เมื่อเอ่ยถึงของรัก แน่นอนว่าสำหรับ “คุณกาย-ขนิษฐา จิตต์กุศล” เครื่องประดับเป็นความเลิฟระดับคลั่งไคล้ เห็นเป็นไม่ได้ ต้องมีเก็บไว้เป็นของสะสม ตะลุยซื้อมาแล้วทั้งในไทยและต่างประเทศ สำหรับโอกาสพิเศษร่วมฉลอง แพรว 43 ปี คุณกายคัดชิ้นพิเศษหายากที่ดีต่อใจมาให้ได้ชมกัน
อวดโฉมเอ็กซ์คลูซีฟ! จิเวลรี่ชิ้นแรร์สุดเลอค่าของ “คุณกาย-ขนิษฐา จิตต์กุศล”
คุณกายเล่าถึงลุคพิเศษที่จัดเต็มมาในวันนี้ว่า “ตั้งใจจัดไฮจิเวลรี่ชิ้นโปรด หายากที่คัดมาแล้วว่าเป็นสิ่งที่รักมากในบรรดาของสะสมทั้งหมด กายอินมากในระดับสู้ตาย มีเงินเท่าไรยอมเทให้หมด (หัวเราะ)
“สำหรับลุควันนี้กายเลือกจิเวลรี่ชิ้นเด่นเป็นสร้อยคอ 2 เส้น คือสร้อยคอเพชรประดับมรกตของร้านราชดำริของไทยเรา คือถ้าเป็นพลอย กายจะไม่กล้าซื้อร้านที่ไม่รู้จัก เพราะพลอยดูยากมาก พลอยที่ดีต้องใส สะอาด ไม่มีขนแมว เศษหิน หรือรอยร้าวแตกข้างใน แต่เราดูไม่ออก อย่างเพชรยังมีใบรับรอง แต่พลอยไม่มี พลอยจริงหรือไม่จริง เผาหรือไม่เผา มาจากแหล่งขุดไหน ฉีดสีเข้าไปหรือเปล่า เราไม่มีทางรู้เลย ขนาดเซียนพลอยบางคนยังดูพลาด เพราะฉะนั้นต้องอาศัยความเชื่อใจล้วนๆ กายซื้ออยู่ 3 ร้าน คือ ราชดำริ, เจมส์ พาวิลเลียน และพริมา เจมส์ เพราะรู้จักกันมา 30 ปี เราเชื่อใจว่าพลอยทุกชิ้นที่เขาคัดมาคือของจริง อีกอย่างมรกตเป็นพลอยที่กายชอบและใช้บ่อยมากที่สุด เพราะชอบสีเขียว แล้วสร้อยคอเส้นนี้คัดมรกตได้อย่างมีคุณภาพ สีเขียวสดฉ่ำ ไม่มีรอยขนแมวเลย มรกตคุณภาพระดับนี้ สีแบบนี้ นับวันยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดกายได้มาเมื่อ 20 ปีก่อน สมัยนั้นยังหายากเลย จึงเป็นชิ้นที่รักมากค่ะ

“ส่วนอีกชิ้นที่นำมาใส่ด้วยกันคือสร้อยคอซิปยาว เป็นเพชรประดับไพลินที่ให้สีหวานมาก เป็นชิ้นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Van Cleef & Arpels ที่ตัวซิปสามารถรูดขึ้นลงได้จริง กับปรับระดับตัวล็อกได้ว่าอยากให้ติดคอหรือปล่อยยาวลงมา เป็นเทคนิคเฉพาะของทางแบรนด์ที่จดลิขสิทธิ์ไว้ กายจึงรู้สึกว่านอกจากงานดีไซน์ของเขาเก๋ไม่เหมือนใครแล้ว ยังเป็นงานนวัตกรรมด้วย อีกความพิเศษของสร้อยคอซิปชิ้นนี้คือเป็นงานไฮจิเวลรี่ ซึ่งไม่ใช่ใครก็ซื้อได้ ต้องได้รับเชิญจากทางแบรนด์ให้ไปชมเท่านั้น ส่วนใหญ่จัดที่ต่างประเทศ โดยภายในงานนอกจากบรรดาเครื่องประดับ 400 – 500 ชิ้นแล้ว ยังมีสร้อยคอซิปแค่ 2 เส้น เป็นเส้นสั้นกับเส้นยาว ใครตัดสินใจก่อนก็ได้ก่อน เส้นนี้กายได้มาช่วงที่เขามาจัดงานในเมืองไทยช่วงโควิด สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อคือ หนึ่ง เป็นชิ้นเดียวในโลก เนื่องจากแบรนด์จะไม่ทำซ้ำ เขาจะจดไว้เลยว่าชิ้นนี้เป็นของคนนี้ ต่อให้เป็นสร้อยซิปเหมือนกัน แต่หัวซิปจะออกแบบไม่เหมือนกัน และใช้อัญมณีต่างกัน อย่างของกายเป็นเพชรประดับไพลิน ของคนอื่นอาจจะเป็นเพชรมิกซ์กับทับทิม มรกต มุก ดีไซน์ก็จะปรับให้แตกต่างกันด้วย ชิ้นนี้ราคาประมาณสิบกว่าล้าน

“ที่นำมาเสริมทัพความอลังการในลุคนี้คือนาฬิกาล้อมเพชรของ Van Cleef & Arpels จุดเด่นอยู่ที่หน้าปัดรูปนางฟ้าถือคทา ซึ่งทั้งตัวนางฟ้าและคทาสามารถเคลื่อนที่ได้ ตัวคทาจะแทนเข็มนาฬิกา สายทำจากหนังจระเข้ เรือนนี้ประมาณ 6 – 7 ล้าน ส่วนอีกด้านเป็นกำไลซิกเนเจอร์ของ Cartier ทั้งสองชิ้น คือกำไลตะปูประดับเพชรกับกำไลเสือประดับเพชร กายชอบที่ดีไซน์สวย ดูแล้วรู้เลยว่าเป็นงานไอคอนิกของแบรนด์

“นอกจากนี้ยังมีแหวน Tiffany and Co. เป็นเพชรล้อมแทนซาไนต์ (Tanzanite – พลอยเนื้ออ่อนชนิดหนึ่งที่ให้สีน้ำเงินเหมือนไพลิน) ทางแบรนด์บอกว่ามาจากเหมืองที่ดีที่สุดในโลก เช่นเดียวกับแหวนและต่างหู Serpenti เข้าเซตกันของ Bvlgari ที่ทำจากแทนซาไนต์เหมือนกัน

“จะบอกว่าเครื่องประดับเพชรพลอยนี่เหมือนแพ้ทางกัน คือถ้าอยู่เฉยๆ 3 – 4 เดือน ก็ไม่รู้สึกอะไร เห็นรูปก็ไม่นึกอยากวิ่งไปซื้อ แต่ถ้ามีแบรนด์ไหนชวนไปเข้าร้านนะ จะแบรนด์ไทยหรือแบรนด์นอก ถ้าเห็นอยู่ตรงหน้าแล้วต้องซื้อเลย ไม่สามารถยับยั้งใจได้ เครซี่มาก สามารถซื้อได้ทุกวัน ถ้าเข้าร้าน 7 วัน ก็ซื้อได้ทั้ง 7 วัน ทุกวันนี้เวลาแบรนด์ไหนมาเชิญ ต้องพยายามเตือนตัวเองว่าอย่าไปเลย เพราะกลัวจะห้ามใจไม่อยู่ (หัวเราะ) แต่เหนือสิ่งอื่นใด จิเวลรี่เหล่านี้สามารถเก็บไว้ได้ชั่วลูกชั่วหลาน”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 986
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ