นีน่า ชยุดา เจียรวนนท์

โช้กเกอร์ มูลค่า 25 ล้านบาท High Jewelry ชิ้นโปรดของ “นีน่า-ชยุดา เจียรวนนท์”

Alternative Textaccount_circle
นีน่า ชยุดา เจียรวนนท์
นีน่า ชยุดา เจียรวนนท์

“คุณนีน่า – ชยุดา เจียรวนนท์” ทายาทสวย + เก่ง ของคุณชัชวาลย์ – คุณขวัญใจ เจียรวนนท์ หลังจากทำงานสั่งสมประสบการณ์ที่ธนาคาร UBS ประเทศสิงคโปร์ ในตำแหน่ง Client Advisor ด้าน Private Wealth นานกว่า 6 ปี วันนี้เธอกลับมาช่วยดูแลธุรกิจการลงทุนของครอบครัวแบบเต็มตัว แพรว จึงได้โอกาสชวนมาเปิดตัวพร้อมกับสิ่งที่เธอกำลังอินสุดๆ คือเครื่องประดับ High Jewelry แบรนด์ดังระดับโลก งานนี้ต้องยกเครดิตให้คุณแม่ขวัญใจ เจียรวนนท์ ที่ส่งต่อดีเอ็นเอความชอบให้ลูกสาวแบบไม่ตกหล่น

DNA Luxury

“นีน่าชอบจิเวลรี่มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ เพราะคุณแม่พาไปช็อปปิ้งด้วยเสมอ ทำให้เริ่มชอบและซึมซับมาเรื่อย ๆ พอโตขึ้นก็ได้เรียนรู้เรื่องความงามของเพชรและ พลอยชนิดต่าง ๆ รวมถึงมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศกับคุณแม่ตามคำเชิญของ แบรนด์ High Jewelry อย่าง Bvlgari เพื่อไปชมนิทรรศการ จึงเห็นเครื่องประดับ ชิ้นที่เป็น One of a Kind และได้เรียนรู้ความพิเศษอย่างวิธีการเจียระไนของช่าง ฝีมือระดับโลกที่กว่าจะออกมาสวยอย่างที่เห็น ต้องสั่งสมประสบการณ์มายาวนาน และคัดเฉพาะอัญมณีชิ้นที่หายาก เช่น มรกต ทับทิม บุษราคัม โกเมน อย่าง ตอนไปฝรั่งเศสครั้งล่าสุดเขาบอกว่าหิน Blue Paraiba หายากมาก แล้วการจะหา โทนสีที่ใกล้เคียงกันยิ่งยากกว่า ต้องนำมาเจียระไนออกมาให้มีความยูนีคและ พิเศษกว่าเครื่องประดับชิ้นอื่น ๆ ฉะนั้นกว่าจะได้สร้อยหนึ่งเส้นต้องใช้เวลานาน หลายเดือน ยิ่งทำให้นีน่าหลงใหลค่ะ

“สำหรับนีน่า จิเวลรี่เป็นเหมือนสิ่งที่แสดงความเป็นตัวตน และมีส่วนช่วย เสริมให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น สมัยเด็กนีน่าจะได้จิเวลรี่เป็นของขวัญในช่วงเวลาพิเศษ ของชีวิต อย่างตอนเรียนจบไฮสกูล จบมหาวิทยาลัย คุณพ่อคุณแม่จะซื้อให้เป็น ของขวัญ เมื่อทำงานได้เงินเดือนเดือนแรก นีน่าก็ให้ของขวัญตัวเองเป็นสร้อยงู Serpenti ซึ่งเป็นไอคอนิกดีไซน์ของ Bvlgari มาตั้งแต่ยุค 50 ดังนั้นเครื่องประดับ ทุกชิ้นจึงทำให้นึกถึงช่วงเวลาและความทรงจำดี ๆ ในชีวิต ทุกครั้งที่หยิบมาใส่ก็จะ นึกถึงวันดี ๆ เหล่านั้นเสมอ

“จำได้ว่าตอนวัยรุ่นนีน่าชอบใส่คอสตูมจิเวลรี่แบบกุ๊กกิ๊กตามเทรนด์ พอโตขึ้น เครื่องประดับที่ใส่ติดตัวจะเป็นกำไลข้อมือเพชรเส้นเล็ก ๆ หรือสร้อยคอที่เป็นห่วงโซ่ สีเยลโลว์โกลด์หรือพิ้งค์โกลด์ เว้นว่าเวลาออกงานจึงจะเน้นเครื่องประดับชิ้นใหญ่ หน่อย อย่างสร้อยเพชรและต่างหู

“ส่วนตัวชอบเครื่องประดับสไตล์อาร์ตเดโคที่เน้นเหลี่ยมมุมของเครื่องประดับ และที่ชอบมากคือการนำสีสันของอัญมณีมาสร้างสรรค์ในงานดีไซน์ โดยเฉพาะ High Jewelry แบรนด์ที่นีน่าชอบมากจะนิยมนำพลอยสีสันตัดกันหรือที่เรียกว่า สีตรงกันข้ามมาแมตช์กันได้อย่างลงตัว ด้วยสไตล์การแต่งตัวของนีน่าที่เน้นเรียบโก้ High Jewelry จึงตอบโจทย์มาก แค่ใส่เครื่องประดับชิ้นหลักเพียงชิ้นเดียว ก็ช่วย ให้ลุคสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นค่ะ

“ฉะนั้นเวลาซื้อเครื่องประดับนีน่าจะเน้นแค่ว่าต้องเป็นชิ้นที่ชอบจริง ๆ ใส่แล้ว เข้ากับผิว ส่วนดีไซน์เน้นความคลาสสิก ใส่ได้ตลอด ไม่เชย และในอนาคตสามารถ ส่งต่อให้รุ่นต่อไปได้ แต่อยากแนะนำจากประสบการณ์ตรงเลยว่า High Jewelry หลายชิ้นที่วางอยู่ในตู้โชว์ บางทีเรามองด้วยตาอาจจะยังไม่รู้สึกถึงความพิเศษ ควร หยิบมาลองใส่ จะได้รู้ว่าเข้ากับเราแค่ไหน หลายชิ้นที่นีน่าซื้อก็เพราะเมื่อได้ลอง แล้วรู้สึกเลยว่าสวยมาก” (หัวเราะ)

“ขวัญใจ” นักสะสม

ในจำนวนเครื่องประดับ High Jewelry ที่อยู่ในครอบครองของทั้งคุณแม่ และคุณลูก มีชิ้นหนึ่งที่ทั้งคู่ยกตำแหน่ง “ขวัญใจ” ให้ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์

“โช้กเกอร์ Wild Pop Collection แบรนด์ Bvlgari ถือเป็นชิ้นโปรดของทั้งคุณแม่และนีน่าเลยค่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปินระดับโลกอย่างแอนดี้ วอร์ฮอล และศิลปะป็อปอาร์ต ส่วนตัวนีน่าชอบศิลปะอยู่แล้ว ต้องยอมรับและทึ่งในความสามารถของดีไซเนอร์ Bvlgari ที่นำความเป็นป็อปอาร์ตมาไว้ในงานดีไซน์ โดยทำเป็นไมโครโฟนเล็ก ๆ หลายอันเรียงสลับกัน และที่ทำให้ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก คือการนำ 3 อัญมณีอย่างเพชร Colour Stones หรือพลอยสี และหินออนิกซ์ มาแมตช์กันได้อย่างสวยงามลงตัว จะถือว่าเป็นชิ้นเดียวในโลกก็ได้ค่ะ เพราะถึงจะ ทำโช้กเกอร์ออกมาใหม่อีกกี่ชิ้น ก็ไม่มีทางที่สีของพลอยจะเหมือนกับเส้นนี้แน่นอน ทำให้คุณแม่และนีน่าอดไม่ได้ที่จะสะสมเครื่องประดับ Colour Stones ไว้หลายชิ้น นอกจากความสวยงามแล้ว ยังถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก”

เมื่อฟังแล้ว แพรว อดไม่ได้ที่จะแอบเช็กราคาโช้กเกอร์เส้นนี้จากผู้รู้…ได้ยินแว่ว ๆ ว่า 25 ล้านบาท…ว้าว

“หลายคนอาจมองว่า High Jewelry ราคาสูงเกินจริง แต่ทุกวันนี้นักสะสม ทั่วโลกต่างตามหาซื้อมาสะสมกันมาก เพราะถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจาย การลงทุน เนื่องจากการสะสมจิเวลรี่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเหมือนอย่าง ซูเปอร์คาร์หรือบ้านพักตากอากาศ หลังจากหยิบมาใส่แล้วก็แค่ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ด ทำความสะอาดเท่านั้น นอกจากนี้มูลค่ายังสูงขึ้นทุกปี อย่างน้อย 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ ในอนาคตอันใกล้เพชรและพลอยสีจะเป็นอัญมณีที่หายากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เหนือสิ่ง อื่นใด ช่างฝีมือที่สร้างสรรค์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซหรือ One of a Kind อย่างนี้ ยิ่งหายากขึ้นทุกวัน นี่คือเสน่ห์ของ High Jewelry ค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 986

Praew Recommend

keyboard_arrow_up