ผ้าพันคอ Dior ถือเป็นเครื่องประดับหลักในคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าประจำฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2021-2022 เพื่อช่วยเสริมโครงร่างของลุคต่างๆ ที่นำเสนอบนรันเวย์ใจกลางห้อง the Hall of Mirrors ณ พระราชวังแวร์ซาย ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ผลงานเครื่องประดับอันน่าปรารถนาเหล่านี้ ไม่ว่าปรากฏอยู่ภายใต้ฮูดคลุมศีรษะที่ชวนให้นึกถึงเทพนิยาย หรือผูกในสไตล์แบบ 60s ล้วนแล้วแต่สื่อให้เห็นถึงทัศนคติอันทันสมัยที่มาพบกันกับวิสัยทัศน์ด้านการสร้างสรรค์ของ มาเรีย กราเซีย คิอูริ (Maria Grazia Chiuri)
ผ้าพันคอเหล่านี้คือตัวแทนขององค์ความรู้ในงานฝีมือชั้นสูงอันยอดเยี่ยมของดิออร์ ทำขึ้นจากผ้าซิลก์ ทวิลล์ (silk twill) ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษที่มีคุณสมบัติในเรื่องของวอลลูมและความเงางาม เนื่องมาจากความหนาแน่นของเส้นด้ายที่ใช้ทอนั่นเอง โดยผ้าพันคอแต่ละผืนเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และมีจุดเด่นที่ลวดลายที่ถือเป็นไอคอนของแบรนด์ดิออร์ หรืองานดีไซน์ที่ได้รับการหยิบมานำเสนอใหม่
เครื่องประดับชิ้นพิเศษ ผ้าพันคอ Dior โฉมใหม่ ผูกตรงไหนก็ได้ลุคเก๋
อาทิ ลาย D-Millefiori หรือลายพิมพ์ Dior Zodiac ซึ่งมีที่มาจากผลงานของ ปิเอโตร รัฟโฟ (Pietro Ruffo) ภาพร่าง Dior around the World ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินชาวอิตาเลียนผู้นี้ มีจุดเด่นที่ดาวนำโชคของกูตูริเยร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ส่วนลาย Dior Roses เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่องานของ อองเดรย์ โบรส์แซง เดอ เมเร (Andrée Brossin de Méré) นักออกแบบสิ่งทอผู้มากด้วยพรสวรรค์และเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของคริสเตียน ดิออร์ โดยหยิบเอาราชินีแห่งดอกไม้มาเป็นไฮไลต์ แต่ในขณะเดียวกันก็ตอบรับต่อการนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ให้ได้ลุคต่างๆ ที่น่ามอง
สำหรับทั้งงานดีไซน์ในลายเสือ Mizza และ toile de Jouy ปรากฎในเวอร์ชั่นที่สามารถใช้ได้ทั้งสองด้าน โดยผลงานชิ้นหลังนี้ยังได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยราศีต่างๆ ในจักรราศี ที่สำคัญผ้าพันคอทั้งหมดมาพร้อมกับเฉดสีที่เข้ม เด่นชัด และงดงาม เนื่องด้วยกระบวนการพิมพ์ลายที่ประณีตละเอียดอ่อน ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่ยกระดับขอบเขตของความเป็นเยี่ยมด้านงานฝีมือไปอีกระดับหนึ่ง
ผลงานอันน่าปรารถนาซึ่งเปรียบเสมือนการสดุดีศาสตร์และศิลป์แห่งรายละเอียด ซึ่งเป็นสิ่งที่เมอร์ซิเออร์ดิออร์ให้ความสำคัญเหล่านี้ยังมีจุดเด่นที่งานฟินนิชชิงบริเวณขอบที่มีพู่ระบายหรือแบบม้วนริมพับชายที่ทำด้วยมือ โดยลายผ้าพันคอที่จะมีวางจำหน่ายแบบถาวร ได้แก่ Dior Oblique ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนจดจำได้ของแบรนด์ดิออร์ ได้รับการออกแบบโดย มาร์ค โบฮาน (Marc Bohan) ลายฮาวด์สทูธ 30 Montaigne หรือตกแต่งด้วยลายพิมพ์ toile de Jouy อันแสนคลาสสิก
โดยทั้งหมดจะมาพร้อมกับขอบผ้าพันคอแจ็คการ์ดเส้นไหม ตกแต่งด้วยคำว่า “Christian Dior” อันเป็นเอกลักษณ์ โดยความแปลกใหม่ในงานสร้างสรรค์นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญฐานข้อมูลผลงานดิออร์ที่นับย้อนกลับไปได้กว่าเจ็ดสิบปี
“ผ้าพันคอสำหรับผู้หญิงแล้วก็เหมือนกับเนคไทสำหรับผู้ชาย และวิธีการที่คุณผูกมันก็บ่งบอกได้ถึงนิสัยใจคอของคุณ” คริสเตียน ดิออร์ เขียนไว้ใน The Little Dictionary of Fashion เครื่องประดับชิ้นพิเศษที่มากด้วยความหมาย สามารถใช้พันรอบศีรษะ รอบคอ บนข้อมือ หรือกระเป๋า เพื่อเสริมความโฉบเฉี่ยวให้กับลุคของคุณ มีให้เลือกในขนาดต่างๆ ตลอดจนในเวอร์ชั่น Mitzah ซึ่งเป็นเส้นริบบิ้นผ้าไหมที่ออกแบบขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ มิซซา บริการ์ด (Mizza Bricard) เพื่อให้กลายมาเป็นเครื่องประดับคู่ใจของหญิงสาว
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
คนไทยออกแบบ! สวยปังทุกสี ผ้าพันคอ Hermes ลายม้าสาน ขายฝีมือและสตอรี่
เก็บเรียบรุ่นท็อป! กระเป๋า Louis Vuitton ‘ตี๋ลี่เร่อปา’ สมตำแหน่ง Brand Ambassador
ยิ่งกว่าขุมทรัพย์! เปิดคลังกระเป๋า Chanel เจนนี่ BLACKPINK จะคอลเล็คชั่นไหนขอให้บอก