หยุดไม่ได้แทบขาดใจ กับอาหารสไตล์ปิ้งย่าง ที่คนไทยส่วนใหญ่ว่างทีไร เป็นต้องนัดแนะชาวแก๊งตบเท้าเข้าไปหยิบช้อน ส้อม ตะเกียบ มาคีบเนื้อย่าง ปลาเผา เข้าปากลิ้มรสความอร่อยกันแทบทุกราย
พูดถึงนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ ถ้าจะหาร้านอาหารทานสักร้าน สิ่งแรกที่คำนึงเลยคือ รสชาติอร่อย ปริมาณเยอะ และคุ้มกับเงินที่ต้องเสีย ที่สำคัญบรรยากาศภายในร้านต้องดึงดูดชวนให้นั่งลิ้มรสชาติอาหารได้แบบไม่สะดุดระหว่างนั่งพูดคุยกับแก๊งเพื่อน และครอบครัวด้วย
ห้องอาหาร Riverside Grill ของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ย่านคลองสาน เป็นหนึ่งช้อยส์ที่น่าสนใจ เพราะที่นี่เน้นอาหารสไตล์ Local อย่าง ปลาเผา ไก่ย่าง หมูย่าง เน้นรสชาติไทยๆ โดดเด่นด้วยการนำกลิ่นสมุนไพรมาผสมเข้ากับเนื้อสัตว์ และการพรีเซนต์อาหารให้น่าทาน ซึ่งน่าจะถูกใจสำหรับนักชิมที่ชอบทานอาหารปิ้งย่างแต่ไม่อยากอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนวุ่นวาย
ภายในห้องอาหารตกแต่งสไตล์ Mood and Tone เล่นสีน้ำตาล ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ที่เป็นเนื้อไม้ เน้นบรรยากาศอบอุ่น เพื่อต้อนรับนักชิมให้เหมือนนั่งทานอยู่บ้าน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 โซน สำหรับนั่งทานรับลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา มี 102 ที่นั่ง
และโซนด้านในกึ่งบาร์กึ่งร้านอาหาร มี 72 ที่นั่ง มีดีเจเปิดเพลงให้ฟัง พร้อมทั้งรับชมบรรดาเชฟปรุงอาหารต่อหน้าขณะนั่งทานไปด้วย เพราะห้องครัวที่นี่เป็นแบบเปิด (Open Kitchen) นั่นเอง
ส่วนอาหารแต่ละเมนูนั้น คุณอัมราพร เชฟประจำ Riverside Grill เล่าให้เราฟังว่า อาหารแต่ละจานนั้น ครีเอทมาจากแรงบันดาลใจที่อยู่รอบตัว เน้นคัดสรรเนื้อสัตว์เป็นพิเศษ และรสชาติจะเน้นความเป็นไทยเข้าคู่กับวัตถุดิบพวกสมุนไพร รวมถึงไอเดียพรีเซนต์อาหารที่แตกต่างจากที่อื่น วันนี้เราเลยขออาสาเป็นนักชิมจำเป็นสักมื้อ ไปดูสิ แต่ละเมนูที่เหมาะกับสาวแพรว มีเมนูไหนกันบ้าง

เริ่มที่เมนูแรก BEEF TATAKI เป็นเมนูทาปาส (Tapas) เริ่มแรกที่คิดขึ้นมา ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่การคิดจับคู่ว่าเนื้อวากิลทานคู่กับอะไร ถึงจะอร่อย ซึ่งก็มาหยุดที่สาหร่ายวากาเมะ หรือ สาหร่ายญี่ปุ่น เมื่อทานคำแรกก็รู้สึกอร่อยแล้ว เนื้อเคี้ยวไม่ยาก
แนะนำให้นำเนื้อจิ้มซอส แล้วทานคู่กับสาหร่าย เห็ดดอง จะได้อรรถรสกลมกล่อมยิ่งขึ้น เพราะเห็ดดองจะให้รสหวาน ผสมเปรี้ยว ซอสจะมีความเค็มและมัน และสาหร่ายจะช่วยกลบให้รสชาติของเนื้อและส่วนผสมทั้งหมดไม่แรงเกินไป ได้ทั้งกลิ่นหอมและรสชาติดีเลย

รับรสอร่อยต่อที่ ซุปล็อบสเตอร์ (LOBSTER BISQUE) สะดุดตาเด่นขึ้นมา คงยกให้ความฟูฟองที่อยู่เหนือล็อบสเตอร์บนจาน ซึ่งจัดเป็นกิมมิจสำหรับเมนูจานนี้เลย หัวล็อบสเตอร์จะผัดกับซอสมะเขือเทศเข้มข้น (tomato paste) และสมุนไพร เนย แครอท หอม แล้วใส่ไวน์ขาวผัดผสมลงไป เพื่อให้แอลกอฮอล์ระเหยไปให้หมดเหลือแค่ความหวาน จากนั้นเคี่ยวจนน้ำลดลงครึ่งนึง จะได้ซุปที่เข้มข้น และหอม เวลาตักเข้าปาก จะได้กลิ่นกุ้งแตะที่ปลายจมูกเลย เนื้อเหนียวเล็กน้อย ได้ขนมปังคล้ายขาไก่ที่เสิร์ฟมาทานคู่ด้วย จะช่วยลดกลิ่น และเพิ่มรสหวานละมุนขึ้น

สำหรับคนที่ชอบทานปลาเผา เมนู เมี่ยงปลากระพงเผา เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด 3 ชนิด และผักสด (GRILLED SEA BASS – PLA PAO) จะเน้นเนื้อปลาแท้ๆ ไร้ก้าง โรยด้วยเกลือ และพริกไทย แล้วนำสมุนไพรอย่าง ตะไคร้ ใบเตย ใบมะกรูด มายัดท้องปลาเพื่อดับกลิ่นคาว ทานคู่กับเส้นหมี่และผักสด หรือที่เราเรียกว่า เมี่ยง ก็ได้ความอร่อย รสชาติไม่จืดชืด ทั้งยังเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 3 ชนิด ซึ่งระดับความเผ็ดขึ้นอยู่กับสีน้ำจิ้มด้วย
น้ำจิ้มซีฟู้ดแดง รสชาติจะเผ็ดที่สุด แต่สำหรับใครที่ชอบทานเผ็ดประจำ อาจจะรู้สึกว่า ไม่เผ็ดเลย แต่กลิ่นพริกจะฉุนขึ้นแตะจมูก ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดเขียว รสชาติจะเผ็ดน้อยลงมา กลมกล่อมกว่า และน้ำจิ้มหวาน จะถูกใจลิ้นชาวต่างชาติพิเศษ เพราะไม่เผ็ด แล้วยังทำให้การทานอาหารไม่สะดุด ทานได้ต่อเนื่องด้วย

ส่วน ซี่โครงแกะอบ (ROASTED MILK FED AUSTRALIAN LAMB RACK ) เนื้อแกะเหนียว นุ่ม หมักด้วยสมุนไพรสูตรพิเศษจนได้ที่ แล้วนำไปอบจนสุกพอดี ให้รสชาติเข้มขึ้น เมนูนี้สามารถเลือกทานคู่กับซอสหนึ่งในสี่ชนิดประจำลิสต์อาหารได้ แนะนำทานคู่ซอส ไวน์แดง (Red Wine Jus) จะอร่อย หรือทานคู่ซอสพริกไทย จะช่วยกลบกลิ่นคาวของเนื้อแกะได้อย่างดี และไม่ทำให้เสียรสชาติ
นอกจากนี้ยังมีซอสเบอร์เนสและซอสเลมอนบัตเตอร์ ความพิเศษจานนี้คงยกให้เรื่องการอบ ที่ใช้เวลานานถึง 2 วันเลย เพื่อเน้นรสชาติเนื้อที่ชัดเจนที่สุด และยังมีเครื่องเคียงทานร่วมกับเนื้อแกะให้เลือกถึง 12 อย่างอีกด้วย
ส่วนใครที่ทานของคาว แล้วต้องตบท้ายด้วยของหวาน เมนูอย่าง BLUEBERRY CHEESECAKE และ ข้าวเหนียวมะม่วง (MANGO & STICKY RICE) ก็ส่งความหวานพอดีไม่เลี่ยนให้เราได้ชิม ซึ่งบลูเบอร์รี่ ชีสเค้กนั้น ก็อาจจะต้องละเมียดละไมทานหน่อย เพราะถ้าปล่อยทิ้งนาน จะละลายเร็วเสียอรรถรส


นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบรสเปรี้ยว หวาน และดื่มแล้วสดชื่น อีกด้วย


สำหรับใครที่สนใจ ห้องอาหาร Riverside Grill อยู่บริเวณชั้น G ของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน เปิดบริการส่วนบาร์ตั้งแต่ 16.00 – 01.00 น. และส่วนสั่งอาหารได้เวลา 17.00 – 22.30 น.
ทั้งนี้ยังมีแสดงดนตรีแจ๊สสดโดย คุณอัจฉ์ กัลยาณคุปต์ หรือ เคนนี จี ของประเทศไทย ผู้ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศรายการ Thailand’s Got Talent เมื่อปี 2554 มามอบความสุขทุกคืนวันศุกร์และวันเสาร์ ระหว่างเวลา 18.30 – 20.30 น. และตั้งแต่เวลา 20.30 น. ถึงเที่ยงคืน จะเปลี่ยนมาโหมดดีเจเปิดแผ่นเพลงให้สนุกตลอดคืน
รสชาติ บรรยากาศจะถูกปาก ถูกลิ้น ถูกใจกันไหมนั้น นักชิมผู้ชิ่นชอบอาหารปิ้งย่างคงต้องแวะมาพิสูจน์กันแล้วล่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 0 2266 9214
เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
สถานที่ : ห้องอาหาร Riverside Grill โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
ภาพ : Pop Teerapong