40 สาวมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 แต่งชุดพื้นเมืองสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชียงใหม่

40 สาวงาม “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017″ เดินทางมาทำกิจกรรมเก็บตัวที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นวันแรก โดยหลังจากที่เดินทางมาถึง ทั้ง 40 คนได้เปลี่ยนมาสวมชุดพื้นเมืองล้านนา และออกเดินทางเพื่อถ่ายทำวีดิทัศน์ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่

จุดหมายแรกที่เหล่าสาวงามเดินทางถึงคือ “อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย” บริเวณทางขึ้น ดอยสุเทพ และเหล่าสาวงามได้นำดอกไม้ธูปเทียนกราบสักการะครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนเชียงใหม่และคนโดยทั่วไป จากนั้นเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ และเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่

สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระธาตุดอยสุเทพ

โดยเหล่าสาวงามสวยสดงดงามในชุดพื้นเมืองจนเป็นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว ทั้งนี้ผู้เข้าประกวดได้ถ่ายวีดิทัศน์โดยถือกรองดอกไม้เวียนรอบพระธาตุดอยสุเทพ เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ การแขวนระฆัง และไหว้ขอพร ซึ่งการปรากฏตัวของเหล่าสาวงามในชุดพื้นเมืองล้านนาหลากสีสันและยังคงติดริบบิ้นดำถวายความอาลัยบนสายสะพาย ได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ขอถ่ายภาพผู้เข้าประกวด และเวลาประมาณ 11.00 น. ได้ออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันและเปลี่ยนเป็นชุดพื้นเมืองล้านนาชุดที่ 2  ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นโรงแรมที่พักตลอดช่วงเวลาในการทำกิจกรรมเก็บตัว

วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)

เริ่มกิจกรรมถ่ายวีทีอาร์อีกครั้ง โดยสักการะพระพุทธรูปโบราณล้านนา ที่วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) วัดโบราณเก่าแก่นับแต่ครั้งพญามังราย ซึ่งทรงสร้างไว้เพื่อให้พระลังกาที่มาเผยแผ่พุทธศาสนาในเวลานั้นได้จำพรรษา สิ่งสำคัญในวัดแห่งนี้คือภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดอุโมงค์บริเวณเพดานโค้งซึ่งเป็นศิลปะล้านนาที่มีอายุกว่า 500 ปี จากนั้นเดินทางไปที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือที่มักเรียกกันว่า อนุสาวรีย์สามกษัตริย์  หรือข่วงสามกษัตริย์ ในภาษาพื้นเมือง เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยผู้สร้างเวียงเชียงใหม่ 3 พระองค์  คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ตั้งอยู่กลางเวียงเชียงใหม่ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ซึ่งคือ ศาลากลางหลังเก่า  ที่มีสถาปัตยกรรมตะวันตกที่งดงามมาก

เวลา 15.30 น. ผู้เข้าประกวดทั้ง 40 คนเดินทางไปยังวัดสวนดอก หรือวัดบุปผาราม  ตั้งอยู่บนถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถ่ายวีทีอาร์สักการะกู่เจ้านายฝ่ายเหนือ สำหรับวัดสวนดอกเป็นวัดที่สร้างและเป็นพระอารามหลวงนับแต่ครั้งราชวงศ์มังรายในปี พ.ศ.1941 วัดสวนดอกได้รับการบูรณะสำคัญ 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2450 พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อัญเชิญ รวบรวมพระอัฐิเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และพระประยูรญาติมาประดิษฐานรวมกัน เรียกว่า “กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ” หรือสุสานหลวง (เจ้านายฝ่ายเหนือ) และการบูรณะครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2475 เป็นการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระวิหารโดย ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ปัจจุบันกู่เจ้านายฝ่ายเหนือขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติภายใต้การ กำกับดูแลของกรมศิลปากร

“กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ” หรือสุสานหลวง (เจ้านายฝ่ายเหนือ)

ส่วนสถานที่ถ่ายวีทีอาร์สุดท้ายของวันแรกคือ วัดโพธารามมหาวิหาร เดิมชื่อวัดเจดีย์เจ็ดยอด หรือวัดเจ็ดยอด ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.1998 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์มังราย ทรงสร้างวัดโพธารามมหาวิหาร สร้างด้วยศิลาแลงประดับลวดลายปูนปั้น เป็นเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย

และที่วัดเจ็ดยอดนั้น สาวงามทั้ง 40 คนได้เข้าร่วมพิธีสืบสานประเพณีแห่ครัวตาน ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวล้านนาและเป็นหนึ่งในพิธีกรรมทางศาสนา โดยชาวล้านนาจะจัดขึ้นเฉพาะงานฉลองสมโภชและพิธีการสำคัญของวัด โดยจะเป็นขบวนแห่เครื่องไทยทานที่ทำขึ้นเพื่อถวายพระ ส่วนองค์ไทยทาน (ครัวตาน) ที่ถูกทำขึ้นเป็นรูปปราสาท จำลองรูปทรงต่างๆ ซึ่งชาวล้านนาถือว่าบุคคลที่ได้ร่วมการแห่ครัวตานนี้จะได้รับอานิสงส์เป็นอันมากด้วย

วัย 30+

รับมือวัย 30+ อย่างสตรอง!! แค่ปรับการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อปลุกพลังความสวยจากภายในและภายนอก

Alternative Textaccount_circle
วัย 30+
วัย 30+

พออายุมากขึ้น หลายคนอาจรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทีละน้อย เริ่มจากอาการปวดเมื่อยหลังจากนั่งทำงานมาตลอดทั้งวัน น้ำหนักเพิ่มทั้งๆที่กินอาหารเท่าเดิม เดินขึ้นบันไดสถานีรถไฟฟ้าแล้วเหนื่อยง่าย วันหยุดสุดสัปดาห์ได้นอนหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังรู้สึกอ่อนล้า พักร้อนกลับมายังรู้สึกเพลีย ยากที่จะเติมพลังให้กลับมาใช้ชีวิตได้เต็มศักยภาพเหมือนก่อน

แพรวดอทคอมจึงสอบถามถึงปัญหาดังกล่าวไปทางผู้เชี่ยวชาญจากฟิตเนส เฟิรส์ท ได้ความว่า ในช่วงการเจริญเติบโต ระบบการทำงานของร่างกาย อวัยวะ กล้ามเนื้อ ถูกสร้างมาให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นหากใครเล่นกีฬา ท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งทำงาน จะรู้สึกว่ามีพลังและความพร้อมที่จะลุยกับกิจกรรมตรงหน้า แถมสัดส่วนรูปร่างก็ดีเสียจนแทบไม่ต้องออกกำลังกาย แต่หากไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงเมื่อเลข 3 มาถึง จะสัมผัสได้ว่าพลังเหลือเฟือที่เคยใช้ได้นั้นกำลังจะมีขีดจำกัด

การมาถึงของอายุ 30

แน่นอนว่าวุฒิภาวะและประสบการณ์ที่ผ่านมาส่งผลให้ช่วงวัยนี้มีความมั่นคงในหลายๆด้าน หากแต่ร่างกายกลับเล่นตลกให้ชีวิตได้พบกับความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเสียอีก

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย 2 ประการหลัก คือ

  1. ฮอร์โมน ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นทั้งกับผู้ชายและผู้หญิงแบบค่อยเป็นค่อยไป ร่างกายเริ่มผลิต Growth Hormone (ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโตของร่างกาย) ลดลง ระบบการทำงานต่างๆของอวัยวะในร่างกายจึงไม่มีประสิทธิภาพเหมือนก่อน เป็นจุดเริ่มต้นของการเสื่อมถอยของร่างกาย รวมถึงเทสโทสเตอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย กับเอสโทรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ที่ลดลงไปทีละน้อย
  2. ประสิทธิภาพในการเผาผลาญ กระบวนการสังเคราะห์พลังงานและการสลายโมเลกุลที่เรียกว่า เมแทบอลิซึม ลดการทำงาน ทำให้การเผาผลาญพลังงานช้าลงไปด้วย หลายๆคนจึงรู้สึกว่าตามส่วนต่างๆของร่างกายมีไขมันสะสม สัดส่วนร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงง่ายจนต้องหันมาหาคอร์สออกกำลังกายก่อนที่จะเลยเถิดไปกันใหญ่

ปัจจัยหลัก อย่างนี้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อระบบการทำงานภายในร่างกาย รวมถึงลักษณะภายนอกที่มองเห็นได้ดังตัวอย่างนี้
  • ผิวแห้ง เริ่มมีริ้วรอย
  • สัดส่วนเปลี่ยน
  • ไขมันสะสมง่ายขึ้น น้ำหนักขึ้นแล้วลดยาก
  • กล้ามเนื้อลีบเล็กลง
  • ผมร่วง หรือผมยาวช้า
  • สายตาแย่ลง
  • กระดูกอ่อนแอลง เห็นได้จากเล็บงอกช้า อาจมีปัญหาฟันผุ
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง ผู้หญิงอาจสังเกตว่าจำนวนวันที่มีประจำเดือนลดลง
  • ภูมิต้านทานร่างกายน้อยลง เจ็บป่วยง่ายขึ้น
  • นอนหลับไม่สนิท รู้สึกพักผ่อนไม่เพียงพอ

วัย 30+

ถึงแม้ว่าช่วงอายุ 30 จะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสื่อมถอย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะทุกคนสามารถเตรียมพร้อมและชะลอความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้

มาตรการเตรียมรับความเปลี่ยนแปลง
  1. ออกกำลังกาย
  2. รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
  3. ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์
  4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ

วัย 30+

อายุเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติ หากเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึง ก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตได้ทุกช่วงวัย เพราะการดูแลใส่ใจตัวเองเพียงเท่านี้ ก็สามารถเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและคงความแข็งแรงของร่างกายให้ใช้งานไปได้นานๆ แล้ว

ภาพ : Pixabay

ไม่ต้องลายดอก Dolce & Gabbana ก็เอาอยู่ด้วยกระเป๋ารุ่นใหม่ปักโลโก้แบรนด์สุดเก๋

เหล่าแฟชั่นนิสต้าคงรู้กันดีว่า Dolce & Gabbana หรือ D&G มีหัวคิดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆได้ตลอดเวลา และทุกผลงานก็ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เพราะลายดอกที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ แค่มองแวบเดียวก็รู้ได้แล้วว่านี่คือ D&G

แม้จะมีอยู่หลายครั้งที่แบรนด์ฉีกไปเล่นกับดีไซน์เรียบโก้อย่างกระเป๋าหรือแบบเสื้อผ้าที่เราพอจะเห็นกันได้บ้าง แต่เมื่อเทียบสัดส่วนกันแล้ว ยังไงลายดอกที่เป็นตัวซิกเนเจอร์ของแบรนด์ก็มากกว่าอยู่ดี

วันนี้แพรวดอทคอมเลยสรรหาไอเท็มใหม่ๆที่ดีไซน์ไม่ซ้ำ ไม่มีลายดอกไม้ของแบรนด์ D&G มาให้สาวๆได้ดูกันบ้าง แต่ถึงจะไม่มีดอกไม้ผุดออกมาสักดอก แต่โลโก้แบรนด์ก็มาแบบจัดเต็ม เล่นเด่นยิ่งกว่าบุปผาราตรีไปอีก บอกเลยว่าความแพรวพราวไม่แพ้ลูกเล่นในคอลเล็คชั่นสวนดอกไม้แน่นอน

                          ไม่ว่าจะดีไซน์ไหนก็สีสด แจ่มว้าวตลอด

                           คัลเลอร์ฟูลเต็มที่ตามสไตล์ 

                     ตู้เสื้อผ้าของสาวๆ จะขาดไอเท็มนี้ไปได้ไง

 

ส่องดีเทลกับราคากันหน่อย

LEATHER LUCIA SHOULDER BAG WITH PATCH €2,660 หรือราคาประมาณ 103,249 บาท 

VELVET LUCIA SHOULDER BAG WITH PATCH €2,415 หรือราคาประมาณ 93,739 บาท 


 

เห็นกระเป๋ารุ่นนี้แล้วบอกได้เลยว่า D&G เป็นแบรนด์ที่คีพความซุกซนและสะท้อนตัวตนของแบรนด์ออกมาผ่านทางผลงานได้เลิศมาก นอกจากโลโก้หนังสุดเด่นที่ปักลงบนกระเป๋าแล้ว ดีไซน์ของทรงกระเป๋าและตัวล็อกก็ยังบ่งบอกความเป็น D&G ได้ดี แถมลูกเล่นบนตัวโลโก้อย่างหมุดหลากสีก็เข้ากับตัวกระเป๋า ตัวโซ่คล้องก็เงาแวววาวได้ใจ เอาสิ! สะพายกระเป๋ารุ่นนี้แล้วไม่เด่นให้มันรู้ไป

 

 

 

 

 

 

ภาพ : store.dolcegabbana.com

วีดีโอ : Twitter@dolcegabbana

 

 

ชีวิตคู่ 7 ปียังหวาน นาเดียชุ่มรัก ม.ล.อภิมงคล หยอดสามีคือที่หนึ่ง อบอุ่นพร้อมหน้าลูกชาย

อะล้อเล่นขำๆ สะเก็ดดาว… เห็นพิธีกรคนสวย นาเดีย โสณกุล ณ อยุธยา ครั้งไหน ประโยคฮิตติดหูที่ทำให้ชื่อของสาวนาเดียเป็นที่จดจำในบทบาทพิธีกรรายการดาวกระจาย ย่อมลอยขึ้นมาแทบทุกครั้ง ซึ่งหลังจากเธอแต่งงานกับสามีนักการเมือง ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ณ อยุธยา จนกระทั่งมีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ น้องนพ-นพมงคล ก็ดูจะห่างหายไปจากหน้าจอสักพักใหญ่ แน่นอนละว่ามีแฟนๆคิดถึงเธอไม่น้อย

ปัจจุบันคุณแม่ลูกหนึ่ง นาเดีย ยังคงทำหน้าที่พิธีกรสาวคนเก่งอยู่ ซึ่งเป็นรายการสำหรับผู้หญิงภายใต้ชื่อว่า มันตราเลดี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 9.00-10.00 น. ทางช่อง GMM25 ร่วมกับอีก 4 พิธีกรสาวต่างสไตล์ คือ ดร.หมวย-อริสา, หมอเอิง-อังศ์วรา, น้ำหวาน-อนัญญา และขวัญ-ศิริขวัญ ซึ่งใครที่คิดถึงบทบาทพิธีกรของสาวนาเดีย พร้อมทั้งชอบฟังเรื่องราวมีประโยชน์สำหรับผู้หญิงก็สามารถไปติดตามชมกันได้

รายการมันตราเลดี้
รายการมันตราเลดี้

นอกเหนือจากงานพิธีกร ยังมีอีกหนึ่งบทบาท นั่นคือเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ Calista Boutique ร่วมกับน้องสาวแท้ๆ ไดน่า-อภิษฏา โดยมีคนดัง เซเลบในวงการนิยมอยู่มาก และบทบาทสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของสาวนาเดีย นั่นก็คือการเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งที่ยังสวยสดใส และภรรยาสุดเลิฟของคุณสามี ม.ล.อภิมงคล

โดยถ้าย้อนขึ้นไปช่วงวันแต่งงานเมื่อกรกฎาคม 2554 จนมาปัจจุบัน ความหวานของคู่รักคนดังนี้ยังหวานแหววมากๆ ล่าสุดสาวนาเดียได้ย้ำความหวานกับสามี เนื่องในโอกาสครบรอบ 7 ปีที่คบกันมา รวมถึงยังแอบหยอกสามีเรื่องที่เธอมีกรี๊ดอปป้าไปบ้าง “Happy 7th anniversary my darling hubby 😘 ถึงจะกรี๊ดอปป้า แต่รักสามีที่สุดนะจ๊ะ รักแบบหมดทั้งชีวิตและจิตใจ ❤️❤️❤️ ขอบคุณที่รักภรรยาและลูก และช่วยกันดูแลครอบครัว ไม่ขออะไรมากกว่านี้แล้วจ้ะ 😊😘❤️” (IG @nadiakaaa)

ถึงแม้ฝ่ายชายอาจจะไม่ค่อยได้มีมุมโรแมนติกมากเท่าใด จนบางครั้งสาวนาเดียมีแซวๆตามประสาผู้หญิงว่าปีนี้ยังไม่ได้ดอกไม้ แต่ก็นั่นละ ถ้าใครติดตามผลงานสาวนาเดียรวมถึงได้เห็นชีวิตของเธอบ้าง ก็จะรู้ว่าครอบครัวนี้รวมถึงน้องนพ ลูกชาย เขาหวานอบอุ่นกันสุดๆเลยละ เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคู่รักคู่อื่นๆได้เลย ที่แม้จะลูกแล้ว แต่ก็หมั่นเติมหวานให้กันอย่างสม่ำเสมอ…

 


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @nadiakaaa @mantralady

ดูดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสที่ 20 กรกฎาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสที่ 20 กรกฎาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ท่านรู้สึกเหนื่อยกับสิ่งต่างๆ เหลือเกิน จนอยากหลีกหนีออกจากสังคม เก็บตัวทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพื่อนำมาเป็นบทเรียนสำหรับก้าวเดินต่อไป

การเงิน :  มาจากเงินเดือนเป็นไปตามระบบ

ความรัก : วันนี้ท่านกับคุ่อาจต้องออกงานเพื่อตามใจผู้ใหญ่ เพื่อความเหมาะสม หรือเพื่อหน้าที่การงาน แต่ไม่ใช่เพื่อความรัก คนโสด มีโอกาสได้พบรักกับชาวต่างชาตินะคะ

สุขภาพ : วันนี้อะไรก็ขวางหูขวางตาท่านหมด ไม่ควรจมอยู่กับความทุกข์หรืออดีต ควรปล่อยวาง

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  จะโดดเด่นเรื่องการติดต่อประสานงาน ใช้เทคนิค สติปัญญา และความสามารถในการประนีประนอม เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

การเงิน : มีโชคลาภตลอด แต่จะหมดไปกับการเดินทาง เข้าสังคม และการลงทุนใหม่ๆ

ความรัก :  เรียนรู้จากประสบการณ์ของคู่อื่น แล้วนำมาเปรียบเทียบกับคู่ตัวเอง จึงต้องปรับตัวเข้าหากันอย่างมาก  คนโสด ชอบคู่ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เสแสร้ง แต่จะมาหรือเปล่า ต้องรอดู

สุขภาพ : ดูแลตัวเองดีมากอยู่แล้ว แต่วันนี้ให้ระวังการยืน และเดินทางเยอะ จะเจ็บป่วยที่อวัยวะ ตั้งแต่สะโพกจนถึงส่วนขา

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : กากบาทนะคะ วันนี้ท่านทำงานด้วยความเชื่อมั่นที่สูงมากจนมองไม่เห็นหัวใจเพื่อนร่วมงาน จึงเกิดการขัดแย้งและทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะฉะนั้นหากล้มเมื่อไหร่ โดนเทแน่

การเงิน :  หลีกเลี่ยงเงินที่ผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม

ความรัก :  วันนี้อาจเข้าไปข้องเกี่ยวกับความรักที่ซ่อนเร้นหรือไม่เปิดเผย ให้ระวังเรื่องลุกลามบานปลายไปถึงการหย่าร้าง คนโสด จะจับได้ว่า เขาไม่ได้มีท่านคนเดียว

สุขภาพ : ระวังโรคประจำตัวของทั้งหญิงและชาย

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ท่านกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด อึดอัด คับข้องใจ  ต้องการการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน  เพื่อค้นหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

การเงิน   :  เข้ามือขวาออกมือซ้ายอย่างรวดเร็ว

ความรัก : วันนี้ท่านจู้จี้ขี้บ่น พูดจาข่มขู่คนรักตลอดเวลา ให้ทำในสิ่งทีคาดหวังและปรารถนา ทราบแล้วเปลี่ยน เพราะจะสร้างปัญหาร้าวฉานให้กับชีวิตคู่ได้ คนโสด ตกหลุมรักคนง่ายมาก อ่อนไหว ระวังถูกหลอกนะจ๊ะ

สุขภาพ : ระวังโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะช่วงขาและข้อ เช่น อัมพฤกษ์  เก๊า

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : กากบาทตัวโตๆ ค่ะ วันนี้เป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่และตกต่ำที่สุดของท่าน อุปสรรค ปัญหามากมาย มาครบหมด ทั้งหักหลัง ถูกเลิกจ้าง จนถึงเป็นคดีความขึ้นศาล ได้ยินอย่างนี้อย่าเพิ่งท้อ อดทนให้ผ่านวันนี้ไปให้ได้

การเงิน : อาจต้องล้มเลิกกิจการ แล้วมีหนี้สินตามมา ไปจนถึงมีการแย่งชิงมรดกกันเกิดขึ้น

ความรัก : วันนี้ชีวิตคู่จืดชืด น่าเบื่อ อย่าลืมเติมความหวานให้กันหน่อยนะ คนโสด ยังครองความโสดอยู่ค่ะ

สุขภาพ :  ระวังอุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุฝนคะนอง หรืออุบัติเหตุจากการเดินทาง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ต้องไปติดต่องานข้างนอก แต่พกความลังเล พะวง ไปเต็มตัว เพราะฉะนั้นจะยิ่งคุยงานด้วยความไม่มั่นใจ ควรตัดทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วเตรียมตัวให้พร้อม หากอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

การเงิน :  ใช้จ่ายเกินตัวโดยเฉพาะเรื่องลงทุนและความรัก

ความรัก : วันนี้ตั้งความหวังในชีวิตครอบครัวไว้ค่อนข้างสูง เมื่อไม่ได้ดังใจก็เริ่มเบื่อ วีคเอ็นท์นี้ควรพากันไปเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง คนโสด ขี้เบื่อ ไม่ชอบปรับตัว เพราะฉะนั้นก็ยังครองความเป็นโสดไปก่อน

สุขภาพ  :  เตรียมยาไปด้วย ระวังวูบนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : สถานการณ์ดุเดือดเลือดพล่านค่ะ เพราะท่านจะบังคับข่มขู่ทุกๆ คนให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมเท่าไหร่ จนตัวเองกดดัน กลายเป็นอมทุกข์หากไม่ได้มา

การเงิน : จะได้รับเงินรางวัลจากการทำงาน

ความรัก :  วันนี้วิตกกังวลสูง กลัวว่าคู่จะนอกใจ หรือถูกใครแย่งไป จนทำให้ไม่มีความสุข คนโสด ขอมาแบบเพื่อนค่ะวันนี้

สุขภาพ :  ทางกายแข็งแรงดี แต่ทางใจน่าเป็นห่วง อย่านำเรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิด ปล่อยวางและมองโลกในแง่ดี

 

เชอรี่ - เข็มอัปสร

ไม่มีงาน ไม่เป็นทุกข์! เชอรี่ – เข็มอัปสร กับโหมดใช้ชีวิตแบบ no วาบหวาม no เลิฟซีน

เชอรี่ - เข็มอัปสร
เชอรี่ - เข็มอัปสร

เชอรี่ – เข็มอัปสร หายหน้าไปจากจอทีวีอีกแล้ว?

หลังจากละครเลือดมังกร ตอนกระทิง จบลง เราก็แทบจะไม่ได้เห็นผลงานการแสดงของ เชอรี่ – เข็มอัปสร ดูเหมือนเธอตั้งใจทิ้งช่วงหายไปจากวงการเป็นปีๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมาอีกครั้ง สาเหตุเป็นเพราะอะไร ไปค้นหาความจริงกัน 

ช่วงนี้เชอรี่เริ่มหายหน้าหายตาไปอีกแล้ว

(หัวเราะ) จริงๆ ก็มีงานติดต่อเข้ามาเหมือนกัน แต่เพราะเชอรี่มีข้อจำกัดในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องบทวาบหวามหรือฉากเลิฟซีน ทำให้เสียโอกาสไปเยอะ เพราะบางบทดีมากเลย แต่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่แฮ็ปปี้ จึงขอเลือกที่จะปฏิเสธ เอาความสบายใจของตัวเองเป็นหลัก ของแบบนี้แล้วแต่คนนะคะ ถ้าทำใจได้ว่าสิ่งนั้นคือการแสดงก็โอเค แต่เชอรี่ไม่สามารถที่จะแยกได้ขนาดนั้นจริงๆ

ณ ตอนนี้เลยบอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะมีผลงานอีกเมื่อไหร่ “กระทิง” อาจเป็นละครเรื่องสุดท้ายหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ฟิกซ์ตายตัวว่าจะต้องเป็นแบบไหน เชอรี่ไม่ได้บอกว่าจะออกจากวงการหรือจะอยู่ต่อไป แต่ถ้ามีเรื่องที่เราอยากเล่นอีกก็อาจจะรับ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้อยู่ในช่วงใช้ชีวิตค่ะ (ยิ่ม)

เชอรี่ - เข็มอัปสร

เชอรี่บาลานซ์การใช้ชีวิตอย่างไรบ้างคะ
เชอรี่เชื่อว่าสมดุลในชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน การบาลานซ์ชีวิตของเราช่วงนี้น่าจะเป็นการให้เวลาเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อทำให้ทุกวันสมดุลกัน ระหว่างการดูแลตัวเอง คนที่เรารัก แล้วก็การทำงาน มันไม่ใช่วงกลมเล็กๆ หลายๆ วงที่เราวงให้เท่าๆ กัน เพราะวงกลมบางวงของเชอรี่ก็มีเล็กมีใหญ่สลับกันไป

ยอมรับว่าสิ่งที่เชอรี่ให้ความสำคัญ ณ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องงานแล้ว ในขณะที่บางคนที่มีวัยเท่าเชอรี่อาจจะมีงานเป็นหลัก เพราะเขาอาจจะเริ่มทำงานตอนอายุ 25 ปี แต่เชอรี่ทำงานมาตั้งแต่อายุ 15 ปีน่ะ รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตผิดที่ทุ่มเททำงานมาขนาดนั้น บ่อยๆ ที่มีคำถามเหมือนกันว่าเราทำไปขนาดนั้นเพื่ออะไร อยากได้เงิน อยากมีชื่อเสียงเหรอ ซึ่งคำตอบของเชอรี่มันไม่ใช่สิ่งเหล่านั้นเลย ทำให้คิดได้ว่าเราต้องหันมาจัดลำดับความสำคัญในชีวิตจริงๆ สักที เริ่มจากครอบครัว เพื่อน คนรัก ตัวเอง และสุดท้ายคืองาน เชอรี่เรียกทั้งหมดนี้ว่าเป็นการค้นหาสัจธรรมในชีวิต อยู่ในช่วงกอบโกยโมเมนต์จากหลายๆ สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่กับครอบครัว หรือไปเป็นวิทยากรรับเชิญตามที่ต่างๆ บ้าง ทุกอย่างที่เลือกในชีวิตตอนนี้ส่วนมากจะมีความหมายในตัวมันเอง ไม่ใช่สักแต่ว่าไปทำ หรือต้องฝืนใจทำให้เสร็จๆ ไป

เชอรี่ - เข็มอัปสร

เห็นรูปครอบครัวในไอจีเชอรี่แล้วดูเป็นบ้านที่ตัวติดกันมากๆ
ใช่ค่ะ เพราะเชอรี่สูญเสียคุณแม่ไปเมื่อตอนอายุ 21 ปี เรียกว่าเป็นเรื่องที่กระทบชีวิตแรงมากๆ ตอนนั้นทำงานแล้วก็เรียนอยู่ปี 4 ค่อนข้างหนัก ด้วยความที่ปฏิเสธคนไม่เป็นด้วย ขี้เกรงใจ ใครให้ทำอะไรได้หมด เราเลยต้องมาสลับชีวิตเอาเอง ทำให้ไม่มีเวลากับสิ่งอื่นๆ รวมถึงคุณแม่ เชอรี่ได้มาดูแลท่านก็ตอนที่ท่านอยู่โรงพยาบาลแล้ว เลยรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วละ ในเมื่อตอนนี้เราเหลือพ่ออยู่คนเดียวแล้ว เลยอยากแบ่งเวลาให้ท่านบ้าง

เชอรี่มาถึงจุดที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องทำทุกงานที่เข้ามา บางทีตอนเด็กๆ เราเรียนรู้ที่จะพูดตรงๆ คนฟังก็อาจไม่ชอบ หรือตัวเราเองที่พูดออกไปก็อาจจะรู้สึกไม่ดี แต่พอยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งมีการปรับตัว รู้วิธีว่าควรจะพูดอย่างไรให้เขาไม่เสียใจและเข้าใจเรามากขึ้น เลือกทำแต่สิ่งที่ตัวเองสบายใจ อันไหนไม่โอเคก็ต้องรีบบอกเลย ไม่อยากเจอสภาวะว่าต้องทำงานที่ไม่ชอบแล้วมานั่งเสียใจทีหลังอีกแล้ว

เชอรี่ - เข็มอัปสร

แล้วชีวิตตอนนี้ทำอะไรบ้างคะ
เชอรี่จะให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอาทิตย์ละประมาณ 5 วันเลย แล้วทุกเช้าต้องตื่นมานั่งสมาธิ หรือถ้าต้องออกไปทำงานเช้า ก็จะเปลี่ยนไปนั่งสมาธิช่วงกลางคืนก่อนนอนแทน ที่สำคัญ ต้องแบ่งเวลาให้การปฏิบัติธรรมด้วย เชอรี่ว่าเป็นเหมือนการเดินทางไปในจิตใจที่มหัศจรรย์มาก ทำให้เราได้รู้ได้เห็นการทำงานของใจจริงๆ

ระหว่างโลกธรรมะกับวงการบันเทิง แยกกันอย่างไรคะ
ช่วงแรกๆ เชอรี่แยกลำบากมาก ตอนกลับมาจากปฏิบัติธรรมก็จะรู้สึกว่าไม่อยากอยู่ในวงการนี้เลย ต้องพยายามเรียนรู้ที่จะยืนสองขาให้บาลานซ์กันให้ได้ อย่างหนึ่งเลยคือ เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับทุกอย่าง สมมติว่าอยู่ทางโลกแล้วไปเจอสิ่งที่ไม่ชอบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะมู้ดดี้ อารมณ์เสีย แต่พอเรามีวิธีจัดการกับมัน ด้วยการยอมรับตามความเป็นจริง เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ก็มาเปลี่ยนที่ตัวเอง แค่นี้ก็ทำให้ทุกข์น้อยลงแล้ว

Absolute Sanctuary

มีเรื่องราวดีๆ จากการปฏิบัติธรรมมาเล่าสู่กันฟังไหมคะ
เชอรี่เจอแรงบันดาลใจจากรอบๆ ตัวเสมอค่ะ อย่างเวลาไปปฏิบัติธรรม เชอรี่จะไปที่เดิม เจอกับคนกลุ่มเดิมๆ เราก็จะรู้ว่าแต่ละคนทำอะไรบ้าง จนได้ไปรู้จักกับเจ้าของสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เดิมเป็นรีสอร์ต คุณแม่เขาเป็นคริสต์ ส่วนเจ้าของจากที่เคยซ่ามาก แต่พอได้ลองไปปฏิบัติธรรมก็ชอบมาก จนตอนหลังแม่เขาปิดกิจการ ไม่ทำรีสอร์ต แล้วยกที่ตรงนี้ให้ลูกไว้ทำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเลย ชื่อว่าบ้านทิพวรรณ อยู่หัวหิน เขาให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรมเป็นอันดับหนึ่งในชีวิต ทั้งในการจัดคอร์สหรือการสอนคนอื่น ทำให้เรารู้สึกว่าคนภายนอกที่มองเชอรี่อาจจะคิดว่าเราไปทำบุญบ่อยเนอะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเทียบกับอะไร ถ้าเทียบกับคนที่ไม่ทำเลย เราก็อาจจะทำบ่อยกว่า แต่ถ้าเทียบกับคนที่เขาทำจริงจัง เรากลายเป็นเบบี๋ไปเลย เชอรี่เชื่ออย่างหนึ่งว่า ในเมื่อเรามาเจอสิ่งที่มีคุณค่าขนาดนี้ในวันที่ยังมีกำลัง ก็ควรทำสั่งสมเอาไว้
เพราะยังไงซะบั้นปลายก็คงหนีไม่พ้นธรรมะหรอกค่ะ

เรื่อง : apinya

ภาพ : Absolute Sanctuary

Alon Livne White กับ 30 ชุดแต่งงานสุดหรูที่พร้อมให้คุณอวดทรวดทรงทุกเคิร์ฟ

account_circle

เอลอน ลิฟเน่ ไวท์ (Alon Livne White) ดีไซเนอร์สาว เอลอน ลิฟเน่ ศิษย์ก้นกุฏิระดับตำนานอย่าง Alexander McQueen และ Roberto Cavalli เธอดึงความงดงามของทรวดทรงหญิงสาวออกมา จนเกิดดรามาติคสไตล์ที่ใครเห็นแล้วต้องอ้าปากค้าง เพราะชุดแต่งงานของเธอนั้นมีแรงดึงดูดสุดๆ

บุฟเฟ่ต์ซันเดย์ บรันช์ ห้องอาหารฟีสท์ปรับโฉม ยกสารพัดเมนูเด็ด เอาใจคนรักอาหารทะเล

บุฟเฟ่ต์ซันเดย์ บรันช์ ห้องอาหารฟีสท์ปรับโฉม ยกคอนเซปต์ทัพทะเลขึ้นบก พร้อมสารพันเมนูเด็ด

ห้องอาหารฟีสท์ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน พลิกโฉมครั้งใหญ่เอาใจสาวกซันเดย์ บรันช์ จัดเต็มอาหารนานาชาติ สารพันเมนูอาหารอบร้อนๆ ตื่นตาตื่นใจไปกับกองทัพซีฟู้ดสดๆ ที่ขนขึ้นมาบนบก คัดสรรหลากหลายอาหารทะเลมาให้ทีมคนรักอาหารทะเลได้ลิ้มลองและเลือกตามใจชอบได้ไม่อั้น พร้อมมีบริการปรุงร้อนโดยเชฟแล้วเสิร์ฟถึงโต๊ะ พร้อมไลฟ์ คุกกิ้ง สเตชั่น รวมเมนูเด็ดจากทุกห้องอาหารมาไว้ที่นี่…สุดคุ้มในมื้อเดียว

เชฟโรเบิดร์ เซ็ดก้า หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef) จัดระดมเชฟจากทุกห้องอาหารเพื่อรังสรรค์อาหารทุกจานให้ออกมายอดเยี่ยมที่สุด เพื่อมื้อสายวันอาทิตย์ที่สุขสันต์ของทุกท่าน ห้องอาหาร ริเวอร์ไซด์ กริลล์ นำเสนอเมนูบาร์บีคิว เนื้อนำเข้าและน้ำจิ้มรสเด็ดกว่า 10 ชนิด พร้อมสลัดผักสดให้ทานได้อย่างเข้ากัน ห้องอาหารไทย ธาราทอง เชิญคุณลิ้มลองอาหารไทยสูตรดั้งเดิมกับเมนูต้นตำรับชาววังแท้ และสตรีทฟู้ดอีกมากมายที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ห้องอาหารอิตาเลียน จิออร์จิโอ เตรียมเมนูพาสต้าซอสเข้มข้น พร้อมพิซซ่าหน้าแน่นชีสจัดเต็ม ปิดท้ายมื้ออาหารเอาใจผู้ที่หลงใหลในขนมหวาน อาทิ ไอศกรีมผัด D.I.Y. น้ำพลุช็อกโกแลต พานาคอตต้า ขนมหวานไทย และอื่นๆอีกมากมาย

งานนี้ แมทธิว เบลเล็ค ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม เสริมความอลังการให้คุณได้อิ่มเพลินในมื้อสายวันอาทิตย์ เอาใจน้องๆ หนูๆ ด้วยมุมสวนสนุกจำลองที่เนรมิตเครื่องเล่นมากมาย กิจกรรมหรรษา เกมส์สุดมันส์ เหล่าพี่ๆนักมายากลและตัวตลก พร้อมของฝากเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงโดยคุณหนูๆ

ให้มื้อสายวันอาทิตย์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขกับครอบครัวและเพื่อนรู้ใจ อิ่มอร่อยไม่อั้นในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาเดิมเพียง 2,000 บาท(เนท)ต่อท่าน สุดคุ้มกับโปรโมชั่นฉลองเปิดตัว… “มา 4 จ่าย 3”… เหลือเพียง 1,546 บาท(เนท)ต่อท่าน เด็กอายุ 0 – 9 ปี ทานฟรี 10 – 12 ปีจ่ายเพียงครึ่งราคา ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2560

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/royalorchidsheratonhotel

หม่อมเจ้าการวิก

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก ไฟรักไฟสงคราม (ตอนที่18)

หม่อมเจ้าการวิก
หม่อมเจ้าการวิก

หม่อมเจ้าการวิก ไฟรักไฟสงคราม

หม่อมเจ้าการวิก ทรงสมัครเป็นทหารเสรีไทยสายอังกฤษแล้ว ทรงเข้ารับการฝึกความเตรียมพร้อม และเตรียมออกเดินทางจากอังกฤษไปปฏิบัติหน้าที่ที่ต่างประเทศ ด้วยความที่ไม่ทรงทราบถึงสถานการณ์ในภายหน้าได้ จึงตัดสินพระทัยขอพระราชทานพระราชานุญาตเสกสมรสกับสตรีที่ทรงรักใคร่มานาน คือ หม่อมเจ้าผ่องผัสมณี พระขนิษฐาในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงฉายระหว่างประทับที่ต่างประเทศ

 

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ และหม่อมเจ้าการวิก ในวัยหนุ่ม

เมื่อครบกำหนดการฝึกเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว สิบเอกเบนท์เล่ย์แจ้งว่ามีคำสั่งให้พวกเราเตรียมตัวย้ายไปอยู่ค่ายทหารแห่งใหม่ที่ชานเมืองแบรดฟอร์ด (BRADFORD) ในเขตยอร์กเชียร์ (YORKSHIRE) วันหนึ่งป๋วยได้เรียกพวกเราประชุมเพื่อขอให้เลือกหัวหน้าคนใหม่ เพราะเขาไม่ต้องการเป็นหัวหน้าตลอดกาล ซึ่งผลออกมาคือ ทุกคนให้เกียรติเลือกผมขึ้นเป็นสิบตรีกิตติมศักดิ์คนใหม่ (ชื่อภาษาอังกฤษว่า LOCAL ACTING UNPAID LANCE-COPORAL ย่อเป็น L.A.U.L.C.) สำหรับค่ายฝึกต่อไป แต่รับเงินเดือน และผลประโยชน์ในตำแหน่งพลทหารอย่างเดิม

ก่อนที่เพื่อนๆทหารเสรีไทยและผมจะเข้ารับการฝึก ณ ค่ายแห่งใหม่ได้มีเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในชีวิตผมคือ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯได้พระราชทานพระราชานุญาตให้ท่านหญิงผ่อง เสกสมรสกับผมในวันที่ 7 พฤศจิกายน (พ.ศ.2485) ซึ่งพิธีการนั้นก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยในช่วงเช้าไปจดทะเบียนสมรสกันที่แค็กซ์ตัน ฮอลล์ (CAXTON HALL) และมีงานเลี้ยงฉลองเล็กน้อย ไม่ได้หรูหราแต่อย่างใด เพราะอยู่ในช่วงของสงครามที่อัตคัดขาดแคลนไปเกือบทุกอย่าง

หม่อมเจ้าการวิกกับหม่อมเจ้าหญิงผ่องผัสมณีหลังเสกสมรสกันใหม่ๆ

ผมขอเล่าถึงเรื่องราวความรักของผมสักเล็กน้อย เมื่อตอนที่ผมอายุ 18 ปี ผมมีความรักกับสาวฝรั่งเศสอย่างลึกซึ้งตามประสาเด็กหนุ่มจนถึงขั้นที่อยากจะแต่งงานกัน แต่เมื่อผมได้มาพิจารณาถึงความเหมาะสมต่างๆแล้ว ความแตกต่างระหว่างเธอกับผมนั้นมากมาย โดยเฉพาะสังคมแวดล้อมที่เราต่างกันอย่างมาก ซึ่งในอดีตก็มีเจ้านายคนไทย หรือนักเรียนไทยหลายรายที่มาศึกษาต่อต่างประเทศแล้วพบรักกับสาวต่างประเทศ ถึงแม้บางคนจะได้ครองคู่ร่วมกัน โดยฝ่ายผู้หญิงยินยอมเดินทางมาอยู่ในเมืองไทย และพยายามปรับตัว แต่ในที่สุดก็ต้องเลิกรากันไป เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และสภาพสังคมไทยในเวลานั้นยังไม่เปิดกว้างอย่างสมัยนี้ โอกาสที่ทั้งคู่จะครองคู่กันจนตายจากกันนั้นเป็นไปได้ยากมาก

ผมนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็ต้องพยายามหักห้ามใจ และบอกกล่าวกับสาวคนรักอย่างเข้าใจกัน จนกระทั่งผมได้มาพบกับหม่อมเจ้าหญิงผ่องผัสมณี…โดยพระฐานะของท่านหญิงผ่องนั้นทรงอยู่ในชั้น ‘อา’ ของผม และมีชันษาแก่กว่าผมประมาณ 4 ปี ซึ่งความรักความสนิทสนมระหว่างท่านกับผมนั้นมีต่อกันมานาน เพราะความที่ได้อยู่ใกล้ชิด แต่พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีไม่โปรดให้มีการเสกสมรส ด้วยมีพระราชดำริว่าฝ่ายหญิงมีศักดิ์ที่สูงกว่าและอายุมากกว่า เป็นการไม่เหมาะสม

หม่อมเจ้าการวิกกับหม่อมเจ้าหญิงผ่องผัสมณีเมื่อครั้งไปทรงสกีที่ออสเตรีย
พระองค์เจ้าวรานนท์ฯ หม่อมเจ้าหญิงผ่องผัสมณี และหม่อมเจ้าการวิก

ครั้นพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตแล้ว เหลือเพียงองค์สมเด็จพระบรมราชินี ประกอบกับอยู่ที่ในช่วงเวลาสงคราม ซึ่งผมก็อาสามาเป็นทหารที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจ โอกาสที่จะอยู่หรือตายนั้นไม่อาจทราบได้ ผมจึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาต ซึ่งสมเด็จพระบรมราชินีก็ทรงเห็นใจ โปรดเกล้าฯให้เสกสมรสได้ อย่างน้อยก็ถือว่าได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณแก่เราทั้งสองคนได้สมรักกันในชีวิตคู่ บางทีอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายก็ได้ การไปรบกับญี่ปุ่นคงจะเหมือนตีตั๋วไปเที่ยวเดียว ไม่มีตั๋วกลับ

ค่ายทหารที่แบรดฟอร์ดชื่อว่าค่าย ‘ธอร์นตัน’ (THORNTON GRAMMAR SCHOOL) เป็นตึกสองชั้นขนาดใหญ่ เดิมจะใช้เป็นอาคารเรียน แต่ยังไม่ทันเปิดโรงเรียนก็เกิดสงคราม จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นค่ายทหารแทน กำหนดเวลาที่พวกเราต้องมาฝึกที่นี่นานประมาณ 1 เดือน โชคดีที่ความเป็นอยู่ในค่ายนี้ดีกว่าที่เด็นบี้ คือนอนในตึกบนเตียงสปริง และมีห้องอาหารอยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องเดินไกลแต่งานที่ทำยังเป็นพวกขุดมันฝรั่งมาล้าง และปอกเปลือก ปอกหัวหอม และส้วมก็เหม็นจากการกระทำของทหารรุ่นที่มาอยู่ก่อนหน้า

ส่วนการฝึกก็เคร่งครัดตามวินัยทหารอย่างมาก อาทิ เดินแถว ว่ายน้ำ เดินทางไกล แต่ทุกคนก็เริ่มจะปรับตัวได้ และมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น แล้วที่ค่ายนี้ ท่านจีริดนัย ได้สมัครเข้ามาร่วมฝึกด้วยอีกองค์หนึ่ง และทรงปฏิบัติหน้าที่ทหารได้เป็นอย่างดี เพราะทรงแข็งแรงและปราดเปรียวเคยฝึกรักษาดินแดนของอังกฤษมาก่อน

ที่ค่ายนี้มีร้านขายของอยู่ 2 ร้าน คือ ร้านของสตรีอาสาสมัครและร้าน วาย.เอ็ม.ซี.เอ. ทั้งสองร้านรวมอยู่ในอาคารหลังใหญ่ ผู้จัดการร้านวาย.เอ็ม.ซี.เอ. ชื่อมิสซิสเมอร์กะทรอยด์ (MURGATROYD) เธอมีไมตรีจิตต่อพวกเรามากเป็นพิเศษ มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อคุณมณีเดินทางมาเยี่ยมพวกเรา ท่านหญิงผ่องได้เสด็จด้วย และทรงได้รับความเอื้ออารีให้พักที่บ้านของเธอที่อยู่หน้าประตูค่ายด้วย เมื่อครบกำหนดฝึกที่ค่ายนี้แล้ว พวกเราได้รับแจกเครื่องแบบทหารประเทศร้อน เป็นเสื้อและกางเกงขาสั้น และต้องฉีดยาป้องกันโรค และปลูกฝีอีกครั้งหนึ่ง นั่นหมายถึงว่าพวกเราจะต้องออกเดินทางในไม่ช้า ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกโล่งใจลึกๆที่จะพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่อันน่าเบื่อหน่ายเสียที

แล้ววันหนึ่งในช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ.2485 พวกเราก็ได้รับคำสั่งให้เดินทางกะทันหัน โดยไม่ให้ส่งข่าวถึงทางบ้านได้ทันเวลา แต่อนุญาตให้เขียนจดหมายทิ้งไว้ และทางกองทัพจะส่งให้หลังจากเดินทางออกจากอังกฤษแล้ว ทั้งนี้เป็นการป้องกันการจารกรรมของข้าศึกว่ากำลังทหารของอังกฤษจะไปลงเรือที่ท่าไหน วันและเวลาใด

เมื่อไปถึงท่าเรือ เกิดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือลำที่จะบรรทุกพวกเราเกิดขัดข้อง จึงต้องกลับมายังค่ายออดซัล (ODSAL) ที่อยู่นอกเมืองแบรดฟอร์ดอีกค่ายหนึ่ง เพราะที่ค่ายธอร์นตันมีทหารผลัดใหม่เข้ามาอยู่กันเต็ม จนกระทั่งถึงช่วงวันคริสต์มาสในตอนปลายเดือน พวกเราได้รับอนุญาตให้ลากลับบ้านกันชั่วคราวเป็นเวลา 9 วัน และกลับมาที่ค่ายอีกครั้งในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2486 เพื่อรอคำสั่งให้เดินทางใหม่

วันที่ 15 มกราคม พวกเราได้รับคำสั่งให้ออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นและถูกกักตัวไม่ให้ออกนอกค่าย พวกเราต่างวุ่นวายกับการจัดสัมภาระและเขียนจดหมายถึงญาติมิตร ซึ่งทางการทหารจะจัดส่งให้หลังจากขบวนเรือออกจากท่าแล้ว พวกเราถูกนำมาส่งที่ท่าเรือเมืองลิเวอร์พูลในตอนบ่ายของวันต่อมา เรือที่บรรทุกพวกเราพร้อมทหารเหล่าอื่นๆ ทั้งชาย-หญิงร่วม 4 พันคน เดิมเป็นเรือสินค้าของฮอลันดา วิ่งระหว่างชวากับฮอลันดามาก่อน มีชื่อเป็นภาษาชวาว่า ‘สิบายัค’ (SIBAJAK) พวกเราออกเสียงอย่างไทยๆกันว่า‘ศรีพยัคฆ์’ บริเวณที่ทหารไทยทั้งหมดถูกจัดให้อยู่นั้นเป็นห้องชั้นล่าง ติดกับห้องเก็บอาหารและครัว เรี่ยระดับผิวน้ำทะเลที่ต้องลงจากระดับดาดฟ้าข้างบนถึง 3ชั้น กว่าที่ขบวนเรือจะออกเดินทางจริงๆก็ตกราววันที่ 23 หลังจากที่ต้องรอทหารเหล่าต่างๆทยอยกันมาลงเรือ และต้องแวะไปรับทหารที่ตกค้างจากเรือลำอื่นที่สก็อตแลนด์อีก ท่ามกลางข่าวร้ายที่ว่าเรือดำน้ำของเยอรมันได้จมเรือรบและเรือสินค้าของอังกฤษไปเป็นจำนวนมาก สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนไม่น้อยที่จะต้องเสี่ยงกับตอร์ปิโดกลางทะเลในระหว่างทาง

เพียงวันแรกที่ขบวนเรือออกสู่ท้องทะเลลึกของมหาสมุทรแอตแลนติก ก็ต้องประสบกับพายุร้ายทางทิศใต้ของไอร์แลนด์ (IRELAND) นอกเหนือไปจากอากาศที่หนาวเย็น ทหารส่วนใหญ่จะเมาคลื่น อาเจียนกันแทบแย่ ในช่วงแรกที่พายุยังไม่แรงก็ได้เกิดเรื่องพอตื่นเต้น คือ กองทัพอากาศเยอรมันที่ตั้งฐานอยู่ในฝรั่งเศส ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่ออกมาโจมตี แต่ไม่ได้ทำความเสียหาย เพราะเรือรบอังกฤษที่คุ้มกันอยู่ยิงตอบโต้อย่างดุเดือดจนฝูงเครื่องบินไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาถึงเรือบรรทุกทหารได้

วันต่อๆมา พายุก็กระหน่ำแรงขึ้น คลื่นน้ำทะเลสาดซัดจนเรือโคลงเคลงตลอดเวลา มีทหารไทยเพียง 3 คนที่แข็งแรง ไม่เมาคลื่นเลยคือ เทพ ธนา และปัทม์ นอกนั้นมีอาการมากน้อยต่างกันไป แต่คนที่ดูท่าอาการหนักกว่าคนอื่น คือ หลวงภัทรวาที ที่นอนไม่ไหวติงหน้าซีดเผือด

จนพวกเรากลัวว่าจะไม่รอด หากพายุยังคงพัดแรงเช่นนี้

 

 

สวยเหมือนเจ้าหญิง ชุดเจ้าสาวของ “Miranda Kerr”ต่างกับลุคนางฟ้าวิกตอเรียซีเคร็ตสิ้นเชิง

ถึงแม้ว่าภาพที่เห็นตามสื่อหรือแม้แต่เวลาที่เธอต้องสวมชุดน้อยชิ้นในการเดินแบบบนรันเวย์วิกตอเรียซีเคร็ตจะทำให้หนุ่มๆคลั่งกันทั่วโลก แต่ในวันแต่งงานที่เพิ่งผ่านไปเมื่อหลายเดือนก่อน นางฟ้าสาวแสนสวย มิแรนดา เคอร์ (Miranda Kerr) กลับเลือกชุดเจ้าสาวที่ปกปิดมิดชิด กลายเป็นเจ้าหญิงอินโนเซ้นต์แสนสวยไปซะได้
 ก
มิแรนดา เคอร์ (Miranda Kerr) อดีตนางแบบสาวสุดฮ็อตจากวิกตอเรียซีเคร็ตได้เข้าพิธีวิวาห์กับอีวาน สปีเกล (Evan Spiegel) เจ้าของ Snapchat โดยงานแต่งงานถูกจัดขึ้นแบบเล็กๆในสวนหลังบ้านแถบเบรนท์วู้ด รัฐแคลิฟอร์เนีย ถึงแม้งานจะเล็ก แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น เพราะแขกคนพิเศษของทั้งสองคนที่เข้าร่วมพิธีสำคัญครั้งนี้มีเพียง 50 คนเท่านั้น เรียกได้ว่ามีแต่ญาติพี่น้องและเพื่อนที่สนิทมากจริงๆ
 ก
มิแรนดา เคอร์ เผยว่า “ผู้หญิงทุกคนฝันที่จะใส่ชุดเจ้าสาวที่ออกแบบโดย Dior” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า แรงบันดาลใจของชุดแต่งงานได้มาจากไอดอลยุค 80’s อย่างเจ้าหญิงเกรซ เคลลี แห่งโมนาโก, ออเดรย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) นักแสดงชื่อดังชาวอังกฤษ และคุณยายของเธอเอง ซึ่งมิแรนดามองว่าพวกเขาเหล่านี้มีสไตล์และชิคสุดๆ
 ด
มิแรนดา เคอร์ และอีวาน สปีเกล
 ด
มิแรนดา เคอร์ สวมชุดแต่งงานสีขาวแขนยาว ดีไซน์เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความคลาสสิก การออกแบบและตัดเย็บชุดนี้เป็นฝีมือของห้องเสื้อระดับเทพอย่างดิออร์ ซึ่งถือเป็นการสั่งตัดพิเศษเฉพาะบุคคลครั้งแรกหลังจากมาเรีย กราเซีย คิอูริ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ชื่อดังย้ายสังกัดใหม่มาดิออร์
 ด
คิอูริได้เล่าว่า มิแรนดาเป็นคนออกไอเดียเรื่องชุดเองว่าเธอต้องการให้มีกลิ่นอายของเทพนิยาย และอยากใส่ชุดที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเรียบง่าย
 ก
มิแรนดาใช้เวลาปรับแก้ชุดแต่งงานของเธอเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งถือว่าใช้เวลาน้อยมาก เพราะเจ้าสาวทั่วไปกว่าที่ชุดจะลงตัวต้องใช้เวลากันเป็นอาทิตย์เลย นี่แหละนางแบบดัง อะไรๆก็เลิศ เป๊ะได้ไม่ยาก
 


 

ภาพ : IG@mirandakerr

ปู ไปรยา เผยโปรแกรมเวิร์คเอาท์สร้างหุ่นเซี้ยะ ในคลาสพีลาทีส สุดเอ็กซ์คลูซีฟ

ในเดือนแห่งวันแม่ Under Armour (อันเดอร์ อาร์เมอร์) ผู้ผลิตเสื้อผ้ากีฬาเพอร์ฟอมานซ์ สปอร์ตแวร์ ชวนหญิงสาวทุกคนมาเพิ่มความแข็งแรงสดใสฉลองเดือนสำคัญของผู้หญิง กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีพ เวิร์คเอาท์ด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายสุดอิน MOTR Pilates (มอร์เตอร์ พิลาทีส) ที่ใช้สร้างความหยืดหยุ่น ความแข็งแรง และการคาร์ดิโอเอาไว้ด้วยกัน โดยมีคู่หู 2 สาวสุดฮอต แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Under Armour Thailand มาสเตอร์เทรนเนอร์แองเจิล ชาน และปู ไปรยา ลุนเบิร์ก ที่จะมานำการออกกำลังกายที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อผู้ร่วมกิจกรรม Armour@SiamAtSiam with Praya Lundberg  ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม 2560 เวลา 16.00-18.00 น. ณ โรงแรมสยามแอ็ท สยาม ดีไซน์ โอเต็ล กรุงเทพ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นพิเศษเฉพาะลูกค้าของ Under Armour เพียง 30 คู่เท่านั้น ไม่ว่าจะมาเป็นคู่แม่ลูก หรือคู่คุณแม่กับเพื่อน หรือคู่เพื่อนสาว Under Armour (อันเดอร์ อาร์เมอร์) อยากให้คุณพาคนที่รักมาสร้างความแข็งแรงด้วยกัน!!!

กติกาการร่วมกิจกรรม  

สาวๆ ที่สนใจ สามารถร่วมลุ้นเข้าร่วมกิจกรรม ได้ง่ายๆเพียงซื้อสินค้ากลุ่มผู้หญิงมูลค่า 4,500 บาท เพื่อรับสิทธิ์ร่วมลุ้นเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 1 รางวัล (รางวัลละ 2 ท่าน) รวมทั้งสิ้น 15 รางวัล พิเศษสำหรับสมาชิกUnder Armour จะได้รับเพิ่มอีก 1 สิทธิ์เพื่อลุ้นการเข้าร่วมกิจกรรม ภายในวันที่นี้จนถึง 6 สิงหาคม 2560สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ร้าน Under Armour ทุกสาขา หรือเฟสบุ๊ค UnderArmourThailand

ยูนิโคล่ ชวนแฟนๆ ซูเปอร์ฮีโร่ “MARVEL” ออกแบบเสื้อผ่านฝีมือและความคิดสร้างสรรค์

ยูนิโคล่ เชิญชวนผู้สนใจร่วมส่งผลงานการออกลายเสื้อยืด UNIQLO T-Shirt (UT) Grand Prix 2018 ในธีมของเหล่ายอดซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจมหาชนทั่วโลกจากค่าย“มาร์เวล” ด้วยตัวละครอันหลากหลายและมหากาพย์การต่อสู้อันน่าตื่นตาตื่นใจ การประกวดออกแบบเสื้อยืดของยูนิโคล่นั้นถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2005 โดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมประกวดจากทั่วทุกมุมโลกได้ออกแบบและนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองผ่านทางลายกราฟิคและข้อความตัวอักษรบนเสื้อยืดของยูนิโคล่ โดยจะเปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไป

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมนั้นจะมีการประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ UT GRAND PRIX 2018 ที่ uniqlo.com/utgp/2018

 

หล่อ สมาร์ท กาญจนบุรี! แทนรัก ศุภทรัพย์ นักบินฝนหลวง กับภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเม็ดเงิน

“ผมเป็น นักบินฝนหลวง ครับ”

คำแนะนำตัวบอกชัดถึงความภาคภูมิใจของ นักบินฝนหลวง แห่งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง จังหวัดกาญจนบุรี หนุ่มน้อยผู้มีแววตามุ่งมั่นวัย 27 ปี แทน – แทนรัก ศุภทรัพย์ ลูกชายคนโตของ ทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ นักแสดงรุ่นใหญ่  

เพราะได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวมาตลอดว่า ให้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ทำให้แทนตัดสินใจบินไปเรียนการบินหลักสูตร Private Pilot License ที่ Australian National Airline College ต่อด้วยหลักสูตร Commercial Pilot License ที่ Tailwheels Etc. Flight School สหรัฐอเมริกา จังหวะที่เรียนจบกลับมาเมืองไทย ช่วงที่รอเปลี่ยน License เป็นของไทย กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเปิดรับนักบินพอดี ซึ่งเป็นลักษณะการบินแบบ Hand Fly (การบินพาณิชย์ส่วนใหญ่ เป็นการบินแบบใช้เครื่องวัด และ Auto Pilot คือมองแต่หน้าจอเป็นหลัก) อย่างที่หนุ่มแทนอยากทำ จึงตัดสินใจไปสมัคร

“เวลานั้นเพื่อนๆ ไปสมัครสายการบินพาณิชย์กันหมด ซึ่งถ้าเราใช้ค่าตอบแทนเป็นมาตรวัด สายการบินพาณิชย์ย่อมดีกว่า แต่ถ้าเลือกบินแบบ Hand Fly และเลือกความสุขในระยะยาว ผมว่านักบินฝนหลวงชนะ แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มาจากคำพูดของคุณพ่อที่ว่า การเป็นนักบินฝนหลวง ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ทำงานในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”

แทนรัก ศุภทรัพย์ นักบินฝนหลวง

แทนตัดสินใจสมัครที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเพียงแห่งเดียว ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ นั่นคือเพื่อทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในฐานะเป็นนักบินฝนหลวง

“ตอนนี้ผมประจำการที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง จังหวัดกาญจนบุรี มีความสุขมากทุกครั้งที่ขึ้นบิน แม้จะมีคนบอกว่านักบินฝนหลวงต้องไปตามล่าเมฆ ซึ่งเป็นภารกิจที่เครียดและอันตราย เพราะต้องบินเข้าไปหากลุ่มเมฆที่กำลังเพิ่มความหนาแน่นมากขึ้น ที่เรียกว่าเมฆพายุ เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จก็ตาม”

แทนเล่าว่า ภารกิจฝนหลวงประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ที่มีชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ขั้นตอนแรกชื่อว่า “ก่อกวน”  โดยเช็คจากสภาพบรรยากาศที่ท้องฟ้าโล่ง ไม่มีเมฆ แต่มีความชื้น นักบินจะต้องบินขึ้นไปโปรยสารฝนหลวง เพื่อสร้างแกนขึ้นมาแล้วให้ความชื้นมาเกาะ จนค่อยๆ ก่อตัวเป็นก้อนเมฆ ขั้นตอนที่สอง เรียกว่า “เลี้ยงให้อ้วน” ด้วยการใช้สารฝนหลวงสูตรร้อนคือการทำให้เมฆฝนใหญ่ขึ้น และขั้นตอนสุดท้ายคือ “โจมตี” โดยการใช้สารฝนหลวงสูตรเย็น เพื่อลดอุณหภูมิใต้ฐานเมฆและนำพาเม็ดฝนให้ตกลงสู่พื้นดิน

หลักๆ ในการทำฝนหลวงแต่ละครั้งจึงต้องใช้เครื่องบินในการบรรทุกสารฝนหลวงสูตรเย็นและสูตรร้อน โดยเครื่องบินหนึ่งลำจะมีผู้ปฏิบัติการทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย นักบิน นักบินผู้ช่วย นักวิทยาศาสตร์เพื่อขึ้นไปดูสภาพของเมฆ ช่างเครื่อง และเจ้าหน้าที่โปรยสารฝนหลวงสองคน ซึ่งการขึ้นบินแต่ละครั้งมีแนวโน้มที่จะสามารถทำให้ฝนตกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ บางครั้งแนวโน้มไม่ดี แต่ฝนตกปริมาณมาก บางทีแนวโน้มดีมาก ฝนกลับตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นกระแสลม การโปรยสาร ถ้าโปรยเร็วไปก็จะทำให้เมฆสลายตัวได้

คงมีหลายคนที่เข้าใจไปว่า ช่วงหน้าฝนนักบินฝนหลวงคงงดปฏิบัติภารกิจ นักบินหนุ่มบอกทันทีว่าผิดถนัด

แทนรัก ศุภทรัพย์ นักบินฝนหลวง

“ฤดูฝนมีความชื้นสูงเหมาะแก่การทำฝนหลวง งานของเราจึงเพิ่มขึ้น เพราะเวลาฝนตกจะตกไม่ทั่วถึง บางครั้งตกหลังเขื่อน เราก็ต้องพยายามควบคุมให้ฝนตกในเขื่อน เพื่อจะได้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรและอุปโภคบริโกคในช่วงหน้าแล้ง หรือเวลามีไฟป่า ทำให้เกิดหมอกควัน เราก็ต้องบินขึ้นไปทำฝนหลวงเพื่อช่วยสลายหมอกควัน”

เพราะฉะนั้นในหนึ่งปีจึงมีช่วงทำฝนหลวงประมาณ 10 เดือน ตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์หรือต้นมีนาคม จนถึงตุลาคม-พฤศจิกายน ฤดูหนาวไม่เหมาะกับการทำฝนหลวง เพราะความชื้นต่ำ ไม่คุ้มกับเงินที่จะเสียไป เพราะการทำฝนหลวงแต่ละขั้นตอนต้องใช้งบประมาณกว่า 70,000 บาท ซึ่งมาจากภาษีประชาชน นั่นทำให้การขึ้นบินแต่ละครั้งต้องทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

แทนยังเล่าถึงวันแห่งความภาคภูมิใจที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

“วันแรกที่ผมมีภารกิจทำฝนหลวงที่จังหวัดนครสวรรค์ ปรากฏว่าอาสาฝนหลวงได้โทรศัพท์มารายงานว่า… ฝนตกแล้วนะ ผมดีใจมาก จากที่เคยคิดว่าคนที่สามารถทำให้ฝนตกถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ แต่วันนี้ทีมที่ผมเป็นหนึ่งในนั้นสามารถทำได้

แทนรัก ศุภทรัพย์ นักบินฝนหลวง

“พ่อเคยบอกว่า คนทุกคนทำเพื่อความสุขของตัวเอง แต่ถ้าการทำนั้นสามารถส่งผลดีกับผู้อื่น ถือว่าโชคดีมาก ที่สิ่งที่ผมชอบสามารถช่วยเหลือคนอื่น ช่วยเกษตรกร และชาวบ้านที่เดือดร้อนได้

“ที่สำคัญเมื่อผมมาทำงานตรงนี้ ยิ่งได้เห็นในสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทำมาทั้งหมด ถ้าย้อนกลับไปตอนที่พระองค์ทรงคิดค้นการทำฝนหลวง ทรงใช้ความเพียรอย่างมาก ทรงต้องแบกความทุกข์ความเดือดร้อนของประชาชนที่พระองค์ต้องดูแล โดยไม่ทรงย่อท้อและยังทรงสู้จนสำเร็จ ทุกครั้งที่ผมบินขึ้นไปปฏิบัติงาน รู้สึกว่าเราเป็นเฟืองตัวหนึ่งที่อยู่ในโครงการของพระองค์ท่าน เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

“วันนี้ผมทราบแล้วว่า การที่พระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระวรกาย และพระสติปัญญากว่าสิบปีในการทรงทำให้เกิดฝนหลวงขึ้นมาได้นั้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่หรือมีใครบอกให้ทำ พระองค์ทรงทำด้วยหัวใจที่เราสัมผัสได้ ยิ่งรู้สึกว่าฝนหลวงคือความรักที่พระองค์พระราชทานให้ประชาชน

“ภารกิจฝนหลวงจึงยิ่งใหญ่กว่าเม็ดเงินไหนๆ ในโลกนี้ และผมภูมิใจมากที่ได้เป็น นักบินฝนหลวง ครับ”

ที่มาเรื่อง : คอลัมน์ ‘คิดถึงพ่อ’ นิตยสารแพรว ฉบับที่ 908

เรื่อง : กิดานันท์ /ภาพ : วรสันต์

IZIPIZI X Another Story เปิดตัวแว่นตารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น

เปิดตัวแว่นตารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ เอิร์ท ทราเวลเลอร์ (EARTH TRAVELLER) ที่ทางแบรนด์ ‘อีซี่พี่ซี่’ (IZIPIZI) ได้ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษร่วมกับร้าน ‘อนาเธอร์ สตอรี่’ (Another Story) ไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์สโตร์ยอดนิยมของเมืองไทย ตอบโจทย์หนุ่มสาวนักเดินทางให้ได้สัมผัสกับผลงานดีไซน์สุดล้ำสมัยกันอย่างใกล้ชิด ในค่ำคืนที่ผ่านมา

โดยในงานได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา, ศรัณย์ภัค เพ็ญชาติ, นันทินี อัมระนันทน์, หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ยุคล, ต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต, จารุเดช บุญญสิทธิ์, คณิตกุล เนตรบุตร, วงศธร วรชาติกุล, อธิวัฒน์ ตู้ทองคำ และอีกมากมาย

สำหรับแว่นตา ‘อีซี่พี่ซี่’ (IZIPIZI) รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ที่ถูกออกแบบขึ้นในคอนเซ็ปต์ เอิร์ท ทราเวลเลอร์ (EARTH TRAVELLER) นี้ ทางทีมดีไซน์ได้ออกแบบมาเพียง 2 แบบเท่านั้น ได้แก่ แบบสกรีน (screen) แว่นถนอมสายตาที่มีคุณสมบัติช่วยตัดแสงสีฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์ และจอโทรศัพท์มือถือ และแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีให้สายตาได้ถึง 99.99% ซึ่งทั้งสองรุ่นได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์หนุ่มสาวนักเดินทางโดยเฉพาะ ด้วยการเลือกใช้สีเขียวขี้ม้าในการทำกรอบแว่น ตัวแทนโทนสีจากธรรมชาติและต้นไม้นานาชนิดที่สื่อถึงการออกเดินทางไปผจญภัย และใช้สีกระสำหรับขาแว่น เพื่อแสดงถึงความสนุกสนานและสไตล์อันโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘อีซี่พี่ซี่’ (IZIPIZI) รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ทำจากโพลีคาร์บอเนต ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ทนทาน และแป้นจมูกกับทรงแว่นที่ถูกปรับให้เข้ากับรูปหน้าของคนเอเชียทำให้สามารถสวมใส่ได้ง่าย ซึ่งแว่นตารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นนี้ได้ถูกผลิตขึ้นเพียง 1,000 อันเท่านั้น แบ่งเป็นแบบสกรีน 300 อัน ในราคา 2,100 บาท และแบบกันแดด 700 อัน ในราคา 1,900 บาท

10 เรื่องทำเซ็กส์เสื่อม

account_circle

อารมณ์ เซ็กส์เสื่อม ระหว่างกำลังที่มีเซ็กส์สุดเหวี่ยงเกิดได้กับทุกคู่ค่ะ แต่จะเป็นรูปแบบไหนและมีความเสื่อมในระดับใดวันนี้มาดามขอยก 10 เหตุบังเอิ๊ญบังเอิญที่อาจเกิดขึ้นบนเตียงระหว่างที่กำลังนัวกันอยู่มาเล่าสู่กันฟัง คุณจะได้ระวังเอาไว้ เพราะเรื่องเหล่านี้ทำเอาหมดอารมณ์ในบัดดล

1. ฟันศอกตีเข่าแบบไม่รู้ตัว

มาดามเข้าใจดีค่ะ ว่าช่วงที่คุณกำลังพยายามใช้สารพัดท่าสร้างความสุขให้กับคู่ของคุณนั้น คุณอาจตั้งใจมากจนลืมเช็คมุมต่างๆ ของอวัยวะอย่างถี่ถ้วน เลยเกิดเหตุให้ศอกหรือเข่าไปกระทุ้งใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ตั้งใจ บอกเลยว่างานนี้มีคราง แต่ไม่ใช่ครางด้วยอารมณ์สุขสม แต่จะเป็นแบบว่า….ครวญครางแบบเจ็บลึกน่ะสิ

2. ผิวเหนอะหนะแถมส่งเสียงประหลาด

หากคุณกำลังออกกำลังจัดเต็มบนเตียง ความเร้าร้อนทั้งภายนอกภายในกำลังปะทุ เหงื่อไคลก็ไหลย้อย มีโอกาสสูงที่ผิวหนังของคุณทั้งคู่จะเสียดสีกัน ซึ่งสำหรับบางคนไม่สีเฉยๆ แต่ส่งเสียงตลกๆ ไม่เข้ากับบรรยากาศซะงั้น เซ็กส์ฮอตๆ ก็เลยกลายเป็นเซ็กส์ฮาๆ ไป และไหนๆ ก็พูดถึงเสียงแล้ว ยังมีอีกเสียงที่แม้จะเป็นเสียงธรรมชาติอย่างเสียงลมขณะสอดใส่แต่ก็เป็น เสียงลมแปลกๆ ที่ทำเอาคู่รักหลายคู่รู้สึก “นอยด์” เหมือนกัน

3. ถอดบราไม่ออกสักที

เรื่องนี้เกิดบ๊อยบ่อยและทำเอาอารมณ์ที่พุ่งๆ ดิ่งเหวได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าเจอชุดชั้นในระดับเทพที่ออกแบบมาอย่างล้ำลึกซ่อนตะขอบ้างละ เปลี่ยนที่ติดตะขอบ้างละ หนุ่มๆ ไม่เคยใส่ก็หาไม่เจอน่ะสิ ไหนจะความมืด แสงสลัวและสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะมัวแต่อยาก…สุดๆ เจอแบบนี้เขาสาวๆ อาจหมดอารมณ์จนต้องจัดการเอง แบบนี้พูดเลยว่าฟินไม่สุด สะดุดมากกว่า

4. เต็มไปด้วยแก๊ส

เรื่องลมอัดแน่นที่พอควบคุมได้ก็เรื่องนึง แต่ถ้าควบคุมไม่ได้จะทำอย่างไร เพราะใช่ว่าสาวๆ เท่านั้นจะตดออกมาระหว่างมีเซ็กส์ หนุ่มๆ เองก็เช่นกัน (ไม่อยากจะเม้า!!…หนุ่มบางคนปฎิบัติการไปตดไปซะด้วยซ้ำ) เจอแบบนี้ทำไงได้ จะขำก็ขำไม่ออก จะหวานซึ้งก็เกรงกลิ่นจะลอยมาเบรค เอาเป็นว่ากลั้นได้ขอให้กลั้น ถ้าไม่ไหวจะกลั้นขอแนะนำให้ครางดังๆ กลบเสียงไปเลย อ้อ…แต่กลิ่นนี้ไม่สามารถกลบได้นะจ๊ะ

5. เหน็บกิน

แค่นั่งนานเหน็บกินตะคริวเกิดก็ทรมานจะแย่ นี่แก้ผ้าอยู่แถมมีอะไรเชื่อมคุณทั้งคู่ให้ผละกันไปไม่ได้อีก ถ้าเกิดเป็นเหน็บตอนมีเซ็กส์ขึ้นมาจริงๆ มีให้สองทางเลือกคือ อดทนก้มหน้าลุยต่อ หรือบอกอีกฝ่ายไปตรงๆ แล้วปรับลีลาร้อนให้อุ่นๆ ค่อยว่ากันต่อ แต่ทางที่ดีออกกำลังกายบ่อยๆ ฟิตๆ ไว้ก่อนเวิร์คกว่านะ

6. ไปกันคนละท่า

ไม่ว่าจะอยากเปลี่ยนท่าเพราะเมื่อยมากหรืออยากจะสุขสมกว่านี้อีกนิดเพื่อคว้าดาว แต่ปัญหาที่เจอและทำเอาเซ็กส์สะดุดก็คือ ความไม่ลงตัวของท่าทางที่แต่ละคนเลือกใช้ เพราะเรื่องแบบนี้ต่างคนก็ต่างถนัด บรรยากาศก็เลยอึนๆ บวกกับท่าทางงกๆ เงิ่นๆ ไม่ไปด้วยกันซะงั้น

7. ฉีกถุงยางอนามัย

หลายคู่สะดุดเอาตรงเรื่องถุงยางนี่แหละ ไม่ใช่เขาไม่ใช้นะ แต่การที่ไม่เตรียมให้พร้อมน่ะสิที่ทำเอาเซ็กส์เสื่อม จะหยิบใช้ทีพ่อคุณเพิ่งจะมาแกะพลาสติกออกจากกล่อง หาทางฉีกได้ก็สบายไป แต่บ่อยครั้งที่เล็บขูดเท่าไหร่พลาสติกก็ไม่ขาด ร้อนถึงสาวๆ ต้องลุกขึ้นมาฟ้อนเล็บช่วยแกะ เจอแบบนี้ทำเอาหมดบรรยากาศอยู่เหมือนกัน

8. ทำเป็นอั้นฉี่ไหว

หากคุณไม่แน่ใจว่าจะอั้นไว้ได้นานแค่ไหนเพราะกำลังอยู่ในช่วงพยายามให้ถึงออกัสซั่ม เราขอแนะนำให้คุณละทิ้งโมเมนท์นั้น หมุนตัวลงจากเตียงแล้วตรงไปยังห้องน้ำ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ที่อวัยวะของคุณไม่ให้ความร่วมมือ บอกเลยว่าเซ็กส์ครั้งนี้ได้ประทับใจทั้งคุณและเขาไปอีกนาน

9. คิดไม่ตกว่าน้ำรักของเขาจะไปจบลงตรงไหน

สาวๆ รู้อยู่แล้วว่าจุดฟินของหนุ่มๆ มาพร้อมกับอะไร ประเด็นอยู่ที่ว่าจะมาอยู่ที่ตรงไหนมากกว่า เพราะระหว่างที่คุณสนุกกับเซ็กส์อยู่นั้น สาวๆ ไม่มีทางรู้เลยว่าน้ำรักของเขาจะสาดเข้าตรงไหน จะเป็นกำแพง พรม หน้าท้อง หว่างขา หรือแม้แต่บนผมของคุณ คำแนะนำสำหรับข้อนี้คือ เตรียมตัวทำความสะอาดดีๆ แล้วกัน ถ้ามันเกิดในที่ๆ ควรเกิดก็โอเค แต่ถ้าไม่ละก็ จุดฟินของเขาอาจทำเอาจุดฟินของคุณสูญสลาย

10. น้ำรักของเขาอยู่ตรง…

เอวีญี่ปุ่นชอบยัดเยียดฉากจบที่มอยเจอไรเซอร์ของเขาพอกมาที่ใบหน้าของเธอ แต่พูดเลยนะว่า ไม่ใช่สาวทุกคนที่อยากเป็นนางเอกเอวี!!

เรื่อง : Madam Hong Hern

จิกหมอนเข้าไปอีก…กงยูโชว์สวีตขอคิมโกอึนแต่งงานแล้ว

เกาะติดชิดจอกันเลยสำหรับซีรี่ส์ดังอย่าง Goblin ซึ่งตอนนี้เนื้อเรื่องยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่คิมโกอึนความทรงจำกลับคืนมาแล้ว โดยซีนที่สุดแสนประทับใจยังมีอีกเพียบ ซึ่งวันนี้แพรวดอทคอมเอาเรื่องย่อมาให้อ่านพร้อมภาพประกอบให้ฟินจิกหมอนกันไปพลางๆ

ยมทูต (อีดงอุค) กำลังยืนหั่นผักอยู่กับยูด็อกฮวา (ยุกซองแจ) พวกเขาคุยกันเรื่องของยมทูตและก็อบลิน (กงยู) ด็อกฮวาดันไม่เชื่อว่ายมทูตและก็อบลินมีพลังพิเศษเหนือกว่าคนอื่น ยมทูตจึงแสดงพลังพิเศษคือการหายตัวโชว์ให้กับด็อกฮวาดู ซึ่งด็อกฮวาเองก็ยังไม่เชื่อทันที

ก็อบลินจึงโชว์พลังโดยการใช้พลังบังคับสิ่งของ แต่ด็อกฮวาก็ไม่เชื่ออีกเช่นเคย ก็อบลินและยมทูตจึงตัดใจแล้วแต่สิ่งด็อกฮวาคิด ฝั่งทางจีอึนทัก (คิมโกอึน) ทำงานเสร็จก็รีบดิ่งตรงไปหาซันนี่เจ้าของร้านไก่เพื่อนซี้ของเธอ ซันนี่ (ยูอินนา) กำลังนั่งคุยเกี่ยวกับเรื่องย้ายร้านอยู่

พออึนทักรู้ว่าซันนี่จะย้ายร้าน อึนทักตกใจมาก เขาจึงขอตัวแยกออกไปก่อน อึนทักไปนั่งอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง ไม่นานหลังจากนั้นคุณลุงก็อบลินก็เข้ามาหาอึนทัก เขาทั้งคู่จึงออกไปเดินเล่นกัน คุณลุงสารภาพรักกับอึนทัก พร้อมทั้งขออึนทักแต่งงาน อึนทักยืนอึ้งไปสักพักใหญ่ก่อนที่จะตอบตกลง ค่ำวันนั้นอึนทักไปนั่งอยู่บนดาดฟ้าของบ้านตัวเอง อึนทักเหม่อมองไปยังท้องฟ้ากว้างไกลและบอกกับคุณแม่ที่อยู่บนนั้นว่าตัวเขากำลังจะแต่งงาน ความสุขเข้ามาหาตัวเขาแล้ว

 

สำหรับฉากนี้ก็ใกล้ออนแอร์แล้วในพุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 เวลา 2 ทุ่มครึ่ง ทาง True4U ช่อง 24 นะจ๊ะ

พาโบลจับมือตั้ม วิศุทธ์ เปิดตัวคอลเลคชั่น “PABLO X MAMUANG” ก็จะดูมุ้งมิ้ง ตะมุตะมิ คิวท์ๆ หน่อย

หากนึกถึงของหวานที่กำลังฮอตฮิตตอนนี้ เชื่อว่าหลายคนต้อคิดถึง PABLO CHEESE TART (พาโบลชีสทาร์ต) ขนมหวานสัญชาติญี่ปุ่น ขวัญใจเจแปนเลิฟเวอร์ แต่กว่าจะได้ทานนั้นต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น แค่คิดก็เหนื่อย ความอยากก็หายไปแล้วใช่ไหมคะ ข่าวดีคือตอนนี้ไม่ต้องบินไปซื้อถึงญี่ปุ่นอีกอีกต่อไป เพราะ PABLO บินมาเปิดที่เมืองไทยแล้วจ๊ะ และปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขาด้วยกัน  (สาขา สยามพารากอน และ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว) ซึ่งนอกจากขนมชีสทาร์ตสีเหลืองฉ่ำ ชีสไหลเยิ้ม signature ของทางร้านแล้ว  PABLO ยังมีขนมชีสทาร์ตอีกหลากรสชาติที่หมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามาเซอร์ไพรส์ลูกค้าในทุกๆเดือน และในเดือนกรกฎาคมนี้เอง ที่ความพิเศษจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ขนม เพราะ PABLO จับมือกับคุณตั้ม วิศุทธิ์ เปิดตัวคอลเลคชั่น “PABLO X MAMUANG” กับการผลิตคอลเลคชั่นพิเศษ ตั้งแต่ตัวขนมชีสทาร์ต และของพรีเมี่ยมแบบ Limited Edition เพียง 2 เดือนเท่านั้น!

“PABLO X MAMUANG” คอลเลคชั่นนี้เป็นการ collaborate กันระหว่าง PABLO Cheese Tart และ Mamuang Chan หนึ่งในคาแรคเตอร์ชื่อดังจากฝีมือของคุณตั้ม วิศุทธิ์ ที่ขนขบวนพาเหรด “มะม่วง” มายกเซ็ต  เริ่มจาก “PABLO Mango Cheese Tart” ชีสทาร์ตรสมะม่วง ที่ผสมผสานระหว่างเนื้อชีสเข้มข้น และ Mango Puree Jam เข้าด้วยกัน ให้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนสไตล์ PABLO Cheese Tart แต่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวจากมะม่วงแท้ “PABLO Mango Cheese Tart” ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันกับที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ราคาชิ้นละ 475 บาท ส่วน “PABLO Mini Mango” ชีสทาร์ตรสมะม่วงแบบมินิ ที่ให้รสชาติหอมมันจากชีสทาร์ต และให้ความสดชื่นในทุกคำจากเนื้อมะม่วง และซอสมะม่วงที่อยู่ด้านบน ซึ่งพิเศษสุดๆเพราะมีวางจำหน่ายเฉพาะที่ประเทศไทยที่เดียวเท่านั้น ในราคาชิ้นละ 95 บาท

ปิดท้ายด้วย “PABLO X MAMUANG UMBRELLA” ร่มน้องมะม่วงจัง ผลงานการดีไซน์ของคุณตั้ม วิศุทธิ์ โดยตัวการ์ตูนของน้องมะม่วงจังบนร่มนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพนักงานของ PABLO ที่ร่าเริงสดใส และมี Positive Attitude โดยผลิตในจำนวนจำกัดแบบ Limited Edition

โปรโมชั่น “PABLO X MAMUANG UMBRELLA” ร่มน้องมะม่วงจัง รับฟรีทันที! เมื่อซื้อ Mango Freshly Baked Cheese Tart 1 ชิ้น + Freshly Baked Cheese Tart (รสใดก็ได้) 1 ชิ้น + Mini Cheese Tart (รสใดก็ได้)  1 กล่อง ที่ร้าน PABLO CHEESE TART ทั้ง 2 สาขา (สยามพารากอน และ เซ็นทรัล ลาดพร้าว) ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 14 กันยายน 2560 นี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Instagram และ Line@ ของPABLO Cheese Tart Thailand ได้เลย ใครอยากอร่อย พร้อมกับสะสมของคิ้วๆ ต้องรีบเลยจ้า ช้าหมดอดนะ

 

เป็นไปไม่ได้“ท็อป”ยัน“เจนี่”แค่เพื่อน เผลอน้ำตาเล็ดเอ็มวี “สวนทาง”สะท้อนชีวิตคู่ “ไฮโซแพม”

ออกมาโต้ข่าวลือหลายครั้งหลายครา แต่ยังถูกโยงว่ามีสัมพันธ์พิเศษอยู่เรื่อยๆ สำหรับพิธีกรหนุ่ม “ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี” กับนางเอกสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ล่าสุดคู่นี้ถูกจับโยงเป็นประเด็นด้วยกันอีกแล้ว หลังจากที่ฝ่ายชาย โพสต์ภาพคุณแม่ของตนและนักแสดงสาวพร้อมแคปชั่นว่า “แม่เลิฟมากคนนี้”คราวนี้จึงไม่พ้นถูกจับตามองเรื่องความสัมพันธ์อีกครั้งตามระเบียบ และเกี่ยวกับเรื่องนี้พิธีกรหนุ่มได้อธิบายว่า วันนี้ไปทานข้าวกับครอบครัว และบังเอิญที่ได้เจอกับ “เจนี่”ที่ร้านอาหาร ซึ่งคุณแม่รู้จักและชอบ “เจนี่”อยู่แล้วในฐานะแฟนคลับจึงนั่งคุยและมีการถ่ายภาพร่วมกัน

“ท็อป”โพสต์รูป”เจนี่”กับคุณแม่ พร้อมแคปชั่น“คนนี้แม่เลิฟมาก” ทำเอาหลายคนลุ้นตัวโก่ง

“พอดีวันนั้นไปกินข้าวที่เดียวกัน คุณแม่กับ “เจนี่”รู้จักกันอยู่แล้ว “เจนี่”เจอคุณแม่เลยมานั่งคุยด้วยกันที่โต๊ะ เพราะแม่ปลื้มและติดตามละครชุดใหม่ที่เขากำลังจะออกมา เขาก็นั่งคุยกันตามประสา ผมก็ดูว่าคู่นี้น่ารักดี แม่เลยถ่ายรูปกัน ผมยังแซวคุณแม่เลยว่าดูเป็นแฟนคลับมาก จริงๆคุณแม่ไม่ค่อยทำอะไรแบบนี้เป็นสิ่งที่ประหลาดใจมากเพราะวันนั้นเราไปทานข้าวกับครอบครัวแต่ไม่มีภาพครอบครัวมีภาพแม่กับ “เจนี่”อีกอย่างผมกับ “เจนี่”ไม่ได้มีอะไรกันมันเป็นไปไม่ได้ เพราะผมกับเขารู้จักกันนาน สำหรับข่าวกับ “เจนี่”แม่ไม่ได้เชียร์แค่ถามว่าเจนี่เป็นยังไงบ้างโอเคหรือเปล่าเวลาที่มีข่าวเขาเป็นห่วง แต่อย่างผมเป็นข่าวกับ”เจนี่”คนที่อยู่ใกล้ตัวเราเขาไม่คิดอะไร เพราะเราสองคนเหมือนกันมาก เราสองคนไม่ได้คิดอะไรจริงๆถึงทำอะไรได้ปกติ อย่างปีนี้วาเลนไทน์เจอกัน ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอะไรที่จะพิเศษ ถ้าว่างคิวตรงกันก็ไหว้พระด้วยกัน เพราะเราอยู่ใกล้กันอยู่แล้ว เราไม่ได้คิดว่าจะต้องเปลี่ยนอะไรเพื่ออะไรเพราะมันเป็นเรื่องปกติของเราสองคน”

เอ็มวีเพลง“สวนทาง”ของ “พีเค -ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร”

นอกเหนือจากข่าวคราวกับนางเอกคนดังแล้ว ยังได้ถามถึงเพลง“สวนทาง”ของ “พีเค -ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร”ที่หนุ่ม“ท็อป”แสดงเอ็มวีให้ นั้นมีเรื่องราวคล้ายชีวิตจริงในอดีต แถมเพื่อนยังเลือกนางเอก“หลิน-กมลพรรณ สุวรรณมาศ” ซึ่งมีบุคลิกและหน้าตาคล้าย “แพม-สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล”อดีตภรรยามาร่วมแสดงด้วยกัน เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ท็อป”เผยว่าตอนที่ได้ยินเพลงครั้งแรกรู้สึกอึ้งไปเหมือนกัน

“แพม-สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล”อดีตภรรยา “ท็อป”

“ก็มีน้ำตา เพราะได้ฟังเพลงครั้งแรกคืออึ้งๆไปเลย ทำอะไรไม่ได้ต้องหยุดทุกอย่างเพราะรู้สึกว่าเพลงนี้ตั้งแต่คำแรกที่ร้องและทุกๆคำที่ร้องมันกินใจมันโนใจมาก คือบางครั้งเรารู้สึกว่าเราโอเคแล้ว แต่พอได้ฟังเพลงนี้ความรู้สึกของเรามันกลับคืนมา รู้สึกว่าทำไมเพลงนี้มันเข้าใจความรู้สึกของเราได้ดีจังเลย บางทีเราไม่สามารถอธิบายได้ว่าความรู้สึกของเรา ณ ตอนนี้ หรือโมเม้นท์นั้นๆมันเป็นยังไง แต่เพลงนี้สามารถถ่ายทอดอารมณ์นั้นได้”

keyboard_arrow_up