของเดียวกันกับ TERRA BANGKOK ร้านอาหารสไตล์คิวชูที่ส่งตรงวัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์อย่างเนกิโทโรด้งและซาชิมิปลาฮามาจิย่าง, DAIMASU NIHONMACHI อิซากายะปิ้งย่างเสียบไม้ย่างบนเตาถ่านแบบดั้งเดิมสไตล์ฮอกไกโดและซัปโปโร และ MEAT & CO(ME) ที่นำเสนอเมนูพิเศษแฮมเบิร์กจากเนื้อโอมิวากิว ผ่านกรรมวิธีการย่างถ่าน พร้อมด้วยข้าวญี่ปุ่นที่หุงใหม่ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยของรสสัมผัสเนื้อโอมิแท้ๆ

อิ่มอร่อยไม่รู้จบกับขบวนร้านดังที่พร้อมเสิร์ฟเมนูพิเศษเฉพาะงานนี้ ทั้ง BIKUTA SUSHI & TEPPANYAKI ที่มาทั้งแบบอิซากายะและเทปันยากิ, TSURUHASHI FUGETSU โอโคโนมิยากิรางวัลชนะเลิศ 3 ปีซ้อน พร้อมเสิร์ฟแบบร้อนๆ ทำสดใหม่ชิ้นต่อชิ้น, SHAKARICH กับเมนูที่ใช้วัตถุดิบพรีเมียมที่ส่งตรงจากตลาดปลาโทโยสุแห่งกรุงโตเกียว, AORINGO ร้านข้าวแกงกะหรี่โฮมเมดสูตรต้นตำรับจากญี่ปุ่น ด้วยสูตรน้ำแกงกะหรี่เฉพาะของทางร้าน นำเสนอ “คาเรปัง” 3 รสชาติ ที่ทำขายเฉพาะในงานนี้เท่านั้น, KYUSHU JANGARA RAMEN ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูต้นตำรับตำนานกว่า 40 ปีกับน้ำซุป 3 สไตล์, KUSHICHAN BY KAGONOYA ชวนสัมผัส ‘คุชิจัง หรือ ของทอดเสียบไม้’ สไตล์โอซาก้าในราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาท, AMATERU เมนูพิเศษจากเนื้อวากิว A5 คัดเฉพาะส่วน นำมาซูวีด์เพื่อให้เนื้อได้รสชาติที่ละมุนนุ่มละลายในปาก ที่มาพร้อมเมนูสุดพิเศษ Roasted Beef สูตรจากร้านดังย่านกินซ่า และ Japanese Wagyu Hachis Pamentier, HOKKAIDO BUTADON ข้าวหน้าหมูย่าง กลิ่นหอมจากการย่างควัน พร้อมซอสสูตรพิเศษจากฮอกไกโดกว่า 60 ปี, HI JAPAN โอเด้งสูตรแม่บ้านญี่ปุ่นพร้อมน้ำซุปปลาคัตซึโอะเข้มข้นที่เคี่ยวมาอย่างพิถีพิถัน, SANDO BY IZAKAYA NAIHUA แซนวิชสไตล์ญี่ปุ่นที่คัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมียม จับคู่กับขนมปังบริออช ที่ทางร้านอบใหม่วันต่อวัน, GINTAKO ทาโกะยากิหมึกยักษ์พร้อมซอสสูตรพิเศษ เสิร์ฟความอร่อยแบบทำสดใหม่ อร่อยเต็มคำ และ DON DON DONKI พบกับมันหวานญี่ปุ่นพันธุ์เบนิฮารุกะ ที่ส่งตรงจากจังหวัดคาโกชิม่าในเกาะคิวชูประเทศญี่ปุ่น เป็นมันหวานสายพันธุ์ที่ดีที่สุด เผาในรูปแบบฉบับ Donki

ปิดท้ายความอร่อยด้วยขนมหวานและเครื่องดื่มระดับตำนาน พบกับ GANYUDON ขนม Wagashi ขนมโบราณ ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ประวัติยาวนานกว่า 150 ปี จากจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka), KOYO TEAROOM มัทฉะพรีเมียม 5 รสชาติ เบลนด์ด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน, GLUTEN FREE BAKERY TAMA เบเกอรี่ไร้กลูเตนสไตล์ญี่ปุ่น ที่พร้อมเป็นทางเลือกให้แก่สายสุขภาพ หรือผู้ที่แพ้กลูเตน, SHITORI ไอศครีมซอฟต์เสิร์ฟ ท๊อปด้วยมันหวานญี่ปุ่นเบนิฮารุกะแท้ เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและหวานฉ่ำ และ CROISSANT TAIYAKI ครัวซองต์รูปปลา ต้นตำรับแท้จากประเทศญี่ปุ่นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่มาพร้อมแป้งครัวซองต์ 24 ชั้น ทั้งกรอบนอก นุ่มใน พร้อมให้ลิ้มลองทั้งหมด 4 รสชาติ พร้อมดื่มด่ำไปกับประสบการณ์พิเศษที่โซนเครื่องดื่ม ที่นำเสนอรสชาติและวัฒนธรรมการดื่มจากแดนอาทิตย์อุทัย

ภายในงานยังมีการแสดงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม ทั้งศิลปะการแสดงญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และการแสดงดนตรี J-Rock ที่จะมาสร้างสีสันตลอดงาน (เดินทางสะดวกด้วย BTS ศาลาแดง ทางออก 1 และ MRT สีลม ทางออก 2)


ไอเท็มเด็ด! อัพผิวกายฉ่ำโกลว์ BeNice Glow & Perfume Collagen Body Serum

account_circle

ด้วยความที่ช่วงนี้เทรนด์งานผิวฉ่ำโกลว์มาแรงสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า หรือผิวกาย ซึ่งถ้าพูดถึงในส่วนของบอดี้ หากใครอยากอัพงานผิวให้ออร่าจับ ก็ต้องไม่พลาด BeNice Glow & Perfume Collagen Body Serum ที่ขึ้นแท่นไอเท็มเด็ด! จากการคว้ารางวัล Iconic Collagen Body Serum For Aura Glow Skin จากเวทีความงามแห่งปี Praew Iconic Beauty 2024

ความเริ่ดของ BeNice Glow & Perfume Collagen Body Serum คือเขาเป็นบอดี้เซรั่มที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้แบบจึ้ง พร้อมมอบกลิ่นดีต่อใจราวกับฉีดน้ำหอม เรียกว่าเป็นไอเท็มทูอินวันที่สาวๆ ต้องปลื้ม!

ในส่วนของการช่วยอัพผิวฉ่ำโกลว์ BeNice Glow & Perfume Collagen Body Serum โดดเด่นด้วยสารสกัดจากลิ้นจี่ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมบูสต์คอลลาเจนให้กับผิว และมีเบบี้คอลลาเจนที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวมีความอิ่มฟู กระชับ อีกทั้งยังมี Rosehip Oil ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและดูแลปัญหาริ้วรอยแห่งวัย

นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องความกระจ่างใสด้วย 10X ไบร์ทเทนนิ่งคอมเพล็กซ์เข้มข้น และ Niacinamide 3% พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยยูวีฟิลเตอร์

มาถึงในส่วนของความหอมละมุน BeNice Glow & Perfume Collagen Body Serum ก็ทำถึง! ด้วยการผสานเทคโนโลยี Blooming Bomb ที่มอบกลิ่นหอมติดทนตลอดวัน 

สำหรับเนื้อสัมผัสถือว่าใช้ง่าย เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา มีความบางเบา ไม่เหนอะหนะผิว และซึมเข้าสู่ผิวได้ดี

เรียกว่าเริ่ดมากด้วยคุณสมบัติจัดเต็ม ช่วยอัพผิวฉ่ำโกลว์ได้แบบมงลง! ใครยังไม่ได้ลองระวังตกขบวนน้า


โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ

ฉลองวาเลนไทน์สุดโรแมนติกที่ โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ

account_circle
โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ
โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ

โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ ชวนเฉลิมฉลองความรักในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นชุดน้ำชายามบ่ายที่ Caleō ดินเนอร์สุดพิเศษที่ Lily’s หรือมื้อค่ำสุดหรูที่ Duet by David Toutain พร้อมมอบบรรยากาศสุดโรแมนติกด้วยบริการที่พิถีพิถันและประสบการณ์ที่อบอุ่นใจ

ฉลองวาเลนไทน์สุดโรแมนติกที่ โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ

Caleō ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่าย “Petals of Love” ระหว่างวันที่ 12 – 18 กุมภาพันธ์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองความรักที่เบ่งบานโดยมีของว่างรูปทรงหัวใจและดอกไม้ รวมถึงบริการ Dessert Trolley พร้อมกับของหวานแสนอร่อย เช่น Peach Elderflower, Raspberry Rose และ Matcha Passion Jasmine พิเศษ! สำหรับในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะมีบริการวาดภาพเหมือนเป็นที่ระลึกสุดพิเศษ ราคา 3,200++ บาทสำหรับ 2 ท่าน พร้อมตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น แชมเปญหรือช่อดอกกุหลาบเพื่อเพิ่มบรรยากาศโรแมนติก 

วันวาเลนไทน์นี้ Lily’s นำเสนอประสบการณ์ดินเนอร์ “Love in Bloom” แบบ 5 คอร์ส ซึ่งผสมผสานวัตถุดิบหรูหรา เช่น คาเวียร์ Oscietra และหอยเชลล์ พร้อมเมนูตัวเลือกระหว่างเนื้อวากิวหรือกุ้งล็อบสเตอร์ เพื่อเติมเต็มค่ำคืนสุดพิเศษด้วยดนตรีแจ๊ส ของหวาน และช็อกโกแลตพราลีนแฮนด์เมดจากโรงแรมให้คู่รักนำกลับบ้าน ราคา 7,800++ บาทสำหรับ 2 ท่าน พร้อมตัวเลือกไวน์แพร์ริ่งเพิ่มในราคา 1,600++ บาท

Duet by David Toutain นำเสนอคอร์สดินเนอร์สุดพิเศษ “Duet of Hearts” ที่พร้อมมอบประสบการ์ณอันแสนอบอุ่นถึง 8 เมนู โดยตั้งใจนำเสนอถึงเรื่องราวแห่งความรัก โดยได้เชฟมิชลินสตาร์และเชฟเดอคูซีนของร้านเป็นผู้สร้างสรรค์เมนูสุดพิถีพิถันในแต่ละจาน

โดยมีการนำเอาวัตถุดิบต่างๆ มาจับคู่กับอาหารแต่ละชนิด เกิดเป็นเมนูที่มีรสชาติลงตัว อาทิ ทรัฟเฟิลดำจากแคว้นเพรีกอร์กับหอยเชลล์, เจอราเนียมกับปลาหมึกและพริกแดง รวมทั้งส้มเนื้อแดงกับเนื้อวากิวและบีทรูท โดยหลังจบมื้ออาหาร แขกทุกท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับค็อกเทลซิกเนเจอร์จากบาร์หรูอย่าง Caleō ที่พร้อมเสิร์ฟให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความสุข สำหรับดินเนอร์สุดพิเศษนี้ราคา 8,200++ บาทต่อท่าน พร้อมตัวเลือกแพร์ริ่งกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในราคา 3,700++ บาท หรือแบบไม่มีแอลกอฮอล์ในราคา 1,900++ บาท โดยสามารถเลือกโต๊ะบริเวณระเบียงด้านนอกได้ เพื่อเพิ่มความโรแมนติกด้วยทิวทัศน์ของท้องฟ้าใต้แสงดาว


ซูมอิน เครื่องประดับและนาฬิกาแบรนด์หรูของ เมย์ – วาสนา CEO แห่ง Revomed

account_circle

ไม่เพียงแค่เรื่องงานที่ เมย์ – วาสนา อินทะแสง CEO แห่ง Revomed Group และ ผู้จัด Rolling Loud Thailand ทุ่มเทอย่างเต็มที่ การเก็บสะสมไอเท็มชิ้นโปรดอย่างกระเป๋า Hermes รวมถึงเครื่องประดับและนาฬิกาแบรนด์หรูก็เป็นงานอดิเรกที่เธอทุ่มสุดตัวไม่แพ้กัน เคยช็อปปิ้งน้องม้า 24 ล้านบาทในคราวเดียว จนได้สมญานามว่า “มหารานีเมนี่”

คุ้มค่า & ดีต่อใจ

“เมย์เริ่มจากสะสมกระเป๋าชาเนล แล้วตามด้วยสะสม แอร์เมส อย่างใบแรกที่ซื้อคือรุ่น Garden Party สีส้มค่ะ ที่เลือกรุ่นนี้เพราะตอนนั้นราคายังไม่แพง มาก ที่สำคัญใส่ของได้เยอะ ใช้งานง่าย และเป็นสีที่ชอบ

“สำหรับแอร์เมส นอกจากอาการหลงรักตามประสาผู้หญิง แล้ว ยังเหมาะกับการลงทุนด้วย เพราะจะมีกระเป๋าสักกี่ใบบนโลก ที่ราคาขึ้นตลอดทุกปี ซึ่งชาเนลกับแอร์เมสเป็นแบบนั้น เมย์จึง เลือกที่จะลงทุนด้านนี้แทนที่จะเก็บเงินสด ส่วนใหญ่เมย์เลือก ซื้อรุ่นแรร์ไอเท็ม เช่นเดียวกับนาฬิกา เพราะรู้ว่าราคาขึ้นแน่นอน อย่าง Birkin สี Blue Paon ที่แอร์เมสเลิกผลิตสีนี้ไปแล้ว ราคา จึงขึ้นเรื่อย ๆ

“ตั้งแต่ตั้งใจซื้อกระเป๋าเพื่อการลงทุน ยังไม่มีใบไหนขาดทุน เพราะตอนนี้ราคาตลาดขึ้นไปมากกว่าตอนที่ซื้อแล้ว เช่น แอร์เมส รุ่น Birkin หนังจระเข้สีดำเงา ไซส์ 25 อะไหล่ทอง เมย์ซื้อ ในราคา 2.4 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ที่ 2.8 ล้านบาท ส่วนรุ่น Himalaya เมื่อ 4 – 5 ปีที่แล้วซื้อในราคากว่า 4 ล้านบาท ปัจจุบัน อยู่ที่ 7 ล้านบาท หรือรุ่น Birkin 20 Faubourg Limited Edition ตอนนี้เกือบแตะ 10 ล้านบาทแล้ว ราคาเลยป้ายไป ไกลมาก

“เมย์มองว่าเสน่ห์ของลักชัวรี่แบรนด์คือดีไซน์ ลวดลาย ความพิเศษต่าง ๆ ที่แบรนด์ใส่ไว้ในนั้น เมย์ยังเคยคิดว่าถ้าวันหนึ่ง เราสามารถสร้างแบรนด์ได้แบบนี้ คงเป็นเรื่องท้าทายมาก ๆ ในชีวิต การสร้างไอเท็มขึ้นมาแล้วทำให้คนแย่งกันซื้อ เขาทำได้อย่างไร แบรนดิ้งต้องสตรองแค่ไหน หรืออย่างนาฬิกา Richard Mille จากที่ราคาเรือนละกว่าล้านบาท ขึ้นมา 10 ล้านบาท มีไม่กี่อย่าง ในโลกที่ทำได้แบบนี้

“ฉะนั้นเมย์จึงยังเก็บสะสมกระเป๋า จิเวลรี่ และนาฬิกา ไปเรื่อย ๆ ค่ะ นอกจากจะได้ชื่นชม ได้ความรู้ ยังได้เก็บเพื่อ ลงทุนเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่ามีแต่จะเพิ่มขึ้น เมย์ยังเคยซื้อกระเป๋า แอร์เมสครั้งเดียวจ่ายเงินไป 24 ล้านบาท จนได้ฉายา ‘มหา- รานีเมนี่’ นับจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ถือว่าคุ้มค่ะ”

Bvlgari Serpenti Necklace

สำหรับฟากจิเวลรี่ คุณเมย์เป็นแฟนบุลการี ชิ้นที่เธอ ตามเก็บบอกเลยว่าไม่ธรรมดา “สร้อยคอบุลการีเส้นนี้คือชิ้นที่ 3 ของเมย์ค่ะ เป็นงาน ไฮจิเวลรี่ในคอลเล็คชั่น Serpenti เปิดตัวเมื่อปลายปี 2021 ในงาน Regional High Jewelry Event ที่ประเทศสิงคโปร์

“รุ่นนี้พิเศษมาก ๆ ค่ะ ทำจากเพชรและอัญมณีจาก แหล่งที่ดีที่สุดของโลก โดดเด่นด้วย Mother of Pearl มีไม่ถึง 10 เส้นทั่วโลก เมย์เป็นเจ้าของเส้นที่ 2 ของประเทศไทย และ เป็นเส้นที่ 7 ของโลก สนนราคา 8 ล้านบาท

“รุ่นนี้ไม่ได้มีความเป็นเพชรจ๋า ให้อารมณ์อ่อนหวาน แต่แข็งแกร่ง ขนาดเมย์กลัวงูยังรู้สึกว่าเขาน่ารัก เส้นนี้ใช้เวลา ถึง 3 เดือนกว่าจะได้มา ตอนสั่งก็ไม่ได้ลองด้วยนะคะ เพราะ ไม่มีของ คิดอยู่นานว่าจะแมตช์อะไรยังไง ปรากฏว่าสามารถใส่ ได้หลายแบบ ตอนไปรับรู้สึกเลยว่า โอ๊ย…สร้อยของฉัน ฉัน ชอบมาก รักเลย”

Super Watch “Richard Mille

 “เมย์ขอพูดตรง ๆ ว่า ต่อให้รักยังไงราคากระเป๋าก็ขึ้นไม่เท่านาฬิกานะคะ เมย์จึงเก็บสะสมนาฬิกามาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น Rolex, Patek Philippe Nautilus 5711R ที่ตอนนี้ราคาขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ พอเห็น ราคาดีขนาดนี้ก็มีปล่อยไปบ้าง จากนั้นก็สะสม Richard Mille เป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็น แรร์ไอเท็ม ผลิตน้อย เป็นแบรนด์เดียวที่ราคาไม่ลง มีแต่ขึ้น เมย์เลือกเล่นรุ่น RM 07-01 เพราะบอดี้เป็นของผู้หญิง

อย่างเรือนนี้รุ่น RM 07-01 & RM 037 Snow Setting ความพิเศษ คือประดับเพชรทั้งเรือน เมย์ได้มาในราคา 15 ล้านบาท ส่วนอีกเรือนเป็นสายยาง รุ่น RM 07-01 White Gold Full Snow Diamond จุดเด่นของรุ่นนี้คือด้านข้างเรือนจะมีฝังเพชร กระจายเหมือนหิมะ ตัวเพชรมีความวิบวับ ทั้งสองเรือนนี้เป็นงานมาสเตอร์พีซสำหรับเมย์ อย่างเรือนแรกรู้สึกว่าจะมีแค่ 2 เรือนในประเทศไทย”

he Best of Herms Bag

“เป็นเจ้าของแอร์เมสใบแรกจำได้ว่ามีความสุขมาก แต่ สำหรับ Birkin กับ Kelly มันคือที่สุดค่ะ อย่าง Kelly Wood 22 Barenia Leather Limited Edition ซูเปอร์แรร์ไอเท็มของ แอร์เมสที่มีไม่ถึง 40 ใบในโลก เมย์ได้เป็นเจ้าของใบที่ 4 ของ ประเทศไทย

ปัจจุบันราคาตลาดโลกอยู่ที่ 10 ล้านบาท แต่เมย์ ได้มาในราคา 7.4 ล้านบาท รุ่นนี้เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น ขนาด 22 นิ้ว ทำด้วยไม้โอ๊กทั้งใบ ซึ่งต้นโอ๊กนั้น ๆ ต้องมีอายุประมาณ 10 – 20 ปี ใช้เวลาทำมืออีก 1 ปี ลวดลายที่เห็นบนกระเป๋าใช้อะลูมิเนียมเพ้นต์ ที่ลายไม้ ฉะนั้นไม่แปลกใจเลยที่ทำออกมาน้อยชิ้น และอีกหนึ่ง ความพิเศษคือลอยน้ำได้ เป็นกระเป๋าที่มีสตอรี่มาก”

4 Beloved Bags

จากกระเป๋าแอร์เมสทั้งหมด 48 ใบที่คุณเมย์สะสมไว้ ไม่รวม Kelly Wood ที่เธอยกให้เป็นที่ 1 คุณเมย์บอกว่า “รักทุกใบ แต่ 4 ใบนี้ขอยกให้เป็นแรร์ไอเท็มสำหรับเมย์ค่ะ“แอร์เมส 4 ใบนี้เป็นหนังจระเข้ทั้งหมด ใบแรก Kelly สี Jaune Ambre & Beige Sable หนัง Shiny เป็นรุ่น ลิมิเต็ดเอดิชั่น เพราะมีคู่สีหายากอยู่ในใบเดียว ราคาเกือบ 5 ล้านบาท ใบนี้หายากมาก ๆ

“ใบที่สองคือ Birkin ไซส์ 25 สี Vert D’eau ใบนี้ แรร์ไอเท็มสุด ๆ เป็นสีใหม่ของปี 2021 รู้สึกว่าเมย์จะได้เป็น ใบแรกของประเทศไทย ยังไม่มีใครมี แต่เดี๋ยวก็คงจะมีผลิต เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ“อีกใบเห็นน้องแคท (ซอนญ่า สิงหะ) ถือแล้วชอบมาก เป็นรุ่น Kelly ไซส์ 25 สี Mimosa เหลืองสดใส เมื่อแมตช์ กับชุดสีม่วงหรือสีที่คอนทราสต์กันแล้วยิ่งสะดุดตา ปัจจุบันสีนี้ หายากสุด ๆ

“ใบสุดท้ายคือ Birkin ไซส์ 25 สี Beton ออกโทนครีม กลุ่มสีนี้ราคาขึ้นทุกปี ใบนี้ราคาขึ้นไป 4 ล้านบาทแล้ว เห็นแล้ว ก็คือกระโจนเข้าใส่เลย เพราะหาไม่ได้ง่าย ๆ“กระเป๋าทุกใบเมย์รักและหวงมาก เวลาหยิบมาใช้หรือ จะเก็บต้องใส่ถุงมือทุกครั้ง เปิดแอร์ให้ตลอด ดูแลรักษาอย่างดี เปรียบเหมือนเป็นลูกรักก็ว่าได้”


แฟชั่นแห่งความกล้าหาญ เปิดรันเวย์ ‘Courage’ Spring 2025 จาก Marc Jacobs

Alternative Textaccount_circle

เมื่อเสื้อผ้าบนรันเวย์นำเสนอในดีไซน์ที่ขยายใหญ่ขึ้นจากความเป็นจริง นี่คือสิ่งที่สะท้อนคำว่า ‘Courage’ ของคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิจาก Marc Jacobs หรือไม่?

เริ่มต้น New York Fashion Week ด้วยความสนุกสนาน และปลุกความกล้าของตัวเอง ไปกับรันเวย์ ‘Courage’ Spring 2025 จาก Marc Jacobs ที่นำเสนอความแปลกตาในชีวิตประวันด้วยเสื้อผ้าขนาดยักษ์เกินความเป็นจริง ไม่ว่าจะแขน กระโปรง หรือกางเกง ตอกย้ำโควทประจำคอลเล็คชั่นนี้ที่ว่า

“Fear is not my enemy – it is a necessary companion to creativity, authenticity, integrity and life.”
MARC JACOBS

เพราะถ้าตั้งแง่กับ ‘ความกลัว’ เราคงไม่มีวันได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ในโลกแฟชั่น และความสนุกคงหล่นหายไปตามระยะเวลา

อย่างที่ทุกคนสังเกตเห็น ‘Courage’ Spring 2025 จะเล่นกับเรื่องของ ‘ปริมาตร’ เป็นหลักทั้งกระโปรงและเสื้อสเวตเตอร์ดีไซน์พองๆ รวมถึงการจับจีบกางเกงที่ไม่เป็นไปตามแบบนิยม จนทำให้ซิลลูเอตดูแปลกตาออกไป แม้กระทั่งรองเท้าหัวโต และรองเท้าหัวแหลมที่เหล่านางแบบสวมใส่ยังสะท้อนให้เห็นการฉีกกรอบแฟชั่นในชีวิตประจำวันตามชื่อของคอลเล็คชั่นนี้นั่นเอง เรียกว่าถ้าหยิบไอเท็มมาสักชิ้นแล้วนำมาแมตช์ลุคในวันธรรมดา เราคงกลายเป็นแฟชั่นนิสต้าคนนึงแน่นอนค่ะ


ภาพ: Marc Jacobs

Thai Music Wave

กระแสความนิยมศิลปิน Thai Music Wave ซอฟต์พาวเวอร์ดนตรีของไทย

Alternative Textaccount_circle
Thai Music Wave
Thai Music Wave

จับตาต้องใจคลื่นดนตรี Thai Music Wave ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย สร้างกระแสในอุตสาหกรรมดนตรีระดับนานาชาติ

ในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา ศิลปินไทยได้สร้างกระแสในอุตสาหกรรมดนตรีระดับนานาชาติอย่างน่าประทับใจด้วยการขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีที่สำคัญทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงความสามารถที่โดดเด่นของตัวศิลปินเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงไทยที่ก้าวไกลสู่เวทีระดับสากล มีศิลปินไทยที่ได้เข้าร่วมแสดงในงานเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติมากมาย อาทิ SXSW Sydney 2024 ในออสเตรเลีย Baybeats Music Festival 2024 ที่สิงคโปร์ AXEAN Festival 2024 ในอินโดนีเซีย และ ONE MUSIC CAMP 2024 ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมดนตรีแข็งแกร่งและได้รับการยอมรับในระดับโลก ความสำเร็จนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของศิลปินไทยในสายตานานาชาติ แต่ยังตอกย้ำถึงศักยภาพอุตสาหกรรมดนตรีของไทยที่กำลังขยายตัวและได้รับการยอมรับในวงกว้าง นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ในการพัฒนาผลงานเพื่อก้าวสู่ตลาดดนตรีระดับโลกในอนาคต

Thai Music Wave

ความหลากหลายทางดนตรี ผสานเสน่ห์เฉพาะตัวของศิลปินไทย พร้อมมัดใจผู้คนทั่วโลก

จากกระแสความนิยมที่เกิดขึ้น สิ่งที่ทำให้ศิลปินไทยเริ่มกลายเป็นที่จับตาต้องใจทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้น มาจากการผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารที่เข้าถึงอารมณ์ผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้งและหลากหลายแนว ตั้งแต่เพลงป๊อป ฮิปฮอป ร็อค ไปจนถึงลูกทุ่ง หมอลำและดนตรีพื้นบ้าน อีกทั้งศิลปินไทยยังสามารถนำเสนอความเป็นไทยในรูปแบบที่ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ตัวอย่างเช่น เจฟ ซาเตอร์ ศิลปินที่มีเอกลักษณ์ในแนวเพลงหลากหลาย ทั้งป๊อป อาร์แอนด์บี และฮิปฮอป โดยนำซาวด์ดนตรีที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวมาผสมผสานกับการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกในแต่ละบทเพลงอย่างลึกซึ้ง สร้างเสน่ห์ที่แตกต่างและดึงดูดใจผู้ฟังได้อย่างน่าประทับใจ หรือ มิลลิ ศิลปินฮิปฮอปสาวที่สามารถนำเสนอเนื้อหาที่มีความหมายและสะท้อนความเป็นตัวตนได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงบิวกิ้น-พีพี ที่มีเสียงร้องที่ทรงเสน่ห์ในเพลงป๊อปที่เข้าใจง่ายและติดหู หรือวงเกิร์ลกรุ๊ป T-Pop อย่าง 4 EVE ที่มีทั้งสไตล์การเต้นและการร้องที่โดดเด่น จนได้รับความนิยมจากผู้ฟังในทั้งในประเทศและต่างประเทศ และวงน้องใหม่ BUS ที่มีแนวเพลงป๊อปสุดชิคกับเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย  หรือลำไย ไหทองคำ นักร้องลูกทุ่งสาวเสียงดีเต้นเก่ง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดเพลงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ที่แสดงออกผ่านดนตรีเหล่านี้ ล้วนบ่งชี้ถึงศักยภาพของศิลปินไทยและวงการเพลงไทยในการรุกตลาดจนได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ

เมื่อกระแสเพลงไทยดังไกลข้ามพรมแดน สะท้อนโอกาสใหม่ที่กำลังเติบโตในตลาดโลก

ความหลากหลายทางดนตรีและเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดใจผู้ฟังทั้งในและนอกประเทศ ศิลปินไทยไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติจนทำให้ต้องมาเยือนถึงถิ่นประเทศไทย แต่ยังกลายเป็นที่จับตามอง จนไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดดนตรีต่างประเทศอีกด้วย เช่น ไพร่า (Pyra) ซึ่งเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้โชว์ความสามารถในเทศกาล Burning Man ที่สหรัฐอเมริกา และยังคว้ารางวัล Best Solo Act From Asia จาก BandLab NME Awards 2022 ที่อังกฤษ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเสียงดนตรีของศิลปินไทยสามารถไปไกลถึงเวทีระดับโลกได้ นอกจากนี้เกิร์ลกรุ๊ปรุ่นใหม่อย่าง Pixxie ก็ได้รับความสนใจจากผู้จัดงานเทศกาลดนตรีในจีนอย่าง คุณเหมาเยว่เฟิง (Mao Yuefeng) จากบริษัท Modern Sky ที่อยู่เบื้องหลังการจัดเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่กว่าสิบงานทั่วประเทศจีน ซึ่งเห็นถึงศักยภาพในการแสดงของ Pixxie และเชื่อว่าศิลปินไทยมีความสามารถในการตีตลาดในประเทศจีนอย่างดี โอกาสที่กำลังเปิดกว้างเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่าอาจไม่ใช่แค่กระแสความนิยมชั่วคราวเท่านั้น แต่ศิลปินไทยสามารถยืนหยัดและเติบโตในตลาดดนตรีนานาชาติอย่างมั่นคงได้

ก้าวต่อไปของวงการเพลงไทย การเดินหน้าเต็มกำลังขยายกระแส Thai Music Wave สู่ทั่วโลก

ผลลัพธ์จากกระแสความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่เริ่มเห็นได้อย่างชัดเจนในปัจจุบัน ทำให้เกิดการร่วมมือกันของผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลักดันและขับเคลื่อนเพื่อสานต่อความสำเร็จดังกล่าวให้เกิดความให้ยั่งยืน เช่นเดียวกับที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA หน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย ได้ร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านดนตรี จัดทำโครงการ Music Exchange ที่มาพร้อมกลยุทธ์ Push & Pull ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้แสดงบนเวทีต่างประเทศ พร้อมเชิญชวนผู้จัด ผู้คัดเลือกศิลปิน เอเจนซี่ของเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ รวมถึงบุคลากรสำคัญในอุตสาหกรรมดนตรี ทั้งในกลุ่มภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) สหภาพยุโรป (EU) และอเมริกาที่มีผลต่อการส่งออกศิลปิน เข้ามาเยี่ยมชมเทศกาลดนตรีของไทย (Business Visit) และจัดให้มีกิจกรรมเพื่อสร้างเครือข่ายและจับคู่ธุรกิจ (Business Matching and Networking) กับธุรกิจค่ายเพลงของไทย อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความแข็งแกร่งในการขยายกระแสสู่ตลาดโลก

ด้าน นายณฐพล ศรีจอมขวัญ รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านดนตรี และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สไปร์ซซี่ดิสก์ จำกัด เผยถึงแนวทางการดำเนินงานว่า โครงการ Music Exchange เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดที่ค่ายเพลงและศิลปินเคยเผชิญ เช่น การต้องพึ่งพาคอนเน็กชันหรือการสร้าง Social Media เพื่อเข้าถึงตลาดต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนที่ไม่สามารถประเมินผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยมองว่าหากโครงการมีการดำเนินงานต่อเนื่อง 3-5 ปี ต่อจากนี้ จะแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของผลลัพธ์ที่มากขึ้นได้แน่นอน

สอดคล้องกับมุมมองของ นายพงศ์นรินทร์ อุลิศ รองประธานอนุกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคทเรดิโอ จำกัด ที่ได้กล่าวเสริมถึงประโยชน์ของโครงการในแง่การสร้างโอกาสทางธุรกิจว่า โครงการ Music Exchange นี้เป็นกลไกสำคัญในการจับคู่ธุรกิจระดับนานาชาติ โดยการเชิญผู้จัดงาน ผู้คัดเลือกศิลปิน และเอเจนซี่เทศกาลดนตรีจากต่างประเทศมาดูงานในไทย ทำให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ศิลปินไทยได้แสดงความสามารถและสร้างเอกลักษณ์ในสายตาระดับนานาชาติได้สะดวกมากขึ้น ทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้รับเชิญไปแสดงบนเวทีระดับโลก หากมีการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ในประเทศที่ศิลปินไปแสดงมากขึ้นควบคู่กันไป จะยิ่งช่วยเพิ่มการรับรู้และสร้างฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้วงการดนตรีไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเวทีโลกได้

ทั้งนี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินงานดังกล่าวให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ในปี 2568 ทางคณะอนุกรรมการฯ ยังมุ่งมั่นปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์เพลงและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมดนตรีอย่างยั่งยืน รวมทั้งพัฒนาบุคลากรและสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ฟังในประเทศ เพื่อเสริมสร้างตลาดภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และพร้อมขยายกระแส Thai Music Wave สู่ตลาดโลกอย่างมั่นคงต่อไป

ไข้หวัดใหญ่

‘ไข้หวัดใหญ่’ เกิดจากอะไร? ใครเสี่ยงบ้าง? พร้อมวิธีป้องกันทุกสายพันธุ์

Alternative Textaccount_circle
ไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ เอ และบี เราจะป้องกันได้อย่างไร และเมื่อไหร่ควรมาพบแพทย์ รวมไปถึงการเช็คอาการของโรค สำหรับนำไปเฝ้าระวัง สังเกตตนเองและคนรอบข้าง เพื่อเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัย และการรักษาอย่างเหมาะสม บุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อและเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันอย่างเหมาะสม

โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่า (Influenza Virus) ในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้มีไข้ ไอ น้ำมูก คัดจมูก จาม เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย โดยอาการคล้ายกับไข้หวัด แต่มักจะรุนแรงกว่าและหายช้ากว่า บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ จนทำให้มีอาการหอบเหนื่อยได้

การแพร่กระจายของเชื้อ
ทางการหายใจ โดยการรับเชื้อที่ปนเปื้อนที่อยู่ในอากาศ จากการ ไอ จาม หรือพูดของผู้ที่ป่วยโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่นหรือพื้นที่ปิด เช่น โรงเรียน ออฟฟิต การสัมผัสฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย จากมือที่สัมผัส แล้วใช้มือสัมผัสที่จมูกและปาก

บุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อและการเกิดภาวะแทรกซ้อน

  • เด็กที่อายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี
  • ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
  • หญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่อยู่ในระยะ 2 สัปดาห์หลังคลอด
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน หัวใจ ปอด เส้นเลือดสมองตีบ โรคไตเรื้อรัง

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิด ได้แก่
1. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์
2. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์

แนะนำฉีดวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ เนื่องจากสามารถครอบคลุมเชื้อไวรัสสายพันธุ์เอ ทั้ง H1N1 และ H3N2 และสายพันธุ์บี ทั้งตระกูล Victoria และ Yamagata

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์มีประโยชน์อย่างไร?

  • ลดติด : ป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ครอบคลุมสายพันธุ์มากขึ้น
  • ลดตังค์ : ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา ลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดการขาดงานหรือขาดเรียน
  • ลดตาย : ลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน และอัตราการเสียชีวิต

ซึ่งเชื้อ“ไข้หวัดใหญ่” ที่ระบาดในแต่ละปีอาจเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากทุกคนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) จึงแนะนำวิธีในการป้องกัน ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่กับเด็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และผู้ใหญ่ทุกปี

โดยปี 2566 ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้แนะนำปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ใหม่ เพื่อคลอบคลุมเชื้อ an A/Victoria/4897/2022 (H1N1) pdm09-like virus หรือ an A/Wisconsin/67/2022 (H1N1) pdm09-like ที่คิดว่าจะระบาดในปีนี้

วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดปี โดยช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ก่อนฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) และก่อนฤดูหนาว (เดือนตุลาคม) เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่


ขอบคุณข้อมูล : พญ.พวงรัตน์ ตั้งธิติกุล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลนวเวช

ภาพ : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

"ต้าเอส"

รักที่พลัดพราก 20 ปี สู่รักครั้งสุดท้ายของ “ต้าเอส” นางเอกในตำนาน F4

Alternative Textaccount_circle
"ต้าเอส"
"ต้าเอส"

ถือเป็นข่าวร้ายที่ทำให้เศร้าเป็นอย่างมาก สำหรับการจากไปของอดีตนางเอกในตำนานวัย 48 ปี “ต้าเอส” หรือ “สวีซีหยวน” ดาราชาวไต้หวันที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากซีรีส์ “รักใสใส หัวใจ 4 ดวง” (Meteor Garden) ในบทบาทของ “ซันไช่” โดยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 มีรายงานว่าเธอเสียชีวิตย่างกะทันหันที่ญี่ปุ่น จากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ที่ควบคุมไม่ได้ หลังเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัวในช่วงเทศกาลตรุษจีน

"ต้าเอส"

การจากไปตลอดกาลของ “สวีซีหยวน” สร้างความเสียใจอย่างสุดหัวใจกับสามีชาวเกาหลีใต้ กูจุนยอบ เป็นอย่างมาก เพราะในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้จะเป็นวันครบรอบแต่งงาน 3 ปีของคู่รัก

สำหรับเส้นทางความรักของ “สวีซีหยวน” และ กูจุนยอบ เรียกได้ว่าเป็น พรหมลิขิตที่ถูกพราก กูจุนยอบ อดีตสมาชิกวง CLON ได้แต่งงานกับ “สวีซีหยวน” เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2022 โดยหลังจากแต่งงานกัน ฝ่ายชายได้ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์เกาหลี You Quiz on the Block ว่า “ความรักของเขาและต้าเอสคือพรหมลิขิต”

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 “สวีซีหยวน” และ กูจุนยอบ มีโอกาสได้เจอกันในคอนเสิร์ตหนึ่งที่ไต้หวัน ทั้งสองตัดสินใจคบหาดูใจกัน แต่หลังจากนั้น 1 ปี ก็ต้องเลิกราเพราะหน้าที่การงาน โดยคืนก่อนที่จะแยกย้ายกันคู่รักกอดกันร้องไห้ทั้งคืน กูจุนยอบยังได้พูดว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่ทำอย่างนั้น เขาตัดสินใจง่ายเกินไปที่ยอมปล่อยมือแฟนสาวเพียงเพราะอุปสรรค

วันเวลาผ่านไปอดีตคู่รักแยกย้ายกันไปเติบโต “สวีซีหยวน” แต่งงานกับนักธุรกิจชาวจีน “หวังเสี่ยวเฟย” ทั้งสองคบกันเพียง 20 วันก่อนตัดสินใจหมั้นกันทันที และจัดงานแต่งงานในปี 2011 โดยคนใกล้ชิดเผยว่าทั้งสองเป็นรักแรกพบของกันและกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน ทว่าในปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่ 10 ของชีวิตคู่ทั้งสองตัดสินใจแยกทางกัน แต่ยังคงสถานะพ่อ-แม่ของลูกไว้

หลังจากที่ “สวีซีหยวน” หย่าร้าง กูจุนยอบ คิดว่าอยากให้กำลังใจอดีตแฟนสาว จึงติดต่อผ่านเบอร์เดิมโดยไม่รู้ว่าเธอจะยังใช้เบอร์นี้หรือไม่ แต่พลังแห่งรักทำให้ทั้งคู่กลับมารักกันอีกครั้ง

“พวกเราแต่งงานกันแล้ว สานต่อบุพเพสันนิวาสเมื่อยี่สิบปีก่อนที่ยังไม่คลาย พวกเราอยากสานต่อความรักที่ล้ำค่านี้ เมื่อได้ยินว่าเธอหย่ากับสามี ผมก็ไปควานหาเบอร์โทรเมื่อยี่สิบปีก่อนเพื่อติดต่อเธอ โชคดีที่เบอร์โทรไม่เปลี่ยน พวกเราจึงกลับมาติดต่อกันใหม่ เราเสียเวลามามาก ไม่อาจสิ้นเปลืองเวลาได้อีก ดังนั้นผมจึงขอเธอแต่งงาน และในที่สุดเธอก็รับปาก หลังจากนี้เราจะจดทะเบียนสมรสกันก่อน จึงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะผมแต่งงานช้ามาก ดังนั้นจึงหวังว่าทุกท่านจะสนับสนุนและอวยพรเรา”

แม้จะเป็นความรักที่รอคอยมานาน “สวีซีหยวน” และ กูจุนยอบ ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ เมื่ออดีตแม่สามีออกมาโพสต์แฉ ขณะเดียวกันมีหมอดูออกมาเผยว่าการแต่งงานใหม่ต้องพบกับปัญหาที่เลวร้ายเป็นสองเท่า ชีวิตแต่งงานจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 ปี ,ต้าเอสจะมีอายุไม่ถึง 50 ปี แม้จะเจอกับเรื่องราวแง่ลบแต่นางเอกดังกลับมีทัศนคติที่กว้างไกล

ซึ่งเธอได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “เราไม่เคยรู้ว่าจะตายเมื่อไร ดังนั้นฉันจึงไม่กลัวความตาย หรือความยากลำบาก เมื่อมันเกิดขึ้นฉันยังสามารถก้าวต่อไปได้ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ก็คือความตาย ฉันแค่คิดว่าโลกหลังความตายนั้นสวยงามมาก”

อย่างไรก็ตามกำลังเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอย่างมากเมื่อคำทำนายนั้นเป็นเรื่องจริง ต้าเอสได้เสียชีวิตก่อนที่จะได้ฉลองแต่งงานครบรอบ 3 ปี เพียง 6 วัน ขณะที่อีกเพียง 2 ปี เธอจะอายุครบ 50 ปีเท่านั้น


10 ลุคโดดเด่นของเหล่าเซเลบริตี้ บนพรมแดง Grammy Awards 2025

Alternative Textaccount_circle

พรมแดงประกาศรางวัลวงการเพลงก็ไม่แพ้เวทีไหนๆ แพรวจึงรวม 10 ลุคจัดเต็มของเหล่าเซเลบริตี้มาให้ชม!

ลุคของเซเลบริตี้ยังคงสร้างสีสันให้พรมแดง Grammy Awards เช่นเคย สำหรับครั้งที่ 67 นี้ เต็มไปด้วยเหล่าคนดังระดับเอลิสต์ไม่ว่าจะเป็น Sabrina Carpenter ที่มาในเดรสคล้องคอสีฟ้าพาสเทล โดดเด่นด้วยระบายขนนกสองชั้นจาก AW ANDERSON ขณะที่ Taylor Swift ปรากฏตัวในลุค Vivienne Westwood ด้วยมินิเดรสเลื่อมเกาะอกสีแดง ที่มีกิมมิกเป็นชาร์มตัวอักษร ’T’ ประดับบริเวณต้นขา

ต่อมาศิลปินระดับตำนานอย่าง Lady Gaga สวมเดรสหนังสไตล์วินเทจตามแบบฉบับ Vivienne Westwood พร้อมเครื่องประดับจาก Tiffany and Co. ส่วน Chappell Roan ปรากฏตัวในลุคสุดอลังการจาก Jean Paul Gaultier คอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ Spring/Summer 2003 และเดรสลายเสือประดับขนนกของ Cardi B จาก Roberto Cavalli

สำหรับ Troye Sivan เขาปรากฏตัวในสูทผ้าซาตินสีม่วงจาก Prada ส่วนเดรสปาดไหล่ประดับดอกคามิลเลีย Gracie Abrams รังสรรค์โดย Chanel อีกหนึ่งลุคคลาสสิกที่เจอทุกพรมแดงนั้นคือออลแบล็ค ซึ่งงานนี้ก็มี Billie Eilish ในลุคสุดเท่จาก Prada ขณะที่ Olivia Rodrigo มาพร้อมเดรสวินเทจดีไซน์ Cut-Out จาก Vesace สุดท้าย Miley Cyrus ในเดรสคล้องคอเว้าอกจาก Jean Paul Gaultier

Cr. Getty Images


‘พระเพลิงลุกโชนอยู่ในหัวใจ ไม่ใกล้ไม่ไกลในที่ทำงานเดียวกัน ใช่คุณไหม?? ต้องเช็ก!!’ดวงรายสัปดาห์ 4-9 กุมภาพันธ์ 2568

Alternative Textaccount_circle

‘พระเพลิงลุกโชนอยู่ในหัวใจ ไม่ใกล้ไม่ไกลในที่ทำงานนี้ล่ะ!!’

ดวงรายสัปดาห์ 4-9 กุมภาพันธ์ 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  ชาวอาทิตย์ก็ยังมีโอกาสได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ดินอยู่นะคะ แต่สำหรับสัปดาห์นี้จะเป็นในเรื่องของการเกษตร เรือกสวนไร่นา ศิลปวัฒนธรรม งานตกแต่งสวน ตลอดจนสินค้าโอทอป  อย่างไรก็ตามคุณต้องนำหลักวิชาการ ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญที่มีออกมาใช้ทั้งหมด ก็นับว่าเป็นข่าวดี เพราะคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำงานหรือทำธุรกิจกับผู้ใหญ่ผู้หญิงจะได้รับความเมตตาเอ็นดูเป็นพิเศษ เธอจะส่งเสริมคุณให้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้เลย  

การเงิน  :  นับว่าเป็นสัปดาห์ที่ดีของคุณเลยค่ะ ผู้ใหญ่เมตตาสนับสนุนในเรื่องเงินและเรื่องงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ผู้หญิง ไม่อยากบอกเลยว่า เธอมีเมตตาถึงกับยกที่ดินให้คุณได้เลยนะ

ความรัก  :  เป็นสัปดาห์ที่คุณจะมีความสุขอยู่กับครอบครัวที่น่ารัก อยู่ท่ามกลางผู้ใหญ่ในบ้าน รวมถึงคนที่เป็นแม่ด้วย นับว่าเป็นสัปดาห์ครอบครัวเลยก็ได้นะ  คนโสด  เช่นกันค่ะ จะเรียกว่าเป็นสัปดาห์แห่งความสุขก็ได้ อยู่ท่ามกลางความรัก ความอบอุ่นของผู้ใหญ่ แม้คุณจะถูกพวกท่านนัดเดทให้ แต่ก็เป็นคนที่โอเค ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็พร้อมไปหมด

สุขภาพ  :  มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในช่องท้อง หากคุณเพิ่งผ่าตัดอวัยวะภายในช่องท้อง หรือผ่าคลอด ก็ต้องระวังแผลจะอักเสบ ไม่ควรยกของหนักจนแผลได้รับความกระทบกระเทือน นอกจากนั้นยังต้องระวังพวกแผลในช่องปาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าประมาทเรื่องฝุ่น เพราะระบบทางเดินหายใจของคุณเริ่มจะมีปัญหาแล้ว

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   เปิดสัปดาห์ใหม่ของเดือน ชาวจันทร์ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะ เพราะมีโอกาสที่จะถูกเซอร์ไพร์สแบบฉ่ำๆ  จนนั่งไม่ติด ต้องรีบมาทางออกให้ตัวเองรัวๆ เป็นไปได้ว่าจะตกอยู่ท่ามกลางภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เช่น ตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ ทางเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้คือ ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และความน่าเชื่อถือของคุณทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเองค่ะ อ้อ เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วยนะ

การเงิน  :  เข้ามือขวาออกมือซ้ายรัวๆ เลยค่ะ แต่ก็เรียกว่าโชคมาแบบรัวๆ เช่นกัน เรียกว่าไม่ต้องทำงานหนักก็มีเงินเข้ามาให้ใช้จ่ายอย่างสบายๆ  แล้วหากที่ผ่านมาจัดการการเงินตัวเองไม่ได้ ถูกมิจฉาชีพหลอกบ้าง   สัปดาห์นี้จะเริ่มรู้ทัน มีเหลือเก็บออมด้วย  

ความรัก  :   หากเคยรักเคยหลงคู่ครองจนไม่เป็นอันกินอันนอน ไม่ยอมให้อยู่ห่างจากสายตา มาสัปดาห์นี้ตาคุณจะเริ่มเปิดกว้างไกลจากคนที่นอนอยู่ข้างๆ แล้ว มีโอกาสได้พบเพื่อนใหม่ที่คุยกันรู้เรื่องในเรื่องของทัศนคติ และมุมมองต่างๆ    คนโสด  ก็ยังคงโรแมนติกอยู่นะคะ รักใครก็ให้เต็มร้อย แต่หากผิดหวังก็เกินร้อย พอมาสัปดาห์นี้คุณจะเริ่มมีสติอยู่กับตัว อยู่กับการทำงานมากกว่าความรัก หากมีเพื่อนใหม่ก็จะเป็นมิตรกันในเรื่องของงานมากกว่า

สุขภาพ  :   ก็ยังอยู่เป็นสาวพลังเยอะอยู่นะคะ ไม่ค่อยเจ็บป่วยกับใครง่ายๆ แต่ก็ยังต้องระวังเรื่องของขา ตั้งแต่สะโพกลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณกล้ามเนื้อ เอ็น ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะอักเสบจนเดินผิดท่าผิดทาง

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   ชาวอังคารสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกงานช่างต่างๆ นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ คิดค้น ทดลอง เกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านที่ต้องติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน การใช้ภาษา ทั้งพูด อ่าน เขียน ซึ่งคุณมีดวงที่จะเป็นถึงนักปราชญ์ ความสามารถระดับอัจฉริยะ จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง ได้โกอินเตอร์ แต่ก็อย่าลืมนะคะว่า ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย เดี๋ยวจากรุ่งๆ จะดับเสียก่อน

การเงิน  :   สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะมีความเป็นจิตอาสาสูง ทำงานด้วยความรัก ภายใต้อุดมคติ และอุดมการณ์ ไม่หวังผลตอบแทน แม้จะเหนื่อยกายและใจแค่ไหน แต่ก็มีความสุข

ความรัก  :   สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้อยู่ท่ามกลางความรักของครอบครัว ก็ไม่ผิดอะไร หากคุณจะเป็นเจ้าภาพในการสรรสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในบ้านเอง เช่น จัดเซอร์ไพร์ส แต่งบ้าน เพราะอย่างน้อยบรรยากาศในชีวิตคู่ของคุณก็มีโอกาสสดชื่นขึ้นจากที่กำลังแย่ๆ กันอยู่ คนโสด  หากคุณกำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก ทั้งรัก ทั้งหลง บูชาความรักให้อยู่เหนืออะไรทั้งปวงแล้วล่ะก็ สัปดาห์นี้อยากให้ตั้งสติ มองให้ทะลุภาพมายาทั้งหลาย เพราะมีโอกาสที่คุณจะจบแบบเจ็บๆ  

สุขภาพ  :  เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ หากคุณยังนั่งทำงานในท่าเดิมๆ ก็อยากให้ระวัง เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะเป็นออฟฟิศซินโดรม ปวด เมื่อย ตึงบริเวณคอ บ่า ไหล่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลัง จึงควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถ หรือฝึกโยคะ เหยียดคลายกล้ามเนื้อบ้าง

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   สำหรับชาวพุธที่กำลังอึดอัดกับการทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ ไม่ถนัด อยู่ล่ะก็ สัปดาห์นี้จะเบาตัวขึ้น เพราะมีโอกาสที่ผู้ใหญ่ผู้มีบุญบารมี มียศศักดิ์ จะมาดึงคุณไปช่วยงานในสายบุญ งานศาสนา หรืองาน CSR เพื่อสังคม ซึ่งเป็นไปได้ว่าคุณจะได้ร่วมงานกับเพื่อนผู้หญิงในงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้สึกและอารมณ์ในการแสดงออก เช่น งานบันเทิง งานโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ งานเขียน งานข่าว งานดีไซน์ หรือสินค้าบริการที่มีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่คนนั้นจะนำชื่อเสียงและความสำเร็จมาให้คุณ

การเงิน  :   หากใครที่กำลังถูกหลอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการลงทุน การประกัน กู้หนี้ยืมสินอยู่ล่ะก็ สัปดาห์นี้มีโอกาสที่ผู้ใหญ่หรือไม่ก็เพื่อนผู้หญิงจะมาช่วยเคลียร์ให้ แล้วคุณก็อย่านำเงินไปใช้หมดล่ะ เพราะเหมือนเตรียมลิสต์ยาวเป็นหางว่าวไว้แล้วว่า หากหมดหนี้แล้วจะไปทำอะไรบ้าง  

ความรัก  :  สำหรับชาวพุธที่กำลังจับได้ว่าตัวเองถูกคนใกล้ตัวหลอกอยู่ล่ะก็ สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบทางสว่าง ซึ่งอัศวินผู้นั้นอาจเป็นได้ทั้งผู้ใหญ่ หรือเพื่อนสนิทผู้หญิงที่จะมาช่วยเคลียร์ปัญหาชีวิตคู่ให้คุณ  คนโสด  สำหรับชาวพุธที่กำลังคบอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก แต่จำใจต้องคบเพราะติดที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จัก สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะพบความจริงที่ไม่เคยรู้เลยว่า เพื่อนสนิทผู้หญิงเป็นให้คุณได้ทุกอย่าง  

สุขภาพ   :  ต้องระวังเรื่องภูมิแพ้นะคะ โดยมีสาเหตุจากสภาพอากาศที่กลางคืนหนาว กลางวันร้อน แถมฝุ่นเต็มบ้านเต็มเมืองอย่างนี้ แม้สุขภาพแข็งแรง แต่ก็ยากจะต้านทาน ทางที่ดีอย่าประมาท ตอนนี้ N 95 ก็ขาดตลาดแล้ว คาดว่ากว่าจะมีอีกทีก็น่าจะย่างเข้าหน้าฝนแล้ว แต่อย่างไรใส่แมสก์ (ธรรมดา) ก็ยังดีกว่าสูดรับเต็มๆ นะคะ

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   ก็ยังต้องระวังตัวอยู่นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือดำเนินธุรกิจหรือเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เรียลเอสเตท บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้างทุกชนิด ฯลฯ เพราะในสัปดาห์นี้คุณมีโอกาสได้เข้าไปทำงานทางด้านข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ การคิดวิเคราะห์ต่างๆ ยิ่งหากคุณเป็นพนักงานประจำ แม้คุณจะขยันทำงาน แต่ก็มีโอกาสที่จะอึดอัดกับบรรยากาศในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย ซึ่งสาเหตุเป็นไปได้ว่าจะมาจากความคิดเห็นที่เป็นตัวเองมากเกินกว่าจะร่วมงานกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น จึงทำให้คุณอยากจะลาออกวันหนึ่งไม่รู้จักกี่รอบต่อกี่รอบเลย  

 การเงิน  :   รายจ่ายเยอะนะคะสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายจ่ายที่เกี่ยวกับบ้าน ที่ดิน หากใครกำลังผ่อนบ้าน หรือลงทุนสร้างบ้าน มีความเสี่ยงที่เงินจะติดขัด เพราะจากรายรับรายได้ที่เคยแน่นอนจะกลายเป็นผันผวน จนกระทบกับรายจ่ายประจำ

ความรัก  :  ก็ยังคงไม่สงบ ยิ่งสัปดาห์นี้มีโอกาสที่บ้านจะลุกเป็นไฟเลยทีเดียว เป็นไปได้ว่าจะมาจากความหึงหวง จากความมโนของคุณที่คิดไปเอง ดังนั้น ก็อย่าเพิ่งซักไซ้ไล่เรียงอะไรกันเยอะนะคะ เพราะต่างคนต่างก็ทำงานมาเหนื่อยๆ ก็คงไม่พร้อมที่จะตอบปัญหา แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม คนโสด  เป็นไปได้ว่าความรักจะเกิดขึ้นในที่ทำงานนะคะ แต่ก็ดูดีๆ เพราะคนนั้นน่าจะมีเจ้าของอยู่ เพราะดวงของคุณสัปดาห์นี้มีพระเพลิงลุกโชนในหัวใจอยู่นะคะ

สุขภาพ   :   สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะหงุดหงิดง่ายมาก โกรธ โมโหรัวๆ เครียด ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นก็ต้องระวัง เพราะโรคร้ายชอบนักล่ะความเครียด พวกอารมณ์ทางลบทั้งหลาย

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :    สำหรับชาวศุกร์เปิดสัปดาห์ต้นเดือนด้วยความเครียด ความกดดัน ยิ่งหากใครที่ได้รับผิดชอบงานหรือธุรกิจที่อ่อนไหว เสี่ยงต่อความผิดพลาด ยิ่งต้องระวัง เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดชอบในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ทางที่ดีควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากๆ ขณะเดียวกันคุณเองก็ต้องใช้ทักษะ ความรู้ ความสามารถเท่าที่มีทั้งหมดมาใช้ในการทำงานหรือดำเนินธุรกิจด้วย เพื่อเตรียมตัวสำหรับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จะมีโอกาสเข้ามาอย่างไม่คาดคิดในทุกๆ เรื่อง

การเงิน  :  จริงๆ สัปดาห์นี้คุณมีโชค มีเงินเข้ามาให้ใช้จ่ายสบายๆ  หากจะทำธุรกิจควรทำคนเดียว ไม่ควรร่วมหุ้นร่วมทุนกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ เงินเทา หรือการติดสินบน ส่วย เพราะจะส่งผลเสียในอนาคต

ความรัก :   สัปดาห์นี้นับว่าคุณมีโชคในเรื่องคู่ครอง เพราะเขาจะช่วยเสริมบารมีให้กับคุณในทุกๆ เรื่องเลย แต่ยกเว้นความคิดเห็น เพราะมีโอกาสที่คุณจะอึดอัดจนกลายเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว  คนโสด  เสน่ห์ก็ยังไม่เบานะคะสำหรับชาวศุกร์ แต่ดูเหมือนว่ายากที่จะลงตัวกับใคร เพราะความคิดเห็นไม่ลงตัวด้วย คบกันก็มีแต่จะทะเลาะกัน อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ดีกว่า

สุขภาพ  :   หากจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน ควรระวังเรื่องความสะอาด ทั้งที่พัก อาหาร และสถานที่สาธารณะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะนำเชื้อกลับบ้านมาด้วย ซึ่งก็คงต้องรวมเรื่องของฝุ่นด้วย ควรใส่แมสก์ป้องกันตัวเองด้วยก็ดี

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  สำหรับสัปดาห์ต้นเดือนของชาวเสาร์ มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับความบันเทิงเริงรมย์ ทางด้านดนตรี กวี ศิลปะ ศิลปิน เย็บปักถักร้อย งานฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับทางด้านอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ  เป็นไปได้ว่าคุณจะได้เข้าไปทำงานทางด้านการติดต่อประสานงาน เช่น งานขาย การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยว โรงแรม มัคคุเทศก์ นอกจากนั้นงานทางด้านภาษาต่างประเทศก็ยังคงมาในสัปดาห์นี้ด้วย

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะเสียเงินให้กับคนรัก ลูกหลาน หรือบุคคลอันเป็นที่รัก ในเรื่องของบ้านและที่ดิน หรือหากช่วงนี้ใครมาขอยืมเงินไปกู้บ้าน กู้คอนโด รวมถึงเรื่องประกันภัย ประกันชีวิตด้วย ก็ควรปฏิเสธ เพราะคุณมีเกณฑ์ถูกหลอก

ความรัก  :   สัปดาห์นี้ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขอย่างไร คุณก็ยังคงไม่ห่างหายกันไปไหน เพราะเป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้ต่างก็งานยุ่งด้วยกันทั้งคู่จนไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ก็ให้คิดว่ายังรักกันอยู่นะ อย่ามโนไปเป็นอย่างอื่น คนโสด หากใครที่ยังมีความหวังกับเรื่องความรักอยู่ สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับคนถูกใจในการทำงานนะคะ ก็ค่อยๆ ศึกษานิสัยใจคอกันไป ไม่ต้องรีบ นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่คนรักเก่าจะกลับมาขอคืนดีด้วยอีกล่ะ

สุขภาพ   :   ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจากความประมาท นอกจากนั้นยังต้องระวังพวกระบบเลือด ความดัน น้ำเหลือง และต่อมไร้ท่อ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะโกโซบิ๊กได้เลย

DEVIALET 

Beyond the SOUND “DEVIALET” @Central Chidlom

Alternative Textaccount_circle
DEVIALET 
DEVIALET 

ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษเมื่อ DEVIALET แบรนด์เครื่องเสียงสุดลักชัวรี่ ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมเสียงและเทคโนโลยีอะคูสติกระดับโลกจากฝรั่งเศส มาเปิดร้านแห่งแรกในประเทศไทย ที่ชั้น 2 เซ็นทรัลชิดลม โอกาสนี้แพรวมีโอกาสพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ คุณ ‘Jacques DEMONT’ ซีอีโอของแบรนด์ ที่บินตรงมาร่วมแบ่งปันแนวคิดและการพัฒนารังสรรค์ ยกระดับประสบการณ์ในการฟังระดับโลก ไปพร้อมๆ กับมอบความสุขสุนทรีย์ให้กับลูกค้าที่มองหาความแตกต่าง ไม่เหมือนใคร

DEVIALET 

Emotional Connection 

​คุณ Jacques เล่าถึงความประทับใจแรก จนทำให้ได้เข้ามาดูแลแบรนด์ในฐานะ CEO ว่า “ครั้งแรกที่ผมรู้จัก DEVIALET คือปี 2017 ที่ปารีส วันหนึ่งเพื่อนชวนผมไปดินเนอร์ พอผมเห็นลำโพง Phantom ของ DEVIALET ที่ตั้งอยู่มุมห้อง ด้วยรูปทรงดูล้ำแปลกตา ชวนมอง ผมจึงนึกว่าเป็นของแต่งบ้าน กระทั่งเพื่อนบอกว่า นี่คือลำโพง แล้วเปิดเพลงให้ฟัง ซึ่งทำให้ผมประทับใจมาก วันรุ่งขึ้นผมจึงพุ่งไปซื้อมาใช้เองบ้าง และตั้งแต่นั้นมา DEVIALET ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต 

“จนถึงทุกวันนี้ ผมมีลำโพง Phantom อยู่สองตัว ไว้สำหรับฟังเพลง แล้วก็มี Soundbar ลำโพงสำหรับเชื่อมต่อกับทีวีที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก เรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนประสบการณ์การชมภาพยนตร์ของผมไปเลย เพราะมีเทคโนโลยีพิเศษ ในการนำเสนอเสียงแบบรอบทิศทางเสมือนเราอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ ทั้งจากทางซ้าย ขวา หน้า หลัง แต่แทนที่คุณต้องติดลำโพงทุกจุดเหมือนในโรงหนัง ก็แค่เปลี่ยนมาติด Soundbar แค่ตัวเดียว ที่ให้เสียงแบบเซอราวด์รอบด้าน นี่คือเหตุผลที่ผมบอกว่า DEVIALET คือนวัตกรรมครับ 

​“ดังนั้น พอผมได้รับการทาบทามให้มาเป็น CEO แค่นึกถึงความประทับใจที่ผมมีต่อ DEVIALET ผ่านการใช้งานจริงแล้ว ผมก็ตัดสินใจไม่ยากเลย เพราะ DEVIALET ไม่ใช่ลำโพงธรรมดา แต่โดดเด่นเหนือชั้นทั้งในแง่รูปลักษณ์งานดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย และคุณภาพเสียง ที่มอบประสบการณ์ผ่านการฟังได้อย่างสมบูรณ์มากๆ ส่วนตัวผมมีอารมณ์อ่อนไหว ชอบความ emotional จึงคิดว่า การฟังเพลงเป็นเรื่องของอารมณ์ เวลาฟังเพลง คนเรามักจะนึกถึงอารมณ์ หรือความทรงจำบางอย่างในชีวิต เสียงเพลงจึงไม่ต่างจากของที่ระลึกที่คุณมีในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ซึ่ง DEVIALET ตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมมาก”

DEVIALET 

DEVIALET: Innovation, Experience, Design, Value

​ในส่วนของความโดดเด่นที่ทำให้ DEVIALET ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์เครื่องเสียงสุดไฮเอ็นด์คือ “ด้วยความที่กลุ่มลูกค้าของเราค่อนข้างชัด ว่าเป็นกลุ่มที่มองหาอินโนเวชั่นใหม่ๆ ให้ความสำคัญกับดีไซน์ ประสบการณ์และคุณค่า เราจึงชัดว่า ผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่แมส ไม่เน้นปริมาณ แต่จะโดดเด่นด้วยความเอ็กซ์คลูซีฟ ตั้งแต่รูปลักษณ์ที่ล้ำสมัยนำอนาคตมากๆ อย่าง Phantom นั้น เป็นงานดีไซน์ที่ดูไม่เหมือนลำโพงเลย แต่เป็นเหมือนของตกแต่งบ้านที่ปรับใช้ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะวางไว้บนโต๊ะแบบนี้ ติดตั้งบนกำแพงหรือเพดาน หรือเซ็ตอัพบนขาตั้ง ก็ดูโดดเด่นทั้งนั้น ขณะเดียวกันในแง่คุณภาพของเครื่องเสียงและวิศวกรรมทางเสียง เราก็ถือเป็นผู้นำของวงการ เราจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางเสียงกว่า 250 รายการ เพื่อส่งมอบคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด เรายังมีการพาร์ทเนอร์กับลักชัวรี่แบรนด์ในด้านอื่นๆ อย่างแฟชั่น เช่น FENDI และ Louis Vuitton เพื่อยกระดับประสบการณ์การฟังและงานดีไซน์ใหม่ๆ ที่แตกต่างให้ทั้งกับลูกค้าของเราและของแบรนด์นั้นๆ ด้วย นี่คือเหตุผลที่ผมย้ำว่า เราเป็นแบรนด์ที่ให้คุณค่ากับประสบการณ์และนวัตกรรม และเราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอนครับ 

​“ปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตั้งแต่ลำโพงรุ่น Phantom ที่เป็นเอกลักษณ์ ลำโพงพกพารุ่น Devialet Mania ซาวด์บาร์รุ่น DevialetDione และหูฟังไร้สายรุ่น Devialet Gemini II ที่ล้วนมอบประสบการณ์เสียงที่ไม่เหมือนใคร แต่โปรดักส์ที่เป็นไฮไลท์ แน่นอนว่าต้องเป็น Phantom ที่ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และกำลังพัฒนาต่อไป เป็นรุ่นที่ใครได้ฟังแล้วก็ต้องตกหลุมรัก เรื่องน่าประทับใจคือ เมื่อใดก็ตามที่คุณได้ลองฟังเพลงจาก DEVIALET แล้วจะติดใจ ซื้อรุ่นไหนไปแล้วก็จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ แต่อยากได้รุ่นอื่นต่อไปอีก (ยิ้ม) และนี่คือจุดเด่นที่เราสามารถพัฒนาโปรดักส์ที่ยกระดับความต้องการของลูกค้าต่อไปได้เรื่อยๆ 

​“โดยสรุป DEVIALET จึงเป็นเครื่องเสียง ที่มอบประสบการณ์ครบทุกด้าน ทั้งในแง่ความงาม การใช้เป็นของตกแต่ง ประสบการณ์การฟังเพลง และไลฟ์สไตล์” 

DEVIALET 

Experience the Sound @Central Chidlom

​สำหรับร้านแห่งแรกของ DEVIALET ในประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ ณ ชั้น 2 ของเซ็นทรัลชิดลมนั้น คุณ Jacques เล่าถึงเหตุผลของการเลือกเปิดร้านที่นี่ รวมถึงความพิเศษของร้านว่า “ที่แบรนด์เลือกเซ็นทรัลชิดลม เพราะเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีของเรามานานแล้วครับ ช็อปของเราตั้งอยู่ในส่วนไลฟ์สไตล์ ที่ชั้นสอง เราจึงติดตั้งลำโพงรุ่น Phantom ในชั้นนี้ทั้งหมด เพื่อให้มอบประสบการณ์ตรงในการฟังที่เหนือชั้นให้กับลูกค้าที่มาเดินช็อปปิ้งที่ชั้นนี้ เพื่อให้ได้รับรู้ว่าคุณภาพเสียงของเราเป็นอย่างไร รูปลักษณ์ของ Phantom เป็นอย่างไร น่าสนใจแค่ไหน และถ้าคุณนึกสนใจขึ้นมาก็สามารถเข้ามาทดลองสินค้าอย่างละเอียดได้ครับ (ยิ้ม)

​“ความพิเศษยังไม่หมดแค่นี้นะครับ ที่ร้านของเรายังมี Blue Listening Room เป็นห้องฟังเพลงแบบพิเศษ ที่เราตั้งใจออกแบบและทำขึ้นมาเพื่อมอบประสบการณ์และนวัตกรรมทางเสียงที่ลึกซึ้ง เต็มอิ่มให้ลูกค้า ผ่านการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด สำคัญมากที่เวลาลองเครื่องเสียง คุณต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จึงได้ฟังคุณภาพเสียงที่สมบูรณ์สูงสุดคือเราอยากให้เหล่าลูกค้าได้ลองประสบการณ์ใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน ไปพร้อมกับการเพิ่มสีสันใหม่ๆ ในงานดีไซน์ เราต้องการเพิ่มสีสันใหม่ๆ ให้กับงานดีไซน์เป็นทางเลือกให้ลูกค้าที่ชอบความโดดเด่นเฉพาะตัว เราจึงมีสินค้าลิมิเต็ดประจำปีอยู่ในร้านนี้ด้วย นอกจากนี้ในร้านยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงอีกหลายรุ่นให้เลือกชมและทดลองใช้ ตั้งแต่ลำโพงรุ่น Phantom ที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึง Soundbar รุ่น Dione และหูฟังไร้สายรุ่น Gemini II 

“พูดง่ายๆ ว่าที่นี่จะมีทั้งคุณภาพเสียงอันเยี่ยมยอด ประสบการณ์ฟังอันล้ำเลิศ และสินค้าหลากหลายให้เลือกสรรค์ ซึ่งผมว่าห้องพิเศษอย่าง Blue Listening Room จะเป็นหนึ่งใน DNA และแนวทางในการพัฒนาต่อยอดต่อไปในอนาคตของเรา เพราะคนยุคนี้เดินทางไปทั่วโลก มีโอกาสได้เห็นอะไรใหม่ๆ หรือแนวคิดใหม่ๆ อยู่ตลอด เราจึงต้องคอยพัฒนายกระดับประสบการณ์ใหม่ๆ ต่อไป ตอนนี้เรากำลังวางคอนเซ็ปท์อยู่ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เรากำลังจะมีแบบนี้อีกที่ คือที่ดูไบครับ”

DEVIALET 

What’s Next

​สำหรับก้าวต่อไปของ DEVIALET “ในฐานะ CEO ผมตั้งใจให้แบรนด์เติบโตต่อไปโดยเน้นสองด้าน หนึ่ง ประสบการณ์ เราตั้งเป้าว่าจะเพิ่มประสบการณ์การฟังให้ผู้คนผ่านแบรนด์ของเรา เราต้องการจะเป็นท็อปในด้านนี้ ไม่ใช่แค่มอบประสบการณ์ผ่านร้านรีเทลเท่านั้น แต่ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน เรากำลังเร่งปรับปรุงพัฒนาให้ทุกอย่างสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ลูกค้าจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์จริงๆ ในทุกช่องทาง 

“สองคือนวัตกรรมด้านเครื่องเสียง ด้วยความที่ลูกค้าของเราเป็นกลุ่มมิลเลเนียลและเจน Z ซึ่งคิดเป็น 75% ของลูกค้ากลุ่มลักชัวรี่พวกเขาต้องการแบรนด์ที่มีอินโนเวชั่น มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง และมีคุณค่า เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ผมคิดว่าความท้าทายทางเทคโนโลยีทุกวันนี้ น่าจะอยู่ที่เรื่องซอฟต์แวร์ครับ เรากำลังพยายามเพิ่มประสบการณ์ลงในซอฟต์แวร์ของเครื่องเสียง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถอัพเดตไปตามเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีอะไรแปลกใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา

“ในอนาคตคงได้เห็นอะไรใหม่ๆ อีกแน่นอนครับ” 


ลิ้มลองเทสติ้งเมนูจากวัตถุดิบชั้นเลิศที่ผสมรวมฝีมือของสองเชฟคู่รัก ณ Mia

เทสติ้งเมนูชั้นเลิศที่ผสมรวมฝีมือของสองเชฟคู่รัก ณ Mia (มีอา) ร้านอาหารยุโรปสมัยใหม่กลิ่นอายเอเชีย

Alternative Textaccount_circle
ลิ้มลองเทสติ้งเมนูจากวัตถุดิบชั้นเลิศที่ผสมรวมฝีมือของสองเชฟคู่รัก ณ Mia
ลิ้มลองเทสติ้งเมนูจากวัตถุดิบชั้นเลิศที่ผสมรวมฝีมือของสองเชฟคู่รัก ณ Mia

ชวนลิ้มรสเมนูจากวัตถุดิบชั้นเลิศที่ Mia หนึ่งในไม่กี่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางกรุงฯ ดีกรีมิชลิน 1 ดาว กับ 3 เทสติ้งเมนูที่ปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Taste of Mia, Vegan Tasting Menu และ Vegetarian Tasting Menu เพื่อมอบประสบการณ์อันแสนพิเศษอย่างไม่มีที่สิ้นสุดให้แขกที่มาเยือน โดยภายในร้านตกแต่งได้อย่างโดดเด่นสะดุดทุกสายตา ส่งเสริมสไตล์การทำอาหารที่สมดุลแต่ยังมีความต่างแบบหยิน-หยางของเชฟทั้งสอง

โดยเมนูอาหารคาวแสนอร่อยในร้านนั้นรังสรรค์โดยเชฟท็อป-พงศ์ชาญ รัสเซล เชฟชาวไทยคนแรกที่ได้มิชลินสตาร์จากความเชี่ยวชาญ อาหารตะวันตก เชฟท็อปเกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และมาเติบโตในจังหวัดภูเก็ต เขาเริ่มเส้นทางในวงการอาหารเมื่อย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษในวัย 15 ปี ด้วยการเริ่มงานพาร์ทไทม์ที่โรงแรม Priory Bay Hotel ที่ซึ่งจุดประกายให้เขาทุ่มเทให้กับการทำอาหาหารอย่างเต็มที่ เชฟท็อปมีโอกาสได้ร่วมงานกับร้านอาหารมิชลินมากมาย อาทิ Gauthier Soho, The Pearl, และ Sketch ของเชฟในตำนานานอย่างปีแยร์ แกแนร์ นอกจากนั้นยังได้ร่วมงานกับร้าน Pollen ที่ประเทศสิงคโปร์

ส่วนของหวานในร้านนั้นรังสรรค์โดยเชฟมิเชลล์ โกห์ เธอโด่งดังดังอย่างรวดเร็วในวงการอาหารระดับโลก ในฐานะเชฟชาวมาเลเซียที่อายุน้อยที่สุดและเป็นชาวซาราวะค์คนแรกที่ได้รับรางวัลดาวมิชลิน หลังสำเร็จการศึกษาจาก Le Cordon Bleu Sydney เธอได้ฝึกฝนทักษะงานครัวภายการนำของเชฟนีล เพอร์รี่ และเชฟเจสัน อาเธอร์ตัน ก่อนขยับขยายมาสู่ Sühring ร้านอาหารสองดาวมิชลินชื่อดังที่กรุงเทพฯ ในฐานะเพสทรีเชฟอายุน้อย ก่อนจะมาประจำที่ Mia แห่งนี้

Mia (มีอา) เปิดให้บริการในปี 2562 เป็นร้านอาหารระดับมิชลินหนึ่งดาวใจกลางกรุงฯ ย่านสุขุมวิท ซอย 26 ก่อตั้งโดยคู่สามีภรรยา เชพท็อป-พงศ์ชาญ รัสเซลล์ และเชฟมิเชลล์ โกห์ ด้วยความตั้งใจนำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารสไตล์ยุโรปที่หรูหรา ผสมผสานกับวัฒนธรรมการกินแบบเอเชียที่โดดเด่น พร้อมด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศทั้งจากในและต่างประเทศ

อีกทั้งยังพร้อมเติมเต็มมื้อพิเศษให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วยการจับคู่เครื่องดื่มชั้นสูงกับอาหารเลิศรสเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร ผ่านโปรแกรม ‘Mia Wine Initiative’ แนวคิดของทั้งสองเชฟที่ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลาย และจิตวิญญาณของทีมงานทุกคน จนกลั่นออกมาเป็นรายการเครื่องดื่มชั้นสูงสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ทีมงานทั้งหมดในร้านได้มีส่วนร่วมในกระบวนการคัดเลือก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแขกจะได้รับประสบการณ์อันน่าพึงใจจากการคัดสรรอย่างพิถีพิถันของบุคลากรทุกคนในร้าน

เปิดให้บริการทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00น. – 21.00น. และมื้อเที่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00น. – 14.00น. ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ https://www.miarestaurantbkk.com


keyboard_arrow_up