เวอร์จินี วิอาร์ด ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ Chanel-3

จากเด็กฝึกงานสู่หัวเรือใหญ่! ทำไมต้องเป็น ‘เวอร์จินี วิอาร์ด’ รับช่วงต่อ Chanel

เวอร์จินี วิอาร์ด ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ Chanel-3
เวอร์จินี วิอาร์ด ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ Chanel-3

ล้วงเหตุผลที่ผู้กุมบังเหียน Chanel ต้องเป็น ‘เวอร์จินี วิอาร์ด’ (Virginie Viard) มือขวาของปู่คาร์ล ดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับ ซึ่งเธอได้ร่วมออกแบบกระเป๋ารุ่นดัง CHANEL 19 และได้เปลี่ยนโฉมหน้าชาเนลให้เข้าถึงง่ายขึ้น

หลังจากดีไซเนอร์ระดับตำนานอย่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เสียชีวิตก็ได้สร้างความเสียใจและความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับวงการแฟชั่น และในเวลาต่อมาสิ่งที่แวดวงแฟชั่นให้ความสนใจไม่น้อยคือใครจะมาทำหน้าที่สืบทอดตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ของ Chanel แทนปู่คาร์ล ซึ่งไพ่ก็ออกที่ Virginie Viard บุคคลผู้เป็นมือขวาของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ มากว่า 30 ปี นับตั้งแต่เธอเข้ามาฝึกงานเย็บปักถักร้อยกับชาเนลเมื่อปี 1987 ก็แทบจะไม่ห่างจากคาร์ลเลย ไม่ว่าคาร์ลจะไปดูแล Chloé เธอก็ได้ติดตามไปด้วย และกลับมาร่วมงานกับชาเนลอีกครั้งในปี 1997 พร้อมกับคาร์ล

เวอร์จินี วิอาร์ด-2

เวอร์จินี วิอาร์ด

กว่า 30 ปีที่ Virginie Viard อยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสตูดิโอฝ่ายสร้างสรรค์แฟชั่นของชาเนล และการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของดีไซเนอร์ระดับโลก คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ทำให้ชาเนลต้องเลือกผู้รับช่วงต่อ ซึ่งคนที่เหมาะสมที่สุดก็คือ Virginie Viard นั่นเอง แม้ว่าชื่อของเธอจะไม่เป็นที่รู้จักของคนนอกวงการแฟชั่น แต่ในตอนนี้ไม่มีใครจะรู้จักชาเนลดีไปมากกว่าเธออีกแล้ว

จากเด็กฝึกงานสู่หัวเรือใหญ่! ทำไมต้องเป็น ‘เวอร์จินี วิอาร์ด’ รับช่วงต่อ Chanel

ตั้งแต่เธอขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการสตูดิโอของชาเนล ก็หมายความว่าเธอเป็นคนรับผิดชอบในการสร้างจินตนาการของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ให้กลายเป็นความจริง โดย Virginie Viard เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันทำให้คอลเล็คชั่นมีชีวิตขึ้นตามภาพร่างของคาร์ล ฉันประสานงานกับทีมงาน ซัพพลายเออร์ เลือกผ้าและวัสดุต่างๆ ทันทีที่ฉันได้รับภาพร่างของเขา กระบวนการทำงานก็จะเริ่มขึ้น ฉันพยายามทำให้เขาพอใจ และฉันก็ชอบที่จะทำให้เขาประหลาดใจเช่นกัน”

เวอร์จินี วิอาร์ด ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ Chanel-1

เวอร์จินี วิอาร์ด-3

แม้ว่าแบรนด์แฟชั่นใหญ่ๆ จะหันไปหานักออกแบบที่มีชื่อเสียงคนใหม่อยู่เรื่อยๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน แต่แนวทางนั้นมาพร้อมกับข้อเสีย เพราะนักออกแบบแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงมักจะสร้างวิสัยทัศน์ของตัวเองให้กับแบรนด์ ในขณะที่มีแนวโน้มจะออกไปหลังจากนั้นไม่กี่ปี ซึ่งชาเนลรู้ว่า Viard คุ้นเคยกับการทำงานของแบรนด์ และไม่น่าจะทิ้งชาเนลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เวอร์จินี วิอาร์ด ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ Chanel-2

เวอร์จินี วิอาร์ด-4

อย่างไรก็ตาม ชาเนลเป็นแบรนด์ที่แสดงให้เห็นว่าชอบความมั่นคงมากกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว เพราะตั้งแต่โคโค่ ชาเนล จากไป คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ก็เข้ามาดูแลชาเนลจนวาระสุดท้ายของชีวิต และจากข้อมูลในปี 2560 ชาเนลสามารถสร้างยอดขายได้ 9.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้เป็นหนึ่งในแฟชั่นเฮ้าท์สุดหรูที่ใหญ่ที่สุดในโลกตีคู่มากับหลุยส์ วิตตอง ทั้งหมดนี้เพราะฝีมือของผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่นอย่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์

แต่ Chanel ภายใต้การดูแลของ Virginie Viard ก็เห็นได้ชัดว่าเธอยังรักษาดีเอ็นเอของแบรนด์ให้คงอยู่ในทุกคอลเล็คชั่นที่ทำออกมา จนผลงานเป็นที่ยอมรับของชาเนลเลิฟเวอร์ ด้วยความที่เข้าถึงง่าย สีสันสดใส และดูเด็กลง

เวอร์จินี วิอาร์ด-5


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รุ่นนี้มาแรง! กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ‘มิว นิษฐา’ ไซส์เล็กพกพาง่าย

เผ็ดบดพรมแดง! รวมลุคเซ็กซี่ ชมพู่-อารยา ตลอด 7 ปี ในเทศกาลหนังเมืองคานส์

สวยหรูมีสไตล์! ซูมแบรนด์เนมใบเก่ง ‘พอช่า พัชรมนต์’ ลูกสะใภ้ ‘มูนา’ เศรษฐีนีดูไบ

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up