เปิดบ้านสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ของเซเลบสาวสวยเก่ง “ฝัน-ริศา พงศ์พฤกษทล”

แพรว พาทัวร์เฉพาะกิจ บุกบ้านสวยสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ของ “ฝัน – ริศา พงศ์พฤกษทล” เซเลบสาวสวยระดับนางงาม แถมความสามารถไม่แพ้ใคร ทายาทเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจส่งออกลำไยอบแห้งทั้งเปลือกอันดับหนึ่งของไทย จบปริญญาตรีด้าน Fashion Management จาก London College of Fashion, University of the Arts London ผันตัวเองมาเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Renatar ล่าสุดเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยผลงานละครเรื่อง มัจฉาอันดา ทางช่อง 8 และกำลังเตรียมนำลำไยอบแห้งทั้งเปลือกมาจำหน่ายในเมืองไทยภายใต้ชื่อแบรนด์ FUMU

เปิดบ้านสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ของเซเลบสาวสวยเก่ง “ฝัน-ริศา พงศ์พฤกษทล”

บ้านหลังที่สอง

บ้านที่กรุงเทพฯเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเธอ เนื่องจากครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่เป็นหลัก ด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอตัดสินใจย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ

“ฝันอยู่บ้านหลังนี้ไม่ถึงสามปีค่ะ พอตัดสินใจย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ คุณพ่อคุณแม่อยากให้หาบ้านในหมู่บ้าน เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่พอมาได้บ้านภายในซอยราชครู ด้วยละแวกนั้นเป็นบ้านของผู้คนในแวดวงการเมือง ทำให้มีป้อมยามอยู่หลายจุดในซอย คุณพ่อคุณแม่จึงหมดห่วง ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าแล้วฝันมารีโนเวตใหม่ทั้งหลัง โดยให้โจทย์อินทีเรียร์ไปว่าอยากได้บ้านที่มีโครงสร้างสไตล์ลอฟต์ ผสมผสานกับความเป็นคอนเทมโพรารีผ่านเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาตกแต่ง

“ฝันเลือกชั้น 3 ซึ่งมีลักษณะคล้ายห้องใต้หลังคาให้เป็นพื้นที่ห้องนอน ซึ่งเดิมค่อนข้างทึบ จึงเพิ่มกระจกให้แสงเข้ามากที่สุด แล้วขอวอล์คอินคลอเสตกว้างๆ เนื่องจากเสื้อผ้าเยอะ (หัวเราะ)

“จะเห็นว่าพื้นที่ทั้งหมดของห้องนอนมีความเป็นไม้ ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัว เวลาสีของไม้เล่นกับสีด้านๆ ของเฟอร์นิเจอร์ ทำให้มีความเป็นลอฟต์มากขึ้น แต่เบรกด้วยความโมเดิร์นของไฟที่ฝันเลือกมาตกแต่ง เพื่อไม่ให้มีความเป็นลอฟต์จนเกินงาม”

Unexpected Room

“ห้องนอนของฝันมีความพิเศษอยู่แทบทุกมุม เพราะชอบความเซอร์ไพร้ส์ หรือไม่คาดคิดในการตกแต่ง ตั้งแต่เตียง อยากได้แบบที่ไม่สูงมาก เพราะถ้าเตียงสูงจะทำให้รู้สึกว่าเพดานห้องนอนของเราต่ำกว่าปกติ อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ช่วยแก้ปัญหาด้วยการเลือกไม้มาทำเป็นเหมือนลังต่อๆ กันเพื่อเป็นเตียง ซึ่งเข้ากันได้ดีกับพรมใต้เตียงที่เป็นงานแฮนด์เมดจากบาหลี

“สำหรับผนังที่หัวเตียงนำแปรงทาสีมาตกแต่ง คือฝันจบด้าน Fashion Management ตอนเข้าเรียนปีแรกจะได้เรียนทุกด้านเกี่ยวกับศิลปะ ทำให้ส่วนตัวชอบพวกอุปกรณ์เกี่ยวกับงานเพ้นติ้ง พอนำมาวางเรียงไว้ตรงผนังหัวเตียง ช่วยเพิ่มความเก๋ให้ห้อง

“ช่วงทางเดินไปห้องน้ำวางโต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยสกินแคร์กับเมคอัพ เพราะฝันไม่ได้มีโต๊ะแต่งหน้าเป็นเรื่องเป็นราว เวลาแต่งหน้าก็ใช้วิธียืนแต่งเลย เพราะชอบทำอะไรเร็วๆ โดยเฉพาะการแต่งหน้า ฝันจะไม่ค่อยประดิดประดอยสักเท่าไร ถ้าวันปกติใช้เวลาแค่ 5 นาที แต่ถ้าต้องเน้นสวยหน่อยก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

“สำหรับพื้นที่วอล์คอินคลอเสต ฝันขอให้กว้างที่สุด โดยมีตู้เสื้อผ้า 3 ตู้ใหญ่กับชั้นวางกระเป๋าอีก 2 ตู้ ซึ่งก็ยังไม่พอ เพราะเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และแอ๊กเซสซอรี่ส์เยอะมาก โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ฝันจัดแยกเป็นหมวดหมู่ในระดับหนึ่ง แล้วเวลาคุณแม่มาเยี่ยมก็ช่วยจัดเรียงสีให้ตลอด จนทำให้ตู้เสื้อผ้าของฝันดูเป็นระเบียบ

“รองลงมาคือรองเท้า ซึ่งฝันเก็บรักษาอย่างดี แม้แต่คู่ที่ใช้ตอนเรียนมหาวิทยาลัยยังสภาพดีอยู่เลย จึงต้องขยายจากชั้น 3 ไปไว้ที่ตู้รองเท้าชั้นล่าง สามารถวางรองเท้าได้ไม่ต่ำกว่า 50 คู่ ซึ่งก็ยังไม่พอ (หัวเราะ)

“ส่วนมุมแพนทรี่ ด้วยความที่ฝันเป็นสาวโสด จึงไม่ได้ซื้อโต๊ะรับประทานอาหารมาตั้งวางแบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่ทำเป็นบาร์ขึ้นมาสำหรับนั่งกินข้าวและนั่งเล่นเวลาเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้านแค่นั้นพอ”

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่เธอย้ำว่าไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะมีสตอรี่มากมาย คือโซฟาหนังสีน้ำตาลในห้องนั่งเล่น

“ก่อนหน้านี้เป็นโซฟาผ้าสีเทา ช่วงนั้นฝันขอน้องหมาจากที่บ้านมาเลี้ยงสองตัว ซึ่งเขาชอบนั่งเล่นบนโซฟาตัวนี้มาก แต่มันทำจากผ้า นอกจากเก็บฝุ่นแล้วยังเกิดความชื้น จนทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบ พอไปปรึกษาคุณหมอก็ได้รับคำแนะนำให้เปลี่ยนเป็นโซฟาหนัง ฝันจึงสั่งทำพิเศษในแบบที่ตัวเองชอบ เพื่อจะได้มีแค่ตัวเดียวสำหรับเราเท่านั้น ตอนที่เลือกสีหนังเราเห็นแค่แผ่นเล็กๆ ปรากฏว่าพอโซฟาเสร็จ เขาส่งภาพมาให้ดู ฝันอึ้ง เพราะสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็นคนละเรื่องเลย หนังเป็นลายวัวแบบทั้งตัว น่ากลัวมากกว่าน่านั่ง ทางบริษัทที่ผลิตจึงให้ฝันหาหนังที่ต้องการมาเพื่อแก้ไขใหม่ ฝันต้องไปตามหา คราวนี้บุกไปถึงโรงงาน เพื่อจะได้เห็นของจริง เรียกว่ากว่าจะได้โซฟาตัวนี้มาใช้เวลานานหลายเดือน แต่อีกมุมหนึ่งก็ถือเป็นความภูมิใจที่เราต่อสู้จนได้ในสิ่งที่ตรงกับความต้องการ

“จริงๆ แล้วฝันไม่ได้เยอะนะคะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเกี่ยวกับเรื่องบ้านจะค่อนข้างละเอียด เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จึงอยากให้ออกมาดีที่สุดค่ะ”

---

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 979

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โฮมทัวร์! เปิดบ้านแสนรัก สไตล์อิตาเลียนโคโลเนียลของ “ยุวเรต ศรุตานนท์”

ซูมเตียงนอนเฉียดล้าน Hästens ในบ้านพักสุดหรูของ เจนนี่ Blackpink

ส่องบ้านหรู 600 ล้าน ใจกลางเซี่ยงไฮ้ของ แองเจล่าเบบี้ ราชินีแห่งเว่ยป๋อ